05
เสียงขว้างข้าวของ โครมคราม ร่างเล็กกำลังอาละวาด อะไรอยู่ใกล้มือ เป็นจับขึ้นมาหลับหูหลับตาขว้าง จนข้าวของปลิวว่อนให้ห้องนอนกว้าง
“ออกไป ไปให้พ้นหน้าเลย ถ้าชอบให้มันจับ ให้มันซบก็ไปอยู่กับมันเลยไป”
“เพล้ง” โคมไฟหัวเตียง ยังดีที่เป็นแค่การทุ่มลงพื้น เพื่อระบายอารมณ์ ไม่ได้ขว้างใส่คน ไม่งั้นมีหัวร้างข้างแตกแน่
“ใช่สิ ไฟมันไม่น่ารัก ไฟมันเอาแต่ใจ พี่นายก็คงเบื่อไฟแล้วสิ ใช่ไหม” ร่างบางครว้าหนังสือที่ตู้หัวตียง คราวนี้เป้าหมายคือคนที่ยืนนิ่งอยู่ที่ประตูห้องนอน หนังสือปลิวจากมือได้ไม่ไกลก็ตกลงไปอยู๋กับพื้น ตามด้วยผ้าห่มที่ลงไปกองอยู่กับพื้นอีกเหมือนกัน
ร่างเล็กก้าวขึ้นไปยืนบนเตียงกว้างที่คนทั้งคู่ใช้นอนร่วมกันมากว่าสี่ปี
“ไปเลย ออกไปจากห้อง....” น้ำตามากมายไหลทะลักออกมาจากสองตาที่แดงกล่ำ มือบางคว้าหมอนได้ก็เหวี่ยงใส่คนที่ประตู
“กลับไปหาไอ้คนที่พี่คิดว่าน่ารัก.. ฮืออ.. ว่าดีกว่าไฟ ...ฮืออ.. ไปเลย แค้ก แค้ก” เสียงตัดพ้อปนเสียงสะอื้น ทำเอาร่างเล็กถึงกับสำลัก
“ไป ไปสิ ไม่ต้องมายุ่ง...อือออ” ร่างเล็กทรุดลงนั่งพิงหัวเตียง ชันเข่าขึ้น ก้มหน้าร้องไห้กับเข่า ร่างสูงเดินเข้ามานั่งลงด้านข้างดึงคนตัวเล็กเข้ามากอด
มะไฟ ยกแขน ดันเอาไว้อย่างต่อต้าน สู้กันได้สักพัก ร่างเล็กก็โดนดึงเข้าสู่อ้อมกอดแข็งแรง หน้าเล็กๆ ถูกดันให้ซบลงอก สองมือโอบกอดแผ่นหลังเล็กที่ยังกระตุกตามแรงสะอื้นไห้ มือหนาลูบเบาๆ อย่างปลอบโยน ก่อนจะช้อนคนตัวเล็กขึ้นมานั่งตัก มะไฟยื่นมือสองข้างโอบรอบคอหนาไว้ แล้วซุกหน้าลงกับซอกคอ ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาจน เปียกชื้นไปทั้งสองฝ่าย
พี่นายโยกตัวเบาเหมือนกล่อมเด็ก แนบแก้มลงกับกลุ่มผมนุ่ม ปากอยู่ระดับเดียวกับหูของอีกฝ่าย พรำพูดเสียงเบา ที่ข้างหู
“พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ..................”
“พี่ขอโทษ.....................”
“พี่ขอโทษ...........”
เป็นนานกว่าที่คนในอ้อมกอดจะหยุดร้องไห้
“ไฟขอโทษ ไฟรู้ ว่ามันไม่มีอะไร แต่มันอดไม่ได้ ไฟขอโทษ” เสียงเล็ก อู้อี้ กระซิบบอก ทั้งที่ยังซุกอยู่กับซอกคอ
“พี่รู้ ว่าไฟหวานของพี่ขี้หึง ไม่เป็นไรพี่ชอบ ชอบให้ไฟหวานแสดงออกว่าไฟหวานยังเห็นพี่สำคัญ พี่ชอบให้ไฟหวานแสดงให้คนรู้ว่าพี่เป็นของไฟหวานคนเดียว แต่พี่ไม่อยากให้ไฟหวานร้องไห้ ต่อไปหึงแล้วจะตบ จะตีพี่ก็ได้ จะลงโทษพี่ก็ได้ แต่อย่างร้องไห้อีกเลยนะ เห็นแล้วพี่เจ็บ” พี่นายจูบเบาๆ ที่ขมับ
“ต่อไปพี่นายอย่าให้ใครมาจับพี่แบบนี้อีกนะ ไฟไม่ชอบ ถ้ามีคราวหน้าไฟจะร้องไห้ให้หนักกว่านี้ จะปิดประตูร้องไห้คนเดียวไม่ให้พี่เข้ามาด้วย”
“ไฟหวานอย่าขู่พี่แบบนี้เลยนะ พี่สัญญา พี่จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว แขนนี้ อกนี้เป็นของไฟหวานคนเดียว พี่สัญญา”
“ทั้งตัวของพี่เป็นของไฟ”
“ครับพี่เป็นของไฟหวานทั้งตัวและหัวใจ”
มะไฟเองครับ โย่ สี่ปีผ่านไปไวเหมือนลมหนาว จากน้องมะไฟก็ย่อลงเหลือแค่ไฟ ก็แหม โตจนขนาดนี้แล้วจะมาเรียกมะไฟงั้น มะไฟงี้ มันไม่เท่เอาซะเลย เลยตัดเหลือแค่ไฟ สั้นๆ ง่ายๆ แถมเหมือนชื่อตัวเองเมื่อชาติก่อนอีกต่างหาก จะมีที่เรียกมะไฟไม่เคยเปลี่ยนก็ยัยมะปรางคนเดียวนั่นแหละ แต่พี่นายบอกว่าเรียกไฟเฉยมันดูโหดไปไม่สมหน้าตา เลยขอเติมหวานให้ซะหน่อย ก็ไม่ขัดข้องหรอกนะ สามีสุดที่รักขอทั้งทีนี่ แต่แอบกระซิบหน่อยนะ
...เข้ามาใกล้ๆ สิ...
....เข้ามาอีกนิด....
....เอียงหูมา....
“มะไฟยังไม่ได้บอกรักคุณพี่นายเลยอะตะเอง ช่วยมะไฟคิดหน่อยสิว่าควรทำไงดี” ^^
“นี่ ...มะไฟว่าจะบอกรักคุณพี่นายในวันเกิดที่จะถึงนี่ดีป่ะ” -_-
“ดี ใช่ไหม ดีแนะนะ งั้นลงมือ”
“พี่มะปราง ไฟปรึกษาอะไรหน่อยสิ”
“หือ อะไรหรอมะไฟ”
“ก็ จะวันเกิดพี่นายแล้ว ไฟอยากให้ของขวัญพี่นายอะ”
“แล้วเราจะมาขอเงินพี่หรือไง”
“ใช่ที่ไหนล่ะ คือ ตั้งแต่คบกันมา ไฟยังไม่เคยได้บอกรักพี่นายเลย ไฟเลยว่าวันเกิดปีนี้ไฟจะให้ของขวัญเป็นการบอกรัก”
“ไม่ลงทุนเลยน้องชั้น จะงกไปไหน”
“งกที่ไหน ก็นี่ไงจะมาปรึกษาว่าจะจองห้องโรงแรมจัดเซอร์ไพรส์ให้พี่นาย”
“อู๊ยย อัตยายซื้อขนมยายอีกต่างหาก”
“พี่ว่าไม่ต้องมาจัดที่โรงแรมหรอมะไฟ จัดที่คอนโดไปเลยดีกว่า จะได้ไม่เปลืองห้อง ตอนนี้ห้องในโรงแรมมีคนจองเต็มยาว” พี่ทักเดินเข้ามาตอนไหนไม่รู้ เสนอความคิดเห็นเหมือนรู้เรื่องที่สองพี่น้องคุยกัน
“พี่ทัก มะไฟถามจริงเถอะ พี่ติดเครื่องดักฟังไปตามตัวพวกเราสองคนพี่น้องหรือเปล่าอะ ไม่ว่าจะคุยอะไรกันทำไมพี่ถึงรู้ไปหมด”
“ไม่ต้องติดให้เปลืองตังหรอก นายหญิง” ไอ้คำเรียกนายหญิงนี่ มันไม่ได้ให้อารมณ์เคารพนบนอบอะไรหรอก จากวิธีการพูดมันออกมาของพี่ทัก เสียงมันธรรมดามาก เรียบมาก เหมือนมันเป็นชื่ออีกชื่อหนึ่งของมะไฟ
“แค่เห็นหน้าก็เดาได้แล้ว” นี่มันมองง่ายขนาดนั้นเลย ไม่มั้ง
“ก็ไม่ได้เดาง่ายขนาดนั้นหรอก แต่ประมวลเอาจากสถานการณ์ บวกกับเหตุการณ์มันก็พอเดาได้”
“โห ไปเป็นหมอดูเถอะพี่ทัก น่าจะรวย”
“ไม่ต้องมายุ อยู่แบบนี้พี่สบายดีแล้วไม่อยากรวยไปกว่านี้” พี่มะปรางได้แต่นั่งหัวเราะมองน้องชายกับสามีต่อปากต่อคำกัน
“ใช้คอนโดนั้นแหละดีแล้ว จัดงาน จะชวนเพื่อนหรือชวนใครก็ได้ นายใหญ่ไม่ว่าหรอก”
“ก็อยากจัดที่โรงแรมบ้างไม่ได้หรือไง เปลี่ยนบรรยากาศบ้างสิ”
“อย่าเลย สงสารคนทำห้อง เห็นเขาว่าเช็คเอาท์ที่เมดแทบเป็นลม นึกว่ามีสงครามในห้องทุกทีไม่ใช่หรือไง”
“เฮ้ย จริงอะ กล้านินทาเจ้านายได้ยังไงพวกนี้นี่”
“เขาไม่ได้ว่า เขาชมนายใหญ่ว่าอึด เดี๋ยวนี้สาวๆ เห็นนายใหญ่ไม่ได้มองหน้าแล้ว เห็นมองกันแต่เป้า”
“บ้าแล้ว ไหนใครมอง จะไปควักตาออกให้หมดเลย”
“เขาลือกันไปยังลูกค้าโน่น”
“ไม่นะ ไม่จริงใช่ไหม พี่มะปราง”
“น่าจะจริงมั้งมะไฟ พี่เห็นมะไฟเดินไปไหนมาไหนในโรงแรม พนักงานเขามองตามกันแปลกทุกคนเลย พี่ยังคิดอยู่ว่าจะมองกันทำไมนัก สงสัยจะอิจฉามีสามีอึด”
“ไฟกลับบ้านแล้ว ต่อไปนี้จะไม่มาโรงแรมอีกแล้วคอยดูนะ” มะไฟวิ่งออกจากห้องไปไม่เหลียวหลังกลับมามองอีก
“มะปรางอิจฉานายหญิงหรือเปล่า”
“หา!! พี่ทักว่าอะไรนะ”
“พี่ถามว่ามะปรางอิจฉานายหญิงหรือเปล่าที่มีสามีอึด”
“บ้าแล้ว จะไปอิจฉามะไฟทำไม แค่นี้ก็หัวปีท้ายปีจนจะเลี้ยงไม่ไหวแล้ว หลังจากคนนี้มะปรางจะทำหมันแล้วนะ พี่ทักไม่ยอมป้องกัน ท้องติดๆ กันจนเพื่อนล้อแล้ว” สองคนผัวเมียยังคุยกันจุ๊งจิ้งๆ ต่อไป
มะไฟกลับมานั่งวางแผนอยู่ที่คอนโด วันเสาร์นี้แล้วที่จะถึงวันเกิดพี่นาย มะไฟนั่งคิดไฟ เขียนไป จนเผลอหลับ
วันเสาร์พี่นายมีนัดเลี้ยงลูกค้า ยังดีที่ไม่ดึก เพราะลูกค้าเองก็มีนัดต่อ มะไฟขอให้พี่นายกลับมาห้องได้ไม่เกินสี่ทุ่ม
“วันเกิดทั้งที แทนที่จะได้ฉลองกับไฟ ดูสิยังต้องออกไปกินกินใครก็ไม่รู้ ห้ามกินอิ่มเกินนะ ห้ามเมาด้วย” มะไฟช่วยผูกเนคไทให้ ไปก็บ่นกระปอดกระแปดไป
“พี่สัญญาจะรีบกลับ”
“จริงนะ ห้ามเถลไถลนะ ฮื้อ” พี่นายก้มลงมาจูบปากคนช่างสั่งเร็วหนึ่งที
“ผูกให้เสร็จ พี่จะได้รีบไปแล้วจะได้รีบกลับสักที”
“ก็ไม่อยากให้ไปนี่ จะได้ไม่ต้องรีบกลับ อื้อ” คราวนี้เป็นจูบที่ยาวนานจนมะไฟต้องเป็นฝ่ายดันอกแกร่งออกก่อนที่มันจะเลยเถิดจนเสียงานเสียการ
“เดินทางดีๆ นะครับ” มะไฟโบกมือบ้ายบาย
“พี่จะรีบกลับนะ”
“ไม่ต้องรีบมาก กลับมาอย่างปลอดภัยก็พอ”
ช่วงที่อยู่คนเดียวมะไฟเตรียมอาหาร เล็กๆน้อยๆ ไปเอาเค้กวันเกิดที่สั่งไว้
เป่าลูกโป่งหลากสี เอาลูกโป่งสวรรค์สวยๆ มาลอยไว้เต็มห้อง ตั้งกล้อง vdo เตรียมถ่ายการร้องเพลงให้คุณพี่นายครั้งแรกของตัวเอง เอาคีย์บอร์ดที่ยืมจากเพื่อนมาติดดั้ง ให้เพื่อนสอนมาปีกว่าๆ แล้ว เล่นจนคล่อง แต่ไม่เคยร้องที่ไหนกะจะเก็บไว้เซอร์ไพร์สพี่นายคนเดียว แต่ไม่มีโอกาสสักที
เวที พร้อม
คนแสดงพร้อม
แต่คนดูไม่พร้อมนี่สิ นี่ก็ห้าทุ่มเข้าไปแล้ว พี่นายยังไม่กลับมาสักที โทรไปก็ไม่รับ มะไฟได้แต่นั่งกระวนกระวาย อยู่คนเดียว
“ไม่มีอะไรหรอกน่า ถ้ามีพี่ทักคงโทรมาแล้ว” มะไฟเริ่มบ่นคนเดียว
“หรือว่าสนุกกับลูกค้าจนลืม ไม่น่าจะใช่ แล้วถ้าใช่ล่ะ ไม่มีทาง พี่นายไม่มีทางลืมสัญญา” มะไฟตบหน้าตัวเองเบา เรียกสติ
จนเกือบเที่ยงคืนแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววว่าพี่นายจะมา มะไฟถอนหายใจ พี่นายต้องมีเหตผลที่กลับมาไม่ทัน ต้องเชื่อใจพี่นาย สิ มะไฟเปิดกล้อง vdo เริ่มร้องเพลง Happy birthday จนจบ
“จะเที่ยงคืนแล้ว พี่ยังไม่มา ไฟเตรียมสิ่งนี้ไว้ให้เป็นของขวัญวันเกิด
ไฟรักพี่นายครับ” มะไฟยิ้มตาหยีให้กล้อง ก่อนจะพรมนิ้วเล่นคีย์บอร์ดอีกครั้ง
*ฉันก็เหมือนเรือ
ลำหนึ่งน้อยที่ลอยมา
คลื่นลมได้พัดพาจนไม่รู้ทิศใด
เหมือนนกที่บินไปกลางฝนอันโปรายปราย
ร่มไม้ให้พักกายฉันไม่มี
.
.
.
.
หนึ่งความรักที่ฉันมีหมดใจนี้ฉันให้เธอ
จบแล้วการเดินทางอันโดดเดี่ยว
จากวันนี้ทั้งสองกายเราจะใช้หัวใจเดียว
ต่อเติมความผูกพันที่เรามี
จะใช้ทุกนาทีเพื่อรักเธอ
ไม่ได้คิดเลยว่าชีวิตจะมีวัน
เป็นคนที่สำคัญ เป็นที่รักของใคร
รักที่แท้จริงมีความหมายมากเพียงใด
เพิ่งรู้และเข้าใจเมื่อรักเธอ
หนึ่งความรักที่ฉันมีหมดใจนี้ฉันให้เธอ
จบแล้วการเดินทางอันโดดเดี่ยว
จากวันนี้ทั้งสองกายเราจะใช้หัวใจเดียว
ต่อเติมความผูกพันที่เรามี
จะเดินเคียงข้างกันตลอดไป
เธอคือฝันที่สวยงามในชีวิตที่ฉันเจอ
ตอบแทนเธอด้วยสัญญาว่ารักนี้จะมีเพียงเธอ
.
.
.
.
จะรัก รักเธอ ทั้งหัวใจ
***สองกายหัวใจเดียว ปาน ธนพร
ขณะที่ร้องเพลงนี้ ภาพเก่าๆ จากวันแรกที่พี่นายเคยช่วยดึงร่างของมะไฟที่มีวิญญาณของไฟหรือนายคิมหันต์ เข้ามาอยู่แทนที่ ขึ้นจากน้ำ
ภาพอดีตค่อยๆผุดขึ้นมาเป็นลำดับ ไม่ว่าจะกอดแรก จูบแรก รักกันครั้งแรก
“อยากให้พี่นายมาอยู่ตรงนี้จัง เมื่อไหร่จะกลับมาสักที” น้ำตาไหลจากสองตาลงมาเป็นสาย มะไฟเช็ดน้ำตาแล้วเดินไปปิดกล้อง หยิบโทรศัพท์กดเบอร์ โทรหาพี่มะปราง
“พี่มะปราง พี่ทักกลับมาหรือยังครับ”
“อะไรนะ กลับแล้ว แล้วพี่นายล่ะ” หลังคำถามนี้ เสียงคนตอบก็เปลี่ยนจากพี่สาวเป็นพี่เขย
“พี่ออกมาก่อน นายใหญ่บอกว่าอีกเดี๋ยวจะตามออกมา นายใหญ่ยังไม่ถึงบ้านหรอ”
“ครับ พี่นายยังไม่กลับเลย โทรไปก็ไม่รับสาย”
“อือ เดี๋ยวพี่โทรเช็คอีกแรง แล้วเดี๋ยวพี่จะไปหาที่คอนโด”
“ไม่เป็นไร ไฟไปหาพี่ดีกว่า พี่ช่วยโทรเช็คให้มะไปด้วยแล้วกัน”
ไม่นานนักมะไฟก็ขับรถมาถึงบ้านพี่สาวกับพี่เขย
“ทำไมไม่รออยู่ที่คอนโด เดี๋ยวพี่ไปอยู่เป็นเพื่อนให้ ออกมาแบบนี้เกิดคุณเจ้านายกลับมาหรือโทรมาก็คลาดกันพอดี”
“พี่มะปรางจะไปยังไง หลานๆตื่นมาไม่เจอได้ร้องไห้บ้านแตกปะไร” มะไฟก้มหน้า หลบตาพี่สาว
“มะไฟ” มะไฟกัดปากก่อนจะโผเข้าหาพี่สาว
“ไฟกลัว กลัวพี่นายไม่รักษาสัญญา กลัวพี่นายจะเบื่อ ไฟกลัวไปสารพัดเลย ไฟไม่อยากอยู่นั่น นั่งรอพี่ไปหา ระหว่างนั้นไฟคงได้แต่คิดวุ่นวาย แล้วไฟก็จะพาลโกรธ ไร้เหตุผล ทำตัวงี่เง่า ไฟเลยตัดสินใจออกมาเองดีกว่า” พี่มะปรางลูบหลังน้องชายอย่างปลอบใจ
“นายใหญ่กลับถึงบ้านแล้ว หานายหญิงไม่เจอ เลยโทรมาถามที่นี่” พี่เขยเดินเข้ามาบอก
“นายใหญ่ประสบอุบัติเหตุนิดหน่อย เลยกลับมาถึงช้า บอกว่าจะออกมารับนายหญิง พี่เลยบอกว่าเดี๋ยวพี่ไปส่งนายหญิงเอง”
“พี่นายเป็นอะไร หนักแค่ไหน ทำไมไม่โทรมาบอกไฟ” พี่เขย เห็นท่าทางร้อนรน ก็เดินเข้ามาโอบไหล่ แล้วตบลงเบาๆ
“ใจเย็น กลับบ้านกัน นายใหญ่รออยู๋นะ” มะไฟพยักหน้าตกลงแล้วไม่ถามอะไรออกมาอีก ถ้าเป็นอะไรมากพี่ทักไม่มีทางใจเย็นอยู่ได้ ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่มะไฟก็ยังนั่งกัดเล็บมาตลอดทาง ลงจากรถได้ก็วิ่งราวกับเหาะ กลับไปที่ห้อง ทิ้งพี่เขยไว้ด้านหลังไม่แม้แต่จะได้พูดขอบคุณ แต่พี่ทักก็ดูจะเข้าใจคนใจร้อนได้เป็นอย่างดี ทำเพียงแค่ยิ้มตามหลังแล้วกลับรถขับกลับบ้านตัวเองไปเงียบๆ
ถึงหน้าห้องมะไฟกระชากประตูเปิดออกแล้วกระโจนเข้าห้อง
“พี่ได้ฟังแล้วนะ พี่ชอบของขวัญวันเกิดปีนี้มาก ถึงมากที่สุด แต่พี่ก็ยังอยากฟังจากปากไฟหวานของพี่อีกครั้ง” พี่นายยืนถือกล้อง vdo อยู่หลังคีย์บอร์ด จากที่มะไฟสำรวจด้วยสายตา พี่นายไม่มีส่วนใดบุบสลายเลยแม้แต่นิดเดียว
“ไหนพี่ทักบอกว่าพี่ประสบอุบัติเหตุ”
“ทักบอกงั้นหรอ” พี่นายทำท่าคิดนิดนึง
“พี่ขับรถไปเจอรถลูกค้าเกิดอุบัติเหตุเข้าที่ข้างทาง ก็นับได้ว่า พี่ไปประสบ เข้ากับอุบัติเหตุได้แหละนะ”
“พี่ทักบ้า พี่นายก็บ้า อืออ” คุณพี่นายแทบจะโยนกล้องทิ้ง รีบวิ่งมาปลอบใจคนร้องไห้ในทันที
“พี่บอกทักแล้ว แต่พี่ไม่นึกว่าทักจะแกล้งไฟแบบนี้ เดี๋ยวเดือนนี้พี่สั่งพักงานทักเป็นการทำโทษนะครับ อย่างร้องนะคนดี” สองมือพี่นายประคอบแก้มมะไฟให้เงยขึ้น แล้วกดจูบไปตามหน้าผาก ตา จมูก ปาก มะไฟกอดคุณพี่นายแน่นอย่างที่ไม่เคยกอด
“มะไฟกลัว อืออ” ด้วยความกลัว ทำให้คนที่เรียกตัวเองว่าไฟมานานถึงกับหลุดเรียกชื่อเล่นเหมือนเมื่อยังเป็นเด็กออกมา
“ไม่ต้องกลัวนะ พี่นายอยู๋ตรงนี้แล้วครับ”
กว่ามะไฟจะหยุดร้องไห คุณพี่นายก็อยากกระโดดถีบขาคู๋ใส่คุณเลขาไม่รู้กี่สิบรอบ
“ถึงพี่จะได้ฟังไปแล้ว แต่พี่ขอฟังของขวัญวันเกิดพี่อีกรอบนะครับ” คุณพี่นายยังยืนกอดมะไฟอยู่ที่กลางห้อง
“ไม่กล้าบอกดังๆ กระซิบที่หูพี่ก็ได้นะ”
“ไฟรักพี่นาย” มะไฟเขย่งตัวขึ้นกระซิบข้างหู แล้วก้มหน้าหลบตา แต่คุณพี่นายก็ยังเห็นใบหูที่แดงจัด
“แล้วพี่นายยังรักไฟอยู่หรือเปล่า หรือไม่รักกันแล้ว” มะไฟถามกลับ แต่คุณพี่นายมอบกลับมาเป็นจูบแสนหวาน ก่อนจะดันตัวมะไฟไปนั่งที่โซฟาที่มะไฟจัดไว้ ด้านหน้าคีย์บอร์ด แล้วตัวเองก็เดินไปยืนที่หลังคีย์บอร์ด ก่อนจะกดคีย์ แล้วร้องออกมา
“มะมะมะมะมะมะไม่รัก ไม่รัก ไม่รักได้ไง
มะมะไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้เท่าไร ฉันมีแต่เธอ
ไม่เคย ไม่เคยสนใคร
มะมะไม่รัก ไม่รัก ไม่รักได้ไง
ถ้าเจอะอย่างงี้ แล้วฉันไม่รัก
ฉัน จะมีหัวใจไว้ทำไม ล่ะ
ถ้าเจอะอย่างงี้ แล้วฉันไม่รัก
ฉัน จะมีหัวใจไว้ทำไม ล่ะ”
***ไม่รักได้ไง ลีโอ พุฒ
กว่าพี่นายจะร้องจบ มะไฟก็นั่งกลั้นหัวเราะเอาไว้อย่างทรมานสิ้นดี
“เพลงอะไร รุ่นไหนเนี่ยพี่นาย”
“อะไรนี่มันเพลงวัยรุ่นเลยนะ”
“ใครวัยรุ่นครับ พี่นายวัยรุ่น หรือรุ่นพ่อไฟเป็นวัยรุ่นกันแน่พี่”
“อ๊าก ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“พอ ฮ่า ฮ่าพอแล้ว จั๊กจี้ ฮ่า ฮ่า ฮ๋า หยุ๊ด ฮ่า ฮ่า” มะไฟลงไผกลิ้งอยู่กับพื้น มีพี่นายตามมาจั๊กจี๊เอวไม่หยุด
“มาแซวพี่ต้องทำโทษ”
“ก็เพลงมันเก่า แล้วคนร้องก็เกือยจะแก่ อ๊ากก พอแล้ว พอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า พอ ยอมแล้วครับยอมแล้ว”
“แล้วเพลงรักใหม่ๆกว่าเพลงนี้พี่ร็จักเพลงอะไรบ้าง”
“อือ มากกว่ารัก”
“นี่ใหม่แล้วหรอพี่นาย นี่มันพลงสมัยพี่มะปรางเป็นวัยรุ่นมั้ง”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พอแล้ว พอแล้ว ไฟยอมแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ๋า”
.
.
.
เสียงคำถาม กับตำตอบ และเสียงแซวยังดังสลับกับเสียงหัวเราะดังลั่นยังมีต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเหนื่อยหรือมีใครสักคนคิดจะเปลี่ยนวิธีลงโทษเรียกเสียงหัวเราะ เป็นเสียงครางเพราะแทนที่
.
.
.
The End