โอเคยอมรับก็ได้ว่าคออ่อน…
“พี่โม!!! มาจัดการหน่อยสิ!! พี่มิ้งค์เข้าห้องน้ำนานแล้วนะ!!”
น้องโนยืนตะโกนอยู่หน้าห้องน้ำในขณะที่ผมกำลัง… “อ้วก! แหวะ!!!”
คิดว่ากุ้งปูทั้งหลายเมื่อวานคงออกมาหมดแล้วในเช้านี้…
การตื่นมาแล้วอ้วกนี่มันช่างไม่โสภาเอาซะเลย…
“มิ้งค์ เปิดประตู”
เสียงโมดังมาจากนอกห้องน้ำ
“กูโป๊อยู่ อย่าเข้ามา”
ขอจัดการกับอ้วกที่เลอะเสื้อผ้าก่อนครับ… อ้วกเรา เราต้องซักครับ… อ้วกไป ซักไป…
“อ็อก!!!! อ้วก!!!!!!”
“มิ้งค์!!! เปิดประตู!!!!!! เดี๊ยวนี้!!!!!!!!”
เสียงคุณพ่อคนที่สองของผมดังอยู่หน้าห้องน้ำ ...พอได้ยินเสียง ก็เลยจินตนาการได้ว่ากราฟอารมณ์ของคุณชายโมราตอนนี้คงพุ่งสูงปรี๊ด และคงไม่เป็นการดีต่อชีวิตเท่าไรที่จะปล่อยให้มันขึ้นสูงต่อไป ผมเลยเดินไปเปิดประตูห้องน้ำด้วยสภาพที่ตัวเองไม่ได้ใส่อะไรเลยนอกจากท่อนล่างที่พันไว้ด้วยผ้าเช็ดตัว
ประตูห้องน้ำถูกปิดด้วยฝีมือคนที่เข้ามาสบทบทีหลัง
ส่วนผมน่ะเหรอ… ขอสนิทกับคอห่านอีกนิดนะ...
“โม ดูมิ้งค์หน่อยนะลูก สงสัยเมื่อวานดื่มกับพ่อหนักไปหน่อย”
เสียงแม่ของโมดังอยู่ข้างนอกห้องน้ำ
“หนักอะไรล่ะครับแม่ แค่ไวน์สองแก้ว มันอ่อนเองต่างหากล่ะครับ”
ดูคำพูดคำจาของไอ้คุณชายโมราเถอะ…
“อ้วกเสร็จยัง?”
“เสร็...อ้วก!!!!!”
เช้านี้ ผมผูกมิตรกับคอห่านอยู่นานเกือบชั่วโมงกว่าจะได้อาบน้ำอาบท่าออกมาได้
“ชีวิตนี้มึงอย่าได้แดกอะไรที่มันมีแอลกอฮอลล์อีกเลย!!!”
คุณชายโมราได้กล่าวไว้
“โอเค ไม่กินแล้ว” ผมก็ไม่เถียงครับ เชื่อฟังคุณชายโมราเหมือนพ่อแท้ๆเลยทีเดียว
ผมนั่งอยู่บนเตียงโดยมีโมคอยเช็ดผมให้จนแห้ง
“มึงมันไม่รู้จักจำ บอกแล้วเตือนแล้วก็ไม่ฟัง”
“ก็จริง…”
ทั้งๆที่มีโมคอยเตือนคอยบ่นไม่ขาดปาก แต่ผมก็ยังดึงดัน ดื้อรั้น…
ทั้งๆที่ก็หลายครั้ง ที่โมเอาข่าวที่ไอ้แมนมีกิ๊กไปทั่วมาบอก มาเตือน แต่ผม...ก็ยังหลงไอ้แมน เชื่อแต่คำหวานของมัน…
“ถ้ากูฟังมึงแต่แรกก็คงดี…”
ถ้าผมฟังมันแต่แรก…
วันนั้น… ผมคงไม่ไปที่คลับคนเดียว
วันนั้น… ผมคงไม่ดื่มเหล้า
คืนนั้น… ผมคงไม่พลาดได้กับไอ้แมน
พอวันต่อมา… ผมก็คงไม่หลงคบกับมัน
ถ้าหากผมฟังโมแต่แรก ...ผมคงไม่ได้รักมัน …และคงไม่ทนให้มันไปมีคนอื่น ครั้งแล้วครั้งเล่า
“ถ้ามึงฟังกูแต่แรก คงไม่ใช่มึงอะมิ้งค์” มันว่าก่อนจะหัวเราะหึใส่ผม… ก็สมควรที่จะโดนหัวเราะเยาะใส่นะผมว่า
...ก็ผมมันดื้ออะ
โมบอกให้ไปทางซ้าย ก็ดื้อจะไปทางขวา
โมบอกให้เรียนที่มหาลัยในจังหวัด ก็ดื้อจะไปสอบไปเรียนที่กรุงเทพฯ
ดื้อจนโมต้องลำบากคอยดูแลอยู่เรื่อย...
….
….
….
“มิ้งค์” เสียงโมดังอยู่ข้างหู “ถ้าจะร้อง ก็ร้อง”
พอโมพูดจบ น้ำตาที่เคยคิดว่าไม่มีหลงเหลืออีกแล้วตั้งแต่วันที่พ่อกับแม่เสียก็พรั่งพรูออกมาไม่หยุด
“ฮือ อึก… ฮือ”
“อย่ากลั้นไว้ เดี๊ยวหายใจไม่ออก”
“อึก ฮึก… ฮือ… นี่กูร้องไห้อยู่นะ ฮึก... ฮือ… มึงยังจะสั่งอีก”
นี่ผมจะร้องไห้ ยังต้องปลีกเวลามาเถียงกับมันอีกเหรอเนี่ย??!!!
“ก็ถ้าจะร้องทั้งที ก็ร้องออกมาให้หมดก็อกสิวะ!”
“น้ำตานะ! ไม่ใช่น้ำประปา!! จะได้มีก็อกไว้เปิดปิดอะ!!!”
โมกอดผมจากด้านหลัง กอดแน่นเหมือนผมเป็นของล้ำค่าชี้นเดียวบนโลกที่มันอยากถะนุถนอมไว้
...เป็นอ้อมกอดเดียวอ้อมกอดเดิมที่เคยกอดผมไว้ตอนที่พ่อกับแม่เสีย
และยังคงกอดมาตลอด จนถึงตอนนี้...
➤ ➤ ➤ ➤ ➤
ผมเหนื่อยซะจนเผลอหลับไปเลย…
การร้องไห้นี่สูบพลังผมไปจนหมดตัวจริงๆ…
แต่คนที่กอดผมไว้ก็ยังคงไม่คลายอ้อมกอด…
โมยังกอดผมอยู่ทั้งที่เจ้าตัวก็หลับไปแล้ว
เรานอนอยู่ข้างกันบนเตียงที่เคยนอนด้วยกันตั้งแต่ยังเด็ก… นี่เป็นไม่กี่ครั้งที่ผมตื่นก่อน เพราะปกติโมจะเป็นคนมาคอยปลุกผมมากกว่า แล้วก็เป็นไม่กี่ครั้ง ที่ผมได้มีโอกาสมองหน้าโมชัดๆอย่างนี้…
เรื่องที่โมหล่อเป็นเรื่องจริง…
ถึงโมจะไม่ได้หล่อแบบที่สมัยนี้เขาฮิตกัน แต่ก็หล่อ… อาจจะหล่อคนละแบบกับไอ้แมน แต่ก็หล่อ… อันนี้ไม่ได้เข้าข้างโมเป็นพิเศษนะ… เพื่อนผมหล่อจริงอะไรจริง…
แต่ที่ไม่มีใคร… ก็คงเป็นเพราะเจ้าตัว ยังปล่อยมือจากผมไม่ได้ซักที…
โมเป็นคนขี้ดูแล… เพราะติดนิสัยพี่ชาย… ก็เลยชอบดูแลคนอื่นอยู่เสมอ... ถึงเจ้าตัวจะขี้บ่นไปหน่อยก็เถอะ แต่เรื่องนั้นคงไม่ใช่ปัญหาถ้าเกิดโมจะมีใคร… แต่ที่ยังไม่มี… ก็เพราะผมเอง… เพราะผม ยังดื้อ ยังรั้น จนโมต้องงคอยดูแล...คอยเป็นห่วง…
“ขอบคุณนะโม” ที่คอยดูแลและคอยเอาใจใส่อยู่เสมอ...
“แล้วก็ขอโทษนะ” ที่ทำให้เป็นห่วงอยู่ตลอด…
“เปลี่ยนคำขอโทษเป็นคำสัญญาว่าจะไม่ร้องไห้เพราะไอ้สันดานแมนอีกก็พอ”
นี่นึกว่าโมหลับนะเนี่ย
“นึกว่าหลับ…”
“...แค่หลับตา…”
“อืม”
….
….
….
“โม…”
“ว่าไง?” เจ้าตัวถาม ทั้งที่ยังหลับตาอยู่
“ชอบใครบ้างยัง?”
เป็นคำถามที่ผมเคยถามเจ้าตัวมาแล้วพันกว่าครั้งได้ แต่ไม่เคยได้คำตอบตรงๆซะที
“...ถามทำไม?” นั่นแน่… มีถามกลับซะอีก… คนเค้าถามมา ก็ตอบสิ ไม่ใช่ถามกลับใส่...
“ก็เห็นไม่คบใคร ยุ่งกะใครซักที… ไม่อยากกอดใครบ้างเหรอ? กามตายด้านเหรอจ๊ะ?” ผมพยายามตะล่อมถามคุณชายดูเผื่อฟลุ๊คได้คำตอบ
“...”
แต่พอเจ้าตัวไม่ตอบอะไรกลับมา ก็เลยเดาได้สองอย่าง… ว่าไม่หลับไปแล้ว ก็ตายด้านจริงๆ
“โม…”
“...ว่า?”
“เอาจริงๆนะ… เคยชอบใครไหม?”
“จะถามให้ได้ว่างั้น?”
“เออสิ… อยากรู้ ถึงได้ถามไง…” คนเราจะถามอะไรคงเพราะไม่อยากรู้ไม่อยากฟังคำตอบมั้ง…
พอคิดดูดีๆ ...โมก็มีคนมาจีบเยอะนะ…
“น้องกิ๊บปีสองคณะเรา?”
“คนนั้นแรด”
“ห๊ะ?” ตรงไปไหม? “อ่า...คณะเราอีกคน น้องปรีย่า ปีหนึ่ง?”
“นั่นกระเทย”
อ้าว เหรอ? เพิ่งรู้…
“น้องส้มโอดาวนิเทศน์ปีนี้?”
“ได้ข่าวว่าท้อง”
“จริงเหรอ!?”
ผมตกข่าวใหญ่ของมหาลัยได้ยังไงเนี่ย!?
“น้องเมย์ดาวอักษรอะ? ที่เคยมาจีบมึง กูจำได้… คนนั้นสวยเอ็กซ์มากเลย ถ้ากูไม่ได้ไอ้แมนเป็นผัวซะก่อนยังอยากจีบเลย”
“คนนั้นเตี้ยเกิน”
“ห๊ะ?” นี่คือเหตุผลที่คุณชายโมราปฏิเสธดาวคณะอักษรเหรอครับ? ถามจริง!
“แล้วพี่ใบเฟิร์นอะ? ที่คุยกับมึงอยู่บ่อยๆ ที่ตอนแรกกูคิดว่ามึงกับเค้าคบกัน แต่มึงบอกไม่ใช่อะ คนนั้นที่คุยเก่งๆอะ”
“พูดมาก ขี้เม้าธ์”
“ก็ตามประสาผู้หญิงปะวะ?”
“ก็กูไม่ชอบไง”
“พี่แตงกวาอะ? ที่ตอนนั้นเค้ามาขอให้มึงลงประกวดดาวเดือนไง คนนั้นอะ ที่เป็นเพื่อนพี่อมยิ้มอะ”
“พี่อมยิ้มนั่นแฟนเค้า”
“ห๊ะ!!?”
นี่ผมช็อคยิ่งกว่ารู้ว่าน้องส้มโอดาวนิเทศน์ท้องอีกนะเนี่ย!!
“เดี๊ยว! อย่าเพิ่งออกนอกประเด็น!! นี่กูอุตส่าห์เค้นชื่อผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาข้องแวะกับมึงละนะ ตกลงมึงไม่ชอบใครเลย? ไม่มีที่ถูกใจหน่อยเหรอ? สวยๆทั้งนั้นเลยนะ เอาที่ชอบแค่รูปร่างหน้าตาก็ได้… ไม่มีเลยเหรอ?”
“ถามทำไมวะมิ้งค์ เงียบๆซักที กูจะนอน จะนอนหลายรอบแล้วเนี่ย โดนมึงขัดตลอด…”
“อ้าว? ไหนบอกแค่หลับตา…”
“มึงอย่ากวนมิ้งค์”
“โอเค ไม่กวนก็ได้…” ที่จริงก็เหนื่อยแล้วเหมือนกันกับการที่ต้องมาคอยนึกชื่อผู้หญิงมากมายแบบนี้ ผมล้มตัวลงนอนข้างๆโมแต่เพราะหลับไปตื่นหนึ่งแล้วเลยไม่รู้สึกง่วงซักนิด ตาก็เลยยังไม่ปิด จ้องมองเพดานบนห้องไปเรื่อยๆแก้เบื่อ...
“ที่ถามอะ ก็แค่อยากรู้ว่ามึงมีสเป็คยังไง แบบไหน กูจะได้หาให้ถูกใจมึง กูอยากให้มีคนมาดูแลมึง”
“ทำไม?”
ไหนบอกจะหลับไง
“... ก็มึงคอยแต่ดูแลคนอื่น”
“กูทำเพราะกูอยากทำ กูทำแล้วกูสบายใจ มึงอย่ายุ่งหาคนมาดูแลกูเลย เสียเวลาเปล่า”
“โว๊ะ! คนเค้าหวังดี!!” ผมล่ะหมั่นไส้พ่ออดีตเดือนมหาลัยคนนี้จริงๆ! “บอกหน่อยไม่ได้ไง!!!”
“อย่าดิ้นมิ้งค์!”
“เออ!” ผมก็สู้อุตส่าห์หวังดี อยากให้โมมีคนมาคอยดูแล แต่พ่ออดีตเดือนมหาลัยก็ปากหนัก ไม่บอกอะไรอีกตามเคย
“ถ้าชาตินี้มึงต้องคอยดูแลแต่กูนะ จะขำให้!!”
“เออ ช่างมึงเหอะมิ้งค์ เงียบซักที จะนอน”
สงสัยเพราะใช้พลังงานกับการเค้นชื่อสาวๆทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องอยู่หลายชื่อออกมาจากซอกหลืบของสมองมากไปหน่อย เลยเริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมาอีกแล้ว
➤ ➤ ➤ ➤ ➤
พอตื่นมาอีกที ก็บ่ายซะแล้ว… แถมข้างๆกันก็ไม่มีคุณชายโมรานอนอยู่ด้วย สงสัยคงจะตื่นก่อนอีกตามเคยแล้วก็คงลงไปชั้นล่างแล้วเลยว่าจะไปเข้าห้องน้ำแล้วค่อยตามลงไป แต่พอได้ยินเสียงน้ำจากในห้องน้ำ ก็เลยรู้ว่าอีกฝ่ายไมได้ลงไปข้างล่าง แต่กำลังอาบน้ำอยู่ต่างหาก
“โม ขอเข้าห้องน้ำหน่อย ปวดฉี่”
“อั้นไว้ ใกล้เสร็จแล้ว”
“โม มึงจะให้กูอั้นยังไง มันจะไหลแล้ว เปิดประตู!”
ผมเคาะประตูเสียงดัง โมคงรำคาญเลยรีบเปิดให้ พอผมได้ยินเสียงกลอนห้องน้ำคลาย ก็รีบเปิดประตูเข้าไปทันที
“โอย...เกือบราด”
เสียงถ่ายเบาของผมถูกเสียงน้ำจากฝักบัวกลบจนหมด แต่เสียงจากฝักบัวก็ยังไม่ดังพอจะกลบเสียงของผมจนอีกฝ่ายที่อยู่ด้านหลังม่านพลาสติกหูผีได้ยินจนได้
“ทำเป็นเด็กๆไปได้”
“กูไม่เด็กแล้วนะ ดูปะ?” ผมก็พอมั่นใจในความเป็นชายของตัวเองอยู่นะครับ ถึงจะเคยมีผัวมาแล้วหนึ่งคนก็เถอะ…
“ไอ้ที่อันเท่าหนอนน้อยของมึงอะเหรอ ไม่อะ… กูไม่อยากดูให้เสียลูกตา”
“พูดเหมือนมึงใหญ่ตายละไอ้คุณชาย! ไหนขอดูหน่อยดิ๊!!”
ผมคว้าม่านพลาสติกไว้เต็มสองมือแล้วกระชากเปิดออกเต็มแรง แต่โมมันขืนเอาไว้ ตอนนี้เราสองคนเลยเหมือนกำลังเล่นชักเย่อกันด้วยม่านกันเปียกของห้องน้ำ ผมเนี่ย ออกแรงสุดพลัง แต่เพราะไม่ใช่พวกบึกบึนหรอกถึงได้…
“โอ๊ย!! เชี่ย!!!”
พรืด!!!!
ตึง!!!
➤ ➤ ➤ ➤ ➤
หัวผมปวดหนึบๆเหมือนเพิ่งโดนของแข็งมาอย่างจังเลย…
“อย่าเอามือไปจับ!”
เสียงโมร้องห้ามไม่ให้ผมเอามือไปแตะที่หน้าผาก พอลืมตาขึ้นมาถึงได้เห็นว่าทั้งพ่อ ทั้งแม่ แล้วก็น้องโน รวมถึงคุณชายโม กำลังยืนล้อมเตียงที่ผมนอนอยู่
“พิเรนทร์! เล่นไม่เข้าเรื่อง!”
“โมก็… ดุมิ้งค์เค้าเกินไป” แม่ว่าเสียงอ่อน “แต่ดีนะ ไม่ปูดมาก ซักวันสองวันก็คงหายแล้วล่ะนะ”
“ขอบคุณครับแม่” ผมยกมือไหว้คุณแม่ที่กำลังทายาหม่องที่หน้าผากด้านซ้ายของผม
พ่อกับแม่แล้วก็น้องโนออกจากห้องไปแล้ว เหลือแต่โมที่ยังอยู่
“เป็นไง อยากรู้ดีนัก หัวปูดเลย”
“ก็มึงไม่ให้กูดูดีๆอะ ทำเป็นอายไปได้” ของก็เหมือนกัน แค่จะดูว่าใหญ่กว่าหรือเล็กกว่าแค่เนี๊ยะ ทำมาเป็น… “เออ โม… มึงใหญ่กว่ากูตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?” โมหันขวับมาทำตาขวางใส่ผมทันที
“เสียดายแทนมึงอะ ยังไม่ได้ใช้เลยใช่ปะ?”
“มึงก็ยังไม่ได้ใช้เหมือนกันปะ?!”
เออ เนาะ…
….
….
….
“โม ไปเดินเล่นกัน”
“นอนต่อดีกว่ามั้ง”
“ไม่เอาอะ วันนี้แม่งนอนทั้งวันเลย หิวด้วย ยังไม่ได้กินไรเลย ลงไปหาไรกินแล้วไปเดินเล่นกัน”
“มึงไม่เวียนหัวแน่นะ? ลองเดินก่อนปะ? ถ้าเดินไหว ค่อยลง แต่ถ้าไม่ไหว มึงก็นอนต่อ อยู่บนห้องเนี่ยแหละ เดี๊ยวกูเอาของกินมาให้”
“ไหวๆ ไปเดินเล่นกัน”
แต่พอจะลุก ผมดันรู้สึกเวียนหัวขึ้นมาวูบหนึ่งจนตัวเซ แต่โชคดีที่โมคอยประคองไว้ไม่ให้ล้มลงไปกับพื้นได้ทัน
“ยังไม่ทันขาดคำ”
“อย่าบ่นนักเลยน่ะโม”
“ก็ทำตัวไม่ให้บ่นสิ”
….
….
….
หลังจากหาอะไรลงท้องได้ ผมกับโมก็มาเดินเล่นที่ชายหาด เสียงคลื่นของบ้านเกิดทำให้จิตใจของผมสงบลงได้เหมือนทุกครั้ง ทั้งที่ก่อนจะมาที่นี่ จิตใจของผมทั้งปั่นป่วนทั้งสับสน ไม่ต่างจากเวลาที่คลื่นพัดพาเอาตะกอนทรายให้ฟุ้งขึ้นมาเหนือน้ำเลยซักนิด…
“นี่โม… เรียนจบแล้ว… มึงจะทำอะไร?”
โมเงียบไปซักพักเหมือนกำลังคิด ก่อนจะตอบ
“คงดูก่อน… แล้วมึงอะมิ้งค์?”
“...กูคง...กลับมานี่”
“อืม… งั้นกูก็คงกลับมานี่เหมือนกัน”
“มึงอย่าลอกกูดิ มึงไม่อยากทำอะไรอย่างอื่นนอกจากตามดูแลกูเหรอ? อย่าง… เปิดบริษัท หุ้นกับรุ่นพี่ที่เค้าเคยมาคุยกับมึง อะไรอย่างนี้อะ”
“...ไม่อะ…”
“อืม”
….
….
….
“ขอบใจนะโม…”
“เรื่อง?”
“ที่คอยอยู่ข้างกูตลอด”
….
….
….
“มิ้งค์” โมราเรียกผม ไม่บ่อยที่อีกฝ่ายเป็นคนเปิดปากก่อน ผมเลยตั้งใจฟังว่าโมจะพูดอะไร เราหยุดเดินแล้วหันหน้าเข้าหากัน โมจับมือผมไว้ มือหยาบใหญ่กุมแน่นเหมือนจะบอกว่าเขาจะไม่ไปไหน จะคอยอยู่ใกล้ๆอย่างนี้… และเราจะเป็นอย่างนั้น ตลอดไป…
“ไว้กลับมาอยู่ที่นี่ด้วยกันนะ…”
ถ้าเทียบกันแล้ว สิ่งที่ผมเจอมา มันก็แค่ฝันตื่นหนึ่ง… ฝันร้าย ที่คอยหลอกหลอนให้หวาดกลัวได้ก็แค่แต่ในฝัน… เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าผม โมที่คอยกุมมือผมไว้อย่างนี้ต่างหากที่เป็นของจริง...
ถึงโมจะไม่พูดอะไร… แต่ผมก็รู้… ว่าเขาจะคอยอยู่เคียงข้างไม่ไปไหน
อย่างน้อย...มือของเขาที่กอบกุมมือของผมเอาไว้แน่น ก็บอกอย่างนั้น…
{END}
-------------------------------------------------------------------
พูดคุยกับคนเขียนเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นที่ยาวกว่า 17 หน้ากระดาษทีเดียว... ไม่รู้ว่าคนคนเขียนคนอื่นเคยเขียนกันยาวแค่ไหน แต่สำหรับผม ผมคิดว่านี่ก็ยาวมากแล้ว เพราะยาวกว่าที่เคยแต่งเรื่องสั้นเรื่องอื่นอีกมั้ง...
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้กลับมาจับคีย์บอร์ดนาน อาจจะต้องเคาะสนิมกันบ้าง เลยหันมาจับเรื่องสั้นซักเรื่องก่อนจะกลับมาเขียนเรื่องยาวต่อ หมายถึง...หลังจากที่สู้รบปรบมือกับโปรเจ็คต์จบเสร็จล่ะนะครับ
ถ้าชอบหรือไม่ชอบยังไง หรือมีจุดไหนที่ไม่เข้าใจ ก็คอมเมนต์กันมาได้นะครับ
สุดท้าย ขอขอบคุณที่ติดตามน้องมิ้งค์และคุณชายโมกันมาจนจบนะครับ
Zellda
--------------------------------------------------------------------
คนเขียนกับคอมเม้นต์ก่อนอื่น ขอขอบคุณทุกคอมเม้นต์เลยนะครับ
คอมเม้นต์ถือเป็นกำลังสำคัญที่มีผลกับการตัดสินใจทำอะไรหลายๆอย่างกับการเขียนของตัวเองด้วยครับ
บางเรื่อง เราได้ผลตอบรับที่ดี มีคอมเม้นต์พูดถึงตัวละครที่เราสร้าง เท่านี้ก็ดีใจแล้วครับ
เอาล่ะ... พล่ามนาน ไม่ได้อะไร ... เข้าสู่ช่วงตอบคอมเม้นต์เลยดีกว่า
ขอใช้พื้นที่ของกระทู้ที่วางเนื้อหานิยายไปแล้ว เป็นพื้นที่สำหรับตอบคอมเม้นต์และแจ้งข่าวสารนะครับ
MaRiTt_TCL : ชอบผู้ชายแบบโม ดูเป็นผู้ชายอบอุ่นถึงจะขี้บ่นไปบ้างแต่ก็เป็นห่วงคอยดูแลเราจริงๆ...
Zellda : หลงรักโมล่ะซี่~
ketekitty : เป็นทีื ผช.อบอุ่น มากเลยโม ดูแลดี๊ดี
Zellda : ถ้ามีคนอย่างโมในชีวิตจริงก็จะดีมากครับ (แต่ไม่ได้บอกนะครับ ... ว่าตอนนี้มีหรือไม่มี) ในเรื่องอาจจะไม่ได้พูดถึงเยอะนัก แต่โมนี่แหละครับที่เหมือนกับคนที่คอยค้ำจุนมิ้งค์ เขาอาจไม่ใช่ผู้ชายที่ปากหวานและช่างเอาใจอย่างแมน แต่เขาจะคอยอยู่เคียงข้างคนที่เขารักเสมอ
Bb nale : อ่านแล้วร้องไห้ ซะงั้น ชอบนะน่ารัก
Zellda : ขอบคุณมากครับ
จริงๆเรื่องนี้ก็โทนดราม่าอยู่นะครับ ถึงจะมีช่วงน่ารักๆให้ได้เห็นอย่างช่วงที่ทั้งสองคนอยู่ที่บ้านของพ่อกับแม่ของโม ซึ่งเราจะเห็นว่า บ้านนี้แหละที่หล่อหลอมให้โมเป็นผู้ชายที่อบอุ่นได้ขนาดนี้ หรืออย่างฉากที่เขาสองคนเดินเล่นเลียบชายหาด แต่มันจะไม่ค่อยเศร้าซึมลึกถึงแก่น เพราะเรื่องนี้เล่าจากมุมมองและความคิดของมิ้งค์เนี่ยแหละครับ
... แล้วก็...จริงๆ มันมีเหตุผลของมันอยู่แล้วครับ กับการที่มิ้งค์จะเศร้าก็ไม่ใช่ จะซึมก็ไม่เชิง... แต่สภาพจะเหมือนคนที่ได้หลุดพ้นจากวังวนวุ่นวายหนึ่งๆเท่านั้นเองครับ
twinmonkey0311 : โมชอบมิ้งใช่มั้ย
Zellda : 555 อันนี้น่าจะเห็นได้ชัดอยู่นะครับ คนไม่มีใจ มันไม่คอยดูแล เทคแคร์ ห่วงใยอย่างนี้หรอกครับ
เพียงแต่... มิ้งค์กับโม ไม่ใช่ประเภทที่จะก้าวผ่านความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนสนิทกันได้ง่ายๆเท่านั้นเอง...
ขอบคุณทุกคอมเมนต์นะครับ
--------------------------------------------------------------------
ประกาศจากคนเขียนอ่านกันนิดหนึ่ง!
แม้ว่าเรื่องนี้จะถูกกำหนดให้เป็นเรื่องสั้นตั้งแต่แรก แต่ความจริงแล้ว คนเขียนยังมีพล็อตอยู่ในหัวต่ออีกหน่อย
แต่เนื่องจากเกรงว่าตัวเองจะไม่มีเวลามาเขียนจนจบ เลยทำให้บางส่วนของเนื้อหาถูกตัดไปตั้งแต่ต้น
คนเขียนรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เอาเนื้อหาส่วนนั้นมาเขียนต่อ ซึ่งเป็นเนื้อหาหลังจากนี้นั่นแหละ แล้วก็ยาวพอสมควร
เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้โดนตัดไปตั้งแต่แรก เลยอยากจะถามความเห็นของท่านผู้อ่านดูครับ ว่าอยากให้เรื่องนี้...
1.) เป็นเรื่องยาว ไม่ใช่!! เรื่องสั้น! อยากรู้เรื่องราวตอนต่อไปของโมกับมิ้งค์! อยากให้มีต่อ!!: เพราะอย่างที่บอกไปครับ ว่ามีพล็อตสำหรับตอนต่อไปอยู่แล้ว เพียงแต่เนื้อหาส่วนนั้นถูกตัดทอนไปตามเหตุผลที่ว่า
2.) เป็น Comic Version!! อยากเห็นโมกับมิ้งค์แบบเป็นการ์ตูน!: อย่างหนึ่งที่คนเขียนจะทำก่อนจะลงมือเขียนเป็นเรื่องเป็นราวคือการวาดตัวละครตัวนั้นออกมาบนกระดาษครับ แล้วก็อยากจะเอาเรื่องสั้นซักเรื่องมาทำเป็น Comic Version มานานแล้ว คิดว่าเนื้อหาของเรื่องนี้ค่อนข้างกระชับ เหมาะกับจะเอามาวาดดีครับ
3.) เป็นแค่เรื่องสั้นก็พอ ...แต่อาจจะมี 'บทส่งท้าย' ให้ได้เห็น 'ความหวาน' ของโมกับมิ้งค์เพิ่มอีกหน่อย: หลังจากที่ได้กลับมาอ่านสิ่งที่ตัวเองเขียนไปอีกรอบในฐานะคนอ่านแล้วรู้สึกว่าเรื่องนี้มันขาดอะไรบางอย่างไปครับ เลยคิดว่า ถ้าได้เขียนอะไรอย่าง 'บทส่งท้าย' เพื่อทำให้ทั้งมิ้งค์และโมได้มีความสุข ได้หวานกันบ้าง มันก็คงจะดีครับ
4.) เป็นแค่เรื่องสั้นก็พอ ...แค่นี้ก็ถือว่าจบดีแล้ว ไม่ต้องทำอะไรต่อแล้ว: ถึงตอนแรกจะบอกว่าอยากจะเขียนตอนต่อไปของเรื่องนี้ แต่ความจริง... เนื้อหาส่วนที่มีอยู่ก็พอจะทำให้คนอ่านเดาเรื่อราวกันได้อยู่แล้ว คนอ่านอาจไม่ได้ต้องการส่วนเสริมอย่าง 'บทส่งท้าย' หรือ 'ตอนต่อ' อีก ...เพราะอันที่จริง เนื้อหาและการปูเรื่องก็สมบูรณ์ในระดับหนึ่ง
ผมอยากได้ความคิดเห็นจากคนอ่านครับ ว่าคิด ว่ารู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้เลือกคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ
เพียง 1 ข้อ แล้วกดโหวตบนโพลด้านบนนะครับ ^ ^
ขอบคุณมากครับ
Zellda
---------------------------------------------------------------------
NOTE : สำหรับคนเขียนเองแหละครับ ไม่ต้องสนใจก็ได้
ลงมือเขียนเมื่อ : 22-03-2016 @ 02 : 45 AM
จบเรื่องเมื่อ : 22-03-2016 @ 06 : 45 AM อะไรจะเลขสวยขนาดนั้น...
ตรวจอักษรเสร็จเมื่อ : โนวว ...ขอนอนก่อน ไม่ไหวแล้ว 28-03-2016 @ 18 : 32 PM
ตอบคอมเมนต์แล้ว จนถึง คุณ twinmonkey0311 เมื่อ : 29-03-2016 @ 02 : 22 AM
----------------------------------------------------------------------