❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก《แอบรัก⊰❤⊱พิเศษ {เที่ยวอิตาลี่}》17/01/60 P.50
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก《แอบรัก⊰❤⊱พิเศษ {เที่ยวอิตาลี่}》17/01/60 P.50  (อ่าน 562247 ครั้ง)

ออฟไลน์ snowtoy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอ้ยๆๆๆๆๆๆๆๆ ตอนนี้คนอ่านใกล้เหมือนคนบ้าเข้าไปทุกทีอ่านไปยิ้มไปไม่ยิ้มธรรมดายิ้มปริมากแอร๊ยยย เขิลมากอ่ะบอกเลยยยยย ราชาเริ่มโดนเสน่ห์ข้าวจ้าวเล่นงานล้าววววว :hao7: คราวนี้เขิลหนักคูณ2   :o8: :o8: ชอบบบบบบบบ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1052
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
น่ารักมุ้งมิ้ง  :-[

ออฟไลน์ meuy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ข้าวจ้าว น่าหิ้วกลับมาบ้านมาก พูดเลย

น่ารัก น่าแกล้ง ให้ร้องไห้แล้วปลอบทีหลัง 55

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ตะลึงหล่ะสิราชา เป็นไงหล่ะ
จ้าวไม่ได้มาเล่ยๆนะ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
เขียนดีขึ้นแล้ว

แต่ยังมีหลุดๆ บ้างเช่น

.....ซัตเตอร์ถูกกดหลายต่อหลายครั้งโดยไม่รู้เลยว่ามีผมเดินเข้ามาใกล้จากทางด้านหลัง...ภาพของข้าวจ้าวที่ยกกล้องขึ้นถ่ายเกมวอลเล่ย์บอลที่อยู่ถัดไปไม่ไกลนั่นทำให้ธรณินทร์ที่เดินตามมาเงียบๆก้าวเท้าจนมาหยุดอยู่บริเวณด้านหลังของคนที่กำลังมีสมาธิถ่ายภาพตรงหน้า..... <-- เหมือนเขียนโดยใช้ "ผม" เป็นคนเล่าเรื่อง  แต่จู่ๆ ก็มี 'ธรณินทร์' โผล่มาในประโยค

ผม ซึ่ง ก็คือ ธรณินทร์  คงไม่แทนตัวเองว่า ธรณินทร์ เวลาจะเล่าอะไรให้คนอื่นฟัง  เนอะ

อิอิ

ออฟไลน์ meuy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอราชาข้าวจ้าวววว  ><   

:katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ cinnsin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หลงรักเขาแล้วหล่ะสิราชา ฮิ้ววววววว ว ~

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
้ข้ามารอแหล่ะ

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
สงสารข้าวจ้าว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0

แอบรัก⊰❤⊱วันที่9



การทำโปรเจคโปรโมทเกาะผ่านไปได้ด้วยดีท่ามกลางเสียงชื่นชมอันล้นหลามจากท่านประธาน...รูปภาพที่ทางบริษัทเอาไปใช้ทำโปสเตอร์มีทั้งรูปภาพของพวกเราปะปนกันไปถึงรูปของอาวิจะได้รับการชื่นชมมากกว่าก็ตาม...สำหรับผมเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจสักนิดภาพของโรงแรมในมุมสูงที่ถ่ายจากยอดเขาใครเห็นก็ต้องบอกว่ามันสุดยอด

รูปภาพที่ผมส่งไปก็มีหลายภาพแต่ก็ไม่ใช่รูปใบที่ดีที่สุดในความคิดผม...รูปภาพที่ดีที่สุดนั้นผมไม่สามารถเอาไปให้ทางบริษัทเลือกได้จริงๆเพราะรูปเหล่านั้นล้วนเป็นภาพของรองประธานบริษัทภิพัฒธนมงคลทั้งสิ้น

รูปภาพน่าอายแบบนั้นจะให้เอาไปเสนอได้ยังไงกัน

วันเวลาได้ผ่านไปหลายอาทิตย์โดยที่ไม่มีโอกาสได้เจอกับราชาอีกเลย

ผมไม่ได้หวังว่าเขาจะมาหาหรอกแค่การได้อยู่ห้องข้างๆตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาก็เรียกว่ายิ่งกว่าความฝันแล้ว...ความจริงผมก็อยากจะไปที่สวนสาธารณะที่ราชาชอบไปแต่เพราะปล่อยสติให้กับการวาดภาพที่ค้างไว้เลยไม่ได้ไปสักที

“สวัสดีครับอาวิ...น้าแก้ว”ผมเดินเข้าไปในร้านพร้อมกับทักทายตามปกติเหมือนอย่างทุกวัน

“สวัสดีจ้าข้าว...วันนี้มีข้าวผัดกุ้งของโปรดด้วยนะ...มากินเร็ว”น้าแก้วยิ้มกว้างพร้อมกับลากผมไปยังห้องครัว ข้าวผัดกุ้งจานยักษ์ถูกวางลงตรงหน้าด้วยรอยยิ้มที่ยากจะปฏิเสธ...กว่าจะจัดการหมดก็เกือบท้องแตกเลยทีเดียว

“จ้าว”

“ครับอาวิ”เสียงเรียกทำให้คนที่กำลังจะขึ้นบันไดไปชั้นสองเพื่อวาดรูปที่ใกล้เสร็จแล้วชะงักแล้วหันไปหาช่างภาพอิสระที่ยืนยิ้มอยู่ไม่ไกล

“วันนี้มีนิทรรศการภาพวาดและภาพถ่ายใกล้ๆนี่ด้วย...ไปดูไหม?”

“จริงเหรอครับ?”ผมถามย้ำด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“อืม...แต่อาไปด้วยไม่ได้นะพอดีมีธุระ...เราไปเองได้ใช่ไหม?”

“ได้ครับ”เรื่องการเดินทางไม่ใช่ปัญหา

“นี่โบว์ชัวร์ที่ว่า...กลับมาเล่าให้ฟังด้วยล่ะ”

“...ผมไปได้เลยเหรอครับ?”ผมพึ่งมาทำงานยังไม่ถึงชั่วโมงเลยนะ

“ได้สิ...ขับรถระวังๆด้วยละ”

“ขอบคุณครับอาวิ”เมื่อได้รับอนุญาตผมก็รีบวิ่งออกจากร้านไปยังรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ด้านข้างทันที

การได้ไปดูนิทรรศการภาพถ่ายและภาพวาดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆแล้วยิ่งอยู่ใกล้แบบนี้ด้วยแล้วยิ่งไม่เคยเจอ...ผมเคยไปนิทรรศการภาพมาครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้วในต่างจังหวัดโดยมีอาวิพาไป

ครั้งนี้ผมจะได้ไปด้วยตัวเอง

ความจริงใกล้ๆนี่ก็มีหอศิลปะขนาดใหญ่เปิดอยู่...เห็นว่าเป็นศูนย์รวมของงานศิลปะจากทั่วโลก ผมอยากไปที่นั่นมากแต่ด้วยราคาบัตรที่ดูจะเกินเอื้อมไปสักหน่อยเลยได้แต่ค่อยๆเก็บเงินไว้ไปในวันข้างหน้า

กึก!

ร่างของผมชะงักเมื่อสต๊าทรถมอเตอร์ไซค์ไม่ติดทั้งที่เมื่อชั่วโมงก่อนยังขับมาจากห้องพักได้อยู่เลย

เกิดอะไรขึ้น?

พอลองสต๊าทเครื่องดูอีกหลายครั้งผลก็ยังเหมือนเดิมคือสต๊าทไม่ติด

เรื่องเครื่องยนต์ผมไม่มีความรู้เลยสักนิดเลยไม่รู้ว่าต้องดูหรือขยับอะไรตรงไหน...เมื่อไม่มีทางเลือกผมก็ต้องเดินกลับเข้าไปในร้านเพื่อเรียกให้อาวิมาช่วยหน่อยแต่ผลสุดท้ายอาวิก็ส่ายหน้าไปเป็นเชิงบอกว่าไม่ได้...

“เข้าอู่เลยจ้าว”อาวิลุกขึ้นพร้อมกับปัดมือที่มีฝุ่นเกาะอยู่

“...ครับ”ผมก็ได้แต่ตอบรับเสียงเอ่อย

ถ้าไม่มีรถแบบนี้ก็คงไม่ไปนิทรรศการไม่ได้แล้ว...

หรือจะนั่งรถไปดีนะ

“เอารถอาไปไหมจ้าว?”

“ไม่ครับ...ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้...รอซ่อมเสร็จค่อยไปดูก็ได้ครับ”ผมบอกออกไปทันที

งานมีจัดอีกหลายวันไม่จำเป็นต้องรีบเพื่อจะดูวันนี้หรอก

“งั้นก็ขึ้นไปวาดรูปต่อเถอะ”

“ครับ”ผมได้แต่ตอบรับเสียงเอ่อยก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นสองด้วยความเศร้าเล็กๆที่ไม่ได้ไปงานนิทรรศการอย่างที่ตั้งใจ



RACHA’s part


ทางด้านบริษัทภิพัฒธนมงคลก็มีชายหนุ่มดีกรีเด็กนอกพ่วงด้วยตำแหน่งรองประธานบริษัทธรณิรทร์ ภิพัฒธนมงคลหรือผมกำลังนั่งเปิดแฟ้มเอกสารเล่มเดิมไปมาราวสองชั่วโมงโดยที่เนื้อหาไม่ได้เข้าหัวเลยสักนิด...

ถ้าถามว่าอะไรที่อยู่ในหัวตอนนี้ก็ตอบได้เลยว่าเป็นภาพความทรงจำตอนไปเกาะทางตอนใต้และภาพพวกนั้นยังเจาะจงไปที่คนๆเดียวซะด้วย...

วรานนท์ เทพภักดี

คือชื่อของคนที่ชอบเข้ามาวนเวียนอยู่ในหัวของผมเสมอตั้งแต่กลับมาจากการทำงาน

การไม่ได้พูดคุยหรือติดต่อกับเพื่อนเป็นอาทิตย์ไม่เคยทำให้ผมกระวนกระวายแต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป...ตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาผมเฝ้าถามตัวเองว่าเป็นอะไรกันแน่ ทำไมถึงได้อยากเจอใบหน้าขาวๆที่แดงระเรื่อทุกครั้งที่ผมขยับเข้าใกล้

ความสับสนที่มีมากขึ้นทำให้งานที่ทำเริ่มช้าลงจนตอนนี้งานกองท่วมหัวแล้ว...ถ้าผมยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปต้องถูกพ่อเรียกขึ้นไปบ่นยาวอีกแน่นเลย

ทั้งที่รู้แต่ก็รวบรวมสมาธิไม่ได้จริงๆ

“หัวหน้าครับ”

“หื้อ?”เสียงเรียกทำให้สติที่ฟุ้งซ่านเริ่มกลับเข้าร่างก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นเลขาของตนยืนอยู่

“ท่านประธานเรียกให้พบครับ”

“...”คำพูดของเลขาทำให้คนฟังถึงกับขมวดคิ้ว

พึ่งนึกถึงก็ถูกเรียกไปเลยเหรอ?

“หัวหน้าครับ?”

“อ้อ...เข้าใจแล้วจะไปเดี๋ยวนี้”ผมบอกแล้วลุกขึ้นเดินไปยังห้องประธานที่อยู่ชั้นเกือบบนสุดของตึกแห่งนี้

ผมเคาะประตูเล็กน้อยก่อนจะเปิดเข้าไปโดยไม่ต้องให้คนในห้องอนุญาต...พอเดินเข้าไปก็เห็นท่านประธานของบริษัทหรือพ่อของตนนั่งรออยู่ที่โซฟาหรูตรงกลางห้อง ดวงตาคมของพ่อหันมามองก่อนจะส่งสายตาเป็นเชิงบอกให้นั่งซึ่งผมก็ไม่ขัดอะไร

“มีอะไรครับพ่อ?”ผมเปิดประเด็นทันที

“เห็นว่างานแกไม่ค่อยเดินนี่”คำถามของพ่อทำให้คนที่ได้ยินถอนหายใจออกมาก่อนจะตอบไปตามตรง...

“...พอดีมีเรื่องให้คิดนิดหน่อยครับ”

“แยกแยะเวลางานกับเวลาส่วนตัวไม่ได้งั้นสิ”

“เปล่าครับ...ผมแค่...”ถ้าเป็นปกติคงไม่มานั่งคิดมากอะไรแบบนี้หรอก

นี่เป็นครั้งแรกที่มีใบหน้าของใครคนหนึ่งลอยเข้ามาในหัวแบบนี้

“แกรู้ใช่ไหมราชา...ว่าต้องรับสืบทอดกิจการจากฉัน”

“ครับ”รู้มาตั้งแต่จำความได้แล้ว...หน้าที่ที่ต้องทำถูกกำหนดตั้งแต่เกิดโดยไม่สามารถขัดขืนได้เลย

“แต่ดูแกจะไม่ชอบการทำงานในบริษัทเท่าไหร่นี่”

“...พ่อ”

“ฉันมี2ทางเลือกให้...ทางแรกคือเป็นผู้สืบทอดบริษัทนี้...หรือไม่ก็ไปสืบทอดอีกกิจการหนึ่งของฉัน”ทางเลือกนั่นทำให้คนที่ฟังอยู่ถึงกับขมวดคิ้วเพราะรู้ว่าอีกกิจการหนึ่งที่ว่าคืออะไร

“พ่อก็รู้ว่าผมไม่มีความรู้เรื่องนั้นเท่าไหร่”ผมรีบบอกไป

“ลองดูก็ไม่เสียหายนี่...ถึงอยู่นี่ก็คงเอาแต่นั่งทำหน้าเบื่อโลก”

“แต่นั่นเป็นศูนย์ศิลปะที่พ่อทุ่มทุนไปไม่รู้กี่พันล้านเลยนะ”ผมรีบพูดขึ้น...จะให้คนที่ไม่มีความรู้ไปดูแลกิจการเกี่ยวกับหอศิลป์ขนาดใหญ่นั่นได้ยังไงกัน

ความรู้ก็ไม่มี...ถึงจะเรียนจบจากนอกแต่สาขาที่เรียนก็เป็นเรื่องของการบริหารทั้งนั้นไม่มีเรื่องศิลปะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยสักนิด เห็นว่าการดูรูปภาพต้องใช้การทำความเข้าใจอย่างมากถึงจะรู้สึกสิ่งที่ผู้วาดสื่อออกมาได้แล้วผมที่ไม่เคยเรียนจะไปทำหน้าที่คัดเลือกรูปภาพที่นำเข้ามาจัดแสดงได้ยังไง?

นอกจากจะไม่มีความรู้แล้วทักษะก็ยังไม่มีด้วย...ถึงพ่อจะเป็นหนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะและรูปถ่ายจนมีความรู้และทักษะในการเลือกว่าภาพไหนดีหรือไม่ดีเพราะการเลือกภาพไม่ใช่แค่ความสวยงามเท่านั้น สำหรับพ่อการดูหรือเลือกรูปภาพคงไม่ใช่เรื่องยากแต่สำหรับผมที่ไม่รู้เรื่องนั้นยากสุดๆ

“แกก็หาผู้ช่วยสักคนสิ”สิ่งที่พ่อพูดเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆที่เดินออกไปหน้าบริษัทก็จะหาคนแบบนั้นได้งั้นแหละ

“หาง่ายขนาดนั้นที่ไหนละพ่อ”

“อืม...จะให้ผู้ช่วยฉันก็ได้อยู่หรอกแต่แบบนั้นก็เหมือนแกไปนั่งตำแหน่งเจ้าของเล่นๆน่ะสิ...อ้อ...ฉันมีคนที่แนะนำล่ะสนใจไหม?”

“...คนแนะนำ?”ใบหน้าตอนถามนั้นมีรอยยิ้มที่ทำให้คนมองถึงกับขมวดคิ้ว...ตั้งแต่จำความได้มีไม่กี่ครั้งที่พ่อจะยิ้มออกมาแบบนี้...

รอยยิ้มที่เหมือนกำลังสนใจคนคนนั้น

“ใช่...อายุคงพอๆกับแกนั่นแหละ”

“...”คำอธิบายนั่นยิ่งทำให้ราชาขมวดคิ้วมากขึ้น...อายุเท่าๆกันแต่มีความรู้เรื่องศิลปะถึงขนาดที่พ่อยังต้องแนะนำ?

ใครกัน?

“รู้จักวิสุธ แก้วจันทร์แล้วใช่ไหม?”

“ครับ...เขาเป็นเพื่อนของพ่อ...”และก็เป็นอาของข้าวจ้าวด้วย

“งั้นก็น่าจะรู้จักคนที่ฉันจะแนะนำนะ...เขาได้เป็นผู้ช่วยของวิสุธตอนทำโปรเจคครั้งที่แล้วด้วย”คำอธิบายนั่นทำให้ดวงตาคมสีน้ำตาลเงยหน้าขึ้นไปสบตาพ่อของตัวด้วยความไม่แน่ใจ

คนที่เป็นผู้ช่วยของอาวิ...

อายุเท่าๆกัน...

ไม่จริงน่า

อย่าบอกนะว่าเป็น...

“...วรานนท์ เทพภักดี”ชื่อนามสกุลของคนที่อยู่ในหัวมาตลอดหลายอาทิตย์ดังขึ้นเบาๆเหมือนไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองคิดจะถูกรึเปล่า

“ใช่...รู้จักกันเหรอ?”คำตอบนั่นเหมือนย้ำให้ผมมั่นใจว่าคนที่พ่อพูดเป็นคนคนเดียวกันกับที่คิดอยู่

“...ครับ...เขาเป็นเพื่อนผม”

“เพื่อน?...งั้นก็ดีเลยฉันอยากได้ภาพวาดที่เขากำลังวาดอยู่ถึงจะจองไว้แล้วก็ไม่แน่ใจว่าจะลืมรึเปล่าถ้าเป็นเพื่อนแกก็ช่วยบอกเขาหน่อยละกันว่าห้ามลืมที่สัญญาไว้”

“...ภาพวาด?...เขาวาดภาพด้วยเหรอครับ?...ผมเห็นแค่เขาชอบถ่ายรูปเท่านั้นเอง”ผมถามออกไปด้วยความอยากรู้

แปลว่าข้อมูลที่มีมันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งงั้นเหรอ?

ไม่ใช่แค่ถ่ายรูปแต่ยังวาดภาพด้วย

“ไหนว่าเป็นเพื่อนแล้วไม่รู้เรื่องนี้เหรอ?”พ่อดูจะเริ่มสงสัยว่าผมสนิทกับข้าวจ้าวจริงๆไหม

“...ผมพึ่งรู้จักเขาไม่นานเท่าไหร่”นี่เป็นข้อแก้ตัวเดียวที่นึกได้

“อ้อ...ฉันก็ไม่ได้รู้อะไรนักหรอกแต่วิเล่าให้ฟังว่าเด็กคนนั้นเก่งเรื่องวาดภาพกับถ่ายรูปมาก...อัจฉริยะแห่งวงการศิลปะพูดเองขนาดนั้นก็ตกใจอยู่แต่พอเห็นภาพวาดนั่นบอกได้เลยว่ามีพรสวรรค์”

พ่อถึงกับเอ่ยปากชมเองแบบนี้แปลว่าฝีมือข้าวจ้าวคงไม่ธรรมดาจริงๆ

อยากเห็นตอนอีกฝ่ายวาดภาพจังว่าจะทำหน้าแบบไหน

“...แล้วผมจะให้เขามาเป็นผู้ช่วยได้ยังไงล่ะ?”

“เรื่องนั้นต้องคิดเองสิ”

“เข้าใจแล้วครับ”ว่าแล้วเชียวว่าพ่อคงไม่ช่วยแน่

“คงไม่ลืมนะราชา...ถ้าแกบริหารไม่ดีฉันจะส่งแกกลับมาทำงานที่นี่และจะให้งานแกมากกว่าเดิมอีก!”

คำพูดสุดท้ายจากคุณพ่อผู้เป็นประธานของบริษัทดังก้องอยู่ในหัวตลอดจนเดินกลับมาถึงยังโต๊ะทำงานตัวเดิมอีกครั้ง...ธรณินทร์เปิดแฟ้มเอกสารที่อ่านยังไงก็ไม่เข้าหัวขึ้นก่อนจะตั้งสมาธิแล้วก้มลงอ่านอย่างตั้งใจโดยที่ในหัวกำลังคิดว่าจะขอให้ข้าวจ้าวมาช่วยงานได้ยังไง

การทำงานยังคงดำเนินต่อไปทั้งที่ในหัวนั้นแสนว่างเปล่า...ไม่นานความอดทนของผมก็เหมือนจะถึงจุดสิ้นสุด สองขาของรองประธานเดินตรงไปยังรถสีดำเงาคันหรูของตัวเองก่อนจะขับออกไปโดยมีจุดหมายอยู่ที่...

ร้านของอาวิที่มีชายหนุ่มที่ชอบเข้ามาป้วนเปี้ยนในหัวตนเวลาทำงานอยู่

ใช้เวลาไม่นานรถเก๋งสีดำเงาก็มาจอดอยู่หน้าร้านแกลลอรี่ที่มีป้ายชื่อเขียนว่าVI&K...ผมเปิดประตูร้านเข้ามาอย่างเกร็งๆเพราะไม่รู้ว่าจะทำหน้ายังไงเมื่อเจอกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอมาหลายอาทิตย์นี่ดี

“สวัสดีจ้า...มาทำอะไรเอ่ยพ่อรูปหล่อ?”เสียงหวานของหญิงสาววัยกลางคนดังขึ้นพร้อมเดินออกมาจากด้านหลัง

“เอ่อ...ผม...”จะบอกว่ามาขอเจอข้าวจ้าวหน่อยงั้นเหรอ?

แบบนั้นมันจะไม่ดูแปลกเกินไปใช่ไหม?

“อ้าว...ราชา...ไม่ได้เจอกันนานนะ”อาวิที่เดินมาสมทบเมื่อเห็นผมก็เดินเข้ามาทักทายอย่างเป็นมิตร

“สวัสดีครับอาวิ”

“รู้จักเหรอคุณ?”จากที่ฟังบทสนทนาผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นภรรยาของอาวินะ

“ลูกชายของตรีภพไง”

“จริงเหรอ?...หล่อสุดๆเลย...เรียกน้าว่าน้าแก้วก็ได้นะจะได้เหมือนที่หนูข้าวเรียก”

“หนูข้าว?”ข้าวที่ว่านี้หรือว่าจะเป็น...

“อ้อ...หมายถึงข้าวจ้าวน่ะ...เรารู้จักไหม?”

“ครับ...ผมเป็นเพื่อนเขาครับ”ว่าแล้วเชียวว่าต้องเป็นข้าวจ้าว

น้าแก้วเรียกซะนึกว่าเป็นผู้หญิงเลย

“เพื่อน?...ดีใจจังที่เขามีเพื่อนเห็นวันๆเอาแต่ถ่ายไม่ก็วาดภาพจนนึกว่าไม่มีเพื่อนซะแล้ว”น้าแก้วพูดด้วยรอยยิ้ม

“ครับ...”

“ถ้ามาหาจ้าวก็ขึ้นไปชั้น2ห้องสุดท้ายสิ”อาวิหันมาบอก

“ชั้น2?...เขาทำงานอยู่เหรอครับ?”ผมถามกลับ

ถ้ายุ่งอยู่จะได้มาใหม่วันหลัง...แค่มาโดยที่ไม่ได้บอกล่วงหน้าก็เกรงใจจะแย่แล้วแต่พอมาคิดอีกทีถึงจะอยากบอกก็บอกไม่ได้เพราะผมไม่มีเบอร์หรืออะไรที่ใช้ติดต่อเลยนี่นา

“จะว่าทำงานก็ไม่เชิงหรอก...กำลังวาดภาพอยู่น่ะ”

“วาดภาพ...”

อยากเห็นจัง

อยู่ๆในหัวก็เกิดความคิดนั้นขึ้น

“ภาพที่พ่อเธออยากได้ถึงขนาดขอจองก่อนไงล่ะ”

“ภาพนั้นเหรอครับ?”ผมรีบหันไปถามย้ำทันที

ถ้าเป็นภาพที่คุณพ่ออยากได้ขนาดนั้นก็ยิ่งอยากเห็นเข้าไปใหญ่

“ใช่...ขึ้นไปสิ”

“ขอบคุณครับอาวิ”

พอขอบคุณเสร็จผมก็เดินขึ้นไปยังชั้น2ตรงหน้าด้านในสุดที่มีประตูบานใสสำหรับผลักเข้าออก...ดวงตาคมสีน้ำตาลมองเข้าไปภายในห้องผ่านกระจกใสจนเจอเข้ากับแผ่นหลังของชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ตรงกลางกระดาษแผ่นขาวที่ถูกตั้งไว้ด้านหน้า ด้วยความที่มีมารยาทเลยเคาะกระจกตรงหน้าสองสามครั้งแต่คนที่นั่งอยู่กลับไม่มีปฏิกิริยาเลยสักนิดผมจึงตัดสินใจผลักประตูเข้าไปภายในช้าๆ

“...ขออนุญาตครับ”ผมกล่าวเบาๆพร้อมเดินตรงไปยังชายหนุ่มเพียงหนึ่งเดียวที่นั่งอยู่

เมื่อเดินเข้าไปใกล้ภาพวาดที่เห็นจากที่ไกลๆก็ชัดเจนขึ้นจนต้องเบิกตากว้างด้วยความตะลึงในสิ่งที่เห็นตรงหน้า...พู่กันที่จุ่มสีต่างเฉดค่อยๆไล่ไปตามกระดาษโดยไม่ขาดออกจากกัน การเล่นสีโดยใช้แค่การทับกันไปมาจนเกิดเป็นรูปร่างที่ไม่สามารถบอกได้ว่าคืออะไร...รู้แค่ว่าด้วยโทนสีที่ใช้ออกแนวสว่างทำให้ภาพตรงหน้าราวกับเปล่งประกายออกมาได้...

ภาพนี้เหรอที่พ่ออยากได้?

ผมไม่สงสัยเลยสักนิดที่พ่ออยากจะจองภาพนี้ไว้ก่อนเพราะมันช่างเป็นภาพที่ดึงดูดสายตาได้ดีเหลือเกินทั้งที่ผมไม่ใช่คนที่มีทักษะหรือความรู้เกี่ยวกับภาพยังสามารถเข้าใจภาพตรงหน้าได้แล้วประสาอะไรกับพ่อที่เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญกัน

ถึงภาพตรงหน้าจะดึงดูดสายตาแต่ก็ไม่เท่ากับใบหน้าด้านข้างของวรานนท์ เทพภักดีหรือข้าวจ้าวที่กำลังเหม่อมองไปยังกระดาษตรงหน้าโดยที่ในมือถือพู่กันและถาดสีอยู่...ดวงตาสีแปลกคู่นั้นมองลึกเข้าไปในภาพราวกับกลายเป็นส่วนหนึ่งของมันไป

ทั้งภาพทั้งเจ้าของช่างดึงดูดสายตาของผมได้ดีซะเหลือเกิน

“...ข้าวจ้าว”เสียงทุ้มเรียกคนที่วาดภาพอยู่เบาๆ

“...”

ดูเหมือนอีกฝ่ายกำลังมีสมาธิอยู่กับการวาดภาพสินะ

“งั้นผมขอนั่งข้างๆคงไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“...”คำถามที่ถามไปไม่ได้รับคำตอบเหมือนเคยแต่ก็ทำให้ผมเดินไปหยิบเก้าอี้ที่วางอยู่ไม่ไกลมานั่งอยู่ด้านหลังของข้าวจ้าวเพื่อจะได้ดูอีกฝ่ายวาดภาพอย่างใกล้ชิด


(มีต่อนะคะ)

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
(ต่อค่ะ)


เวลาผ่านไปสักพักให้ผมก็เกิดเบื่อขึ้นมาเลยหยิบโทรศัพท์ที่ตั้งปิดเสียงขึ้นมาดูและปรากฏว่ามีคนไลน์หาเกือบร้อยข้อความซึ่งที่ไลน์มาเป็นกลุ่มเพื่อนชาย10คนทีชอบมาเล่นบาสด้วยกันเสมอ ส่วนมากเนื้อหาในไลน์ก็จะเป็นพวกเรื่องไร้สาระไม่ก็นัดกันว่าวันนี้จะมาเล่นบาสไหมประมาณนั้น

จากที่ไล่อ่านดูเหมือนว่าวันนี้จะมีนัดรวมตัวครั้งใหญ่โดยมีอาร์ตที่พึ่งกับมาจากการทำภารกิจยาวถึงหลายอาทิตย์...ไม่ใช่แค่นัดแต่ดูเหมือนจะมีการท้าแข่งกันในไลน์โดยที่ใครแพ้ต้องเลี้ยงข้าว ผมก็ได้แต่นั่งส่ายหน้าไปมากับเนื้อหาในไลน์ก่อนจะนึกได้ว่าควรจะส่งอะไรไปบ้าง...

สิ่งแรกที่ผุดเข้ามาในหัวทำให้ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมเดินถอยหลังไปเล็กน้อยจนได้ระยะที่พอสมควร...กล้องมือถือถูกยกขึ้นก่อนจะถ่ายภาพของข้าวจ้าวที่กำลังนั่งหันหลังให้โดยมีภาพวาดขนาดกลางที่ยังวาดไม่เสร็จเป็นแบ็คกราว

รูปที่ว่าถูกส่งไปในไลน์โดยมีคนเข้ามาอ่านอย่างรวดเร็ว


ToNN:ใครวะ

เต้ยสุดหล่อ:นั่นสิ

ก๊อง ก่อง ก้อง:ผู้ชาย?

เพชร(อัญมนีล้ำค่า):ใช่สตอล์กเกอร์คนนั้นป่ะ?

ดูเหมือนจะมีเพรชคนเดียวที่รู้ว่าเป็นใคร

เต้ยสุดหล่อ:สตอล์กเกอร์?...ไม่จริงน่าทำไมมาอยู่ด้วยกันได้ล่ะ?

ToNN:แกแอบถ่ายเขาเหรอราชา?...อย่าบอกนะว่าพวกแกอยู่ด้วยกันน่ะ?

ก๊อง ก่อง ก้อง:รายงานสถานการณ์ด่วนเพื่อน

เพชร(อัญมนีล้ำค่า):อย่าเงียบสิราชา

ราชา:อืม...อยู่ด้วยกัน


พอตอบไปแบบไหนก็มีคำถามต่ออีกมากมายจนต้องอมยิ้มเพราะความอยากรู้ของเพื่อนๆโดยมีเฟียสกับโน้ตเข้ามาร่วมวงด้วย บทสนทนายังคงมีต่อโดยที่ผมไม่ได้บอกอะไรเพิ่มเติมแต่ยังอ่านไลน์ที่เพื่อนๆส่งมาอยู่จนถึงข้อความหนึ่งที่ทำให้ชะงัก...


ART:พามาหาพวกเราหน่อย


ข้อความจากอาร์ตทำให้ผมลังเลเล็กน้อยว่าจะยังไงดี...ไหนๆก็เป็นเพื่อนกันผมก็ควรจะแนะนำเพื่อนของตัวเองให้รู้จัก ถ้าจะทำแบบนั้นก็ไม่แปลกสินะ...เห็นน้าแก้วบอกข้าวจ้าวไม่ค่อยมีเพื่อนด้วยถ้าพาไปแนะนำอาจได้เพื่อนเพิ่มก็ได้


ราชา:ก็ได้...แต่ห้ามแกล้งเขานะ...ห้ามพูดเรื่องสตอล์กเกอร์ด้วย
               ตอนนี้เราคุยกันเข้าใจแล้ว

ก๊อง ก่อง ก้อง:โอ๊ะ...มีหวง เอ้ย ห่วงด้วย

เต้ยสุดหล่อ:เริ่มแปลกแล้วนะเพื่อน


ข้อความมากมายถูกส่งมาโดยที่ผมก็ทำแค่ไล่อ่านแต่ไม่ตอบเหมือนเดิม

“...อื้มม”เสียงนุ่มของคนที่นั่งอยู่หน้าภาพวาดดังขึ้นทำให้คนที่กำลังอ่านไลน์รีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วหันไปมองทางต้นเสียงที่มีร่างโปร่งของข้าวจ้าวลุกขึ้นพร้อมกับยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเพื่อคลายกล้ามเนื้อ

“...หิวน้ำจัง...อ๊ะ...เก้าอี้?”อีกฝ่ายพึมพำก่อนจะมองไปด้านข้างที่มีเก้าอี้ที่ผมยกไปวางอยู่ใกล้ๆ

ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนอยากให้ตัวเองตัวลีบแบนเพื่อจะได้วิ่งไปหลบอยู่ที่ไหนสักแห่งในห้องได้โดยไม่ถูกจับได้แต่เพราะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยทำได้แค่ยืนเฉยๆรอคนด้านหน้าหันหลังกลับจนดวงตาสีเขียวปนเทาคู่สวยสบเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลของผมพอดี

“...ราชา?”เมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ดวงตาใต้เลนส์แว่นก็เบิกกว้างขึ้นก่อนใบหน้าขาวนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อแล้วก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ

“สวัสดีข้าวจ้าว”ผมเอ่ยทักทายออกไปพร้อมส่งรอยยิ้มไปให้

“เอ่อ...สวัสดี...มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“ก็...สักพัก”

“แล้ว...เอ่อ...คือ...”

“...ผมผ่านมา...แล้วคิดว่าเราไม่ได้เจอกันนานแล้วเลยแวะมาหาน่ะ”ผมอยากจะตบมือให้ตัวเองกับการแถสดๆนี่เหลือเกิน...จะให้บอกว่าขับรถจากบริษัทเพื่อมาหาก็ไม่ได้อีก

“ขอบคุณ...สบายดีไหม?”

“อืม...สบายดี...”ถ้าไปนับเรื่องที่คุณชอบเข้ามาโผล่ในหัวผมนะ

“...”

“เราไปกินข้าวกันไหม?...ตอนนี้ก็เวลาเลิกงานพอดีผมนัดเพื่อนไว้ที่สวนสาธารณะน่ะ”เมื่ออีกฝ่ายเงียบผมเลยต้องเป็นคนเปิดการสนทนาเอง

“...ไม่เป็นไร...ผมไม่อยากรบกวนเวลาคุณกับเพื่อนๆ”ข้าวจ้าวตอบกลับมา

“คุณก็เพื่อนผมนะข้าวจ้าว”

“ก็ใช่แต่...ถ้าผมไปอาจทำให้ทุกคนหมดสนุกนะ”

“คิดมากน่า...ถ้าไม่ตกลงผมจะอุ้มลงไปด้วยกันเดี๋ยวนี้เลย”พอไม้อ่อนไม่ได้ก็ต้องไม้แข็งถึงคำพูดนั่นจะไม่สามารถทำจริงๆได้ก็ตาม ถึงข้าวจ้าวจะตัวเล็กกว่าผมแต่ก็ไม่ได้มากมายถึงขนาดจะอุ้มตัวลอยได้เหมือนผู้หญิง

ก็แค่ขู่เท่านั้น

“มะ...ไม่เอา...”แต่ดูเหมือนคำขู่จะใช้ได้...งั้นก็ขอขู่อีกนิดละกัน

“ถ้าไม่อยากให้อุ้มก็ตกลงสิ”ผมบอกต่อพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น

“...เอ่อ...ได้...ตกลง...ผมตกลงไปก็ได้!”เสียงนุ่มตะโกนขึ้นด้วยใบหน้าที่แดงก่ำเมื่อผมเข้าไปจับไหล่ทั้งของข้างของข้าวจ้าวไว้
“ก็แค่นี้...ผมจะไปรออยู่หน้าร้านนะ...เอารถผมไป”ผมไม่ยอมให้อีกฝ่ายขัดเลยรีบออกมาจากห้องทันทีที่พูดจบ

พอลงมาด้านล่างผมก็บอกลาทั้งอาวิและน้าแก้วก่อนจะสต๊าทรถรอข้าวจ้าวอยู่หน้าร้าน...ไม่นานคนที่รอก็เดินออกมาด้วยเสื้อผ้าชุดเดิมที่ต่างไปมีแค่ไม่มีผ้ากันเปื้อนเท่านั้น เมื่ออีกฝ่ายปิดประตูรถผมก็ขับออกไปทันทีโดยมีจุดหมายคือสวนสาธารณะที่อยู่ไม่ไกล

“วันนี้ไม่ได้ขับมอเตอร์ไซค์มาเหรอ?”ผมหันไปถามคนที่ก้มหน้ามองกล้องสีดำที่อยู่ในมือโดยไม่มีท่าทีว่าจะเปิดบทสนทนากันเลยสักนิด

เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมคุยผมเลยตัดสินใจที่จะเป็นคนเปิดบทสนทนาเอง

“...ขับมาแต่ตอนนี้เอาไปซ่อมอยู่”

“รถเสียกลางทางเหรอ?”ผมถามต่อ

“เปล่า...เสียตอนที่กำลังจะออกไปข้างนอกพอดี”

“ผมถามได้ไหมว่าจะไปไหน?”ดวงตาคมสีน้ำตาลเหล่มองไปยังคนข้างกายเพื่อดูสถานการณ์

“ไปนิทรรศการภาพใกล้ๆนี่น่ะ”

“นิทรรศการ?...คุณชอบดูพวกนี้ด้วยเหรอ?”

“ชอบสิ...รู้จักหอศิลป์ขนาดใหญ่ที่อยู่กลางตัวเมืองไหม?”คนด้านข้างหันมาถามบ้าง

“รู้จักสิ...”ก็ที่นั่นเป็นอีกกิจการของพ่อและยังเป็นกิจการที่ผมต้องเข้าไปดูแลด้วย

“ผมอยากไปที่นั่นมากเลย...แต่ค่าบัตรเข้ามันแพงมากตอนนี้กำลังเก็บอยู่...วันนี้อาวิบอกว่ามีนิทรรศการที่เข้าฟรีเลยอยากไปดู...น่าเสียดายที่รถเสียวันนี้”แววตาตอนที่พูดนั้นดูจะผิดหวังที่ไม่ได้ไปมาก

“ผมพาไปไหม?”ไม่รู้อะไรดลใจที่ทำให้เจ้าของรถหรูเอ่ยปากออกไปแบบนั้น

“ห๊ะ?...เอ่อ...ไม่เป็นไร...ราชานัดกับเพื่อนไว้นี่”

“งั้นวันอื่นล่ะ?”ยอมง่ายๆก็อย่าเรียกผมว่าราชาเลย

“ไม่เป็นไรจริงๆ”

“ผมอยากไปกับข้าวจ้าวนะ”

“...”คำพูดนั่นของผมทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆหน้าขึ้นสีอย่างรวดเร็ว

ใบหน้าแดงๆที่ไม่ได้เห็นมาซะนานเรียกร้อยยิ้มจากเจ้าของรถได้ตามคาด...รู้ทั้งรู้ว่าคำพูดแบบนั้นเป็นการให้ความหวังแต่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดมันออกไป

ที่อยากไปด้วยเป็นความจริงนะ

การจะบริหารศูนย์ศิลปะหรือหอศิลป์ได้จำเป็นต้องมีความรู้เฉพาะด้านผมเลยอยากจะขอให้ข้าวจ้าวมาช่วยผมในเรื่องนี้หน่อย การจะขอให้ช่วยจำเป็นต้องมีเวลาคุยซึ่งก็พอเหมาะกับที่อีกฝ่ายอยากไปดูนิทรรศการ...หลังจากดูงานเสร็จผมจะลองพูดกับข้าวจ้าวดูว่าจะช่วยผมได้ไหม

“ข้าวจ้าว...อย่าเงียบสิ”

“...นายเป็นแบบนี้กับทุกคนเหรอ?”เสียงนุ่มถามขึ้นเบาๆโดยยังก้มหน้าลงอยู่

“เป็นยังไง?”ผมถามกลับ

“...ก็...ชอบพูด...ให้ความหวังไง”

“กับข้าวจ้าวคนแรก”

คำพูดที่ตอบกลับไปทำให้ใบหน้าของคนฟังถึงกับกำมือตัวเองแน่นแถมยังไม่ใช่แค่มือแต่ริมฝีปากก็เม้มเข้าหากันแน่นด้วย...
ใบหน้าแดงๆนั่นเรียกร้อยยิ้มผมได้ตลอดสิน่า

“ไปด้วยกันเถอะข้าวจ้าว...ผมอยากไปคลายเครียดด้วย”ผมพูดต่อเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไปสักพัก

ไม่รู้ว่าที่นั่งเงียบนี่คือเขินหรืออายกันแน่

ดีไม่ดีอาจจะทั้งสองอย่างก็ได้

คนอะไรทำตัวน่ารักได้ตลอดเวลาแบบนี้

“...ขอเป็นวันศุกร์ได้ไหม?”นิ่งไปสักพักใบหน้าขาวก็หันมาถามผมที่กำลังขับรถอยู่

“ไม่มีปัญหา...งั้นบ่ายโมงเจอกันที่หน้าร้านคุณนะ”

“อืม”

บทสนทนาเราจบเพียงเท่านี้เพราะรถสีดำเงาได้มาถึงสวนสาธารณะที่เป็นสถานที่นัดเจอเพื่อนสนิทของผมแล้ว...ผมเดินนำข้าวจ้าวไปจนถึงโรงอาหารที่เป็นสถานที่นัดเจอเหมือนอย่างในทุกครั้ง

“เฮ้!...ทางนี้ราชา!!”เสียงตะโกนเรียกชื่อดังขึ้นพร้อมกับเจ้าของเสียงที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วกระโดดชูมือเพื่อบอกตำแหน่ง คนที่ตะโกนเรียกคือเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยมเพชรนั่นเอง

“เออ!”ผมตะโกนตอบรับก่อนจะเดินตรงไปทางนั้น

“ข้าวจ้าว...เพื่อนผมอาจจะแซวอะไรแรงไปก็อย่าถือสาเลยนะ”ก่อนจะเดินไปผมหันกลับไปบอกคนข้างหลังด้วยความกังวล ไม่รู้ว่าเพื่อนผมจะแซวอะไรบ้างแต่ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นผมจะจัดการเอง

“อืม...ไม่เป็นไร”ข้าวจ้าวส่งยิ้มบางๆมาให้นั่นทำให้ผมคลายความกังวลลงมาหน่อย

ผมเดินนำมายังโต๊ะที่ถูกนำมาต่อติดกันเพื่อให้เพื่อนชายกว่า10คนนั่งล้อมวงกันได้โดยไม่เบียดกันเท่าไหร่...ดูเหมือนพวกเพื่อนๆของผมจะสนใจข้าวจ้าวเป็นพิเศษเพราะพอคนที่เดินตามมาเข้ามาใกล้ทุกสายตาก็หันมาจ้องเป็นตาเดียว

“อย่าไปจ้องเขาแบบนั้นสิ”ผมปามเพื่อนที่เหลือในกลุ่มด้วยใบหน้าดุๆ

ข้าวจ้าวยิ่งเป็นตื่นคนง่ายๆอยู่

แล้วนั่นจะจ้องให้ทะลุเลยรึไง

ผมได้แต่จ้องไปยังเพื่อนแต่ละคนด้วยสายตาที่ไม่พอใจนัก...

ความรู้สึกเหมือนหวงนี่มัน...

“วิ๊ว!...มีปกป้องๆ”เสียงของเต้ยดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที

“ปกป้องอะไร...ก็พวกแกเล่นจ้องเขาซะพรุนแล้วเนี่ย”ผมรีบสวนกลับ

“มีหวงๆ”แฝดอีกคนพูดเสริมทันที

“พอก่อนน่า...ให้เพื่อนใหม่เราได้แนะนำตัวหน่อย”เฟียสพูดขัดคู่แฝดก่อนจะหันไปยิ้มให้ข้าวจ้าวอย่างเป็นมิตร

“สวัสดีครับ...ผมชื่อวรานนท์ เทพภักดี...ชื่อเล่นว่าข้าวจ้าว...ยินดีที่ได้รู้จักครับ”คำแนะนำตัวจากข้าวจ้าวดูจะเป็นทางการไปจนคนทั้งโต๊ะหลุดขำออกมาอย่างพร้อมเพรียง

“เลิกขำน่าเพื่อน”ผมหันไปเพื่อนทั้งที่ตัวเองก็หน้าแดงเพราะกลั้นขำไว้

“ฮะฮะฮะ...เพื่อนเราคนนี้มารยาทดีชะมัด...มานี่เลย...มานั่งข้างผมมา”ต้นลุกขึ้นยืนพร้อมกับเดินมาลากตัวข้าวจ้าวให้นั่งตรงกลางระหว่างต้นและเต้ย พอเห็นข้าวจ้าวจะมานั่งต้นที่นั่งอยู่เลยขยับเข้าไปให้เขาเข้าไปนั่งได้สบายมากขึ้น...

ดูท่าจะเข้ากับเพื่อนผมได้ดีกว่าที่คิดแฮะ

“ขอบคุณนะต้น”

“...”คำพูดเบาๆของข้าวจ้าวทำให้คนทั้งกลุ่มถึงกลับเงียบสนิทรวมถึงตัวผมเองด้วย

ดวงตาสีเขียวปนเทาของข้าวจ้าวเบิกกว้างเหมือนกำลังตกใจกับอะไรบางอย่าง...ไม่นานริมฝีปากปากนั่นก็เม้มเข้าหากันแน่นอย่างร้อนรน

“ทำไมถึงรู้ชื่อผมได้ล่ะ?”คำถามจากปากต้นเป็นสิ่งเดียวกับที่ผมอยากรู้อยู่

ทำไมข้าวจ้าวถึงได้รู้สึกต้นได้...ไม่สิ ทั้งต้นและเต้ยต่างเป็นฝาแฝดแปลว่าต้องรู้จักทั้งสองคนดีถึงจะสามารถแยกพวกเขาออกจากกันได้....

งั้นทำไมข้าวจ้าวถึงแยกได้ล่ะ?

........................................................................

สวัสดีค่ะ

มาอัพตอนต่อไปแล้ว

ขอแจ้งอะไรสักเล็กน้อยนะคะ...ในตอนที่8เราได้ทำการปรับการเขียนใหม่และเพิ่มเนื้อหาเข้าไปเพราะมีคอมเม้นต์มาบอกว่าการดำน้ำนั้นจำเป็นต้องมีใบอนุญาตด้วย เราไม่เคยดำเลยไม่มีความรู้เรื่องนี้...ดังนั้นจึงของเปลี่ยนแปลงในบางเนื้อหานะคะ...

ตอนที่8ได้อัพใหม่เรียบร้อยแล้วสามารถเข้าไปอ่านได้เลยค่ะ

กลับเข้ามาในตอนที่9กันดีกว่า...พระเอกของเราดูจะสับสนมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว

อีกไม่นานก็จะรู้ใจตัวเองแล้วค่ะ(เย้ๆ)

มารอลุ้นกันตอนหน้าว่าข้าวจ้าวจะทำยังไงกับสถานการณ์นี้ดี...เล่นหลุดปากชื่อเพื่อนออกมาทั้งที่ยังไปแนะนำ

ความลับแตกแน่(55)

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์และทุกๆกำลังใจนะคะ

ปล.มีเรื่องอยากถามหน่อย ตอนพิเศษของเรื่องนี้อยากอ่านเป็นตอนพิเศษแบบไหนกันบ้างคะ?

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้านะ

บ๊ายบาย :mew3:

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
เย้ๆๆๆ มาต่อแล้ววววว ขออ่านก่อนนะค้าา +1ค่า

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้องข้าวจะโป๊ะแตกก็ตอนนี้แหละน๊า

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
มาแล้ว ราชาขี้อ่อย
สงสัยความหลังวัยมัธยมจะตามมา

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
อ่านรวดเดียวเลยจ้าาาาาา น่ารักมากกกก :mew1:

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
เริ่มหลงเสน่ห์ข้าวเจ้าแล้วสิ หึ ๆ

ออฟไลน์ -Otto-

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
ข้าวจ้าวน่ารักก :hao3:

ออฟไลน์ LoveYoukissme

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ข้าวจ้าวขาจะน่ารักไปไหนคะ
ราชาก็ขี้อ่อยเหลือเกิน
อ่านไปยิ้มไปจนปวดแก้มไปหมดแล้ว

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
อยากให้ราชารู้เร็วๆ จัง ว่าข้าวจ้าวแอบเช้ามานานแล้ว ความแตกทีเถ๊อะะะ
ปล.นักเขียนค๊าาา นานๆ มาที แล้วก็มาน้อย กระซิกๆ มาแบบถี่ๆ ยาวๆ ได้ไหมค๊าาาา  :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ความจะแตกไหม

ออฟไลน์ Malila

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ราชาอ่อยมากกกก  55555

อยากได้ตอนพิเศษแบบ หนูข้าวขี้อ่อยกว่า 

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ความลับจะเปิดเผยมั้ยยย ว่าเคยอยู่ห้องเดียวกันมาก่อน กิกิ


ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
ราชาก็ขยันอ่อยจั้งงงงงง
หลุดเต็มๆ เลยเนอะจ้าว สู้ๆ นะ 5555555555

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
เอ็นดู หนูข้าวโดนรุม 555555555  :hao7:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ข้าวจ้าวเอาความลับนับสิบปีหนีไม่รอดแน่ๆ
ก็ดูเพื่อนๆกลุ่มราชาแต่ล่ะคนซิ กัดไม่ปล่อยหรอก
เอาใจช่วยข้าวจ้าวไม่ให้เขินหนักมากแล้วกันนะ

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ข้าวจ้าวหลุดอีกแล้วววว
ราชาก็ไม่รู้ตัวสักทีเนอะ
ว่าเริ่มชอบข้าวจ้าวแล้ว
กลัวจะมีคนมาจีบข้าวจ้าวจัง

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
ราชาแนะๆๆมีหงมีหวง55555

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
อ้าวๆๆๆๆๆ ข้าวจ้าวจะตอบว่าไงดีละเนี่ยยยยย

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
โอ้วๆๆๆๆๆๆ. ความแตกแน่เลยข้าวจ้าว :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด