Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61  (อ่าน 1336768 ครั้ง)

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.17] pg.27 -- 28/7/59
«ตอบ #840 เมื่อ30-07-2016 09:03:38 »

คุณผัดไทขา รุกผิดโค๊นนนนนน  :z3:
ส่วนตอนต่อไปสงสัยต้องมีตุนทิชชู่ไว้  :ling3:

ออฟไลน์ wikichan

  • ชื่อ:Wi! วิ! วิกิ! วิเวียน//วันๆ ไม่ทำอะไรชอบอ่านมังงะและนิยายเป็นชีวิตจิตใจ ชอบผลงานของพี่แพร์ Nigiri_Sushiที่สุดอ่านทุกเรื่องแต่ไม่ได้ซื้อทุกเรื่อง อยากเจอตัวจริงสักครั้งนึงแบบว่านักเขียนในดวงใจ #เพ้อ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.17] pg.27 -- 28/7/59
«ตอบ #841 เมื่อ30-07-2016 10:28:40 »

พี่กุนต์ไปเที่ยวกับผู้บ่าวซะแล้วอ่ะ โอ๊ตอย่านอยล่ะ นานๆ กลับบ้านทีช่างพี่กุนต์ไปก่อยเนอะ ..
ิแต่อยากให้พี่กุนต์โทรมาอีกที หากมีเหตุการณ์แย่ๆ เกิดขึ้นอยากให้โอ๊ตนึกถึงอีกจัง 55555 แบบว่า พี่เข้ามาในวันที่ผมแย่เสมอ จะไม่รักได้ไง ว่าไปนั่น

ที่บ้านทำนาปีเลยช่วยไม่ได้ แล้ววิธีการทำภาคเหนือดินจืดๆ อย่างนั้น ต่างกับฉะเชิงเทราแถวแม่น้ำบางปะกงชะมัดอ่ัะ ดินเค็ม 5555555
อ่านที่เคยลงในเพจ ตอนที่โอ๊ตกับพี่กุนต์ แจ๊ะๆ ..เอ้ะ
บางทีรู้สึกโอ๊ตอ่ะชอบพี่กุนต์อยู่แต่เพราะรู้ตัวว่าแตกต่างกันเกินเลยบอก นึกถึงปาลินอะไรงี้ //มะนาวไปเรื่อยเปื่อยอ่ะ

อยากอ่านนนนต่อจังเลยยยย ชักงอมแงม


ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.17] pg.27 -- 28/7/59
«ตอบ #842 เมื่อ30-07-2016 13:42:46 »

โอ๊ตเอ้ยย~~ ถ้ายังไม่เคลียร์ความรู้สึกตัวเอง แล้วเอาแต่แอบหยอดปาลิน มีหวังมีพี่กุนต์หลุดมือไปแน่ๆ ดูท่าคุณไผทก็รุกหนักเหลือเกิน

ออฟไลน์ boy_nonny

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.17] pg.27 -- 28/7/59
«ตอบ #843 เมื่อ30-07-2016 14:49:28 »

ดูอาการยายแล้ว กลัวดราม่าจัง  :m15:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
Re: Sins : Greed -- [Ch.17] pg.27 -- 28/7/59
«ตอบ #844 เมื่อ30-07-2016 23:23:27 »

 ถ้าเราจะห้าม ไม่ให้คุณทิ้งไผท มาหาโอ้ต ตอนที่คุณยาย ป่วยหนัก หรือตาย จะยังห้ามทันอยู่ไหม

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.17] pg.27 -- 28/7/59
«ตอบ #845 เมื่อ31-07-2016 14:10:57 »

ข้อมูลแน่นมาก นับถือ (_ _)
คุณผัดไทยนี่อ้อยมากอ่ะ 5555 แต่ก็ดีนะ อย่างอินทัชนี่ ถ้าจะรู้ตัวได้ต้องหาคนมากระตุ้นให้หึง 5555 แต่อ่านแล้วรู้สึกหน่วงเล็กๆ ปนสะใจที่เห็นอินทัชรู้สึกอะไรมั่ง 55555555

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
Re: Sins : Greed -- [Ch.17] pg.27 -- 28/7/59
«ตอบ #846 เมื่อ31-07-2016 15:56:56 »

ดีใจที่มีคุณผไท มาเป็นคู่แข่งโอ๊ต พี่กุนต์จะได้ไม่ดูของตายของโอ๊ตเกินไป

แอบเชียร์ผไทนะเนี้ย ดูเคมีเข้ากับพี่กุนต์มาก

ส่วนโอ๊ตดราม่ายายแน่นอน ถ้ารักปาลินนักก็คบกับปาลินไปเลย ชิ

ออฟไลน์ Vermouth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.17] pg.27 -- 28/7/59
«ตอบ #847 เมื่อ31-07-2016 22:04:56 »

เปลี่ยนใจเชียร์คุณไผทได้ไหมคะเนี่ย มีความแซ่บ มีความอ่อย มีความทุ่มเท เคมีกับพี่กุนต์ก็ดีเหลือเกิน เข้ากันดีสุดๆ
ไม่เหมือนโอ๊ตหรอก อะไรๆ ก็คิดถึงแต่ปาลิน ฮึ่มๆ // จริงๆ โอ๊ตก็ไม่ได้ผิด แต่คนอ่านหมั่นไส้เอง 55555
แต่โอ๊ตก็แอบมีออกอาการเบาๆ เหมือนกัน ตั้งแต่ไลน์ไปรายงาน พอเค้าไม่อ่านก็โทรไปแทนงี้
ยิ่งตอนคุณไผทรับโทรศัพท์แทนนี่ หึงก็บอกว่าหึงเหอะ มีแอบเหวี่ยงนะเรา 5555 สะใจจริงๆ
โอ๊ตอาจจะเริ่มชอบๆ พี่กุนต์แล้วก็ได้ แต่มันคงอยู่ลึกมากๆ ประกอบกับยังฝังใจว่าชอบปาลินอยู่
ในระหว่างนี้ขอให้คุณไผทรุกพี่กุนต์ให้หนักเลยนะคะ เผื่อเด็กมันจะได้รู้ตัวกับเค้าขึ้นมาบ้าง ฮี่

ออฟไลน์ sembia

  • Me as me.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.17] pg.27 -- 28/7/59
«ตอบ #848 เมื่อ01-08-2016 13:22:33 »

ตอนนี้ได้เห็นอีกด้านหนึ่งของโอ๊ต  รอตอนต่อไปค่ะ ขอบคุณนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: Sins : Greed -- [Ch.17] pg.27 -- 28/7/59
«ตอบ #849 เมื่อ01-08-2016 16:04:41 »

สงสัยจุดหักเหชีวิตโอ๊ตใกล้มาถึงแล้วมั้ง ทุกอย่างเหมือนประดังมาหมด
สู้ สู้!!!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.17] pg.27 -- 28/7/59
« ตอบ #849 เมื่อ: 01-08-2016 16:04:41 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iNcamisang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.17] pg.27 -- 28/7/59
«ตอบ #850 เมื่อ01-08-2016 20:06:22 »

ไต่ระดับความพีคขึ้นไปเรื่อยๆ

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.17] pg.27 -- 28/7/59
«ตอบ #851 เมื่อ01-08-2016 21:20:27 »

แวะมารอค่า :really2:

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.17] pg.27 -- 28/7/59
«ตอบ #852 เมื่อ01-08-2016 22:50:57 »


น้องอ้น น้องอุ้ม ง่วงนอนแล้วนะฮะ  :mew6:


แต่ ยังมีความรอ พี่กุนต์โทรมา


พี่โอ๊ตเข้าใจผิด  งอนใหญ่แล้วๆๆ น้าาาาา พี่กุนต์   :hao5:

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #853 เมื่อ01-08-2016 23:46:53 »




Chapter 18




   
สงกรานต์ที่น่าน คล้ายๆกับประเพณีปี๋ใหม่เมืองของจังหวัดทางเหนือ ในวันมหาสงกรานต์หรือวันสังขารล่อง  ชาวล้านนาเชื่อว่าปู่ย่าสังกรานต์จะล่องแพมาตามน้ำและนำสิ่งไม่ดีมาด้วย ชาวบ้านเลยยิงปืน จุดประทัดเป็นการปัดเป่า   นอกจากนี้จะทำความสะอาด ปัดกวาดบ้านเรือน แต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ ที่วัดสวนตาลมีพิธีสะเดาะเคราะห์สืบชะตาเมือง กับแห่นางสงกรานต์ และประกวดซุ้มเล่นน้ำวัฒนธรรมที่ถนนข้าวแต๋น
   
วันที่สอง คือวันเนาหรือวันเน่า เป็นวันตระเตรียมสิ่งของเพื่อไปทำบุญในวันเริ่มปีใหม่ มีการขนทรายเข้าวัด ชาวบ้านมีความเชื่อว่าวันนี้ห้ามทะเลาะ ห้ามด่าทอกัน ไม่อย่างนั้นปากจะเน่า 

ส่วนในวันที่สาม วันพญาวัน คือวันเริ่มปีใหม่ไทย เป็นวันทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระสงฆ์ ทำทานขันข้าว อุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษ และนำอาหารคาวหวานไปมอบให้ผู้เฒ่าผู้แก่ที่ตนเคารพ ส่วนในอำเภอเมืองมีมีพิธีบวงสรวงเสาหลักเมืองกับทำบุญสืบชะตา 

วันที่สี่ วันปากปี เป็นวันเถลิงศก มีขบวนแห่บั้งไฟไปยังวัดสวนตาลเพื่อบูชาถวายพระเจ้าทองทิพย์ ยังมีวันปี๋ใหม่ ที่ชาวบ้านจะนำดอกไม้ น้ำอบน้ำปรุงไปรดน้ำญาติผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน และใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว

หกโมงเช้า อินทัชเรียกน้องๆให้ตื่น อ้นกับอุ้มรีบอาบน้ำแล้วไปปลุกยาย เด็กๆนัดแนะกันว่าจะพายายไปทำบุญ พวกเขาถือเอาฤกษ์ความสะดวกเป็นที่ตั้ง ยายมีสีหน้าสดชื่น อาจเพราะหลานๆมาอยู่กันพร้อมหน้า แกใส่เสื้อผ้าฝ้าย นุ่งซิ่นลายน้ำไหลที่หลานชายคนโตซื้อมาฝาก   

“ยายจ๋า..ปะแป้งหน่อย” น้องอุ้มเอาดินสอพองละลายน้ำ ใช้นิ้วเล็กๆแปะที่แก้มของยาย

แกหัวเราะร่า จับไอ้ตัวน้อยมาจูบหน้าผาก วันนี้ยายมีเรี่ยวแรง ไม่อ่อนเพลียเหมือนทุกวัน
   
หลังจากคนดูแลมาช่วยใส่น้ำยาล้างไตให้แล้ว คนรู้จักในละแวกบ้านก็ขับรถมารับพาทุกคนไปวัดปรางค์ อินทัชประคองยายให้เดิน อีกข้างมีอ้นกับอุ้มคอยช่วย
   
ยายเข้าไปไหว้พระ ถวายดอกไม้ธูปเทียนอาหารคาวหวาน ถวายเครื่องสังฆทานและผ้าไตร พอพระท่านสวดบทกรวดน้ำจบ อ้นก็เป็นคนเอาไปเทที่โคนต้นไม้ ทุกอย่างไม่ได้มีพิธีรีตองมากนัก
   
“เดี๋ยวไปโรงพยาบาลใช่ไหม ลุงจะพาไป”
   
“รบกวนด้วยครับ” อินทัชบอก เขาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่มารับเขากับน้องเมื่อวาน
   
ขาไป อ้นกับอุ้มนั่งในรถกับยายและพี่โอ๊ต เพราะกลัวว่าจะถูกสาวๆสาดน้ำจนเปียก แต่ขากลับ เด็กๆมีแผนแล้วว่าจะไปนั่งโต้ลมตรงท้ายกระบะ ล่อให้พวกผู้ใหญ่สาดน้ำเล่น
   
ลุงพาพวกเขามาส่งที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด ยายมีประวัติการรักษาอยู่ที่นี่ ปกติถ้าต้องมาพบหมอ หรือเอาหยูกยาสารพัดโรคของแก ก็จะได้ลุงคนนี้คอยเป็นธุระให้อย่างไม่หวังผลตอบแทน อินทัชก็ได้แต่ช่วยค่าน้ำมันเท่าที่แกจะยินยอม
   
“อ้นพาน้องไปหาอะไรกินแล้วนั่งรอพี่นะ” อินทัชกำชับ เขาเป็นคนไปเดินเรื่องและนั่งรอหมอตรวจ
   
เพราะว่าเป็นช่วงเทศกาล ไม่มีแพทย์เฉพาะทางออกตรวจที่แผนกผู้ป่วยนอก เด็กหนุ่มเลยพายายไปที่คลินิกพิเศษนอกเวลา นายแพทย์ที่รับเคสคล้ายว่าจะจบมาหมาดๆ ท่าทางยังหนุ่มแน่น เขาทำการซักประวัติ สอบถามอาการเจ็บป่วยเพิ่มเติม บางเรื่องอินทัชก็ยอมรับว่าไม่รู้ ต้องให้ป้าที่คอยดูแลยายตอบแทน
   
“แกบ่นว่าแน่นท้อง หายใจลำบากจ้ะ” ป้าที่อินทัชจ้างเล่าให้หมอฟัง “ปวดท้องเรื่อย แล้วก็กินข้าวได้น้อย พักหลังนี่นอนทั้งวัน บ่นว่าเพลีย บางวันก็อ้วก ดูสิเนี่ย..ผอมจนกระดูกโปนแล้ว”
   
คุณหมอพยักหน้ารับ “ปวดท้องหรือยาย เจ็บตรงไหน ชี้ได้หรือเปล่า”
   
ยายพยักหน้าหงึก วางมือบนท้องด้านขวา “ปวดตรงนี้จ้ะ บนๆ”
   
หมอใช้มือคลำเจอก้อนบริเวณตับ เคาะดูท้องที่โตขึ้นร่วมกับอาการทางกายอื่นๆ
   
“ขอดูตาขาวหน่อยยาย” เขาบอกให้แกหันมา “ตาเหลืองนะ เป็นเบาหวานมานานกี่ปีแล้วครับ”
   
อินทัชยืนกระสับกระส่าย เป็นกังวลขึ้นมา เขารู้ว่ายายเป็นเบาหวานมานาน แล้วมันก็ส่งผลต่อไต แต่เพิ่งรู้ตอนนี้ว่ายายมีเรื่องตับแข็งพ่วงมาด้วย
   
“เท่าที่ดูเบื้องต้น ท้องที่โต อาจเพราะมีน้ำในช่องท้อง เป็นอาการที่เกิดตามมาได้จากโรคตับ” หมอบอก “ยังไงผมต้องส่งตรวจเพิ่มเติมอีกที จะนัดวันมาอัลตร้าซาวด์ให้ ส่วนวันนี้ขอเก็บเลือดหน่อยนะยาย เดี๋ยวญาติพาไปที่ห้องเจาะเลือดนะครับ ผลเลือดจะยังไม่ได้นะ ต้องรอส่งตรวจห้องแล็บอีกที”
   
ยายยกมือไหว้หมอ อินทัชเลยให้ป้าที่ดูแลพาออกไปก่อน ตัวเขาถามหาข้อมูลเพิ่มเติม
   
“น้ำในช่องท้องนี่อันตรายหรือเปล่าครับ”
   
“ถ้าน้ำมีปริมาณมาก มันก็อาจทำให้ท้องโตขึ้น อืดแน่นท้อง แต่ว่าไม่ได้อันตรายร้ายแรงถึงขั้นจะเสียชีวิต ตรงนี้เรารักษาตามอาการได้ คือเจาะระบายน้ำออก ที่ต้องระวังคือสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะท้องมานมากกว่า ยังไงผมขอดูผล แล้วจะแจ้งญาติอีกทีครับ”
   
อินทัชถอนหายใจ บอกขอบคุณอีกฝ่ายแล้วเดินออกมาจากห้องตรวจ
   
“เป็นอะไรเจ้าโอ๊ต ทำหน้ายุ่งเลย” ยายทัก “โรคคนแก่ เอ็งอย่าใส่ใจจนเก็บมาเครียด รู้ไหม..”
   
ร่างสูงนั่งยองๆลงจับรถเข็นที่ยายนั่ง “ผมมียายคนเดียวนะ..จะไม่ให้เครียดได้ไง”
   
“อยู่มาปูนนี้ ตายก็ไม่เสียดายแล้ว” แกหัวเราะ
   
อินทัชยิ้มเฝื่อน ปลอบใจตัวเองว่าไม่มีอะไรให้ต้องห่วง ถ้าถึงมือหมอแล้ว ยังไงก็ต้องมีหนทางรักษา

กว่าจะเข้าคิวและเก็บเลือดเสร็จ อ้นกับอุ้มก็ถึงกับเผลองีบหลับคาเก้าอี้ตัวยาว อินทัชเห็นว่ายายเพลียมากแล้วเลยบอกน้องๆไปว่าวันนี้คงไม่ได้พาเล่นน้ำ เอาไว้วันมะรืนเขาจะเข้าอำเภอเมืองอีกที พาอ้นกับอุ้มมาดูงานแห่บั้งไฟที่วัดสวนตาลแล้วก็จะถือโอกาสแวะมาฟังผลเลือดด้วย

เด็กหนุ่มโทรหาลุงแถวบ้าน ให้แกขับรถมารับยายหน้าอาคาร จากนั้นก็ขับไปส่งป้าคนดูแลที่บ้านแก

พอกลับมาถึงบ้านหลังเก่า ยายก็ผลัดซิ่นตัวสวยให้อ้นเอาไปเก็บไว้ในตู้ มันเป็นหนึ่งในของไม่กี่ชิ้นที่แกหวงแหน เพราะสมบัติของยายมีไม่มาก โชคดีที่ไม่มีหลานสาว แต่ถึงอย่างนั้นก็อดคิดถึงหลานสะใภ้ไม่ได้

“โอ๊ตเอ้ย..เจ้าโอ๊ต” ยายเรียกหาหลานคนโต “ไขกุญแจ..หยิบเอากล่องในลิ้นชักให้ยายหน่อย”

อินทัชทำตาม เขาเอากล่องไม้เก่าคร่ำมาให้ ยายเปิดออกแล้วหยิบกำไลเงินวงเล็ก มันไม่ได้แวววาวเหมือนครั้งแรกที่ยายได้มาจากตา แต่ถ้าใช้น้ำยาขัดเสียใหม่ ก็จะออกมาสวยเหมือนเดิม

“เอ้า..เอาไว้ให้แฟนเอ็ง” แกวางใส่มือ “มันไม่ได้มีราคาเท่าไรหรอกนะ แต่มันก็มีค่าในความทรงจำยายเสมอ”

เด็กหนุ่มหัวเราะ “อะไรกันยาย..อย่าเพิ่งมาแบ่งมรดกตอนนี้”

อ้นนั่งพับผ้าอยู่ข้างเตียง ส่วนอุ้มไม่ได้สนเครื่องเงินชิ้นเดียวของยายเท่ากับการเป่ากบเล่นคนเดียว

“ยายมีของให้เอ็งแค่นี้แหละ เงินที่เอ็งส่งมาให้ ยายพยายามไม่ใช้ อยู่ในสมุดบัญชีนะ” แกทำท่าจะรื้อตะกร้าใส่ของจุกจิกตรงหัวเตียง แต่หลานชายดึงข้อมือไว้ก่อน

“ก็ส่งมาให้ใช้ จะเก็บทำไมล่ะ” เขาท้วง “ไม่เอาแล้ว เลิกคุย ยายยังอยู่กับพวกผมอีกนาน”

“ถ้างั้นก็เก็บไอ้นี่ไว้ก่อน” แกยิ้ม เห็นร่องรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า “วันไหนรักใครขึ้นมาจริงๆ ก็เอาให้เขา”

อินทัชเงียบกริบ

“ถ้าใครเห็นคุณค่าของมันมากกว่าราคาขาย..แปลว่าคนๆนั้นรักเอ็งอย่างจริงใจ” ยายลูบหัวอย่างปรานี “เขาจะรักเอ็งที่ตัวตนและความดี ไม่ใช่เรื่องฐานะเงินทอง”

เขาดึงมือยายมาทาบแก้ม “ใครรักผม ก็ต้องรักครอบครัวผมด้วย”

“ยายหวังว่าจะอยู่ทันเห็นสะใภ้นะ” แกหัวเราะร่า

“โธ่..ยาย” เขาส่ายหัว “ไม่พูดแล้ว ยายมานั่งนี่ดีกว่า”

อ้นเห็นพี่โอ๊ตประคองยายมานั่งที่เก้าอี้ก็ลุกขึ้นไปเทน้ำอบใส่ขัน ส่วนน้องอุ้มรับหน้าที่หยิบพวงมาลัยมะลิหอมที่พี่ชายซื้อมาจากหน้าโรงพยาบาล สามคนพี่น้องคลานเข้าไปกอดญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่

“ขอให้ยายสุขภาพแข็งแรง หายวันหายคืน อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของพวกผมตลอดไป” อินทัชตักน้ำในขันรดลงฝ่ามือที่รองรับ ก่อนจะเอาพวงมาลัยลงกราบที่เท้าของแก “อะไรที่ผมเคยทำให้ยายเสียใจ ที่ดื้อ หัวแข็ง เถียงยายบ่อยๆ ผมกราบขอโทษ..ยายยกโทษให้ผมด้วยนะ”

“ไม่เคยถือโทษเอ็งเลย” ยายวางมือลงบนหัว “ยายอวยพรให้เอ็งมีแต่ความสุข ความเจริญ ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ ผลจากความกตัญญูของเอ็ง จะทำให้เอ็งได้เจอกับสิ่งดีๆ มีคนดีๆเข้ามาในชีวิตนะลูกนะ”

อินทัชถอยหลังออกไป เจ้าอ้นคลานเข่าเข้ามาให้พวงมาลัย

“ยายจ๋า..ยายอยู่กับพี่โอ๊ต กับอ้น กับน้องอุ้มไปนานๆนะ ยายต้องแข็งแรง รอดูอ้นเรียนสูงๆ จบสูงๆนะยาย”

“ตัวแสบ มานี่มา..ขอยายกอดหน่อย” แกขำ “ขอให้เอ็งเรียนเก่งๆ ทำอะไรก็สำเร็จไปหมด ได้เป็นเจ้าคนนายคนนะลูก”

น้องอุ้มเข้าไปไหว้ยายเป็นคนสุดท้าย เด็กชายยิ้มเผล่ โถมเข้ากอดรัดอีกฝ่าย “หนูรักยายจ้ะ” 

“ยายก็รักเอ็ง..มา..ขอหอมให้ชื่นใจ” ยายหอมแก้มฟอด “ขอให้เจ้าอุ้มตัวน้อยของยายมีความสุข มีแต่คนรัก คนเอ็นดู ทำอะไรก็ดีทุกอย่าง แล้วอย่าดื้ออย่าซนกับพี่ๆเขา เข้าใจไหม”

อุ้มฉีกยิ้ม เงยหน้าให้ยายหอมแก้มยุ้ยเป็นพวงทั้งซ้ายขวา

หลังรดน้ำดำหัว หลานๆช่วยกันเก็บบ้าน หาข้าวหาน้ำ เอายาให้ยายกิน นั่งล้อมวงพูดคุยถึงชีวิตที่กรุงเทพ ยายดูมีความสุข สีหน้าสดชื่นอิ่มเอิบ ลืมอาการเจ็บป่วยไปชั่วขณะ เหมือนได้แรงใจการอยู่ต่อจากรอยยิ้มของหลานสามคน

อินทัชหันมองนาฬิกา “นอนเถอะยาย สี่ทุ่มแล้ว นอนดึกเดี๋ยวเพลียกว่าเก่า” เขาเอาสายมุ้งไปแขวนข้างหน้าต่าง ปัดที่นอนไล่มดไล่แมลงและหมุนพัดลมไปจ่อตรงปลายเท้าของแก

“คืนนี้ใครจะนอนกับยายบ้าง”

อ้นกับอุ้มชูมือ แต่เตียงยายแคบนิดเดียว อ้นเลยให้น้องอุ้มไปนอนก่อน

“อยากฟังยายเล่านิทาน” อุ้มพูดอ้อน

“เอาเรื่องเอื้องผึ้งจันทน์ผาไหม” ยายตบเบาะ “นานมาแล้ว..มีสาวงามคนหนึ่ง ชื่อเจ้าเอื้องผึ้ง....”

อินทัชยิ้ม มองน้องอุ้มที่ปีนขึ้นไปนอนขดตัวอยู่ข้างยาย เขาปิดไฟตรงห้องกลาง เหลือไว้หน้าห้องน้ำ จากนั้นก็จูงน้องชายคนรองขึ้นไปนอนบนห้อง เจ้าอ้นหาวปากกว้าง น่ากลัวแมลงวันจะบินเข้า

“คราวหน้า ชวนพี่กุนต์มาเที่ยวบ้านเราดีไหมพี่โอ๊ต”

อินทัชเลิกคิ้ว “ทำไมถึงเป็นพี่กุนต์ล่ะ”

“แล้วทำไมต้องเป็นคนอื่นอ่า” อ้นเกาหัวแกรกๆ

คนเป็นพี่ไม่มีคำตอบจะให้ ได้แต่ขยี้หัวยุ่งเหยิงของไอ้ตัวแสบ

“ชอบพี่กุนต์มากเลยนะเราเนี่ย อะไรๆก็พี่กุนต์” เขาแสร้งพูด ทำท่าน้อยใจ

“พี่โอ๊ตไม่ชอบพี่กุนต์หรือ” อ้นถามอย่างพาซื่อ

อินทัชชะงัก คิดไม่ออกไปชั่วขณะ สุดท้ายก็ตีความได้ว่า ‘ชอบ’ ของอ้น ไม่ได้มีอะไรอื่นแอบแฝง

“ชอบสิ” เขายิ้ม “พี่กุนต์ใจดี มีบุญคุณกับพวกเรามาก ทำไมจะไม่ชอบล่ะ เขาน่ะ..เหมือนพี่ชายคนโตของพวกเราเลยใช่ไหม”

“ฮื่อๆ..อ้นชอบพี่กุนต์มากเลย รักเลยแหละ” เด็กชายปีนขึ้นเตียงก่อนจะล้มตัวลงนอน ดึงผ้ามาคลุมถึงคอ “พรุ่งนี้โทรหาพี่กุนต์ได้ไหม”

อินทัชนิ่งไปอีก ประสบการณ์คราวก่อนที่โทรไปผิดจังหวะแล้วพบว่าฝ่ายนั้นอยู่กับคนอื่น มันทำให้เขาไม่ค่อยกล้าติดต่อไปแบบพร่ำเพรื่อเท่าไร ถึงแม้พี่กุนต์จะใจดี ไม่ถือตัว และให้เวลากับพวกเขาสามพี่น้องมากมาย แต่ก็ไม่ควรจะลืมว่าทางนั้นก็ต้องมีชีวิต มีช่วงเวลาส่วนตัวเป็นของเขาเองเหมือนกัน

“เอาไว้จะไลน์ไปหานะ”

“เอาแบบเห็นหน้าด้วย” อ้นหมายถึงวีดีโอคอล

“เยอะไปอ้น” เขาดีดหน้าผากเหม่ง “นอนได้แล้ว ถ้าตื่นสายจะไม่โทรหาพี่กุนต์ให้”

เจ้าตัวเล็กหัวเราะ พอหัวถึงหมอนได้ไม่เกินนาทีก็ผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้พี่ชายนอนพลิกไปพลิกมาอยู่สักพักถึงจะหลับลง




................................................................................................
   



ช่วงเมษา แต่อากาศไม่ได้ร้อนอบอ้าวนัก ท้องฟ้าดูครึ้ม เมฆลอยต่ำคล้ายฝนจะตก เรือด่วนเจ้าพระยาแล่นทวนน้ำ โต้กับกระแสลมและคลื่นแรง
   
กนธีใช้เวลาช่วงสงกรานต์มาเที่ยวกับไผท เขายืนอยู่ข้างเรือ พาดแขนกับราวเหล็กด้านหลังขณะยิ้มรับลมแรงที่ตีหน้าตอนเรือวิ่ง ชายหนุ่มขยับแว่นกันแดดเมื่อเห็นแสงอาทิตย์จ้าขึ้น
   
“ลมดีจังนะคุณกุนต์” ไผทยืนอยู่ด้านข้าง แต่งตัวเหมือนนักท่องเที่ยวต่างชาติ
   
เขาสวมเสื้อยืดสีขาว ทับด้วยเชิ้ตลายดอก ใส่แว่นกันแดดและหมวกสาน ที่คอคล้องมะลิสาย ท่อนล่างเป็นกางเกงขายาวเนื้อโปร่ง ลากรองเท้าหนีบเพราะมีแผนจะไปเดินสาดน้ำตามถนนยอดฮิต
   
กนธียิ้มให้ “ตอนนี้ท่าวังหลังปิดซ่อม เขาจะจอดที่ท่ามหาราช เราจะข้ามไปไหว้พระวัดระฆังก่อน หรือว่าจะไหว้ที่วัดพระแก้วก่อนดี”
   
โปรแกรมวันนี้ ไผทบอกว่าอยากจะไหว้พระเก้าวัด แต่ไม่อยากไปตามทัวร์ที่เขาจัด เพราะเสียเงินโดยใช่เหตุ มะงุมมะงาหราไปนั่นแหละ ประหยัดกว่า
   
“ผมขอดูแผนที่ก่อน” เขาเกิดและโตที่ปากช่อง เรื่องสถานที่เที่ยวในกรุงเทพต้องยอมแพ้จริงๆ
   
“ไม่ต้องหรอกน่า” กนธีดึงแผนที่ของอีกฝ่ายลง เคาะที่หัวตัวเอง “อยู่ในนี้หมดแล้ว”
   
ไผทหัวเราะ “คุณนี่นักเที่ยวสินะ”
   
“ผมต้องเอนเตอร์เทนลูกค้านี่นา แล้วถ้าพูดถึงเส้นทางตามแม่น้ำล่ะก็..แหล่งล่าสมบัติของผมเลย” เขายักคิ้วให้
   
คนฟังขบขัน พับแผนที่เก็บแล้วผายมือให้อีกฝ่ายเป็นผู้นำ “เอาเลยครับ วันนี้ทั้งวัน ผมยกให้คุณ”
   
ระหว่างทางเดินเรือ มีสถานที่สำคัญเก่าแก่มากมาย กนธีชี้ให้เพื่อนใหม่ของตนดูพร้อมกับเล่าความเป็นมา ไผทยกกล้องดิจิตอลขึ้นถ่าย และมีอยู่หลายครั้ง ที่เขาแอบเอาคนด้านข้างเข้ามาในเฟรมด้วย
   
กนธียังเล่าเรื่อย พูดถึงที่ทำการไปรษณีย์ จากนั้นก็คุยเรื่องของใช้เก่าแก่สมัยหลายสิบปีที่แล้ว
   
“ถ้าคุณชอบ ลองซื้อหนังสือเอนก นาวิกมูลมาอ่านสิ”
   
ไผทฟังหูทวนลม เขายิ้มรับขณะจับจ้องคนเบื้องหน้าผ่านแว่นกันแดดสีเข้ม อีกคนไม่รู้ตัวว่าเขาไล่มองตั้งแต่เส้นผมที่ปลิวตามแรงลม สังเกตเรียวคิ้วที่รับกับดวงตา ดูสันจมูกที่โด่งตรงกับเรียวปากโค้งได้รูป สนใจกระทั่งปลายลิ้นสีชมพูอ่อนที่แลบเลียริมฝีปากเมื่อรับรู้ได้ว่ามันแห้งผากเพราะแรงลม
   
“..ไท..คุณไท..”
   
เจ้าของชื่อเลิกคิ้ว “ครับ?”
   
“หลับในหรือคุณ” กนธีหัวเราะ “ข้างหน้าก็จะเป็นท่าเตียน เราจะเข้าวัดโพธิ์ก่อนไหม”
   
“ได้ครับ..ตามใจคุณ”
   
กนธีเดินไปรอตรงทางขึ้น เขาคล่องกว่าคนด้านหลังที่ดูจะเมาเรือเล็กน้อย คุณไผทเหมือนจะเก้กัง ตอนที่เรือหันท้ายเข้าเทียบ ด้านข้างปะทะกับล้อยางบนโป๊ะ เรือเอียงไปครู่หนึ่ง และไผทก็เซถอย
   
“ระวังนะ” คนอายุมากกว่าคว้าเข้าที่ไหล่อีกฝ่าย ดึงเข้ามาใกล้ตัวเขาที่ยืนมั่นคงกว่า
   
“มึนนิดๆ คนอยู่กับป่าเขา ไม่ค่อยขึ้นเรือน่ะคุณ” ไผทบ่น “ไม่ใช่ว่าผมแก่นะ”

“อายุแค่สามสิบอย่าร้อนตัวน่า” กนธียิ้มเล็กน้อย เขาก้าวขึ้นฝั่งก่อนแล้วยื่นมือมาให้จับ

ไผทยกยิ้มมุมปาก ประสานนิ้วเข้ากับฝ่ามืออุ่นนุ่มแล้วถือโอกาสเดินควงกระทั่งพ้นตลาด
   
ที่วัดโพธิ์ กนธีพาไผทไปไหว้พระและถ่ายรูปคู่กับยักษ์ในตำนาน ตอนแรกไผทคิดว่ายักษ์จะตัวใหญ่สองสามเท่าของคน แต่พอยืนใกล้ๆแล้วก็ขนาดเท่าตัวเรานี่เอง
   
“จากตรงนี้เราเดินเลาะไปวัดพระแก้วได้นะ คุณไหวหรือเปล่า” เขาถามคนที่กระพือเสื้อยืดไปมา
   
ไผทพักยก ดื่มน้ำมะพร้าวและขูดเนื้อกินจนแทบจะถึงกะลา เขาพยักพเยิดรับคำชวนก่อนจะถอดเสื้อนอกลายดอกมาพาดบ่า คุณกุนต์มองแล้วอมยิ้ม เขาเลยถามอย่างสงสัย
   
“ใส่เสื้อบางขนาดนั้นมาเล่นน้ำสงกรานต์” กนธีขำ “ถ้าไม่หนาวตาย ก็ต้องถูกสาวๆลวนลามเละเทะแน่” 
   
“อ้อ..ผมจงใจน่ะ” เขาฉีกยิ้มให้ “คุณชอบสีผิวของผมไหม..บ่มด้วยแดดบ้านนอกมาหลายปีเลยนะ”
   
คนฟังหัวเราะร่วน “ผมไม่ทันสังเกตสีผิวคุณหรอก แต่ผมติดใจฝ่ามือคุณมากกว่า”
   
“มีอะไรหรือครับ” ไผทยกมือขึ้นมา
   
“คุณทำงานหนัก” กนธีมองฝ่ายตรงข้าม “หนักมากๆ..ถึงขั้นมือแตก และมันก็บอกถึงความพยายาม ไม่ยอมหยุดพักของคุณ มันถึงได้มีรอยลึกขนาดนี้..หนังกำพร้าบนมือคุณหลุด ตาย แตกแห้ง เพราะสิ่งที่คุณฝืน” 
   
คนฟังนิ่งงัน สักพักก็ยิ้มร่า คว้าปลายนิ้วคุณกุนต์มาจับ “แต่ผมชอบมือคุณมากกว่า มันนุ่มดี”
   
“ไม่หรอก..ผมว่ามือของคุณให้ความรู้สึกที่ดีกว่า..มันสื่อถึงความไม่ยอมแพ้ของคุณน่ะ”
   
ไผทเงียบกริบ เพราะว่าเขายังสวมแว่นกันแดด คุณกุนต์เลยมองไม่เห็นว่าเขามองเจ้าตัวด้วยสายตาที่เหลือเชื่อแค่ไหน
   
“ผมยอมรับ เคารพและนับถือคนที่มีความพยายามครับ” กนธียิ้ม “สิ่งนี้เท่านั้นที่จะทำให้ความสำเร็จที่ได้รับมีคุณค่าอย่างแท้จริง ไม่ใช่มาจากครอบครัวสร้างให้”
   
“ให้ตาย..” ชายหนุ่มคราง ซ่อนมือไว้ด้านหลังตัวเอง “ผมคิดมาตลอดว่ามือผมมันน่าอาย ก็เพราะว่าผมเริ่มต้นจากคนที่ติดลบ..บางครั้งผมก็คิดว่า ถ้าเลือกเกิดได้ ก็อยากเกิดมาเป็นคุณชายบ้านทรายทองมากกว่า”

กนธีหัวเราะ “อย่าอายเลยครับ ถ้าจะบอกใครๆว่าคุณมาถึงทุกวันนี้ได้ด้วยความอุตสาหะของตัวเอง”
   
“โอเค..ผมจะจำไว้นะ” ไผทยิ้มรับ “แต่ยังไงก็ตามเถอะ..ช่วยแนะนำโลชั่นดีๆสำหรับทามือให้ผมด้วย”
   
อีกคนกลั้นขำตัวโยน จากนั้นก็เดินคุยกับคนข้างกายไปกระทั่งถึงวัดพระแก้ว
   
ไหว้พระฝั่งท่าช้างเสร็จ กนธีก็พาไผทข้ามฟากไปทางวัดระฆัง เดินเตร่ตามตลาดวังหลังที่มีของขายจิปาถะ จากนั้นก็ต่อเรือด่วนไปขึ้นท่าพระอาทิตย์ หาเรื่องเอ้อระเหยไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนข้าวสาร
   
อันที่จริง กนธีไม่ชอบที่ที่มีคนพลุกพล่านนัก เขาต้องคอยเดินหลบนักท่องเที่ยวที่เบียดเสียด พวกฝรั่งนุ่งน้อยห่มน้อย เปลือยท่อนบน ใส่กางเกงขาสั้นเดินฉีดน้ำตลอดทั้งซอย เสียงเพลงเปิดดังกระหึ่ม หนุ่มๆสาวๆเต้นกันเหมือนปลดปล่อยตัวตนเต็มที่
   
กนธียิ้มเฝื่อน ยอมให้คนรอบข้างปะแป้ง นี่แค่เดินเข้ามาไม่กี่นาที เขาก็เปียกไปถึงกางเกงในเสียแล้ว
   
ชายหนุ่มมองไปด้านหน้า เห็นไผทท่าทางมีความสุข คนๆนี้เป็นพวกเปิดเผย อยากจะยิ้มก็ยิ้ม อยากพูดก็พูด พอนึกคึกขึ้นมาก็เต้นแร้งเต้นกาตามเสียงเพลง คลาดจากเขาแวบเดียว ไผทไปซื้อปืนฉีดน้ำมายิงเล่นเรียบร้อย
   
“มันไม่เล็กไปหรือ” เขามองปืนอันจิ๋วทำจากพลาสติกใสไซส์ประมาณฝ่ามือ..นี่มันของเล่นเด็กชัดๆ
   
“แค่ยี่สิบบาท ผมว่าโอเคแล้ว” ไผทหัวเราะพลางควงกระบอกหมุนติ้ว จากนั้นก็ฉีดฟึ้ดใส่แก้มอีกฝ่าย

กนธีหยีตาเพราะน้ำกระเด็นใส่ แต่เขายังหัวเราะอารมณ์ดีเหมือนเคย

“โทษที..แป้งเข้าตาหรือเปล่า” ไผทควักผ้าเช็ดหน้าที่ชุ่มโชกไปด้วยน้ำออกมา คลี่ออกและเช็ดรอยเปื้อนบนใบหน้าคนตรงข้ามให้อย่างเบามือ

..คนอะไร จะสี่สิบแล้วแก้มยังนุ่มอยู่เลย..

“แก้มนิ่มมากครับ” เขาพูดชัดเจน เล่นเอาคนฟังผงะ “ใช้อะไรหมักล่ะเนี่ย”
   
“แก้มคนนะคุณไท ไม่ใช่เนื้อวัว” กนธีขำก๊าก เขาจะมองไปว่าเป็นการเล่นมุกใหม่แล้วกัน
   
ไผทยกยิ้ม “อยากกินสเต็กขึ้นมาเลย..”
   
“ถ้าหิวแล้ว เราไปหาอะไรกินกันไหม”
   
“หาร้านนั่งก็ดีเหมือนกัน เดินมานานชักจะปวดหลัง” ไผทบ่น “แต่ผมยังไม่แก่นะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด”
   
กนธีส่ายหัวยิ้มๆ “เพิ่งสามสิบ..จะรีบร้อนตัวไปไหนครับ”


.

.

.


[ต่อด้านล่าง]


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-08-2016 13:21:16 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #854 เมื่อ01-08-2016 23:47:13 »


.

.

.


วันนี้อินทัชมาพบหมอเพื่อจะฟังผลตรวจเลือดแทนยาย เขาอยากจะมาด้วยตัวเอง ก่อนที่จะต้องกลับกรุงเทพเพราะหมดวันหยุด ส่วนวันที่หมอนัดมาอัลตร้าซาวด์ คงต้องวานให้ป้าคนดูแลช่วยจัดการให้ 

เด็กหนุ่มมากับน้องทั้งสองคน วางแผนไว้ว่าหลังจากคุยกับหมอเสร็จ จะพาเด็กๆไปดูแห่บั้งไฟที่วัดสวนตาลต่อ

“พี่โอ๊ตๆ ไหนว่าจะโทรหาพี่กุนต์ไง” อ้นทวง

น้องอุ้มหูผึ่ง ปีนมาด้านหลังแล้วเอาแขนคล้องคอพี่ “โทรหาพี่กุนต์เหรอ~”

เขาผลักหัวเจ้าอ้นตัวแสบ มันตื๊อเขาตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว “เอาไว้คุยกับหมอเสร็จก่อน เดี๋ยวหมอก็เรียก”

“พี่โอ๊ตก็เข้าไปหาหมอสิ อ้นกับอุ้มจะคุยกับพี่กุนต์” 

อินทัชขยี้หัวอ้นอย่างมันเขี้ยว เขาควักมือถือขึ้นมา เกิดความลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ถ้าสองคนนั้นไม่ได้ตัวติดกัน พี่กุนต์ก็ควรจะอยู่คนเดียวสักที

เด็กหนุ่มเลื่อนไลน์ขึ้นลงอย่างเหม่อลอย จากนั้นก็กดเข้าหน้าสนทนาที่มีข้อความเก่าๆ กำลังกดพิมพ์ตัวอักษรทักทาย แต่แล้วก็มีภาพสวัสดีวันสงกรานต์เด้งขึ้นมาก่อน ทำเอาเขาชะงัก

‘อ่านเร็วดีแฮะ’ พี่กุนต์พิมพ์มาแบบนั้น..ก็แน่ล่ะ เขากำลังจะพิมพ์ไปหาน่ะสิ มันถึงขึ้น Read ได้ไว

‘มาเที่ยวถนนข้าวสาร ตอนนี้นั่งกินข้าวพักเหนื่อย’

อ้นกับอุ้มชะโงกหน้ามาดู ตื่นเต้นจนบอกให้พี่โอ๊ตพิมพ์ตอบไวๆ

“รู้แล้วน่า..ใจร้อนจริง” เขาหัวเราะ กดแป้นตามคำสั่งน้อง

‘คนเยอะไหมครับ ผมไม่เคยไปเที่ยวตรงนั้นเลย’

กนธีส่งภาพถ่ายบรรยากาศรอบด้านมาแทนคำตอบ ดูแล้วมีแต่พวกฝรั่งกับชาวจีน ทั้งผู้ชายผู้หญิง แออัดเบียดเสียด บางคนดื่ม บางคนกิน ข้างนอกร้านก็กำลังเล่นกันครื้นเครง หัวหูเปียกซ่ก ดูไม่จืดทุกคน

‘พี่ไปเล่นกับเขาด้วยหรือ’

‘เดินผ่านเฉยๆ แต่เปียกเป็นหมาตกน้ำทั้งตัวเลย’

อินทัชหัวเราะ ‘เซลฟี่มาหน่อยครับ’

ทางนั้นตอบกลับ ‘ไม่เอาหรอก พี่ไม่ชอบถ่ายรูปตัวเอง’

อ้นทำเสียงบู้ “เปิดวีดีโอๆ”

‘ไอ้อ้นกับไอ้อุ้มอยากคุยกับพี่กุนต์ ขอวีดีโอคอลนะครับ’ อินทัชตอบกลับ

ไม่ต้องรอนานพี่กุนต์ก็คอลมา เขากดรับ แต่ยังไม่ทันได้เปิดปาก ไอ้อ้นก็เข้ามาแทรกกลางก่อน พอกันกับน้องอุ้มที่ปีนมาเบียด เจ้าเด็กเรื่องเยอะสองคนยื่นหน้าเข้าไปจ่อโทรศัพท์ ฉีกยิ้มกว้างจนแทบจะถึงรูหู

“พี่กุนต์~” 

อินทัชหัวเราะในลำคอ ให้น้องอุ้มนั่งตักแล้วชวนอีกฝ่ายคุยไร้สาระไปเรื่อย

“อ้นมาหาหมอกับพี่โอ๊ต มาฟังผลตรวจให้ยาย พี่กุนต์เล่นน้ำสนุกไหม คราวหน้าอ้นอยากชวนพี่กุนต์มาเที่ยวสงกรานต์ที่นี่ด้วย” เด็กชายฝอยเป็นคุ้งเป็นแคว “อ้นจะพาพี่กุนต์เที่ยว พี่กุนต์ชอบดูนาข้าวหรือเปล่า นาข้าวเขียวๆ สวยมากเลยนะ”

“ให้หนูพูดบ้าง” น้องอุ้มเอาหัวดัน ยิ้มร่าใส่ “พี่กุนต์~ เดี๋ยวพวกหนูจะไปดูบั้งไฟ พี่กุนต์มาเที่ยวกัน”

“ช้าๆหน่อย พี่กุนต์ฟังไม่ทันแล้ว” เขาปรามพวกมัน

ทางนั้นหัวเราะชอบใจ พยายามตอบคำถามเด็กให้ครบ

“พี่กุนต์กินอะไร” อุ้มเอียงคอมอง

‘กินสลัดประสาคนหล่อครับ’

อินทัชหัวเราะพรืด

อ้นคุยบ้าง “ไปเที่ยวคนเดียวหรือครับ เหงาหรือเปล่า”

‘ไม่เหงาหรอกครับ’ พี่กุนต์ยิ้มให้ผ่านภาพ ‘พี่มากับเพื่อน’

อินทัชมองผ่านหัวน้อง เห็นผู้ชายอีกคนยื่นหน้าเข้ามาในกล้องแล้วยิ้มทัก เขาจำได้ว่าเป็นคนๆเดียวกับที่เจอที่สตาร์บั๊คส์ พารากอน

‘ลูกใครเนี่ย แก้มยุ้ยเชียว’ เสียงบุคคลที่สามพูดขึ้น

ภาพเคลื่อนไหวเห็นแขนข้างหนึ่งพาดมาบนไหล่กนธีแสดงความสนิทสนม ซ้ำยังยื่นหน้าเข้ามาเบียด พยายามจะมีส่วนร่วมในเฟรมกล้องจนอินทัชได้แต่ขมวดคิ้ว..เขาไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้า โดยเฉพาะกับคนที่ไม่รู้จักแบบนี้

ยังไม่ทันไร ผู้ช่วยหมอก็มาเรียก อินทัชบอกให้อุ้มลงจากตัก

‘อ้าว..พี่โอ๊ตจะไปไหนครับ’

เจ้าของชื่อชะงัก พี่กุนต์ไม่ได้ถามน้องๆเขา แต่ถามเขาโดยตรง ซ้ำยังเรียกเขาว่า ‘พี่โอ๊ต’ ด้วย

..แปลกๆ..แต่ก็ฟังแล้ว..อบอุ่นดี..

“หมอเรียกไปฟังผลแล้ว แค่นี้ก่อนนะพี่” เขายิ้มให้เล็กน้อย จากนั้นก็กดตัดสายตอนที่ร้านเปลี่ยนเป็นเพลงเต้นดังกระหึ่ม แต่อะไรก็ไม่น่ารำคาญเท่ากับการได้เห็น ‘เพื่อน’ พี่กุนต์ เริ่มร้องเพลงเสียงหลงหรอก

..เสียงแบบนั้น..ฟังแล้วเพราะตรงไหน..

“อะไรอ๊าา~ ยังคุยไม่หมดเลย” อ้นบ่น

“ยุ่งจริงเรา พี่เขาอยู่กับเพื่อน ไม่เห็นหรือไง” เขาผลักหัวมัน “อ้นกับอุ้มนั่งรอพี่นะ พี่ไปคุยกับหมอแป๊บเดียว” เขาส่งมือถือให้น้องแบ่งกันเล่นเกม พวกแสบตะเบ๊ะรับ นั่งไกวขาอยู่หน้าห้องตรวจ

อินทัชเดินตามผู้ช่วยหมอ นายแพทย์ที่ดูแลเคสรับไหว้จากเขาก่อนจะเปิดแฟ้มคนไข้
   
“มีอะไรน่าห่วงหรือเปล่าครับ” เขาชิงถามก่อน
   
“จากที่ฟังอาการ ตรวจร่างกายแล้วก็ดูผลเลือด..” อีกฝ่ายมีท่าทางหนักใจ ดูค่า Alpha fetoprotein ที่สูงกว่าปกติ “ผมสงสัยว่าคุณยายเป็นมะเร็งตับ” 
   
เด็กหนุ่มนิ่งอึ้ง “อะไรนะครับ..”
   
“ยังไงผมขอรอดูผลอัลตร้าซาวด์อีกที ถ้าผลออกมาคอนเฟิร์มกันก็จะส่งตรวจการทำงานของตับ แล้วก็คุยเรื่องวิธีรักษา”
   
อินทัชแทบจะฟังไม่รู้เรื่องเลย เขารู้สึกว่าพื้นใต้ฝ่าเท้าเย็นเยียบ

“เป็นมากน้อยแค่ไหนครับ ไม่มากใช่ไหม..” เขาถามด้วยความหวัง
   
“ส่วนใหญ่เราจะตรวจพบมะเร็งตับตอนที่เริ่มมีอาการแล้ว ก็คือเป็นระยะที่สามหรือสี่..”
   
อินทัชนั่งเงียบ ในหัวอื้ออึง ความหวาดกลัวเหมือนเมื่อคราวแม่ของเขาตายจากไปหวนกลับมาอีกครั้ง
   
“แล้ว..ต้องรักษายังไงครับ”

“มีทั้งให้ยาเคมีบำบัดและผ่าตัด ขึ้นอยู่กับจำนวนก้อน การแพร่กระจาย ชนิดของเซลล์มะเร็ง การตอบสนองต่อการรักษาของผู้ป่วย..” หมอบอก “แล้วก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคุณยายว่าพร้อมมากน้อยแค่ไหน เท่าที่ดูจากประวัติ....คุณยายมีเรื่องโรคเบาหวานและไตด้วย คงต้องประคับประคองตามอาการไป”
   
“หมายความว่ายังไงครับ รักษาไม่ได้หรือ” อินทัชหมดเรี่ยวแรง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเสียงพูดได้ยังไง “มีโอกาสหายหรือเปล่าครับ”
   
“อย่างที่บอกญาติ เราต้องพิจารณาเรื่องความพร้อมทางร่างกายของคุณยาย ถ้าสามารถรับยาได้ ก็ต้องดูการตอบสนองต่อเคมีบำบัดด้วย ส่วนผลการรักษา..มีผู้ป่วยหลายคนรักษาโรคมะเร็งหายนะครับ สำคัญคือกำลังใจ”
   
“แล้วถ้าไม่หาย...” เขาถามเสียงพร่า “หมอบอกผมได้ไหม..ว่ายายมีเวลาเหลืออีกมากน้อยแค่ไหน”

“ผมระบุเรื่องระยะเวลาไม่ได้หรอกครับ ในผู้ป่วยบางรายรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งก็ไม่มีแรงสู้ ไม่ยอมรักษาตัว หมดกำลังใจ มันก็จะส่งผลกับการใช้ชีวิต” คุณหมอตอบ “บางรายรู้ตัวแต่ไม่ยอมแพ้ ดูแลสุขภาพ มองโลกในแง่ดี ทำจิตใจให้สงบก็อยู่ได้นานเป็นหลายปี บางรายญาติพี่น้องรู้พื้นฐานจิตใจผู้ป่วยดีเลยไม่ยอมบอกว่าเป็นอะไร พอผู้ป่วยไม่เสียกำลังใจ ก็เป็นการยืดระยะเวลาไว้ได้นานเหมือนกัน”

อินทัชพยักหน้า ในหัวเขากลายเป็นสีขาวโพลนไปหมด คุณหมอพูดอีกหลายอย่าง ทั้งยังซัพพอร์ทคนเป็นญาติด้วย แต่นาทีนี้ อินทัชยอมรับว่าเขาอ่อนแอจริงๆ

เด็กหนุ่มก้าวออกจากห้อง เจ้าอ้นกับเจ้าอุ้มเงยหน้าขึ้นมอง ยิ้มเผล่

“เป็นไงบ้างพี่โอ๊ต ยายแข็งแรงดีใช่ม้า~”

เขากลั้นหยดน้ำตาเอาไว้ รู้สึกเหมือนกำลังนับถอยหลังช่วงเวลาบางอย่าง แต่เมื่อได้มองหน้าน้องๆ เขาก็รับรู้ได้ว่า น้องและยาย คือครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวที่เขามี และเขาจะต้องรักษาไว้อย่างเต็มที่ จะไม่ยอมซ้ำรอยเดิมเหมือนคราวแม่ของเขาเอง

“ยายแข็งแรงดี” อินทัชพึมพำ ยิ้มจาง “แค่ว่าเป็นโรคตับนิดหน่อย ต้องรักษาตัว”

“เหรอๆ..ดีจัง”

เขาลูบหัวเด็กๆ ข่มใจให้สงบ “จะเป็นอะไรไหม ถ้าพี่ไม่ได้พาไปเที่ยวงานแล้ว”

“อ้าว..” น้องอุ้มทำคิ้วผูกกัน

“พี่โอ๊ตหน้าซีด” อ้นสังเกต “ไม่สบายหรือครับ”

เขานั่งยองๆ น้องอุ้มเอามือมาทาบหน้าผาก “รู้สึกไม่ค่อยดีน่ะ”

“กลับก็ได้ ไม่เป็นไรครับ” อ้นบอก “ใช่มะ..น้องอุ้ม บั้งไฟเนี่ย เอาไว้ปีหน้าก็ยังมีเนอะ”

อุ้มไม่งอแง ได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก อินทัชเลยลูบหัวน้องๆ

“กลับกันเถอะ..พี่มีเรื่องจะคุยกับยายด้วย”

ตอนที่มาถึงบ้าน ยายอยู่กับคนดูแล พอเห็นเขามา ป้าก็ปลีกตัวไปทำกับข้าว อินทัชเลยเข้าไปนั่งคุยกับยาย เขาฝืนยิ้ม แสร้งทำเป็นว่าไม่ได้ฟังอะไรแย่ๆมา เล่าก็แต่เรื่องสุขภาพที่ไม่ค่อยแข็งแรงกับอาการโรคตับแข็งของยาย

“ให้มันจริงนะ” แกหัวเราะเห็นเหงือก “จะได้มีชีวิตยาวๆ อยู่ดูหลานสะใภ้สามคน”

อินทัชขบฟันแน่น กระบอกตาร้อนผ่าว

“ยาย..” เขานั่งนิ่ง มองร่มไทรของตนที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวในชีวิต “ยายอยากไปอยู่กรุงเทพกับพวกผมไหม”

แกส่ายหัว “จะไปอยู่ยังไงเล่า ภาระพวกเอ็งเปล่าๆ”

“หมอบอกว่าโรคตับของยายมันจะทำให้สุขภาพแย่ลงน่ะ” เขาโกหกคำโต  “ถ้ายายต้องไปหาหมอบ่อยขึ้น แล้วใครจะดูแล เดี๋ยวผมกับน้องก็ต้องกลับแล้ว”

“ไม่เป็นไร ให้ป้าเขาช่วยดูก็ได้”

“ยายอย่าดื้อเลย” อินทัชพูดอย่างจริงจัง “ไปอยู่กรุงเทพกับพวกผมนะ ให้โอกาส..” เขาเสียงเครือ “ให้โอกาสผมได้ดูแลยายบ้าง จะได้พายายไปหาหมอ หาข้าว..หาน้ำให้กิน ได้คุยกันทุกวัน ไม่ต้องรอเจอกันแค่งานเทศกาลไง”

ยายเงียบไป แกเองก็อยากอยู่กับหลานตลอดเวลาเหมือนกัน ถ้าจะให้พูด..อายุปูนนี้ สุขภาพแบบนี้ แกยังไม่รู้เลยว่าจะมีชีวิตอยู่ถึงวันครอบครัวครั้งหน้าหรือเปล่า ไม่มีใครล่วงรู้ถึงอนาคตได้หรอก

“ที่จริง..ยายอยากอยู่จนถึงวันที่ได้เห็นพวกเอ็งรับปริญญาทุกคนเลย” แกพึมพำ มองหลานทั้งสามคน “แต่ถ้าหวังมากเกิน..เอาแค่ช่วงนี้ก็ได้เนอะ มีคนแก่ไปอยู่ด้วยก็อย่ารำคาญยายล่ะ”

อินทัชมองหน้าแก เขายิ้มออกมาได้

..แค่ได้อยู่ใกล้กัน..เท่านั้นก็น่าจะพอแล้ว..



..........................................................................................



อินทัชนั่งเงียบอยู่ในห้องพักพนักงาน ตั้งแต่กลับมาจากน่าน เขาก็รู้สึกได้ว่าตัวเองเครียดขึ้นกว่าเก่าหลายเท่า ตอนนี้ยายยังอยู่ที่บ้าน เขายังต้องจัดการเรื่องอะไรหลายอย่างกว่าจะสามารถพาแกลงมาที่กรุงเทพได้
   
เขาโทรคุยกับป้าที่ดูแลยาย เล่าให้ฟังเรื่องที่ไปพบหมอมา จากนั้นก็ไหว้วานให้แกช่วยเป็นธุระพายายไปอัลตร้าซาวด์ตามนัด ผลที่ได้ เขาขอให้แกเก็บไว้เป็นความลับ ห้ามบอกยาย ซึ่งแกก็ทำตามอย่างดี
   
เป็นอย่างที่หมอสงสัย ผลตรวจออกมาชัดเจนว่ายายมีก้อนมะเร็งอยู่ในตับ เขาคิดว่าหมอค่อนข้างแน่ใจอยู่แล้ว แต่ประวิงเวลาพอให้ญาติได้ทำใจและหาทางรับมือ

ในขณะที่เรื่องนี้ยังวุ่นวาย เรื่องที่กังวลอีกอย่างก็เพิ่มขึ้น อีกประมาณสองอาทิตย์ เขาก็จะพ้นจากสภาพพนักงานของที่นี่แล้ว แม้ว่าจะมีงานใหม่ที่พี่กุนต์หาให้รองรับอยู่สองงาน แต่พูดถึงค่าตอบแทน นับว่าเทียบกันไม่ค่อยจะได้เลย

เขาหาข้อมูลการรักษาตัวของผู้ป่วยมะเร็ง นับว่าต้องใช้เงินเยอะเอาการ เขามีเงินเก็บอยู่บ้าง แต่ถ้าจะรอให้ใช้เงินจนร่อยหรอ ไม่เหลือไว้ยามฉุกเฉินเลย เห็นว่าจะผิดแผนเกินไป เขาต้องพยายามมากกว่านี้

เด็กหนุ่มคำนวณค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ตัดทอนเรื่องไร้สาระลง อย่างเช่น เดือนหน้าเขาจะตัดอินเตอร์เน็ตในมือถือของตนทิ้ง ค่าโทรศัพท์ก็จะลดลงมาพอสมควร บอกให้น้องๆระวังเรื่องการใช้น้ำใช้ไฟ เซฟค่ากินระหว่างวัน หากลดรายจ่ายได้วันละหนึ่งร้อย ทั้งเดือนก็จะมีเงินเพิ่มอีกสามพัน แต่ประหยัดอย่างเดียวไม่พอ เขาต้องหาลู่ทางทำเงินเพิ่มด้วย

วันก่อน อินทัชเจอประกาศรับสมัครผู้ช่วยวิจัยของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย เขาเลยติดต่อไป เป็นงานเก็บข้อมูลและพิมพ์ดาต้าในโปรแกรม จ่ายค่าแรงตามจำนวนชุด เขาเลยรับมาทำ นอกจากนี้ยังรับสอนพิเศษให้เด็กวัยมัธยมต้นแถวอพาร์ทเมนท์ด้วย 

..จะได้เงินมากหรือน้อย นาทีนี้เขาไม่เกี่ยง..

มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้น เขาหันไปดูมือถือของตนที่วางทิ้งไว้ด้านข้าง หน้าจอเป็นชื่อพี่กุนต์ เขามองอย่างเลื่อนลอย ใจหนึ่งไม่ยอมรับสายในตอนนี้ เพราะเผลอขบคิดหาวิธีว่าจะลองพึ่งพาฝ่ายนั้นดูอีกสักครั้งหรือไม่

อีกครั้ง และอีกครั้ง ไม่จบไม่สิ้น เหมือนเข้าหาเพื่อผลประโยชน์ ไม่เคยตอบแทนอะไรอีกฝ่าย มีแต่จะรบกวนและหาเรื่องไปให้ช่วย

เขาถอนหายใจ เสียงนั้นหยุดไป แต่เปลี่ยนเป็นการส่งข้อความทางไลน์แทน

บนหน้าจอมีเมสเสจขึ้นค้าง

‘ทำงานอยู่หรือ’

อินทัชไม่ได้พิมพ์ตอบ ไม่ได้ปลดล็อคเพื่อจะอ่านในไลน์ด้วยซ้ำ

‘พี่จะไปคุยเรื่องที่ดินที่สุโขทัยสี่วัน..อยากได้อะไรก็เมลมานะ’

ข้อความที่พี่กุนต์ส่งมามีแค่นั้น เขาได้แต่จ้องมองด้วยหัวสมองที่ว่างเปล่า

เขาไม่ได้หยิ่ง ไม่ได้ยโส ไม่ได้โง่แล้วอวดเก่งอะไร แต่ ณ ตอนนี้ ที่เขาพอจะดิ้นรนไปเองได้ เขาก็จะลองทำดูก่อน หวังแค่ว่าจะพึ่งพี่กุนต์เป็นทางเลือกสุดท้าย

ในเมื่อฝ่ายนั้นให้ความเป็นเพื่อนกับเขา เขาก็อยากทำตัวให้เหมือนเพื่อนคนหนึ่ง

ไม่ใช่เป็นไม้เลื้อย ที่เห็นหลักให้ยึดเกาะก็ถลาเข้าไปหา สูบเลือดสูบเนื้อเหมือนกาฝาก

..เขาไม่อยากถูกพี่กุนต์มองว่าไม่ต่างอะไรจากเด็กพวกนั้น ที่เข้าหาเจ้าตัวเพราะมีผลประโยชน์แอบแฝง..

“โอ๊ต..” ปาลินเข้ามาตาม เห็นอินทัชนั่งอยู่ตามลำพังเพราะต้องรอขึ้นเวที เขาตรงเข้าไปแตะบ่าเบาๆ “หน้าเครียดชะมัดเลย คืนนี้ร้องเพลงไหวไหม”

“ไหว” อินทัชเงยหน้าขึ้น ถอนหายใจ “ตอนนี้ให้ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”

คนฟังบีบมือบนไหล่กว้าง เขารู้เรื่องที่ยายของเพื่อนเป็นมะเร็ง รู้ว่าเพื่อนเครียดแค่ไหน แต่ก็ช่วยอะไรไปไม่ได้มากกว่านี้ เขาได้แต่ให้กำลังใจ คอยยืนอยู่ข้างๆ และเสนอเรื่องเงินให้หยิบยืมไปก่อนอย่างที่อินทัชเคยช่วยเขามา

ปาลินยัดเยียดซองที่บรรจุเงินสดใส่มืออีกฝ่าย “เรามีสองหมื่น..เอาไปใช้ก่อนนะโอ๊ต”

อินทัชส่ายหัวแล้วส่งกลับ “ตอนนี้เรายังพอมี เรายังมีทางหาเงินได้อยู่บ้าง แต่ถ้าเข้าตาจนขึ้นมาตอนไหน วันนั้นคงต้องพึ่งสนแล้วจริงๆ”

“เอาไปสำรองไว้ก่อนเถอะ ค่าใช้จ่ายโอ๊ตเยอะกว่าเรา..จริงๆนะ” เขาดึงมือเพื่อนให้รับไป “มีแล้วค่อยคืน ตกลงไหม”

ร่างสูงมองคนเบื้องหน้าด้วยสายตาที่เอ่อล้นไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง เขาพยักหน้ารับ

“ขอบคุณนะ..” อินทัชลุกขึ้นยืน กอดปาลินไว้แนบอก “ไม่ว่าจะตอนไหน เมื่อไร สนก็ไม่เคยเดินหนีเราเลย”

..แล้วจะให้รู้สึกเป็นอื่นไปได้อย่างไร..

ปาลินลูบแผ่นหลังกว้าง “ไปทำงานเถอะ..ทำใจให้สบาย เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน”

อินทัชยิ้มจาง เขาสำรวจตัวเองอีกครั้งก่อนจะขึ้นเวที

คืนนี้ แขกยังคงเยอะเหมือนเดิม เสียงปรบมือยังดังเหมือนเดิม และเขาก็ยังร้องเพลง เทคแคร์แขก เอนเตอร์เทนผู้คนตามหน้าที่ของตนเช่นเดิม ต่อให้ภายในใจจะกังวล เจ็บปวด ท้อแท้ หรืออ่อนล้าแค่ไหน เขาก็ยังฝืนทนต่อ

แขกสาวคนเก่า ฝากบริกรเอากุหลาบมาให้พร้อมกับทิปจำนวนสองพันที่เขาร้องเพลงได้ถูกใจเธอ

อินทัชก้มหัวลงเล็กน้อย ร้องเพลงต่ออีกสามเพลง จากนั้นก็ลงไปพูดคุยกับเจ้าหล่อน

“ไม่ได้เจอหลายวัน ไปเที่ยวสงกรานต์ที่ไหนมาหรือเปล่าครับ” เขาถาม ชงเครื่องดื่มให้

“ฮ่องกง” เธอยิ้มพราว “ไปช็อปปิ้งมานิดหน่อยน่ะ ซื้อกระเป๋าเล่น หมดไปหลายแสน..แล้วเธอล่ะ”

เด็กหนุ่มยอมรับว่าใจหนึ่ง เขาก็อิจฉาคนมีเงินที่จ่ายและซื้อสิ่งที่ตัวเองต้องการได้โดยไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย

“กลับบ้านไปเยี่ยมยายครับ” เขาพึมพำ เผลอมองเทียนอโรม่าบนโต๊ะอย่างเหม่อลอย

ลมเย็นพัดมาวูบหนึ่ง พาเอากลิ่นน้ำหอมเจือจางลอยอวลอยู่รอบตัว หญิงสาวข้างกายโน้มหน้าเข้ามาใกล้ เล็บที่เคลือบน้ำยาสีใสแตะลงบนท่อนแขนแข็งแรง อินทัชหันมามอง จ้องลึกลงในดวงตาของเธอ

“ตามตื๊อมานานแล้วนะ” เธอกระซิบ “ใจแข็งเกินไปหรือเปล่าพ่อหนุ่มน้อย”

อินทัชนิ่งเงียบ มองผ่านใบหน้าของอีกฝ่ายไปยังโต๊ะด้านหลัง ปาลินนั่งคุยกับแขกผู้ชายคนหนึ่ง ท่าทียิ้มแย้มเอาใจ บริการเครื่องดื่มและนั่งคุยเป็นเพื่อนอย่างที่เขาเองก็ทำ..ทุกอย่างทำไปเพราะหน้าที่ และทำไปก็เพื่อ ‘เงิน’

..พวกเขาต้องการเงินเหลือเกิน..ในชีวิตนี้ ยังต้องดิ้นรนอีกมากนัก..

เขาทอดถอนใจ หลับตาลงอย่างคิดอะไรได้ในที่สุด

“นี่..” เธอเอนตัวเข้าไปซบบ่า “อย่าใจร้ายกับฉันนักเลยน่า”

อินทัชลืมตาขึ้น ก้มลงมองสาวสวยที่ซุกหน้าอยู่แนบอก เขาจับปลายนิ้วซุกซนที่กำลังลูบไปตามหน้าขาของเขาไว้พลางเคล้าคลึงแผ่วเบา สาวเจ้าเงยมอง

“ลองตื๊อดูอีกครั้งสิครับ” เขายิ้มให้ ราวกับจะหยั่งเชิงยั่วเย้า“บางที..ผมอาจจะใจอ่อน”

“แน่ใจหรือเปล่า”

“ลองดูสิครับ”

เธอหัวเราะ สลับขาไขว่ห้างอย่างมีชั้นเชิง “ออกไปเดทกับฉันเถอะ..จะจ่ายค่าเสียเวลาให้สองหมื่น”

“คราวก่อนบอกว่าสามหมื่นนี่ครับ”

“ยังพูดไม่จบเลย” เจ้าหล่อนเอียงคอมอง ปัดผมยาวสยายไปด้านหลัง “ถ้าอยู่เป็นเพื่อนฉันจนถึงเช้า ฉันให้สี่หมื่น”

อินทัชยิ้มจาง เขาไม่ได้ตอบรับอะไร เพียงแค่เลื่อนมือลงมาวางที่เอวคอด แฝงนัยความหมายที่รู้กัน 

“ผมเลิกงานตีหนึ่ง คุณรอได้ไหม”

เธอเลิกคิ้วคล้ายประหลาดใจ “อย่าหลอกให้ฉันดีใจเก้อนะ”

“ไม่หรอกครับ” เขาตอบ “ไม่ใช่กับครั้งนี้แน่”
   



.........................................................................................






 :hao7: ตอนหน้า nc

//เดี๊ยวว อย่าเพิ่งเขวี้ยงเกิบ 5555+
//เดี๋ยวตอนหน้า พี่กุนต์ก็จะมาแบบหึงโหด ตามไปลากตัวไอ้โอ๊ตมาแล้วชกๆๆ ขึงกะเตียง จับกดซะ....
//เชื่อก็ออกลูกเป็นเต่า 5555+


ปล. อีดิทเรื่องฟอกไตตอนที่แล้ว ล้างทางหน้าท้องต้องทำทุกวันกั๊บ 555+ ไอ้นี่เอาไปปนกะทางแขนเฉย ขอบคุณคุณ Jibbubu มากๆจ้า ^^ รักษาสุขภาพด้วยน้าา สู้ๆๆค้าบบ

ปลล. ใครเจอคำผิด มีข้อมูลอะไรที่ผิดๆ แจ้งเค้าด้วยน้าาา

**มีแก้ไขเหตุการณ์เล็กน้อยคร้าบ ต้องขอขอบคุณคุณหมอ Kanta Riensavapak มากๆๆๆน้าา ที่ช่วยดูเรื่องข้อมูลการพบหมอ อาการ การรักษา ให้จ้าา คุณหมอบอกว่าช่วงเทศกาล จะไม่มีแผนก OPD จะเป็นคลินิกพิเศษ เลยส่งอัลตร้าซาวด์วันเดียวกันบ่ได้ ต้องรอนัดมาวันเวลาราชการ ก็เลยแก้ไขตรงนี้จ้า แล้วก็แนะนำเข้า รพ.จังหวัดด้วย (เค้าให้ไป รพช. 55+) เค้าเลยถามขั้นตอนพบหมอไปซะแหลกลาญ แต่คุณหมอใจดีม๊ากก ตอบละเอียดยิบมาเลย 555+ รบกวนคุณหมอยันเที่ยงคืนอ่ะ ขอบคุณมากๆจ้าา  :mew1:




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-08-2016 13:28:24 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #855 เมื่อ02-08-2016 00:00:03 »



แงแงแงแง   

พี่กุนต์ โผล่มาคุย กะ น้องอ้น นิดดียว   

แถมพานายผัดไทยมาแจมด้วย ...น้อยใจแทน นายโอ๊ต แล้วนะ
:mew4:


คุณข้าวปั้น บอกว่าไม่มี ดราม่าอะไร  ก้อ เชื่อได้ไหมเนี่ย     :mew2: เราสงสารคุณยาย

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #856 เมื่อ02-08-2016 00:17:03 »

เราเชื่อนะ เรายอมออกลูกเป็นเต่า 
เราว้อนอยู่เลย 5555555555
อย่างน้อยมันก็ดีกว่าให้พี่โอ๊ตขายบริการให้ยัยป้าขึ้นคานไม่มีปัญญาหาสามี
 :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #857 เมื่อ02-08-2016 00:20:17 »

โอยยย ว่าแล้ววว ว่าคุณยายต้องเป็นอะไรซักอย่างแน่ๆ

โอ๊ตจะไปนอนกับยัยผญนี่แหล่วววว พี่กุ๊นต์ รีบกลับมานะคะ

มีความลุ้นอะไรเบอร์นี้ ได้แต่นั่งรอตอนหน้าต่อไปปปป

ออฟไลน์ Vanillaเปรี้ยว

  • รักเด็กอายุยืนยาว กินเด็กชีวิตเป็นอมตะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #858 เมื่อ02-08-2016 00:35:03 »

ไม่เอานะโอ๊ตไม่เอา อย่าไปนอนกับนังชะนีให้ระคายปิก๊ะจูนะไม่เอาาาาาาาา

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #859 เมื่อ02-08-2016 00:53:46 »

สุดท้ายโอ๊ตก็แพ้อำนาจเงิน

ไม่ได้ผิดหวังในตัวโอ๊ตนะ เข้าใจว่าอำนาจเงินมันหอมหวาน ยิ่งการได้มาง่ายๆแบบนี้

 ง่าย เงินเยอะ ไม่เสียอะไร แม้ว่าจะเสียศักดิ์ศรีนิดหน่อยก็ตาม

ยิ่งเจอมรสุมกระตุ้นก็ไม่แปลกหรอก


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
« ตอบ #859 เมื่อ: 02-08-2016 00:53:46 »





ออฟไลน์ XVIII.88

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
    • XVIII.88
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #860 เมื่อ02-08-2016 00:55:29 »

โอ๊ตตตตตต เลี้ยวมาเป็นเด็กพี่กุนต์ดีกว่าาาาาา  :ling1:

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #861 เมื่อ02-08-2016 01:46:11 »

ทำอะไรก็คิดหน้าคิดหลังให้ดีนะ

พี่กุนต์ที่บอกว่าเด็กที่สนใจมักเข้าหาเอง รายนี้ขอพิเศษเข้าหาเองได้เปล่า

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #862 เมื่อ02-08-2016 01:50:02 »

โอ๊ตตตตตต คิดดีๆก่อนที่จะทำอะไรนะบ้างสิ่งบ้างอย่างมันทำไปแล้วก็แก้ไขไรไม่ได้
ชีวิตยังไม่สิ้น ก็ต้องดิ้นกันต่อไป สู้ๆนะ

ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #863 เมื่อ02-08-2016 01:59:21 »

พี่กุนต์ให้เงินดีกว่านะ ไปเสนอขายดูสิ :katai4:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #864 เมื่อ02-08-2016 02:00:47 »

อินทัช คิดดีๆ เด็กเลี้ยงใครหรือเปล่า

ออฟไลน์ Yundori

  • From where I stand...
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #865 เมื่อ02-08-2016 03:03:25 »

โถ เราเข้าใจความจำเป็นของโอ้ตนะ
แต่ก็ยังไม่อยากให้ขายอยู่ดีอ่ะ
มันดูแบบ ไม่รู้สิ. ทำครั้งนึงคงไม่รู้สึกดีไปตลอดชีวิต
ไม่ว่ายังไงก็คงรู้สึกตัวเองไร้ค่าบ้างอ่ะ
แต่เข้าใจเหมือนกันว่ายายก็ต้องดูแล ครอบครัวหนึ่งเดียวด้วย
พี่กุนต์ขา เลิกตัวติดกับคุณไผทแล้วมาหาโอ้ตหน่อยเถอะ
สงสารพ่อหนุ่มน้อยจริงๆ
อาจจะหายไปก่อนจะเสร็จพี่นะค้าา

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #866 เมื่อ02-08-2016 03:16:27 »

อ่านควบสองตอน ตอนที่แล้วด้วยค่ะ
พออ่านจบตอนที่แล้ว เราก็สงสัยไว้ก่อนเลยว่ายายโอ๊ตเป็นมะเร็งหรือเปล่า
อาการเหมือนทวดกับยายเราเลยค่ะ
พอมาอ่านตอนล่าสุดก็ใช่จริงๆ
เราพูดตรงๆ เราสงสารโอ๊ตมากนะ
ภาวะหลายอย่างบีบบังคับให้โอ๊ตต้องหาทางหาเงินมา
คือจะมองว่าสิ่งที่คิดจะทำมันไม่ดีก็ใช่
แต่ถ้าเเลกด้วยชีวิตของคนที่รัก เราว่าจะเลือกโอ๊ตตัดสินใจแบบนี้ก็ไม่ผิดหรอก
คนเราอยากใช้ชีวิตให้ถูกทำนองครองธรรมอยู่แล้ว แต่ความจำเป็นบางครั้งก็ทำให้เราต้องเลือกเนอะ
เอาใจช่วยโอ๊ตนะ อยากให้หาคนเลี้ยงให้ถูกคน /อ่าว เดี๋ยวๆ 55555555555
ชอบนิยายเรื่องนี้ของคุณข้าวปั้นมากๆ เลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ  :o8: :L2:

ปล.ยังรักพี่กุนต์เป็นที่ 1 เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสงสารโอ๊ตด้วย เอาเป็นว่าได้กันเถอะค่ะ เราขอ /เดี๋ยวๆ อีกรอบ 5555555555

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #867 เมื่อ02-08-2016 03:55:05 »

สงสารโอ๊ต ทำไมชีวิตถึงได้มีแต่อุปสรรคแบบนี้เนี่ย แล้วเมื่อไหร่จะมีความสุขกับเขาซักที ข้าวปั้นแค่ไปเดทอย่างเดียวไม่ได้เหรอ ไม่เอาไม่ให้โอ๊ตไปนอนกับคนอื่นซิ แต่ก็นะตอนนี้อะไรๆ โอ๊ตก็คงยอมแหละที่ทำตอนนี้ก็เพื่อยาย ถ้าไม่เข้าตาจนจริงๆ โอ๊ตคงไม่ยอมทำแน่ๆ เฮ้ออออออ สู้ต่อไป ชีวิตมันต้องดิ้นร้นกันต่อไป

ปล. ขอบคุณค่ะข้าวปั้น เราเป็นมา 13 ปีแล้วค่ะ เป็นตั้งแต่เพิ่งเรียนจบใหม่ๆ เลย ตอนนี้เราแข็งแรงดีค่ะ ฟอกทางแขนอยู่ค่ะ ไม่เคยทำทางหน้าท้องนะคะ สมัยนั้นเขาให้ทำแขนอย่างเดียวเลยค่ะ ข้าวปั้นก็รักษาสุขภาพนะคะ

ออฟไลน์ Dolamon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #868 เมื่อ02-08-2016 05:24:47 »

ทำไมชีวิตของโอ๊ตมันน่าสงสารจัง  ย่ิงกว่านางเอกในละครหลังข่าว
ถ้าจะขายให้นางชะนี. เจ๊ว่าสู้ไปเป็นเด็กคุณกุนต์ดีกว่า
 :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ Zalzah_iP

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #869 เมื่อ02-08-2016 05:50:55 »

อ่านตอนนี้แล้วเข้าใจความรู้สึกของคนที่มีความจำเป็นจนต้องขายบริการเลย มันต้องใช้เงิน แล้วก็ไม่มีทางไหนที่จะหาได้เยอะ ง่าย และรวดเร็วเท่ากับทางนี้อีกแล้ว สู้ๆ นะโอ๊ต

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด