และแล้วเรื่องเล่าของผมก็ได้เดินทางมาจนถึงโค้งสุดท้ายแล้วนะครับ อีกไม่กี่ตอนก็จะถึงกำหนดที่ผมวางแล้ว(30 ตอน) หวังว่าเพื่อนๆ ยังคงเป็นกำลังใจให้กันต่อไปนะครับ
~~เออกูผิด 2...ตอนที่ 25~~ ช่วงเย็นของวันนั้น...
“ เป็นไรไปทำหน้าเป็นตูดเลยนะมึง ”
“ เปล่า ”
“ แน่ใจ๊ ”
“ ถามอย่างนี้มึงต้องการอะไรจากกูกันแน่ไอ้บึก ”
“ เปล่าก็เห็นมึงนั่งหน้าเป็นตูดเหมือนไม่พอใจอะไรซักอย่าง กูก็เลยแค่อยากจะรู้ก็แค่นั้น ”
“ เฮ้อออ ”
“ แล้วนี่หมอมาดูอาการมึงแล้วใช่ไหม ตกลงเค้าจะให้มึงกลับบ้านได้วันไหนอ่ะ ”
“ กูไม่รู้ ”
“ เอ้า แล้วไมไม่ถามล่ะมึง นี่มึงขาดงานนานๆ เดี๋ยวเค้าก็ไล่มึงออกหรอกไอ้สาด ”
“ มึงล่ะ ไปๆ มาๆ ดูกูไม่เหนื่อยมั่งเหรอไงวะ ”
เนื่องจากที่ผมไม่สบายหนักคราวนี้ผมเลยได้พักงานยาวเลยครับ พี่ฝ่ายบุคคลเค้าก็แสนดีมีให้พนักงานส่งเอกสารแวะมาส่งดอกไม้และใบอนุญาตให้ลาพักงานได้ 10 วันกับผมด้วย แต่ก็ใช่จะได้ลากันง่ายๆ สบายๆ นะครับ เพราะไม่ว่าอย่างไงเค้าก็เอาวันลาพักร้อนผมลงไปบวกกับวันลาป่วยอยู่ดี เหอะๆ
ส่วนไอ้ปลาบึกนะเหรอครับมันก็คงไปทำงานสลับกับการโดดงานเพื่อแวะมาดูผมเป็นระยะๆ เหมือนกลัวว่าผมจะหายออกไปจากโรงพยาบาลซะอย่างนั้น
“ โมล่ะ ”
“ ไปคุมส่งของแทนพ่อมั้งเห็นว่าพ่อบ่นปวดเอว สงสัยใกล้แระ555+ ”
“ สาดมึงอย่าไปแช่งเค้า ”
“ เปล่าเว้ย นี่มึงคิดไปถึงไหนเนี้ย ที่กูบอกว่าใกล้นะกูหมายถึงเค้าใกล้จะยกสมบัติให้ไอ้โมแล้วมั้ง นี่อีกหน่อยพอไอ้โมไม้คุมธุรกิจแทนพ่อมันนะ รับรองมึงต้องเป็นเจ้าสัวน้อยๆ แน่ๆ เลย 555+ ”
“ เชี้ยเรื่องนี้ไม่เคยอยู่ในสมองกูเลยอ่ะ มึงนี่มันคิดเชี้ยๆ ก็เป็นนะไอ้บึก ”
“ โหมึง กูพูดเล่นเองนะ ” ไอ้บึกทำหน้างอก่อนจะเดินไปเปิดตูเย็นค้นหาโน่นนี่กินเหมือนกับที่นี่เป็นบ้านมันเองเลย
“ ให้มันจริงเถอะ นี่ไอ้บึกคนอย่างกูถ้าหวังจะรวยทางรัดแล้วนะ ป่านนี้กูคงยุมึงขึ้นไปขายที่ที่บ้านนอกมึงแล้ว กูว่านะคงได้หลายล้านแน่ๆ เลยวะ 555+ ”
“ ปากดี มึงไม่ต้องมาปากดีกับกูเลย ถ้ามึงอยากให้กูขายที่จริงๆ มึงไปจดทะเบียนกับกูก่อนแล้วกูจะยกให้มึงหมดเลย แต่มีข้อแม้นะ ”
“ ข้อแม้อะไร ”
“ มึงต้องเป็นของกูไปชั่วชีวิต มึงทำได้ไหมล่ะไอ้คนโลเล ” น่านมีประชด
“ วันนี้มึงจะนอนเป็นเพื่อนกูใช่ไหม ”
“ แล้วมึงอยู่คนเดียวได้ไหมล่ะ ”
“ สบาย โธ่..ไม่อยากจะคุย ”
“ ครับบบบบ เชื่อ ขนาดกูจะขี้มึงยังจะให้กูเปิดประตูทิ้งไว้เลย เชื่อเลยครับว่าสบายๆ ”
“ พอแระกูไม่อยากฟัง ”
“ 555+ แทงใจดำมึงล่ะซิ ”
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
“ เดี๋ยวกูไปเปิดเอง ”
“ แหง๋ล่ะไอ้บึก มึงไม่เปิดแล้วจะให้กูที่เป็นคนป่วยวิ่งไปเปิดเองเหรอไง ”
“ เอ๊ะไอ้เชี้ยนี่ เค้าเรียกว่าเป็นคำพูดแบบคนมีมารยาทโว๊ย ”
“ เอ่อๆ มึงรีบๆ ไปเปิดเถอะ ”
“ เอ่อๆ ”
ไอ้บึกเดินไปเปิดประตูก่อนจะเดินยิ้มหน้าระรื่นมาพร้อมกับไอ้หมอโรคจิต...
“ เชิญครับคุณหมอ คนไข้พร้อมให้ตรวจแล้วครับ ”
“ เสือกไม่เข้าเรื่องไอ้บึก ”
“ เอ้าก็หรือไม่จริง ”
“ ไอ้บึก ”
“ เอาล่ะครับ หมอขอเวลาตรวจคนไข้ซักครู่นะครับ รบกวนญาติออกไปรอข้างนอกซักครู่นะครับ ^^ ”
“ โอ๊ย ไม่เป็นปัญหาครับ เชิญเลยครับเชิญเลยเชิญคุณหมอตามสบายเลยครับ งั้นเดี๋ยวผมออกไปรอข้างนอกนะครับ ^^ ”
“ ครับ ^^ ”
แหม่ที่อย่างนี้ละยิ้มให้คนอื่นไปทั่ว ที่กับกูนะหน้านี้เป็นมะเหงกเชี้ยวถ้าไม่อยากรักษากูก็ไม่เห็นต้องมาเสียเวลาเลยนี่หว่าในโรงพยาบาลก็ยังมีหมออีกตั้งเยอะ
“ พยาบาล ”
“ คะคุณหมอ ”
“ วัดไข้เสร็จแล้วเดี๋ยวเอาเครื่องมือหมอไปเก็บได้เลยนะ เดี๋ยวหมอจะออกเวรเลย ”
“ คุณหมอจะไม่กลับไปที่ห้องพักก่อนเหรอคะ ”
“ ไม่ล่ะ เดี่ยวหมอขอคุยกับคนไข้รายนี้แล้วก็ว่าจะกลับบ้านเลย ”
“ ได้ค่ะคุณหมอ ”
หลังจากนั้นผมก็รับการตรวจตามปกติไปเรื่อยเปื่อยแหละครับ จนพยาบาลวัดไข้และดูแลผมเสร็จก็เก็บเครื่องมือกลับไปตามที่ไอ้หมอเถื่อนสั่ง
“ พรุ่งนี้ผมจะกลับบ้าน ” ครั้งนี้ผมเป็นฝ่ายเริ่มพูดคุยก่อน
“ นั้นเป็นคำพูดของหมอว่าจะสั่งให้คุณกลับได้เมื่อไหร่ ”
“ หมายความว่าไง ผมรู้ตัวผมดีว่าอาการผมดีขึ้นมากแล้ว ”
“ ..................... ” ไอ้หมอเถื่อนจ้องหน้าผม
“ อะไร ”
“ คุณคิดว่าคุณเป็นใคร ”
“ ผมรู้ว่าคุณเป็นหมอแล้วผมก็เป็นคนไข้ แต่ผมก็รู้สภาพร่างกายของตัวเองได้ดีว่าเป็นอย่างไง ”
“ กลับไปเกิดขึ้นเป็นหนักขึ้นมาอีกจะทำอย่างไง ตอนนี้คุณแค่อาการทรงตัวยังไม่จัดว่าหายขาด ”
“ ขืนรอให้อาการผมหายขาดผมคงเป็นบ้าเพราะต้องทนอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ นี่ ”
“ งั้นคุณก็ออกไปเดินเล่นรับลมข้างนอกบ้างก็ได้นี่ บอกแฟนคุณพาออกไปสิ ” ไอ้หมอเถื่อนใช้สองมือล้วงเข้าไปที่กระเป๋ากางเกงตัวเอง
“ ไม่รู้อย่างๆ ผมก็จะกลับ ”
“ ผมว่าคุณเจาะน้ำเกลือเพิ่มอีกซักถุงสองถุงก่อนกลับบ้านดีไหม จะได้มีแรงขึ้น ”
“ จะบ้าเหรอ ” ผมรู้ครับว่ามันรู้ว่าผม…กลัวเข็ม
“ โจ๊ก ๆ ขอโทษครับคุณหมอขอเสียมารยาทซักครู่ครับ ” ไอ้ปลาบึกชะโงกหน้าเข้ามาในห้อง
“ เชิญครับ ”
“ มีอะไรวะ ”
“ มึงนอนคนเดียวก่อนได้ไหมวะคืนนี้ ”
“ อ้าวทำไมวะ ” เอาแล้วไงกู
“ โมโทรมาบอกว่าให้ไปเฝ้าบ้านซักวัน เพราะว่าเดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่เค้ามาทำสำรวจอะไรก้ไม่รู้ที่แถวๆ บ้านอ่ะ เฮ้ยมึง...ไหวไหม ”
“ ………… ”
“ แค่คืนเดียวเองสาด เอ่อลืมไปมึงกลัวผีนี่เนอะ ” น่านตอกย้ำปมด้อยกูต่อหน้าต่อตาไอ้หมอเถื่อนนี่อีก
“ หึหึหึ ”
แล้วก็เป็นจริงดังคิดครับ เพราะพอไอ้บึกพูดจบไอ้หมอเถื่อนก็เอามือปิดปากขำกับโรคกลัวผีของผม
“ เอางี้ไหมครับ พอดีผมกำลังจะออกเวร งั้นเดี๋ยวผมมานอนเป็นเพื่อนให้เอาไหมครับ ”
“ ไม่เอาครับ / ไม่เอาครับ ” ผมกับไอ้บึกพูดขึ้นแทบจะพร้อมกัน
“ คือไม่มั้งครับ คุณหมอทำแบบนี้เดี๋ยวคนอื่นจะเอาไปพูดกันได้ อีกอย่างคุณหมอก็เหนื่อยมาทั้งวันแระอย่าให้ไอ้โจ๊กต้องไปเป็นภาระในยามจะพักผ่อนอีกเลยครับ ” ไอ้บึกหาคำแก้ตัวได้อย่างสวยหรู (หรือเปล่า)
“ งั้นก็ตามใจครับ ^^ ”
“ งั้นโจ๊กกูไปก่อนนะ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะมาหาแต่วันเลย ”
“ อืมรีบไปเถอะ กลับดีๆ นะโว๊ย ขับรถระวังๆ ด้วย ”
“ อืม ”
ผมชะเง้อไปโบกมือให้ไอ้ปลาบึกแต่...ไอ้หมาเถื่อนมันแกล้งเขยิบตัวมาบังผม
“ อะไรของหมอเนี้ย หลบไป ” ผมชะเง้อตามหลังไอ้ปลาบึกดูจนกว่าประตูห้องจะปิดลง
“ ไมไม่นั่งรถเข็นลงไปส่งแฟนที่ลานจอดรถซะเลยล่ะ ” มีประชดครับ
“ อ้าวได้เหรอหมอ แล้วก็ไม่บอกกันตั้งแต่แรก ”
“ ไปตอนนี้ก็ยังทันนะครับ ”
“ งั้นหมอช่วยผมหน่อยสิ ” ผมทำท่าจะขยับลงจากเตียง
“ ............ ”
“ มองทำไม ” ไอ้หมอจ้องหน้าผมก่อนจะทำปากเบ้ๆ แล้วตอบว่า
“ ก็แค่อยากมองใครจะทำไม ”
“ เอ้า บ้าปะเนี้ย ”
“ พอเสียงเริ่มมาแรงก็เริ่มมีแล้วสินะครับ ”
“ ก็คนมันหายดีแล้ว ไม่รู้จะมากักตัวกันไว้ทำไม ”
“ ก็อยากเห็นหน้านานๆ ก็แค่นั้น ”
“ เห็นหน้า เห็นหน้าใครเห็นหน้าผมเนี้ยนะ นี่เราไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่กันหมอ ”
“ คุณเคยรู้สึกเหมือนรู้จักใครซักคนทั้งๆ ที่เราไม่เคยเจอกันบ้างไหม ”
“ หมออย่าบอกนะว่า...หมอรู้สึกอย่างนั้นกับคนไข้อย่างผม ”
“ ไม่รู้สิ นี่ผมก็กำลังพยายามหาคำตอบให้กับตัวเองอยู่ ”
“ แล้วไง แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับผม ”
“ ก็ถ้าคุณอยู่ที่นี่นานขึ้นอีกนิด บางทีผมอาจจะหาคำตอบได้ง่ายขึ้นก็ได้ ”
“ ขอโทษนะ หมอเป็นเกย์เหรอครับ ”
“ เปล่าครับ ”
“ หมอมีแฟนเหรอยัง ”
“ มีแล้วครับ ”
“ แล้วแฟนหมอนี่เป็นผู้หญิงแท้ๆ ใช่ไหม ”
“ หึ ถามได้ตรงดี คำตอบคือ...ใช่ครับ ”
“ ผมหมายถึงหญิงแท้ๆ เอาที่คลอดออกมาจากท้องแม่แล้วมีเอ่อ...ไอ้นั่นติดออกมาเลยนะครับ ”
“ หึ (มันอมยิ้มน้อยๆ ส่งมาให้ผม...เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้แกล้งยิ้มมาให้) ครับใช่ ”
“ แล้ว ”
“ ผมไม่มีคำตอบอะไรจะให้คุณอีกแล้ว ถึงทีผมถามคุณคืนบ้าง ”
“ ห๊า มีงี้ด้วย ”
“ ขอแรก แฟนคุณมีกี่คนกันแน่ ”
“ 2 ”
“ จริงเหรอ ”
“ อืม ”
“ อยู่ด้วยกันหรือเปล่าครับ ผมหมายถึงว่าอยู่บ้านเดียวกันหรือเปล่า ”
“ ใช่ ”
“ โห คุณนี่โชคดีชะมัดเลย ผมก็พึ่งเคยเห็นนี่แหละถ้าเป็นคนอื่นบ้านคงแตกแน่ๆ เก่งจังทำได้ไงเนี้ย ”
“ อยากรู้ก็ลองมาเป็นแฟนผมดูดิ ”
“ ......... ”
“ เอ้าถึงกับอึ้งกันเลยเหรอหมอ แน่จริงปากดีให้ตลอดดิ อ้อแล้วเมื่อตอนเข้ามาตรวจครั้งก่อนนะเป็นอะไรไม่พูดไม่จา ทำอย่างกับทะเลาะกับเมียมางั้นแหละ ”
“ โห สังเกตุด้วยเหรอ เค้าว่ากันว่าถ้าคนไม่สนใจกันจริงเค้าจะไม่สังเกตุอะไรของอีกฝ่ายใช่ไหม ”
“ สำคัญตัวผิดไปหรือเปล่าหมอ ”
“ ช่วยไม่ได้ก็คนมันอยากเป็นคนสำคัญนี่ทำไงได้ ”
“ พูดงี้ผมคิดนะ ”
“ ผมก็พูดให้คิดไง ”
“ ไม่ไหวมั้งหมอ ”
“ ลองแล้วเหรอถึงว่าไม่ไหว ”
“ เมียผมดุนะหมอ อีกอย่างผมก็ยังไม่อยากนอกใจเมียหรือว่ามีเมียเพิ่มขึ้นอีกคนหรอกนะ แค่นี้ก็จะตายอยู่แล้ว ”
“ หึหึ ”
“ ขำไร ”
“ ผมก็ไม่ได้สนใจจะเป็นเมียน้อยเมียเก็บใครซักหน่อย ”
“ อ้าวแล้วที่บอกว่าอยากเป็นคนสำคัญมันหมายความว่าไงอ่ะหมอ ”
“ ก็แค่อยากเป็นมากกว่านั้น ”
“ เป็นมากกว่านั้น เป็นอะไรของหมอผมไม่เข้าใจ ”
“ ไว้เดี๋ยวคุณก็รู้เอง ว่าแต่หิวหรอยังเดี๋ยวผมหาอะไรให้ทาน ”
“ ไม่ หมอพูดมาก่อนว่าอะไรที่เดี๋ยวผมก็จะรู้เอง ”
“ อย่าดื้อได้ไหม ”
“ นี่อย่ามาพูดอะไรเลี่ยนๆ แถวนี้ได้ไหมเดี๋ยวผมก็อ้วกแตกกันพอดี ”
“ หึหึหึ ครับๆ แล้วแต่จะบัญชา ”
ไม่จริงใช่ไหมครับ ผมฝันไปใช่ไหมครับเพื่อนๆ