IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [แถลงการณ์] 3/11/18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [แถลงการณ์] 3/11/18  (อ่าน 3021 ครั้ง)

ออฟไลน์ Sailomcc.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2018 09:24:00 โดย Sailomcc. »

ออฟไลน์ Sailomcc.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} INTRO 16/7/18
«ตอบ #1 เมื่อ16-07-2018 03:04:16 »

สวัสดีจ้าาาา เวลคัม ยินดีต้อนรับ กราบกรานผู้อ่านทุกท่าน เรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้ายในชุดTHE SIXTH SENSE นะคะ ใครชอบอ่านนิยายวายแนวสืบสวน ก็ไปตามอ่านสองเรื่องแรกได้ กับ ํ
YOU SAW ME 
https://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60937.60

และ LIFE OR DEATH ได้เลย
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67273.0

ส่วนใครที่อย่างเริ่มชิมลางอ่านเรื่องนี้ก่อนก็ได้ไม่มีปัญหา เตรียมตัวเข้าสู่ห้วงนิทรา ที่จะพาย้อนเวลาไปสู่ ก่อนเกิดวันมหาวิปโยค 14 ตุลา


IN MY DREAM
ในห้วงนิทรา
INTRO

คืนวันที่ ห้า ตุลาคมต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ หก ตุลาคม กำลังฝ่ายต่อต้านนักศึกษาเคลื่อนขบวนไปยังบริเวณท้องสนามหลวงช่วงหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มมีการปะทะกันด้วยอาวุธปืนเบา ขณะที่นายกรัฐมนตรีกำลังประชุมกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ โดยพลตำรวจเอก ศรีสุข มหินทรเทพ อธิบดีกรมตำรวจ พลตำรวจโท มนต์ชัย พันธุ์คงชื่น รองอธิบดีกรมตำรวจ พลตำรวจโทณรงค์ มหานนท์ ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ พลตำรวจโท สุรพล จุลละพราหมณ์ รองอธิบดีกรมตำรวจพลตำรวจโท ชุมพล โลหะชาละ รองอธิบดีกรมตำรวจ และ พลตำรวจโทกิตติ เสรีบุตร อดีตผู้บัญชาการผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจัดประชุมในเวลา เที่ยงคืนตรง
เสียงจากเครื่องอัดเสียงดังวนไปมาคามือของชายหนุ่มที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงด้วยความอ่อนล้า ภายในห้องเต็มไปด้วยหนังสือพิมพ์เก่าตัดแปะติดโยงกันไปมาเต็มฝาผนังห้อง ตรงโต๊ะอ่านหนังสือมีรูปภาพของกลุ่มนักศึกษาจำนวนมานั่งอยู่ท่ามกลางวงล้อมของทหารที่กำลังถืออาวุธปืนอยู่ในมือ


คนที่กำลังเข้าสู่ห้วงนิทราค่อยๆตักขาดจากเสียงรบกวนของเครื่องอัดเสียงนั้นก่อนทุกอย่างจะดับลงสู่ความมืด และสว่างขึ้นอีกครั้ง
เขายืนอยู่ใจกลางกลุ่มนักศึกษาที่กำลังโห่ร้องพร้อมทั้งถือป้ายเรียกคืนประชาธิปไตยให้กับแผ่นดินไทย รอบตัวของเขาเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ภาคินพยายามเบียดกลุ่มคนให้หลุดออกไปจากบริเวณนี้ เพราะเหมือนว่าตัวของเขาจะทนความแออัดนี้ได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก แสงแดดที่อยู่กลางหัวยิ่งทำให้ตัวของเขาเต็มไปด้วยเหงื่ออีกทั้งมันยังเร่งให้ร่างกายของเขาอ่อนแรงลงเรื่อยๆ


   “ ทางนี้ครับ” เสียงทุ้มคุ้นหูจากใครบางคนพูดขึ้นพร้อมกับจับคว้าที่ข้อมือของเขาแล้วเดินนำทางไป ขาของเขายังคงไม่หยุด สิ่งที่เขาเห็นคือข้างหลังของคนที่อยู่ในชุดนักศึกษาเช่นกันผิวของคนที่มาช่วยเหลือเขานั้นเป็นผิวสีแทนแต่ออกไปทางขาวนิดหน่อย


เมื่อหลุดออกมาอยู่ที่บริเวณด้านนอกของกลุ่มผู้ชุมนุมเสียงในหูของเขาก็ก้องตีกันไปหมด ดวงตาของเขาเริ่มพร่ามัวขึ้นทุกทีก่อนที่ขาของเขาจะไม่สามารถทรงตัวอยู่และล้มลงไปนอนกองกับพื้น


   “ คุณ คุณ” เสียงนั้นตะโกนเรียกและเหมือนว่าจะห่างไกลไปทุกที ก่อนที่จะมีเสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างตัวจะดังขึ้นมา


   ‘อุ๋ง อุ๋ง’  หน้าจอโทรศัพท์ไอโฟนแสดงชื่อของคนที่โทรเข้ามา เขาถอนหายใจออกมาเฮือกโตก่อนจะเลื่อนหน้าจอเพื่อรับสายนั้น อย่างเสียไม่ได้ เพราะเขารู้ดีว่า หากไม่รับต้นสายจะยังคงโทรมาเรื่อยๆ และมันเป็นอย่างนี้มานานแล้วตั้งแต่สมัยที่เขารู้จักกันใหม่ๆ คนคนนี้เขาจำเป็นต้องมีไว้อยู่ข้างกายเพราะอะไรไม่รู้ที่ทำให้เขาคิดเช่นนั้น นิสัยของคนที่เขาคบอยู่ตรงกันข้ามกับความชอบของเขาในทุกๆอย่างทั้งหน้าตาที่ไม่ได้สูงมากเกือบค่อนไปทางตัวเล็กด้วยซ้ำ เขาชอบคนที่มีความเป็นผู้นำคนรักของเขากลับเป็นแต่ผู้ตามและตามใจเขาในทุกๆเรื่องแต่เพราะอะไรกันนะทำให้เขาตกหลุมรักใครคนนี้ได้มากขนาดนี้


ออฟไลน์ Sailomcc.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [1 40%] 16/7/18
«ตอบ #2 เมื่อ16-07-2018 03:09:13 »

1
แรกพบ
วันแรกที่คนเราเข้ามหาวิทยาลัย มันมักจะมีแต่เรื่องราวดีๆใช่ไหมล่ะครับ การที่เราได้เริ่มต้นสิ่งใหม่ๆกับผู้คนใหม่ๆกับสถานที่ใหม่ๆที่เราพยายามจะเอาตัวเองมาอยู่ที่นี่ ผมเองก็เช่นกัน ผมตั้งใจสอบเข้ามาเรียนที่นี่ที่คณะการสื่อสารมวลชน บางมหาวิทยาลัยอาจเรียกคณะนี้ว่านิเทศศาสตร์บ้าง แต่นั่นแหละแต่ที่นี่เขาใช้ชื่อนี้นี่เนอะ


คณะการสื่อสารมวลชนที่ผมสอบเข้าเพราะว่าอาคนเดียวของผมที่เลี้ยงดูผมมาตั้งแต่เด็กๆทำธุรกิจด้านบันเทิงตัวผมองเลยอยากที่จะสานต่อเพื่อทำการเตรียมตัวช่วยเหลือผู้มีพระคุณหลังเรียนจบ มีคนมักตั้งคำถามกับผมตลอดว่าทำไมไม่เลือกที่จะไปเรียนที่กรุงเทพล่ะอาจจะมีโอกาสดีๆก็ได้ ไม่รู้สิครับ ผมว่าที่ที่ผมเลือกมันไม่ได้แย่ขนาดนั้นเพราะที่นี่มีทั้งบรรยากาศที่ดี อีกอย่างผมไม่อยากไปไหนไกลๆเท่าไหร่เพราะยังไงหลังจากเรียนจบผมก็ต้องมาช่วยอาของผมอยู่ดีเพราะฉะนั้นขอสร้างแรงบันดาลใจที่นี่แหละดีแล้ว


ผมเดินก้าวเข้ามาในคณะอย่างมั่นใจพร้อมกับทุกคนที่ต่างยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตรการแต่งกายก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ ทุกคนมาในชุดนักศึกษาที่ถูกระเบียบแบบสุดๆของมหาวิทยาลัย คือผมเองใส่กางเกงสแล็กขายาวสีดำพรัอมกับเสื้อสีขาวตุ่นๆเน็กไทค์สีม่วง ส่วนผู้หญิงบางคนที่เดินเข้ามาส่วนใหญ่จะแต่งตัวกระโปรงทรงเอยาวคลุมเข่ามีแค่บางคนที่ใส่สั้นเลยขึ้นมาแต่ไม่มากก็ดูดีไปอีกแบบ
ตรงหน้าของผมตอนนี้คือป้ายประกาศที่ติดรายชื่อพร้อมกับรหัสประจำตัวนักศึกษาผมไล่หาชื่อผมทันทีเพราะด้านหลังคนค่อนข้าง

เบียดพอสมควร    


 ภาคิน เสรีวงษ์


เจอสักทีใช่ครับชื่อผมเองชื่อที่แม่และพ่อของผมตั้งให้ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตหลังจากที่ผมอายุได้ประมาณเจ็ดขวบ แต่ช่างเถอะครับผมมีอาเลี้ยงดูมาจนถึงขั้นนี้แล้วผมเลยจุดที่ขาดความอบอุ่นมาแล้วเพราะผมไม่เคยขาดเลย เอาล่ะมาเข้าเรื่องชื่อก่อนดีกว่า แม่บอกว่าชื่อผมเป็นชื่อที่มีความหมายดี เพราะผมเกิดวันศุกร์มันเสริมกันมันแปลว่า ผู้มีโชค แต่ก็นะไม่รู้มีโชคจริงหรือเปล่าผมไม่เคยลอง


   “ โอ้ย ขอโทษค่ะ” หญิงสาวที่โดนดันมากระแทกผมเอ่ยขึ้นพร้อมกับขยับกรอบแว่นหนาสีดำที่อยู่บนใบหน้า เธอยิ้มมาให้ผมก่อนจะหันไปมองแผ่นกระดาษที่ปิดประกาศ


หลังจากที่ผมส่งยิ้มให้เธอตามมารยาทแล้วจึงแยกตัวออกมาจากบริเวณที่แออัดนั้นก่อนจะเดินตรงไปที่บริเวณลานกว้างที่มีรุ่นพี่ยืนถือป้ายชื่อพร้อมกับโบกมือเรียกให้คนที่มาใหม่เข้าไปหา


   “ ชื่ออะไรครับ” พี่ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ถามพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ทำเอาหัวใจของผมเต้นไปเป็นจังหวะ ใช่ครับผมชอบผู้ชาย แต่คงไม่ใช่เรื่องแปลกของสมัยนี้หรอกจริงไหม และผมเชื่อว่าใครมาอยู่ตรงนี้ก็ใจละลายเหมือนกัน ดวงตาที่ดูอ่อนโยนกับใบหน้าขาวๆเวลายิ้มเขามีรอยบุ๋มที่ข้างแก้มทั้งสองข้าง ตัวของเขาน่าจะสูงประมาณร้อยแปดสิบเห็นจะได้ เพราะตอนที่พี่เขาลุกไปหยิบปากกาแล้วก้มตัวยังดูรู้เลยว่าสูง “ น้องครับ น้องชื่ออะไรครับ”


   “ ค…ครับ” เอาแล้วไงปล่อยไก่ตัวโตเลย ผมมองหน้านั้นอีกครั้งพร้อมกับยิ้มแก้เขินก่อนจะตอบกลับไป “ ผมชื่อ เต้ครับรหัส149ครับ”


   “ น้องเต้ 149” เขาทวนแล้วเขียนปากกาสีเงินลงไปที่กระดาษที่ตัดเป็นรูปนกสีดำ “ นี่ครับ น้องไปนั้งแถวที่สามนะครับ”


   “ ขอบคุณครับ”


ผมเดินออกมาจากจุดนั้นแต่ไม่สามารถลืมใบหน้านั้นได้เลยคนอะไรน่ารักเป็นบ้า หน้าของผมยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ถ้าใครมาเห็นตอนนี้คงต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ


   “ เธออีกแล้ว ตัวสูง ผิวขาว ผมตรง ตารีเล็ก ขอโทษนะ”  เธอเอื้อมมาจับข้อมือผมอย่างรวดเร็วจนแทบตั้งตัวไม่ทัน “ แผลเป็นเป็นรอยาวที่ข้อมือด้านซ้าย ใช่แล้วล่ะ” เธอปล่อยมือผมพร้อมกับขยับกรอบแว่นพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างจนแทบเห็นฟันครบทุกซี่ส่งมาให้ผม “ สวัสดี เราชื่อ แพรไหม เรียกเราว่าแพรก็ได้เรารหัส 150”


   “ อ่า”


   “ เดี๋ยวถ้าให้เดา เธอน่าจะรหัส 149 หรือไม่ก็ 151ใช่ไหมล่ะ เราต้องเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแน่ๆฉันสัมผัสได้”


   “ เราชื่อเต้นะ รหัส150 ว่าแต่เธอรู้ได้ยังไงเหรอ”  ผมถามอย่างงงพร้อมทั้งจ้องกลับไปยังหญิงสาวตาวเล็กๆตรงหน้า


   “ เราดูดวงตัวเองมา” เธอหัวเราะ “ ไปกันเถอะไปนั่งที่กัน”


เธอจูงมือผมมานั่งที่แถวที่สามซึ่งเป็นสองคนสุดท้ายของแถวนั้นเพราะแต่ละแถวจะมีจำนวนคนอยู่แถวละห้าสิบคน ผมนั่งแนะนำตัวพูดคุยกับคนรอบข้างเพื่อทำความรู้จัก เด็กคณะนี้ส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างกล้าแสดงออกจึงทำให้ผมสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วรวมถึงเพื่อนใหม่ของผมด้วย


แพร หรือแพรไหมเป็นมาจากกรุงเทพบ้านของเธอเป็นซินแสและช่วยเหลือผู้คนโดยไม่คิดเงินสิ่งที่ทำให้เธอรู้ว่าผมต้องเป็นเพื่อนเธอในวันนี้เพราะว่าเธอสามารถดูไพ่ยิปซีได้ ดูๆแล้วเธอเป็นเพื่อนที่น่าคบคนนึงเลยแหละครับเพระว่าดูแล้วเธอเป็นคนช่างจ้อ คุยอะไรก็ดูน่าฟังไปเสียหมด ถ้าตัดแว่นหนาๆใหญ่ๆบนหน้าออกเธอก็เป็นคนที่น่ารักเรียกว่าสวยยังได้เลย แต่เรื่องนี้คนที่นั่งอยู่ข้างหลังผมคงไม่คิดเลยเพราะเธอชอบที่จะคุยสนุกสนานสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้คนรอบตัวมากกว่า


   “ เต้ เราเรียกแบบนี้ได้หรือเปล่า” เธอที่เพิ่งคุยเรื่องละครหลังข่าวกับเพื่อนอีกแถวหันมาหาผม


   “ ได้สิ” ผมตอบกลับ “ วันนี้เสร็จจะไปไหนต่อเหรอ”


   “ เราว่าจะถามอยู่พอดีเลย” เธอทำท่ากระตือรือร้น “ คือเราจะไปซื้อของเข้าหอข้างๆมอนี่เอง”


   “ หออยู่แถวไหนเหรอ”


   “ อยู่แถวๆเลียบคันคันคลองอ่าใกล้ๆกับเดอะนอร์ทเทิร์นคอนโดอ่า”


   “ ดีเลยข้างคอนโดเราเลยเราอยู่ที่คอนโดนี้ เดี๋ยวเราไปซื้อของกันไหมเดี๋ยวไปรถเราก็ได้” ผมชวน เธอทำท่าทางดีใจก่อนที่จะทำการคว้ามือผมไปอีกครั้ง


   “ ฉันว่าแล้วว่าเราต้องเข้ากันได้”


รุ่นพี่ที่อยู่ตรงหน้าแนะนำห้องเรียนตึกเรียนและให้เต้นท่าประหลาดๆเสร็จก็ปาไปประมาณบ่ายโมงหลังจากนั้นก็มีอาจารย์ที่ปรึกษา ผมกับไหมได้อาจารย์คนเดียวกันซึ่งตอนเข้าพบเราทั้งสองคนก็เลือกแล้วว่าจะเรียนสาขาวิทยุโทรทัศน์ แต่ต้องเลือกตอนปีสองและต้องทำเกรดออกมาให้ดีที่สุด


เราออกมาจากคณะเกือบบ่ายสามรถภายในมหาลัยค่อนข้างติดมากเพราะมีผู้ปกครองมาส่งเด็กปีหนึ่งอย่างผมเข้าหอใน ผมอิจฉานะครับที่บางคนได้อยู่หอในเพราะมันได้มีเพื่อนต่างคณะแล้วก็ได้ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำแต่ผมจองไม่ทันครับ การจองหอในเปรียบเสมือนสงครามของชาวปีหนึ่งเลยครับ คนที่นั่งข้างๆผมเองก็เช่นกันไหมก็จองหอไม่ทันเหมือนกับผมเราเลยต้องเผชิญชะตากรรมอยู่หอนอกแพงๆไปตามปริยาย


   “ เคยมาเชียงใหม่บ้างหรือเปล่า” ผมถามคนที่กำลังเอามือและหน้าทาบไปที่กระจกรถอย่างตื่นเต้น


   “ เคย เคยมาดอยสุเทพตอนที่ป๊ามาดูที่ดินให้ลูกศิษย์น่ะ”


   “ จริงสินะ ใครมาไม่ถึงดอยสุเทพเหมือนมาไม่ถึงเชียงใหม่ อาจจะอยู่แค่ลำพูนหรือลำปาง” ผมพูดติดตลก


   “ สงสัยจะจริง” เธอหัวเราะออกมากับมุกที่มันไม่ตลกของผม “ เออที่นี่รถติดเหมือนกรุงเทพเลยเนอะแต่คนใจเย้นเย็น ที่กรุงเทพนะแค่ไฟแดงนับถอยหลังสามวินาทีสุดท้ายก็แทบจะเร่งเครื่องละ ดูที่นี่สิไฟเขียวแล้วเพิ่งใส่เกียร์”


   “ นี่แหละ เชียงใหม่สไตล์ ตอนยอนต๊ะตอนยอนไง เคยได้ยินหรือเปล่า”


   “ เราว่า เราต้องเรียนภาษาเหนือบ้างแล้วล่ะ” เธอหัวเราะออกมา “ เต้สอนเราได้ไหม”


   “ ได้สิ แต่ระวังคำพวกนี้ไว้นะ”


   “ คำอะไรเหรอ” เธอขยับตัวมาทางผมเหมือนเด็กกำลังได้ของเล่นใหม่


   “ น้ำว้อง น้ำบะดาย เนี่ยสองคำนี้คนแม่งชอบแกล้งเด็กกรุงอย่างแก”


   “ มันแปลว่าไรอ่า”


   “ ไม่บอก” ผมหัวเราะอย่างผู้ชนะก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาขับรถออกไปจากประตูหลังมหาวิทยาลัย


ผมเลือกที่จะใช้เส้นทางผ่านไปที่ห้างสรรพสินค้าโดยผ่านทางกองบินสี่สิบเอ็ดซึ่งไวกว่าการที่จะไปอ้อมคูเมืองซึ่งเดาได้เลยว่ารถกำลังติดอย่างแน่นอน


พอเรามาถึงก็ทำการเดินซื้อของทันที โดยเริ่มจากของใช้ส่วนตัวก่อนอย่าง สบู่ยาสีฟัน ก่อนจะลามไปถึงของใหญ่ๆอย่างโต๊ะญี่ปุ่นที่ไว้สำหรับอ่านหนังสือ แล้วก็กระทะไฟฟ้า ที่ขาดไม่ได้ ไหมไม่ลืมที่จะหยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปติดมือกลับมาด้วย


   “ เดี๋ยวเราเอาของไปเก็บที่รถก่อนไหมแล้วกลับมาเดินเล่นกันต่อ”


   “ อืมได้สิ”


ผมกับเธอเดินกลับมาที่รถอย่างทุลักทุเล เพราะรถจอดอยู่ไกล รถเข็นที่เอามาดันล้อมาเสียเอาดื้อๆ ผมเลยต้องถือถุงที่ใส่ของหนักอึ้งไปที่ลานจอดรถซึ่งจอดอยู่นอกตัวห้าง


ป้าบ ตุ้บ ! ไม่ผิดหรอกครับ มันสองสเต็ปอย่างนั้นจริงๆ มีใครที่ไหนก็ไม่รู้กำลังเดินถอยหลังหัวเราะคุยกับเพื่อนมาชนผมที่ถือของอยู่จนของผมร่วงไปอยู่กับพื้น


   “ ไอ้ปอนด์ มึงเลยมัวแต่เล่นไม่ดูตาม้าตาเรือ ชนเขาแล้วเนี่ย”


   “ ไอ้นนท์มึงหุบปากไปเลย มาช่วยกูเก็บของให้เขาก่อนเร็ว” ไอ้ตัวเล็กตรงหน้ากวักมือเพื่อมาช่วยเก็บของที่กระจายบนพื้น “ ขอโทษนะครับ ผม”


   “ ผมไม่ได้ตั้งใจ จะพูดแบบนี้ใช่หรือเปล่าครับ คุณไม่ได้ไม่ได้ตั้งใจแต่คุณไม่ได้ใส่ใจมากกว่า การที่คุณเดินเล่นแบบนี้มันทำให้คนอื่นเดือนร้อนนะครับ” ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผมถึงได้หัวร้อนมากขนาดนี้กับไอ้ท่าทางทะเล้นของคนตรงหน้า


   “ เห้ยพูดดีๆก็ได้นี่หว่าก็ขอโทษไปแล้วไง” มันเดินเข้ามาหาผม มันเล็กกว่าผมนิดนึงแต่ดูมีกล้ามมากกว่า ผิวไม่ได้ขาวมากคิ้วมันเข้มจนทำให้หน้าของมันค่อนข้างดุ


   “ ไอ้ปอนด์ใจเย็นเว้ย” เพื่อนของคนที่ชนผมอีกคนเดินเข้ามาขวาง “ นี่ครับของคุณ ขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะครับ ไอ้ปอนด์ไปมึง”


   “ เดี๋ยว” มันดันเพื่อนมันออกพร้อมกับโยนซองสีชมพูที่มีลายปีกนกประดับอยู่มาใส่ผม “ เหลืออีกชิ้นนึง”  ผมพูดจบก็หัวเราะแล้วเดินออกไป


   “ มึง”


   “ เต้ เอาของไปรถกันเถอะ”


   “ ฝากไว้ก่อนเถอะมึง” ผมหันไปมองอย่างเราเรื่องก่อนจะเดินไปที่รถอย่างว่าง่าย และมันมีความคิดนึงแว้บเข้ามาในหัว ผม
ต้องเจอมันอีกแน่ๆผมมั่นใจ







ว้าย วี้ด วิ้ว มาเริ่มกันแบบกระโตกกระตากกันเลนเลยทีเดียว สาวโบฮีเมียนกับเต้ที่จะมาเป็นนายเอกคนใหม่ของเราในเรื่องนี้ ถ้าใครเคยอ่านสองเรื่องแรกคงจะรู้มาแล้วว่าใครเป็นใหญ่ อย่าลืมอ่านเล่มนี้นะ กับความฝันที่พาไปในความจริง และคนตายกำลังบอกอะไรเรา

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [1 40%] 16/7/18
«ตอบ #3 เมื่อ16-07-2018 03:28:09 »

เรียนที่เชียงใหม่ แต่เหตุ 14 ตุลาเกิดที่กรุงเทพฯ ต่อๆ คิดจุดเชื่อมโยงไม่ออกแฮะ  o16

ออฟไลน์ Sailomcc.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [1 40%] 16/7/18
«ตอบ #4 เมื่อ16-07-2018 03:30:54 »

เรียนที่เชียงใหม่ แต่เหตุ 14 ตุลาเกิดที่กรุงเทพฯ ต่อๆ คิดจุดเชื่อมโยงไม่ออกแฮะ  o16

555 มาลองอ่านเรื่องนี้นะ ถือว่าพักจาก เรื่องที่สองที่ค่อนข้างเครียด ขอบคุณที่อยู่ข้างกันจนเล่มสุดท้ายนะคะ

ออฟไลน์ Sailomcc.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [1 100%] 6/10/18
«ตอบ #5 เมื่อ06-10-2018 01:52:42 »

หลังจากที่เอาของกลับไปไว้ที่รถ เราสองคนก็กลับเข้าไปในห้างต่อผมกับไหมตกลงกันว่าจะเข้าร้านหนังสือแล้วจะไปหาอะไรกินกันก่อนจะกลับไปที่หอ


   “ เดี๋ยวนะ” ผมดึงมือของไหมไว้แล้วเดินตรงไปที่ตรงมุมหนังสือประวัติศาสตร์


   “ ชอบอ่านหนังสือประวัติศาสตร์เหรอ”


   “ เปล่า แต่”


   “ ลองหลับตาเดินไปหยิบไหมล่ะ เวลาที่เรามีอะไรแปลกๆสะกิดความคิดแบบนี้เราก็ทำแบบนี้”


   “ อืม”


ผมลองทำตามโดยการหลับตาเดินเดินตรงไปยังชั้นวางหนังสือ เหมือนมีบางอย่างพาให้ผมเดินตรงไปอย่างมีเป้าหมายไม่นานหนังสือก็มาอยู่ในมือของผม ข้อมือที่มันปกติทุกอย่างเจ็บขึ้นมาอย่างประหลาด


   “  เป็นอะไรหรือเปล่า”  ไหมที่อยู่ข้างๆจับที่แขนผม ความเจ็บปวดนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว “ นี่หนังสืออะไรอ่ะ”


   “ ประวัติศาสตร์ลุกเป็นไฟ เก้าถึงสิบสี่ตุลาวันมหาวิปโยค” ผมอ่านออกเสียงให้คนข้างๆฟัง “ คืออะไรอ่า”


   “ ไม่ได้เรียนประวัติศาสตร์หรือไง”


   “ หลับทุกที ทุกคาบ”


   “ เป็นวันที่กลุ่มนักศึกษาและคนที่รักในประชาธิปไตยออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย เป็นการสูญเสียงครั้งยิ่งใหญ่เลยก็ว่าได้
นะ ฉันก็รู้ประมาณนี้แหละ เอ่อ ทุกกปีวันที่หกตุลา จะมีการรำลึกของผู้จากไปที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นะ ฉันเคยไปอยู่เพราะป๊าของฉันเองก็สูญเสียเพื่อนในวันนั้นเหมือนกัน”


   “ อ่อ น่าสนุกดีนะ ซื้อติดไปก่อนดีกว่าเผื่อมีอะไรน่าสนใจแล้วได้ใช้”


   “ แล้วล่ะ มันเลือกนายแล้วล่ะ”


   “ บ้าเลือกอะไร เราแค่หยิบๆสุ่มมา”


   “ ไม่มีอะไรบังเอิญหรอก เราเชื่ออย่างนั้น”


   “ คร้าบบบบบบคุณแม่หมอ”


   “ ใช่สิ วันนี้ไปหอฉันไหม ฉันจะดูดวงให้”


   “ ได้สิ ว่าแต่จะเอาเราไปช่วยจัดห้องหรือเปล่าเนี่ย”    


   “ เกลียดจังคนรู้ทันเนี่ย ไปจ่ายเงินก่อนเหอะหิวแล้วอ่า” เธอกุมท้องอย่างไม่อาย


เราออกมาจากร้านหนังสือแล้วมาต่อกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น คนที่บ่นหิวก็สั่งมาเยอะมาก แต่แปลกเธอกลับไม่ได้ตัวใหญ่เลย


   “ จะเอาไปเก็บตรงไหนหมดเนี่ย” ผมชี้ไปตรงหน้าที่มีทั้งเกี๊ยวซ่าซูชิ .ซาชิมิ ชุดเบนโตะ ราเมน เทมปุระกุ้งและผักที่ถูกจัด
วางรอให้พวกเราจัดการอยู่


   “ นายไม่รู้อะไร เราเป็นวัยกำลังโต”


   “ อืมเชื่อก็ได้” ผมหัวเราะก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานของตัวเองบ้าง


   “ เออนี่ เราถามอะไรนายหน่อยได้หรือเปล่า”


   “ ได้สิ” ผมวางตะเกียบลงเพื่อรอคำถามคนตรงหน้า


   “ แผลเป็นที่ข้อมือได้มาจากไหนเหรอ”


ผมพลิกดูแผลเป็นนั้นอีกครั้งก่อนจะตอบกลับไป” ไม่รู้เหมือนกันโตมามันก็เป็นรอยแบบนี้แล้ว มีอะไรหรือเปล่า”


   “ รอยบางรอยอ่ามันบ่งบอกถึงอดีตของเรา บางคนยังมีอดีตชาติที่ยังตัดไม่ขาดก็จะมีร่อยรอยที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด” เธอตอบด้วยใบหน้าจริงจัง


   “ นี่แม่หมอ” ผมหัวเราะเพราะเธอดูหน้างอเมื่อผมเรียกเธอด้วยชื่อนี้ “ มันก็แค่รอยแผลเป็นน่ะ”


   “ ข้ามเรื่องที่เรียกเราว่าแม่หมอไปก่อนนะ แต่นายต้องรู้ไว้นะว่าโลกนี้ไม่มีคำว่าบังเอิญ”


ผมชักจะเชื่อแล้วล่ะครับว่าโลกนี้ไม่มีคำว่าบังเอิญ ใครจะรู้ว่ามันมีอยู่จริงเมื่อคนที่เข้ามาใหม่ที่กำลังนั่งลงที่โต๊ะด้านหลังผมมันกำลังคุยกัน


   “ แม่งผู้ชายอะไรวะปากจัดชิบ หรือว่าแม่งไม่ใช่ผู้ชายวะ” เสียงคนที่นั่งหลังติดกับผมเอ่ยขึ้นจริงๆมันไม่ได้ติดแนบชิดกันหรอกครับมันมีแผงไม้กั้นระหว่างเราอยู่แม้ผมจะไม่เห็นหน้าแต่ผมจำเสียงนั่นได้ไม่ผิดแน่ ไอ้เตี้ยหมาตื่นที่ชอบทำตัวกร่างๆนั่นแน่ๆ


   “ มึงก็พูดเกินไป มึงเองก็ใช่ย่อยมึงไปโมโหใส่เขาอะไรขนาดนั้นวะ”  อีกเสียงนึงพูดขึ้นมาหลังจากนั้นผมก็ได้ยินเสียงโวยวายดังมาอย่างไม่หยุดปาก


   “ เกินไปอะไร ดูก็รู้แล้วว่าสู้อะไรกูไม่ได้หรอกลูกคุณหนูอวดเก่ง แม่งตัวอ่อนปวกเปียกถึงจะตัวสูงกว่ากูก็เหอะเจอกูสอยทีเดียวก็ร่วงแล้ว”


   “ ไหม ที่ร้านนี้เขาปล่อยให้หมาเข้าร้านด้วยเหรอ” อันนี้ผมเองครับผมพูดขึ้นมาอย่างเหลืออด “ หรือว่าไม่ใช่หมาพันธุ์ใหญ่เลยเข้าได้ หมาอะไรน้า อ๋อหมาคอร์กี้ไง ตัวเตี้ยๆเห่าเก่งๆ”


   “ อ่อ นึกว่าใคร ที่บ้านคงไม่สอนเรื่องมารยาทสินะ ว่าให้พูดในที่สาธารณะเสียงเบาๆมันรบกวนผู้อื่น” ไอ้เตี้ยนั่นยืนอยู่ข้างผมครับแขนของมันวางอยู่บนที่กั้นไม้ มันจ้องมาทางผมด้วยใบหน้าที่เหมือนว่าจะฆ่าผมเสียให้ได้


   “ ก็มันมีคนเสียงดังก่อน เสียมารยาทกับคนไม่มีมารยาทมันก็ไม่ผิดใช่ไหม” คิดว่ากูจะกลัวมึงเหรอไม่มีทาง


   “ มึงด่ากูในใจเหรอไอ้ตุ๊ด”


   “ ตุ๊ดพ่อง”


   “ พอเถอะ อย่าทะเลาะกันเลย”  แพรไหมยื่นมือมาห้ามผมที่กำลังจะลุกขึ้นไปประจันหน้ากับไอ้เตี้ยนั่น “ คนเยอะจะตาย กลับกันเถอะนะ”


   “ เออๆ พอได้แล้ว” คนที่มากับไอ้หมาเตี้ยนั่นดึงกลับไปที่โต๊ะ “ ผมขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะครับ”


   “ มึงไปขอโทษมันทำไม” มันตะคอกเพื่อนมันก่อนจะหันมามองตาขวางใส่ผมเหมือนหมาบ้า “ วันนี้กูไม่กินแล้ว มึงไปสั่งใส่กล่องให้กูที หงุดหงิดว่ะ”


   “ เออ ขออย่าให้เจอกันอีกเลย”


ผมทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้อย่างหัวร้อนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ผมไม่ถูกชะตากับมันยังไงก็ไม่รู้ แต่มันมีบางความรู้สึกในใจอย่างนึงคือผมต้องได้เจอกับมันอีกแน่ๆ


เสียงโหวเหวกโวยวายดังขึ้นมาจากกลุ่มคนมากมายที่กำลังมุ่งเข้าสู่คณะอีกครั้งกับการเลือกเข้าชมรมภายในคณะที่ประกอบไปด้วยชมรมกีฬาประเภทต่างๆ ชมรมผู้นำเชีย ชมรมดนตรี ชมรมภาพถ่ายและบูธสุดท้ายที่มีไม่กี่คนที่ไปต่อแถวคงเป็นเพราะเราเรียนด้านนี้กันอยู่แล้วและต้องมีงานแนวนี้ส่งอาจารย์ในวิชาเรียนเลยไม่ค่อยมีคนมาลงเท่าไหร่นั่นคือ ชมรมหนังและสารคดีผมคิดว่ามนน่าสนุกดีเลยเลยชวนแพรไหมไปที่ชมรมด้วย หลังจากที่ลงชื่อเสร็จพวกเราก็ต่างแยกย้ายกันไปเข้าชมรมของตัวเอง ในห้องชมรมพอเปิดประตู้เข้าไปก็มืดสนิทมองอะไรแทบไม่เห็น ตรงท้ายห้องค่อยปรากฏแสงสว่างขึ้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมพร้อมกับภาพที่ฉายขึ้นมา มันเป็นหนังสั้นที่ทางชมรมของเราทำเอาไว้ในหนังนั้นจะเห็นกลุ่มนักศึกษาที่กำลังวิ่งขึ้นดอยอย่างเดอาเป็นเอาตาย รอน้ำตา หยาดเหงื่อและมิตรภาพปรากฏให้เห็นตลอด ในวีดีโอนั้นแทบไม่มีบทเลย มีเพียงภาพกับเสียงเพลงคลอและเสียงบรรยากาศสดๆตอนบูม ตอนกอดคอเฮพากันขึ้นโค้งที่มหาลัยนี้เรียกมันว่าโค้งสปิริต ซึ่งเป็นโค้งที่มีความชันและเป็นเฮือกสุดท้ายที่รุ่นพี่ เพื่อนจะผ่ากันฝ่าขึ้นไปสักการะพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งเป็นโค้งที่วัดใจเพราะทุกคนต่างผ่านระยะทางมากว่าสิบสี่กิโลเมตร ในวิดีโอนั้นถูกเก็บความทรงจำในวันนั้นเอาไว้เกือบหมด ทั้งเพื่อนที่คอยประคองกัน ทั้งผู้คนต่างคณะต่างชั้นปีส่งเสียง ส่งรอยยิ้มให้กันอย่างไม่ขาดสาย รุ่นพี่ที่จบไปแล้วขึ้นรถสี่ล้อแดงโบกไม้โบกมือผ่านน้องๆที่กำลังเดินและวิ่งขึ้น ที่ปลายเส้นทางของทุกคนมีที่เดียวกัน และที่ปลายทางนั้นมีทั้งศิษย์เก่ามายืนรอรับปรบมือให้กับคนที่พวกเขาไม่รู้จักแต่กลับรู้สึกดีที่เด็กกลุ่มใหม่ฝ่าฟันอุปสรรคมาได้แม้ว่าปลายทางของบางคนมันคือความเหน็ดเหนื่อย ระหว่างทางที่ผ่านมากลับสร้างความทรงจำมากมาย ภาพในวีดีโอที่ผมรู้สึกขนลุกและยิ่งอยากมีส่วนร่วมให้การเก็บความรู้สึกนี้ไว้นั่นคือภาพที่คนที่คอยว้ากตะโกนเสียงดังๆอยู่ปลายแถว ประคองรุ่นน้องที่ขาเจ็บ หรือไม่ก็ศิษย์เก่ารุ่นพี่และเพื่อนต่างช่วยกันพาคนที่นั่งอยู่บนวิลแชร์ผ่านโค้งสปิริตไปด้วยกัน รอยยิ้มที่มาบนหน้ามันเป็นเกิดขึ้นแวบเดียว สายตามุ่งมั่นนั้นผมอยากรวบรวมมันมาให้ทุกคน ภาพนั้นฉายจบลงชื่อผู้กำกับขึ้นมาในตอนจบ


   “ สวัสดีครับน้องๆ พี่ชื่อพี่แม็กนะครับ” พี่คนที่ผมเจอเมื่อวันที่มารายงานตัวเดินออกมาแนะนำตัวพร้อมกับรอยยิ้มที่โคตรมีเสน่ห์ “ นี่เป็นผลงานของรุ่นพี่ปีที่แล้วที่เขาทำเอาไว้ กิจกรรมนี้พวกน้องอาจจะไม่ได้มาช่วยเก็บความทรงจำแต่พี่อยากให้น้องๆเก็บความรู้สึกดีๆที่น้องๆอยากถ่ายทอดเอาไว้เพื่อมาทำในปีหน้าเพราะปีหนึ่งทุกคนจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องขึ้นดอย และปีนี้ชมรมของเราจะต้องไม่รั้งท้ายเพราะฉะนั้น พี่อยากขอให้น้องๆไปเตรียมความพร้อมในการออกกำลังกายด้วยนะครับ”


ใครจะไปรู้ว่าการที่เราเห็นภาพในวันนั้นจะทำให้ผมมายืนอยู่ที่จุดนี้ วันที่ต้องเป็นคนวางแผนในการถ่ายทำทุกอย่างในฐานะปีสอง ปีที่ต้องคอยดูแลเคียงข้างน้องปีหนึ่งขึ้นดอย กิจกรรมนี้สอนให้ผมรู้สึกรักในคณะมากยิ่งขึ้นผมเข้าใจเลยว่าทำไมศิษย์เก่าจึงอยากลางานกลับมาดูน้องๆขึ้นดอยกัน ซึ่งเป็นอะไรที่แสนอบอุ่นเป็นอย่างมาก


   “ น้องเต้ครับ” รอยยิ้มที่ทำผมหวั่นไหวเดินเข้ามาหา


   “ คะ…ครับ” ผมตะกุกตะกักเมื่อพี่เขายื่นผ้าคาดหัวสีขาวมาให้ผม


   “ อันนี้เป็นของพี่ครับ พี่ขอแลกกับของน้องได้หรือเปล่า” ผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองใช่ไหมครับ เพราะไอ้วัฒนธรรมการแลกผ้าคาดหัวตอนขึ้นดอยมันเหมือนกับเราแลกของแทนใจของกันและกัน คนที่เป็นแฟนกันส่วนใหญ่ก็จะแลกผ้ากันและกันใส่ หรือซื้อมาให้อีกฝ่ายรัดไว้ที่บริเวณแขนเสื้อ “ เต้ ไม่รังเกียจใช่ไหมครับ”


   “  ไม่ครับ แต่ของผมผมคาดไปแล้วมันอาจเลอะเหงื่อ”


   “ ไม่เป็นไรครับ พี่โอเค” พี่แก่ส่งยิ้มที่ผมหลงรักมาตั้งแต่ครั้งแรกมาให้ ลักยิ้มนั้นนั้นให้ผมอยากเอานิ้วไปจิ้มแรงๆ


   “ หน้าพี่มีอะไรติดหรือเปล่าครับ ทำไมจ้องนานจัง”


   “ ผมแค่คิดว่า”


   “ คิดว่าพี่จีบเต้ใช่หรือเปล่าล่ะ” ตุ้บตั้บๆๆๆๆๆๆๆๆ หัวใจของผมเต้นสั่นระรัวยิ่งกว่าเจ้าเข้า หรือว่าพี่เขาแลกเฉยๆวะ กูมโนไปเองหรือเปล่าเนี่ย หายใจไม่ทันโว้ยยยยยยยยยย” ใช่ครับพี่จีบเต้”


พี่แม็กเดินจากไปพร้อมกับรอยยิ้มและใบหน้าแดงๆที่แต้มลักยิ้มนั้นเอาไว้ ผมยกกล้องที่จะเอามาเก็บภาพบรรยากาศขึ้นมาถ่ายภาพนั้นเก็บไว้


แชะ !


   “ เชี่ย” ผมถึงกับร้องออกมาอย่างตกใจ นี่มันไม่ใช่พี่แม็กนี่ ไอ้เตี้ยหน้าเควี่ย(ความผสมเหี้ยครับ)เมื่อวานนี้มันเดินผ่านหน้า
กล้องผมไปอย่างไร้มารยาท


   “ มึงด่าใคร” มันเดินตรงเข้ามาอย่างหาเรื่อ ง


ไอ้เตี้ยนี่มันมาในเสื้อช็อปของคณะวิศวะสีกรามท่า กางเกงยีนส์ ใครต่อใครบอกกันตลอดว่าการได้ใส่ช็อปจะทำให้หน้าตาและความเป็นลูกผู้ชายเพิ่มขึ้นหลายเท่า แต่เท่าที่มองก็เหมือนเดิม ถ่อย ไร้มารยาท


   “ กูด่ามึงแหละไม่มีมารยาท”


   “ ตรงนี้คนเพ่นพ่านจะตาย มึงแหละไม่มีมารยาทมายืนพลอดรักในที่สาธารณะ”


   “ นี่มึง”


   “ เออ กูเห็นรำคานลูกตาชิบ ตรงนี้เข้าใช้เตรียมตัวรอบูม เขาจะรีบเคลียร์คนมายืนทำอะไรกันไม่รู้ไม่มียางอาย” มันมองบน
เหมือนจริตนี้ไม่ใช่ผู้ชาย


   “ มึงเป็นบ้าป่ะ ไม่ได้เจอกันมาเป็นปี เจอครั้งนี้ก็มาหาเรื่องที่บ้านขาดความอบอุ่นเหรอ”


   “ ก็มึงด่ากูก่อน”


   “ ไร้สาระ” ผมเดินหนีแต่มันคว้าไว้ที่ข้อมือผม


เปรี๊ยะ!


   “ โอ้ย” มันกับร้องออกมาพร้อมกัน มันเหมือนมีอะไรช็อตที่มือของผม รอยแดงเหมือนเชือกรัดปรากฏขึ้นลางๆบริเวณข้อมือ หน้าของมันเองก็ซีดอย่างเห็นได้ชัด


   “ มีอะไรหรือเปล่า” เสียงของไหมเดินเข้ามา


   “ ไม่มีอะไรหรอกไปกันเถอะ”


   “ ข้อมือนายไปโดนอะไรมาน่ะ” เธอยกมือของผมขึ้นมาพิจารณา


   “ ไม่มีอะไรเหรอก ไอ้บ้านั่นมันคงกระชากแรง แม่งเอ้ยเจ็บชะมัด” ใช่ครับมันเหมือนเคล็ดๆไปไม่ใช่แค่ช็อตแล้ว


   “ ร่องรอยของอดีต ที่ส่งมาปัจจุบัน”


   “ เพ้อแล้วแม่หมอ ไปกันเถอะเดี๋ยวคณะเราก็มากันแล้ว”


ผมทิ้งความสงสับของร่องรอยนั้นไว้ในใจชั่วคราวเพราะงานต้องมาก่อน ผมเดินไปรวมกลุ่มกับคนอื่นที่กำลังจะมาเตรียมตั้งขบวนพร้อมบูมและเดินขึ้นดอย แต่คำพูดของยัยแม่หมอกลับทำให้ผมเอาออกจากหัวไม่ได้ เพราะจริงๆละรอยยรี้มันไม่น่าเกิดจากการกระชากกลับด้วยซ้ำ


   “ เห้ยไม่ถ่ายรูปเหรอวะ” เสียงของไอ้ก็อตคนในชมรมตะโกนบอกผมให้เตรียมถ่ายเพราะทุกคนมาถึงกันหมดแล้ว


   “ เหม่อไปถึงไหนเนี่ย“ พี่แม็กเดินมายืนข้างๆ


   “  เปล่าครับ”


   “ มาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน” พี่แม็กยกโทรศัพท์ขึ้นมา พร้อมกับโอบไหล่ผม ร่างกายผมปฎิเสธโดยการเบี่ยงหลบโดยอัตโนมัติ ทำไมมันไม่เหมือนก่อนหน้านี้ละ ทำไมผมรู้สึกอึดอัด “ ขอโทษครับ”


   “ ไม่เป็นไรครับ” ผมส่งยิ้มให้ “ ผมแค่ยังไม่ชินน่ะครับ”


   “ เดี๋ยวพี่ส่งรูปให้นะ เรามีไลน์กันหรือยังนะ”


   “ ยังครับ”


   “ เห้ย ไอ้เต้ถ่ายรูปเว้ย เข้าที่แล้ว” เสียงไอ้ที่เดินนำน้องเข้ามาในบริเวณลานบูมตะโกนบอก


   “ เดี๋ยวผมให้หลังลงดอยนะครับ”  ผมเดินออกจากตรงนั้นมารวมกับเพื่อนพร้อมกับเตรียมตั้งกล้องถ่ายรูปอย่างรวดเร็ว


   “ ทำไรอยู่วะ”


   “ เออน่า ทันอยู่ๆ” ผมก้มลงปรับโฟกัสเตรียมบันทึกภาพ “ เหี้ย” 


   “ อะไรอีกวะ แบตหมดเหรอ”


แม่งอะไรเกิดขึ้นกับผมวะเนี่ย ถาพตรงหน้าของผมเมื่อครู่คือ เป็นรูปนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่สวมเสื้อผ้าที่ขาดวิ่น บางคนมีเลือดอาบอยู่เต็มร่างกาย บางคนนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น และมันแปลกตรงที่ในนั้นมีผมและไอ้คนที่เรียนอยู่วิศวะนั่นด้วย







ขอโทษค่ะที่หายไปนาน จริงๆเรารอฤกงามยามดี ใจคืออยากลงวันที่ 6 ตุลาคม มาก และเราขอร่วมรำลึกของการจากไปขอและผู้สูญเสียในวันมหาวิปโยควันนั้นนะคะ




รัฐประหารที่มาพร้อมกับความสูญเสีย


ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [1 100%] 6/10/18
«ตอบ #6 เมื่อ06-10-2018 03:44:37 »

6 ต.ค. 19 เรียน ป.1 เอาจริง ๆ จำไม่ได้ว่าเกิดอะไร รู้แต่ว่าป้าข้างบ้านร้องไห้หนักมาก บอกว่าลูกชายหายไป จนเหตุการณ์สงบ ลูกชายก็ยังไม่กลับมา จนป้าตายไปปี 32 ป้าก็ยังไม่เจอลูกชายป้าเลย น่าสงสารแกนะ ลูกชายป้าเขาไม่ได้เรียนที่ธรรมศาสตร์ แต่เรียนที่ศิลปกร  :hao5:

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [1 100%] 6/10/18
«ตอบ #7 เมื่อ07-10-2018 20:01:49 »

เรื่องน่าสนใจมากค่ะ อยากอ่านต่อมากเลย  :pig4:

ออฟไลน์ Sailomcc.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [2 50%] 9/10/18
«ตอบ #8 เมื่อ09-10-2018 03:02:51 »

2
ประหลาด


หลังจากงานกิจกรรมการรับน้องขึ้นดอย ผมได้แต่คิดไม่ตกกับเรื่องที่ผ่านมา มันแปลกมาที่รอยบนข้อมือของผมมันชัดขึ้นทุกทีมันซ้อนทับกับแปลเป็นที่ข้อมือของผมจนแทบจะเป็นรอยเดียวกัน ผมทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะทำงานตัวโปรดก่อนจะเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาตัดงานที่ค้างไว้ต่อ แต่ว่าไฟล์วีดีโอที่ควรจะมีอยู่ในคอมมันกลับไม่มีอยู่


   “ อยู่ไหนวะ” ผมนั่งกดไล่หาทุกโฟลเดอร์ที่คิดว่ามันควรจะอยู่แต่ก็หาไม่เจอ “ โธ่เว้ย” เมื่อไม่มีไฟล์ในคอมก็ต้องเอาในการ์ดมาลง ผมเปิดลิ้นชักจากชั้นสีขาวเล็กๆตรงมุมโต๊ะแต่กลับไม่เจอ


ตุ้บ !


หนังสือที่ผมวางไว้บันชั้นที่อยู่เลยหัวของผมไปเล็กน้อยล่วงลงมาอยู่ตรงหน้าใส่ลงมาที่คอมของผม การ์ดที่ไม่ควรจะอยู่ในนั้นกลับกระเด็ดนออกมาอยู่บนพื้น


   “ ไปอยู่ในนั้นได้ไงวะ” ผมพลิกหนังสือกลับมาดู ที่ปกเป็นรูปกลุ่มนักศึกษาที่เป็นภาพคนผู้คอและบรรดาคนในกลุ่มนักศึกษาหมอบลงบนพื้น หน้าปกของมันเขียนไว้ชัดเจนด้วยตัวอักษรที่มีฟอนท์เป็นคล้ายหยดเลือดว่า ‘ประวัติศาสตร์ลุกเป็นไฟ เก้าถึงสิบสี่ตุลาวันมหาวิปโยค’ มันคือหนังสือที่ผมซื้อมาตั้งแต่ตอนปีหนึ่งซึ่งไม่เคยหยิบออกมาอ่านเลยแม้แต่ครั้งเดียว เดี๋ยวก่อนนะครับ ภาพบนปกหนังสือมันทำให้ผมไม่สนใจเลยว่าการ์ดไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง แต่ผมกลับสนใจว่า ภาพที่ผมเคยเห็นซ้อนทับตอนที่ไปถ่ายรูปวันงานรับน้องขึ้นดอยมันคือภาพที่อยู่บนปกหนังสือนี่ด้วย


   “ เชี่ย” ผมโยนหนังสือลงบนโต๊ะในทันทีเมื่อมีใครบางคนในภาพหันมาจ้องผมแล้วส่งยิ้มให้จนน่าขนลุก “ ผีไม่มีจริงผีไม่มีจริง”


ครืด ครืด


จังหวะหนังผีไปหรือเปล่าวะ โทรศัพท์ที่วงอยู่บนโต๊ะข้างๆหนังสือที่ผมเพิ่งโยนมันลงไปดังขึ้น รูปผู้หญิงใส่แว่นหนาส่งยิ้มมาให้ผ่านหน้าจอ ‘แพรไหม’


   “ ฮะ…ฮัลโหล”


   “ เป็นไรหรือเปล่าทำไมเสียงดูไม่ปกติเลย”


   “ ไม่มีไรหรอก แกเหอะมีอะไรหรือเปล่า โทรมาตอนนี้”


   “ เราเปิดไพ่ดูแล้ว”


   “ นี่แม่หมอ แกโทรมาหากระผมตอนดึกๆนี่จะโทรมาเล่าเรื่องดวงของแกเนี่ยนะ” ผมบ่นกลับไป


   “ เปล่า ดวงของแกกับรอยแดงที่ข้อมือ” จู่ขนของผมก็ลุกขึ้นมาเหมือนรอบตัวมันเย็นไปหมด “ แต่ไม่อยากฟังก็ไม่เป็นไรงั้นแค่นี้นะ”


   “ เดี๋ยว” ผมร้องห้าม


   “ อยากฟังใช่หรือเปล่าล่ะ ฉันว่าแกอ่าก็อยากได้คำตอบบางอย่างแหละ”


   “ อย่ามานอกเรื่อง เล่าเร็วๆ ไม่อย่างนั้นเราเปลี่ยนใจแล้วนะ”


   “ เออเล่าแล้วๆ คืออย่างนี้ฉันอ่าเห็นแกกำลังสนิทสนมกับพี่แม็กก็เลยว่าจะลองๆใช้ดวงแกเปิดไพ่ดูสักหน่อย”


   “ เดี๋ยวนะ นี่แก”


   “ จะฟังต่อไหม” เธอทำเสียงดุผมก็ได้แต่ยอมเพราะอยากฟังต่อ “ เอางี้เรื่องความรักแก แกไปไม่รอดหรอก แต่เรื่องอื่นมัน
กลับขึ้นมาพร้อมกับดวงความรักของแกด้วย มีใครคนนึงกำลังตามหาแกอยู่ และมีใครอีกคนกำลังรอการหาคำตอบร่วมกับแก ละมีอีกคนหนึ่งที่เขากำลังแค้นและรอวันกลับไป”


   “ ใคร ใคร และใคร แกไม่ระบุมาจะรู้ไหมวะว่าใคร”


   “ นี่เปิดไพ่นะเว้ย ไม่ใช่เปิดเฟสหรือไอจีที่มันจะขึ้นมาพร้อมรูป” เธอแหวใส่ “ ฉันรู้แค่ว่า คนที่ทำให้รอยแดงที่ซ้อนทับแผลเป็นแก มันจะทำให้แกได้คำตอบทุกอย่างที่แกอยากรู้ เพราะใครที่รอการหาคำตอบร่วมกับแก คือไอ้วิศวะนั้นนั้นของแกไง”


   “ ไอ้เตี้ยนั่นน่ะนะ”


   “ เออ ถ้าอยากได้คำตอบ พยายามเข้าหามันให้มาก แล้วคำตอบจะชัดเจนเอง แต่ระวังให้ดี มันมีบางอย่างที่ไม่อยากให้แกได้คำตอบที่แท้จริง”


   “ อะไรเนี่ย ใบ้อะไรวะ บอกตรงๆไม่ได้อ่อ” ผมเริ่มหงุดหงิด


   “ เออเขาบอกมาแค่นี้” เธอตอบหลับอย่างหงุดหงิดเช่นกัน


   “ ใครบอก”


   “ พ่อ”


   “ เดี๋ยวนะ นี่แกไม่ได้เปิดไพ่ดูใช่ไหม ฉันงงไปหมดแล้ว”


   “ เออ เปิดดูแต่เนื้อคู่ส่วนดวงและแผลเป็นของแก พ่อบอกมา แล้วพ่อยังบอกอีกว่าถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มต้องไปหาพ่อที่กรุงเทพอ่า”


   “ เออๆฝากขอบคุณพ่อแกด้วยก็แล้วกัน”


เพล้ง !


   “ เสียงไรวะ” ปลายสายถามกลับมาด้วยความร้อนใจ


   “ เดี๋ยวลองเดินไปดูก่อนเหมือนมันดังมาจากที่หัวเตียงว่ะ โอ้ย!”


   “ เป็นไรแก”


   “ กระจกบาดเท้าว่ะแค่นี้ก่อนนะ”


ผมกดตัดสายไปก่อนจะก้มดึงกระจกใสๆขนาดเล็กออกจากฝ่าเท้า กรอบรูปของผมที่วางอยูหัวเตียงมันร่วงลงมาแตก เศษกระจกกระจายเต็มพื้นไปหมด ถ้าแม่หมอมันรู้เรื่องนะมันต้องบอกว่า  ‘เนี่ยลางร้ายแน่ๆ’ ผมจึงเลือกที่จะไม่บอกดีกว่าไม่อย่างนั้นมันได้มาหาผมถึงคอนโดแน่ๆ


เมื่อผมจัดการเก็บกวาดบริเวณรอบๆไปแล้วจนแน่ใจใจว่าไม่เหลือเศษกระจก ผมเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง ผมนั่งดาวน์โหลดไฟล์วีดีโอที่ต้องการใหม่และนั่งตัดไปเรื่อยๆจนเข็มนาฬิกาที่แขวนอยู่ตรงเพดานชี้ไปที่เลขสาม โชคดีที่พรุ่งนี้ไม่มีเรียนผมเลยทำงานดึกๆได้ ไฟล์วีดีโองานรับน้องขึ้นดอยร่างแรกเสร็จเรียบร้อย ผมรอให้โปรแกรมมันจัดการรวมวีดีโอของผมที่ตัดไปเป็นไฟล์เดียวระหว่างนั้นผมจึงหยิบมือถือขึ้นมาหาอะไรทำเล่นๆจู่ๆในหัวก็เหลือบมองไปเห็นหนังสือเล่มนั้นที่มันวางล่อตาล่อใจของผมอยู่


   “ เอาวะ” ผมกรอกข้อความลงไปในกูเกิล ‘ หกตุลาหนึ่งเก้า’


ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอของผมคือ วีดีโอจากยูทูบที่เป็นรูปคนถูกแขวนคอใต้วีดีโอนั้นเขียนว่า ‘เหตุการณ์ หกตุลาสองพันห้าร้อยสิบเก้ากับความทรงจำของคนไทย และวีดีโอการสังหารหมู่มากมายที่ไล่ตามกันลงมา ผมตัดสินใจกดเข้าไปในคลิปที่เด้งขึ้นมาเป็นอันแรก เสียงดนตรีประกอบวีดีโอดังขึ้นมาทำให้ผมเริ่มมองซ้ายขวาอย่างระแวง เพราะผมรู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังนั่งดูคลิปนี้ร่วมกับผมด้วย ขณะที่ภาพของวีดีโอกำลังเล่าถึงเหตุการณ์การแขวนคอและมีคนถือเก้าอี้ฟาดในความทรงจำของคนไทย ภาพที่มีทหารถือปืนพร้อมกับเสียงปืนท่ามกลางกลุ่มนักศึกษานับร้อย บทสัมภาษณ์ต่างๆทำให้เขายิ่งอยากรู้มากขึ้นและเกิดการตั้งคำถามว่าทำไมเหตุการณ์เหล่านี้มันกลับหายและถูกทำให้คนลืมไปจากประวัติศาสตร์ของไทย


   “ มันทิ้งเรา” เสียงหนึ่งแว่วเข้ามาในโสตประสาทการรับรู้ของผม


ติ้ง ! เสียงสัญญาณการแจ้งว่าวีดีโอของผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมทำการปิดมันลง ยิ่งทำให้ห้องมืดลงอย่างถนัดตา บวกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่า ไม่ได้อยู่คนเดียว


   “ คิดมากน่าไอ้เต้” ผมข่มตานอนก่อนทุกอย่างจะดับมืด ให้หัวของผมว่างเปล่าร่างกกายคงเตรียมการพักผ่อนอย่างเต็มที่แล้วสินะ


จู่ๆแสงสว่างก็ฉายขึ้นท่ามกลางความมืด ผมไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ ข้อมือที่มีแผลเป็นมันปวดขึ้นมาเหมือนกับโดนกระชากหรือรัดจนแน่น ผมรู้สึกได้ว่ามีน้ำตาไหลออกมาจากตาของผม แต่ผมไม่สามารถบังคับให้ตัวผมตื่นขึ้นมาได้เลย


   “ ขอโทษครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนที่แสงจ้าสีขาวค่อยๆพลันหายไปแล้วปรากฏใบหน้าที่แต้มลักยิ้มของพี่แม็กขึ้นมา


   “ ขอโทษเหมือนกับครับ” ผมพูดตอบกลับไป ไม่ใช่สิมันไม่ใช่ผม ตอนนี้มันเหมือนผมกำลังอยู่ในร่างของใครบางคน ในชุดนักศึกษา ผมไม่สามารถบังคับร่างกายได้เลยครับ แต่รับรู้ความรู้สึกทุกอย่าง


   “ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เขาเอื้อมมือมาตรงหน้า เออใช่แล้วผมล้มอยู่กับพื้นนี่เอง


   “ ไม่เป็นไรครับ” ผมตอบกลับไป


ตี้ดๆๆๆๆๆๆๆ



เสียงนาฬิกาปลุกที่วางอยู่ตรงหัวเตียงทำให้ผมลุกขึ้นมามองเพดานภายในห้องสี่เหลี่ยมอย่างรวดเร็วแสงสว่างจากภายนอกสาดเข้ามาในห้อง



   “ ลืมปิดนาฬิกาปลุกจนได้สินะ”












มาจ้า มาดำดิ่งสู่ความฝัน และก้ามเข้าสู่วันมหาวิปโยคที่คนไทยอาจลืมเลือนไป มีอะไรเม้นบอกกันได้นะ ชอบอ่านคอมเม้น555 ยังไม่ค่อยมีโมเม้นฟินๆเท่าไรนะ ขอเกริ่นๆก่อน5555

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [2 50%] 9/10/18
«ตอบ #9 เมื่อ09-10-2018 03:42:11 »

มีใครบ้างนะ มีเต้ มีแม็กซ์ มีปอนด์ แล้วอีกหนึ่ง ผี หรือ คน  :ling3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [2 50%] 9/10/18
« ตอบ #9 เมื่อ: 09-10-2018 03:42:11 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [2 50%] 9/10/18
«ตอบ #10 เมื่อ09-10-2018 04:07:09 »

อื้อหือ เข้มข้น

ออฟไลน์ Sailomcc.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [2 50%] 9/10/18
«ตอบ #11 เมื่อ09-10-2018 21:21:20 »

ปอลอลิงล้านตัว


ก่อนอื่นขอสวัสดีอย่างเป็นทางการกับจักรวาลคนมีสัมผัสพิเศษ เรื่อง IN MY DREAM เป็นเรื่องสุดท้ายของเซทนี้แล้ว เป็นเรื่องราวของปอนด์ (เพื่อนของนนท์)และเต้ ที่สายลมเองใช้เวลานานมากในการเก็บข้อมูลและนำมาเขียนเเละเลี่ยงประเด็นที่ตัวเองต้องเสี่ยงตารางเพราะเนื้อหาสิบสี่ตุลา หรือวันที่หกตุลา ค่อนข้างอ่อนไหว ไทม์ไลน์ในเรื่องนี้จะพยายามเล่าให้ชัด และตัวละครในเรื่องทุกตัวถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ยกเว้นบุคคลในประวัติศาสตร์จริงๆ เพราะฉะนั้นความคิดความอ่านและมุมมองไม่ได้ต้องการชี้ไปทางใดทางหนึ่งว่าใครเป็นผู้ผิดหรือถูก อยาหให้นักอ่านทุกท่านใช่วิจารณญาณในการเสพ

เพื่ออรรถในการเสพผู้อ่านไปหาข้อมูลมาอ่านได้นะคะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางเราไม่ทิ้งความฟินจิ้นแน่ๆ เรื่องนี้จะพยายามไม่เขียนให้ให้เครียดนะคะ


รัก สายลม

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [2 50%] 9/10/18
«ตอบ #12 เมื่อ10-10-2018 10:40:33 »

ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13

ออฟไลน์ Sailomcc.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [2 100%] 11/10/18
«ตอบ #13 เมื่อ11-10-2018 02:54:02 »

ต่อ {2}



ตี้ดๆๆๆๆๆๆๆ


เสียงนาฬิกาปลุกที่วางอยู่ตรงหัวเตียงทำให้ผมลุกขึ้นมามองเพดานภายในห้องสี่เหลี่ยมอย่างรวดเร็วแสงสว่างจากภายนอกสาดเข้ามาในห้อง


   “ ลืมปิดนาฬิกาปลุกจนได้สินะ”


ไหนๆก็ตื่นขึ้นมาแล้วผมเลยตัดสินใจลุกขึ้นมาอัพโหลดงานที่ตัดไว้เมื่อคืนส่งเข้าไปในไลน์กลุ่มของชมรมเพื่อให้เพื่อนอีกคนไม่ทำต่อโดยการใส่เอฟเฟคและดนตรีพอกดส่งไฟล์เสร็จผมก็กลับมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้ง ม่านที่พัดพลิ้วไหวเมื่อสายลมจากด้านนอกพัดกระทบทำให้มีแสงเข้ามาบ้าง อากาศข้างนอกดูน่านอนขึ้นเพราะช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝนการนอนในบรรยากาศแบบนี้แอร์ไม่ต้องเปิดก็ได้ครับ ผมนอนเลื่อนหน้าจอสี่เหลี่ยมไปมาจนไม่มีอะไรให้สนใจตามันก็เริ่มหนักอีกครั้ง ตัวของผมเริ่มเบาแล้วทุกอย่างก็ดับมืดลง









ภาพรอบตัวตอนนี้คือผมกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาสีแดงที่เป็นหนังมันเลื่อมตรงหน้าเป็นโทรทัศน์จอนูนที่กำลังฉายข่าวเรื่องนช่างไฟฟ้าสองคนที่ถูกแขวนคอไว้อย่างทารุณบริเวณรั้วเหล็กที่จังหวัดนครปฐมขณะกำลังแจกใบปลิวอยู่ มือของผมกำหมัดแน่นก่อนจะลุกขึ้นไปปิดโทรทัศน์นั้นลง


ผมรวบรวมหนังสือที่อยู่ตรงหน้าเก็บลงใส่กระเป๋าก่อนจะเดินออกไปขึ้นรถเพื่อตรงไปที่ไหนสักที่หนึ่ง อย่างที่บอกครับผมไม่ทราบชื่อตัวเองด้วยซ้ำในตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะไปไหนและไม่สามารถบังคับร่างกายตัวเองได้เลยด้วยซ้ำ


เมื่อรถประจำทางจอดลงผมเดินตรงดิ่งเข้าไปในมหาวิทยาลัย ตรงนั้นเขียนว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตอนนั้นมีคนจำนวนหนึ่งกำลังนั่งล้อมวงกันอยู่ ที่ที่ผมมาตอนนี้คือ ห้องชมรมนาฏศิลป์และการละคร ซึ่งตอนนี้มีคนบางกลุ่มกำลังนั่งอยู่แล้ว


   “ พี่หน่อยสวัสดีครับ”


   “ ไอ้ตุลย์กูนึกว่ามึงจะไม่มาแล้วนะเนี่ย” พี่หน่อยแกทักทายด้วยใบหน้าที่ตรึงเครียด ความทรงจำหนึ่งในหัวของผมมันถูกรื้อขึ้นมาว่าคนตัวผอมตรงหน้าที่ดูทรงแล้วน่าจะเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ใบหน้าตอบ กรามชัดตาตี่ๆคนนี้ เป็นประธานชมรมของที่นี่ พี่แกขยับตัวเพื่อให้ผมนั่งลงตรงข้างๆกับพี่แก “ เพื่อนมึงอีกสองคนล่ะทำไมมันยังไม่มา หรือว่ามันไม่สนใจแล้ว”


   “ สนดิพี่” เสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลัง ผมหันไปตามเสียงนั้นใบหน้าที่แต้มไปด้วยลักยิ้มกำลังเดินเข้ามาหน้าของเขาคล้ายไม่ใช่สินั่นคือพี่แม็กชัดๆส่วนไอ้คนที่ตัวล่ำๆร่างเตี้ยๆใบหน้าคมเข้มจมูกเป็นสันนั่นไม่ผิดแน่มันคือไอผู้ชายปากหมาคณะวิศวกรรมศาสตร์


   “ มาๆเว้ยมานั่งก่อน”


   “ สวัสดีครับพี่หน่อย” ไอ้วิศวะมันยกมือไหว้


   “ ไอ้ปีย์ มึงทำไมไม่มาพร้อมกับไอ้ตุลย์วะเห็นปกติตัวติดกันจะตาย” พี่หน่อยมันถามครับ


   “ ช่างเรื่องของมันสองคนเถอะครับพี่มาว่าเรื่องที่เรานัดกันก่อนดีกว่า” ผู้หญิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของพี่หน่อยพูดขึ้น “ จะมีใครตามมาอีกไหม”


   “ ไม่น่ามีนะครับแค่คนในชมรมก็น่าจะพอแล้ว หรือถ้าใครมาสมทบอีกเราค่อยว่ากันอีกทีดีไหมครับ” ผมเสนอ


   “ ว่าไงไอ้เมษ” อ่อเข้าใจแล้วครับ คนที่หน้าเหมือนพี่แม็กชื่อเมษนี่เอง


   “ ผมได้หมดครับพี่”


วันนี้เรานั่งประชุมกันเท่าที่ผมพอจำชื่อและประมวลผลได้ พี่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามพี่หน่อยที่เป็นประธานชมรมชื่อพี่สุ แกเป็นเจ้ประจำกลุ่มอายุมากกว่าคนอื่นๆในโต้ะคนเลยเกรงใจแก แกเป็นลูกคนจีนหน้าตาออกไปทางหมวยๆ อีกคนที่เป็นไอ้เมษ (หรือพี่แม็ก) มันเป็นเพื่อนของผมที่ตอนนี้ผมอยู่ในร่างของตุลย์และอีกคนคือไอ้วิศวะนั่นตอนนี้มันคือปีย์ที่ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นคนรักของผม


ซึ่งการประชุมวันนี้เต็มไปด้วยความตรึงเครียด เราประชุมเกี่ยวกับการวางแผนที่จะทำกิจกรรมเรื่องการผู้คอช่างไฟฟ้าคนที่แจกใบปลิวต่อต้านเรื่องการกลับมาของจมพลถนอม กิตติขจรที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการชุมนุมประท้วงการกลับมาของจอมพลถนอมทีมีการขว้างระเบิดใส่ที่ชุมนุมที่สนามหลวงจนมีคนได้รับบาดเจ็บกันมาก ตรงหน้าของผมตรึงเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพราะต่างคนต่างเสนอความคิดของตนเอง แต่พวกเราค่อนข้างฟังเสียงของทุกคนจนได้ข้อสรุปดังนี้ จะมีการเล่นละครล้อเลียนการแขวนคอเพื่อให้คนที่มาพบเห็นสนใจที่จะมาเข้าร่วมอุดมการณ์เดียวกันกับพวกเราในวันที่ห้าตุลาคมปีสองพันห้าร้อยสิบเก้า




เปรี้ยง!


เสียงท้องฟ้าด้านนอกดังไปทั่วบริเวณ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าเหมือนร่างกายของผมมันขยับไม่ได้ สมองของผมรับรู้ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบตัว ม่านที่สะบัดพลิ้วขึ้นตามแรงลมด้านนอก ผมรู้สึกหนักไปทั้งตัวเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังทับตัวผมอยู่ กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง เงาดำบางอย่างรูปร่างสูงใหญ่กำลังอยู่เหนือตัวผมขึ้นไป ผมมองไม่ชัดว่าเป็นใครแต่ดวงตาของมันจ้องมองมาที่ผมราวกับว่าโกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางไหน มันกดหนักลงมาทุกที


   “ นายต้องการอะ…ไร” ผมพยายามสื่อสาร


ครืด ครืด โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างตัวของผมสั่นเรื่อยๆ แต่ผมไม่อาจเอื้อมไปรับสายได้ และแรงกดของมันก็มากขึ้นทุกที ผมเหลือบตาไปมองมือถือเพราะหวังให้มันสั่นเคลื่อนที่มาทางผม และเหมือนโชคจะเข้าข้างเมือมันเลื่อนมาตรงมือของผม ผมกดรับได้แต่ไม่สามารถเปล่งเสียงออกไปได้ ไม่นานปลายสายก็ตัดสายทิ้งไปผมหวังว่าแม่หมอของผมจะสัมผัสอะไรผิดปกติไปได้ ไม่นานร่างกายของผมก็ไม่อาจต้านแรงนั้นได้อีกแล้วผมดำดิ่งสู่ความมืด


   “ หาฉันให้เจอ หาฉันให้เจอ” เสียงนี้มันดังก้องอยู่ในหัวของผม


   “ เต้ เต้ เต้” แรงเขย่าที่ตัวของผมทำให้ผมหลุดออกจากความมืดนั้น ใบหน้าจิ้มลิ้มของใยไหมตอนนี้ดูตื่นตระหนกไปหมด


   “ แม่หมอ”


   “ นี่” เธอดุ “ ช่างมันเหอะ แกเป็นอะไรเนี่ยทำไมเนื้อตัวเย็นเฉียบขนาดนี้” เธอประคองให้ผมลุกขึ้นมานั่งหลังพิงกับหัวเตียง


   “ มาได้ไงเนี่ย”


   “ ฉันให้เจ้าหน้าที่ด้านล่างมาเปิดให้น่ะสิ โชคดีนะที่ฉันมาบ่อย แล้วห้องนอนแกก็ไม่ได้ล็อกด้วย ไม่อย่างนั้นนะ แกได้นอนยาวแล้ว ตอนนี้จะตอบได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น”


ผมเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวผมตั้งแต่เมื่อคืนให้เธอฟัง หน้าของใยไหมดูโกรธมากๆแต่เธอไม่พูดอะไรจนกระทั่งผมเล่าจนจบ


   “ มันบอกให้ฉันตามหามัน”


   “ ตามหา ตามหานที่จะฆ่าแกน่ะเหรอ  มันอาจเป็นดวงวิญญาณเร่ร่อนแวนี้ก็ได้”


   “ แต่ที่แกบอกกับฉันเมื่อคืน มีใครอีกคนที่กำลังแค้นฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ”


   “ เออใช่ เดี๋ยวนะ มีใครคนหนึ่งที่กำลังรอการหาคำตอบร่วมกับแก มันคือไอ้วิศวะนั่น ส่วนคนที่กำลังตามหาแกฉันไม่รู้ และคนที่กำลังแค้นแกอาจจะเป็นคนเมื่อคืน เพราะฉะนั้นถ้าอยากได้คำตอบทั้งหมด แกต้องเริ่มจากไอ้วิศวะนั่น”


   “ ตลกละ เจอหน้ากันไม่ถึงสามวินาทีก็จะต่อยกันแล้ว” ผมเถียง


   “ แต่ถ้าแกไม่รีบหาคำตอบ ไอ้คนที่ตามแกมันไม่เอาแกไว้แน่”


   “ แม่หมออย่างแกไม่มีของป้องกันเหรอวะ”


ป้าบ ! เธอตบหัวของผมไปหนึ่งที


   “ บอกแล้วอย่าเรียกแม่หมอ” เธอง้างมือขึ้น อีกครั้ง ผมถึงกับยกมือท่วมหัวก่อนที่มันจะใจเย็นลง “ ของดีไม่มีหรอก มีแต่วิธีดีๆ”


   “ วิธีดีๆไรวะ”


   “ แกต้องใช้เสน่ห์แกไปในทางที่ดีบ้างแล้วล่ะ”


   “ แกจะบ้าเหรอ พี่แม็กเพิ่งมาขอจีบฉันไป”


   “ แต่แกก็ยังไมได้ตกลงนี่” ใยไหมทำหน้าเหมือนมาเหนือกว่าใส่ผม


   “ เออ แต่แกจะให้ฉันไป”


   “ ใช่ แต่ก็ไม่ต้องถึงเป็นแฟน แค่เขาสนิทใจในการมานอนร่วมกับแกเพราะแกบอกว่า แกจะสื่อสารเรื่องราวอดีตผ่านความฝัน เพราะฉะนั้นถ้าไอ้วิศวะนั่นเป็นคนที่กำลังหาคำตอบร่วมกับแก มันต้องมีพันธะบางอย่างกับแกแน่ๆเพราะฉะนั้นต้องทำให้มันมานอนกับแกให้ได้”


   “ แต่”


   “ ถ้าอยากตายไปอยู่กับไอ้คนที่แค้นแกก็ตามใจ”


   “ เออ มีแผนไหม” ผมตอบอย่างจำยอม


   “ มี ขอตั้งชื่อเรียกมันว่า ยุทธการสามสเต็ป”


   “ ยุทธการสามสเต็ป !”


นี่ผมต้องมาทำไอ้แผนบ้าบอนี่จริงๆเหรอ จากคนที่ผมอยากได้เป็นแฟนมาขอเป็นแฟนผมต้องไปปฎิเสธเพื่อมาเอาไอ้หมาคอร์กี้เนี่ยนะ ไอ้วิญญาณบ้าแค้นอะไรนักหนาวะ เอาความรักสดใสของฉันคืนมา








มาแล้ว มาอย่างต่อเนื่องกันจ้าาาาาาาาาาาาาาาา ถ้างงเม้นบอกได้นะ เพราะมันเล่าตัดสลับความฝัน กับความจริง เพราะถ้าเม้นบอกเราจะพยายามปรับให้ไม่งงน้าาาาาาาาาาา

ขอบคุณข้อมูลเรื่องละครล้อเลียนเรื่องการผูกคอของช่างไฟฟ้า จาก คุณ สุชาดา จักรพิสุทธิ์

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [2 100%] 11/10/18
«ตอบ #14 เมื่อ11-10-2018 18:54:37 »

นอนรอดูไอ้ 3 สเต็ปเนี่ยมันเป็นอย่างไง   :katai5:

ออฟไลน์ Sailomcc.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [2 50%] 9/10/18
«ตอบ #15 เมื่อ12-10-2018 00:50:46 »

อื้อหือ เข้มข้น

ขอบคุณค่าาาาาาาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [2 100%] 11/10/18
«ตอบ #16 เมื่อ12-10-2018 02:01:15 »

มีชื่อแผนการซะด้วย  :laugh:

ออฟไลน์ Sailomcc.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [2 FULL ver.] 15/10/18
«ตอบ #17 เมื่อ15-10-2018 06:14:06 »

วันนี้เป็นวันแรกที่จะเริ่มปฏิบัติการ ยุทธการสามสเต็ป จากข้อมูลของเพื่อนสายสอใส่เกือกอย่างแม่หมอของผมรายงานในทุกๆเช้าไอ้หมาคอร์กี้มันจะต้องออกมาวิ่งที่สนามกีฬาทุกๆตีห้าครึ่ง ผมขุดตัวเองจากที่นอนออกมาตั้งแต่ตีห้าตรงเพื่อมายืนดักรอในสนามกีฬากลางก่อนเพื่อให้ไม่ดูมีพิรุธ คนที่นอนดึกตื่นบ่ายอย่างผมต้องมายืนอยู่ตรงนี้เวลานี้เพื่อมาตามหาคนที่ผมต้องตีซี้มันให้ได้กับภารกิจแรก


สเต็ปที่หนึ่ง เข้าหา


ใครจะไปรู้ว่าเวลานี้คนจะมาสนามกีฬากลางจะเยอะขนาดนี้ ไฟที่สนามส่องสว่างมากระทบกับพื้นหญ้าที่ชุ่มไปด้วยน้ำค้าง ตอนนี้อากาศค่อนข้างดีและเหมาะสมต่อการนอน



ป้าบ!


   “ โอ้ย เจ็บนะ” ผมสะดุ้งกับแรงที่มากระทบที่บริเวณหัวไหล่


   “ เจ็บสิดีจะได้ตื่นๆ ทำหน้าให้มันสดชื่นหน่อยไม่ได้หรือยังไง” เจ้าของฝ่ามือพูด “ ฉันเนี่ยควรบ่นเพราะนี่ไม่ใช่ธุระอะไรของ
ฉันเลย”


   “ นี่แม่หมอ เธอเกี่ยวเต็มๆเลยครับ แผนนี้มันเป็นของเธอ”


   “ หรือเราจะกลับแล้วให้ไอ้ผีนั่นหลอกแกดี” เธอขยับกรอบแว่นพร้อมกับจ้องกลับมาทางผมอย่างเอาชนะ


   “ เออๆ ก็มาแล้วนี่ไง แล้วเอาไงต่อดีแม่จอมวางแผน”


   “ ไม่ต้องห่วงเราอยู่ในจุดที่เป็นจุดที่เรียกได้ว่าจุดยุทธศาสตร์ มองจากตรงนี้จะเห็นทั้งสองประตูเข้าออก และผ่านลู่วิ่ง อีก
อย่างตรงนี้ก็สูงผู้ชายของแกมองไม่เห็นแน่ๆ”


ผมไม่ขัดเธอครับว่าจุดที่เราอยู่เป็นจุดยุทธศาสตร์เพราะเราอยู่บนอัฒจันทร์ขั้นบนสุดตรงกลางของสนามกีฬาแห่งนี้ แต่สิ่งที่ขัดใจมากๆคือมันบอกว่าไอ้หมาคอร์กี้นั่นคือผู้ชายของผม


เรานั่งรอกันอยู่สักพัก นาฬิกาที่ข้อมือขอผมมันบอกว่าเวลานี่คือเวลาตีห้าครึ่ง คือเวลาที่ไอ้หมอนั่นควรจะก้าวเข้ามาในสนามนี้ได้แล้วแต่ทำไมยังไม่มาวะ ผมชะเง้อซ้ายทีขวาทีกลัวว่ามันจะคลาดสายตาเช่นเดียวกันกับใยไหมที่ลุกลี้ลุกลนไม่ต่างจากผม


   “ จะขโมยของเหรอ” เสียงอันคุ้นหูดังมาจากด้านข้างอัฒจันทร์ที่ผมกับใยไหมยืนอยู่ เจ้าของเสียงใส่กางเกงขายาวผ้าร่มกับเสื้อกล้ามที่เผยมัดกล้ามสีน้ำตาลของมัน


   “ สะ…โอ้ย!” ผมเกือบหลุดคำด่าออกไปแต่คนที่อยู่ข้างๆบิดที่ข้างเอวผมก็จนร้องออกมาอย่างห้ามไม่ได้


   “ เป็นไรวะ แปลกๆนะเนี่ยมึงอ่า”


   “ นายมาวิ่งทุกวันเลยเหรอ” ผมถามออกไป


   “ เออ มึงเองก็เพิ่งมาวันนี้วันแรกสินะ” มันดูเย็นลงไม่เสียงดังหรือทำท่ากวนตีนผมแล้ว


   “ อืม เพื่อนเรามันจะลดน้ำหนักน่ะเลยมาเป็นเพื่อน” ผมสะกิดใยไหมที่ยืนข้างๆให้ช่วย


   “ ใช่ๆ เราว่าเราอยากลดน้ำหนักน่ะ”


   “ เออๆ เรื่องของพวกมึง กูไปวิ่งละ” มันพูดจบก็เดินเข้าไปในสนามรวมกับคนอื่นที่กำลังวิ่งอยู่


ผมกับใยไหมก้าวลงจากอัฒจันทร์แล้ววิ่งตามว่าแต่ไอ้นั่นมันขาสั้นทำไมมันถึงได้วิ่งเร็วขนาดนี้วะ ผมจับแขนใยไหมให้วิ่งตามคนตรงหน้าที่นำไปกว่าสิบเมตรผมเร่งความเร็วมากขึ้นจนอีกแค่เอื้อมมือเดียวก็จะถึงคนข้างหน้าแล้ว


   “ โอ้ย!” จู่ๆไอ้ขาของผมมันก็เจ็บแปร้บขึ้นมา ผมชะลอความเร็วลงเพราะยิ่งผมก้าวไปมากเท่าไหร่ความเจ็บปวดมันยิ่งเพิ่มมากขึ้น


ใยไหมประคองผมมาบริเวณข้างสนามผมได้แต่จ้องมองไอ้ก้อนเนื้อบริเวณน่องที่มันปูดจากอาการเกร็งตัวขึ้นมา ใยไหมบีบมันลงเบาๆแต่มันเจ็บมากจนผมต้องร้องออกมา


   “ หลบหน่อย” เสียงของใครสักคนแทรกเข้ามา ผมลืมตาจากการเจ็บปวด “ ใครเขาให้บีบแบบนั้น” ไอ้หมาคอร์กี้มันยกขาขึ้นพาดที่ไหล่ของมันก่อนจะใช้มือดันเท้าของผมกดไปด้านหน้าค้างไว้สักพักแลวก็ผ่อนลง


   “ โอ้ยยยยยยย” ผมร้องในจังหวะที่มันดันเข้ามาอีกรอบ


   “ สำออยจังวะ” ผมยิ้มมุมปากก่อนจะหยิบขวดสเปรย์ขวดสีเหลืองออกมาจากกระเป๋าแล้วฉีดมาที่บริเวณที่มันเจ็บ “ นี่วิ่งกัน
ไม่ได้วอร์มกันก่อนใช่ไหมเนี่ย” มันหันไปถามใยไหม


   “ อะ อืม” เธอตอบ


   “ วันหลังถ้าจะวิ่ง วอร์มร่างกายก่อนไม่ใช่จะมาวิ่งก็วิ่งเร็วๆเลยร่างกายมันจะตกใจเอา เป็นภาระคนอื่นอีก”


   “ ภา…โอ้ยยยยย” แรงหยิกของใยไหมทำให้คำด่า(ภาระพ่อง)ของผมจมหายเขาไปในลำคอ ทำไมผมถึงอยากด่ามันตลอดเวลาขนาดนี้วะ


    “ขอบคุณนะ ถ้าไม่มี เอ่อ นายชื่ออะไรนะ”


   “ ปอนด์ เราชื่อปอนด์” มันตอบพร้อมกับเอาขาของผมลง


   “ อ่อ เราชื่อใยไหมนะ ส่วนนี่ชื่อเต้ ขอบคุณนะที่มาช่วยเราไว้” ใยไหมส่งยิ้มไปให้แต่มือที่อยู่ตรงหลังผมก็ไม่ลืมที่จะหยิก
เหมือนเป็นการบอกกลายๆว่า ผมควรทำอย่างที่ผมทำ


   “ ขอบคุณนะ” ผมฉีกยิ้มให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้


   “ เออไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว งั้นเดี๋ยวกูไปวิ่งต่อนะ” พูดจบมันก็เก็บของใส่กระเป๋าแล้ววิ่งเข้าสนามไป


   “ เป็นไงล่ะ แผนของแก”


   “ อย่างน้อยๆเราก็ติดค้างบุญคุณกับเขาเพราะฉะนั้นโอกาสที่จะได้เจอครั้งที่สองแล้วเข้าไปตอบแทนบุญคุณก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกและเป็นการจู่โจมมากเกินไป” เธอยิ้มอย่างมีเลศนัยน์


ใช่ครับรอยยิ้มนั้นทำให้ผมต้องมายืนอยู่ตรงนี้ ผมและใยไหมออกมาจากสนามก็พุ่งตรงมาที่ร้านโจ๊กและต้มเลือดหมูที่บริเวณหลังหมอ ที่ตอนนี้บรรดาร้านหมูปิ้งเอย แซนวิชเอยต่างกั้งร้านรวงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


ใยไหมบอกกับผมว่า ทุกเช้าหลังจากการวิ่งไอ้คอร์กี้เอ้ยไอ้ปอนด์มันจะมากินข้าวก่อนกลับเข้าไปที่หอซึ่งร้านประจำของมันก็คือร้านโจ๊กที่ผมกำลังยืนอยู่ตรงนี้ ผมก้มลงมองนาฬิกาแสดงเวลาเจ็ดโมงตรงซึ่งเป็นเวลาที่ไอ้ปอนด์ควรจะถึงได้แล้ว


   “ เฮียเหมือนเดิม” เสียงคุ้นหูดังขึ้นผมมองไปรอบตัวเหมือนโชคจะเข้าข้างโต๊ะอื่นเต็มหมด เหลือแต่โต๊ะเราที่มีเก้าอี้ว่างอีกตัว


   “ นั่งด้วยกันไหม” ใยไหมเอ่ยทัก


   “ ขอบคุณนะ” มันตอบก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งด้านข้างผม ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยเหงื่อ มองดูใกล้ๆโครงหน้าของมันนี่ก็ดูดีใช้ได้ จมูกเป็นสันตรง ผมเข้มๆปากนิดมีโหนกที่หน้าหน่อยๆกับผมยาวๆที่รวบเป็นจุกกลางหัวของมันอีก “ โหทำไมกินกันเยอะจัง” เสียงของมันทำให้ผมหลุบตามองซากถ้วยชามบนโต๊ะตรงหน้า


ใช่ครับมันเยอะสำหรับสองคน เรามาที่ร้านนี้ได้คิวตั้งแต่หกโมงครึ่ง เราพยายามกินรอแต่ก็หมดก่อนเลยสั่งมาเพิ่มกันอีกคนละถ้วยแต่มันก็ยังไม่มาเลยสั่งต้มเลือดหมูมาแบ่งกับใยไหมเพิ่มอีก รวมๆแล้วเราสองคนกินกันห้าชาม


   “ อ่อ มันออกแรงเยอะน่ะ” ใยไหมตอบ


   “ แต่จะลดน้ำหนักๆไม่ใช่เหรอ” มันถามกลับ


   “ มันก็อย่างนี้แหละ ลดน้ำหนักแค่แป้บเดียว” ผมเสริม


   “ มึงไม่เตือนเพื่อนล่ะสิ” มันจ้องมาทางผมก่อนที่มันจะถือวิสาสะเอื้อมมือมาจับที่ข้อมือของผม “ มึงไปโดนอะไรมา”


   “ เปล่า” ผมดึงข้อมือกลับและสังเกตว่าที่ข้อมือมันก็มีรอยแดงๆอยู่เหมือนกัน


   “ โจ๊กมาแล้ว” เฮียคนขายโจ๊กเราโจ๊กมาได้จังหวะพอที ไอ้ปอนด์มันกินอย่างรวดเร็วเหมือนคนตายอดตายอยาก ไม่มีบทสนทนาใดต่อบนโต๊ะเลยด้วยซ้ำ จริงๆผมก็อยากถามกลับเรื่องรอยที่ข้อมือของมันแต่ผมไม่กล้าพอที่จะถามออกไป


   “ เฮียเก็บเงิน” มันยกมือเรียกเจ้าของร้านอย่างสนิทสนม


   “ โจ๊กใส่ไข่เพิ่มตับ สี่สิบบาท”


   “ ไม่ต้องเดี๋ยวเราเลี้ยง ถือเสียว่าตอบแทนที่นายช่วยเราไว้” ผมพูดขัด อันนี้ไม่ได้ถูกใครบังครับนะครับ เพราะอย่างน้อยผมควรตอบแทนบุญคุณคน


   “ เออขอบใจมาก”


เราสองคนแยกออกจากร้านแล้วกลับไปที่หอด้วยใบหน้าที่อิดโรย ผมลงจากรถมอเตอร์ไซค์ของใยไหมที่หน้าคอนโดก่อนจะเดินขึ้นกลับไปบนห้องของตัวเอง


   “ เชี้ย”





ผมร้องออกมาเมื่อก้าวเข้าไปในห้องที่นอนของผมเหมือนถูกรื้อกระจัดกระจายเต็มไปหมด บนพื้นมีหนังสือเรื่องสิบสี่ตุลาวางอยู่ที่ปกของมันเหมือนมีรอยข่วน ผมโทรไปหานิติบุคคลเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดในทันที แต่ทว่าในภาพหน้าห้องของผมไม่มีใครเข้ามาเลย ไม่มีของหายไปเลยแม้แต่อย่างเดียว












มาเเล้วจ้าาาาาาาาาาเชิญเสพสมและเป็นกำลังใจให้กับ ยุทธการสามสเต็ป ของแม่หมอใยไหมของเราทีเถอะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [2 FULL ver.] 15/10/18
«ตอบ #18 เมื่อ15-10-2018 07:24:53 »

คน หรือ ผีทำ แสดงตัวมาซะดีๆ   :a5:

ออฟไลน์ Sailomcc.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [2 FULL ver.] 15/10/18
«ตอบ #19 เมื่อ16-10-2018 01:36:43 »

คน หรือ ผีทำ แสดงตัวมาซะดีๆ   :a5:



ผีหรือคนกันน้าาาาาาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [2 FULL ver.] 15/10/18
« ตอบ #19 เมื่อ: 16-10-2018 01:36:43 »





ออฟไลน์ Sailomcc.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [3 40%] 23/10/18
«ตอบ #20 เมื่อ23-10-2018 01:46:38 »

3


ยุทธการสามสเต็ป


“ ว่าไงนะมีคนรื้อห้องแก” เสียงอู้อี้จากปลายสายดังเข้ามาในโทรศัพท์


   “ เออ” ผมตอบ “ แล้วนี่ทำอะไรอยู่วะ”


   “ แปรงฟัน” เธอตอบก่อนจะตามด้วยเสียงน้ำไหลสักพัก “ มาเสร็จแล้ว เล่าต่อ” เสียงประตูจากปลายเสียงปิดดังปั้ง


   “ ก็ไม่แล้วไง ไม่มีอะไรหาย ไม่มีคนในกล้องวงจรปิด”


   “ วิญญาณแน่ๆ” เธอสวนกลับมาทันควัน “ ฉันว่ามันต้องกลัวว่าแกจะจัดการมันแน่ๆ”


   “ จัดการ แกหมายความว่าไง”


   “ ก็ปกติดวงวิญญาณทุกดวงมันจะมีจุดอ่อนอยู่เมื่อไหร่ก็ตามที่มนุษย์อย่างเราเข้าใกล้สิ่งที่มันกลัวซึ่งฉันขอเดาเลยนะว่าการ
ที่แกเข้าใกล้ปอนด์มากขึ้นเท่าไหร่มันจะต้องโกรธแกมากขึ้นแน่ๆ”


   “ เดี๋ยวนะ ที่ฉันเข้าใกล้ไอ้คอร์กี้นั่นเพราะไม่อยากให้มันมายุ่งกับฉันนะเว้ย แล้วนี่เหมือนฉันไปท้าทายมันหรือเปล่า ม่สนุกเลยนะแม่หมอ”


   “ เออน่าใจเย็นๆฉันแค่สันนิษฐาน บางทีไอ้หมอนั่นอาจเป็นไม้กันผีให้แกก็ได้ เออลืมบอกไปวันนี้งดคลาสนะจ้ะอาจารย์เข้าโรงพยาบาล เดี๋ยวเสาร์นี้นัดเรียนชดเชย”


   “ เออๆ”


   “ แค่นี้ก่อนนะวันนี้ฉันร่างพังมาก ขอนอนก่อน”


   “ อืม”


ผมเอื้อมเอาโทรไปวางไว้ตรงบริเวณโต๊ะข้างหัวเตียง แต่ยังไม่ทันที่จะวางโทรศัพท์มือถือลงเลย ข้อความจากไลน์ก็เด้งขึ้นมา ผมดึงมันกลับมาดูในทันที


MAX : สวัสดีครับน้องเต้ วันนี้ว่างหรือเปล่าครับ


เชี่ย พี่แม็กทักมาผมต้องทำตัวยังไงดีวะในหัวของผมฟุ้งซ่านไปหมด ถ้ามันฉายเป็นภาพได้อย่างในการ์ตูนตัวอารมณ์ต่างๆคงวิ่งวุ่นไปหมด


   MAX : อ่านไม่ตอบแบบนี้พี่ใจคอไม่ดีเลย


   TAE : เปล่าครับผมแค่กำลังคิดว่าจะตอบว่าว่างดีไหมน้า555


   MAX : ดีสิครับ


เอาไงดีวะ นั่นคือคนที่เราใฝ่ฝันเลยนะเว้ย เอาไงดี


   TAE : ตกลงครับ


ผมนี่ง่ายใช้ได้เลยนะเนี่ยหุหุ


   MAX : ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวพี่ไปรับน้องเต้ได้ไหมครับ


อ่อยเก่งจังเลยนะครับพี่ ผมยิ้มจะแก้มแทบจะแตก เข้าใจอารมณ์ตอนนี้ไหมครับมันยิ่งกว่าดูหนังรักที่เขาว่าถึงใจถึงอารมณ์อีกครับ เพราะอะไรน่ะเหรอผมถูกคนที่ผมชอบจีบ


   TAE : ครับ


   MAX : ครับเดี๋ยวพี่ไปรับตอนหกโมงนะครับน้องเต้อยู่ที่นี่ใช่ไหมครับ


พี่แม็กส่งโลเคชั่นมาซึ่งเป็นที่อยู่ของคนโดผม


   TAE : พี่รู้ได้ไงอ่า


   MAX: ทำไมไม่เคยสังเกตเพื่อนบ้านบ้างล่ะครับเจ้าของห้อง 1113


อย่าบอกนะว่าพี่เขาอยู่คอนโดเดียวกันกับผม เพราะปกติแล้วผมไม่สนใจใครอยู่แล้วไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าข้างห้องคือใคร



   TAE : พี่รู้


   MAX : พี่อยู่ 1112 ครับ หกโมงเย็นเจอกันนะครับเดี๋ยวพี่จะรอ


ผมส่งสติ้กเกอร์หมียิ้มไปให้ก่อนจะวางโทรศัพท์มือถือไว้ที่ข้างเตียงแล้วนอนหลับตาไปพร้อมกับเรื่องราวดีๆ ผมต้องตื่นมาให้สดชื่นที่สุด



หวังว่าคงเป็นอย่างนั้น



ไม่นานหลังจากผมหลับตาความมืดมิดพลันค่อยๆสว่างขึ้น สภาพแวดล้อมเริ่มแปรสภาพและชัดเจนขึ้น รอบตัวของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังเดินขวักไขว่ไปมาคล้ายๆกับเป็นจุดลงทะเบียนของสถานที่แห่งนี้ ที่ป้ายที่ถูกทำด้วยผ้าดิบสีขาวถูกเขียนด้วยสีน้ำหลากสีสันสลับกันมันเขียนว่า ยินดีต้อนรับน้องใหม่ปีสองพันห้าร้อยสิบหก


   แปลกจังทำไมเราย้อนมาในปีสองพันห้าร้อยสิบหก


เพราะปกติแล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นในฝันของผมมักจะเกิดขึ้นในพุทธศักราชสองพันห้าร้อยสิบเก้า หรือว่าความฝันนี่กำลังจะบอกอะไรกับผม



   พลั้ก !


   “ โอ้ย” ผมล้มลงไปกองลงกับพื้น


   “ ขอโทษครับ” คนที่ล้มลงฝั่งตรงข้ามเอ่ยพร้อมกับเก็บหนังสือและเอกสารที่กระจัดกระจายไปทั่ว “ ของคุณครับ” เขาหลับสายตายื่นมาให้ผม “ ผมขอโทษด้วยนะครับ”


   “ ไม่เป็นไร นายเป็นไรหรือเปล่า” ผมถามออกไปก่อนจะมองใบหน้านั้นชัดๆ ใช่มันแน่ๆ ไอ้ปอนด์


   “ สวัสดีครับ ผมชื่อปีย์ เอ่อ”


   “ กูชื่อ ตุลย์ มึงรีบไปไหนเนี่ย”


วูบ


เหมือนลมพัดผ่านไปอย่างรวดเร็วเพราะทุกอย่างรอบตัวมันหายไปอย่างฉับพลันก่อนที่จะค่อยๆปรากฏขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ตอนนี้ผมนั่งหลบมุมอยู่ในห้องมืดๆเสียงระเบิดและปืนดังไปทั่วพร้อมกับเสียงร้องระงมของบรรดาเพื่อนๆร่วมอุดมการณ์ที่บางคนบาดเจ็บ บางสูญเสียอวัยวะ


   “ เอาไงดีวะ” ผมหันไปถามคนที่อยู่ข้างๆ


   “ รอไอ้ปีย์ก่อนมันกำลังไปหาพวกพี่หน่อย อีกสักพักมันคงกลับมา” มีคนเสนอความเห็น


   “ มันจะกลับมาจริงๆเหรอวะ”


   “ ทำไมเมษพูดแบบนี้ล่ะ” ผมหันไปถามอย่างหัวเสีย


   “ ก็จริงหรือเปล่าล่ะ คนที่ออกไปได้มันก็หนีกันไปหมดใครมันจะสนคนที่อยู่ข้างในล่ะ แล้วนี่มันก็ออหไปตั้งนานแล้วหรือเปล่า
ถ้ามันจะกลับมามันก็กลับมาแล้ว”


   “ หยุดเถียงกันได้แล้ว” ผู้หญิงคนที่นั่งอยู่ตรงมุมด้านหลังพูดออกมา


เมื่อพวกเราเงียบเสียงฝีเท้าจากด้านนอกเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที ก่อนที่ทุกอย่างจะนิ่งเงียบ ตัวของผมเย็นเฉียบไปด้วยความกลัวที่เกาะอยู่ที่ขั้วหัวใจ เสียงลมหายใจของพวกเรามันดังมากเกินไปด้วยซ้ำในตอนนั้น


ปัง ! เสียงปืนจากด้านนอกดังขึ้นพวกผู้หญิงบางส่วนส่งเสียงกรีดร้องพวกเราตัดสินใจทำลายกระจกหน้าต่างด้านหหลังเพื่อให้เป็นทางผ่าน ให้พวกผู้หญิงออกไปก่อน เหตุผลที่เราไม่พังในตอนแรกเพราะกลัวว่าเสียงจะดังแต่ตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้ว พวกผู้หญิงวิ่งฝ่ากระจกออกไปพวกเรามีหน้าที่แค่ยื้อเวลาให้มากที่สุด


   “ ลงไป” เสียงคนที่อยู่ภายใต้ชุดที่เรียกว่ารั้วของชาติเอ่ยขึ้น


   “ จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้นะเว้ย ที่มันประเทศไทยมันปกครองแบบประชาธิปไตย”


ปัง! ไม่มีประโยคใดๆต่อพี่คนนั้นลงไปนอนสงบนิ่งลงกลับพื้น ตอนนี้ผมโดนเชือกพันอยู่ที่มือเราไม่ได้มีโอกาสได้เดินไปข้างหน้าผมถูกแรงกระชากไปด้านหน้า ความแสบของเชือกที่เสียดสีตรงข้อมือ ผมได้แต่ภาวนาว่าผมจะผ่านคืนนี้ไปได้






สวัสดีจ้าาาาาาาาาาา สวัสดีรับวันหยุด แต่เราไม่ได้หยุด แต่ขอเเวบๆมาลงนิยายก่อนไปทำงานนะคะ มาเสพกันอาจมาแค่นิดๆแต่ข้อมูลมันส่งผลเยอะน้าาาาาา

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [3 40%] 23/10/18
«ตอบ #21 เมื่อ23-10-2018 02:50:16 »

เริ่มต้นแล้ว ปริศนากำลังจะมาให้เห็นแล้ว ส่วนท่านชายพจน์อยู่ในบ้านทรายทองไปก่อนนะ  :hao3:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
Re: IN MY DREAM. ในห้วงนิทรา {POND&TAE} [3 40%] 23/10/18
«ตอบ #22 เมื่อ26-10-2018 20:57:43 »

ขอบคุณครับ +1 ให้กำลังใจคนเขียนครับ o13

ออฟไลน์ Sailomcc.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
เรียนผู้อ่านทุกท่าน เนื่องจากนิยายมีเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน และหลังจากมีนิยายลงในเวบ มีการตักเตือนเข้ามาในช่องทางส่วนตัว ทางตัวนักเขียนเองขออนุญาตไปปรับแต่งเนื้อหาเพื่อความเหมาะสม ทั้งนี้สายลมไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใด และไม่ได้มีเจตนาปลุกปั่นทางการเมือง

ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

สายลม

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รับทราบ   :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด