[ชีวิตรัก หมอนักผ่า] UP.ตอนพิเศษ (31-03-59)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ชีวิตรัก หมอนักผ่า] UP.ตอนพิเศษ (31-03-59)  (อ่าน 201363 ครั้ง)

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
น้ำตาไหลเป็นทางงงงงงงง

ออฟไลน์ gwaiplay

  • ♛ Victoria 。
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สงสารพระพาย ,_,
หมอซันรีบๆฟื้นสิ้

ออฟไลน์ G-bazo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1

-23-
      

                  ครบ 24 ชั่วโมงพอดีที่ภูตะวันพักรักษาตัวอยู่ในห้องปลอดเชื้อ อาการของเขาทรงๆทรุดๆสลับกันอยู่ตลอดทำให้แพทย์ต้องดูแลกันอย่างใกล้ชิด พระพายเองก็แทบจะไม่เป็นอันทำอะไร อย่างน้อยที่สุดเขาก็จะได้ทำหน้าที่เฝ้าคนเจ็บตรงนี้แทนผู้ใหญ่อีกสองคนที่ต้องรับผิดชอบหน้าที่บริหารที่ใหญ่หลวงของตัวเอง เพราะเกิดเหตุการณ์แบบนี้แน่นอนว่ามันทำให้ชื่อเสียงของโรงพยาบาลเสื่อมเสียและขาดความน่าเชื่อถือไป
      
                  ข่าวนี้ดังจนลงหน้าหนังสือพิมพ์และออกโทรทัศน์ แม่ของเขาต่อสายมาหาทันทีที่รู้ข่าวอย่างเป็นห่วง ทว่าเขาไม่พร้อมที่จะพูดอะไรมากไปกว่านั้น เพียงแค่บอกแม่และยายว่าตนปลอดภัยดีให้ท่านได้สบายใจและบอกให้รู้เรื่องทั้งหมดในภายหลัง ...
      พระพายไม่ยอมทานอะไรและไม่ยอมพักผ่อนจนทำให้บรรดาเพื่อนต่างเป็นห่วง พากันสลับมาดูแลอยู่ตลอดเวลา บังคับให้เขาทานอาหารที่เตรียมมาให้โดยอ้างว่าหากจะอยู่รอให้อาจารย์หมอฟื้นขึ้นมาก็ต้องทานอาหารบ้างจะได้มีแรงกว่านี้ พระพายจึงยอมอย่างช่วยไม่ได้แต่สายตาของเขาไม่เคยละจากประตูห้องปลอดเชื้อเลยแม้สักนาที


“พระพาย”


“..... หมอบี” พระพายหันไปตามเสียงเรียก เป็นหมอบีที่เดินเข้ามานั่งข้างๆเขา พร้อมด้วยสายตาของเธอที่ก็มองไปยังประตูบานใหญ่ตรงหน้าเช่นเดียวกัน


“24 ชั่วโมงแล้วสินะที่ซันมันยังไม่ตื่น มันยังนอนพักไปตั้งนานคุณเองก็กลับไปพักบ้างเถอะ ถ้ามันรู้ก็คงจะไม่พอใจที่คุณไม่ดูแลตัวเองในตอนที่มันไม่สามารถดูแลคุณได้” สโรชาพูดเสียงเรียบพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอใจหายไม่น้อยเมื่อทราบข่าวรีบรุดมาหาในตอนเช้าและมาอีกครั้งในตอนดึกวันนี้ จึงพอจะรู้ว่าคนรักของเพื่อนสนิทตนนั้นไม่ได้กลับไปพักอย่างแน่นอน


“.... ผมหลับไม่ลงหรอกครับ ถ้าไม่ใช่เพราะผมเขาคงไม่ต้องมาเจ็บแบบนี้ ตั้งแต่ที่ผมเข้าไปในชีวิตเขา มันไม่เคยมีเรื่องดีเกิดขึ้นเลย ... ผมอยากให้เขาตื่นขึ้นมาฟังคำขอบคุณและคำขอโทษจากผม” พระพายเอ่ยเสียงแผ่ว ดวงตาคู่สวยฉ่ำน้ำมองไปที่บานประตูอย่างไม่ละสายตา ก่อนที่มือเรียวสวยของสโรชาจะจับไหล่ที่กำลังสั่นสะท้านของอีกฝ่ายเบาๆอย่างให้กำลังใจ


“อย่าโทษตัวเองเลย ซันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นหรอก” ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกันอีก พวกเขานั่งเงียบๆเพื่อรอการตอบสนองจากคนเจ็บที่นอนอยู่ในห้องอย่างมีความหวัง คนหนึ่งคือคนรักอีกคนหนึ่งคือเพื่อนรักที่ยังคงรักมากกว่าเพื่อน ...


