Special
ไม่ได้ทำอะไรหรอก
ไอ้หมายมันไม่ยอม ดิ้นลูกเดียว จริงๆก็ไม่ได้หวังอะไรมาก คิดว่าเผื่อฟลุ๊คได้ก็ดี แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหมายมันหวงตัวไปทำไม
ตอนนี้ก็คบกันปกติเหมือนคนทั่วไป ที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดก็คงเป็นผมที่เลือกทำงานในจังหวัด ไม่ไปไหนแล้ว อดอยากมาตั้งห้าปี ถ้าต้องไปไกลไอ้หมายอีกต้องขาดใจตายแน่ๆ ขอกลับจากการทำงานเหนื่อยๆมาฟัดแก้มอูมๆนั่นทุกวันก็มีความสุขมากพอแล้ว
ส่วนอีกเรื่องก็คือ ผมบังคับให้ไอ้หมายมาอยู่ด้วยกัน อ้างด้วยเรื่องที่หอผมใกล้กับร้านมันมากกว่าบ้านไอ้หมาย แทนที่มันจะต้องเหนื่อยขับรถไกลๆจากบ้านมาร้านทุกวัน ให้มันมาอยู่กับผมที่อยู่ใกล้ร้านมากกว่าแถมยังคอยไปรับไปส่งได้อีกยังจะดีกว่า
เวลาอยู่ด้วยกันก็เยอะขึ้นด้วยไง
หมายมันก็โอเค เออออตามเขาหมดแหละคนนี้อ่ะ
แต่ตอนนี้แม่งเจอวิกฤตว่ะ...
ไม่ใช่เรื่องที่ทำงานหรืออะไร ....มันเป็นเรื่องที่กูเจอพี่ไอ้หมาย
คือไอ้หมายมันเป็นน้องคนสุดท้องของสมหมายแฟมิลี่อ่ะ ที่ผ่านมาก็เคยเจอพี่มันแต่เจอแค่พี่หนึ่งกับพี่สาม(ชื่อจริงๆชื่อไรไม่รู้ว่ะจำไม่ได้เลยเรียกไปตามลำดับอาวุโส) แล้วเฮียสามเคยบอกว่าเฮียสองเป็นคนที่ดุสุดและหวงไอ้หมายมากที่สุดในบ้าน
ถ้าถามว่าผมไปรู้จักพี่ชายไอ้หมายมันได้ยังไง คำตอบก็คือ...ลูกชายบ้านนี้ผลัดกันมาดูไอ้หมายกันบ่อยๆ เห็นเฮียหนึ่งบ้างนานๆที เฮียสองเคยเจอครั้งเดียว แต่ที่ผมเห็นบ่อยสุดก็เฮียสาม พอรู้จักกับเฮียสามอยู่บ้างเพราะผมก็มาสิงร้านนี้บ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้บอกแกหรอกนะว่าผมจีบน้องแกอยู่ ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามแอบถามข้อมูลไอ้หมายไว้จนได้นั่นแหละ
...ละตอนนั้นเฮียสองแกเจอกูตอนกูกำลังจี๋จ๋ากับไอ้หมายหลังร้านไง
ชิบหายเลย
เลยต้องมานั่งเครียดอยู่อย่างนี้ไง เฮียสองแม่งส่งสายตารังเกียจผมสุดๆ ฆ่าได้คงฆ่าไปแล้ว เฮียแกจ้องผมกับไอ้หมายนานมาก บรรยากาศตอนนั้นคือโคตรอึดอัด เหมือนมีแรงดันมหาศาลกดหัวผมอยู่
แต่ไอ้หมายแม่งไม่รู้สึกอะไรหรอก มันก็ทักเฮียของมันไปไม่รู้เรื่องราว
“...ข้างๆนี่ใคร”
“อ๋อ อันนี้เอ๋อ แฟนน้อง”
ว่าพลางยิ้มร่าเหมือนเด็กขี้อวด ถ้าเป็นในสถานการณ์อื่นผมคงยิ้มกว้าง คว้ามันมาฟัดให้ชุ่มปอดไปแล้ว แต่ตอนนั้นมันไม่ใช่ไง
สิ้นเสียงไอ้หมาย หน้าผมซีดกว่าเดิม...และเฮียสองก็ทำหน้าเหมือนอยากฆ่าคนมากกว่าเดิม คนโชคดีคนนั้นคงเป็นใครไม่ได้หรอกนอกจากผมเอง
เสียงหัวเราะในลำคอเฮียแกไม่ต่างอะไรกับเสียงผีร้าย
และเสียงที่ออกจากปากแกในประโยคต่อมาเหมือนเป็นเสียงมัจจุราช
“หรอ...ไม่พาแฟนไปเยี่ยมพ่อที่บ้านหน่อยล่ะ”
เท่านั้นแหละ เหมือนโดนทุบหัว ผมนี่ได้แต่ส่งยิ้มค้างให้พี่สะใภ้ ส่วนไอ้หมายก็ไม่ได้ช่วยอะไรผมเลย
“หืม ป๊าอยากเจอหรอ”
“อืม ก็เป็นแฟนกันไม่ใช่หรอ พาไปให้ป๊ารู้จักก็ไม่เสียหายนี่”
“เอางั้นก็ได้ วันอาทิตย์มั้ยอ่ะ แล้วต้องปิดร้านไหม”
“แล้วแต่ เอาที่ว่างเลย มาตอนเย็นๆก็ได้ ปิดร้านไวหน่อย”
“โอเค”
“อืม มาเยี่ยมแค่นี้แหละเดี๋ยวบอกไอ้พวกนั้นให้ แล้วเจอกัน”
“ได้เลย”
สุดท้ายเฮียแกก็จากไปด้วยใบหน้ายิ้มร้ายส่งท้ายให้ผม
แล้วใครมันจะไปสั่งมัจจุราชได้
เลยมานั่งเครียดกุมขมับอยู่ตอนนี้เนี่ย ให้ตายเหอะ
.
วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม 25xx จะเป็นวันที่ผมต้องจารึกลงในชีวิตว่าเป็นช่วงที่เลวร้ายที่สุด ผมตื่นตั้งแต่หกโมงเพื่อมานั่งนึกสถานการณ์ที่ต้องเจอแล้วอยากตายไปซะให้รู้แล้วรู้รอด จนไอ้หมายตื่นไปเปิดร้านแล้วผมก็ยังสั่นไม่หยุด นั่งสั่นมันแม่งหลังร้านเนี่ยจะทำไม
เจอพ่อแฟนเลยนะครับคุณ!
ถ้าเขาไม่พอใจผมทำไงอ่ะ เห็นๆอยู่ว่าแค่เฮียสองแกก็เกลียดขี้หน้าผมจะตายแล้ว นี่ยังไม่ได้บอกเฮียสามกับเฮียหนึ่งอีก เฮียสามอาจจะช็อกที่เด็กเมื่อวานซืนอย่างผมในวันนั้น กลายมาเป็นแฟนน้องชายตัวเองในวันนี้
เชี่ย กูต้องโดนฆ่าหมกบ้านไอ้หมายแน่ๆ
พ่อมันผมไม่รู้ว่านิสัยเป็นยังไง แม้จะเป็นเจ้าของร้านสมหมายยุกบุกเบิกก็เถอะ แต่ผมไม่เคยเห็นแกมาเยี่ยมเลยสักครั้ง แต่หมายมันบอกว่าใจดีสุดๆ
แต่ไอ้หมายบอกอ่ะ ไอ้หมายอ่ะ ไอ้หมาย มันเชื่ออะไรได้ที่ไหนเล่า
บ้านไอ้หมายคุณแม่เสียไปนานแล้วครับ และเพราะอย่างนั้นด้วยแหละพวกเฮียๆแกถึงหวงไอ้หมายกัน หนึ่งเพราะมันเป็นน้องเล็กที่เอ๋อๆดูน่าเป็นห่วง และสอง ไอ้หมายมันหน้าเหมือนแม่มาก...
เหมือนกำลังเดินเข้าไปในถ้ำเสือเพื่อไปอุ้มลูกหมี...
“เอ๋อ ไปกันยัง”
เฮือก!
นี่ถึงเวลาแล้วเรอะ!!
“เอ๋อ เป็นอะไรดูเครียดๆ”
“..ก็...เปล่า”
“กังวลหรอ ป๊าเราไม่ดุหรอกนะ ถ้าดุเดี๋ยวเราปกป้องเอ๋อเอง”
“....”
ผมมองรอยยิ้มเจิดจ้าของคนตรงหน้าพลางนึกอยากจะกระชากมันเข้ามากอด ลงกลอนประตูร้านแล้วจับฟัดแม่งตรงนี้
คนอะไรวะน่ารักเป็นบ้า!
สุดท้ายไอ้หมายก็ลากผมออกมาจากหลังร้านจนได้ มานั่งสั่นขับรถแทน...เชี่ย อีกไม่กี่นาทีข้างหน้ากูต้องเจอพ่อและพี่ชายมันแล้วหรอวะ ให้เอาอะไรมาพร้อมเนี่ย พรีเซ้นท์ทีสิสยังไม่สั่นเท่านี้เลย ผมขับรถไปด้วยใจหวาดหวั่น มีไอ้หมายนั่งบอกทางไปเรื่อยๆ
อันที่จริงก็รู้แหละว่าบ้านมันอยู่แถวไหนเคยหลอกถามอยู่ แต่ไม่เคยไปสักครั้ง มากสุดก็แค่เปิดกูเกิ้ลแมพส่องหลังคาบ้านมันเอาอ่ะ...
พอมานึกๆดูแล้วทำไมขี้ป็อดขนาดนี้วะกรู เอาหน่อยวะ ไหนๆก็ไหนๆ
“ถึงแล้วๆ หลังนี้เลย”
...เอาตรงๆแมนๆ...กูไม่คิดว่าเป็นหลังนี้ คิดว่าอย่างน้อยก็หลังเล็กๆข้างๆไงไอ้สัด!
อยากจะกรี๊ดดดดดดด
ถึงจะเคยถามว่าบ้านมันอยู่ไหน แต่ไอ้หมายมันก็บอกแค่อยู่หมู่บ้านนี้ซอยนี้ตรงหน้าบ้านเป็นแบบนี้ แต่ไม่ได้ระบุเป็นหลังไง ละกูเกิ้ลแมพมันไม่ได้เข้าไปถ่ายรูปในหมู่บ้าน มันเห็นได้แค่หลังคาอ่ะเข้าใจกูป่ะ กูก็เลยนึกว่าเป็นบ้านสองชั้นทั่วไปไง
ไม่ใช่บ้านที่แทบจะเป็นคฤหาสน์แบบนี้!
รู้ตัวอีกทีกูก็เอารถเข้ามาจอดในบ้านมันเรียบร้อย...พร้อมๆกับวิญญาณกูที่หลุดออกไปแล้ว...
เป็นลูกคุณหนูทำไมกูไม่เห็นรู้เลยวะ ถ้าบอกว่าข้างในบ้านมีบอดี้การ์ดสักสิบคนรอเชือดกูอยู่กูก็เชื่ออ้ะ
ไอ้หมายพยายามลากผมจากโรงจอดรถเข้าสู่ประตูบ้าน จริงๆแค่ขืนมันหน่อยก็ได้แล้ว แต่ก็อยากสู้ไง ถึงกูจะเป็นแค่สถาปนิกจบใหม่ไม่มีตังอะไรมากมายแต่ก็อยากสู้เพื่อไอ้หมายอ่ะ
เลยยอมเดินก้าวข้ามธรณีประตูไปเสียโดยดี
“อามายยยยย”
“อาตี๋!”
ทันทีที่เข้าถึง ผมก็เจอเด็กคนหนึ่งวิ่งเข้าหาไอ้หมายพร้อมกอดหมับ ส่วนคุณแฟนก็ก้มลงไปกอดจุ๊บแก้มซ้ายทีขวาทีหัวเราะกันเอิ้กอ๊ากเหมือนรุ่นเดียวกัน เหอ ว่าแต่เด็กนี่ลูกใครวะ
“อามาย คิดถึงจุ๊บๆ” ไอ้เด็กนี่ยังคงหอมแก้มแฟนผมอยู่อย่างนั้น อยากจะคว้าไอ้หมายเข้ามากอดแต่ก็ดูจะเกินไป หึงอะไรกับแค่เด็กห้าขวบเนี่ย
“อาตี๋..อ้าว กลับมาแล้วหรอ”
“หวัดดีครับอาซ้อ ซ้อนี่แฟนผม เอ๋อนี่อาซ้อแฟนเฮีย”
“ดีเลย ทางนี้เพิ่งจัดโต๊ะเสร็จพอดี เดี๋ยวพา...แฟน....เอ่อ..ไปทานข้าวกัน...นะ” ในขณะที่คิดหึงไอ้หมายกับเด็กห้าขวบนี่ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา เดาว่าน่าจะเป็นคุณแม่ของเด็กคนนี้ และเป็นภรรยาของเฮียหนึ่ง
แต่ที่ติดใจคือ..เจ๊แกเล่นพูดเสียงตะกุกตะกักตอนพูดว่าแฟนพร้อมหันมาเจอผมเนี่ย...
เพราะผมเป็นผู้ชายหรอ?
ยังไม่ทันได้นึกหดหู่ต่อไอ้หมายก็ลากผมเข้าไปในห้องทานข้าว มือหนึ่งจูงเด็กตี๋อีกมือจูงผม...เออ เอาเข้าไป ว่าแต่ที่ไอ้เด็กตี๋เรียกหมายว่ามายผมยังงงอยู่เลย มายไม่ใช่ชื่อจริงๆของมันนี่?
“หมาย ทำไมน้องเรียกหมายว่ามายอ่ะ”
“อ๋อ ชื่อแม่เรา...”
“....”
“....”
“..ห้ะ”
“อื๋อ? ก็ชื่อแม่เราไง มายด์ แล้วเราก็หน้าเหมือนแม่ ตี๋น้อยเลยเรียก”
แล้วทำไมไม่ให้เรียกชื่อจริงๆล่ะวะ! ยังไม่ทันจะได้ถามต่อก็มาถึงห้องทานข้าวที่อยู่กันครบองค์... เฮียทั้งสามนั่งคุยกันเฮฮา ตรงหัวโต๊ะมีคนที่ผมไม่เคยเห็น เป็นใครไม่ได้นอกจาก
พ่อไอ้หมาย
พอผมเข้ามาพร้อมกับไอ้หมาย ประสาทสัมผัสในตัวแทบจะหยุดทำงาน ตัวชายิบเลยทีเดียว...ผมรวบรวมความกล้ายกมือไหว้ทุกคนในบ้าน
เฮียหนึ่ง...ผมมองสีหน้าไม่ออก
เฮียสอง...มองผมด้วยความรังเกียจ
เฮียสาม...มองผมด้วยความตกใจ
อาซ้อ...ไม่กล้ามองผม
ส่วนคนสุดท้าย...คุณสมหมายตัวจริง...มองผมแล้วยิ้ม...
?
หือ
“มากันแล้วเรอะ มาๆนั่งๆ ไปพวกเอ็งก็ไปพาแฟนไอ้ตัวเล็กมานั่งดิ”
พ่อหมายว่าพร้อมยิ้มกว้าง เห้ย ผิดคาดอ่ะ ผมไม่ได้เตรียมรับมือกับรอยยิ้มพ่อตา ได้แต่คิดว่าพ่อไอ้หมายต้องเกลียดตูเหมือนเฮียสองแน่ๆ แต่ก็ไม่
คุณสมหมายเป็นผู้ชายรุ่นลุงที่ดูสุขภาพดี ถึงจะมีผมหงอกแซมบ้างประปราย แต่โดยรวมถือว่าเป็นคนดูแลตัวเองดีมากๆคนหนึ่ง
ผมยกมือไหว้แก
“สวัสดีครับ”
“ป๊า นี่เอ๋อ เป็นแฟน”
“เออๆ รู้แล้ว เฮียเอ็งบอกแล้วว่าเอ็งจะพาแฟนมาบ้าน”
“อื้อ คนนี้ไง”
คำพูดไอ้หมายทำผมสุขและทุกข์ไปพร้อมๆกัน...
“เอ๊ ก็บอกว่ารู้แล้วไงวุ้ย เห่อแฟนไปได้”
“ก็แฟนคนแรก”
หือ
อะไรนะ
“หมาย.. หมายความว่าไง”
“ก็เอ๋อเป็นแฟนคนแรกไง”
“เฮ้ย จริงดิ คนแรกเลยหรอ เฮ้ย หมายหลอกผมป่ะเนี่ย”
“เอ๊า พูดจริงก็หาว่าโกหกอีก”
“ไอ้นี่มันไม่มีแฟนก็เพราะไอ้พวกนี้แหละ พี่มันแต่ละตัวหวงยังกะจงอางหวงไข่ ใครเข้ามาใกล้นิดหน่อยก็ไล่ไปหมด มีแต่เอ็งเนี่ยที่หลุดรอดเข้ามาได้ไงไม่รู้ ว่าแต่เอ็งเรียกลูกข้าว่าอะไรนะ”
“....”
ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไอ้ตกใจที่ตัวเองเป็นแฟนมันคนแรกก็ใช่ ไอ้ที่ตัวเองหลุดรอดมาจากป้อมปราการของเฮียๆทั้งหลายก็ใช่ แต่ที่น่าตกใจที่สุดคือ...
ผม เสือก เรียก ชื่อ พ่อ มัน ต่อ หน้า พ่อ มัน
ชิบหาย
.
✡ ✡ ✡ ✡ ✡ ✡ ✡ ✡ ✡ ✡ ✡ ✡ ✡ ✡ ✡ ✡ ✡ ✡ ✡ ✡
ทีแรกว่าจะไม่ลงแล้ว แต่ไหนก็เขียนมาแล้วเลยลงซะหน่อย

อยากจะเอามาลงเต็มๆเหมือนกันแต่ไม่ไหวแล้ว ต้องปั่นงานแงงง

คิดถึงไอ้เอ๋อน้องหมายเนอะ
ตอนนี้ก็เอาไอ้เอ๋อขี้ป็อดไปก่อน
แล้วตอนหน้าจะตามมาติดๆค่ะ
