{ Yaoi-Drama } #หนึ่งเซนติเมตรต่อความรู้สึก updated 02/02/2019 (จบแล้ว)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { Yaoi-Drama } #หนึ่งเซนติเมตรต่อความรู้สึก updated 02/02/2019 (จบแล้ว)  (อ่าน 19426 ครั้ง)

ออฟไลน์ _MindSky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
Last Centimeters. “Memorable” (Special)









       ‘ถ้าเกิดวันนึง…เตียงๆนี้ไม่มีชยาอยู่แล้ว’



     ‘กวินทร์…ช่วยอยู่ต่อไปอย่างมีความสุขได้ไหม..’












       ..มีคนเคยบอกกับผมว่า ‘เวลา’ เป็นสิ่งที่โหดร้าย การทำงานของมันจะพัดพาเอาทุกสิ่งทุกอย่างไป ..ผมไม่เคยปักใจเชื่อสิ่งที่คนๆนั้นบอกเลย จนกระทั่งวันนี้…ผมได้รู้ซึ้งแล้วว่า ‘เวลา’ นั้นโหดร้ายมากกว่าที่ใครคนนั้นเคยพูดไว้เสียอีก



       ตอนนี้พึ่งจะเก้าโมงกว่าๆ ท้องฟ้าข้างบนก็สว่างสดใสมีสีครามดูๆแล้วก็ควรจะสดชื่น แต่ทำไมผมถึงไม่รู้สึกแบบนั้นเลย ..ทำไมผมถึงสลัดใบหน้าหวานของชยาออกไปจากหัวไม่ได้เลย…

       ผมก้มมองกระดาษแข็งๆสองใบโง่ๆที่อยู่ในมือ บนกระดาษมีตัวอักษรทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มีตัวเลขบอกกำหนดเวลาที่จะต้องใช้มันซึ่งก็คือตอนบ่ายของวันนี้ ..ใช่แล้วครับ มันคือตั๋วเครื่องบิน

       ตั๋วเครื่องบินที่ระบุที่หมายว่าจะไปภูเก็ต จำนวนสองใบ ซึ่งผมซื้อจองเอาไว้ตั้งแต่สามสี่วันก่อน จำได้ดีเลยว่าความรู้สึกตอนที่ตั๋วสองใบนี้มาอยู่ในมือผมรู้สึกดีแค่ไหน ในหัวจินตนาการไปแล้วว่าพอไปถึงนู่นแล้วจะทำอะไรบ้าง ..เช็คอินโรงแรม ..ออกไปหาอะไรกินกับชยา ..ไปทะเล อาจจะเดินเล่นกันเลียบแนวชายหาดพร้อมกับพูดคุยเรื่องราวสัพเพเหระ พอท้องฟ้าเริ่มทอแสงสีส้มออกมาก็ไปหามุมสงบๆแล้วนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน ..ชยาซบลงที่ไหล่ผม ..เกลียวคลื่นน้อยๆสาดซัดเอื่อยๆถูกปลายเท้าของพวกเรา และหลังจากพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว ผมมั่นใจเลยว่าชยาจะต้องบ่นว่าหิวแน่ๆ เพราะงั้นก็เลยวางแพลนไว้ว่าจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพาคุณเขาไปดินเนอร์ด้วยกันที่ร้านอาหารที่ไหนซักแห่ง

       แต่ว่า..ฮ่าๆ มันคง..ไม่เกิดขึ้นแล้วล่ะ



       รวมถึงตั๋วสองใบนี้ ผมก็คงไม่ได้ใช้มันแล้วเช่นกัน

















       สิ่งที่ผมทำได้ก็คงจะมีแค่ก้มมองที่ตั๋วใบเดิม นั่งอยู่ที่โซฟาตัวเดิมที่ผมกับชยาเคยใช้มันดู The Notebook ด้วยกันด้วยความรู้สึกที่ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าผมรู้สึก…

       คิดถึงคุณจังเลยครับ..ชยา

       ผมคิดถึงคุณ..



   



       เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่เป็นผมที่เป็นคนจากไป...ทำไมถึงเป็นชยา ทั้งๆที่เขาไม่ได้ทำผิดอะไรเลย คนที่ผิดจริงๆและเป็นต้นเหตุของทุกสิ่งทุกอย่างก็คือผม ผมทั้งนั้น ผมคนเดียวเลย …ทำไมถึงไม่เป็นผมที่ต้องถูกทำร้าย …ทำไมถึงไม่เป็นผมที่ต้องจากไป

       แต่ตอนนี้ผมก็ได้รู้แล้วล่ะว่าทำไม สิ่งที่ผมได้รับถ้าพระเจ้ายังคงเฝ้ามองอยู่ก็คงแอบยิ้มเยาะอยู่ในใจ ..เพราะการมีชีวิตอยู่ในขณะที่คนที่เรารักที่สุดในชีวิตจากไปแล้ว มันเจ็บปวด และทรมานยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น

       ..ไม่ว่าจะมองไปทางไหนหรือคิดจะทำอะไร ทุกๆตารางเซนติเมตรในห้องนี้ก็มีแต่กลิ่นอายของชยา ..รูปถ่ายใบเก่า ..แปรงสีฟันของเขา ..เสื้อผ้าของเขา ทุกๆอย่างที่เราเคยใช้ร่วมกัน  เตียงนอนที่ผมกับเขาเคยมอบไออุ่นให้กัน ตอนนี้ก็มีแค่ผมกับพื้นที่อีกครึ่งเตียงที่มันว่างเปล่า..

       สิ่งที่ชยาทิ้งไว้ให้ผมมีเพียงแค่ความทรงจำอันแสนหวานที่ผมไม่มีทางลืมมันได้ลง



       ..น้ำตาเม็ดแล้วเม็ดเล่าไหลลงพาดผ่านสองข้างแก้มของผมโดยไม่อาจกลั้นไว้ได้อีก ผมปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายฟ้าอายดิน ร้องหนักจนร่างทั้งร่างไหลลงไปกองอยู่ที่พื้นห้อง ถึงจะพยายามข่มตาให้หลับ พยายามเอาตัวเองหลบหนีไปจากความโศกเศร้าแต่ก็เปล่าประโยชน์

       ..ผมพยายามมาแล้วทั้งหมด พยายามที่จะหัวเราะ พยายามที่จะยิ้ม ..แต่ทุกๆรอยยิ้มของผมมันก็แทบจะมองไม่เห็นเลย เม็ดน้ำตาโง่ๆนี่มันบดบังไปเสียหมด

       ..ผมไม่อยากอยู่แล้ว ..ไม่อยากทนอยู่กับความเจ็บปวดนี้อีกต่อไปแล้ว



       พอจะเป็นไปได้ไหมว่าที่ผ่านมาทั้งหมด ทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นแค่ความฝัน ..จะเป็นไปได้ไหมที่ผมแค่ฝันไปเท่านั้น ผมแค่..ฝัน



 















       เวลาผ่านไปจนท้องฟ้าข้างนอกเริ่มเป็นสีทะมึนไร้แสงสว่าง ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้งในความมืด ใช้เวลาอยู่ชั่วขณะสำหรับการปรับสายตาให้เข้ากับแสง ผมกระพริบตาอยู่หลายครั้ง ก่อนจะจ้องมองไปบนเพดานอย่างไร้จุดหมายเช่นเคยเมื่อรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ใช่ความฝัน ผมพยายามใช้แขนข้างนึงเพื่อพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งแต่กว่าจะทำได้ก็ยากลำบาก ไม่รู้เหมือนกันว่าเรี่ยวแรงของผมมันหายไปไหนหมด รู้แค่ว่าตัวมันเบาๆเหมือนไร้น้ำหนัก โลกทั้งใบที่เห็นดูโคลงเคลงไม่สมดุลกันเลยซักนิด แต่ก็..ช่างเถอะ คงจะดีแล้วแหละ เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆอีกซักวันสองวันผมจะได้ตามชยาไปซักที

       ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะพาสารร่างของตัวเองมาหยุดอยู่ที่โซนครัว สายตามองหาอะไรที่พอจะยัดลงท้องเพื่อประทังชีวิตไปได้บ้าง แต่ผมกลับไม่ได้สนใจสิ่งที่พอจะเป็นอาหารเลยเมื่อสายตาไปสะดุดเข้ากับแผ่นโน้ตสีส้มที่ติดอยู่บนตู้เย็น

       ผมหยิบมันขึ้นมาอ่านในระดับสายตา และทันทีที่สมองประมวลผมตัวอักษรที่ผมเห็นเป็นคำๆได้สำเร็จเม็ดน้ำตาก็รื้นเอ่อขึ้นมาอีกครั้ง

       …ทำไมก่อนหน้านี้ผมถึงไม่นึกสนใจความเป็นห่วงเป็นใยเล็กๆน้อยๆของชยาเลย ..ทำไมผมถึงทิ้งขว้างมันไปราวกับมันเป็นสิ่งไร้ค่า..



       ‘กวินทร์ครับ ข้างในมีของโปรดของคุณอยู่ ถ้าตื่นแล้วเอามาเวฟกินได้เลยนะครับ กินข้าวให้ตรงเวลาด้วย :P



       ..ทำไมผมถึงพึ่งมาเห็นค่าเอาในวันที่ไม่มีเขาอยู่บนโลกนี้แล้วแบบนี้…



       น้ำตาเม็ดหนึ่งไหลพาดผ่านข้างแก้มร่วงลงสู่พื้นอย่างห้ามไม่ได้ มือข้างนึงนำกระดาษไปนั้นมาแนบอก ก่อนจะใช้แขนทั้งสองกอดไออุ่นจากความห่วงใยของชยาผ่านกระดาษใบนั้นอย่างหวงแหน

       “ขอโทษนะชยา.. กวินทร์ขอโทษ..” คำขอโทษอันไร้ประโยชน์ถูกพูดออกไปซ้ำๆโดยที่ไม่มีใครรับฟัง



       …ขอโทษสำหรับทุกๆอย่าง..





       ขอโทษที่ผม…ทำแบบนี้















       ฉึก!

       “…” เรียวมีดปอกผลไม้แหลมๆถูกผมกดมันลงที่ข้อมือข้างขวา ของเหลวสีแดงสดซึมออกมาก่อนจะไหลหยดลงที่พื้น ผมกัดฟันแน่นเพื่อระบายความเจ็บปวดที่กำลังรู้สึกก่อนจะทรุดตัวลงตรงนั้นเมื่อเรียวขาทั้งสองไม่มีแรงพอที่จะรับน้ำหนักใดๆได้อีก เลือดยังคงไหลออกมาจากรอยแผลที่ข้อมือไม่หยุดจนเสื้อที่ใส่อยู่เปื้อนเป็นวงกว้าง

       สายตาของผมมองที่ข้อมือตัวเองนิ่งๆอย่างไม่รู้สึกนึกกลัวอะไร ในหัวขาวโพลน คิดแค่เพียงว่าอีกไม่นานผมก็จะได้ตามชยาไปแล้ว จริงๆผมรู้ตัวนะว่าตัวเองกำลังทำอะไร ผมมีสติ รับรู้ดีทุกอย่าง รู้ด้วยว่าสิ่งที่ผมทำมันไม่ได้ทำให้ผมได้ไปเจอชยาอย่างที่คิด แถมยังเป็นการกระทำที่ไร้ค่าสุดๆ



       คงเพราะ..ผมเหนื่อยแล้วล่ะมั้ง

       ..เหนื่อยที่จะทำเป็นเข้มแข็ง เหนื่อยที่จะแบกรับเรื่องราวทั้งหมดนี่ไว้คนเดียว หรือไม่บางทีผมก็อาจจะแค่ขี้ขลาดเกินไปที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปพร้อมกับตราบาปจากสิ่งที่ผมทำทุกอย่าง ในเมื่อมีชีวิตอยู่ผมก็ไม่ได้ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ไม่ได้ทำให้ชยากลับมามีชีวิตได้ เพราะงั้นก็สมควรแล้วแหละที่ผมจะหายไปซะ

       ..อย่างน้อยๆเลยก็เพื่อชดใช้กับสิ่งที่ผมเคยกระทำ   



       “..อึก..” ความเจ็บปวดเริ่มหนักหน่วงขึ้นจนยากที่ผมจะทนไหว มือขวาที่ถูกกรีดสีเริ่มซีดเซียว ภาพที่เห็นเบื้องหน้าสลัวเบลอจนจับจุดไม่ได้อีกต่อไปว่าอะไรเป็นอะไร เช่นเดียวกันกับสติสัมปชัญญะที่เลือนลางลงไปทุกขณะ แต่ทว่าก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบนั้นภาพใบหน้าหวานที่แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มของใครคนหนึ่งก็ปรากฎขึ้นมาในหัวพร้อมกับน้ำเสียงนุ่มๆที่ดังเข้ามาในโสตประสาท



       ‘คุณรู้มั้ย…ผมมีความสุขมากๆเลยนะที่ได้อยู่เคียงข้างคุณ’



       ‘เพราะฉะนั้นแล้ว…คุณช่วยมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ไหมครับ ถือว่า..ทำเพื่อผม’



       ‘อยู่ต่อไปนะครับกวินทร์’
























       ปัง!

       เสียงเปิดประตูดังขึ้นกระตุกทุกระบบของร่างกายให้กลับมาดิ้นรนทำงานต่ออีกครั้งหนึ่ง ใครคนหนึ่งตะโกนเรียกผมด้วยน้ำเสียงร้อนรน ก่อนจะพุ่งตัวมาหาผมอย่างเร็วรี่เมื่อหันมาทางห้องครัว

       “ไอ้เชี่ย มึงทำอะไรของมึงเนี่ย!” ไอ้อาร์ตนั่นเอง สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย เดาว่าตอนนี้คงจะเป็นห่วงผมแน่ๆ อยากตอบมันไปเหมือนกันแต่รู้ตัวอีกทีเสียงที่พยายามเปล่งออกไปก็ไม่มีเสียแล้ว

       “กวินทร์ กูรู้ว่ามึงกำลังรู้สึกแย่แค่ไหน แต่มึงไม่ควรทำแบบนี้เลยเว้ย..” อ่า..ผมรู้ ผมรู้อยู่แล้วว่าไม่ควรทำ แต่ผมไม่ไหวแล้ว..ไม่อยากอยู่อีกต่อไปแล้ว..

       “ก..กู เหนื่อย..” ผมพูดออกไปเสียงเบาหวิว

       “…ถ้ามึงได้อ่านสมุดโน้ตเล่มนี้มึงจะไม่มีทางทำแบบนี้เลยกวินทร์” ไอ้อาร์ตชูสมุดโน้ตเล่มเก่าเล่มเดิมขึ้นมาในมือ

       “…”

       “ถ้ามึงได้รู้ว่าชยารักมึงขนาดไหน มึงจะไม่มีทางทิ้งขว้างชีวิตตัวเองแบบนี้!”

       “…”

       “ไปโรงพยาบาลกับกูเดี๋ยวนี้!” ผม..พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ทำหน้าเหลอหลาน้ำตาอาบสองแก้มอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยิน ความรู้สึกผิดถาโถมเข้าใส่อีกครั้งสำหรับการกระทำโง่ๆที่ผมพึ่งทำลงไป 



       ไม่นานนักเจ้าตัวก็พาผมมาจนถึงมือหมอ ใช้เวลาทำการรักษาอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงผลสรุปที่ได้ก็ออกมา ก็คือว่าผมต้องแอดมิตอยู่ที่นี่เพราะต้องให้เลือด และกลัวว่าถ้ากลับไปผมจะเป็นลม เพราะงั้นตอนนี้สารร่างของผมจึงอยู่ที่เตียงผู้ป่วยพร้อมด้วยสายที่โยงมาจากถุงเลือด ข้างๆเตียงมีไอ้อาร์ตนั่งอยู่ สายตาที่มันมองมาทางผมนี่เหมือนพร้อมจะกินเลือดกินเนื้อกันอยู่ตลอดเวลา

       “กวินทร์”

       “…” ผมพยักหน้าตอบรับ หันไปตามเสียงเรียกพลางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอไปอย่างหวาดๆ

       “ก…กูขอโทษว่ะ” แต่ทว่าเจ้าตัวกลับไม่ได้ดุด่ากันอย่างที่ผมคิด มันกลับขอโทษ..ขอโทษที่ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าขอโทษเรื่องอะไร “ขอโทษที่ไม่ได้ไปอยู่เป็นเพื่อนมึงทั้งๆที่รู้ว่ามึงต้องเผชิญอยู่กับเรื่องนี้ ขอโทษที่ปล่อยให้มึงอยู่คนเดียว”

       “…”

       “กูรู้ว่ามึงเสียใจขนาดไหนกับเรื่องที่เกิดขึ้น กูรู้ว่ามึงมืดแปดด้านไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อไปยังไง หมดสิ้นทุกอย่าง เหนื่อย เบื่อ อยากหายไป..”

       “…”

       “แต่กวินทร์…มึงก็รู้ว่าชีวิตมึงไม่ได้มีอยู่แค่นั้น อันนี้กูไม่ได้หมายความในแง่ลบอะไรนะเว้ย แต่แค่จะบอกว่ามึงยังมีกู มึงยังมีเพื่อน มึงยังมีพ่อมีแม่ มีสังคม มีอนาคตที่ยังรอมึงอยู่ ..ทุกๆคนเป็นห่วงมึงกันทั้งนั้น”

       “…”

       “ทุกๆคนเขารอวันที่มึงจะกลับไปยิ้ม รอวันที่มึงจะกลับไปหัวเราะได้เหมือนเดิม รอวันที่ไอ้กวินทร์จะกลับไปเป็นไอ้กวินทร์ของพวกกูได้เหมือนเดิม..”

       “…”

       “มีชีวิตอยู่ต่อไปเถอะนะเพื่อน ไม่ต้องเพื่อกูหรือใครทั้งนั้นก็ได้ แต่เพื่อตัวมึงเอง”

       “…” ..บางที ผมอาจจะเผลอมองข้ามตรงนี้ไปจริงๆอย่างที่ไอ้อาร์ตว่า ผมลืมพ่อลืมแม่ ลืมเพื่อน ลืมคนสำคัญของผมทุกคนไปได้ยังไงกัน ทั้งๆที่ทุกๆคนต่างก็กำลังรอให้ผมกลับไปเป็นผมคนเดิมอยู่แท้ๆ..

       “ชยาจะต้องมีความสุขแน่ๆ ถ้ามึงใช้ชีวิตอยู่ต่อไป” นั่นสินะ.. เขาเฝ้าวอนขอผมมาตลอดให้ผมมีชีวิตอยู่ต่อไป “ถือว่าทำเพื่อชยาก็ได้นะเพื่อน”

       “…” ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพียงแต่ก้มมองดูผ้าพันแผลที่พันอยู่ที่มือข้างขวาอยู่อย่างพินิจพิเคราะห์ ..นี่ผมเผลอทำให้ชยาต้องเสียใจอีกแล้วใช่มั้ย



















       ‘ขอแค่คุณมีชีวิตอยู่ต่อไป ผมก็ไม่เสียใจแล้ว’





















       เวลาผ่านไปหลายวันผมจึงได้กลับมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านอีกครั้งหนึ่ง ไอ้อาร์ตดื้อดึงจะอยู่กับผมให้ได้เลยเพราะมันกลัวผมจะเผลอทำอะไรโง่ๆลงไปอีก แต่ว่าผมก็ไล่มันกลับไปแล้วแหละ ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้มันอยู่หรืออะไร แต่ตัวมันเองก็อดหลับอดนอนมาหลายวันแล้วเหมือนกัน เพราะงั้นผมเลยบอกมันไปว่า ‘ก่อนมึงจะมาดูแลกู มึงไปดูแลตัวเองก่อนเถอะครับเพื่อน’ มันเลยยอมกลับ คือตลก

       ส่วนแผลที่ข้อมือข้างขวาตอนนี้ก็ดีขึ้นบ้างแล้วล่ะครับ ไม่มีเลือดซึมออกมาแล้ว แต่ยังเป็นสะเก็ดอยู่ ถ้าเผลอไปโดนอะไรชนเข้านิดๆหน่อยๆก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาจนร้องโอดโอยเลยทีเดียว เพราะงั้นช่วงนี้ผมเลยใช้ชีวิตแบบโคตรระวังตัวเป็นพิเศษเลย

       วันนี้เป็นวันเสาร์ครับ อากาศข้างนอกดูสดใสมากๆ ท้องฟ้าสีครามเบื้องบนโปร่ง มีเมฆก้อนกลมอยู่บ้างประปราย เพราะงั้นผมเลยเลือกที่จะปิดแอร์แล้วเปิดหน้าต่างรับลมธรรมชาติแทน เกลียวม่านไหวสะบัดไปตามแรงลมราวกับกำลังเต้นระบำ ดูๆแล้วก็สบายตาดีเหมือนกัน

       ผมพาตัวเองมานั่งที่โซฟาตัวเดิม ข้างหน้าที่เป็นโต๊ะเตี้ยมีกล่องลังวางอยู่ ซึ่งไอ้อาร์ตมันเอามาให้ผมในวันที่ผมกรีดแขนตัวเองนั่นแหละครับ มันบอกว่าพี่ภูฝากมาให้ วันนั้นจริงๆมันเคาะประตูอยู่นานแต่ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมาเลย ใจมันก็สั่นๆกลัวว่าผมจะทำอะไรไม่ดีลงไปอยู่แล้ว เพราะงั้นมันเลยลงไปหานิติให้เอากุญแจมาเปิดห้องของผม ไอ้อาร์ตบอกว่าวันนั้นชุลมุนกันมากๆ แต่ก็ผ่านมาได้ รวมถึงตัวผมเองด้วยเหมือนกัน จากวันนั้นที่เจ็บปวดทรมานจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อก็ผ่านมันมาได้ด้วยดีจนมาถึงวันนี้

       แต่ก็ใช่ว่าทุกวันนี้ผมจะมีความสุขหรอกนะครับ ตอนนี้ใจนึงก็ยังคิดถึงชยาอยู่ตลอด รู้สึกเศร้าอยู่บ้าง ร้องไห้บ้าง แต่โดยรวมแล้วก็ยังสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อยู่



       “…” ผมหันกลับมาสนใจกล่องลังที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง ขยับมันมาใกล้ๆตัว ก่อนจะใช้มือซ้ายนำสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา

       “…” เดี๋ยว..เดี๋ยวก่อนนะ นี่มัน..ของๆชยาทั้งนั้นเลย.. ทั้งรูปถ่าย ชุดมาสค็อตหมี ป๊อปอัพวันเกิดที่ผมเคยทำให้เขา สมุดโน้ตของเขา และ..กล่องแหวนแต่งงานของเขา..

       ผมหยิบของแต่ละชิ้นออกมาอย่างทะนุถนอม รอยยิ้มเองก็ถูกคลี่ออกมาแต่งแต้มใบหน้าของผม แต่ขณะเดียวกันน้ำตาเม็ดใสก็ทำท่าจะไหลลงมาอีกแล้ว

       กระดาษโน้ตหลายแผ่นร่วงหล่นลงมาเมื่อผมหยิบสมุดโน้ตขึ้นมา ตัวอักษรบนกระดาษแต่ละแผ่นเขียนว่า ‘ขอให้คุณมีความสุขมากๆ’ ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิดมันจะมีช่วงนึงที่ผมมีปัญหากับครอบครัวนิดหน่อย เจ้าตัวเล็กเขาเป็นห่วงเพราะเห็นสีหน้าผมดูเศร้าๆก็เลยเขียนโน้ตนี้ติดอยู่โต๊ะข้างๆอาหารเช้าทุกวันเลย

       โคตรน่ารัก อยากกอดเจ้าของลายมือนี้จังเลยครับ...ฮ่าๆ







       แต่เดี๋ยวนะ.. จำได้ว่าสมุดโน้ตนี่มันไม่เคยมีกระดาษโน้ตแทรกไว้เลยนี่หว่า แล้วทำไมถึงมีกระดาษร่วงลงมาได้…?



       หรือว่า..



       ‘…ถ้ามึงได้อ่านสมุดโน้ตเล่มนี้มึงจะไม่มีทางทำแบบนี้เลยกวินทร์’



       เจ้าตัวเล็กของผม เขาเขียนอะไรเพิ่มเติมลงไปอีก..?






ออฟไลน์ _MindSky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
28 ต.ค

วันนี้คุณบอกว่าจะมาหาผมอยู่กับผมตอนที่ผมฉายแสง แต่ว่าจนแล้วจนรอดผมก็ยังไม่เห็นคุณเลย ตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้ว

จริงๆก็น้อยใจคุณอยู่เหมือนกันแต่ว่าเป็นห่วงคุณมากกว่า กลัวว่าค่ำมืดแบบนี้แล้วคุณจะอันตราย

ตอนนี้ไม่อยากให้คุณมาแล้วล่ะ เป็นห่วงคุณมากๆเลย ขอให้คุณปลอดภัยด้วยเถอะครับ



..สุดท้ายคุณก็มาหากันจนได้ ตกใจมากๆเลยที่เห็นผมคุณแทบจะไม่มีซักเส้น แต่ก็เขินขึ้นมาทันทีเลยพอรู้เหตุผลที่คุณไปตัดผมซะจนเป็นแบบนี้



ขอบคุณนะกวินทร์ ต่อจากนี้ไม่รู้ว่าผมจะอยู่ได้อีกกี่วัน แต่ผมจะอดทน จะอยู่เคียงข้างคุณไปให้ได้นานที่สุด



ไม่ใช่ว่าผมรักคุณมากหรืออะไรหรอก ผมอยากไปภูเก็ตต่างหาก :P





ล้อเล่นนะครับ..









30 ต.ค

วันนี้เหงานิดหน่อย คุณเขามีเรียนตั้งแต่เช้าเลย แถมบอกว่าอาจจะกลับดึกอีก ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยเขียนบันทึกนี้ไว้ละกัน



พยายามกินยาตามที่หมอสั่งทุกอย่าง เอกซเรย์ ทำเคมีบำบัด ทำทุกอย่างเลย หวังว่าซักวันเราจะดีขึ้นนะ ..อยากไปภูเก็ตกับคุณมากๆเลยล่ะ



มีหลายอย่างเลยที่อยากทำร่วมกับคุณถ้าไปที่นั่น ..จริงสิ ดูพระอาทิตย์ตกขอบทะเลด้วยกันดีมั้ยครับ?

ฮ่าๆ แต่เอาจริงๆ ไม่ต้องทำอะไรก็ได้แหละ เพราะแค่มีคุณอยู่ข้างๆ ผมก็มีความสุขแล้ว



วันนี้ก็..ขอให้คุณมีความสุขนะครับ











12 พ.ย

ปวดท้องอีกแล้ว ทำไมกัน ทั้งๆที่พึ่งจะกินยาไปเมื่อกี้เอง ทรมาน.. ทรมานมากๆเลย



พยายามจับปากกาให้นิ่งๆ แต่ทำไมทำไม่ได้ก็ไม่รู้ มือสั่นไปหมดเลย





รู้สึกตอนนี้ผมเหมือนเป็นทรายในนาฬิกาทรายเลย เป็นทรายที่..ค่อยๆร่วงหล่นลงอย่างช้าๆ และตอนนี้ทรายที่เหลืออยู่ข้างบนก็เหลือน้อยเต็มทีแล้ว



แต่ถึงทรายจะหมดไปผมก็ไม่รู้สึกเสียใจหรือเกรงกลัวอะไรหรอก สิ่งที่กังวลที่สุดมันไม่ใช่เรื่องนั้นเลย



แต่เป็นเรื่องของคุณต่างหาก…กวินทร์



..กลัวว่าพอผมไม่อยู่แล้ว คุณจะเอาแต่ร้องไห้ ไม่ยอมออกไปไหน จมจ่อมอยู่แต่กับเรื่องราวของผม กับความทรงจำที่ผมทิ้งไว้ให้คุณ



ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลยครับ



อยากให้คุณมีความสุข ..อยากให้คุณยิ้ม

..ยิ้มเข้าไว้นะครับพี่หมีของผม









16 พ.ย

เจ็บ.. เจ็บมากๆ ทรมานจังเลยครับ ไม่ไหวแล้ว… คิดถึงคุณ คิดถึงคุณมากๆเลยกวินทร์ รีบกลับมาได้ไหม ไม่อยากอยู่คนเดียว.. อยากจับมือคุณ อยากกอดคุณ

ใจสั่นไปหมดเลย กลัวว่าจะไม่ได้เจอหน้าคุณอีก..









17 พ.ย

จริงๆ..ผมพอจะรู้ตัวอยู่แล้วว่าทรายเม็ดสุดท้ายกำลังจะร่วงโรยในอีกไม่นาน



แต่ในใจผมยังไม่อยากจากคุณไปเลย…



..อยากอยู่กับคุณ



..อยากไปดูพระอาทิตย์ตกขอบทะเลกับคุณ



..อยากไปภูเก็ตกับคุณ





กวินทร์.. ชยารักกวินทร์นะ รักมากๆ ..รักที่สุดเลย











กวินทร์ คุณต้องอยู่ต่อไปให้ได้นะ คุณยังมีพ่อ มีแม่ มีเพื่อนอีกมากมายให้กลับไปหา คุณยังต้องเติบโตขึ้นอีกเยอะ ไหนจะอนาคตของคุณอีก อย่าทิ้งมันนะ



มีชีวิตอยู่ต่อไปนะครับ ผมไม่ได้จากคุณไปไหนไกลหรอก ไม่ได้ไปไหนไกลเลย



คุณลองมองขึ้นไปข้างบนดูสิครับ



ผมอยู่บนนั้น …บนท้องฟ้า

และผมก็จะคอยเฝ้ามองคุณอยู่เสมอ



ถ้าวันไหนที่คุณร้องไห้ วันนั้นฝนก็จะตกเพราะผมเองก็ร้องไห้ไปกับคุณ



วันไหนที่คุณมีความสุข อารมณ์ดี วันนั้นท้องฟ้าจะสดใส เพราะผมเองก็จะมีความสุขไปกับคุณเช่นกัน



ถ้าวันไหนที่คุณคิดถึงกัน ผมก็จะให้สายลมเอื่อยๆพัดเข้าไปทักทายคุณ โอบล้อมมอบความร่มรื่นให้คุณหายคิดถึง



และที่สำคัญตัวตนของผมไม่ได้หายไปไหนเลยครับ ผมยังคงอยู่ในที่ที่นึงที่ไม่ได้ไกลจากคุณเลยแม้แต่เซนติเมตรเดียว



ชยายังอยู่ในหัวใจกวินทร์อยู่เสมอ



เห็นมั้ยครับว่าผมไม่ได้จากคุณไปไหนไกลเลย



เพราะฉะนั้นแล้ว…คุณช่วยมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ไหมครับ ถือว่า..ทำเพื่อผม







อยู่ต่อไปนะครับกวินทร์













ขอแค่คุณมีชีวิตอยู่ต่อไป ผมก็ไม่เสียใจแล้ว

























       “…” หยดน้ำตาไหลลงบนกระดาษสีครีมจนหมึกปากกาหลุดเลื่อนออกมา ..เป็นอีกครั้งที่ผมร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วง

        “กวินทร์จะมีชีวิตอยู่ต่อ กวินทร์จะไม่ทำแบบนั้นแล้ว..” ผมกอดสมุดโน้ตเล่มนั้นไว้แนบอกอย่างหวงแหนพร้อมกับเอ่ยออกไปเป็นการสัญญาระหว่างตัวผมเองกับเจ้าของสมุดโน้ตเล่มนี้ 

       

       ‘กวินทร์.. ชยารักกวินทร์นะ รักมากๆ ..รักที่สุดเลย’



       ผมเองก็รักคุณมากๆ รักที่สุดเท่าที่คนๆนึงจะรักใครได้เลย

       และน่าจะรักคุณต่อไปแบบนี้…ตลอดไป



















       ..จากระยะห่างที่ไกลแสนไกลที่เราทั้งสองต่างก็ไม่รู้จักมักคุ้นหน้ากันเลยซักนิด กลับกลายเป็นค่อยๆขยับชิดกันมากขึ้นและมากขึ้น จนเกิดความรู้สึกดีๆขึ้นในใจของเราทั้งสอง ระยะห่างขณะนี้เป็นระยะห่างแห่งการเริ่มต้นความรู้สึกของพวกเราทั้งสอง เราต่างหลงไหลในรอยยิ้ม และทุกๆอากัปกิริยาของกันและกัน

       หลังจากนั้นเราทั้งสองก็เริ่มขยับเข้าหากันอีกทีละนิดๆ จนระยะห่างของเราเหลือเพียงแค่ฟุตเดียว ระยะห่างขณะนั้นเป็นระยะที่พอดีและพอเหมาะที่จะมีความสุข เราไม่ได้ใกล้กันจนเกินไป แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ไกลกันจนเกินไปเช่นกัน เราทั้งสองต่างแชร์เรื่องราวต่างๆให้กันและกัน คุณรับรู้เรื่องราวของผม ผมรับรู้เรื่องราวของคุณ เราแบ่งปันรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ แบ่งปันเรื่องราวไร้สาระ มุขตลก เกมส์ที่กำลังฮิต เพลงที่ชอบ ของโปรด และหนังในดวงใจ ความอบอุ่นใจและความสบายใจที่เกิดขึ้นในตอนนั้นเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นแม่เหล็ก และคอยดึงดูดเราทั้งสองให้เข้าใกล้กันมากขึ้นไปอีก จนระยะห่างของเราเหลือไม่ถึงคืบ

        ระยะห่างตอนนี้จึงทำให้เราทั้งสองต่างได้รู้แล้วว่าสิ่งที่เรากำลังรู้สึกในใจมันคืออะไร



       ‘ผมรักคุณ’

       ใช่แล้ว ‘รัก’ นั่นเองที่เรากำลังรู้สึก

 

       ..แต่..เมื่อมีรักเกิดขึ้นความเจ็บปวดย่อมเกิดขึ้นตามมา จากระยะห่างที่ใกล้ชิดกันไม่ถึงคืบก็กลับกลายเป็นแยกจากออกมาอีกครั้ง ระยะห่างตอนนี้มันไม่ได้ห่างกันไกล แต่มันก็ทำร้ายให้เราทั้งสองต่างเจ็บปวดทรมานกันอย่างแสนสาหัส จากรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ก็เปลี่ยนเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา ..จากความสุขที่เราต่างเคยได้สัมผัสมัน ก็แปรเปลี่ยนเป็นความทุกข์ระทม

       ระยะห่างขณะนี้นั้นบิดเบี้ยวราวกับเกลียวคลื่นพายุลูกใหญ่ที่โหมสาดซัดเข้าชายฝั่ง คลื่นนั้นกลืนกินทุกอย่างจนในหัวใจแทบไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยวความรู้สึกใดๆหลงเหลืออยู่เลย แต่ก็ใช่ว่าพายุนั้นจะคงอยู่ตลอดไปเสียเมื่อไหร่ ..อาจจะใช้เวลานาน แต่สุดท้ายแล้วคลื่นพายุที่เคยสาดซัดก็อ่อนกำลังลงและมลายหายไป หัวใจดวงน้อยๆของเราทั้งสองจึงเริ่มนำทุกๆเศษชิ้นส่วนของความรู้สึกเก่าๆนั้นกลับมาปะติดปะต่อกันอีกครั้ง

       ‘ท้องฟ้าหลังพายุนั้นย่อมสวยงามเสมอ’ ใครคนหนึ่งเคยกล่าวเอาไว้ และมันก็เป็นคำสัตย์จริง เพราะทันทีที่พายุลูกใหญ่ได้มลายหายไป ระยะห่างที่บิดเบี้ยวก็ค่อยๆกลับคืนสู่รูปร่างเดิม และค่อยๆขยับชิดเข้าหากันอีกครั้งหนึ่ง



       …เมื่อเราได้พบใครซักคน และได้สัมผัสกับความรู้สึก ‘รัก’ ก็มักจะเกิดระยะห่างเหล่านี้เกิดขึ้นเสมอ ซึ่งบางครั้งก็อาจจะพบเจอกับเหล่าพายุตัวร้ายที่จะคอยทำลาย ‘รัก’ ให้พังทลายลงด้วย แต่นั่นก็ไม่เสมอไปหรอก ไม่ใช่ว่า ‘รัก’ จะถูกทำลายลงได้ง่ายๆ เพียงแค่เราต่างมั่นคง ช่วยกันปกป้องและป้องกันพายุตัวร้ายนี้ ก็ไม่มีทางไหนเลยที่มันจะทำอะไร ‘รัก’ ได้ แต่ว่า..อย่าลืมไปว่า ‘รัก’ นั้นก็ส่งผลทั้งในแง่ดี และในแง่ลบ เพราะฉนั้นแล้ว เมื่อใดก็ตามที่รู้สึก ‘รัก’ เราก็ต้องมีคำตอบให้กับคำถามนี้



       ‘จงหาระยะห่างที่พอเหมาะแก่การที่จะรักโดยที่ตนเองไม่ต้องเจ็บ’



















       และสำหรับระยะห่างที่พอเหมาะของผม ผมคิดว่าน่าจะเป็นตอนนี้นี่แหละครับ ..ตัวผมที่อยู่ตรงนี้กับคุณท้องฟ้าที่อยู่เบื้องบน เมื่อไหร่ที่คิดถึงกันก็แค่มองขึ้นไป ซึ่งบางครั้งเจ้าตัวเล็กของผมที่อยู่บนฟ้าก็จะส่งยิ้มมาให้ผมด้วยผ่านดวงจันทร์



       ขอบคุณโชคชะตาที่ให้ผมได้รู้จักคุณ



       ผมจะไม่มีวันลืมคุณเลยครับ : )











       

       











       





       



•1 เซนติเมตร/ความรู้สึก•

ออฟไลน์ nonlapan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
อ่านจบแล้วน้ำตาเต็มไปหมด ขอบคุณนะคะที่เขียนผลงานดีๆออกมาให้อ่าน ทุกตัวละครเป็นไปในทางที่ควรจะเป็น  :hao5:

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
 :mew4:  ดูเหมือนทุกคนเขายังไม่รู้ตัวเลยว่าเขาทำอะไรไว้กับใครสักคนบ้าง ตัวเอกของเราเหมือนตายไปกับความมึนงง สับสน ว่าทำไมตัวเองถึงต้องโดนกระทำแบบนั้น  โดยเฉพาะครอบครัว ยิ่งกว่าโดยเฉพาะคือตัวพี่ชายนั่นแหละ

อ่านแล้วเรียกน้ำตาได้ทุกเซนเลย คนเขียนเก่งจัง T^T

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
สำนวนดี
อารมณ์หนักหน่วง
แม้เหตุผลจะแปลก ๆ ไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่
แถมบางจุดไม่เคลียร์อีก

แต่อ่านแล้วอึนมึนกันเลยเชียว

ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ มนุษย์สาววาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ร้องไห้ไปเยอะมากกกกก เสียใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น เสียใจกับทุกๆตัวละคร ทุกคนเจ็บปวดไปหมด

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ร้องไห้หนักมากกก  หน่วงอะ  :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ palipang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :ling1:แววมาม่า



ออฟไลน์ pearlluv

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หน่วงมากกกก น้ำตาไหลพรากกกันเลยทีเดียว เป็นนิยายเรื่องที่ดีมากๆๆเลย ขอบคุณนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่า

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เป็นนิยายที่เขียนสื่อออกมาได้ดีจริง ๆ ว่าปัจจุบันนี้คนเราทำร้ายกันได้มากมายแค่ไหน เพียงเพื่อต้องการระบายความเจ็บช้ำของตัวเองไปให้คนอื่นรับแทน คือ มันใช่..มันจริงดี  o13 

ปมต่าง ๆ อย่างเรื่องพี่ชาย เรื่องถั่วพูยังอ่อนไปนิด คือ ไม่รู้ว่าทำไมพี่ภูเปลี่ยนนิสัยไปแบบฉับพลันขนาดนั้น ถ้าเราเป็นชยาเราก็งงเหมือนกัน อาจข้ามไปเพื่อความกระชับหรืออาจไม่อยากกล่าวถึงมากนอกจากตัวละครเอก แต่ว่าอ่านไปมาก็แอบบรู้สึกสะดุดเล็กน้อยนะคะ

โดยรวมก็เรียกน้ำตาได้ดี โดยเฉพาะความเลวร้ายของกวินทร์และการถาโถมของชะตาชีวิตที่ชยาได้รับ มันบีบหัวใจเหลือเกิน  o13 เยี่ยมค่ะ..สื่อได้ดี..ชอบมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
สงสารชยาทุกเรื่องเลย
แต่เรื่องที่สงสารหนักสุดคงเป็นเรื่องพี่ภูพี่ชายตัวเองนั่นเอง
คือกับแฟนกับเพื่อนมองอีกทีก็คือคนอื่นที่เพิ่งเข้ามาในชีวิต

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เขียนได้หน่วงมาก แต่ไม่เข้าใจอยู่ข้อหนึ่ง ทั้งๆ ที่รู้ตัวแต่ทำไมถึงยอมให้เพื่อนลักหลับล่ะ หรือเราอ่านพลาดอะไรไป มันผิดวิสัยคนทั่วไปที่จะเป็นกันนะ

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
หน่วงมากเลยค่ะ ชยาคือใช้ชีวิตของตัวเองไปเรื่อยๆ ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย แต่เป็นเพราะคนอื่นๆทั้งนั้นที่ลากชยาไปเป็นเหตุผลในการกระทำเลวๆแบบนั้น หลายๆเรื่องก็ไม่ค่อยเมคเซนต์เท่าไรอย่างเรื่องพฤติกรรมพี่ภูที่อยู่ๆก็เปลีายนไปตั้งแต่ชยาหนีออกจากบ้าน หรือเรื่องที่ถั่วพูลักหลับชยา โกรธถั่วพูมากที่เป็นคนขับรถชนชยา นายรักชยาไม่หรอหรอวะ เฮ้ พี่อาร์ตก็แก้แค้นเป็นเด็กๆไปได้  สายฟ้า เธอไม่ควรมายุ่งเรื่องนี้เลย กวินทร์จะลากมาให้ยุ่งไปกันใหญ่ทำไมวะ ดูฟ้าก็ไม่ใช่คนแรงๆร้ายๆเท่าไรเลย
พออ่านจบละอิน อินมากๆ แบบหน่วงจังเลย สงสารชยา ทำไมชีวิตมันแย่ขนาดนี้นะ :กอด1:

ออฟไลน์ Seilong2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
   ชอบวิธีการบรรยาย และเนื้อเรื่องมากเลยค่ะ ทำให้เรารู้สึกเศร้าตามมากๆ ผู้แต่งบรรยายออกมาค่อนข้างดี
แต่ความรูสึกส่วนตัวคือ ไม่อยากให้จบแบบนี้เลยค่ะ มันเศร้าเกินไปสำหรับชยา คนที่เจอแต่เรื่องแย่ๆ อยากให้ชยาความจำเสื่อมแบบลืมกวินทร์ไปเลยได้ยิ่งดี แต่สำหรับกวินทร์ เรามีความรู้สึกว่าสมควรแล้ว ที่กวินทร์ต้องจดจำความรู้สึกนี้ไปตลอดชีวิต
.
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
ถ้าคอมเมนต์ไม่ถูกใจอย่าเคืองกันนะคะ ติดตามผลงานจ้า
ปล.อยากให้รีเมกตอนจบจัง ทำใจไม่ได้สงสารน้องชยา

ออฟไลน์ Mrfoxx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หน่วง darkขั้นสุด ชอบมากๆ

ออฟไลน์ Musashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-13
เสื้อของกวินทร์
     เสื้อสีเหลืองมัสตาร์ดขนาดใหญ่กว่าตัวผม มีรอยสีแดงขุ่น คราบโคลนเปรอะเปื้อนอยู่เต็มไปหมด  มันถูกวางในลิ้นชักใต้เตียง
ออกมาแต่ตัวต้องไปหาซื้อเสื้อผ้าเอาใหม่ แล้วเสื้อกวินทร์มาจากไหน??? รายละเอียดเล็กน้อยบางอย่างถ้าไม่เขียนก็ไม่ทำให้เนื้อเรื่องเสียหาย แต่ถ้าพลาด.....ก็แบบนี้แหละ

ออฟไลน์ Musashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-13
รถคันนั้นไม่เพียงลงมาดูอาการของชยาเลยแม้แต่น้อย มันถอยหลังแล้วขับไปอีกทางทันที
สีแดงแปลว่าลงมาดูนะ ต้องตัดคำว่าเพียงออก

ออฟไลน์ Musashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-13
แม้แต่พี่ชายแท้ๆของผมยังเห็นผมเป็นแค่เกมสนุกๆ เหอะ ตลกดี
อาร์ตเป็นพี่ชายแท้ๆของชยา??? ตั้งแต่เมื่อไหร่???
ถ้าจะหมายถึงภูพี่ชายแท้ที่จะโผล่ในอีก2-3ตอนข้างหน้า ก็ไม่ควรเขียนประโยคนี้ให้สับสนว่าเป็นอาร์ต
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2022 08:08:30 โดย Musashi »

ออฟไลน์ Musashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-13
เพราะงั้นกูไม่มีทางทำร้ายคนที่กูรักหรอก..กวินทร์”

       “…” ผมยืนนิ่งไปชั่วขณะเมื่อรับรู้สิ่งที่คนเจ็บบอก นี่ไอ้พู..ชอบชยา
ตอแหลนะไอ้พู มึงขับรถชนชยานเกือบตาย ไอ้ฝัด

ออฟไลน์ D.ark

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น้ำตาไหล เปียกปอนมาก น้องชยาทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ ฮืออ สงสารน้อง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด