[6]
PART 2
“เพื่อนคีนไม่เป็นหมาครับ นี่ขนาดต้องไปรับหวานใจมาก่อนนะเนี่ยยยยยยย”
“ฮิ้ววววววว”
ผมควรจะชินกับเสียงพวกนี้ใช่มั้ย เพราะทันทีที่พี่แม็คเริ่ม พวกพี่ที่เหลือ (ยกเว้นพี่เซนที่ตั้งแต่รู้จักมายังไม่เคยได้ยินเสียงพี่แกเลยสักแอะ) จะโห่ฮิ้วเป็นลูกคู่ทันที ผมก็ได้แต่เงียบๆ ไม่ตอบรับ ไม่เถียง ไม่ออกอาการ ออกแนวปลง เหอๆ
ตอนนี้พวกเรา (หมายถึง ผมกับไอ้คิมที่ไอ้คีนไปรับมา พี่เซน พี่โม พี่แม็ค พี่รีม พี่รอน ไอ้แม็กซ์ ไอ้มิกซ์ พี่โจ พี่นอร์ท และพี่โฟร์ท) มาถึงสถานที่นัดก็คือคอนโดของไอ้คีนแล้ว ตอนนี้ก็เจ็ดโมงพอดีเป๊ะแล้ว แต่ยังออกรถไม่ได้เนื่องจากขาดผู้ร่วมทริปคนสำคัญอีกหนึ่งคน
“แสดงว่าแบบนี้ไอ้แบงค์ก็เป็นหมาอ่ะดิ ฮ่าๆ” พี่รีมพูดออกมาขำๆ เพราะผู้ร่วมทริปคนสำคัญที่ยังไม่มานั่นก็คือพี่แบงค์
“ว่ากูเป็นหมาหรอไอ้รีม พี่นอร์ท พี่โจ พี่โฟร์ทหวัดดีครับ” พี่แบงค์ที่เพิ่งลงจากแท็กซี่มาทันได้ยินที่พี่รีมพูดพอดีก็สวนกลับขำๆ เช่นกัน แล้วทักทายผู้อาวุโสที่สุดในทริปเล็กน้อย ทุกคนเฮฮากันเสียงดังล้อเรื่องเป็นหมาไม่เป็นหมากันเมื่อพี่แบงค์มาถึงแล้ว แต่เสียงเหล่านั้นกลับเงียบลงราวกับโดนปิดสวิตซ์เมื่อพี่แบงค์ไม่ได้มาคนเดียว กลับมีใครอีกหนึ่งคนลงจากรถแท็กซี่ตามพี่หลังแบงค์มา
ผู้ชายตัวเล็ก ดูแล้วน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับผม เป็นคนตัวเล็กๆ ผิวขาวที่คงจะเนียนน่าดู ไหนจะปากนิด จมูกหน่อย ผมสีน้ำตาลอ่อน เรียกได้ว่าน่ารักมาก แถมการแต่งตัวยังน่ารักสุดๆ แบบที่เป็นสเป็คเกย์รุกทั่วไป และผมจะไม่อะไรเลยถ้าไม่ได้ลงรถมาพร้อมพี่แบงค์ ถ้าพี่แบงค์ไม่ได้เพิ่งเลิกกับพี่โม และพี่แบงค์ไม่ได้เป็น. . .เกย์รุก
ผมหันไปมองไอ้คีน ก็เห็นไอ้คีนหันไปมองพี่โมอยู่ก่อนแล้ว ผมก็เลยหันไปมองบ้าง พี่โมโคตรน่าสงสารอ่ะ หน้าซีดเหมือนคนไม่มีเลือดอยู่บนหน้า ริมฝีปากสวยก็ยกยิ้มค้างไว้อยู่แบบนั้น แต่ดูแล้วคงจะเป็นยิ้มที่กล้ำกลืนไม่น้อย เพราะไม่มีใครรู้ว่าคนที่พี่แบงค์พามาด้วยนั่นเป็นใคร แต่ทุกคนคงจะเดาถึงความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มน้อยคนนี้กับพี่แบงค์ไปในทางเดียวกัน
มันคงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก. . .ชู้สาว“เฮ้ย ทำไมเงียบกันวะ” พี่แบงค์ถามออกมา คงจะสังเกตได้ถึงความผิดปกติของเพื่อนๆ
“อะ. . .อ๋อ เอ้อ. . .ไอ้แบงค์มึงพาใครมาด้วยวะ น่ารักเชียว” พี่รีมที่ตั้งสติได้ก่อนเป็นคนเอ่ยถามคนแรก พร้อมกับส่งยิ้มแหยๆ ไปให้คนแปลกหน้าแล้วเหล่ตามองพี่โม
“เออว่ะ ลืมแนะนำไปเลย นี่ซ่า รุ่นน้อง
คนสนิทของกู. . .ซ่า นี่ เพื่อนๆ พี่” พี่แบงค์ดันไหล่เจ้าของชื่อให้มาอยู่ข้างหน้าตัวเอง พร้อมเน้นคำว่าคนสนิทอย่างจงใจ ตอนนี้พี่โมเบือนหน้าหนีไปแล้ว เออแม่ง เป็นกูกูก็ทนดูไม่ได้อ่ะ พี่แบงค์แม่ง ทำร้ายจิตใจว่ะ
“หรอ. . .เอ่อ. . .รุ่นน้องคนสนิทมึง ทำไมพวกกูไม่เคยเห็นเลยวะ แหะๆ” พี่แม็คถามบ้าง พร้อมหัวเราะแหะๆ อย่างต้องการสร้างบรรยากาศ แต่กลับไม่มีใครหัวเราะร่วมกับพี่แกเลยสักคน เงียบ. . .สนิท แบบที่เสียงเป่าสากก็คงจะดังกว่า
“น้องอยู่ มออื่นน่ะ อยู่ปีหนึ่งเหมือนเด็กไอ้คีนนั่นแหละ พวกมึงก็เลยไม่รู้จัก ที่มาช้านี่ต้องไปรับน้องเขาก่อน” พี่แบงค์บอก พวกเราก็รับคำเป็นเชิงรับรู้ ก่อนที่พี่โฟร์ทจะบอกให้ไปขึ้นรถได้ เพราะเลทมาเยอะแล้ว
เนื่องจากพวกเรามีถึงสิบห้าคน (ถึงตอนแรกจะแค่สิบสี่ก็เถอะ) เลยใช้รถบ้านของพี่โฟร์ทเป็นพาหนะในการเดินทาง โดยมีคนขับรถบ้านพี่โฟร์ทเป็นคนขับให้ ภายในรถก็เหมือนบ้านจริงๆ มีอุปกรณ์นู่นนี่นั่นครบครัน มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ แถมยังมีครัวเล็กๆ อยู่ด้วย โคตรหรูอ่ะ
เมื่อขึ้นมาบนรถแล้วทุกคนก็จับจองที่นั่งกันคนละมุม แต่ผมไม่สามารถปลีกตัวไปนั่งกับเพื่อนๆ ได้ เพราะพอขึ้นรถมาได้ ไอ้คีนแม่งก็ลากมานั่งแหมะอยู่บนเตียงกับมันทันที ส่วนพี่ๆ คนอื่นๆ รวมถึงเพื่อนๆ ผมก็นั่งอยู่บนพื้นรถที่มีพรมอย่างหนาปูอยู่
คือกูไม่เข้าใจ ขนาดพวกพี่โฟร์ทซึ่งเป็นเจ้าของรถยังนั่งข้างล่างอ่ะ แล้วมึงมีอภิสิทธิ์อะไรถึงลากกูมานั่งบนเตียงสูงกว่าเขาเนี่ย
“กูจะไปนั่งกับเพื่อน” ผมบอกพร้อมกับดึงมือมันที่เกาะอยู่ตรงเอวออก
“นั่งทำไมกับเพื่อน นั่งกับกูนี่แหละ” มันดื้อครับ มันดื้อ ผมก็ได้แต่ฮึดฮัดเพราะไอ้พวกเพื่อนรักมันส่งสายตาประมาณว่า
‘มึงนั่งๆ ไปเห้อะ พวกกูไม่อยากโดนหางเลข’ เออแม่ง ไอ้พวกเพื่อนเลว
“แล้วนี่เราจะไปไหนกันเหรอฮะ” ไอ้คิมถามขึ้นมาทำให้ผมนึกขึ้นได้ เออว่ะ นี่กูยังไม่รู้เลยแม่งว่าจะไปไหน รู้แค่ว่าทะเล นี่ถ้าเอากูมาขายนี่ซวยเลยนะ ตามเขามาง่ายเกิ๊น
“ไม่บอก ปล่อยให้งง”
“พี่รีม กวนตีนว่ะ” ผมว่าขำๆ เอาเถอะ ถามไปก็ไม่มีใครบอก เอาเป็นว่าถึงที่เดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ
“พี่แบงค์ฮะ ซ่ายังไม่รู้จักชื่อพี่ๆ เลย พี่แบงค์ยังไม่บอกซ่าเลยนะ” ซ่าว่าเสียงกระเง้ากระงอด แลดูน่ารักน่าชัง แต่ผมอาจนะเน้นหนักที่ชังหน่อย เหอๆ อาจจะเป็นเพราะว่าผมสนิทกับพี่โม แล้วก็รู้สึกตงิดๆ ในความน่ารักใสๆ ของคนน่ารักเข้าให้แล้ว
“พวกมึงแนะนำตัวกับน้องหน่อยสิวะ น้องจะได้เรียกถูก” พี่แบงค์บอกยิ้มๆ แต่สายตาแกกลับมองพี่โมนิ่งแวบนึง ก่อนจะมองไปรอบๆ เหมือนไม่ได้มอง
“เอ่อ. . .งั้นเดี๋ยวกูแนะนำให้ดีกว่า. . .พี่แนะนำให้เนอะซ่าเนอะ คนที่อยู่บนเตียงนั่นไอ้คีน ที่นั่งข้างๆ นั่นแฟนมัน ฟีฟ่า”
“ไม่ใช่แฟน พี่แม็คอย่ามั่ว!!” ผมแก้ให้ถูกทันทีที่พี่แม็คให้ข้อมูลผิด ไม่ได้ๆ ยังไม่ตกลง เดี๋ยวกูเสียหาย ไว้ตกลงก่อนเดี๋ยวกูให้เรียกเช้า-เย็นเลย คริคริ
“เออลืมๆ ยังไม่ใช่แฟน ไอ้คีนแม่งช้า กูเรียกไว้ก่อนจะได้ชินปาก ฮ่าๆ ฟีฟ่าก็อยู่ปีหนึ่งเหมือนกันครับ ส่วนนี่ไอ้เซน รีม รอน ไอ้แม็กซ์ ไอ้มิกซ์ น้องคิม พี่โจ พี่นอร์ท พี่โฟร์ท ส่วนพี่ที่หล่อที่สุดคนนี้ชื่อพี่แม็คครับ” พี่แม็คชี้ไปที่ตัวเอง ห่า มั่นหน้าสุดอ่ะ
“แล้วพี่คนนั้นล่ะฮะ” ว่าแล้วก็ชี้ไปที่พี่โม พี่แม็คหน้าเสียแต่ก็ยอมพูด
“อ๋อ. . .อะ. ..เอ่อ พี่คนนั้นชื่อโมน่ะ”
“อ๋อ สวัสดีฮะ. . .พี่โม” ไอ้ซ่า(เพิ่มคำหน้าด้วยความหมั่นไส้ล้วนๆ) มันเรียกชื่อพี่โมแบบเน้นเสียง พร้อมทั้งจ้องหน้าแบบท้าทาย ไอ้ห่าพี่แบงค์ก็ไม่ได้รับรู้อะไรเล้ย แม่ง กูขึ้นแทน ฟังดูรู้เลยอ่ะว่ากวนตีน
“สวัสดี” พี่โมก็ทักตอบกลับเสียงเรียบ แล้วสองคนนั้นก็จ้องกันอยู่อย่างนั้นจนพวกเรายกเว้นพี่แบงค์มองหน้ากันเหรอหรา
“อะ. . .เอ่อ พวกเรามาเล่นเกมส์กันดีว่าเนอะ เล่นกันๆ” พี่รีมรีบแก้สถานการณ์ ทำให้ทุกคนกลับมาเฮฮาอีกครั้ง
“เราเล่นเกมส์อะไรกันดีอ่าพี่แม็คคคคค” ไอ้แม็กซ์หันไปถามพี่แม็ค
“เราเล่นเกมส์อะไรกันดีอ่ารีมมมมมม” พี่แม็คก็หันไปถามพี่รีม
“เราเล่นเกมส์อะไรกันดีอ่ารอนนนนนนน” จากนั้นพี่รีมก็หันไปถามพี่รอนแฝดแก
“เราเล่นเกมส์อะไรกันดีอ่าเซนนนนนนน” พี่รอนก็หันไปถามพี่เซนที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่ผลตอบรับที่ได้. . .
“. . . . . .” หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในทุกขณะ พี่รอนเงิบเลย ฮ่าๆ
“ฮ่าๆ โอ๊ยยยยย ไอ้เซน ทุกวันนี้กูเริ่มสงสัยแล้วว่ามึงเงียบหรือมึงเป็นใบ้ ห่า” พี่รีมว่าอย่างขำๆ พี่เซนไม่พูดแต่ยักไหล่แบบว่าไม่แคร์
“เล่นเกมส์ต่อเพลงๆ!!” ผมว่า เคยเล่นเมื่อตอนเด็กๆ สนุกดี
“ทุกคนคงจะรู้กติกากันดีอยู่แล้ว ใครเริ่มก่อน. . .กูเอง!!”
“อ้าว ไอ้แม็ค ไหงถามเองตอบเองวะ”
“เอ๋าเฮีย ถ้าผมไม่ตอบเองคนอื่นก็แย่งอ่ะดิ ผมอยากเป็นคนเปิดซิง น้องแม็คชอบเปิดซิง อิอิ”
“เสื่อมมาก”“!!!”
คุณคิดว่าประโยคเมื่อกี้ใครเป็นคนพูด หน้าทุกคนถึงกลายเป็นเครื่องหมายตกใจแบบนี้ โอ้วววววววว ทุกคนครับ ใช่ครับ เขาคือพี่เซน บุคคลที่ผมไม่เคยได้ยินเสียงเลยสักครั้ง แม้แต่เพื่อนๆ พี่เขาเองก็ยังตกใจเลยเหอะ แล้วดูประโยคที่แกพูด พี่แม็คถึงขั้นอ้าปากหวอ เบิกตากว้างเลยทีเดียว
“อะ. . .ไอ้เซน เมื่อกี้มึงพูด” พี่แม็คละล่ำละลักพูดให้พี่เซนแค่ยักไหล่ใส่อีกครั้งเท่านั้น
เมื่อทุกคนหายตกใจและตื่นเต้นที่ได้ยินเสียงพี่เซนแล้ว เกมส์ก็เริ่มต้นขึ้น โดยคนเริ่มคือพี่แม็ค แล้วจะเวียนไปทางซ้ายมือของพี่แก ดังนี้ พี่เซน พี่รีม พี่รอน ไอ้คีน ผม พี่โม ไอ้แม็กซ์ ไอ้มิกซ์ ไอ้คิม พี่โจ พี่นอร์ท พี่โฟร์ท พี่แบงค์ ซ่า โดยมีเดิมพันก็คือ คนแพ้ต้องกินเพียวๆ หนึ่งช็อต ห่า นี่กะจะเมากันตั้งแต่หัววันเลยใช่ป่ะ แล้วนี่จะถึงที่หมายมั้ยเนี่ยแบบนี้
“จะเริ่มแล้วน้าาาา. . .แฮ่มๆ” พี่แม็คลุกขึ้นยืน หายใจเข้าเฮือกใหญ่ ตั้งท่า ก่อนจะ. . . “ไปเที่ยวกันมั้ยยยยย จะไปก็รีบไปปปปปป ไปกับพี่แล้วสบายยยยย เดี๋ยวพี่พาไปกินตับ ตับๆๆๆ ตับๆๆๆ. . .เอ้า ต.เต่าๆ ไอ้เซนๆ ต.เต่า!!” ฮ่าๆ พี่แม็คแม่ง ทั้งร้องทั้งเต้น เล่นเอาพี่เซนเหวอ ก่อนจะค่อยๆ ตั้งสติแล้วร้องออกมา โดยที่เริ่มท่อนเพลงต้องเป็น ต.เต่า
“ตอกให่น้องแหน่ กรุณาตอกให่น้องแหน่ เข้างานบ่ทันแท้ๆ ฟ้าวตอกให่แหน่ เจ้านายสิหว่า. . .ว.แหวน”
“!!!”
อีกครั้งที่เครื่องหมายตกใจเกิดขึ้นเพราะพี่เซน ก็พี่แกเล่นเพลงอีสานกันเลยอ่ะ แม่งกูเงิบหลายรอบแล้วนะวันนี้
“ตกใจไร ว.แหวนสิวะ” พี่เซนพูดอีกครั้ง นั่นแหละพี่รีมถึงได้สติ แต่เพราะ ว.แหวนมันง่าย พี่แกเลยสามารถร้องออกมาได้อย่างรวดเร็ว
“วันนี้เป็นวันสงกรานต์ สนุกสนานรื่นเริงทั่วไทย ท.ทหาร”
“ห๊ะ?!!” พวกเราที่เหลือถึงขั้นอ้าปากเหวอเมื่อพี่รีมร้องเพลงจบ ห่า นี่จบแล้วอ่อวะ ครึ่งท่อนยัง ทำไมจบเร็ว หรือกูหูเพี้ยน หูดับไปชั่วคราว หรือยังไง
“เหี้ยไรไอ้รีม มึงร้องแค่นั้น?” พี่รอนแฝดแกท้วงขึ้นมา เพราะต้องเป็นคนร้องต่อจากพี่รีม
“เออดิ ร้องดิไอ้รอน ท.ทหารง่ายนะเว้ย หรือมึงอยากให้กูร้องต่อแล้วได้ตัวยากๆ” พี่รีมเถียง
“เออๆ ท.ทหารก็ได้แม่ง. . .เอิ่มมมม” แล้วพี่รอนก็กลอกตาขึ้นเหมือนคิด พวกเราที่คอยท่าอยู่แล้วจึงเริ่มปฏิบัติการ นับ!!
“หนึ่ง!!” พี่รอนเริ่มกดดัน
“สอง!!” เหงื่อเริ่มแตก
“ที่รัก. . . ในวันนี้ฉันขอเรียกเธอเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนที่เธอจะเดินจากฉันไปยังดินแดนที่แสนไกล. . .
ได้มั้ย. . . ที่รัก. . .
พรุ่งนี้. . .สิ่งที่เหลือคงมีแค่กลิ่นหอมของเธอที่ตรงที่นอน
และคงไม่มีอีกแล้วคำหวานก่อนฉันเข้านอน
. . .ที่รัก
อย่างกับมีฝนไหลรินมาจากตา
อย่างกับฟ้าผ่าลงตรงหัวใจ
แสบสะท้านเหมือนโดนแผ่นดินไหว
เหมือนลมหายใจแผ่วลงทุกที
คงไม่มีอีกแล้วแววตา ที่ทำให้ฉันได้นอนฝันดี
สิ่งที่เหลือคงมีแค่คำนี้ อยากบอกกับเธอ เฮ้อ. . .
เป็นครั้งสุดท้าย โหว ฮูว โว้ววว
ขอบคุณทุกห้วงเวลาที่เคยผ่านมาจนถึงวันจากลา
ขอบคุณสายตาที่เคยอ่อนหวานละมุนละไม
ขอบคุณทุกช่วงดีๆ ที่มีให้กันและฉันจะทนให้ไหว
ตราบวันนี้ถึงร่างกายสลาย ให้จำเอาไว้เธอคือที่รัก. . .ของฉัน. . .
คนเดียว. . .”
“ด.เด็กๆ ห่า เพลงไรวะ” เสียงคนที่ไม่ใช่คิวตัวเองเถียงกันเซ็งแซ่ แต่ไอ้คีน ซึ่งต้องเป็นคนร้องต่อ มันทำหน้าคิดแวบนึงก่อนจะหันมามองผม กระตุกยิ้มมุมปากแล้วร้องออกมา
“ได้ยินไหม ได้ยินไหม โปรดฟังว่าฉันรักเธอ
เธอจะอยู่ไหน อยู่สุดฟ้าไกล เพียงให้เธอรับรู้
ได้ยินฉัน บอกเธอไหม ว่าคนคนนี้รักเธอ
นี้ไงคำว่ารัก ที่เธอรอฟัง (ได้ยินไหม). . .
ม.ม้า” อะ. . .เอ่อ แล้วกูต้องทำไรต่อวะ ต้องกินเหล้า ต้องทำห่าไร ตอนนี้สมองกูแม่งไม่ทำงานตั้งแต่มันสบตาผมแล้วร้องเพลงนี้ออกมาแล้ว มันเบลอ รู้ว่าเป็นเกมส์ แต่ทำไมใจกูมันเต้นแบบนี้วะ
“สาม!!”
“ดื่มเลยๆ”
“เฮ้ย ไรวะ แล้วหนึ่งกับสองไปไหน!!” ผมเถียง อยู่ๆ ก็สามเลย คือไร?
“พี่นับแล้วครับน้อง แต่น้องฟ่าคนดีก็มัวแต่หน้าแดงจ้องหน้าไอ้คีนเลยไม่ได้ยินไง เอาน่าๆ ดื่มๆ” พี่นอร์ทพูดออกมา ผมหันไปมองหน้าพี่แกเหมือนไม่เชื่อ แต่ทุกคนในรถคันนี้ต่างก็พยักหน้ายืนยัน ผมเลยต้องรับช็อตจากพี่รีมอย่างเสียไม่ได้
“กูเป็นต้นเหตุให้มันคิดเพลงไม่ทัน กูดื่มแทนเอง” ขณะที่เหล้าช็อตกำลังจะเข้าปากผมอยู่แล้ว แต่เสียงเรียบๆ ของไอ้คีนก็ขัดขึ้นมา พร้อมกับที่มันดึงแก้วจากมือผมไปดื่มทีเดียวหมด เรียกเสียงโห่จากพี่ๆ ได้ระลอกใหญ่
ห่านี่ มาทำแบบนี้กูก็เขินดิ “เอาล่ะครับๆ หมดเวลาหวาน คนต่อไปๆ ม.ม้าครับ ม.ม้า ไอ้โม จัดไป มึงนักร้องอยู่แล้ว แค่นี้สิวๆ” พี่แม็คว่า พี่โมนิ่งไปสักพัก ก่อนที่เสียงเพราะๆ ของพี่แกจะค่อยๆ ออกมาจากริมฝีปากสวย
“เหมือนหัวใจไม่เหลือใจ. . .
พูดคำเดียวคือเธอจะไปเท่านั้น
. . .เหมือนง่ายดาย
. . .เหมือนหัวใจไม่เคยใช้คำว่ารัก. . .ด้วยกัน
ฉันทำผิด ที่ใด. . .
ได้แต่ถามตัวเองอย่างนั้น. . .
ไม่เคยจะไม่รักเธอสักวัน
แต่กำลังจะต้องร้องไห้
. . .อย่าทิ้งกันไปได้มั้ย
เธอรู้ฉันอยู่ไม่ไหว
โลกคงแตกสลายนาทีที่ไม่เหลือเธอ
คนที่รักที่สุด. . .
คนที่รักเสมอ. . .
หมดชีวิตที่เห็นยังไงก็เป็นของเธอ
อย่าไปจากตรงนี้. . .
อย่าไปจากคนนี้. . .
ฉันกลัว. . .ฉันกลัว. . .พรุ่งนี้. . .
. . .จะไม่มีแรง. . .หายใจ
เพราะหัวใจ. . .ไม่เหลือใคร
เพราะฉันมีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น
ขอร้องเธอ. . .ขอร้องเธอ
สงสารฉันเธออย่าไปจากฉัน
ฉันทำผิดที่ใด
ได้แต่ถามตัวเองอย่างนั้น. . .
ไม่เคยจะไม่รักเธอสักวัน. . .
แต่กำลังจะต้องร้องไห้
. . .อย่าทิ้งกันไปได้มั้ย
เธอรู้ฉันอยู่ไม่ไหว
โลกคงแตกสลายนาทีไม่เหลือเธอ. . .
คนที่รักที่สุด. . .
คนที่รักเสมอ. . .
หมดชีวิตที่เห็นยังไงก็เป็นของเธอ
อย่าไปจากตรงนี้. . .
อย่าไปจากคนนี้. . .
ฉันกลัว. . .ฉันกลัว
พรุ่งนี้จะไม่มีแรงหายใจ. . .”
ด้วยความที่พี่โมร้องเพลงเพราะอยู่แล้ว การที่พี่แกร้องยาวๆ จึงไม่ใช่ปัญหา แต่การที่พี่โมร้องพลางจ้องหน้าพี่แบงค์ไปพลาง ทำให้บรรยากาศเงียบกริบอีกครั้ง พี่แบงค์เองก็ไม่ได้หลบสายตา จนเวลาผ่านไปเฉยๆ อย่างที่ไม่ควรจะเป็นก็มีคนเอ่ยทำลายบรรยากาศเงียบๆ นี้
“พี่โมนี่ร้องเพลงเพราะจังเลยนะฮะ”ซ่า. . .
TBC.
TALK :
ไม่มีไรจะทอล์ค ตอนนี้ดูเหมือนอีกคู่จะเด่นกว่า คือเราตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นอ่ะค่ะ อยากเล่าเรื่องของแบงค์โมผ่านคนนอก จะเอาคีนมันก็ไม่ได้อีก รายนั้นไร้อารมณ์เกิน เลยเลือกน้องฟีฟ่า ตอนนี้เปิดตัว ตัวละครใหม่ รายนี้จะมีบทบาทในเรื่องสักพัก (ก็จนกว่าแบงค์โมจะคลี่คลายอ่ะจ้า) นางมาดีหรือมาร้ายก็มาดูกัน ส่วนทะเลที่ว่านี้คือที่ไหน เรายังไม่บอก ปล่อยให้พวกหนุ่มๆ เดินทางไปถึงจุดหมายแล้วจะรู้เองจ้า ขอให้สนุกกับการอ่าน เจอกันตอนหน้าครับผม
ปล.นี่ขนาดไม่มีไรจะทอล์ค