CATER TO YOU
SPECIAL CHAPTER
ฉลองเรือนหอ @ เชียงใหม่
ผมก็ไม่แน่ใจว่าผมชอบการจ่ายตลาดตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ทุกครั้งที่คุณตรีกินอาหารที่ผมทำอย่างเอร็ดอร่อย ผมก็ยิ่งอยากฝึกฝีมือ อยากทำอาหารเก่งๆ ให้ได้หลายแบบหลายเมนู ความโชคดีของคนสมัยนี้คือ คุณไม่จำเป็นต้องเข้าคลอสเรียนทำอาหารราคาแพงถ้าคุณไม่มีทุนทรัพย์ แต่คุณสามารถศึกษาได้จากในอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะในยูทูบที่มีวิธีทำอาหารที่มาทั้งภาพและเสียง
ฝึกอีกนิดผมน่าจะไปเปิดร้านอาหารได้เลยล่ะครับ
“คุณตรี ดูสิครับ อโวคาโดลูกใหญ่มากเลย คุณตรีชอบกินนี่ครับ” ผมปรี่เข้าไปที่ซุ้มขายผลไม้ท้องถิ่น หนึ่งในนั้นมีอโวคาโดของโปรดของคุณตรี
“แต่อันนี้มันพันธุ์ไทย”
ผมทำหน้าฉงนว่าคุณตรีหมายถึงอะไร เขาเลยช่วยไขข้อข้องใจให้ผม
“ฉันชอบพันธุ์แฮซจากต่างประเทศมากกว่า ของไทยจะน้ำเยอะ ไม่หวานไม่มันเท่าของต่างประเทศ”
อ่อ แบบนี้นี่เอง ผมก็ไม่ได้สังเกต ตอนอยู่กรุงเทพก็ซื้อเฉพาะตรงโซนตู้แช่ผลไม้แบบที่น้ากุ้งเคยบอกและคุณตรีเคยกินเท่านั้น
“แต่อันนี้มันถูกว่าตั้งเยอะนะครับ แถมยังเป็นของคนไทยด้วย เราช่วยอุดหนุนของไทยไม่ดีกว่าเหรอครับ อีกอย่างที่เชียงใหม่น่าจะหาของต่างประเทศกินยากนะครับ” ผมพูดตามที่คิด แต่คิดถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะผมไม่ใช่คนแถวนี้
“ขายเก่งนะเรา” คุณตรีหลุดยิ้ม
“จริงเหรอครับ ผมเหมาะเป็นพ่อค้าไหม” ผมทำตาโตตื่นเต้น คุณตรีใช้สายตามองอย่างพินิจพิจารณาก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่อ่ะ”
“เอ้า ทำไมละครับ”
“เหมาะจะเป็นแฟนฉันมากกว่า” คุณตรียิ้มกริ่มที่มุมปาก
“...”
“เหมาะที่สุดคือเป็น...”
“พอครับ ไม่เอาก็ไม่เอา” ผมรีบเอ่ยแทรกก่อนที่คุณตรีจะพูดอะไรที่ชวนให้อาย ผมหมุนตัวจะเดินออกจากซุ้มขายผลไม้แต่คุณตรีดึงแขนเอาไว้ ผมพาผมกลับไปยืนหน้ากองอโวคาโดลูกโตอีกครั้ง
“หึหึ เอาสิ เลือกไปสักหนึ่งกิโล พรุ่งนี้ฉันอยากกินโทสอโวคาโดกับกาแฟดำ” คุณตรีพูดถึงอาหารเช้าเพื่อสุขภาพของโปรดของเขาที่ผมหัดทำหลายแบบจนรสชาติดีถูกปากคนกิน
“บางทีคุณตรีลองของไทยแล้วอาจจะชอบก็ได้ ผมเห็นอะไรๆคุณตรีก็ใช้แต่ของต่างประเทศ คุณตรีต้องหัดลองใช้ของไทยกินของไทยบ้างนะครับ”
“ขนาดนั้นเลย”
“ใช่ครับ เอาลูกพีชกับลูกพลับด้วยไหม”
“แล้วแต่ ถ้าอยากให้ฉันกินนายก็เลือกเลย” พอคุณตรีว่าแบบนั้นผมก็เลยเลือกผลไม้มาอีกสองสามอย่าง พลางคิดไปด้วยว่าจะเอาไปทำอะไรให้คุณตรีทาน แต่ผมก็เลือกซื้อไปแค่พอกินในช่วงสองสามวันนี้ หมดแล้วก็ค่อยมาซื้อใหม่จะได้ได้กินแต่ผลไม้สด
“นี่ นายน่ะพูดผิดไปนะ” ระหว่างที่เดินเลือกซื้อของ คุณตรีก็เรียกผมแล้วก็พูดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“อะไรครับ ผมพูดอะไรผิด” ผมหันไปถามเขาด้วยความสงสัย
“ก็ที่นายบอกว่าฉันชอบใช้แต่ของต่างประเทศไง”
“ผมพูดผิดเหรอครับ”
“ใช่ เพราะมีอยู่อย่างหนึ่งที่ฉันไม่ได้ใช้ของต่างประเทศ”
ผมช้อนตามองอย่างไม่เชื่อคำคนหล่อ เสื้อผ้าของเขาก็แบรนด์ดังราคาเป็นพันเป็นหมื่น ข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน ต่อให้เป็นของบริษัทตัวเอง แต่วัสดุที่เอามาทำบางอย่างก็นำเข้า อาหารและของกินอย่างพวกผักผลไม้ก็ต้องเป็นของนำเข้านะครับ ผมไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่คุณตรีไม่ใช้ของนอกเลย
“ผมว่าไม่น่ามีนะครับ”
“มีสิ”
“อะไรล่ะครับ”
“เมีย”
“...!” ผมอึ้งกับคำตอบที่เขาพูดออกมาจากปาก
“ว่าแต่เด็กคนนี้เมดอินไทยแลนด์หรือเปล่านะ หรือจริงๆแล้วเป็นลูกครึ่ง”
“...”
“ครึ่งคนครึ่งเทวดา”
“บ้า” ผมเดินหนีเขาทันที ใครจะไปอยู่ให้เขาแทะโลมให้ผมทั้งเขินทั้งอายกันล่ะ คนตัวโตก็หัวเราะเบาๆอย่างชอบอกชอบใจ เขายิ้มอย่างมีความสุข เห็นอย่างนั้นผมก็รู้สึกอิ่มเอมจนท่วมท้นในอก
นับแต่วันแรกที่ผมได้เจอคุณตรีอีกครั้ง ผมก็บอกตัวเองไว้แล้วว่าจะอยู่ดูแลทำให้เขามีความสุขที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหน นั่นคือหน้าที่ของผม
หน้าที่ที่ผมทำด้วยหัวใจ
“กาแฟดริปสดไหมครับ”
ขาทั้งสองข้างของผมชะงักเมื่อเดินผ่านร้านกาแฟตั้งโต๊ะที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ ผมไม่กินกาแฟแต่ผมชอบกลิ่นของมัน ถ้าถามว่าเริ่มชอบตั้งแต่ตอนไหน ก็คงเป็นตอนที่ฝึกชงกาแฟให้คุณตรีนั่นแหละ
“ลองชิมไหมครับ” คนขายเอ่ยชวนอย่างเป็นมิตร ผมขยับเข้าไปดูด้วยความสนใจ
“ผมไม่ทานกาแฟครับ แต่คนนี้กิน” ผมชี้ไปที่คุณตรี พ่อค้าก็เลยส่งแก้วกระดาษแก้วเล็กที่ใส่กาแฟกลิ่นหอมมาให้คุณตรีลองชิม คุณตรีรับแก้วกาแฟไปจิบ ดวงตาคมหลับลงเพื่อดื่มด่ำกับรสชาติเครื่องดื่มสีเข้ม
“เป็นไงครับ” คนขายถามเมื่อคุณตรีชิมไปได้สักพัก
“อืม รสชาติดีครับ กลิ่นก็หอม เมล็ดกาแฟนี่ขายยังไงครับ” คุณตรีขยับเข้ามาเลือกดูด้วยตัวเอง เขาเป็นคนที่ชื่นชอบกาแฟมากจริงๆ
“ถุงละ180 บาทครับ น้ำหนัก 250 กรัม”
“งั้นผมเอาเมล็ดกาแฟสามถุง ไม่ต้องใส่ถุงนะครับ ผมมีถุงผ้ามา”
“แฟนเหรอครับ” พ่อค้าถามแบบไม่เจาะจงว่าถามใคร เพียงใช้สายตามองผมกับคุณตรีสลับกันขณะที่ส่งถุงเมล็ดกาแฟให้คุณตรี ส่วนผมก็มีหน้าที่ควักเงินจ่าย
“ครับ เขาเป็นแฟนผม” คุณตรีตอบพลางยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะรับถุงกาแฟมาใส่ถุงผ้า
“อ่อ คุณโชคดีจังนะครับ” คนขายพูดและรับเงินจากผม
“ขอบคุณครับ” คุณตรีตอบก่อนจะพาผมเดินออกมา
ดีจังเลยนะครับ โลกสมัยนี้เปิดกว้างมากพอที่จะไม่ดูถูกดูแคลนคนที่รักชอบเพศเดียวกัน อาจจะไม่ทุกคนที่เห็นด้วย แต่ก็ยังมีคนอีกบางกลุ่มที่ให้เกียรติความรักของผู้อื่น
คุณคนขายกาแฟเป็นคนดี...ผมขอให้ขายดิบขายดีนะครับ
“คุณตรี ที่บ้านยังไม่มีเครื่องทำกาแฟนี่ครับ เอาอันนี้ไปลองไหม” ผมเดินมาหยุดที่ร้านขายแก้วมัค ที่น่าสนใจก็คือแก้วทรงปากกว้างที่ใช้กรองกาแฟแบบร้านกาแฟที่เราชิมเมื่อครู่ เขาว่าเป็นการชงแบบดริป ผมว่าน่าสนใจดี และคุณตรีก็ชอบกาแฟที่เขาทำด้วย
“ทำเป็นเหรอ”
“ผมอยากลอง” อะไรที่คุณตรีชอบผมก็อยากลองทำให้เป็นทุกอย่าง
“อยากลองก็ซื้อสิ อยากได้อะไรก็ซื้อ ให้กระเป๋าเงินไปแล้วนิ”
“ครับ” ผมยิ้มกว้างแล้วรีบเข้าไปเลือกดูของด้วยความสนใจ
ตลอดช่วงบ่ายไปจนถึงตอนเย็น ผมเดินเลือกซื้อของกับคุณตรีเพลินมาก นับเป็นครั้งแรกเลยที่ผมมาเดินตลาดแล้วซื้อของติดไม้ติดมือกลับบ้านเยอะขนาดนี้ และมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์คือของที่ผมเลือกให้คุณตรี โดยเฉพาะของกินที่มีตั้งแต่ผลไม้ออร์แกนิค ผักปลอดสารพิษที่เห็นแล้วไม่ซื้อก็ไม่ได้ ไหนจะของตกแต่งบ้านสวยๆอีกหลายอย่าง แก้วเอย จานชามเอย ผมได้มาหลายอย่างเลยครับ
มื้อเย็นเราหาทานที่ร้านอาหารเหนือชื่อดังในตัวเมือง กินเสร็จก็ขับรถกลับบ้านพัก ผมทิ้งตัวนั่งเอนบนโซฟา ผมทานมื้อเย็นไปเยอะมาก ตอนนี้ยังรู้สึกแน่นท้องอยู่เลย
“คุณตรีครับ เดี๋ยวผมเก็บเอง” ผมยันแขนขึ้นนั่งตัวตรงเมื่อเห็นว่าคุณตรีหอบข้าวของเข้าไปเก็บในครัว
“ไม่เป็นไร นั่งพักไปเถอะ เดินซื้อของเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”
“ไม่เอาครับ มันหน้าที่ผมนะ เดี๋ยวผมเก็บเอง” ผมเดินเอื่อยๆไปหาคุณตรีที่เคาน์เตอร์ครัว
“ไม่มีหน้าที่ใครทั้งนั้น ฉันกับนายคือครอบครัวเดียวกัน เก็บของแค่นี้ทำไมฉันจะทำให้นายไม่ได้”
“แต่คุณตรีก็เหนื่อยเหมือนกันนี่ครับ” ผมบอก เข้าไปแย่งถุงผักกับผลไม้ในมือคุณตรีแล้วเอาไปแช่ในตู้เย็น
“งั้นเก็บแต่ของสดแล้วกัน ที่เหลือค่อยมาจัดการวันพรุ่งนี้ดีไหม” คุณตรีส่งถุงของสดทั้งผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์ให้ผมเอาเข้าตู้เย็น
เก็บของสดเข้าตู้เย็นเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จัดการล็อกบ้านปิดไฟด้านล่าง ก่อนจะพากันขึ้นไปบนห้องนอน พอเห็นเตียงแล้วก็อยากจะทิ้งตัวลงนอนเลยครับ ตอนเดินเที่ยวไม่รู้สึกเหนื่อย จะมาเหนื่อยก็ตอนที่เห็นเตียงกับได้อากาศเย็นๆจากเครื่องปรับอากาศ
“ไปอาบน้ำกันเถอะ” คุณตรีพูดแล้วก็ถอดเสื้อยืดที่ใส่อยู่ออกจากตัว ผมเริ่มจะชินกับการนึกจะถอดเสื้อผ้าก็ถอดของคุณตรี แม้ว่ากล้ามเนื้อหน้าท้องของเขาจะทำให้ผมใจสั่นก็ตาม
“คุณตรีจะทำอะไรครับ” ผมขยับถอยหลังเมื่อคุณตรีหันมาคว้าจับชายเสื้อของผมแล้วทำท่าจะดึงออกจากหัว
“ก็ถอดเสื้อผ้าไง ไม่อาบน้ำเหรอ” เขาทำหน้าฉงน แต่มือไม้ก็ไม่หยุดขโมยเสื้อจากร่างกายของผม และเขาก็ทำมันสำเร็จ เสื้อยืดของผมลอยละลิ่วติดไปกับมือของเขา เหมือนกับว่ามันไม่เคยอยู่บนตัวผมมาก่อน
“คุณตรีก็ไปอาบก่อนสิครับ” ผมรู้สึกหวิวๆยังไงไม่รู้ สงสัยแอร์จะหนาวไป ลูกเกดเม็ดเล็กบนหน้าอกของผมถึงได้รู้สึกเย็นวาบจนแข็งตัว ยิ่งตอนที่คุณตรีมองจ้องมัน มันยิ่งรู้สึก…สยิว
“ฉันไม่ได้บอกเหรอว่า เราจะอาบน้ำด้วยกันน่ะ ฉันอยากลองสบู่ที่ซื้อมาใหม่กับนาย”
คุณตรีขยับเข้ามาใกล้ ไล่ต้อนให้ผมเดินถอยหลังเข้าไปในห้องน้ำ มือของเขาก็อยู่ไม่เป็นสุข คอยจะลูบวนแถวเอวและหน้าท้อง
คุณตรีเกลี่ยปลายจมูกแถวๆโหนกแก้ม พร่ำพรมจูบแผ่วเบาไปทั่วใบหน้าและริมฝีปาก ไม่ใช่การจูบแบบดีพคิส แต่เป็นการจูบเบาๆแต่ทำให้ใจสั่นสะท้าน
ยิ่งสัมผัสของเขาบางเบาเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งคล้อยตามได้ง่ายเท่านั้น
เขาจับจุดถูกว่าผมชอบความอ่อนโยน เพราะเมื่อทำให้ผมเคลิบเคลิ้มได้แล้ว หลังจากนี้เขาจะเอาแต่ใจขนาดไหนก็ได้โดยที่ผมจะไม่ขัดขืน
คุณตรีขยับถอยห่าง เขายกมือลูบแก้มผมพลางกระซิบบอกให้รอเขา ผมที่ยังมึนงงมองคุณตรีเดินออกไปจากห้องน้ำ ประเดี๋ยวเดียวเขาก็กลับมาพร้อมกับถุงที่ได้มาจากร้านขายเทียนหอมและสบู่
คุณตรีจ้องผมไม่วางตา เขาหยิบเทียนหอมที่ผมเลือกขึ้นมาดม แล้วใช้ไม้ขีดไฟจากต่างประเทศจุดไฟ ทันทีที่เปลวไฟดวงเล็กแตะต้องกับไส้เทียน กลิ่นหอมชวนผ่อนคลายก็กำจายฟุ้งไปทั่วห้องน้ำ ขับกล่อมให้บรรยากาศภายในดูโรแมนติกและวาบหวาม
คุณตรีวางแก้วเทียนหอมไว้ที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ก่อนจะขยับกายเข้ามาประชิดตัวผมอีกครั้ง สายตาคมเต็มไปด้วยความปรารถนาที่หวานล้ำ และยามที่เขาโน้มใบหน้าลงมาประทับจูบ ผมก็ทำได้แค่เชิดหน้ารอรับสัมผัสด้วยความเต็มใจ
เราจูบกันอยู่สักพัก ก่อนที่คุณตรีจะย่อตัวลงเพื่อปลดกระดุมกางเกงยีนที่ผมใส่ เขาเกี่ยวนิ้วสอดเข้าใต้ขอบกางเกงชั้นในแล้วรูดมันลงรวดเดียว เครื่องห่อหุ้มกายทั้งสองชิ้นก็ลงไปกองที่ปลายเท้า ผมยกขาออกทีละข้างเพื่อให้กางเกงทั้งสองชิ้นพ้นจากตัว
“ถอดให้ฉันบ้างสิ” คุณตรีเอ่ยขอ ผมเงยหน้าสบตาเขา เม้มริมฝีปากเล็กน้อยยามที่นิ้วมือแตะลงบนขอบกางเกงของคนตัวโต ผมปลดกระดุมให้คุณตรีด้วยมือที่สั่นเทา ถอดกางเกงขายาวให้เขาก่อนเป็นอันดับแรก แล้ววางมันลงในตะกร้าผ้าใต้อ่างล้างหน้า
“อีกชิ้นละ ไม่ถอดเหรอ” คุณตรีคลอเคลียอยู่ที่ลำคอของผม เขากดจูบสลับขบเม้มไปตามผิวเนื้อ คาดว่าต้องขึ้นรอยสีแดง ถ้าตอนที่ผมไปเรียนเขาจะไม่ค่อยทำ ถ้าจะทำรอยก็มักจะทำในร่มผ้า แต่พอปิดเทอมปุบเขาก็ขยับสร้างรอยคิสมาร์กบนร่างกายของผม ยังดีที่เขาทำในจุดที่เสื้อผ้าหรือปกคอเสื้อปิดได้มิด
ผมมองผ้าผืนน้อยสีน้ำเงินเข้มที่คุณตรีเหลือติดกายพลางลอบกลืนน้ำลายลงคอ
‘คุณตรีน้อย’ ที่ขนาดไม่น้อยพองตัวอยู่ใต้กางเกงชั้นใน ขนาดของเขาใหญ่กว่าของผมอยู่มาก และผมรู้สึกอึ้งกับตัวเองทุกครั้งที่สามารถรองรับคุณตรีน้อยเข้ามาในตัวได้โดยไม่มีเลือดตกยางออก หากไม่นับครั้งแรก
ผมกลั้นใจถอดปราการชิ้นสุดท้ายบนร่างกายที่สุดแสนจะเฟอร์เฟ็คออก วินาทีต่อมามันก็ลงไปอยู่ในตะกร้าผ้าอีกตัว
ลูกชายของคุณตรีดูแข็งขึงอย่างเต็มไปด้วยความรู้สึก ในขณะที่ของผมแค่กรึ่มๆเท่านั้น ทำไมเขาถึง...ได้พร้อมรบขนาดนี้
“รู้ไหม มันแข็งขนาดนี้ก็เพราะนายนะ” คุณตรีกระซิบบอกผม ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มและความรัก
“ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยครับ”
“แค่เป็นนาย ฉันก็ไม่เคยคิดดีได้สักครั้ง ต้องให้ฉันบอกอีกกี่รอบว่าเวลาอยู่กับนาย ฉันรู้สึกอยากกอดนายตลอดเวลา” ยามที่คุณตรีมีอารมณ์ เขามักจะพูดเรื่องพวกนี้อย่างตรงไปตรงมาเสมอ
คุณตรีโอบผมให้เดินไปที่อ่างอาบน้ำ เขาจัดการเปิดน้ำร้อนและน้ำเย็นเพื่อผสมเป็นน้ำอุ่น จากนั้นก็เดินไปหยิบสบู่กับบาธบอมมาใส่อ่าง คุณตรีเดินเหินไปมาทั้งๆที่โป๊เปลือยทั้งตัวได้อย่างไม่เขินอาย เป็นผมเสียอีกที่เขินจนไม่รู้จะเขินยังไงที่ต้องยืนเปลือยกายล่อนจ้อนรอเขาเตรียมน้ำให้อาบ
ระหว่างที่รอให้น้ำเต็มอ่าง คุณตรีก็นั่งลงที่ขอบอ่างอาบน้ำ โอบรั้งเอวผมให้นั่งลงบนตัก จากนั้นเขาก็เริ่มสัมผัสไปตามร่างกายของผมอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นปลายจมูกโด่ง ริมฝีปากนุ่มร้อนหรือฝ่ามือใหญ่ที่ลูบไล้ไปตามร่างกาย ก็ล้วนแต่สอดประสานทำงานร่วมกันได้อย่างดีเยี่ยม
ร่างกายของผมร้อนจนแทบลุกเป็นไฟ ตัวอ่อนตัวเหลวเสียยิ่งกว่าน้ำตาเทียนในแก้วเทียนหอมเสียอีก ไม่ว่าคุณตรีจะจับผมอยู่ในท่าไหนผมก็อยู่ท่านั้น เขาทำกับผมเหมือนอุ้มตุ๊กตาไม่มีผิด
“อืม น้ำเต็มแล้ว” คุณตรีถอนจูบออก
“ให้ผมลุกไหม โอ๊ะ” ผมยังพูดไม่ทันจบ คุณตรีก็คว้ากอดเอวผมไว้แน่นก่อนจะหย่อนก้นลงไปในอ่างอาบน้ำ โดยที่ผมยังนั่งคร่อมตักหันหน้าเข้าหาเขา
อะไรๆที่แข็งเป็นท่อนเสียดสีแนบไปกับร่องก้น พอผมขยับทรงตัวนั่งกลายเป็นว่ายิ่งทำให้มันเสียดสีแนบแน่นขึ้นไปอีก
“คุณตรีครับ” ผมเรียกชื่อเขาทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะเรียกไปทำไม เขาละสายตาที่กำลังมองสำรวจร่างกายของผมขึ้นมาสบตา จากนั้นมุมปากก็ค่อยๆคลี่ยิ้ม
“อาบน้ำก่อนนะ” คุณตรีว่า แล้วหันไปเปิดฝักบัวให้สายน้ำไหลรินรดที่ร่างกายของเราแม้ว่าจะกำลังนั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำ คุณตรีเอื้อมไปหยิบกล่องสบู่ราคาแพงมาแกะ กลิ่นหอมของพีชลอยเตะจมูก ทำให้ผมหวนนึกถึงคำพูดของเขาตอนที่เลือกซื้อ
‘อยากได้...เอาไปอาบน้ำให้เด็กแถวนี้ ถ้ามีกลิ่นนี้ติดบนตัวน่าจะหอม...น่ากิน’
คุณตรีถูสบู่ใส่มือ ดวงตาของเขาจ้องหน้าผมไม่วางตา ผมทนสู้สายตาเจ้าชู้ของเขาไม่ไหวก็เลยหลุบตาต่ำมองแค่ช่วงอกของเขาเท่านั้น
“กลิ่นนี้หอม ถ้าอยู่บนตัวนายน่าจะยิ่งหอม มาลองดูกันหน่อยสิว่ากลิ่นจะติดดีแค่ไหน” คุณตรีปิดน้ำจากฝักบัว แล้ววางมือที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ลงบนไหล่ของผม เขาถูวนเชื่องช้าไล่มาตามลำแขน ทำการอาบน้ำให้ผมเหมือนผมเป็นเด็กตัวเล็ก
ถูตามลำแขนแล้วเขาก็เลื่อนมือมาโอบถูที่แผ่นหลังของผม คุณตรีมือใหญ่ทว่านุ่ม เขาถูวนไม่กี่ทีฟองสบู่ก็กระจายอยู่ทั่วแผ่นหลัง ผมไม่กล้าที่จะยอมรับเลยว่า ทุกครั้งที่ฝ่ามืออุ่นร้อนของเขาลูบไล้เชื่องช้าไปตามผิว ผมรู้สึกเสียววาบไปทั่วท้องน้อย ยามมือของเขาลากใกล้กับใต้รักแร้ ผมรู้สึกตื่นเต้นคิดไปว่ามือของเขาจะลากมาที่ด้านหน้าแล้วสัมผัสกับหน้าอกของผมหรือไม่
เขาทำให้ผมตื่นเต้นและตื่นตัวอย่างช้าๆ จนตอนนี้อารมณ์ทางเพศของผมถูกคุณตรีปลุกให้ตื่นจนเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์
และเหมือนเขาจะแกล้ง ก็เลยไม่ยอมลูบมาด้านหน้าสักที เอาแต่วนเวียนลูบแผ่นหลังกับลำคอ
“คุณตรีครับ อาบอย่างนี้คืนนี้จะได้นอนไหมครับ”
“หึหึ โอเคๆ ไม่แกล้งแล้วครับ ฟอด” เขากดจมูกหอมแก้มผม แล้วละมือออกจากแผ่นหลังมาถูกับสบู่อีกครั้ง ก่อนจะวางสบู่ใส่มือของผม “อาบให้ฉันด้วยสิ”
คุณตรียิ้มกริ่มแล้วก็สอดมือเข้ามาใต้แขนของผมเพื่อทำความสะอาดผิวที่ด้านหน้า เริ่มจากลูบผิวตรงหน้าท้อง ใช้นิ้วเขี่ยฟองสบู่เข้าไปทำความสะอาดที่แอ่งสะดือ ผมแขม่วท้องเกร็งและสะดุ้งเป็นพักๆเนื่องจากความหวามไหวที่ก่อตัวขึ้น เม้มปากกลั้นใจถูสบู่กลิ่นหอมหวานกับฝ่ามือแล้วลงมือลูบไปตามลำตัวของคุณตรีบ้าง
พื้นที่บนตัวผมมีอยู่ไม่มาก แต่คุณตรีก็พร่ำถูจนเนื้อผมเริ่มเปื่อย กว่าจะเลิกอาบน้ำได้ก็ตอนที่ปลายนิ้วมือของผมย่นเป็นริ้ว
อาบน้ำเสร็จคุณตรีก็ก้าวขาออกจากอ่างอาบน้ำ คว้าหยิบผ้าเช็ดตัวมาห่อตัวผมก่อนจะยกผมขึ้นจนตัวลอยเหนือพื้น เขาก้าวขาออกจากห้องน้ำไม่กี่ก้าวก็พาเราทั้งคู่มาถึงเตียงนอน
“หอมกลิ่นพีช นายน่ากินมากๆเลยฟ้า”
คุณตรีสูดดมความหอมของกลิ่นสบู่ที่เคลือบติดบนผิวกาย คุณตรีหลับตาพริ้มพลางพรมจูบไปทั่วใบหน้าก่อนที่ริมฝีปากของเราจะแนบสนิทกันอย่างดูดดื่ม
“วันนี้ขอท่าด็อกกี้นะ” คุณตรีกระซิบบอก ผมหน้าร้อนแต่ก็พยักหน้ายินยอม
ผู้ชายอบอุ่นที่แสนอ่อนโยนไม่มีอีกแล้ว เหลือไว้เพียงผู้ชายร้อนรักที่พร้อมกลายร่างเป็นเสือขย้ำยามที่เราระเริงรักกันบนเตียงนอน
เขาจับผมนอนคว่ำหน้า ยกช่วงล่างให้ลอยเด่น ผมขยับขาแยกหัวเข่าและเท้าแขนทั้งสองข้างให้อยู่ในองศาที่จะไม่เมื่อยมากนักหากต้องร่วมรักกับคุณตรีในท่านี้
“ยกเอวขึ้นหน่อย จะสอดหมอนให้” คุณตรีใช้มือแตะที่ใต้ท้องให้ผมยกเอวสูง ก่อนที่เขาจะหยิบหมอนใบใหญ่สอดเข้ามาข้างใต้ ท่าทางของผมในขณะนี้คือช่วงสะโพกยกสูง ส่วนช่วงบนลาดเอียงลงต่ำ ไม่ต้องมองด้วยสายตาตัวเองก็รู้ว่าเป็นท่วงท่าที่น่าอาย
ท่านี้ผมให้ผมรู้สึกมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัวเพราะมองไม่เห็น จะรู้ได้ว่าร่างกายตัวเองถูกรุกรานอย่างไรก็ต่อเมื่อเขาสัมผัส อย่างเช่นตอนนี้ที่คุณตรีกำลังใช้สองมือของเขานวดเคล้นแก้มก้นของผมอยู่ แค่ฝ่ามือของเขาก็ทำผมใจสั่น แต่ลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดบนผิวและตามมาด้วยริมฝีปากที่กดจูบไปตามก้อนเนื้อที่เขากำลังลูบคลำ ยิ่งทำให้ผมเสียอาการควบคุม ความเสียวแล่นปราบไปทั่วร่าง จากที่โดนปลุกอารมณ์มาตั้งแต่ในห้องน้ำ ตอนนี้ไฟในกายผมกำลังลุกโชนได้ที่
“ก้นของนายเหมือนลูกพีชเลยฟ้า กลมเด้งขาวอมชมพู ขอกินได้ไหมครับ” น้ำเสียงของเขาฟังดูลามกแบบที่ไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น แล้วผมควรต้องตอบว่าอะไร นอกจากฝังหน้าลงกับหมอนนุ่มยามที่เขาใช้ปากเม้มก้อนเนื้อนิ่มสลับในฟันขบกัด แค่ฟันขบเบาๆผมก็ขนลุกเกรียวไปทั่วร่าง คุณตรีไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับผม แต่เขาสร้างความเสียวให้ก่อตัวขึ้นจนเจ้าฟ้าน้อยของผมแข็งตัว ไม่ต้องพูดถึงจุดที่สามารถเชื่อมต่อเราให้เขาหากันได้ว่ามันรอคอยการเติมเต็มมากขนาดไหน
“คุณตรีครับ” ผมร้องเรียกเขาด้วยน้ำเสียงแตกพร่า
“ครับ อยากได้อะไรครับ”
“ผม...” อยากรู้สึกมากกว่านี้
“พี่บอกแล้วว่าเวลานี้ ฟ้าพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการออกมาได้เต็มที่ เซ็กส์คือการร่วมรักของคนสองคน จะมีใครแค่คนใดคนหนึ่งมีความสุขอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้นะครับ” เขาพูดแนะนำเหมือนที่คอยพร่ำสอนยามเราทำกิจกรรมบนเตียง แต่ผมก็ยังขลาดกลัวเกินกว่าที่จะเอ่ยขอตรงๆ
อีกหนึ่งอย่างนอกจากความร้อนแรงดังเปลวไฟของคุณตรีในยามอยู่บนเตียง บางครั้งเขาก็จะเผลอแทนตัวเองว่าพี่กับผม ทุกครั้งที่ได้ยินทำเอาผมเคลิ้มและถลำลึกไปกับความรักที่เขามอบให้ มันเหมือนเราเข้าใกล้กันอีกขั้น ว่าเราต่างเป็นคนพิเศษของกันและกัน
“ว่ายังไง ฟ้าอยากได้อะไรบอกพี่ตรีสิครับ”
“คุณตรี”
“พี่จะทำให้ทุกอย่างเลย”
“ตรงนั้น...ผมอยากให้คุณตรีสัมผัส” เพราะเขาเอาแต่เล่นที่แก้มก้น ไม่ยอมสัมผัสร่องรักสักที ผมที่มีความต้องการจนท่วมท้นก็ทนต่อไปไม่ไหว บทรักที่แสนหวาน ยามที่ได้เสพติดแล้วก็ยากที่จะถอนตัว
“ตรงนี้เหรอครับ” คุณตรีแตะปลายนิ้วที่ช่องทางคับแน่น กลีบเนื้อขมิบตอบรับสัมผัส เสียงหัวเราะอย่างพึงพอใจดังขึ้นในลำคอ ผมหลุดเสียงร้องครางก่อนจะเม้มปากแน่น ยิ่งพอคุณตรีใช้เจลหล่อลื่นนำทางนิ้วเรียวสอดเข้ามาในร่าง ผมยิ่งสั่นสะท้านแอ่นสะโพกรับอย่างลืมตัว
“เจ็บไหม” คุณตรีถามพลางขยับนิ้วเข้ามาช้าๆ ผมส่ายหน้าแทนคำพูด คุณตรีก็สอดนิ้วเข้ามาเรื่อยๆจนสุดโคน
ร่างกายกำยำที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเลื้อยทาบบนร่างของผม มือข้างที่ว่างจับใบหน้าของผมให้เอียงหน้ารับจูบ ด้านล่างก็ขยับสอดประสานกับนิ้วมือของคุณตรี จนเขาสามารถขยายช่องทางของผมให้พรั่งพร้อมรองรับของจริงที่กำลังสอดใส่เข้ามาเติมเต็มความรักให้กับเราทั้งสองคน
“คุณตรีครับ ไม่เอา!” แต่เพราะผมสัมผัสบางอย่างได้ก่อน ก็เลยปล่อยริมฝีปากที่กำลังจูบอย่างดูดดื่มออกเพื่อร้องห้าม จะลดการใช้ถุงพลาสติกยังไงก็ได้ แต่ลดการใช้ถุงยางไม่ได้
“ล้อเล่นครับ เตรียมมาแล้วนี่ไง ดูทำหน้าเข้า ดุเหลือเกินเด็กคนนี้” คุณตรีโชว์ห่อถุงยางให้ผมดู ผมถึงได้เบาใจ เขากดปากหอมแก้มปลอบโยนผม จากนั้นก็หันกลับไปจัดการครอบถุงยางลงบนแก่นกาย ชักรูดสองสามทีแล้วจับมันสอดใส่เข้ามาอีกครั้ง
“แน่นไปไหม” คุณตรีถาม
“แน่นครับ แต่ผมไหว” ผมบอกเขา พยายามผ่อนลมหายใจและผ่อนคลายความคับแน่นที่ช่วงล่าง คุณตรีค่อยๆแทรกตัวเข้ามาอย่างใจเย็น ทั้งๆที่เขากำลังจะระเบิดเป็นภูเขาไฟ ผมรักคุณตรีก็ตรงนี้ เขามีความต้องการมากแบบที่ใครก็คาดไม่ถึง แต่เขาก็ยังอ่อนโยนกับผมทุกครั้ง บอกให้รู้ว่าเขาแคร์ผมที่สุด
ผมหอบฮักตามจังหวะที่คุณตรีกระแทกกระทั้นร่างกายเข้าออก มือของเขาสะกิดเขี่ยหัวนมของผมเล่นไม่หยุดมือ และแผ่นหลังของผมก็คงเต็มไปด้วยรอยคิสมาร์กที่คุณตรีสร้างเอาไว้ เพื่อเป็นหลักฐานว่าผมเป็นของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตลอดค่ำคืน
“ลูกพีชลูกนี้ ทั้งหอมทั้งหวานล้ำที่สุดเท่าที่ฉันเคยกินมาเลย”
