ตอนที่ 49
จากวันนั้น พ่อเลี้ยงอาทิตย์ก็ไม่สวมถุงยางเวลาร่วมรักกับศตคุณเลย แม้ว่าจะโดนโกรธ โดนงอนไปทุกครั้งแต่อาทิตย์ก็ไม่เคยจำ เพราะยังไงเขาก็ง้อให้หายได้
ศตคุณเองก็หมดปัญญาจะห้าม เมื่อถึงเวลาจริงก็เคลิ้มเผลอไผลไปทุกที พองอนก็หายง่ายๆ เพียงเพราะคนรักง้อ...โชคดีที่เรามีอะไรกันไม่บ่อย แค่อาทิตย์เว้นอาทิตย์ และนี่ก็ไม่เจอกันมาอาทิตย์หนึ่งแล้ว นั่นเพราะพ่อเลี้ยงติดงานใหญ่อยู่ เป็นงานระดับจังหวัด เขาอยากจะช่วยนะ แต่ก็ช่วยไม่ได้หรอก วิจัยของตัวเองยังไม่ผ่านเลย อาทิตย์หน้าก็สอบปลายภาคแล้ว
ใกล้จะสอบแล้ว วิจัยยังไม่ผ่านเสียที...
“สีหน้าดูไม่ดีเลยมึง โหมงานหนักเหรอ” คณินถามเพื่อน ระหว่างที่นั่งรอนำเสนอวิจัยรอบไฟนอลที่จะตัดสินเกรดว่าจะได้สมกับค่าเหนื่อยหรือเปล่า
“อือ ช่วงนี้นอนดึกหน่อยว่ะ”
“ทนเอาๆ อาทิตย์หน้าสอบเสร็จก็จบแล้ว”
“อือ...หวังว่าเราจะผ่านมันไปได้สักทีนะ”
“ผ่านแน่นอนอยู่แล้ว...อย่าท้อสิวะหมู หน้ามึงไม่ดีจริงๆ นะ ป่วยหรือเปล่า” คณินที่เห็นว่าเพื่อนสีหน้าไม่ดีก็ได้แต่ถามไถ่อย่างเป็นห่วง
“ก็รู้สึกเหมือนจะเป็นนะ หน้ามืดบ่อยๆ ด้วย เมื่อเช้ากูอ้วกด้วยแหละ” เล่าบอกเพื่อนไปตามความจริง
“เป็นมากี่วันแล้ววะ ไปหาหมอเถอะ พรีเซ้นท์เสร็จเดี๋ยวกูพาไป”
“ไม่เอา พากูไปนอนก็พอ กูเป็นมาตั้งแต่วันจันทร์แล้วล่ะ”
“ปล่อยมาได้ยังไงวะตั้งสี่วัน ไปหาหมอเถอะ” คณินคะยั้นคะยอเพราะเท่าที่ฟังจากเพื่อนมาก็อาการหนักพอสมควรเลย
“พากูไปนอนก็พอ มันก็โรคกระเพาะนั่นแหละ ช่วงนี้กูกินอะไรไม่ค่อยได้ด้วย บางอย่างที่เคยชอบก็เหม็น กินไม่ได้ เลยทำให้ร่างกายอ่อนแอมั้ง”
“แบบนั้นยิ่งควรไปว่ะหมู”
“กูอยากนอน...พากูไปนอนก็พอ”
“เหรอ เออๆ เดี๋ยวจะพาไปนอนที่บ้านนะ”
“อือ...”
ไม่นานอาจารย์ก็เข้ามา แล้วก็เริ่มนำเสนองานวิจัยที่ทุกคนตรากตรำทำมากันทั้งเทอม ซึ่งศตคุณก็ออกไปด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีหากก็สู้จนเสร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
พอนำเสนอกันครบทุกคนอาจารย์ก็บอกคะแนนคร่าวๆ ให้รู้ว่าตัวเองได้เกรดอะไรเพราะเป็นวิชาที่สอบนอกตารางและก็สอบเสร็จแล้ว เกรดวันนี้เลยเป็นเกรดจริงๆ ที่อาจารย์ตัดเสร็จเลย ซึ่งศตคุณกับคณินก็ออกจากห้องเรียนด้วยสีหน้ามีความสุข
“เสร็จแล้วโว้ย!!!”
ตะโกนออกมาพร้อมกัน ทั้งเพื่อนและรุ่นน้องก็ต่างกันหันมามองเป็นตาเดียว ส่วนศตคุณกับคณินก็มองหน้ากันแล้วหัวเราะลั่น
“ฮ่าๆ เอวิจัยโว้ย!!!”
“ไปนอนกันเถอะมึง หรือจะกินอะไรก่อนไหม” คณินถามเพื่อนตัวเล็กแม้จะยิ้มแย้มดีใจแต่ก็ปกปิดอาการป่วยของตัวเองไม่ได้ หน้าขาวอมชมพูบัดนี้ซีดเซียวจนหน้าใจหาย
“กูไม่อยากกินอะไรเลย อยากนอนแล้ว”
“งั้นก็ไปนอนกัน”
คณินรีบที่จะพาเพื่อนสนิทไปนอนมาก ศตคุณพร้อมที่จะล้มตลอดเวลา
“อือ”
ทั้งสองเดินลงจากตึกคณะไปเพื่อจะกลับบ้าน แต่ศตคุณที่ออกแดดได้สามก้าวก็รู้สึกหน้ามืด ก่อนจะเป็นลมล้มพับไปกับพื้น
ตุบ!!
“กรี๊ด!!! พี่หมู!!” รุ่นน้องแถวนั้นส่งเสียงร้องทำให้คณินที่เดินนำไปได้ยินจึงหันกลับมามอง ดวงตาคมเบิกกว้างแล้วรีบวิ่งมาหาเพื่อนรักทันที
“หมู...ไอ้หมู น้องครับ อย่ามุง หลบไปก่อน พี่จะพาเพื่อนไปโรงบาล” คณินเรียกเพื่อนแต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ เขาเลยตะโกนบอกให้คนที่มามุงหลบไป แล้วช้อนตัวร่างบางขึ้นอุ้มตรงไปที่รถทันที
ปัง!!
“เชี่ยเอ้ย ไม่ไหวยังทำฝืนนะมึง” คณินปิดประตูรถอย่างแรงบ่นเพื่อนด้วยสีหน้าเครียดๆ ขาก็เหยียบคันเร่งออกจากมหาลัยไป ตรงไปยังโรงพยาบาลเอกชนของเพื่อนปู่ตนเองที่อยู่ไม่ไกลจากนี่ทันที...
คณินนั่งรอเพื่อนอยู่ด้านหน้าห้องตรวจอย่างเป็นกังวล ยังไม่มีเวลาที่จะโทรหาใครเลย เพราะเชื่อว่าเพื่อนแค่เป็นลมหมดสติเพราะนอนน้อยก็เท่านั้น ตรวจเสร็จก็คงจะพากลับบ้านได้ทันที
“หมอ...เพื่อนผมเป็นไงบ้าง” ร่างสูงตรงปรี่ไปหาหมอทันทีที่เปิดประตูออกมา
“ไม่เป็นอะไรแล้วครับ แค่หน้ามืดเป็นลมเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ ช่วงนี้ทำงานหนักใช่ไหมครับ”
“ครับ ก็ทำวิจัยน่ะครับ”
“อ๋อ...มิน่าล่ะ งั้นเดี๋ยวผมจะจัดยาให้นะครับ”
“ขอบคุณครับ”
แอ๊ด!!
“คุณหมอคะ คนไข้อาเจียนค่ะ” พยาบาลเปิดประตูห้องที่ศตคุณเข้าไปตรวจอย่างรีบร้อน
“หืม...คนไข้ฟื้นแล้วหรือ?”
“ค่ะ แล้วก็บอกว่าคลื่นไส้ อาเจียนใหญ่เลย บอกว่าเหม็น...สงสัยจะไม่ชอบกลิ่นโรงพยาบาลน่ะค่ะ หรือไม่ก็น่าจะมีโรคหรืออาการอื่นแทรกซ้อนค่ะ”
“เหม็น? อาเจียน? หน้ามืด? ช่วงนี้เพื่อนคุณทานข้าวน้อยไหมครับ?” หมอหนุ่มทวนอาการเบาๆ แล้วหันมาถามคณินที่ยืนทำหน้าเครียดอยู่
“มันเล่าให้ผมฟังว่ามีอาการกินข้าวไม่ได้ เพราะเหม็น อาหารที่เคยชอบก็เหม็นจนกินไม่ได้ ช่วงเช้าจะลุกมาอ้วกด้วยครับ เมื้อกี้ก็เป็นลมล้มลงเลย”
“ล้ม? ล้มแรงไหมครับ” หมอถามอย่างจริงจัง ทำเอาคณินเริ่มใจเสีย
“ไม่แน่ใจครับ ผมหันกลับไปมองก็เห็นมันนอนอยู่ที่พื้นแล้ว”
“เดี๋ยวหมอจะตรวจอาการเพื่อนของคุณอีกทีนะครับ ว่าแต่...คนไข้มีแฟนไหมครับ”
“มีครับ”
“ช่วยตามให้หมอด้วยครับ”
“อ่า...ทำไมเหรอครับ” คณินเองก็ไม่เข้าใจว่าจะตามพ่อของตนมาทำไม แต่มาก็ดีถ้าไม่รีบบอกพ่อตน อาจจะโกรธไม่พอใจอีกก็ได้ ถ้าหากว่าเขาไม่ยอมบอกว่าศตคุณเป็นลม
“ช่วยตามมาด้วยนะครับ ผมจะไปตรวจคุณศตคุณอีกรอบหนึ่ง คุณสา ตรวจปัสสาวะของคนไข้แล้วทำ PT1 ด้วยครับ” หมอหนุ่มหันไปสั่งพยาบาลซึ่งเธอก็รับคำสั่งทันที หมอเองก็กลับไปในห้องตรวจอีกครั้ง
คณินไม่เข้าใจหรอกว่าไอ้ PT มันคืออะไร แต่หมอให้เขาตามพ่อเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาพ่อเลี้ยงอาทิตย์ที่ตอนนี้คงจะทำงานยุ่งๆ อยู่
(มีอะไรเจ้าเขต ฉันยุ่งมากเลยตอนนี้)
“ยุ่งมากเหรอพ่อ ปลีกตัวออกมาได้ไหม?”
(มีอะไรสำคัญก็พูดมาเลย ฉันมีเวลาไม่มาก แล้วอาทิตย์หน้าก็สอบเสร็จแล้วใช่ไหม สอบเสร็จก็เข้าไปเขตะวันเลย ทำงานทันที ฉันจะทำเรื่องโอนเขตตะวันให้)
“พ่อ ฟังผมก่อนดิ ใจคอจะสั่งแต่งานหรือไง”
(ว่ามา...)
“ไอ้หมูมันเป็นลม ตอนนี้ผมอยู่โรงพยาบาลเพื่อนปู่ มันตรวจอยู่ในห้อง หมอให้ผมโทรตามพ่อ”
(ห๊ะ!! เป็นลม...โอเคๆ เดี๋ยวพ่อรีบไป) ปลายสายดูรีบร้อนมาก เขาได้ยินพ่อตะโกนสั่งงานลูกน้องก่อนจะตัดสายไป ซึ่งคณินคาดว่าพ่อเลี้ยงคงจะกำลังเดินทางมา
ยี่สิบนาทีผ่านไป
พ่อเลี้ยงเดินทางมาถึง เขาเข้าไปในห้องพักคนไข้พิเศษที่ศตคุณถูกย้ายมาหลังจากตรวจเสร็จ เดินไปหยุดข้างเตียง มองใบหน้าหวานกำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างเป็นห่วง
“เป็นไงบ้าง...หืม? ทำไมถึงเป็นลม” มือหยาบกร้านลูบผมสวยเบาๆ ถามคนรักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ก็ไม่อะไรหรอกพ่อ หักโหมงาน ป่วยก็ไม่บอก กินก็ไม่ได้บอกเหม็น อ้วกอีก นี่ก็เลยไม่ไหวมั้ง เป็นลมล้มไปเลย แต่หมอบอกว่าไม่เป็นไร กระแทกไม่รุนแรง ส่วนอาการอ้วก เหม็นอาหาร เป็นอาการปกติอ่ะพ่อ” คณินตอบพ่อด้วยรอยยิ้มกว้างดูมีความสุขเกินเหตุ
เพื่อนไม่สบายอยู่แท้ๆ ยังจะมายิ้มกว้างมีความสุขอีก
“ชิ! เพราะพี่อาทิตย์คนเดียวเลย” ศตคุณหน้างอ โบ้ยความผิดให้กับพ่อเลี้ยง
“อะไรกัน ทำไมถึงผิดที่พี่ล่ะ”
“พ่อก็รอถามหมอเอาก็แล้วกัน เดี๋ยวก็มา” คณินนั่งยิ้มกว้างต่อไปอย่างมีความสุข โทรศัพท์หาปู่หาย่าแล้วก็หาพ่อแม่ของศตคุณไป บอกให้ท่านไปรอที่บ้านใหญ่เพราะมีเรื่องจะบอก รวมถึงโทรตามพายัพกับอาโปด้วย
“แกจะโทรตามทำไม หมูเป็นอะไรร้ายแรงเหรอ” อาทิตย์เริ่มจะสับสนไม่เข้าใจไปใหญ่แล้ว แต่ลูกชายก็ไม่ตอบ คนรักก็หันหน้าหนีงอนๆ ไม่นานนักก็มีหมอหนุ่มพร้อมพยาบาลเดินเข้ามาในห้อง
“สวัสดีครับ...พ่อเลี้ยงอาทิตย์นี่เอง”
“สวัสดีครับหมอ...อาการคนรักของผมเป็นยังไงครับ” ถามหมอทันทีด้วยความกังวล
หมอเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงอีกฝั่งตรงข้ามกับศตคุณ ตรวจเช็คร่างกายเล็กน้อย แล้วหันมามองหน้าพ่อเลี้ยงอาทิตย์...
“ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกครับ แต่...
“แต่อะไรหมอ...ผมเครียดนะเนี่ย”
“แสดงความยินดีด้วยนะครับ คุณศตคุณ ตั้งครรภ์ได้หกสัปดาห์แล้วครับ”
สิ้นเสียงของหมอ พ่อเลี้ยงหนุ่มก็ยืนนิ่งอึ้งไป ตัวแข็ง ใจเต้นแรง มือไม้อ่อนไปหมด รู้สึกเหมือนน้ำตากำลังรื้นที่ดวงตา ความรู้สึกดีใจ ตื้นตันใจจนมันแสดงออกมาไม่ถูก จากอึ้ง ก็เปลี่ยนเป็นยิ้ม ยิ้ม และยิ้มกว้างที่สุด ก่อนจะก้มกอดร่างบางเต็มรัก
ของขวัญที่ดีที่สุดของเขา...
“ขอบคุณนะที่รัก ขอบคุณนะหมู ขอบคุณจริงๆ พี่ดีใจมากๆ” ร่างสูงน้ำตาคลอแต่ก็ไม่ถึงกับไหล หอมแก้มเนียนของศตคุณไปมา
ร่างบางเองก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง ครั้งแรกคือตอนที่ได้ยินผลคนเดียวในห้องตรวจ ร้องไห้ออกมาอย่างดีใจ แต่ก็แอบงอนคนรักที่เป็นสาเหตุ สุดท้ายก็ดีใจมากกว่าโกรธอยู่ดี ส่วนตอนนี้เขาก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้งพร้อมกับพ่อของลูกในท้อง...ทั้งดีใจ ตื้นตันใจ ที่เห็นว่าอาทิตย์ดีใจมากขนาดนี้
ที่สำคัญเขาได้เห็นน้ำตาของพ่อเลี้ยงที่ไหลออกมาด้วยความดีใจ มือสวยเช็ดน้ำตาให้กับคนรัก ร่างสูงเลยจับมือนั้นมาจูบเบาๆ หลายที
“ฮือ...ท้องก่อนแต่งจนได้” ศตคุณร้องออกมาแต่ไม่จริงจังนัก
อาทิตย์เดียวก็เรียนจบแล้ว และอีกเดือนหนึ่งก็งานแต่งแล้ว พ่อกับแม่เขาก็เคยพูดเหมือนกันว่าถ้าท้องตอนนี้ก็ไม่ว่าอะไรหรอก...
“ดีเสียอีก งานแต่งของเราจะได้มีลูกเป็นพยานรักไง”
“เพราะพี่คนเดียว...”
“ทำไมโทษพี่ล่ะ หืม?”
“ก็พี่อาทิตย์อ่ะ...” เขาไม่กล้าพูดเรื่องคนรักไม่ใส่ถุงยางเวลาร่วมรักหรอก คนอยู่เยอะแยะเลย ทั้งหมอกับพยาบาลที่ยืนยิ้มอยู่
“หึหึ”
ฟอด!
อาทิตย์หอมแก้มของศตคุณเบาๆ แล้วลุกขึ้นมองหน้าหมออย่างขอบคุณ
“ตอนนี้พ่อเลี้ยงคงจะว่างแล้วใช่ไหมครับ” หมอเอ่ยถามแซวๆ
“ครับ”
“งั้นไปคุยกับหมอเรื่องการดูแลคุณศตคุณนะครับ แล้วก็เรื่องฝากท้อง การนัดต่างๆ ด้วย ผมติดต่อคุณหมอไว้ให้แล้วเพราะคุณศตคุณแจ้งว่าจะฝากท้องที่นี่เลย”
“ครับ ได้ครับ”
“เชิญเลยครับ”
“เดี๋ยวพี่กลับมานะ เขตดูแลแม่เลี้ยงแกด้วย” บอกกับคนรักเสียงหวานและหันไปสั่งลูกชายเสียงห้วนเนื่องจากเคืองที่มันไม่ยอมบอกว่าศตคุณท้อง ปล่อยให้ยืนเครียดอยู่ได้
“รู้แล้วน่า...นั่นน้องผมอยู่ในท้องเลยนะ”
ไม่ใช่อาทิตย์หรอกที่มีความสุข คณินที่เป็นลูกชายคนเดียวมาตลอดก็ดีใจมากๆ เหมือนกัน...
หลังจากให้น้ำเกลือคุณแม่มือใหม่จนเสร็จแล้ว อาทิตย์ก็ประคับประคองคนรักไปที่รถของตนอย่างระมัดระวังตามคำสั่งหมอจนเวอร์ ในมือมีถุงยาต่างๆ ศตคุณได้แต่ยิ้มกับท่าทางน่ารักของคนอายุมากกว่า คณินแยกไปรถของตัวเองมุ่งหน้าไปที่บ้านก่อนแล้ว
เป็นครั้งแรกเลย ที่พ่อเลี้ยงอาทิตย์ขับรถช้าขนาดนี้...
พ่อเลี้ยงกับศตคุณเดินเข้าไปในห้องรับแขกที่มีทุกคนนั่งรออยู่ด้วยสีหน้าซีเรียส แต่คณินก็นั่งยิ้มมีความสุขข้างๆ คนรักของตน...
“ทุกคนทำไมทำหน้าเครียดกันล่ะ” อีหรอบนี้คือคณินไม่ได้บอกแน่ๆ
“น้องหมูเป็นอะไร” ปัทมาถามเรียบนิ่ง
“ลูกหมู...แม่บอกให้ไปหาหมอตั้งวันจันทร์นี่คือเพิ่งไปตอนเป็นลมใช่ไหม?” มารตีผู้เป็นแม่ของร่างบางถามเสียงเข้ม เตรียมดุลูกทันทีแต่ก็รอฟังผลก่อน
“เอ้า! มานั่งสิ จะให้น้องยืนทั้งๆ ที่ป่วยทำไม” สุริเยนทร์ว่า
อาทิตย์ยิ้มแล้วพาคนรักไปนั่งที่โซฟาตัวที่ว่างอยู่ ส่วนตัวเองก็นั่งลงข้างๆ ชัยกรที่อยู่ใกล้ๆ คว้าถุงยาในมือของว่าที่ลูกเขยไปดูว่าข้างในเป็นยาอะไร แต่เพียงแค่ถุงแรกก็เบิกตากว้างแล้ว มารตีที่นั่งข้างๆ ก็หยิบไปดูบ้างก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน
“ท้อง!!!” สองสามีภรรยาอุทานออกมาอย่างตกใจ ทำให้สุริเยนทร์กับปัทมาถึงกับมองหน้าลูกชายของตนทันที ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ พายัพ อาโป และเมฆาก็ยิ้มด้วยความดีใจไม่แพ้กัน
“ท้อง...บัวกำลังจะมีหลานล่ะ พี่ซัน บัวกำลังจะมีหลาน”
“ใจเย็นๆ นะพี่ก็ดีใจเหมือนกัน” สุริเยนทร์ปรามภรรยาแต่ปากก็ยิ้มกว้างไม่ต่างกัน
“พ่อจ๋า แม่...โกรธหมูหรือเปล่า” ศตคุณถามขึ้นเมื่อเห็นว่าพ่อกับแม่ยังทำหน้าช็อกอยู่
สนชัยได้สติก่อนภรรยา มองหน้าลูกเขยนิดๆ แล้วถอนหายใจ
“พ่อจะไปโกรธได้ยังไง เอ็งยังทำตามสัญญาที่ให้ไว้อยู่ อาทิตย์หน้าก็เรียนจบแล้วนี่ ไม่เป็นไร จริงๆ พ่อก็ดีใจที่จะมีหลานสักที เอ็งก็พร้อมที่จะมีครอบครัวแล้วด้วย งานการก็ทำมาตลอด สามีก็ดูแลเองได้ พ่อหมดห่วงแล้วล่ะ”
“แม่ก็เหมือนกัน...ไม่ได้โกรธแต่ช็อกเพราะดีใจ หลานมาเร็วมาก ฮะๆ” มารตีพูดกลั้วหัวเราะ ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างพากันหัวเราะ
“ถ้าอย่างนั้น...ให้หมูย้ายมาอยู่กับเรานะคะ” ปัทมาเอ่ยขอ
“ผมชวนพี่แมวกับพี่ชัยมาอยู่ด้วยกันนะครับ ผมสร้างบ้านอีกหลังไว้ที่ไร่ศักดินนท์แล้ว เพื่อไว้ให้คุณตาคุณยายของลูกผมมาอยู่ใกล้ๆ กับลูกและหลาน” ถึงแม้จะมีสถานะเป็นลูกเขย แต่อาทิตย์ยืนยันจะเรียกพ่อแม่ของศตคุณว่าพี่ต่อไป เพราะยังไงอายุของเราก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก
สองสามีภรรยามองหน้ากัน
“ไปสร้างตอนไหนครับ” ศตคุณถาม
“ก็สองเดือนก่อนนั่นแหละ หลังเล็กๆ แต่ก็ร่มรื่นนะ ไม่ไกลจากบ้านเราเท่าไหร่ ตอนนี้ก็เหลือตกแต่ง ทาสี” อาทิตย์ตอบ ศตคุณยิ้มหวาน หันไปอ้อนพ่อกับแม่
“มาอยู่ด้วยกันนะพ่อ นะแม่”
“อ้อนเป็นเด็กเลย จะเป็นแม่คนอยู่แล้ว”
“แล้วบ้านของพวกเราล่ะ ไร่นาอีก”
“ผมรู้ว่าพี่อยากจะทำอะไร ก็ใช้ที่นั่นทำก็ได้ ผมจะคอยสนับสนุนเองห้ามปฏิเสธนะครับ ผมสร้างแล้ว ถ้าไม่มีคนอยู่ก็กลายเป็นบ้านร้าง” สนชัยยิ้มให้คนรู้ทัน...
สนชัยเคยทำงานกับพ่อเลี้ยงมาก่อน รู้ดีว่าพ่อเลี้ยงอาทิตย์เป็นคนยังไง เขาก็รู้สึกดีใจที่ลูกชายของเขาได้คู่ครองเป็นพ่อเลี้ยง…
“นะครับ...” ลูกชายช่วยอ้อนอีกคน
“เออๆ ผมตกลงครับ” ประโยคแรกสนชัยตอบลูกชาย ส่วนประโยคหลังพูดกับพ่อเลี้ยงอาทิตย์
ศตคุณกับอาทิตย์ยิ้มออกอย่างดีใจและมีความสุข...
ไม่ใช่แค่ศตคุณกับพ่อเลี้ยงอาทิตย์เท่านั้นที่มีความสุข ทุกคนในที่นี้เองก็มีความสุขมากๆ

รู้สึกผิดที่ให้คอยนาน ก็เลยจะลงให้จบไปเลย เอาสองตอนสุดท้ายมาฝากค่า จะได้ทำวิจัยได้อย่างหมดห่วง แต่ก็เหลือรามอินที่ยังลงไม่จบอีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่องนั้นตอนหนึ่งมันยาวกว่าเรื่องนี้สองเท่าเลยค่ะ 1 ตอนรามอิน เท่ากับ 2 ตอนพ่อเลี้ยง ยังไงจะพยายามอัพให้บ่อยที่สุด คราวที่แล้วก็ลงรามอินไปทีเดียว 2 ตอน วันนี้ก็ลงพ่อเลี้ยงสองตอนไปเลย จะได้เหลือแค่รามอินเรื่องเดียว แบ่งเวลาไม่ถูกแล้วค่ะตอนนี้ อ่านแล้วคอมเม้นท์ให้กำลังใจ ติหรือชมกันด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki/