d o u b l e M
f o u r
คาบแรกของวันศุกร์คือโฮมรูม.. ครูไอยราก็ปล่อยตามสบาย ฟรีสไตล์กันไป พูดคุยกันนิดหน่อย ชิลกันทั้งครู ทั้งนักเรียน ตอนนี้มีนนั่งเอนหลังพิงอกจันทร์เจ้า มือก็หมุนรูบิคไปด้วย(ไล่ที่ไต้ฝุ่นมาแหละ อิอิ)
เบื่อเหรอ? งั้นจะเล่าความสัมพันธ์ของพี่กับเพื่อน ๆ ให้ฟังนะ คืองี้ พี่มีนกับจันทร์เจ้าและรามินทร์รู้จักกันมานานแล้ว ตั้งแต่เด็กเลย เรียนโรงเรียนเดียวกันตลอด ทั้งอนุบาล ประถม มัธยมแล้ว ไม่รู้เพราะอะไรขึ้นได้เข้ามาเป็นเพื่อนกันได้ แต่พี่เชื่อว่านี่คือเดสตินี่~~
เหรอ?
ด้วยความที่เป็นพี่ใหญ่ก็ต้องดูแลน้อง ๆ ตอนนั้นจันทร์เจ้าตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ นุ่มนิ่มมาก โดนแกล้งบ่อย ๆ พี่มีนเลยเป็นฮีโร่ไปช่วยจากเด็กเกเรที่ขู่จะแย่งเจลลี่จากน้องจิ๋ว ตั้งแต่นั้นมนุษย์จิ๋วก็ติดมีนแจ.. หรือบางทีก็อาจจะตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียนอนุบาลห้องทานตะวัน งืม.. เมื่อก่อนรามินทร์ก็ตัวเล็ก โดนล้อว่าเป็นตุ๊ดบ่อย ๆ เพราะตาหวานเชื่อมจนลอดช่องยังอาย ร้องไห้แง ๆ มาให้พี่มีนกอด แต่ดูตอนนี้สิ ตัวโตกว่าเขากับจันทร์เจ้าเสียอีก
พอขึ้นมัธยมก็สอบเข้าที่โรงเรียนเดียวกัน ก็โรงเรียนปัจจุบันนี่แหละ มีนกับมินทร์อยู่ห้องเดียวกันนะ แต่จันทร์เจ้าต้องไปอยู่อีกห้อง แต่เราสามคนก็ยังสนิทกันเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเบื่อหน้า เจอกันบ่อยเกิ๊น แต่ขาดไปก็เศร้า เฮ้อ.. มาต่อที่เวฟ ที่รู้จักเวฟเพราะรามินทร์กับเวฟอยู่เป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลเหมือนกันตอนม.ต้น มีนเลยได้รู้จักไปด้วย ส่วนไต้ฝุ่นเพิ่งมาเจอกันกันม.สี่ แต่เหมือนมีบางอย่างที่ดึงดูดให้เราได้มาเป็นเพื่อนกัน มันก็เป็นเช่นนี้แล..
“มีน มือถือสั่น” ไต้ฝุ่นที่นั่งอยู่โต๊ะของมีนบอก มีนณนนท์ละจากรูบิคในมือแล้วหันไปหาคนพูด
“ขอ” ไต้ฝุ่นหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องสี่เหลี่ยมสีขาวในช่องโต๊ะออกมาและวางบนมือเล็กที่แบรอ
Mom♥ : แม่ต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัดสามวันนะคะ 08 : 23
มีนขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะส่งสติกเกอร์หน้างอไปให้คุณแม่ มือเล็กวางรูบิคลงบนโต๊ะพลางลุกขึ้นและเดินออกจากห้องเรียน ในขณะเดียวกันก็กดโทรออกหาผู้เป็นมารดา
(“ครับผม?”)
“ทำไมไปนานจังเลยครับบบบบ”
(“แค่สามวันเองนะคนเก่ง”)
“ไม่รู้แหละ”
(“โอ๋ ๆ ไม่งอแงนะลูก เดี๋ยวแม่ซื้อขนมมาฝากนะจ๊ะ”)
“งื่อ.. มีนต้องอยู่คนเดียวง่ะ ไม่ไปไม่ได้เหรอฮะ”
(“มันเป็นงานค่ะ ยังไงน้องรามินทร์ก็มาอยู่ด้วยอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ หืม?”)
“มันไม่เหมือนกันง่ะ แม่ไปที่ไหนครับ?”
(“เขาใหญ่ค่ะ แล้วนี่ไม่เรียนหรอ?”)
“โฮมรูมครับ ว่าง แม่ต้องไปกี่โมงครับ?”
(“ประมาณสิบเอ็ดโมงค่ะ”)
“... งืม งั้นก็เดินทางปลอดภัยนะฮะ”
(“ครับ! ดูแลตัวเองด้วยนะมีน อย่ากินแต่บะหมี่สำเร็จรูปล่ะ”)
“คร้าบบบ”
(“แม่รักมีนนะ”)
“มีนก็รักแม่ครับ”
“ปากจะชนจมูกแล้วครับ” รามินทร์ใช้ปลายนิ้วเขี่ยริมฝีปากอิ่มสีเชอร์รี่ก่อนจะหัวเราะเมื่ออีกคนทำหน้ายุ่ง
“บู่ววว..”
“เป็นอะไรครับ?”
“แม่นี่จะไปต่างจังหวัดสามวัน” บอกพร้อมกับชูสามนิ้ว
“แค่สามวันเอง”
“โงยยยยยยยย ไม่แค่ดิ”
“งอแงนะ”
“งื่อ.. ไม่อยากให้ไปง่ะ ถ้าแม่ไปนี่ก็ต้องอยู่คนเดียวป่ะ นี่ไม่โอเคอ่ะบอกเลย”
“เดี๋ยวนี่ก็ไปอยู่ด้วยอยู่แล้วไหม หืม?”
ยีเส้นผมนุ่มไปเบา ๆ พร้อมกับยิ้มให้ ลูกแมวหน้างอยิงฟันกลับก่อนจะหน้างอเหมือนเดิม.. เป็นอย่างนี้ทุกที ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณแม่ต้องไปต่างจังหวัดจะงอแงตลอด..
“ห้อยศรีที่ร้ากกกก!” มีนตวัดตาฉับมองเจ้าของเสียง ไต้ฝุ่นยิ้มแหยก่อนจะเริ่มพูด “ขอยืมปากกาเจลหน่อยครับลูกพี่”
“ยี่สิบ”
“โห่ ไรวะ!” มีนเหยียดริมฝีปากแล้วหยิบกระเป๋าเครื่องเขียนสีดำล้วนจากกระเป๋าเป้ออกมาและส่งให้ไต้ฝุ่นทั้งกระเป๋า
“Thx!”
“เลิกแล้วมาหานี่ที่สนามบาสนะ”
“โอเค!”
พยักหน้าหงึก ๆ รับคำรามินทร์พลางดูดน้ำผลไม้ลงกระเพาะ ชั่วโมงนี่เป็นชั่วโมงชุมนุมที่จะให้นักเรียนไปทำกิจกรรมกับชุมนุมที่ตัวเองเลือกเข้า มีนเข้าชุมนุมห้องสมุดแหละ ตอนเข้าก็ไม่รู้คิดอะไร แต่มันก็สบายดีนะ มีแอร์ด้วย นั่ง ๆ นอน ๆ ทำงานบ้างงี้ สบายยยยย รามินทร์กับเวฟเข้าชุมนุมบาสเก็ตบอลแน่นอนอยู่แล้ว ไต้ฝุ่นอยู่ชุมนุมดนตรีสากล จันทร์เจ้าอยู่ชุมนุมเดียวกับมีน
“พี่มีน”
“ว่า?” หันไปหาเพื่อนตัวเล็กกว่าที่เกาะแขนตัวเองอยู่ จันทร์เจ้าเหมือนเด็กที่ชอบออดอ้อนคลอเคลียไม่ต่างจากลูกแมว.. ใครอยู่ใกล้คงต้องตกเป็นทาสความน่ารัก ขนาดพี่ยังชอบให้น้องจิ๋วอ้อนเลย แต่ส่วนใหญ่จะโดนรามินทร์เบรก ฮะฮะ
“อยากกินไอติม”
“ต้องเข้าห้องสมุดแล้ว กินไม่ได้”
“ง่า.. เราอยากกินอ่ะ”
“จากตรงนี้กับมินิมาร์ทมันไกลกันนะครับ” จันทร์เจ้ายู่จมูกพลางถูศีรษะกับต้นแขนของมีนไปมา เว้ยยยย นี่เพื่อนหรือลูกเนี่ยยย!!
“ก็ได้ แต่เลิกเรียนแล้วพาเราไปนะ”
“ครับผม!”
“เย้! รักพี่มีนที่สูดดดดดดดดดดด”
เหอะเหอะ..
ร่างสูงโปร่งนั่งหอบหายใจบนสแตนชั้นล่างสุด มือหนายกขึ้นปาดเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายตามโครงหน้า ก่อนจะกระเพื่อมเสื้อที่ใส่อยู่เพื่อคลายความร้อน นัยน์ตาหวานราวกับสตรีเพศเพ่งมองไปที่กลุ่มคนในสนามบาสเก็ตบอลก่อนจะแสยะยิ้มเมื่อมีคนชู้ตลูกลงห่วงในระยะสามแต้ม เขาออกมาพักหลังจากเล่นไปนานจนเหนื่อย ปล่อยให้คนอื่นเล่นไปแล้วกัน
เทอมนี้มีคนมาสมัครเข้าชุมนุมเยอะกว่าเทอมที่แล้วด้วยซ้ำ มันก็น่าดีใจที่มีคนให้ความสนใจเยอะขนาดนี้ แต่ในอีกแง่มันค่อนข้างวุ่นวายและน่ารำคาญ
“พี่มินทร์คะ..” รามินทร์เหลือบตามองต้นเสียง เด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายดูจากจุดที่ปักบนปกเสื้อแล้วจึงรู้ว่าเด็กคนนี้คือรุ่นน้องมอสี่
“รามินทร์” แก้ชื่อให้ก่อนจะคว้าขวดน้ำขึ้นมาดื่มโดยไม่สนใจเด็กสาวคนนั้น
“เอ่อ.. ผ้า ผ้าเช็ดหน้าค่ะ” เธอพูดอึกอัก ใบหน้าแดงก่ำเมื่อได้พูดคุยและเข้าใกล้กับรุ่นพี่ที่แอบปลื้มตั้งแต่เปิดเทอมวันแรก.. เธอคอยแอบมองรามินทร์อยู่ตลอดโดยไม่กล้าเข้าไปพูดคุย แต่จนสุดท้ายก็ทนแรงยุของเพื่อนไม่ไหว แถมคราวนี้รามินทร์ยังไม่ได้อยู่กับเพื่อนสนิทตัวเล็กคนนั้นด้วย
“ผ้าเย็นกับผ้าขนหนูสองผืนนี่ใส่ไว้ในกระเป๋าให้แล้วนะ” รามินทร์ระบายยิ้มเมื่อเสียงใสของเพื่อนสนิทดังเข้ามาในโสตประสาท เขาลุกขึ้นแล้วเดินหากระเป๋า Duffel สีดำที่วางอยู่ข้างสนามโดยทิ้งเด็กสาวอีกคนให้หน้าเจื่อน รามินทร์ใช้กระเป๋าใบนี้เพื่อที่จะใส่รองเท้า ชุดที่ต้องเอามาเปลี่ยน ผ้าขนหนูไว้ซับเหงื่อ และมีครีมอาบน้ำและแชมพู(แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้ใช้)
หยิบซองผ้าเย็นออกมาแกะก่อนจะโยนอีกซองให้เวฟ รามินทร์ยกกระเป๋าขึ้นพาดไหล่และควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าระหว่างนั้นก็เดินกลับไปนั่งที่เดิม ก็ตรงนั้นมันมีร่มเงาของต้นไม้ลงพอดี..
เมื่อเช็กดูก็พบมิสคอลจากมีนสองสายเมื่อสิบห้านาทีก่อน..
“พี่มินทร์.. พี่รามินทร์มีผ้าแล้วเหรอคะ?” เด็กสาวคนเดิมเอ่ยถาม เธอต้องเปลี่ยนไปเรียกชื่อเต็มของรุ่นพี่ที่เธอชอบเมื่อโดนตวัดมองด้วยความไม่สบอารมณ์
“อืม”
คิ้วเข้มขมวดยุ่งเมื่อกดโทรกลับหามีนแล้วอีกฝ่ายไม่รับสาย ไม่ว่างหรือตั้งใจไม่รับสายเขาเนี่ยมีนา..
“แฮ่!!”
“เชี่ย!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า” หัวเราะพอใจเมื่อแกล้งเพื่อนตัวสูงได้ รามินทร์ส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะยกนิ้วชี้หน้าลูกแมวจอมซน ที่ไม่รับสายเขามาเพราะอย่างสินะ.. ร่างสูงบอกขอโทษเด็กสาวที่เมื่อกี่เผลอขยับตัวไปชนและหันไปให้ความสนใจกับคนมาใหม่ ยื่นมือข้ามไหล่มีนณนนท์ไปไฮไฟว์กับจันทร์เจ้าที่ยืนกินไอศกรีมอยู่
“ทำไมมาเร็ว ยังไม่เลิกไม่ใช่เหรอ?” ถามพลางขยับให้อีกคนนั่งลงข้าง ๆ
“เหลืออีกสิบนาทีเอง เลยออกมาก่อน มันไม่มีอะไรทำด้วย”
“อ๋อ..”
“เราจะฟ้องงงงง!” จันทร์เจ้าชูมือขึ้นสูงพร้อมกับร้องออกมาเสียงดัง รามินทร์จึงหันไปให้ความสนใจ
“หยุดนะจิ๋ว!”
“มีอะไร?”
“มีคนเอาขนมมาให้พี่มีนด้วยแหละ~”
“หืม?” มองคนที่นั่งข้าง ๆ มีนยักไหล่ไม่ยี่หระแต่แยกเขี้ยวใส่จันทร์เจ้า
“น้องเขาต้องชอบพี่มีนแน่เลยยยยยยยยยยย”
“ชอบมะเหงกหนิ เดี๋ยวยันไปนู่น”
“หูย.. เขินเหรออออ” กลอกตาใส่จันทร์เจ้า มนุษย์จิ๋วหัวเราะคิกคักยื่นนิ้วไปเขี่ยแก้มมีนที่ทำหน้ายุ่ง
“โอ๊ยยย! มินทร์! เจ็บบบบบ” นอกจากจะโดนมนุษย์จิ๋วเขี่ยแก้มแล้วเขายังโดนมนุษย์เพื่อนอย่างรามินทร์ดึงแก้มจนยืดดดดดดดด
“บอกมา!!”
“อย่ามาขึ้นเสียงใส่นี่นะ”
“ขอโทษครับ”
จันทร์เจ้าเบ้ปากใส่เพื่อนสนิททั้งสอง อยู่ด้วยกันทีไรก็งุ้งงิ้งกันตลอดจนลืมเขา เชอะ ดูบาสก็ได้!
“น้องเขาจะมาชอบนี่ทำไม ผู้ชายด้วยกันเปล่า”
“...”
“ขนมน้องจิ๋วเอาไปกินหมดละ”
“ถ้ามีคนให้อะไรไม่ต้องรับแล้วนะ”
“ครับปะป๊า” พูดพลางยิ้มทะเล้นก่อนจะโยกศีรษะหลบมือรามินทร์ ในจังหวะนั้นเขาจึงเห็นเด็กสาวกลุ่มหนึ่งมองเขาอยู่.. พวกเธอนั่งบนชั้นที่สูงกว่า มีนยิ้มให้ตามคนอัธยาศัยดี..
“น้องคนเมื่อกี้ใครหรอ?” เกยคางบนไหล่กว้างและถามเสียงเบา รามินทร์เลิกคิ้วสูงแล้วร้องอ๋อเมื่อนึกออกว่าใคร คนที่เข้ามาหาเขาเมื่อสักครู่ก็มีแค่เด็กสาวคนนั้น
“ไม่รู้สิ”
รามินทร์ตอบแล้วหันไปหาคนถาม เพราะมีนยังวางคางบนไหล่เขาทำให้ปลายจมูกของเราชนกัน.. ทั้งสองนิ่งไป.. รามินทร์มองเข้าไปในดวงตาสีอ่อนของเพื่อนตัวเองก่อนจะหันหน้าหนี เขารู้สึกว่าก้อนเนื้อในอกมันเต้นแรงจนกลัวอีกฝ่ายจะได้ยิน..
มีนกระพริบตาปริบ ๆ คิ้วเรียวขมวดหมุ่น ความรู้สึกแปลก ๆ ข้างในนี้มันคืออะไรกัน.. แค่สบตากับรามินทร์เองนะ.. แค่ปลายจมูกชนกันเองด้วย.. ทำไมหัวใจพี่มีนถึงเต้นแรงงี้ล้าาาาา!
“ไอ้เชี่ยรามินทร์มึงมาซ้อมได้ละ!!” เสียงประธานชุมนุมพวงตำแหน่งกัปตันทีมตะโกนมาจากสนามอีกฝั่ง รามินทร์กลอกตาก่อนจะลุกขึ้น ก่อนวิ่งลงสนามก็ยื่นมือมาขยี้ผมพี่มีนเฉยเลย
นิสัย..
สักพักเสียงกริ่งหมดเวลาก็ดังขึ้น.. สมาชิกชุมนุมบาสเก็ตบอลหลายคนหยุดเล่นและวิ่งไปเก็บกระเป๋าเพื่อกลับบ้าน
แต่ไม่ใช่กับทีมนักกีฬา.. พวกเขาต้องอยู่ซ้อมแทบทุกเย็น
“หู้วววว รามินทร์เก่งจังงงงง” จันทร์เจ้าเอ่ยเมื่อเพื่อนตัวสูงกระโดดชู้ตลูกสีส้มอิฐลงห่วง
“เฉย ๆ อ่ะ”
“พี่มีนทำได้เปล่า?”
“ไม่”
“โวะ!” มีนหัวเราะเสียงใส จันทร์เจ้าล่ะไม่เก็ทความกากของพี่มีนเลย งืม..
ตอนนี้บนสแตนเชียร์มีนักเรียนนั่งอยู่กันหลายคน แม้จะเลยเวลาเลิกเรียนไปเกือบยี่สิบนาทีแล้วก็ตาม..
“โอยยยยแก พี่มินทร์อย่างเท่เลยอ่ะ” เด็กสาวคนหนึ่งเอ่ยกับเพื่อน พวกเธอนั่งถัดจากมีนไปสองชั้น ระดับเสียงที่ไม่ดังแต่ก็ไม่เบาทำให้เขาได้ยินชัดเจน
“นั่นสิแก ยิ่งตอนกระโดดดั้งก์นะ กรี๊ด!”
“พวกแกอย่าไปเรียกสั้น ๆ อย่างนั้นสิยะ”
“อะไรอ่ะ?”
“ชื่อไง ไม่รู้หรอว่าต้องเรียกเต็ม ๆ เว้ยยย คนที่เรียกพี่รามินทร์ว่ามินทร์ได้
มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ”
หืม?
จริงเหรอ?
แต่มีนเรียกมินทร์ว่ามินทร์นะ ;-;
“พี่มีน!! จริงใจกับจ๋าจ้ามาแล้วเราไปก่อนนะ”
“อ้าว โอเคงับ บ๊ายบาย”
“บ๊ายบาย จุ๊บ ๆ” จันทร์เจ้ายิ้มตาปิดโน้มหน้ามาจุ๊บแก้มพี่มีนสองทีแล้ววิ่งไปหาน้องชายและน้องสาวที่ยืนรออยู่ เมื่อตอนเด็ก ๆ จริงใจว่าหล่อแล้วนะ ตอนนี้หล่อกว่าเดิมอีกง่ะ เด็กมอสามมันหล่อขนาดนี้เลยเหรอ? ส่วนน้องจ๋าจ้าก็น่ารักมากเลยด้วย แต่นิสัยเจ้าหล่อนติดจะเกรียนไปนิดและห้าวเกินหญิงไปหน่อย
“แฮ่ก..” ไม่นานรามินทร์ก็วิ่งมาหยุดตรงหน้าเขา
“มีนา ขอน้ำหน่อยครับ” สาว ๆ บนสแตนแทบจะไปป้อนถึงปาก.. มีนส่งขวดน้ำให้เพื่อนตัวสูงดื่มแก้กระหายพร้อมกับยกมือเล็ก ๆ ขึ้นพัดให้
“อยากกลับยัง? เบื่อไหม?”
“ไม่เท่าไหร่”
“อ่ะฮ่ะ พี่เจ็น! กลับละนะ!!” ตะโกนบอกกัปตันทีม พอเจ้าของชื่อได้ยินก็ถึงกับขว้างลูกบาสในมือใส่ลูกทีมคนเก่ง แต่มันดันพลาดจะไปโดนมีน.. โชคดีที่รามินทร์ยื่นมือไปปัดมันออกได้ทัน
“อยู่ซ้อมก่อนดิวะ” เจ็น หรือ เจ็นเนอร์ เด็กหนุ่มตัวสูง รูปหน้าหล่อเหลา ว่าพร้อมกับเดินเข้ามาหาพวกเรา พี่เจ็นเนอร์อยู่มอหกแหละ อย่างป๊อปอ่ะ คงเพราะเป็นลูกครึ่งและยังมีตำแหน่งมากมายพวงด้วยอีก
“เก่งแล้ว ซ้อมทำไมเยอะแยะ”
“แหวะ” มีนส่งเสียงล้อเลียนก่อนจะร้องโอ๊ยเพราะโดนดึงแก้ม
“มีนบอกมันหน่อยดิ”
“ขนาดกัปตันทีมอย่างพี่เจนนี่บอกมินทร์ยังไม่ฟังเลยนะ” คนถูกเรียกว่า
เจนนี่ กลอกตา ไอ้เด็กเวรนี่ ชื่อเขาดี ๆ เรียกซะเสีย เพราะหน้าตาน่าเอ็นดูหรอกถึงยอมให้ ถ้าไปคนอื่นโดนซัดคว่ำไปแล้ว อีกอย่างก็โดนมันเรียกอย่างนี้ตั้งแต่รู้จักกันวันแรก.. ปลงครับ
“เอ้า เผื่อมึงบอกแล้วมันฟังไงครับน้องมีนานุช”
“มีนานุชพ่องเหอะพี่เจนนี่! ไม่ต้องซ้อมแล้วมินทร์ กลับเหอะ ป่ะ!”
“เค เก็บของเลยครับ”
“ไอ้เด็กเหี้ยยยยยยยยย” มีนและรามินทร์หัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อเจ็นเนอร์ทำเหมือนจะลงไปดิ้นกับพื้น
ตลกอ่ะ ผู้ชายตัวโต ๆ มาทำงี้คิดว่าน่ารักเหรอ พี่มีนไม่คิดงั้นนะ คนชิค ๆ อย่างพี่มีนไม่ทำงั้นหรอก เชื่อสิ
“ซ้อมต่อก็ได้นะ”
“หึ ขี้เกียจ”
มันต้องกล้าขนาดไหนถึงจะพูดอย่างนี้กับกัปตันทีมได้.. เจ็นเนอร์ร้องไห้ทำไม
“หูยยย.. นี่สงสารพี่เจนนี่อ่ะ ดูหน้าดิ เหมือนฮันเตอร์ บัสเตอร์ ตอนไม่ได้กินลูกชิ้นเลยง่ะ”
รามินทร์หัวเราะเบา ๆ เหมือนจะดีนะ หึ ฮันเตอร์ บัสเตอร์คือสุนัขที่รามินทร์เลี้ยงไว้ พันธุ์ซามอยด์และโกลเด้นรีทรีฟเวอร์..
“ไอ้พวกเชี่ยยยย! จะไปไหนก็ไปเลยพวกมึง!”
“55555555555555 โอ๋ ๆ นะ พี่เจนนี่ไม่งอแงนะ เดี๋ยวซื้อลูกชิ้นมาให้น้าาาา”
ว่าจบก็กระโดดหลบหลังรามินทร์ งูย.. พี่เจนนี่จะตีเขาง่ะ พี่ไม่สู้คน
“ฮอตนะเราอ่ะ”
มีนเอนตัวชนไหล่รามินทร์ระหว่างยืนรอคนรถมารับที่หน้าโรงเรียน สาว ๆ งี้มองรามินทร์กันพรึ่บเลย เพื่อนตัวสูงของเขายังอยู่ในชุดบาสเก็ตบอลอยู่ เล้นผมสีดำขลับชื้อเหงื่อถูกเสยขึ้นลวก ๆ แทนที่จะดูแย่แต่มันกลับยิ่งดูดี ผิวขาวโผล่พ้นเสื้อขึ้นรอยแดงนิดหน่อยเพราะโดนแดดทำร้าย ใบหน้าหล่อเปื้อนยิ้มละมุนกอปรกับนัยน์ตากลมพราวระยับยิ่งดูน่ามอง..
“หือ อะไร?”
“มีแต่คนมองมินทร์อ่ะ”
“หวงเหรอ?” มีนเลิกคิ้วสูงกับคำถามของเพื่อนสนิทก่อนจะหัวเราะเบา ๆ
รามินทร์เล่นมุกอีกแล้ว..
“อื้อ เมียใครใครก็หวงแหละ”
“จ้า -_-”
“ไม่ทำหน้างั้นดิ”
“-[++]-”
ละมายิงฟันใส่เขาทำไม
ก่อนจะได้ตบตีกันก็มีรถยนต์สัญชาติยุโรปมาจอดเทียบที่พวกเขายืนอยู่ รามินทร์เปิดประตูด้านหลังออกแล้วดันตัวเพื่อนตัวเล็กเข้าไปก่อนก่อนตัวเองจะตามเข้าไป
“สวัสดีครับคุณลุง” มีนทักทายคุณคนขับรถ ขยับตัวยุกยิกดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาด ผิดกับอีกคนที่พอเข้ารถก็เอนศีรษะมาพิงไหล่เขาเตรียมหลับซะงั้น
“สวัสดีครับคุณหนู”
“โง้ยยย เรียกคุณหนูอีกแล---” พูดยังไม่ทันจบมือใหญ่ ๆ ของรามินทร์ก็ยื่นมาปิดปาก
“ให้ไปส่งที่ไหนครับ?”
“กลับบ้านก่อนครับ” รามินทร์ว่างั้น
วันนี้รามินทร์จะไปนอนที่บ้านของพี่ง่ะ จะว่าไปรามินทร์ขลุกอยู่บ้านพี่มีนบ่อยกว่าบ้านตัวเองอีกนะ ไม่ไหว ๆ
------------------------------
สวัสดีค่าาาาา พาเด็ก ๆ มาเสิร์ฟ มีตัวละครเพิ่มมาอีกแล้ว5555555555
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ เรื่องนี้อาจจะอัพช้าหน่อยแต่จะพยายามมาอัพให้น้าาา
ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ ♥
