.❤.รักครั้งแรก -- ตอนพิเศษ 4 -- 14.08.59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: .❤.รักครั้งแรก -- ตอนพิเศษ 4 -- 14.08.59  (อ่าน 91733 ครั้ง)

ออฟไลน์ Jindkyp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
********************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
********************************************************************************************



รักครั้งแรก
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ใครบ้างคนบอกว่า.....รักครั้งแรกมักไม่สมหวัง มันจริงรึเปล่า?

"ในเมื่อเขาเพิ่งมีรักครั้งแรกเลยอยากรู้"





Prologue


ความวุ่นวายเริ่มขึ้นทันทีเมื่อร่างของเหล่านักศึกษาชั้นปีที่ 4 ชายหญิงต่างทยอยออกมาจากห้องเลคเชอร์พร้อมเสียงพูดคุยดังอื้ออึงที่ฟังไม่ได้ศัพท์เท่าไรนักแต่ก็คงไม่พ้นเรื่องสอบไฟนอลที่จะเริ่มในสัปดาห์ เรื่องนัดแนะกันไปเที่ยวหลังสอบเสร็จหรือแม้กระทั่งหัวข้อจะกินอะไรกันดีก็ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดเมื่อเรียนวิชาสุดท้ายของชีวิตนักศึกษาจบลง แต่นั้นก็สร้างสีสันให้ห้องเลคเชอร์แห่งนี้ไม่น้อย

ชายหนุ่มผิวขาวร่างบางที่อยู่ในชุดนักศึกษาถูกระเบียบนั่งอยู่หลังสุดของห้องกวาดสายตากลมโตไปมองความวุ่นวายหย่อมๆรอบห้อง ก่อนจะก้มหยิบกระเป๋าสะพายข้างของตนขึ้นมาเก็บของอย่างเงียบๆ แล้วค่อยหันไปมองเพื่อนทั้ง 2 ที่ตอนนี้ก็ยังคุยไม่หยุด

/พูดกันตั้งแต่ต้นคาบยันท้ายคาบ ไม่เหนื่อยกันรึไง/

"นี่ๆ เก็บของเสร็จยัง?" เขาเรียกเพื่อนทั้งสองแต่สงสัยเสียงเขาคงไม่ดังพอที่จะให้ทั้งคู่หันมาสนใจ

" อ เออ เก็บของกันเสร็จยัง?" เขาเพิ่มเสียงขึ้นมาอีกนิดพร้อมสะกิดไหล่ของคนที่นั่งข้างตน

"หืม ว่าไง" เพื่อนสาวหันมาถามเขา

"เลิกเรียนแล้ว"

"อ้าว แหะๆ โทษที มันชวนคุยเพลินไปหน่อย" ว่าแล้วก็ชี้ไปที่อีกคน

"โยนขี้เลยนะๆ" ชายหนุ่มอีกคนว่าหญิงสาวพร้อมชี้หน้ากลับ

คาบสุดท้ายมันก็ไม่มีเนื้อหาอะไรแล้ว อาจารย์แค่ทบทวนให้นิดหน่อยๆ ที่เหลือพวกเขาก็ต้องไปอ่านเองไม่แปลกถ้าสองคนนี้จะคุยติดลมบน
เพื่อนทั้ง 2 ของเขารีบเก็บข้าวของแล้วเดินออกมาจากห้องเรียน เมื่อเห็นว่าคนส่วนใหญ่นั้นออกจากห้องหมดแล้ว

"มึงต้องไปทำงานไหม" ชายหนุ่มที่เดินริมนอกสุดหันมาถาม

"ไป แต่บอกพี่จ๋าไว้แล้วว่าจะลาออกสิ้นเดือน" เขาทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ส่วนพี่จ๋าที่เขาพูดถึงคือเจ้าของร้านอาหารหน้าม.ที่เข้าทำงานอยู่

"ขยันจนวินาทีสุดท้ายนะมึง"

"ให้เราไปส่งไหม" หญิงสาวคนเดียวของกลุ่มเสนอ

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวเดินไปเอง"

"อ่าๆ งั้นเจอกันพรุ่งนี้ อย่าลืมมาประชุมนะ" เห็นเพื่อนเขาช่างจ้ออย่างงี้ก็ใช่ว่าจะไม่ฟังอะไรเลยนะ

"อือ" แล้วเขาก็เดินอยกออกไปอีกทาง

เขาเป็นนักศึกษาธรรมดาๆ ไม่โดดเด่นอะไรสักอย่าง กิจกรรมของมหาลัยก็ไม่เข้า ความสามารถพิเศษอะไรก็ไม่มีหรือมีแต่เขานึกไม่ออกก็ไม่รู้ แต่อย่างน้อยเขาก็ภูมิใจที่ทำงานส่งตัวเองเรียนจนจบ ร่างโปร่งเดินคิดไปเรื่อยระหว่างทางไปร้าน
พอฉุกคิดได้ว่านี่ตัวเองเรียนจบแล้วคำถามหนึ่งก็พุ่งเข้ามาในหัวเข้าทันที

จะทำอะไรต่อ


เรียนต่อคงไม่ไหวเพราะเขาอยากทำงานเก็บเงินสักก้อน แต่ก็กลัวว่าจะไม่มีงานทำเหมือนกันเพราะเศรษฐกิจแบบนี้หางานยากเหลือเกิน ยิ่งคนแบบเขาแล้วหางานยากเข้าไปอีก

เข้าสังคมไม่เก่ง โปรไฟล์ก็ไม่สวยหรูอะไร จะไปหางานอะไรทำดี เขาคิดแล้วถอนหายใจออกมา

แต่อย่างน้อยผลการเรียนเขาก็ไม่ขี้เหร่ มีประสบการณ์ทำงานอย่างพวกเด็กเสริฟ คนครัวบ้าง เขาได้แต่หวังว่าจะมีที่ที่รับเขาเข้าทำงาน


ใครหลายคนว่าไว้ ชีวิตจริงมันเริ่มหลังเรียนจบ มันเริ่มขึ้นตอนทำงาน เขาเองก็อยากรู้ว่าคนธรรมดาๆแบบเขาจะดำเนินชีวิตไปแบบไหน จะมีใครหายออกไปจากชีวิตหรือเข้ามาเพิ่มสีสันให้ชีวิตที่แสนจะราบเรียบของเขารึเปล่า.......


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สวัสดีค่ะ  ^^
นี่เป็นเรื่องแรกของเราเนอะ ผิดพลาดตรงไหนติชมกันได้เลย
ยังไงก็ฝาก .❤.รักครั้งแรก ไว้ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-08-2016 19:00:35 โดย Jindkyp »

ออฟไลน์ Jindkyp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: .❤.รักครั้งแรก
«ตอบ #1 เมื่อ28-05-2016 20:47:13 »

chapter 1

Rrrrrrrrrrrrrrrr

เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ดังขึ้นในช่วงเช้า ท่อนแขนเรียวยื่นออกมาจากผ้าห่มที่ซุกกายอยู่ เอื้อมมือกดปิดให้มันเงียบเสียงลงแล้วมือเรียวจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูเวลา 

07:45 น.

อืออออ อืมม ขี้เกียจตื่น ขอนอนต่อได้ไหม  ร่างโปรงตั้งคำถามกับตัวเอง พร้อมกับยกมือขึ้นมาขยี้หัวหัวเองเบาๆ ราวกับเป็นการเรียกสติ 

“ทำไมนัดกันเช้าจัง” เสียงบ่นงึมงำจากคนที่ยังนอนไม่เต็มตื่นแต่ต้องเตรียมตัวไปตามที่เพื่อนนัดดังขึ้น  แต่ด้วยนิสัยตื่นแล้วตื่นเลย ร่างบางจึงดันตัวเองลุกขึ้นจากเตียงก่อนเดินหายเข้าไปให้ห้องน้ำ 

เขาใช้เวลาในห้องน้ำไม่ถึง 15 นาทีก็เสร็จก่อนที่จะออกมาแต่งตัว ดีนะที่เขาไม่ใช้ผู้หญิง ไม่งั้นไม่รู้ต้องตื่นตั้งแต่ 6 โมงเพื่อแต่งตัวก่อนไปมหาลัยรึเปล่า

ผู้ชายอย่างเขาไม่ค่อยเข้าใจความคิดผู้หญิงเท่าไร ดอกเข็มเพื่อนสนิทผู้หญิงเพียงคนเดียวบอกเขาอย่างนั้น เพราะงั้นมั้งที่ทำให้เขาไม่เคยมีแฟนหรือคนรักเลย

Rrrrrrrrrrrrrrrr 

หื้ม กดปิดไปแล้วหนิยังจะดังเตือนอะไรอีก ว่าแล้วร่างบางที่กำลังจัดของลงกระเป๋าก็ชะโงกหน้าดูโทรศัพท์กลางเก่ากลางใหม่ของตน ก่อนจะยิ้มบางๆออกมาเมื่อเห็นชื่อเพื่อนโทรมา

>>ฮัลโหล ว่าไงเข็ม<<

>>ตื่นยังเนี่ย? อยู่ไหนแล้ว?<<

>>ตื่นแล้ว แต่งตัวเสร็จแล้ว กำลังไปรอแปบๆ<<

>>เปล่าๆ ไม่ต้องรีบ เข็มแค่โทรมาถามเฉยๆ คิดว่ายังไม่ตื่น<<

>>เปล่าๆ ตื่นแล้ว จัดกระเป๋าอยู่<<

>>เคๆ งั้นนินรอเข็มอยู่ที่หอนะ เดี๋ยวไปรับ<<

>>ไม่เป็นไรเข็ม เดี๋ยวเดินไปเองเจอกันที่นัดเลยก็ได<<
 
>>ไม่ต้องๆ เข็มนัดกับกัณณ์แล้วว่าจะไปรับมันที่ห้องยังไงก็เป็นทางผ่าน เดี๋ยวไปพร้อมกันเลย<<

ร่างโปรงบางตอบตกลงไปก่อนกดวางสายลงแล้วหันมาเช็คความเรียบร้อยอีกทีก่อนออกจากห้องไป 

วันนี้เป็นวันพิเศษสำหรับเขาเพราะหนึ่งเป็นวันสอบวันสุดท้ายของนักศึกษาปี 4 อย่างเขา สองคือวันเกิดของเขา เขาไม่ได้หวังอะไรมากนักกับวันๆนี้ ไม่ได้หวังว่าจะต้องมีงานเลี้ยงฉลอง เซอร์ไพรส์จากเพื่อนๆ หรือได้รับของขวัญในวันนี้
 
ผมขอแค่ให้ปีนี้เหมือนกับปีก่อนก็พอ ไม่ต้องมีอะไรพิเศษแค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว เขาอธิษฐานไปพล่างเดินไปพล่าง 

เมื่อถึงหน้าปากซอยหอก็เห็นรถญี่ปุ่นสีขาวคันเล็กจอดรออยู่แล้ว เขารีบเดินไปที่รถก่อนเคาะกระจกเบาๆเปิดประตูหลังก่อนแทรกตัวลงไปนั่งแล้วจึงปิดประตูลง

“โทษที รอนานไหม” ร่างขาวเอ่ยทักเพื่อนทั้งสองที่อยู่ในรถ แล้วค่อยวางกระเป๋าคู่ใจไว้ที่เบาะข้างๆ

“ไม่นานมึง เพิ่งถึงเนี่ย” กัณณ์ ชายหนุ่มผิวสีแทนหันมาพูดกับเขา 
 
“เยสสส ไปกันได้ยังเดี๋ยวเลท” ดอกเข็มว่าออกมาสบายๆ กัณณ์และเขาพยักหน้าตอบ เข็มจึงเปลี่ยนเกียร์แล้วขับรถออกไป 

เมื่อถึงคณะที่ทั้งสามเรียน ดอกเข็มก็บอกให้เขาและกัณณ์เดินเข้ากันไปก่อนเพราะตนนั้นจะไปหาที่จอดรถ 
เขาและกัณณ์จึงเดินไปรอดอกเข็มที่หน้าห้องประชุมซึ่งเป็นสถานที่นัดคุยงาน จริงๆเขาและเพื่อนไม่ได้มีบทบาทอะไรอยู่แล้วแต่เห็นว่านัดกันมาทั้งรุ่นน่าจะมีเรื่องสำคัญ ยิ่งนัดที่ห้องประชุมเลยด้วยต้องมีอะไรแน่ๆ เขาคิดว่างั้นนะ 

“มาแล้วๆ เข้าไปกัน” ร่างสะโอดสะองครบเครื่องบวกกับผิวสีน้ำผึ้งนิดๆ วิ่งมาพร้อมตะโกนเรียกเขาและกัณณ์

 ดอกเข็มเป็นผู้หญิงสวย เขาและกัณณ์เห็นตรงกันแต่นิสัยที่ลุยๆหน่อย ทำให้ไม่ค่อยมีคนกล้าเข้ามาจีบมากหนัก ยิ่งตัวติดกับกัณณ์และเขาทำให้ผู้ชายห่างหายเธอไปหมด 

สาวเจ้าก็บ่นให้เขาและกัณณ์ฟังตลอดว่า นกแล้วนกอีกจนถอดใจไปแล้ว ขอโสดสวยๆต่อไป  เขาและกัณณ์ทำได้แต่ตบไหล่ปล่อยหญิงสาวคนเดียวของกลุ่มต่อไป

“เหม่ออีกแล้ว ฮัลโหลลลล” เสียงแหลมๆเรียกสติของเขากลับมาอีกครั้ง

“อือ” เขาตอบกลับไป แล้วผลักประตูเข้าไปให้ห้องประชุม จากนั้นทั้งสามก็หาที่นั่งเหมาะๆแน่นอนว่าไม่พ้นแถวหลังแล้วค่อยวางสัมภาระของแต่ละคนลง 

เท่าที่เขาฟังเพื่อนในรุ่นน่าจะคุยเรื่องจัดงานอะไรซักอย่างอยู่ ทำให้บรรยากาศให้ห้องประชุมตอนนี้มีวุ่นวายและเสียงดังเอะอะอยู่พอสมควร ก็นะจัดงานเลี้ยงฉลองจบปี 4 ทั้งทีจะไม่ให้วุ่นได้ไง

คนที่ถือไมค์พูดอยู่ตอนนี้คงเป็น มีน ประธานรุ่นมั้งนะถ้าเขาจำไม่ผิด ข้างๆมีนก็เป็นพราวเลขารุ่นคนนี้เขาจำได้เพราะต้องจ่ายเงินค่ารุ่นกับเธอคนนี้ตลอด 3  ปีที่ผ่านมา นอกนั้นคนที่เหลือที่อื่นอยู่บนเวทีเขาก็ไม่รู้จักใครอีก

แถวๆหน้าห้องประชุมก็คงเป็นพวกเด็กกิจกรรมที่ตั้งใจฟังที่มีนพูดอยู่  กลางๆห้องก็เป็นพวกเด็กเรียนมั้งนะ เขาจำหน้าเพื่อนไม่ได้หรอกแต่เห็นใส่แว่นเลยคิดว่างั้น  ส่วนแถวหลังก็มีกลุ่มเขา กลุ่มผู้ชายที่ฟุบหลับอยู่และกลุ่มผู้หญิงแต่งหน้าจัดนั่งเล่นโทรศัพท์กันอยู่ก่อนจะส่งเสียงวี๊ดว๊ายออกมา แล้วยื่นโทรศัพท์ให้เพื่อนข้างๆดูแล้วทั้งกลุ่มก็เริ่มคุยกันอย่างออกรส

“นิน คิดอะไรอีกห๊ะ นั่งเงียบเชียว” ดอกเข็มพูดทักเขาขึ้น เขาจึงส่าหน้าตอบกลับไป ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงดอกเข็มบ่นอะไรเขาสักอย่าง ก่อนที่กัณณ์จะเอ่ยห้ามดอกเข็มแล้วชวนดอกเข็มคุยต่อ 

เขาชื่อ นิน ชื่อจริงคือ ภาณิน ที่แปลว่า ผู้พูดเก่ง นักพูด ชื่อนี้พ่อกับแม่ตั้งให้แก้เคล็ดเพราะแม่เล่าว่าตอนเด็กๆ เขาพูดช้า กว่าจะพูดได้พวกท่านลุ้นกันเหนื่อย เลยตั้งชื่อแก้เคล็ดแต่เขาว่ามันไม่ค่อยได้ผลเท่าไร เพราะเขายังคงพูดน้อยเหมือนเดิม พอพูดถึงพ่อและแม่ผมก็คิดถึงขึ้นมาเลย 

พ่อแม่ครับ นินคิดถึงจัง จริงๆวันนี้ผมอยากให้พ่อกับแม่มาอวยพรผมที่สุด แต่คงเป็นไปไม่ได้เพราะพ่อกับแม่ผมจากผมไปแล้ว พวกท่าหลับไปแล้วตลอดกาล 

ผมหวังว่าพ่อกับแม่จะอวยพรให้ผมนะ ร่างบางคิดในใจก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะ แล้วค่อยๆปิดตาลงราวกับพาตัวเองไปอยู่ในความทรงจำในอดีตอีกครั้ง ปากสีแดงสดยกยิ้มให้กับอดีตของตน อดีตที่ตรงข้ามกับปัจจุบันเสียเหลือเกิน อดีตที่เขามีทุกอย่าง มีเขา มีแม่ มีพ่อ และมีความสุข ….

ไม่รู้ว่าหวนคิดถึงอดีตไปนานเท่าไร แต่คงนานพอจนทำให้เขาหลับไป หลับไปเจอกับอดีตที่แสนคิดถึงนั้นอีกครั้ง
แรงเขย่าเบาๆที่ไหล่เรียกให้เขากลับมาจากความฝันเพื่อตื่นขึ้นมาอยู่บนโลกความจริงอีกครั้ง ใบหน้าเรียวขาวค่อยๆเงยขึ้น ตาหวานกลมโตแววช่ำไปด้วยน้ำนิดๆค่อยๆลืมขึ้นแล้วหยี้ตาอีกครั้งเมื่อแสงจากหลอดไฟนั้นแยงตาเขาเหลือเกิน 

ฮืมม ไม่มีใครอยู่ เสร็จแล้วสินะ ร่างบางคิดในใจ

ก่อนจะมีแรงเขย่าจากข้างหลังอีกครั้งใบหน้าขาวหันไปตามแรงเขย่าแล้วพบใบหน้าคมเข้มของใครอีกคนที่เขาไม่สนิทแต่พอรู้ว่าเป็นคนๆเป็นใคร 

“ขอโทษครับ แค่เผลอหลับนะ” ร่างขาวรีบกล่าวขอโทษ 

ตอนนี้เขานั่งก้มหน้า ตามองพื้น แล้วพูดขอโทษซ้ำทั้งๆที่ไม่รู้ว่าผิดอะไร คงเป็นเพราะดวงคู่คมที่จ้องมองเขาอยู่อย่างดุๆ ไหนจะปากสวยรับรูปหน้าคมที่กำลังเม้มริมฝีปากเข้าหากันเหมือนกลั้นอารมณ์ไม่ให้ปะทุออกมานั้นอีก 

ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งนิ่งๆ ก้มหน้าก้มตา ในหัวก็คิดว่าเพื่อนเขาอีกสองคนไปไหน ทำไมไม่ปลุกทิ้งให้เขาอยู่คนเดียวได้ไงกัน ไม่ได้โกรธเพื่อนทั้งคู่แต่แค่งงเท่านั้น 

ก่อนที่จะทำท่าจะลุกขึ้นยืนแต่น้ำหนักที่เตะตรงหัวไหล่เพิ่มมากขึ้นจนทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าคมนั้นอีกครั้ง 

“ครับ?” เขาถามออกไปอย่างงงๆ ก็เห็นบีบไหล่เขาเหมือนจะเรียกถามอะไรเลยนั่งลงตามเดิม

“....” หากแต่ร่างสูงใหญ่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ทำเพียงจ้องตาหวานของอีกฝ่ายเท่านั้น ก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากัน นั้นยิ่งทำให้ร่างบางงุนงงเข้าไปอีก 

อะไร มีอะไรเหรอ เขาคิดในใจแต่ไม่กล้าถามอีกกลัวจะแป้กอีกรอบ 

หากแต่ไม่ทันไรก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามาอีกครั้ง  แล้วตามมาด้วยเสียงดอกเข็มที่คงจะตั้งใจเซอร์ไพรส์เขาเต็มที่
 
 “เซอร์ไพร์ส สุขสันต์วันเกิดนะ นิน  อ อะ เออคือ??” ดอกเข็มพูดขึ้นอย่างเสียงดังและมั่นใจว่าเขาต้องอยู่คนเดียวแน่ๆ แต่เมื่อเห็นคนแปลกหน้าอีกคน เสียงที่พูดก็ตะกุกตุกักขึ้นมาเฉยๆ 

“เฮ้ยยยยย !! ” กัณณ์ที่เดินถือของขวัญตามมาข้างหลังเอ่ยออกมาอย่างแปลกใจที่เห็นใครอีกคนอยู่ด้วย

สายตาสองคู่ที่มองสลับไปมาระหว่างเขากับเจ้าของใบหน้าคมติดดุ ก่อนจะจบลงที่มือหนาที่ตอนนี้ก็ยังคงวางอยู่ที่ไหล่เขา 
ร่างหนาที่เห็นดังนั้นก็ไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่เอามือหนาออกจากไหล่เขาเท่านั้น 

“พ พี่มีอะไรรึเปล่าครับ” กัณณ์รวบรวมความกล้าแล้วพูดออกไปด้วยความสงสัย
 
“เปล่า” เจ้าของร่างหนาที่เต็มไปด้วยมัดกล้าเนื้อเอ่ยตอบกลับไป 

“งั้นพวกเราขอตัวก่อนนะคะ” ดอกเข็มรีบตอบกลับไปทันที เพราะติดว่ากลัวตาคมที่มองมาที่ตนและเพื่อนเหลือเกิน ว่าจบดอกเข็มก็กวักมือเรียกเพื่อนสนิทที่นั่งงงให้รีบลุกขึ้นแล้วรีบไปกัน 

เขาเห็นดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นยืนแล้วเดิมอ้อมร่างหนา รีบตามไปสมทบกับเพื่อนที่ยืนค่อยอยู่แต่ร่างบางก็ชะงักอีกครั้ง เมื่อเจ้าของใบหน้าคมเอื้อมมือมาจับที่ต้นแขนเขาไว้อีกครั้ง 

“ครับ?” เขาหันไปถามเจ้าของหน้าคนทรงเสน่ห์อีกครั้ง 

“วันเกิดเหรอ?” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยขึ้น
 
“ครับ” เขาก็ตอบกลับไปงง 

ทำไม มีอะไร  พี่ทิศจะมาถามทำไม 

“ มีความสุขมากๆนะ นิน” 

“ครับ ขอบคุณครับ” เขาตอบกลับไปแล้วรีบเดินไปหาเพื่อนที่ยืนมองด้วยความงุนงง หากแต่ก่อนที่ใครจะถามอะไรออกมาทั้งสามก็ผลักประตูแล้วเดินออกจากห้องประชุมไป 

แล้วระหว่างทางเดินไปยังห้องสอบเพื่อนเขาทั้งสองยังคงคุยกันเรื่องชายหนุ่มคนดังที่อยู่ๆก็มาคุยกับเขา เขาจากที่เดินฟังเพื่อนเดานู้นนี้อยู่สักพักก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ เขารู้จักพี่ทิศหน่ะไม่แปลกแต่ที่แปลกคือพี่ทิศรู้จักชื่อเขาได้ไงกัน

นิน? งั้นเหรอ พี่ทิศ รู้ได้งั้นว่าเขาชื่อ นิน 
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2016 09:07:04 โดย Jindkyp »

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 1
«ตอบ #2 เมื่อ28-05-2016 22:50:52 »

สงสัยด้วยคนค่ะเห็นเเววละมุน55555

ออฟไลน์ Jindkyp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 1
«ตอบ #3 เมื่อ29-05-2016 15:43:55 »

Chapter 2


จบแล้ว จบแล้วครับ 4 ปีของผม เขายิ้มให้ตัวเองนิดๆ แล้วหมุ่ยหน้าลงเมื่อคิดถึงอนาคต 

“เอาไงต่อ หางานทำหรือกลับไปบ้านคุณลุงก่อน” เขาบ่นพึมพำ

แปะ มือลึกลับวางลงบนไหล่เขาแล้วค่อยตามมาด้วยเสียงของเพื่อนสนิทผู้ชายคนเดียวของเขาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา

“บ่นอะไรของมึง นิน แล้วนี่เป็นอะไรขมวดคิ้วทำไม?” 

“เปล่า กัณณ์ กำลังคิดว่าจะเอาไงต่อดี”

“สมัครงานกับกูป่ะ กูว่าจะลองยื่นที่บริษัท XXX ดู มึงเอาด้วยป่ะ”

“XXX เหรอ? อือๆ ลองยื่นไปดูเพื่อๆไว้ไม่เสียหาย” ตัวเขาก็เล็งบริษัทนี้ไว้เพราะเห็นว่าเปิดรับสมัครอยู่หลายตำแหน่ง

“เข็มละ เสร็จยัง? จะนั่งทำอีกนานไหม กูหิวข้าว!” 

“อีกเดี๋ยวคงเสร็จ”

“ไม่เสร็จก็ต้องส่ง จะหมดเวลาสอบแล้ว”

“ทนอีกแปบไม่นานก็เสร็จ เดี๋ยวก็ได้กินข้าวแล้ว”

เพื่อนเขาก็เป็นงี้ สอบเสร็จแล้วต้องไปกินข้าวก่อนอย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง กัณณ์บอกว่าตอนสอบต้องใช้พลังงานเยอะ ดังนั้นสอบเสร็จก็ต้องกิน อันนี้เขาก็เห็นด้วย สอบเสร็จทีไรหมดแรงทุกที
 
“กว่าจะออกมาได้นะคุณเธอ รอนานมากกกก”

“ตัวสุดท้ายก็ต้องทุ่มสุดตัวสิ ไปกินข้าวกัน จะกินที่ไหน?”

“นิน มึงจะกินข้าวที่ไหน”

“โรงอาหารกลางละกัน ไม่ไกลดี”

“อืม งั้นเดิน ขี้เกียจขับรถไป” จากนั้นดอกเข็มก็บ่นอะไรอีกยืดยาว เขาไม่ได้ตั้งใจฟังมากนักหรอก ปล่อยให้ดอกเข็มคุยกับกัณณ์แทน

มันก็เป็นแบบนี้ตลอด ผมชอบฟังคนอื่นพูดมากกว่าพูดเองยิ่งอยู่กับดอกเข็มและกัณณ์ที่ช่างพูด ผมเลยหมดโอกาสไปปริยาย แต่ผมชอบเพื่อนทั้งคู่นะ ดอกเข็มที่เหมือนจะพูดไม่หยุดแต่ก็ยังพยายามลากผมเข้าร่วมวงสนทนาตลอด ส่วนกัณณ์ถึงมันจะหยาบคายไปบ้างแต่มันก็เรื่องปกติของเพื่อนกัน
 

พอถึงโรงอาหาร พวกเขาก็รีบหาโต๊ะนั่งกันเมื่อได้โต๊ะนั่งเรียบร้อย กัณณ์ก็เรียกเขา
 
“นิน มึงเฝ้าโต๊ะก่อน เดี๋ยวกูไปซื้อข้าวแปบ หรือไงจะให้กูซื้อให้เลยไหม”

“ไม่ต้อง อยากเดินไปดูเองมากกว่า”

“อือ งั้นเข็มไปกัน” แล้วทั้งคู่ก็เดินไปต่อแถวร้านข้าวร้านประจำ

ผมไม่แปลกใจนะถ้าคนอื่นจะคิดว่าทั้งคู่เป็นแฟนกันเพราะพูดไปหัวเราะคิกคักไปอย่างนั้นคนอื่นก็พลอยคิดว่าทั้งคู่คบกันอยู่ ไม่นานทั้งคู่ก็เดินมาพร้อมจานราดแกงร้านประจำ 

“นิน เอาน้ำอะไรเดี๋ยวไปซื้อให้ มึงด้วยเอาน้ำไรกัณณ์”

“น้ำเปล่า” ผมตอบ

“ตามนั้นเข็ม ขอบใจ”

ผมเดินไปเข็มก่อนจะแยกกันเมื่อผมอยากไปกินก๋วยเตี๋ยวซึ่งร้านอยู่ตรงกันข้ามกับร้านน้ำ พอได้ก๋วยเตี๋ยวมาก็เดินกลับมาที่โต๊ะก็เจอเข็มที่นั่งอยู่แล้ว ทั้งเข็มและกัณณ์คุยกันเรื่องข้อสอบ เรื่องสมัครงาน และอีกสารพัดเรื่อง โดยที่ผมพูดคุยบ้างเล็กน้อยตามประสาคนพูดน้อย 

“เออมึง รู้จักพี่ทิศด้วยเหรอ”

“ว่าจะถามนินอยู่พอดีเลย กัณณ์มึงทำดี 5555” เข็มว่าพลางหัวเราะเบาๆ 

“ก็รู้จัก”

“เป็นการส่วนตัว?” กัณณ์ถามต่อ

“เปล่า รู้แค่พี่เค้าเป็นรุ่นพี่”

“แต่พี่ทิศรู้จักนินนะ”  ดอกเข็มพูด

“อือ งงๆอยู่เหมือนกัน ไม่เคยคุยกันนะ”

ตอนนี้หัวข้อที่ตกเป็นประเด็นอยู่คือเรื่องคนดังที่เข้ามาปลุกเขานั้นเอง พี่ทิศหรือทศทิศ อดีตหนุ่มคนดังประจำมหาลัยเพราะเค้าโครงหน้าลูกครึ่งคมเข้ม นัยน์ตาแปลกสีน้ำตาลอ่อนเหลือบเทาที่ติดจะดุตลอดเวลา ไหนจะจมูกโด่งเป็นสันเขื่อนอีกยิ่งขับให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้นจนสาวๆหลงใหล รูปปากสวยที่นานๆจะเอ่ยเสียงทุ้มให้ได้ยินสักครั้งก็ยิ่งทำให้ชื่อของพี่ทิศยิ่งดังเข้าไปใหญ่ ประกอบกับร่างสูงใหญ่ตามสไตล์คนมีเชื้อลูกครึ่งที่ กล้ามเนื้อแน่นที่บ่งบอกว่าคนๆนี้รักษาหุ่นอยู่พอควรยิ่งทำให้ได้รับเสียงกรี๊ดเข้าไปใหญ่ 

เขาจำได้ดีเพราะตอนเขาเพิ่งเข้าปี 1 ใหม่ๆ รุ่นพี่ปี 3 คนนี้เป็นที่เอ่ยขวัญในหมู่เฟรชชี่ปี 1 เป็นอย่างมาก เหล่าผู้หญิงก็อยากควงแขน ส่วนผู้ชายก็ยกเป็นให้ไอดอลเพราะรูปหล่อ เรียนเก่ง ฐานะดี ถือว่าเป็นที่หมายปองเบอร์ต้นของมหาลัยเลยก็ได้ แต่สมัยที่พี่ทิศยังเรียนอยู่ เขาก็ไม่เคยพูดคุยอะไรกับอีกฝ่าย มีบ้างที่เจอกันปะปรายตามประสาคนเรียนคณะเดียวกัน   

จะเคยคุยได้ไง อีกฝ่ายเป็นคนดังส่วนเขามันคนในมุม   

“แต่พี่เค้าเรียกชื่อมึงนะนิน”

“ใช่ แต่ไม่เคยคุยกันไง”

“แปลกๆนะเข็มว่า”

“มึงเคยไปปล่อยไก่ต่อหน้าพี่เค้าไหมละ เค้าถึงจำชื่อมึงได้”

“ไม่นะ ไม่เคย”   อือ ตอนปี 1 เขาไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมอะไรมากนักเพราะเขาต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย แค่ทำสองอย่างต่อวันก็หมดแรงไปปล่อยไก่ให้ใครดูแล้ว 

“เข็มอยากรู้อ่ะ ว่าพี่เขารู้ชื่อนินได้ไง อย่าหาว่ายุ่งเลยนะ” หญิงสาวว่ายิ้มแหย่ๆ 

“ไม่ว่าหรอก เราเองก็อยากรู้”  “แต่ช่างเถอะ คงไม่ได้เจอกันอีกหรอก พี่เค้าก็ทำงานแล้ว เราก็เรียนจบแล้ว” เขาว่าจัดบทเสียทั้งๆที่ในใจก็ยังค้างคาอยู่ 

เพื่อนทั้งสองที่ได้ยินเจ้าตัวพูดอย่างนั้นก็ชวนคุยเรื่องอื่นแทน จนทานข้าวกันเสร็จลุกขึ้นเก็บจานแล้วเดินกลับไปที่รถของดอกเข็มเพื่อแยกย้ายกันกลับหอ


 
“มึงทำเรื่องย้ายออกรึยัง นิน”

“ทำแล้ว”

“แล้วระหว่างรอสัมภาษณ์งานมึงไปอยู่ไหน มาแชร์ห้องกับกูป่ะ นี่กูหาห้องใกล้บริษัท XXX ได้แล้วนะ มาไหม”

“บริษัท XXX เหรอ เข็มเห็นเค้าประกาศรับหลายตำแหน่งเลยใช่ไหม”

“อือ เรากับกัณณ์เลยยื่นไปนะ เข็มละ?”

“กลับไปทำงานที่บ้านจ้า พ่อโทรมาจิกให้ไปช่วยงานทุกวันเลย”

“ดีออกได้ทำงานกับครอบครัว” เหมือนที่เขาฝันเลย 

“แต่เข็มอยากทำงานที่อื่น ได้ประสบการณ์เยอะกว่า”

“สรุปมึงเอาไงนิน แชร์ห้องกับกูไหม”

“อือๆ เดี๋ยวขนของแล้วจะบอก”

“เออ” 

จากนั้นก็คุยกันเรื่องอื่นอีกมากมายตามที่เข็มและกัณณ์จะคิดประเด็นออก ส่วนเขานั่งมองกระจกออกไปข้างนอก ปล่อยให้ความคิดมันไหลไปตามภาพที่เห็นไม่ชัดเจนนักเหมือนกับความคิดของเขา .........



อีกไม่กี่วันเขาต้องย้ายของออกจากหอเก่าไปหอใหม่ให้เสร็จ ยังดีที่ช่วงย้ายหอยังมีกัณณ์และเข็มมาช่วยย้ายไม่งั้นเขาลำบากกว่านี้แน่ๆ และตอนนี้เขายื่นใบสมัครงานไปที่บริษัท XXX เรียบร้อยแล้วรอแค่ให้ทางนู้นนัดสัมภาษณ์มา

 
ห้องใหม่ที่กัณณ์เช่านั้นใหญ่กว่าห้องเก่าของเขาอยู่มากมีห้องนอน ห้องน้ำ มุมครัวเล็กๆ ระเบียงไม่ใหญ่แต่พอให้ตากผ้าได้และโซฟาขนาดกลางกับทีวีจอแบนที่อยู่กลางห้องอีก เรียกว่าเป็นห้องที่ครบครันเลยทีเดียว 

ครั้งแรกที่เห็นห้องเขารีบถามราคาจากกัณณ์เลยทีเดี๋ยว เขากลัวว่ามันจะแพงเกินไปสำหรับเขา แต่กัณณ์บอกว่าห้องนี้เป็นห้องที่เพื่อนพี่ชายปล่อยให้เช่าคิดราคากันเอง เขาเลยสบายใจขึ้นมาหน่อยเมื่อรู้ราคา 

ถือว่าคุ้มกับราคาละนะ




“มึงงงงง  เค้าโทรมานัดสัมภาษณ์มึงยัง?”

“ยังเลย หลายวันแล้วนะ ของกัณณ์เค้าโทรมาแล้วเหรอ”

“เออ เค้าเพิ่งโทรมานัดกูเนี่ย ดีใจฉิบหาย”
 
“ดีใจด้วย เราคงอดแน่ๆ เดี๋ยวลองยื่นบริษัทอื่นอีกดีกว่าเพื่อๆไว้” เขาว่าเสียงง่อยๆ 

“มึงรอพรุ่งนี้ เพื่อเค้าโทรมาอย่าเพิ่งท้อ”

“อือ ขอบใจ” ไม่ท้อหรอกแต่เงินสำรองจะหมดก่อนนะสิ

“ไปนอนก่อนมึง อย่าคิดมากเดี๋ยวเค้าก็โทรมา นอนโว๊ยนอน” กัณณ์ว่าขึ้นเสียงดังเมื่อเห็นเขาทำหน้าเครียดๆ

ทั้งคู่เดินเข้าห้องนอนที่มีเตียงเดียวสองเตียงหากแต่อยู่คนละมุมห้อง เขาและกัณณ์แบ่งสัดส่วนห้องเรียบร้อยกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหลัง 



เขาตื่นขึ้นมาเกือบเที่ยง อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยแล้วนั่งรอสายโทรศัพท์อยู่พักใหญ่ 

เงียบสนิท ไม่มีแม้แต่เสียงแจ้งเตือนใดๆ  งานแรกของเค้าก็ชวดแล้ว เห้อออ
เขานั่งคิดเงียบๆอยู่คนเดียวในห้อง วันนี้กัณณ์นัดสัมภาษณ์งานเลยออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว

หางานใหม่ดีกว่า เขาคิดดังนั้นจึง เปิดคอมแล้วท่องอินเตอร์เน็ตเพื่อหางานต่อไป 

Rrrrrrrrrrrrrrrr

เสียงเรียกเข้าที่แผดเสียงดังขึ้น ทำให้หัวใจเข้ากระตุกวูบใหญ่ 

มาแล้วใช่ไหม งานของเขา ปากสีแดงสดคลี่ยิ้มออกมาอย่างดีใจ มือเรียวขาวเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนพื้นขึ้นมา ก่อนดูเบอร์แปลกที่โทรเข้ามา
 
นัดสัมภาษณ์งานๆ สติๆ  เขาคิด ก่อนนิ้วสวยจะกดรับสายแล้วกรอกเสียงลงไป 

>>สวัสดีครับ ภาณินครับ<<

>>ครับ โทรมาจากบริษัท XXX นะ<< เสียงทุ้มนุ่มที่ตอบกลับมายิ่งทำให้เขาตื่นเต้นเข้าไปอีก 

สัมภาษณ์งานนนน  !!!

>>ครับ<<

 >>พรุ่งนี้สะดวกเข้ามาสัมภาษณ์งานไหม<<

>>สะดวกครับ<< ตากลมโตยิ้มตามปากเรียวที่ยกยิ้มจนขึ้นสุด

>>ดี งั้นเจอที่ร้าน MMM นะครับตอน 11 โมง<< เสียงทุ้มที่บอกสถานที่นัดมาสร้างความงุนงงให้เขาไม่น้อย จนต้องเอ่ยถามออกไป

>>ขอโทษนะครับ ไม่ต้องไปที่บริษัทเหรอครับ?<< 

>>ไม่ต้องเข้าบริษัท สัมภาษณ์ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น<<

>>อ่อออ ได้ครับ<<

>>………<<

>>ครับ?<< 

>>แล้วเจอกันนะ นิน<<

 ตู้ด ตู้ด ตู้ด 

อ้าว ฮืม วางสายเฉยเลย เหมือนอีกฝ่ายจะเรียกชื่อเขาด้วยนะหรือว่าหูฟาด ช่างมันยังไงเขาก็ได้นัดสัมภาษณ์แล้ว

เยสส

มันแปลกๆในความคิดเขา มันเป็นการนัดสัมภาษณ์งานแปลกๆของกัณณ์ยังนัดไปสัมภาษณ์ที่บริษัทเลยแล้วทำไมของเขานัดไปสัมภาษณ์ที่ร้านอาหาร เขาคงรอถามกัณณ์เรื่องสัมภาษณ์งานอีกที 

ตอนเย็นบ่ายแก่ๆ กัณณ์ก็กลับมา ไม่ต้องรอให้ถาม กัณณ์ก็เปิดฉากเล่าเรื่องสัมภาษณ์งานให้เขาฟัง พร้อมทั้งบ่นออกมาว่า คนสัมภาษณ์ตนนั้นเป็นผู้หญิง เป็นหัวหน้าแผนกฝ่ายบุคคล ดุและเจ้าระเบียบมาก กัณณ์โดนถามคำถามมากมาย มีทั้งที่เจ้าตัวตอบได้และตอบไม่ได้ นั้นสร้างความหวั่นใจให้กับกัณณ์ไม่น้อยเพราะอีกฝ่ายบอกว่าจะโทรมาแจ้งผลในวันถัดไป 

เขาก็เล่าเรื่องสายโทรศัพท์ที่โทรมานัดสัมภาษณ์งานเขาในวันนี้ให้กัณณ์ฟัง กัณณ์เองก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อยเช่นกันและยินดีที่เขาได้นัดสัมภาษณ์งานเสียยกใหญ่ จนทำให้เขาลืมการนัดสัมภาษณ์ที่แปลกๆไป 
 
เขาและกัณณ์นั่งกินข้าวเย็นด้วยกันอยู่หน้าทีวีแล้วก็มีโทรศัพท์จากดอกเข็มที่โทรเข้ามาถามสารทุกข์สุกดิบพอดี กัณณ์กับดอกเข็มเลยคุยกันเสียยกใหญ่ ส่วนเขาก็นั่งกินข้าวตามองทีวีไปเรื่อยๆ เพราะเรื่องที่เขาตั้งใจจะเล่าให้ดอกเข็มฟัง ตอนนี้กัณณ์ก็กำลังเล่าอยู่ 

เขารู้สึกดีใจด้วยซ้ำที่ยังมีคนคบกับคนพูดน้อยอย่างเขา บางคนคิดว่าดอกเข็มและกัณณ์ทิ้งให้เขาอยู่คนเดียวแต่เปล่าเลย เขารู้สึกว่าเพื่อนให้ความเป็นส่วนตัวกับเขามากกว่า นั้นยิ่งทำให้เขาสบายใจและดีใจที่มีสองคนนี้เป็นเพื่อน 


 
วันนี้เขาตื่นมาเตรียมตัวจะไปสัมภาษณ์ เช็คทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน 10 โมง เสื้อผ้าหน้าผม เอกสารทุกอย่างเอาไปพรอ้มหมด ส่วนกัณณ์ก็นั่งจ้องโทรศัพท์ตั้งแต่เช้าคงรอสายแจ้งผลการสัมภาษณ์ 

“กัณณ์ ร้าน MMM อยู่แถวบริษัท XXX ใช่ไหม”

“อือ อยู่ตึกเดี๋ยวกับบริษัท XXX นั้นแหละ อยู่ชั้นแรกเลย เค้านัดมึงที่นั้นเหรอ”

“อืม”

“นัดร้านหรูนะนั้น เมื่อวานกูเดินผ่านมีแต่พวกใส่สูทนั่งกินข้าวอยู่ นัดของมึงยิ่งนึกยิ่งแปลกใจ ให้กูไปเป็นเพื่อนไหมมึง” 

“ไม่เป็นไร ไปแล้ว เดี๋ยวมาเล่า” ว่าจบ ผมก็เดินออกไป 

ไม่รู้จะเจออะไรแต่ขอให้โชคดีละกัน ......



ตึกของบริษัท XXX เป็นตึกสูงหลายสิบชั้น ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ผู้คนมากมายเดินเข้าเดินออกในตึกเป็นว่าเล่น ยิ่งช่วงใกล้พักเที่ยงคนยิ่งเดินกันให้ขวัก นั้นยิ่งทำให้เขาตื่นเต้นจนทำอะไรถูก

มือเรียวขาวสองข้างชื้นเหงื่อก่อนจะจับสายกระเป๋าที่พาดเฉียงอกแน่ราวกับเรียกกำลังใจอีกครั้งก่อนเดินไปยังร้านอาหารหรู 

ตอนนี้เขาเหมือนเด็กกะโปโลที่อยู่ท่ามกลางเหล่ามืออาชีพมากๆ เขาเดินมาหยุดหน้าร้าน MMM แล้วแต่ไม่กล้าเข้าไป อย่างที่กัณณ์บอกจริงๆ คนที่ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นคนดูดีมีฐานะทั้งนั้น ไม่ก็เป็นชาวต่างชาติที่มาติดต่อธุรกิจอะไรแน่ๆ

เอาก็เอาว่ะ ดีกว่าไม่เงินใช้ไม่มีงานทำ 
เขาไม่ชอบที่คนพลุกพล่านเท่าไร อย่างที่บอกเขามันคนในมุม

ว่าแล้วก็รวบรวมกำลังใจอีกครั้งก่อนจะเดินไปบอกเด็กต้อนรับที่อยู่หน้าประตูว่านัดสัมภาษณ์งานที่นี้ เด็กต้อนรับพยักหน้าสองสามครั้งแล้วเดินนำเขาเข้าไปในร้าน......... 
 
 
 
 
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2016 09:09:21 โดย Jindkyp »

ออฟไลน์ Jindkyp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter2 -- 29.05.59
«ตอบ #4 เมื่อ30-05-2016 15:06:00 »

Chapter 3 


เด็กต้อนรับเดินนำเขาเข้ามาจนกระทั่งมาหยุดอยู่ใกล้โต๊ะๆหนึ่ง แล้วผายมือเชิญเขาเล็กน้อย 

“เชิญครับ” 

น่ากลัวไปหน่อยไหม ถึงจะอยู่ในร้านหรูก็เถอะ ตอนนี้เขาทั้งตื่นเต้นกับการสัมภาษณ์ ร้านอาหารหรูที่ไม่เคยเหยียบเข้ามา แล้วยังกังวลกับนัดแปลกๆนี้อีก

เขาหันไปมองหน้าเด็กต้อนรับอีกครั้ง พร้อมชี้ไปที่โต๊ะที่มีผู้ชายนั่งหันหลังอยู่ 

“ครับ คุณผู้ชายรออยู่แล้วครับ”

“อ่า ขอบคุณครับ” 

พนักงานส่งยิ้มให้เขาเล็กน้อยแล้วเดินจากไป เขาก้าวเท้าเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงโต๊ะที่ว่า เขาหยุดและอนะนำตัวกับอีกฝ่าย   

“สวัสดีครับ ผมภาณินนะครับ มาสัมภาษณ์งานของบริษัท XXX ครับ”
 
“อืม นั่งสิ” 

ใบหน้าลูกครึ่งคมหันมาตอบเขา พร้อมชี้ไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงกันข้าง

“พี่ทิศ?”

“…….” หนุ่มนัยต์ตาสีแปลกไม่ตอบอะไรเพียงแค่มองหน้าคนที่เอ่ยชื่อตนออกมาเท่านั้น

บรรยากาศบนโต๊ะตอนนี้เงียบสนิท ต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไรออกมา ร่างสูงใหญ่นั่งทานอาหารที่ตนอย่างสบายๆ ขณะร่างขาวมือก็กำกระเป๋าบนตักไว้แน่นแก้ความประหม่าที่เกิดขึ้น

นี่เขาต้องชวนอีกฝ่ายคุยรึป่าว
เขาคิดในใจเงียบๆคนเดียว

“สัมภาษณ์งาน?” อยู่ๆร่างสูงที่นั่งทานอยู่ก็พูดขึ้นท่ามกลางความเงียบบนโต๊ะ มีเพียงเสียงเพลงในร้านที่คล่อเบาๆเท่านั้นที่ช่วยคลายบรรยากาศน่าอึดอัดบนโต๊ะลง

“ครับ คุณทศทิศเป็นคนสัมภาษณ์ผมเหรอครับ?”   
 
“อืม”

“’อ่า…. ครับ” แลวให้เขาทำไงต่อ สงสัยต้องรอให้อีกฝ่ายทานเสร็จก่อนแล้วคงเริ่มสัมภาษณ์

“สั่งอะไรสิ” เจ้าของผิวสีแทนอย่างคนสุขภาพดีพูดขึ้น

“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับแต่คุณทศทิศทานให้เสร็จก็ได้ ผมรอได้ครับ” เขายิ้มตอบร่างสูงเล็กน้อย

“สั่ง” เสียงทุ้มติดเข้มดังขึ้นอีกครั้ง

นี่เขามาสัมภาษณ์งานหรือมาทานข้าวกันแน่ ร่างบางเริ่มไม่แน่แล้ว

“ถ้าคุณทศทิศไม่สะดวกคุยวันนี้ พรุ่งนี้ก็ได้นะครับผมว่าง”

“…….” ใบหน้าคมไม่ตอบอะไร แต่ยกมือเรียกพนังงานในร้านแทน 

“เอาแบบนี้มาอีกเซต” 

“ได้ครับ รับอะไรอีกไหมครับ”

“ไม่ละ ขอบคุณ”

กินจุนะเนี่ย ให้เขามานั่งดูอีกฝ่ายทานรึไง ใบหน้าหวานเริ่มไม่พอใจเล็กน้อยที่ต้องมาเสียเวลาเช่นนี้แต่ทำได้เพียงกลืนความไม่พอใจนั้นลงคอไป 

พออาหารเซตใหญ่มาเสริฟ มือหนาก็ยกทั้งเซตมาวางตรงหน้าเขา

“ครับ?”

“กินข้าวก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยสัมภาษณ์”

“จริงๆไม่ต้องก็ได้นะครับ”
 
“ทานไปเถอะ” ร่างสูงว่ามาอย่างนั้น เขาเลยรีบลงมือทานอาหารตรงหน้า 

อร่อยสมกับอยู่ในร้านหรู ริมฝีปากแดงยกยิ้มก่อนเคี้ยวไปเคี้ยวมาอย่างเอร็ดอร่อย

“เหมือนเดิมเลยนะ” เสียงงึมงำจากฝ่ายตรงข้ามทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง

“ครับ?”

“เปล่า ทานต่อให้เสร็จเถอะ” 

ดังนั้นร่างบางจึงรีบทานอาหารตรงหน้าให้หมด ปล่อยให้ว่าที่นายจ้างรอนานๆคงไม่ดี 

“เรียบร้อยแล้วครับ เริ่มเลยไหมครับ” ร่างขาวว่าขึ้นหลังจากยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเรียบร้อย

“อืม แปลเอกสารได้รึเปล่าเราหน่ะ”

“เรื่องภาษาพอได้อยู่ครับ แต่ผมสมัครตำแหน่งพนักงานบัญชีนะครับ”

“ไม่เป็นไร ถ้าแปลเอกสารได้ ผมจะให้คุณมาแปลเอกสาร เงินเดือนเท่ากับพนังงานบัญชีสนใจไหม”

“อ่า ได้ครับ” 

………………

…………..

……….

……



เงียบ อ้าวไม่ถามต่อเหรอ จองหน้าอยู่ได้เป็นอะไรรึเปล่า 

“เอ่อ คือ… ไม่ถามอะไรต่อแล้วเหรอครับ”

“ก็ตกลงแล้วหนิ”

“ห๊ะ! คือตกลงอะไรครับ”

“พนักงานแปลเอกสารไง” เสียงทุ้มตอบกลับมา

“อ่อครับ แล้วผมจะทราบผลวันไหนครับ”

“ก็ตกลงแล้ว จะทราบอะไรอีก”

“รับผมเข้าทำงานแล้ว?” ร่างโปร่งว่าอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก

“ครับ”

เยสสส ได้งานแล้ว ถึงจะได้แบบงงก็ตาม เหอะๆ 

“สะดวกเริ่มงานวันไหนล่ะ”

“พรุ่งนี้เลยก็ได้ครับ”

“อืม  ส่วนมื้อนี้ผมเลี้ยง เจอกันพรุ่งนี้” 

“งั้นผมไปก่อนนะครับ ขอบคุณครับสำหรับอาหาร” ร่างขาวยิ้มตอบใบหน้าคมเข้ม  แล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากร้าน

หากคนตัวขาวสังเกตสักนิดคงรู้ว่าแววตาของคนหน้าดุนั้นมองเขาด้วยสายตาอ่อนโยนแค่ไหน………   


 
วันนี้เขาซื้อกับข้าวหลายอย่างกลับห้อง ตั้งใจไว้แล้วว่าจะเลี้ยงฉลองกับกัณณ์และจะเล่าให้กัณณ์ฟังด้วยว่า พี่ทิศเป็นคนสัมภาษณ์เขา 

เมื่อถึงห้องก็ได้ยินเสียงกัณณ์คุยโทรศัพท์เสียงดัง กำลังเล่าเรื่องที่บริษัท XXX รับตนเข้าทำงานให้ใครสักคนฟังอย่างตื่นเต้น 

ดีจัง ได้เลี้ยงฉลองทีเดียวเลย 


>>แม่ๆ แค่นี้นะบอกพ่อด้วยว่ากัณณ์มีงานทำแล้ว<<

>>เนี่ยกลับมาถึงพอดี ได้ๆเดี๋ยวถามให้แม่ถือสายแปบนะ<<

“มึงเป็นไงบ้าง แม่กูฝากถาม”

“สบายดีครับ ได้งานแล้วด้วย ฝากบอกแม่หน่อย” ผมตะโกนตอบกลับไประหว่างหิ้วถุงกับข้าวไปวางบนโต๊ะ
 
>>ได้ยินยังแม่ มันสบายดีได้งานแล้วด้วย<<

>>ได้ๆ เดี๋ยวบอกมันให้ แค่นี้นะไปฉลองก่อน สวัสดีครับแม่<<

“มึงงง โอ๊ย ตอนพี่น้อยโทรมาบอกกูนะ กูดีใจทำอะไรไม่ถูก ดีที่แม่กูโทรมาพอดีเลยบอกแม่คนแรกเลย”
 
“อือ” 5555 กัณณ์คงอยากระบายความดีใจของมันมากสินะถึงได้พูดไม่หยุดเลย 

กว่าเพื่อนเขาจะสงบสติอารมณ์ได้ก็ตอนที่เล่าเรื่องที่เจอมาเกือบจบจนคอแห้ง เขาเลยได้พักหูตอนที่มันไปดื่มน้ำ 
 
อยากโทรเล่าให้ใครสักคนฟังจัง พ่อกับแม่ครับ นินมีงานทำแล้วนะ ร่างขาวนั่งนึกใจได้แต่หวังว่าพ่อแม่เขาจะรับรู้จากที่ใดสักที่หนึ่ง 

“ไหน ของมึงเป็นไงเล่ามาดิ” กัณณ์ที่ดื่มน้ำเสร็จก็กลับมาสนใจเรื่องของเขาต่อ

เขาเล่าเรื่องที่พี่ทิศเป็นคนสัมภาษณ์เขา เลี้ยงข้าวเขา แล้วตอบรับการสมัครงานของเขาทันที 
 
นั้นทำให้กัณณ์โวยวายยกใหญ่ว่า มันไม่ยุติธรรมสำหรับเขาที่ต้องเจอพี่น้อยหัวหน้าฝ่ายบุคคลแสนเจ้าระเบียบ ไหนจะต้องลุ้นฟังผลอีก 

“มึงโชคดีตลอดเลยนะสาสสส ตอนเรียนอาจารย์ก็เอ็นดู ตอนสมัครงานก็อีก”

“ไม่ขนาดนั้น” เขาพูดยิ้มๆ แล้วก็เดินไปยกกับข้าวมานั่งกินกันหน้าจอทีวีเหมือนเดิมทุกวัน

“ว่าแต่มึง พี่ทิศเขาแปลกๆกับมึงตั้งแต่ครั้งที่แล้วแล้วนะ มึงไม่เคยรู้จักเค้ามาก่อนเหรอ?”

“ไม่เคยนะ เพิ่งเคยเจอพี่ทิศก็ตอนมหาลัยไม่เคยคุยกันสักครั้ง”

“แม่งแปลก เหมือนพี่เค้ารู้จักมึง”

“คิดไปเอง” คนตัวขาวส่งเสียงค้านออกมา

“กูแค่สมมติ สมมติว่าพี่เค้าเล็งมึงอยู่มึงทำไง?”

“เล็ง? ชอบนะเหรอ?”

“เออ ใสมากเพื่อนกู! รอมาถึงตอนนี้ได้ไงว่ะกูละงง ไม่ทันคนแบบนี้ไงพวกกูถึงได้เป็นห่วง”  หนุ่มผิวแทนว่าเสียงยียวนน้อยๆก่อนจะยัดช้อนข้าวเข้าปาก

“จะชอบได้ไงไม่รู้จักกันนะ เราก็ไม่รู้จักพี่เค้าจะชอบกันได้ไง”

“เออ เดี๋ยวกูจะรอดู มีอะไรก็มาเล่าให้กูฟังด้วย”

“อือ ขอบใจนะกัณณ์” อย่างน้อยเขาก็ยังมีเพื่อนที่เป็นห่วง

“ไม่ต้องมาทำซึ้ง กินข้าวไปมึง”

เขาพยักหน้าเบาๆไม่ได้ตอบอะไรกลับไป 
 
งั้นเหรอ พี่ทิศนะเหรอเหมือนรู้จักเขามาก่อน เหมือนจะชอบเขา ไม่รู้จักกันจะชอบกันได้ไงละ เหอะๆ
 



เขายังไม่เคยมีแฟนหรือคนรักเพราะชีวิตที่ผ่านมาเขาสูญเสียคนรักคนสำคัญอย่างพ่อกับแม่ไปแล้ว เขาไม่อยากเสียใครไปอีก ปิดตัวไม่ให้ใครเข้ามาพัวพันในชีวิตเขามากนักแล้วไหนจะทำงานส่งตัวเองเรียนอีก แค่นี้เขาก็ไม่เวลาหาคนรักหรืออะไรนั้นแล้วละ 
 
เขาและกัณณ์ก็นั่งทานข้าวฉลองกันก่อนที่ต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปธุระของตนเอง ก่อนจะเข้านอนเพื่อรอเช้าวันถัดไป เช้าวันใหม่ที่เขาต้องไปทำงานที่เดียวกับพี่ทิศ......
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2016 09:10:36 โดย Jindkyp »

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter3 -- 30.05.59
«ตอบ #5 เมื่อ30-05-2016 17:19:08 »

พี่ทิศคือดีอะงืออ55555555

ออฟไลน์ Jindkyp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter3 -- 30.05.59
«ตอบ #6 เมื่อ31-05-2016 11:57:06 »

Chapter 4


ตอนเช้าทั้งเขาและกัณณ์ต่างรีบกันแต่งตัวเพื่อไปทำงานวันแรก เขาทั้งคู่อยากไปถึงที่ทำงาานก่อนเวลาสักนิดเพื่อจะได้เตรียมตัวให้พร้อมกับงาน
 
“กัณณ์เสร็จยัง?”

“มึงเสร็จแล้วเหรอ เร็วสาสสส”

“ก็อาบน้ำแต่งตัว กระเป๋าก็จัดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว บอกให้กัณณ์จัดกัณณ์ก็บ่น”

“สัดนี้ บ่นมาก!! เหมือนเมียกูขึ้นทุกวันแหละ อยู่ห้องเดียว กินข้าวพร้อมกัน ไปทำงานด้วยกันอีก ใช่ไหมจ๊ะเมียจ้า”

“5555 เลิกเล่นเร็วเดี๋ยวไปไม่ทัน” คนตัวเล็กกว่าหัวเราะร่าอย่างไม่ซีเรียสอะไร 

“จ๊ะ เมียไปกันเถอะ” หนุ่มผิวแทนว่าก่อนจะล็อคห้องแล้วลงลิฟต์ไปด้วยกัน

“กัณณ์พูดมากจัง” อยู่ๆเสียงนุ่มก็ว่าขึ้น 

“เหี้ยยย มึงด่ากูเหรอ เจ็บสัสโดนคนแบบมึงด่า”       “ถ้ามึงรำคาญตอนกูพูดมากบอกกูได้นะ”

“เปล่าไม่ได้รำคาญแค่อิจฉา อิจฉาทั้งเข็มทั้งกัณณ์เลย” เขาพูดขึ้นขณะที่ยืนรอรถเมล์อยู่ตรงป้าย
 
“อิจฉาทำไม มึงนั้นแหละพูดน้อย น้อยจนพวกกูกังวล คิดว่าใบ้!” “มีอะไรก็พูดออกมาเถอะมึง กังวลไรก็บอกพวกกูได้ ถึงจะช่วยแก้ได้ไม่ได้อย่างน้อยมึงก็ได้ระบายออกไม่ต้องเก็บไว้คนเดียวจนหน้ายุ่ง เหมือนกูนี่พูดๆๆ จนโดนคนอื่นด่า 55555” กัณณ์กล่าวออกมาด้วยความภูมิใจ 

“อือ จะลองดู คิดยังไงก็พูด”

“เออ ควรคิดได้ตั้งแต่นานแล้วนะ” 

บรี๊นๆ 

เสียงแตรรถดังขึ้นเรียกให้ทั้งคู่เงยหน้ามองรถยนต์หรูสี่ประตู สีดำมันคันงาม จะหยุดจอดเทียบท่าตรงหน้าเข้าทั้งคู่ รถหรูที่มาจอดผิดที่ผิดทางเรียกสายตาชาวบ้านได้เป็นอย่างดี แล้วกระจกรถค่อยๆเลื่อนเรื่อยๆจนเห็นหน้าคนขับรูปหล่อที่นั่งหลังพวงมาลัย

“จะไปทำงานใช่ไหม? ขึ้นมาสิ” ทศทิศเอยขึ้นหลังจากที่เห็นเขาทั้งคู่ยังยืนเหวออยู่ 

“เดี๋ยวรถเมล์ก็มาแล้วครับ ขอบคุณมากนะครับพี่ทิศ” กัณณ์ปฏิเสธออกไปอย่างสุภาพ

“ ขึ้นมาเร็ว” 

บรี๊นๆ ๆ 

เสียงแตรจากรถด้านหลังเริ่มดังขึ้นเมื่อเห็นว่ารถคันงามหยุดจอดนิ่งว่าที่สมควรจะเป็น
 
“เร็ว” เสียงทุ้มพูดกดดันพวกเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับจ้องหน้าเขาเขม็ง 

“ครับๆพี่ นินมึงไปนั้งหน้านะ เดี๋ยวกูนั่งหลังเอง”

“อ....อือ” เขาพยักหน้ารัวๆเพราะลนลานจากสายตาคู่งามที่จ้องหน้าเขาไม่หยุด 

เมื่อพวกเขาขึ้นรถเรียบร้อย รถหรูก็เคลื่อนตัวออกไปบนท้องถนน 

เงียบ กัณณ์พูดอะไรหน่อยสิ คนนั่งหน้าอย่างเขาเกร็งตัวไปหมด ใจก็คิดอย่างให้เพื่อนคนช่างพูด พูดอะไรออกมาทำลายบรรยากาศที่แสนเงียบตรงหน้านี้ที

“สวัสดีครับพี่ทิศ ผมกัณณ์นะครับ” สุดท้ายคนช่างพูดก็ทักคนขับรถหน้าเข้ม 

“อืม”  ว่าจบ ตาก็เหลือบมามองเขาเล็กน้อย

“อ....เออ สวัสดีครับ นินครับ” เขาทักออกไปอย่างเสียไม่ได้ 

ตามมารยาทละนะ เหลือบมามองขนานนั้น
 
“กินข้าวกันรึยัง?” ร่างหนาข้างเขาพูดขึ้นมาทันทีที่เขาทักเรียบร้อย

ถามใคร เขาหรือกัณณ์ 

“เรียบร้อยแล้วครับพี่ นินทำให้กินทุกเช้า” กัณณ์ที่เห็นว่าเขาไม่ตอบสักที เลยชิงตอบเพื่อไม่ให้เสียมารยาท

“อยู่ด้วยกัน?” คราวนี้คนตัวสูง จงใจถามกัณณ์เพราะตาดุเหลือบมองหน้ากัณณ์ผ่านกระจกมองหลัง

“ครับ” หากแต่คนช่างจ้อก็ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น 

“พี่ทำงานที่ XXX ด้วยเหรอครับ นินมันเล่าว่าพี่เป็นคนสัมภาษณ์งานมัน” 

เหมือนเพื่อนเขาจะหายเกร็งแล้วนะ แต่เขายังไม่หายเลย

“ใช่” เสียงทุ้มตอบสั้นๆ

ไม่ทันให้คนพูดมากได้ถามอะไรต่อ รถสีดำคันงามก็หยุดจอดที่ใต้ตึกสูงเสียก่อน   

ถึงซะที เขาถอนหายใจเบาๆ แล้วค่อยลงจากรถไป

หนุ่มตาดุลงจากรถแล้วไปหยิบของที่ท้ายรถแล้วค่อยเดินมาหาพวกเขาที่ยืนรออยู่ จริงๆเขาไม่ได้จะรอหรอกนะ แต่กัณณ์บอกว่ามันดูไม่ดี ให้รอพี่เขาหน่อย

เป็นกัณณ์นี่ดีจริง แปบเดี๋ยวก็สนิทกับคนอื่นไปทั่ว ร่างบางที่เพิ่งคิดจะเปลี่ยนนิสัยเรื่องการพูดก็คิดในใจอย่างนั้น
“พี่ทิศ ผมช่วยถือของไหม” กัณณ์พูดอย่างกระตือรือร้น 

“ไม่ต้อง ให้เพื่อนคุณถือ เค้าทำงานกับผมยังไงก็ไปทางเดียวกัน”

“ครับ มึงไปช่วยพี่เขาถือของไป” กัณณ์ตอบรับ ก่อนจะสะกิดให้เขาเข้าไปช่วยร่างใหญ่ถือ

“อือ อ...เออ อันไหนให้ผมถือครับ” เขาถาม

“คุณถือเอกสารพวกนี้แล้วกัน กัณณ์คุณไปชั้น 53 นะ ฝ่ายบัญชีอยู่ชั้นนั้น ส่วนคุณไปกับผม” ทศทิศหันไปพูดกับเพื่อนเขา ก่อนที่อีกฝ่ายจะกดลิฟต์ชั้น 53 และ 67

“อ้าว พี่ครับนินมันก็ทำบัญชีนะ” กัณณ์ท้วงออกด้วยความสงสัย 

ใช่ เขาไม่ได้เล่าว่าเค้าทำงานแปลแทน ร่างบางยิ้มแหยๆให้เพื่อนที่มองหน้าเขาราวกับต้องการคำตอบ

“ผมให้เขามาแปลงานให้ผมแทน” ร่างสูงตอบข้องสงสัยแทน

 
เช่นเคยตอนเช้าเหล่าพนักงานบริษัทต่างรีบเข้างาน จนทำให้ตอนนี้ในลิฟต์ตัวใหญ่เติมไปด้วยคน ร่างโปร่งบางยืนหอบเอกสารเอาไว้แน่ขณะที่คนก็เบียดเขาเข้ามาเรื่อยๆ จนตอนนี้หลังเขาชิดกับอกของใครบางไปแล้ว .......
 
ตัวเลขสีแดงเริ่มเลื่อนขึ้นเรื่อยๆ พนักงานก็เริ่มทยอยออกเมื่อถึงชั้นของตน จนทำให้ตอนนี้ในตัวลิฟต์เหลือคนไม่มากนัก
หายใจได้หน่อย คนเยอะจริงๆเลยน้า xxx เนี่ย ร่างบางคิดสะระตะไปเรื่อย โดยไม่ได้สังเกตว่าตนนั้นทิ้งร่างพิงกับอกแกร่งไปเรียบร้อยแล้ว...... 



ลิฟต์เลื่อนขึ้นสูงเรื่อยๆจนสุดท้ายก็มาหยุดที่ชั้นที่ 53 

ตึ้ง 

บานประตูลิฟต์เปิดออก คนที่เหลือในลิฟต์ก็เดินออกที่ชั้นนี้จนหมด กัณณ์เลยหันมาโบกมือให้เขาน้อยแล้วเดินออกไป

“เห้อออ” เขาพ่นลมออกมาราวกับระบายที่ต้องทนเบียดอยู่นาน

กึก 

ร่างบางสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่าเขานั้นทิ้งตัวอยู่กับอกของใครอีกคน  เขาหันไปมองพร้อมยิ้มอ่อนๆให้อีกฝ่าย 

“ขอโทษครับ” เขาว่าเสียงอ่อย พร้อมก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวเพื่อทิ้งระยะห่างระหว่างเขากับคนตัวโต

“ไม่เป็นไร คุณเตรียมตัวเถอะจะถึงแล้ว” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ย

ตึ้ง 
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้ง ร่างสูงที่อยู่ในชุดสูทสีดำก็กระชับสูทตัวเองเล็กน้อยแล้วก็เดินออกไป เขาเห็นดังนั้นจึงรีบเดินตามอีกฝ่ายไปติดๆ

ชั้นนี้ไม่มีโต๊ะทำงานเลย มีแต่ห้องทำงาน แล้วเขาจะนั่งตรงไหน เขาหันซ้ายหันขวาเพื่อสำรวจชั้นนี้ แต่ที่เห็นมีแต่ทางเดินโล่งๆซ้ายขาวก็มีแต่ห้อง แต่ละหน้าห้องมีโต๊ะทำงาน 1 ตัวเท่านั้น 

สงสัยเป็นชั้นผู้บริหาร เขาคิด แล้วก็จริงอย่างที่เขาว่า เพราะเมื่อเดินผ่านห้องแรกก็เป็นแปะป้ายตำแหน่งผู้บริหารอะไรสักอย่างเอาไว้ 

ร่างสูงหยุดที่หน้าห้อง"รองประธานกรรมการ" แล้วเปิดประตูเข้า ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงคนคุยกันก่อนที่จะมีผู้หญิงวัยกลางคนเดินออกมาหาเขา 

“น้องนินใช่ไหม เอาเอกสารไปวางบนโต๊ะทำงานนะ รอแปบหนึ่งนะจ๊ะ พี่บอกให้คนไปเอาโต๊ะมาให้หนูแล้ว”
 
“ขอบคุณครับ” เขากล่าวยิ้มๆ 

“พี่ชื่อทรายนะจ๊ะ เป็นเลขาคุณทิศเค้า”

“สวัสดีครับพี่ทราย ผมนินครับ” เขาแนะนำตัวกับอีกฝ่ายพร้อมยกมือไหว้

“หนูเอาเอกสารไปวางบนโต๊ะเถอะไป คุณทิศคงรออยู่แล้วเดี๋ยวพี่ชงกาแฟคุณเค้าก่อน หนูเอาด้วยไหม” พี่ทรายบอกเขาอย่างใจดี
เขาบอกปฏิเสธและกล่าวขอบคุณไป ร่างท้วมเลยเดินไปชงกาแฟที่อีกมุมหนึ่ง ส่วนเขาก็เคาะประตูแล้วเอาเอกสารไปวางให้อีกฝ่ายที่นั่งอ่านบางอย่างอยู่แล้ว 

“นั่งรออยู่ในนี้ก่อนก็ได้ เดี๋ยวพอโต๊ะคุณมาค่อยออกไป” เสียงทุ้มกล่าวขึ้นหลังจากที่เขาวางเอกสารเสร็จ
 
“เดี๋ยวผมไปรอที่โต๊ะพี่ทรายก็ได้ครับ” ไม่รู้ทำไม พอเขาอยู่กับคนคนนี้เขาเกร็งตลอดเลย
 
สงสัยเพราะสีตาแปลกๆนั้นแน่ๆ แถมชอบจ้องเขาอีก จะไม่ให้เกร็งได้ไง 

“ที่โต๊ะพี่ทรายมีเก้าอี้ตัวเดียวหรือจะไปนั่งพื้น?” อีกคนเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารพร้อมจ้องเขาด้วยสายตากดดัน

นี้ไง สายตาแบบนี้แหละที่ทำเขาเกร็ง 

ก๊อกๆ ๆ 

“กาแฟค่ะคุณทิศ” พี่ทรายเดินมาพร้อมกาแฟและจานขนม

“ขอบคุณครับ” 

“แล้วน้องนินเอาไงดีคะ พี่บอกให้คนไปเอาโต๊ะแล้วแต่ยังไม่มาเลย”

“ให้เขารออยู่ในนี้ก่อน”

“ค่ะ” ร่างท้วมตอบรับแล้วหันมายิ้มให้เขาน้อยๆก่อนจะเดินออกไป 

นั่งก็ได้ 

เขาเดินไปนั่งที่โซฟานุ่มสีดำตัวใหญ่แล้วหันซ้ายหันขวาอย่างคนไม่รู้จะทำอะไร

เมื่อไรโต๊ะจะมา อึดอัดนะ

“อ่ะ” เขาให้ไปมองตามเสียงก็เจอ พี่ทิศถือจานขนมส่งให้เขาอยู่

“เอาไปกินพลางๆ” เสียงทุ้มว่า มือหนาก็ยื่นจานขนมมาตรงหน้าเขา
 
“คุณทิศไม่เอาไปกินกับกาแฟเหรอครับ”

“ไม่ละ” 

“ขอบคุณครับ” เขารับจานมาเสียไม่ได้ 

หื้ม น่ากินนะเนี่ย เขาคิด มือเรียวบางก็หยิบขึ้นมา 1 ชิ้นพลิกหน้าหลิกหลังเจ้าขนมนั้น แล้วค่อยส่งมันเข้าปาก 

อร่อยย 

ว่าแล้วมือขาวก็ทำหน้าที่ของมันอัตโนมัติหยิบชิ้นต่อไปส่งเข้าปากทันทีที่อีกชิ้นหมดลง
 
“หึ เด็กน้อย”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2016 09:11:31 โดย Jindkyp »

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter4 -- 31.05.59
«ตอบ #7 เมื่อ31-05-2016 12:28:04 »

สนุกมาก  มา4ตอนแรก  ทำเอาอยากรู้ว่าปมของเรื่องคืออะไร  ทำไมพี่ทิศถึงรู้จักน้องนิน  แต่ที่รู้ๆพี่ทิศเอ็นดูน้องมาก  น่ารักสุดๆ

ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter4 -- 31.05.59
«ตอบ #8 เมื่อ31-05-2016 12:55:47 »

น้องนินน่ารักมากเลย น่าเอ็นดู

ออฟไลน์ Jindkyp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter4 -- 31.05.59
«ตอบ #9 เมื่อ01-06-2016 13:02:41 »

Chapter 5



หลังจากเขากินขนมเพลินจนหมดจาน พี่ทรายก็เข้ามาบอกว่าคนได้เตรียมโต๊ะไว้ให้เรียร้อยแล้ว

ต้องขออนุญาตก่อนออกไปรึเปล่า? ขอละกันจะได้ไม่เสียมารยาท


เขาหันไปมองที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ก็เห็นร่างหนากำลังเคร่งเครียดกับการอ่านเอกสารอยู่

"ขอโทษครับ ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ พี่ทรายบอกว่าโต๊ะเรียบร้อยแล้ว"

"อืม" คนที่ติดพันกับเอกสารอยู่เอ่ยอนุญาต

เขาเดินออกจาห้องรองประธานกรรมการไปแล้วหันซ้ายหันขวาหาโต๊ะทำงานของตน

"หนูนินโต๊ะทำงานหนูอยู่นี้จ๊ะ" "เดี๋ยวพี่จะให้หนูลองแปลเอกสารนี้ก่อนนะ มีอะไรไม่เข้าใจมาถามพี่ได้ตลอดเลย"

พี่ทรายเจ้าของร่างท้วมชี้ไปที่โต๊ะทำงานที่อยู่ทางซ้ายมือของตน แล้วส่งงานที่เขาต้องแปลมาให้

ร่างบางเดินไปที่โต๊ะทำงาน วางกระเป๋าสะพายข้างลงแล้วเริ่มเอกสารที่อยู่ตรงหน้า

นินนั่งทำงานของเขาเรื่อยๆเมื่อมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจก็ถามเลขาคนเก่งเป็นบางครั้งบางคราว

"พี่ทรายผมแปลเสร็จแล้วลองตรวจดูนะครับ" เขาส่งงานที่แปลเรียบร้อยแล้วให้อีกฝ่าย

"จ๊ะ หนูวางไว้บนโต๊ะพี่เลย เดี๋ยวพี่ไปเข้าห้องน้ำแปบหนึ่งแล้วจะกลับมาตรวจให้ นิน พี่ฝากหน้าห้องคุณทิศไว้ด้วยนะ ถ้ามีคนมาขอพบก็บอกให้เขารอก่อน"

"ครับ ได้ครับ" เขาเดินไปวางงานแปลไว้ที่โต๊ะพี่ทรายแล้วเดินกลับมานั่งที่โต๊ะของตนแล้วลงมืออ่านเอกสารเกี่ยวกับบริษัทพล่างๆ


"สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าวันนี้ทิศมันมีประชุมตอนช่วงบ่ายรึเปล่า"คนแปลกหน้าร่างกายสูงใหญ่พอๆกับเจ้านายตนเดินมาถามเขา

"รอสักครู่นะครับ เลขาคุณทิศไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวก็มาแล้วครับ"

ใคร?

"ครับ  ผมชื่อ ภพ เป็นเพื่อนทิศครับ" คนผิวขาวตรงหน้าแนะนำตัวพร้อมยิ้มทักทาย

"สวัสดีครับคุณภพ ผมชื่อนินเป็นพนักงงานแปลเอกสารครับ"

"เพิ่งมาทำงานวันแรกเหรอ? ไม่ต้องเรียกผมคุณก็ได้ เรียกพี่ภพก็ได้นะยัไงก็ต้องเจอกันบ่อยๆ"

"อ่า....ครับ" เพื่อนพี่ทิศ? ทำไมไม่คุ้นหน้าเลย

คนผิวขาวร่างใหญ่ทำท่าจะถามอะไรต่อแต่พี่ทรายที่เข้าห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยก็เดินเข้ามาทักเสียก่อน

"อ้าว คุณภพ สวัสดีค่ะมานานรึยัง?"

ท่าจะมาบ่อยจริง


"สวัสดีครับพี่ทรายเพิ่งมาครับ ว่าแต่ไอ้ทิศมีประชุมตอนบ่ายรึเปล่า? ผมมีธุระจะคุยกับมันหน่อย"

"วันนี้ไม่มีนะค่ะ แต่พรุ่งนี้ไม่ว่างทั้งวันนะคะ"

"ขอบคุณมากครับ งั้นผมขอตัวไปหามันก่อนนะ" ภพหรือพิภพกล่าวขอตัวแล้วเดินไปเปิดประตู ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ผิวขาวจะหายเข้าไปหลังบานประตู

นินจึงเลิกสนใจคนแปลกหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้านายแล้วหันหน้ามาอ่านเอกสารที่อ่านค้างอยู่ต่อ



"มึงนิสัยเสียสัสๆ" เสียงคุณภพบ่นดังขึ้นให้ได้ยินทันทีที่บานประตูใหญ่เปิดออก

"เสือก" เจ้านายเขาตอบกลับสั้นๆ

"ไอ้เหี้ย หยาบคาย"

ตัวเองก็หยาบนะคุณภพ เขาคิดในใจเมื่อหูเจ้ากรรมดันได้ยินบทสนทนาระหว่างเพื่อนเจ้านายและเจ้านายตน

"ไปกินข้าว"

เอาอีกแล้ว ทำไมชอบพูดลอยๆจัง เขาคิดอยู่ในใจ

"ชวนใครละมึง มีกันอยู่ 3 คน"  คุณภพพูด
 
เออนั้นสิมีเขา พี่ทรายและคุณภพ

"ที่แน่ๆไม่ชวนมึงหรอก ภพ"

"ไปกินข้าวกัน" ร่างสูงผิวแทนหันไปตอบเพื่อนก่อนจะพูดเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือเดินมาหยุดตรงหน้าโต๊ะเขา

ชวนเขางั้นเหรอ

"ผมเหรอครับ" ถามก่อนเพื่อความชัวร์ เดี๋ยวหน้าแตกอีก

"อืม ไปกินกินข้าวกัน"

"ผมว่าจะลงไปกินกับกัณณ์ครับ" เขาปฏิเสธอ้อมๆ

"สม-น้ำ-หน้า โดนเค้าปฏิเสธ 5555" คุณภพหัวเราะร่าโดยไม่สนใจใครอีกคนที่ยืนหน้าตึงอยู่

"ไปกินข้าวจะคุยเรื่องงานด้วยหน่ะ"

"อ้างไปเรื่อยนะคนเรา" พิภพที่ยืนทำท่าเขี่ยเล็บพูดลอยๆออกมาแต่จงใจให้ใครบางคนได้ยิน

ใครอ้างอะไร

"อ่าาา ...... งั้นก็ได้ครับ" เจ้านายพูดมาขนาดนี้คงปฏิเสธได้หรอกนะ

"ไปละมึง เหยื่อเข้าปากเสือแล้วงานนี้ก็หมดสนุก" ร่างสูงผิวขาวพูดอย่างมีนัย

มือหนาก็ตบลง ป้าบๆ บนไหล่ของคนหน้าตึงที่ตอนนี้ค่อยๆคลายลง

"เออ"

"แล้วเจอกันใหม่นะครับน้องนิน" พิภพหันมาลาเขาอย่างสุภาพแล้วขยิบตาให้หนึ่งที

จะเน้นชื่อเขาทำไม คุณภพนี่แปลกคน


"อ่า....ครับ เจอกันครับ" เขายกมือไหว้แล้วยิ้มให้อย่างสุภาพ

"ไปกินข้าว" เสียงทุ้มห้วนกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง

"ครับๆ" เขารีบเก็บของแล้วเดินตามอีกคนไป



ทั้งคู่ไม่ได้ไปทานอาหารที่ไหนไกลเจ้าของใบหน้าที่มีเสน่ห์เดินตีหน้านิ่งไปที่ร้านเดิมที่นัดเขามาสัมภาษณ์งาน
เขานั่งลงเมื่อถึงโต๊ะ หยิบเมนูที่วางไว้ขึ้นมาดูรายการอาหาร

แพง แพง แพง
เขาตาแทบถลนเมื่อเห็นราคาของแต่ละจาน

ก็ครั้งที่แล้วอีกคนเลี้ยงเลยไม่รู้ราคา

ถ้ารู้ว่าแพงงี้ไม่มาหรอก  เลี้ยงเขาเลยๆ ร่างบางคิดติดตลก

ก็อาหารมันอร่อยได้กินอีกก็ดีถูกไหม คิคิ

คิ้วสวยเริ่มขมวดเป็นปมเมื่อไม่รู้จะตัดสินใจไงดี

กินหรือไม่กินดี แต่ถ้ากินเสียดายตังแย่ตั้งหลายบาท


"เลือกได้รึยัง?" ยังจะเร่งเขาอีก!

ถูกสุดก็ 500 กว่า งั้น........ไม่กินละกัน จบ

"เดี๋ยวผมนั่งเป็นเพื่อนคุณทิศดีหว่าครับ ผมดียังไม่ค่อยหิว" เขาโกหกคำโตออกไป

"เอาเหมือนกัน 2 ที่" ทศทิศหันไปบอกพนักงานรับรายการ

" อ เออ ไม่เป็นไรครับคุณทิศ ผมไม่กินดีกว่า ผมพกเงินมาไม่พอนะครับ" เขาว่าอายๆ

"ไม่เป็นไร ถือว่าเลี้ยงรุ่นน้อง คุณเป็นรุ่นน้องคณะผมใช่ไหม"

"ก็ใช่ครับแต่ว่า 2 ครั้งแล้ว" เสียงนุ่มว่าอย่างเกรงใจ

"ไม่ต้องเกรงใจหรอก คุณทำงานให้ผมผมเลี้ยงข้าวคุณ แฟร์ๆ"

"ขอบคุณครับ ผมจะตั้งใจทำงานครับ" เขาไหว้อีกฝ่ายแล้วยกยิ้มให้

พี่ทิศก็ใจดีเหมือนกันนะเนี่ย ลาภปากอีกแล้ววว
สีหน้าร่างบางคลายคิ้วขมวดลงและยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างไม่รู้ตัว


แต่แปบเดี๋ยวบรรยากาศบนโต๊ะก็เงียบอีกครั้ง

เงียบ เงียบอีกแล้ว ชวนคุยดีไหม


"ต่อไปคุณไม่ต้องเรียกผมว่า "คุณทิศ" ก็ได้เรียก "พี่ทิศ" เลยก็ได้ผมไม่ถือ" ร่างหนาพูดทำลายบรรยาศที่น่าอึดอัดลง

"จะดีเหรอครับ"

"ดีสิจะได้สนิทกัน"

"งั้นพี่ทิศก็เรียกผม "นิน" เฉยๆก็ได้ครับ" เขายิ้ม

อือ จะได้มีรุ่นพี่ที่สนิทเหมือนคนอื่นบ้าง

พี่ทิศก็ดูพูดเก่งนะ เขาคิดงั้นเพราะตอนแรกคนตัวโตตีหน้าครึมเชียว พูดก็น้อยอีกจะไม่ให้เขาเกร็งได้ไง

"ตามนั้นเลย นิน"

"ครับพี่ทิศ"



ไม่นานอาหารก็มาเสริฟ ตอนนี้พี่ทิศก็เหมือนคนละคนกับตอนที่เจอเขาครั้งแรก ตอนนั้นคนตัวใหญ่พูดน้อย รักษาภาพลักษณ์
หนุ่มเคร่งครึมสุดๆ แต่ตอนนี้คนตรงหน้าเขาพยายามชวนเขาคุยนู้นนี้นั้นตลอด เขาเริ่มผ่อนคลายสบายใจที่จะสนิทกับพี่ทิศมากขึ้น

รอยยิ้มบนหน้าหวานก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆระหว่างบทสนทนาไม่รู้เป็นเพราะอาหารรสเริศหรือหนุ่มรูปหล่อคุยเก่งตรงหน้าคนนี้กันแน่.....



ทานเสร็จทั้งคู่ก็กลับมาทำงานเหมือนเดิม พี่ทรายตรวจงานเขาเรียบร้อยแล้ว มีจุดผิดหลายที่แต่สาววัยกลางคนก็ใจดีค่อยๆสอนและอธิบายเขาแล้วลองให้เขาแปลงานอีกชิ้น

เขานั่งทำจนเสร็จก็ส่งให้พี่ทรายตรวจอีกครั้ง ครั้งนี้ก็ยังคงมีจุดผิดแต่น้อยลงกกว่าครั้งแรก ที่ทรายจึงชมเขาและให้กำลังใจในการทำงานชิ้นต่อไป


เลิกงาน

เขากำลังเก็บของบนโต๊ะอยู่แต่โทรศัพท์ก็ส่งเสียงเรียกเขาเสียก่อน

>>โหลมึง เลิกงานยัง?<<

>>เสร็จแล้ว กำลังเก็บของ<<

>>เออกูรอชั้น 1 นะรีบลงมา<<

>>อ่าๆแปบเดียว<<

>>เออๆแค่นี้แหละ<<

กัณณ์ยังมีแรงเหลืออีกเหรอ เขาเองแทบจะหมดแรงอยู่แล้ว

ตอนนี้เขาปวดหัวและปวดตามากที่สุด  ใครว่านั่งแปลงานจะสบายจริงๆเขารู้ว่าทุกอาชีพมันเหนื่อยเหมือนกันหมดแต่ปกติเขาแค่เมื่อยแขนเมื่อยขา แต่ตอนนี้หัวและตาของเขาปวดเหมือนจะแตกให้ได้

ขนาดวันแรกนะเนี่ย

"นิน เดี๋ยวกลับกับพี่"

"ขอบคุณครับ" เขาไม่คิดปฏิเสธเพราะหมดอาการเกร็งเมื่อคุยร่างสูงไปแล้วไหนจะแรงที่จะหมดลงในเร็วๆนี้อีก เขาอยากกลับไปพักเต็มทีแล้ว

"พี่ทิศ ให้กัณณ์กลับด้วยได้ไหม?" ขออนุญาตเจ้าของรถก่อนดีกว่า

"อือ แล้วกัณณ์อยู่ไหน"

"รออยู่ชั้น 1 ครับ"

"งั้นไปกัน"

"ครับ"

ทั้งคู่ลงลิฟต์มาถึงชั้น 1 สร้างความแปลกใจให้กับกัณณ์เป็นอย่างมากที่เห็นทั้งคู่ลงมาพร้อมกันและเดินคุยกันมา

นินดูสนิทกับพี่ทิศมากกว่าเมื่อเช้าอีก เขาสังเกตจากท่าทางของเพื่อนสนิทที่ตอนนี้นินดูผ่อนคลายไม่เกร็งเหมือนเมื่อเช้า ซ้ำยังกล้าพูดคุยกับพี่ทิศอีก ทั้งๆที่ปกตินินจะใช้เวลานานกว่าจะยอมพูดคุยกับใครอย่างเป็นธรรมชาติแบบนี้

ตอนเที่ยงมีไรไหมวะ หรือทำงานแล้วโดนด่าจนเพี้ยน กัณณ์คิดและจะหาคำตอบจากเพื่อนตัวเล็กให้ได้

"ไปกัน นินดูอยากพักเต็มที่แล้ว" พี่ทิศชวนกัณณ์
 
ไอ้คนนี้แปลกตั้งแต่ที่เจอกันตอนแรกแล้ว นี้ยังจะมาดูแลเทคแคร์เพื่อนเขาอีก กัณณ์ขมวดคิ้วเดินไปเงียบๆ



ทั้งสามนั่งประจำตำแหน่งเรียบร้อยแล้วรถหรูก็เคลื่อนตัวออกไป นินติดอยู่ในรถประมาณหนึ่งชั่วโมงแต่ครั้งนี้ในรถมีเสียงพูดคุยอยู่ตลอดเวลา ไม่ดูน่าอึดอัดเหมือนเมื่อเช้าอีกแล้ว.....



พอถึงหอของสองเพื่อนสนิท กัณณ์ที่ปวดเข้าห้องน้ำสุดจะทนกล่าวขอบคุณทศทิศลวกๆแล้วรีบขึ้นห้องไปก่อน ทิ้งให้เขาอยู่กับพี่ทิศสองคนอีกอีกครั้ง

"ขอบคุณอีกครั้วนะครับพี่ทิศ"

"ไม่เป็นไร พรุ่งนี้เช้าพี่มารับอย่างไงก็ทางผ่าน นินจะได้ประหยัดค่าเดินทางด้วยดีไหม" คนตัวโตกล่อม

"อ่า....ได้ครับ"

ใช่ ประหยัดค่ารถได้ตั้งเยอะ

"งั้นขอเบอร์นินหน่อยสิ ถ้าพี่ออกจากบ้านแล้วจะโทรบอก เราจะได้ไม่ต้องลงมาค่อยนาน"

"095-XXXXXXX ครับ"

"อืม จากบ้านพี่มาหอนินก็ประมาณ 20 นาที กะๆเวลาเอาก็แล้วกัน"

"ครับพี่ทิศ" "ขอบคุณที่มาส่งนะครับ" เขายกมือไหว้อีกฝ่ายพร้อมยิ้มหวานส่งไปอีกที

"ขับรถดีๆนะครับพี่"

"อืม แล้วเจอกันนะน้องนิน"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2016 09:12:19 โดย Jindkyp »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter4 -- 31.05.59
« ตอบ #9 เมื่อ: 01-06-2016 13:02:41 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Jindkyp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 5 -- 01.06.59
«ตอบ #10 เมื่อ02-06-2016 19:44:03 »

chapter 6



ตอนนี้เขาทำงานที่บริษัท XXX ได้เกือบ 2 เดือนแล้ว ทุกวันพี่ทิศจะมารับมาส่งนินและกัณณ์ ช่วงแรกๆก็แอบเกรงใจพี่แกอยู่เลยเสนอว่าจะช่วยออกค่าน้ำมันรถแต่ทศทิศก็ปฏิเสธ

ส่วนเรื่องที่เขาเกร็งเวลาอยู่ต่อหน้าพี่ทิศก็หมดไปเพราะเขาต้องเจอพี่ทิศทั้งวันเกือบทุกวันนั้นทำให้เขาสนิทกับพีทิศเข้าไปอีก

ส่วนเขาเองก็ค่อยๆปรับเปลี่ยนนิสัยตามที่กัณณ์เคยแนะนำอาจเป็นเพราะตอนนี้เขามีสังคมมากว่าแต่ก่อน ต้องติดต่องานกับฝ่ายต่างๆ ถ้าพูดน้อยเหมือนเดิมคงไม่พ้นโดนไล่ออก แต่ก็ยังมีบางที่ยังแอบคิดในใจอยู่คนเดียว

มันเป็นนิสัยหนิจะให้มาเปลี่ยนทันทีเลยก็ลำบากคงต้องค่อยๆเปลี่ยนไป

ทุกวันหยุดเขาจะนอนเอกเขนกอยู่ที่ห้องเสมอ ส่วนกัณณ์จะกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่

ถ้าเขามีคนให้กลับไปหาบ้างก็ดีไม่น้อยเขาแอบคิดในใจเสมอๆ      

ใช่ว่านินจะไม่มีญาติผู้ใหญ่ เขามีคุณลุงที่ค่อยดูแลเขามาตั้งแต่เด็กหลังจากที่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายนั้น คุณลุงมีพระคุณกับเขามากเพราะท่านค่อยดูแลจนเขาจนหายเป็นปกติ

แต่คุณลุงท่านอยู่ทางใต้ เขาเองก็ไม่สะดวกลงไปเยี่ยมบ่อยๆ จึงทำได้เพียงโทรคุยถามทุกข์สุขกันเท่านั้น

เอาไว้หยุดยาวเมื่อไรค่อยลงไปหาละกันเขาวางแผนในใจเงียบๆ



ก๊อกๆ ๆ

แต่วันหยุดสุดสัปดาห์นี้คงแตกต่างจากสัปดาห์อื่นๆสักหน่อยเพราะเสียงเคาะที่หน้าประตูห้องเขา

กัณณ์เหรอ? แต่ออกไปตั้งแต่เช้าแล้วนี่หว่า?

"ครับๆ สักครู่ครับ"

ให้ออกไปทั้งบ๊อกเซอร์เขาอายตายเปลี่ยนหน่อยดีกว่า

เขาตัดสินใจเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้นก่อนออกไปเปิดประตู

"สวัสดีนิน เพิ่งตื่นนอนเหรอ" ตาคมหลุบมองอีกคนที่ใส่กางเกงขาสั้นออกมาเปิดประตู

"อ้าวพี่ทิศ สวัสดีครับ เปล่าหรอกผมตื่นนานแล้ว ว่าแต่พี่มาทำไมครับ?"

"ไม่ชวนพี่เข้าห้องก่อนเหรอ?"

"อ่า......เชิญครับ กัณณ์ไม่อยู่นะผมอยู่คนเดียว" ก็สองคนนี้เขาสนิทกันคงมาหากัณณ์

เขาชิงบอกก่อนเผื่อเจ้องของใบหน้าลูกครึ่งที่อยู่ในชุดเสื้อยืดลวดลายเท่ของแบรนด์ดังกับกางเกงยีนส์ตัวสวยจะมาหาเพื่อนเขา

ถ้ามาหากัณณ์ก็จะได้ไม่ต้องนั่งนาน

"หื้ม อยู่คนเดียว" คนรูปหล่อเอ่ยทวนอีกครั้ง

"ครับ"

"ดี จะได้จัดการง่ายๆ" ทศทิศพึมพำเบาๆแล้วยกยิ้ม

จัดการอะไร?

"ครับ?"

"ไปอาบน้ำเร็ว" ร่างสูงบอกกับเขา

"ยังไม่อยากอาบเลยครับ แล้วตกลงพี่มาหาใคร"

"มาหานินนั้นแหละ ไปข้างนอกกัน"

"ขอไม่ไปได้ไหม ผมไม่ชอบวันหยุดคนเยอะแยะไปหมด"

"ไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยเถอะ" ร่างหนากล่าวย้ำอีกครั้ง

"ถ้ายังไม่ฟังเดี๋ยวจับกินซะหรอก ขาวๆ เนียนๆ อยู่ด้วย" ปากสวยรับกับจมูกโด่งๆพึมพำเงียบๆ

"พี่ว่าอะไรนะ"

"เปล่า ไปอาบน้ำแล้วแต่งตัวให้เรียบร้อยด้วย"

ชุดตอนนี้ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรหนิ
ร่างหนาก้มสำราจตัวเอง

เขาใส่เสื้อนอนตัวเก่งที่สุดแสนจะเก่า ยืดๆย้วยๆตามสภาพที่ใช้มานาน กางเกงที่สวมอยู่ก็สั้นเหนือเข่าเล็กน้อยแต่ไม่น่าเกลียดอะไรมากมายเพราไม่ใช่ผ้าบางเบา

"ออกมารับแขกชุดนี้ได้ไงว่ะ" ปากคมก็ยังคงบ่นไม่หยุดเมื่อเห็นเจ้าของห้องไม่เดือดร้อนเรื่องการแต่งกายของตัวเองเท่าไร

นัยต์ตาสีแปลกมองเจ้าของห้องที่เดินอืดอาดไปอาบน้ำราวกับอวดเรือนร่างและท่อนขาเรียวเนียนนั้น

"จับกินขึ้นมาแล้วจะร้องนะน้องนิน"

"...พ พี่มีไรไหม" เหม่ออะไรอยู่

เขาได้ยินเสียงคนเรียก นินๆ ก็คิดว่าอีกฝ่ายเรียก

"เปล่า รีบๆอาบเดี๋ยวนั่งรออยู่นี้" ทศทิศชี้ไปที่โซฟาตัวเดียวของห้อง

"อือ รอแปบนะ" แล้วร่างบางก็หายเข้าไปในห้องน้ำ



ไม่ต้องรอนานร่างขาวบางก็ออกมาจากห้องน้ำในชุดไปรเวทสบายๆ สวมเสื้อยืดสีน้ำเงินราคาตามท้องตลาดกับกางเกงขายาวสีดำเนื้อผ้านิ่ม

"พี่ทิศจะพาผมไปไหนเหรอ?"  "ที่คนเยอะๆผมไม่ไปนะ"

"อือไม่เยอะ มี 2-3 คนได้" เสียงทุ้มพูดยืนยัน

"ที่ไหนครับ?"
 
"บ้านพี่เอง"

"หื้มมมม ?" ร่างบางขึ้นเสียงสูงราวกับต้องการคำยืนยันอีกครั้ง

"บ้านพี่ ไปกินข้าวกัน" 

"ทำไมต้องไปบ้านพี่?" จะมารับเข้าไปทานข้าวที่บ้านทำไม แฟนก็ไม่ใช่เป็นแค่รุ่นน้องที่เพิ่งจะสนิทกันได้ไม่นานด้วย

"ก็นินชอบที่คนไม่เยอะ ไปบ้านพี่นั้นแหละสะดวกดี มีแค่พี่ แม่บ้านและเด็กอีก 2 อยากได้อะไรค่อยให้เด็กไปซื้อให้ อยากกินอะไรก็ได้กิน สะดวกดีออก"

"สะดวกแน่นะ ผมเกรงใจ"

"อือ พี่อยู่คนเดียวเหมือนกัน โทรหากัณณ์ กัณณ์ก็บอกว่านินอยู่คนเดียวพี่เลยมารับไปกินข้าว" คนตัวสูงพูดปดไปเรื่อย

"อ่อครับ"

ทำไมกัณณ์ไม่โทรมาบอกเค้าว่าพี่ทิศจะมานะ

"เสร็จแล้วใช่ไหม? งั้นไปกัน" ร่างสูงเดินมาจูงมือคนตัวเล็กไป

"เดี๋ยวครับ ผมยังไม่ตอบตกลงนะแค่ถามเฉยๆ" เขาแย้ง

"เอาน่าดีกว่านั่งกินข้าวคนเดียว ที่บ้านพี่กับข้าวอร่อยนะแถมฟรีด้วย ไปกันเดี๋ยวเถอะพอใกล้เที่ยงรถจะติด ไปๆๆ" ร่างหนารีบกล่อมอีกฝ่าย

"......โอเคครับ ผมเก็บของแปบ"

พอได้ยินคำว่าฟรี เขาก็พร้อมจะไปเลย 5555

นินเดินไปหายไปที่ห้องนอนแล้วหยิบโทรศัพท์ กระเป๋าตัง และกุญแจห้องใส่กระเป๋าใบเก่งแล้วเดินออกไป

"ไปครับพี่เสร็จแล้ว"

"อือ"

คนร่างเล็กล็อคห้องเรียบร้อยก็ลงลิฟต์ไปพร้อมร่างสูง ทั้งคู่เดินไปขึ้นรถแล้วมุ่งหน้าไปบ้านของคนรูปหล่อ



เขาเหลือบมองคนขับรถที่นั่งฮั่มเพลงเบาๆ
พี่ทิศเป็นคนแปลก ดูจากภายนอกไม่ได้เลยนะเนี่ย



นินและทศทิศสนิทกันเร็วอาจเป็นเพราะอีกฝ่ายชวนเขาคุยตลอด จนทำให้เขากล้าพูดคุยมากขึ้น เปิดใจมากขึ้นจนสนิทกันในที่สุด ยิ่งสนิทกับทศทิศเขายิ่งสบายใจ เหมือนได้เพื่อนเก่ากลับคืนมา พี่ทิศมีบางอย่างเหมือนกับคนที่เขาเคยรู้จักในอดีต

ถึงจะจำชื่อเพื่อนเก่าไม่ได้แต่ความรู้สึกที่ส่งมาให้ก็เหมือนกันละนะ

ผ่อนคลายยามพูดคุย อุ่นใจยามเจอหน้า ความรู้สึกนี้มั้งที่คนนั้นในอดีตและคนที่นั่งข้างเขาอยู่ในตอนนี้มีให้เขาเหมือนกัน

"มีอะไรนิน นั่งยิ้มอยู่คนเดียว" คนที่โดนนึกถึงอยู่ก็พูดขึ้น แล้วหันมายกยิ้มอบอุ่นให้

"เปล่าครับ พี่ตั้งใจขับรถเถอะ"

"ระวังเป็นพิเศษอยู่แล้ว"

"ครับๆ แล้วทำไมพี่อยู่บ้านคนเดียวละ คนอื่นไปไหนกัน"

"พ่อกับแม่ไปต่างประเทศ ไปพักผ่อนกันนะ"

ดีจังเลยนะ รวยก็รวย ครอบครัวยังอบอุ่นอีก


"ถามทำไม อยากไปฝากเนื้อฝากตัวเหรอ" ร่างสูงแหย่อีกคน

"เปล่าก็พี่บอกว่าอยู่คนเดียวเลยสงสัย" ร่างบางรีบกล่าวแก้ตัว

"อืมม พวกท่านไปพักผ่อนกันแต่ปล่อยให่พี่ทำงานหาเงินอยู่คนเดียว น่าสงสารเนอะ" ใบหน้าหล่อรีบกล่าวรีบคะแนนความสงสาร
ก็หนักจริง พี่ทิศมีประชุมทุกวันเลยช่วงนี้ เห็นว่าจะมีโครงการใหม่อะไรสักอย่างพี่ทรายบอกเขาอย่างนั้น

"สู้ๆครับ คนอื่นก็เหนื่อยเหมือนกันพี่ อดทนไว้ครับ" เขาให้กำลังใจอีกฝ่าย

"ขอบคุณครับ จะตั้งใจทำงานเลย" ร่างสูงว่าอย่างเป็นกันเอง

เขายิ้มหวานตอบอีกฝ่าย



โชคดีวันนี้รถไม่ติดมากนักคงเป็นเพราะยังเช้าอยู่ รถหรูเลยมาถึงที่หมายเร็วกว่าที่เขาคาดไว้ตรงหน้าเขาเป็นบ้านสองชั้นหลังใหญ่ ใหญ่มากในความคิดเขา ส่วนตัวบ้านเป็นสไลต์โมเดิร์นทาสีครีมและน้ำตาลเป็นหลัก มีสีดำและสีขาวแซมบางเล็กน้อยตามขอบประตูหน้าและหน้าต่าง ประตูหน้าต่างทุกบานยังดูใหม่เอี่ยมอ่องคงเป็นเพราะได้รับการดูแลอยู่ตลอด ดูเป็นบ้านที่เน้นการอยู่อาศัยมากกว่าอวดความร่ำรวยนั้นยิ่งเสริมให้บรรยายกาศของบ้านดูอบอุ่นยิ่งนัก


มีสวนหย่อมพอวิ่งเล่นได้อยู่หน้าบ้าน มุมหนึ่งของสวนมีดอกไม้หลากหลายชนิดปลูกอยู่ ทั้งกุหลาบที่เริ่มเป็นดอกตูม ดอกบานไม่รู้โรยที่ชูดอกรอรับแสงพระอาทิตย์ ดอกมะลิสีขาวที่เริ่มส่งกลิ่นหอมอ่อนๆมาตามสายลม คุณนายตื่นสายหลากสีสันก็ค่อยๆบานยู่ที่พื้นหญ้าเขียว โดยรวมสวนหน้าบ้านดูรื่นรมไม่น้อยเพราะนอกจากพวกดอกไม้แล้วยังไม่ต้นไม้สูงใหญ่อยู่ด้วย

ต้องมึคนดูแลสวนแน่ๆไม่งั้นคงกลายเป็นป่า เขายิ้มขำกับความคิดตัวเองโดยไม่ได้สังเกตว่ารถที่ตนนั่งมานั้นจอดสนิทอยู่ที่โรงรถที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับสวนหน้าบ้านแล้ว

"ถึงแล้วครับ ลงกัน" เสียงทุ้มดึงความคิดเขากลับมา

เป็นรถรวยที่มีรถน้อยแหะ เพราะโรงรถมีขนาดเล็กเหมือเทียบกับสวนหน้าบ้าน แถมรถที่จอดอยู่ก็มีเพียงคันเดียวบวกกับคนพี่ทิศก็เป็น 2 คัน แต่ดูจากที่จอดน่าจะจอดได้ 3 คัน

คิ้วสวยขมวดเป็นปมจนอีกคนหัวเราะ

"มีอะไรกับโรงรถบ้านพี่ไหม?"
 
"คิดว่ารถจะมีเยอะตามประสาคนรวยอ่ะ บ้านพี่มีรถกี่คัน?" เขาถามตามที่สงสัยอยู่

"3 นี้ของพ่อ อีกคันจอดอยู่สนามบิน" ร่างสูงเฉลยข้อสงสัย

"อ่อออ"

"มีอะไรอีกไหม?" คนตัวโตกล่าวอย่างอารมณ์ดี

"ไม่มีแล้ว" เขาว่าอย่างอายๆเมื่อนึงถึงความจุ้นจ้านของตัวเอง

เจ้าของบ้านเดินนำคนตัวเล็กไปที่ตัวบ้าน ก่อนจะหันมาจูงมือเขาแล้วพาเข้าไปในบ้าน

"ยินดีต้อนรับสู่บ้านพี่ครับน้องนิน" ......

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2016 09:12:53 โดย Jindkyp »

ออฟไลน์ Jindkyp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 6 -- 02.06.59
«ตอบ #11 เมื่อ03-06-2016 19:28:14 »

chapter 7




เจ้าห้องบ้านพาเขามานั่งในห้องรับแขกแล้วบอกให้นั่งรออยู่ตรงนี้ ก่อนที่ร่างสูงจะหายไปหลังบ้าน แต่ไม่นานก็มีเด็กมาเสริฟน้ำกับขนมให้เขาทานเล่นระหว่างรอร่างสูงอีกคน เขาเองก็เก้อเขินไม่น้อยเมื่อมานั่งอยู่ในที่ไม่คุ้น ตาสวยกลมโตค่อยๆมองสำรวจนั้นนี้อยู่เรื่อยๆ

ตรงหน้าที่เขานั่งมีโต๊ะกระจกดีไซน์เก๋วางคั่นอยู่ระหว่างโซฟากับทีวีจอแบนขนาดใหญ่ ด้านข้างของโทรศัพท์เป็นชั้นวางของแบบบิ้วอินทั้งสองข้าง มีทั้งรูปเดียว รูปคู่และรูปครอบครัววางอยู่บนนั้นเต็มไปหมด

นอกจากนี้ยังมีของตกแต่งสไลต์โมเดิร์นตั้งอยู่ให้รับกับสไลต์ของบ้าน ด้านซ้ายมือของเขาเป็นตู้หนังสือขนาดใหญ่ที่มีหนังสือทั้งไทยและเทศเต็มไปหมด ส่วนเท้าขาวกระดิกไปมาบนพรมหนานุ่มที่ปูรองพื้นเอาไว้

เขาดื่มน้ำและขนมจนใกล้จะหมดก็นึกถึงคนที่พาเขามาที่นี้

พี่ทิศหายไปไหน? เขาเริ่มชะเง้อหน้ามองดูตามทางที่ร่างสูงเดินหายไป

ชะเง้อหน้ามองหาอยู่ไม่นานก็เจอกับร่างของหญิงสูงวัยคนหนึ่งที่อยู่ในชุดเสื้อลูกไม้คอกลมแขนสั้นกับกระโปรงผ้าถุงยาวที่กำลังเดินมาทางเขาพอดี เขาเลยตัดสินใจทักอีกฝ่าย

"สวัสดี ผมชื่อนิน คือผมมากับพี่ทิศ แล้วอ เออตอนนี้พี่ทิศอยู่ไหน เค้าบอกให้ผมนั่งรออยู่ตรงนี้" เขารีบแนะนำตัวเพราะกลัวอีกฝ่ายจะเข้าใจตนผิด

"ไหว้พระเถอะลูก ป้าชื่อยงค์นะจ๊ะเป็นคนดูแลบ้านนี้ คุณทิศบอกป้าแล้วว่าพาเพื่อนมาทานข้าว" เสียงนุ่มเย็นเอ่ยอย่างใจดี

"ไปกับป้าไหมลูก ไปช่วยคุณทิศอาหาร ไม่รู้นึกสนุกอะไรขึ้นมา" ป้ายงค์พูดยิ้มๆ

"อ่าาา... ก็ดีครับ" ก็เขานั่งจนเบื่อแล้วจะเปิดทีวีก็ไม่กล้าจะให้เดินสำรวจบ้านคนอื่นก็ดูไม่ดี

"ไปกันคะ เด็กมันไปตามป้ามา บอกว่าคุณทิศเรียกให้ป้าไปช่วยทำกับข้าว" เสียงของหญิงสูงวัยกล่าวเรื่อยๆ

เขารีบลุกขึ้นเดินตามหลังของป้ายงค์ทันที

"หนูทำอาหารเป็นไหมลูก?"

"พอทำได้ครับแต่ไม่เก่ง" เขาตอบเสียงเบา

"ฮ่าๆ ก็ยังดี คนหนุ่มคนสาวเดี๋ยวนี้ทำอาหารไม่ค่อยเป็นกันแล้ว"

"แต่ขนาดพี่ทิศยังทำเป็นเลย" เขาเองก็อยากจะเห็นกับตาว่าคนอย่างทศทิศทำอาหารเหมือนกัน

"คุณเค้าบอกว่าหัดไว้ ไว้ทำให้คนรักทาน" ป้ายงค์ว่ายิ้มๆก่อนจะหันมาเหลือบมองเขา



ป้ายงค์เดินนำเขาไปทางหลังบ้านซึ่งเป็นห้องครัวที่มีขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กหากแต่มีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือครบถ้วน เขาหยุดมองภาพที่ปรากฏอยู่ที่ประตูครัว มันเหลือเชื่อมากที่คนดูนิ่งๆครึมๆอย่างทศทิศจะทำอาหารคล่องแคล่วชายหนุ่มหน้าลูกครึ่งสวมผ้ากันเปื้อนไว้ที่เอว มือข้างหนึ่งก็จับด้ามกะทะอีกข้างก็จับตะหลิวแล้วผัดไปผัดมา

พ่อครัวมาเองเลยแฮะ


"คุณทิศคะ จะให้ป้าช่วยทำอะไรดี" ป้ายงค์เดินเข้าไปในครัวแล้วเอ่ยถามอีกฝ่ายที่กำลังวุ่นอยู่กับการชิมอาหารในกะทะ

"ป้าครับ ช่วยเพิ่มน้ำซุปในหม้อต้มกระดูกหมูหน่อย ช่วยดูด้วยนะครับว่าได้รึยัง แล้วก็จัดจานได้เลยนะครับ" พ่อครัวคนใหม่บอกหญิงสูงโดยไม่ได้หันมามองแขกของบ้านที่ยืนดูอยู่ประตู

"ได้ค่ะ หนูนินลูกไปหยิบถ้วยจานมาเลยลูก" ป้ายงค์ตอบรับร่างสูง ก่อนจะยิ้มให้เขาแล้วหันมาถาม

"ฮื้ม?"  "อ้าว นินทำไมไม่รอที่ห้องรับแขก"  ร่างสูงที่ได้ยินแม่บ้านคนเก่งเรียกชื่อเขาก็หันมาแล้วทำหน้าฉงนแวบหนึ่งแล้วถามเขากลับ

"คือพี่หายไปนาน นั่งรอจนเบื่อป้ายงค์เลยชวนมาช่วยที่ครัวครับ" เขาตอบอีกฝ่ายพร้อมเดินไปที่เก็บถ้วยจานแล้วหยิบจานออกมา 3 ใบ

"อ  อ๋อ อือ" ร่างสูงพูกตะกุกตะกักเล็กน้อยแล้วหันไปผัดต่อ

"พี่ผัดอะไรอยู่หน่ะ" เขาถามเพราะกลิ่นมันเตะจมูกเขามากจริงๆ

"บล็อคโคลี่ผัดกุ้ง" เอื๊อก เขากลืนน้ำลายลงคอทันที

ของโปรดเขาเลย


"อ่อ หอมดี" เขาบอกพ่อครัวหน้าหยก

"อืม ดีแล้วแต่ไม่รู้รสชาติจะถูกปากรึเปล่า" พ่อครัวพูดก่อนเอื้อมมือไปปิดไฟลงแล้วเดินไปที่หม้อต้มกระดูกหมูที่ป้ายงค์กำลังคนอยู่

"ป้าว่าได้รึยังครับ ผมกลัวหมูมันจะไม่นุ่ม" ร่างสูงถามคนสูงวัย

"ตั้งไฟไว้อีกแปบก็ได้แล้วค่ะ คุณทิศกับหนูนินยกที่เหลือไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวต้มกระดูกหมูป้ายกตามไปทีหลัง"

"งั้นก็ได้ครับ ป้ามาทานกับผมไหม"  พี่ทิศชวนแม่บ้านอย่างป้ายงค์อย่างใจดี ไม่เจ้ายศเจ้าอย่างผิดกับลุคคุณชายขณะที่มือหนาก็ตักอาหารใส่จานต่างๆ

"โอ๊ยยย ไม่เป็นไรค่ะ คุณทานกันเถอะ เดี๋ยวป้าต้องไปคุมเด็กๆมันทำความสะอาดหลังบ้านอีก" ป้ายงค์ตอบอย่างขอบคุณในน้ำใจของคนร่างสูง



เมื่อทศทิศตักอาหารเสร็จเขาก็เดินมาช่วยยกกับข้าวออกไป วันนี้มี 4 เมนู คือ บล็อคโคลี่ผัดกุ้ง ผัดเปรี้ยวหวาน เต้าหู้หมูสับและต้มกระดูกหมู  ถึงแม้ว่าใน 4 เมนูนี้มี 1 อย่างที่เขาไม่ค่อยชอบกินหากแต่เขาก็ไม่ใช่คนเลือกดังนั้นถ้าเมนูไหนอร่อยเขาก็กินได้หมด

เจ้าของบ้านถือโถ้ข้าวและบล็อคโคลี่ผัดกุ้งส่วนเขาถือผัดเปรี้ยวหวานและเต้าหู้หมูสับ เขาเดินตามร่างสูงที่เดินออกทางประตูด้านข้างของห้องครัวซึ่งเชื่อมต่อกับห้องทานข้าวขนาดกลาง

กลางห้องมีโต๊ะกระจกที่ถูกเช็ดจนแวววางอยู่ บนโต๊ะมีกล่องกระดาษทิชชู่ที่พร้อมใช้งานและแจกันแก้วอันเล็กที่มีดอกคาร์เนชั่นสีแดงสดปักอยู่ทำให้โต๊ะดูน่านั่งไม่น้อย รอบๆโต๊ะก็มีเก้าอี้ 6 ตัวที่ทำจากกระจกเช่นเดียวกันแต่ส่วนขาเก้าอี้นั้นทำด้วยเหล็ก
ถือว่าเป็นห้องทานข้าวที่สวยอยู่ไม่น้อย

เขาวางจานกับข้าวลงบนโต๊ะตามคนตัวสูงหน้าหล่อทำแล้วก็ยืนนิ่งอยู่กับที่เพราะไม่รู้จะทำอะไรต่อ

"นั่งได้เลยนิน เดี๋ยวพี่ไปเอาจานกับช้อนส้อมเอง" ทศทิศที่เห็นร่างบางยืนเก้อก็เอ่ยปากให้นั่ง

"ให้ผมไปช่วยไหม" เขาเป็นแขกก็จริงแต่จะไม่ให้ช่วยอะไรเลยก็ดูแย่ไปหน่อย เขาจึงรีบเสนอตัวช่วย

"นั่งรอไปเถอะ เดี๋ยวพี่ไปเอาเองไม่หนักอะไร" พี่ทิศว่าแล้วกดไหล่ให้เข้านั่งลงที่เก้าอี้

"ครับ"



เขานั่งแกว่งเท้าเล่นอยู่ชั่วครู่ ป้ายงค์ก็ยกต้มกระดูกหมูมาให้

"ป้ากลัวหนูจะรอนานเลยเอามาให้ทานกันก่อนแต่นี้เนื้อหมูก็นิ่มแล้วนะ ลองชิมดูนะลูก" ป้ายงค์เอ่ยอย่างใจดี

"ขอบคุณมากครับ" เขายิ้มให้คนสูงวัยพร้อมยกมือไหว้

"จ๊ะ เดี๋ยวคุณทิศก็มาแล้วเมื่อกี้เดินสวนกับป้าในครัว หิวรึยังลูก?"

"ก็หิวแล้วครับ แหะๆ" เขาตอบตรงๆอย่างเขินอาย

"ป้าเข้าใจบูก คุณทิศก็คงหิวเหมือนกัน ออกไปตั้งแต่เช้า ป้าบอกให้ทานข้าวก่อนก็ไม่ยอม สงสัยรอทานพร้อมหนู"

"ผมเหรอครับ?" เขาถามพร้อมชี้นิ้วเข้าหาตัว

จะรอเขาทำไมกัน


"จานมาแล้ว ทานกันเลยไหม" ร่างสูงเดินถือจานกับช้อนส้อมเข้ามาแล้วชวนเขาทาน

"ก็ดีครับ" นินตอบก่อนจะยื่นมือไปรับจานข้าวที่คนตัวสูงตักให้

"ขอบคุณครับ" เขากล่าวขอบคุณอีกฝ่าย

"ทานได้เลยนิน"

"ครับ"

ถึงเขาจะตอบรับแต่ก็ไม่กล้าเอื้อมมือไปตักกับข้าวได้แต่นั่งรอให้เจ้าของบ้านตักก่อน

"อ่ะนี้ กินเข้าไป" พี่ทิศตักบล็อคโคลี่ผัดกุ้งให้เขา

"ขอบคุณครับ" เขาพูดก่อนจะตักเข้าปาก แล้วก็เริ่มชิมเมนูอื่นๆเมื่อเห็นว่าร่างสูงด้านข้างก็เริ่มลงมือทานแล้ว

"ทำงานเป็นไงบ้าง? โอเคไหม? เห็นพี่ทรายชมว่าทำได้ดีขึ้น"

"ก็ดีครับ พี่ทรายใจดีพอผมทำผิดก็สอนแต่ก็โดนดุบางเป็นบางครั้ง แหะๆ ขอโทษครับผมลืมตัว" ปกติแล้วไม่เคยมีคนมานั่งถามเขาว่าเป็นไงบ้างหรือมีคนให้เขาได้เล่าว่าวันนี้ตนไปเจออะไรมาบ้าง พอมีคนถามเขาเลยตอบไปไม่ได้คิดอะไรแต่ก็ลืมว่าคนที่นั่งกินข้าวด้วยกันตอนนี้คือเจ้านาย

เขาจึงได้แต่หัวเราะแห้งๆออกไป แล้วแก้ความเขอะเขินด้วยการตักอาหารเข้าปาก

ผัดเปรี้ยวหวานอร่อยดี เปรี้ยวๆ อื้มๆ

"อืม ที่พี่ทรายสอนก็จำๆไว้นะเพื่อต่อไปนินจะได้มาช่วยพี่ทำงานอีกคน คือหมายถึงช่วยแบ่งงานของพี่ทรายมาทำด้วยหน่ะ"

"ได้ครับ ยินดีเลยจะให้ช่วยพี่ทิศหรือพี่ทรายก็ได้ทั้งนั้นครับ" เขารีบเสนอตัวช่วยทันทีเพราะรู้ว่าทั้งสองคนทำงานหนักกว่าตนมาก

"อืม ดีแล้วทานข้าวต่อเถอะ"

พวกเขานั่งกินข้าว คุยกันไปเรื่อยๆ ป้ายงค์ก็เดินเข้ามาถามว่าต้องการอะไรเพิ่มอีกรึเปล่า เขาทั้งคู่ก็ตอบขอบคุณแล้วกล่าวปฏิเสธไป

"ป้ายงค์น่ะเป็นรุ่นพี่ของแม่ แต่ก่อนก็ทำงานบริษัทนี้แหละ แต่โดนไล่ออก แม่พี่ท่านสงสารก็เลยจ้างให้มาทำงานบ้าน จริงๆก็มาเลี้ยงพี่ด้วย พี่เลยนับถือท่านเหมือนเป็นญาติคนหนึ่งมากกว่าเป็นคนงาน" พี่ทิศเล่าเรื่องป้ายงค์แม่บ้านคนเก่งให้เขาฟังทันทีที่ป้ายงค์ท่านเดินออกไป


ชีวิตของพี่ทิศแตกต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง เพราะทศทิศมักมีคนล้อมรอบค่อยดูแลอยู่เสมอ ส่วนเขาได้อยู่กับพ่อแม่ไม่นานก็ต้องจากกัน จากนั้นเขาก็ใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอดแต่ก็โชคยังดีที่เขายังมีคุณลุงที่ค่อยเลี้ยงดูเขาอยู่ เมื่อนึกถึงความแตกต่างตรงนี้ทำให้นินนั่งก้มหน้าทานข้าวเงียบๆ รับฟังอีกฝ่ายเล่าชีวิตของตนไปเรื่อยๆ

"นินละ เมื่อก่อนหน่ะ เมื่อก่อนเป็นไงบ้าง? สบายดีไหม?" อยู่เสียงทุ้มก็เอ่ยถามเขา

"เมื่อก่อนเหรอครับ ก็ดีครับพี่ พ่อแม่ผมเสียตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมเลยอยู่กับลุงมาตลอด ส่วนใหญ่ชีวิตผมก็เรื่อยๆนะพี่ทิศ แต่ก็เหงาบ้างบางทีเพราะผมไม่ค่อยมีเพื่อนหน่ะ"

ถ้าถามว่าเขาเศร้าไหมที่ต้องเล่าเรื่องแบบนี้ให้คนอื่นฟัง มันก็เศร้าอยู่หรอกแต่ตอนนี้เขาชินและทำใจได้แล้ว ตอนเด็กๆเขาโดนล้อว่าเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อแม่ ตอนนั้นปวดใจกว่านี้เยอะแต่ตอนนี้คำพูดพวกนั้นไม่สามารถทำอะไรเขาได้อีกแล้ว

แต่ถ้ามีพ่อกับแม่อยู่มันก็ดีกว่านี้ละนะ เขาคิดอย่างเศร้าๆ

"ขอโทษนะ" ปากสวยรับกับหน้าหล่อลูกครึ่งเอ่ยขึ้นเบาๆ นัยต์ตาสีแปลกก็หลุบมองต่ำลง

"ขอโทษทำไมครับ มันไม่เกี่ยวกับพี่เลย ผมไม่ได้เศร้าอะไรแล้ว ทานข้าวกัน ว่าแต่อันนี้ใครทำคัรบ?" นินตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าบรรยากาศบนโต๊ะนั้นเศร้าหมอง

"ขอโทษ ขอโทษที่ถามเรื่องนี้ ถ้าคราวหน้านินไม่อยากพูดก็บอกพี่ตรงๆเลยพี่ไม่โกรธ ไม่ต้องฝืนเล่าหรอก พี่เข้าใจ" อีกคนกล่าวเสียงเครียด

"เล่าได้ครับพี่ มันเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว ตอนนี้ผมไม่เหงาแล้วครับ ผมมีเพื่อนแล้วแถมรู้จักคนมากขึ้นด้วย" คนที่เข้ามาในชีวิตเขาเพิ่มมากขึ้นเมื่อตอนเขาทำงานกับคนตรงหน้านี้แหละ เขาตอบอีกคนพร้อมแจกยิ้มสดใสให้

"อืม ถ้ามันทุกข์มากนักก็ทิ้งมันไว้ในอดีตนั้นแหละ จำแต่เรื่องดีๆก็พอ"

"ผมก็คิดเหมือนพี่"

"อ่ะนี้ต้มกระดูกหมูกินเข้าไปเยอะๆ นินหน่ะ enjoy eating ใช่ไหม"  ร่างสูงตักให้เขาทานอีกครั้ง

"ขอบคุณครับ แต่พี่ยังไม่ตอบเลยว่าบล็อคโคลี่ผัดกุ้งอ่ะใครทำ?"

"ทำไม ไม่อร่อยเหรอ?" เสียงทุ้มกล่าวอย่างติดกังวลนิดๆ

"เปล่าครับไม่ถึงขนาดนั้น ก็อร่อยดีแต่ติดเค็มไปหน่อย"

"งั้นเดี๋ยวสัปดาห์หน้าพี่ทำให้ทานใหม่ก็แล้วกัน"

"ง่ะ....พี่ทิศทำเองเหรอ? ขอโทษครับผมนึกว่าคนอื่นทำ" ตายยยยย มากินข้าวบ้านเขาแล้วยังวิจารณ์รสชาติอีก เขารีบก้มหน้างุดกันอายทันที

"ไม่เป็นไร พี่หัดทำไว้ ดีแล้วมีคนมาติจะได้ปรับปรุง"

"ค ครับแต่ยังอร่อยนะพี่"

"555555 เอ้านี้ ลองกินเต้าหู้หมูสับดูของโปรดพี่เอง" พี่ทิศตักอีกเมนูให้เขาลอง

"ครับ ปกติผมไม่กินเต้าหู้นะ แต่เดี๋ยวจะลองชิมดู" เขาตักเต้าหู้หมูสับใส่ปากแล้วค่อยๆเคี้ยวละเลียดชิมรสชาติอาหารจานใหม่

นิ่มๆ หวานๆ ก็ดี

"ทำไมไม่กินเต้าหู้ละ"

"ผมเคยโดนแกล้งให้กินเต้าหู้เน่าตอนเด็กนะครับ แหวะมากๆเลย พอโตมาเลี่ยงได้ก็เลี่ยงครับ" เขาเล่า

"แล้วจานนี้พอทานได้ไหม"

"ก็ดีครับพี่ นิ่มๆ หวานๆแล้วก็จืดๆ" เขาตักเต้าหู้ใส่ปากอีกคำเพื่อนเป็นการยืนยัน

"ดีแล้ว พี่อยากให้เรารู้จานโปรดของพี่ อยากให้เราได้ลองชิมดูหน่ะ"

"ก็ดีครับ แต่ถ้าไปกินที่อื่นต้องขอคิดก่อน" เขาบอก

"อือ ค่อยๆเรียนรู้กันไปทีละอย่างก็แล้วกัน" ร่างสูงพูดยิ้มๆอย่างดีใจ

"ครับ" ส่วนร่างบางก็ตอบรับโดยไม่ติดใจสงสัยกับคำพูดแปลกๆนั้นเลยสักนิด


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ก่อนอื่นขอโทษนะคะที่มาลงช้า เราต้องแย่งคอมกับพี่ เพิ่งแย่งได้เมื่อกี้นี้เอง 5555
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเลยนะคะ

 :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2016 09:14:21 โดย Jindkyp »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 7 -- 03.06.59
«ตอบ #12 เมื่อ03-06-2016 20:40:15 »

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ gatenutcha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 7 -- 03.06.59
«ตอบ #13 เมื่อ03-06-2016 22:28:15 »

 :-[ :-[
รออ่านอ่ะ  พี่ทิศน่ารักอะ  คงไม่มีดราม่านะ
แต่นายเอกเราใสมาก  เราชอบอะ    :hao7:

ออฟไลน์ Jindkyp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 8 -- 04.06.59
«ตอบ #14 เมื่อ04-06-2016 10:14:21 »

chapter 8


หลังจากทานข้าวกันเสร็จ เขาก็รีบบอกว่าจะช่วยล้างจาน แต่พี่ทิศก็บอกว่าไม่ต้องเดี๋ยวเด็กที่บ้านจะเป็นคนล้างเอง
พอพูดจบร่างสูงก็จูงมือเขาแล้วเดินออกจากห้องทานข้าวแล้วมุ่งหน้าไปห้องนั่งเล่นแทน

"นินรับกลับรึเปล่า?"

"ไม่ครับ"

กลับห้องไปตอนนี้ก็อยู่คนเดียว กว่ากัณณ์จะกลับก็พรุ่งนี้เย็นๆ

"อืม งั้นอยู่เป็นเพื่อนพี่ก่อนละกัน พี่ก็อยู่คนเดียว"

"ครับ" นี้บ่ายๆอยู่เลยค่อยกลับตอนเย็นๆแล้วกัน

"นินอยากทำอะไร อ่านหนังสือหรือดูหนัง?" เจ้าของบ้านชวน

"อ่า... อะไรก็ได้ครับ พี่อยากทำอะไร?" ถ้าตอบตามใจเขาเลย เขาอยากจะบอกว่าไม่ทำอะไรได้ไหมกินอิ่มๆแบบนี้อยากนอนมากกว่า เข้าทำนองหนังท้องตึงหนังตาหย่อนอ่ะ

"ดูหนังแล้วกัน พี่หาเพื่อนดูอยู่"

"ก็ได้ครับ" ร่างสูงลุกขึ้นเดินไปที่ชั้นเก็บซีดี ชั้นเดียวกับที่วางหนังสือนั้นแหละแค่คนละฝั่งเท่านั้นเอง คนรูปหล่อรื้อหาอยู่สักพักก็เจอหนังที่ต้องการ

"หนังแนวสืบสวนดูได้ไหมไหมพี่ซื้อแผ่นมานานแล้วแต่ยังไม่ได้ดูเลย" พี่ทิศโบกแผ่นซีดีในมือไปมาแล้วหันมาถามเขา

"ดูได้ครับ" แต่ถ้าถามเขาโดยส่วนตัวเขาชอบดูการ์ตูนมากกว่าแต่เหมือนคนตรงหน้าจะไม่มีแผ่นการ์ตูนเลยและอีกอย่างตอนนี้
เขาอยากจะนอนด้วย จะดูหนังอะไรตอนนี้ก็คงมีค่าเท่ากัน

พี่ทิศกลับมานั่งข้างเขาอีกครั้งเมื่อใส่แผ่นซีดีลงในเครื่องเล่นเรียบร้อยแล้ว หน้าคมหันมามองเขาแวบนึงแล้วหยิบหมอนอิงส่งให้เขา 1 ใบ ส่วนที่ตักตัวเองก็วางอยู่อีก 1 ใบ เขาขอบคุณแล้วรับหมอนอิงมากอดเอาไว้หลวมๆ

ง่วง อยากนอน   หาวววว ว สงสัยต้องนอนจริงๆเพราะเขาหาวออกมาอย่างลืมอาย

"ฮ่าาาาาา ง่วงเหรอเรา? หนังยังไม่เริ่มเลยนะ" เจ้าของบ้านหันมาแซวเขายิ้มๆเมื่อเห็นเขาหาวหวอดใหญ่

"ก็ง่วงนิดหน่อยแต่เดี๋ยวนั่งดูเป็นเพื่อนพี่ก่อนก็ได้"

"ถ้าง่วงทำไมไม่บอก นินจะนอนก็ได้นะไม่ต้องเกรงใจ เดี๋ยวพี่ลดเสียงลงให้" ร่างสูงเสนอ

"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวนั่งดูเป็นเพื่อน" เจ้าของบ้านอุตส่าห์ชวนให้เขาดูหนังเป็นเพื่อนถ้าชิงหลับก็เหมือนทิ้งให้อีกฝ่ายนั่งดูคนเดียวสิ

"อืม ถ้าจะนอนก็บอกแล้วกัน" ว่าจบคนอยากดูหนังก็หันไปดูทีวีต่อ

เขานั่งถ่างตาได้พักใหญ่ แต่ถามว่าดูรู้เรื่องไหมตอบได้เลยว่าไม่ เพราะตาปรือเรียบร้อยแล้ว หัวกลมๆสัปหงกอยู่หลายครั้ง
ตัวก็เอนไปซ้ายทีขวาทีจนบางครั้งเอนไปชนคนข้างๆเข้าให้ จนทำให้คนที่นั่งอยู่ขวามือเริ่มสังเกตเห็นอาการของคนตัวเล็กกว่าทำท่าจะหลับอยู่รอมร่อแล้ว

ทศทิศตัดสินใจจัดหมอนที่อยู่บนตักให้ดีแล้วดึงคนตาปรือล้มตัวลงนอนบนตักของตน ทันทีที่โดนกระชากตัวในล้มลงนอน ร่างบางก็ลืมตาโพลงขึ้นมาแล้วเด้งตัวนั่งเหมือนเดิม

"อืออ ขอโทษครับ พอกินอิ่มๆแล้วมันก็ง่วง"

"จะนอนก็นอน เดี๋ยวปลุกเองไม่ต้องฝืนหรอก"

"แต่ให้นอนหนุนตักพี่มัน อ เอ่อ......"เขานิ่งไปสักพักเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายรอฟังอยู่ก็รีบหาเหตุผลมาอ้าง

"เดี๋ยวพี่เมื่อยไง"

"ไม่ได้หนุนตักพี่ พี่ให้นินหนุนหมอน นี้อ่ะๆ" มือหนายกหมอนอิงให้เขาดู หน้าหล่อก็ยังอมยิ้มอยู่นิดๆ

"แต่มันอยู่บนตักพี่ไง"

"อะๆๆ โอเค งั้นเอาหมอนนี้ไม่นอนซะ" พี่ทิศวางหมอนอิงลงบนโวฟาข้างๆตัวเอง

"แบบนี้นอนได้ยัง?"

"ครับ ขอบคุณครับ"

"นอนเถอะพี่จะดูหนังต่อ" ร่างสูงตบแปะๆลงที่หมอนข้างตัวเป็นการบอกให้อีกฝ่ายนอนได้แล้ว

เขาเห็นแบบนั้นก็ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาทันที ไม่นานเขาก็ดำดิ่งลงไปในห้วงของความมืด.....



ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะงีบสักแปบแต่พอลืมตาขึ้นอีกทีจากแสงอาทิตย์ร้อนแรงยามบ่ายก็เปลี่ยนเป็นแสงสีส้มนวลตายามเย็นไปเสียแล้ว

"อื้อออ.ออ อ" เขาบิดตัวเล็กน้อยไล่ความเมื่อย แล้วเปลี่ยนท่าเป็นนอนหงาย ลืมตาขึ้นมองเพดานอยู่นิ่งๆสักพัก

มือขาวเอื้อมไปดึงผ้าหม่ที่ทำท่าจะตกไปอยู่ที่พื้นมาคลุมตัวเอาไว้อีกครั้ง

"หื้ม?" ก่อนเขาหลับไม่มีผ้าหม่หนิมีแต่หมอนอิงที่เขากอดไว้ มาจากไหน?

เขาค่อยๆยันตัวขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอนแล้วกระพริบตามองห้องรับแขกทั่วๆ  มือบางก็ขยี้ตาตัวเองราวกับจะดูให้ชัดว่าตัวนั้นอยู่ที่ไหนกันแน่

"อ้าวตื่นแล้วเหรอ?" เจ้าของเสียงทุ้มนุ่มเดินเข้ามาทักเขา

"อืออ พี่ทิศกี่โมงแล้ว?" ตาหวานกลมโตหันไปตามเสียงเรียกก็เห็นเจ้าของบ้านเดินจิบน้ำเข้ามา

"5โมง เกือบ 6 โมงแล้ว หลับสนิทเลยนะเรา ดื่มน้ำหน่อยไหม?" ร่างสูงส่งแก้วในมือให้เขา

"อื้อ" เขารับแก้วที่ร่างสูงส่งมาให้ดื่ม มือหนาก็วางลงบนหัวเขาแล้วค่อยๆลูบเบาๆ

"แล้วคืนนี้จะนอนหลับรึเปล่า หื้ม?" หน้าคมก้มลงมาจ้องตาขณะที่มือก็ยังคงลูบหัวเขาอยู่

"อือ หลับสิ" เขาตอบกลับ

เขาเป็นพวกกินอิ่มก็ง่วง ไม่มีอะไรให้ทำก็นอนได้ เขาถือว่านอนเอาแรงไว้ก่อนดีกว่าอดหลับอดนอนก็แล้วกัน

"จะเอาไงนอนบ้านพี่ไหม?" เจ้าของบ้านที่ตอนนี้ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเขาถาม

"นี้พี่เอามาให้อ่อ ? ขอบคุณครับ" เขาถามพลางยกผ้าหม่ที่คลุมตัวอยู่ขึ้นมา

"อือ เห็นนอนขดตัวยังกับแมวเลยเอามาให้ สรุปเอาไงค้างที่บ้านหรือจะให้ออกไปส่งที่ห้อง?"

"บ้าน? ห้อง? อ๋อ ห้องครับๆ" เขาว่าแล้วพยักหน้ารัวๆ

"อืมได้ แต่เดี๋ยวกินข้าวเย็นที่นี้ไปเลยแล้วกัน โอเคไหม?"

"ครับ" พอเขาตอบรับ มือหนาก็ขยี้หัวเขาอีกครั้ง

"อื้ออ !" นินทำหน้ายุ่งแล้วหันไปมองร่างสูงของคนด้านข้าง

"ฮ่าา า อะไรบี้หน้าทำไม" อีกคนก็ยังแหย่

"เปล่าครับ ผมอยากเข้าห้องน้ำ"

"งั้นลุกขึ้น เดี๋ยวพาไป"

เจ้าของบ้านลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือมาให้เขาทำนองว่าจะดึงให้เขาลุกขึ้น เขาก็จับมืออีกฝ่าย ทศทิศกระชับมือบางก่อนออกแรงดึงให้คนขี้เซาลุกขึ้น ร่างหนาเดินนำไปยังห้องน้ำโดยมือยังคงจับมองจูงคนตัวเล็กกว่าอยู่

"ถึงแล้ว เข้าไปดีละๆ อย่าไปยืนงัวเงียอยู่นะ"

"ครับ ผมตื่นแล้ว" สติเขาเข้าร่างตั้งนานแล้วหรอก แต่อาการมึนๆอึนๆช่วงตื่นนอนทุกคนมันก็มีเหมือนกันนั้นแหละ

เขาเดินเข้าห้องน้ำไปทำธุระจนเสร็จแล้วเอื้อมมือไปเปิดก็อกน้ำล้างหน้าอยู่สองสามครั้ง เอาน้ำลูบหน้าสองสามทีตบหน้าแปะๆ ราวกับเรียกสติให้เข้าร่างให้หมด

"นิน เป็นอะไรรึเปล่า?" เสียงเจ้าของบ้านตะโกนเข้ามา

"เปล่าครับพี่ แปบนึงล้างหน้าอยู่"

"อ่าๆ พี่ไปรอที่ห้องทานข้าวนะ เดินไปถูกใช่ไหม?"

"ครับๆ" เขาตอบกลับไปก่อนจะได้ยินเสียงเดินที่ค่อยๆจางหายไป



เมื่อเข้าทำธุระส่วนตัวเสร็จหมดแล้วก็เดินออกจากห้องน้ำไปตามทาง เมื่อเขาถึงห้องทานข้าวก็เห็นร่างสูงนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะเรียบร้อยแล้ว

"มาแล้วหรอลูก นั่งเลยเดี๋ยวป้าตักข้าวให้" ป้ายงค์ทักเขา

"ขอโทษนะครับป้า ผมมานอนหลับเฉยเลย ยังไม่ได้ช่วยอะไรป้าเลย"

"ไม่เป็นไรลูก อยู่เป็นเพื่อนคุณทิศก็ดีแล้ว" ป้ายงค์เดินมาตักข้าวให้เขาและพี่ทิศก่อนจะขอตัวออกไป เขาลงมือกินข้าวทันทีเมื่อเห็นว่าเจ้าของบ้านก็ทานแล้ว
 
"อร่อยไหม?" เจ้าของหน้าคมถาม

"อร่อยครับ" เขาตอบโดยไม่ได้มองหน้าอีกฝ่ายเพราะมัวแต่ตักข้าวใส่ปากอยู่ ก็นอนไปตั้งนานตื่นมาก็หิวเป็นธรรมดา

"อือ ป้ายงค์ทำเองเลยนะ"

"ครับ" เขาตอบรับ ตลอดเวลาที่ทานข้าว เขาทั้งคู่ก็คุยกันเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้บรรยากาศบนโต๊ะเงียบเกินไป ไปนานทั้งคู่ก็ทานข้าวเสร็จ มีเด็กสาว 2 คน เดินมาเก็บจานไปล้าง ส่วนเขากับพี่ทิศก็เดินออกมานั่งดูทีวีย่อยข้าวกัน พอผ่านไปได้สักพักเมื่อเขาเห็นว่าสมควรกลับได้แล้ว เขาก็ส่งเสียงเรียกร่างหนาข้างๆ

"พี่ครับ ป้ายงค์อยู่ไหนผมจะไปลาหน่อย"

"คงอยู่ที่ครัวนั้นแหละ คงคุมให้รุ้งกับฟ้าล้างจานอยู่มั้ง" ร่างสูงที่นั่งดูทีวีอยู่บอก

"งั้นผมไปลาป้าท่านก่อนนะ"

"อืม พี่รออยู่นี้ ลาป้าเสร็จแล้วเดี๋ยวพี่ไปส่ง"

"อ่า...ครับ"

เขาเดินไปที่ครัว ก็เจอป้ายงค์กำลังคุมสองสาวให้ล้างจานอยู่ เขาบอกลาป้ายงค์แล้วรับปากว่าว่างๆจะมาทานข้าวที่นี้อีก เด็กสาวอีก 2 คน ที่เพิ่งเจอหน้าเขาก็ส่งยิ้มโบกมือที่เต็มไปด้วยฟองน้ำยาล้างจานมาโบกบายๆ จนป้ายงค์เห็นเข้าก็เอ็ดไปนิดหน่อย เขาจึงยิ้มกลับไปบางๆแล้วค่อยเดินออกมา

"พี่ทิศ ผมเสร็จแล้ว จริงๆผมกลับเองก็ได้นะ"

"ได้ไง พี่ชวนเรามาเดี๋ยวพี่ไปส่ง เรียบร้อยแล้วใช่ไหม? งั้นไปกัน" เจ้าของบ้านลุกขึ้นไปปิดทีวีแล้วหยิบกุญแจรถและกระเป๋าตังเดินนำเขาไป

วันนี้คงเป็นครั้งแรกของเขามั้งที่ได้ใช้ชีวิตเรื่อยๆแบบนี้ มีเพื่อนกินข้าว ถามเรื่องราวของเขา บอกให้เขาเล่าเรื่องที่เจอราวกับอยากรู้จักเขามากขึ้น  รวมทั้งให้กำลังใจเขาเมื่อเห็นเขาเศร้า ชวนเขามาดูหนังที่บ้านแล้วปล่อยให้เขาหลับอย่างกับรู้จักมักคุ้นกันมานานและมีผู้ใหญ่ใจดีอย่างป้ายงค์ที่เอ็นดูเขาราวกับเป็นญาติกัน

ถึงคนอื่นจะมองว่ามันเป็นเรื่องปกติไม่มีอะไรพิเศษ แต่สำหรับเขาคนที่อยู่คนเดียวมานาน ทุกวันทำแต่งานเพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียน เรื่องแบบนี้จึงเป็นเรื่องที่พิเศษสำหรับเขามาก

ถ้าจะให้ขอบคุณใครสักคนที่เข้ามาในชีวิตตอนนี้ เขาคงอยากขอบคุณคนข้างๆคนนี้มากที่สุด คนที่ทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวาอีกครั้งได้กินอิ่มนอนหลับเหมือนคนอื่นๆเขา


"ขอบคุณนะครับพี่" เมื่อรถจอดสนิทที่หน้าหอเขา เขาก็พูดขึ้นด้วยความรู้สึกที่อยากขอบคุณคนคนนี้จริงๆ

"อือ ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ว่างรึเปล่าละ ไม่งั้นเดี๋ยวพี่มารับไปอยู่บ้านพี่อีกดีไหม?"

"ไม่ดีกว่าครับ ผมอยากเก็บห้อง แต่ขอบคุณมากนะครับสำหรับวันนี้"

"โอเค งั้นเจอกันวันจันทร์เวลาเดิม"

"ครับ ขับรถกลับดีนะครับ"

"อือ"  พออีกคนรับปากเขาก็เปิดประตูแล้วลงจากรถ ยืนรอให้ร่างสูงขับรถออกไปก่อนแล้วค่อยหันหลังเดินขึ้นห้องไป.....


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

มาคุยกันเถอะ
ขอโทษด้วยนะคะที่ตอนแรกๆไม่ได้พูดคุยอะไรเลย เพิ่งได้มาพูดคุยตอนที่แล้วเอง  :monkeysad: :monkeysad:
อย่างที่บอกต้องแย่งคอมกับพี่ ฮือออออ
ตอนนี้เลยรีบเอามาลงก่อน
สุดท้ายขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ คนที่เข้ามาเม้นท์ด้วยขอบคุณมากๆเลยค่ะ
 :pig4: :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2016 09:15:20 โดย Jindkyp »

ออฟไลน์ gatenutcha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 8 -- 04.06.59
«ตอบ #15 เมื่อ04-06-2016 11:54:22 »

 :impress3:
รอตอนต่อไปค่ะ น้องมินน่ารักอ่ะ แอบหลงรักแล้ว
พี่ทิศ แก จะทนได้เท่าไหร่นะ  น้องน่ารักขนาดนี้ อยากจับน้องกดแทน  คึคึ :hao7: :hao6:

ออฟไลน์ Jindkyp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 8 -- 04.06.59
«ตอบ #16 เมื่อ05-06-2016 09:34:47 »

chapter 9



เช้าวันจันทร์มาถึง เขาและกัณณ์ก็มาทำงานตามปกติโดนมีพี่ทิศเป็นคนไปรับไปส่งเหมือนเดิม กัณณ์แปลกใจเล็กน้อยเมื่อเขาเล่าให้ฟังว่าวันหยุดที่ผ่านมาพี่ทิศพาเขาไปที่บ้าน กัณณ์ก็ซักเขาซะละเอียดเลย กว่าจะตอบคำถามของกัณณ์เสร็จเขาคอแห้งไปเลยทีเดียว

พอตอนพี่ทิศมารับไปทำงาน กัณณ์ก็ยังถามพี่ทิศอีกคน มันบอกว่ามันแปลกใจเล็กน้อยว่าทำไมเขากับพี่ทิศถึงสนิทกันเร็วนัก ทั้งๆที่มันเป็นเพื่อนผมมา 4 ปีแล้ว เพราะผมยังไม่ค่อยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังเท่าไร  ผมเลยบอกไปว่าเพราะมันไม่ค่อยถามมากกว่า ตลอดเวลาบนรถในช่วงเช้าผมก็นั่งเถียงกับกัณณ์ไป นั่งเงียบไม่ตอบบ้าง นั่งด่ามันในใจบ้าง ส่วนพี่ทิศก็นั่งขับรถไป ตอบคำถามกัณณ์บ้างไม่ก็หัวเราะที่เราสองคนเถียงกัน

พอถึงบริษัทเขากับกัณณ์ก็แยกกันไป เขาเดินขึ้นมาชั้นเดียวกับพี่ทิศ ทักทายพี่ทรายที่อยู่ก่อนแล้ว ตอนนี้หน้าที่อีกอย่างที่เพิ่มขึ้นมาคือชงกาแฟและเอาขนมไปให้เจ้านายที่นั่งรออยู่ในห้อง

จริงๆแล้วช่วงนี้เขาก็เริ่มรู้หลายคนในบริษัทมีทีท่าไม่พอใจเขาอยู่ แต่พอเขาไปถามพี่ทรายว่าเขาทำอะไรไม่ถูกไม่ควรรึเปล่า ร่างท้วมกลับตอบมาว่าอย่าไปใส่ใจ ในที่ทำงานมีทั้งคนรักเรา เกลียดเราและอิจฉาเรา เขาจึงได้พยักหน้ารับเงียบๆ พร้อมขอให้พี่ทรายช่วยตักเตือนเขาทันทีถ้าเขาทำผิด

แต่เขาเพิ่งรู้ว่าทำไมคนอื่นในบริษัทถึงไม่ค่อยชอบเขานัก มีพนักงานหลายคนเห็นว่าพี่ทิศเจ้านายเขาเป็นคนไปรับไปส่งเขาตลอดช่วง 2 เดือนที่พามาจึงมีเรื่องลือกันหนาหูว่ากัณณ์และเขาเป็นเด็กเส้น กัณณ์ยังโดนไม่เท่าไรเพราะยังทำงานกับฝ่ายบัญชี ซึ่งขึ้นตรงกับหัวหน้าแผนกแต่เขากลับขึ้นตรงกับพี่ทิศลูกเจ้าของบริษัทเลย ทำให้หลายๆคนเริ่มเขม่นเขา

เขาก็ไม่ติดใจกับคำนินทาว่าร้ายอะไรเพราะเขาถือว่าคนเหล่านั้นไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเขาเองก็ไม่อยากมีปัญหาจึงทำหูทวนลมไป

แต่ใครจะรู้ว่าเขานั้นกดดันมากแค่ไหนยิ่งทำงานกับพี่ทิศแล้วด้วยยิ่งกดดันเพราะเขาจะทำงานพลาดไม่ได้ ยังดีที่มีพี่ทรายช่วยกรองงานให้ก่อนทุกครั้งก่อนจะถึงมือพี่ทิศ

พี่ทิศในที่ทำงานกับที่บ้านต่างกันสิ้นเชิง ในที่ทำงานพี่ทิศเป็นคนจริงจัง สุขุมลุ่มลึก เคร่งเครียดและเคร่งครึมตลอดเวลา ผิดว่าไปตามผิดถูกก็ว่าไปตามถูก

ถ้าเขาทำงานผิดก็โดนเรียกเข้าไปตำหนิอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ตอนโดนครั้งแรกเขาเดินออกมาน้ำตาคลอเบ้าเลยพราะตอนนั้นงงไปหมดคิดว่าพี่ทิศโกรธอะไรนอกจากเรื่องงานรึเปล่า

แต่พอตอนเย็นหลังเลิกงาน พี่ทิศก็อธิบายให้เขาเข้าใจว่าทำไมต้องดุเขา เขาเองพอทราบเหตุผลก็ยิ่งภูมิใจที่ได้มาทำงานกับคนๆนี้เข้าไปอีก พี่ทิศแยกเรื่องงานออกจากเรื่องส่วนตัวโดนชัดเจน  ถ้าใครคิดว่าเขาเป็นเด็กเส้นละก็คงคิดผิดถนัด

"นิน เหม่ออะไรอีกละ เอากาแฟไปให้คุณทิศเร็วเข้าเดี๋ยวมีประชุมตอน 10 โมง พี่ไม่มีเวลามาตามเรานะ" พี่ทรายเรียกเขาจากนั้นพี่ทรายก็แจงงานวันนี้ให้เขาฟังคราวๆ

"ครับพี่ เดี๋ยวผมเอากาแฟไปให้พี่ทิศก่อน เดี๋ยวมาช่วยเตรียมเอกสารนะครับ"

"อืม เร็วเข้าละ"

เขารีบเอากาแฟไม่ใส่นม ใส่น้ำตาลสองช้อนไปเสริฟเจ้านายแล้วออกมาช่วยพี่ทรายเตรียมเอกสารการประชุมต่อ

"ประชุมวันนี้ดูจริงจังกว่าทุกทีนะพี่" มือขาวก็หอบเอาแฟ้มมาวางบนโต๊ะของพี่ทราย

"อือ วันนี้ประชุมผู้ถือหุ้นนะ ทุกอย่างต้องเรียบร้อย" ว่าจบ พี่ทรายก็ใช้ให้เขาไปถ่ายเอกสารอีก 10 กว่าฉบับแล้วนำจัดเรียงใส่ในแฟ้มแต่ละอัน

"นิน เรียบร้อยรึยัง ดูดีๆนะอย่าให้หน้าสลับกัน"

"ครับๆ "

"ช่วยพี่หน่อยนะ อาจจะยุ่งแบบนี้สัก 2-3 วัน แต่ถ้ามีตัวป่วนเข้ามาด้วยก็ลากยาวเป็นสัปดาห์ เมื่อก่อนพี่ต้องจัดการคนเดียว บอกเลยว่าปวดหัวสุดๆ" เลขาคนเก่งยังคงบ่นไม่หยุดขนาดที่มือก็ทำงานเป็นระวิง

"ตัวป่วนเหรอครับ?"

ใครกัน?

"อืม เลือกเอาเลยว่าจะเอาผู้ชายหรือผู้หญิง คุณทิศหน่ะเก่งตอนมาทำปีแรกก็โดนพวกนี้กวนไม่หยุดแต่คุณทิศก็จัดการได้ เด็ดขาดดีพี่ชอบ "

"เดี๋ยวหนูก็จะเห็นเองว่าวงการธุระกิจนหน่ะมีแต่พวกเสือสิงห์กระทิงแรดทั้งนั้น พี่เจอพวกนี้ทีไรอยากจะกรี๊ดใส่หน้า" พี่ทรายยังคงบ่นไม่หยุดราวกับหาที่ระบายความอัดอันที่สะสมอยู่นาน

"ถ้าเป็นงี้ พี่ทิศก็เหนื่อยแย่เลยสิครับ"

"ยิ่งกว่าเหนื่อยอีกลูก ผู้ถือหุ้นบางคนก็ญาติ บางคนก็คนสนิทไม่ก็นักลงทุนหน้าใหม่ พวกลงทุนหน้าใหม่คุณทิศพอควบคุมได้แต่พวกญาตินี้สิจะทำอะไรก็ลำบาก"

เขาก็ฟังพี่ทรายบ่นเรื่อยๆ แต่เลขาคนเก่งยังคงยืนยันว่าคุณทิศของเธอนั้นเก่ง เอาพวกนั้นอยู่หมัดทุกครั้งไปแต่พวกนั้นก็จะมีวิธีใหม่ๆมากวนใจคุณทิศเสมอ

"อ่าาา ครับงั้นผมจะตั้งใจทำงานเป็นแรงให้พี่ทิศอีกแรง" ยิ่งพอได้ฟังเขายิ่งอยากช่วยเหลือ อยากเป็นอีกแรงให้เจ้านายตัวเอง

"ดีแล้ว ว่าแต่ใส่เอกสารในแฟ้มเรียบร้อยแล้วใช่ไหม? ช่วยเอาเอกสารชุดนี้ไปให้คุณทิศเขาที บอกว่าประเด็นการประชุมวันนี้นะ ช่วยทีลูก พี่ทำไม่ทันแล้ว" ร่างท้วมวานให้เขาช่วย

"ได้ครับ"



ก๊อกๆๆ ๆ

มือขาวบิดลูกบิดแล้วผลักประตูเข้าไป ก่อนจะสาวเท้าเดินไปยังโต๊ะใหญ่ที่พี่ทิศนั่งอ่านเอกสารคิ้วขมวดเป็นปมอยู่

"พี่ทิศครับ นี้พี่ทรายฝากมาบอกว่าประเด็นการประชุมวันนี้ครับ" เขาวางเอกสารที่ถืออยู่ในมือลงบนโต๊ะ แล้วดันให้มันเลื่อนไป
ข้างหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับออกไปจากห้อง

"นิน เดี๋ยวสิ" เสียงทุ้มเอ่ยเรียกให้เขาชะงักขาลง

"ครับ พี่มีอะไรให้ช่วยครับ?"

"ช่วยนั่งอยู่ในห้องนี้ก่อนได้ไหม?"

"คือ... คงไม่สะดวกครับเพราะพี่ทรายก็งานล้นมือ ผมจะไปช่วย"

"ถ้างั้นก็เอางานมาทำในนี้" เจ้าของนัยน์ตาสีแปลกเงยหน้าจากเอกสารขึ้นมามองหน้าเขา

"อ่า...พี่มีอะไรรึเปล่า?"

"ไปเอางานมาทำในนี้" เจ้านายเขายังคงย้ำคำสั่งเดิม

"ก็ได้ครับ" เขาเดินออกจากห้องไปแล้วบอกกับพี่ทรายว่าเจ้านายสั่งให้ตนไปนั่งทำงานในห้อง พี่ทรายยิ้มๆให้เขาแล้วชี้งานให้เขาเอาไปทำในห้องตามที่คนตัวสูงสั่ง

เขาเดินเข้าๆออกๆห้องรองประธานกรรมการจนเกือบ 9 โมง งานที่พี่ทรายมอบให้ก็เสร็จเรียบร้อย ส่วนเอกสารการประชุมเขาก็ช่วยจัดเรียงไว้เสร็จสรรพ พี่ทรายขอบคุณเขายกใหญ่ นินก็บอกแค่ไม่เป็นไรยังไงก็ช่วยๆกันอยู่แล้ว

"เอ่อนินลูก ถ้าวันนี้มีผู้หญิงสวยๆ หุ่นดี แต่งตัวเก่งๆมาถามหาคุณทิศ หนูบอกปฏิเสธไปเลยนะ"

"อ่า ทำไมครับ? ใครเหรอครับ?" ทำไมต้องไม่ต้อนรับคนสวยๆด้วยละ

"เธอชื่อคุณตูน เดี๋ยวเธอมาหนูก็รู้เองแหละ เธอชอบเขามาคุยกับคุณทิศตั้งนานสองนาน" อ่อออ แฟนนี้เอง

"แฟนพี่ทิศเหรอครับ?"

"เปล่า ไม่ใช่แต่คงชอบคุณทิศมากอยู่ เพราะเช้าถึงเย็นถึงตลอดช่วงที่หนูมาทำงานตอนเดือนแรกๆอาจจยังไม่ทันเจอเพราะคุณตูนไปทัวร์ยุโรปอยู่ แต่นี้เห็นว่ากลับมาแล้ว ไม่เกินสัปดาห์นี้หนูเจอเขาแน่"

"ครับ แค่บอกว่าพี่ทิศไม่อยู่ใช่ไหม?"

"อืม บอกว่าไม่อยู่ ติดธุระหรือประชุมอะไรก็ได้ อ้างๆไปเถอะ ง่ายๆนะลูกทำไงก็ได้ให้คุณตูนกลับไปก่อนที่การประชุมจะเลิก"

"ครับ ผมจะพยายาม" เขาไม่ค่อยคุ้นเคยกับผู้หญิงเท่าไร ดอกเข็มเพื่อนผู้หญิงคนเดียวของเขานิสัยก็ออกแมนๆลุยๆ แนวผู้หญิงจ้า เปรี้ยวๆ แรงๆเขาไม่เคยพูดคุยด้วยเลย

"ทำให้ได้นะ พี่ไม่อยากให้คุณทิศปวดหัวมากกว่าเดิม" พี่ทรายย้ำกับเขาอีกรอบ ก่อนเดินเข้าไปก๊อกๆห้องรองประธานกรรมการแล้วเดินหายเข้าไป

ได้ วันนี้พี่ทิศเครียดเรื่องเดียวก็พอ เรื่องผู้หญิงเขารับมือเอง หวังว่าจะจัดการได้นะ T.T เขาคิดอย่างกังวลไม่น้อย


เมื่อใกล้ถึงเวลาการประชุม พี่ทิศก็เดินออกมาจากห้องมือหนาจับสูทขยับเล็กน้อยให้เข้าที่เข้าทางแล้วหันไปเรียกพี่ทรายให้ถือเอกสารแล้วเดินตามไป ส่วนเขาก็นั่งรักษาการณ์เลขาหน้าห้องไปพลางๆ

ไม่รู้ว่าวันนี้การประชุมจะเครียดแค่ไหน แต่เท่าที่เห็นทั้งพี่ทรายและพี่ทิศดูเตรียมตัวพร้อมมากกับการประชุมครั้งนี้ ส่วนพี่ทิศอ่านเอกสารวนไปวนมาอยู่หลายรอบ เช็คตัวเลขอยู่หลายหน้ากระดาษเช่นกัน เขาที่ช่วยอะไรได้ไม่มากนักทำได้เพียงส่งกำลังใจให้อีกคน

ให้กำลัง? จะให้ไงดี หัวกลมเอียงไปทางซ้ายทีขวาทีทำท่าเหมือนนึกอะไรอยู่
เขียนการ์ด? ซื้อขนม? ไม่เอาดีกว่าไม่รู้พี่ทิศชอบอะไร ช่างมันๆหลังคิดอยู่ครู่หนึ่งเมื่อหาข้อสรุปไม่ได้ ร่างบางก็ตัดสินใจว่าจะนั่งส่งกำลังใจอยู่เงียบๆตรงนี้แทนแล้วกัน



นินนั่งอ่านเอกสาร พิมพ์งานต่างๆจนเกือบเสร็จ หน้าเรียวหวานก็เลือนสายตาจากเอกสารมาที่นาฬิกาแทน

หื้ม ใกล้เที่ยงแล้วนี่หว่าแต่ประชุมยังไม่เลิกเลย คุณผู้หญิงคนนั้นก็ยังไม่มาคงไม่มาแล้วมั้ง


เสียงส้นสูงกระแทกลงบนพื้นทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมองแขกผู้มาใหม่ ตอนแรกก็คิดว่าเป็นพี่ทรายแต่จำได้ว่าพี่ทรายไม่น่าจะใส่ส้นสูงขนาดนี้ เขามองแขกผู้กมาใหม่ด้วยความฉงน ร่างสูงเพรียวร่างกับนางแบบ เชฟหุ่นไม่ต้องพูดถึงอกเอวสะโพกมาครบยิ่งอยู่ในชุดเดรสสีดำแขนกุดก็ยิ่งชาวยขับผิวขาวๆให้เด่นขึ้นอีก มือขวาของหล่อนไม่ถืออะไรนอกจากกระเป๋าใบเล็ก ท่าเดินที่มั่นใจที่กก้าวมาฉับๆราวกับอยู่บนแคทวอล์ค ยิ่งทำให้ผู้หญิงคนนี้ดูเป็นคนเปรี้ยวและขี้เหวี่ยงเข้าไปอีก เขามองผู้หญิงที่กำลังเดินมาทางนี้ด้วยความเพลินตา

มาหาใคร? พี่ทิศเหรอ?

น่าอิจฉาจัง ไม่แต่คนสวยๆอยู่ข้างๆ ไม่เห็นแปลกเลยเขาก็ผู้ชายคนหนึ่งมีของสวยๆงามๆให้ดูมันก็เพลินสิ


นั่งมองตาค้างอยู่นานแต่สิ่งที่ร่างเพรียวทำนะสิดึงสติเขามาทั้งหมด เมื่อคนที่อยู่บนรองเท้าส้นสูงทำท่าจะเปิดประตูห้องรองประธานกรรมการ เขารีบลุกจากที่นั่งแล้ววิ่งไปยืนขวางเอาไว้

"ขอโทษนะครับ คุณมาหาใครครับ?" เขายืนกันอยู่ที่ประตูแล้วทักอีกฝ่าย

"จะมายืนทำบ้าอะไรตรงนี้ห๊ะ! หลบ!" ผู้หญิงตรงหน้าแวดเสียงใส่หน้าเขา

อุตส่าห์แต่งตัวมาสวยๆ ไม่น่าพูดแบบนี้เลย เขาคิดอย่างเสียดายไม่น้อย

"นี้ห้องรองประธานกรรมการนะครับ ถ้าไม่มีธุระห้ามเข้าครับ"

"เออ! รู้นานแล้ว นี้แกเป็นใครทำไมไม่รู้จักฉัน" เจ้าของเสียงแหลมขมวดคิ้วแล้วมองหน้าเขา ก่อนจะเอากระเป๋าคลัชท์ยี่ห้อดังในมือคุณเธอเขี่ยเขาให้พ้นจากประตู

"ครับ ผมเป็นพนักงานใหม่ แต่คุณเข้าห้องนี้ไม่ได้นะครับ" ยังไงก็ให้เข้าไม่ได้ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร มาดีมาร้ายก็ยังไม่รู้ วันนี้พี่ทรายบอกว่าตัวป่วนจะมาด้วย เขาต้องระวังหลังให้พี่ทิศ!!

"เซ่อ! หลบไป มายืนขวางทำบ้าอะไร ฉันเป็นแฟนทิศเจ้านายแก เข้าใจไหม?" มือเรียวหยิบกระเป๋าครัชท์มาโบกไปมาเหมือนกับบอกว่าให้เขาถอยไป

"แฟนพี่ทิศเหรอครับ ขอโทษด้วยผมไม่รู้" ถึงจะอ้างว่าแฟนแต่ก็ให้เข้าไม่ได้

"นี้แก ! รู้แล้วก็หลบไปสิ! ยังจะยืนอยู่ทำไม? ทิศ ทิศค่ะ มาบอกให้เด็หน้าห้องคุณหลบไปหน่อย ตูนจะเข้าไป"

ตูนเหรอ คนนี้ชื่อตูนเหรอ? อยู่qเสียงพี่ทรายก็แวบเข้ามาในหัว

"ง่ายๆนะลูกทำไงก็ได้ให้คุณตูนกลับไปก่อนที่การประชุมจะเลิก"

เขาก้มมองนาฬิกาข้อมือก่อนใจเต้นรัว

อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เลิกแล้ว ถ้าพี่ทิศมาเจอคุณตูนเข้าไปอีกต้องปวดหัวหนักกว่านี้แน่ เขาไม่อยากให้ร่างสูงปวดหัวอีก ทั้งๆที่ตั้งใจจะเ็นกำลังให้พี่ที่แล้ว

งั้นต้องจัดการผู้หญิงคนนี้ก่อนที่พี่ทิศจะประชุมเสร็จ !!



มาคุยกันเถอะ

มาแล้วจ้าาา ช่วงนี้มาเช้านะคะอย่าแปลกใจกันเลยยยยย
เปิดมาอีก 1 ตัว คุณตูนนั้นเอง รอดูว่านางจะมาป่วนยังไงบ้าง
นี้ตัวป่วนฝ่ายหญิง ตัวป่วนฝ่ายชายยังไม่มารอกันต่อไปปปป..
สุดท้ายขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ คนที่เข้ามาเม้นท์ด้วยขอบคุณมากๆเลยค่ะ
 :pig4: :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1: :กอด1:



   
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2016 09:20:22 โดย Jindkyp »

ออฟไลน์ chaichan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 9 -- 05.06.59
«ตอบ #17 เมื่อ05-06-2016 11:05:07 »

Big problem hahaha

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 9 -- 05.06.59
«ตอบ #18 เมื่อ05-06-2016 15:38:52 »

เนื้อเรื่องน่าสนใจดีนะคะ แต่พี่ทิศเหมือนหมาป่าจ้องงาบลูกแกะยังไงไม่รู้เนอะ

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 9 -- 05.06.59
«ตอบ #19 เมื่อ05-06-2016 16:11:52 »

 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 9 -- 05.06.59
« ตอบ #19 เมื่อ: 05-06-2016 16:11:52 »





ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 9 -- 05.06.59
«ตอบ #20 เมื่อ05-06-2016 16:54:24 »

เนื้อเรื่องน่ารักมาก  น้องนินใสซื่อมาก   รอดมาได้ไงเนี่ย  อิอิ
อยากอ่านในpart พี่ทศทิศบ้างนะคะ
กรี๊ดทศทิศค่า  อิอิ

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 9 -- 05.06.59
«ตอบ #21 เมื่อ05-06-2016 18:14:46 »

ชอบนะค๊ะ พี่ทิศกับน้องนิน

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 9 -- 05.06.59
«ตอบ #22 เมื่อ05-06-2016 20:20:00 »

จะไหวมั้ยเนี่ยน้องนิน

ออฟไลน์ Jindkyp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 9 -- 05.06.59
«ตอบ #23 เมื่อ06-06-2016 10:07:15 »

chapter 10



หญิงสาวที่สบโอกาสตอนเขาเผลอก็ผลักให้เขาหลบออกไปให้พ้นทาง แต่แรงของลูกคุณหนูผู้หญิงจะทำอะไรคนที่ทำงานตั้งแต่เด็กอย่างเขาได้ นินเซไปด้านข้างนิดหน่อยเท่านั้นก็จะรีบกลับมายืนตัวตรงทรงตัวแน่นิ่งเหมือนเดิม  ตากลมโตหันตวัดมองหน้าผู้หญิงสวยแต่รูปตรงหน้า

"ทำไม?! มองหน้าฉันทำไม บอกให้หลบไปไง ไม่งั้นฉันบอกให้ทิศไล่แกออกแน่" คุณตูนเมื่อเห็นว่าเขามองหน้าก็รีบขึ้นเสียงถามทันที

"ไม่มีอะไรครับ แต่ผมคงให้คุณผ่านเข้าไปไม่ได้"

"ทิศค่ะ ทิศ" หญิงสาวตะโกนโวยวายเรียกให้คนในห้องออกมาให้ได้

"คุณครับ คุณทิศไม่อยู่นะครับ" เขาเห็นว่าร่างเพรียวตรงหน้าคงไม่หยุดส่งเสียงแน่ๆเลยรีบบอกออกไปเพื่อเธอจะหยุดแล้วกลับไป

"เอ๊า! แล้วทำไมไม่บอกปล่อยให้ยืนตะโกนอยู่ได้ ประสาท!"

"ถึงทิศไม่อยู่ฉันจะก็จะรอเขา หลบไปไอ้เซ่อ!"

"ยังไงก็เข้าไม่ได้ครับ ผมมีหน้าที่เฝ้าไม่ให้เข้าใครเข้าไป ยังไงวันนี้ผมว่าเชิญคุณกลับไปก่อนดีกว่าครับ แล้วผมจะบอกคุณทิศให้ว่าคุณมาหา"

เอาสิ ออกปากไล่ขนาดนี้แล้วถ้ายังจะอยู่ต่อก็อึดทึกทนไปหน่อยแล้ว

"ไม่! ฉันจะรอพบเขาวันนี้ !" คนสาวว่าอย่างเอาแต่ใจ

"ไม่ได้ครับ ผมให้คุณเข้าไปไม่ได้ เข้าใจผมด้วยนะครับ และวันนี้ทั้งวันคุณทิศมีงานคงไม่สะดวกหรอกครับ รอเป็นพรุ่งดีกว่านะครับ" ถ้ามาพรุ่งนี้อย่างน้อยพี่ทรายคงจัดการได้ดีกว่าเขาแน่ๆ

"รำคาญ! ยังไงฉันก็จะรอ เสร็จงานเย็นก็จะรอ" สาวเจ้ายังคงดื้อดึง

"ผมว่าคุณตูนกลับไปก่อนดีกว่านะครับ" ใช่ถ้าคุณตูนยังไม่กลับ ไม่เกิน 20 นาทีนี้คงได้เจอกับพี่ทิศแน่ๆ รีบๆกลับไปสิเขาไม่รู้จะไล่ยังไงแล้วนะ

"นี่ ฉันบอกว่าไม่กลับคือไม่กลับเข้าใจไหม ! บอกว่าจะรอเจอทิศยังไง เป็นบ้ารึไงห๊ะ! แกพูดไม่รู้เรื่องเหรอ" ร่างเพรียวสาวเท้าเข้ามาใกล้เขาพร้อมยกมือขึ้นมาทุบตีเขาทันที

"โอ๊ย !คุณ หยุดนะ! ไม่งั้นผมเรียกรปภ. ขึ้นมานะครับ โอ๊ยๆ ๆ" ตอนแรกก็ว่าจะไล่ให้กลับดีๆ แต่มาทุบตีเขาแบบนี้ก็เลยตัดสินใจอ้างรปภ.ขึ้นมาแทน

"คนอย่างแกจะเรียกรปภ.มาจับฉันเหรอห๊ะ! กล้าเหรอไอ้บ้า" พอได้ยินแบบนั้นคุณตูนก็ยิ่งกระหน่ำทุบตีเขาอีก นินทำได้แค่ยกมือขึ้นมาป้องกันตัวเองเท่านั้น

ตอนนี้เขารู้สึกเจ็บๆแสบๆที่ท่อนแขนทั่งสองข้าง ดีไม่ดีอาจโดนเล็บคุณเธอขวนเข้าให้อีก ถ้าเขาตั้งใจจะหยุดผู้หญิงตรงหน้านี้ก็ทำได้ไม่ยากแต่เขาเห็นว่าเป็นแขกของพี่ทิศเลยได้แต่ยืนปัดป้องตัวเองอยู่อย่างนี้

"กล้าดียังไงห๊ะ! ถึงจะเอารปภ.มาจับฉัน แกอยากโดนไล่ออกรึไง ทำไมทิศจ้างคนไม่มีสมองมาทำงานเนี่ย" หญิงสาวทุบตีมาที่เขาเรื่อยๆปากสวยที่ทาลิปสติกสีแดงสดเอาไว้ก็บ่นด่าเขาออกมาเรื่อยๆ

"คุณ โอ๊ย! หยุดตีผมเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้น...." เขาตั้งใจจะหยุดหญิงสาวทันทีถ้าหากไม่มีอีก 3 เสียงที่โวยวายออกมาดังลั่น

"ว๊าย!! คุณทิศค่ะนั้น..." พี่ทรายเรียกเจ้านายตัวเองที่เดินคุยกับเพื่อนให้หันมามองที่เขา

"นิน! หยุดเดี๋ยวนี้นะตูน!"  พี่ทิศเมื่อเห็นว่าสาวเจ้ายังตีเข้าไม่เลิกก็รีบสาวเท้าวิ่งเข้ามาดึงตัวคุณตูนออก

"เฮ้ย! แยกๆ ๆ! มึงไปช่วยนินไปเดี๋ยวกูแยกตูนเอง" คุณภพเองเมื่อเห็นภาพตรงหน้าก็รีบวิ่งมาจับคุณตูนไว้อีกข้าง ทศทิศก็ปล่อยมือหญิงสาวแล้วเดินเข้ามาหาเขาแทน

"นิน เป็นอะไรเปล่า เจ็บตรงไหนไหม?" มือสองข้างของพี่ทิศยกขึ้นมือมากุมหน้าของเขาไว้แล้วจับเอียงซ้ายเอียงขวาสำรวจใบหน้า ก่อนจะเลื่อนมือไปยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาดู ตาคมก็มองสำรวจเขาทั่วตัว แล้วเลื่อนมือมากุมที่ใบหน้าเขาอีกครั้ง
นิ้วโป่งก็ลูบรอยเล็บที่ปรากฏอยู่บนแก้มเขาเบาๆ

"ทำไมเป็นแบบนี้ละ? เจ็บไหม? เดี๋ยวพี่พาไปทำแผลนะ" อีกคนถามเขาเสียงนุ่มโดยลืมสนใจอีก 3 คนที่เหลือที่ยืนมองอยู่

"ภพ มึงพาตูนเข้าไปรอให้ห้องก่อน" ทศทิศหันไปบอกเพื่อนที่ยืนจับคุณตูนไว้แน่น

"เออ มึงพาน้องไปทำแผลก่อนไป"



วันนี้คงเป็นวันซวยของเขาจริงๆ เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะช่วยพี่ทิศไม่ให้เจอเรื่องเครียดแต่ก็ทำไม่ได้แถมยังได้แผลบนหน้าและตามมืออีก นินเหลือบตามองคนที่เดินกุมมือเขาอยู่แล้วจูงเขาไปที่ห้องรับรอง ปากก็เรียกแม่บ้านที่ดูแลอยู่ประจำให้นำกล่องยาทำแผลมาให้


เมื่อสั่งแม่บ้านเสร็จตาคมก็หันมามองเขาอย่างกังวล คิ้วเข้มก็ขมวดจนเป็นปม มือหนาเทียวยกขึ้นขั้นมาลูบหน้าลูบตาเขาแล้วค่อยลูบหลังมือเขาเบาๆ ทำราวกับว่าเขาจะแตกหักเสียให้ได้

"อ เอ่อ พี่ทิศ" เขาเรียกอีกคนที่ดูกังวลกับแผลเล็กๆพวกนี้เหลือเกิน

"หื้ม ทำไม? เจ็บแผลเหรอ? รอแปบนึงนะพี่สั่งให้แม่บ้านไปเอายามาแล้ว ทายาแปบเดียวก็หายเนอะ"เสียงทุ้มกล่าวอย่างปลอบประโลม

"ไม่เจ็บเท่าไรครับ พี่ไม่ต้องห่วงแผลเล็กนิดเดียวเอง" เขาที่ไม่อยากให้อีกฝ่ายกังวลจึงส่งยิ้มกลับไป จริงๆรอยเล็บขวนแค่ล้างน้ำนิดหน่อยก็น่าพอแล้ว แต่พอเห็นคนตรงหน้าทำท่าห่วงซะเหลือเกินก็ไม่อยากจะขัดให้อีกคนเสียน้ำใจ

"ปล่อยให้เขาตีอยู่ทำไม ทำไมนินไม่หยุดเขา?" ร่างสูงถาม

"ก็เขาเป็นแขกพี่หนิ ถ้าทำอย่างนั้นก็กลัวว่าเขาจะมาต่อว่าพี่ทีหลัง" จริงๆเขาเองก็ตั้งใจจะจับแขนหญิงสาวให้หยุดตีเขาแต่หากร่างสูงตรงหน้าขึ้นมาเห็นเสียก่อน

"เขาจะต่อว่าอะไรพี่ ทั้งๆที่เขาผิด"

"แต่คุณตูนเป็นแฟนพี่ เดี๋ยวผมทำอะไรเขาผมโดนไล่ออกสิ" เขาว่าอย่างติดตลกเพราะเขาไม่อยากให้อีกฝ่ายมานั่งกังวลเรื่องของเขา เลยพูดติดตลกกลบเกลือนไป

"นิน พี่ไม่มีแฟนนะ ตูนไม่ใช่แฟนพี่ เราเป็นเพื่อนกันเฉยๆ" ถึงแม้ว่าเขาจะกล่าวติดตลกออกไปแต่ร่างสูงตรงหน้าตอบกลับมาอย่างจริงจังจนเข้าอดพยักหน้ารับรู้ตามไม่ได้

"คราวหน้าถ้าเราไม่ผิดก็สู้เขาเลย เข้าใจไหม?"

"จริงๆผมก็ตั้งใจจะหยุดเขาแล้วแต่พี่มาเสียก่อน"

"อื้ม ดีแล้วที่พี่มาเจอก่อนไม่งั้นคงได้แผลเยอะกว่านี้" มือหนายกขึ้นมาลูบรอยขวนที่แก้มเบาๆ

"ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่ประชุมเป็นไงบ้าง?" เขาเปลี่ยนประเด็นแทนเมื่อเห็นว่าเจ้านายยังคงห่วงแผลเล็กๆนี้เหลือเกิน

"ก็ไม่มีอะไรมากหรอก"

"พี่ทรายบอกว่าชอบมีคนมาป่วนพี่ ผมก็ห่วงไม่อยากให้มาเจอเรื่องเครียดต่ออีก แต่แหะๆ..." เขาหัวเราะแห้งๆทันทีเมื่อทำให้คนตรงหน้าเครียดกว่าเดิมเมื่อเห็นแผลเล็ๆเข้า

หมับ

กึก


จู่ๆคนตัวสูงก็ตวัดอ้อมแขนมากอดเขาไว้ มือหนาก็กดศรีษะเขาให้แนบกับอกกว้างแต่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง ส่วนเขาก็นั่งตัวแข็งอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูงถึงแม้ว่าจะงงอยู่บ้างว่าทำไมอีกคนต้องเข้ามากอดเขาไว้อย่างนี้ก็ตาม

"พ พี่ทิศ" เขาส่งเสียงเรียกอีกคนอย่างตะกุกตะกัก

"แปบเดี๋ยวนิน แปบเดี๋ยว" อีกฝ่ายตอบเขาเสียงนุ่ม

หรือว่ากังวล? เครียด?

หมับ!

ร่างหนาสะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันทีที่เขาตวัดแขนกอดอีกฝ่ายกลับ ก็อีกคนอาจจะเครียดเรื่องการประชุมแล้วยังต้องมากังวลเรื่องลูกน้องทะเลาะกับเพื่อนอีกก็ได้ เขาแค่อยากจะปลอบอีกฝ่ายบ้างเหมือนที่พี่ทิศปลอบเขาตลอด

"พี่ทิศไม่ต้องกังวลเรื่องผมกับคุณตูนนะครับ ผมไม่โกรธเธอหรอก" เขาพูดให้อีกฝ่ายคลายกังวลจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง แล้วค่อยๆดันตัวออกมามองหน้าอีกฝ่ายที่ทำหน้าอึงๆอยู่

"ผมไม่โกรธเธอหรอกครับ เดี๋ยวค่อยถามพี่ทรายว่ารับมือกับเธอไงดี ฮ่าๆๆ" นินหัวเราะเสียงใส

"อืม ขอโทษแทนตูนด้วยเขาค่อนข้างเจ้าอารมณ์หน่อยแต่ไม่มีอะไรหรอก"

ขนาดขัดใขคุณเธอนิดเดียวยังฝาดเขาซะ ถ้าขัดใจมากกว่านี้คง บรึ๋ยๆๆ เขาคิดในใจอย่างแหยงๆพฤติกรรมคนสวยทันที

"แต่ตอนที่กอดพี่เมื่อกี้ พี่ใจเต้นแรงมะ มา....."

"หยุดพูดเลย !" เสียงทุ้มเอ่ยอย่างห้วนๆทันที

อะไรพูดแค่นี้เอง เขาก็ใจเต้นแรงตอนพี่ทิศกอด มันเหมือนว่าเขาได้รับการปกป้องจากใครสักคน รวมๆก็รู้สึกดีอ่ะ

"พี่โกรธอะไรเหรอ ตอนพี่กอดผมก็รู้สึกดีนะเหมือนมีคะ ค......"

"บอกให้หยุดพูดไง!" มือหนาเข้ามาตะปบปิดปากเขาไว้ทันที แต่เจ้ากรรมเขาที่ตั้งใจจะพูดว่า "คน" ริมฝีปากเขาดันไปยื่นไปข้างหน้าชนปากมือหนาที่มาปิดปากเข้าไว้พอดี

กึก

ทั้งนินและทศทิศต่างชะงักกันทั้งคู่ นินนั้นตกใจที่ปากตอนไปจุ๊บกับมืออีกคน แต่ร่างสูงกลับคิดไปถึงความนุ่มหยุ่นที่จุ๊บเบาๆในอุ้มมือเขาแทนจนพาให้ความคิดของร่างสูงเตลิดไปไกล

"แหะๆ ขอโทษครับ" ร่างสูงของเจ้านายตรงหน้าไม่ตอบอะไรเพียงดึงมือกลับแล้วยกขึ้นมาลูบหน้าตัวเองสามสี่ที่



ก๊อกๆๆ ๆ

"ขออนุญาตนะคะ ป้าเอากล่องยามาให้ค่ะ" ป้าแม่บ้านผลักประตูเข้ามาพร้อมวางกล่องยาลงบนโต๊ะเตี้ยๆหน้าโซฟาที่เขานั่งอยู่

"ขอบคุณครับ" เขาตอบกลับ

"อืม ป้าไปทำงานต่อเถอะครับ เดี๋ยวมีอะไรผมค่อยเรียก" พอคนใหญ่สุดในห้องเอ่ยจบป้าแม่บ้านก็เดินหันหลังออกไป

"หันหน้ามา เดี๋ยวพี่ทำแผลให้"

"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมทำเองขอกระจกก็พอ"

"แล้วมันมีไหม? เดี๋ยวพี่ทำให้จะได้เสร็จๆ"

"ก็ได้ครับ" พอตอบกลับไปเขาก็หันหน้าให้อีกฝ่ายได้ลงมือใส่ยาให้เขา มือหนาหยิบลำสีชุบแอลกอฮอลล์พอชุ่มแล้วค่อยๆเช็ดรอบๆแผลเขาอย่างเบาๆ

"ถ้าเจ็บก็ร้องนะ จะได้รู้" มือหนาทิ้งสำลีเมื่อเช็ดรอบๆแผลเรียบร้อยลงถังขยะข้างขาโต๊ะ แล้วเอื้อมมือไปหยิบสำลีก้อนใหม่ เทเบตาดีนใส่ลำสีจนชุ่มแล้วค่อยๆทาที่แผลบนหน้าเขา

"จะติดพลาสเตอร์รึเปล่า?" เขาทำท่าจะตอบว่าไม่ แต่ร่างสูงกลับชิงตอบก่อน

"พี่ว่าติดไว้ดีกว่าถึงแผลจะไม่ใหญ่มากแต่มีสีเบตาดีนที่หน้ามันดูแปลกๆ" ร่างสูงรื้อหาพลาสเตอร์ในกล่องยา เมื่อเจอแล้วค่อยติดลงบนหน้าเขา

พอที่หน้าเสร็จเรียบร้อย เจ้านายเขาก็สั่งให้ส่งมือที่มีรอยแผลให้ พร้อมทำแผลให้เขาเสร็จสรรพ ทั้งๆที่เขาบอกแล้วว่าเขาทำเองได้แต่อีกคนก็ไม่ยอม

เมื่อจัดการแผลเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ก็เดินกลับมาที่ห้องทำงาน พี่ทิศบอกให้เขานั่งรออยู่ข้างนอกก่อนแล้วเจ้าของห้องก็เดินเข้าไปข้างในไม่นานก็ได้ยินเสียงแวดๆของผู้หญิงออกมา

พี่ทรายที่เป็นห่วงเขาก็เข้ามาดูแผลพร้อมตบบ่าเขาเชิงให้กำลังใจ ก่อนจะมีเสียงโวยวายตามมายกใหญ่ตามด้วยเสียงประตูที่ถูกระชากให้เปิดออก

"ทำไมทิศ ทิศจะให้ฉันขอโทษเด็กนี้เหรอ"

"ใช่ ตูนไปตีน้องก่อน ตูนก็ต้องขอโทษ"

"แต่มันไม่ให้ตูนเข้าห้องทิศนะ มายืนข้างทำบ้าอะไรละ" พูดจบเธอก็ส่งหน้าเหวี่ยงๆมาให้เขา

"น้องก็ทำตามหน้าที่ไง"

"แต่มันเป็นพนักงานนะทิศ" ร่างเพรียวว่าอย่างไม่ยอม

"ตูนจะขอโทษน้องไหม?" ทศทิศเองก็ยืนยัยว่าคนทำผิดต้องขอโทษ

"ไม่ ตูนไม่ขอโทษ ก็มันเซ่อเอง"

"นี่ตูน ภพว่าตูนขอโทษไปเถอะจะได้จบๆ"คุณภพเข้ามากดดันหญิงสาวอีกคน

"อ เอ่อ ไม่เป็นไรหรอกครับ" เขาที่เห็นเพื่อนสามคนยืนเถียงกันอยู่ก็รีบเอ่ยขึ้น

"ไม่ได้ ตูนต้องขอโทษนิน" เสียงทุ้มตอบกลับมาห้วนๆ

"ขอโทษน้องเดี๋ยวนี้ตูน" เจ้านายเขาว่าเสียงเข้ม

"เออก็ได้" คุณตูนเดินมาข้างหน้าเขาพร้อมเอ่ยขอโทษ

"ขอโทษ ไอ้เซ่อ" คำแรกก็เสียงดังดีหรอกแต่คำที่สองเธอจงใจให้คนตรงหน้าได้ยินคนเดียว

"ไม่เป็นไรครับ" เขาว่ายื้มๆไม่ถือสากับคำเรียกขอเธอ

"คราวหน้าแกโดนมากกว่านี้แน่" ร่างเพรียวว่าทิ้งท้ายก่อนหันหลังเดินก้าวฉับๆออกไป

"ตัวปลอมหรือจะสู้ตัวจริง เนอะมึงเนอะ" คุณภพที่อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่แรกว่าพร้อมยกมือตบบ่าทศทิศแล้วหันมายิ้มกับนินเชิงบอกลาแล้วเดินตามคุณตูนออกไปอีกคน....



------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

มาคุยกันเถอะ
ฮัลโหลลลล มาอีกตอนนึงแล้ว
คุณตูนมาแนวกวนประสาท วี๊ดว๊ายแล้วจากไปแต่ก็ทำน้องนินเราเลือดตกยางออกแล้ว
ตัวป่วนที่เหลือก็คงทำเช่นเดียวกัน แฮร่ๆ
555555
สุดท้ายขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ คนที่เข้ามาเม้นท์ด้วยขอบคุณมากๆเลยค่ะ
 :pig4: :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
 














« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2016 09:27:46 โดย Jindkyp »

ออฟไลน์ chaichan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 10 -- 06.06.59
«ตอบ #24 เมื่อ06-06-2016 10:29:35 »

555 ต้องงั้น

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 10 -- 06.06.59
«ตอบ #25 เมื่อ06-06-2016 12:47:44 »

คือเปลี่ยน บุคคลิค นิน ให้ สู้คนหน่อยเถอะ ถึงจเปนคนดี สู้คนหน่อย อ่านแล้วหงุดหงิด จะรัก อะไรบริษัท ขนาดนั้น รักตัวเองบ้างเถอะ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 10 -- 06.06.59
«ตอบ #26 เมื่อ06-06-2016 21:01:25 »

ใช้คำอื่นแทนร่างหนา ร่างบาง บ้าง ก็ดีนะคะ

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 10 -- 06.06.59
«ตอบ #27 เมื่อ06-06-2016 22:16:49 »

แต่อยากให้มีคู่รองอ่ะ จะได้มาคันเวลาคู่หลักบ้าง

ผ่านมาหลายตอนล่ะ แต่ละตอนแทบทั้งหมดมีแต่บทพระเอกนายเอก พออ่านแล้วมันเหมือนผ่านไปเร็วมากๆๆ อยากให้เพิ่มบทเพื่อนๆ พระ-นาย มีพระ-นายคู่รองเพิ่ม เข้าไปอีกจะได้มีสีสันมากขึ้น


นายเอกใสๆ น่ารักๆ พระเอกละมุน อบอุ่น ชอบๆ

ปล. ความรู้สึกของพระเอกเหมือนกับชอบนายเอกมานานแล้ว เหมือนชอบมาตั้งแต่ยังเด็ก
หรือพระเอกรู้จักนายเอกตั้งแต่เด็กแล้ว รอลุ้นๆ

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 10 -- 06.06.59
«ตอบ #28 เมื่อ06-06-2016 22:48:51 »

พี่ทิศออกตัวแรงเป็นห่วงขนาดนี้ แต่น้องนินก็ยังไม่รู้ตัว แถมไม่สงสัยซักนิดนะ ซื่อจริงๆ

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
Re: .❤.รักครั้งแรก -- chapter 10 -- 06.06.59
«ตอบ #29 เมื่อ07-06-2016 08:46:01 »

พี่ทิศออกตัวแรงมาก ชัดเจนสุดๆ คงมีแต่นินที่ไม่รู้ทัน ความรู้สึกช้า555
ป.ล.ตรงที่นินเรียกพี่ทิศกับตูนน่ะค่ะ เราเปลี่ยนเป็นเรียกคุณทิศดีกว่าเพราะยังไงพี่ทิศก็ยังเป็นเจ้านายนินต่อหน้าคนอื่น แต่ถ้าเป็นพล๊อตที่ตั้งใจวางไว้ก็ขออภัยด้วยค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด