[เรื่องสั้น] อากาศที่หายไป [ตอนเดียวจบ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] อากาศที่หายไป [ตอนเดียวจบ]  (อ่าน 2666 ครั้ง)

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
Share This Topic To FaceBook
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
เรื่องสั้น : อากาศที่หายไป


ครืด

ผมเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะที่ฟุบแล้วเหลือบมองโทรศัพท์ที่สั่นรัวๆ เพราะข้อความที่ถูกส่งมาไม่หยุด
 

แฟนตี๋ไม่ใช่แฟนต้า : เฮ้ย จืดมึงจะไปคืนสู่เหย้าป่ะ? พอดีโต๊ะกูว่างทีนึงพอดีว่ะ

แฟนตี๋ไม่ใช่แฟนต้า : รีบๆ ตอบหน่อย กูรู้ว่ามึงเล่นโทรศัพท์ตลอดเวลา ไอ้จืด

แฟนตี๋ไม่ใช่แฟนต้า : ออกจากกระท่อมมาให้คนเห็นหน้าบ้าง สัส

แฟนตี๋ไม่ใช่แฟนต้า : ถ้าไม่ไปก็บอกกูจะได้หาคนอื่นมาลง
 

อ่านจบผมก็ฟุบหน้าลงที่เดิม รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก
 

ตี๋เป็นเพื่อนร่วมห้องสมัยม. ปลายของผม เราอยู่ห้องเดียวกันก็จริงแต่คุยกันนับคำได้ ผมกับเขาไม่ควรใช้คำว่ารู้จักด้วยซ้ำใช้คำว่าจำหน้าได้ยังจะดีซะกว่าเพราะผมไม่สนิทกับใครสักคนในช่วงม. ปลาย

ผมอยู่คนเดียวมาตลอด ไม่ใช่ว่าเสพติดมันแต่ทักษะในการเข้าสังคมมันเข้าขั้นเลวร้าย มันก็เลยได้แค่นั้น ผมอยู่คนเดียวซะส่วนใหญ่ตลอดชีวิตม. ปลายและที่ตี๋มาชวนผมเข้าไปร่วมโต๊ะด้วยก็คงไม่พ้นว่ามีใครสักคนในกลุ่มตี๋ไม่ว่างเลยหาคนมาเสียบแทน
 

ผมไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกอะไร?
แต่ในอกมันกลับปวดหนึบ
 

ผมอ้าปากพยายามสูดหายใจลึกพยายามกลืนก้อนน้ำตาที่พรั่งพรูขึ้นมาทั้งดวงตาและในลำคอ
 

เคยมีคนบอกว่าอดีตนั้นเป็นเรื่องที่น่าจดจำและหอมหวาน ยิ่งความรักช่วงม. ปลายนี่ถือว่าเป็นรักแรกที่ไม่มีวันลืม เป็นความรักที่สดใหม่และคนหลายๆ คนก็ได้รู้จักความรักเป็นครั้งแรก
 

ผมยกมือขึ้นข้างหนึ่งมาปิดหน้า
มือของผมชุ่มไปด้วยน้ำตาที่ไม่ทีท่าว่าจะหยุด
 

สำหรับผมความรักครั้งแรกมันไม่ได้หอมหวานแต่มันขมปร่าจนลิ้นชา
ความฝาดเฝื่อนของมันทำให้ผมเรียนแทบไม่รู้เรื่อง หมกมุ่นอยู่กับมันตลอดเวลา
 

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตอบ
 

อากาศ พิวัฒณ์ : อือ เราไป
 

การทักมาของตี๋ทำให้ผมนึกถึงเรื่องเก่าๆ
คิดถึงวัยที่ตัวเองสวมเสื้อสีขาวเรียบร้อยตัดผมถูกระเบียบสวมแว่นกลมที่แทบจะกลืนหายไปในฝูงชนทันที
 

ผมหลุดสะอื้นเมื่อเห็นภาพบางอย่างในหัว
 

ผมอยากกลับไปที่นั่น
 
 
 


ผมสำรวจตัวเองในกระจกรถ ชุดนักเรียนสีขาวกางเกงน้ำเงินเรียบร้อยดี ผมปัดผมรองทรงที่ชี้เป็นหางเป็ดลงให้เรียบร้อยตามที่พี่สาวผมกำชับนักหนา ผมสูดหายใจครั้งหนึ่งแล้วถอดแว่นกลมตัวเองออกและแทนที่ด้วยคอนแท็กเลนส์สีน้ำตาลอ่อน
ผมกระพริบตาถี่ๆ จนเมื่อมันเข้าที่ก็ลงจากรถ

"..."

แปลกที่แค่เห็นบรรยากาศเก่าๆ รอบตัวผมก็รู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะร้องไห้ออกมา 

แต่ผมก็ไม่ได้ร้องเพราะรู้ดีว่ามันไม่เคยช่วยอะไร ผมเดินเข้างานเอื่อยๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เห็นเพื่อนร่วมรุ่นตัวเองเดินตัดไปหลายคนแต่ไม่มีสักคนที่ทักผมหรือจำผมได้

เมื่อก่อนมันอาจจะทำให้ผมรู้สึกแย่ แต่ตอนนี้มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไรเลย มันชินชาและว่างเปล่าราวกับภาชนะว่างๆ ที่ไม่เหลือความรู้สึกอยู่อีก

ผมเผลอหยุดเดินเมื่อเจอกับโต๊ะที่ผมชอบมานั่งสิงอยู่บ่อยๆ สมัยเรียน แน่นอนว่าผมนั่งคนเดียวกับหนังสือเกี่ยวกับการเขียนเว็ปไซต์ที่ผมหมกมุ่น

"อึก"

ผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องอยากร้องไห้ ผมไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าทำไมผมต้องเดินไปนั่งมันและมองรอยกรีดคัตเตอร์ที่ตอนนี้เป็นรอยจางๆ ไปแล้ว

'ชอบ'

ผมเผลอนั่งลูบมันเหม่อลอย ข้างๆ คำว่าชอบของผมมีปากกาเมจิกรอยคัตเตอร์อื่นๆ เขียนเพิ่มเติมด้วยคำไร้สาระอีกมากมาย
 
 


'ทำไมชอบมานั่งคนเดียวตรงนี้วะ'

'...'

ผมไม่กล้าตอบนั่งตัวสั่นเทาเมื่ออันธพาลอันดับหนึ่งของโรงเรียนที่ไม่รู้ว่าอยู่ในอารมณ์ไหนถึงเดินมาคุกคามผมถึงที่

'กูถามมึงก็ตอบดิวะ หรือมึงกล้ากวนตีนกู?' 

คำว่าอันธพาลไม่ได้มีไว้เล่นๆ อย่างที่ผมคิด ผมหลับตาปี๋เพราะคอเสื้อถูกกระชากจนตัวลอย

ทำไมต้องมายุ่งกับผมด้วยนะ.. ทั้งๆ ที่จะทำเหมือนไม่เห็นผมเหมือนคนอื่นๆ ก็ได้

'หน้ามึงแม่งเร้าตีนสัสๆ ติ๋มขนาดนี้เคยชักว่าวไหมวะ'

ผมไม่กล้าพูดไม่กล้าทำอะไรทั้งนั้น

'ถามก็ตอบดิวะ หรือมึงอยากโดนกูต่อยก่อน"

'..เคย'

ผมตอบกลับเสียงเบาหวิว เอาเข้าจริงเรื่องแบบนี้มันไม่จำเป็นต้องถามด้วยซ้ำเพราะทั้งผมและเขาก็อยู่ม.6 วัยเจริญพันธุ์กันหมดแล้ว

'หึ กูว่าละ ไอ้พวกนั้นแพ้พนันกู ฮ่าๆๆ'

แปลกที่เขาหัวเราะเสียงดังลั่นแล้วหันไปยิ้มให้กลุ่มเพื่อนที่นั่งอยู่โต๊ะไม่ไกลนัก

'แม่งเคยว่ะ!! กูบอกละ ติ๋มขนาดไหนมันก็ต้องเคยดิวะ เผลอๆ ทุกวันด้วยซ้ำ"

เขาปล่อยผมนั่งเหมือนเดิมและเดินจากไปโดยไม่ไยดี

ผมก้มมองเสื้อขาวตัวเองที่ยับยู่ยี่

ผมไม่ชอบการกลายเป็นตัวตลกในบทสนทนาสักนิด.. แต่ไม่รู้ว่าทำไมว่าพอเห็นเขายิ้มและคุยกับผม มันกลับทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาซะอย่างนั้น

ผมเหลือบมองคัตเตอร์ที่ผมเตรียมลงมาตัดกระดาษวิชาศิลปะและเผลอหยิบมันมาขีดโต๊ะไม้เป็นคำๆ นึงเมื่อผมเห็นเขาหัวเราะและยิ้มกว้าง

'ชอบ'
 


"น้องครับ ทางเข้างานไปทางไหนเหรอครับ?"

ผมกระพริบตาปริบเงยหน้าขึ้นมองศิษย์เก่าที่ผมพอจะจำหน้าได้ลางๆ ว่าเป็นรุ่นน้องผมด้วยซ้ำ ผมหันไปมองทางเข้างานและชี้ให้ดูโดยไม่พูดอะไร

กาลเวลาทำให้คนเปลี่ยนก็จริงแต่มันคงใช้ไม่ได้กับผม ทักษะการพูดคุยผมยังยอดแย่เหมือนเดิม

"เอ่อ.. ขอบคุณครับ" รุ่นน้องผมยิ้มแห้งๆ แล้วเดินเขางานไป 

ผมถอนหายใจเหนื่อยๆ 

การกลับมาที่นี่มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากกว่ามีความสุข ผมคิดถึงอดีตคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นถึงได้ตัดสินใจกลับมาแต่ก็ตามที่คาด

ผมยังชอบเขาเหมือนเดิม

"เฮ้ย มึงว่าไอ้จืดมันจะมาจริงป่ะวะ? กูลองชวนแม่งดูเล่นๆ แม่งบอกมาด้วยว่ะ ฮ่าๆ"

คำเรียกที่คุ้นเคยทำให้หันไปมองช้าๆ

เอาจริงๆ มันไม่มีใครชอบหรอกกับการโดนเรียกด้วยฉายาสักอย่างราวกับตัวตลก แต่ถ้าถามว่าผมกล้าเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองไหมก็คงไม่ แม้แต่การคงอยู่ของผมยังไม่มีใครคิดจะสนใจด้วยซ้ำ

ผมมองตี๋และกลุ่มแก๊งค์สมัยเรียนที่แต่งตัวด้วยชุดสบายๆ แต่หล่อเหลือร้าย ดูเหมือนว่าจะมีแค่ผมที่มาด้วยชุดนักเรียนสินะ   

"..."

ทั้งๆ ที่นัดผมไว้แท้ๆ ว่าให้แต่ธีมนักเรียนมา

แต่ก็นะ เรื่องพวกนี้มันทำร้ายผมไม่ได้อีกแล้ว

"กูว่ามันไม่มาหรอก ตอนเรียนแม่งกลัวพวกเรายังกับอะไร"

"ถ้าแม่งมาจริงก็ว่าแม่งคงแบบติ๋มๆ อีก"

ผมนั่งนิ่งมองพวกเขาเดินผ่านไป มีบางคนที่เห็นผมแต่ไม่ได้สนใจเพราะคงจะจำผมไม่ได้ รูปลักษณ์ภายนอกผมตอนนี้เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก ผมสูงขึ้นและทำผมเปิดหน้า

 
/สวัสดีรุ่นพี่ศิษย์เก่าทุกคนนะคะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่งานคืนสู้เหย้าประจำปี2560ค่า!!!/
 

ผมถอนหายใจรอบสองยอมลุกไปเข้างานแต่โดยดี อย่างน้อยผมก็มาแล้วก็ควรจะอยู่จนจบ ผมเดินไปลงทะเบียนเข้างานซึ่งมีน้องม.6 รุ่นปัจจุบันส่งยิ้มมาและถามอย่างกระตือรือร้น

"ยินดีต้อนรับเข้าสู่งานคืนสู่เหย้าค่ะพี่ พี่จองโต๊ะไหนเอาไว้คะ?"

ผมไม่ได้ตอบแต่เปิดโทรศัพท์โชว์บัตรที่ตี๋ถ่ายให้ผมดู

ผลคือน้องทำหน้าตกใจ

"พี่รุ่นเดียวกับพี่โต๊ะเมื่อกี้เหรอคะ! พี่หน้าโครตตตเด็กอ่ะ"

ผมยิ้มแห้งๆ ไม่พูดอะไรนอกจากพยักหน้ารับ

น้องดูเหมือนจะเริ่มรับรู้ถึงทักษะการพูดคุยอันต่ำต้อยของผมเลยเปลี่ยนเรื่องคุยเข้าสู่บทสนทนาหลัก "โต๊ะที่พี่นั่งเป็นโต๊ะ E11 นะคะ ตรงนั้นเลย"

ผมมองตามมือน้องเห็นกลุ่มตี๋กำลังนั่งแทะถั่วกับข้าวเกรียบกุ้งอยู่

"ขอบคุณครับ"

ผมพึมพำบอกน้องเสียงเบาและเข้างานไป

มีครูหลายคนที่ผมคุ้นหน้ากำลังทักทายเพื่อนรุ่นเดียวกับผมที่เอาลูกมาด้วย ใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุขกับบรรยากาศที่ได้เจอเพื่อนเก่าๆ บรรยากาศเก่าๆ ฟุ้งอยู่รอบตัวผม แต่ผมกลับไม่รู้สึกสักนิดว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งกับมัน ราวกับว่าผมเป็นสิ่งแปลกปลอมและไม่เคยข้องเกี่ยวกับมันมาก่อน

ผมเดินไปครึ่งทางเห็นพวกตี๋คุยกันเฮฮาดูมีความสุขกันมาก เด็กที่น่าจะเป็นลูกของโต๊ะข้างๆ หัวเราะร่าเมื่อถูกตี๋ยกขึ้นมาเล่นด้วย
ผมหยุดฝีเท้าแล้วหมุนตัวกลับออกไปนอกงาน

เข้าไปตอนนี้ผมก็คงทำให้งานกร่อย สู้ผมกลับไปเสพบรรยากาศเก่าๆ ที่ผมต้องการยังดีซะกว่า ไม่สิมันเป็นจุดประสงค์หลักที่ผมมาที่นี่ด้วยซ้ำ

เสียงดนตรีฟอล์คซองบนเวทีที่กำลังเล่นทำให้ผมรู้สึกดีนิดๆ เพราะมันเป็นเพลงที่ผมชอบพอดี อารมณ์ที่ด่ำดิ่งลงเริ่มกลับมาปกติ ผมลัดเลาะออกทางหน้างานแล้วเดินไปทั่วโรงเรียนที่มีคนอยู่ประปราย

หลายอย่างๆ ของโรงเรียนนี้เปลี่ยนไปมากทีเดียว มีทั้งตึกที่สร้างใหม่ ต้นไม้ใหญ่ที่ผมชอบไปนั่งเล่นก็ถูกโค่นทิ้งและแทนที่ด้วยสนามฟุตซอล

"..."

ผมหยุดยืนหน้าสนามบาสเก่าที่ตอนนี้ถูกทาสีใหม่เอี่ยมต่างจากเมื่อก่อนที่สีค่อนข้างจะหลุดล่อนสนามเละจนแทบเล่นไม่ได้แต่ก็มีกลุ่มๆ หนึ่งมายึดครองและเล่นเป็นประจำเพราะมันเป็นสนามเดียวที่โรงเรียนนี้มี

พระอาทิตย์ที่ตกดินไปแล้วทำให้บรรยากาศสนามบาสกลางแจ้งตอนนี้ค่อนข้างสลัว มีเพียงฝีเท้าดังเป็นจังหวะของผมที่ดังในบริเวณนี้เนื่องจากทุกคนไปกองกันที่งานหมดแล้ว ความเงียบและวังเวงอาจจะทำให้หลายๆ คนกลัวแต่มันไม่เคยทำให้ผมกลัวเพราะมันกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว

ผมเม้มปากแน่นเมื่อหยุดยืนหน้าแป้นบาส
 
 

'ถอยยย! กูมาแล้ว! เทพแชมป์มาแล้วเว้ย ฮ่าๆๆ'

เสียงทุ้มแหบห้าวตะโกนดังลั่นขณะที่ถือครองลูกบาสและใช้ตัวกระแทกทีมอีกฝ่ายออกก่อนที่ตัวเองจะชู้ตสามแต้มลงห่วงได้อย่างแม่นยำราวกับจับวาง

ฟุ่บ!

'แม่งเอ้ยยย ลงอีกแล้วเหรอวะ' 

'ตอนเด็กๆ แดกแป้นบาสเข้าไปรึไงวะ โยนแม่นชิบหาย!!'

ผมกลืนน้ำลายเอือกขณะที่หลบอยู่หลังเสาไกลๆ และแอบมองอีกฝ่าย

มันไกลมาก.. จนผมมองแทบไม่เห็นหน้าด้วยซ้ำแต่พอเห็นลูกบาสลงแป้นก็อดที่จะยิ้มดีใจด้วยไม่ได้ 

'พวกมึงกากกันเอง! ไปซื้อข้าวให้กูเดี๋ยวนี้! อ้อ ตังค์พวกมึงนะเพราะพวกมึงแพ้กู'

เขาหัวเราะท่าทางสะใจและหันไปยิ้มกว้างให้ผู้หญิงที่ยืนกรี๊ดอยู่รอบๆ อยู่ประปราย

'...'

รอยยิ้มดีใจบนใบหน้าผม มันหายไปตอนไหนผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ผมเดินหลบเข้าหลังเสาและกลับไปที่นั่งประจำของตัวเอง
ผมเหมาะกับที่ตรงนั้นมากที่สุดแล้ว
 
 

จวบจนถึงตอนนี้ผมก็ยังเชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิด

ผมเหมาะกับที่ตรงนั้นที่สุด

ที่ๆ ที่ไม่มีใครสนใจ มีแค่ผมกับหนังสือโง่ๆ ที่ผมหลงใหลและจมอยู่กับมัน
 

น้ำตาหยดนึงไหลออกจากดวงตา
ผมเช็ดมันออกอย่างไม่ใส่ใจ
 

มันเป็นเรื่องปกติที่ผมจะร้องไห้เพราะเรื่องของเขา
และที่ปกติมากกว่านั้นคือผมยอมรับในสถานภาพของตัวเองตอนนี้
ผมไม่เคยมีสิทธิ์มาตั้งแต่แรกแล้ว
 

ผมเดินหนีจากตรงนั้นเดินไปมุมอื่นและเงยหน้ามองพระจันทร์ รู้สึกแปลกตานิดๆ เพราะผมไม่เคยอยู่โรงเรียนจนถึงดึกสักครั้ง ทุกครั้งที่มีงานโรงเรียนผมจะไม่มาเพราะต่อให้มาผมมันก็ตัวไร้ประโยชน์คอยเกะกะลูกตาคนเขาอยู่ดี

น้ำตาอีกหยดที่กำลังจะไหลออกมาจึงย้อนกลับอย่างช่วยไม่ได้

ผมเบื่อตัวเองที่ไม่เคยลืมเรื่องของเขา

ไม่เคยแม้แต่เรื่องเดียว..
 
วันนี้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวงและท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้เมฆ

ผมเคยได้ยินเรื่องกระต่ายหมายจันทร์มาตั้งแต่เด็กและรู้สึกชอบมันมาตลอด 

"ฮึก"

ผมหลุดสะอื้นและน้ำตาอีกหลายหยดก็ไหลออกมา
 

'มึงเอามาให้กูทำไมวะ? ไอ้จืด'

คนเป็นอันธพาลถามเสียงแข็งสีหน้าหงุดหงิด

'...'

ผมพูดอะไรไม่ออกตัวสั่นเทาแต่หัวใจเต้นแรงจนหูอื้ออึงไปหมด

ในมือของเขามีภาพที่ผมวาด มันเป็นภาพกระต่ายสีขาวใส่แว่นแบบผมกับพระจันทร์ที่มีมงกุฏอยู่บนหัว

แน่นอนว่ากระต่ายอันต่ำต้อยตัวนั้นก็คือผมและพระจันทร์ก็คือเขา

เขาก้มมองภาพอีกรอบทำสีหน้าหงุดหงิดมากกว่าเดิมและฉีกมันเป็นชิ้นๆ

'เหี้ยแม่งไร้สาระว่ะ ถ้ามีใครฝากมึงมาให้กูอีกนะ บอกมันด้วยว่ากูไม่ชอบรูปอุบาทว์ๆ แบบนี้ โคตรทุเรศ'

'...อือ'

ผมซ่อนมือที่กำลังสั่นจนน่ากลัวของตัวเองไว้ด้านหลังแต่สิ่งที่ผมซ่อนแทบไม่ได้ก็คือความรู้สึกเศร้าจนอยากร้องไห้ออกมา

ความกล้าที่ผมรวบรวมมาเกือบเดือนถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์แบบ

กระดาษที่ผมบรรจงวาดและเก็บรักษามาตลอดอย่างดีกลายเป็นเศษซากกระดาษน่ารังเกียจและถูกเขาใช้เท้าเหยียบซ้ำจนเป็น
รอยรองเท้า..

'กระต่ายส้นตีนไร ไร้สาระชิบหาย'

เขาสบถหยาบคายสองสามคำก่อนจะกระแทกเท้าเดินจากไป
 


เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้ผมสะเทือนใจมากจนไม่คุยกับใครเป็นเดือน จากที่พูดน้อยอยู่แล้วผมกลายเป็นคนไม่พูดอะไร กลายเป็นอากาศเหมือนชื่อตัวเองจริงๆ

จะให้ผมพูดอะไรได้ ในเมื่อความเศร้าจุกอยู่ในอกอึดอัดไปหมดแทบจะตลอดเวลา

ผมมันบ้า.. ทั้งๆ ที่รู้ว่ายังไงมันก็เป็นไปไม่ได้แต่ก็ยังชอบเขา

แต่เขาเป็นคนแรกที่เข้ามาคุยกับผมและยิ้มเพราะผม.. ถึงจะเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องก็เถอะ มันก็ทำให้ผมรู้สึกดีใจมากจนกลับบ้านไปก็ยังคงยิ้มอยู่ 

"...!"

ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อหายเหม่อแล้วพบว่าตัวเองเดินมาถึงห้องน้ำชายที่ปิดมืดพอดี บรรยากาศตอนนี้มันดูน่าวังเวงก็จริงแต่มันกลับไม่ได้ทำให้ผมกลัว

ความรู้สึกที่ผมพยายามกดไว้มาตลอดตั้งแต่ตอนนั้นแตกออกเป็นเสี่ยง ทุกอย่างไหลบ่าออกมาเหมือนกับการปะทุของภูเขาไฟอันเกรี้ยวกราด 

ความเศร้า ความเจ็บปวด ความผิดหวัง พวกมันหลุดออกจากกรงที่ผมขังมันไว้และกระโจนออกมากัดกินผมอย่างตะกละตะกลาม

"ฮึก"

ผมกำหมัดแน่นหลุดสะอื้นเงยหน้าขึ้นพยายามไม่ร้องไห้แต่ท้ายที่สุดแล้วผมก็สะอื้นจนตัวโยนอยู่ดี

มันเป็นที่ๆ ที่ผมพยายามเลี่ยงมาตลอดแต่ก็เผลอเดินมาจนได้
 
 

ผัวะ!!!

หมัดหนักๆ กระทบเข้ากับใบหน้าเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยรอยช้ำไม่ยั้ง

'ไอ้จืด!! มึงใช่ไหมที่เป็นคนถ่ายคลิปกูกับน้องฝ้ายในห้องน้ำ!! ไอ้สัตว์เอ้ย!!'

ไม่รอคำตอบอะไรจากร่างเล็ก หมัดอีกหมัดก็ประเคนเข้าที่ใบหน้าอีกข้างอย่างแรงจนเลือดไหลออกมาจากจมูกช้าๆ

'อึก.. เราไม่ได้.. ทำ'

ผมพยายามพูดทั้งๆ ที่น้ำตาไหลอาบหน้า ยิ่งดวงตาที่บวมช้ำของผมเห็นใบหน้าที่เกรี้ยวกราดของเขายิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดจนอยากกรีดร้องออกมา

ผมไม่ไหวแล้ว..

'ไม่ได้ทำแล้วใครจะทำว่ะ!! ไอ้เอ๋อ มึงใช่ไหมที่เห็นไอ้จืดมันถ่ายคลิปกู'

'คะ.. ครับ! ใช่ ผมเห็นมันถ่ายคลิปพี่อ่ะ พี่ดูดิ ก็มีแต่ไอ้จืดป่ะ ที่ชอบนั่งอยู่แถวนี้ มันนั่นแหละคนถ่ายคลิปพี่แล้วเอาไปปล่อยลงเฟส'

ผมหลุดสะอื้นเพราะกดมันไม่ไหวแล้ว

'มีอะไรจะแก้ตัวไหม! ไอ้สัตว์จืด! แอบถ่ายคนอื่นมีอะไรกันแม่งโรคจิตว่ะ!'

เขาโยนผมลงพื้นแล้วใช้เท้าเตะผมต่อ

'..เรา ฮึก ไม่ได้ทำ'

ผมคู้ตัวกอดตัวเองสะอื้น

มันเจ็บไปหมดเลย.. ตัวผมชาจนขยับแทบไม่ได้ มีแต่กลิ่นคาวเลือดที่คลุ้งอยู่ในจมูกและปาก

'มึงเป็นเกย์รึไงวะ ขยะแขยงชิบหาย! บอกไว้ก่อนเลยนะ ว่ากูไม่ชอบผู้ชาย!!'

'ฮึก'

ผมกอดตัวเองแน่นไม่พูดอะไรอีก

มันไม่มีประโยชน์ที่ผมจะพูดอะไรเพราะเขาไม่คิดที่จะฟังมัน

'ไอ้จืด กูบอกเลยนะ ว่าถ้ามึงมีคราวหน้าอีก กูเอามึงตายแน่!!'

'...'

เมื่อเสียงฝีเท้าหนักๆ หลายคู่เดินจากไปจนหมดเหลือแค่ผมคนเดียว ผมก็หลับตาลงแล้วกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

ผมเจ็บจะตายอยู่แล้ว
 
 

เรื่องนี้ผมไม่ใช่คนผิด ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง รู้แค่ว่าหลังจากเรื่องนั้นเกิดขึ้นผมก็ไม่ยุ่งไม่สุงสิงกับใครอีกเลย ผมกลายเป็นใบ้ที่พูดเฉพาะเวลาที่จำเป็น ไอ้ตัวต้นเหตุนั้นเหมือนจะรู้สึกผิดพยายามเข้ามาตีสนิทกับผมแต่ผมก็ไม่สนใจ ทิ้งระยะห่างกับทุกคนแม้กระทั่งเขา

ผมพยายามไม่สนใจเขาแต่ก็ยังชอบนึกถึงเขาอยู่ดี

แต่จะให้กลับไปแอบมองเมื่อก่อนผมทำไม่ได้ บาดแผลที่เขาทิ้งไว้บนร่างผมมันมากเกินไป ดีที่ช่วงนั้นมีแค่ผมที่อยู่บ้านผมเลยไม่ต้องตอบคำถามใครให้รำคาญใจแค่ทนสายตาระหว่างทางกลับบ้านนิดหน่อยและทำแผลเองที่บ้าน

ผมทนอยู่กับความเจ็บปวดคนเดียว

มีหลายครั้งที่ผมเดินสวนทางกับเขาในโรงอาหาร เขาเห็นแผลบนหน้าผมแล้วยิ้มสะใจและพูดถากถางผม ส่วนผมปกติที่ใจเสาะอยู่แล้วผมเดินหนีเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

ผมไม่ได้ทำ ผมไม่เคยคิดจะทำเรื่องต่ำทรามพวกนี้ด้วยซ้ำ ต่อให้เขาจะคบกับผู้หญิงสักอีกกี่ร้อยคนผมก็ไม่ว่าหรอก ผมมีความสุขที่ได้แอบมองอยู่ห่างๆ แต่ก็นะ ทุกอย่างมันเละไปแล้วโดยที่ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมทนอยู่อย่างนั้นจนจบม.6 วันสุดท้ายที่เขาฉลองกันที่โรงเรียนผมก็ไม่มา

ผมไม่อยากเจอเขาแล้ว ผมอยากลืมแทบบ้าแต่ผมก็ทำไม่ได้ 

รักครั้งแรกของผมเจ็บปวด มันไม่หอมหวานเลยสักนิด จนผมคิดว่าถ้าผมไม่รักเขาตั้งแต่แรกก็คงจะดี

แต่เรื่องแปลกก็คือผมยังจำหน้าเขาได้แม่นยำ จำสิ่งที่เขาชอบงานอดิเรกนิสัย ผมจำได้ทุกอย่างทั้งๆ ที่ไม่อยากจำ ระยะเวลาตลอดเก้าปีมานี้ผมพยายามลืมเขาแต่ก็ทำไม่ได้ ผมเป็นพวกเข้าสังคมยากเลยสิงตัวอยู่แต่ในห้อง ทำงานฟรีแลนซ์โดยมีพี่สาวคอยรับงานให้มาตลอดตั้งแต่เรียนจบ รายได้ก็มากพอที่จะเลี้ยงผมกับครอบครัวโดยที่ผมไม่ต้องดิ้นรนออกจากบ้าน

"ฮึก"

ผมใช้หลังมือปาดน้ำตา

ทำไมความเจ็บปวดของผมมันยาวนานนักนะ เรื่องผ่านไปตั้งนานแล้วแต่ผมก็ยังความรู้สึกตอนนั้นได้ดี รสหมัด กลิ่นคาวคลุ้ง สายตาไม่เป็นมิตร ความน่าสมเพชของผม

แต่สุดท้ายผมก็ทำอะไรเพื่อตัวเองไม่ได้ ผมมันก็แค่ไอ้อากาศหรือไอ้จืดประจำรุ่น เด็กเนิร์ดๆ โลกส่วนตัวสูงไม่คุยกับใครและเอาแต่อ่านหนังสือเรื่องที่ตัวเองสนใจ

ชีวิตผมมันก็แค่นั้นในแต่ละวัน แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีใครมาทำลายความสงบสุขนั้นด้วย..

ผมใช้ชีวิตอยู่กับการตั้งคำถามนี้มานานแต่ก็ไม่เคยได้คำตอบสักครั้ง

ผมคงผิดเองล่ะมั้งที่เป็นไอ้จืด..
 

/เอาล่ะค่ะ! การแสดงชุดต่อไปนี่ถือเป็นการแสดงไฮไลต์ของงานเลยค่ะ! ขอเชิญพบการการแสดงวุ่นนักรักพี่เนียมค่า!!!/
 

"พอ..อากาศ มึงพอ"

ผมสูดหายใจลึกปลอบตัวเอง ผมโตแล้วผมเป็นคนใหม่แล้ว ผมควรเลิกร้องไห้เรื่องเขาให้ได้สักที 

ผมหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนบางที่พกติดตัวไว้ตลอดมาเช็ดหน้าตัวเองโดยเฉพาะรอบขอบดวงตาที่ร้อนผ่าวทำท่าจะร้องไห้ต่อแต่ผมก็หยุดยั้งมันได้ 

ผมเช็คตัวเองในกระจกตามเสา ปัดผมและจัดดึงเสื้อนักเรียนให้เรียบเนียนกริบจนพอใจถึงจะเดินเอื่อยๆ กลับไปนั่งที่โต๊ะ ต้องยอมรับว่าอีกสาเหตุที่ผมเดินกลับมาก็เรื่องหิวเนี่ยแหละ

การแสดงบนเวทีเรียกความสนใจจากคนดูได้พอสมควร พวกตี๋พากันหัวเราะดังลั่นกับการเต้นของน้องรุ่นปัจจุบันที่รั่วเอามากๆ 
แม้กระทั่งผมนั่งลงที่ว่างสุดท้ายก็ยังไม่มีใครรู้ตัวว่าผมมานั่งแล้ว

แต่ใช่ว่าเรื่องนี้มันจะไม่เคยเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นบ่อยจนผมชินชาและเบื่อที่จะรู้สึกอะไรแล้ว ผมหยิบข้าวเกรียบกุ้งที่วางบนโต๊ะมาแทะกินบ้างโดยไม่ลืมรินโค้กให้ตัวเอง

ผมนั่งพิงพนักเก้าอี้เหม่อมองเวที การแสดงของน้องน่ารักไร้ที่ติเลยทีเดียวจวบกระทั่งจบการแสดง ผมก็ปรบมือให้น้องตามมารยทที่พึงจะมี

และดูเหมือนจะมีคนเริ่มเห็นผมแล้ว

"เฮ้ย.."

ผมนั่งเล่นโทรศัพท์ไม่สนใจคนทั้งโต๊ะที่มองผมเหมือนไม่เชื่อสายตา

"ไอ้จืด? มึงเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยเหรอวะ" ตี๋เป็นคนแรกที่พูดอะไรออก 

"อือ"

ผมตอบแค่นั้นและไม่มากกว่านั้นแน่ๆ จุดประสงค์ที่มานั่งก็คือแค่มานั่งกินโต๊ะจีนที่จ่ายตังค์ไปแล้วเท่านั้น

"กูได้ข่าวว่ามึงได้รางวัลจากอเมริกา จริงเหรอวะ? เขาไม่ได้ประกาศผิดคนใช่ไหม"

ผมพยักหน้าตอบและเงยหน้าขึ้นมาหยิบข้าวเกรียบมาแทะอีกอัน

"ไอ้จืด แปลว่ามึงก็รวยแล้วดิ งั้นเลี้ยงเพื่อนหน่อยดิวะ ร้านเหล้าแถวนี้เป็นไง"

"..."

ผมไม่ตอบและไม่คิดจะตอบ ไอ้พวกเวรนี่มันสนใจผมตอนที่ผมมีประโยชน์กับพวกมันเท่านั้นและไอ้คนที่ชวนผมไปร้านเหล้ามันก็คนเดียวกับที่ทำให้ชีวิตรักของผมเละซะด้วย

แต่จะให้ผมมาหาความยุติธรรมกับมันตอนนี้มันก็ใช่เรื่อง ทุกอย่างมันผ่านมานานจนถูกกาลเวลากลืนกินไปจนหมด มีแค่คนที่เจ็บปวดกับเรื่องพวกนั้นเท่านั้นที่จะจำมันได้ขึ้นใจ

"ว่าไงวะ ไอ้จืด เลี้ยงไม่เลี้ยง รวยแล้วลืมเพื่อนนะ"

แปลกที่ผมเริ่มรู้สึกโกรธขึ้นมา ผมอยากชกมันคืนให้เละเหมือนผมวันนั้น ผมอยากทำให้มันรู้สึกแบบเดียวกับผม

"เป็นใบ้รึไงสัตว์ หรือโตแล้วมึงก็ยังไม่มีคนคบเหมือนเดิม"

เส้นด้ายเส้นสุดท้ายผมถูกกระตุกจนขาด ผมลุกพรวดถลึงตามองมันอย่างเดือดดาล เลือดในกายที่รอวันเดือดพล่านมาเกือบสิบปีร้อนระอุราวกับเตรียมพร้อมสำหรับผมที่จะกระโจนใส่ไอ้เวรที่ทำลายชีวิตผม

"มึงจะทำไม ไอ้สัตว์ มึงจะทำไม" 

มันลุกขึ้นตามผมแทบจะทันทีและทำหน้ายียวน ผมพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ปล่อยหมัดใส่หน้ามันเพราะเริ่มมีคนมองมาบ้างแล้ว ผมสงสารน้องที่จัดงานนี้ ถ้าผมก่อเรื่องน้องจะลำบาก

"เฮ้ยยยย หวัดดีพวก!!!"

เสียงตะโกนดังลั่นจากหน้างานเรียกให้ทุกคนในกลุ่มหันไปสนใจ ยิ่งพอเห็นว่าเป็นใครผมก็เบิกตากว้างและตัวสั่นเทาด้วยความตื่นตระหนก

'เขา' มา...

 
 
ในวันสุดท้ายของปีสำเร็จการศึกษานั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศชื่นมื่น น้องรหัสหรือรุ่นน้องต่างพากันเอาลูกโป่งจดหมายข้อความในใจมาให้พี่ที่จะจบ 

ซึ่งคนที่ได้เยอะที่สุดในปีนี้ก็เห็นจะเป็นใครไม่ได้นอกจากอันธพาลคนเดิมเพิ่มเติมคือหล่อและของเยอะมาก ดอกไม้ดอกกุหลาบเต็มมือ

ร่างเล็กที่หลบอยู่หลังต้นไม้สูดหายใจเรียกความมั่นใจตัวเองสองสามครั้งและเดินไปเผชิญหน้ากับอันธพาลร่างใหญ่ที่กำลังหงุดหงิดได้ที่กับหนามดอกกุหลาบที่ตำมือ

'มีอะไร?'

เขาถามเสียงขุ่น สีหน้าบอกบุญไม่รับว่าเห็นว่าเป็นใครที่เดินออกมา

คนร่างเล็กกว่าฉีกยิ้มให้แต่มันกลับเป็นรอยยิ้มที่เศร้าเกินทน

'เราชอบนาย'
 


"ไม่เจอกันนาน หน้าแก่กันขึ้นเยอะเลยนะ สาสส"

เขาหัวเราะฮ่าๆ เดินมาไล่ตบหลังเพื่อนอั่กๆ จนมาหยุดที่ผมที่ยืนนิ่งจ้องเขาตาไม่กระพริบ

"ใครวะ?"

เขาทำหน้างงมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็หล่อมากอยู่ดี ยิ่งอยู่ในชุดสูทเต็มยศที่เหมือนจะเพิ่งเลิกงานมาสดๆ ร้อนๆ ยิ่งทำให้เขาดูดีคล้ายนักธุรกิจชื่อดัง

"ไอ้จืดไง แชมป์" ตี๋ตอบแล้วยิ้มกว้างใส่เขา "กูก็จำแม่งไม่ได้เหมือนกันเนี่ย"

ผมยังคงยืนนิ่งหัวใจในอกเต้นรัว

ความรู้สึกคล้ายกับที่เจอเขาครั้งแรก

"เหรอวะ.. จำไม่ได้เลยว่ะ" เขาทำหน้ายุ่งนิดๆ แล้วยิ้มให้ผม "มึงเปลี่ยนไปเยอะเลยว่ะ จืด" ไม่ว่าเปล่ายื่นมือมาให้ผมจับมือ

หัวใจในอกผมเต้นรัวอื้ออึงหากแต่เมื่อผมกำลังจะจับ เขาก็ชักมือกลับแล้วยกมือขึ้นแกว่งไปมาเพื่อเรียกคน

"เกด ทางนี้!!"

ผมหันไปมองเห็นผู้หญิงกับเด็กสองคนที่ถูกฝ้ายจูงมือมาด้วย

"โห ลูกสองเลยว่ะ ขยันปั๊มนะมึง"

เขายิ้มเขินๆ "ก็นะ กูชอบเด็กว่ะ น่ารักดี"

"..."

ผมเดินหนีออกมาโดยไม่สนใจอะไรอีก

ขาที่ใช้ย่างก้าวหนักอึ้งกว่าทุกวัน

โดยเฉพาะใบหน้าของผมที่เลอะไปด้วยคราบน้ำตา


---------------------------------

 :z10:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เรื่องมันเศร้า มันหน่วง  :m8:

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
เธอไม่เคยสนใจไม่เคยเห็น ก็เป็นแค่เพียงอากาศ แค่ลมที่พัดไม่มีตัวตน  :mew4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
สงสารรรรร

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
โฮฮฮฮ จุกแทน   :z3:
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ แมว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านจบปุ้บร้อง เห่ยยยยเลยอ่ะ  :katai1: :hao5:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
อากาศจริงๆด้วย  :ling3:

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ฮือออออออ เศร้ามาก โอ้ยสงสารน้องงง มาให้กอดทีเถอะ

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
อยากจะดึงจืดมากอดแล้วปลอบว่าไม่เป็นไรนะ ฮือออ :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
สงสาร ; w ;

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ผ่านมาแล้วผ่านไป อย่าไปสนใจมัน เริ่มใหม่แบบสวย ๆ ดีกว่า

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
เริ่มต้นชีวิตใหม่ เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น มีค่าดีกว่า....เริ่มตั้งแต่เปลี่ยนชื่อเป็นอย่างแรก เศร้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด