ตอนที่๒๓
บันไดที่นำไปสู่คุกใต้ดินทั้งอับและชื้น พารัมยกชายกระโปรงตัวเองให้สูงขึ้นก่อยค่อยๆเดินลงไปอย่างระมัดระวัง ร่างบอบบางในชุดกรุยกรายส่งถุงเล็กๆที่บรรจุของมีค่าให้ทหารเฝ้ายามก่อนเดินเข้าไปในคุกใต้ดินที่เป็นเขตหวงห้ามอย่างง่ายดาย
“รารีเป็นยังไงบ้าง” พารัมเอ่ยเรียกหญิงสาวที่ถูกตรึงด้วยโซ่ตรวนเบาๆ ก่อนขยับเข้าใกล้กรงขังช้าๆ ภาพตรงหน้าทำเอาพารัมสะท้อนใจ รารีถูกตรึงด้วยโซ่ไว้หนาแน่น ดวงตาปิดสนิทใบหน้างดงามอาบน้ำตาไม่ซ่างซา
รารีลืมตามมองเจ้าของเสียงเมื่อเห็นเป็นพารัมก็หลับตาลงดังเดิม
“รารี ทำไมถึงยอมรับว่าตัวเองเป็นคนฆ่าองค์ญิงโยนานั่นล่ะ หืม” พารัมเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง รารีตอนนี้ดูแย่ราวไม่อยากมีชีวิตอยู่ พารัมถอนหายใจเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าดูไม่อยากจะคุยกับเธอเท่าไร ความเงียบครอบคลุมหญิงสาวทั้งสองอยู่ป็นครู่ ก่อนพารัมจะตัดสินใจเอื้อมมือลอดลูกกรงเข้าไปลูบไหล่รารีเบาๆราวให้กำลังใจ
“ข้ารักพี่เธรา” อยู่ดีๆพารัมก็พูดขึ้นมา ร่างบอบบางของพารัมขยับเล็กน้อยก่อนนั่งหันหลังพิงห้องขังราวไม่สนใจคนที่อยู่ในนั้น “พี่เธราเป็นคนแรกที่ยอมเล่นกับข้า” พารัมพูดพลางหัวเราะเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา “ข้านิสัยไม่ดีน่ะ เอาแต่ใจแถมโมโหร้ายอีกต่างหาก พี่เธราสอนให้ข้ารู้จักคำว่า อภัย ปกป้อง และช่วยเหลือ คำสอนง่ายๆของชายที่มีแต่รอยยิ้มโง่ๆ เปลี่ยนชีวิตเด็กผู้หญิงนิสัยเสียคนนี้ได้จริงๆนะ ข้ามีเพื่อนมากขึ้น ทุกคนมอบรอยยิ้มกลับมาเมื่อข้ามอบรอยยิ้มให้ไป ถ้าข้าจะมีคู่ครองสักคนข้าก็อยากให้เป็นพี่เธรา นี่ล่ะ แต่เอาจริงๆนะ ตอนนี้พี่เธราก็เป็นคู่ครองข้าแล้วเราเข้าพิธีแต่งงานกันแล้วที่บันกุบ้านของข้า” พารัมพูดไปเรื่อยๆ ก่อนสังเกตท่าทางของรารีผ่านทางเงาที่สะท้อนกระทบกำแพง ร่างบอบบางของรารีขยับเล็กน้อยบ่งบอกว่ากำลังฟังสิ่งที่เธอพูดอยู่
“พี่เธราทำเพื่อคนอื่นมาเยอะมาก เขาไม่เคยคิดถึงตัวเองข้าคิดว่ารารีก็น่าจะรู้ดี ตอนนี้มีคนปองร้ายพี่เธรา ไอ้ปีศาจตนนั้นมันต้องการหัวใจของข้า มันเลยต้อฆ่าพี่เธราก่อน ข้าไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมากมายนี้คืออะไร แต่สิ่งหนึ่งที่ข้าเชื่อคือ ต่อให้รารียอมรับความผิดนี้ ทุกอย่างมันก็คงไม่จบแค่นี้หรอกจนกว่าหัวใจข้าจะถูกควักออกไป” พารัมพูดออกไป ปลายน้ำเสียงมีแววสั่นเครือเมื่อกล่าวถึงเหตุการณ์ฝังใจ
“ข...ข้าไม่ได้ตั้งใจ” เสียงแผ่วเบาของคนในคุกเอ่ยขึ้น พารัมยังคนนั่งนิ่งฟังเสียงสะอึกสะอื้นที่ลอยมาเข้าหูอย่างใจเย็น
“ข้าไม่คิดว่าทุกอย่างจะเป็นแบบนี้ ข้าไม่คิดจะทำร้ายพระสนมเลยสักนิด” รารีเอ่ยออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ ร่างที่ถูกตรึงด้วยโซ่พยายามขยับตัวเข้ามาใกล้พารัมที่นั่งอยู่ด้านนอก “เจ้าหมายความว่าต่อให้จับคนร้ายได้พระสนมก็จะไม่ปลอดภัยงั้นรึ ทำไมล่ะ” รารีเอ่ยถามเสียงเครือ พารัมขยับตัวกลับมาเผชิญหน้ากับรารีอย่างใจเย็น แสร้งตีหน้าเศร้าก่อนเอื้อมมือเข้าไปกุมมือของรารีที่ถูกตีตรวนอย่างแน่นหนา
“เจ้ารู้ใช่ใหมเรื่องที่เกิดที่หมู่บ้านบันกุ” รารีพยักหน้ารับ แม้เธราจะไม่ยอมเล่ามาตรงๆ แต่เรื่องของพารัมนั้นก็กระฉ่อนไปทั่ววังหลวง เพียงแต่เหตุผลที่แท้จริงนั้นเธอเองก็ยังไม่ทราบแน่ชัด
“พี่เธราลงประลองเพื่อช่วยข้า เราเลยต้องแต่งงานกันและนั่นมันคือแผนของปีศาจที่ชื่อรันตรา มันต้องการหัวใจของหญิงสาวพรมจรรย์ที่ถือกำเหนิดในวันจันทร์ดับและเป็นหม้ายซึ่งข้าตรงตามข้อกำหนดทุกอย่างทันทีที่เข้าพิธีแต่งงานกับพี่เธรา มันถึงต้องการฆ่าพี่เธรายังไงล่ะ ” รารีเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก เมื่อนึกถึงสิ่งที่ผ่านมา
“ข้าไม่เคยรู้มาก่อน” รารีเอ่ยเสียงเบา เธอคิดพียงว่าหากหาคนผิดได้พระสนมของเธอจะปลอดภัย ทุกอย่างน่าจะจบลงด้วยดี
“ทีนี้เจ้าจะบอกได้รึยัง ว่าใครฆ่าองค์หญิงโยนา” พารัมเข้าประเด็นทันทีเมื่อเห็นว่ารารีเริ่มลังเล หากทันทีที่ได้ยินคำถามรารีกลับส่ายหน้าก่อนที่น้ำตาจะใหลพรูออกมา ใบหน้าหวานสะอึกสะอื้นราวใจจะขาด
“รารีเอามีดสั้นไปให้ใคร บอกข้ามาเถอะ” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นเรียกความสนใจของพารัมกับรารีได้ทันที คุชที่เดินเข้ามานั่งลงข้างๆพารัม ก่อนมองรารีที่ดูไม่เข้าใจกับคำถาม
“มีดที่ฆ่าองค์หญิงโยนา ถูกเก็บไว้เป็นหลักฐานแล้ว” รารีตอบเสียงเบา
“มีดเล่มที่ฆ่าองค์หญิงโยนา ไม่ใช่มีดสั้นที่ใช้ในพิธีถวายเครื่องบูชา” คุชบอกเสียงเครียด คำพูดของคุชทำเอารารีมองตอบกลับมาอย่างสับสน
“ข้า....ข้า” รารีเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนก้มลงร้องไห้อีกรอบ
“นี่ รารีเจ้าจะเอายังไงกันแน่ อย่างเจ้าจะฆ่าองค์หญิงโยนาได้ยังไง เด็กมองมันยังรู้เลย เสียแรงที่พี่เธรานับถือเจ้าราวพี่สาว พี่สาวอะไรปล่อยให้น้องชายตัวเองอยู่ในอันตราย กลับกันถ้าเป็นพี่เธราคงไม่มีทางทำร้ายเจ้า” พารัมโวยวายเสียงดังลุกขึ้นวี๊ดๆชี้หน้ารารีดังลั่น จนคุชต้องลุกขึ้นก่อนตัดสิ้นใจลากพารัมออกไปเมื่อเห็นว่าพารัมเริ่มหมดความอดทน
“เดี๋ยว...”รารีเอ่ยท้วงเมื่อคุชทำท่าจะลากพารัมออกไป
“อะไรอีก!!!!” พารัมหันมาตวาดอย่างหมดความอดทน
“ข้าคงไม่มีโอกาสได้รับใช้พระสนมอีก ฝากบอกท่านด้วยข้าไม่เคยคิดร้ายแก่ท่านเธราเลยสักนิด แม้ความโง่เขลาครั้งนี้จะนำความลำบากมาแก่ท่านเธรามากมายจนชีวิตข้าก็ชดใช้ไม่หมดก็ตาม ขนมที่ท่านธราชอบกินข้าอบใส่โหลไว้ที่เดิม ข้าคงไม่มีโอกาศทำให้อีกแล้ว”
“ไร้สาระ” พารัมพูดออกมาอย่างไม่ไว้หน้าก่อนสะบัดหน้าเดินออกไป คุชเพียงแค่พยักหน้ารับคำรารีแล้วเอื้อมมือลอดกรงขังไปใขโซตรวนบางส่วนออกให้รารีได้พอขยับตัวให้หายเมื่อยขบ ก่อนเดินตามออกไป
------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------
การเดินทางที่ดูเหมือนจะเร่งรีบจนไม่หยุดพัก จนสุดท้ายทุกคนก็มาถึงนันทานคร ตลาดเช้าที่คนคึกคัก เธรา วิรัล โชบุชุนและธัน ต่างเลือกที่จะพักกันที่โรงแรมเล็กๆรอเวลา สหัสและคุชจะติดต่อมา
“ทำไมเราไม่เข้าไปในวังเลยล่ะ” เธราเอ่ยออกมาอย่างร้อนใจ
“มีองค์วิรัลอยู่ข้างในคนนึงแล้ว เราจะมีองค์วิรัลสองคนได้ยังไง ไอ้ตัวเล็กใจเย็น” โชบุเอ่ยออกมาราวห้ามปราม เธราที่กำร้อนรน
“ข้าส่งข่าวไปแล้ว เดี๊ยวสหัสกับคุชน่าจะออกมา ใจเย็นๆก่อนเถอะท่านเธรา” ธันเอ่ยออกมา
วิรัลยังคงนิ่งเงียบราวครุ่นคิด สิ่งที่หายไปตอนนี้คือมีดสั้นที่ใช้ในพิธี มีดสั้นที่ใช้ในการประกอบพิธีถวายเครื่องบูชา มีดสั้นเล่มนั้นตกทอดกันเนิ่นนานจากรุ่นสู่รุ่นผู้เป็นกษัตย์แห่งนันทานครทุกคนจะต้องเคยฝากชีวิตไว้กับมีดเล่มนี้ในพิธีถวายเครื่องบูชา
“ข้าเป็นห่วงรารี นางไม่มีทางทำร้ายใครได้แน่ๆ” เธราเอ่ยออกมาเสียงเบาใบหน้ามีแวววิตกกังวล
“เจ้าไม่เห็นอะไรผิดสังเกตุเลยหรือเธรา เกี่ยวกับรารี” วิรัลเอ่ยถามเธรา เพราะเธราคือคนที่ใกล้ชิดรารีมากกว่าใคร เราส่วยหัวอย่างจนปัญญา รารีนั้นดูแลเขาราวพี่สาวดูแลน้องชายไม่ใช่นางกำนัลดูแลพระสนม คำบ่นต่างๆที่เอ่ยออกมาจากรารีเธรารับรู้ได้เสมอว่าจากความหวังดี
วิรัลเงียบไม่ถามต่อเมื่อเห็นว่าเธรานั้นเริ่มกังวลมากขึ้น
“ข้าว่ารารีมีคนรัก” ชุนเอ่ยออกมา ทำเอาทุกคนหันไปมอง
“ทำไมคิดอย่างนั้น” เป็นวิรัลที่เอ่ยถามออกไป
“รารี....มักอออกไปข้างนอกตำหนักกลางดึก เวลาเดิมๆประจำ กลับมาก็ย่ำรุ่ง” ชุนบอกในสิ่งที่เขาเห็นแต่ไม่คิดจะพูดเพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของรารี
“ บางครั้งกลิ่ที่ตัวรารีก็เป็นกลิ่นเครื่องหอมจางๆ ที่ไม่ใช่กลิ่นที่รารีใช้ประจำ” โชบุเสริมเขาเป้นลูกครึ่งอสรพิษเขาสามารถรับรู้กลิ่นได้เร็วกว่าคนธรรมดาอยู่แล้ว “และกลิ่นนั้น......ข้าคิดว่าเป้นกลิ่นเดียวกับที่ข้าเคยได้กลิ่น” โชบุพูดย้ำออกมาราวไม่แน่ใจใบหน้าที่เคยมีรอยยียวนประดับตลอดเวลากลับเคร่งเครียด ตอนแรกที่เขาได้กลิ่นนี้แม้จะเอะใจแต่เขาก็คิดว่าใครๆก็สามารถใช้กลิ่นนี้ได้ เพราะมันเป็นเครื่องหอมชั้นสูงที่แม้จะราคาแพงแต่ก็มิได้หายาก
“เจ้าเคยได้กลิ่นนี้ที่ใหน” เป็นธันที่ถามขึ้น
“ข้า..เคยได้กลิ่นนี้จากคนที่จ้างวาน ให้ข้ากับชุนลอบฆ่าองค์วิรัล” โชบุพูดออกมาก่อนมองไปทีชุนอย่างหนักใจ
___________________________________________
___________________________
พารัมเดินสะบัดใบหน้าบึ้งตึงมาหาสหัส ใบหน้าน่ารักงอง้ำอย่างไม่สบอารมณ์ พารัมถูกส่งตัวเข้าไปคุยกับรารีก่อนที่การสอบสวนอย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้น วูธยังคงไม่ยอมให้มีการสอบสวนจนกว่ากษัตย์แห่งวูธจะเสด็จมาถึงและเฝ้าจับตานันทานครอย่างใกล้ชิ ดจนสหัสแทบขยับตัวไม่ได้ พารัมจึงถูกส่งตัวเข้าไปแทน
“เอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญน่ารำคาญ” พารัมเอ่ยออกมาพลางย่นหน้า “รารีไม่ได้ฆ่าองค์หญิงโยนาหรอก ท่าทางเหมือนโดนหลอกใช้” พารัมเอ่ยออกมา
สหัสถอนหายใจแม้จะไม่ได้อะไรเพิ่มเติมแต่อย่างน้อยก็เป็นการยืนยันได้แล้วว่ารารีไม่ได้ฆ่าองค์หญิงโยนาจริงๆ สหัสในร่างวิรัลหันมองพารัมที่ดูโมโหอย่างไม่เข้าใจ
“จะโมโหอะไรขนานั้นล่ะ”
“ข้าไม่ชอบพวกขี้ขลาด แล้วมาทำอวดเก่งปกป้องคนโน้นคนนนี้ รารีน่ะปกป้องใครบางคนแน่นอน ทั้งที่กลัวขนาดนั้นแต่ก็ไม่ยอมเอ่ยปากแม้แต่น้อย อยากเห็นหน้าคนที่หลบอยู่หลังกระโปรงผู้หญิงนัก” พารัมงึมงำอย่างโมโห
คุชที่ยืนฟังอยู่เงียบๆยกมือขึ้นบังลมรอบตัวที่รุนแรงขึ้นราวรับรู้อารมณ์โมโหของพารัม ก่อนเอ่ยกับสหัสเรียบๆ “เจ้ารู้ใช่ใหม ว่าพวกนั้นน่ะมาถึงกันแล้ว”
“ข้ารู้” สหัสตอบนิ่งๆ
---------------------------------------------------------------------------
----------------------------
ริมหน้าผาทางทิศใต้ของวังหลวง คือสถานที่นัดหมาย เธราวิรัล โชบุชุนและธันมารออยู่ก่อนแล้ว ไม่นานก็ปรากฏร่างของคุชและสหัสที่ยังคงอยู่ในร่างองค์วิรัล
ทันทีที่เผชิญหน้ากัน ไม่มีได้เอ่ยอะไรออกมาสหัสก็อ้าปากคายเอาหินที่มีขนาดเท่าปลายนิ้วออกมา และร่างก็กลับกลายมาเป็นสหัสดังเดิม ก่อนส่งหินพรางร่างนั้นคืนองค์วิรัล
“พรุ่งนี ธันเจ้าจงเข้าวังหลวง และนำเธรา สหัส โชบุและชุนเข้าไปด้วย แต่อย่าเพิ่งให้ใครเห็น ให้ทุกคนไปอยู่ที่ตำหนักหยาดหมอกก่อน” วิรัลสั่งก่อนหันมามองเธราที่ยังคงไม่พูดอะไรแต่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มนั้นฉายแววกังวลตลอดเวลา
“ไม่ต้องห่วงเธรา รารีจะไม่เป็นอะไร” วิรัลบอกก่อนยกมือขึ้นลูบหัวเธราเบาๆ เธรายกมือขึ้นจับมือวิรัลเอาไว้ก่อนพยักหน้า ท่าทางที่ธันเองได้แต่หันหน้าหนี เขาไม่เข้าใจทำไมยิ่งตัดใจเขาถึงยิ่งเจ็บปวดขนาดนี้
เช้าวันรุ่งขึ้น เธราสหัสและโชบุกับชุน ได้ซ้อนตัวอยู่ในขบวนของทหารม้าที่ขนบรรดาอาวุธ เข้าไปในวังหลวง ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีเพราะไม่มีใครกล้าขอค้น เพราคนที่คุมมาคือธันหัวหน้าทหารม้สผู้ขึ้นชื่อเรื่องความใจร้อนและโมโหร้าย จนไม่มีใครอยากมีเรื่องด้วย
ทุกคนถูกพามาซ่อนที่ตำหนักหยาดหมอก เพื่อรอการแจ้งข่าวต่อไป
“ข้าอยากไปหารารี” เธราบอกออกมาอย่างกังวล เขาไม่อยากมานั่งรออยู่เฉยๆแบบนี้ ทั้งที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้รารีเป็นอย่างไรบ้าง
“รารีปลอดภัยดี ท่านเธราอย่าเป็นห่วงไป” สหัสบอกออกมาตอนที่อยู่ในร่างองค์วิรัล เขาเป็นคนสั่งเองว่าให้ทหารดูแลรารีเป็นอย่างดี
“อย่าออกไปใหนจนกว่าองค์วิรัลจะมีคำสั่งเถอะกระหม่อมตอนนี้เราไม่รู้ว่าใครคือศัตรูใครคือมิตร อันตรายรอบด้านไปหมด” ธันเอ่ยออกมาอย่างเป็นห่วง
เธราที่ฟังคำเตือนของทุกคนก็ได้แต่เงียบไป อย่างไม่รู้จะทำยังไงเขาอยากไปหารารีแต่เขาก็ไม่อยากสร้างปัญหาไปมากกว่านี้อีกแล้ว
----------------------------------------------
--------------
กลางดึกคืนนั้น วิรัลกลับมาที่ตำหนักด้วยสีหน้าเคร่งเครียดการประชุมกัยราชทูตแห่งวูธยาวนาน เพราะทางโน้นยืนยันจะเริ่มการสองสวนก็ต่อเมื่อกษัตย์แห่งวูธมาถึงเท่านั้น
“เธราทำไมยังไม่นอนอีก” วิรัลถามออกไปอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นเธรายังคงนั่งนิ่งๆอยู่ริมหน้าต่างในห้องนอนของเขาทั้งที่ดึกมากแล้ว
“เป็นอย่างไรบ้างกระหม่อม” เธราถามอย่างกังวล
“เราคงต้องรอกษัตย์แห่งวูธมาถึงซะก่อนถึงจะทำการสอบสวนได้ ทางโน้นไม่ไว้ใจเราให้ทำกรสอบสวนกันเอง”
“หม่อมฉันอยากไปพบรารี” เธราพูดเสียงเบา คำขอที่ทำให้วิรัลถอนหายใจอย่างหนักใจ เธราเมื่อเห็นว่าองค์วิรัลเงียบไปเลยเดินมาหาใกล้ๆ
“หม่อมฉันอยากไปหารารี ได้ใหมกระหม่อม” วิรัลมองเธราอย่างเหนื่อยใจ มาทำเสียงอ่อนหน้าหง่อยแบบนี้เขาจะขัดใจได้อย่างไร
-------------------------------------------------------------------------------
สหัสถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายมององค์วิรัลที่เดินนำอย่างนึกโมโห ทุกคนอุตส่าพยายามห้ามเธราแล้ว แต่คนที่น่าจะห้ามที่สุดกลับตามใจแบบนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง
โชบุที่เดินตามมากลั้นหัวเราะอย่างนึกสนุก ทำเอาชุนต้องหันไปห้าม สุดท้ายก็ต้องยกโขยงกันมาหารารีตามความต้องการของเธราจนได้
ทางเดินลงคุกที่เธราเคยลงมาบ่อยนั้น คราวนี้เธรากลับรู้สึกว่ามันทอดยาวใกลกว่าแกติด เหงื่อชื้นๆใหลออกมาจนฝ่ามือชื้น ทั้งกลัวทั้งห่วงปนเปกันไปหมดคำถามมากมายวนเวียนอยู่ในหัว ทำไมรารีถึงทำแบบนี้กัน
เธราค่อยๆเดินเข้าไปในคุกใต้ดินช้าๆ “รารี” เธราเอ่ยเสียงเรียกออกไปก่อนที่จะเดินเข้าไปหารารีที่ห้องขัง แสงจากคบไฟพลิ้วไหวไม่มั่นคงพอๆกับจังหวะหัวใจของเธราตอนนี้ เมื่อภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำเอาเย็นเฉียบไปทั่วร่าง
ภาพเงาที่สะท้อนกระทบฝาผนังทำเอาทุกคนที่เดินตามเธราเข้ามาถึงกับหยุดนิ่ง ร่างบอบบางของรารีสงบนิ่งที่ลำคอมีโซ่เส้นเขื่องที่โยงกับลูกกรงห้องขังพันอยู่แน่น รารีผูกคอตายในห้องขังก่อนที่เธราจะมาไม่ถึงอึดใจ
--------------------------------------------------------------------------
------------------

มาต่อแล้วค่าาา
ยินดีต้อนรับนักอ่านใหม่ทุกคนค่าาา 5555
สวัสดีปีใหมนะคะ
ฝาก #วิรัลลืมเมีย ด้วยย
คนร้ายจะปรากฏตัวเร็วๆนี้แล้วน้าา
ดีใจที่ชอบค่าา