:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 801139 ครั้ง)

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 60%}:13.05.59:
«ตอบ #1350 เมื่อ14-05-2016 22:59:42 »

แมท พลังขับดัน ของพ่อวี เขาเป็นแบบนั้น ใช้เซกส์นำมาตั้งแต่ต้นเพราะเขาเริ่มต้นมาแบบผิดๆ ในขณะวัยฮอร์โมนพลุ่งพล่าน

ขนาดแมทเอง ยังยอมรับความหื่นของพ่อวีเข้ามาโดยตลอด แล้วเด็กผู้ชายอายุสิบเจ็ดล่ะ

แมท ต้องคุยกับเขาอีกชีวิตต้องใช้ความรักหล่อเลี้ยงไม่ใช่เซ็กส์ เอาใจช่วยนะ อย่าใจอ่อน ตัวอ่อนตาม

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 60%}:13.05.59:
«ตอบ #1351 เมื่อ14-05-2016 23:00:16 »

รออีก 40เปอร์เซ็นต์จ้า

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 60%}:13.05.59:
«ตอบ #1352 เมื่อ15-05-2016 10:23:10 »

ก็ไม่ค่อยเครียดนะกับช่วงนี้ เหมือนมันผ่านช่วงร้ายไปแล้ว วิคเตอร์เป็นคนที่ตามใจตัวเองมากคนหนึ่ง
เลยเกิดเรื่องวุ่นวายมากมาย ประกอบกับมาเจอคนที่อยากได้มากอย่างลิซ่า ยักษ์หื่นก็เลยนะ ทนความต้องการร่างกายไม่ไหว
มันเหมือนแมทบริสุทธิ์แต่มาเจอกับผู้ชายเปื้อนๆ อ่ะ ทุกอย่างก็อยู่ที่แมท ถ้าจะทำใจพอรับได้ไม่เก็บมาคิดจนประสาท
ก็คงอยู่ด้วยกันได้ เอาจริงๆ ไม่เคยเชื่อใจวิคเตอร์เลย นางดํทำอะไรตามใจตัวเองมากสุด ตอนรักก็รักสุด
ต่อไปก็อาจไม่รัก ที่จริงไม่ใช่แค่วิค มันก็แบบนี้ทุกคนแหละเนอะ น้องแมทสู้ๆ ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 60%}:13.05.59:
«ตอบ #1353 เมื่อ17-05-2016 15:33:48 »

เหมือนจะเคลียร์กันแต่ก็ไม่เคลียร์คิดถึงช่วงเวลาที่รักกันแรกๆ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1354 เมื่อ18-05-2016 21:38:53 »



Only You EP.38 [100%]



เอี๊ยดดด! โคร่ม!


ผมสะดุ้งตื่นไหล่กระตุกรุนแรงเพราะได้ยินเสียงล้อรถบดกับถนนใกล้ๆ บ้านเป็นทางยาว ตามด้วยเสียงของแข็งกระแทกกับอะไรสักอย่างดังสนั่น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงอีกหนึ่งเสียง


วี้ๆๆๆๆๆ


ผมค่อยๆ ยันตัวเองลุกขึ้นจากโซฟาหน้าตางัวเงีย หันไปมองรอบห้องโถงของบ้านอย่างงงๆ ก็เห็นออสตินในชุดนอนออกมายืนตรงทางเข้าห้องโถง ผมขยี้ตาเบาๆ เพื่อให้ตาสว่างก่อนจะลุกออกจากโซฟา


“อย่าเพิ่งออกไปนะครับ” ผมพยักหน้าง่วงๆ แล้วยืนอยู่ตรงทางเข้าห้องโถง มองออสตินเดินไปเปิดประตูบ้านแล้วก็เดินออกไปพร้อมกับปิดประตูตามหลัง ผมยืนชะเง้อมองไปทางประตู แต่ผ่านไปได้ห้านาทีก็ยังไม่มีอะไรเคลื่อนไหว ผมเลยก้าวเท้าเดินไปตรงประตู กะเปิดออกไปดูว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่ในขณะที่กำลังจะเอื้อมเปิด ประตูก็ถูกดันเข้ามาอย่างแรงจนผมต้องก้าวถอยหลังหลบเพราะกลัวจะโดนประตูฟาดหน้า


“วิคเตอร์” ผมมองร่างสูงอย่างงงๆ สักแปบ วิคเตอร์หน้าแดง กลิ่นเหล้าฟุ้งออกมาจากตัว เขายืนเกาะขอบประตูเอาไว้แล้วจับจ้องผมด้วยสายตาคมปลาบ ผมเลื่อนสายตาไปมองข้างนอก เห็นออสตินกำลังยืนคุยกับผู้ชายมีอายุผมหงอกคนหนึ่ง


“เกิดอะไรขึ้น…” เขาไม่ตอบ แต่เดินเข้ามาหาผม ยกแขนขวาคล้องคอผมไว้ ทำท่าจะพาผมล้มไปด้วย ผมเลยต้องเอาแขนซ้ายเกี่ยวเอวของเขา และพยายามประคองร่างโตๆ ของเขาเพื่อไม่ให้ล้มลงกองกับพื้น


ฟอด~


วิคเตอร์กดจมูกลงบนขมับของผมแรงๆ กดแช่แล้วสูดดมฟึดฟัด สักพักก็ลามขึ้นไปบนกลางกระหม่อม กดจูบสามสี่ทีแล้วก็แช่จมูกไว้บนหัวผมแบบนั้น


“ปะ… ไป โอ่ย หนัก ไปนั่งก่อนนะ” เขาเดินเซไปเรื่อย ผมต้องพยายามทรงตัวให้แข็งแรงเขาไว้เพื่อไม่ให้พากันล้ม วิคเตอร์กอดคอผมไว้แน่น หอมขมับ หอมแก้ม หอมหัวผมไม่หยุด


โอ่ยหน่อ รักกูแท้ พักสักแปบได้มั้ย เดินหน้าได้หนึ่งก้าว ถอยหลังไปจะสามก้าวอยู่เรื่อย จะถึงโซฟากี่โมง


“Baby…” เสียงทุ้มแหบห้าวดังอยู่ข้างหูพร้อมกับสัมผัสคลอเคลียข้างแก้ม


“Yes. I’m here baby.” วิคเตอร์หัวเราะหึๆ ในลำคอแล้วยิ้มเคลิ้มตาเยิ้ม ก้มลงหอมขมับผมไปอีกที กลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่คละคลุ้งจนกลบกลิ่นตัวหอมๆ ของเขา


“อึ๊บๆ” ผมค่อยๆ ประคองร่างคนตัวโตลงบนโซฟา วิคเตอร์ทิ้งตัวลงนอนดังโครมจนไมเคิลเด้งตัวตื่นขึ้นมองสีหน้าฉงน


“เดี๋ยวผมมานะ” ผมกะจะออกไปดูเหตุการณ์ด้านนอกว่าเป็นยังไงบ้าง แต่พอก้าวเท้าได้ก้าวเดียวไอ้ยักษ์ก็ดึงผมลงไปนั่งบนตัก จับผมนั่งหันข้างเข้าหาเขา สองแขนโอบรอบเอวผมไว้แน่น ผมยกแขนซ้ายโอบหลังคอเขาไว้ วิคเตอร์ยื่นหน้าเข้ามาสูดดมซุกไซ้ซอกคอผมเบาๆ


“Horny. (เงี่ยx)” เขาว่าเสียงยานคาง ผมขำพรืด วิคเตอร์ยิ้มกริ่มเมาๆ ที่เห็นผมขำ


“อุก…”


“อ้าวๆ หงี่แล้วทำไมจะอ้วกล่ะ” ผมบ่นเป็นภาษาไทยและเบิกตากว้างมองคนตัวใหญ่ที่กำลังทำท่าพืดพะอมเหมือนอยากจะปล่อยอ้วกพุ่งออกจากปาก แล้วถามว่าถ้าอ้วก ใครรับ ผมไง เต็มๆ


“ไปอ้วกในห้องน้ำมั้ยครับ” ผมไม่กล้าลูบหลังเขามาก กลัวจะทำให้อ้วกพุ่ง เลยทำแค่ตบหลังเบาๆ วิคเตอร์อึกอักอยู่อีกสักพักแล้วเขาก็ทำเสียงแจ๊บๆ


“น้ำมั้ย?” เขาส่ายหัวหน้าตาเมาๆ ผสมกับง่วงนอน ผมยกมือซ้ายลูบเรือนผมนุ่มๆ ของเขา วิคเตอร์ยิ้มเผล่ ยกมือซ้ายตบลงบนหน้าผากของเขาแปะๆ เป็นสัญญาณ ผมคลี่ยิ้มเอ็นดูแล้วกดจมูกลงบนหน้าผากเขาหนึ่งที


“My sweet Mattle.” เขาหัวเราะอ้อแอ้ แก้มขวาผมโดนหอมแรงๆ แล้วแช่ค้างไว้สักพัก


อาการเมาวันนี้ไม่น่ากลัวเท่าเหตุการณ์ครั้งนั้นที่เขาทั้งเมาและโคตรโกรธผม แต่อันนี้ท่าทางเขากำลังเหมือนง้อๆ ผมอยู่นะ ง้อแบบเมาๆ มึนๆ


ปึง~


เสียงปิดประตูบ้านดังขึ้น ผมหันไปมองตรงทางเข้าห้องโถง ปล่อยให้วิคเตอร์สูดดม ซุกไซ้กดจูบซอกคอผมได้ตามใจ มือซ้ายของเขาสอดเข้าไปในเสื้อยืดของผมแล้วลูบเอวผมเบาๆ


“คุณเรย์มอนด์ขับรถชนท้ายรถของคุณผู้ชายที่อยู่ถัดจากบ้านเราไปสองหลัง เขาไม่ติดใจอะไรใหญ่โต ขอแค่จ่ายค่าซ่อมรถให้ตามปกติ” ผมอ้าปากค้างเมื่อได้ยินแบบนั้น ก้มลงไปมองไอ้ยักษ์ตัวโตที่กำลังสนุกกับการดูดคอผมดังจุ๊บๆ มีการส่งเสียงหัวเราะแฮ่ๆ ด้วยนะ ไม่รู้ว่ารู้หรือเปล่าว่าผมเพิ่งได้ยินว่าเขาไปซนจนได้เรื่องมา


“แล้วก็ ท่าทางเขาจะขับไปชนอะไรสักอย่างมาด้วยครับ เพราะบังโคลนฝั่งขวามือบุบและถลอก” หัวใจผมกระตุก รีบดึงวิคเตอร์ออกจากซอกคอตัวเองแล้วสำรวจร่างกายเขาว่าบาเจ็บตรงไหนหรือเปล่า ไอ้ยักษ์ยิ้มเยิ้ม ดึงมือขวาของผมไปหอมหน้ามือหลังมือ ผมถอนหายใจเบาๆ เมื่อเห็นว่าเขาดูปกติดี


“ผมคิดว่าเขาไม่เป็นอะไรครับ โชคดีมากที่เขาไม่โดนตำรวจจับ และขับรอดปลอดภัยมาถึงบ้าน” จริงอย่างที่ออสตินว่านั่นแหละ แต่ทีนี้เดี๋ยวรอตำรวจมาที่บ้านพร้อมใบสั่งได้เลย เพราะเขาต้องขับรถเร็วมากแน่ๆ


“เรื่องตำรวจ” ผมยิ้มลำบากใจ ไอ้ยักษ์ตัวดีเอาหน้าผากพิงไหล่ซ้ายผมไว้แล้วงึมงำๆ พูดอะไรก็ไม่รู้อยู่คนเดียว


“ถ้าพวกเขามา ก็เสียค่าปรับตามปกติ ผมคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรรุนแรง เพราะยังไม่มีแจ้งอุบัติเหตุชนคนที่ไหน แล้วจากรอยชนที่รถ ผมว่าน่าจะชนเสาไฟไม่ก็ท่อน้ำประปา หรืออาจจะตู้ไปรษณีย์”


“ขอให้เป็นแค่นั้นจริงๆ เถอะ ถ้าชนคนขึ้นมา วุ่นวายแน่ๆ”


“ไม่หรอกครับ ผมลองเช็กจากเพื่อนตำรวจด้วยกันแล้ว เขาบอกไม่มีอุบัติเหตุในคืนนี้” ผมพยักหน้าอย่างโล่งใจ ออสตินขอตัวไปนอน พร้อมกับเรียกให้ไมเคิลเดินตามไปด้วย ส่วนฟ็อกซ์มันนอนอ้าขาสบายไปแล้ว


 “นอนดีๆ เถอะครับ” ผมพยายามเขยิบตัว แล้วก็หลุดออกจากอ้อมแขนเขา ก่อนที่จะรีบจัดการให้เขานอนลงบนโซฟาแล้วก็รีบล้มตัวลงนอนข้างเขาพร้อมกับดึงผ้านวมขึ้นคลุมตัวเราสองคน วิคเตอร์พลิกตัวกอดผมแล้วดึงร่างผมให้แนบไปกับด้านหน้าของเขา


“แมทจ๋า…” หืมมม! ผมแหงนหน้ามองไอ้ยักษ์ เสียงหวานมาพร้อมกับตาหวานยิ้มหวานแบบนี้ ทำเอาอดหัวเราะไม่ได้ ไอ้ยักษ์เห็นว่าผมหัวเราะก็เลยหัวเราะอ้อแอ้ตาม แล้วยื่นหน้ามานัวเนียกับแก้มผมจนผมส่งเสียงหัวเราะกิ๊กกั๊กเพราะว่าจั้กจี้


“วิคเตอร์… กิ๊ๆๆ”


“เอากันนะ นะๆๆ” เขาเริ่มระดมจูบผมไปทั่วแก้ม ผมเริ่มงอแงเพราะหนวดเขาทิ่มแก้ม


“วิคเตอร์พอแล้ว ฮือออ” ผมแบะปากเพราะเริ่มแสบแก้มแสบคอ ไอ้นี่ก็ชอบเอาตอหนวดมาทิ่มหน้าไซ้คออยู่เรื่อย มันได้อารมณ์ตอนระหว่างมีอะไรกัน เพราะกำลังนัวเนียกันอยู่ แต่เวลาปกติคือมันเจ็บๆ แสบๆ อะ


“เอเลี่ยนอยู่บนนะ เดี๋ยวยักษ์จะอยู่ข้างล่างนะครับ คิกๆ” เวลาเมาแล้วเขาจะอ้อนมุ้งมิ้ง มันก็น่ารักน่าชังดี แต่พอมองหน้าเขาที่เกินวัยจะอ้อนแบบฟุ้งฟิ้งแล้วก็ขำไม่หยุด ผมมองเขาอย่างเข่นเขี้ยวแล้วยกมือขวาหยิกแก้มเขา บิดไปบิดมาแรงๆ จนคนข้างๆ หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอารมณ์ดี แต่ถ้าตอนไม่เมาอาจโดนเขาตบกลับมา


“ทำสิเอเลี่ยนน้อย เอิ๊ก… ฉันรอยู่นะ อึก…” โหะ สภาพอย่างนี้ยังจะมีอารมณ์ ทำๆ ไปเดี๋ยวก็สลบแล้วเรือก็จะล่มปากอ่าว


“นอนเถอะนะครับ เดี๋ยวผมนอนกอดนะ” ผมหอมแก้มเขาอย่างเอาใจ ลืมเหตุการณ์ที่เงียบใส่กันก่อนหน้านี้ไปแทบหมด ก็ตอนนี้ไอ้ยักษ์มันน่ารักดี เห็นแล้วมันเขี้ยว และท่าทีแบบนี้ถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองมากไป ผมว่าเขาง้อผมอยู่นะ ง้อแบบเมาๆ อาศัยน้ำเมาทำตัวน่ารักกว่าปกติ


“จริงอ้ะ?!” เขายิ้มเยิ้ม มองผมตาหวานฉ่ำ ผมยิ้มกว้างแล้วพยักหน้าหงึกหงัก


“จริงสิ ยักษ์ใหญ่ของผม” วิคเตอร์ยิ้มกริ่ม หัวร่ออารมณ์ดี กระชับแขนกอดเอวผม เอาแก้มซ้ายแนบแก้มผมไว้ ผมขยับหัวให้เข้าที่เข้าทางให้แก้มเราสองคนแนบชิดติดกัน


“ตุ๊ก-ตาเอเลี่ยนน้อย… คิๆ” ผมอมยิ้มขำ วิคเตอร์ขยับแก้มเบาๆ ผมยกมือซ้ายลูบแขนขวาของเขา เพื่อกล่อมให้เขาหลับ แต่ยังไม่ทันได้พูดบอกฝันดี ผมก็ได้ยินเสียงลมหายใจพร้อมกับลมกลิ่นแอลกอฮอล์รดหัว พอบิดหน้าไปมองก็ต้องยิ้มอย่างเอ็นดูเมื่อไอ้ยักษ์ขี้ดื้อจอมเอาแต่ใจตัวใหญ่ๆ นอนหลับปุ๋ยไปแล้ว แหม แล้วอยากจะทำทั้งที่สลบก่อนผมอีก ตอนเขาหลับก็ไร้พิษสงอย่างนี้แหละ ดูเป็นผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาเอาเก่งมากคนนึง


“Good night, baby.” ผมจุ๊บคางเขาหนึ่งทีแล้วขยับตัวเองให้ลงไปนอนบนหมอน ไม่อยากนอนทับแขนเขาเดี๋ยวเลือดไม่เดิน ตื่นมาเดี๋ยวได้พากันไปตัดแขน อากาศข้างนอกก็หนาวเย็นสะท้าน แต่ผมมีผ้านวมสองผืนกับไฟในเตาผิงช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย แต่ที่ดีที่สุดก็คือไออุ่นจากผู้ชายที่ผมรักคนนี้นี่แหละ เป็นผ้าห่มและเปลวไฟที่ผมชอบที่สุดเลย



#Morning


ตอนที่ผมตื่นขึ้นมาตอนสายๆ ของวันใหม่ ผมก็เห็นวิคเตอร์นอนหมดสภาพ ผมเห็นเขาหลับสนิทมากๆ เลยไม่ได้ปลุก ค่อยๆ ลุกออกจากโซฟาแล้วเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อคั้นน้ำส้มให้เขาดื่มตอนเขาตื่น ไมเคิลคงออกไปข้างนอกกับออสตินตั้งแต่เช้าแล้ว ส่วนฟ็อกซ์คงไปนั่งมองวิวนิวยอร์กกับหิมะขาวโพลนอยู่บนดาดฟ้าของบ้าน อากาศแบบนี้ไม่ต้องอาบน้ำเลยสักนิด แค่ล้างหน้าแปรงฟันก็พอ


ผมยืนมองข้าวของที่ซื้อมาเพื่อจะทำเค้กวันวาเลนไทน์ให้วิคเตอร์แต่ก็ต้องเป็นหม้ายเพราะมีมารมาขวางถึงสองตน (ขอเหมารวมพ่อวิคเตอร์ว่าเป็นมารไปด้วยเลย) แล้วก็นึกเสียดาย เป็นวาเลนไทน์แรกของชีวิตในฐานะคนมีผัว เอ้ย แฟนที่แย่มาก อยากจะลองมีโมเม้นต์หวานฉ่ำในวันแห่งความรักบ้างก็ไม่ได้มี แต่คิดไปคิดมา ไหนๆ ก็ซื้อของมาแล้ว ก็ทำไปเลยจะเป็นอะไรไป


พอคั้นน้ำส้มเสร็จผมก็เตรียมของออกมาวางไว้บนโต๊ะหินอ่อนตัวใหญ่ นึกขึ้นได้ว่าจดสูตรไว้ในโทรศัพท์ ผมเลยเดินกลับไปเอามือถือบนโต๊ะกระจกในห้องโถง วิคเตอร์หลับปุ๋ย ริมฝีปากบนเผยอขึ้นเล็กน้อย เสียงลมหายใจของเขาดังจนเกือบจะเป็นเสียงกรน ผมกระชับผ้านวมให้คลุมตัวเขาดีๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องโถง พอกลับมาที่ครัวผมก็เจอฟ็อกซ์นั่งอยู่บนเค้าน์เตอร์ในครัว มันร้องเหมียวๆ ยานคางเหมือนกำลังบอกว่ามันหิวแล้ว ผมเลยจัดการเทอาหารให้มัน แล้วจัดการทำเค้กของตัวเอง


ผมร่อนแป้ง เตรียมผงฟู ตอกไข่เพื่อแยกไข่ขาวไข่แดงแยกไว้สักแปบ หันไปอุ่นเตาในอุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ระหว่างนั้นก็นำเนยกับน้ำตาลมาตีให้เข้ากัน ผมทำไปก้มอ่านสูตรที่บันทึกไว้ในมือถืออย่างช้าๆ ชัดๆ ออกเสียงเบาๆ กับตัวเองไปด้วยเพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด เพราะผมต้องทำพลาดจุดใดจุดหนึ่งแน่ๆ ขนาดแค่ร่อนแป้งยังกระเด็นเลอะหน้า เลอะเส้นผมจนเหมือนผมหงอก สำลักแป้งไปหลายรอบแล้ว ไม่รู้ว่ารสชาติจะออกมาเป็นยังไง แต่จากระหว่างการทำเค้ก ผมมีความรู้สึกว่ามันจะต้องกินไม่ได้ และเค้กผมจะไม่ฟู มันจะต้องแฟบแบน แค่ตัวเค้กยังดูแย่ ไม่ต้องพูดถึงหน้าเค้กเลยว่าคงแย่พอกัน


แล้วก็เป็นจริงดังคาด เมื่อเค้กของผมฟูข้างแฟบข้าง ไอ้ที่แฟบก็ไม่ใช่ว่าแฟบมากนะ แต่คือมันฟูไม่เท่ากันอะ บิดเบี้ยวราวกับพิการ ผมมองเค้กช็อคโกแล็ตฝีมือตัวเองกับการทำครั้งแรกแล้วก็ได้แต่ยืนอึ้ง มันก็แอบมีความภูมิใจอยู่นิดๆ เหมือนกันนะว่าทำครั้งแรกแล้วออกมาพอดูได้ (ปลอบใจตัวเองสุด)


“นั่นก้อนอะไรครับ” ผมมัวแต่ถ่ายรูปเค้กตัวเองเลยไม่ทันสังเกตว่าออสตินเดินเข้ามาพร้อมไมเคิลที่ตัวเขรอะไปด้วยหิมะ พ่อบอดี้การ์ดขมวดคิ้วมองเค้กผมด้วยสายตาหวาดระแวง แล้วเมื่อกี้เขาพูดว่าไงนะ เขาถามว่าก้อนอะไรงั้นเหรอ


“นั่นอุจจาระใครทำไมก้อนใหญ่จัง” ผมอ้าปากหวอเมื่อเขาถามด้วยสีหน้าจริงจังไม่มีล้อเลียน ผมกะพริบตาปริบ เลื่อนสายตาไปมองไมเคิลที่เอียงคอมองกลับมาอย่างสงสัย แล้วเลื่อนกลับมามองเค้กตัวเองอีกที พอมองดีๆ สีช็อคโกแล็ตมันก็เข้มเหมือนอึจริงๆ นั่นแหละ


“นี่เค้กช็อคโกแล็ตเลยนะ” ออสตินเลิกคิ้วขึ้นสูง


“คุณแมททำเอง?”


“ใช่ เพิ่งทำเสร็จก่อนคุณจะกลับเข้ามาเลย”


“ผมว่าซื้อกินเถอะครับ ปลอดภัยกว่า” ผมมองจิกเขาแรง ออสตินยักไหล่สองข้างทำหน้าตาว่าเขาพูดอะไรผิด ผมถลึงตามองเขานิดหนึ่งแล้วก้มลงมองเค้กตัวเอง ถ้าไม่ปลอบใจตัวเองมากไปมันก็แย่จริงๆ นั่นแหละ


“ผมซื้ออาหารเช้ามาฝากเผื่อคุณสองคนด้วย” เขาชูถุงหิ้วในมือให้ผมดู ผมทำหน้าเซ็งแล้วพยักหน้ารับเนือยๆ กำลังปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไร เอาใหม่ วันทำเค้กไม่ได้มีหนเดียว เดี๋ยวหลังจากนี้ฝึกมันทุกวัน พอวาเลนไทน์หน้ามันจะได้เป๊ะ


“อันนี้คือสภาพที่ดีที่สุดของคุณในเช้านี้แล้วใช่มั้ย” ผมอยากจะเขวี้ยงจานให้บินไปโดนหัวเกรียนๆ ของไอ้บอดี้ศพนี่สักที เอาให้เลือดอาบ ชอบพูดจาหน้าตากวนเท้ามึนๆ เหมือนจะไม่ได้ว่านะ แต่ว่าทุกคำ


“หิมะน่าจะถล่มใส่หัวคุณบ้างสักทีนะ”


“อย่าเวอร์เลยครับ ที่นี่นิวยอร์ก ไม่ใช่ภูเขาหิมาลัย” โอ๊ย! บักหัวเกรียน เดี๋ยวๆ เดี๋ยวตบเกรียนแตก


ผมมองเขาอย่างเข่นเขี้ยว ยกมีดหั่นฮอทดอกขึ้นมาขู่ ออสตินทำเพียงหัวเราะน้อยๆ แล้วขอตัวเดินกลับเข้าไปในห้อง ทิ้งไมเคิลให้นอนกินข้าวอยู่กับผมในครัวในสภาพเลอะแป้ง ผมยกมือปัดๆ แป้งออกจากเส้นผม ก็ต้องไอแค่กๆ ไปหลายที ผมเลยปล่อยมันไว้แบบนี้ก่อน ไว้ค่อยไปอาบน้ำล้างตัวทีเดียว ว่าจะไม่อาบ แต่สภาพร่างบังคับอาบมาก ผมนั่งกินอาหารเช้าไป นั่งขมวดคิ้วมองเค้กตัวเองไป ผมว่าเหมือนมันค่อยๆ แฟบลงเลยอะ


แฮ่ะๆๆๆ


เสียงไมเคิลหอบน้อยๆ ดังขึ้นเหมือนมันกำลังตื่นเต้นดีใจอะไรสักอย่าง พอผมหันไปมองก็เห็นวิคเตอร์เดินเป๋น้อยๆ ออกมาในสภาพหัวยุ่งเหยิง หน้าตากึ่งหลับกึ่งตื่น เขาขยี้ตาเหมือนเด็กๆ เดินเข้ามาหาผม ตอนแรกเขากำลังจะก้มจุ๊บหน้าผากผม แต่พอเขาเห็นแป้งขาวโพลนไปทั้งหน้าและหัวของผมเขาก็ชะงักแล้วเปลี่ยนเป็นเดินถอยหลังไปนั่งบนเก้าอี้อีกตัว ผมเลยมองค้อนเขานิดหนึ่ง


“ไปทำอะไรมาน่ะ” ผมไม่ตอบคำถามเขาแต่ถามเขากลับเสียงห้วน


“เอาน้ำส้มมั้ย” เขาพยักหน้ากล้าๆ กลัวๆ มองผมเหมือนไม่แน่ใจอะไรสักอย่าง สงสัยไม่แน่ใจมั้งว่านี่ผมรึเปล่า ผมเดินไปเปิดตู้เย็นเปิดเอาน้ำส้มในเหยือกเทใส่แก้วให้เขาแล้วยื่นให้เขาดื่ม เขายกดื่มรวดเดียวหมด ผมเลยเทให้เขาอีกแก้ว เขาก็ยกรวดเดียวหมดก่อนจะยกมือเบรกว่าพอแล้ว ผมเลยเอาน้ำส้มไปแช่ในตู้เย็นตามเดิม


“นั่นอะไรน่ะ” เขาย่นคิ้วมองเค้กช็อคโกแล็ตที่ตอนนี้บุบบิบบู้บี้ไม่เป็นทรงเค้กเลยแม้แต่น้อย


“เค้ก ผมตั้งใจจะทำให้คุณเมื่อวาน แต่ก็ไม่ได้ทำ เลยลองทำเมื่อกี้ แล้วก็ออกมาอย่างที่เห็น” วิคเตอร์ที่ตอนแรกมีสีหน้าง่วงๆ ตื่นไม่เต็มที่ถึงกับเบิกตากว้างมองหน้าผมกับเค้กสลับไปอย่างอึ้งทึ่ง


“นี่เค้กเหรอ เค้กช็อคโกแล็ตใช่มั้ย” ถ้าถามจริงจัง ผมจะไม่อะไรหรอก แต่นี่ถามแล้วยิ้มกวนตีน เหมือนเขารู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไรแต่แกล้งถามเพื่อเอาฮา แหม เมื่อกี้หน้าตายังง่วงๆ ตื่นๆ อยู่เลย มาตอนนี้พร้อมปล่อยก๊ากเชียวนะไอ้ยักษ์


“ขี้ไมเคิลมั้งล่ะ” ผมแกล้งว่าประชด เท่านั้นแหละเขาก็หัวเราะอารมณ์ดีดังลั่นครัวทำเอาไมเคิลร่วมเห่าไปด้วย แล้วพอไอ้หมาตัวโตเห่าเขาก็เลยหาพวกทันที


“แกชอบเค้กแม่แกใช่มั้ยล่ะไมเคิล” หน็อย! ได้ทีขี่แพะไล่เชียวนะ


“พูดมาก! จะไม่ทำให้กินแล่ว!” ผมว่าหน้าตาบูดบึ้งน้ำเสียงงอนๆ เท้าเอวยืนมองหน้าเขาทำท่าจะแว้ดๆ ใส่ไอ้หน้าหนวด วิคเตอร์หัวเราะเสียงดัง ผมทำปากขมุบขมิบเหมือนกำลังสาปแช่งเขา


“แน่ะ! แช่งอะไรฉัน”


“ขอให้ยักษ์น้อยไม่ยอมขัน”


“งั้นนายก็อดกินยักษ์น้อยด้วยนะ” เขาว่าจบก็หัวเราะเสียงทุ้มอารมณ์ดี ผมถลึงตาใส่เขา ไอ้ยักษ์ยิ้มกว้างจนร่องแก้มขึ้น เขายื่นมือมาดึงผมให้เข้าไปยืนตรงหว่างขาของเขา สองแขนโอบรอบบั้นท้ายผมไว้ ผมยกมือขวาขึ้นมาปัดๆ แป้งบนหน้าผากกับตรงแก้มออกรัวๆ เผื่อเขาจะอยากจุ๊บตรงไหนสักแห่ง


“เห็นชัดเลยว่าทำเค้กจริงๆ” เขามองสภาพผมแล้วยิ้มล้อเลียนก่อนจะหัวเราะเบาๆ ผมย่นจมูกพร้อมเบ้ปากน้อยๆวิคเตอร์ก้มลงจุ๊บปากผมหนึ่งทีแล้วยิ้มกว้าง ผมย่นจมูกอีกทีเพราะกลิ่นเหล้าฟุ้งออกมาจากตัวและปากเขาเต็มไปหมด วิคเตอร์หัวเราะ เลื่อนสายตาไปมองเค้กแวบหนึ่งแล้วก็กลับมามองผมที่ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยแป้งทำเค้กก่อนจะเอ่ยเสียงทุ้มพร้อมกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ


“Thank you, baby.” แม้จะเหม็นเหล้าไปนิดแต่แค่นั้นก็ทำให้ผมยิ้มได้แล้วแม้เค้กจะเละไปมากก็ตาม


“You didn’t give a special thing on special day to me. (ไม่เห็นมีของขวัญพิเศษในวันพิเศษให้ผมเลยอะ)” ผมแกล้งว่าหน้าบู้ สองมือขยุ้มเรือนผมเขาเบาๆ วิคเตอร์เลื่อนสองมือลงไปบีบก้นผมเบาๆ มองผมด้วยสายตาหวานเยิ้ม


“And what do you want on special day? (แล้วนายต้องการอะไรในวันพิเศษล่ะ)” เขาถามเสียงกระซิบ มือขวาสอดเข้าไปในกางเกงนอนของผม นิ้วเรียวยาวลากผ่านร่องก้นเบาหวิว ผมกัดปากล่างแล้วยิ้มยั่วน้อยๆ


“I don’t know. What do you want to give to me? (ไม่รู้สิ คุณอยากให้อะไรผมล่ะครับ)” ผมยื่นหน้าไปกัดริมฝีปากล่างเขาแล้วใช้ฟันดึงเบาๆ วิคเตอร์หายใจแรงขึ้นนิดหนึ่ง ดวงตาเขาทอประกายวิบวับ


“I can’t imagine what do you mean. Can you show me more? (นึกไม่ออกเลยว่านายอยากได้อะไร บอกเพิ่มอีกได้มั้ย)” ผมหัวเราะอารมณ์ดี วิคเตอร์ยิ้มกว้างตาม ผมยื่นหน้าไปจุ๊บคางเขา มองเขาด้วยสายตาทั้งรักทั้งห่วง เขาเองก็มองกลับมาด้วยสายตาทั้งรักทั้งหวง


“Don’t return to eat your ancient-step-mother’s boobs. That’s all. (อย่ากลับไปกินนมโบราณของแม่เลี้ยงคุณก็พอครับ)” วิคเตอร์หัวเราะร่าเสียงดังลั่นครัว ทำเอาเจ้าไมเคิลเห่าตอบรับยกใหญ่


“I don’t have it to fight with her. (ผมไม่มีนมโตๆ ไปสู้เธอได้หรอกนะ)” ผมทำปากยื่น วิคเตอร์ค่อยๆ หยุดหัวเราะแล้วยื่นมือขวามาบีบปากผมเบาๆ


“It’s not about boobs. It’s about here. (ไม่เกี่ยวกับนมหรอก นี่ต่างหาก)” เขาว่าแล้วจิ้มจึ้กๆ ลงบนอกซ้ายตรงตำแหน่งหัวใจของผมเบาๆ ผมคลี่ยิ้มกว้างด้วยความอิ่มใจ


“A nipple? (หัวนมเหรอ)” ผมแกล้งแซว วิคเตอร์ยิ้มกว้างอารมณ์ดี ผมยิ้มแฉ่งแล้วยื่นหน้าเอาปลายจมูกตัวเองขยี้กับปลายจมูกเขาไปมาอย่างมันเขี้ยว


“Happy V day.” เขาดึงมือซ้ายผมขึ้นไปจุ๊บที่หลังมือหนึ่งที 


“Happy Valentine’s day, my big-baby.” ผมจุ๊บปากเขาหนึ่งทีแล้วเราก็หัวเราะพร้อมกัน


แม้ใจผมจะยังยอมรับเรื่องเขากับลิซ่าไม่ได้ในตอนนี้ แต่ผมก็รู้ดีว่ามันผ่านมาแล้ว และผ่านมานานก่อนเราสองคนจะได้เริ่มรู้จักกันซะอีก วันนี้เขาอยู่ตรงนี้ อยู่กับผม เขารักผม ผมรักเขา เราอยู่ด้วยกัน มันคือเรื่องจริงที่ผมสามารถเอามาลบล้างอดีตตรงนั้นของเขาได้ อาจต้องใช้เวลาเหมือนคราวก่อนในการปล่อยวางความคิดมาก แต่ผมรู้ว่าเดี๋ยวผมก็เลิกสนใจเรื่องเขากับยัยแม่เลี้ยงกระดังงาลนไฟนั่นไปเอง


 :katai2-1:

เรื่องจบด้วยดีใช่มั้ยคะหมวด เขาโอเคต่อกันแล้วใช่มั้ยคะ รายงานสถานการณ์ด้วยค่ะหมวดดด

หลายๆ คนกังวลเรื่องหวอรถตำรวจมาก บ่อมีอะหยังเด้อออ เขียนเอาบรรยากาศนิวยอร์กเฉยๆ 55555 แต่ถ้าตอมเป็นคนอ่านก็คิดนะ มันประจวบเหมาะเนอะ วิคเตอร์ออกไป แล้วก็มีเสียงรถตำรวจมาทแรกพอดี แต่เอาจริงๆ ตอนเขียนคือเขียนเพื่อใส่บรรยากาศตอนกลางคืนของนิวยอร์กเฉยๆ เจ้าาา

วานเลนไทน์ก็โดนสองมารป่วน เค้กวาเลนไทน์ก็แฟ้บ 55555 แต่อย่างน้อยหนูก็มีความพยายามนะแมทนะ ดีแล้วค่ะ ผัวรักผัวหลง แป้งจับตัวเป็นก้อนเลยเนาะ 55555

ส่วนเรื่องเด็กน้อยจ่ำม่ำตอนที่แมทกำลังหลับ จริงๆ มันอาจจะเป็นภาพฝันหรือจินตนาการของแมทถึงลูกวิคเตอร์คนแรกก็ได้แน้ อ๊ะเปล่าหว่า ? 55555

เจอคำผิดบอกกันได้เช่นเคยค่าาา

ยังเจอกันตามปกตินะคะ ยังคงลงเนื้อหานิยายจนจบ ลงตามปกติ เปิดพรีหนังสือแล้วก็จริง แต่ยังคงลงตามปกติไม่มีหยุด ลงจนจบตอนหลักของพาร์ทนี้ จำนวนตอนของตอนหลักก็ใกล้จะจบแล้ววว

สำหรับการพรีออเดอร์หนังสือ สำหรับใครที่มีคำถาม อ่านคำชี้แจงหรือสอบถามได้ที่เพจนะคะ

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ เลยค่า  :mew1:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1355 เมื่อ18-05-2016 22:04:01 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1356 เมื่อ18-05-2016 22:05:19 »

 o13

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1357 เมื่อ18-05-2016 22:13:33 »

ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน แต่รักของยักษ์กับเอเลี่ยนน้อย ทำไมมันมีหลายคนเข้ามายุ่งจังเลย

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1358 เมื่อ18-05-2016 22:17:51 »

 :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1359 เมื่อ18-05-2016 22:44:27 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
« ตอบ #1359 เมื่อ: 18-05-2016 22:44:27 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Onlylyn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1360 เมื่อ18-05-2016 22:48:57 »

และแล้วก็จบสวยๆในประเด็นนี้
แอบคิดแต่แรกแล้วว่าแมทแมทต้องเข้าใจ เพราะน้องตัดสินใจบินมาถึงนี่แล้วต้องเข้มแข็งเตรียมตัวเตรียมใจมาพอสมควร อีกอย่างเรื่องแม่เลี้ยงก็เป็นเรื่องในอดีต ถึงจะเป็นเหมือนรักแรกแต่ผสมความหลงมัวเมาในเพศรสมากกว่า
หลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็อยากให้แมทสตรองแบบนี้ต่อไป เป็นเมียพี่วิคมันไม่ง่ายเลยจริงๆ
ไว้ทนไม่ไหวสุดๆเมื่อไหร่ค่อยไป หนูมีผช.ในสต็อคอีกเยอะลูก /อ้าว :laugh

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1361 เมื่อ18-05-2016 23:09:10 »

จะมีอะไรมาอีกมั้ยคะ :katai1:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1362 เมื่อ18-05-2016 23:48:07 »

 :impress3: ดีจังเลยอ่ะ ในที่สุดแมทก้อฝ่าฟันไปได้น่ะ เราให้อดีตเป็นบทเรียนของเราเพื่อให้ปัจจุบันและอนาคตดีขึ้นเรื่อย ๆ น่ะจ้ะ สู้ ๆ จ้ะหนูแมท ส่วนนายยักษ์แมทให้โอกาสแล้วก้ออย่าทิ้งเพชรไปหยิบกรวดอีกล่ะ  :o8:

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1363 เมื่อ19-05-2016 00:36:00 »

ชอบเฮียวิคตอนนี้ดูมุ้งมิ้งขี้อ้อนอ่า  ถ้าเป็นแบบนี้เวลาปกติด้วยจะดีมากเลย555555

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1364 เมื่อ19-05-2016 01:36:40 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1365 เมื่อ19-05-2016 05:29:02 »

ตอนนี้น่ารักมาก อิยักษ์ไดด้ทีเนียนอ้อนแมทเลย

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1366 เมื่อ19-05-2016 07:40:45 »

จบด้วยดี ในที่สุด อย่างอนนาน เอเลี่ยนน้อย แต่ถ้าคุณยักษ์ยังไม่ปรับปรุงตัว เป็นยักษ์ดี ก็ทิ้งมันไปหาสามีใหม่ข่าาา สวยเลือกได้

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1367 เมื่อ19-05-2016 08:40:13 »

ยังดีที่แมทยอมรับได้ถ้ามีเรื่องอะไรมาให้แมทต้องสตรองอีกแนะนำแมทหาผัวใหม่เลยเถอะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1368 เมื่อ19-05-2016 10:05:19 »

 o13

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1369 เมื่อ19-05-2016 10:14:45 »

 :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
« ตอบ #1369 เมื่อ: 19-05-2016 10:14:45 »





ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1370 เมื่อ19-05-2016 13:24:09 »

strong ขึ้นนะ เอเลี่ยน

ออฟไลน์ peeranatyaikaew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1371 เมื่อ19-05-2016 18:37:52 »

กว่าจะทำใจอ่านตอนล่าสุดได้ :ling3:  แต่..จบด้วยดีดดดดด :hao6:  เป็นประสบการณ์ชีวิตเนอะเอเลี่ยนน้อย :L2:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1372 เมื่อ19-05-2016 21:22:29 »

จ้าาาาา

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.38 100%}:18.05.59:
«ตอบ #1373 เมื่อ19-05-2016 21:43:30 »

น้องแมทมอมแป้งนี่ต้องน่ารักมากแน่ๆ ผัวรักผัวหลงค่ะลูก ขยันอ้อนขยันยั่วขนาดนี้
จบสวย ดีงาม หวานมากด้วย เวลาหยอดยั่วกันคิกๆ คักๆ นี่น่ารักมาก

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.39 55%}:23.05.59:
«ตอบ #1374 เมื่อ23-05-2016 07:36:37 »



Only You EP.39 :: Homophobia. [55%]



หิมะหยุดตกไปสามวัน และตอนนี้กลับมาตกอีก แต่ก็เริ่มเบาบางและจางลงมากเนื่องจากใกล้เข้าสู่เดือนมีนาคม เลยตกไม่หนักหนาเท่าไหร่ แต่ช่วงสามวันที่หยุดตก อากาศก็หนาวเหน็บจนตะเข็บกางเกงจะแตก (เวอร์อีกตามเคย) เย็นมากจนคนเป็นภูมิแพ้อย่างผมรู้สึกใช้ชีวิตลำบาก อันที่จริงก็ใช้ลำบากมาสักพักตั้งแต่มาอยู่นิวยอร์กแล้ว บางทีก็แอบคิดถึงแดดร้อนๆ ที่เมืองไทยเหมือนกัน ที่นี่หนาวมากจริงๆ หนาวจนบางทีก้าวเท้าเดินไปไหนมาไหนไม่ค่อยจะไปเพราะมันชาไปหมด เสื้อโค้ทที่ใส่ห่อหุ้มร่างกายเพิ่มความอบอุ่นก็ช่วยได้อยู่บ้าง แต่ก็ยังสามารถสัมผัสถึงความเย็นของอากาศภายนอกได้อยู่ดี
   

“กินยาไปรึยัง” วิคเตอร์ก้มหน้าถามพลางโอบไหล่ขวาผมหลวมๆ ระหว่างที่เรากำลังเดินเข้ากองถ่ายในตอนเช้าตรู่ ผมพยักหน้าหงึกๆ กำมือที่ใส่ถุงมือถักสีดำแน่น
   

“อีกไม่กี่วันหิมะก็หมดแล้ว ทนอีกนิดนะ” ผมพยักหน้าอีกที ตอนนี้ขยับปากพูดมากไม่ได้ มันหนาวจนชา คือหิมะมันเบาลงก็จริง แต่ผมดันป่วยเพราะไอ้สามวันที่หิมะหายไปแต่อากาศเย็นจัดผมเลยปรับตัวไม่ทัน ผมเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว แพ้ฝุ่น แพ้อากาศนี่คือที่สุด แล้วอากาศเย็นๆ ยิ่งแพ้ ไม่มีทางชนะมันได้เลย กินยาเข้าไปแล้วมันก็ช่วยให้ดีขึ้นช่วงระยะหนึ่ง พอฤทธิ์ยาหมดน้ำมูกก็จะไหลและคัดจมูกอยู่ดี อีกอย่างผมไม่อยากกินยาบ่อยๆ ยาแก้แพ้อากาศกินมากๆ แล้วมันเบลอ ผมเรียนรู้งานในกองถ่ายไม่รู้เรื่องเลย พูดกับคนรอบข้างก็งงๆ ก่งก๊งไปหมด
   

“ให้นอนอยู่บ้านก็ไม่เอา” ผมทำหน้ามุ่ยน้อยๆ แล้วส่ายหัวรัวๆ วิคเตอร์บอกให้ผมพักอยู่บ้าน แต่ผมดื้อจะออกมา เพราะกำลังเรียนรู้งานจากคุณเดวิดและคุณเกวินคนเขียนบทอยู่ ผมไม่อยากหยุดให้มันสะดุด อีกอย่างผมเกรงใจคุณเกวินเขาอุตส่าห์ออกมากองถ่ายเพื่อมาหาผมทั้งๆ ที่ไม่ต้องมาก็ได้ แต่เขาก็มา ขนบทมาให้ผมอ่าน นั่งสอนผมเขียนมาได้สองวันแล้ว
   

“เดี๋ยวพอไปโปรโมตหนังก็เว้นอีกตั้งนานนี่นา” นี่เป็นอีกเหตุผลที่ผมต้องรีบมาตักตวงเอาไว้ เพราะเดี๋ยววิคเตอร์จะหมดคิวกับทางกองถ่ายซีรีส์ในอีกสามวัน และเขาจะได้พักหนึ่งอาทิตย์ก่อนงานพรีเมียร์ภาพยนตร์ที่ประเทศต่างๆ ซึ่งเขาจะเอาผมไปด้วย ผมลองขอว่าไม่ไปแล้วเพราะอยากจะอยู่เรียนรู้งานในกองถ่ายกับพวกคุณเดวิด แต่เขาไม่ยอม เพราะเราจะห่างกันตั้งสามอาทิตย์ เขาไม่ได้โปรโมตหรือพรีเมียร์ทุกวันก็จริง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องบินไปบินกลับนิวยอร์กกับอีกสักประเทศที่เป็นเป้าหมายในการพรีเมียร์ อย่างถ้าพรีเมียร์ที่อิตาลี เขาก็ต้องบินกลับมานิวยอร์กสองวันเพื่อมาหาผมแล้วก็บินไปอิตาลีอีกสามวัน แบบนั้นเหนื่อยตายห่า ทางทีมงานเลยจัดเส้นทางการเดินทางและที่พักไว้ให้เขากับนักแสดงคนอื่นๆ เรียบร้อยแล้วว่าจะต้องพักที่ไหน เดินทางยังไงให้เหนื่อยน้อยที่สุด
   

“มีอะไรก็ถามพวกดีแลนกับทอมก็ได้ พวกนั้นก็ตอบนายได้น่า” ก็จริงอย่างที่เขาว่านั่นแหละว่าระหว่างพรีเมียร์ภาพยนตร์ผมสงสัยอะไรก็ถามจากผู้กำกับหนังของเขากับคุณทอมเจ้าของนิยายก็ได้ เพราะคุณทอมเองก็อยู่ในทีมเขียนบทด้วยเช่นกัน ผมถามได้นะ แต่ผมแค่รู้สึกเกรงใจคุณเกวิน คือเขาอุตส่าห์มาสอนเราแล้ว ผมไม่อยากข้ามหน้าข้ามตาเขาไป อีกอย่างการได้ความรู้จากคนเก่งๆ หลายๆ คนก็น่าจะดีกับชีวิต
   

“อื้ม” ผมไม่ได้ไม่พอใจอะไรนะ แต่ปากมันชาจนไม่อยากพูดยาวๆ บ่อยๆ วิคเตอร์เองก็เข้าใจ เขาไม่ได้ว่าอะไร ทำเพียงก้มลงหอมขมับผมหนึ่งทีแล้วพาผมเดินเข้าไปในเต้นท์กองถ่ายเพื่อหลบลมหนาว
   

“Hi, Gavin!” ผมเอ่ยทักคุณครูสอนเขียนบทของผม เกวินเป็นคุณพ่อลูกหนึ่ง บุคลิกภาพดี ผมสีขาวแซมดำของเขาสั้นเกรียน ใบหน้าเขาดูดุๆ นิ่งๆ แต่จริงๆ แล้วใจดีมาก เขาคลี่ยิ้มเมื่อผมเอ่ยทักแล้วเดินเข้ามาจับมือทักทายกับวิคเตอร์
   

“เอาแล็ปท็อปมาใช่มั้ย” ผมพยักหน้าแล้วหันไปหาออสติน เขายื่นแม็คบุ๊คมาให้ ผมรับมาไว้ในมือแล้วชูให้คุณเกวินดูพร้อมรอยยิ้ม
   

“ลูกศิษย์ดื้อมั้ยเกวิน” วิคเตอร์ถามยิ้มๆ คนถูกถามยิ้มใจดีก่อนตอบ
   

“ไม่เลย เขาตั้งใจและมีความทะเยอะทะยานมาก ผมชอบนะ แล้วเขาก็หัวไวมากด้วย” ผมคลี่ยิ้มกริ่มแล้วหันไปยักคิ้วให้วิคเตอร์สองที ไอ้ยักษ์เบ้ปากนิดหน่อย
   

“ถ้าดื้อบอกผมได้นะ เดี๋ยวผมตีให้” เกวินหัวเราะน้อยๆ ผมย่นจมูกใส่วิคเตอร์ ไอ้ยักษ์ยิ้มน้อยๆ มือขวายังโอบไหล่ผมไม่ปล่อย เขาใส่แค่เสื้อยืดข้างในกับเสื้อกันหนาวสีดำตัวหนาเท่านั้น แต่เขาดูชิลกับอากาศมาก
   

วิคเตอร์กำชับให้ผมอยู่กับผู้คนเข้าไว้ คืออย่าห่างใครในช่วงที่เขาทำงานอยู่ เขากับไอ้ชอนไชกลายเป็นมึนตึงใส่กัน ปกติวิคเตอร์ก็ไม่ค่อยพูดกับมันอยู่แล้ว พอมามีประเด็นเรื่องผมขึ้นมา เขาก็ยิ่งเงียบใส่อีกฝ่าย ไอ้ฌอณมันไม่อะไรหรอก มันก็ทำหน้ากวนตีนไปเรื่อย แต่ที่ลำบากใจคือคุณเดวิด เขาเหมือนเป็นคนกลางระหว่างทั้งสองคน ผมรู้สึกดีมากที่คุณเดวิดไม่ได้พยายามให้ทั้งสองคนนั้นคุยกันนอกฉากหรือพยายามไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองเคลียร์กัน
   

“ได้ทำการบ้านที่ฉันให้มั้ย” ผมยิ้มแฉ่งพร้อมพยักหน้ารับรัวๆ เดินไปนั่งที่โต๊ะตัวยาวสีขาวกับเขา เปิดแม็คบุ๊คขึ้นมา กดเปิดไฟล์งานที่เขาสั่งให้ผมทำแล้วเลื่อนหน้าจอไปให้เขาอ่าน
   

การบ้านที่เขาบอกให้ทำก็คือ เขาให้บทซีรีส์ไปหนึ่งเอพิโสต แล้วให้หาว่าอะไรคือจุดบกพร่องของบทตอนนั้นๆ มีอะไรผิดพลาดในบทนั้นบ้าง โดยใช้วิจารณญาณของผมเอง พออ่านแล้วก็ให้เขียนรายงานมาหนึ่งหน้าเอสี่เท่านั้น ซึ่งแกรมม่าผมง่อยเปลี้ยเสียขามาก เลยไปขอให้วิคเตอร์ช่วยตรวจดูให้ แต่ไอ้ยักษ์ก็เป็นไอ้ยักษ์คือชิล เขาบอกว่าเขาอ่านเข้าใจว่าผมต้องการจะสื่ออะไร ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องเป๊ะไปหมด สรุปคือผมก็เอางานแกรมม่าง่อยๆ ของตัวเองมาส่งเกวินนี่แหละ มันก็เข้าใจนั่นแหละ แต่ผมก็แอบอายแกรมม่าตัวเอง
   

“อื้อ… ใช้ได้ ถือว่านายจับทางถูกนะ แต่ว่าตรงฉากนี้เนี่ย…” แล้วเกวินก็อธิบายว่าจุดที่ผมเขียนไปนั้น จริงๆ แล้วมันเป็นแบบไหน เป็นเพราะอะไร เขาบอกว่าความคิดผมไม่ผิด เรื่องแบบนี้ไม่มีผิดถูก อยู่ที่มุมมอง ซึ่งเขาแค่บอกเฉยๆ ว่าเขามีมุมมองต่อจุดนั้นจุดนี้อย่างไร
   

“วันนี้ฉันจะให้นายเขียนเรื่องย่อซีรีส์หนึ่งเรื่อง เรื่องอะไรก็ได้ตามจินตนาการของนายเลย” ผมเลิกคิ้วทั้งสองข้างขึ้นแล้วยิ้ม
   

“แค่อยากเห็นจินตนาการของนายน่ะ ไม่ต้องเครียดนะ เขียนสั้นเขียนยาวยังไงก็ได้” ผมทำหน้าว่าอ้อ จริงๆ สำหรับผมก็ไม่ได้ยากมากหรอก เพราะชีวิตปัจจุบันก็ขี้มโนอยู่แล้ว แค่กลัวว่าเขาอยากจะได้จริงจัง แล้วต้องมานั่งเครียดว่าต้องทำออกมาให้ดี เพราะผมเพิ่งเริ่มต้นยังไม่พร้อมกับการเขียนอะไรจริงๆ จังๆ
   

ผมหยิบสมุดโน้ตเล่มเดิมที่เคยเอาไว้ใช้จดบันทึกเรื่องราวของวิคเตอร์และมีรูปวิคเตอร์ติดอยู่ในเล่มตรงด้านหลังปกหน้าออกมาจากกระเป๋าเป้ ผมไปขอคืนจากวิคเตอร์มาเพราะว่ามันยังใช้ได้อีกตั้งครึ่งเล่ม แต่ก่อนจะคืน เขาให้สัญญาว่าจะเอาไว้ใช้เขียนหรือบันทึกเรื่องของผมกับเขาเท่านั้น ห้ามเอาอะไรไร้สาระมาใส่ ผมตอบรับอือๆ ออๆ ไปก่อน เพราะถึงเวลาจริงๆ ก็ต้องใช้อยู่ดีนั่นแหละ คงไม่มานั่งแบ่งหรอกว่าอันไหนเหมาะไม่เหมาะอยู่ในเล่ม
   

ก่อนจะลงมือเขียนโครงเรื่องในสมุดโน้ตกระดาษสีน้ำตาลไร้เส้น ผมเปิดอ่านข้อมูลวิคเตอร์ที่ผมเขียนไว้ก่อนหน้านี้แล้วก็นั่งขำคนเดียว ทั้งเขียนด่า เขียนบ่นเขาไว้เต็มไปหมด เพราะตอนนั้นด่าจริงบ่นจริงกับเจ้าตัวไม่ได้ เลยมาระบายในนี้แทน แล้วก็มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาแทบทุกอย่างในชีวิต อ่านไปอ่านมาผมเลยเกิดไอเดียว่าอยากเขียนเรื่องเขากับผม
   

“ต้องการสมาธิมั้ย” ผมเงยหน้าขึ้นมองคุณเกวิน มองหน้าเขาด้วยความครุ่นคิด 
   

“ก็ดีนะครับ แต่จริงๆ คุณไม่ต้องไปไหนก็ได้” เขาโบกมือเป็นเชิงว่าไม่เป็นไรก่อนจะลุกเดินออกไปจากเต้นท์ ผมว่าเขาคงอยากไปเดินคุยกับคนอื่นบ้างแหละ เพราะจริงๆ การสอนอะไรแบบนี้ไม่ต้องทำทั้งวันหรือจี้กันมากนัก งานเขียนเป็นอะไรที่ออกมาจากหัวเอง บังคับกันไม่ได้ ถ้าไม่มีฟีลลิ่งอยากทำก็เค้นกันยากน่าดู
   

ผมนั่งเขียนโครงเรื่องไปเงียบๆ โดยมีออสตินนั่งเฝ้าเงียบๆ เช่นกัน สำหรับคนนี้จะอยู่หรือไปก็เหมือนกัน เพราะเงียบได้ตลอด เขาเลยไม่ใช่สิ่งรบกวนสมาธิผมเท่าไหร่ ผมนั่งเขียนไปหัวเราะไปอย่างกับคนบ้า รับรู้ได้ถึงสายตาของออสตินที่มองมา เดาว่าคงมองนิ่งๆ แต่ในใจคงกำลังนึกห่วงว่าผมเบลอยาแก้แพ้หรือเปล่าอยู่แน่ๆ
   

“ปวดฉี่อะ เดี๋ยวผมมานะ” นั่งๆ เขียนไปฉี่จะไหล อากาศหนาว เหงื่อออกน้อย เลยผลิตมาเป็นฉี่แทน ผมลุกขึ้นยืน ออสตินทำท่าจะลุกขึ้นตาม ผมรีบยกมือเบรกเขาเอาไว้ทันที
   

“ห้องน้ำอยู่ในบ้าน วิคเตอร์ก็อยู่นั่นน่า” วันนี้เรายังคงปักหลักถ่ายที่บ้านหลังหนึ่งในย่านหมู่บ้านโซนบรู๊คลิน บ้านส่วนใหญ่เป็นโทนสีขาว ตั้งห่างกันในระดับที่ไม่แออัด มีสนามหญ้าหน้าบ้าน หลังบ้านก็แล้วแต่ว่าใครจะทำอะไร แต่แพทเทิร์นของบ้านดูเดิมๆ คล้ายกันหมด ก็จะมีบางบ้านที่พยายามตกแต่งบ้านให้ดูโดดเด้งออกมาด้วยการเสริมนั่นเติมนี่แล้วแต่จินตนาการของเจ้าของ บ้านที่เราเลือกมาใช้ถ่ายทำเป็นบ้านไม้สีขาวสะอาดตา มีมุกยื่นออกมาตรงหน้าบ้าน มีสวนดอกไม้เล็กๆ หน้าบ้าน มีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นสองต้น ถ้าเป็นช่วงสปริงสองต้นนี้คงแผ่ร่มเงาใหญ่น่าดู
   

“ผมไปด้วยดีกว่า” ผมชี้ไปที่แล็ปท็อปของผมกับเกวิน
   

“คุณควรดูแลของดีกว่าครับ ส่วนผมเดินไปไม่ถึงยี่สิบก้าวก็ได้เข้าห้องน้ำแล้ว” ออสตินทำสีหน้าอึดอัดใจ ผมถอนหายใจอย่างหน่ายใจนิดหน่อย คือเต้นท์กับตัวบ้านอยู่ไม่ไกลกันจริงๆ นะ
   

“คุณเป็นบอดี้การ์ดที่ทำหน้าที่ดีมากเกินไปแล้วออสติน” ผมแยกเขี้ยวใส่พ่อหัวเกรียนแล้วหมุนตัวเดินหนีออกจากเต้นท์ไปทันที ผมก้าวเท้าฉับๆ เข้าไปในบ้าน แต่ตอนนี้ทุกคนกำลังจดจ่ออยู่ที่หน้าเซ็ทเนื่องจากวิคเตอร์กำลังเข้าฉาก ผมเดินไปทางห้องน้ำของบ้านที่อยู่ใกล้กับห้องครัว แอบได้กลิ่นควันบุหรี่ออกมาจากนอกครัวที่เป็นโซนหลังบ้าน ผมย่นจมูกแล้วเดินเข้าไปจัดการธุระในห้องน้ำจนเสร็จเรียบร้อย พอเปิดประตูออกมาก็เจอไอ้ฌอณที่เพิ่งเดินกลับเข้ามาจากนอกบ้าน เราชะงักมองหน้ากัน หน้าตามันตอนนี้ดูเหมือนขี้ไม่ออกมาสามวัน แววตากระด้างอย่างกับโกรธคนมาสิบคน มือขวามันกำโทรศัพท์แน่น ผมแอบกลืนน้ำลายลงคอ แล้วค่อยๆ ก้าวเท้าไปทางประตูครัวที่เชื่อมเข้าไปในห้องรับแขกและห้องทานอาหารของบ้าน
   

“พวกแกมันโสโครก!” ผมสะบัดหน้าไปมองอีกฝ่ายอย่างตกใจ แต่พอตั้งสติได้ว่าเมื่อกี้มันด่าผมเลยทำหน้าเอือมระอา
   

“ครีเอทคำด่าใหม่เถอะ คำนี้เคยได้ยินจากปากแกแล้วรอบนึง” ผมไหวไหล่ทั้งสองข้างด้วยท่าทีกวนๆ ไอ้ชอนไชจ้องผมตาลุกวาว ก้าวเท้าเข้ามาประชิดตัวผมอย่างเร็วจนผมตกใจอีกรอบ แต่รอบนี้หัวใจผมเต้นรัวอย่างไม่ทันตั้งตัว
   

“พวกแกมันรกโลก สกปรก และต่ำช้าที่สุด!” ผมย่นคิ้วมองมันด้วยสายตาประหวั่นพรั่นพรึงกับน้ำเสียงและหน้าตาอันจริงจัง ผมรู้ว่ามันเกลียดเพศที่สาม แต่ตอนนี้มันเหมือนโดนใครจุดชนวนความเกลียดอันนั้นให้แรงขึ้น
   

“ถ้าผมต่ำขนาดนั้นก็ไม่ต้องมายุ่งกับผมสิ!” ผมว่าแล้วออกแรงผลักอกมันให้ออกห่างจากตัวเพราะตอนนี้มันอยู่ใกล้ผมมาก ฟันแทบจะเฉาะหัวผมอยู่แล้ว แต่เหมือนการที่ผมไปโดนตัวมันจะยิ่งทำให้อารมณ์ของมันที่ขึ้นอยู่แล้วขึ้นมากไปอีก เพราะมันเบิกตากว้างมองผมแล้วพุ่งตัวเข้ามาบีบแขนขวาผมแน่น
   

“โอ๊ย!” ผมร้องเสียงหลง หน้าตาเหยเกเพราะแรงบีบที่ต้นแขนขวา
   

“กล้าดียังไงมาแตะต้องตัวฉัน ไอ้ตัวโสมม!”
   

“ดูด้วยว่าตอนนี้ใครแตะใครกันแน่!” ผมหน้านิ่ว รู้สึกราวกับว่าแขนกำลังร้าว แต่มันก็ยังคงบีบไว้ไม่ยอมปล่อย ด้วยความเจ็บ ความโกรธและความโมโห ผมเลยยกมือซ้ายฟาดแก้มขวามันเต็มแรง ใบหน้าขาวของมันขึ้นรอยแดงทันที มันจ้องผมตาลุกวาว
   

“แม่แกเคยโดนตุ๊ดแย่งแฟนรึไงถึงได้ฝังใจกับเพศที่สามนัก!” ผมด่าเพื่อกวนประสาทมัน และดูท่าจะกวนได้จริงเพราะมันปล่อยมือออกจากแขนผมแล้วโยนโทรศัพท์ลงพื้นก่อนจะใช้สองมือพุ่งเข้าบีบคอผมเต็มแรง ผมเบิกตากว้าง อ้าปากเรียกอากาศหายใจตามสัญชาตญาณมนุษย์เวลาโดนอะไรบีบรัดคอทันที
   

“อั่ก… อะ… ปล่อย…” ผมพยายามเปล่งเสียง สองมือพยายามแกะมือไอ้บ้านี่ออกจากคอตัวเอง แต่มือมันก็บีบแน่นจนถึงหลอดลม ผมมองมันด้วยความหวาดหวั่น สายตาหยาบกระด้างของมันจ้องผมราวกับเกลียดกันมาสิบชาติ หัวใจผมเต้นรัว ความรู้สึกกลัวเริ่มแผ่ไปทั่วตัว
   

“คนอย่างพวกแก ตายไปนั่นแหละดีที่สุดแล้ว!!” มันตะคอกใส่หน้าผมแล้วบีบคอผมแรงขึ้น สมองผมเริ่มเบลอเพราะขาดอากาศไปหล่อเลี้ยง ผมอ้าปากเพื่อพยายามสูดอากาศให้กับตัวเองแต่ก็ไม่เป็นผล ผมมองมันด้วยสายตาเลื่อนลอย น้ำตาไหลออกจากหางตาทั้งสองข้าง แต่มือก็พยายามยกไปตบตีหน้ามันเพื่อเอาตัวรอด แต่แรงบีบที่คอทำให้ผมเริ่มขาดอ็อกซิเจน สมองเริ่มคิดอะไรช้าลง แรงยกมือก็แทบไม่มี และผมคิดว่าตัวเองต้องตายแล้วแน่ๆ เมื่อมันออกแรงยกตัวผมขึ้นครูดกับผนังทั้งที่ยังบีบคอเอาไว้อยู่ น้ำตามากมายไหลออกมา ทั้งเพราะหายใจไม่ออกและกลัว
   

ผมมองสายตาของไอ้ฌอณ มันจ้องผมอย่างเกลียดชัง แต่ในแววตาแดงก่ำคู่นั้นก็มีน้ำตาคลออยู่ด้วย ผมปากสั่น สองมือจิกเล็บลงบนมือมันไว้แน่น  เฮือกสุดท้ายของชีวิตก็ว่าได้ ผมฮึดสู้ขึ้นมา ออกแรงยกขาเตะตรงเป้าของมันเต็มแรง
   

ตุบ!!!
   

“Fuck!!!” มันสบถเสียงดังลั่นหน้าตาเหยเก แต่ก็ได้ผลเพราะมันปล่อยมือออกจากคอผมไปกุมเป้าตัวเองจนตัวงอ ตัวผมไหลลงไปกองกับพื้น แข้งขาอ่อนแรงจนยืนไม่ไหว ผมฟุบหน้าอยู่กับพื้นอย่างหมดแรง ไอเสียงดังโครกครากสลับกับหอบรุนแรง หูผมแว่วเสียงร้องโอดครวญของไอ้เหี้ยฌอณ ตอนนี้ในหัวผมตื้อ หูดับสลับกับได้ยินเป็นระยะ ผมพยายามยันตัวลุกขึ้นมา ก็เป็นจังหวะที่ไอ้ฌอณคลานเข่าเข้ามาหาผมด้วยใบหน้าเคียดแค้น น้ำตาผมไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง
   

“Help… แค่กๆ” ผมพยายามเปล่งเสียงเรียกให้คนช่วย แต่ตอนนี้ผมอ่อนกำลังเกินกว่าจะตั้งสติดีๆ ได้ สมองมันชาไปหมด เหมือนมันทำงานช้าลง คิดอะไรได้อืดอาด ผมพยายามกระเถิบตัวหนีแต่ก็หนีไม่พ้น ไอ้ฌอณยกมือขวากำหมัดแล้วชกแก้มซ้ายผมเต็มแรง
   

พลั่ก!!
   

“อั่ก!!!” กลิ่นคาวเลือดคลุ้งออกมาจากปาก รสฝาดของเลือดสีแดงแผ่ไปทั่วลิ้น ใบหน้าผมหันไปอีกฝั่งอย่างหมดแรงจะต้านทานใดๆ  ตัวผมเอียงจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ ไอ้ฌอณง้างหมัดจะต่อยผมอีกรอบ
   

“ไอ้เหี้ย!!!!”


โครม!!!


เหมือนทุกอย่างรอบตัวดับวูบ ไอ้ฌอณหายไปจากสายตา เหมือนมันกระเด็นออกไปจากหน้าผมอย่างเร็ว คล้ายภาพตัดฉับ สติผมเลือนราง ผมนั่งหอบนั่งไอตัวโยน เลือดเหนียวๆ ไหลออกจากปากเป็นทางยาว เปลือกตาจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ น้ำตานองเต็มหน้า มือผมสั่นระริก ตัวก็สั่นเป็นระยะ ผมได้ยินเสียงอึกกระทึกแว่วมาจากไกลๆ มันได้ยินไม่ชัด เหมือนว่าหูดับ หูอื้อไปเลย ใครสักคนนั่งอยู่ข้างผม เรียกชื่อผมเสียงดัง ผมค่อยๆ หันหน้าไปมองฝั่งซ้ายมือตัวเองก็เห็นใบหน้าของออสติน พอเลื่อนสายตาไปมองเหตุวุ่นวายตรงหน้า ผมก็เห็นวิคเตอร์กำลังรัวหมัดใส่ใครสักคนอยู่ด้วยหน้าตาโกรธแค้นโดยมีใครอีกสองสามคนกำลังดึงเขาไว้ ภาพตรงหน้าไม่ชัด มันพร่าเลือน ผมไม่รู้ว่ามันพร่าเลือนเพราะสายตาหรือเพราะสมองหยุดสั่งการไปชั่วขณะเพราะไม่มีอ็อกซิเจน ผมพยายามตั้งสติ และพยายามหายใจเข้าลึกๆ
   

“วิค…วิคเตอร์…” ผมเรียกชื่อเขาเบาหวิว แต่ก็ทำเอาหน้าเหยเกเพราะเจ็บกระพุ้งแก้มที่เลือดออก ภาพตรงหน้าเบลอเหมือนเลนส์กล้องเปียกน้ำ วิคเตอร์ยืนมองใครสักคนด้วยสายตาน่ากลัว… น่ากลัวมาก… เหมือนเขากำลังจะฆ่าใครไม่รู้
   

“วิคเตอร์…” ผมเรียกชื่อเขาอีกครั้งพร้อมกับไอจนเลือดพุ่งออกจากปาก ออสตินตะโกนว่าขอผ้าหรือทิชชูสักอย่าง ก่อนจะเอาผ้าสีขาวมาซับเลือดตรงปากให้ผม ตอนนี้ผมเรียบเรียงสติไม่ถูก เห็นอะไรก็วับๆ แวบๆ รู้สึกแสบจมูก รู้สึกหัวโล่งๆ รู้สึกสมองไม่สั่งงาน รู้สึกเจ็บคอ ตอนนี้เหมือนมันมีเสียงอยู่ในหัวว่า ตื๊ดดดดด ยาวๆ สลับกับเสียงโลกภายนอก
   

“มึงไม่ตายดีแน่!!!” เสียงวิคเตอร์ดังเข้ามาในโสตประสาท ทำให้ผมเหมือนกลับเข้ามาอยู่ในโลกปัจจุบัน ผมนอนพิงไหล่ออสตินอย่างหมดแรง ภาพที่เห็นชัดขึ้น ตรงหน้าคือทีมงานกำลังรุมล้อมวิคเตอร์กับไอ้ฌอณที่ยืนตัวงอ มีทีมงานพยุงปีกสองข้าง ส่วนวิคเตอร์มีทีมงานสี่คนรุมจับตัวเขาเอาไว้
   

“วิคเตอร์…” ผมเรียกชื่อเขาอย่างอ่อนระโหยโรยแรง เขาสะบัดสายตาและใบหน้าน่ากลัวมามองผม ก่อนที่จะสลัดทีมงานสี่คนนั้นทิ้งอย่างไม่ไยดี เดินพุ่งตรงมาหาผมอย่างเร็วก่อนจะนั่งลงประคองผมไว้ในอ้อมแขน
   

“โอะ… โอ๊ย…” ผมร้องเสียงแผ่วพร้อมกับนิ่วหน้า เพราะรู้สึกสะเทือนตรงคอ
   

“คอเขาอาจเคล็ดครับ” เสียงออสตินบอก ผมขยับเปลือกตาอย่างเชื่องช้ามองใบหน้าเครียดเขม็งของไอ้ยักษ์ ดวงตาเขาลุกวาวราวกับจะฆ่าคนให้ตายได้จริงๆ
   

“พาเขาไปโรงพยาบาลเลยวิคเตอร์ เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง” เสียงเดวิดดังขึ้น ผมพยายามจะหันไปมองแต่ก็หันไปได้แค่นิดเดียวเพราะรู้สึกว่าเส้นสักเส้นตรงคอมันยึดจนเจ็บจี๊ด
   

วิคเตอร์ไม่พูดอะไร แต่มองไอ้ฌอณที่สภาพตัวงอเป็นกุ้ง ใบหน้าปูดบวมและเละไปด้วยเลือดอย่างเคียดแค้น เขาหายใจฮึดฮัดรุนแรงก่อนที่จะค่อยๆ อุ้มผมขึ้นโดยมีออสตินช่วยประคองหัวผมอีกแรง
   

“แมท ได้ยินฉันมั้ย ได้ยินฉันรึเปล่า?!” เขาถามน้ำเสียงร้อนรนระหว่างที่กำลังก้าวเท้าเดินไปช้าๆ ผมกระพริบตาสองทีเป็นคำตอบว่าผมยังได้ยินเขาอยู่
   

“เจ็บตรงไหนบ้าง บอกฉันแมท บอกฉัน!” แววตาและสีหน้าของเขาสะท้อนความกลัวออกมาอย่างชัดเจน ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก น้ำตาคลอเต็มหน่วยเพราะเจ็บคอที่โดนบีบรุนแรงและเจ็บแก้มที่โดนต่อยเข้าเต็มหมัด บวกกับความกลัวที่ติดอยู่ในใจสั่นหวิวของผมเลยทำให้ผมงอแงทันที
   

“เจ็บ… ฮึก… กลัว ผมกลัว…” ผมนอนแหงนหน้ามองเขานิ่งอยู่ในอ้อมแขนเขาเพราะผมขยับคอมากไม่ได้ น้ำตาไหลออกมา มันปนเปกันไปหมดในตอนนี้ ทั้งเจ็บทั้งกลัว แยกความรู้สึกไม่ออก และผมยังไม่รู้เลยว่าผมรับรู้ถึงความรู้สึกต่างๆ ได้หรือยัง สมองผมมันคิดมันสั่งการได้หรือยังก็ยังไม่แน่ใจในตัวเอง
   

“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร ฉันอยู่นี่” วิคเตอร์ยกมือขวาลูบหัวผมเบาๆ ผมไม่รู้ว่าตอนนี้เราอยู่ไหน แต่ผมได้ยินเสียงรถวิ่ง ผมนอนนิ่ง ไม่กล้าขยับตัวแรง เพราะกลัวคอจะหัก ผมกระพริบเปลือกตาไล่น้ำตาออกมา วิคเตอร์ก้มมองผมแล้วเขาก็ขมวดคิ้ว สีหน้าเขาทั้งหวาดกลัวทั้งเจ็บปวด มือขวาเลื่อนมาเช็ดเลือดออกจากแก้มผมแผ่วเบา
   

“อย่าร้องไห้นะ อย่าร้อง” ผมห้ามตัวเองไม่ได้ พอวิคเตอร์ปลอบแบบนั้นเลยกลายเป็นว่าผมปล่อยโฮออกมาจนสะอื้นรุนแรง มันเหมือนได้ปลดเปลื้องความกลัวในอก ปลดเปลื้องความเจ็บต่างๆ ตามร่างกายออกมา ผมนอนร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนวิคเตอร์ เขาปลอบผมไม่หยุด แวบหนึ่งเหมือนเขาจะร้องไห้แต่สุดท้ายก็ไม่มีน้ำตาไหลออกมา เขาก้มลงจูบหน้าผากผมเบาๆ ทั้งที่ผมยังสะอื้นไม่หยุด จูบซ้ำๆ ย้ำๆ เหมือนให้ผมรู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้จริงๆ
   

“Good boy. I’m here, baby.” ผมสะอื้นจนอกกระเพื่อม วิคเตอร์ใช้มือเช็ดน้ำตาให้ผมเบาๆ ลูบหน้าผมไปเรื่อย ผมสบตากับเขาเพราะกลัวเขาจะหายไป กลัวไอ้ฌอณมันกลับมาทำร้ายอีก เหมือนตอนนี้ผมมีอาการจิตตกร่วมด้วย วิคเตอร์ขมวดคิ้วน้อยๆ ดวงสีน้ำผึ้งข้นมองผมด้วยความเป็นห่วงไปตลอดทาง นั่นเลยทำให้ผมสงบลงบ้าง และทำให้ผมรู้สึกตัวสั่นใจสั่นน้อยลง
   
V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.39 55%}:23.05.59:
«ตอบ #1375 เมื่อ23-05-2016 07:43:08 »


V
v
v

ผมถูกวิคเตอร์อุ้มเข้าไปในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่เอารถเข็นผู้ป่วยมารับร่างผมอย่างระมัดระวัง ผมนั่งเอียงคอน้อยๆ เพราะรู้สึกเคล็ดที่คอ ยังคงเบลอๆ อยู่บ้างทั้งเพราะฤทธิ์ยาแก้แพ้และอ็อกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่ทัน เหมือนมันต้องการเวลาอีกสักพักในการปรับสมดุลในร่างกาย คล้ายกับว่าเหมือนสมองมันตายด้านไปชั่วขณะและต้องการสิ่งกระตุ้นปลุกฟื้นมันขึ้นมา ผมปล่อยให้หมอตรวจดูอาการ โดยมีวิคเตอร์คอยเสริมว่าผมไปเจออะไรมา หมอจับๆ ตรงคอผมแล้วถามว่าเจ็บตรงไหนเวลากดลงไป กล้ามเนื้อบนหน้าผมกระตุกตอนที่หมอกดตรงท้ายทอย หมอบอกว่ามีรอยช้ำรอบคอจากการโดนบีบ ตรงแก้มบวมตุ่ย กระพุ้งแก้มด้านในเป็นแผลแต่ก็ไม่มีอะไรร้ายแรง โชคดีที่หลอดลมไม่เสียหาย ส่วนอาการทางสมอง หมอพยายามชวนผมคุยแล้วดูอาการ
   

“อย่าเพิ่งให้เขาทานยาแก้แพ้ต่อนะครับ ตอนนี้มันอาจจะมีผลมาจากยาตัวนั้นด้วย” วิคเตอร์พยักหน้ารับ คุณหมอสั่งยาแก้ปวด แก้อักเสบ ยานวด ยาทำแผลให้ผมสำหรับกลับบ้านด้วย
   

ก่อนกลับคุณหมอให้พยาบาลร่างท้วมคนหนึ่งมานวดคอให้ เธอจับผมนั่งตัวตรง ใช้มือบีบๆ นวดๆ คลายเส้น เธอบอกว่าเป็นอาการคล้ายคนตกหมอน นวดคลายเส้นอีกสักสามวันเดี๋ยวก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างนั้นก็มีพยาบาลอีกคนทำแผลที่แก้มให้ผมด้วย วิคเตอร์นั่งมองผมด้วยสายตาเคร่งเครียด ออสตินเองก็เช่นกัน ผมปล่อยให้พยาบาลทั้งสองคนนวดคอและทำแผลให้อย่างเบลอๆ เหม่อๆ เพราะยังรู้สึกว่าสติตัวเองไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเท่าไหร่
   

“ลองหันซ้ายหน่อยค่ะ” ผมทำตามที่เธอบอก ค่อยๆ หันไปมองทางซ้าย มันดีขึ้นกว่าตอนแรก แต่ยังขัดๆ อยู่นิดหน่อย สักพักเธอบอกให้ผมลองหันขวา ผมค่อยๆ หันไป รู้สึกจี๊ดตรงแถวท้ายทอยแต่ก็หันได้ไม่ถึงขั้นขัดยอก
   

“ว่างๆ ก็นวดให้เขาครั้งละห้าถึงสิบนาทีนะคะ” พยาบาลหันไปบอกวิคเตอร์ เขาตอบรับเสียงเบา ก่อนจะเดินเข้ามาอุ้มผมเดินออกจากห้องหมอ ผมนอนเอาหน้าซุกอกวิคเตอร์ไว้ ตอนแรกแผลที่แก้มไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก เหมือนตอนที่โดนมันช็อคอยู่ แต่ตอนนี้รู้สึกร้าวระบมและแสบแผลทั้งนอกทั้งใน ข้างในปากเจ็บยิ่งกว่าเป็นร้อนในซะอีก
   

“นั่งพิงฉันได้มั้ย” เขาถามตอนที่หย่อนก้นนั่งลงบนเบาะรถแล้ว ผมพยักหน้านิดหนึ่ง วิคเตอร์เลยค่อยๆ ประคองให้ผมนั่งพิงตัวเขา ผมเอนหัวลงไปบนไหล่ขวาของเขา วงแขนสองข้างกอดร่างผมเอาไว้ไม่ให้ตัวผมเอียง
   

“ผมขอโทษนะครับ” ออสตินบอกเสียงเครียดและสีหน้าก็เครียดไม่แพ้เสียง แววตาเขาแสดงออกถึงความรู้สึกผิด
   

“ไม่ใช่ความผิดคุณสักหน่อย ผมดื้อเอง” ผมบอกเสียงเบาหวิว เอียงหน้าไปมองเขานิดหนึ่ง ออสตินยังมีท่าทีไม่สบายใจ เขาเหลือบมองวิคเตอร์ด้วยท่าทีเกร็งๆ
   

“ฉันไม่โทษนายหรอก แต่ครั้งหน้าห้ามให้เขาคลาดสายตาอีกเด็ดขาด” ไอ้ยักษ์ไม่ได้บอกเสียงขู่หรือเสียงดุ เขาบอกด้วยน้ำเสียงคล้ายว่าฝากความหวังไว้กับออสตินอีกแรง
   

“ครับ คุณเรย์มอนด์” ออสตินผ่อนคลายขึ้นนิดนึงแล้วหันไปสนใจกับการขับรถ ผมนั่งพิงไหล่วิคเตอร์ไปนิ่งๆ ไม่อยากขยับส่วนไหนในร่างกาย อยากนั่งให้เขากอดอยู่แบบนี้ และตอนนี้ผมคิดถึงพ่อกับแม่
   

“ผมอยากกลับบ้าน” ผมว่าเสียงแหบน้ำตาคลอ
   

“ฉันกำลังพานายกลับบ้านเราไง” ผมเบะปากส่ายหน้าช้าๆ น้ำตาไหลอาบแก้มแล้วพูดเสียงขาดห้วง
   

“ผมอยากกลับ ฮึก… เมืองไทย” วิคเตอร์นิ่งไปนิดหนึ่ง มือซ้ายยกมาลูบเส้นผมที่ปรกหน้าผากผมขึ้นเบาๆ
   

“หายดีเมื่อไหร่ฉันจะพากลับไป นายคงไม่อยากให้พ่อกับแม่ถามถึงสภาพนายตอนนี้ใช่มั้ย” น้ำตาไหลอาบแก้มเหมือนเด็ก ผมส่ายหน้าไปมา เริ่มคุมอารมณ์งอแงตัวเองไม่ได้
   

“ไม่เอา… ฮึก… จะกลับตอนนี้ ผมจะกลับไปหาพ่อกับแม่” ยิ่งพูดก็ยิ่งคิดถึงพ่อกับแม่ ช่วงเวลาแบบนี้ถ้าได้อยู่ใกล้พ่อกับแม่ ไอ้ที่รู้สึกแย่ๆ รู้สึกไม่ปลอดภัยคงหายไป
   

“ชู่ววว อยู่กับฉันก่อนไม่ได้รึไง ฮึ?” เขาบอกเสียงเบาหวิว มือซ้ายลูบหัวผมแผ่วเบา ผมสะอื้นน้อยๆ แต่ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ปกคลุมตัวเอง แววตาสีน้ำผึ้งข้นของเขาเวลานี้อ่อนโยนมากเมื่อมองผม มันทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา ผมหันหน้าซุกเข้ากับซอกคอของเขา วิคเตอร์หยุดลูบหัวผมแล้วกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น เขากดจูบลงบนหน้าผากหนึ่งที แล้วก็เลื่อนจมูกไปกดแช่ไว้กลางกระหม่อมของผม ริมฝีปากเขาพร่ำกระซิบบอกว่าผมไม่เป็นไรแล้ว อยู่กับเขาปลอดภัยแล้ว ไม่มีใครทำอะไรผมได้อีกแล้ว
   

“No one can hurt you, now. (ไม่มีใครทำร้ายนายได้แล้ว)” ผมนอนนิ่งในอ้อมกอดเขา สูดดมกลิ่นเนื้ออุ่นๆ จากซอกคอของเขา มันทำให้ผมรู้สึกดี ไม่ใช่ว่ากลิ่นตัวเขาเป็นยา แต่มันทำให้ผมรู้ว่าวิคเตอร์อยู่กับผมจริงๆ
   

รถจอดตรงริมฟุตบาทหน้าบ้านที่มีหิมะสีขาวโปรยเต็มพื้น ต้นไม้ใบเขียวต้นใหญ่บนฟุตบาทเรียงยาวไปตามถนนหมู่บ้าน ยามนี้กลายเป็นใบขาว ถ้ามีกระรอกออกมาวิ่งเล่นตามกิ่ง หิมะที่เกาะอยู่คงจะโปรยปรายเหมือนใบไม้ร่วงหล่น ออสตินอ้อมมาเปิดประตูรถฝั่งวิคเตอร์ เขาค่อยๆ อุ้มผมลงจากรถ ออสตินรีบเดินไปเปิดประตูบ้านเพราะอากาศด้านนอกหนาวมาก ดอกกุหลาบรกๆ สองฝั่งบันไดหน้าบ้านหายไปแล้ว ช่วงที่ผมกลับไทยเขาให้คนมาทำใหม่เป็นสนามหญ้าเล็กๆ สองฝั่ง มีต้นไม้ยืนต้นสูงกว่าผมทั้งสองฝั่ง ตรงโคนล้อมรอบด้วยต้นกุหลาบเป็นวงกลม สวนเขาดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น เห็นว่าไวโอล่าเป็นคนเสนอไอเดียนี้ เพราะทนเห็นความรกรุงรังของหน้าบ้านพี่ชายตัวเองไม่ไหว ผมว่าก็รกจริงนั่นแหละ บ้านอื่นเขาจัดสวนหน้าบ้านสวยนะ สีเขียวตัดกับตัวบ้านสีน้ำตาลแดง สวยดีแล้วก็ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดีด้วย แต่ตอนนี้สวนทุกบ้านโดนหิมะปกคลุมหมด แต่เดี๋ยวพอมีนาคมมาเยือนสวนสวยหน้าบ้านของทุกบ้านก็จะกลับมา


วิคเตอร์ก้าวเท้ายาวๆ เดินขึ้นบันไดหน้าบ้านเข้าไปในบ้านอย่างเร็ว ผมได้ยินเสียงกุกกักของเท้าเจ้าไมเคิลดังมาจากห้องโถงของบ้านพร้อมกับเสียงร้องเหมียวๆ ของเจ้าฟ็อกซ์
   

“หิวอะไรมั้ยครับคุณแมท” ออสตินเอ่ยถาม ท่าทางของเขารู้สึกผิดที่ทำให้ผมเจ็บตัวมากจริงๆ
   

“ยังครับ” ผมตอบเสียงอู้อี้ ตอนนี้ยังไม่หิวอะไรทั้งนั้น
   

“เดี๋ยวให้เขานอนพักก่อน ตื่นขึ้นมาแล้วค่อยกินอาหารก่อนกินยา” วิคเตอร์ตอบเสียงเรียบ ออสตินรับคำแล้วปล่อยให้วิคเตอร์พาผมเดินขึ้นไปชั้นสองของบ้าน ไมเคิลทำท่าจะตามมาแต่ออสตินเรียกมันเอาไว้ก่อน มันเลยเดินตามเขาไปทางห้องโถงตามเดิม
   

พอมาถึงหน้าห้อง ผมก็เป็นคนเปิดประตู วิคเตอร์เดินเข้าไปด้านในห้องนอนแล้วใช้เท้าปิดประตูตามหลังเบาๆ เขาพาผมมานั่งลงบนเตียง จัดการถอดเสื้อโค้ทกับถุงมือไปวางไว้บนโซฟาสีแดงปลายเตียง เขาเดินกลับมานั่งลงคุกเข่าตรงหน้าผม ทำให้สายตาเราอยู่ในระดับเดียวกัน เขามองแก้มซ้ายผมที่บวมช้ำเป็นสีม่วงและมีห้อเลือด
   

“ฉันอัดมันหน้ามันช้ำกว่าหน้านายอีก” ผมยิ้มน้อยๆ แต่ก็แอบสะดุ้งนิดนึงเพราะแผลที่แก้มมันตึง
   

“ผมเห็นเขาตัวงอเป็นกุ้งเลย” วิคเตอร์ขบกรามแน่น ยกมือขวาขึ้นลูบหัวผม
   

“ฉันอยากจะกระทืบมันให้ช้ำในตายด้วยซ้ำ” เขาว่าเสียงกดต่ำ หน้าตาเหี้ยมเกรียม แววตาไร้ความปราณียามพูดถึงไอชอนไชไส้หมาเน่า ถึงผมจะดีใจที่เขาปกป้องผมแต่ผมก็ไม่ชอบให้เขาแสดงสีหน้าน่ากลัวแบบนี้ ผมเลยยกมือขวาไปลูบแก้มขวาเขา นั่นเลยทำให้วิคเตอร์กระตุกยิ้ม
   

“นอนเถอะ เดี๋ยวฉันนอนด้วย” ผมพยักหน้าแล้วลุกขึ้นยืนให้วิคเตอร์ถลกผ้านวมสีเทาเข้มออกเพื่อให้เราสอดตัวเข้าไปนอนได้ ก่อนจะล้มตัวลงนอนวิคเตอร์จัดการถอดรองเท้าให้ผมแล้วเอาไปวางไว้ข้างโซฟา
   

“เดี๋ยวนายมานอนฝั่งฉันก่อน จะได้เอาแก้มแนบอกฉันได้” เขาบอกแล้วเดินอ้อมไปอีกฝั่ง ผมเลยเขยิบมานอนฝั่งซ้ายมือตัวเองที่ปกติแล้ววิคเตอร์จะเป็นคนนอนฝั่งนี้ เขานั่งลงบนเตียงแล้วล้มตัวลงนอน ดึงผ้านวมขึ้นมาถึงอก ผมค่อยๆ ล้มตัวลองนอนข้างๆ เขา กระเถิบเอาแก้มขวาไปวางไว้บนอกเขาแต่ก็ต้องหน้านิ่วทันที
   

“เจ็บคอ” ผมบอกเสียงกระซิบ ยังรู้สึกเส้นยึดขัดๆ ตรงท้ายทอยอยู่
   

“งั้นนอนบนหมอนก่อนก็ได้” ผมพยักหน้าน้อยๆ แล้วกระเถิบออกไปนอนบนหมอนอีกใบ ผมเลือกนอนหงายไม่บิดคอไปมาเพราะจะได้ไม่เจ็บ วิคเตอร์เขยิบเข้ามานอนใกล้ๆ เอาหน้าผากชนขมับผมไว้ แขนซ้ายยกขึ้นโอบรอบเหนือหัวผม ลมหายใจอุ่นๆ ของเขารดอยู่ข้างแก้ม ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา อุ่นทั้งกายและใจแม้อากาศข้างนอกบ้านจะหนาวมากแค่ไหนก็ตาม


 :m16:

อีชอนนนน อีปลวก ลืมมันกันไปหรือยัง แต่มันยังอยู่ววว อยู่เพื่อสรา้งความพินาศให้ชีวิตชาวบ้าน

ข่าวการโดนทำร้ายร่างกายของเพศที่สามจากพวกโฮโมโฟเบีย ปัจจุบันมีให้เห็นเรื่อยๆ ชีวิตจริงโหดร้ายมาก แค่เดินผ่านมันก็ทำร้ายแล้ว ตอมเห็นสองข่าวล่าสุดแล้วโกรธอีพวกนี้มาก ข่าวนึงในประเทศไหนตอมจำไม่แม่นค่ะ รัสเซียหรือเปล่าไม่แน่ใจ แค่คู่รักเดินจับมือกันผ่านพวกมัน มันแซว พอเขาไม่เล่นด้วยมันก็รุมทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส อีกข่าวที่ฮาวาย คู่เกย์ต่อแถวซื้อแม็คโดนอล์แล้วยืนจูบกัน คิสกันปกติอะค่ะ ก้มีอีพวกเนี้ยเข้ามาทำร้ายร่างกายเขา

น้องแมทโชคดีที่ผัวยังมาช่วยไว้ทัน ไม่งั้นอาจเละกว่านี้

ยังคงเจอกันตามปกติค่ะ แม้จะเปิดพรีออเดอร์หนังสืออยู่ แต่ยังคงลงนิยายตอนหลักของพาร์นี้จนจบค่า

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ นะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.39 55%}:23.05.59:
«ตอบ #1376 เมื่อ23-05-2016 08:04:49 »

แมทโดนจนได้...แต่รอบนี้เราไม่โกรธฌอนแหะ ออกจะสมน้ำหน้าแมทด้วย

คืออีกฝ่ายก็ประสงค์ร้ายชัดขนาดนั้น วิคเตอร์ก็บอกว่าอย่าอยู่คนเดียวๆ... ประมาทไง เอาแต่คิดว่าไม่เป็นไร เป็นประเภทวัวหายล้อมคอกเหรอคะ ก็รู้ตัวอยู่ว่าอยู่ใกล้ตัวอันตรายยังประมาท โดนเลยไง

ยังดีนะที่รู้ตัวว่าตัวเองดื้อ น่าจับมาตีก้นที่สุด

จำไว้เถอะค่ะว่าไอ้ที่คิดว่านิดเดียวๆไม่เป็นไรนี่แหละที่พาเรื่องใหญ่มาได้เสมอนั่นแหละ นอกใจนิดเดียวไม่เป็นไรหรอก เมานิดเดียวขับรถได้ไม่เป็นไรหรอก ใกล้นิดเดียวออกไปคนเดียวได้ไม่เป็นไรหรอก...



ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.39 55%}:23.05.59:
«ตอบ #1377 เมื่อ23-05-2016 08:53:54 »

แมทเอ้ยยยยย คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแล้วนะ

แต่ณอนนี่ไม่สามารถคุมตัวเองได้เหรอ? จะฆ่าแมทนี่ไม่คิดหน่อยเนอะ ยุขึ้นง่ายยิ่งกว่าพลาสติกอีก

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.39 55%}:23.05.59:
«ตอบ #1378 เมื่อ23-05-2016 10:39:37 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.39 55%}:23.05.59:
«ตอบ #1379 เมื่อ23-05-2016 11:33:48 »

ดีนะที่วิคมาทัน :เฮ้อ: :เฮ้อ:
คราวหน้าอย่าประมาทอีกนะแมท

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด