รักวุ่นๆ ตัวจุ้นช่วยให้รักกัน (◕〝◕) #Mpreg
CH.15
Part โจ้
เรื่องบางเรื่องที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่วันหนึ่งมันอาจจะเป็นไปได้ก็ได้ ที่ผมบอกแบบนี้ก็เพราะมันเกิดขึ้นกับผมยังไงครับ เรื่องที่ผมคิดว่ามันคงไม่มีทางเป็นไปได้ นั่นคือการที่ผมแอบชอบ หรือจะเรียกว่าแอบรักเลยก็เป็นไปได้ คนๆหนึ่ง โดยเรื่องเกิดขึ้นเมื่อตอนที่ผมเรียนอยู่ปีหนึ่ง คือวันนั้นผมมีเรียนตอนเช้าแต่รถของผมเสียทำให้ผมต้องต้องนั่งแท็กซี่ไปเรียน พอลงจากแท็กซี่แล้วผมก็รีบเดินไปจะขึ้นตึกเรียนมันระวังมองให้ดีว่ามีรถวิ่งเข้ามา ก็มือจากด้านหลังดึงผมกลับไปทำให้ผมรอดจากการโดนรถชน เมื่อหันกลับไปมองปรากฏว่าเป็นรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งที่เข้ามาช่วยผมไว้
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” รุ่นพี่คนนั้นเขาถามผม
“มะ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณที่ช่วยนะครับ” ผมตอบพร้อมยกมือไหว้ขอบคุณ
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”
“ครับ”
“งั้นพี่ไปก่อนนะ คราวหลังก็ระมัดระวังด้วย”
“ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” ผมพูดจบพี่เขาก็เดินไป ผมจึงขึ้นตึกเรียนเพื่อไปเรียน
จากวันนั้นผมก็ไม่ได้เจอรุ่นพี่คนนั้นอีกเพราะวันนั้นผมมัวแต่ตกใจจนไม่ได้ผมชื่อ หรืออะไรเกี่ยวกับพี่เขาเลย จนวันหนึ่งที่ผมมีนัดกันไปทำรายงานกับไอ้ภาคเพื่อนของผมที่บ้านของมันทำให้ผมได้เจอกับรุ่นพี่คนนั้นอีกครั้ง และที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือรุ่นพี่คนนั้นเป็นพี่ชายของไอ้ภาคเพื่อนของผม “พี่พอล” แต่พี่เขาคงจำผมไม่ได้เพราะครั้งก่อนที่เจอกันตอนที่พี่เขาช่วยผมไว้ตอนนั้นผมใส่แว่น ซึ่งการมาเจอกันครั้งนี้ผมเปลี่ยนจากใส่แว่นเป็นคอนแทกเลนน์ หลังจากนั้นผมก็ได้พบพี่พอลบ่อยขึ้นทำให้ความรู้สึกของผมเปลี่ยนไปตอนไหนไม่ทราบจากที่ผมประทับใจพี่พอลที่ได้ช่วยผมไว้เป็นความรักขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว แต่ผมไม่ได้บอกพี่เขาอกไปเพราะตอนนี้พี่คบหากับผู้หญิงไม่มีท่าทีว่าจะชอบผู้ชายด้วยกัน จนกระทั่งไอ้ภาคไปเรียนต่อต่างประเทศผมก็ไม่ได้เจอพี่พอลอีกเลย
และไม่นานมานี้หลังจากที่ไอ้ภาคกลับมาจากไปเรียนต่อผมไปหามันที่บ้านทำให้ผมเจอกับพี่พอลอีกครั้ง แต่ผมไม่รู้เลยว่าการเจอกันครั้งนี้จะทำให้ผมได้เจอเรื่องที่ผมไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ ในงานการกุศลที่ผมได้รับบัตรเชิญให้ไปร่วมงาน เมื่อพี่พอลบอกกับผมว่ามีเรื่องจะพูดด้วยเราจึงเดินออกไปยังสวนของโรงแรมที่เป็นสถานที่จัดงาน
“พี่พอลมีอะไรจะพูดเหรอครับ” ผมถามขึ้นเมื่อมาถึงเดินออกมาถึงสวน
“คือพี่มีเรื่องจะบอกโจ้นะ”
“เรื่องอะไรเหรอครับ”
“คือพี่จะบอกว่าพี่รักโจ้ รักมานานแล้วด้วย ตั้งแต่ไอ้ภาคพาโจ้ไปที่บ้านทั้งแต่สมัยเรียน แต่พี่ไม่กล้าบอกออกไปเพราะพี่ไม่รู้ว่าโจ้จะรู้สึกยังไงที่มีผู้ชายมาชอบและผู้ชายคนนั้นคือพี่ชายของเพื่อน แล้วตอนที่ไอ้ภาคไปเรียนต่อพี่ก็ไม่เจอโจ้อีกเลยแต่พี่ก็ยังคิดถึงโจ้อยู่ตลอด พี่ลองคบคนอื่นแต่ก็ไม่มีใครทำให้พี่รู้สึกแบบที่พี่รู้สึกกับโจ้เลย แต่หลังจากที่ไอ้ภาคพาภีมกับภามมาหาพ่อมาพี่เห็นมันมีความสุขพี่รู้สึกอิจฉามันที่มันได้อยู่กับคนที่มันรักพี่เลยตัดสินใจว่าพี่จะบอกความรู้สึกของพี่ให้โจ้รู้ว่าพี่รักโจ้แล้วหลังจากนี้พี่จะจีบโจ้” พี่พอลพูดออกมา
“ห๊ะ พี่ว่าอะไรนะ” ผมถามอย่างตกใจอีกครั้ง
“พี่รักโจ้ และหลังจากนี้พี่จะจีบโจ้” หลังจากพี่พอลพูดจบ พี่พอลก็หอมแก้มผมแล้วเดินออกไป ตอนนั้นบอกได้เลยว่าผมตกใจมากที่พี่พอลบอกว่ารักผม และจะจีบพอล และอีกความรู้สึกหนึ่งคือผมดีใจเพราะผมไม่คิดมาก่อนว่าพี่พอลจะรักผมเหมือนกับที่ผมรักพี่พอล มารู้สึกตัวอีกทีพี่พอลก็เดินออกไปแล้ว
พี่พอลมาหาผมที่คอนโดอีกครั้งในวันหยุดตอนเปิดประตูไปเจอพี่พอลผมตกใจมาก พี่พอลมาได้ยังไง รู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่ แล้วพี่พอลมาทำไม พอผมถามออกไปพี่พอลก็ตอบว่า
“จำไม่ได้เหรอ พี่บอกไปแล้วว่าพี่จะจีบโจ้ พี่ก็มาจีบนี่ไงครับ” พี่พอลพูดพร้อมกับส่งสายตาหวานมาให้ ทำรู้สึกเขินเพราะไม่คิดว่าพี่พอลจะจริงจังแบบนี้ ตอนนั้นรู้ได้เลยว่าหน้าผมต้องเป็นสีแดง
“อะ เอ่อ พี่พอลพูดจริงเหรอ ผมคิดว่าพี่พูดเล่น”
“พี่พูดจริงสิครับ แล้วโจ้หล่ะรังเกียจหรือเปล่าที่พี่ตามจีบ”
“เอ่อ..” ผมอึกอักไม่รู้จะตอบยังไง ไม่ใช่ว่าผมรังเกียจพี่พอลแต่ผมเขิน
“โจ้รังเกียจพี่เหรอครับ” พี่พอลถามพร้อมทำเสียงเศร้า
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ คือผมตั้งตัวไม่ทันไม่คิดว่าพี่จะชอบผม แล้วตามจีบผมแบบนี้” ผมพูดออกไปเพราะกลัวว่าพี่พอลจะเข้าใจผิด
“งั้นโจ้ให้พี่จีบโจ้ได้นะครับ” พี่พอลก็พูดกับผมเสียงหวานแบบอ้อนๆ
“กะ ก็ได้ครับ” ผมเลยตอบตกลง ก็ในเมื่อผมก็รักพี่พอล แต่ผมได้บอกขอเล่นตัวหน่อยเถอะปล่อยให้จีบไปสักพักแล้วผมค่อยบอก ฮ่าๆๆๆๆ แต่ตอนนี้หน้าผมต้องแดงไปทั้งหน้าแน่เลยเพราะหน้าผมร้อนมากก็ผมเขินนิครับ
“ขอบคุณครับ” แล้วพี่พอลมันก็หอมแก้มผมอีกแล้ว
หลังวันนั้นที่ผมตอบตกลงให้พี่พอลจีบผมได้นั้นก็ผ่านมาได้เกือบเดือนแล้ว ทุกวันตอนเช้าพี่พอลจะโทรหาผมหลังจากตื่นนอน มีบ้างบางวันพี่พอลจะมารับผมที่คอนโดแล้วไปส่งที่ทำงาน ตอนเที่ยงถ้ามีเวลาก็จะมาทานอาหารกับผม ตอนเย็นมีมารับผมที่ทำงานกลับไปส่งที่คอนโดหรือไม่ก็ไปเดินเที่ยวหรือหาอะไรทาน แล้วก่อนนะก็จะโทรมาคุยกับผมไม่เคยขาด
“นั่งคิดอะไรอยู่เหรอครับ” เสียงพี่พอลถามขึ้นปลุกผมออกจากความคิด ตอนนี้ผมกำลังนั่งรถกับพี่พอลเพื่อที่จะไปบ้านพี่พอล
“ไม่มีอะไรครับ” ผมหันไปตอบพี่พอลที่ขับรถอยู่แล้วยิ้มให้ พี่พอลก็หันกลับไปขับรถต่อ
ไม่นานพวกเราก็มาถึงบ้านพี่พอล หลังจากลงรถพี่พอลก็พาผมเดินเข้าในบ้านไปยังห้องนั่งเล่นก็เจอไอ้ภาคนั่งเล่นอยู่กับภามลูกชายมันและภีมเมียรักของมัน นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าเหลือเชื่อว่าไอ้ภาคจะมีลูกกับภีมซึ่งเป็นผู้ชายท้งคู่
“หวัดดีไอ้โจ้” ไอ้ภาคมันทักผม
“สวัสดีครับพี่โจ้” ภีมทักผมแล้วยิ้ม
“หวัดดีไอ้ภาค สวัสดีภีม”
“ภามครับสวัสดีอาโจ้ก่อนครับ” ภีมหันไปคุยกับภามที่นั่งเล่นของเล่นอยู่
“สวัสดีฮะอาโจ้”ภามหันมาพูดและยกมือไหว้ผม
“สวัสดีครับภาม” แล้วผมก็นั่งลงที่โซฟาข้างๆพี่พอล
“เดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเลยนะ คบกันแล้วเหรอวะ แต่น่าจะยังเพราะไม่งั้นพี่พอลต้องมาป่าวประกาศแล้วหล่ะ” ไอ้ภาคหันมาพูดกับผมแบบกวนๆ
“ก็ตามนั้น” ผมตอบออกไป
“มึงก็อย่าเล่นตัวให้มันมากนัก คนมันแก่แล้วสงสารมันอย่าให้รอนานๆ” ฮ่าๆๆๆอันนี้ไอ้ภาคว่าพี่มันครับ พี่พอลก็ได้แต่ชี้หน้าเพราะตอนนี้มีภามนั่งอยู่บนตัก แกเรียกหลานมาเล่นด้วยตั้งแต่นั่งลงแล้ว หลังจากนั้นเราก็นั่งคุยกันต่อไปสักพัก และผมก็หันไปเล่นกับภามด้วย ลูกไอ้ภาคนี่น่ารักจริง
“ภีมว่าตอนนี้เราไปทานข้าวกันดีกว่าได้เวลาแล้ว” ภีมพูดเสร็จเราก็เดินไปยังห้องอาหารกัน พอทุกคนนั่งลงเสร็จแม่บ้านยกอาหารมาแล้วตักข้าว แต่อยู่ๆภีมก็ลุกขึ้นแล้ววิ่งไปเข้าห้องน้ำทำให้ทุกคนตกแล้วไอ้ภาคก็วิ่งตามออกไป สักพักไอ้ภาคก็ก็ประคองภีมกลับมา
“ภีมเป็นอะไรหรือเปล่า” ผมถามภีม
“ไม่ทราบเหมือนกันครับอยู่ๆรู้สึกจะอ้วกขึ้นมา”
“แม่เป็นอะไรเหรอฮะ” ภามถามภีม
“แม่เป็นไรครับ”
“พี่ว่าภีมขึ้นไปพักดีกว่านะดูหน้าซีดๆ” พี่พอลพูดขึ้น
“งั้นผมพาภีมขึ้นไปพักก่อนฝากภามด้วยนะ ภามครับอยู่ลุงพอลและอาโจ้นะครับพ่อจะพาแม่ไปนอน” ไอ้ภาคพูดกบพี่พอลเสร็จ ก็หันไปพูดกับภาม
“ฮะ” แล้วไอ้ภาคก็พาภีมขึ้นไปด้านบน
“ทานข้าวดีกว่าครับภามเดี๋ยวลุงพาไปเที่ยว” พี่พอลหันไปคุยกับภาม
หลังจากนนั้นเราก็นั่งทานข้าวกันสามคน พอทานข้าวเสร็จพี่พอลก็ขับรถพาผมกับภามไปเดินเล่นที่ห้าง เราเดินเล่นกันได้สักพัก พี่พอลก็หันไปถามภาม
“ภามอยากได้อะไรไหมครับ”
“ภามอยากกินไอติมฮะ”
“ได้ครับงั้นเราไปกินไอติมกัน” แล้วก็เดินไปร้านไอติมกันโดยภามให้ผมกับพี่พอลเดินจูงมือกันคนละข้าง เลยเป็นที่สนใจของคนรอบข้างที่ผู้ชายสองคนเดินจูงมิอเด็ก
“ภามอยากกินแบบไหนเลือกเลยครับ” ผมเปิดเมนูให้ภามเลือกเมื่อเราเดินมานั่งกันในร้านไอติม
“ภามเอาอันนี้ฮะ” ภามชี้ที่รูปซึ่งอันที่ภามเลือกเป็นชุดใหญ่ที่กินกันได้หลายคน เราเลยตัดสินใจสั่งถ้วยเดียว
ไม่นานพนักงานก็เอาไอติมมาเสริฟ
“กินได้เลยครับภาม แต่อย่าให้เลอะนะครับ” พี่พอลพูดกับภาม
“ฮะ” แล้วภามก็ลงมือกิน ผมก็ตักกินบ้าง กินไปสักพักก็มีช้อนไอติมยื่นมาที่ปากของผม เงยหน้าดูปรากฏว่าเป็นพี่พอล
“กินสิพี่ป้อนให้”
“ไม่เอา อายเขา” ผมปฏิเสธใครจะกล้ากินคนมองกันทั้งร้านตั้งแต่เดินจูงมือกันเข้ามาแล้ว
“กินเถอะ อายอะไร ใช่ไหมครับภาม” พี่พอลพูดแล้วมันไปถามความเห็นภามอีก
“ใช่ฮะ อาโจ้กินเลย กินเลย” ภามพูด ผมหันไปมองพี่พอลที่มองอยู่แบบอ้อนๆ เฮ้อ ทำไงได้หล่ะครับนอกจากอ้าปากแล้วกิน
“กรี๊ดๆๆๆ “ ผมได้ยินเสียงกรี๊ดจากโต๊ะข้างๆ
“น่ารักอ่ะแกมีป้อนกันด้วย ใช้ช้อนเดียวกันอีกต่างหาก” แล้วผมก็หันดูเออใช่ นั่นมันช้อนพี่พอล
“อร๊ายย จูบทางอ้อมอ่ะแก” แล้ผมจะทำอะไรได้หล่ะครับนอกจากหน้าแดงแล้วก้มหน้าก้มตากินต่อ
หลังจากกินไอติมเสร็จพวกเราก็ออกจากห้าง พี่พอลขับรถมาส่งผมที่คอนโดจากนั้นก็ขับรถกลับบ้านกลับภามแต่ก่อนที่จะขับรถออกไปพี่พอลพูดทิ้งท้ายไว้ว่า
“ไว้เดี๋ยวพี่โทรหานะครับที่รัก”
********โปรดติดตามตอนต่อไป********
ปล.มาฟังความรู้สึกของโจ้กันบ้างเนอะทำไม๊ทำไมยอมให้จีบง่ายขนาดนั้น ฮ่าๆๆๆ แล้วตอนนี้ภีมมีอาการว่าม๊ะ หวังว่าคงจะถูกใจกันเน้อ ติชมได้จ้า แล้วเจอกันตอนต่อไปนะฮะ