      ช่วงเช้าของวันพระพายกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง หลังจากกลับไปคอนโดเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการไปขึ้นศาลในตอนสาย เวลาแต่ละนาทีมันช่างยาวนานเหลือเกิน ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมตั้งแต่ที่เขากลับไป ภูตะวันยังคงนอนนิ่งไร้การตอบสนอง มีเพียงเสียงเครื่องวัดชีพจรที่ยังคงดังอย่างต่อเนื่องให้รู้ว่าเจ้าของยังมีลมหายใจ

      มือเล็กขยับผ้าห่มของคนเจ็บให้สูงขึ้นกว่าเดิมอีกนิดเพราะอากาศในห้องค่อนข้างเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ตาคู่สวยมองหน้าที่ซีดเผือดของคนรักด้วยความสงสารอย่างจับใจ ยังรู้สึกโทษตัวเองไม่หายที่เป็นต้นเหตุทำให้คนที่รักต้องเจ็บตัว พระพายค้อมตัวลงเล็กน้อยจุมพิตที่ข้างแก้มเย็นเฉียบแผ่วเบา


“วันนี้ต้องขึ้นศาลแล้ว พายและทุกคนจะทำให้เต็มที่ ... วันตัดสินเราต้องไปด้วยกันนะครับ ไปดูความสำเร็จของเรากันนะ” เขากระซิบที่ข้างหูก่อนจะจุมพิตที่แก้มเย็นเฉียบของภูตะวันอีกครั้ง แม้ไม่อยากจะห่างกันแม้สักวินาที หากแต่ก็ต้องตัดใจยอมเดินออกมาจากห้องนั้นเพื่อไปทำเรื่องสำคัญที่รออยู่


      รถเก๋งคันสีดำสนิทของนายแพทย์หนุ่มแผนกกุมารฯเคลื่อนตัวมาจอดสนิทที่หน้าศาลอาญาในกรุงเทพมหานคร  พระพายก้าวเท้าลงจากรถอย่างช้าๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเพ่งมองตราสัญลักษณ์ของศาลอาญาที่มีที่มาจากตราแผ่นดินด้วยความรู้สึกหลากหลายผสมปนเปกันไปหมด ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อเพื่อนจับไหล่เบาๆและพากันเดินเข้าไปในศาลสถานที่ที่เขาคิดว่ามันศักดิ์สิทธิ์


“ไหวแน่ใช่ไหม?” ธนบูรณ์แพทย์ต่างแผนกถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เพราะในระหว่างที่นั่งรถมาเขาสังเกตว่าสีหน้าพระพายดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักจึงลองถามและได้คำตอบกลับมาแค่การพยักหน้าให้เพียงเท่านั้น


      การพักผ่อนน้อยของคนที่เป็นหมอมักเป็นเรื่องที่ธรรมดาพวกเขาเจอกับมันจนเคยชิน หากแต่ที่พระพายเป็นในตอนนี้มันเทียบกันไม่ได้เลย พระพายไม่พัก ทานอาหารน้อยและมีจิตใจที่เป็นกังวล คอยเป็นห่วงอาจารย์หมออยู่ตลอดเวลา จึงทำให้อ่อนแรงไปมาก ทว่าคุณหมอหน้าหวานกลับพยายามฝืนร่างกายตัวเองทำทุกอย่างให้ดูเป็นปกติที่สุดเพื่อไม่ให้ใครต้องเป็นห่วง ...
      

      ไม่นานนักประสิทธิ์กับณิชชาอรก็เดินทางมาถึงพร้อมกับชายคนหนึ่งคะเนจากสายตาอายุน่าจะราวสี่สิบต้นๆ ที่แขนมีชุดคลุมพาดอยู่ทำให้รู้ว่าคือทนาย แพทย์หนุ่มทั้งสองคนยกมือไหว้ทักทายผู้ใหญ่ด้วยความนอบน้อม พระพายสังเกตเห็นสีหน้าของผู้ใหญ่ทั้งสองดูไม่ดีเท่าไหร่นัก พวกเขามองตากันอย่างเข้าใจว่าต่างฝ่ายต่างกับรู้สึกแบบเดียวกัน การขึ้นศาลวันนี้ไม่ได้ทำให้พวกเขากังวลมากมายนัก เพราะมีสิ่งที่เขาห่วงและกังวลกว่านั่นคือภูตะวันที่ยังนอนไม่รู้สึกตัว


“นี่ทนายณภัทร” ประสิทธิ์แนะนำให้หมอหนุ่มรู้จัก คนที่อ่อนกว่าจึงพากันยกมือไหว้อีกครั้งอย่างมีมารยาท ทนายณภัทรจึงรับไหว้พร้อมกับยิ้มให้ด้วยความจริงใจ


“ฝากด้วยนะครับ”


“มันเป็นหน้าที่อยู่แล้วครับ ไม่ต้องห่วง” ทนายณภัทรตอบกลับพระพายด้วยเสียงที่หนักแน่น เพื่อให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าตนจะสามารถทำให้พวกเขาชนะคดีได้ เพราะพยานหลักฐานที่มีก็ค่อนข้างจะแน่นพอ อีกทั้งฝ่ายจำเลยอย่างพฤติพงศ์ก็ได้รับสารภาพในชั้นสอบสวนแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่ที่ศาลว่าเมื่อได้ฟังพยานโจทก์แล้วจะเชื่อหรือไม่ว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงเพื่อความยุติธรรมของทั้งสองฝ่าย


      ก่อนที่พวกเขาจะหันไปมองรถตู้คันหนึ่งที่จอดเทียบบันได้หน้าศาล คนขับรถตู้รีบวิ่งลงมาเปิดประตูเพื่อให้คนที่อยู่ในรถลงมา ทันทีที่เห็นว่าเป็นใครพระพายจึงรีบวิ่งลงบันไดไปรับพวกเขาทันที สองสามีภรรยาเจ้าของรีสอร์ทผู้เสียหายอีกหนึ่งราย พระพายเป็นคนส่งรถตู้ไปรับพวกเขาที่จันทบุรีโดยที่ไม่ได้บอกให้ใครทราบ


“หมอซันเป็นยังไงบ้างหมอพาย หายดีหรือยัง?” ทันทีที่เห็นหน้าเธอก็ถามขึ้นมาอย่างเป็นห่วงและอยากรู้อาการล่าสุดของคุณหมอที่ครอบครัวของเธอยกย่อง พวกเขาทราบข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อวันก่อน พอพระพายติดต่อไปว่าจะให้รถตู้มารับก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก วันนี้ได้เจอกันถึงได้รีบถาม


“ยังไม่ฟื้นเลยครับ ... เดินทางเหนื่อยไหมฮะ?” เขาตอบเพียงแค่นั้นเพราะไม่อยากพูดถึงให้ต้องกังวลและจะทำให้เขาไม่มีสมาธิในการเบิกความต่อศาลในวันนี้ จึงเบี่ยงเบนประเด็นด้วยคำถามใหม่


“ไม่เหนื่อยหรอกจ้ะ จันทบุรีกับกรุงเทพฯใกล้กันแค่นี้”


      ในเวลาไล่เลี่ยกัน คู่แม่ลูกคู่หนึ่งที่พระพายนัดหมายเอาไว้ก็มาถึง พระพายยกมือไหว้สวัสดีด้วยรอยยิ้มบางๆและพาพวกเขามาแนะนำให้ได้รู้จักกันทั้งหมด


“นี่คุณประสิทธิ์ คุณณิชชาอรเจ้าของโรงพยาบาลครับ ส่วนนี่ทนายณภัทรแล้วก็หมอบอสเพื่อนผมเองครับ” พระพายเอ่ยแนะนำทุกคนให้ผู้ที่เพิ่งมาถึงได้รู้จัก พวกเขากล่าวสวัสดีและยิ้มแย้มอย่างคนต่างจังหวัดที่มีแต่ความจริงใจ เช่นเดียวกันสองแม่ลูกที่พุ่มมือไหว้และยิ้มสวยให้กับพวกเขา ทว่าประสิทธิ์กับณิชชาอรทำเพียงยิ้มตอบเล็กน้อยเท่านั้นเพราะยังสงสัยว่าสองคนนี้ที่พระพายพามาคือใคร


“คุณอาครับ นี่ลุงพรกับป้านวล ... คนที่ผมกับอาจารย์ไปตามหาพวกเขาที่จันทบุรี ส่วนนี่คุณพิมประภาและคุณภารดาลูกสาวครับ ... พวกเขาเป็นเหยื่อของพฤติพงศ์เหมือนกันแต่โชคดีที่ไม่หลงกล” สิ้นคำบอกกล่าวของพระพาย อาทั้งสองของภูตะวันก็มองอย่างอึ้งๆไป แววตาของทั้งคู่วูบไหวไม่น้อยก่อนจะพุ่งตัวมาหาอีกฝ่ายพร้อมกล่าวคำขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างรู้สึกผิดอยู่เต็มหัวใจ


“คุณครับ! พอเถอะ พวกเราไม่ได้โกรธพวกคุณเลย” ลุงพรพูดห้ามพลางประคองร่างสองสามีภรรยาให้ยืนอย่างเต็มตัวไม่ต้องขอโทษตนด้วยการคุกเข่าทั้งที่ไม่ใช่ความผิดตัวเองแบบนี้


“ผมเป็นผู้บริหารที่แย่มาก ยกโทษให้พวกเราด้วยนะครับ” ประสิทธ์พูดเสียงสั่นอย่างรู้สึกผิด ณิชชาอรเองก็น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ถึงแม้จะไม่เคยมีลูกแต่ก็เข้าใจถึงความรู้สึกของการสูญเสียเป็นอย่างดีว่ามันทรมานแค่ไหนกว่าจะผ่านเวลานั้นมาได้


“พวกเราจะยกโทษให้คุณได้ยังไงคะ ในเมื่อพวกเราไม่ได้ถือโทษโกรธพวกคุณเลย ... แต่หมอคนนั้นต่างหากที่เขาต้องชดใช้” ป้านวลปาดเช็ดน้ำตาของตัวเองออกพร้อมรอยยิ้มแห่งความประทับใจ ประทับใจหัวใจที่กล้าหาญ ความแสดงการรับผิดชอบ มีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันของสองสามีภรรยาคู่นี้


“อย่าโทษตัวเองเลยนะคะ เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว ต่อจากนี้เรามาสู้เพื่อความถูกต้องกันดีกว่าค่ะ” พิมประภาที่เกือบจะต้องเสียชีวิตของตัวเองไปพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อคลอ หดหู่ไม่น้อยเมื่อได้รู้ว่าคนที่ยืนอยู่ข้างกันได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปโชคดีแค่ไหนที่เธอรอดมาได้จนถึงวันนี้


“ใกล้จะได้เวลาแล้ว เข้าไปข้างในกันดีกว่าครับ” ไม่อยากจะขัดบทสนทนาของพวกเขาเท่าไหร่นัก ทว่านาฬิกาบนข้อมือบอกเวลาว่าใกล้จะต้องเข้าไปข้างในเพื่อพิจารณาคดีกันแล้ว ทนายณภัทรจึงต้องพูดขัดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้


      พวกเขาเดินเข้ามาในห้องพิจารณาคดีอย่างสุภาพและให้ความเคารพต่อสถานที่ พระพายและทนาย ณภัทรเดินแยกไปนั่งฝั่งซ้ายมือของศาลเป็นที่ที่ศาลจัดให้นั่งสำหรับทนายฝั่งโจทก์ ส่วนคนอื่นที่เหลือก็นั่งในที่นั่งของพยาน พระพายมองรอบๆห้องด้วยหัวใจที่เต้นรัว ก่อนสายตาจะไปสะดุดที่สัญลักษณ์รูปตาชั่งหน้าบัลลังก์ ศาลคือที่พึ่งสุดท้ายที่จะนำมาซึ่งความยุติธรรม

      เพียงครู่สั้นๆพฤติพงศ์และศรัทธาผู้ตกเป็นจำเลยตามฟ้องก็ปรากฏตัวพร้อมกับทนายที่ศาลได้จัดหาไว้ให้หนึ่งคนเพื่อความยุติธรรมของทั้งสองฝ่าย พวกเขาตัดสินใจที่จะไม่จ้างทนายส่วนตัวของตัวเอง เพราะเขาเองก็เหนื่อยที่จะต้องสู้แล้วเหมือนกัน หากคดีพลิกศาลไม่เชื่อในหลักฐานก็ถือว่ายังมีความโชคดีในความโชคร้ายของตน แต่ถ้าหากว่าแพ้และต้องจำคุกก็นับว่าใช้กรรมที่ทำไปเพียงไม่กี่ปีก็ได้ออกมา เพราะการสารภาพทำให้โทษลดไปได้เยอะ จำเลยทั้งสองคนเดินไปนั่งฝั่งขวาของศาลซึ่งตรงข้ามกับพระพายพอดิบพอดี หมอสูงวัยที่ตกเป็นจำเลยจึงยิ้มมุมปากเป็นการทักทายที่ไม่ได้เจอกันหลายวัน ซึ่งพระพายทำเพียงมองด้วยสายตานิ่งๆเท่านั้น


      ในห้องเงียบสงบแม้แต่เสียงเครื่องปรับอากาศก็แทบจะไม่ได้ยิน ทำให้ห้องนี้ดูศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาอีกเท่าตัว เป็นเวลาไม่นานที่ผู้พิพากษาและตุลาการเดินออกมาจากด้านหลังพร้อมด้วยเสมียนศาลที่ทำหน้าที่จดบันทึกคำให้การและคำพยาน ทุกคนยืนขึ้นพร้อมกับก้มหัวเล็กน้อยเป็นการแสดงความเคารพก่อนจะนั่งลงเมื่อผู้พิพากษานั่งลงแล้ว


“เริ่มการพิจารณาคดีได้” ผู้พิพากษากล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ดังก้องไปทั้งห้องฟังดูแล้วทรงอำนาจ ฝ่ายพระพายที่เป็นโจทก์เดินขึ้นมายืนบนแท่นพยาน เขาประนมมือขึ้นมองกระดาษที่เป็นคำสาบานก่อนให้การติดอยู่บนแท่น ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยเสียงที่หนักแน่น


“ข้าพเจ้าขอสาบานต่อพระแก้วมรกต เจ้าพ่อหลักเมือง พระสยามเทวาธิราชและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่าข้าพเจ้าจะเบิกความต่อศาลด้วยความสัตย์จริงทั้งสิ้น หากข้าพเจ้านำความเท็จมากล่าวแม้แต่น้อย ขอภยันตรายและภัยพิบัติทั้งปวงจงบังเกิดแก่ข้าพเจ้าและครอบครัวโดยพลัน แต่หากข้าพเจ้ากล่าวความจริงต่อศาลขอให้ข้าพเจ้าและครอบครัวประสบแต่ความสุขความเจริญ”


      พระพายพูดความจริงทั้งหมดตั้งแต่เรื่องในอดีตจนถึงเรื่องปัจจุบันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาที่เขาเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดแต่โชคดีที่ภูตะวันและบอสเข้ามาช่วยไว้ทัน เมื่อทนายถามหาพยานเขาจึงบอกว่าธนบูรณ์หรือบอสรวมถึงประสิทธิ์และณิชชาอรเป็นพยานในวันเกิดเหตุได้

      ส่วนลุงพรและป้านวลสองสามีภรรยาที่สูญเสียลูกชายไปหลายปีก่อนก็ได้เบิกความต่อศาลเช่นเดียวกันถึงวันเกิดเหตุในวันนั้นที่พวกเขายังจำมันได้ดี รวมถึงพิมประภาที่เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดที่สุดเพื่อให้คำพยานเป็นประโยชน์ที่สุด
      พอถึงคราวที่ฝ่ายจำเลยต้องพูดบ้าง ศรัทธาพฤติพงศ์กล่าวคำสาบานตามที่พระพายได้อ่านไปแล้วด้วยน้ำเสียงที่ไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆ ก่อนจะยอมรับสารภาพข้อกล่าวหาตามฟ้องทั้งหมดโดยไม่มีการปฏิเสธหรือกลับคำใดๆทั้งสิ้น ศาลจึงขอพิจารณาคดีก่อนเพื่อใช้เวลาสืบพยานว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงและจะนัดฟังคำพิพากษา ส่วนจำเลยทั้งสองคนตำรวจจะต้องฝากขังที่ศาลเพราะหมดอำนาจในการดูแล


“เดี๋ยวเราพาไปกินข้าว เสร็จแล้วค่อยกลับไปโรงพยาบาล” บอสพูดชวนเมื่อเดินพ้นจากห้องพิจารณาคดีแล้ว เพราะเห็นว่าเพื่อนของตนไม่ได้พักและดูเหมือนว่าคงจะไม่ยอมทานอะไรอีกเช่นเคย


“กลับโรงพยาบาลกันเลยเถอะ เราอยากไปหาอาจารย์”


“แต่ว่า...”


“เราขอร้อง” น้ำเสียงอ่อนระโหยพร้อมกับนัยน์ตาเศร้า ทำให้บอสไม่เซ้าซี้ต่อยอมทำตามที่อีกคนร้องขอ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ให้กับความดื้อรั้นของเพื่อนและเดินนำไป


“หมอพาย”


“ครับ”


“ป้ากับลุงขอไปเยี่ยมหมอซันเขาก่อนกลับได้ไหมจ๊ะ?” แววตาเว้าวอนและแฝงความห่วงใยอยู่ข้างในทำให้พระพายรู้สึกซึ้งใจที่คนที่เพิ่งจะเคยเจอกันเพียงครั้งเดียวกลับแสดงความห่วงใยออกมาจนเขารับรู้ได้ คุณหมอหน้าหวานมองหน้าผู้ใหญ่ของคนรักเป็นเชิงขออนุญาต ณิชชาอรจึงพยักหน้าน้อยๆพร้อมกับรอยยิ้มเป็นคำตอบ


      พวกเขาแยกย้ายกันออกมาจากศาล พิมประภาและลูกสาวตรงกลับบ้านเนื่องจากสามีของเธอยังไม่หายดีนัก ส่วนประสิทธิ์และภรรยาก็แยกไปคุยเรื่องคดีความกับทนาย พระพายให้เพื่อนขับกลับไปที่โรงพยาบาลเพียงคนเดียวเพราะตัวเองขอนั่งรถตู้ไปกับลุงพรและป้านวลไปเยี่ยมภูตะวันที่โรงพยาบาล


      เมื่อถึงโรงพยาบาลแล้วสองสามีภรรยาชาวจันทบุรีมองตัวอาคารของโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกเศร้าใจ หวนนึกถึงวันเก่าที่ได้พูดคุยกับลูกชายครั้งสุดท้ายที่โรงพยาบาลแห่งนี้ พระพายทอดสายตามองพวกเขาอย่างเห็นใจและเข้าใจถึงความรู้สึกของการสูญเสีย ครั้งสุดท้ายที่เขาเจอพ่อก็ในตอนที่ท่านไม่มีลมหายใจแล้ว ...


“คิดถึงลูกมันเนอะแม่” ลุงพรพูดเสียงสั่นฝืนยิ้มออกมาทั้งที่ในใจเจ็บปวดเหลือเกิน หากวันนั้นตนฉุกคิดหรือฉลาดขึ้นกว่านี้เสียหน่อย อาจจะไม่ต้องเสียลูกชายที่หวังจะพึ่งพายามแก่เฒ่าให้กับความโลภและความเห็นแก่ตัวของคนพวกนั้นที่จิตใจต่ำทรามยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน


“อีกหน่อยมันคงไปสบายถ้าพวกนั้นได้รับโทษ เข้าไปเยี่ยมหมอซันกันเถอะพ่อ” ป้านวลหันมายิ้มให้กับคนเป็นหมอที่ยืนอยู่ข้างๆ พระพายระบายยิ้มบางก่อนจะพาทั้งสองคนเดินเข้าตัวอาคารไปอย่างไม่รีบร้อน


      เนื่องจากเป็นเวลาพักกลางวันทำให้ผู้คนเดินกันขวักไขว่ ทั้งที่เห็นจนชินตาแต่วันนี้กลับรู้สึกว่าภาพที่เห็นตรงหน้ามันทำเขาตาลาย พระพายหยีตาเพื่อปรับให้มันชัดขึ้นพลางยืนรอลิฟท์เพื่อขึ้นไปยังชั้นที่คนรักนอนพักรักษาตัว

      ลิฟท์ที่เคยกว้างดูแคบไปถนัดตาเมื่อจำนวนผู้คนหนาแน่น นิ้วเรียวกดเลขชั้นที่ต้องการจะไป ยืนพิงผนังลิฟท์ที่เย็นเฉียบอย่างอ่อนแรง เปลือกตาสีนวลปิดลงช้าๆหลีกหนีความวุ่นวายที่แออัดตรงหน้าเพื่ออยู่ในโลกของตัวเองที่มีภาพของคนรักลอยวนอยู่ในหัว เสียงเตือนชั้นของลิฟท์ดังซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะแต่ละคนต่างมีจุดหมายไม่เหมือนกัน เมื่อคนเก่าออกไปคนใหม่ก็เข้ามา พระพายเริ่มรู้สึกว่าอยู่ดีๆใบหน้าก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาอีกทั้งเหงื่อเม็ดพราวที่ผุดพราย


“หมอไม่สบายหรือเปล่า ดูหน้าซีดลงไปนะ”


“เปล่าครับ ผมแค่ร้อนนิดหน่อย” เขาตอบแค่นั้นทั้งที่เริ่มรู้แก่ใจดีว่าร่างกายของตัวเองตอนนี้เป็นยังไง เครื่องจักรมันยังต้องพักนับประสาอะไรกับมนุษย์อย่างเราๆที่ก็ต้องการเวลาพักเช่นกัน ทว่าพระพายพักไม่ได้เขาไม่อยากพลาดแม้สักวินาทีที่จะเห็นคนรักลืมตาขึ้นมาเพื่อมองหน้าเขาอีกครั้ง โรคเครียดที่คิดว่าเริ่มจะดีขึ้นกลับมาเป็นซ้ำแบบเดิมให้ร่างกายมันแย่ลง


“ถึงแล้วครับ” บอกพร้อมกับจูงมือคนอายุมากกว่าให้เดินตามออกมาจากลิฟท์ ทันทีที่เขาออกมาก็สูดหายใจเข้าปอดลึกๆพลาง
เช็ดเม็ดเหงื่อเล็กๆบนใบหน้าของตนออก ก่อนจะพาสองสามีภรรยาตรงไปยังห้องพักฟื้นปลอดเชื้อที่ภูตะวันนอนอยู่


“ห้องนี้แหละครับ” พระพายพาพวกเขามาหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องพักฟื้นบานใหญ่ ทั้งสามคนยืนมองคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงกลางห้องสีขาวสะอาดผ่านกระจกใสของประตู


“เขาต้องเจ็บเพราะช่วยผม หลังจากที่ผ่าตัดเขาก็หลับไปหนึ่งวันเต็ม” พระพายพูดเสียงเบา ทอดสายตามองคนรักด้วยความเจ็บปวดหากไม่ใช่เพราะเขา ภูตะวันคงไม่ต้องเจ็บแบบนี้เขายังเฝ้าโทษตัวเองไม่หาย


“อย่าโทษตัวเองอย่างนั้นสิหมอ ถ้าเขาไม่รักเขาก็คงไม่ทำหรอก” ลุงพรพูดให้กำลังใจและเตือนสติไม่ให้เฝ้าโทษตัวเองอยู่แบบนี้ เขาไม่ได้รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้เป็นอย่างไร ทว่าการที่ภูตะวันช่วยเหลือพระพายเอาไว้โดยไม่ห่วงว่าตัวเองจะได้รับอันตรายหรือไม่หากว่าคนคนนั้นไม่สำคัญจริงๆก็คงจะไม่มีใครกล้าทำ


“........” คนฟังคลี่ยิ้มตามช้าๆหากแต่ความเศร้าก็ยังคงซ่อนอยู่ในดวงตาคู่สวยคู่นี้ เขามองคนที่นอนอยู่บนเตียงอีกครั้ง อยากให้รีบๆตื่นขึ้นมาเหลือเกิน ตื่นขึ้นมาฟังคำขอโทษและคำขอบคุณจากเขา ความรักของภูตะวันที่มีต่อเขามันช่างยิ่งใหญ่เสียจนเขารู้สึกว่าไม่รู้จะหาอะไรมาตอบแทนได้


“เข้าไปข้างในห้องไหมครับ?”


“ไม่ดีกว่าจ้ะ ให้หมอเขาได้พักผ่อนเถอะ ป้าจะกลับแล้ว ... เชื่อป้านะว่าคุณหมอเขาต้องฟื้นขึ้นมาแน่นอน คนดีพระต้องคุ้มครอง ป้าเอาใจช่วยนะ”


“... ขอบคุณคุณลุงกับคุณป้ามากนะครับ” พระพายยกมือไหว้ขอบคุณผู้ใหญ่ทั้งสองคนอย่างซึ้งใจ คำพูดและแววตาจากสองท่านนี้แสดงออกถึงวามจริงใจที่มีต่อพวกเขา มันประทับใจเหลือเกิน ทำไมคนดีๆถึงได้ถูกคนเลวทำร้ายได้ลงคอ ทำไมเบื้องบนถึงได้ใจร้ายกับพวกเขานัก


      พระพายลงมาส่งลุงพรและป้านวลขึ้นรถตู้กลับจันทบุรีบ้านเกิด พร้อมยังบอกอีกว่าเมื่อศาลนัดฟังคำพิพากษาแล้วตนจะติดต่อกลับไปและหากว่าภูตะวันฟื้นเมื่อไหร่เขาก็จะรีบโทรฯไปบอกทันที ก่อนจะยืนมองรถตู้ที่ค่อยๆขับออกจากโรงพยาบาลจนลับตาไปถึงได้หันหลังกลับเดินเข้ามาในตัวอาคารอีกครั้ง

      ขาเรียวหยุดยืนตรงตู้กดน้ำมุมหนึ่งพลางหยิบแก้วกระดาษมารองน้ำดื่มที่ไหลออกมาอย่างช้าๆจนเกือบล้นแก้ว ล้วงหยิบตลับใส่ยาในกระเป๋าสะพายข้างขึ้นมาและกรอกยาใส่ปากตามด้วยน้ำจนหมดแก้ว ก่อนจะโยนมันทิ้งลงถังขยะข้างๆอย่างไม่ใยดี เขาทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างคนหมดแรง สะบัดศีรษะไปมาไล่ความมึนงงและพิงมันลงกับผนังปูนพร้อมกับหลับตาลงช้าๆ ตอนนี้หัวใจของเขาเต้นแรงและเร็วเหลือเกิน มันเหมือนจะทะลุออกมานอกอกอยู่รอมร่อ ถ้าไม่อยากอาการหนักกว่านี้เห็นทีคงถึงเวลาที่เขาจะต้องพักแล้วจริงๆ ...



Rrrrrrrr Rrrrrrrr!!!
      แต่ยังไม่ทันจะถึงสิบนาทีที่เขานั่งลง สมาร์ทโฟนในกระเป๋ากางเกงก็แผดเสียงดังรบกวน คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างคนโดนขัดใจแต่ก็รีบล้วงมันออกมาเพื่อดูรายชื่อ เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของแผนกไอซียูห้องปลอดเชื้อที่โทรฯเข้าก็กดรับสายด้วยหัวใจที่เต้นรัวแรงกว่าเดิม ถ้าไม่ใช่ว่าภูตะวันฟื้นก็คงจะเป็นภูตะวันทรุดลง มีแค่หนึ่งในสองอย่างเท่านั้นที่เขาจะได้ยินมันต่อจากนี้ ...


“ค ครับ...” เขารับสายด้วยเสียงที่สั่นเครือและตั้งใจฟังจุดประสงค์ของปลายสายที่โทรฯเข้ามาด้วยหัวใจที่เต้นแรง ก่อนจะเบิกตากว้างและกดวางสาย ก่อนจะรีบวิ่งตรงไปที่ลิฟท์ในทันที

      คนใช้ลิฟท์ยังเยอะอยู่เช่นเดิมเพราะยังอยู่ในช่วงเวลาพักซึ่งมันทำให้เขารอไม่ไหว พระพายเลือกที่จะใช้บันไดหนีไฟแทน เขาผลักประตูเข้าไปอย่างรวดเร็วและรีบวิ่งขึ้นบันไดไปแม้ร่างกายจะไม่อำนวย เลขชั้นเปลี่ยนไปเรื่อยๆยิ่งสูงยิ่งทำให้จังหวะการวิ่งผ่อนลง ใบหน้าหวานตอนนี้ดูซีดลงไปมาก เลือดสูบฉีดเร็วขึ้นและการหายใจเปลี่ยนเป็นหอบถี่รัว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ยอมแพ้อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น แค่นิดเดียว ...


      ประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับร่างโปร่งที่อยู่ในชุดปลอดเชื้อ นัยน์ตาสีน้ำตาลวูบไหวไปมาน้ำใสๆเอ่อคลอสองขอบตาก่อนมันจะไหลลงมาอย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยววินาที หัวใจเขาเต้นเร็วเสียจนหายใจจะไม่ทัน ริมฝีปากสีสวยค่อยๆระบายยิ้มอย่างช้าๆ คนบนเตียงกำลังมองมาที่เขามองมาด้วยความรู้สึกเดียวกัน


“พี่ฟื้นแล้ว ... พี่กลับมาหาพายแล้วจริงๆด้วย” พูดจบก็วูบและล้มพับลงไปในทันทีทั้งที่รอยยิ้มยังไม่จางหาย ต่อหน้าแพทย์ พยาบาลและภูตะวันที่ตกใจอย่างที่สุดและด้วยสัญชาติญาณที่อยากจะช่วยคนรักจึงทำให้เขาเด้งตัวขึ้นมา แต่ด้วยร่างกายที่ยังไม่แข็งแรงและสายอะไรต่างๆนาๆที่ยังอยู่มันทำให้เขาทำได้แค่มองร่างของคนรักถูกอุ้มออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกเป็นห่วงจับใจ



*******************


Talk : มาถึงตอนที่ 23 แล้วเด้ออ เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง 55555555
ขอบคุณท่านที่อยู่กันตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้เลยนะ เราเดินทางมาด้วยกันเลยอะ ปริ่ม ><
ขอบคุณที่อ่าน+คอมเม้นท์กันนะคะ ไม่มีอะไรจะเม้าท์เลย ฮ่าๆๆ

อ้อ! เรื่องกฏหมายนี่ไม่เก่งจริงๆค่ะ อาจจะมีอะไรผิดพลาดไปบ้างต้องขออภัย
จริงๆแล้วจะขึ้นศาลนี่จะส่งฟ้องคงต้องใช้เวลาหลายวัน แต่เนื่องจากเป็นนิยายจึงขอรวบรัดทีเดียว ไม่ว่ากันเนอะ อิอิ
ปล.ขอถามหน่อยค่ะ ไม่รู้ถามในนี้ได้มั้ย ได้ไม่ได้ยังไงบอกด้วยนะคะจะแก้ไขค่ะ
อยากทราบว่า ... หากจะรวมเล่มจะมีท่านใดสนใจมั้ยคะ ^^

ขอฝากเพจ Ggbazostory ไปถูกใจกันเยอะๆน้า :D
ส่วนนี่ Twitter : Ggbazo ตามไป follow ได้เลยยย

เจอกันตอนหน้าค่ะ :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-12-2015 22:25:03 โดย G-bazo »

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
หมอซันฟื้นแล้ว แต่หมอพายทรุดแทน

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
เอ้ะะะยังไง ผลัดกันทรุดดดดด
รีบหายป่วยกันน้า จะได้มาหวานกันบ้างง
ส่วนไอ่หมอชั่ว ขังคุกสักห้าสิบปีได้ม้ะ เอาให้แมร่งแก่ตายในคุกยังน้อยไปด้วนซ้ำกับความเลวในชีวิตที่มันทำกับคนอื่น สารเลวววว !!!!

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ฟื้นแล้วๆๆๆๆ หมอซันกับหมอพาย นี่ควรลาพักยาวๆๆ เลยนะ ทรหดอดทนกันสุดๆ เลยเนี่ย โดยเฉพาะหมอซันโดนมีดจิ้มอยู่เรื่อยเลย 555

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พี่ซันฟื้นแล้ว :กอด1: :กอด1:
คนหนึ่งฟื้น คนหนึ่งสลบเลยจะกลายเป็นว่าคนป่วยดูแลคนป่วย

ออฟไลน์ DREAM COME TRUE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ในที่สุดก็มาถึงตอนท้ายละ ใกล้จบแล้วสำหรับเรื่องนี้ สนุกจริงๆครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ gasia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-5
ฮือ จะจบแล้วหรอออออออ
หมอพายทรุดแล้ว โถถถถ พักผ่อนเยอะๆนะคะ
หมอซันตื่นแล้ว เย้

อีตาหมอชั่วนั่นขอให้โดนขังลืมไปเลยค่ะ!

ออฟไลน์ DE SaiKuNee

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-9

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
พี่ซันฟื้นแล้วววว

ออฟไลน์ nuttzier

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หมอพายนะหมอพาย  .......   ม่ายรักตัวเองเล๊ย

ออฟไลน์ ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥

  • เหรียญยังมีสองด้าน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
เป็นกำลังใจให้  :L2:

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
อ่านรวดเดียว ชอบมาก พี่ซันฟื้นพายหลับต่อแทน สงสัยต้องมานอนแอดมิดห้องเดียวกันแน่ :mew4:

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
พี่หมอฟื้นแต่พายดันมาทรุด
รีบหายกันไวไวน่ะ
 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
รอหมอซันหมอพายอยู่นะ
 :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ Panehove

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-0
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน สนุกมากเลยค่ะ ในที่สุดพระเอกก็ฟื้น ดีใจจัง มาต่ออีกนะคะ

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :call: :call: :call: :call:
 :ling1: :ling1: :ling1:
 :katai5: :katai5: :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nuttzier

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หายปายหนายนานมากกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ ice.sp0211

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รออออออออออ

มันสนุกมากๆเลย

ออฟไลน์ WannaSay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รอจนจิลงแดง :z3:

ออฟไลน์ cookie_

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ทำไมพระพายไม่ห่วงตัวเองเลยนะ!!!
น่าตีจริงๆ

ออฟไลน์ cookie_

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คิดถึงแล้วค่าาา  :L2: :L2:

ออฟไลน์ PookPick

  • มองฉัน รักฉันสิ!
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ไม่นะ หมอพาย!!! รอตอนต่อไปค่ะ อย่าเป็นอะไรเลย

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ในที่สุดหมอซันก็ฟื้นแล้ววว

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
ยังรอเสมอ ฮรือออ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด