ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
- ด้วยความติดทวิตเตอร์ของเรา ขอบอกว่า...
ถ้ากรี๊ดกร้าดในทวิตติดแทค #เรื่องสั้นคนแปลกหน้า แล้วกันเนอะ : ) - - - -
♦♦ เมื่อวาน
14 : 20 น.
งานบอลประเพณี บ่ายสองแล้ว แต่แดดยังไม่ร่มเลยว่ะ!
ผมยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายตรงพื้นที่ด้านนอกของสนามกีฬาใหญ่ที่อยู่ใจกลางเมือง พร้อมกับเขย่งตัวจนสุดปลายเท้าเพื่อมองหาเพื่อนอีกส่วนนึงในกลุ่มที่ยังคงมาไม่ถึง ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงบ่นเดิมๆมาจากคนข้างๆ
"โทรหามันไม่ติดเลยมึง ไหนเมื่อกี้มันบอกว่าลงบีทีเอสมาแล้วไงวะ ทำไมนาน"
ได้ยินอย่างนั้นก็ได้แต่พึมพำเป็นเชิงรับรู้ตอบกลับไปในลำคอ แต่ก็ยังคงพยายามมองหาคนที่รออยู่ต่อไป
"หรือมันจะเดินผิดทางแล้วอ้อมไปทางสแตนฝั่งร่ม"
"ไม่น่าปะวะ ปีที่แล้วก็มา"
ผมตอบพร้อมกับหันตัวกลับมาอีกด้านนึง แล้วพยายามมองหาเพื่อนต่อไป
และทันทีที่กำลังกวาดสายตามองผ่านแถวยาวๆของคนที่กำลังรอคิวเพื่อที่จะตรวจบัตรเข้าไปในงาน สายตาก็ดันไปสะดุดที่ใครสักคนที่ยืนอยู่เยื้องๆไปทางขวามือเข้าอย่างจัง
ตัวสูง ผมสั้นที่เซ็ทขึ้นเปิดใบหน้าจนหมด... มีเค้าว่าจะใช่
แต่แว่นกันแดดเคลือบปรอทที่ปิดใบหน้าไปเกือบครึ่งกลับทำให้ผมไม่มั่นใจ...
หรือจะแค่คนหน้าคล้ายกัน?
ใส่เสื้อของอีกม.นึงด้วยว่ะ
'ไอ้คนแปลกหน้า'ผมจับตามองอีกฝ่ายที่ยืนหลบมุมอยู่กับเพื่อนอีกสามสี่คนที่มาจากมหาลัยเดียวกันอยู่ไม่นาน แต่อีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีว่าจะถอดแว่นกันแดดออกง่ายๆ
แล้วจะแน่ใจได้ยังไงวะว่าใช่หรือไม่ใช่?'
คิดพลางขมวดคิ้วเข้า จนกระทั่งรู้สึกขึ้นมาได้ว่ามองมันต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ ถึงได้ตัดสินใจหันกลับไปมองหาเพื่อนตัวเองต่อ
ไอ้คนที่บอกกันตั้งแต่ 15 นาทีที่แล้วว่ากำลังลงจากบีทีเอสยังคงมาไม่ถึง ทั้งๆทีระยะทางมันก็ไม่ได้ไกลอะไรมากมาย
พอคิดได้อย่างนั้นผมก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาพร้อมกับมองไปรอบๆเผื่อจะหาเพื่อนตัวเองเจอสักที
แล้วก็ต้องตกใจเมื่อมองไปทางขวาอีกครั้งพบว่าใครคนนั้นกำลังหันหน้ามาทางนี้อยู่พอดี แต่เพราะแว่นกันแดดอันเดิมมันปกปิดแววตาเอาไว้ เลยเดาไม่ถูกว่าสายตาคู่นั้นมองตรงมาที่ผมรึเปล่า
"ฮัลโหลมึง... ฮะ? แล้วมึงไปทำอะไรที่แม็คเอ็มบีเค สัด กูก็รอไปสิวะ โอเคๆ รีบมา รอที่เดิมนะ"
สิ่งที่ได้ยินทำเอาผมต้องละสายตาแล้วหันกลับไปมองเพื่อนสนิทที่กดปิดหน้าจอโทรศัพท์ รอให้ฝ่ายนั้นเล่าเรื่องที่คุยกันให้ฟัง
"มันต่อแถวซื้อแม็คโดนัลด์อยู่ บอกว่าหิวมาก ซื้อเผื่อมึงกับกูแล้ว อย่าโมโห"
นอกจากถอนหายใจจะทำอะไรได้อีก?
“งั้นก็ไปหาที่ร่มๆรอกันเหอะ"
ผมตอบพลางทำท่าจะหันไปมองทางด้านขวาของตัวเองอีกครั้ง เพราะยังคาใจว่าที่ยืนอยู่ตรงนั้นจะใช่คนเดียวกับที่คิดไว้รึเปล่า
และพบว่า คนที่มองอยู่หายไปแล้ว...
ไปไหนแล้ววะ?
ยังไม่ทันได้คำตอบ ผมก็ต้องตกใจเพราะคนที่เคยยืนอยู่ไกลออกไปกำลังเดินตรงมาแถวๆนี้ ยิ่งเห็นท่าทางตอนเดินก็ยิ่งรู้สึกหวั่นใจเข้าไปใหญ่
ใช่แน่เลย! ใช่แน่ๆ
เอาไงดี...ไม่อยากเจอเลยว่ะ!
“มึง กูหิวน้ำ”
และนี่คือวิธีเอาตัวรอดของมนุษย์
บอกเพื่อนเสร็จผมก็รีบเดินเร็วๆลัดเลาะฝ่าผู้คนมาหยุดลงตรงซุ้มขายน้ำที่อยู่ไม่ไกล แล้วบอกพี่คนขายหน้าตาเพลียๆที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“เอาน้ำเปล่าขวดนึงพี่"
ได้ยินอย่างนั้นพี่เขาก็หันไปหยิบของที่ผมสั่งมาให้ แล้วบอกกันสั้นๆ
“สิบบาท"
แม่ง...ในเซเว่นขายขวดละเจ็ดบาทเองมึง....
ระหว่างที่กำลังหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาเพื่อจ่ายเงิน อยู่ดีๆก็มีคนๆนึงเดินมาหยุดลงข้างๆกัน แล้วพูดออกมา
“เอาอีกขวดพี่"
ผมหันไปมองอย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาน ก่อนจะต้องนิ่งไปทันทีที่เห็นว่าคนที่ยืนอยู่ใกล้กันตอนนี้คือใคร
ใช่จริงๆด้วยว่ะ ตัวจริงเสียงจริงเลย
ไอ้คนที่มาทีหลังยื่นแบงค์ร้อยให้คนขายโดยที่ไม่หันมามองกันสักนิด พร้อมกับยกมือขึ้นชี้ขวดน้ำของผมที่ยังคงวางอยู่
“สองขวดนะพี่ ขวดนี้ด้วย"
“เฮ้ย! จ่ายให้กูทำไม?”
มันยักคิ้ว ไม่ตอบ ไม่หันมามอง แต่ยื่นมือไปรับเงินทอนมายัดลงในกระเป๋ากางเกงยีนส์จนเสร็จเรียบร้อยแล้วถึงจะส่งสายตามาให้กัน
"จ้องทำไม เห็นเสื้อกูลายถุงสัมเพ็งเลยอยากอ้วกใส่อีกอะดิ?”
“...”
“ยังจะมาทำตาโต...ไอ้กระรอกบิน"
เชี่ยเอ้ย... ตัวจริงว่ะ
- - - -
♦♦
อาทิตย์ก่อน
22 : 50 น.
งานวันเกิดเพื่อน
“กูขอออกไปสูดอากาศนะ"
เพราะความรู้สึกไม่สบายตัวที่รุมเร้าทำให้ผมตัดสินใจหันไปพูดกับไอ้เจ้าของวันเกิดที่นั่งอยู่ข้างกัน ระหว่างที่กำลังลุกขึ้นก็ได้ยินคำถามดังตามมาติด
“มึงไหวแน่นะเว่ย หน้าซีดชิบ กลับก่อนก็ได้ กูไม่ซีเรียส"
“กูโอเค นั่งพักอยู่แถวนี้แหละ"
พูดจบผมก็ยกมือขึ้นตีลงไปบนไหล่เพื่อนตัวเองเบาๆให้มันวางใจ แล้วรีบเดินเลี่ยงออกมาหลังร้าน
ทันทีที่หลุดจากบรรยากาศแออัด สิ่งแรกที่ผมทำคือการสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะทรุดตัวลงไปนั่งยองๆกับพื้น
แม่ง... ปวดหัว โลกหมุน หายใจไม่ถนัด คลื่นไส้ด้วย
หรือจะกลับไปก่อนอย่างที่มันบอกดีวะ
อยากนอนแล้วเหอะ ตาจะปิด
ความรู้สึกแย่ๆทำให้ผมฟุบหน้าอยู่กับหัวเข่าอยู่นิ่งๆ โดยไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน รู้อีกทีก็ตอนที่รู้สึกว่ามีแรงที่ชนเข้ามาที่ขาพอหรี่ตาดู ก็เห็นว่าไอ้ที่ชนเข้ามานั่นมันเท้าคนเต็มๆ
ใครเตะกูอะ? “เฮ้ย!”
“....”
“มึง...ไหวปะเนี่ย?”
พอเงยหน้าขึ้นผมก็เห็นว่ามีคนมายืนค้ำหัวกันอยู่กับกลิ่นควันผสมมิ้นที่ลอยฟุ้ง ทำเอาให้สรุปได้ไม่ยากเลย ว่าอีกฝ่ายคงออกมาสูบบุหรี่...
ทักกันทำไม?
ใครวะ ไม่เห็นจะรู้จัก
“ไหว"
ผมตอบกลับไปแค่นั้น ก่อนจะฟุบหน้าลงเหมือนเดิม
แม่งเรียกกันอยู่ได้ คนยิ่งคลิ่นไส้ๆ จะอ้วกอยู่แล้วเนี่ย
“เหอะ...กูว่าไม่ไหว เรียกเพื่อนให้ปะ?"
“อยู่ข้างใน...”
“ส้นตีนมั้ยล่ะ ลุกขึ้นเลย ไปหาเพื่อนมึงเร็ว เดี๋ยวกูพาไป”
ไอ้คนตรงหน้ามันพูดแล้วยื่นมือมาจับต้นแขน ดึงให้ผมลุกขึ้นยืน แล้วถามซ้ำ
“ตัวร้อนชิบหาย กลับไปหาเพื่อนไป"
“พูดมาก กูปวดหัว! เหม็นบุหรี่!”
ผมตอบกลับไป ก่อนจะดึงแขนตัวเองออกจากมือที่จับอยู่แล้วทรุดตัวกลับลงไปนั่งกองที่พื้นเหมือนเดิม
ไม่ทันไรผมก็ได้ยินเสียงของตกลงที่พื้นเบาๆ ตามด้วยเสียงรองเท้าขยี้กับพื้นปูน พอเหลือบสายตาขึ้นมองทั้งๆที่ยังไม่เงยหน้า ผมก็เห็นก้นบุหรี่ที่ถูกสูบไปไม่ถึงครึ่งบี้แบนติดพื้นอยู่ตรงนั้นเพราะโดนอีกคนนึงใช้เท้าเหยียบซ้ำๆ
“ไอ้สัด ลุก! ไม่สบายก็กลับบ้านไป นั่งอยู่อย่างนี้เดี๋ยวก็ตายห่าอยู่นี่หรอก”
พอมันพูดจบ ผมก็รู้สึกว่าคอเสื้อด้านหลังของตัวเองกำลังถูกดึงขึ้น และมันก็ทำให้ผมต้องลุกขึ้นยืนอีกครั้งอย่างไม่มีทางเลือก
ผมหรี่ตา มองคนที่กำลังปั้นหน้าดุใส่กันแล้วได้แต่สงสัย
เคยไปรู้จักกันตอนไหนวะ?“มึงมาไงเนี่ย ขับรถมาเปล่า?”
“นั่งแทกมา...”
“กูว่ามึงกลับบ้านไปเหอะไป ไม่ต้องกลับเข้าไปในร้านละ"
“อืม...”
ผมตอบกลับไปแค่นั้น จริงๆมันก็เป็นแค่เสียงที่เปล่งออกมาจากลำคอ ไม่ได้รับคำ หรือตอบตกลงใดๆทั้งสิ้น เพราะสมองกำลังเบลอและคิดอะไรไม่ออกเลย
แถมยังรู้สึกเหมือนพื้นที่ยืนอยู่มันโคลงเคลง หัวก็ปวดหนึบเหมือนโดนบีบแรงๆซ้ำๆ ในขณะที่ท้องไส้ก็เริ่มปั่นป่วนเพราะแอลกอฮอล์ที่กินเข้าไป
ระหว่างที่ทุกอย่างกำลังตีกันวุ่นวายอยู่นั้น ไอ้คนแปลกหน้าก็เอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน แถมยังเอามือมาจับไหล่กันเอาไว้
“เฮ้ย! เป็นไร?”
ผมพยายามที่จะตอบกลับไปว่าไม่เป็นอะไร แต่อยู่ๆก็เกิดความรู้สึกแน่นๆก็จุกขึ้นมาในลำคอ ยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมาก็
แหวะ.... อ้วกแตกเลยว่ะ
“เหี้ย!”
ไอ้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้ากระโดดหลบไปได้เพียงบางส่วน
ผมเงยหน้าขึ้นมามองมันก่อนจะเห็นว่าเจ้าตัวกำลังยกชายเสื้อตัวเองขึ้นมาพร้อมกับสีหน้ารังเกียจถึงขีดสุด
“เหี้ยเอ้ย! อ้วกใส่กู!"
เสียงทุ้มๆพูดออกมาอย่างเอาเรื่อง ระหว่างนั้นไอ้ความรู้สึกเดิมมันก็กลับมาอีกครั้ง จนผมต้องยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเอาไว้ พร้อมกับอีกฝ่ายที่โวยวายออกมาด้วยความตกใจ
“สัดด! อย่าอ้วกอีกนะ"
มันพูดพลางใช้มือข้างนึงผลักไหล่ผมไปพิงกำแพง ส่วนอีกข้างดันคางให้เงยหน้าขึ้น แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงขุ่นๆ
“ถ้าจะอ้วกออกมาอีก มึงก็กลืนกลับลงไปเลย อ้วกมึง มึงก็แดกไป"
โคตรชั่ว... โชคดีที่ความรู้สึกแย่ๆนั้นค่อยๆลดน้อยลงและหายไปในที่สุด จนไม่รู้สึกอยากจะขย้อนของเสียอะไรออกมาอีกแล้ว
พอแน่ใจว่าจะไม่มีความวุ่นวายอะไรเกิดขึ้นอีก มือที่มันใช้จับปลายคางกันอยู่ก็ปล่อยออก ผมโกยลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พอได้อ้วกออกมาก็เหมือนจะรู้สึกโล่งขึ้น แต่กลับปวดหัวจี๊ดมากกว่าเดิมเข้าไปอีก
ไอ้คนตรงหน้ายืนกอดอกดูสภาพผมอยู่สักพักก่อนจะถามต่อ
“บ้านมึงอยู่ไกลมั้ย?”
ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ แล้วชี้ไปยังทิศทางที่ห้องพักของตัวเองตั้งอยู่
“แถวๆนั้น"
โคตรเบลอเลยว่ะ คิดอะไรไม่ออกสักอย่าง
สักพักเสียงถอนหายใจหนักๆก็ดังมา พร้อมกับมือที่จับกระชับเข้าตรงต้นแขน
“กูจะรู้มั้ยว่าแถวนั้นมันแถวไหน..."
"บีทีเอสราชเทวี"
"เออ! งั้นเดี๋ยวกูไปส่ง ต้องกลับไปเอาอะไรข้างในไหม?”
“ไม่อะ...แต่....”
ผมกำลังจะปฏิเสธมัน และยืนยันว่าตัวเองสามารถนั่งแท็กซี่กลับได้ เมากว่านี้ก็เคยนั่งมาแล้วเหอะ
“แต่บนหน้ามึงอะ! มาเหอะ เสียเวลา ถ้าพรุ่งนี้กูตื่นมาแล้วเจอข่าวมึงนอนตายอยู่ข้างทางกูคงรู้สึกผิดชิบหาย"
โห...ใจบุญมากยัง
ผมโดนลากให้เดินไปแบบงงๆ ก่อนจะถูกผลักขึ้นไปนั่งบนรถ ไอ้คนแปลกหน้าที่นิสัยไม่ดีแต่มีน้ำใจมันหยิบน้ำดื่มจากเบาะหลังมาให้ผมใช้บ้วนปากและล้างหน้า แล้วก็ล้างชายเสื้อของมันด้วย
พอเห็นท่าทางของผมโอเคขึ้น มันก็จับผมยัดใส่รถแล้วปิดประตูตามมาดังปัง
ผมได้แต่เอนตัวพิงกระจกเอาไว้ จนกระทั่งอีกฝ่ายขึ้นมานั่งที่ฝั่งคนขับบ้าง อยู่ดีๆ กระจกที่ผมพิงอยู่ก็ถูกกดเลื่อนลงไป ก่อนที่น้ำเสียงดุๆจะพูดตามมา
“ถ้าจะอ้วกอีก มึงยื่นหน้าออกไปอ้วกนอกรถเลยนะ อ้วกใส่รถกู กูปล่อยให้นอนป้ายรถเมล์แน่"
ผมไม่ตอบอะไรกลับไปนอกจากเอนหน้าซบอยู่กับกรอบหน้าต่าง ปล่อยให้ลมเย็นๆที่พัดมาโดนหน้าตอนที่รถออกตัวช่วยให้รู้สึกดียิ่งขึ้น ระหว่างนั้นน้ำเสียงขุ่นๆของอีกฝ่ายยังคงดังตามมา
“อย่าเพิ่งหลับนะเว่ย บอกทางกูก่อน"
“อื้อ!”
ในที่สุดรถที่ผมนั่งอยู่ก็มาจอดลงตรงบีทีเอสราชเทวี ผมบอกทางให้มันเลี้ยวเข้าซอยอีกนิดหน่อย ในที่สุดก็มาถึงหน้าหอพัก
“ถึงละ ตรงนี้แหละ ขอบคุณนะมึง"
พูดจบผมก็เปิดประตูรถแล้วเดินลงมา จนถึงหน้าประตู
...จะเข้าไปในหอ ต้องทำไงก่อนวะ?
อ๋อ... สแกนนิ้วมือ
คิดได้อย่างนั้นผมก็ยกมือขึ้น แตะปลายนิ้วหัวแม่มือลงไปบนปุ่มเพื่อนสแกน รออยู่สักพัก เสียงสัญญานก็ร้องเตือนว่าลายนิ้วมือไม่ถูกต้อง...
เชี่ย...ละต้องมากวนตีนกันวันนี้เหรอวะ?
โลกหมุนจะแย่แล้วเนี่ย
ความรู้สึกวิงเวียนจู่โจมให้ผมต้องทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอีกครั้ง ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของพี่ยามเดินเข้ามาใกล้
“เป็นภาระกูจริงๆ"
อ้าว...ไม่ใช่พี่ยามว่ะ
น้ำเสียงดุๆที่ดังมาจากด้านหลังบอกให้รู้ว่าที่พูดอยู่คือมนุษย์คนเดียวกันกับไอ้คนที่ขับรถมาส่งผมถึงนี่ทั้งๆที่ไม่รู้จักกัน
ไม่ทันได้ตอบอะไร ผมก็รู้สึกว่าคอเสื้อด้านหลังโดนดึงให้ต้องลุกขึ้นอีกครั้ง
คำสบถดังออกมาเบาๆ พร้อมกับที่มือผมโดนยกขึ้น และเอาปลายนิ้วไปแตะลงในบนปุ่นสแกนลายนิ้วมืออีก แต่ประตูก็ยังไม่ยอมเปิดให้เหมือนเดิม
"เชี่ยเตี้ย...มึงแน่ใจนะว่านี่หอมึงจริงๆ"
"อือ..."
ผมรับคำ พร้อมกับพยายามกดนิ้วมือลงไปตรงปุ่มสแกนอย่่งสัดความสามารถ ในที่สุดประตูก็เปิดออกสักที จนผมอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหน้ามันเพื่อเยาะเย้ยที่มาว่ากันได้
กูก็แค่ไม่สบาย ไม่ได้โง่...
ตอนนั้นเองที่ผมได้เห็นใบหน้ามันเต็มสายตา หน้าตามันดีเกินมาตรฐานเลยทีเดียว
หรือไม่ก็คงเป็นเพราะฤทธิ์ยาแก้ไข้ผสมกับแอลกอฮอล์ที่กินเข้าไปมันเล่นงานจนทุกอย่างมันบิดเบี้ยวไปหมด
ไอ้เชี่ยตัวไหนมันบอกกูนะว่าไม่สบายต้องกินเหล้าถอนจะหายเร็ว กูจะเผาบ้านมึง....
“มองหน้ากูเพื่อ...”
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือการที่มันล้วงมือเข้ามาในกระเป๋ากางเกงผมแล้วหยิบกุญแจห้องไปดู ก่อนที่ผมจะโดนลากเข้าไปในลิฟต์ ทุกอย่างเป็นไปอย่างทุลักทุเล แต่ในที่สุดผมก็มาถึงห้องตัวเองจนได้
ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก สิ่งแรกที่ผมทำคือการพุ่งตัวไปที่เตียงแล้วทิ้งตัวนอนคว่ำแผ่อยู่บนนั้นทันที
“หายากินด้วย กูหิ้วมาถึงนี่ จะตายคาห้องก็เรื่องมึงละ"
พูดมากจังวะ รู้จักกันก็เปล่า...
“อือ...”
“เออๆ เสื้อกูเลอะอ้วกอะ มีให้เปลี่ยนปะ?”
“ในตู้อะ หาๆเอา"
ผมพูดพลางยื่นมือไปหยิบยาที่ได้มาจากโรงพยาบาล หาถุงที่เขียนว่าแก้ปวดลดไข้แล้วก็หยิบใส่ปากไปเม็ดนึงก่อนจะดื่มน้ำตาม
ปล่อยให้ใครก็ไม่รู้รื้อตู้เสื้อผ้าตัวเองต่อไป
“กูเอาเสื้อแลคตาซอยมึงไปนะ ตัวใหญ่สุดละ"
“อืม...”
“กินยาแล้วก็นอนๆไปเลยไป"
“อืม...”
“กูไปละ ถ้าตายก็โทรเรียกเพื่อนแล้วกัน อย่ามาหลอกกู"
มันพูดแล้วแอบขำที่ปลายน้ำเสียงจนผมต้องลืมตาแล้วยกตัวขึ้นไปมอง เสื้อสีเทาเข้มๆที่มันใส่อยู่ก่อนหน้า ตอนนี้กลายเป็นเสื้อแลคตาซอยแจกฟรีที่ผมได้มาตอนทำค่ายไปแล้ว
ตลกชิบหาย...“มึงชื่ออะไรอะ?”
“อ้วกใส่กูแล้วยังจะมีหน้ามาถาม"
นี่คือคำตอบที่ผมได้มา พร้อมกับโดนผลักแรงๆที่หน้าผากจนต้องทิ้งตัวนอนลงไปบนเตียงอีกครั้ง
นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ผมรับรู้ ก่อนจะหลับสนิทไป...
.
เช้าวันใหม่...
ผมตื่นนอนเพราะเสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง พอดูหน้าจอมือถือก็พบกับสายไม่ได้รับนับสิบที่ขึ้นเตือน เห็นอย่างนั้นก็รีบโทรกลับไปหาไอ้เจ้าของวันเกิดทันที พอมันรู้ว่าผมสบายดี ก็โล่งใจ ทั้งๆที่ตัวเองยังเมาแฮงค์ตื่นแทบไม่ไหว
หลังจากนั้นก็ใช้เวลาทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่พักใหญ่
ทุกอย่างมันเบลอๆงงๆ ตกลงว่าเมื่อวานมีคนมาช่วยไว้จริงๆใช่มั้ย? แถมยังเป็นใครก็ไม่รู้อีกต่างหาก คิดไปคิดมาก็ได้แต่ยกมือขึ้นวัดอุณหภูมิบนหน้าผากของตัวเอง เดาเอาจากความรู้สึกว่าไข้น่าจะลดลงไปมากแล้ว ผมถึงได้ลุกขึ้นและเดินตรงเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำ
สิ่งแรกที่ผมเห็นหลังจากก้าวเข้ามาในห้องน้ำคือผ้าสีเทาๆเปียกน้ำวางอยู่ในอ่างล้างหน้า พอเอามือไปหยิบขึ้นมาดูถึงได้รู้ว่ามันน่าจะเป็นเสื้อยืดของไอ้คนที่ช่วยกันไว้เมื่อวาน
คาลวินไคลน์ด้วยว่ะ
ถ้าจำไม่ผิดเหมือนมันจะเอาเสื้อแลตตาซอยแจกฟรีของผมไปตัวนึง
ดีว่ะ เอาคาลวินไคล์นมาแลกแลคตาซอยคิดได้อย่างนั้นผมก็ต้องหลุดขำ
ภาพดหตุการณ์เมื่อคืนชัดเจนขึ้นมาทีละนิดระหว่างที่ผมกำลังแปรงฟัน
และทันทีที่ความทรงจำทั้งหมดฟื้นกลับคืนมา
ทันทีที่จำได้ว่าเมื่อวานตัวเองทำอะไรเอาไว้บ้าง
ผมก็ได้แต่นึกของคุณเจ้าของเสื้อตัวนี้อยู่ในใจ
ไอ้ขอบคุณมันก็ขอบคุณอยู่หรอก
แต่อย่าเจอกันอีกเลยน่าจะดีกว่า
ไม่ใช่อะไร กูอายตัวเอง....
tbc
- - - - -
ถ้าคืนนี้เราไม่ไปดู Polycat จะรีบเอาตอนจบมาลงให้เลยเนอะ : )
ขอบคุณค่ะ
ปล.ไม่มีชื่ออีกแล้ว แต่นี่ไม่ใช่หมอกับยิ้มนะ ปล่อยสองคนนั้นเลี้ยงหมาอ้วนไปเถอะ