--‘รัก’ มันคือพรหมลิขิต--- End [25/05/2558]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: --‘รัก’ มันคือพรหมลิขิต--- End [25/05/2558]  (อ่าน 2352 ครั้ง)

ออฟไลน์ BlackWinddy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม





ยินดีต้อนรับเข้าสู่อาณาจักรของคนแอบรักค่ะ ขอให้ท่านมีความสุขกับการอ่าน ^^


เรื่องสั้นเรื่องนี้ เป็นเรื่องต่อจาก 'รัก'แค่เพียงคำเดียวเท่านั้นค่ะ
จะออกเป็นภาคๆ และพยายามทำให้สั้นที่สุดเท่าทีทำได้
ตอนแรกก็กะว่าจะเขียนตอนเดียว แต่ไปๆมาๆ ดันได้ตอนเดียวไม่จบซะอย่างงั้น
คนเขียนจะมาต่อเรื่อยๆนะค่ะ พยายามไม่ให้เกินสามตอน
อยากให้จะได้คอนเซ็ปเดิม เหมือนกับตอนแต่ง One shot -- 'รัก'คำเดียวเท่านั้น ซะจริงๆ

เพิ่งเขียนเสร็จวันนี้ ตรวจสอบคำผิดเรียบร้อยแล้ว
ถ้าไม่ว่ายังไง ก็ลองอ่านกันดูนะค่ะ

ฝากเรื่องนี้ด้วยนะค่ะ


 :กอด1: :กอด1:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2015 21:25:45 โดย BlackWinddy »

ออฟไลน์ BlackWinddy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ‘รัก’ มันคือพรหมลิขิต
«ตอบ #1 เมื่อ21-05-2015 19:29:37 »






‘รัก’ มันคือพรหมลิขิต





        [part : ไพเรส]


        “อ๊ะ... อย่าตรงนั้นมัน..”

        เสียงครวญครางดังขึ้นจากห้องข้างๆ ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย
พี่เมฆนะพี่เมฆ ทิ้งน้องที่เพิ่งมาถึงประเทศแล้วไป จู้จี้สวีวี้วีกับนายหน้าจืดคนนั้นได้ยังไงกัน ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทำไมญาติอย่างผมต้องมารอเขาทำอะไรๆกันจนเสร็จด้วยเนี่ย!

         “อ๊ะ.. อ๊า..”

         “ใจเย็นๆ.. ผ่อนคลายนะครับ”
 
         “มัน.. เจ็บ”

         “...แฮกๆ อรุณ แน่นไปแล้ว”

         “ฮา... อ๊า!!”

         พี่เมฆไม่รู้รึไงว่าผนังมันบางนะ ทำหน้าหงุดหงิดใส่ห้องข้างๆ แม้จะว่าเขาจะมองไม่เห็นก็ตาม ก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นมาใส่ แต่ดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ผิดถนัด เมื่อเนื้อร้องมาถึง ความหมายของเพลงมันทำให้ผมนึกถึงใครบางคนขึ้นมา คนๆนั้นเป็นคนเงียบๆแต่กลับน่าสนใจ ถึงแม้ว่าครั้งแรกที่ผมได้พบกับเขาจะไม่น่าจดจำเท่าไรนัก









         ‘เธอ’เสียงสำเนียงแปร่งๆเรียกให้ผมหันไปมอง เห็นชายหนุ่มชาวเอเชียคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาหาผม เขามองผมนิ่งๆ ก่อนจะพูด ‘รู้จักคนชื่อ ไพเรส ไหม’

          ผมมองไปที่ชุดนักศึกษาของเขา ก่อนจะส่งยิ้มไปให้ ดูเขาอึ้งนิดๆ เหมือนทำตัวไม่ถูกที่ได้พบผมซะอย่างนั้น หรือไม่บางที ผมก็อาจจะคิดไปเอง

          ‘คุณเป็นเพื่อนพี่เมฆที่จะมารับฉันใช่ไหม?’

           เขาพยักหน้า ก่อนจะยืนมือมาจับผมเหมือนที่ชาวต่างชาติเขากัน แต่ผมเลือกที่ลุกขึ้นยืนเข้าไปแตะริมฝีปากเขาเบาๆ แล้วรีบผละออกมา

           ใบหน้าขาวซีดขึ้นสีระเรื่อ จนผมอดขำออกมาไม่ได้

          ‘มันเป็นการทักทายของครอบครัวผมครับ สำหรับคนที่ครั้งแรกรู้สึกถูกชะตาด้วย และเป็นรุ่นพี่ของพี่เมฆ ผมควรจะทักทายคุณแบบนี้’ผมเอานิ้วแตะริมฝีปากตัวเองเบา ในขณะที่เขากลับมาทำหน้านิ่งเช่นเคย

         ....เป็นอย่างที่พี่เมฆบอกเลย คนๆนี้อย่างกับรูปปั้นเดินได้

         ผมหัวเราะออกมา ก่อนจะไปจับแขนเขาไว้

         ‘มารับฉันไปหาพี่ไม่ใช่เหรอ ไหนรถของนายละ?’







         ฉันว่าฉันชอบนายนะ แล้วนายละ ชอบฉันรึเปล่า?’ผมถามเขา ในขณะที่เรานั่งอยู่ในห้องของผมกันสองคน ข้างๆห้องมีพี่เมฆนอนเมาอยู่ ท่าทางจะดื่มหนักมาก คงไม่มีทางได้ยินหรอก

         หลี่ ชานมองผมด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ก่อนจะยืนหน้าเข้ามาจูบผมอย่างอ่อนโยน

         อ่า.. นี่คงเป็นคำตอบของคุณสินะ

          ผมไล้มือลงไปลูบเป้ากางเกงของเขา แต่ก็ถูกมือหนาจับไว้ซะก่อน

         ‘อย่าใจร้อนสิ’เขาเงยหน้าขึ้นมาพูด หลังจากที่มัวเมาอยู่กับซอกคอผมอยู่นาน ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเกือบดำในตอนนั้นมองผมอย่างกับสัตว์ล่าเนื้อ มันทำให้ผมพอใจไม่น้อย ที่ได้เห็นสีหน้าแบบอื่นของเขา






         ‘ชาน วันนี้พี่เมฆไม่อยู่บ้าน มาหาฉันหน่อยสิ’ผมโทรหาเขาครับ และเขาก็ขับรถมาหาผมทันที่ พอเข้าเดินประตูบ้าน ผมก็รีบวิ่งไปกระโดดกอดเขา ขาทั้งสองข้างเกี่ยวรอบเอวเขาไว้โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้บ่นหรือว่าอะไรในการกระทำอันกะทันหันของผม    เขาจูบผม สอดลิ้นเข้าไปในโพรงปาก มือขวาของเขาปิดประตูบ้าน ก่อนจะอุ้มผมไปยังห้องนอน





       ความสัมพันของเราเป็นไปด้วยดีมาตลอด ผมกับเขาแอบคบกัน แอบมีเซ็กกัน โดยที่ไม่ให้พี่เมฆรู้ จนอยู่มาวันหนึ่ง เขามาหาผมที่บ้าน มองผมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

       ‘นายคบฉันเพราะอะไร’เขาเอ่ยถาม
 
        ‘เพราะรักไง’

         ผมรีบตอบกลับเขาทันที ในตอนนั้นรู้สึกไม่ดีแปลกๆ วาวตาของเขาที่มองผมดูเจ็บปวด เขาดูเจ็บแค่ไหน ผมก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดมากกว่า

        ‘เพราะรัก?’เขาถามเสียงสูงกว่าปกติ ก่อนจะพูดต่อด้วยคำที่ทำเอาผมแทบไม่มีแรงลุกขึ้นยืน ‘หรือเพราะอยากเอากันแน่?’
เขาคิดว่าผมเป็นคนยังไงกัน ถึงได้มาถามผมแบบนี้

         ผมตบหน้าเขาแรงๆไปทีหนึ่ง ก่อนจะร้องไห้ออกมา ผมปิดประตูใส่เอา ก่อนจะทรุดลงไปทำพื้น

          ‘ฮึก... ฮือ...’ผมพยายามกลั้นเสียงสะอื้น ไม่ให้พี่เมฆที่อยู่ข้างบนได้ยิน แต่ดูเหมือนมันจะไม่ทันการซะแล้ว เมื่อพี่เมฆยืนอยู่ตรงหน้าผม พร้อมกับมองผมอย่างเป็นห่วง ผมโถมตัวเข้ามาพี่เมฆ ก่อนจะร้องไห้ออกมาเสียงดังราวกับเด็กเล็กๆที่ไม่รู้จักโต
เขาทำแบบนี้กับผมได้ยังไงกัน ทั้งๆที่ผมทั้งรักทั้งจริงใจต่อเขามาตลอด
.
.
.
.
.
.
.
.
.
        ผมปาดน้ำตาที่ไหลออกมา ก่อนจะดึงหูฟังออก

         เรื่องในอดีต มันก็คืออดีต อย่าไปคิดถึงคนๆนั้นให้เสียน้ำตาเลย
          ที่ผมต้องมาใส่วิกผมยาว ใส่ชุดผู้หญิงก็เพราะว่าคนๆนั้น





 
         [Part : หลี่ ชาน]

         ผมเหลือบตามองเวลา ก่อนจะถอนหายใจอย่างแผ่วเบา เมื่อ เมฆ เลขาของผมหายไปสามชม.แล้ว ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน

        “ไม่ว่าง” นั่นคือคำพูดแรกจากเมฆ รุ่นน้องที่จบมาจากฝรั่งเศสของเขา แต่แค่คำทักทายแรกเท่านั้น เขาก็รู้ได้เลยทันทีว่า แผนการของอีกฝ่ายไปได้ด้วยดี ถึงแม้จะทำให้ให้อรุณมาทำงานไม่รอดก็ตามที

        “ฉันแค่จะโทรมาบอกว่า อย่าลืมที่เราสัญญากันเอาไว้ละ”

        “รู้แล้วน่า รุ่นพี่นี่พูดมากจังฮะ เดี๋ยวไม่เกินสี่เดือน ไพเรสจะต้องติดต่อรุ่นพี่แน่นอน”

         พูดมากก็ว่าผมอีกนะ รุ่นน้องคนนี้

         ช่างต่างกับใครบางคนซะจริง ที่ทั้งซื่อตรง จริงใจ ยิ้มสวย และชอบทำหน้าตาตื่นตกใจทุกครั้งที่ผมพูดมากเกินสี่พยางค์ต่อวัน

         “ให้มันจริงเถอะ”ผมตอบกลับเขา แต่ดูอีกฝ่ายจะไม่สนผมเลย ตอนนี้คงสนใจจะรังแกเลขาของผมมากกว่า ถึงได้พูดสั้นๆแค่สามพยางค์ พอพูดจบก็วางสายไปเลยทันที

         ผมเหยียดยิ้มนิดๆ ชักจะเริ่มรู้สึกสงสารอรุณเข้าแล้วสิ ไม่รู้ว่า เผลอไปชอบคนเจ้าเล่ห์แบบนั้นได้ยังไงกัน
นี้ถ้าผมไม่สั่งให้ลูกน้องไปสืบความจริงจากรูปถ่ายของเมฆในวันนี้ ผมคงยังเป็นไอ้โง่ที่ทำลายคนรักของตัวเองได้ลงคอแน่นอน
รูปที่ไพเรสจูบกับใครบางคนอยู่ รูปไพเรสที่อยู่กำลังนอนเปลือยอยู่บนเตียงในห้องที่ผมไม่รู้จัก พร้อมกับข้อความที่ว่า เลิกยุ่งกับเขาซะ นายไม่ใช่คนเดี่ยวที่เขามีอะไรด้วยหรอก

         ‘ถึงผมจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แฟนไพเรสฝากมา’เมฆพูด เขามองหน้าอย่างเห็นใจ ‘พี่ไปทำอะไรไว้?’เขาถามผมอย่างเป็นห่วง ตอนนั้นผมไม่ได้ตอบกลับอะไรเขา กำหนัดตัวเองไว้แน่น ก่อนจะเดินออกไปจากผับ พร้อมกับส่งข้อความไปหาไพเรน
พรุ่งนี้ว่างไหม
รออยู่ไม่นาน ไพเรสก็ตอบกลับผมมาว่า ว่าง จะมาเหรอ คิดถึงจังง

          ...แหม ท่าทางระริกระรี้เชียวนะ

          นั้นคือความคิดผมในตอนนั้น วันรุ่งขึ้นผมก็รีบขับรถไปบ้านของเมฆ ไพเรสเป็นน้องชายต่างแม่ของเมฆครับ เป็นเด็กที่เกิดและโตมาในประเทศสเปน เขามีใบหน้าที่สวยคมเข้ม กับดวงตาสีน้ำข้าว ถ้าไม่ดูให้ดีอาจจะคิดว่าเป็นผู้หญิงได้ เขาสวยจริงๆ สวยจนแม้แต่ทำให้คนที่ไม่เคยสนใจใครอย่างผม เขินอายได้
ในวันนั้นผมเหลือพูดรุนแรงกับเธอไป ไพเรสตบหน้าผม

         ...เธอร้องไห้

        ผมมองเธออย่างเจ็บปวด ยิ่งเห็นเธอเจ็บมากเท่าไร ฉันก็ยิ่งรู้สึกเจ็บยิ่งกว่า

        เธอปิดประตูใส่ผม

        ในวันนั้นผมยืนพิงประตูไว้ รู้สึกเหมือนหมดแรงที่จะเดินออกไป ผมได้ยินเสียงเธอสะอื้น ได้ยินเสียงเมฆที่คุยกับเธอเบาๆ และเสียงร้องไห้ดังลั่นบ้านเหมือนกับจะขาดใจตาย
ผมยกมือขึ้นมาแตะแก้มซ้ายของตัวเอง

      ...นี้ผมร้องไห้?

      ...คนอย่างผมร้องไห้งั้นเหรอ

       ผมขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะเดินไปที่รถและกดโทรศัพท์โทรหาคนที่น่าจะช่วยผมได้มาที่สุด แม้มันจะทำให้ผมต้องสืบทอดตำแหน่งเร็วมากขึ้นก็ตาม คนๆนั้นคือ ปู่ของผมที่เป็นมาเฟียอยู่ที่ฮ่องกง

       หลังจากที่ผมรู้ความจริงครั้งหมด รูปที่เธอจูบกับใครนั้นก็คือเมฆเอง เพียงแต่เขาปรับมุมและเห็นภาพไม่ชัดเจน ส่วนเตียงที่ไพเรสนอนอยู่นั้น เป็นโรงแรมห้าดาวที่หนึ่งในอิตาลีที่มีญาติของเมฆซื้อไว้เวลาไปพักผ่อน
หากย้อนเวลากลับไปได้ ผมอยากจะต่อยเมฆแรงซักทีตั้งแต่ตอนที่เขายื่นรูปมาให้ผม
หากย้อนเวลากลับไปได้ ผมอยากเป็นคนที่สุขุมและเยือกเย็นมากกว่านี้ เพื่อจะไม่ทำให้เธอเจ็บปวด
หากเป็นไปได้ ผมจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตเพื่อชดใช้เธอ ผู้เป็นเหมือนแสงสว่างเพียงดวงเดียวของผม

       และกว่าผมจะรู้ความจริงทุกอย่าง ไพเรสก็บินหนีผมไปไกลแสนไกลแล้ว แม้กระทั้งผมสั่งให้ลูกน้องของปู่ตามหาเธอทั่วทุกมุมโลก ผมก็ยังหาเธอไม่เจอ

        เพราะแบบนี้ไง ผมถึงต้องทำข้อแลกเปลี่ยนกับเมฆ เพราะแบบนี้ผมถึงต้องส่งอรุณไปให้กับเขา
เมฆ เขาได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ ในขณะที่ผมเป็นคนที่ได้แต่เฝ้ารอเธอเท่านั้น

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ทำไมเมฆทำอย่างงั้นล่ะ จะลองใจรุ่นพี่รึเปล่า
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คุณหลี่ก็หึงจนหน้ามืดเหมือนกันนั่นล่ะค่ะ เฮ้อ~ แทนที่จะสอบถามความจริงจาก
ไพเรสเสียก่อน เอาเป็นว่า สู้ๆ เข้านะค้าา ^^ ..รอตอนต่อไปจ้า~

ออฟไลน์ BlackWinddy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Hello!! ไม่สนใจสนใจตรงนี้ก็ได้ค่ะ แค่อ่านอักษรสีส้มก็พอ :z2:
ทันที่ทีเปิดมาตอนเที่ยงแล้วเห็นคอมเม้น คนเขียนก็ทำท่าอย่างนั้นแหละ 555
พอกระโดดโลดเต้น วิ่งเล่นกับแมวเสร็จ
คนเขียนก็รีบไปอาบน้ำ แล้วมาเขียนตอนต่อทันทีเลยค่ะ =.=b

ขอบคุณนะค่ะ สำหรับกำลังใจ สองคนแรกที่ติดตามมาตั้งเเต่เรื่องของเมฆ

แต่คนอ่านก็ใจดีนะ ดูไม่ค่อยเอาเรื่องเมฆเลย เป็นคนเขียนนี้ เริ่มจะเกลียดมันตั้งแต่เขียนไพเรสตอนแรกแล้ว(ความคิดมันเพิ่งโผล่ก็อย่างนี้แหละ) แล้วชักอยากกลับไป เขียนให้อรุณที่น่ารักเล่นตัว ให้มันอึดอัดตายมากกว่านี้


คนเขียนเป็นคนคิดไวทำไวค่ะ ทันทีที่มีกำลังใจ คนเขียนก็ทำทันที
แต่ถ้าวันไหนหมดกำลังใจ หมดเเรง เบื่อ หมดจินตนาการละก็ หัวนี้ กลายเป็นขี้เลื่อยที่เลื่อยไปมาทันทีเลยค่ะ  :z10:
อุ๊ย เมาเพลินไปแล้ว สงสัยจะดีใจมากเกิน ไปอ่านต่อกันเถอะค่ะ ^^






         [part : ไพเรส]

         ผมหยิบสมุดขึ้นมาวาดรูปเล่นระหว่างรอเวลา เสียงครางและเสียงโต๊ะเลือนไปมาดัง เอี๊ยดๆๆๆ ยังคงดังไม่หยุดหย่อน
ผมชักจะรู้สึกสงสารพี่หน้าจืดคนนั้นซะแล้วสิ ดูหน้าในตอนแรกก็รู้เลยว่าใสมาก... ใสๆแบบนั้น คงจะไม่เคยโดน ของพี่ชายผมเล็กซะที่ไหน

         ติ๊ด ติ๊ด

         เสียงข้อความเข้า ทำให้ผมกดมันเพื่อจะเปิดออก

          •   แกอยู่ไทยใช่ไหมตอนนี้?

          เพื่อนสนิทของผมที่อิตาลีส่งมาถาม

           ผมส่งสติ๊กเกอร์พยักหน้าไปให้

          •   แกรู้ป่ะ.. คนนั้นๆของแกก็อยู่ไทยนะ

           ผมส่งสติ๊กเกอร์ปริศนาให้มัน

         •   ไม่ต้องทำหน้างงเลย คนที่ทำให้แกต้องแต่งหญิงจนถึงทุกวันนี้นั้นแหละ
         •   นายตี้ ตี่.. อะไรซักอย่างนะ ลูกเจ้าพ่อมาเฟียไง

         ผมขมวดคิ้วใส่โทรศัพท์

          •   เขาชื่อหลี่ ชาน เป็นแค่หลาน ไม่ใช่ลูก  :beat:

          •   เอ่อๆ ก็นั้นแหละ

          •   รู้ป่ะ ตอนนี้เขาอยู่ไทยนะ
          •   พี่กูเพิ่งจะติดต่องานกับเขาไป
          •   กูค้นแฟ้มที่บริษัทแล้วดันเจอรูปเขากับเอกสารอ่ะ
          •   รู้สึกจะชื่อ บริษัทซ่านซีอ่ะ

          ผมลุกขึ้นมาจากโต๊ะทันที พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ใส่ลงในประเป๋า ในนาทีนี้ ไม่สนใจแล้วว่าเพื่อนมันจะพิมพ์อะไรมาให้ผม ผมแค่อยากจะไปเห็นเขา คนที่ผมคิดถึงตลอดมา เพียงแค่เสี้ยววินาทีก็ยังดี
 
          ผมกวักมือเรียกแท็กซี่ทันทีที่ออกมาจากหน้าบริษัทของพี่เมฆ หลังจากที่บอกที่อยู่กับพี่แท็กซี่ไป ในใจผมก็มีความคิดต่างๆนาๆเกิดขึ้นมามากมาย

          เขายังสบายดีไหมนะ ยังแข็งแรงดีอยู่รึเปล่า ถ้าเขาเห็นผม เขาจะจำผมได้ไหม ไม่สิ เขาเกลียดผมอยู่นี้น่า ถึงเขาจะสั่งให้ลูกน้องของปู่ที่เป็นมาเฟียตามหา แต่ก็ใช่ว่าคนเราจะเปลี่ยนความคิดกันได้ง่ายๆนั้นคือคำพูดที่พี่เมฆว่าไว้

          ‘เพราะรัก? หรือเพราะอยากเอากันแน่?’ คำพูดของเขาในตอนนั้นยังคงดังก้องขึ้นมาในหัว

          ‘พี่ไม่แน่ใจในตัวเขา ว่าเขาจะมาทำร้ายเราอีกรึเปล่า’คำพูดของพี่เมฆดังขึ้นมาในหัวผม ‘ใส่วิกนี้ไว้ จากสายข่าวพี่บอกมา คนที่ตระกูลหนีตามหาอยู่นั้นคือผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง’

           ผมเอามือจับผมสีน้ำตาลแดงของตัวเองที่ยาวเลยบ่ามาหน่อยๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงจะใส่วิกอย่างที่พี่เมฆให้มา แต่นี้มันสองปีกับ 36 วันแล้วที่ผมหายตัวไปจากชีวิตเขา

          หลี่ ชาน.. นายคงสบายดีอยู่รึเปล่านะ






          ผมก้าวเท้าลงจากรถ ก่อนจะส่งเงินให้กับคนขับ

          อื้อหื้อ!! บริษัทของเขาใหญ่พอๆกับของพี่เมฆเลย ผมเดินเข้าไปในบริษัทอย่างตื่นเต้น บริษัทของเขา ที่ๆเขาอยู่ ที่ๆเขาทำงานอยู่.. แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว

          หลี่ ชาน ได้ทำงานตามที่หวังไว้แล้วสินะ ดีใจจัง เห็นก่อนหน้านี้เขายังบ่นๆอยู่เลยว่า ปู่อยากให้รับงานมาเฟียแทน ผมนี้แอบขนลุกไม่ได้เลย
          หลี่ ชานในมาดมาเฟียเหรอ.. ก็น่าสนนะ แต่ไม่เอาดีกว่า ผมยังไม่อยากให้เขาเป็นอะไรไป

          “มาหาใครครับ”ผู้ชายที่นั่งประชาสัมพันธ์ลุกขึ้นยืน แล้วเดินเข้ามาถามผมด้วยภาษาอังกฤษ

          ผมส่งยิ้มหวานให้เขา ทำเอาเขาเคลิ้มไปเลยทีเดียว

           ...สยสัยคงไม่เคยเจอคนต่างชาติมั้งครับ ถึงได้มองกันใหญ่ขนาดนี้

          “คุณหลี่ ชาน อยู่รึเปล่า”
          ผมเอ่ยถามเขากลับด้วยภาษาอังกฤษเช่นกัน ผมพูดภาษาไทยได้นะ แต่ไม่บอกเขาหรอก ผมเรียนมากับหลี่ ชานนะครับ 

         “อยู่ชั้นบนครับ ได้นัดไว้รึเปล่า”เขาถาม พร้อมกับส่งยิ้มเจ้าชู้มาให้ผม

         “....”ผมเงียบครับ ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี

         “เธอชื่ออะไรอ่ะ?”ผู้ชายอีกคนเดินเข้ามาถามขึ้น พร้อมส่งส่ายตาขู่ไปให้พนักงานประชาสัมพันธ์ที่ยืนข้างๆผม จนเขารีบผละห่างออกไป ท่าทางน่ากลัวไม่น้อย

         ...บริษัทชานมีคนแบบนี้ด้วยเหรอ

         “เฮ้ ทำไมไม่ตอบละ”

          ผมเดินหนีไปทางโรงอาหารที่อยู่ข้างๆกัน แต่กลับคิดผิดถนัด เมื่อมีชายไทย หน้าตาสถุลคนหนึ่งเดินมาดังผมไว้
“เธอสนใจฉัน ไม่ได้สนนาย เห็นมะ คนสวยเดินมาหากู” ชายหนุ่มหน้าตาสถุลหันไปยักคิ้วให้กับคนที่เดินตามมาประกบหลังผม

          “แต่กูมาถึงก่อนเว้ย”คนที่ตามหลังมาพูด พร้อมกับเอามือจับก้นผม

          “f*ck! What the hell you are”ผมสถบกลับไปหามันเป็นภาษาอังกฤษ ในขณะที่หนุ่มสถุลข้างหน้าโอบเอวผมไว้ แล้วดึงเข้าไปใกล้ตัว

          ให้ตายสิ ทำไมถึงไม่มีใครเข้ามาช่วยผมเลยละ บริษัทนี้มันอะไรกันวะเนี่ย

           แต่ก่อนที่เรื่องมันจะบานปลายไปมากกว่า ร่างสูงของใครบางคนก็เข้าจับแขนของคนที่อยู่ด้านหน้าผม พร้อมกับบิดมันมาไขว้หลังอย่างแรง ราวกับเห็นตำรวจกำลังจับผู้ชาย

          หัวใจผมเต้นดังถี่ๆ

          ตึกๆๆๆ

          ตึกๆๆๆ

          ในขณะที่มองเขาจัดการกับลูกน้องตัวเอง

           ...หลี่ ชาน...

           ผมคิดถึงใบหน้าของเขาจัง ทำอย่างที่เป็นเขา ผมอยากจะเข้าไปกอดเขา จูบเขาให้เหมือนกับที่เราเคยคบกัน แต่ในตอนนี้ผมทำได้เพียงมองหน้าเขานิ่งๆ

           “หึหึๆ”หลี่ ชานหัวเราะในลำคอเบาๆ พร้อมกับมองตามลูกน้องสองคนนั้นที่เดินออกไปราวกับคาดโทษเอาไว้แล้ว ก่อนจะหันกลับมามองผม ผมรีบก้มหน้าลงทันที

            ...ได้โปรดเถอะ พระเจ้า ผมยังไม่พร้อมจริงๆ

            ความกลัวกับความเศร้ามันแล่นวูบขึ้นมา

            มันทั้งรัก ทั้งโหยหา แต่ก็กลัวที่จะเข้าไปใกล้..

            “ไม่เป็นไรนะ”เขาเอ่ยถามผม ผมพยักหน้าตอบกลับ ก่อนรีบผละตัวออกห่างจากเขา

            “โอ๊ย”ผมร้องออกมาเบาๆ เมื่อตัวเองชนกับประตูกระจกที่ทางเข้าของบริษัท ก่อนจะรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปเรียกแท็กซี่
แค่นายยังสบายดี ฉันก็ดีใจแล้วละ หลี่ ชาน








         [Part : หลี่ ชาน]

          ผมถอนหายใจเบาๆ เมื่อเห็นว่าใครโทรมาหาเขา

          หลังจากที่ผมเรียนจบเอกอักษรศาสตร์ นานาชาติ สาขาการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศแล้ว มันเป็นสัปดาห์ที่สามที่ไพเรสหายไป ปู่ก็ลงทุนมาหาผมถึงมหาลัย ถามถึงสาเหตุที่ผมโทรขอให้ปู่ถามตามหาใครบางคน ถามผมว่า หลานยอมที่จะสืบทอดตำแหน่งต่อแล้วใช่ไหม ท่าทางของปู่ตอนนั้นดีใจมากจนผมปฏิเสธไม่ลงเลยทีเดียว แต่ผมก็หันไปมองแม่ที่บินมาถึงที่นี้เช่นกัน แม่ดูเป็นห่วงผมมากๆ รีบดึงตัวผมออกมาจากปู่ทันทีที่ได้ยินปู่ถามแบบนั้น
          ในวันนี้แม่ของผมต่อว่าปู่ ก่อนจะรีบลากผมกลับประเทศไทย

           ผมยังไม่ได้บอกสินะครับ ว่าครอบครัวเราแตกแยกไม่เป็นชินดี นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมกลายเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดคุยกับใครแบบนี้

           ตระกูลหลี่ มีประวัติศาสตร์ศาสตร์อันแสนยาวนานครับ ตัวอย่างเช่นเรื่องพี่น้องฆ่ากันตายเพื่อแย่งตำแหน่งเป็นต้น คิดนึกเรื่องนี้ทีไรแล้วมันเป็นตลกร้ายสำหรับผมทุกทีเลยละครับ

           ผมแสยะยิ้มออกมา ก่อนจะกดรับสายปู่

           “ว่าไง หลาน กิจการเป็นไงบ้าง”

           “ก็ดีครับ”

           “แล้วหลานคิดจะทำงานเมื่อไหร่ มีคนติดต่องานมาแล้วนะ”

           “อีกสองปี.. ปู่ครับ ผมขอเวลาอีกสองปี”

           “อย่าให้นานนักละ เดี๋ยวเจ้าฟงจะแย่งไปซะก่อน”

           ....ก็ให้มันแย่งไปเลยสิครับ ปู่

           ผมหัวเราะหึๆในลำคอ

            ตำแหน่งที่ทำให้พ่อผมซึ่งเป็นตระกูลหลี่สาขาแรกตายด้วยนำมือของน้องชายจากสาขาสองนะ ผมยังจำมันไม่ลืมเลือน ตำแหน่งที่ทำให้แม่ตัวแยกตัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับเครือญาติใดๆของหลี่ทั้งสิ้น ให้คนอื่นได้ไปนะ มันก็ดีแล้ว ผมไม่อยากได้หรอก..






           ผมเดินออกไปหาของกินที่ชั้นล่าง แล้วก็เห็นพนักงานของผมกำลังลวนลามผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ รูปร่างของเธอเพียวบางจนน่าจะฉุดได้ง่ายๆอยู่หรอก ผมมองดูพร้อมมันเถียงกันอย่างนิ่งๆ ในขณะที่พนักงานคนอื่นเริ่มถอยห่างออกไป เพราะสีหน้าของผม จนในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว

            ไอ้พวกเหี้ย!! รู้ว่าผู้หญิงไม่ชอบ แล้วยังจะไปจับก้นจับเอวเขาอีกเขาอีก!!

            ผมจับข้อมือของคนที่ลวนลามไว้แน่น ก่อนจะบิดมันอย่างแรงจนมันร้องโอ๊ยออกมา เพื่อนมันทำท่าจะเข้ามาทำร้ายผม แต่เมื่อพอเห็นว่าเป็นผม พวกมันก็รีบถอยห่างออกไป แล้ววิ่งเข้าไปในแผนกที่มันทำงานอยู่ทันที
ผมหัวเราะหึหึๆ ออกมา

            พวกมึงไม่รอดหรอก เดี๋ยวกูจะสั่งให้หัวหน้าแผนกไล่มึงออก กูจำหน้าพวกมึงได้หมดแล้ว
ผมคิด ก่อนจะหันไปมองผู้หญิงตรงหน้า

            เธอเป็นชาวต่างชาติครับ ผิวขาวสีชมพู่อ่อนแบบเดียวกับไพเรส แต่ดูจะขี้กลัวมากกว่า เพราะเธอคนนั้นก้มหน้านิ่งไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองผมเลย ผมหน้าม้าของเธอบังดวงตาเอาไว้จนมิด

            “ไม่เป็นไรนะ?”ผมพูดเป็นภาษาอังกฤษบอกเธอ เธอก็แค่พยักหน้ารับเท่านั้น ก่อนจะเดินรีบเร่งเดินออกไปจนชนกับกระจก (ทางเข้าผมบริษัทผมเป็นประตูกระจกใสๆที่ทำให้มองเห็นโต๊ะประชาสัมพันได้เป็นอย่างดีนะครับ) ผมมองเธออย่างงงๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในโรงอาหารประจำบริษัท

            ได้ยินเสียงดังแว่วๆของพนักงานที่นั่งดูในหลายโต๊ะ พร้อมกับเสียงซุบซิบนินทากับเต็มไปหมด

            “หล่ออ่ะ แก เพิ่งเคยได้เห็นใกล้ขนาดนี้”

             “เห็นเมื่อกี่ป่ะ แก โครตแมนเลย”

             ผมก้มหน้าลงมาถอนหายใจเบาๆ

              ...สงสัยคงต้องรีบหาเลขาคนใหม่จริงๆแล้วสิ

             จะได้มีคนมาซื้อข้าว ซื้อกาแฟให้ ไม่ต้องลงมาถึงนี้

             ผมละเกลียดความวุ่นวายซะจริงๆเลย


ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
พนักงานที่บริษัทนี้เป็นอะไรกันไปหมดแล้วคะ? เห็นผู้หญิง(?)ถูกลวนลามคาตาขนาดนี้แต่ไม่คิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยกันเลยเหรอ? บ้ามากอ่ะ~ ถ้าสมมุติว่าหลี่ชานไม่เดินลงมาเห็น มีหวังไพเรสคงถูกลากไปทำอะไรต่อมิอะไรแล้วแน่ๆ เลยนะคะเนี่ย ฝากถึงหลี่ชาน ..วันหลังถ้าจะรับพนักงานรบกวนช่วยเลือกคนที่มี คุณธรรมและจริยธรรม มาเป็นอันดับหนึ่งด้วยนะคะ ดูท่าว่าพนักงานที่นี่จะขาดสิ่งนี้กันไปมากโขเลยล่ะ :ling1:

ส่วนไพเรส .. ทำไมหนูไม่ศอก เข่า หรือหนุมานถวายแหวน ใส่พวกบ้านั่นไปเลยล่ะคะ หนูอย่าลืมสิ ว่าถึงหนูจะแต่งหญิงแต่หนูก็เป็น 'ผู้ชาย' นะคะ แล้วดูสินั่น~ ไพเรสประหม่าจนเดินชนกระจกเลยเหรอค้าา หืม~ :m20: โอ๋ๆ นะคะ เพี้ยง! (เป่าเหม่งให้น้องไพเรสค่าา ฟู่วๆ ^^) ยิ่งตอนนี้หลี่ชานกำลังต้องการเลขาคนใหม่อยู่ด้วย แบบนี้ก็เข้าทางน้องไพเรสเลยสิคะ
เนี่ย เพราะถึงยังไงหลี่ชานก็ยังจำไพเรสไม่ได้นี่เนอะ แถมยังอยู่ใกล้กันได้มากกว่าเดิมอีกต่างหาก สู้ๆ เข้านะค้า ><   

รอตอนต่อไปจ้า..

ออฟไลน์ BlackWinddy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาค่ะ คนเขียนเป็นปลื้ม  :sad4:
ขอโทษที่ช้าไปวันหนึ่งนะค่ะ พอดีไปเรียนพิเศษมา เลยไม่ได้พิมพ์
ตอนต่อไป เป็นตอนจบแล้วละค่ะ มีเซอร์ไพรพิเศษสำหรับคนอ่านให้ด้วย
มันคือครั้งแรกของคนเขียนนี้เองง(?) อ๊ายย
ขออธิบายเพิ่มเติมนะค่ะ :: ไม่ใช่ว่าไม่มีใครเข้าไปช่วยไพเรส แต่คือพอดี ประธานเขายืนจ้องอยู่นานแล้วอะค่ะ ใกล้จะกว่าเข้าไปยุ่งกันละ ส่วนหนูไพเรสนะ เป็นคนที่บอกที่ว่า เสน่ห์แรงมากจนเจอเรื่องแบบนี้บ่อยๆอยู่แล้ว แล้วอีกอย่าง เขาเป็นคนรักสนุกอยู่แล้วค่ะ เลยมองอย่างเงียบๆ แต่ไม่คิดว่าจะโดนเเตะอั้งแบบนั้น บังเอิญประธานเข้ามาจัดการพอดี ไพเรสเลยไม่ต้องทำอะไร

ใครอยากจะเห็นความแรงมจริงๆของ he ก็มาอ่านตอนนี้โลยเลยค่ะ!!

 :really2: :really2: :really2:

ไปอ่านต่อกันเลยดีกว่าค่ะ ^^






        [part : ไพเรส]

       ผมเดินลงมาจากรถแท็กซี่ ข้างหน้าบริษัทไพรเธอร์เวส ทันทีที่เดินเข้าข้างใน ก็พบพี่เมฆนั่งดื่มกาแฟอยู่บนโซฟา ณ จุดบริการเครื่องดื่มของบริษัท

        บริษัทสองบริษัทนี้ก็ดีนะ ฝ่ายหนึ่งมีจุดบริการเครื่องดื่มกับขนมฟรี ในขณะที่อีกฝ่ายมีโรงอาหารอยู่ข้างในตัว อื้อหื้อ บางทีการบริหารธุรกิจของประเทศไทยก็น่าสนใจไม่น้อย

       “ไพเรส นายหายไปไหนมา?”พี่เมฆถามผม พร้อมกับเดินเข้ามาหา เขาเชยคางของผม พลางมองสำรวจใบหน้าของผม “จมูกแดง ตาก็แดง.. นี้ร้องไห้มาเหรอ?”พี่เมฆมองผมอย่างสงสัย

        “ทำไมพี่เมฆไม่บอกฉันว่าเขาอยู่ที่นี้... ทำไม?”ผมโวยวายเข้าทันที

        “เพราะพี่ไม่อยากให้เห็นเราเป็นแบบนี้ไง ไม่อยากเห็นเราเจ็บปวดอีก” พี่เมฆพูด พร้อมดึงแขนผมเข้าไปในลิฟท์

        “ไปขนของ พี่จะพาเราไปที่บ้านพี่”

        “ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ พี่เมฆ”

        “ไม่ได้หรอก ต้องรีบสิ..”

        ผมมองพี่เมฆอย่างสงสัย เขาในตอนนี้ดูร้อนรนแปลกๆ
 
        “ชานเห็นฉันแล้ว แต่ยังจำฉันไม่ได้”ผมพูดเสียงเบาจนคล้ายกับพึมพำ ผมว่าผมไม่ได้หลอกตัวเองนะ ไม่ใช่ว่าเขาจำใบหน้าของผมไม่ได้ เพียงแต่เขามองเห็นผมไม่ชัด ผมขอคิดในแง่ดีหน่อยเถอะ

        “เราว่าไงนะ!?” พี่เมฆถามผมเสียงดังจนผมสะดุ้ง

         “....”ผมเงียบ ส่ายหัวตอบกลับเขา

         ....ถ้าบอกให้พี่เมฆ ว่าผมเจอชานแล้ว บางทีพี่เมฆอาจจะสั่งให้ผมกลับไปอิตาลีภายในเร็ววันนี้ก็ได้ เพราะงั้นผมจะไม่บอกเขา ท่าทางของเขาดูแปลก และเรื่องราวของเรามันก็ยืดยื้อนานเกินไปแล้ว หลี่ ชาน
ผมคิด ขณะที่เดินตามพี่เมฆขึ้นไปเอากระเป๋าที่ห้อง

         “แล้วพ่อหนุ่มคนนั้นละ?”ผมถามถึงอีกคนที่ก่อนหน้านี้อยู่กับพี่เมฆ

         “หลับอยู่ พี่พาเขาไปนอนที่คอนโดพี่แล้ว”เสียงพี่เมฆดูอ่อนลง เมื่อพูดถึงหนุ่มหน้าจืดคนนั้น

        “นี่ฉันได้พี่สะใภ้เป็นคนไทยเหรอเนี่ย?”ผมแอบโวยวายเบาๆตามประสาเด็กเอาแต่ใจ ระดับพี่เมฆน่าจะได้อะไรที่มันสวยๆงามๆกว่านี้ น่าจะอินเตอร์หน่อยสิ หมอนั้นมีอะไรน่าสนใจกันนะ
 
         “ทำไรเนี่ย พี่?”ผมพูดทันทีที่โดนอีกฝ่ายเอามือใหญ่ๆนั้นมาขยี้หัวผมจนฟูไปหมด “ผมยุ่งหมดเลย”ก็ได้แต่แอบบ่นหน่อยๆครับ เพราะนอกจากม๊าแล้ว ก็มีคนนี้ๆที่ผมเชื่อฟังมากที่สุด

        “เป็นคนไทยแล้วไงละ”เขาพูด ก่อนจะโยนกุญแจมาให้ผม นี้มันเป็นคำสั่งให้ขับรถเขาทางอ้อมใช่ไหมครับ

        “มันไม่เกี่ยวกับชนชาติไหนหรอก ถ้าเรารักเขาไปแล้ว ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง เราก็ยังรักเขา”

         ผมเอื้อมมือไปรั้งคอพี่เมฆไว้ ก่อนจะจูบเบาๆแต่ก็นานกว่าปกติอะนะ จนพี่เมฆผลักตัวผมออก

         “ทำอะไรของเราเนี่ย”เขาโวยครับ ก่อนจะหันซ้ายหันขวามองรอบข้าง แล้วถอนหายใจออกมา

         แนะๆ กลัวเป็นข่าวกับผม แล้วโดนแฟนทิ้งอะดิ

          ผมส่งยิ้มขำไปให้พี่แก “ฉันซึ้งในคำพูดพี่อ่ะ เลยอยากจูบ ก็แค่นั้นแหละ”ก่อนจะเดินเข้าไปตำแหน่งผมขับ เหมือนพี่เมฆแอบบ่นอะไรซักอย่าง แต่ผมดันฟังไม่ทันครับ แต่ก็ช่างมันเถอะ ผมกำลังคิดอยู่ นอกจากพี่เมฆ กับแม่พี่แกที่เดินทางไปต่างประเทศอยู่ ก็ไม่มีใครเลยที่ผมรู้จักในไทย สงสัยคงต้องหาตัวช่วยใหม่ซะแล้วสิ.. จะต้องเป็นตัวช่วยที่เหนือกว่าพี่เมฆด้วย เขาจะได้ไม่รู้เวลาผมแอบไปมองดูหลี่ ชาน จะเป็นใครกันนะ?






         “เน้!!~”ผมส่งเสียงเรียกพี่เมฆขณะที่รถติดอยู่ “ฉันขอเบอร์พ่อหนุ่มคนนั้นได้ไหมอ่ะ?”พร้อมกับส่งยิ้มไปให้

         “คนไหน”พี่เมฆถามอย่างระแวง พร้อมกับหันมาจ้องหาผมราวกับค้นหาอะไรบางอย่าง

          “ก็...”ผมทำปากยื่นใส่กระจกหน้ารถ ก่อนจะพูดต่อ “ไพเรสต้องมาอยู่เมืองไทยตั้งสองอาทิตย์เชียวนะ แถมคนที่รู้จักยังมีแค่พี่เมฆอ่ะ น้องอยากจะได้เพื่อนใหม่บ้างสิ ยิ่งเป็นแฟนพี่ น้องยิ่งต้องทำความรู้จักใช่ไหมละ?”

          พี่เมฆตีหน้านิ่ง แต่ในใจผมรู้ดีเลยละว่า กำลังลำบากใจอยู่ ตอนที่ผมทำเสียงแบบนี้ เรียกแทนตัวเองแบบนี้ ไม่มีใครคนไหนก็เป็นต้องใจอ่อนยอมผมทุกครั้งได้

          “นะ… พี่เมฆนะครับ นะ?”

         “ก็ได้”

          เยส! เห็นไหมละ ผมบอกไว้แล้วไม่มีผิด

          ผมยิ้มกว้าง ก่อนจะรีบจุ๊บแก้มพี่เมฆอย่างรวดเร็ว แล้วหันไปขับรถต่อ





           [Part : หลี่ ชาน]

          ในตอนนี้ผมนอนอยู่โซฟาตัวยาวในห้องทำงานของผมเอง หลังจากที่อ่านหนังสือฝรั่งเศสจบไปเล่นหนึ่ง ผมชอบนอนในที่ทำงานบ่อยๆ เพราะมันทำให้ผมตื่นขึ้นมาแล้วทำงานจัดการเอกสารได้รวดเร็วกว่าที่จะกลับไปนอนหมดสภาพอยู่ที่บ้าน แต่พนักงานส่วนใหญ่ไม่รู้หรอก เพราะผมจะไล่ทุกคนให้กลับบ้านทันทีที่มันดึกเกินไป

         เสียงโทรศัพท์ดัง ทำให้ลืมตาขึ้นมาจ้องมองหน้าจอมัน ก่อนจะกดรับ

         “หัวหน้า!!”เสียงของอรุณดังขึ้นทันที

         “....”
         ผมไม่ตอบกลับอะไรเขาหรอกครับ ไม่ว่าจะตื่นอยู่ มีสติ หรือยังงุนงงอยู่ มันเป็นนิสัยของผมอยู่แล้ว รอให้เขาพูดเรื่องสำคัญจบก่อน และผมคอยพูดละกัน

         “ผมอรุณนะครับ”

         “อื้ม”

         “คือ.. หัวหน้า วันนี้ผมขอโทษจริงๆนะครับ ที่ไม่ได้กลับไปทำงาน พอดีมีมันเรื่องด่วน กะทันหันมากๆจนผมตั้งตัวไม่ติดเลยละครับ หัวหน้า”

         “ไม่เป็นไร”

         “หัวหน้ายังไม่ได้ไล่ผมออกใช่ไหมครับ?”

         เสียงของอรุณฟังดูร้อนรน เมื่อถามคำถามนี้

         ...ผมเป็นหัวหน้าที่ดูใจร้ายถึงขั้นไล่ลูกน้องออก เพราะไม่มาทำงานครึ่งวันเชียวรึเนี่ย หึๆ..

          “...”

        “หัวหน้า อย่าไล่ผมออกเลยนะครับ ผมขอโทษ มันมีเหตุจำเป็นจริงๆ”

         หืม.. พอผมเงียบก็คิดเองเออเองเสร็จสรรพเลยแฮะ

        “เหรอ”

        “หัวหน้าครับ.. เอ่อ คือ”อรุณเงียบไปสักพักเหมือนกำลังคิดหาเหตุผลอยู่ ก่อนจะพูดต่อด้วยเสียงที่ร้อนรนอีกครั้ง “พอดีแม่ผมป่วยนะฮะ แล้วคุณหมอก็โทรมาตามผม แล้วผมก็.. เอ่อ รีบวิ่งกลับบ้าน เอ่อ ผมหมายถึงรีบวิ่งขึ้นรถไปที่ชุมพรทันทีนะครับ”

         โกหกซะไกลเลยแฮะ ชักอยากถามซะแล้วสิว่า รู้สึกผิดกับแม่บ้างไหม ในประวัติเขา ผมจำได้ว่าแม่เขาตายแล้วนะ แต่อย่าถามเลยดีกว่าเดี๋ยวไก่ตื่นกันพอดี

         “หัวหน้าครับ อย่าไล่ผมออกเลยนะครับ!!”

         “ก็ได้”

         ยอมๆเด็กมันไปหน่อย เพราะยังไงผมก็ยังหาเลขาใหม่ไม่ได้อยู่ดี อีกอย่างเมฆปล่อยให้อรุณโทรหาผมแบบนี้ แสดงว่าเขายังไม่ได้บังคับให้เมฆไปทำงานกับขาสินะ
         แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน.. มีหัวใจของศัตรูอยู่ฝั่งเรา ส่วนหัวใจของผมก็อยู่ในกำมือเขา
         .. หวังว่านายคงจะทำตามสัญญานะ เมฆ

        “ขอบคุณครับ พรุ่งนี้ผมจะรีบไปทำงานทันทีเลยครับ หัวหน้า!”

        “ไหวเหรอ”

        “หวะ ไหวสิครับ! หัวหน้าไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก แค่นั่งรถไปกลับเองฮะ อยากจะเหนื่อยหน่อย แต่ก็สบายมาก ผมต้องวางสายแล้วละ หัวหน้า ฝันดีครับ ขอบคุณที่ยังให้โอกาสผม”

         รู้ไหม อรุณ นายเป็นผู้ชายที่โกหกไม่เก่งที่สุดซะเลยละ เสียงก็สั่น อาจจะฟังดูสมเหตุสมผล ก็แต่ลุกลี้ลุกล้นจนเกินไป ต่างกับเมฆเลยนะ ราวนั้น พูดโกหกเหมือนกันเป็นเรื่องจริง จนผมไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรไปซะนานเลยละ

         ถ้าให้พูดกันตามตรงแล้ว ผมก็ยังไม่เข้าใจที่เมฆทำแบบนั้นกับผมเลย ยิ่งเห็นอีกฝ่ายนิ่งเงียบ ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนเขาไม่เคยรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำเลย ผมก็ยิ่งไม่เข้าใจเขา

          ผมเคยเล่าเรื่องนี้ให้ฟงฟัง เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องที่อายุใกล้เคียงกับผมมากที่สุดในตระกูลหลี่ และเขาก็เป็นเพื่อนสนิทวัยเด็กของผมด้วย

           ฟงบอกว่า ถ้าเป็นเขา เขาคงใช้อำนาจปู่สั่งกำจัดเมฆไปแล้ว แล้วเปิดปากเมฆให้พูดเรื่องไพเรสออกมา พร้อมกับวิธีการแก้แค้นสารพัดที่เขายกขึ้นมาให้ผมฟัง แต่ละอย่างออกแนวสาดเลือดทั้งนั้น

           ‘กูไม่ใช่มาเฟีย’ผมบอกมันไป


           ผมอยากได้ไพเรสคืนมาก็จริง แต่ไม่ใช่วิธีการบังคับและทำร้ายพี่ชายของเขาแบบนี้ ผมอยากให้เขาเต็มใจมาหาผมด้วยตัวเอง

          หากว่าเมฆคิดไม่ดีต่อผมกับความรักของผม กับไพเรสจริงๆ รอก่อนเถอะ ตอนนี้ฟงกำลังได้ตัวเพื่อนสนิทของไพเรสมาอยู่ใกล้ๆอยู่ รอให้ไพเรสรู้ทุกอย่าง แล้วเมื่อไพเรสอยากจะออกมาหาผม แต่เมฆไม่ยอม

          ผมจะใช้ทุกอย่างๆ ทั้งอำนาจ บารมีของปู่ เพื่อกำจัดเขา และนำไพเรสมาอยู่ใกล้ตัวให้ได้ ต่อให้ไพเรสก็โกรธเกลียดผมก็ตาม

          รออีกแค่ไม่นาน... อีกไม่นานเท่านั้น











         [Part: ไพเรส]

         หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป ยังไม่มีอะไรคืบหน้า แต่ผมก็ได้หวังว่า จะมีอะไรซักอย่างชัดเจนขึ้นมา จะต้องมีอะไรซักอย่างที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด แม้ไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็ตาม  ไม่ว่าจะเป็นรูปธรรมหรือว่านามธรรม
บ้าเอ๊ย! ได้ข่าวว่าผมจบการออกแบบมา ทำไมต้องมาทำเรื่องสืบสวนสอบสวนอะไรแบบนี้ด้วย

          “ใจเย็นๆนะ” อรุณพูด พร้อมส่งยิ้มบางๆมาให้ผม ตอนนี้เราสนิทกันมากกว่าที่ผมคิดไว้ครับ ผมไม่คิดเลยว่า จะรู้สึกสนิทใจกับหนุ่มหน้าจืดได้ขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะท่าทางซื่อๆของเขา ที่ดูไม่ทันคนจนหน้าเป็นห่วง หรือว่าจริงใจของเขาที่ทำให้ผมยอมเล่าเรื่องทุกอย่างและระบายความรู้สึกออกมาโดยไม่หวาดระแวง หรืออาจจะเพราะเขาเป็นคนที่พี่เมฆชอบ ผมเลยชอบด้วย แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง ตอนนี้เขาก็เป็นเพื่อนสนิทของผมไปแล้วครับ

          “ก็ดูหัวหน้าของอรุณอ่ะ ทำไมถึงเงียบขนาดนี้ แบบนี้ฉันจะรู้ได้ไงว่าเขาคิดแบบไหนอยู่ งื้อ.. อรุณ..”ผมโถมตัวเข้ากอดเขาจนเขาหน้าแดงแจ๋ หน้าของผมซุกซอกคอเขาไว้

          “ออกไปเลย ไพเรส”พี่เมฆที่มายืนอยู่ข้างหลังตอนไหนไม่รู้ พูดเสียงเข้ม ก่อนจะดึงผมให้ออกห่างจากอรุณของเรา ใช่สิ ต้องอรุณของเราครับ เพราะเขาหน้าแดงแจ๋เขินผมด้วยนี้น่า

          “อรุณ นายมานี้เลยมา”พี่เมฆดึงอรุณเข้าไปนั่งตัก ก่อนจะพูดกระซิบข้างหูอรุณ ส่วนอรุณก็ง้องแง่งใส่พี่เมฆเบาๆ

           ใช่สิ.. ผมมันคนนอกนี้ครับ ชิ

            ติ๊ด ติ๊ด

           เสียงข้อความเข้า ผมก้มลงไปมองมัน เพื่อนสนิทคนเดิมส่งมานั้นแหละครับ

           •   แกฉันมีอะไรให้แกดูด้วยละ
           •   เห็นแล้วห้ามตกใจนะ
           •   ทำใจก่อนดูด้วยวะเพื่อน

          อะไรของมันวะ ทำไมช่วงนี้มันขี้กังวลจังวะ ถึงได้ขยันพิมพ์ขนาดนี้

           •   อะไร...?

          ไม่ทันที่ผมจะได้ทำใจ ภาพสองภาพก็ถูกมา รูปที่ผมจูบกับพี่เมฆที่อเมริกา รูปผมที่อยู่กำลังนอนเปลือยอยู่บนเตียงในห้องของญาติพี่เมฆ พร้อมกับข้อความใต้รูปที่ว่า เลิกยุ่งกับเขาซะ นายไม่ใช่คนเดียวที่เขามีอะไรด้วยหรอก

          ผมกัดปากตัวเองแน่น เหลือบไปมองพี่เมฆที่หยอกล้ออยู่กับอรุณ ก่อนจะลุกขึ้นยืน พร้อมดึงคอเสื้ออรุณออกมาจากตักพี่เขา

           อรุณดูงุงงงและตกใจไม่น้อย มองดูผมสลับกับพี่เมฆที่จ้องตากันอยู่

          “เป็นพี่เองสินะ.. เป็นพี่เองสินะ”ผมพูด พร้อมกับยกมือขึ้นตบหน้าเขา แต่ดูเหมือนอรุณจะเร็วกว่า เขาเข้ามารับฝ่ามือของผมแทบพี่เมฆไว้โดยทันที
 
          “อรุณ!!”

          “ถอยออกไปนะ!”

          เสียงของพี่เมฆกับผมดังขึ้นมาพร้อมกัน แต่อรุณกลับยืนนิ่ง จ้องมองผมด้วยแววตาไม่เข้าใจ ทั้งที่มุมปากของเขามีเลือดออก แต่เขากลับไม่ส่งเสียงร้องออกมา

          “ถอยออกไป อรุณ ฉันไม่อยากทำร้ายนาย”

          “ไม่! จนกว่าคุณจะอธิบายมาว่ามันเกินอะไรขึ้น”

           ในตอนนี้อรุณแมนมากก็จริง แต่ก็สู้แรงผมไม่ได้หรอก ผมกระชากตัวเขาออกไปด้านหลังผมอย่างรุนแรง จนอรุณร้องโอ๊ย ในขณะที่พี่เมฆยืนอึ้ง และมองอรุณอย่างเป็นห่วง พี่เขาสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อให้ตัวเองใจเย็นลง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมด้วยสีหน้านิ่งเรียบ

          “ทำไมพี่ต้องทำแบบนี้ด้วย!! พี่ไม่ชอบหลี่ ชานหรือการคบกันของเราก็บอกเรามาตรงๆ ไม่ใช่ทำให้เขาเข้าใจผิดผมแบบนี้!!”

           พี่เมฆเปิดตากว้างอย่างตกใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรู้สึกผิดออกมาจนผมเริ่มทำอะไรไม่ถูก ผมกัดปากตัวแน่นจนเลือดไหลออกมาชิบๆ

           ใครจะไปรู้กันละ ว่าคนที่ไว้ใจที่สุด กลับกลายเป็นคนที่ทำร้ายชีวิตรักของผมมากที่สุด

           ที่ให้ผมปลอมเป็นผู้หญิงนี้ก็ด้วยใช่ไหม ที่คอยปลอบผม คอยพูดใส่หูผมด้วยใช่ไหม!

           ผลัวะ!! ผลัวะ!!!

           “เมฆฆฆ!!!”อรุณกรีดร้องอย่างตกใจ ในขณะที่พี่เมฆนิ่งเงียบยอมให้ต่อยผมอยู่อย่างนั้น ถึงผมจะดูเป็นหนุ่มหวาน หรือบางคนเห็นว่าผมน่าปกป้องก็ตาม แต่ถ้าเกิดผมขาดสติเมื่อไร คนที่ทำให้ผมโกรธนั้น ต่อให้เป็นใครผมก็ไม่สนใจ!!

            “พอใจแล้วใช่ไหม?”

            ผมหอบแฮ่กๆ ทั้งยังจ้องมองเขา ก่อนจะยกหมัดขึ้นมาต่อยใบหน้าหล่อนั้นอีกครั้ง อรุณก็กระโจนเข้ามากอดเมฆไว้แน่น

            “ถึงฉันจะไม่รู้อะไรเลย แต่ฉันขอเถอะนะ ไพเรส ฉันขอเถอะ!”อรุณพูด พร้อมทั้งหันมามองผมอย่างขอร้องอ้อนวอน ผมสถบนิดๆ หยิบกรรไกรขึ้นมาตัดฉับผมยาวๆของตัวเอง ก่อนจะขว้างมันทิ้งไปไกลๆ

            “พี่ต้องรับผิดชอบ”ผมพูด ก่อนจะเดินขึ้นไปสงบสติข้างในห้องตัวเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2015 18:50:57 โดย BlackWinddy »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
โอ๋ๆ นะคะน้องอรุณ เจ็บมากไหมคะนั่น ถึงกับเลือดออกเลยน้าา :กอด1: ..ส่วนน้องไพ(?)ทำดีมากค่าา o13 คนอย่างคุณเมฆต้องเจอแบบนี้เสียบ้าง ไม่รู้ว่าจะขัดขวางความรักของคนอื่นเขาไปทำไมสิน่า~ ไม่ไหวเลยจริงๆ~ รบกวนช่วยออกมาอธิบายเหตุผลด่วนๆ เลยนะคะ แก้ตัวน่ะแก้ตัว เข้าใจใช่ไหมคะคุณเมฆ..หืม? รอตอนต่อไปจ้า ^^

ปล. สเหน่ห์ ✘ >>> เสน่ห์ ✔ :teach:

ออฟไลน์ BlackWinddy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นที่ให้กำลังใจมาตลอดค่ะ
มีความสุขมากๆเลย จนถึงตอนสุดท้ายที่เรื่องราวของหลี่ ชานกับไพเรสแล้ว
และก็สำหรับการเขียน nc. อย่างจริงจังเป็นครั้งแรก
ไว้พบกันใหญ่นะค่ะ
เอ๋... รายต่อไปของเรื่อง 'รัก' เอาใครดีหว่า
ฟังดีไหม... แต่ว่าจะเป็นเคะหรือเมะดีอ่ะ 555
//ได้ข่าวว่าไม่มีแรงคิดเรื่องสั้นแล้ว(?)
 เอาเถอะ..

ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน และเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีในเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งของนิยายในเล้าเป็ดที่แสนดีแบบนี้ด้วยนะค่ะ







ื         “พี่ขอโทษ”ประโยดแรกที่เมฆเอ่ยออกมา เมื่อเดินเข้ามาให้ห้องของน้องชายต่างแม่ ไพเรสไม่แม้แต่จะหันมามองเขา ทำให้เมฆใจเสียไม่น้อย เขาเหลือบมองอรุณที่ยืนให้กำลังใจอยู่หน้าประตู ก่อนจะตัดสินใจกอดน้องชายร่างสูงโปร่งของตนไว้

        “ตอนนั้นพี่หวงเรามากเกินไปจริงๆ.. พี่ไม่อยากจะให้น้องชายที่พี่รักไปสนิทกับใครเลย แม้แต่รุ่นพี่ชาน”

        “....”

       “มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบของวัยรุ่น เหมือนอย่างที่เราต่อยพี่เมื่อกี้”เมฆพูดอธิบาย พร้อมดึงมือนุ่มของคนที่นั่งมาแตะแก้มเขา แม้คำพูดของเขาดูเหมือนการพูดบรรยายดินฟ้าอากาศไม่มีเสียเศร้าเจือปน มีแต่ความอ่อนโยน กับใจเย็นเท่านั้นที่ไพเรสสัมผัสได้ แต่พอใบหน้าสวยหันไปมองพี่ชาย หัวใจดวงน้อยก็หล่นวูบ
       เมฆกำลังมองเขาด้วยความรู้สึกผิดสื่อออกมาอย่างไม่ปิดบัง ใบหน้าของเมฆดูบอบช้ำจากหมัดน้อยๆของเขา ไพเรสลูบใบหน้าพี่ชายอย่างเบามือ พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อออกมา

        “น้องขอโทษ..”

         ใบหน้าของเมฆดูไม่โกรธเคืองเขาเลยแม้แต่น้อย อรุณเองก็เช่นกัน ยังคงมองเขาอย่างเป็นห่วงเมื่อกับที่ผ่านมา

        “ไม่เป็นไร แค่นี้ยังถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ กับการกระทำที่ผิดพลาดของพี่”เมฆส่งยิ้มใบร่างบาง ก่อนจะจูบหน้าผากอย่างอ่อนโยน

         “เช็ดน้ำตาแล้วก็ยิ้มให้พี่หน่อย ได้ไหม ไพเรส พี่จะได้รู้ว่าเราหายโกรธพี่แล้ว”

         ไพเรสส่งยิ้มหวานให้กับเมฆทั้งน้ำตา จนเมฆหัวเราะเบาๆ ก่อนจะขยี้หัวน้องรักอย่างหมั่นเขี้ยว

         “เด็กขี้แยเอ๊ย”

        “ไม่ได้ขี้แยซักหน่อย”

        “จริงเหรอ?”

        “จริงสิ”

        “แน่เหรอ?”

        “แน่สิ.. เอ๊ะ นี้พี่เมฆเล่นมุขเฉยๆนี้ใส่น้องอีกแล้วนะ”ไพเรสว่าพร้อมทำแก้มป่องอย่างน่ารัก

         อรุณ ที่มองดูสองพี่น้องกำลังหยอกล้อกัน ก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ ตอนแรกเขากังวลแทบตาย ว่าเมฆกับไพเรสจะเป็นยังไงต่อไป แต่ดูเหมือนสองคนนี้จะรักกันมากกว่าที่คนนอกอย่างเขาจะคาดการณ์ได้ พอต่อยหมัดระบายอารมณ์ไปสองสามหมัดก็กลับมาพูดคุยกันแบบเดิม นี้สินะ.. มิตรภาพของผู้ชายที่ผู้หญิงไม่ค่อยมีกัน

        “อ๊ะ.. อื้อ”อรุณเปิดตากว้าง ทั้งยังหน้าแดงแจ๋ เมื่อคนเป็นน้องมายืนอยู่ตรงหน้าเขา พร้อมดึงเขามาจูบปาก แล้วเลียริมฝีปากเขาเบาๆ

        “ไพเรส!! ออกห่างจากที่รักพี่เดียวนี้นะ”เมฆโวยลั่นทันที แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรน้องตัวเองมากนัก เพราะรู้ว่าตัวเองยังมีความผิดอยู่

         ...ที่รักพี่?
         อรุณทวนคำพูดนั้นในใจ พร้อมกับยิ่งอายม้วนมากกว่าเดิม จนของพึ่งพิงคนที่สูงกว่าของไพเรสไว้ ทำให้เมฆเริ่มหงุดหงิด

         “ที่รักพี่เมฆ ปากหวานๆ~”ไพเรสว่าเสียงใส พร้อมเลียริมฝีปากตัวเองต่อหน้าพี่ชาย ในขณะที่อรุณเอาหน้าซบอกเขาอยู่ ถึงไพเรสจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ขอแกล้งหน่อยแล้วกัน

         “อ๊ะ!”อรุณส่งเสียงครางออกมา เมื่อโดนไพเรสงับที่หูเขา ซึ่งเป็นจุดอ่อน

         “อรุณ พี่นับหนึ่งถึงสิบ ถ้าเราไม่ปล่อย คืนนี้เราไม่ได้พบรุ่นพี่ชานแน่”

          เหมือนกับได้ยินเสียงหูแมวกระดิกไปมา และหางแมวที่โผล่ส่ายไปมาพร้อมกับเจ้าของร่างที่หันไปมองพี่ชายตัวเองทันที

          “คืนนี้เลยเหรอ!”

          “ใช้ แล้วก็ถอยห่างมาจากอรุณของพี่ด้วย”

          ....อรุณของพี่..
          การโจมตีแรก อรุณว่าเขาไม่ไหวแล้วนะ แต่นี้มีรอบสอง ..เป็นที่หมาน้อยที่รอเจ้านายมาเป็นหลายปีตัวนี้คงต้องของจรลี คิดพลาง ก็เดินออกไปจากห้องสองพี่น้องที่กำลังคุยกับเรื่องแผนการเซอร์ไพรหลี่ ชานคนนี้อย่างเนียนๆ พร้อมกับปิดประตูให้
          นี้ถ้าเป็นผู้หญิง เขาคงกรี๊ดไปนานแล้ว แต่เขาเป็นผู้ชาย เลยทำได้นั่งลงจับหัวใจที่เต้นแรงของเขา
           หนึ่งอาทิตย์ที่เหมือนความฝัน การที่คนที่เขารักบอกรักเขาตอบ ได้อยู่ใกล้ชิดเมฆมากกว่าที่เคย เขาเป็นของเมฆ แล้วเมฆก็เป็นของเขา
           ///////
          แค่นี้ก็นอนตายตาหลับแล้วละ
          นี้สินะ.. ความรู้สึกของคนแอบชอบที่สมหวังในความรัก
           >//////<







         [Part: หลี่ ชาน]

         อยู่ดีๆผมก็ถูกเมฆกับอรุณนัดพบในตอนค่ำ ที่ชั้นบนของโรงแรม(ที่ๆอรุณกับเมฆเจอกันครั้งแรก) บางครั้งผมเริ่มจะเอื้อมกับการใช้เงินของเมฆจริงๆ นัดพบกันแต่ละครั้งถึงขั้นเหมาตึกโรงแรมหรูทั้งชั้น แต่ผมจะไม่ว่าอะไรเขาได้ละนะ ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นถึงเจ้าของโรมแรมดังหลายสาขา

         “สวัสดีครับ หัวหน้า”อรุณเดินเข้ามาทักทายผม ก่อนจะนำผมไปที่โต๊ะ มันเป็นโต๊ะยาวนั้นมีไวน์แดงพันปีตั้งตระหง่านอยู่ กับแก้วไวน์สองแก้ว ทันทีผมนั่งลง ไฟของทั้งชั้นก็ปิดหมด จนผมตกใจ แต่ก็นั่งเงียบไว้อย่างวางท่า

          ...อยากจะรู้ซะจริงๆ ว่าอีกฝ่ายมาแนวไหนกันแน่

          อรุณเดินเข้ามาจุดเทียนไฟที่อยู่อีกด้านหนึ่งของที่นั่งผม มันมีตรงสระว่ายน้ำคั้นกลางอยู่ เขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส ซึ่งผมรู้ได้ทันทีเลยว่า ข้อความนี้เป็นของเมฆ
....ขอให้...
....มีความสุข...
...กับค่ำคืนนี้....

          ผมชักจะส่งสารอรุณซะแล้วสิ เพราะเทียนแต่ละตัวอักษรมันน้อยซะที่ไหน แต่ดูเหมือนเจ้าคนที่ฝากข้อความไว้ก็เหมือนกัน เมื่อมีคนใส่ชุดดำร่างสูงโปร่งคนหนึ่งเดินเข้ามาแทนทีเขา พร้อมกับโชว์เต้นรำที่ดูอ่อนช้อย แต่ทว่าแข็งแรง และหนักแน่นให้ผมดู โดยไร้ซึ่งเสียงเพลง
          ผมพยายามทำหน้านิ่งเข้าไว้ แม้ในใจอยากจะยิ้มให้กับของขวัญแปลกๆของรุ่นน้องในคืนนี้ก็ตาม

         “ขออนุญาตนะครับ หัวหน้า”อรุณเดินเข้ามาด้านหลังผม

          “แล้วเมฆละ?”

          “....”ไม่มีคำตอบอะไรจากปากอรุณ เขาเอาผ้าสีดำมาปิดตาผมอย่างไว้ พอผมจะเอื้อมมือไปดึงออก ก็มีมือนุ่มๆของใครบางคนจับผมไว้ซะก่อน พร้อมกับกลิ่นหอมที่ผมคุ่นเคย แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
           ผมนั่งนิ่งงันอย่างกับต้องมนต์สะกด  เมื่อกลิ่นกายที่คุ่นเคยขยับเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น







         [Part: ไพเรส]

         ผมยืนหน้าเข้าไปจูบเขา ก่อนจะใช้ลิ้นเลียปากด้านล่างของชานให้เปิดออก ผมสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเขา พร้อมกับดูดมันเบาๆ ชานเอือมมือมากอดเอวผมไว้ พร้อมกับจูบตอบ เราแลกเปลี่ยนน้ำลายกันจากที่มันจืดชืดกลายเป็นน้ำหวานกันล่ำเลิศยิ่งกว่าอะไรดีอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไวน์แดงพันปีของแพงที่สุดที่ถึงขั้นชื่อคฤหาสได้ทั้งหลัง มันเป็นของขวัญจากพี่เมฆ ผมยกมันขึ้นมาอมไว้ ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนตักของหลี่ ชาน และป้อนไวน์เลิศรสที่หาได้ยากนี้ใส่ปากเขา ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าโดยที่หลี่ ชานรับมันไว้อย่างเต็มใจ
          ผมเอียงคอให้ปากแนบชิดกับชานมากขึ้น ก่อนจะส่งลิ้นเข้าไปเกี่ยวตวัดเล่นกับลิ้นของเขา มือของผมสอดเข้าไปใต้เรือนผมสีดำ ในขณะที่เขาโอบเอวผมให้แนบชิดยิ่งขึ้น
          ลมหายใจเขาผมเริ่มเปลี่ยนจังหวะ ทำให้จูบของเรายาวนานยิ่งขึ้น
           ผมผละออกมาจากเขาเพื่อพักหายใจ ก่อนจะแนบริมฝีปากเข้าไปใหม่โดยทันที

          ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ที่ผมสอดมือเข้าไปลูบไล้แผ่นหลังกว้าง ที่ทั้งแข็งแกร่งและกำยำ ในขณะที่เขาทั้งลูบทั้งบีบบั้นท้ายของผม

           หลี่ ชานขยี้ริมฝีปากลงมาหาอย่างหนักหน่วง เขาเบี่ยงซ้ายเบี่ยงขวาอย่างรู้แนว ผมดูดริมฝีปากทั้งบนและล่างของผมอย่างหลงใหลจนทำให้ละลายลงบนอ้อมกอดของเขา แก่นกายของเราสัมผัสผ่านกันไปมาโดยมีเนื้อผ้าบางๆกั้นอยู่ แต่ก็ไม่อาจห้ามแรงราคะและความร้อนแผ่วที่ส่งผ่านกันไปได้ ยิ่งนานมันก็ยิ่งเลยเถิด

          “เดี๋ยว..” ผมผละตัวออกจากเขา พร้อมกับแกะผ้าปิดตาออก เผยให้เห็นนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเกือบดำของคนที่ผมหลงรัก หลี่ ชานส่งยิ้มกว้างให้กับผม เขารวบตัวผมมากอดไว้แน่นให้หายคิดถึง

            ใบหน้าของผมที่เกยไหล่เขาอยู่ ยื่นขึ้นไปขมเม้มติ้งหูของเขา

          “ให้ฉันทำให้นายนะ?”ผมพูด ดูก็รู้ว่าเขาเข้าใจความหมายของมัน
 
           หลี่ ชานไม่ได้ตอบรับหรือพูด หากแต่ยืนเงียบๆให้ผมคุกเข่าลงจ้องมองหลี่ ชานน้อยของเขาที่กำลังขยายตัว

           ผมปลดซิบกางเกงเขาด้วยปาก ก่อนจะดึงมันออกมาจ่อหน้าผม ชานน้อยปรากฏออกมาตรงหน้าผม มันทั้งยาวทั้งใหญ่เกินขนาดของชายเอเชียทั่วไป

           “อึก...”ผมกลืนน้ำลายลงคอ ในขณะที่จ้องมองมัน ได้ยินเสียงหลี่ ชานหัวเราะหึๆออกมา จนผมต้องเงยหน้าขึ้นส่งค้อนเขาวงใหญ่ให้เขา

           “ไหวเหรอ?”เขาพูด คนขี้แกล้งก็ยังขี้แกล้งวันยังค่ำ แม้จะไม่ได้คุยกันนานก็ตาม

           ผมไม่ตอบกลับอะไรเขา แต่จับชานน้อยรูดเข้ารูดลงช้าๆ ในขณะที่ปลายนิ้วหมุนรอบส่วนปลาย จนมันขยายใหญ่ขึ้น ผมจับผมของตัวเองทัดใบหูไว้เพื่อไม่ให้มันเกะกะ ก่อนจะให้ลิ้มเลียมันจากโคนจรดปลาย ผมได้ยินเสียงชานครางต่ำในลำคอ
“ไหวไม่ไหวก็ทำให้นายติดใจได้ละกัน”ผมว่าเสียงใส และเลียมันขึ้นลงไปมาอย่างช้าๆแต่ก็สร้างความเสียวซ่านให้อีกฝ่ายไม่น้อย มือของหลี่ ชานขย่ำเส้นผมของผมเพื่อระบายอารมณ์
            ....นั้นแหละที่ผมต้องการ ใบหน้าที่แสนความสุข และท่าทางเซ็กซี่ของเขาที่มีแค่ผมเท่านั้นที่เห็นมัน

          ราวกับกำลังกินไอศกรีมแท่งโตที่อยู่ตรงหน้า ผมอ้าปากกลืนกินแท่งของมันเข้าไปทั้งอัน แม้ว่าตอนนี้น้ำตาของผมจะคลอเคลียเบ้าตา น้ำลายไหลลงมาจากมุมปาก แต่เพื่อความรู้สึกของคนตรงหน้าแล้ว ผมทำได้
          ผมทั้งดูด ดึง ขม เม้มมัน และขยับใบหน้าเข้าออก แต่หลี่ ชานทนไม่ไหวซะก่อน เขาจับเรือนผมของผมเอาไว้แน่นพร้อมกับดึงเข้าดึงออกด้วยตัวเอง

         พรวด!

         ในที่สุดน้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งเข้ามาในปากของผมจนผมสำลัก แต่ก็กลืนมันจนหมด พร้อมกับเลียคราบที่เละอยู่บนปากผม
หลี่ ชานดึงตัวผมให้ลุกขึ้น เขาเอาผ้าสีดำที่ปิดตาเขาก่อนหน้านี้ มามัดข้อมือผมไว้ แล้วดึงมันยกขึ้นไปโอบรอบคอของเขาไว้

          “จะทำ... อ๊ะ”ผมกำลังจะถามเขา แต่ชานก็ไม่ยอมให้ผมเปิดปาก เขาประกบจูบผมทันทีที่ได้โอกาส ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไป แลกเปลี่ยนน้ำหวานซึ่งกันอีกครั้ง และอีกครั้ง มือของชานปลดกระดุมเสื้อผมออก และคล้ำคลึงหน้าอกของผมจนผมรู้สึกวาบหวิว เด้งตัวขึ้นไปหามัน ขาทั้งสองข้างเกี่ยวรอบเอวเข้าไว้โดยทันที ชานยกตัวผมขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ
          ปากของชานเลื่อนลงมาเรื่อยๆ จากคาง ลงมาถึงต้นคอ เขาขบเม้มมันเบาๆ และกัดจนเป็นรอยแดง และผละออก ก่อนจะตรงดิ่งมาเล่นงานหน้าอกผมแทน มันเลียขึ้นลงรั่วๆ พร้อมมืออีกข้างของเขาที่ขย่ำหน้าอกอีกข้าง

          “ชาน.. เบาๆ.. อ๊ะ... ฮา... มัน... อึก.. ฮา มัน..เสียวไป”

          แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ฟังคำพูดผมเลยซักนิด เมื่อมืออีกข้างที่ว่างลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของผมอย่างช้าๆ ทุกจุดที่เขาลากผ่าน ทุกจุดที่เขาจูบ เลีย และเน้นย่ำ ล้วนร้อนวูบวาบไปหมด

           “ฮึก... อ๊ะ.. อ๊ะ..”

          สัมผัสที่หายหายกับไปนาน มันแทบทำให้ผมบ้าคลั่ง และรู้สึกเร็วมากกว่าที่คิดไว้

           หลี่ ชานเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของผมด้วยแววตาที่หื่นกระหายราวกับสัตว์ป่าที่อดอยากมาแรมปี หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นเมื่อสบกับตาคู่หนึ่งของเขา ก่อนที่อีกฝ่ายจะก้มลงไปเพิ่มแรงจูบมากยิ่งขึ้นจนผมรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วร่างแล่นวูบมาจนถึงจุดศูนย์กลาง
           ผมขยุ่มเรือนผมสีดำ พลางส่งเสียงครางออกมาไม่หยุด ชานกดนิ้วลงไปกลางช่องแคบของผม ก่อนจะขยับมันเข้าออกช้าๆ จากหนึ่ง เพิ่มมาเป็นสอง จากสองเพิ่มมาเป็นสาม ผมรีบจับมือห้ามเข้าไว้ ก่อนที่จะนานไปมากกว่า

            ผมบรือตามองเขา พร้อมพูดด้วยเสียงแห่บพร่า “เข้ามาเถอะ.. ฉันอยากได้นาย ชาน” เหมือนเขาเองก็ทนไม่ไหว  หลี่ ชานกระชากกางเกงของเขาออกรวดเดียว ก่อนจะจ่อชานน้อยมาถูไถกับช่องทางของผม

            “แฮ่ก.. ฮา... เข้ามา... อ่า... ชาน...”

          นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเกือบดำกำลังรอคอยให้ผมพูดออกมา ประโยคพูดที่เขาอยากให้ผมพูดทุกครั้งที่ทนไม่ไหว

          “อ๊ะ.. อ่า... ชาน.. เอาไพเรสแรงๆทีเถอะ... อ๊า... ฮา... ไพเรส.. จะไม่ไหว.. แล้วนะ”

          ทันทีที่คำพูดน่าอายออกมาจากปากผม ชานก็ยกยิ้ม พร้อมจ่อชานน้อยเข้ามาในช่องรักของผมช้าๆ หากแต่หนักแน่น
ผมกัดปากตัวเองเพื่อไม่ให้ร้องออกมา

          ....ก็แน่ละ เขาเข้าเล็กซะทีไหน

           ชานปล่อยชานน้อยให้นอนนิ่งอยู่ในตัวผมซักพัก ก่อนจะขยับมันออก และใส่เข้ามาใหม่

           “อ่า....ลึกจัง”ผมพึมพำ

            หลี่ ชานขยับตัวเข้าออกช้าๆ ก่อนจะเพิ่มความเร็วขึ้นเป็นจังหวะ

           “อ๊ะ...อ๊ะ..อ๊า!”ผมครางรับกับจังหวะของเขา ในขณะที่สะโพกของผมยกขึ้นทุกครั้งที่เขาสอดใส่เข้ามา ยิ่งผมครางเสียงดังมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสติหลุดมากขึ้นเท่านั้น

           “ชาน.. แรงอีก.. เอาไพ.. อึก เอาฉันให้แรงๆอีก อ๊า.. อ๊ะ! อ๊ะ!!”

           หลี่ ชานกระแทกสะโพกเข้าหาผมตามคำขอ ผมยกสะโพกขึ้นมาสอดรับกับของของเขาอย่างไม่ลดละ เมื่อใกล้จะถึงขีดสุดของปลายทาง

           “อ๊า!!”

           พรวด!

           น้ำสีขุ่นพุ่งเข้ามาในตัวของผม มันอุ่นวาบไปหมด แต่ก่อนที่ผมจะล้มฟุบลงไปอย่างหมดแรง หลี่ ชานก็พูดขึ้นมาว่า “อีกรอบ” พร้อมขยับชานน้อยเข้ามาให้ผมอ้าขารับอีกครั้ง แต่คราวนี้ชานยกตัวผมขึ้นมานั่งบนตักเขา พร้อมกับจับสะโพกผมไว้

          “พอ... พอเถอะ อ๊ะ!”

           ชานจับเอวผมยกขึ้น ก่อนจะกดลงมาอย่างเร็ว

          “อื้อ.. อึก..”

           ให้ได้อย่างนี้สิ.. ไม่เจอกันตั้งนานทำไมไม่เห็นใจกันบ้างเลย ลองมาเป็นฝ่ายรับดูบ้างสิ!

           ผมแอบโวยวายในใจ แต่ความจริงไม่มีแรงที่จะต่อว่าชานแล้วละครับ ผมขยับสะโพกขึ้นลงตามที่เขาสั่งอย่างรู้หน้านี้

           “อ๊า... อ๊ะ... อ๊ะ...อึก... อื้อ!!”ผมครางออกมา ก่อนจะนั่งนิ่งลงไปอีกครั้งอย่างหมดแรง แต่ดูเหมือนชานจะทนไม่ไหวเองครับ เขาพลิกตัวผมให้นอนราบบนโต๊ะตัวยาว ก่อนจะกระแทกเข้ามาอย่างไม่ลดละ

         “อ๊ะ อ๊า.. ชาน อึก.. เร็วอีก ฮ้า... เร็วอีก...”ผมขอร้องเขา ในขณะชานก็กระหน่ำเข้ามาแรงขึ้นเรื่อยๆ

         ฟั่บๆๆๆ

          เสียงของร่างกายเราตอบกลับกันอีกครั้ง และอีกครั้ง ราวกับไม่มีวันจบสิ้น

          ไม่ว่าโลกนี้จะเป็นยังไง ไม่ว่าเราจะชนชาติใด หรืออยู่ที่ไหน แต่พรหมลิขิตก็นำพาให้เรามาพบกัน มารักกันจนได้

          “อ๊ะ...อ๊ะ... ชาน...ฮา.. ฉันรัก..อ๊ะ! นายนะ!!”
          .
          .
          .
          .
          .
          “อ๊า!!!!”
         .
         .
         .
         .
       
         .
   
         .

         .
 



          “ผมก็รักคุณนะ แสงสว่างเพียงดวงเดียวของผม..”


End

ขอบคุณที่อ่านมาจนจบค่ะ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
แอร๊ย~ ไพเรสกับอรุณน่ารักโฮกกก :z1: เห็น รับ×รับ เขาสวีทกัน(?)แล้วมันใช่มากเลยค่าา หุหุ รู้สึกว่าเราจะโฟกัสผิดจุดสินะคะเนี่ย :-[

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ นะค้า ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ButterLatis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
 o13  เหตุผลเมฆป่วยมากกกก น่าจะจับแยกเตียงกับอรุณสักสองเดือน   :hao3:

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
 :jul1: :m25:ต

ออฟไลน์ มะปรางเปรี้ยว

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ  :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
  :jul1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
 :m25: :pighaun: :haun4:

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
ร้อนแรงยิ่งนัก

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
 o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด