❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก《แอบรัก⊰❤⊱พิเศษ {เที่ยวอิตาลี่}》17/01/60 P.50
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก《แอบรัก⊰❤⊱พิเศษ {เที่ยวอิตาลี่}》17/01/60 P.50  (อ่าน 562050 ครั้ง)

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เขาเจอกันเเล้วอะงื้ออออเขินนนน  :ling1:

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
น่าร้ากกก เราดีใจนะคะที่เจอกันแล้ว อยากรู้ว่าราชาจะทำไงกับบข้าวจ้าวน้อย

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ตายยยๆ ทำไงเนี่ยข้าวจ้าว

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โอ๊ยยยยย เรื่องนี้น่ารักจังเลย  :-[ :-[

ข้าวจ้าวน่ารักมาก เค้ายังไม่ทันว่าอะไรเลยคิดไปเองว่าเค้าโกรธซะแล้ว ราชาเค้าไม่โกรธหรอกนะเค้าแค่อยากทำความรู้จักด้วย :hao7:

อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว :ling1:

ออฟไลน์ ToeyTato

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
ชอบค่ะมันอบอุ่นดีละมุนมากอ่ะ สู้เค้านะข้าวจ้าว

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
ข้าวจ้าวโดนจับได้ซะแล้ว
สงสารข้าวจ้าวเลย เสียใจไปเองซะงั้น
เค้าไม่ได้โกรธ ราชาแค่อยากเจอหนูเท่านั้นเองลูก

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE

ออฟไลน์ April❤

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
เค้าเจอกันซะที❤️❤️❤️

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ยังนึกตอนจบไม่ออกเลย
ไม่อยากนึกด้วย ว่าจะได้คู่กันไหม
พ่อพระเอกเป็นสะขนาดนั้น

ออฟไลน์ tangtang

  • ザ ウェイ ユー アー
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โดนจับได้แล้ววว~

ไม่เป็นไรนะคะข้าวจ้าว ราชาแค่อยากรู้จักเอง
เค้าไม่ได้รังเกียจซะหน่อยเนอะ o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
ข้าวเจ้าหนีไปไหนไม่ได้แล้ว 

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
พึ่งเข้ามาอ่าน เป็นเรื่องที่ละมุนมากกกกกก งี้ดดดดดดดด เขินมากกกก เขินโคตรๆ ยิ่งตอนวางแผนจับข้าวจ้าวของเรานี่จิกหมอนไปหลายรอบ ฮืออออออ น่ารักกกก

ออฟไลน์ fongbeer37

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เจอกันแล้วววว เขิลลลล

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
รอลุ้นๆๆ อิๆ

ออฟไลน์ basanti

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
สงสารตอนข้าวเจ้าขี่รถไปร้องไห้ไปด้วย แถมยังเสียใจจนไม่สบายอีกตั้งหลายวันแน่ะ :sad11:

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
เนื้อเรื่องน่ารัก น่าลุ้นค่ะ

ข้าวจ้าวขี้อายมากๆ

ออฟไลน์ buzeative

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :mew2: อยากอานต่แล้วๆๆๆๆ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ข้าวจ้าวจะทำไงต่อเนี่ย
ลุ้นๆๆๆ

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
ราชาทำโทษข้าวจ้าวเบาเบานะ  :-[ :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ zakimi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
โดนสุดๆเลยเรื่องนี้

ออฟไลน์ zleep

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4
ไหนๆก็เจอกันตรงๆแล้ว ลุยเลยลูก

ออฟไลน์ Malila

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เข้ามารอวันอาทิตย์ 5555  รีบรีบ

ออฟไลน์ noozzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ธรณินทร์ นายอย่าข่มขู่วรานนท์นะ

ออฟไลน์ tangtang

  • ザ ウェイ ユー アー
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แวะเข้ามารอจ้าาาา

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
มารอเบาๆ เพราะวันอาทิตย์แหล่ะ อิอิ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6

ออฟไลน์ darknightmare

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
อ่านแล้วเขินมากกกกก
หุบยิ้มไม่ได้เลยค่ะกับตอนนี้
ยิ้งตอนราชาแกล้งป่วย ทำเป็นบ่นอยากได้ยานี่
เรานี่ยิ้มไม่หุบ หมั่นไส้แรงงง
ข้าวจ้าวนี่น่ารักกระต่ายตื่นตูมมาก
ฮือออ เป็นราชานี่คงเอ็นดูแรง ดูน่าแกล้งดี
ตอนหน้าจะได้คุยกันจริงจังแล้วใช่ไหม ข้าวจ้าวกล้าๆหน่อยนะลูกกก

ดีใจมากที่เห็นว่าตอนนี้ดราม่าสุด5555 ชอบฟิลกู้ดดดด

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :ling1:

วันนี้วันอาทิตย์

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
แอบรัก⊰❤⊱วันที่6



บรรยากาศของการประชุมใหญ่ค่อนข้างเคร่งเครียดจนวรานนท์ที่นั่งอยู่ข้างอาวิต้องเกร็งตัวเกือบตลอดเพราะความไม่ค่อยชินกับแรงกดดันเลยค่อนข้างประหม่าได้ง่ายกว่าคนอื่นแต่สายตาหนึ่งที่จ้องมายิ่งทำให้รู้สึกแย่เข้าไปอีก

ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะไม่เป็นไร...

ทำไมต้องเป็นลูกชายของท่านประทานที่ชื่อว่าธรณินทร์ ภิพัฒธนมงคลด้วย!

ใบหน้าขาวพยายามไม่เหล่มองไปยังฝั่งตรงข้ามที่มีร่างของราชานั่งเท้าคางมองมาด้วยสายตาที่เดาไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่กันแน่
ข้อความที่ได้ยินก่อนจะเข้ามาในห้องก็ทำให้รู้สึกแย่มากพอแล้วทำไมยังต้องมาจ้องกันแบบนี้อีก

จะให้ผมตะโกนขอโทษตรงนี้เลยไหมล่ะ?

ถึงจะพูดแบบนั้นแต่เอาเข้าจริงก็ไม่กล้าหรอก...ใครจะกล้าตะโกนขอโทษต่อหน้าคนเยอะๆแบบนี้กัน

“ทางเราจะมีการถ่ายโฆษณาที่เกาะทางตอนใต้ของประเทศเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ในอาทิตย์หน้าตามที่แจ้งไปข้างต้นนะครับ...ส่วนรายละเอียดของงานในครั้งนี้เราได้เชิญช่างภาพอิสระที่มีชื่อเสียงมาเป็นคนถ่ายภาพให้เชิญคุณวิสุธ แก้วจันทร์ทักทายทุกคนหน่อยครับ”เมื่อคนหน้าห้องพูดจบอาวิก็ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางเกร็งนิดหน่อย

“...สวัสดีครับผมวิสุธ แก้วจันทร์เป็นช่างภาพอิสระ...รู้สึกเป็นเกรียติมาที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับบริษัทชั้นนำแบบนี้...ทั้งผมและผู้ช่วยจะพยายามให้ดีที่สุดครับ...ขอบคุณครับ”ประโยคสุดท้ายอาวิเหล่มามองผมก่อนจะนั่งลงตามเดิม

“เมื่อแนะนำตัวช่างภาพไปแล้วก็มาต่อกันเลยนะครับ...สำหรับช่างภาพจะทำการถ่ายภาพเพื่อทำเป็นโปสเตอร์โฆษณาโดยจะมีอีกทีมทำเป็นโฆษณาแบบอนิเมชั่นทั้งนี้ธีมของงานคือความแตกต่างที่ลงตัว...ทางเราจึงได้มีการจองเรือเพื่อพาไปสถานที่ดำน้ำเผื่อจะใช้ในการถ่ายทำได้และ...”คำอธิบายงานยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆโดยที่ในหัวของผมตอนนี้ขาวโพรนไปหมด

สิ่งเดียวที่รู้สึกคือสายตาคมสีน้ำตาลที่จ้องมาอย่างไม่ลดละ

ทำไมเขาถึงไม่ฟังสิ่งที่กำลังอธิบายอยู่ล่ะ?

มามองผมทำไม?

“ตั้งใจฟังหน่อยจ้าว”เสียงของอาวิดังขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือมาแตะที่ไหล่เบาๆทำให้สติเริ่มกลับเข้าร่างอีกครั้ง

“คะ...ครับ”ผมรีบขานก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังด้านหน้าที่มีพนักงานคนหนึ่งกำลังอธิบายโปรเจคนี้อย่างละเอียดยิบอยู่ จากที่ฟังๆมางานโฆษณาครั้งนี้ค่อนข้างลงทุนเพราะต้องไปถ่ายกันถึงเกาะทางตอนใต้แถมยังมีการเช่าเรือให้ไปถ่ายรูปใต้น้ำอีก

การถ่ายภาพใต้น้ำเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยทำมาก่อนเลยค่อนข้างตื่นเต้นอยู่พอสมควร

“สำหรับกำหนดการณ์คร่าวๆเราจะเดินทางในเช้าของวันจันทร์และต่อกันด้วยเครื่องบินและเรือเพื่อตรงไปยังสถานที่ถ่ายทำโดยที่พักจะเป็นโรงแรมหรูระดับ5ดาวที่ท่านประธานเป็นเจ้าของอยู่...ในเรื่องของอาหารทางโรงแรมมีภัตรคารและรูมเซอร์วิซที่สามารถโทรสั่งมาทานที่ห้องได้โดยไม่เสียงเงินยกเว้นของมึนเมานะครับ...”คำอธิบายนั่นทำให้รู้ว่าทางบริษัทไม่ได้ลงทุนมากอย่างที่คิดในตอนแรกเพราะทั้งสถานที่ถ่ายหรือที่พักก็ต่างอยู่ในเครือของบริษัททั้งนั้น

“...นี่คือรายละเอียดคร่าวๆนะครับ...ต่อมาขอเชิญท่านประทานกล่าวปิดการประชุมด้วยครับ”

ในที่สุดก็จบ

ผมแทบจะชูมือสองข้างขึ้นเหนือหัวถ้าไม่ติดที่กำลังอยู่ในห้องประชุมที่มีคนเป็นสิบละก็นะ...ผมเคยเข้าร่วมประชุมหลายครั้งแต่อยากบอกว่าไม่เคยมีครั้งไหนที่ประชุมนานขนาดนี้ คนที่อธิบายรายละเอียดก็แจกแจงจนยิบย่อยมากแต่ดันปิดท้ายว่าทั้งหมดนั่นคือรายละเอียดคร่าวๆ?

“...เฮ่อ...”ผมแอบลอบถอนหายใจก่อนจะมองไปยังหน้าต่างอีกฝั่งที่เห็นท้องฟ้าสีครามเป็นฉากหลัง...ห้องที่ใช้จัดประชุมครั้งนี้อยู่ในชั้นเกือบบนสุดของตึกทำให้สามารถมองเห็นวิวที่สวยงามจนอยากยกกล้องขึ้นมาถ่ายเก็บไว้

ดวงตาสีเขียวปนเทามองเหม่ออกไปยังท้องฟ้าก่อนจะสัมผัสได้ว่ามีสายตาจ้องมองอยู่ ด้วยความที่สติไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเลยหันไปมองทางนั้นอย่างไม่คิดอะไรและทันทีที่ดวงตาของตัวเองสบเข้ากับดวงตาคมสีน้ำตาลผมก็สะดุ้งจนอาวิต้องหันมามองว่าเป็นอะไร

“...ขอโทษครับ”ผมก็ได้แต่เอ่ยขอโทษพรางยิ้มแฮะๆส่งไป

“งานโฆษณาตัวนี้เป็นการโปรโมทและเชิญชวนให้คนเข้ามาใช้บริการและออกมาท่องเที่ยวที่โรงแรมของเรามากขึ้น...ผมคาดหวังกับโปรเจคนี้ไว้สูงและหวังว่าทุกคนจะไม่ทำให้ผมผิดหวัง...เลิกประชุมได้”เมื่อการประชุมเสร็จสิ้นเหล่าผู้เกี่ยวข้องก็ทยอยเดินออกจาห้องประชุม

“สวัสดีคุณวิสุธ...ไม่สิ...วิ”เสียงของท่านประธานดังขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาทักทายอาวิที่ลุกขึ้นเดินไปหาอีกฝ่าย

“ไหนบอกว่าเวลาอยู่บริษัทเราไม่รู้จักกันไงคุณตรีภพ...ภิพัฒธนมงคล”อาวิพูดขึ้นพรางมองหน้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นประธานของบริษัทแห่งนี้

“เจอเพื่อนเก่าทั้งทีก็ต้องทักทายหน่อยสิ...ดีใจที่ยอมตกลงร่วมงานนะ”

“ตกใจอยู่ที่ถูกติดต่อแบบนี้...ฉันเป็นแค่ช่างภาพธรรมดาๆไม่รู้ว่างานจะถูกใจนายไหม?”

“ธรรมดา?...ฮะฮะ...ระดับนี้ถ้าเรียกว่าธรรมดาคงไม่ต้องหาคนเก่งที่ไหนแล้ว”

“คงเก่งก็มีอยู่เยอะ...อ้อ...ขอแนะนำผู้ช่วยหน่อยนะ...จ้าว”เสียงเรียกทำให้ผมที่นั่งอยู่ค่อยๆลุกขึ้นอย่างเกร็งๆเดินเข้าไปหาอาวิ ดวงตาคมสีน้ำตาลที่เหมือนกับของราชาทว่าดูน่ากลัวกว่ามากทำให้รู้สึกกลัวอยู่บ้าง

“สวัสดีครับผมวรานนท์ เทพภักดี...ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”ผมเอ่ยทักทายคนที่ได้ชื่อว่าเป็นท่านประธานและพ่อของราชา

“อืม...ท่าทางใช้ได้...เธอถ่ายรูปแบบไหนล่ะ?”

“ผมชอบถ่ายพวกสิ่งมีชีวิตกับพวกตึกที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองน่ะครับ”เมื่อถูกถามผมก็ตอบกลับพร้อมยกนิ้วขึ้นดันแว่นอย่างเกร็งๆ

“คนละสไตล์กับนายเลยนี่”ท่านประธานหันไปพูดกับอาวิ

“ก็ใช่...ปากบอกว่าชอบถ่ายรูปสิ่งมีชีวิตหรือพวกตึกแต่พอเอาเข้าจริงฉันว่าจ้าวถ่ายรูปธรรมชาติได้สวยไม่แพ้กันหรอกแค่เขาไม่ค่อยชอบเดินทางไปถ่ายเท่านั้นเอง”อาวิหันไปตอบ

“หื้ม...ชมออกนอกหน้าแบบนี้แปลว่าศิษย์เอก?”

“ก็ไม่เชิง...จำภาพวันก่อนที่นายถามว่าใครวาดได้ไหม?”

“ได้สิ...ภาพที่ฉันบอกจะซื้อเมื่อวาดเสร็จแต่นายบอกไม่ขาย”ท่านประธานบอกพร้อมขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด

“ใช่...ฉันไม่ขายเพราะคนที่เป็นเจ้าของผลงานคือจ้าว”

“พูดเป็นเล่น”ชายที่ยืนข้างอาวิแสดงความตกใจออกมาทันทีเมื่อรู้ความจริง

ภาพที่ว่าคงเป็นภาพที่ผมวาดเมื่อหลายวันก่อนที่จะป่วยแน่ๆ...ไม่เห็นรู้เลยว่ามีคนมาดูแถมยังขอซื้อด้วย

ปกติภาพที่ถูกวาดจะถูกเก็บไว้ที่ด้านหลังร้านโดยไม่ถูกนำออกไปวางขายเพราะผมตั้งใจว่าจะเปิดการแสดงภาพเล็กๆของตัวเองเมื่อมีงานภาพหลากหลายชิ้นกว่านี้

“จะพูดเล่นทำไม?”อาวิคลียิ้มพรางเหล่มามองผม

“...เธอเป็นคนวาดภาพที่ยังไม่เสร็จนั่นจริงๆเหรอ?”ท่านประธานหันมาถาม

“...ถ้าหมายถึงภาพที่ใช้สีน้ำลากเป็นเส้นประกอบกันละก็...ผมเป็นคนวาดเองครับ”คนถูกถามตอบเสียงสั่น

ทั้งที่ไม่ได้ถูกดุแต่กลับรู้สึกเกร็งๆอย่างบอกไม่ถูก

“เธออยากขายภาพนั้นไหม?”อีกฝ่ายถามต่อ

“...อ่อ...ผมคิดว่ายังไม่อยากขายครับ....พอดีผมอยากเก็บทุกรูปที่วาดไว้เพื่อเปิดการแสดงภาพเล็กๆน่ะครับ”ผมตอบกลับไป
“ถ้าจะเปิดแสดงภาพก็เป็นอีกนัยหนึ่งว่าเปิดขายอยู่ดีนี่...เอางี้นะ....ฉันขอจองภาพนั่นไว้ก่อนได้ไหม?”

“ครับ?”ผมถึงกับอึ้งที่ได้ยินคำพูดนั่น

คนธรรมดาๆอย่างผมถูกจองภาพวาดตั้งแต่ยังไม่ได้แสดงเลยเหรอ?

“ฉันอยากได้รูปนั่นมาก...มันให้ทั้งความรู้สึกผ่อนคลายและสงบนิ่ง”

“...ก็ได้ครับ”ผมตัดสิใจพร้อมพยักหน้าตกลง...ไม่จำเป็นต้องปฏิเสธข้อเสนอที่ดีขนาดนี้นี่

“งั้นก็ตามนี้...หวังว่าเธอคงไม่ลืมสิ่งที่พูดแล้วขายให้กับคนอื่นหรอกนะ”เขาถามย้ำ

“มะ...ไม่แน่นอนครับ”ใครจะกล้าลืมกัน

“ดีมาก...นี่นามบัตรฉันมีงานเมื่อไหร่ติดต่อมา”ท่านประธานบอกพร้อมกับยื่นนามบัตรส่งมาให้

“ขอบคุณมากครับ”ผมยื่นมือไปรับอย่างสั่นๆ

ไม่คิดว่าจะมีวันที่ผลงานตัวเองได้รับการยอมรับเร็วขนาดนี้

“วิ...เราไปหามื้อเที่ยงกินกันหน่อยเถอะ”

“ไม่ทำงานต่อเหรอท่านประธานบริษัท?”อาวิหันไปถาม

“หึ...แค่วันเดียวบริษัทไม่ล้มละลายหรอกน่า”

“เอาสิ...จ้าวมาด้วยกันไหม?”อาวิหันมาถาม

“อ่อ...ไม่ดีกว่าครับ”ผมต้องลงไปหาราชาต่ออีก

“งั้นเอารถอาขับกลับละกัน...”

“ไม่ต้องครับ...เดี๋ยวผมกลับเองอาไว้ใช้เถอะ”ผมรีบพูด

“กลับได้เหรอ?”

“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะอา”

“ไม่ว่ายังไงเราก็ยังเด็กสำหรับอาเสมอจ้าว”อาบอกพร้อมยกมือขึ้นขยี้เส้นผมสีน้ำตาลของผมแรงๆ

“ผมดูแลตัวเองได้ครับ”

“ก็ได้...ตามใจเลย”



พอตกลงกันได้วรานนท์ก็ขอแยกตัวลงมาที่คาเฟ่ชั้น1ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยพนักงานในบริษัทนั่งกับจนเต็มทุกโต๊ะ...ช่วงเวลากลางวันแบบนี้ไม่ว่าใครก็คงเลือกสถานที่กินให้สะดวกที่สุดซึ่งก็คงไม่พ้นคาเฟ่ที่อยู่ด้านล่างนี่แน่

เจ้าของร่างโปร่งผลักประตูร้านเข้าไปก่อนจะมองไปรอบๆเพื่อหาโต๊ะนั่งแต่ก็เป็นอย่างที่คาดไว้...โต๊ะทุกตัวถูกนั่งเต็มหมด

ถ้าเป็นแบบนี้ผมก็ขอตัวกลับได้โดยไม่ต้องเจอกับราชาใช่ไหม?

ในหัวเริ่มตั้งคำถามพรางใช้ดวงตาสีเขียวปนเทามองไปรอบๆร้านอีกครั้งก่อนจะสะดุดตาเข้ากับชายหนุ่มผมดำซอยสั้นที่นั่งอยู่ตรงริมหน้าต่าง ถึงอีกฝ่ายจะหันหลังให้แต่ผมก็ยังจำได้ดีว่าคนคนนั้นคือราชาไม่ผิดแน่

“...สู้สิข้าวจ้าว”เสียงนุ่มบอกกับตัวเองก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้คนที่นั่งรออยู่ด้านริมร้าน

ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งรู้สึกกังวล...ไม่รู้ว่าเรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นไปในทิศทางไหนกันแต่ขอแค่อย่าถูกเกลียดเลยก็พอแล้ว นั่นเป็นคำเดียวที่ไม่อยากได้ยินออกมาจากปากของคนที่ตัวเองแอบชอบ

“...ขะ...ขอโทษ...ที่ให้รอนาน...ครับ”เสียงสั่นที่ดังขึ้นทำให้คนที่นั่งรอหันมามองนิ่งๆ

“ไม่เป็นไร...นั่งสิ”

“ขอคุณครับ”ผมรีบนั่งลงก่อนจะก้มหน้ามองมือทั้งสองข้างที่กำแน่นจนขาวไปทั้งมือ

“สั่งอะไรไหมครับ?”อีกฝ่ายถาม

“...”ผมได้แต่ส่ายหน้ากลับไปโดยที่ยังก้มหน้าอยู่

ถ้าเงยขึ้นไปเขาคงเห็นใบหน้าแดงๆของผมแน่

“เราจะคุยกันทั้งที่คุณก้มหน้าอยู่แบบนี้เหรอครับ?”เสียงทุ้มยังคงถามต่อ

“...ขอโทษครับ”ผมตอบกลับเสียงเบาแต่ยังคงไม่เงยหน้าขึ้นไป

“ผมน่ากลัวเหรอ?”

“ไม่...ไม่เลยสักนิด”ผมรีบเงยหน้าขึ้นไปตอบแต่เมื่อดวงตาเราประสานกันใบหน้าสีชมพูระเรื่อก็รีบก้มหน้าลงอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

ตึก ตัก ตึก ตัก

เสียงหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเพียงแค่ได้สบตากับราชาทำให้ผมต้องเม้มปากตัวเองแน่นเพื่อระงับอาการตื่นเต้นของตัวเอง...การที่ได้มานั่งร่วมโต๊ะด้วยแบบนี้มันยิ่งกว่าความฝันซะอีก

“ถ้าผมไม่น่ากลัวก็เงยหน้าขึ้นมาสิครับ”

“...”เส้นผมสีน้ำตาลส่ายไปมาแทนคำปฏิเสธที่พูดไม่ออก

“ก้มหน้าไปก็ซ่อนใบหน้าแดงๆนั่นไม่ได้หรอกนะ”คำพูดต่อมาทำให้คนที่หน้าร้อนอยู่แล้วยิ่งร้อนเข้าไปใหญ่

นี่เขาเห็นว่าหน้าผมแดง...

อายจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

“...ขอโทษ”

“ขอโทษอีกแล้ว...ตั้งแต่เจอกับคุณพูดขอโทษผมมากี่รอบแล้วรู้ไหม?”เสียงทุ้มถามก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆราวกับจะช่วยให้ผมผ่อนคลายลง

“...ขอ...”

“ไม่เอาคำว่าขอโทษนะ”เสียงของราชาพูดแทรกก่อนที่ผมจะพูดจบ

“...”เมื่อไม่รู้จะพูดอะไรเลยได้แต่นั่งเงียบๆอยู่แบบนั้น

“เฮ่อ...สั่งมื้อเที่ยงทานกันเถอะเดี๋ยวไปทำงานต่อไม่ไหวนะ”อีกฝ่ายบอกพร้อมกับยื่นเมนูมาให้ตรงหน้าผมที่ก้มหน้าลงจนจมูกแทบจะติดคอ

มือเรียวหยิบเมนูมาดูด้วยร่างกายที่สั่นเล็กน้อย...หัวใจที่เต้นแรงกลับแรงขึ้นไปอีกเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะได้ทานอาหารเที่ยงร่วมกับราชา หน้าของเมนูถูกเปิดผ่านไปเรื่อยๆพร้อมกับหน้าของผมที่ค่อยๆเงยตามเพราะถ้าไม่เงยก็มองเมนูไม่เห็น

“รับอะไรดีคะ?”เสียงของพนักงานสาวเดินเข้ามารับเมนูด้วยรอยยิ้ม

“ขอก๋วยเตี๋ยวเขียวหวานไก่กับผักโขมอบชีส...เครื่องดื่มก็น้ำส้มปั่นครับ”ราชาหันไปบอกพนักงานโดยไม่มองเมนูเลยสักนิด...อาจเป็นขาประจำของร้านนี้ก็ได้

“ค่ะ...รับเป็นก๋วยเตี๋ยวเขียวหวานไก่กับผักโขมอบชีส...เครื่องดื่มเป็นน้ำส้มปั่นนะคะคุณราชา”พนักงานสาวทวนเมนูด้วยรอยยิ้มพรางก้มลงมาจนเสื้อคอกว้างนั่นเห็นหน้าอกรำไร

ราชากำลังถูกเชิญชวน?

“ครับ...แล้วคุณเอาอะไรล่ะ?”ราชาไม่สนใจหญิงสาวที่พยายามให้ท่าแต่กลับมองมาที่ผมแทน

“อ่อ...ข้าวผัดกุ้งกับน้ำแตงโมปั่นไม่หวานครับ”ผมหันไปบอกรายการที่ตนต้องการ

“รับเป็นข้าวผัดกุ้งกับน้ำแตงโมปั่นไม่หวานนะคะ...จะรับอย่างอื่นเพิ่มไหมคะคุณราชา?”น้ำเสียงห้วนๆที่ทวนรายการของผมบ่งบอกได้อย่างดีว่าเธอไม่เห็นผมอยู่ในสายตาเลยสักนิด

“ไม่ล่ะ”เมื่อราชาปฏิเสธเธอก็ต้องจำใจเดินกลับไปอย่างไม่พอใจนัก

ราชามักจะเป็นที่สนใจของทุกคนอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย...ด้วยการวางตัวที่แสนสุภาพและท่าทางที่เหมือนเจ้าชายในการ์ตูนก็ยิ่งส่งเสริมให้เขาน่าดึงดูดมากขึ้น

“คุณอายุเท่าไหร่เหรอ?...ผมว่าตัวเองน่าจะมากกว่านะ”ราชาถามทำลายความเงียบ

ใจจริงอยากจะบอกว่าเท่ากันแต่ก็ฉุกคิดได้ว่าถ้าทำแบบนั้นก็เหมือนผมรู้ข้อมูลของเขาอยู่ก่อนแล้วอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้

“...ปีนี้25ครับ”

“เท่ากันเลย”สีหน้าของราชาดูตกใจเล็กน้อยที่รู้อายุจริงของผม

“...ครับ”

“งั้นก็ไม่ต้องสุภาพกันขนาดนี้ก็ได้นะ”

“...อืม”

“คนที่ใส่ภาพถ่ายลงในกระเป๋าผมคือนายใช่ไหม?”คำถามตรงๆที่ถูกถามราวกับจะย้ำให้แน่ใจว่าคนที่ทำเป็นผมจริงๆไม่ใช่คนหน้าคล้าย

นี่อาจเป็นเวลาดีที่จะได้ทั้งอธิบายและขอโทษอย่างจริงจัง

“...ครับเป็นผมเอง...ต้องขอโทษด้วยที่ทำแบบนั้นคือ...ตอนแรกก็แค่เห็นเครียดๆก็เลยอยากให้กำลังใจเท่านั้น...ขอโทษจริงๆครับ”ผมอธิบายพร้อมกับก้มหัวขอโทษ

“...”

“...”ยิ่งเห็นอีกฝ่ายไม่พูดอะไรกลับมาก็ยิ่งทำให้ผมไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นไปมอง

ราชาต้องโกรธอยู่แน่ๆ

“ผมมีสิ่งที่อยากรู้...ไม่ต้องเงยหน้าก็ได้แต่ช่วยตอบมาตามตรงได้ไหม?”

“...อืม”

“ทำไมถึงต้องทำขนาดนี้ด้วย?”คำตอบของคำถามนั่นชัดเจนจนแทบไม่ต้องคิด

ทำไมต้องทำ?

เหตุผลง่ายๆ

ก็เพราะชอบราชาไงล่ะ!

คำตอบง่ายๆที่ไม่กล้าพูด...

ทั้งที่ไม่กล้าพูดแต่ก็ไม่อยากโกหกอีกฝ่ายด้วย

ตลอดเวลาที่เรียนด้วยกันมาเคยคิดตั้งหลายครั้งว่าอยากลองสักครั้งที่ได้สารภาพต่อหน้าอีกฝ่ายว่าชอบแต่ทุกครั้งที่จะเดินเข้าไปหารอบตัวของราชาก็เต็มไปด้วยเพื่อนฝูงจนไม่มีโอกาสให้ผมได้พูด

ความจริงอาจมีโอกาสหลายครั้งเพียงแต่ความกล้าที่มียังไม่มากพอที่ทำให้ผมออกไปสารภาพรักอีกฝ่าย

ความรู้สึกที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจมาตลอด11ปี

วันนี้อาจเป็นโอกาสแรกและโอกาสเดียวที่ผมจะได้บอกออกไป

เมื่อมีโอกาสแล้วผมจะโยนมันทิ้งไปงั้นเหรอ?

กล้าหน่อยสิวรานนท์!

พูดมันออกไปสิข้าวจ้าว!!

“...ผมชอบราชา”เสียงนุ่มบอกพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปสบหน้ากับคนตรงหน้าตรงๆ ดวงตาสีเขียวปนเทาสั่นระริกจ้องมองผ่านเลนส์แว่นไปยังอีกฝ่ายเพื่อบอกว่าสิ่งที่พูดคือความจริง

เพียงแค่พูดออกไปความอัดอั้นที่มีก็เหมือนจะหายไปจนกลายเป็นความโล่งใจที่ได้บอกความรู้สึกตัวเองออกไปสักที...ต่อจากนี้ถึงจะได้คำตอบยังไงก็จะยอมรับมันโดยดี

ขอแค่อย่าพูดว่ารังเกียจ...นอกนั้นจะเป็นคำไหนก็พร้อมจะรับมัน

“ขอบคุณที่ชอบผม...แต่ผมไม่ได้ชอบผู้ชายเพราะงั้นคงเป็นแฟนกันไม่ได้...”

“ครับ”เรื่องนั้นผมรู้ดีตั้งแต่แรกแล้ว

“แต่เราเป็นเพื่อนกันได้...มาเป็นเพื่อนกันแทนไหม?”คำพูดของราชาทำให้คนที่กำลังคิดหลายๆอย่างในหัวจ้องกลับไปอย่างไม่เข้าใจ

ผมบอกว่าชอบเขา...ถ้าเป็นปกติคงโดยว่าแล้วบอกให้อยู่ห่างๆซะไม่ใช่มาถามว่าเป็นเพื่อนกันไหมแบบนี้

“...ได้เหรอ?”ผมถามกลับอย่างไม่แน่ใจ

“แน่นอน”อีกฝ่ายตอบก่อนจะคลียิ้มที่ทำให้หัวใจเต้นแรงออกมา

“ทั้งที่ผม...ชอบราชาเหรอ?”

“การที่มีคนชอบดีกว่าที่มีคนเกลียดอยู่แล้ว...เราต้องทำงานด้วยกันอีกเพราะงั้นมาสนิทกันไว้ดีกว่าเนอะ”

“ขอบคุณ...ขอบคุณที่ไม่เกลียดกัน”ผมบอกออกไปก่อนจะส่งยิ้มกว้างด้วยความดีใจกลับไปให้

ขอบคุณจริงๆ

ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนขอแค่ได้เข้าใกล้อีกหน่อยก็มากพอแล้ว



รอยยิ้มแรกถูกส่งมาทำให้ธรณินทร์ถึงกับเบิกตากว้างขึ้น...ริมฝีปากบางสีชมพูคลียิ้มกว้างจนดวงตาสีแปลกนั่นเกือบปิด นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายตรงๆโดยไม่มีการก้มหน้าลงเหมือนอย่างทุกครั้ง

ไม่คิดเลยว่าโชคชะตาจะทำให้เจอกันอีกเร็วขนาดนี้

คำว่าขอบคุณที่ได้ยินทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายคงกังวลมากที่ผมเรียกให้มาเจอกันแบบนี้

ทั้งทีอยากขอบคุณที่ใส่ภาพถ่ายพวกนั้นมาให้แต่คุณวรานนท์กลับไม่ยอมฟังเอาแต่ขอโทษจนผมคิดว่าตัวเองน่ากลัวขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?

ผมไม่ปฏิเสธว่ารู้สึกดีกับคำว่าชอบที่ออกมาจากปากของคนตรงหน้าแต่ถึงจะรู้สึกดีแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะตกลงเป็นแฟนกันง่ายๆ แถมเท่าที่สังเกตคนตรงหน้าก็ไม่คิดว่าผมจะตกลงนั่นทำให้ไม่รู้สึกแย่นักที่ปฏิเสธไป...วรานนท์ ไม่สิ ข้าวจ้าว

ชื่อที่ทั้งน่ารักและน่ากินเลย

ถ้าเป็นคนอื่นเมื่อถูกผมปฏิเสธร้อยทั้งร้อยคือตื้อจนรู้สึกรำคาญแต่ที่ข้าวจ้าวทำมีเพียงแค่พูดขอบคุณพร้อมรอยยิ้มกว้างที่ดูจะโล่งใจเหมือนกับเขาพอใจสุดๆแล้วที่ได้เป็นเพื่อน

อาหารที่สั่งเข้ามาแทรกบทสนทนาทำให้พวกเราหยุดพูดคุยและลงมือจัดการมื้อเที่ยงของตัวเองเงียบๆ...ดวงตาสีเขียวปนเทาลอบมองผมผ่านทางเลนส์แว่นสายตา พอดวงตาของเราสบกับอีกฝ่ายก็เบิกตากว้างขึ้นก่อนจะก้มหน้าลงไปทันที...ใบหน้าแดงๆที่เห็นทำให้คนถูกมองยิ้มออกมาก่อนจะลงมือจัดการจานตัวเองต่ออย่างไม่รีบร้อน

คำว่าชอบใครก็พูดได้แต่จะหาว่าใครที่รู้สึกแบบนั้นจริงๆมันยาก...ในชีวิตผมก็ถูกสารภาพรักมานับไม่ถ้วนแต่ไม่เคยมีสักครั้งที่รู้สึกถึงคำว่าชอบได้มากเท่ากับคนที่ก้มหน้าอยู่ตอนนี้

แก้มแดงๆนั่นน่าหยิกชะมัด

“ผมขอเรียกว่าข้าวจ้าวเฉยๆได้ไหม?”เสียงทุ้มถามเพื่อทำลายความเงียบ

“...อืม”เสียงนุ่มตอบกลับมาพร้อมกับใบหน้าที่พยักขึ้นลง

“ข้าวจ้าว”ผมลองเรียกชื่อคนตรงหน้า

“...อืม”ปฏิกิริยาที่ได้รับทำให้ต้องเม้มปากตัวเองแน่นเพื่อไม่ใช้เผลอยิ้มหรือหลุดหัวเราะออกมา...ใบหน้าที่แดงระเรื่อแดงขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินผมเรียกชื่อ

แดงกว่าน้ำแตงโมที่อีกฝ่ายสั่งซะอีก

“เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ”

“อืม...เพื่อนกัน”

เมื่อไม่รู้จะพูดอะไรพวกเราก็ได้แต่นั่งจัดการมื้อเที่ยงของตนเองจนหมดก่อนจะเรียกคนมาเก็บมาเงินที่โต๊ะ...ทุกครั้งที่ผมมาพนักงานหญิงมักจะแย่งกันมาบริการที่โต๊ะเสมอ ถึงจะรู้สึกดีที่ได้รับการใส่ใจแต่บางครั้งก็มากไปอย่างการที่ก้มลงมาจนเห็นอะไรต่ออะไรนั่น

ผมไม่ได้ใสซื่อถึงขนาดที่มองไม่ออกว่านั่นคือการเชิญชวน

“ให้ผมเลี้ยงนะ”ผมรีบพูดขึ้นเมื่อเห็นคนตรงหน้าหยิบกระเป๋าหนังสีน้ำตาลขึ้นมา

“ไม่ต้องหรอก”อีกฝ่ายส่ายหัวปฏิเสธก่อนจะหยิบแบงค์สีแดงออกมาสองใบ

“คิดรวมเลยครับ”ผมหันไปบอกพนังงานสาวด้านข้างพร้อมกับยื่นธันบัตรสีม่วงไปให้

“รอเงินทอนสักครู่นะคะคุณราชา”เธอบอกเสียงหวานก่อนจะเดินกลับไป

“...เอาไปครับ”เสียงนุ่มบอกพร้อมกับยื่นแบงค์แดงมาให้สองใบด้วยใบหน้าเคืองๆ คิ้วที่โผล่พ้นกรอบแว่นขมวดแน่นบอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นพวกไม่ยอมใครเท่าไหร่

“ให้ผมเลี้ยงเถอะถือเป็นการฉลองที่เราเป็นเพื่อนกัน”

“ถ้าอย่างนั้นผมต่างหากที่สมควรเลี้ยง”อีกฝ่ายพึมพำเสียงเบา

“ทำไมคิดงั้นล่ะ?”

“...ก็ราชายอมให้ผมเป็นเพื่อน”คำตอบเบาๆดังขึ้นพร้อมใบหน้าสีขาวเริ่มขึ้นสี

“ก็ได้...แต่ข้าวจ้าวต้องยอมให้ผมไปส่ง”ได้ชื่อว่าเป็นราชาก็ไม่ยอมใครง่ายๆเหมือนกันถ้าไม่ยอมให้เลี้ยงข้าวก็ต้องยอมให้ไปส่ง

“ผมกลับเองได้”

“งั้นผมเลี้ยงข้าว”

“...คุณมันคนเจ้าเล่ห์”คำบ่นเบาๆไม่ได้ทำให้ผู้ชนะอย่างราชารู้สึกแย่เลยสักนิด



พอเงินทอนมาถึงธรณินทร์ก็เดินนำข้าวจ้าวไปยังที่จอดที่อยู่ด้านในตึก...ที่จอดรถพิเศษสำหรับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ใช้งาน รถสีดำเงาถูกปลดล๊อคก่อนเข้ามานั่งด้านคนขับ...ดวงตาคมสีน้ำตาลมองไปยังด้านข้างที่มีชายหนุ่มรุ่นเดียวกันที่ค่อยๆเปิดประตูและก้าวเข้ามานั่งด้านในอย่างอ้อยอิ่ง

ไม่นานรถสีดำเงาก็เคลื่อนที่ไปตามถนนให้ที่ตอนนี้อัดแน่นไปด้วยรถมากมาย อาจเป็นเพราะเป็นช่วงก่อนกลับเข้าทำงานในตอนบ่ายเหล่าคนที่ไปกินข้าวข้างนอกเลยกลับเข้าบริษัทอย่างพร้อมเพียงกัน

“ข้าวจ้าวชอบถ่ายรูปเหรอ?”ผมหันไปถามทำลายความเงียบ

“อืม...ชอบมากเลย”

“ผมชอบรูปที่ข้าวจ้าวให้มาทุกใบเลย...เวลาเครียดๆมองดูแล้วเหมือนมีกำลังใจ”เสียงทุ้มพูดลอยๆระหว่างขับรถ

“...ดีใจที่ชอบ”คนด้านข้างนิ่งไปสักพักก่อนจะตอบกลับ

“อยากได้อีกสักใบจัง”คนขับรถพึมพำเสียงเบาพรางเหล่มองคนด้านข้างที่กำมือตัวแน่น ใบหน้าแดงๆนั่นทำให้ผมอยากถามออกไปเหลือเกินว่าผมพูดอะไรให้เขินงั้นเหรอ?

“.....ไหม?”

“ห๊ะ?...ว่าอะไรนะ?”ผมถามกลับเมื่อไม่ยินสิ่งที่อีกฝ่ายบอก

“...ผมถามว่า...ถ้าอยากได้...ผมให้เอาไหม?”น้ำเสียงสั่นๆดังขึ้นอีกครั้ง

“เอาสิ”ตอบแบบไม่ต้องคิดเลย

“เลี้ยวขวาตรงแยกหน้านะ”

ผ่านไปไม่นานรถหรูคันสีดำเงาก็จอดอยู่หน้าร้านรับถ่ายรูปและวาดภาพขนาดเล็กที่อยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะที่ผมไปประจำสักเท่าไหร่...ไม่แปลกที่ข้าวจ้าวจะไปบ่อยก็ที่ทำงานอยู่ใกล้ซะขนาดนี้นี่

ประตูฝั่งข้างคนขับถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของข้าวจ้าวที่ลงจากรถไปแต่ก่อนที่ประตูจะปิดข้าวจ้าวก็ยื่นอะไรบางอย่างมาให้ผม...แค่มองก็รู้แล้วว่าสิ่งที่อีกฝ่ายให้คือรูปถ่ายหนึ่งใบ

“ขอบคุณที่มาส่งนะราชา”ข้าวจ้าวบอกเมื่อผมรับรูปถ่ายนั่นมา รอยยิ้มบางๆจากคนที่พึ่งลงรถถูกส่งมาอีกครั้งก่อนที่ร่างของอีกฝ่ายจะหายเข้าไปในร้าน

เจ้าของรถหรูมองร่างโปร่งนั้นจนหายลับไปก่อนจะก้มดูรูปถ่ายที่พึ่งได้มาเมื่อครู่...ภาพที่ได้มาเป็นรูปของถนนตรงสี่แยกไฟแดงที่มีคนมามายกำลังเดินข้ามฝั่งพร้อมกับหมึกสีดำที่เขียนข้อความสั้นๆไว้เหมือนเคย

ขอความสั้นๆที่ทำให้ผมอารมณ์ดีจนทำงานที่ไม่คิดว่าจะเสร็จ เสร็จลงอย่างรวดเร็ว...น่าแปลกที่งานออกมาดีทั้งที่ตอนจัดการงานในหัวของรองประธานผู้นี้มีแค่ข้อความธรรมดาๆปรากฏขึ้นเท่านั้น...

‘ขอบคุณนะ...ราชา’

...........................................................................................
สวัสดีค่ะ

มาต่อแล้ว...ตอนนี้คงมีหลายคนที่ลุ้นไปพร้อมๆกับข้าวจ้าว

ข้าวจ้าวสารภาพรักแล้ววว...แต่พระเอกของเรานี่ซิดันปฏิเสธ

โธ่ๆๆ...แล้วจะมาเสียดายที่หลังนะราชาาา

เรื่องนี้แต่งแล้วอินมากโดยเฉพาะนิสัยของนายเอกเราที่ช่างเขินอายซะเหลือเกิน...แต่งไปแต่งมาก็ดันอายแทนซะงั้น?555+

หนูจะเขินอายอะไรนักล่ะข้าวจ้าววว

ทุกคนอย่าเพิ่งหงุดหงิดราชาที่ปฏิเสธข้าวจ้าวน้า...ทุกอย่างมันต้องค่อยเป็นค่อยไป

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละน้อยๆ

ตอนแรกคิดจะแต่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างสั้นประมาณ10-11ตอนก็จบแล้ว

แต่พอเห็นคนอ่านฟินขนาดนี้เลยกะจะเพิ่มเนื้อหาเข้ามาอีกนิด(อาจจะเพิ่มได้ไม่กี่ตอนเพราะวางเรื่องไว้แล้ว)

มีคนถามว่าทำไมเน้นดวงตาของข้าวจ้าวเยอะจัง...

ขอตอบเลยนะคะ...ส่วนหนึ่งไม่คิดจะเน้นสีตาแต่เน้นว่าข้าวจ้าวใส่แว่นและอีกส่วนคือตัวเราชอบผู้ชายตาสีเขียวค่ะนั่นอาจทำให้เผลอแต่งไปตามความชอบจะพยายามปรับปรุงนะคะ

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์ที่มากมายนะคะ

ช่วยติดตามความรักของทั้งคู่ต่อไปจนจบด้วยนะ

เจอกันตอนต่อไปวันอาทิตย์หน้าค่ะ

บ๊ายบาย :mew1:

ปล.คำผิดตอนนี้แก้ถึงตอนที่3ค่ะ...จะรีบแก้ให้ทันตอนปัจจุบันนะคะ
ขอบคุณที่ช่วยหาคำผิดค่ะ(ขนาดอ่านทวนแล้วก็ยังผิดซ้ำๆอีก กระซิกๆ;-;)

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด