• Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12  (อ่าน 190656 ครั้ง)

ออฟไลน์ Malila

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
พี่เรนน่าร้ากกกกกกก

ออฟไลน์ Youi_chin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 166
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12


คือมึง...กูไม่กล้าแอดไปหาว่ะ เขิน >/////<

kamin


say-hi ในทวิตเตอร์ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ




โชคครั้งที่ • 2.2 •



••• 100% •••



“เอาละนักศึกษาทุกคน คราวที่แล้วที่ผมให้แบ่งกลุ่มแล้วเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาประจำกลุ่ม ทุกกลุ่มได้อาจารย์กันหมดแล้วนะ จากนี้ก็ให้แต่ละกลุ่มแยกย้ายเข้าไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาตามห้องที่นัดกันได้เลยนะ ส่วนกลุ่มของผมก็อยู่ห้องนี้แหละ” อาจารย์ธีร์พูดหลังจากที่การแลคเชอร์จบลง


วันนี้เรามีเรียนวิชาหลักของคณะครับ วิชาที่มีโปรเจคใหญ่นั่นแหละ


หลังจากที่อาจารย์ธีร์พูดจบเพื่อนๆ ในชั้นปีก็ทยอยกันออกจากห้องสโลบนี้ไป เหลือเพียงพวกผมแล้วก็เพื่อนอีกห้าคน เพราะพวกเราทั้งหมดอยู่กลุ่มอาจารย์ที่ปรึกษาอาจารย์ธีร์นี่แหละ


พวกผมห้าคนแล้วก็เพื่อนอีกห้าคนสนิทกันนะครับ เวลาจับกลุ่มใหญ่ที่ไรก็รวมตัวกันแบบนี้ตลอด แต่เหมือนเราแบ่งเป็นสองกลุ่มย่อยอีกทีครับ เวลาไปไหนมาไหนผมก็จะไปกับพวกไอ้ไม้ ไอ้แม็ค ไอ้เป้แล้วก็ไอ้เกลียว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สนิทกับอีกห้าคนนั้นนะ พวกเราสนิทกันครับ กินเหล้าไหนก็เฮกันไปหมด


“อย่างนั้น… พวกสุรเดชมาคุยก่อนแล้วกัน พวกคามินรอไปก่อนนะ” อาจารย์ธีร์เรียก


ผมกับเพื่อนพยักหน้ารับแล้วนั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่โต๊ะแลคเชอร์ครับ คือเอาจริงเก้าอี้อย่างกับโรงหนังอะครับ โต๊ะก็พับเก็บไปไว้ข้างๆ ได้ พอเก็บโต๊ะไปแล้วนี่นอนกันสบายเลย


“ไอ้กายตกลงมึงแอดเพื่อนพี่เรนไปยังวะ” ไอ้เป้หันมาถามผม


“ระดับกาย คามิน ไม่มีพลาดครับ แล้วพี่เรนก็รับกูเป็นเพื่อนแล้วด้วยโว๊ย” ผมหันไปยักคิ้วให้


“กูแอดไปหาบ้างดีกว่า” ไอ้เกลียวพูด ผมที่นอนอยู่นี้เด้งหัวขึ้นทันทีอะครับ


“เออๆ กูด้วยดีกว่า” ไอ้ไม้พูดอย่างเห็นด้วย


“กูแอดไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว” คราวนี้ไอ้แม็ค


ทีนี้ละครับจากแค่หัวกระดกผมนี่กระดกทั้งตัว “ห้ามแอดโว๊ย! กูหวงของกู ห้ามพวกมึงแอดเลย”


“อ้าว มาห้ามพวกกูได้ไง กูก็อยากมีเฟสของว่าที่เพื่อนสะใภ้นะมึง” ไอ้เป้พูด


เพื่อนสะใภ้เหรอ… พูดจาดีนี่หว่า…


“อะๆ กูเห็นแก่ที่พวกมึงเป็นเพื่อนซี้กู กูยอมให้พวกมึงแอดเฟสพี่เรน(ว่าที่)สุดที่รักกูก็ได้”


พอผมพูดแบบนั้นพวกแม่งก็หันมารุมผมทันทีอะ อะไรวะก็แค่พูดความจริงเอง


“นี่ๆ เงียบๆ กันหน่อย” อาจารย์ธีร์หันมาดุพวกผม ให้พวกผมต้องร้องขอโทษอย่างพร้อมเพรียงกันแล้วหันมาส่งสายตาคาดโทษกันแทน


ผมเลิกสนใจพวกมันแล้วนอนส่องเฟสพี่เรนต่อ โอ๊ะ!! มีรูปพี่เรนด้วย แต่พี่เขาไม่ได้อัพเองหรอกครับ เพื่อนเขาแท็กมา พี่เรนโคตรน่ารักอะครับ


คนที่แท็กพี่เขามาดูเหมือนจะเป็นเพื่อนผู้หญิงที่ชื่อตินา… แล้วนั่นอะไรๆ อะไรครับ ทำไมต้องกอดคอพี่เรนด้วย แล้วกอดคออย่างเดียวไม่พอดึงแก้มพี่เรนด้วยอะ โอ๊ยยย ผมอิจฉาอะครับ


แก้มพี่เรนอย่างขาวแล้วมันต้องนิ่มมากแน่ๆ ผมอยากจะงับแก้มนั้นชะมัดเลย


          Tina Yaoi : หนุ่มน้อย~ สมบัติอันดีงามของกลุ่มอิเจ๊


พี่เรนนี่เป็นหนุ่มน้อยอย่างที่พี่ตินาพิมพ์จริงๆ นั่นแหละ ว่าแต่ชื่อเฟสพี่ตินาคืออะไร… ยา… ยาโอไอ ยาโออิ อะไรวะอ่านไม่ออก หรือพี่แกจะเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น นามสกุลญี่ปุ่นมากอะครับ


ระหว่างที่รอเวลาผมก็ส่องเฟสพี่เรนไปพี่ตินาไป หลังๆ ส่องแต่เฟสพี่ตินาครับเพราะรูปพี่เรนเยอะ เซฟมาได้หลายสิบรูปเลยครับระหว่างรอ เพราะพวกกลุ่มนั้นใช้เวลาคุยกับอาจารย์ไปเกือบสองชั่วโมง ก็แบบนี้ละครับคุยกันนาน ไม่ได้คุยเรื่องงานนะ คุยเรื่องเที่ยวกันอะครับ ฮ่าๆๆๆ


หลังจากที่พวกนั้นคุยกับอาจารย์เสร็จแล้วแทนที่พวกผมจะได้เข้าไปคุยต่อเลย ไม่ครับ! อาจารย์ธีร์บอกพักแปบ หิวน้ำแล้วมีการสั่งให้พวกผมไปซื้อกาแฟเย็นมาให้อีกด้วย ซึ่งกว่าพวกผมจะได้คุยก็ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง


“เอาใครก่อนดี”


“อ๊ายอาจารย์! พูดไรแบบนั้นเคอะ พวกเราเขินหมด”


พออาจารย์ธีร์พูดไอ้เป้ก็จัดเลยครับ ทั้งเสียงทั้งท่าทางกระแดะยิ่งกว่ากะเทยอีก คือพวกผมสนิทกับอาจารย์ธีร์ครับ ตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว อาจารย์เลยค่อนข้างเป็นกันเองกับพวกผม แต่เกรดนี่ไม่เป็นกันเองเลยอะครับ


“นายเป้ ศรัณย์ ดรอป…”


“โหยอาจารย์ ล้อเล่นครับ ล้อเล่น ไม่เอาไม่ทำหน้าแบบนั้นสิ”


แล้วหลังจากนั้นพวกผมก็เริ่มคุยงานกันครับ เริ่มที่ไอ้เป้นั่นแหละคนแรก ถัดมาก็เป็นไอ้แม็ค ไอ้เกลียวครับ


“คอนเซ็ปผมคือ...ความอยู่รอดครับอาจารย์” ไอ้ไม้พูด พวกผมนี้ตาโตด้วยความสนใจ อาจารย์ธีร์เองก็สนใจไม่น้อยครับ


“ไหน ลองอธิบายมาสิ” อาจารย์ธีร์พูด


แล้วไอ้ไม้ก็เริ่มเปิดกระเป๋าสะพายครับ ก่อนที่พวกผมทุกคนรวมไปถึงอาจารย์ธีร์จะช็อคตาตั้งเมื่อไอ้ไม้หยิบของในกระเป๋าออกมา


บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปครับ! ทั้งยี่ห้อมาม่า ไวไว ควิก มีหมดทั้งรสหมูสับ ต้มยำกุ้ง ต้มโค้ง แกงเขียวหวาน


แม่งขนมาหมดครับ ไอ้เชี่ย!!! นึกว่าจะมีสาระ ผมก็งงตั้งแต่เช้าแล้วว่าไอ้ไม้มันสะพายกระเป๋ามา ปกติมันมาแต่ตัวครับ สมุดมันใช้สมุดอ่อนๆ เรียนเสร็จม้วนใส่กระเป๋ากางเกงได้ ส่วนปากกามันพกแท่งเดียวเหน็บไว้กับกระเป๋าเสื้อ


“นี่ครับความอยู่รอด วันไหนไม่มีเงินกินข้าวจานละสามสิบสี่สิบบาทก็ยังมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองละสิบบาทให้ประทังชีวิตครับ!”


อาจารย์ธีร์ถึงกับโยนปากกาลงโต๊ะแล้วยกมือขึ้นกุมขมับตัวเอง ส่วนพวกผมนี่พอตั้งสติได้ก็ถึงกับหัวเราะลั่นด้วยความขบขัน ไอ้ห่าไม้ก็คิดได้นะ


“มันเรื่องจริงนะครับอาจารย์ธีร์” ไอ้ไม้พูดหน้าตาซื่อ


“โอเคๆ มันก็เป็นเรื่องจริงอย่างที่คุณพูด ถ้าคุณจะใช้คอนเซ็ปนี้จริงๆ ผมก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่คำว่าความอยู่รอดมันไม่ได้หมายถึงแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนะ ผมรู้ว่าชีวิตคุณอยู่รอดมาได้เพราะเจ้านี่…”


พอได้ยินอาจารย์ธีร์พูดแบบนั้นพวกผมก็หัวเราะทันทีเลยครับ แม้แต่ไอ้ไม้เองก็ยังหัวเราะเลย คือมันเรื่องจริงมาก


“ยังไงลองเอากลับไปคิดแล้วตีความเพิ่มดูนะ”


เอาจริงๆ งานนี้คอนเซ็ปที่มาคุยกับอาจารย์มันไม่ตายตัวหรอกครับ พวกผมสามารถเปลี่ยนคอนเซ็ปไปได้เรื่อยๆ แม้กระทั่งวันสุดท้ายก่อนส่ง ขอแค่มีงานส่งพอครับ เพราะบางครั้งความคิดแรงบันดาลใจมันก็มาแบบไม่ทันตั้งตัว


“เอาละคนสุดท้ายคอนเซ็นของคุณคืออะไร”


“비 (บิ) ครับอาจารย์” ผมตอบ


“บิ” อาจารย์ธีร์ทำหน้างงอย่างไม่แน่ใจว่าฟังถูกหรือเปล่า “มันคืออะไร”


“บิ เป็นภาษาเกาหลีครับแปลว่าฝน”


“คอนเซ็ปฝน แล้วทำไมถึงใช้เป็นภาษาเกาหลีทำไมไม่ใช่ภาษาอังกฤษว่า rain”


“ฝน เป็นคำง่ายๆ ที่ใครหลายคนตีความหมายไปถึงความเศร้า ความเหงาโดยไม่รู้ตัวครับอาจารย์ ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงชอบบอกว่าฝนตกแล้วเศร้า ฝนตกแล้วเหงา” ผมพูดออกไป ซึ่งอาจารย์ธีร์ก็พยักหน้ารับ ผมจึงพูดต่อ


“ผมต้องการจะสื่อว่า ‘ฝน’ ไม่ได้มีเพียงแค่ความเศร้า แต่มันมีอะไรที่มากกว่านั้นไม่ว่าจะเป็นความสุข ความสนุกสนาน ความอบอุ่น ความอ่อนโยน หรือว่าความเซ็กซี่ ผมจะใช้คนคนหนึ่งในการสื่อความหมายท่ามกลางสายฝนในแต่ละอารมณ์ครับ”


“ส่วนที่ว่าทำไมถึงไม่ใช่เรนที่แปลว่าฝน เพราะคำๆ นี้เป็นคำที่ทุกคนเข้าใจความหมายกันอยู่แล้วว่าหมายถึงฝน คนก็จะตีความหมายไปก่อนได้เห็นภาพ แต่ถ้าหากเป็นภาษาอื่นคนก็จะสนใจว่ามันแปลว่าอะไร มีความหมายยังไงครับ”


อาจารย์ธีร์ยกมือลูบคางอย่างที่ชอบทำเวลาที่กำลังคิดอะไรอยู่ “คุณบอกว่าจะใช้คนในการสื่อความหมายสินะ คุณมีแบบในใจหรือยังว่าเขาคือใคร”


ผมยิ้มทันทีกับคำถามนั้นของอาจารย์แบบที่เพื่อนๆ ผมก็ร้องแซว


“ไอ้หมอนี่มันมี ‘ฝน’ อยู่ในใจแล้วครับอาจารย์” ไอ้แม็คครับ ไอ้แม็ค


“อย่างนั้นเหรอ”


“ครับ ผมมี ‘ฝน’ อยู่ในใจแล้ว”


“แล้วคิดว่า ‘ฝนของคุณ’ จะยอมมาถ่ายโปรเจคนี้เหรอ แลดูคุณตั้งใจกับคอนเซ็ปนี้มากคิดไปถึงว่าจะสื่ออารมณ์อะไรออกมาบ้างแล้วขนาดนี้คงอยากจะทำมาก” อาจารย์ธีร์พูด


“ผมกำลังจะเริ่ม ‘จีบ’ ครับ ไม่ว่ายังไงผมจะเอา ‘ฝน’ มาถ่ายให้ได้ครับ เพราะคนนี้แหละที่ทำให้ผมคิดโปรเจคนี้ขึ้นมาได้”


“ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอให้คุณโชคดี ‘จีบฝนของคุณ’ ติดแล้วกันนะ ผมจะรอดูผลงานของคุณ เอาละวันนี้พอแค่นี้แหละ เจอกันอาทิตย์หน้า แต่ละคนก็ไปคิดอะไรมาเพิ่มเติมแล้วกันนะ”


“ขอบคุณคร้าบบบบ” พวกเราทุกคนยกมือไหว้ขอบคุณอาจารย์ธีร์ ก่อนที่พวกเรารวมไปถึงอาจารย์จะเดินออกจากห้องเรียนไป


วันนี้ไม่มีเรียนแล้วครับ บ่ายนี้ว่างซึ่งเป็นอะไรที่โคตรดี แต่ตอนนี้คงต้องไปหาอะไรลงท้องก่อน


“ไปกินข้าวที่ไหนดีวะ” ไอ้เป้ถามหลังจากที่พวกเราเดินออกมาจากตึกแล้ว


“ไปกินข้าวที่คณะศิลปกรรมศาสตร์กันไหม” ผมหันไปชวนพวกนั้นก่อนจะยิ้มกว้าง


“ทำไมจะเริ่มจีบฝนของมึงแล้วเหรอ” ไอ้เกลียวหันมาถาม


“ไปดูลาดเลาก่อนมึง ค่อยตัดสินใจว่าจะเริ่มจีบเลยดีไหม แต่ไม่ว่ายังไงกูก็ต้องจีบให้ติดแหละวะ เพราะทั้งงานทั้งชีวิตรักกูขึ้นอยู่กับเขาคนเดียวเลยนะโว้ย” ผมหันไปยักคิ้วให้แบบที่ไอ้พวกนั้นก็ทำท่าโก่งคอจะอาเจียนกับคำพูดของอะไร


อะไรวะ ก็คนเขาพูดความจริง


ผมได้แต่ส่งเสียงจิจ๊ะในลำคออย่างนึกหมั่นไส้ไอ้พวกเพื่อนตัวดีก่อนจะเดินนำไปรอรถบริการของมหา’ลัยเพื่อขึ้นไปลงที่ตึกคณะศิลปกรรมศาสตร์ เอาจริงๆ พวกผมก็ไม่ค่อยได้มาเท่าไหร่หรอกครับเพราะมันห่างจากตึกคณะของผมพอสมควร ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ ก็ไม่ค่อยได้มา ส่วนมากจะวนเวียนอยู่แต่ที่คณะของตัวเองเพราะคนที่คณะผมค่อนข้างเยอะแล้วก็มีหลายสาขาอาณาบริเวณคณะนิเทศศาสตร์จึงเพียบพร้อมไปด้วยของบริโภคอยู่แล้ว


แต่หลังจากนี้คงได้มาบ่อยๆ แล้วนะสถาปัตยกรรมศาสตร์


ดูเหมือนว่าโรงอาหารนี้เป็นโรงอาหารของคณะสินกำกับคณะสถาปัตย์ใช้ด้วยกัน คนในโรงอาหารจึงค่อนข้างเยอะ เสียงดังโหวกเหวกพอๆ กับที่โรงอาหารของคณะผมเลย พวกผมทั้งห้าคนเดินปะปนไปกับเด็กคณะนี้ไปอย่างเนียนๆ พร้อมกับมองหาที่นั่งว่างด้วยก่อนที่ไอ้เป้จะอาสาไปนั่งเฝ้าโต๊ะให้เมื่อเจอโต๊ะว่างพวกผมเลยเดินไปซื้อข้าวกัน ซื้อให้ไอ้เป้ด้วย


“มึงคิดว่ามึงจะเจอเหรอวะ ตอนกลางวันแบบนี้คนก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ” ไอ้แม็คถามในระหว่างที่ผมกำลังสอดส่ายสายตาไปมารอบๆ เพื่อมองหาสุดที่รัก


“ถ้าเป็นเนื้อคู่กันก็ต้องเจอดิวะ” ผมบอกตักข้าวเข้าปากแต่สายตาก็ยังเหลือบซ้ายแลขวาไปด้วย


แต่จนกระทั่งพวกผมกินข้าวกันเกือบจะเสร็จก็ยังไม่เห็นเขาเลยสักนิด ถ้าหากกินข้าวเสร็จแล้วจะนั่งแช่ต่อมันก็ดูไม่ดีใช่ไหมละครับ เพราะอย่างนั้นผมเลยไล่ให้ไอ้เกลียวไปซื้อของกินเล่นมาเพิ่มรวมไปถึงขนมหวานด้วยเพื่อที่จะได้ซื้อเวลาต่อ กลุ่มนักศึกษาที่นั่งอยู่ข้างๆ พวกผมก็ลุกกันไปแล้ว แต่พวกผมยังไม่ลุกครับ ต้องรอเจอพี่เรนก่อนให้ได้


“ไปนั่งโต๊ะนั้นกัน ว่างพอดี” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นก่อนที่ผมจะได้เห็นจากหางตาว่ามีกลุ่มใหม่มานั่งลงที่โต๊ะติดกับโต๊ะของผม แต่มันจะไม่อะไรเลยถ้าคนที่นั่งลองข้างผมคือ


“ฝน!!!”


คือพวกผมทุกคนหลุดออกมาหมดจนโต๊ะข้างๆ หันมามองอย่างงงๆ แม้แต่พี่เรนก็ยังหันมามอง ยังดีที่ทุกคนหลุดคำว่า ฝน ไม่ใช่ เรน คือพวกผมเรียกพี่เขาว่าฝนกันมาตลอดเพราะตอนแรกไม่รู้ชื่อจนกลายเป็นเรียกติดปากด้วยคำนี้


“ขอโทษทีครับ” ผมหันไปก้มหัวขอโทษพวกเขา


พวกพี่ๆ เขายิ้มตอบกลับมาอย่างไม่ถือสาอะไร ก่อนที่ผู้หญิงที่ชื่อตินา ผมจำได้... จะพาเพื่อนๆ ลุกขึ้นแต่พอพี่เรนจะลุกด้วยพี่ตินาเขาก็หันมากดไหล่พี่เรนนั่งลงตามเดิม


“นั่งอยู่นี่เลยจ๊ะ ไม่ต้องลุกเลย”


“ก็เราจะไปซื้อข้าว” พี่เรนทำปากยื่นใส่พี่ตินา


“เดี๋ยวพวกฉันซื้อมาให้ แกนั่งรออยู่ที่โต๊ะเข้าใจไหม พวกฉันหิวมาก อยากกินข้าวมากกว่าเดินตามหาเด็กหลงทางอย่างแก เข้าใจนะ นั่งนิ่งๆ อยู่เฉยๆ เป็นเด็กดีไม่ต้องลุกไปไหนแม้แต่ซื้อน้ำก็ด้วย”


พอพี่ตินาพูดแบบนั้นพี่เรนก็ทำแก้มป่องยกมือขึ้นดันแว่นกลมๆ ของตัวเองแต่ก็ยอมนั่งอยู่กับโต๊ะ คือผมไม่รู้ว่าพี่เขาเซ่อ เออ... หมายถึงซื่อ หรือประชดพี่ตินากันแน่ เพราะพอพวกพี่ๆ ที่โต๊ะลุกออกไปพี่เรนก็นั่งนิ่งเลยครับ คือนิ่งจริงๆ อะ


ผมได้แต่ยิ้มขำกับท่าทางนั้น พวกเพื่อนๆ ผมเองก็ขำแต่เราก็พยายามทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วก้มลงจัดการกับของกินเล่นที่ไปซื้อมาเพิ่ม


ผมเหลือบมองพี่เรนบ่อยๆ แต่ดูเหมือนพี่เขาจะไม่รู้ตัวเพราะเอาแต่นั่งนิ่งๆ ไม่ยอมขยับ ตั้งใจว่าจะลองหันไปทักแล้วชวนคุยชวนมาเป็นแบบให้ผม แต่ในจังหวะที่กำลังทำใจกล้าหน้าด้านหันไปได้ก็มีคนมาขัดเสียก่อน


“ไงเรน ทำไมนั่งนิ่งแบบนี้ละ” ใครไม่รู้ รู้แต่เป็นผู้ชายและบังอาจมากที่ยกมือมากดหัวพี่เรนของผมแบบนั้น


“ตินาบอกให้เรานั่งนิ่งๆ ห้ามขยับ ห้ามไปไหน” เจ้าตัวเขาพูดแบบนั้น


“ฮ่าๆๆ ไอ้มึนเอ๊ย ตอนบ่ายอย่าลืมที่นัดนะ”


นัด? นัดอะไรวะ พี่เรนมีนัดกับไอ้หล่อน้อยกว่าผมนี่ได้ยังไง เฮ้ย ผมไม่ยอมนะโว้ย


“รู้แล้ว ที่ห้องใช่ไหมเดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วจะตามไป” พี่เรนหันไปตอบมัน


ไม่ได้นะพี่เรน พี่จะไปเข้าห้องผู้ชายคนอื่นได้ยังไง ผมไม่ยอมนะโว้ยยยยยยย


“อื้อ เจอกันที่สตูฯ”


อ้าว... สรุปห้องที่ว่าคือห้องสตูฯ เหรอ ไอ้ผมก็นึกว่าห้องนอน หน้าแตกเลยกู....


“ไอ้กาย เหยื่อมึงนั่งอยู่ข้างๆ แบบนี้แล้วนะ มึงจะปล่อยไปง่ายๆ เหรอวะ” ไอ้แม็คที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมขยับมากระซิบ


“เอ่อๆ รู้แล้วน่า” ผมหันไปตอบมันก่อนจะหันกลับไปมองพี่เรนอีกรอบ


“เอ่อ... ขอโทษนะครับพี่”

.

.

“มีไรน้อง จะจีบเพื่อนพี่เหรอ”






************************************************
แฮ่! ขอโทษค่าที่หายไปนาน (นั่งคุกเข่าสำนึกผิด) ฟางเกเรไปหน่อยค่ะช่วงนี้เลยไม่ได้จับคอม ไม่สิ จับคอมแต่ไม่ได้เปิดนิยายขึ้นมาแต่งมาอัพเลย ขอโทษด้วยนะคะ แหะๆ มันเป็นช่วงอาการเกเรอะค่ะอยากจะทำอย่างอื่น อันนี้ยอมรับผิดค่ะ ยังไงจะพยายามลดอาการเกเรของตัวเองลงแล้วมาอัพให้บ่อยๆ นะคะ ขอโทษค่ะ

ฮาบรรดาเพื่อนๆ ของน้องกายแต่ละคน... เพลียจิตจริงๆ 5555555555 น้องกายก็น่ารักเนอะ พี่เรนก็น่ารัก น่ารักพอกันทั้งคู่เลยยยย ยังไงก็ฝากติดตามพี่น้อง(?)คู่นี้ด้วยนะคะ ^^

อย่าลืมคอมเมนต์ให้ฟางด้วยนะ แต่งมาให้อ่านแล้วก็อยากอ่านคอมเมนต์บ้าง คอมเมนต์กันด้วยน๊า พลีสสสสสสสสสส

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อร๊ายยยยยยย ชอบๆๆๆ. อีกายมีคู่แข่งซะละ อย่ายอมแพ้นะ กายสู้ๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ 98NooNid0831

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คนเขียนต้องเป็น อินเนอร์ แน่ๆเลย รู้ว่าพี่จินชอบหลงทางด้วย  :-[ น่ารักกกกก  เอาอีกนะเค้ารอเธออยู่นะ :3123:

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
เฮ้ยขาดตอนอ่ะ แสดงว่าตีน่าถามแน่ๆ 5555 สนุกมาก ชอบนิสัยพระเอกยุนะ ถึงแต่ก่อนจะเหลวแหลกนิดนึง พอให้อภัยได้

ออฟไลน์ shokung

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
แหมม ถามได้ตรงใจคนอ่านจริงๆ คุๆๆ

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12


ปากก็เคี้ยวหมุบหมับไม่หยุด แม่งเอ๊ยยย!!! น่ารักชิบหาย(ว่าที่)แฟนใครวะ
kamin

say-hi ในทวิตเตอร์ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะค




โชคครั้งที่ • 3 •



“น้องจะจีบเพื่อนพี่เหรอ”


ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรเลยครับ พี่ตินาก็เดินกลับมาพร้อมกับจานข้าวสองจาน


“เรน แกขยับมานั่งตรงนี้” พี่ตินาวางจานข้าวที่น่าจะเป็นของพี่เรนไว้ก่อนจะบอกให้พี่เรนขยับไป ซึ่งพี่เรนก็น่ารักเหลือเกินพยักหน้าหงึกหงักแล้วขยับตามที่เพื่อนบอก ส่วนที่นั่งของพี่เรนพี่ตินาก็นั่งลงแทน


“น้องสาวสวยนั่งลงข้างๆ แบบนี้ช่วยทำหน้าฟินนิดนึงดิไม่ใช่ทำหน้าเซ็ง เหมือนเพื่อนน้องอะ” พี่ตินาพูดพร้อมกับพยักเพยิบไปทางพวกเพื่อนๆ ของผม


ไอ้พวกนี้ก็สายตาหน้าตาออกชิบหาย จ้องพี่ตินาตาไม่กระพริบเลย แล้วทำไมผมต้องทำหน้าฟินด้วยวะ ผมไม่ได้อยากนั่งข้างพี่เขาสักหน่อย อยากนั่งข้างคนน่ารักคนนั้นต่างหาก


ผมพยายามเอนหัวไปมาเพื่อจะได้มองพี่เรนกินข้าว ผมเคยเจอพี่เรนที่ร้านข้าวแถวห้องเคยนั่งมองบ่อยๆ ผมชอบเวลาพี่เรนกินข้าวเหมือนเด็กเลย ไม่ได้กินเลอะเทอะอะไรหรอกครับแต่พี่เรนจะชอบเคี้ยวตุ้ยๆ จนแก้มพอง


ผมขมวดคิ้วด้วยความขัดใจเมื่อพี่ตินาขยับตัวเอามาบังผมเอาไว้ “พี่ตินาครับ อย่าขัดขวางความสุขคนอื่นสิครับ”


“น้องรู้จักชื่อพี่ได้ไง” พี่ตินาเลิกคิ้วถาม พี่เรนเองก็หันมามองอย่างงงๆ ว่ามีเรื่องอะไรรึเปล่าแต่แค่แปบเดียวก็หันไปกินข้าวต่อ เพื่อนๆ ในกลุ่มพี่เขาก็กลับมาจนครบหมดแล้ว ดูเหมือนกลุ่มนี้จะมีแต่ผู้หญิงนะครับเนี่ย


พี่ๆ คนอื่นหันมามองผมกับพี่ตินาอย่างสนใจก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะ “มีไรวะติ” พี่คนหนึ่งถามพี่ตินา ซึ่งพี่เขาก็หันไปตอบ


“น้องนี่ชอบสมบัติของกลุ่ม” พอพี่ตินาพูดแบบนั้นทุกคนก็ทำตาโตหันขวับมามองผมทันที ไอ้ผมนี่ก็รู้สึกเหงื่อแตกพลั่กเลยครับ


“เหรอๆ อย่างนั้นน้องอย่าเพิ่งไปไหนนะ เดี๋ยวพวกพี่มีเรื่องจะคุยด้วย” แล้วเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มก็หันมาบอกกับผมก่อนที่พวกพี่ๆ เขาจะหันไปจัดการกับอาหารตรงหน้า


ส่วนผมก็หันกลับมาหาเพื่อนในกลุ่มนั่งกินขนมกันไปคุยกันไปครับ


“เรนแกขึ้นไปคุยงานกับพวกไอ้ป้อก่อนนะเดี๋ยวพวกฉันตามขึ้นไป” พี่ตินาหันไปพูดกับคนน่ารักที่สองแก้มพองออกเพราะยัดลูกชิ้นลูกใหญ่เข้าไปเต็มปาก


พี่เรนเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยว่าทำไมเขาต้องขึ้นไปก่อนด้วย ปากก็เคี้ยวหมุบหมับไม่หยุด แม่งเอ๊ยยย!!! น่ารักชิบหาย(ว่าที่)แฟนใครวะ


“พอดีพวกฉันมีเรื่องคุยกับพวกน้องๆ กลุ่มนี้หน่อย เดี๋ยวตามไปแกขึ้นไปก่อนเลย


พี่เรนชะโงกหน้ามามองพวกผมก่อนที่ดวงตากลมๆ นั้นจะเบิกกว้างขึ้นแล้วยกนิ้วขึ้นชี้หน้าผม “พวกนี้ที่ช่วยเราเก็บของตอนเราล้มเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่”


ผมยิ้มกว้างทักทายทันทีแต่รอยยิ้มผมก็ต้องหุบลงเมื่อพี่ตินาดันหน้าพี่เรนกลับแล้วหันมาทำตาดุใส่ผม


ไรวะ… แค่จะยิ้มให้ที่รักแค่นี้เอง


“ล้ม แกไปล้มที่ไหนตอนไหนวะเรน” พี่คนหนึ่งในกลุ่มหันไปถามทันที


“อาทิตย์ที่แล้ว มันหลงไปตึกนิเทศแต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ยังไงแกขึ้นไปก่อนแล้วกันนะ” พี่ตินาตัดบทก่อนจะหันไปบอกพี่เรนอีกรอบ


“โอเคๆ อย่างนั้นเราขึ้นไปก่อนนะ” พี่เรนตอบก่อนจะหันไปคว้ากระเป๋ามาสะพาย หอบกระดานวาดรูปไว้ที่แขนซ้าย ถือม้วนกระดาษปรู๊ฟ กระดาษร้อยปอนด์ไว้ที่มือขวาแล้วเดินออกไปจากโรงอาหาร


“เอาละ พวกเราย้ายที่ไปหาที่คุยกันดีๆ ดีกว่า” พี่ตินาหันมาพูดกับพวกผมก่อนที่จะลุกขึ้นยืน “อ๋อ… พี่ฝากเอาจานข้าวไปเก็บด้วยนะ”


พวกผมหันมองหน้ากันงงๆ แต่ก็หยิบจานข้าวของพวกพี่ๆ เขารวมไปถึงของพวกเราเองด้วยแล้วเอาไปเก็บตรงที่เก็บจานก่อนจะเดินตามพี่ตินาไป


ถ้าจำไม่ผิด… พี่ตินาบอกจะย้ายเพื่อหาที่คุยดีๆ แต่ทำไมผมไม่คิดว่าตรงนี้เป็นที่คุยที่ดีสักเท่าไหร่ คือมันก็ดีแหละครับ… พวกเราอยู่กันที่สวนข้างตึกคณะศิลปกรรมศาสตร์ มีต้นไม้ให้ความร่มรื่น แต่ตอนนี้ผมกับเพื่อนในกลุ่มกำลังนั่งอยู่บนพื้นหญ้าครับ


ย้ำ!


ขอย้ำอีกรอบ! ว่าบนพื้นหญ้า ไม่ใช่โต๊ะหินอ่อนที่วางอยู่รอบสวนนี้ ผมนั่งหน้าสุดส่วนไอ้พวกที่เหลือนั่งอยู่หลังผมครับ แล้วพี่ตินาและบรรดาเพื่อนๆ ยืนกอดอกล้อมรอบพวกผมเอาไว้


นี่จะคุยกันหรือจะรุมกระทืบผมวะครับ…?


ถึงอีกฝ่ายจะเป็นผู้หญิง แต่ผมก็กลัวนะโว้ย



“ไหนบอกชื่อมาสิว่าชื่ออะไรบ้าง” พี่ตินาเป็นเสียงหลักครับ


“ผมกายครับ กาย คามิน” หลังจากที่เพื่อนแม่งสะกิดผมไม่หยุดผมก็เป็นคนแรกที่แนะนำตัว


“กาย คามิน? น้องใช่เดือนคณะนิเทศปีที่แล้วหรือเปล่า” พี่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างพี่ตินาถาม พอผมพยักหน้ารับว่าใช่พี่ๆ ก็ก้มลงมามองหน้าผมกันใหญ่


เอ่อ… ผมคนครับ ไม่ใช่สัตว์ประหลาด ไม่ต้องทำหน้าเหมือนเจอของแปลกขนาดนั้นก็ได้มั้ง…


นี่คนหล่อครับ คนหล่อ


“ถามจริงน้องชอบเพื่อนพี่จริงดิ” พี่สา (รู้ชื่อพวกพี่เขาแล้วครับ พี่เขาแนะนำตัวหลังจากพวกผมแนะนำตัวเสร็จ) ถาม “เดือนคณะอย่างน้องคือถ้าไม่สนผู้หญิงก็มีผู้ชายน่ารักๆ อีกเพียบปะ จะมาชอบเพื่อนพี่ได้ไง”


“พี่ครับ เชื่อไอ้กายมันเถอะ มันชอบฝน… ไม่ดิ มันชอบพี่เรนมากจริงๆ ครับ” ไอ้ไม้พูดพร้อมกับคนอื่นที่ยืนยัน


ผมพยักหน้าทันทีที่ได้ยินไอ้ไม้พูด เงยหน้าขึ้นมองบรรดาเพื่อนพี่เรน “ผมชอบพี่เรนจริงๆ นะครับ ไม่สิเรียกว่ารักเลยก็ได้นะ ผมชอบพี่เรนมาเป็นปีแล้ว”


พวกพี่ๆ เขาเลิกคิ้วขึ้นทันทีที่ได้ยินคำตอบของผมก่อนที่พี่ตินาจะถาม “หมายความว่ายังไง เดือนคณะอย่างนายเนี่ยนะจะมาชอบคนท่าทางคงแก่เรียนแบบนั้น น่ารักก็ไม่น่ารัก ดูเอ๋อๆ เนิร์ดๆ อีกต่างหาก เข้ามาปีแรกก็ไม่สุงสิงกับใคร เพื่อนก็ไม่คบ”


เอิ่ม… สาบานได้ว่านั้นกำลังพูดถึงเพื่อนตัวเอง


“เรื่องจริงครับ อีกอย่าง… พี่เรนก็น่ารักจะตายไป” ผมตอบแล้วก็ยิ้มกว้าง “ผมชอบพี่เขามาหนึ่งปี ห้องผมบังเอิญอยู่ตรงข้ามกับห้องของพี่เขา”


“เรนน่ะจริงๆ มันหน้าตาน่ารักมาก ตาโตๆ ปากแดงๆ แก้มป่องๆ โคตรน่ารักเลยแหละ” พี่แป้งพูดแล้วพี่คนอื่นๆ ก็พยักหน้ายืนยัน


จริงครับ จริงๆ แล้วพี่เรนโคตรน่ารัก แต่เขาชอบเอาผมปิดหน้าแล้วก็ใส่แว่นตาคนเลยไม่ค่อยรู้ แต่นั่นก็ดีครับผมไม่อยากให้ใครเห็นความน่ารักของพี่เรน


“ผมชอบพี่เรนจริงๆ นะครับ ถ้าพวกพี่ไม่ว่าอะไรให้ผมจีบพี่เรนได้ไหม”


“พวกเราเป็นแค่เพื่อนมัน ห้ามให้ใครมาจีบหรือไม่จีบมันไม่ได้หรอก แต่พวกเราก็คอยสแกนคนที่จะเข้ามาก่อนกลัวมันโดนหรอกเพราะเรนมันซื่อๆ ไม่ทันคนเท่าไหร่” พี่ตินาพูด ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะ


“ดีที่มันชอบทำตัวเงียบๆ ไม่เป็นที่สนใจ เฉิ่มๆ เชยๆ นั่นแหละเลยไม่มีคนเข้ามาสนใจมันเท่าไหร่”


“แล้ว… ในคณะมีใครชอบพี่เรนไหมครับ” ไอ้แม็คโพลงถามขึ้นมา “รุ่นพี่หรือรุ่นเดียวกันรู้จักกับพี่เรนมาตั้งสามสี่ปี ต้องมีคนเคยเห็นหน้าจริงๆ พี่เรนสิครับ มีคนชอบหรือเปล่า”


พวกพี่ๆ เขาหันมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนที่พี่แป้งจะตอบ “ถ้ารุ่นพี่ก็มีแหละ แต่ไม่รู้จริงจังแค่ไหนชอบแซวไปเรื่อยแต่เรนมันก็ไม่ได้สนใจ ส่วนรุ่นเดียวกันไม่มีหรอก เรียกว่าไม่กล้าชอบมากกว่า แบบยังไงดีละ ตอนเข้ามาปีหนึ่งตั้งท่าตีตัวออกห่างกันชัดเจนเพราะเรนมันไม่สุงสิงกับใคร ไปไหนมาไหนคนเดียวเรียกง่ายๆ ว่าไม่มีเพื่อนนั่นแหละ พอนานๆ ไปก็เริ่มดีขึ้นเลยไม่มีใครกล้าคิดกับมันเกินเพื่อน”


หลังจากนั้นผมก็คุยก็ถามเรื่องพี่เรนกับพวกพี่ๆ เขาอีกหน่อย


และนั่นทำให้ผมรู้ว่าพี่ตินาไม่ได้เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น ไม่ได้นามสกุลยาโอไอ หรือยาโออิอะไร แต่นั่นเป็นคำศัพท์ที่สาวๆ ชอบใช้กันครับ สำหรับคนที่เป็นสาว(หนุ่ม)วาย พวกผมนี่งงกันเข้าไปอีก อะไรคือวายวะครับ ไหนพี่ตินาบอกว่ามันอ่านวายาโออิ แล้วทำไมมาเป็นวาย


“เมื่อก่อนความหมายของคำนี้ไม่ได้หมายถึงแบบนี้หรอกนะเมื่อก่อนเขาไว้ใช้เรียกการ์ตูนประเภทหนึ่ง แต่ตอนนี้มันแสดงความถึงพวกชายรักชายน่ะ สาววายหรือบางทีหนุ่มวายก็มีนะ ก็คือพวกชอบชายรักชายนั่นแหละ ชอบเห็นผู้ชายได้กัน” พี่ตินาตอบซึ่งทำเอาพวกผมถึงกับอ้าปากค้าง


คือ… บอกผมทีนั่นคำพูดของผู้หญิงสวยจริงเหรอวะครับ ชอบเห็นผู้ชายได้กัน พี่แกไปเห็นมาเร๊อะ!!!


“พวกเราในกลุ่มเป็นสาววายกันหมด ส่วนเรนน่ะเป็นเคะน้อยของพวกเรา สมบัติอันล้ำค่าประจำกลุ่มเลยนะ ตัวเล็ก น่ารักสเป็กหนุ่มๆ ฝ่ายรุกมากกกกกกกกกก” คราวนี้พี่สาพูดบ้างครับ


จริง!! ผมขอยืนยัน นั่งยัน นอนยัน จนยันพี่เรนติดเตียง พี่เรนน่ารักสเป็กหนุ่มๆ ฝ่ายรุกอย่างผมมาก!!!


ถ้าพวกพี่ๆ เขาชอบ อยากให้พี่เรนได้ผัว(?)แบบนี้ก็เข้าทางผมดิครับ ผมคิดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องก่อนจะถามย้ำไปอีกรอบ “ถ้าผมจีบพี่เรนพวกพี่จะไม่ขัดขวางใช่ไหม”


“เออ ไม่ขัดขวางหรอกเอาจริงๆ พวกเราก็อยากให้มันมีคนดูแลสักที ถ้ารักจริงพวกเราก็สนับสนุน”


“ผมอะนะ… รักจริง หวังแต่งแน่นอนครับ!!”


หลังจากนั้นผมก็แลกเบอร์ แลกไลน์ แลกเฟสบุ๊คกับพวกพี่ตินาเพื่อเอาไว้ติดตามและส่องความเคลื่อนไหวของพี่เรนก่อนที่พวกพี่ๆ เขาจะขอตัวไปคุยงานกันต่อ ส่วนพวกผมที่วางก็ย้ายตัวเองกลับมาถิ่นคณะถิ่นเดิมครับ





************************************************
กลับมาแล้วค่ะ... หลังจากหายไปเดือนกว่า ไม่ได้มาอัพเรื่องนี้เลย ขอโทษด้วยนะคะไม่ได้หายไปไหนไกลหรอกค่ะ มีงานนู้นทำงานนี้ทำต้องขอโทษด้วยค่ะ (_ _)

มาที่เนื้อเรื่องคือแบบว่าชอบรูป .gif บนหัวบทความมาก มันเข้ากับที่น้องกายพูดเลย หมุบหมับๆ อยากจะฟัดๆ พี่เรน (อันนี้ไม่ใช่แล้ว) เดี๋ยวน้องกายจะเดินหน้าจีบคนพี่แล้วค่ะ แต่จะจีบติดง่ายๆ ไหมละเนี่ย... อันนี้ต้องเอาใจช่วยน้องกายกันนะคะ จะเชียร์ใคร จะอยู่ฝั่งไหนก็เลือกข้างเลยนะคะ จะอยู่ข้างน้องกายจีบพี่เรน หรือจะอยู่ข้างพี่เรนหนี(?)น้องกายก็เลือกเลยนะคะ ^^

อย่าลืมคอมเมนต์ให้ฟางด้วยนะ แต่งมาให้อ่านแล้วก็อยากอ่านคอมเมนต์บ้าง คอมเมนต์กันด้วยน๊า พลีสสสสสสสสสส

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
กายสู้ๆน้าาาา

น้องฝนน่ารักชะมัด   :mew1:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ไฟเขียวแล้ว กายลุยยย!!!

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
แหมๆ ได้เพื่อนเรนมาเป็นพวกเยอะเลยนะ อีกาย

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
โอ้ยยยย ฟินนนนนนนนน

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12
แจ้งข่าวค่ะ

ไม่ได้เข้ามาอัพนิยายนาน ไม่สบายไป 1 อาทิตย์ค่ะ

ตอนแรกตั้งใจจะมาอัพให้วันจันทร์

แต่เกิดเรื่องราวที่ไม่คาดฝันขึ้นเล็กน้อย เป็นเหตุการณ์ที่ฟางไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยจริงๆ

"ก๋งของฟางเพิ่งเสียค่ะ" ฟางต้องช่วยดูแลเรื่องงาน อาจจะยังไม่สะดวกเข้ามาอัพนิยายให้ค่ะ

แต่ถ้ามีช่วงเวลาที่สะดวกฟางจะเข้ามาอัพนิยายให้อ่านกันนะคะ

ขอบคุณค่ะ

ขอ copy แล้ววางค่ะ

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะค้า

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12


ปากก็เคี้ยวหมุบหมับไม่หยุด แม่งเอ๊ยยย!!! น่ารักชิบหาย(ว่าที่)แฟนใครวะ
kamin

say-hi ในทวิตเตอร์ เฟสบุ๊ค ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะค




โชคครั้งที่ • 3.2 •



• • • ต่อค่ะ 100% • • •



พี่เรน



“น้องเรนมาช่วยพี่ดูหน่อยสิว่างานพี่โอเคหรือยัง”


“อ้ะ… ครับ” ผมสะดุ้งก่อนจะรับคำเมื่อได้ยินเสียงของรุ่นพี่ปีสีเรียกก่อนจะลุกเดินไปทางกลุ่มพวกพี่ๆ เขา


“น้องเรนว่าสวยหรือยัง” ผมมองไปยังภาพบนโต๊ะตรงหน้าก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความงุนงง


“อ่า… สวยแล้วครับ…” ได้แต่ตอบไปแบบนั้นเพราะไม่รู้จะตอบอะไร ก่อนจะยิ้มกว้างให้พวกพี่ๆ เขา “พี่วาดหัวใจสวยดีนะครับ”


“ฮ่าๆๆๆ พี่ให้หัวใจเอาไหม” พี่เป้ถามต่อ


ผมเลยหันไปมองก่อนจะส่ายหน้า “ไม่เป็นไรครับ พวกพี่ตั้งใจวาดขนาดนี้เก็บไว้เถอะครับเดี๋ยวผมวาดใหม่เองได้”


ผมว่าผมก็พูดปกตินะครับทำไมพวกรุ่นพี่เขาจะต้องทำหน้าอึ้งๆ กันแบบนั้นด้วย ตัวผมมีอะไรผิดปกติเหรอ… ผมยกมือขึ้นจับหัว จับหน้าแว่นก็ยังอยู่นี่นา ก้มมองตัวเองก็แต่งตัวถูกระเบียบไม่มีอะไรผิดแปลกไปจากเดิมเสียหน่อย


“ผมพูดอะไรผิดหรือมีอะไรผิดปกติเหรอครับ”


“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ป เปล่าๆ ไม่มีอะไร น่ารักจริงๆ เลยนะน้องเรนเนี่ย” พี่เป้พูดยกมือขึ้นขยี้ผมของผมจนแทบยุ่งไปหมด แต่ผมก็ทำได้แค่ยืนปล่อยให้พี่เขาทำแบบนั้นต่อไปเพราะผมเป็นรุ่นน้องนี่นา


“ไอ้พี่เป้มาแกล้งอะไรเรนอีก” เสียงของตินาดังขึ้นจากทางด้านหลังผม ผมเลยรีบหันไปมองก่อนจะยิ้มกว้างไม่ใช่แค่ตินาเท่านั้นแต่เพื่อนคนอื่นๆ ในกลุ่มผมก็มาด้วย


ตินาเดินหน้าบึ้งตรงเข้ามาหาก่อนจะดึงผมไปกอดแล้วก็ลูบผมเอาไว้ อือ… ตินาทำอย่างกับผมเป็นเด็กเลยแหะ


“ปล่อยห่างตาไม่ได้เลยนะชอบมาแกล้งเรนอยู่เรื่อย” คราวนี้เป็นสาที่พูดขึ้นบ้างครับ


“พวกพี่เปล่าแกล้งเสียหน่อย แค่เรียกน้องเรนมาดูรูปที่พวกพี่วาดก็เท่านั้นเอง จริงไหมครับน้องเรน” พี่เป้พูดก่อนจะหันมาถามผม


ผมขยับหน้าตัวเองออกจาก เอ่อ… หน้าอกของตินาก่อนจะพยักหน้ารับยืนยัน “ใช่ พี่เป้แค่เรียกเรามาดูรูปหัวใจเอง”


ตินากรอกตาไปมาก่อนจะบอกให้ผมกลับไปนั่งทำงานต่อส่วนตินากับเพื่อนคนอื่นๆ ในกลุ่มก็ยืนคุยอยู่กับพี่เป้ต่อ ทำไมไม่ให้ผมอยู่คุยด้วยนะ… สงสัยจะมีเรื่องที่ไม่อยากให้ผมรู้แหะ ผมดันแว่นสายตาอันใหญ่ที่สวมอยู่ให้เข้าที่ก่อนจะเดินกลับไปนั่งทำงานของตัวเองต่อ


ผมเงยหน้าขึ้นมองเมื่อพวกเพื่อนๆ เดินกลับมานั่งที่โต๊ะก่อนจะส่งยิ้มให้แต่ก็ต้องค่อยๆ หุบยิ้มลงเมื่อแต่ละคนไม่ได้ยิ้มตอบผมแถมยังทำหน้าจริงจังมากเสียอีก


“มีอะไรหรือเปล่า”


“เรน” ใบหม่อนเรียกผมเสียงเครียด เห็นเพื่อนเครียดแบบนี้แล้วผมจะเครียดตามไปด้วยแล้วนะ


“มีอะไรเหรอหม่อน มีเรื่องอะไรไม่ดีหรือเปล่า หรือว่าที่คุยกับพวกพี่เป้เมื่อกี้พี่ๆ เขาว่าอะไรมาเหรอ” ผมเลยอดไม่ได้ที่จะทำหน้าเครียดตาม ก็คนมันเป็นห่วงนี่ครับ


“ถ้าสมมติว่ามีผู้ชายสูงๆ ขาวๆ หน้าตาทะเล้นๆ ใส่ชุดนักศึกษามหา’ลัยเรา เข้ามาคุยด้วยจะต้องระวังตัวเอาไว้นะ” ใบหม่อนตอบ ผมขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ


ให้ระวังผู้ชาย… พวกใบหม่อนน่าจะบอกตัวเองกันมากกว่านะครับ เพราะยังไงพวกเธอก็เป็นผู้หญิง “ใบหม่อนกับคนอื่นๆ นั่นแหละที่ต้องระวังตัวเอาไว้ แล้วทำไม… ต้องระวังตัวด้วยล่ะ”


“พวกเราระวังอยู่แล้วแต่ที่มาบอกเนี่ยเพราะคนนี้มันเป็นโรคจิตชอบจีบคนอื่นเขาไปทั่วผู้หญิงผู้ชายก็ไม่เว้น เพราะฉะนั้นต้องระวังดีๆ เข้าใจไหม” ตินาพูด


ผมพยักหน้ารับ “อืมๆ เราจะระวังนะ ว่าแต่ว่า… คนโรคจิตนี่เรียนมหาวิทยาลัยได้ด้วยเหรอ…”


“เอ่อ… เรื่องนั้นช่างมันเถอะเอาเป็นว่าแกก็ระวังตัวดีๆ ถ้าเจอมันมาวอแวก็ให้มาบอกพวกฉันนะเข้าใจไหม แกทำงานต่อเถอะตอนเย็นนี้ต้องส่งงานแล้วนี่” สาพูด


พอได้ยินสาพูดแบบนั้นผมก็ตาโตแล้วก้มลงทำงานต่อ งานยังไม่เสร็จเลย… คืออันนี้เป็นงานประกวดแบบครับ ตอนแรกคืออาจารย์บังคับให้ทุกคนทำส่งแล้วอาจารย์จะคัดเลือกคนผ่านอีกทีก่อนส่งไปที่โครงการประกวด ซึ่งผมผ่านเลยต้องมาปรับแก้ใหม่แล้วตามคอมเมนต์ของอาจารย์แล้วส่งอีกทีซึ่งก็คือเย็นนี้นี่แหละครับ


ผมนั่งทำงานของผมต่อส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ก็คุยกันไปหัวเราะกันไปดูท่าจะสนุกสนานแต่ผมไม่เข้าใจที่พวกเพื่อนๆ ผมพูดเลยครับ อะไรเมะๆ เคะๆ ก็ไม่รู้ แต่คงจะชอบใจกันน่าดูกรี๊ดกร๊าดกันด้วย ผมเลยพลอยยิ้มไปด้วย ขำเพื่อนๆ ครับ


“ยังไม่กลับกันอีกเหรอ เย็นแล้วนะ” ผมเงยหน้าขึ้นถามหลังจากที่ทำงานเสร็จเรียบร้อยและเริ่มเก็บของ


“ทำงานเสร็จแล้วเหรอ เดี๋ยวพวกฉันขึ้นไปเป็นเพื่อน” สาพูดแต่ผมส่ายหน้า


“ไม่ต้องหรอก คงต้องอยู่คุยกับอาจารย์อีกสักพักเลยทุกคนกลับกันไปเถอะ แค่ขึ้นไปส่งงานที่ตึกคณะนี่เอง” ผมตอบ


แต่ทำไมทุกคนต้องทำสีหน้าไม่ไว้ใจผมด้วยนะ “ขึ้นลิฟต์ไปชั้นสี่ ส่งงานเสร็จลงมาแล้วก็ตรงกลับหอเลยสัญญา ไม่หลงหรอกจริงๆ นะ”


ผมไม่ได้หลงทางบ่อยขนาดนั้นสักหน่อย… หรือเปล่านะ


“แน่ใจนะว่าจะไม่หลงทาง” ตินาหรี่ตามอง


ซึ่งผมก็พยักหน้ารับ “จริงๆ ไม่หลงหรอกน่าจากคณะเราไปหน้ามอแค่แปบเดียวเอง กลับบ้านกันเถอะเย็นกว่านี้เดี๋ยวจะรถติดนะ”


เพื่อนในกลุ่มของผมทุกคนอยู่บ้านกันหมดเลยครับเพราะพวกเขาเป็นคนกรุงเทพฯ อีกทั้งบ้านก็อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ ที่สำคัญ… ก็ผู้หญิงนี่ครับพ่อกับแม่ก็เลยไม่ค่อยอยากปล่อยให้อยู่หอ ส่วนผมเป็นคนต่างจังหวัดครับ เลยมาเช่าหอแถวๆ หน้ามออยู่ ลำบากบ้างนิดหน่อยแต่ก็อยู่ได้สบายมากครับ


เมื่อผมยืนยันว่าจะไม่หลงทางแน่นอนเพื่อนๆ ถึงยอมพยักหน้ารับและเก็บของเตรียมกลับบ้าน ซึ่งก่อนจะพากันเดินไปตินาก็ยังไม่วายหันมากำชับผมอีกรอบว่าส่งงานเสร็จให้รีบตรงกลับห้องห้ามเถลไถลแล้วก็ห้ามไปเดินตามใคร


ตินาทำตัวเหมือนเป็นแม่คนที่สองของผมเลย... ซึ่งผมก็โอเคนะครับ ดีจะตายไป เนอะ


“เรารู้แล้ว ส่งงานเสร็จเราจะรีบตรงกลับห้องเลยไม่เถลไถลไปไหนแน่นอน” ผมพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มกว้างให้แล้วโบกมือบ๊ายบายให้กับทุกคน


หลังจากพวกตินาเดินไปแล้วผมก็รวบรวมข้าวของทั้งหมดใส่กระเป๋าย่ามของตัวเองก่อนจะถือแบบเรียกว่าประคองก็ได้ครับงานที่เพิ่งทำเสร็จแล้วเดินเข้าไปในตึก ทั้งๆ ที่เป็นตอนเย็นแล้วแท้ๆ คนยังเยอะอยู่เลยแหะ อ๋อ... ลืมไปว่ามีรับน้องอยู่ ตอนผมอยู่ปีหนึ่งโดนแกล้งประจำเลยครับ ไม่รู้รุ่นพี่จะแกล้งอะไรผมนัก


“น้องเรน” ผมชะงักขาที่กำลังก้าวเข้าไปในลิฟต์ อ่า... เกือบโดนประตูลิฟต์หนีบแล้วไหมละ


“ค ครับ ครับ” ผมหันกลับไปมองก่อนจะยกมือดันแว่นตัวเองเมื่อมันเลื่อนหล่นลงมา “มีอะไรเหรอครับพี่ทศ”


“เดินไม่ได้มองหรือไงว่าประตูลิฟต์มันกำลังปิด เดินเข้าไปได้โดนหนีบแบนแน่” พี่ทศเป็นรุ่นพี่ปีสี่ที่คณะครับ พี่ทศก็เป็นหนึ่งในคนที่ชอบแกล้งผมนะ... แต่ว่า แกล้งน้อยกว่าคนอื่น


“อ่า... แหะๆ ผมไม่ทันมอง ขอบคุณพี่ทศมากนะครับที่เรียกผมไว้” ผมได้แต่ก้มหัวขอบคุณก่อนจะพูดขอบคุณอีกรอบเมื่อพี่ทศเอื้อมมือไปกดลิฟต์ให้


“ไอ้เด็กเอ๋อเอ๊ย” พี่ทศว่าก่อนจะยกมือขึ้นจับหัวผมโยกไปมา


“ผมไม่ใช่คนเอ๋อสักหน่อย...” ผมบ่นอุบแต่ก็ไม่กล้าบ่นเสียงดังมากหรอกครับเดี๋ยวโดนพี่ทศแกล้งอีก


“หึหึหึ ไปๆ ต้องไปส่งงานประกวดแบบไม่ใช่หรือไง เดี๋ยวก็ไม่ทันส่งหรอก” พี่ทศพูดพร้อมกับพยักหน้ามาทางงานในมือผม


ผมตาโตด้วยความตกใจ ลืมไปเลยว่าต้องรีบเอางานไปส่งผมบอกลาพี่ทศก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์ที่มาถึงพอดีแต่เหมือนจะรีบไปหน่อยเลยเผลอเดินชนกับคนอื่นที่เดินออกจากลิฟต์ ผมเลยได้แต่พูดขอโทษแล้วหัวเราะแห้งๆ เมื่อได้ยินเสียงพี่ทศหัวเราะ


ติ้ง!


เสียงลิฟต์หยุดอยู่ที่ชั้นสี่ดังขึ้นเป็นการบอกผมว่าถึงชั้นที่ต้องการแล้ว ผมรีบเดินออกจากลิฟต์ตรงไปที่ห้องพักอาจารย์ทันที อาคารนี้นะเดินให้ตายผมก็ไม่หลงหรอก... พวกตินาแหละชอบหาว่าผมเป็นพวกหลงทิศหลงทาง ไม่จริงสักหน่อย


ผมเคาะประตูห้องพักอาจารย์ก่อนจะผลักเข้าไปโชคดีที่อาจารย์ที่รับเรื่องประกวดแบบยังอยู่ผมเลยเดินเอางานไปส่งก่อนจะนั่งคุยกับอาจารย์เรื่องคอนเซ็ปของงานอีกรอบ แม้ว่าจะมีบางส่วนของงานที่อาจารย์อยากจะให้แก้แต่เพราะเวลาไม่ทันแล้วก็เลยไม่ได้แก้ อีกอย่างอาจารย์บอกว่าไม่ได้เสียหายอะไรถ้าไม่ได้แก้ ได้รางวัลหรือไม่ได้ผมก็ไม่ได้คิดมากหรอกครับ ถือเป็นการฝึกฝีมือ


คุยกับอาจารย์เสียตั้งนานลงมานอกอาคารอีกทีฟ้าก็เปลี่ยนสีแล้ว แต่ไม่เป็นไรหรอกแค่จากคณะผมตรงไปเรื่อยๆ ก็ถึงหน้ามอแล้ว แต่ว่า... ผมอยากกินขนมเค้กจัง ร้านคาเฟ่ร้านโปรดของผมอยู่ใกล้ๆ กับโรงอาหารกลาง นั่งรถจากหน้าคณะผมไปก็ถึงซื้อเสร็จก็นั่งรถไปลงหน้ามหาวิทยาลัยแค่นี้เอง ง่ายๆ อยู่แล้ว


เมื่อคิดได้แบบนั้นผมก็กระชับมือที่จับสายกระเป๋าอยู่ก่อนจะเดินไปรอรถของมหาวิทยาลัยแต่รออยู่สักพักก็ไม่มีรถมาสักทีผมเลยเปลี่ยนเป็นเดินไปแทน ที่มหา’ลัยผมมีต้นไม้เยอะเลยครับ เวลาเย็นๆ แบบนี้เลยยิ่งลมเย็นสบาย เดินไปเรื่อยๆ ดูรอบๆ ไปเรื่อยๆ ก็เพลินดีนะครับ


ปึก!


“อ๊ะ... ขอโทษครับผมไม่ทันมอง” ผมร้องขอโทษทันทีเพราะเผลอไปเดินชนคนอื่นเข้า โชคดีที่อีกฝ่ายไม่ได้เจ็บอะไร ถึงแม้ผมจะเป็นห่วงเพราะอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงก็เถอะ...


“คราวหลังก็มองทางบ้าง” เธอพูดก่อนจะยกมือขึ้นปัดแขนตัวเองแล้วเดินไปเลย


ผมได้แต่ถอนหายใจดันแว่นตาของตัวเองเข้าที่อีกรอบ ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมต้องทำท่าเหมือนรังเกียจแบบนั้นด้วยนะ... เพราะผมแต่งตัวแบบนี้เหรอ


เอ... แต่ว่า... ตรงนี้มันตรงไหนละเนี่ย


อ่า... อย่าบอกนะว่าผม... หลงทาง


ไม่น่าจะหลงทางนะก็จากคณะผมเดินมาทางซ้ายของอาคารก็จะถึงโรงอาหารกลางนี่


ผมหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาป้ายชื่ออาคารที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อที่จะได้รู้ว่าผมอยู่ตรงไหนของมหา’ลัย อือ... ตรงไหนกันนะ


“พี่เรน!!” ผมสะดุ้งก่อนจะหันไปมาเพื่อมองหาคนที่เรียกผม ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นกลุ่มนักศึกษาผู้ชายเดินเข้ามาหา ใครกันนะ คุ้นๆ หน้าแต่นึกไม่ออก


ถ้าสมมติว่ามีผู้ชายสูงๆ ขาวๆ หน้าตาทะเล้นๆ ใส่ชุดนักศึกษามหา’ลัยเรา เข้ามาคุยด้วยจะต้องระวังตัวเอาไว้นะ


อยู่ๆ ก็นึกถึงคำพูดของใบหม่อนขึ้นมา คนตรงหน้าผมก็สูงๆ ขาวๆ หน้าตาทะเล้นๆ หรือเปล่านะ... แถมยังใส่ชุดนักศึกษาด้วย แต่ใช่มหา’ลัยเราหรือเปล่านะ แต่ถ้าไม่ใช่เขาจะรู้จักผมได้ยังไงกัน


คนนี้มันเป็นโรคจิตชอบจีบคนอื่นเขาไปทั่วผู้หญิงผู้ชายก็ไม่เว้น เพราะฉะนั้นต้องระวังดีๆ เข้าใจไหม


“โรคจิต?”






น้องกาย


โรคจิต?


ด... เดี๋ยวนะครับ นั่นคือคำทักทายที่พี่เรนทักผมหรือว่าอะไรครับ ร... โรคจิตเนี่ยนะ!!!


ผมได้แต่อ้าปากค้าง ทำตาปริบๆ นึกประมวลผลคำพูดของคนน่ารักตรงหน้าอีกรอบ แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้ว่าคนน่ารักหมายถึงอะไร หูก็ได้ยินเสียงกุกกักๆ น่าจะเป็นเสียงไอ้เพื่อนเวรกลั้นหัวเราะอยู่ด้านหลัง


“ห้ะ?”


“อะ! ไม่มีอะไรครับ” เหมือนพี่ฝน เอ๊ย พี่เรนจะนึกขึ้นได้ว่าหลุดคำอะไรออกมาถึงได้ร้องอุทานออกมาได้อย่างน่ารักแล้วฉีกยิ้มกว้างกลบเกลื่อน


เมื่อกี้พี่เรนด่าอะไรผมนะ... ผมลืมไปหมดแล้วมีแต่ความน่ารักละครับตอนนี้


“อ๋า... พวกนายคือคนที่ช่วยเราเก็บของตอนล้มเมื่อครั้งนู้นกับคนรู้จักของตินานี่เอง”


“ครับผม” ผมพยักหน้าแล้วยิ้มกลับไปให้ ไม่ได้ยิ้มกว้างอะไรครับต้องไว้มาดนิดนึง


เปล่าหรอก...


กูเขิน!!


ตอนคนน่ารักทำหน้านึกออกร้อง อ๋า.... นี่โคตรน่ารักเลยอะครับ


“นายไม่ใช่โรคจิตใช่ไหม?”


อึ้ง... แดก...!


“เฮ้ย! ผมไม่ใช่โรคจิตนะ เห็นพี่มายืนหันซ้ายหันขวาอยู่แล้วมาทำอะไรที่คณะนิเทศครับ” ผมถาม


“พี่คงไม่ได้หลงทางใช่ไหมครับ” ไอ้เกลียวยื่นหน้ามาถาม ไอ้นี่ๆ ทำเป็นสนิทสนมกับพี่เรนเดี๋ยวมึงจะโดน!


ผมหันไปมองหน้าคาดโทษไอ้เกลียวก่อนจะหันกลับมามองคนน่ารักอีกรอบ โอเค... ไม่ต้องตอบผมก็รู้แล้วครับว่าพี่เรนแกหลงทางชัวร์ๆ เลย นี่เป็นพวกหลงทิศหลงทางขนาดในมหา’ลัยยังหลงเลยเหรอวะเนี่ย


“อ้าว... นี่เลยโรงอาหารกลางมาแล้วเหรอเนี่ย”


ผมกับเพื่อนนี่แทบจะยกมือตบหน้าผากตัวเองแต่ไม่เอาดีกว่ามันเจ็บ... คือคณะของผมมันค่อนข้างห่างจากคณะชาวบ้านเขาแน่นอนว่าห่างจากโรงอาหารกลางพอสมควร แบบว่ามีคณะอื่นมาคั่นกลางระหว่างโรงอาหารกลางกับคณะของผมนั่นแหละครับ


“เลยมาแล้วสิครับ เลยมาจนถึงคณะนิเทศแล้วเนี่ย พี่เดินยังไงของพี่เนี่ยแล้วจะไปโรงอาหารกลางทำไมครับ ป่านนี้ร้านข้าวที่โรงอาหารปิดหมดแล้วละมั้ง” ผมถาม อยากจะดุนะครับแต่ก็เป็นห่วง อีกอย่างไม่กล้าดุมากเดี๋ยวกระต่ายตื่นตกใจหมด


“อ่า... พี่จะไปร้านคาเฟ่ที่อยู่ตรงข้ามกับโรงอาหารกลาง จะไปซื้อขนมเค้กก่อนกลับหอ”


“คาเฟ่ที่นิเทศขนมก็อร่อยนะพี่เรน สนใจลองไปชิมดูไหม” คราวนี้ครับ... คราวนี้เป็นไอ้ไม้ที่เสนอหน้ามาพูดกับพี่เรน


“อ่า... ไม่เป็นไรดีกว่า ขอบคุณนะ อย่าไปบอกพวกตินานะว่าพี่หลงทางมาที่นี่ บ๊ายบาย” พี่เรนยื่นหน้ามาใกล้ก่อนจะทำเป็นกระซิบ โอ๊ย ให้ตายเถอะฟ้าผ่าตอนที่ทำเป็นกระซิบนี่โคตรน่ารักเลย แล้วยังโบกมือบ๊ายบายอีก น่ารักเหี้ยๆ อะครับ


“อ๋อ...” คนที่เดินไปแล้วหันกลับมาอีกรอบ “ระวังคนโรคจิตนะ ใบหม่อนกับตินาบอกว่าคนโรคจิตนี่ตัวสูงๆ ขาวๆ หน้าตาทะเล้นๆ หน่อย จะว่าไปก็คล้ายๆ นายนะ ระวังตัวเองด้วยนะ พี่ไปแล้ว”


... ใบหม่อน ... พี่ใบหม่อนอยู่กลุ่มเดียวกับพี่เรน ชัดเลย ไอ้โรคจิตตัวสูงๆ ขาวๆ หน้าตาทะเล้นๆ เนี่ย ชัดเลย ...


“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไอ้กาย ไหนมึงว่าพวกพี่ตินาจะช่วยมึงจีบพี่เรนไงวะ กูว่าไม่แล้วละว่ะ” ไอ้เพื่อนเวรนี่ก็พร้อมใจกันหัวเราะเหลือเกิน!


          กาย คามิน @Guy_Kamin
          จะดีใจหรือเสียใจดีนะที่ได้เจอฝน
          ...แต่ผมไม่ใช่โรคจิตนะ #ฝนใจร้าย tt_______tt






************************************************
กลับมาแล้วค่ะ หลังจากไปทำหน้าที่หลานสาวครั้งสุดท้ายให้ก๋งมา ตอนนี้ฟางกลับมาแล้วนะคะ คิดว่าน่าจะสามารถกลับมาอัพไว้บ่อยมากกว่าเดิม(หรือเปล่า) แต่ยังไงก็ไม่ทิ้งเรื่องนี้ไปไหนแน่นอนจ้า ฟางทั้งรักทั้งหลงน้องกายพี่เรนมากมาย ทิ้งไม่ลงค่ะ ^^

คือจะสงสารหรืออะไรดี... อยู่ดีไม่ว่าดี น้องกายก็กลายเป็นคนโรคจิตไปแล้วซะงั้น! 555555555 คือพี่เรนน่ารักมาก นี่ซื่อหรือซื่อ โอ๊ย คนอะไรทำอะไรก็น่าเอ็นดูไปหมด น่ารักแบบนี้น้องกายมันจะไม่รักไม่หลงได้ยังไงละเนอะ ฟางนี่แทบอยากจะถวายทุกสิ่งอย่างให้พี่เรนเลย แลกกับการขอฟัดสักหลายๆ ที ชักแอบอิจฉาน้องกายที่ต่อไปในอนาคตอันไกล(?) จะได้ฟัดพี่เรนสมใจ อิอิ

อย่าลืมคอมเมนต์ให้ฟางด้วยนะ แต่งมาให้อ่านแล้วก็อยากอ่านคอมเมนต์บ้าง คอมเมนต์กันด้วยน๊า พลีสสสสสสสสสส

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เพื่อนเรน แสบมากๆ อิอิ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
พี่ก็สงสารน้องกายนะ แต่พี่ขำมากว่าล่ะ  :m20:

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
โดนพวกพี่สาวเล่นซะแล้วนายกาย เป่าหูพี่เรนคนน่ารักซะดิบดี

งานนี้ไม่หมูเพราะเจ้าหญิงอย่างพี่เรนดันมีองค์รักษ์ปกปักษ์อย่างนานแน่น 555 :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
เรนน่ารักอะ ฮากายได้อีก 55555

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
พี่เรนน่ารักกก หลงทางได้ตลอดจริงๆ
สงสารนายกายนี่กลายเป็นโรคจิตซะละ

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2

ออฟไลน์ AllStaRK

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เรื่องนี้น่ารักอะละมุนละไมสุดๆ :mew1:

ออฟไลน์ Pisoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สงสารกายอ่ะ 55555
พี่ฝนน่ารักมากกกกกก :hao7:

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12


…อยากมีเธอเป็นแฟน อยากเดินควงแขนกับเธอคนที่โดนใจ...
kamin

say-hi ในทวิตเตอร์ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะค




โชคครั้งที่ • 4 •



น้องกาย


หลังจากที่ตั้งสติได้ผมก็หันไปโบกหัวเพื่อนทีละคนโทษฐานหัวเราะกันสนุกสนานที่ผมกลายเป็นไอ้โรคจิต เมื่อได้โบกหัวพวกมันเรียงตัวแล้วผมก็เดินตามพี่เรนไปเรื่อยๆ พอพี่เรนหยุดผมก็หยุด พอหันมามองผมนี่โดดหลบเข้าข้างทางแทบไม่ทัน… เอ่อ… ชักจะทำตัวเหมือนไอ้โรคจิตเข้าไปทุกทีแล้ว


คือผมไม่ใช่โรคจิต! แต่ที่มาเดินตามเนี่ยก็เพื่อจะให้แน่ใจว่าพี่เรนกลับถึงห้องปลอดภัย ไม่ไปหลงทางที่ไหนอีก หลังจากได้เดินตามพี่เรนผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพี่แกถึงได้หลงทางบ่อยๆ ก็พี่ท่านเล่นไม่มองทางเลย เดี๋ยวมองนู้นมองนี่เรื่อยเปื่อยมาก เป็นคนไม่มีความระมัดระวังตัวเลยสักนิด


… อยากมีเธอเป็นแฟน อยากเดินควงแขนกับเธอคนที่โดนใจ


เอ่อ… มาเป็นเพลง พี่ไผ่ พงศธรก็ยังต้องยอมแพ้ให้กับเสียงเพราะๆ ของนายคามิน ชักจะไม่ใช่แหละ


ผมทำเป็นแวะซื้อของกินเมื่อเห็นพี่เรนหยุดอยู่ที่ร้านขายน้ำใกล้ๆ ระหว่างรอคนขายคีบไก่ทอดให้ก็เหล่มองอีกคนไปด้วย ผมรีบส่งเงินให้คนขายแล้วรับถุงไก่ทอดมาเมื่อพี่เรนเดินดูดน้ำแดงไปแล้ว


คนน่ารักทำอะไรก็น่ารักจริงๆ นะ ตอนอ้าปากงับหลอดแล้วดูดนั้น อือหือ… โคตรจะน่ารักเลยอะครับ ปากแดงๆ ที่ดูดน้ำนั้นถ้าเปลี่ยนมาดูด… ไม่ๆๆๆ


สะบัดหน้าไล่ความคิดอกุศลออกจากหัวก่อนที่จะจินตนาการไปไกลกว่านั้น คือ… กายไม่ใช่คนหื่นและไม่ได้โรคจิตนะครับ ผมเป็นคนใสๆ ครับ


ผมเดินตามพี่เรนจนกระทั่งอีกฝ่ายเดินไปถึงหน้าหอ โอเค… พี่เรนถึงหออย่างปลอดภัย แค่หน้าหอขึ้นไปบนห้องคงไม่มีอะไรหรอก ผมยืนมองจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายเข้าหอไปแล้วก็ตั้งท่าเตรียมจะหันกลับไปทางหอตัวเองบ้าง แต่ยังไม่ทันจะได้หันคนที่เพิ่งเดินเข้าหอไปเมื่อกี้ก็วิ่งหน้าตาตื่นออกจากหอมาจนผมได้แต่ตกใจเข้าไปจับพี่เรนเอาไว้ คือจริงๆ แล้วพี่เรนวิ่งจะมาชนผม…


“พี่เรน เป็นอะไรครับทำไมวิ่งหน้าตาตื่นออกมา” ผมร้องถามด้วยความเป็นห่วง


“เอ๋… นาย… คือพอดีพี่ลืมซื้อของกินให้หมีเพิ่งนึกขึ้นได้เลยจะรีบออกไปซื้อก่อน” พี่เรนทำหน้างงไปนิดที่เห็นผมก่อนจะตอบคำถาม


ส่วนผมนี่ทั้งโล่งอก ทั้งงงๆ ปนกันไป โล่งอกที่อย่างน้อยก็ไม่ได้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแต่เจ้าตัวเพียงแค่ลืมซื้อของกินให้หมี แต่ว่าหมี… หมีนี่คืออะไร ชื่อคนเหรอ คนชื่อหมีก็มีเยอะแยะไปนะ แล้วทำไมต้องซื้อของกินให้ด้วย เพราะอยู่ด้วยกันงั้นเหรอ…


ใจผมงี้หล่นไปถึงตาตุ่ม


“แล้วพี่จะไปซื้อที่ไหน” ผมถามออกไป ยังไงก็ต้องรู้ให้ได้ว่าหมีนี่เป็นใคร แล้วทำไมต้องใช้ให้พี่เรนมาซื้อของกินให้ด้วยวะ


“พี่ว่าจะไปโลตัสตรงหน้าปากซอยนี่แหละ” พี่เรนตอบพร้อมกับชี้นิ้วไปทางหน้าปากซอย


“ผมก็กำลังจะไปพอดี ไปด้วยกันนะครับ” ได้ทีก็จัดเลยครับ พี่เรนมองผมงงๆ แต่ก็พยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มให้ มือก็ยกขึ้นดันแว่นตากลมๆ ที่ใส่อยู่ไปด้วย


คนอะไร จะยิ้ม จะดันแว่นก็ยังน่ารัก!


แต่คงจะดีกว่านี้ถ้าพี่เรนระวังตัวมากกว่านี้ เจอหน้า คุยกับผมแค่ไม่กี่ครั้ง แถมยังไม่รู้จักชื่อผมด้วยซ้ำ เจอรวมๆ แล้วยังไม่ถึงห้าชั่วโมงด้วยซ้ำแต่กลับยอมให้ผมเดินไปด้วย ถ้าหากผมเป็นโรคจิตลากเขาไปปล้ำ หรือจับไปปล้นจะทำยังไงเนี่ย


ก็เพราะแบบนี้ไงถึงต้องคอยตาม คอยห่วง ถ้าจับมัดติดตัวได้ผมก็ไม่อยากจะปล่อยไปไหนเลย แต่คนมันไม่มีสิทธิอะ…


โอ๊ย ตอกย้ำตัวเอง เจ็บชิบหายเลย น้ำตาจะไหลเป็นสายน้ำ


ระหว่างที่เดินไปโลตัสผมกับพี่เรนไม่ได้คุยอะไรกันหรอกครับ คือก็อยากจะชวนคุยนะ แต่ก็นึกไม่ออกว่าจะคุยอะไรดี อีกอย่าง… พอได้มาเดินข้างๆ พี่เรนแบบนี้ แขนเบียดกันบ้างเวลาเจอคนเดินสวนไปสวนมา มันก็เลย…


เขินเชี่ยๆ อะครับ >//////<


คือหน้ากูแม่งต้องแดงแน่ๆ อะ


พอมาถึงโลตัสพี่เรนก็หันมาฉีกยิ้มให้ผมแล้วก็บอกจะแยกไปดูของ ผมก็เออๆ ออๆ ไปแต่ก็แอบเดินตามไปเนียนๆ เรื่องอะไรจะปล่อยให้คลาดสายตา ผมไม่ได้จะมาซื้ออะไรเสียหน่อย แต่ก็คว้าตะกร้าหยิบขนมใส่ลงไปหลายห่อเหมือนกัน


คือเท่าที่เห็นยังไม่เห็นอะไรที่จะเป็นของกินให้คนชื่อหมีได้เลยนะ เพราะพี่เรนเอาแต่หยิบของใช้ พวกยาสระผม ครีมอาบน้ำ แม้แต่น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ซึ่งก็ผมส่องแล้วก็เนียนๆ ไปหยิบมาบ้าง ใช้เหมือนพี่เรนเราจะได้มีกลิ่นเดียวกัน คึคึคึ เขินว่ะ!!


เฮ้ยนั่น… พี่เรนเดินต่อแล้ว ผมรีบเดินตามไปต่อ คือเอาจริงๆ ขนาดผมเดินตามโต้งๆ พี่แกยังไม่คิดว่าผมเดินตามเลย มีการหันมาทัก…


“โลตัสมันเล็กเนอะ เดินเจอกันตลอดเลย”


คือไม่ได้เดินเจอ นี่ตั้งใจเดินตามครับ!


“พี่เรนเลี้ยงแมวด้วยเหรอครับ” ผมแกล้งถาม ก็รู้อยู่แล้วว่าพี่เรนเลี้ยง แต่คืออยากหาเรื่องคุยไง


คนน่ารักหันมายิ้มแล้วก็พยักหน้าให้ ก่อนจะหันกลับไปเลือกอาหารแมวต่อ “ใช่แล้ว น่ารักมากเลยนะเจ้าหมีน่ะ”


ห๊ะ! อะไรนะ เหมือนได้ยินอะไร หมีๆ


“หมี?”


“ใช่แล้ว แมวของเราไง อือ… นายเรียกเราว่าพี่นี่ แสดงว่าเราเป็นพี่สินะ อย่างนั้นเอาใหม่… แมวของพี่น่ะ ชื่อหมี น่ารักมากเลยตัวกลมๆ สีขาวๆ” พี่เรนพูดไปก็ยิ้มไปดูท่าจะรักแมวมาก แต่ผมนี่วิญญาณแทบจะออกจากร่าง


นี่กูใจหล่นไปถึงตาตุ่มเพราะคิดว่าแมวเป็นคนเนี่ยนะ มีใครที่ไหนตั้งชื่อแมวแบบนี้บ้างไหม ไอ้กายอยากจะร้องไห้!


“ชื่อแปลกดี… นะครับ”


“ฮ่ะๆๆๆ” พี่เรนหัวเราะครับ คนน่ารักหัวเราะแหละทุกคน น่ารักเหี้ยๆ อะครับ คนอะไรจะทำอะไรก็น่ารักไปหมด


“แต่ชื่อน่ารักดีนะพี่เรน”


“ขอบใจนะ” พี่เรนเงยหน้าขึ้นมาพูดขอบคุณผม พร้อมกับยิ้มกว้าง “นายเป็นคนแรกเลยที่บอกว่าชื่อหมีน่ารัก พวกตินายังว่าพี่เลย บอกว่าใครบ้าที่ไหนมันตั้งชื่อแมวว่าหมี ฮ่ะๆๆ”


เวลาพี่เรนหัวเราะ… ผมว่าเขาน่ารักมาก โลกทั้งโลกมันดูสดใสจนผมได้แต่ยิ้ม


ผมเดินกลับหอพร้อมกับพี่เรนเพราะยังไงหอเราก็อยู่ฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว แม้มันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ผมก็โคตรจะมีความสุขเลยละครับ


“ขอบคุณนะที่เดินไปเป็นเพื่อนแล้วก็เดินกลับมาด้วยกัน ถ้าพี่เดินคนเดียวอาจจะใช้เวลานานกว่านี้ก็ได้” เจ้าตัวเขาว่าอย่างนั้น ตอนนี้เรายืนอยู่กลางถนนในซอยหอ


ผมไม่ตอบแค่ยิ้มแล้วก็พยักหน้ารับเท่านั้น พี่เรนยกมือขึ้นโบกให้ผมก่อนจะเดินเข้าไปในหอ ผมเลยเดินกลับเข้าหอของผมบ้าง และทันทีที่ถึงห้องผมก็ทิ้งของทุกอย่างไว้ข้างประตูก่อนจะเดินไปนอนแผ่ลงบนเตียง ยกมือขึ้นจับหน้าอกตัวเองเอาไว้


วันนี้หัวใจของผมมันทำงานหนักจริงๆ ยิ่งได้อยู่ใกล้ๆ ก็ยิ่งชอบ ก็ยิ่งรักมากขึ้นไปอีก


พี่เรนคือคนที่ควรได้รับการดูแล ได้รับการปกป้อง และผมอยากจะเป็นคนนั้น อยากจะปกป้องรอยยิ้มและเสียงหัวเราะนั้น อยากให้ทุกๆ อย่างของพี่เรน… เป็นของผม


“ถ้าอยากได้… ก็คงต้องเริ่มจีบแบบจริงจังแล้วสินะ”


          กาย คามิน @Guy_Kamin
          ไม่ได้เดินจับมือ ไม่ได้เดินควงแขน แค่ได้เดินข้างๆ กันก็พอใจแล้ว :) #คนน่ารัก







“ไอ้กายๆๆๆ มึงเห็นหรือยังวะ!” เสียงของไอ้ไม้ดังมาแต่ไกลพร้อมกับวิ่งเข้ามาหาผมที่กำลังนั่งเช็คกล้องอยู่ คนอื่นๆ ก็เดินหน้าเครียดตามไอ้ไม้มา


“อะไรของมึงวะ” ผมเลิกคิ้วขึ้นถาม วางกล้องตัวโปรดลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง ไม่ได้หรอกครับลูกรักทั้งทีต้องทะนุถนอมกันหน่อย ซื้อมาแพง


“ในเพจแฟนคลับมึงอะ เมื่อคืนมีคนลงรูปมึงไปเดินโลตัสกับพี่ฝน คนแม่งวิจารณ์กันเต็มเลยสัส พี่ฝนโดนเละเลยว่ะ” ไอ้เกลียวพูดต่อ


ผมงี้ตาโตด้วยความตกใจคว้าโทรศัพท์มาเปิดดูไอ้เพจที่ว่านั่นทันที เห็นแล้วก็ได้แต่ทำหน้าเครียดในเพจมีคนลงรูปของผมที่กำลังอยู่กับพี่เรนในโลตัส เป็นตอนที่พี่เขากำลังเลือกดูอาหารแมวอยู่แต่มันจะไม่เป็นอะไรเลยถ้าไม่ใช่ช่วงที่ผมโน้มตัวลงไปช่วยพี่เรนดูซึ่งภาพนั้นผมใกล้ชิดพี่เรนมากๆ แล้วไหนจะยังมีภาพตอนผมเดินกลับหออีก


ผมไม่ใช่ดารา ไม่ใช่เน็ตไอดอล แค่บังเอิญได้เป็นเดือนคณะเมื่อปีที่แล้ว ผมก็เป็นแค่คนธรรมดาแต่ทำไมทุกคนต้องทำแบบนี้ด้วย ผมจะอยู่กับใคร เดินกับใคร หรือคุยกับใครมันก็เป็นสิทธิของผมไม่ใช่หรือยังไง


ผมกำลังโกรธ กำลังโมโหเพราะคอมเมนต์ต่างๆ นาๆ ใต้รูปนั้น ถ้าว่าผม... ผมไม่สนเลยสักนิด แต่ทำไมต้องว่าพี่เรน


          ... ใครเนี่ย โคตรจะเฉิ่มเลยแล้วทำไมถึงได้เดินอยู่กับน้องกายได้ละเนี่ย จะคบเพื่อนก็เลือกหน่อยก็ดีนะน้องกาย


          ... ทำไมพี่กายต้องยื่นหน้าไปใกล้ด้วย คือรู้สึกไม่โอเคนะ


          ... คนหน้าตาดีๆ เขาเลือกคบคนแบบนี้เหรอวะ 555555555 เข้าใจเลือกคบนะ เทียบกันไม่ติด


          … เห็นพี่กายเข้าไปคุยกับพี่คนนี้สองสามครั้ง หรือพี่กายจะชอบพี่คนนี้ ไม่ไหวมั้งคะพี่กาย พี่กายชอบผู้ชายหนูไม่ซีหรอก แต่เลือกนิดนึงก็ดีนะ นี่โคตรจะเฉิ่มเลย


          .... ไม่แน่นะ เฉิ่มๆ เนิร์ดๆ แบบนี้เรื่องอย่างว่าอาจจะเชี่ยว 5555555555555555



ถึงแม้จะมีบรรดาเพื่อนๆ รุ่นพี่ รุ่นน้องของพี่เรนออกมาโต้ตอบกลับเรื่องที่มีคอมเมนต์ว่าพี่เรนก็เถอะ แต่ผมก็ไม่โอเค... พวกนี้เป็นใคร รู้เหรอว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงก็คิดไปเอง ใส่สีตีไข่จนมั่วไปหมด จนพี่เรนต้องตกมาเป็นขี้ปากของสังคมออนไลน์


“สัส!!! ใครแม่งลงรูปวะ กูจะเอาเรื่องให้ได้เลยคอยดู ไอ้ห่าเอ๊ย!!” ผมแทบอยากจะปาโทรศัพท์ทิ้งด้วยความหงุดหงิด


“เฮ้ย! ใจเย็นไอ้กาย ก่อนมึงจะเอาเรื่องคนลงรูป มึงไปดูพี่เรนหน่อยดีไหม แต่คือเป็นกูกูก็ขึ้นอะ คอมเมนต์ให้สร้างสรรค์หน่อยก็ไม่ได้ พวกนี้แม่งหัวสมองมันไม่มีหรือไงคิดอะไรพิมพ์อะไรมีแต่เรื่องแย่ๆ คนสองคนไปเดินเที่ยวกันแล้วไงวะ มีกฎข้อไหนว่าให้เลือกคบเพื่อน” ไอ้แม็คเองก็คงจะขึ้น มันโคตรจะน่าโมโหเลย


“เออ มึงไปดูพี่ฝนก่อนดีกว่า เดี๋ยวคนถ่ายรูป คนลงรูปพวกกูหาตัวให้เอง” ไอ้เกลียวว่าขึ้นมาอีกคน


ผมพยักหน้ารับ “ยังไงฝากพวกมึงด้วยนะ เดี๋ยวกูไปดูพี่เรนก่อน แม่งเอ๊ย! พี่เรนเขาก็อยู่ของเขาเฉยๆ ต้องมาโดนด่าเพราะกูแท้ๆ แล้วเจอกันมึง”


ผมรีบวิ่งไปที่คณะของพี่เรนทันที รถมหา’ลัยไม่ทันใจผมแล้วครับเพราะต้องไปอ้อมหน้ามหา’ลัยอีกรอบ วิ่งเอานี่แหละทันใจผมมากกว่า วิ่งไปก็หยิบโทรศัพท์กดโทรออกหาพี่ตินาไปด้วย ผมไม่มีเบอร์พี่เรน มีแต่เบอร์ของเพื่อนๆ เขา


“โว้ย! พี่ตินารับโทรศัพท์หน่อยสิพี่” ผมได้แต่บ่นอย่างหงุดหงิดเมื่อพี่ตินาไม่รับโทรศัพท์ ขาก็ออกวิ่งไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าคณะ


ผมเอามือยันเข่าแล้วหอบพลางหันมองซ้ายมองขวาเพื่อหาพวกพี่ตินาไปด้วย ไม่รู้ว่ามีเรียนหรือเปล่า ไม่รู้ว่าขึ้นเรียนหรือยัง ไม่รู้อะไรทั้งนั้น ได้แต่ขอให้เจอพวกพี่เขาด้วย


ดูเหมือนคำขอของผมจะเป็นจริงเพราะที่สวนข้างๆ ตึกผมเห็นพวกพี่ตินายืนอยู่ตรงโต๊ะหินอ่อน พวกพี่ๆ เขายืนกันหมดเหมือนจะล้อมใครไว้ และถ้ามองไม่ผิด... พี่เรน!


ผมตะโกนเรียกก่อนจะวิ่งเข้าไปหา และเสียงของผมก็ทำให้พวกพี่ตินาหันมามอง สายตาของพวกพี่ๆ เขาโคตรน่ากลัว เห็นรูปในเฟสบุ๊คแล้วชัวร์เลย


“พี่เรน!!”





************************************************
น้องกายมันน่ารักกกกกกกกกก รักพี่มากมายจริงๆ อะไรคือแค่เดินข้างพี่เขาก็ฟินขนาดนี้ นี่ถ้าได้เดินจับมือน้องกายมันจะฟินขนาดไหน อุอิอุอิ น่ารักจริงๆ เลยน้องกายเนี่ย (หลงน้องมาก คนแต่งเนี่ยหลงมาก) แล้วดูสิ... แค่ไปเดินกับพี่ไม่กี่นาทีเป็นประเด็นในโลกออกไลน์เลยจ้า ซึ่งมันเป็นอะไรที่จริงอ่างเพื่อนๆ น้องพูดมากมาย สมัยนี้อะไรนิดหน่อยก็กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตได้เลยแค่โพส แอนด์ แชร์ในโซเชียล แน่นอนว่าน้องไม่ปล่อยให้ใครมาว่าพี่แน่ๆ ค่ะ แต่น้องจะจัดการยังไงอันนี้รออ่านกันต่อไปนะคะ ^^

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ΩPRESTOΩ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-1
เพราะพี่เรนน่ารักและเอ๋อเยี่ยงนี้
ตินาแอนด์เดอะแก๊งจึงต้องสวมวิญญาณมนุษย์แม่ตลอด 555

 :กอด1:
 
กายรีบจัดการมือโพสผู้ประสงค์ร้ายเลยนะ
 :beat:

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
รีบจัดการคนถ่ายด่วนๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด