SWEET SURRENDER 1/11/60 พิเศษ SWEET DREAM P.42
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: SWEET SURRENDER 1/11/60 พิเศษ SWEET DREAM P.42  (อ่าน 321047 ครั้ง)

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: SWEET SURRENDER 27/4/59 CH.4 Up!
«ตอบ #30 เมื่อ28-04-2016 15:12:20 »

เอาล่ะเหวยมาแล้วๆๆปมปัญหามานิดๆล่ะ แต่ทำไมไม่รู้ความรู้สึกคิดว่าเด็กวิศวฯจะทำให้เด็กปรัชญา แพ้ได้แน่เลยรอบนี้   :mew1:
 :L2:  +  :pig4:

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
Re: SWEET SURRENDER 27/4/59 CH.4 Up!
«ตอบ #31 เมื่อ28-04-2016 19:09:42 »

ลุ้นๆ อยากรู้ พชร ต้องการทำอะไร โกรธอะไรม่อน ม่อนน่ารักดี

รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ YouandMe

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
Re: SWEET SURRENDER 27/4/59 CH.4 Up!
«ตอบ #32 เมื่อ30-04-2016 10:14:07 »

นั่นมันอนาคต แต่นี่คือปัจจุบันนะเฟ้ยยยยยยยยยยยย  :angry2:

ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22
SWEET SURRENDER 4/5/59 CH.5 Behind the Wall P.2
«ตอบ #33 เมื่อ04-05-2016 21:34:18 »

CHAPTER 5: Behind the Wall
   
            “ฮื่ออ..”
ร่างเปี๊ยกแห่งเตียงล่างบิดลำตัวไปมา
“อืมม..”
ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงงๆ ภาพพร่าเลือนมาพร้อมกับแสงสว่าง มือขาวคว้าเปะปะหาแว่น
เจ้ย! แว่น แว่น นี่ขาแว่นกูหักไหม? แล้วกูหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่? อย่าบอกว่ากูนอนทับแว่นแดงอันเป็นที่รัก!
อย่างไรก็ตาม ม่อนแจ่มเอื้อมมือไปยังขอบโต๊ะเขียนหนังสือข้างเตียง ที่ประจำที่เขามักจะถอดแว่นวางไว้เวลานอน
แต่ไม่หรอก เขาจำได้.. เมื่อคืนเขายังไม่ได้ถอด.. แว่น..
ห๊ะ ว..แว่น นี่มันแว่น? มือเรียวสัมผัสโดนขาแว่นและเลนส์
เมื่อคว้ามาใส่ ภาพทุกอย่างก็กลับมาแจ่มชัด.. นี่แว่นแดงกู..
     
             “ไอ้ม่อน! ลุกขึ้นเร็ว เดี๋ยวไปเรียนสาย”
ไอดิลที่เพิ่งกลับมาจากห้องน้ำ แต่งตัวใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เอ่ยเรียกเขา
“อะ..” ม่อนแจ่มยังงงๆอยู่
“เร็วสิวะ ทำไมวันนี้ตื่นช้า”
เอ่อ.. เผอิญเมื่อคืนกูเล่นเกมส์จ้องตาอยู่ เป็นเกมที่แปลกมาก เพราะมีผู้เข้าแข่งขันเพียงคนเดียว นั่นคือกูเอง และมีกรรมการเป็นคนเดียวกับผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งก็คือกูเองอีกเหมือนกัน

“ไอ้ดิ้ล..” มือเรียวสัมผัสแว่นอย่างสงสัย
“เมื่อคืนมึงถอดแว่นให้กูเหรอวะ แล้ว.. แล้ววางไว้บนโต๊ะ”
“ห๊ะ?” คนถูกถามเลิกคิ้ว “มึงก็ถอดวางไว้เองทุกคืนนี่ กูหลับก่อนมึงอีก จะถอดให้มึงได้ไง”
เออ จริง.. แล้วกูละเมอถอดแว่นตัวเองเหรอวะ?
ไม่น่ะ.. ไม่น่าเป็นไปได้..
ดวงตามองไปทางเตียงเดี่ยวฝั่งตรงข้ามที่ว่างเปล่าเพราะเจ้าของคงออกไปเรียนแล้ว
หรือว่า..
ไม่.. ไม่น่าเป็นไปได้ ..ไม่น่าได้ยิ่งกว่ากูละเมอถอดแว่นตัวเองเสียอีก


              สองหนุ่มวิศวฯ หนีบแฟ้มกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปทางคณะ ปีหนึ่งเป็นต้องมีเรียนแปดโมงเช้าทุกวัน
“กูขอโทษนะเว้ย กูตื่นสาย ที่จริงมึงมาก่อนเลยก็ได้ ไม่ต้องรอ” ม่อนแจ่มขอโทษขอโพย
ไอดิลออกมาก่อนนั้นไม่มีปัญหาเลย ถึงยังไงก็ไม่ได้เรียนวิชาเดียวกัน  อย่างไรก็ตาม ไอดิลส่ายหน้าดิก
“เรียนทันอยู่ อย่าคิดมาก” ไอดิลเองก็ชินเสียแล้วที่จะไปไหนมาไหนกับเพื่อนซี้เช่นม่อนแจ่ม
“ว่าแต่.. ไหงวันนี้สายนัก ปกติก็ตื่นเร็วดี”
“ฮื่ออ” ม่อนแจ่มพ่นลมหายใจ “เมื่อคืนกูพยายามจ้องตาพชรอยู่”
เย้ย!
ไอดิลแทบสะดุดฟุตบาท “จ้อง จ้องตา?”
“เออ กูจะจ้องไปเรื่อยๆ คงมีสักวันที่แม่งจำหน้ากูได้”
“ไอ้ม่อน.. เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง” ไอดิลส่ายหน้าอ่อนๆ กึ่งเหนื่อยใจกึ่งขำ
“แล้วที่ว่าจะไปภาคปรัชญานี่คงไม่ได้คิดจะไปจริงๆหรอกนะ”
“กูไปมาแล้วเมื่อวาน”
เฮ้ย!
คราวนี้ ไอดิลสะดุดฟุตบาทจริงๆ ไม่ใช่แค่เกือบ
“ไปมาแล้ว?”
“เออ” ม่อนแจ่มพยักหน้ารับ มองซ้าย ขวาและผลักไหล่ไอดิลเบาๆ ข้ามถนนไปยังคณะ
แม้จะอัศจรรย์ใจ ทว่า ก็ยังอยากรู้อยากเห็น ไอดิลจึงถามอีกนิด “แล้ว.. แล้วมึงเจอพชรหรือเปล่า?”
“เจอ”
โอ้ววว!
“แล้ว.. ตกลงมันจำมึงได้ไหม?”
…..
มีเพียงอาการส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“เอ่อ..” ไอดิลตบไหล่รูมเมท “มันคงไม่ทันเห็นมึงน่ะสิ”
“มันนั่งตรงข้ามกูเลยเหอะ เขียนรหัสวิชาปรัชญาที่ควรลงเรียนเป็นตัวฟรียื่นให้กูเองอีกต่างหาก”
“อ่า..” ไอดิลทำหน้ายุ่งยากใจ
ก็เห็นใจม่อนแจ่มอยู่นะ แต่.. แต่คือแบบนี้นะ ไม่รู้สงสัยช้าไปหรือเปล่า แต่ไอดิลชักจะสงสัยว่า..
“ไอ้ม่อน..” หนุ่มสิ่งแวดล้อมค่อยๆเอ่ย “มึงชอบพชรรึเปล่าวะ?”

โครม!
เป็นม่อนแจ่มที่สะดุดอะไรก็ไม่รู้จนล้มลงไปนอนวัดพื้น

“มึงจะบ้าเหรอ! มึงบ้าใช่ไหม?” ร่างเล็กพยายามยันตัวลุกขึ้น ปัดเศษหญ้าออกจากกางเกง
มือไอดิลยื่นมาช่วย แต่เจ้าตัวไม่สนใจ ได้แต่ละล่ำละลักบอกเพื่อนหนุ่ม
“พชร มัน.. มันโคตรไม่ชอบขี้หน้ากู มันคงเห็นกูเป็นกิ้งกือหรือไม่ก็ลูกเขียดน้อย ทุกวันนี่กูแทบจะต้องกราบเบญจางคประดิษฐ์อ้อนวอนให้มันพูดกับกู  มึงเพ้อเจ้อใช่ไหมไอ้ดิ้ล กู.. กู แล้วพชร-”
“ไอ้ม่อน..” ไอดิลยกมือเบรก ซึ่งเป็นท่าทางที่ทำบ่อยมากนับตั้งแต่ได้รู้จักม่อนแจ่ม
“อะไรของมึ๊ง? กูแค่ถามเล่นๆ มึงตอบมาประโยคเดียวว่า -กูไม่ชอบพชร- แค่นั้นก็จบเปล่าวะ มึงจะสาธยายอะไรมากมาย”
ไอดิลโคตรงง “แล้วทั้งหมดที่พูดมา กูยังไม่ได้ยินมึงปฏิเสธไม่ชอบพชรแม้แต่ครึ่งคำเลยนะเนี่ย..”
“กู.. กู คือกู!” ม่อนแจ่มพยายามอธิบายไล่หลัง ทว่า ไม่ทัน เพราะหนุ่มสิ่งแวดล้อมเดินลิ่วๆไปเรียนเรียบร้อยแล้ว


. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .


           ท่ามกลางดวงดาวทอประกายบางเบาบนผืนฟ้ากำมะหยี่..
ร่างเล็กนั่งชันเข่าขึ้น ใช้แขนข้างหนึ่งโอบเรียวแข้งตัวเองไว้บนม้านั่งยาวในสวน 
ดวงหน้าขาวเงยมองฟ้ากว้างสลับกับผืนหญ้าเขียวเข้มที่ดูหม่นลงเพราะความสลัวยามย่ำค่ำแห่งบ้าน ‘ประดิษฐาพงศ์’
ข้างตัวมีเอกสาร Engineering Materials ที่เอามานั่งอ่านตั้งแต่ฟ้ายังสว่าง

            “Metallic, Polymeric, Ceramic”
เสียงเล็กพึมพำ พยายามทำความเข้าใจวัสดุวิศวกรรมแต่ละตัวไปเรื่อยๆ “Composite, Electronics..”
และ.. ณ เวลาที่ความมืดโรยตัวลงมา เขาก็วางเอกสาร หยิบเศษกระดาษใบนั้นออกมา เศษกระดาษที่เขียนเลขหวัดๆไว้ 011153  011269

‘รหัสวิชาครับ’   
..
หูยังได้ยินเสียงเข้มที่เอ่ยวลีสั้นๆนั้น
ม่อนแจ่มปล่อยให้ใจประหวัดไปถึงหอสามชาย บ้านอีกหลังที่เป็นที่พักพิงมานานนับเดือน
จนแล้วจนรอดก็ต้องรบกวนลุงสมไปรับกลับบ้านบ้าง เพื่อพบหน้าบิดามารดาที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากงานเปิดตลาดใหม่ที่เยอรมนี แถมยังซื้อขนมมาฝากเขาเพียบเลย
พ่อกับแม่น่ารักเสมอ ..รู้ว่าม่อนแจ่มชอบกินขนม
'ชอบกินขนม' พฤติกรรมนี้ก็ทำให้นึกถึงไอดิล คู่ซี้ที่สนิทกันอย่างรวดเร็ว
อาจเพราะไอดิลเป็นเด็กหนุ่มที่มีลักษณะคล้ายๆเขาหลายประการ (จากที่ม่อนแจ่มไม่คิดแล้วว่าจะเจอคนเหมือนๆกัน)
ริมฝีปากยกยิ้ม เมื่อคิดว่าป่านนี้เมทสิ่งแวดล้อมจะทำอะไรอยู่.. อาจเป่าขลุ่ยดูโอกับกีต้าร์ของไอหมอกกระมัง..
คู่รักคู่นั้นมักจะเล่นดนตรีกันในวันศุกร์ ซึ่งไอหมอกไม่ไปซ้อมฟุตบอล  ไอดิลมักจะนั่งเป่าขลุ่ยอยู่ที่กรอบประตูระเบียง
ระเบียง..
มีอีกคนที่ชอบยืนที่ระเบียงเหมือนกัน
ยืนเงียบๆ มองออกไปยังเวิ้งฟ้าภายนอก
..รูมเมทปรัชญา..
..พชร..
ร่างสูงเมินจักรวาลคนนั้นจะทันได้สังเกตไหมนะ ว่าวันนี้เขาไม่ได้อยู่ในห้อง
พอจะรู้สึกไหมว่าเสียงบ่นมันเงียบลงไป
พอจะคิดได้ไหม.. ว่าเป็นเพราะเขาไม่อยู่
แต่จะว่าไป.. ถึงเขาอยู่ในห้อง ก็ไม่ได้หมายความว่าพชรจะรับรู้การมีตัวตนของเขาอยู่แล้ว

            “นั่งเงียบเชียวคะ คุณม่อน?”
ใบหน้าเอี้ยวไปตามเสียงเรียก “ป้าเพ็ญ”
ม่อนแจ่มยกยิ้มส่งให้ร่างอวบ แม่บ้านผู้แสนดี
“อีกแป๊ปนึง ไปรับประทานมื้อค่ำได้แล้วนะคะ”
“รับทราบครับ!” ม่อนแจ่มทำท่าตะเบ๊ะล้อเลียน แต่ก็ยังดูไม่กระตือรือร้นมากเท่าเดิมในสายตาแม่นม
“เป็นอะไรไปหรือเปล่า ตั้งแต่กลับมา ซึมๆไปนิดหนึ่ง ไม่ชอบชีวิตหอในหรือคะ”
“เปล่า.. เปล่าครับ ผมชอบ ผมมีเรื่องมาเล่าให้ป้าเพ็ญฟังเพียบเลย ทั้งเรื่องน้ำไม่ไหล ไฟดับ และเรื่อง..”
“ฮ่ะๆ” แม่บ้านหัวเราะร่า ทว่า เมื่อคุณหนูที่แสนเอ็นดูชะงักไป นัยน์ตาเซื่องลง เธอจึงเลิกคิ้ว
“แล้วเรื่องที่รบกวนจิตใจคุณม่อน ..คืออะไรหรือคะ?”
“เอ่อ..” ม่อนแจ่มกลืนน้ำลาย
“ป้าเพ็ญเคย.. เคยมีคนไม่ชอบป้าเพ็ญแบบไม่มีเหตุผลไหมครับ”
ใบหน้ากลมชื้นเหงื่อน้อยๆ ชะงักไป
“อืม.. ไม่ชอบหรือคะ ส่วนใหญ่ ป้าเพ็ญก็อยู่ที่บ้าน ไปตลาดบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้จักคนมากมายอะไร คนที่รู้จัก ก็ไม่น่าจะมีใครไม่ชอบนะคะ”
“นั่นสิ” ม่อนแจ่มพยักหน้าหงึกหงัก “ป้าเพ็ญน่ารักขนาดนี้ จะมีใครไม่ชอบได้ลงคอ”
“ฮ่ะๆ” แม่บ้านหัวเราะอีกครั้ง เอ่ยเสริม “คุณม่อนก็น่ารักขนาดนี้ คงไม่มีใครไม่ชอบเหมือนกันล่ะค่ะ”

……ได้แต่กลืนน้ำลาย
“มีครับ ..ไม่ชอบ ไม่ชอบมากเสียด้วย”
“ใครคะ?”
ม่อนแจ่มถอนหายใจ
“เป็นรูมเมทครับ เขา เอ่อ.. เขาไม่ใช่คนไม่ดีอะไรนะครับ เขาดี เขามีน้ำใจ เขาเท่ คือ.. ม่อนหมายความว่า.. เขาแค่ไม่ชอบม่อน ไม่ค่อยพูดกับม่อนเลย ไม่ยอมเรียกชื่อม่อนด้วย”
ไม่ได้นินทานะ ม่อนแจ่มแค่อยากระบายความอึดอัดออกไป
เป็นครั้งแรกในชีวิต.. ที่การวาดรูปไม่ได้ช่วยให้หายรู้สึกแย่..
“อืม..” ป้าเพ็ญใคร่ครวญหาคำพูด
“คุณม่อนแน่ใจหรือคะว่าไม่เคยทำหรือไม่เคยพูดอะไรไม่ดีกับเขามาก่อน”
ม่อนแจ่มส่ายหน้าดิก “ม่อนเพิ่งเคยเจอเขาที่หอ แล้วเขาก็ไม่ชอบม่อนตั้งแต่วันแรก เขาแปลกๆตั้งแต่แรกเลยจริงๆนะครับ..”
เป็นป้าเพ็ญบ้างที่ถอนใจ “ถ้าเป็นแบบนั้น ความไม่ชอบของเขาไม่ใช่ปัญหาของคุณม่อนแล้วนะคะ มันเป็นปัญหาของเขาอย่างเดียวเลย คุณม่อนอย่าเอาตัวไปรองรับความไม่ชอบของเขาสิคะ”
ก็คงถูกของป้าเพ็ญ..
“เราไปบังคับใจใครก็คงไม่ได้หรอก คงได้แค่ทำตัวเราให้ดี ถ้าคุณม่อนมั่นใจว่าทำดีแล้ว เขาจะไม่ชอบก็ช่างเขาเถอะค่ะ”
..ช่างพชร
“แค่อย่าใส่ใจ”
..อย่าใส่ใจพชร
“นะคะ คุณม่อน”
“ครับ..”

ใช่
แค่.. อย่าเอาตัวไปรองรับความไม่ชอบของพชร
แค่.. ช่างพชร
แค่.. อย่าใส่ใจพชร

ทำยังไงวะ?


. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .


                มื้อค่ำบนโต๊ะอาหารใหญ่ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิม..
ที่แตกต่างคือม่อนแจ่มมากกว่าซึ่งเริ่มจะไม่คุ้นชินเล็กน้อย เพราะนานนับเดือนแล้วที่นั่งกินข้าวกล่องในห้องเชียร์ สลับกับกินที่โรงอาหารใต้หอ, อ.มช.หรือไม่ก็ฟุตบาทหลังมอกับผองเพื่อนแห่งหอสามชายบ้าง วิศวฯเครื่องกลบ้าง
‘พจน์ ประดิษฐาพงศ์’ ผู้เป็นบิดานั่งหัวโต๊ะ และ ‘ระมิงค์ ประดิษฐาพงศ์’ ผู้เป็นมารดานั่งอยู่ทางขวา ส่วนม่อนแจ่มทางซ้ายตามปกติ ในโอกาสเทศกาลพิเศษเท่านั้นแหละ ถึงจะมีครอบครัวของอาๆ และลูกพี่ลูกน้องมาร่วมโต๊ะด้วยบ้าง

           “อยู่หอมีปัญหาอะไรบ้างหรือเปล่าล่ะม่อน” นายพจน์ถามขึ้นระหว่างการรับประทาน
ม่อนแจ่มได้แต่ส่ายหน้าให้ใบหน้าคมเข้มของบิดา ใบหน้าที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก ใบหน้าที่เขาแสนอิจฉา ท่านบอกว่ามีเชื้อสายเป็นคนใต้นี่นะ จึงได้หล่อคมถึงเพียงนี้ แม้จะในวัยห้าสิบเข้าไปแล้ว
“ปัญหาไม่มีครับ เอ่อ.. ม่อนสบายดีทุกอย่าง”
นัยน์ตาของเขาและป้าเพ็ญที่ยืนสำรวจความเรียบร้อยอยู่ข้างๆแอบสบกัน
กับคุณพ่อ.. ม่อนแจ่มไม่กล้าพูดคุยอะไรจุกๆจิกๆด้วยสักเท่าไรนักหรอก
หน้าเรียวหันไปมองคุณแม่บ้าง คุณแม่ทานข้าวพลาง มองเขายิ้มๆพลางเหมือนเคย
ดูคุณแม่จะชอบมองใบหน้าของเขาเสียจริง แต่คงว่าไม่ได้ แม่ที่ไหนก็คงชอบมองหน้าลูกล่ะนะ
“เดินทางเหนื่อยไหมครับ” ม่อนแจ่มถามขึ้นอีก
“ก็ธรรมดาจ้ะ ติดต่อธุรกิจ ก็มีเหนื่อยบ้าง แต่กลับมาบ้านเห็นหน้าม่อนก็หายเหนื่อยแล้วล่ะ”
ม่อนแจ่มยิ้มรับ คุณแม่พูดหวานกับเขาเสมอ
“แม่ซื้อขนมมาฝาก ม่อนจะแบ่งเอาไปฝากเพื่อนๆที่หอบ้างก็ได้นะ”

ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบลูกชายเสร็จเรียบร้อย หลังมื้ออาหาร ผู้ใหญ่ทั้งสองก็แยกย้ายขึ้นไปพักผ่อน
“ฝันดีนะครับ” ม่อนแจ่มเอ่ยบอกคนทั้งสอง
พ่อคงเดินเข้าห้องหนึ่ง ส่วนแม่ก็อีกห้องถัดไป สองท่านไม่ได้นอนห้องเดียวกัน
ทว่า ป้าเพ็ญบอกว่าไม่แปลก คนเป็นผู้ใหญ่แล้ว อยู่ด้วยกันมานานแล้ว บางทีพออายุมากขึ้น ก็อาจไม่ได้อยากนอนห้องเดียวกัน แม้ว่าจะเป็นสามีภรรยา


. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .


             ม่อนแจ่มใช้เวลาวันเสาร์ทบทวนตำรับตำราเรียนและทำงานส่งอาจารย์
วิศวกรรมเครื่องกลเป็นศาสตร์ที่กว้างขวางเหลือเกิน ต้องประยุกต์หลายๆศาสตร์มาใช้ ทั้งคณิตฯ ฟิสิกส์ พลศาสตร์ วัสดุศาสตร์ สากกะเบือยันเรือรบกันเลยทีเดียว
เราก็ทำได้ไม่เลวหรอกนะ ..เขาคิด และจะพยายามทำอย่างดีที่สุดเพื่อมาช่วยพัฒนาจักรกลอุตสาหกรรมในโรงงานของบิดา

            เย็นวันอาทิตย์แล้ว กว่าที่ม่อนแจ่มจะกลับมาถึงหอสามชาย พร้อมกับนำขนมติดไม้ติดมือมาไม่มากนัก
ไม่ใช่ไม่อยากฝาก แต่กลัวว่าเอามาเยอะแล้วจะโดนคิดว่าเอามาอวดเพราะพ่อแม่ซื้อมาฝากจากเมืองนอก
เขาทนความรู้สึกนั้นไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง.. หากมันมาจากพชร

           ห้อง 338 ยังคงมีสภาพเหมือนเดิมเมื่อเปิดประตูเข้าไป
โต๊ะพับข้างประตู เตียงเดี่ยว เตียงสองชั้น โต๊ะเขียนหนังสือ ภาพวาด ‘ม่อนแจ่มแห่งวิศวฯเครื่องกล’ และ Mind Map ‘ม่อนแจ่ม-พชร ประจัญบาน’ ของเขาบนฝาผนังซึ่งแปะไว้ใกล้เตียงเดี่ยวมากเป็นพิเศษ
ไอดิลพุ่งมากอดรัดฟัดเหวี่ยงเขา พร้อมแหกปาก “ไอ้ม่อน คิดถึงงงงง!!”
ฮ่ะๆ ม่อนแจ่มหัวเราะร่า ไอ้ดิ้ลมันโคตรเกรียน “ระวังหมอกหึงนะมึง”
รูมเมทสิ่งแวดล้อมหัวเราะบ้าง “มึงไม่ได้ใกล้เคียงหมอกเลย”
“ไอ้สัด!” ม่อนแจ่มสรรเสริญ
กูเป็นลูกหมาปอมเมื่อเทียบกับหมอก จบเถอะ ประโยคนี้ อย่าเอามาใช้กับกูอีกเลย

           “พชรล่ะ..” อ้อมแอ้มถาม เมื่อมองไปยังระเบียงก็ไม่เห็นร่างสูงๆยืนอยู่
ไอดิลมองมาอย่างพยายามทำท่าฉลาด แล้วหัวเราะหึหึในลำคอ จนม่อนแจ่มต้องเตะหน้าแข้งเพื่อนเบาๆอย่างไม่จริงจังนัก
“ไอ้สัด!”
“เอ้า ด่ากูอีก” ไอดิลหัวเราะ “ลำพูน พชรกลับลำพูน”
“มันกลับบ้านเหรอ แล้ว.. ไปยังไง จะกลับมาเมื่อไหร่วะ”
ฮ่ะๆ!
ไอดิลหัวเราะรุนแรงมากจนรูมเมทเครื่องกลถลึงตาใส่ แม่งจึงพยักหน้ายอมๆ
“เออๆ มันก็แว้น Kawasaki D-Tracker ดำเขียวของมันอย่างเคยนั่นแหละ ไปเมื่อวานเช้า ก็คงกลับมาค่ำๆล่ะนะ”
“อ่อ..” ม่อนแจ่มพยักหน้าบ้าง วางถุงข้าวของลงบนโต๊ะเขียนหนังสือของตัวเองที่อยู่มุมสุดชิดเตียงล่าง
“เอาขนมมาฝาก”
“ฝากกูหรือฝากพชร”
“ไอ้ดิ้ล!”
“โอเคๆ กูแกะกินเดี๋ยวเนี้ย หิวๆ”
ม่อนแจ่มส่ายหน้าขำๆ “จะกินข้าวกี่โมงล่ะ กินไหนวันนี้ ข้างล่างเหรอ”
 “รอหมอกที่รักกับฝันเพื่อนกูแป๊ป เดี๋ยวสักหกโมงค่อยออกไปหน้ามอกันบ้าง”
 “โอเค”
ตกลงกันเสร็จสรรพ แล้วไอดิลก็มีสมาธิกับการกินขนม ส่วนม่อนแจ่มก็กางฉากตั้ง สอดกระดาษ A3 ตั้งท่าจะเริ่มวาดภาพใหม่อีกสักภาพ ทั้งที่ก็ยังไม่รู้จะวาดอะไร..


. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .


            “พชร กินข้าวยัง ซื้อของกินมาฝาก”
ไอดิลทักทายเมื่อกลับมาในตอนค่ำจัด แล้วได้เจอว่ารูมเมทปรัชญาแว้นจากลำพูนมาถึงมอเรียบร้อยแล้ว
อันที่จริง ก็มีคนรีๆรอๆ ไม่ยอมไปกินข้าวตรงเวลาคือหกโมงเย็นอยู่หรอก แต่เพราะไอดิลหิวจนจะแทะหัวม่อนแจ่มจึงต้องลากมันออกไปในเวลาหกโมงครึ่งซึ่งพชรยังไม่กลับมา
“เรียบร้อยมาจากบ้านแล้วล่ะ ขอบใจมาก” คนถูกถามพยักหน้ารับพร้อมกับขอบคุณ

‘ขอบคุณ’
เป็นคำที่ช่างงดงามจริงๆ เล่นเอาม่อนแจ่มอยากได้บ้าง

“พชร กูเอาหนมจากบ้านมาฝากอ่ะ วางไว้บนโต๊ะแล้ว”
..
..ไม่ตอบรับ
..ไม่ปฏิเสธ
..อย่างที่คาดเดาได้

หนึ่ง สอง และสามนาทีผ่านไป.. ม่อนแจ่มจึงรวบรวมลมปราณอีกครั้ง
“พชร พอดีพ่อกับแม่กูไปเยอรมัน ซื้อขนมมาฝาก กูก็เลยเอามาฝากมึงด้วย”
..
ประหลาดแล้วล่ะ.. ที่คราวนี้ ร่างสูงเมินโลกจะชะงักไป ใบหน้าที่ปกติเรียบเฉยนั้นเข้มขึ้นมาแว่บหนึ่ง
“ไม่เป็นไร เอากลับไปกินเถอะ”

..นี่ไม่ใช่สิ่งที่คาดว่าจะได้รับ
..แค่เสริม เพราะคิดว่าอย่างน้อย พชรก็น่าจะรับไว้ตามมารยาท
..แค่อยากให้รู้สึกเหมือนไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนตั้งใจเอามาฝากให้ต้องรู้สึกเกรงใจติดค้าง แต่พ่อกับแม่ซื้อมาไง อารมณ์แบบรูมเมทเอามาแบ่งกันกิน แค่นั้น..

ขอบคุณ ม่อนแจ่ม พูดแค่นี้จะตายไหมพชร”
“ไอ้ม่อน..” ไอดิลแตะไหล่เพื่อนอย่างปรามๆ
พชรพ่นลมหายใจน้อยๆ ไม่อยากตอบ ไม่อยากทะเลาะด้วย ตั้งท่าจะออกจากห้อง หลีกเลี่ยงการปะทะเหมือนเคย
ทว่า มือเล็กกว่ายึดท่อนแขนไว้
“พชร!”
ม่อนแจ่มไม่ยอมให้คนตรงหน้าเดินหนี พอแล้ว.. พอ..
ไม่คิดว่าตัวเองจะทนรับเอาไว้อีกต่อไป ไม่ไหว.. เขารับไม่ได้..
ถ้ามีปัญหากับเขา ทำไมพชรถึงไม่แค่พูดออกมา ภายหลังกำแพงนี้.. ม่อนแจ่มอยากจะรู้ ..มันมีอะไร

“พชร..”
“ถอยไป เครื่องกล”
เครื่องกล.. อีกแล้ว?
“ชื่อกูมันอุบาทว์มากหรือไงวะ มึงถึงไม่ยอมเรียก!” เสียงเล็กตะโกนลั่น
“ใช่สิ กูชื่อม่อนแจ่ม ไม่ได้ชื่อเท่พชรแบบมึง แต่จะให้กูทำยังไง ก็แม่กูชอบไปเที่ยวม่อนแจ่ม แม่กูตั้งแบบนี้ มึงจะให้กูไปขอแม่เปลี่ยนเป็นอินทนนท์ ขุนตาน อ่างขางหรือยังไง ในเมื่อแม่กูชอบม่อน-”
“หยุดพูดถึงแม่มึงได้แล้ว เครื่องกล!”
“เรียกชื่อกู พชร!”
มีเพียงเสียงลมหายใจหอบๆของม่อนแจ่มเองภายหลังเสียงสั่งนั้น
พชรไม่พูดอะไร ดวงหน้านิ่งอยู่ในองศาเดิม และการไร้ปฏิกิริยาตอบกลับเช่นนั้นก็ทำให้คู่กรณีไม่อาจหยุดตัวเองได้อยู่
“หันมามองกูเดี๋ยวนี้ พูดมา มึงไม่ชอบอะไรกูนักหนา หน้ากูเหมือนพ่อมึงหรือไงวะสัด!”

…..
ร่างสูงกว่ายืนนิ่ง ดวงตาสีดำสนิทที่มักจะมองไปทางอื่นและไม่สบสายตากลับหันมาประจันหน้า
และคราวนี้ ขายาวนั้นก้าวเข้ามาหาร่างเล็กด้วยตัวเอง เป็นม่อนแจ่มเสียอีกที่มองสบดวงตาคู่นั้นแล้วถึงกับต้องผงะถอยหลัง
ไม่ว่าจะไม่พอใจด้วยเรื่องอะไร การพูดถึงพ่อแม่นั้นเป็นสิ่งที่น่าตำหนิ ม่อนแจ่มรู้สึกตัวทันที
“กูขอโท-”
ทว่า พชรไม่ได้ต้องการฟัง ใบหน้าคมสันก้มลงมาใกล้ ราวกับอยากจะให้คนตัวเตี้ยกว่ามองเห็นเขาให้ชัดทุกรายละเอียด
“หน้ามึงไม่เหมือนพ่อกูหรอก..”  เสียงเข้มเอ่ยเรียบๆเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนคือแววตาเชือดเฉือนคู่นั้น
“ว่าแต่หน้ากู.. เหมือนพ่อมึงหรือเปล่า?”
 
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ขอบคุณที่ติดตามนะครับ

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: SWEET SURRENDER 4/5/59 CH.5 Behind the Wall P.2
«ตอบ #34 เมื่อ04-05-2016 21:57:29 »

เอาแล่วๆๆๆๆๆๆๆ.  พูดยาวๆแล้วพชร.  :katai1:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
Re: SWEET SURRENDER 4/5/59 CH.5 Behind the Wall P.2
«ตอบ #35 เมื่อ04-05-2016 22:49:29 »

อ้าวค้งเฉย มารอคะ

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
Re: SWEET SURRENDER 4/5/59 CH.5 Behind the Wall P.2
«ตอบ #36 เมื่อ04-05-2016 22:50:50 »

ม่อนแจ่มไม่ใช่ลูกของพ่อ แล้วพ่อเป็นพ่อของ พชร ที่ทิ้งลูกมาอยู่กับแม่ม่อนแจ่ม ด้วยเหตุผลบางประการเหรอ

รอติดตามนะคะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: SWEET SURRENDER 4/5/59 CH.5 Behind the Wall P.2
«ตอบ #37 เมื่อ05-05-2016 06:00:05 »

ธุรกิจของพ่อม่อนแจ่มไปทำร้ายธุรกิจของครอบครัวพชร?
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: SWEET SURRENDER 4/5/59 CH.5 Behind the Wall P.2
«ตอบ #38 เมื่อ05-05-2016 07:47:49 »

รู้สึกม่อนน่ารักมากๆ หลังจากอ่านบทนำเข้าเรื่องจบ อ่านต่อม่อนชักน่ารำคาญว่ะ อ่านไปอ่านมา เริ่มน่าสงสารแระ
ค่อยๆเดาตามว่าคนแต่งจะปูเรื่องไปทางไหน สงสัยเคยเป็นเพื่อนตอนเด็กๆ แล้วม่อนจำไม่ได้? อ่าว.. พชรบอกไม่เคยเจอกัน
เอ....หรือเป็นเพราะไม่ถูกชะตา? เพราะพอสบตาก็เกิดอาการเลย
ยังคิดว่า งั้นม่อนต้องระรานงี้แหละไม่งั้นจะดึงดูดความสนใจจากพชรได้ยังไง 555+ผิดอีก
โห...เรื่องมันลึกล้ำยาวนานไปถึงก่อนเกิดอีก
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ อยากเห็นพัฒนาการทุกอย่างของทุกตัวละคร
ให้กำลังใจม่อน เชื่อว่าคนแต่งคงไม่ใจร้ายกับม่อนมากนัก
ขอบคุณมากๆค่ะ ที่ทำให้หายคิดถึงคู่เกรียนพ่อลูก
รักทุกตัวอักษรของคุณ ไม่ว่าจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องอะไร รู้สึกได้ถึงความรัก การให้กำลังใจ ความห่วงใยแทรกอยู่
เวลาขำก็ฮาสาด เวลาหวีทก็น่าอิจฉา น่าหมั่นไส้ เวลาซึ้งถึงน้ำตาไหล(พราก) เวลาหื่นก็ฟินนนน..555+
และที่สำคัญ จะได้ข้อคิดเสมอ ซึ่งบางเรื่องยอมรับเลยค่ะ ว่าขนาดป้าอายุ45แล้วนี่ ยังไม่คิดได้อย่างนี้
 ดีใจที่มีโอกาสได้อ่านนิยายของน้องนะคะ จะติดตามต่อไป
สารภาพอีกคำว่า หลงรักสมองและหัวใจคนเรียนปรัชญา มีผลงานออกมาให้คนอ่านมีความสุขต่อไปนะคะ^^
 

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: SWEET SURRENDER 4/5/59 CH.5 Behind the Wall P.2
«ตอบ #39 เมื่อ05-05-2016 09:54:05 »

พี่น้องหรือเปล่า?

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: SWEET SURRENDER 4/5/59 CH.5 Behind the Wall P.2
« ตอบ #39 เมื่อ: 05-05-2016 09:54:05 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: SWEET SURRENDER 4/5/59 CH.5 Behind the Wall P.2
«ตอบ #40 เมื่อ05-05-2016 12:57:07 »

 o22 มาม่าพี่น้องป่าวนี่

ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22
SWEET SURRENDER 7/5/59 CH.6 Sealed With A Kiss P.2
«ตอบ #41 เมื่อ07-05-2016 22:24:13 »

CHAPTER 5: Sealed With a Kiss

          'หน้ามึงไม่เหมือนพ่อกูหรอก ว่าแต่หน้ากู..เหมือนพ่อมึงหรือเปล่า?'

          ยืดตัวขึ้น.. ก้าวถอยหลัง.. ตั้งท่าจะออกจากห้องอย่างพยายามสะกดกลั้นอารมณ์เหมือนเดิม..
ไม่.. ไม่ควรพูดอย่างนั้น พชรไม่อยากใช้อารมณ์  ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่รังแก ไม่มีทางข่มเหง
ความผิดพลาดของผู้ใหญ่ ..ไม่ควรลงโทษกับเด็ก โดยเฉพาะเด็กตัวเปี๊ยก ไม่รู้เรื่องรู้ราว ขี้บ่นยืดยาวอย่างม่อนแจ่ม
แม้ว่าคนตรงหน้าจะน่ารัก น่าหวั่นไหว น่าทำให้ร้องไห้แค่ไหนก็ตาม..

          “พูดว่าอะไรนะพชร?”
ม่อนแจ่มถามย้ำ ไม่แน่ใจนักว่าได้ยินอะไร เขายังงุนงงอยู่จากความรู้สึกอื่น
ทว่า อีกฝ่ายไม่พูดซ้ำ หันหลังให้ มือแกร่งหมุนลูกบิดประตู
“อย่าหนี มึงมาต่อยกับกูเลยพชร!” ม่อนแจ่มโวยวาย ท้าต่อยเป็นครั้งที่ยี่สิบ
ความน้อยใจ เสียใจที่จู่ๆไม่รู้ว่ามาจากไหนกระทบกระเทือนจิตใจจนไหล่บางสั่น
และคราวนี้ มันพาให้มือต่อยตีร่างสูงจริงๆ
“หันมามองกูให้นานกว่านี้ จำหน้ากูให้ได้ มึงมันใจร้ายพชร กูอุตส่าห์ไปหา มึงก็จำกูไม่ได้ มึงมันใจร้าย”
พชรจับมือที่ต่อยตีคู่นั้นเอาไว้ แม้แทบจะไม่สะเทือนร่างกายของเขาเลย เสียงเข้มเอ่ยปรามเรียบๆ “หยุด แว่นแดง”
ซึ่งคำเรียกนั้นมีแต่จะทำให้คนตรงหน้าอารมณ์รุนแรงขึ้น “พชร!”
   
           “ไอ้ม่อน หยุดเหอะ พอแล้ว”
ไอดิลที่ยืนจังงังไปหลายอึดใจเข้ามาห้าม แต่พชรขัด
“ไอดิล ไปอยู่กับหมอกไป กูจัดการเอง”
..ได้แต่เลิกคิ้ว
..พชรนี่นะจะจัดการไอ้ม่อน
เออ.. แต่ก็นั่นแหละ ถ้าพชรจัดการไม่ได้ ก็คงไม่มีใครอีกแล้วล่ะที่จะทำได้
ไอดิลพยักหน้ารับและค่อยๆเดินออกจากห้อง ด้วยความหวังว่ามันจะไม่ฆ่ากันตาย

พชรหันกลับมามอง..
อยากให้มองก็จะมอง แล้วคนที่หายใจหอบน้อยๆด้วยความโกรธก็พ่นออกมา
“กูคือคนที่มึงแนะนำให้ลง Introduction to Philosophy กับ Philosophy of Sufficiency Economy”
มือเรียวล้วงกระเป๋ากางเกง หยิบเศษกระดาษซึ่งเขียนเลข 011153 และ 011269 ไว้หวัดๆออกมาชูขึ้นจนแทบจะเอามาทิ่มตาคนฟัง
“คนที่มึงยื่นรหัสวิชาให้หน้าห้องภาคปรัชญาฯ คือกูเอง เซอร์ไพร้ส์ไหม?”
..ไม่อยากมองหน้าแล้ว พชรอยากจะหันไปทางอื่น
“มึงมันใจร้าย มึงจำกูไม่ได้ กูเดินไปนะสัด ไปคณะมึงน่ะกูเดินไป แล้วมึงก็จำกูไม่ได้..”
“หยุดได้แล้ว เครื่องกล”
อย่ามาพูดแบบนี้..
แค่.. อย่าพูดเหมือนน้อยใจกูแบบนี้
“ไม่หยุด กูไม่ได้ชื่อเครื่องกล!”
เสียงเล็กกว่าประกาศกร้าว  ยืนทำหน้าถมึงทึง
“พูดมาเดี๋ยวนี้ มึงมีปัญหาอะไรกับกู มึงจะตัว-ตัวกับกูไหมสัด”
“หยุดพูด รำคาญ”
“ไม่หยุด” ดวงตาประสานอย่างไม่ยอมแพ้ “ไม่หยุด จนกว่ามึงจะเรียกกูว่าม่อน!”

ไม่ยอมจริงๆใช่ไหมวันนี้..
พชรมองตาคนเบื้องหน้า ซึ่งจ้องเขม็งกลับมา
ก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น..

“อย่าเรียกกูว่าเครื่องกล อย่าเรียกกูว่าเตียงล่าง และอย่าเรียกกูว่าแว่นแดง!”
พชรมองเรียวปากรูปกระจับสีชมพูดสดที่พูดไม่หยุดนั้น
ขอย้ำอีกครั้ง  ..และจะย้ำอีกเพียงครั้งเดียว
“หยุดพูด”
“ไม่หยุด เรียกกูว่าม่อนก่อน เพราะกูชื่อม่.. อื้อ..”

ดวงตาในกรอบแว่นเบิ่งค้าง เมื่อคนที่ไม่ค่อยพูดและมักบอกให้หยุดพูดเคลื่อนไหวรวดเร็วเข้ามาประชิด
ริมฝีปากโน้มลงมาแนบประกบ..

“อะ..”
ได้แต่ส่งเสียงตกใจในลำคอ มือทั้งสองดันหน้าอกแกร่งที่รุกรานออกตามสัญชาตญาณ “อื้อ..”
ดวงตาคมกล้าที่มองมาไม่ได้หลบ เป็นม่อนแจ่มเสียอีกที่แทบสู้สายตานั้นไม่ได้
ดวงตาประสาน.. ริมฝีปากแนบชิด..

ที่สุด.. ก็เป็นร่างเล็กที่ปิดเปลือกตาลง มือที่ดันอกข้างหนึ่งกลับขยุ้มเสื้อยืดอีกฝ่ายไว้ เศษกระดาษเขียนรหัสวิชากำยับอยู่ภายใน อีกข้างห้อยตกลงมาเกาะเอว ยินยอมเปิดปากให้รุกเร้าอย่างไม่เข้าใจตัวเอง

เป็นครั้งแรกที่ถูกทำแบบนี้.. เป็นความอ่อนไหวที่ม่อนแจ่มไม่รู้จัก และตอบสนองกลับไปราวกับเด็กน้อย..
ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดใบหน้า  ฝ่ามือใหญ่แตะเบาๆที่ไหล่และหลังคอให้คนเตี้ยกว่าแหงนหน้าขึ้นรับสัมผัส ระวังไม่ให้โดนแว่นเจ้าตัว เรียวลิ้นแทะเล็มขอบปากช้าๆอย่างหยั่งเชิง เมื่ออีกฝ่ายไม่ขัดขืนจึงตวัดดูดดึงลึกล้ำยิ่งขึ้นจนคนถูกกระทำส่งเสียงครางอื้ออึงในลำคอ..

ริมฝีปากหนาจูบย้ำๆ จนแทบเข่าอ่อน ก่อนละออกมา สองมือแข็งแรงประคองไหล่เล็กกว่าไว้ให้ตั้งท่ายืน
ตามองตาเหมือนเดิม.. แต่ม่อนแจ่มไร้คำพูด..
พชรสีหน้าเฉยชาไม่เปลี่ยนแปลง จะมีก็เพียงดวงตาที่เหมือนพึงพอใจในรสสัมผัส
“ก็.. หยุดพูดแล้วนี่นะ”

ไม่ตอบรับ.. ไม่ปฏิเสธ.. มันทำกันแบบนี้เอง
เป็นครั้งแรกจริงๆที่ม่อนแจ่มพูดไม่ออก หัวสมองโล่งและกลวงอย่างประหลาด แข้งขาอ่อนแรง หัวใจหนักอึ้ง
ไม่รู้ความรู้สึกตัวเอง ไม่รู้ความรู้สึกคนตรงหน้า
รับไม่ไหว.. ยืนไม่อยู่..

“เฮ้ย เครื่องกล!”
แทบสอดแขนเข้าไปประคองไม่ทัน เมื่อคนปากเก่งทรุดลงไปเกือบกองกับพื้น
ดวงตาใสยังจ้องมองค้าง ริมฝีปากสั่นระริกอ่อนเบา น่าจูบย้ำลงไปอีกสักครั้งหนึ่ง

“เครื่องกล..” พชรตบแก้มเบาๆ
ทว่า เจ้าของดวงหน้าขาวเนียนนั้นไม่ตอบ ได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นมองเขา แขนแข็งแรงสองข้างจึงโอบประคองเอวและไหล่เล็กให้ ค่อยๆนั่งลงบนเตียงเดี่ยวของตัวเองซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด 

ตายังคงมองตา แต่เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นก็ไม่ยอมพูดอะไรเลย
ลำตัวที่โอนเอนไม่มั่นคงของม่อนแจ่มเอนไปแนบผนังหัวเตียงอย่างหมดแรง
ให้ตายเถอะ พชรชักคิดถึงคำบ่นยืดยาวไม่มีที่สิ้นสุดที่ได้ยินแทบทุกวันเสียแล้วสิ

ไม่ได้ตั้งใจ.. ไม่ได้คิดจะทำแบบนี้เลย.. แล้วแว่นแดงจะมาทำตัวให้อยากทำ ทำไมกันนัก?
พชรนั่งลงข้างๆ ฝ่ามือสากทาบแก้มเนียนเอาไว้ เสียงเข้มค่อยๆเอ่ยเรียกอย่างลืมตัว
“ม่อน”

คำเดียวเท่านั้น..
คำเดียวที่ทำให้ม่อนแจ่มค่อยๆยันตัวขึ้น ขยับเข้าไปมองใบหน้าคมสันใกล้ๆ ราวกับไม่แน่ใจว่าได้ยินถูกหรือเปล่า
เสียงเล็กได้แต่เรียกอีกฝ่ายแผ่วๆ ราวกับนั่นจะช่วยยืนยันว่าคนตรงหน้าเรียกชื่อเขาจริงๆ
“พชร”

พูดจนได้..
คนถูกเรียกยิ้มออกมาในที่สุดอย่างโล่งใจ

ยิ้ม..
ม่อนแจ่มเบิ่งตามอง
รอยยิ้มจริงใจครั้งแรกของพชรในห้องนี้
ไม่ใช่ยิ้มขำ.. ไม่ใช่ยิ้มตามมารยาท.. แต่ยิ้มเพราะอยากจะยิ้มจริงๆ
ยิ้ม.. เพราะแค่เขาเรียกชื่อ ‘พชร’
ยิ้มให้เขา..

นี่มันคือความจริง ใช่ไหมวะ?
ม่อนแจ่มเพ่งมองอย่างพยายามทำความเข้าใจ
ดวงหน้าใกล้กันเพียงแค่คืบ ใกล้.. จนอยากทำลายทุกระยะห่างที่เหลือ

            “เอ่อ..”
เป็นประตูที่เปิดออก และเป็นไอดิลที่ยืนนิ่งสนิท ปากอ้าค้างอย่างไม่รู้จะพูดอะไร เมื่อเมทเครื่องกลกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงเดี่ยวของเมทปรัชญา โดยที่ใบหน้าคนทั้งสองใกล้กันอย่างน่าหวาดเสียว แล้วก็เป็นม่อนแจ่มที่เบี่ยงหน้าหลบ แก้มเป็นสีแดงจัด
“กะ..กูเข้ามาผิดเวลาหรือเปล่า” ไอดิลตะกุกตะกัก
“เปล่า” ร่างเล็กยันตัวลุกขึ้นจากเตียงเดี่ยว “กู กูหน้ามืด แล้ว..”
จากที่พูดได้ยืดยาว ตอนนี้ ม่อนแจ่มพูดได้สั้นๆแค่นั้น แล้วโบกไม้โบกมือไปทางพชรทำนองว่าเมทปรัชญาให้การช่วยเหลือ
“แล้วนี่มึง โอเคแล้ว?” ไอดิลเลิกคิ้ว
“สบายมาก” ม่อนแจ่มพึมพำตอบ แล้วคว้าลูกบิดประตูออกไปทำใจนอกห้อง
ไอดิลมองตามหลัง ชั่งใจว่าจะตามออกไปเช็คดูดีไหมว่าไอ้ม่อนมันมีไข้หรือเปล่า หน้าแม่งแดงๆชอบกล
ทว่า ก็เป็นพชรที่ตามออกไปก่อน
ปกติ พชรมักจะเดินหนีออกจากห้อง และเป็นไอ้ม่อนที่ตามไปหาเรื่อง
ไม่นึกว่าวันนี้ จะเป็นไอ้ม่อนที่ออกไป และพชรเป็นคนตาม
ส่วนจะตามไปหาเรื่องหรือไม่  ไอดิลก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน  อย่าถามหาความฉลาดจากเขาเลย

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

             ม่อนแจ่มก้าวช้าๆอย่างไม่ใคร่มั่นคงนัก.. มาหยุดยืนริมระเบียงทางเดินหอ
ไม่รู้เลยว่าหน้าตาตัวเองเป็นอย่างไร
จำไม่ได้ว่าตอบสนองไปมากแค่ไหน
ไม่มั่นใจว่าคำเรียกชื่อที่ได้ยินมาจากเสียงเข้มนั้นจริงหรือเขาจินตนาการไปเองกันแน่ 
ได้แต่ยืนงง หัวใจเต้นแรงจนต้องเอามือกุมหน้าอกไว้ กลัวใครได้ยิน
จนกระทั่ง.. รู้สึกตัวว่ามีคนเดินตามมา

           “กูคือม่อนแจ่มแห่งวิศวฯ เครื่องกล”
ไม่รู้ควรจะพูดอะไรในเวลานี้ จึงเอ่ยไปตามสัญชาตญาณ
ประโยคนี้ล่ะที่จะปลุกปลอบใจเขาให้.. จากม่อนแจ่มขาสั่นทรุดฮวบกลับมาเป็นม่อนแจ่มผู้กล้าหาญชาญศึกดังเดิม
ร่างสูงของพชรเดินเข้ามาใกล้ สีหน้าลำบากใจและในแววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกขออภัย..

รู้..
ไม่รู้ว่ารู้ได้อย่างไร แต่รู้โดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องพูด
รู้..
เพราะมองตา เพราะเจ้าของดวงตายอมแสดงความรู้สึกออกมาให้ม่อนแจ่มอ่านออกได้ในที่สุด
ปากคนตรงหน้าอ้าออก แต่ไม่จำเป็น ม่อนแจ่มรู้ว่าพชรจะพูดอะไร เขาไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ มันเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ..
“ขอโทษ”
“ไม่เป็นไร”

เอ่ยขึ้นพร้อมกัน และเสริมแทบจะในทันที..
“กูรู้มึงไม่ได้ตั้งใจ”
“กูยั้งตัวเองไม่ทัน”

…..
ห๊ะ?
ม่อนแจ่มมองพชรค้าง คนตรงหน้าก็ดูท่าจะตกใจน้อยๆกับคำพูดตัวเอง
ไอ้ ‘ไม่ได้ตั้งใจ’ กับ ‘ยั้งตัวเองไม่ทัน’ นี่มันความหมายเดียวกันใช่ไหมวะ ..หรือไม่ใช่?

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

           ไฟในห้อง 338 ดับมืดลงเช่นทุกคืน
ณ เวลาเลยเที่ยงคืน ม่อนแจ่มยังคงเข้าร่วมเกมส์ที่มีผู้เข้าแข่งขันเพียงคนเดียวและมีกรรมการเป็นคนเดียวกับผู้เข้าแข่งขันอย่างจริงจังเหมือนเดิม  แม้ว่าวันนี้จะขัดเขินเพียงใด แต่มันก็ชินเสียแล้วกับการใส่แว่นนอนมองแผ่นหลังสลับกับใบหน้ารูมเมทเตียงเดี่ยวตามแต่เจ้าตัวจะหันส่วนใดมา และคงละเมอถอดแว่นตัวเองตอนดึกอีกคืน เพราะตื่นเช้ามา ก็คว้าเจอแว่นแดงของเขาวางอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่มีส่วนไหนแตกหัก บนโต๊ะเขียนหนังสือทุกที

‘มันเกิดขึ้นเพราะแรงโน้มถ่วงของโลก อธิบายได้ง่ายๆด้วยกฎทางฟิสิกส์
ซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์ล้วนๆ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นเจือปน..’

ม่อนแจ่มเตือนตัวเองอย่างงัวเงีย..

           พชรยังคงตื่นอยู่.. ถอนหายใจน้อยๆท่ามกลางความสงัดเงียบ
เมื่อล้มตัวลงนอนจ้องมาได้ราวครึ่งชั่วโมง รูมเมทเตียงล่างก็ผล็อยหลับใหลจมดิ่งสู่ภวังค์พร้อมแว่นแดงคาตาเหมือนอย่างเคย
สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนก็คงเป็นใบหน้าเนียนที่แดงจัดกว่าปกติแม้ในความสลัวของห้อง
ร่างสูงยันตัวลุกขึ้นจากเตียง ก้าวมาย่อตัวลงเบาๆหน้าเตียงฝั่งตรงข้าม
มือแกร่งค่อยๆบรรจงถอดแว่นแดงของคนหลับออกมา และรับรู้ถึงลมหายใจสม่ำเสมอของคนบนเตียงในจังหวะเดียวกัน

             “พชร..”
จำได้.. จำลมหายใจนี้ได้ มันอุ่นและมาพร้อมกับกลิ่นกายที่อวลในอากาศ เสียงเล็กจึงพึมพำเรียกทั้งงัวเงีย
น่ารัก น่าใคร่.. จนทำให้ผู้มาเยือนอดทนไม่ไหว มือสากลูบไล้ไรผมนุ่มที่ปรกหน้าและปัดออกให้
โน้มลงไปหา ประทับจูบที่ริมฝีปากแผ่วเบา..

            พชรมองเจ้าของดวงตาหลับพริ้มด้วยความรู้สึกหลากหลาย
นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาคิดว่าจะเกิดขึ้น จูบ.. เขาจูบม่อนแจ่ม ประดิษฐาพงศ์
ทว่า นั่นก็ยังไม่น่าตกใจเท่ากับการที่ ..เมื่อได้จูบครั้งแรกแล้ว ก็อยากจะจูบคนตรงหน้า ..ซ้ำแล้ว ..ซ้ำอีก

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ขอบคุณทุกการติดตามเหมือนเดิม พบกันใหม่ตอนหน้า มิช้า มินานครับ

ออฟไลน์ Ysolip

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: SWEET SURRENDER 7/5/59 CH.6 Sealed With A Kiss P.2
«ตอบ #42 เมื่อ07-05-2016 22:56:40 »

 :impress2: :impress2: แอร้ยยยย ชอบพชรจังเลยยย
ขอผู้แบบนี้ค่ะชอบมาก นิสัยปากร้ายเย็นชาแต่ใจดี๊ใจดี๊ หูยยย ผู้ชายแบบนี้อบอุ่น น่าซบอกที่สุดลั้ลล
สำหรับคุณม่อนแจ่มแห่งวิศวะเครื่องกลนะคะ ถ้านางพูดมากอีกพชรก็ปิดปากเลยนะคะ คริๆ

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
Re: SWEET SURRENDER 7/5/59 CH.6 Sealed With A Kiss P.2
«ตอบ #43 เมื่อ07-05-2016 22:58:36 »

สบายใจไปสิม่อน

ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl
Re: SWEET SURRENDER 7/5/59 CH.6 Sealed With A Kiss P.2
«ตอบ #44 เมื่อ07-05-2016 23:57:54 »

อยากรู้ว่าพชรมีปมอะไรกับบ้านม่อน ค้างงง

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
Re: SWEET SURRENDER 7/5/59 CH.6 Sealed With A Kiss P.2
«ตอบ #45 เมื่อ08-05-2016 00:40:08 »

พชร ดีขี้นแล้ว สงสารม่อนนะ ม่อนไม่รู้เรื่องที่พชร โกรธเคือง มีอะไรไม่พูด ม่อนน่ารักมากเลย คนน่ารักแบบม่อนต้องมีความสุขเยอะๆ ขอบคุณนะคะ


ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: SWEET SURRENDER 7/5/59 CH.6 Sealed With A Kiss P.2
«ตอบ #46 เมื่อ08-05-2016 07:47:42 »

จูบกันแล้ววววววววววววว เอาแล่วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: SWEET SURRENDER 7/5/59 CH.6 Sealed With A Kiss P.2
«ตอบ #47 เมื่อ08-05-2016 08:00:03 »

จูบแล้วอ่ะ.....

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: SWEET SURRENDER 7/5/59 CH.6 Sealed With A Kiss P.2
«ตอบ #48 เมื่อ08-05-2016 09:00:33 »

ทำไมรู้สึกถึงดราม่าที่จะเกิด  :serius2:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: SWEET SURRENDER 7/5/59 CH.6 Sealed With A Kiss P.2
«ตอบ #49 เมื่อ08-05-2016 13:58:35 »

โลกของม่อรแจ่มกำลังจะเปลี่ยนไป๋

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: SWEET SURRENDER 7/5/59 CH.6 Sealed With A Kiss P.2
« ตอบ #49 เมื่อ: 08-05-2016 13:58:35 »





ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
Re: SWEET SURRENDER 7/5/59 CH.6 Sealed With A Kiss P.2
«ตอบ #50 เมื่อ08-05-2016 15:27:40 »

ฉันแพ้ทางคนแบบนี้จริงๆ ให้ตายยยยยย ม่อนแจ่มน่ารักน่าขยำอ่ะ ขยำๆๆๆๆๆๆ ชอบบบ

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: SWEET SURRENDER 7/5/59 CH.6 Sealed With A Kiss P.2
«ตอบ #51 เมื่อ10-05-2016 10:47:26 »

ไอ๊หยา ไอดิ้ลลลลลลลลลลลลลล หนูเข้ามาได้ผิดจังหวะมากลูก อีกนิดเดียวเองธ่อ ๆๆๆ นี่รอฉากนี้มาตั้งนานมีได้แป๊บเดียวเอง เสียดาย รอบสองชมัด ไม่เป็นไรนะ พชร คราวต่อไปเอาให้แน่ว่าจัดการได้นานกว่านี้นะ  :hao6:

ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22
SWEET SURRENDER 11/5/59 CH.7 Walk&Ride P.2
«ตอบ #52 เมื่อ11-05-2016 11:39:41 »

CHAPTER 7: Walk And Ride

            “หาอะไรของมึงวะ?”
ไอดิลจำต้องถาม เพราะเปิดประตูเข้ามาแล้วเห็นรูมเมทเครื่องกลก้มดูใต้โต๊ะก็แล้ว ใต้เตียงก็แล้ว ใต้เก้าอี้ก็แล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดหา เกรงแม่งจะพลิกตู้เสื้อผ้าขึ้นมาหาด้วย
ร่างเล็กกลอกตาไปมา หันไปมองไอหมอกคนรักซึ่งเดินมาส่งหน้าประตู ยักไหล่น้อยๆ

           “ไอ้ดิ้ล มึงชอบเก็บกวาดห้องอ่ะ มึง.. มึงเห็น เอ่อ เศษกระดาษแผ่นเล็กๆมั่งหรือเปล่าวะ”
ในที่สุด เมื่อดูท่าจะหาไม่เจอจริงๆ ม่อนแจ่มจึงอ้อมแอ้มถาม แม้จะยังโก้งโค้งอยู่ข้างเก้าอี้ สายตากวาดมองตามพื้น
“หึ..” ไอดิลลอบยิ้มกับคนรัก หมอกเองก็เสมองไปทางอื่นอย่างยิ้มๆพอกัน
“ไอ้เศษกระดาษที่พชรเขียนรหัสวิชาให้มึงน่ะนะ?”

โป๊ก!!
ชนขอบโต๊ะอีกแล้วสำหรับหัวม่อนแจ่ม

“โอ๊ยยย!” มือเรียวกุมขมับตัวเองแน่น
“เอ้าๆ ระวังหน่อยเว้ย” ทั้งไอดิลและไอหมอกรีบรุดเข้ามาดู
“นี่.. นี่มึงได้ยินเหรอวะ” เมทเครื่องกลมองเพื่อนซี้อย่างงงวย
ตอนนั้นไอ้ดิ้ลออกไปจากห้องแล้วไม่ใช่หรือไง..
“โอ๊ย” ไอดิลขำ “มึงตะโกนใส่มันดังลั่นขนาดนั้น ได้ยินกันทั้งชั้นนี้แหละมั้ง”
ไอ้เวอร์.. ม่อนแจ่มหน้าขึ้นสีจัด
“เออ นั่นแหละ มึงเห็น เห็นหรือเปล่า?”
ไอดิลส่ายหน้า “ไม่เป็นไรหรอก ในเน็ตก็มีรหัสวิชา ถ้ามึงจะลง ไม่ได้หายากเลยเพื่อน”
เออ นั่นกูรู้สัด แต่กูจะเอากระดาษแผ่นนั้นไง กูไม่รู้ปล่อยหล่นตอนไหนเนี่ย เฮ่อ..
“กูไม่เห็นเลย แล้วก็ยังไม่ได้กวาดห้องด้วย..” ไอดิลทำหน้าชั่วร้าย
“เพราะงั้น มึงคงต้องไปถามจากพชรแล้วล่ะ ว่ามันเห็นบ้างหรือเปล่า”
ไอ้ดิ้ล! อยากกระโดดถีบแม่งให้เต็มๆแรงจริงๆเว้ย!

“นี่ เอ่อ.. เมื่อคืน แบบว่า.. เสียงกูดังขนาดนั้นเลยเหรอหมอก”
ยังกังวลอยู่ ขอถามไอหมอกดีกว่า เพราะไอ้ดิ้ลพูดจาเว่อร์ๆตลอด เชื่อมันมากไม่ได้ เดี๋ยวจิตตก
“อืม ก็..” ไอหมอกกลืนน้ำลาย พยายามสรรหาคำพูดเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ “ก็.. คงไม่ได้มีใครตั้งใจฟังหรอกม่อน”
อ่า.. ขอบคุณมากหมอก หมอกเป็นแฟนเพื่อนที่ดีจริงๆ
“นั่นสิ ไม่มีใครมานั่งตั้งใจฟังหรอก” ไอดิลยืนยัน
ม่อนแจ่มยิ้มอย่างนึกขอบคุณ มึงก็เป็นเพื่อนที่ดีนะ..ไอ้ดิ้ล

อย่างไรก็ตาม ไอดิลเอ่ยเสริมต่อ
“หรือถึงตั้งใจฟัง เขาก็คงไม่อะไร เพราะนึกว่าผัว-เมียทะเลาะกัน”
“สัด!” ม่อนแจ่มว้ากลั่น ตั้งท่าจะวิ่งไล่เตะไอดิลอย่างที่ทำประจำ จนเมทสิ่งแวดล้อมต้องยกมือขึ้นเบรก
“เฮ้ย พอๆ ไม่อยากออกเหงื่อ กูพูดเล่นๆเฉยๆ มึงจริงจังอะไรเนี่ย กูรู้ว่ามึงกับพชรเป็นแค่เพื่อนร่วมห้องกัน”
ใช่ ก็ใช่ไง กูกับมันเป็น ..เป็นแค่เพื่อนร่วมห้อง ก็ถูกแล้ว..
“เออ ใครจะเหมือนมึงกับผัวมึง” ม่อนแจ่มว่าหงุดหงิด
“ยังเว้ย!” ไอดิลขัด “ยังเป็นแฟนกันอยู่”
“ห๊ะ?” ม่อนแจ่มเลิกคิ้วอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“พวกมึงคบกันมาตั้งแต่มอปลาย อยู่ใกล้ชิดกันขนาดนี้ ยังไม่ได้กันอีกเหรอวะ”
“เออ..” ไอดิลตอบรับอย่างเสียมิได้
“เดี๋ยวเหอะมึง” เมทเตียงล่างหรี่ตาเจ้าเล่ห์ “กูจะยุหมอกให้จัดการมึง!”
...
...
“เอ๊อออ บอกมันเล้ย”
ห๊ะ?
ปฏิกิริยาของเพื่อนร่วมห้องไม่เหมือนที่ม่อนแจ่มคาดเอาไว้ ซ้ำยังเสริม
“กูอ่อยมันจนเหนื่อยแล้วเนี่ย มีมึงช่วยยุยง กูจะโคตรขอบใจเลย เผื่อมันจะใจอ่อน ยอมจัดการกูสักที”

ไอดิล..
ไอหมอกไม่รู้จะทำยังไงกับคนรัก จะพ่นลมหายใจแล้วส่ายหัวน้อยๆก็ทำบ่อยจนเบื่อแล้ว
ได้แต่มะเหงกอีกฝ่ายเบาๆ ให้หายปากเก่ง ซึ่งก็คงไม่หายหรอก ต้องจนกว่าจะ ‘โดน’ จริงๆ ล่ะมั้ง

“ว่าแต่..” ไอดิลลากเสียงอย่างเคลือบแคลง พลางมองหน้าเพื่อนร่วมห้อง
“มึงเดินไปคณะมนุษยฯจริงๆเลยเหรอวะ?”
อะ..
“เอ่อ ก็.. เออ” ม่อนแจ่มยอมรับอย่างเสียมิได้บ้าง
แม่ง ได้ยินกูทุกคำเลยหรือนี่ มึงเอาหูแนบประตูไว้ใช่ไหมไอ้ดิ้ล สารภาพมาซะ!
“ก็.. ก็กูรอรถม่วงหน้าหอสี่ ไม่มาสักทีนี่หว่า”
ม่อนแจ่มคิดว่าสามารถหาข้อแก้ตัวที่สมเหตุสมผลให้ตัวเองได้แล้ว (มั้ง)
“ไหน? กูยังจำทางในมอไม่ค่อยแม่นเลย มึงร่ายมาซิ มึงเดินไปทางไหน ผ่านอะไรบ้าง”
ไอดิลทำหน้าอยากรู้อยากเห็น ซึ่งเป็นสีหน้าที่มันทำบ่อยที่สุดเลย ม่อนแจ่มไม่อยากจะพูด
“อืม..” เมทเตียงล่างทำท่านึก ขณะหย่อนก้นนั่งลงบนเตียงตัวเอง
“กูเดินผ่านหอสี่ชายมาหอเรา ลัดผ่านลานสักหน้าหอที่มีหอสามหญิงอยู่ตรงข้าม แล้ว.. กูข้ามถนนลงเนินไป”
ก็นั่นแหละนะ..
“ผ่านทางเข้าวิทยาลัยสื่อฯ แล้วกูก็ขึ้นเนินอีกทีไปหน้าสหกรณ์ ซึ่งตรงข้ามเป็นสำนักหอสมุด”
จากนั้นกูก็..
“เดินเลียบโดมเฉลิมพระเกียรติสักอย่างจนเห็นคณะมนุษยฯอยู่ฝั่งตรงข้าม”
แล้วกูจึง..
“ข้ามถนน เดินเข้าไปถาม เด็กมนุษยฯบอกว่าให้กูเดินผ่านตึก HB7  ไปตามสะพาน ตรงเข้าไปจนถึงตึก HB5 แต่ไม่ต้องลงบันไดนะ เพราะเดี๋ยวจะเลยไปอ่างแก้วซึ่งเป็นที่ที่ไม่ควรไป ให้กูขึ้นบันไดตึก HB5 ที่อยู่ซ้ายมือไปชั้นสอง”
แล้วนั่นแหละ..
“ภาควิชาปรัชญาและศาสนาอยู่สุดทางเดิน”
“เหี้ยยย!”
ไม่ได้สบถมานานแล้วคำนี้ ไอดิลขอสักที ขอแบบเต็มปากเต็มคำเลยด้วย
“ไอ้ม่อน..” เขามองคู่ซี้ค้าง “กฎทางฟิสิกส์ข้อไหนพามึงไปได้ถึงขนาดนั้นวะ?”

กู.. กูไม่รู้..

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

          “อ้าว พชร กลับมาพอดี ไปเดินหาของกินหน้ามอกัน”
ร่างสูงส่ายหน้าน้อยๆ “วันนี้มีงานขันโตกกับภาคปรัชญา ตามสบายนะ”
“อ้อ” ไอดิลพยักหน้า “งั้นเดี๋ยวซื้อของกินมาฝาก”
“ไม่เป็นไร” ส่ายหน้าอีกครั้งด้วยความเกรงใจ เพื่อนร่วมห้องมีน้ำใจขนาดนี้ พชรจึงคิดว่าควรถามอะไรบ้าง
“แล้วไปกันยังไง”
“หมอกแว้น ส่งมอ’ไซค์คู่ชีพมันมาจากปักษ์ใต้แล้ว”
พชรเลิกคิ้ว ขณะไอหมอกพยักหน้ารับ สามคนยังไหวอยู่ แต่นี่มีในฝัน เพื่อนรัฐศาสตร์ของไอดิลที่เขาเคยเจออีกคนหนึ่ง พร้อมทั้งเครื่องกล จะซ้อนกันไปยังไงสี่คน  ..ก็คงแยกกันไปกระมังนะ?
พชรพยักหน้าลาเบาๆ ก่อนเดินสวนจะเข้าหอ

           ในฝันเหล่มองร่างสูงและร่างเล็กรูมเมทเพื่อนรักสลับไปมา เนื่องจากได้รับคำบอกเล่าถึงพฤติกรรมแปลกประหลาดมาจากไอดิลหลายครั้งหลายหน แล้วจึงเกิดความคิดชั่วร้าย
“ไอ้ดิ้ล” ในฝันกระดกนิ้วชี้ “เอาหูมึงมานี่ซิ..”
...
...

“ไปหมอก ไปฝัน!  ไอ้ม่อน เดี๋ยวเจอกัน!”
ก่อนที่พชรจะเดินพ้นไปจึงได้ยินเสียงเล็กของเมทสิ่งแวดล้อมเอ่ยดังๆเช่นนั้น
อ่า.. ร่างสูงหันกลับมามองอย่างงงๆ ไอดิลจึงตอบคำถาม
“อ๋อ พอดีเดี๋ยวกูกับฝันซ้อนท้ายหมอก ไอ้ม่อนมันจะเดินไปเองน่ะ”
ห๊ะ?
“เดินเนี่ยนะ..” พชรทวนคำ
หลังมอน่ะโอเค แต่หน้ามอจะไปเดินได้ยังไงจากหอสามชาย
“ไม่มีปัญหา” ไอดิลยักไหล่ยิ้มๆ ราวกับรู้ความคิดรูมเมทปรัชญา
“ไอ้ม่อนมันเดินเก่ง จากคณะวิศวฯไปคณะมนุษย์ตอนเที่ยงๆ มันยังเดินได้เล้ย!”

ไอ้ดิ้ล! มึงจะย้ำทำเพื่อ?
ม่อนแจ่มถลึงตาใส่คู่ซี๊ที่ขยันพูดแต่เรื่องเดือดร้อน

“ไปละ! เดี๋ยวเจอกัน”
ไอดิลโบกมือบ๊ายบายสองรูมเมทและลากคนรักกับเพื่อนสาวไปยังลานจอดมอเตอร์ไซค์หน้าหอสามชาย

           เหลือเพียงคนตัวสูงกับคนตัวเตี้ยยืนเยื้องกัน..
ความทรงจำเมื่อคืนไหลบ่าเข้ามาในห้วงคำนึงอีกครั้ง จนเมื่อทันทีที่สบตากันทำให้ต่างคนต่างก็เสมองไปคนละทาง ไม่เว้นแม้แต่ม่อนแจ่ม.. ‘แชมป์เกมจ้องตา’ ด้วยว่ามันมีความแตกต่างอยู่พอสมควร ระหว่างการนอนมองในห้องสลัวกับการมองท่ามกลางความสว่างไสวใต้ผืนฟ้าภายนอกอาคาร
ที่สุด.. ก็เป็นพชรที่เดินเข้าหอไปก่อน เพื่อเอาหนังสือเรียนขึ้นไปเก็บและเปลี่ยนชุดอย่างที่ตั้งใจว่าจะทำก่อนไปร่วมงานกับสาขาวิชา

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

            “ไอ้ดิ้ล ไอ้สัด ไอ้..” ม่อนแจ่มเดินด่าจนหมดคำจะพูด
นี่แม่งจะให้กูเดินไปหน้ามอจริงๆใช่ไหม ก็ไหนตกลงกันว่าหมอกจะพาฝันแว้นไปก่อน
ส่วนเขากับเจ้าตัวจะนั่งรถม่วงไปด้วยกัน แล้วมันกลายเป็นเขาต้องเดินได้ยังไงกันวะเนี่ย
ไอ้ดิ้ล แม่ง กูขอให้หมอกจัดการมึง อ่อ.. ไม่สิ ขอแบบนั้นก็เข้าทางไอ้ดิ้ลกันพอดี
กูขอให้หมอกไม่จัดการมึงดีกว่า ขอให้มันละเว้นมึงจนถึงปีหน้า ปีหน้าโน้น และปีหน้าของปีหน้าโน้นอีกที นี่ล่ะ เข้าท่า!
สาปแช่งไอ้ดิ้ลมัน สาปแช่งจนระทั่งรู้สึกว่ามีอะไรดำๆเขียวๆเคลื่อนเข้ามาใกล้

สองคนมองตากันอีกครั้ง..
หนึ่งคนริมฟุตบาทและหนึ่งคนบน Kawasaki D-Tracker ซึ่งเปลี่ยนชุดนักศึกษาเป็นเสื้อคอปก-กางเกงยีนส์เรียบร้อยแล้ว

...
‘มันเกิดขึ้นเพราะแรงโน้มถ่วงของโลก อธิบายได้ง่ายๆด้วยกฎทางฟิสิกส์
ซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์ล้วนๆ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นเจือปน..’

ม่อนแจ่มจำต้องเตือนตัวเองแบบนี้อีกที

“นั่งได้หรือเปล่าล่ะ จะไปส่งให้”

ห๊ะ..
พูดกับกูใช่ไหมน่ะ?
ม่อนแจ่มสนเท่ห์ หันซ้าย หันขวาให้แน่ใจว่าไม่มีบุคคลอื่นอยู่ใกล้ๆ

“ตกลงนั่งมอ’ไซค์เป็นไหมแว่นแดง?”
คนบนมอเตอร์ไซค์โมตาร์ดถามย้ำอีกครั้งว่าคนบนฟุตบาทนั่งเป็นแต่เก๋งซีดานหรือเปล่า
‘แว่นแดง’ เม้มปากน้อยๆ พยักหน้ารับ อีกฝ่ายจึงพยักบ้าง ส่งหมวกกันน็อคให้เมื่อร่างเล็กเดินเข้ามาใกล้

“เอ่อ.. มึงใส่เถอะ”
ทำท่าจะใส่แล้ว ทว่า เห็นมีหมวกอยู่ใบเดียว ม่อนแจ่มจึงปฏิเสธไป
กลัวนะ ไม่ใช่ไม่กลัว ก็บอกแล้วไงว่านั่งมอเตอร์ไซค์เป็น แต่พอดีย่อมาจาก.. ‘เป็นครั้งแรก’ น่ะ 

เมื่อเปี๊ยกแว่นแดงยืนเข้าฌานอยู่อย่างนั้น พชรจึงย้ำ “ใส่ แล้วขึ้นมาเร็วๆเครื่องกล กูรีบ”
ไอ้..ปรัชญา..
ม่อนแจ่มเม้มปากแทบแบน ขณะครอบหมวกกันน็อคสีขาวลงบนหัว
หมวกกันน็อคใหญ่เกินไปหน่อย ซึ่งก็นับว่าดีเพราะไม่ต้องถอดแว่น
แต่ที่ไม่ดีคือ.. ม่อนแจ่มพยายามทำอะไรสักอย่างกับสายรัด นี่ล็อคมันอยู่ไหน สอดเข้าไปยังไงวะเนี่ย..
พชรเลิกคิ้ว พ่นลมหายใจน้อยๆ ชะโงกตัวไปสอดสายหมวกเข้ากับตัวล็อคให้เรียบร้อย เพราะไม่อยากรอม่อนแจ่มจนถึงพรุ่งนี้
มือทั้งสองสัมผัสกันเพียงชั่ววินาที แต่ก็เพียงพอทำให้ชะงักกึก..

“จะขึ้นเมื่อไหร่แว่นแดง?”
พชรถามในที่สุด หลังจากเงียบกันไปชั่วอึดใจ
ม่อนแจ่มจึงก้าวขึ้นเหยียบบนที่วางเท้า ทุลักทุเลหน่อย เพราะเขาตัวเล็กและมอเตอร์ไซค์พชรนั้นสูง
ทว่า ก็พาตัวเองไปนั่งซ้อนหลังจนได้

มันควรจะต้องเป็นแบบนี้ใช่ไหม?
แบบว่า.. แผ่นอกกูควรจะชิดสนิทแนบกับแผ่นหลังคนขี่แบบนี้เลยหรือไง

ม่อนแจ่มพยายามขยับตัวไปด้านหลังเพื่อเว้นระยะห่าง แต่ทำได้ยากนักเพราะความลาดของเบาะพาร่างบางของเขากลับมาชิดหลังพชรเสียทุกที

“พร้อมแล้วบอก จะออกรถ” เสียงที่เข้มอยู่แล้วเข้มขึ้นอีก

อะ.. ก็..
มันชิด ชิดไปไหม..


“อื้อ พร้อม”
จำต้องตอบรับ เมื่อใบหน้าคมหันกลับไปมองหอนาฬิกาเช็คเวลา เกรงว่าจะไปงานสาย
เอาวะ ขอเสริมอีกหน่อยแล้วกัน พชรจะได้มั่นใจว่าม่อนแจ่มนั่งมอเตอร์ไซค์เป็นจริงๆ
“พร้อมแล้ว พชร!  ซิ่งเลย พร้อมโคตรๆ ไม่เคยพร้อมอะไรเท่านี้ เหาะไปเลยยิ่งดี”
พชรพ่นลมหายใจ
พร้อมโคตรๆ
เหาะเลย

แล้วไอ้มือที่เกร็งเกาะไหล่แน่นกลัวตกอยู่แบบนี้ล่ะ? มันน่าแกล้งให้หัวโกร๋นนัก
อย่างไรก็ตาม พชรขี่ช้าๆ ให้เวลาคนข้างหลังได้ปรับตัว.. ก็คงนั่งมอเตอร์ไซค์เป็น ..เป็นครั้งแรกนั่นแหละ ไม่ต้องสงสัยเลย

         ม่อนแจ่มค่อยๆละมือที่เกร็งให้ผ่อนคลายลง เมื่อมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
ความรู้สึกที่ลมปะทะร่างตอนอยู่บนมอเตอร์ไซค์เป็นแบบนี้เองสินะ
ก็รู้สึกดีเหมือนกันแฮะ มิน่าล่ะ หลายๆคนถึงชอบขี่มอเตอร์ไซค์กัน
ม่อนแจ่มเคยเห็นพชรอยู่บนรถคันนี้อยู่บ้างหากกลับมาหอประจวบเหมาะกับตอนร่างสูงกลับมา หรือออกจากหอในเวลาไล่เลี่ยกับที่คนตรงหน้าจะไปเรียนพอดี
รถของพชรไม่ได้ใหม่นัก ดูผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชนด้วยซ้ำ แต่ตัวรถบ่งบอกให้รู้ว่าคนเป็นเจ้าของดูแลเอาใจใส่มันอย่างมาก ทำให้มันยังดูดีไม่มีที่ติ

ฝ่ามือเล็กทั้งสองทาบไว้บนแผ่นหลังกำยำเบื้องหน้าด้วยไม่รู้จะเอาไปไว้ตรงไหน
ที่เกาะข้างหลังก็ไม่มี ตัวก็พลอยจะไถลไปซบอยู่เรื่อย ม่อนแจ่มจึงต้องดันไว้ พยายามทำตัวให้เป็นปัญหาน้อยที่สุด
คิดว่าพชรน่าจะรีบไปงานที่คณะ แต่กระนั้น ก็ยังขี่รถไม่เร็วเลย ทั้งที่หากพชรขี่รถคันนี้ไปกลับเชียงใหม่-ลำพูนบ่อยๆในเวลาไม่นานนักอย่างที่ไอดิลบอก ก็แปลว่าไม่ใช่คนขี่รถช้านักหรอก
ไม่รู้ทำไมความคิดนั้นทำให้ม่อนแจ่มยิ้มออกมาได้..

          “เอ่อ.. ส่งแค่นี้ก็พอ พชร”
เสียงเล็กเอ่ยขึ้น เมื่อรถวิ่งมาถึงประตูหน้ามอ กาดของกินอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องไปหน่อย แต่เขาเดินไปเองได้
ไม่ตอบรับ ..ไม่ปฏิเสธ ..เหมือนเดิม แล้วพชรก็ขี่รถออกผ่านประตูมอไป

“ไอดิลอยู่ไหน?”
“เอ่อ.. ไอ้ดิ้ลมันจะกินก๋วยเตี๋ยวไข่ต้ม เอ่อ ร้านข้างในอะ แต่ว่า..”
แต่อะไรไม่ทันได้พูด เพราะ D-Tracker เลี้ยวเข้าไปข้างในกาดแล้ว และค่อยๆชะลอจอดหน้าลานจอดมอเตอร์ไซค์

            ทุลักทุเลอีกครั้งเมื่อร่างเล็กต้องพยายามลงมาจากมอเตอร์ไซค์สูง กระโดดตุ๊บลงแม่งเลยแล้วกัน
คราวนี้ ถอดหมวกกันน็อคได้แล้วด้วย เดี๋ยวพชรมันจะหาว่าเราไม่มีน้ำยา อะโด่ว เอาไป หมวก!
กิริยานั้นทำให้ขำจนพชรต้องเสมองไปทางอื่นอีกที
ม่อนแจ่มมองเจ้าของใบหน้าคมสันที่ยื่นมือมารับหมวกกันน็อค เอ่ยค่อยๆ “ขอบคุณ ..พชร”

ไม่ตอบรับ.. ไม่ปฏิเสธ.. ไม่พยักหน้า ไม่อะไรสักอย่าง พชรเพียงแต่ใส่หมวก แล้วก็ขี่ D-tracker ต่อไปตามทางออก
ทิ้งให้คนข้างหลังถอนหายใจอย่างชาชินกับท่าที แต่ก็.. ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกดีขึ้น
คงเป็นเพราะได้นั่งมอเตอร์ไซค์ครั้งแรกในชีวิตล่ะมั้ง ต้องเก็บเข้าลิสต์เรื่องเล่าสู่ป้าเพ็ญไว้อีกเรื่องหนึ่ง

ม่อนได้นั่งมอเตอร์ไซค์แล้วครับ..
แถมได้ซ้อนท้ายรูมเมทปรัชญาที่ไม่ชอบขี้หน้าม่อน ซึ่งอุตส่าห์สละหมวกกันน็อคให้มาคุ้มครองกบาลม่อนอีกด้วย


รอยยิ้มแย้มแต้มริมฝีปากเรียว ได้แต่มองตามหลังไปอย่างนั้น ทั้งๆที่พชรก็ขี่พ้นออกไปตั้งนานแล้ว..

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

รู้สึกตอนนี้สั้นสักหน่อย ขออภัยด้วยนะครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามเหมือนเดิมจ้า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2016 11:53:44 โดย INDY-POET »

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: SWEET SURRENDER 11/5/59 CH.7 Walk&Ride P.2
«ตอบ #53 เมื่อ11-05-2016 13:23:52 »

ฮื้ออ ชอบม่อนอ่ะ

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
Re: SWEET SURRENDER 11/5/59 CH.7 Walk&Ride P.2
«ตอบ #54 เมื่อ11-05-2016 13:29:14 »

น่ารัก

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: SWEET SURRENDER 11/5/59 CH.7 Walk&Ride P.2
«ตอบ #55 เมื่อ11-05-2016 13:49:12 »

ว้ายยย ให้คะแนนไอดิลลูกทำดีมากจ้า ส่วนหนูม่อนจ๋าคราวหน้านะจ๊ะซ้อนมอร์ไซค์แบบกันตกจริงๆมือน่ะต้องกอดคนขับไว้แน่นๆนะจ๊ะ เอาใหม่คราวหน้าอย่าให้พลาดเชียว  :katai2-1:

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: SWEET SURRENDER 11/5/59 CH.7 Walk&Ride P.2
«ตอบ #56 เมื่อ11-05-2016 16:00:00 »

ใกล้เข้าไปอีกนิดละ  :กอด1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: SWEET SURRENDER 11/5/59 CH.7 Walk&Ride P.2
«ตอบ #57 เมื่อ11-05-2016 18:34:28 »

ในฝัน ร้าย เจ้าเล่ห์นะ แต่ก็ทำให้พชร ไปส่งม่อนได้ เจ๋ง
แต่เรื่องของตัวเอง เหนียม เงียบ ไม่กล้ากับพี่หมอนะ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: SWEET SURRENDER 11/5/59 CH.7 Walk&Ride P.2
«ตอบ #58 เมื่อ11-05-2016 21:13:47 »

ชอบเรื่องนี่มาก
ตัวละครน่ารักทุกคนเลย

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
Re: SWEET SURRENDER 11/5/59 CH.7 Walk&Ride P.2
«ตอบ #59 เมื่อ11-05-2016 21:26:36 »

พชร น่ารักแล้ว ไม่พูดแต่สื่อสารด้วยการกระทำ ว่าห่วงม่อน ปากร้ายน้อยลง มาอนน่ารัก ฮามากตรงแช่งไอดิล เกรียนจริงม่อน

#มาแบบสั้นๆก็ยังดีค่ะ ดีกว่ารอนานๆ  รอติดตามนะคะ สนุกค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด