ไม่ได้หมดรัก (วันนี้)แค่(ใจ)หมดแรง Special part 2 [8/8/2015]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่ได้หมดรัก (วันนี้)แค่(ใจ)หมดแรง Special part 2 [8/8/2015]  (อ่าน 8038 ครั้ง)

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-08-2015 19:46:28 โดย leGGyDan »

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
                                        มีใครคนหนึ่งเคยผมบอกว่า เหตุผลที่คนเราออกเดินทางมีด้วยกัน 2 ข้อ คือ
                                                                           ไปเพื่อที่จะได้ ‘เห็น’
                                                                                        และ
                                                                            ไปเพื่อจะได้ ‘ไม่เห็น’


ตอนที่ 1

ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดโอเวอร์โคตตัวยาวสีดำทรุดตัวลงนั่งบนเบาะในรถไฟฟ้าใต้ดินพร้อมกับเหวี่ยงกระเป๋าเป้ลงวางข้างตัว ถึงขนาดของมันจะไม่เล็กแต่ก็จ้อยไปเลยเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่เขาตั้งใจจะมาอาศัยอยู่ในต่างบ้านต่างเมือง ไม่สิ! ถ้าจะพูดให้ถูกคือไม่ได้ตั้งมากกว่า เขาก็แค่รวบเสื้อผ้าบนราวในตู้เสื้อผ้าเท่าที่จะยัดลงเป้คู่ใจได้ คว้ากระเป๋าสตางค์กับพาสปอร์ตแล้วจับรถตรงไปสนามบินสุวรรณภูมิ และหกชั่วโมงต่อมาเขาก็พาตัวเองมายืนอยู่ที่สนามบินที่ถูกยกย่องว่าเป็นท่าอากาศที่มี คุณภาพและบริการยอดเยี่ยมอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 5 ปีซ้อน สนามบินนานาชาติอินชอนของประเทศเกาหลีใต้
   
เขากวาดสายตามองผู้คนที่ยังคราคร่ำแม้ตัวเข็มนาฬิกาจะชี้ไปที่เวลาสี่ทุ่มกว่า ในขณะที่ยังไม่รู้จะไปทางทิศไหนลมหนาวที่พัดผ่านประตูด้านหน้าเข้ามากระทบร่างจนขนแขนลุกชูชัน สัญชาติญาณการเอาตัวรอดก็พาสองขาพุ่งลงบันไดตรงไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเพื่อเข้าเมือง
   
จากสนามบินไปสถานี Seoul Station ซึ่งเป็นศูนย์รวมของสถานีรถไฟฟ้าต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง เหลียวมองไปรอบโบกี้ที่มีคนเบาบาง ร่างโปร่งจึงค่อยเหยียดขาออกเต็มความยาว เอนหลังพิงศีรษะกับกระจก ภาพตรงหน้าพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วจากอุโมงค์มืดทึบค่อยเปลี่ยนเป็นท้องถนนในเลนคู่ขนานเมื่อรถไฟวิ่งออกสู่ด้านบน

ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปนานแล้ว พระจันทร์ลอยอ้อยอิ่งอยู่กลางผืนฟ้าสีหมึกทอดเงาลงบนแม่น้ำฮันอันเป็นแม่น้ำสายหลักที่ตัดผ่านกลางกรุงโซลส่งประกายสีเงินระยิบระยับ มันช่างเหมือนกับแววตาของใครคนหนึ่งไม่มีผิด
   
เปลือกตาค่อยปิดลงช้าๆ เพื่อหนีความทรงจำที่ใจไม่อยากจำ แต่ทันทีแสงระยับตรงหน้าหายไปภาพของเขาคนนั้นกลับชัดเจนอยู่ในความรู้สึก
 
ถ้าจะให้คำจำกัดความระหว่างเขากับ ‘กุมภ์’ อย่าว่าแต่อธิบายเลยเพียงแค่ให้เล่าว่ามันเริ่มตรงไหนเขาก็ขึ้นต้นไม่ถูกแล้ว เพราะวันนั้น มันก็แค่วันธรรมดาๆ วันหนึ่งที่ฟ้าฝนไม่ได้เป็นใจ ไม่มีได้มีเทวาซาตานหรือใครมาชี้นำ ทั้งที่เราแค่ควรจะเดินสวนกันไปทางใครก็ทางมันในอาคารฝั่งผู้โดยสารขาออกของสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ซึ่งเป็นทั้ง ‘จุดเริ่มต้น’ และ ‘จุดหมายปลายทาง’ ของบรรดานักเดินทาง

แต่ไม่รู้อะไรที่มาดลใจให้กุมภ์เอ่ยปากทัก และทำให้ ‘กันย์’ ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหลับแล้วตื่นยากที่สุดคนนี้ยอมลืมตาและหันไปมอง

“จะไปไหนเหรอครับ” ร่างสูงสันทัดในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวกางเกงยีนส์ส่งยิ้มทักทายนัยน์ตาเป็นประกายชะโงกเงื้อมอยู่ตรงหน้า

กันย์หยีตาที่ยังคงง่วงงุนเพื่อปรับโฟกัสดูคนตัวสูงตรงหน้าให้ชัด ป้ายชื่อสีแดงที่คล้องอยู่รอบคอกวัดแกว่งไปมาแต่ยังพออ่านได้ทันว่าผู้ชายคนนี้ชื่อกุมภ์และเป็นมัคคุเทศน์ที่มากับบริษัททัวร์ Happy Seoul

ไม่ใช่ธุระต้องตอบคนแปลกหน้ากันย์จึงยกมือขึ้นกอดอกและพลิกตัวคะแคงข้างบนม้านั่งเพื่อตัดบทสนทนา แต่คนแปลกหน้ากลับทรุดตัวลงนั่งข้างกันพร้อมทั้งพูดต่อ

“มานั่งหลับแบบนี้ระวังจะตกเครื่องนะคุณ” 

“เกาหลี” คนจะนอนตอบทั้งที่ยังหลับตา “ยังมีเวลาอีกสิบห้านาที” หวังว่าคำตอบจะช่วยหยุดคำถามแต่กลับกลายเป็นต่อบทสนทนาให้ยืดยาวออกไปอีก

“บังเอิญจังผมก็กำลังจะไปเหมือนกัน คุณจะไปเที่ยวที่ไหนครับ”

“เปล่า แค่บินไปแล้วก็บินกลับ” น้ำเสียงคนง่วงแสดงถึงความรำคาญใจอย่างไม่คิดจะปิดบัง

“คุณล้อเล่นหรือเปล่า” กุมภ์ร้องเสียงดัง “เกาหลีเป็นเมืองน่าเที่ยวมากนะคุณ สามารถมาได้ทุกฤดู ยิ่งตอนนี้เดือนเมษาเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิซากุระกำลังบานไล่ขึ้นมาจากทางภาคใต้ นี่พยากรณ์บอกว่าพรุ่งนี้ในโซลก็จะบานเต็มที่แล้ว อาทิตย์ก่อนผมเพิ่งพาลูกทัวร์ไปถึงจะยังบานไม่หมดแต่สวยจับใจทีเดียว อย่างน้อยคุณก็น่าออกไปดูสักหน่อยแล้วค่อยบินกลับ ผมรับรองว่าคุณจะหลงมนต์เสน่ห์ของมันจนติดใจต้องมาดูซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างไม่มีวันเบื่อทีเดียว”

“ผมไม่ชอบดอกไม้”

...จะบ้าเรอะ! คิดได้ยังไง มาชวนผู้ชายไปดูดอกไม้...

“งั้นคุณต้องไปลองหมูย่างที่ย่านฮงแด หมูร้อนๆ กับโซจูเย็นๆ เข้ากันสุดๆ ไม่ว่าฤดูไหนก็อร่อยแต่ผมชอบกินฤดูหนาว ได้ผิงไฟไปพลางจิบเบียร์คุยกันไปสนุกอย่าบอกใคร”

“ผมไม่ดื่มแอลกอฮอล์”

“ตกลงคุณไปเกาหลีทำไมเนี่ย” คิ้วหนาขมวดมุ่นกับคนที่ยังคงซุกตัวกับม้านั่ง “นั่งเครื่องบินไปกลับเล่นๆ? ถ้าแค่นั้นงั้นผมแนะนำคุณนั่งการบินไทยหรือโคเรียนแอร์ดีกว่าไหม บริการดี อาหารอร่อยดีกว่ามานั่งเครื่องของสายการบินเล็กๆ อย่าง Sky Oneนี่ ที่นั่งก็แคบ แถมนักบินก็ห่วยแตกอีก คุณรู้ไหมผมบินกับสายการบินนี้มาห้าปีแล้วขับได้น่าปวดหัวมาก นี่ดีนะที่แอร์สวยเลยมีอะไรจรรโลงใจบ้าง”

ถึงตรงนี้เปลือกตาคนง่วงเริ่มกระตุกเบาๆ ก่อนจะหรี่ขึ้นเล็กน้อย

“เครื่องออกดีเลย์ประจำแต่ขับถึงตรงเวลา จนผมชักสงสัยว่าก่อนจะมาเป็นกัปตันเขาต้องเคยขับรลเมลสาย 8 มาก่อนแหงม... ดูสินี่ก็ใกล้เวลาบอร์ดดิ้งพาสแล้วผมยังไม่เห็นหัวนักบินเลย มีแต่แอร์เดินสวนกันขวักไขว่ไม่รู้ไปแอบนอนที่ไหนหรือเปล่า”

ทันทีที่พูดจบแอร์โฮสเตสสาวในชุดกระโปรงสั้นสีน้ำเงินสดใสเหมือนสีท้องฟ้าก็เดินไปที่หน้าประตูทางออกและยกไมค์ประกาศเรียกขึ้นเครื่องโดยเริ่มจากลูกเรือก่อน บรรดาลูกเรือเดินลากกระเป๋าเรียงแถวเข้าไปอย่างเป็นระเบียบ แอร์โฮสเตสสาวผู้ทำหน้าที่ประกาศมองตามหลังลูกเรือคนสุดท้าย คิ้วเรียวขมวดมุ่นเธอวางไมค์ลงพลางกวาดสายตาที่แต่งแต้มสีสันมาอย่างสวยงามมองไปรอบๆ ก่อนจะเดินออกจากเคาน์เตอร์มายังแถวที่ทั้งสองนั่งอยู่

“ประกาศเรียกสองครั้งแล้วยังจะมัวโอ้เอ้อยู่อีก” เสียงหวานที่เคยประกาศออกไมค์เข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “ไม่อย่างนั้นดิฉันทิ้งไว้ที่นี่จริงๆ นะคะ”

“เพิ่งเรียกลูกเรือไม่ใช่เหรอครับ” กุมภ์ออกตกใจเล็กน้อยพร้อมกับหันไปมองลูกทัวร์ของเขาที่บ้างก็นั่งบ้างก็ยืนรอเตรียมไปเข้าแถวก่อนจะหันกลับมามองแอร์โฮสเตสสาว และพบว่าเธอไม่ได้กำลังพูดกับเขาแต่เป็นคนขี้เซาที่นั่งข้างกันต่างหาก

“ครับ” กันย์รับคำพร้อมกับลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจก่อนจะคว้าเสื้อสูทสีน้ำเงินเข้มวางกองไว้บนม้านั่งอีกด้านขึ้นมาสวมทับ

“อ๊ะ!” ไกด์หนุ่มอุทานลั่นพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ปลายแขนเสื้อสูทซึ่งปักดิ้นทองสองเส้นก่อนจะยกเล็งไปที่กลางหน้าผากคนที่กำลังพยายามใช้มือสางผมที่ยุ่งให้เรียบ “คุณ...”

ริมฝีปากกระตุกมุมขึ้นเล็กน้อยคล้ายเป็นรอยยิ้ม “ขอบคุณที่เลือกบินกับ Sky One ผมหวังว่าคุณจะพอใจกับการบริการของเรา” ก่อนจะค้อมศีรษะเล็กน้อยและออกเดินไปยังประตูขึ้นเครื่อง

นั่นคือการพบกันครั้งและทั้งที่ไม่คิดว่าจะได้เจอกันเป็นครั้งที่สองด้วยซ้ำ
แต่การพบกันอีกก็มาถึงเร็วกว่าที่คาดเมื่อ Shuttle bus สำหรับพาลูกเรือไปส่งโรงแรมสำหรับพักรอจอดเทียบอยู่คู่กับรถทัวร์ของ Happy Seoul

ร่างสูงที่ตอนนี้หยิบเอาแจ๊คเก็ตหนังสีดำออกมาสวมทับเสื้อเชิ้ตเพื่อเตรียมรับมือกับอากาศต้นฤดูใบไม้ผลิที่ยังคงหนาวเย็นเย็นยืนพิงประตูรถส่งยิ้มกว้างและโบกมือทักทายราวกับกันย์เป็นหนึ่งในคณะลูกทัวร์ของเขาที่กำลังทยอยกันขึ้นรถ

“ว่าไง” กัปตันหนุ่มทักอย่างเสียไม่ได้พลางถอดเสื้อสูทและส่งกระเป๋าเดินทางให้ผู้ช่วยคนขับช่วยยกขึ้นรถ

“คุณนี่มันร้ายนักนะ หลอกให้ผมด่าอยู่ได้ตั้งนานสองนาน” มัคคุเทศน์หนุ่มกอดอกมองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าเต็มตาเป็นครั้งแรก ใครจะไปคาดคิดว่าไอ้หนุ่มหน้าอ่อนที่นั่งหลับปุ๋ยสบายใจอยู่หน้าเกทจะเป็นคนขับเครื่องบิน

“อ้าว ได้ข่าวทางนี้เป็นคนโดนด่านะแล้วทำไมผมกลายเป็นฝ่ายผิดไปได้ล่ะเนี่ย ผมนอนของผมอยู่ดีๆ คุณน่ะแหละที่มาถึงก็ชวนผมคุยแล้วใส่เอาใส่เอา”

“แล้วใครใช้ให้กัปตันไปนอนตรงนั้นล่ะ”

“ก็แอร์มันเย็นนี่นา” กันย์ตอบหน้าตาเฉย “แล้วการงีบหลับ 10 นาทีก็ช่วยให้สมองปลอดโปร่งด้วย อยู่แต่ในห้องแคบๆ บนความสูงสองหมื่นฟุตนานห้าหกชั่วโมงผมก็เบื่อนะคุณ”

“คุณก็หาอะไรทำแก้เบื่อไปสิ”

“ดีเลย วันหลังผมจะได้ขับเป็นผาดแผลง ตีลังกาเล่นสักสองสามรอบก่อนจะหักหัวดิ่งลงจอดดีไหม” กัปตันหนุ่มบอกพร้อมกับกระพุ่มมือขึ้นข้างหนึ่งทำฉวัดเฉวียนไปในอากาศ

“ไม่ดีๆ” กุมภ์ส่ายหน้าพัลวัน “โอเคผมยอมรับผิดก็ได้ที่ว่าคุณ แต่ยังไงผมก็คิดว่าการบินตีลังกาหรือไปนอนตรงนั้นมันเป็นการพักผ่อนที่ไม่เวิร์ค”

“แล้วอะไรล่ะที่เวิร์ค”

“อยากรู้เหรอ?” คิ้วหนาเลิกขึ้นสูง

แล้วกัปตันหนุ่มที่อยากจะไปอาบน้ำนอนบนเตียงนุ่มๆ ในโรงแรมใจแทบขาดก็ได้มอง Shuttle bus ขับออกไปตาละห้อยขณะถูกลากถูลู่ถูกังไปกับคณะทัวร์เพียงแค่หลุดปากบอกไปว่าเขามีวันหยุดยาว 5 วันก่อนจะบินกลับ

“ไปต้องกลัวน่ากันย์ผมไม่หลอกพาคุณไปขายหรอก”

คนที่ยังไม่ทันได้แนะนำตัวขมวดคิ้ว

“ก็คุณแนะนำตัวตอนประกาศต้อนรับบนเครื่อง” ไกด์หนุ่มบอก “คุณชื่อกันย์เดาได้เลยว่าต้องเกิดเดือนกันยายนใช่ไหม”

ชายหนุ่มเหลือบตามองป้ายชื่อคนช่างพูดพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอก “งั้นผมก็เดาว่าแม่คุณตั้งชื่อนี้ให้เกิดเดือนกุมภาพันธ์ใช่ไหมครับ... คุณกุมภ์”

“แอ๊ดดด” กุมภ์ทำเสียงล้อเลียนพร้อมกับยกสองแขนขึ้นไขว้กันตรงหน้า “ผิด! พ่อผมเป็นคนตั้งต่างหาก”

คนเดาผิดหน้ามุ่ย   

“เดินเร็วๆ สิคุณเดี๋ยวหลง” ไม่พูดเปล่ายังเอื้อมมาคว้ามือดึงให้ออกเดินนำไปด้วยกัน

“แล้วนายจะพาฉันไปไหนเนี่ย ทำไมไม่ขึ้นรถ” กันย์ถามเมื่อถูกพาเดินแยกกลับเข้ามาในอาคารผู้โดยสารและลงบันไดเลื่อนไปชั้นใต้ดินพร้อมกับลูกทัวร์อีกหกคน

“Happy Seoul ให้บริการนำเที่ยวทั้งแบบครบวงจรและแบบ Backpacker” ไกค์หนุ่มอธิบาย “ผมรับผิดชอบอย่างหลังน่ะ ได้นั่งรถเดินเที่ยวเอง แบบไม่โดนจำกัดตามตารางเวลาสบายใจกว่า มันรู้สึกได้ถึง slow life อย่างแท้จริง ค่อยๆ เดินท่องไปในสถานที่ที่เราไม่รู้จัก ปล่อยใจที่สับสนและเหนื่อยล้าไปกับสายลมแล้วเปิดรับความสดชื่นและแรงบันดาลใจใหม่ๆ เข้ามาแทนที่”

“แล้วนี่เราจะไปกันยังไง”

“Sub way รถเมล์แล้วก็เดิน” พูดจบก็มาหยุดยืนหน้าตู้ซื้อตั๋วพอดี เขากวักมือเรียกลูกทัวร์ทั้งหกคนมารวมกลุ่มกันและสอนวิธีซื้อตั๋วแบบ T-money รวมทั้งวิธีการใช้แล้วปล่อยให้แต่ละคนแยกย้ายไปซื้อกันเอง ก่อนจะพาลงบันไดเลื่อนไปอีกชั้นเพื่อขึ้นรถไฟ “โปรแกรมวันนี้คือไปดูพ็อตโกตหรือซากุระเกาหลีที่ริมทะเลสาบซกซน เราจะใช้เวลาที่นั่นกันทั้งวันก่อนจะกลับมาเดินเล่นกินข้าวเย็นย่านฮงแดซึ่งเป็นที่พัก”

“ทำไมมันน้อยจัง ปกติวันหนึ่งมันต้องไปสักสามสี่ที่สิถึงจะคุ้ม”

“นี่คุณไม่ได้ฟังผมพูดเรื่องซึมซับกับ Slow life เลยใช่ไหม”

“ฟังแต่ไม่เข้าใจ” กันย์ไม่ได้ยวนแต่เป็นเรื่องจริง ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนเขาก็อยู่โรงเรียนประจำชินกับการทำอะไรมีแบบแผน จบมาสมัครเป็นนักเรียนการบินและเป็นนักบินชีวิตทุกย่างก้าวยิ่งต้องเดินไปตามตาราง ไปตามขั้นตอนไม่มีการข้าม การที่แอบออกไปงีบในห้องรอขึ้นเครื่องถือว่าเป็นการแหกกฏเพียงอย่างเดียวในชีวิตของเขาก็ว่าได้

“งั้นเดี๋ยวผมจะพาคุณไปทำความเข้าใจเองแต่ก่อนอื่นเราต้องแวะเข้าที่พักเก็บกระเป๋าก่อน”

หลังจากแวะเก็บกระเป๋าที่สถานี Hongik university หรือที่เรียกว่าย่านฮงแดเป็นที่เรียบร้อยพวกเขาก็กลับลงมาขึ้นรถไฟใต้ดินอีกครั้ง

“เราจะขึ้นรถไฟสาย 2 สีเขียว ลงสถานี Jamsil ออกประตู 2 หรือ 3 เดินตรงไปสัก 200 เมตรก็ถึงล่ะไม่ต้องกลัวหลงเพราะเราจะเห็นทิวต้นซากุระเรียงรายเต็มรอบทะเลสาปตั้งแต่อยู่ในสถานีเลย”

จริงอย่างที่กุมภ์ว่าพวกเขาไม่ต้องใช้ความพยายามสักนิดในการตามหาเพราะราวกับสีชมพูของฤดูใบไม้ผลิจะส่งกลิ่นอายมาต้อนรับพวกเขาถึงหน้าประตู ไกด์หนุ่มปล่อยให้ลูกทัวร์แยกย้ายกันไปเดินเที่ยวตามอัธยาศัยในขณะที่เขาเดินลัดเลาะไปตามริมทะเลสาบโดยมีกันย์เดินตามหลังมาเงียบๆ แต่ในความเงียบนั้นเพราะเขากำลังเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปและเซลฟี่กับต้นซากุระที่เพิ่งมาเห็นของจริงเป็นครั้งแรกในชีวิต

“สวยใช่ไหมล่ะ” กุมภ์ถามคนที่ลืมความง่วงและโผไปต้นนั้นทีต้นนี้ที

“อือ” กันย์ยอมรับ ขับเครื่องบินพาคนมาเที่ยวเกาหลีไม่รู้กี่สิบหนแต่ไม่เคยสักครั้งในชีวิตที่เขาจะมาเที่ยวชมสถานที่แบบนี้

“ให้ผมถ่ายรูปให้คุณไหม”

“ไม่เป็นไร ผมว่าผมถ่ายพอแล้วล่ะ” บอกตามตรงพลางเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าและออกเดิน

“เดี๋ยว” มือใหญ่ของอีกคนเอื้อมมาคว้าที่หัวไหล่ “จะรีบจ้ำไปไหนล่ะกันย์ เรามาเที่ยวนะไม่ได้มาแข่งแรลลี่ มีเวลาอยู่ที่นี่ทั้งวันนะ... Slow life ไงจำได้ไหม”

ร่างโปร่งทอดสายตามองไปตามทางเดินรอบทะเลสาบที่สองข้างทางปกคลุมด้วยซุ้มของต้นซากุระ ผู้คนเดินสวนกันขวักไขว่ทั้งมาเดี่ยว มาคู่และมากันเป็นกลุ่มแต่สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันคือรอยยิ้มในหน้าและเสียงหัวเราะ

เขาเหลียวกลับมามองคนที่ยังไม่คลายมือจากหัวไหล่ นัยน์ตาของกุมภ์ไม่ได้มองตรงมาที่เขา มันก็เหมือนกับสายตาของคนอื่นๆ ที่กำลังจับจ้องอยู่ที่กลีบบางสีชมพูแต่ประกายระยิบระยับในนั้นทำให้เขาดูโดดเด่น

กุมภ์ถอนสายตากลับมาเมื่อรู้ว่าถูกมอง ทั้งสองสบตากันอยู่พักหนึ่งโดยไม่พูดอะไรก่อนที่มือใหญ่จะเลื่อนออกจากหัวไหล่เลื่อนไปสัมผัสที่กลางหลังและออกแรงผลักเบาๆ “ไปกันเถอะ”

“ฮัดชิ้ว!” กันย์ใช้หลังมือถูสันจมูกจนแดงก่ำ

“เอานี่ไปใส่สิ” ไม่พูดเปล่ายังถอดเสื้อนอกของตนออกคลุมบ่าให้ “ยิ่งมืดอากาศจะยิ่งหนาว ผมผิดเองแหละที่จู่ๆ ก็ลากคุณมาเลยไม่ได้ให้คุณเอาเสื้อกันหนาวหรือแจ๊คเก็ตมาด้วย”

“แล้วคุณไม่หนาวเหรอ”

“ไม่ล่ะ ผมชินแล้ว”

กันย์กระชับมือที่สาบเสื้อและสอดแขนเข้าไปทีละข้าง เพราะเพิ่งถูกถอดออกมาจากตัวทำให้ไออุ่นจากร่างสูงยังคงติดมากับผืนผ้า ใบหน้าขาวร้อนขึ้นเล็กน้อยเมื่อคิดว่าเหมือนกำลังถูกคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกกันไม่ถึงวันดีกอดทางอ้อมและถึงซากุระจะส่งกลิ่นหอมอ่อนอวลไปในอากาศแต่ราวกับตอนนี้จมูกเขารับสัมผัสแค่กลิ่นน้ำหอมจากแจ๊คเก็ตหนังสีดำที่สวมอยู่เท่านั้น

ทั้งสองเดินไปด้วยกันจนฟ้าเริ่มมืดส่วนใหญ่คนที่พูดเจื้อยแจ้วจะเป็นกุมภ์ที่ทำหน้าที่ไกด์มืออาชีพได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง และเมื่อถึงเวลาต้องแยกจากกันย์ก็ถอดเสื้อส่งคืนให้และนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินกลับไปโรงแรมตามเส้นทางที่กุมภ์บอก

ไม่มีการอำลาอะไรเป็นพิเศษ แค่รอยยิ้มบางตามมารยาทก่อนจะหันหลังให้กันโดยไม่แม้แต่จะแลกเบอร์หรือช่องทางติดต่อใดๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-07-2015 11:10:55 โดย leGGyDan »

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3

กันย์กลับไปใช้ชีวิตเป็นแบบแผนตามปกติโดยลืมไปแล้วว่าครั้งหนึ่งเคยเจอคนชื่อกุมภ์ จนกระทั่งฤดูฝนมาเยือนประเทศเกาหลี
ฝนที่ตกต่อเนื่องติดต่อกันสามวันสามคืนไม่ได้ทำให้พื้นถนนที่วางผังการระบายน้ำมาอย่างดีเฉอะแฉะ อุปสรรคอย่างเดียวจึงมาจากลมที่กรรโชกแรงจนเขาต้องหยุดพักหลายต่อหลายครั้งเพื่อตั้งหลักจับร่มไม่ให้มันหักพับไปเสียก่อน

เด็กมหาวิทยาลัยแต่งตัวอินเทรนด์เดินสวนกันขวักไขว่ โทนสียอดฮิตของเกาหลีหนีไม่พ้นสีทึบทึมเหมือนคืนวันฝนตกอย่างดำ เทา กรมท่าและเขียวขี้ม้า ส่วนใหญ่มาเป็นคู่ทั้งที่อิงแอบกันมาในร่มคันเดียว และซุกหาอุ่นไอใต้เสื้อแจ๊ตเก็ตที่ฝ่ายชายเป็นคนยกขึ้นเหนือศีรษะ

“อืมมม”

กันย์แทบเดินสะดุดเมื่อจู่ๆ คู่รักตรงหน้าหยุดตรงหน้าป้ายรถเมล์ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะกระโดดขึ้นจุ๊บปากฝ่ายชายครั้งหนึ่งเป็นการอำลา

พวงแก้มร้อนผ่าว แม้จะผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายปีซ้ำยังคุ้นชินกับวัฒนธรรมการแสดงความรักของฝั่งตะวันออกเพราะแวะเวียนไปบินอยู่บ่อยๆ แต่กับคนที่นี่ทำยังไงเขาก็ไม่ชินสักที มันไม่ได้ดูดดื่มแต่หอมหวานและละเมียดละไม เพียงแค่ยืนคุยกันในรถไฟฟ้า สายตาที่มองกันราวกับจะกลืนกิน ขนาดคนไม่ตั้งใจจะแอบดูอย่างเขายังอายแทบม้วนหนีไปใต้โบกี้รถไฟ

“เปียกหมดเลย” รำพึงกับตัวเองพลางหุบร่มเก็บเมื่อเข้ามายืนแอบใต้กันสาดหน้าร้านสะดวกซื้อ G25 ซึ่งเปิด 24 ชั่วโมง เพราะมัวแต่เดินเล่นเพลินไปหน่อยจึงทำให้พลาดรถไฟฟ้าเที่ยวสุดท้าย กำลังคิดจะเยี่ยมหน้าออกไปโบกแท๊กซี่กลับโรงแรมเมื่อร่างสูงพุ่งสวนเข้ามายืนข้างกันพร้อมกับถอดเสื้อนอกที่เขาดึงฮู้ดขึ้นคลุมศีรษะออกสะบัด “คุณกุมภ์”

คนถูกเรียกเหลียวมามอง “อ้าว คุณกันย์ มาทำอะไรที่นี่ครับ”

ราวกับช่วงเวลาที่เจอกันเมื่อหลายเดือนก่อนย้อนกลับมาอีกครั้งและนี่ก็เป็นช่วงต่อจากตอนที่กุมภ์พยายามอธิบายเส้นทางนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินกลับโรงแรมให้กันย์ซึ่งได้แต่พยักหน้ารับ เมื่อที่นี่คือย่านร้านค้าหน้า ม.ฮงอิก ที่เพียงแค่เดินผ่านประตู 9 ออกมาจากสถานี Hongik University

ที่ๆ ทั้งสองจากกันเมื่อครั้งก่อน...

“มาทำงาน... แล้วก็มาเที่ยวด้วย”

“อย่าบอกนะว่านี่กำลังยืนงงกลับโรงแรมไม่ถูกน่ะ”

“กลับถูก แต่รถไฟมันหมดแล้วต่างหาก”

ร่างสูงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาเพราะมัวแต่เดินดูอะไรเรื่อยเปื่อยทำให้ตัวเองก็ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน “จะตีหนึ่งแล้วนี่... คุณยังพักโรงแรมเดิมใกล้สนามบินใช่ไหม ไกลเสียด้วยถ้านั่งแท๊กซี่จากนี่ไปไม่ต่ำกว่าห้าหมื่นวอนแถมฝนก็ตกหนักอีก คืนนี้คุณไปพักกับผมก่อนไหมพรุ่งนี้เช้าคุณค่อยกลับ หรือจะเดินเล่นแถวนี้ต่อล่ะผมเดินเป็นเพื่อนได้นะตีห้าสถานีก็เปิดแล้ว”

“คุณพักแถวนี้เหรอ”

ร่างสูงชี้มือไปตามทางเดินข้างหน้าที่ค่อนข้างมืด “เลี้ยวซ้ายตรงแยกข้างหน้า แล้วเลี้ยวขวาเดินเข้าซอยไม่ถึงห้านาทีก็ถึงแล้ว... ผมเพิ่งไปส่งลูกทัวร์ขึ้นเครื่องกลับเมื่อเย็นตอนนี้ผมว่าง”

ริมฝีปากยกมุมคล้ายกับจะยิ้ม กันย์ไม่ตอบรับคำชวนได้แต่ยกร่มขึ้นกาง

แต่คนตัวสูงยังไม่ขยับ

“เดี๋ยวนะ” เขาบอกและผลุบหายเข้าไปในร้าน G25 ทิ้งให้คนรอหน้ามุ่ย

รถแท๊กซี่ขับผ่านมากันย์กำลังจะยกมือขึ้นโบกหนีให้เสียรู้แล้วรู้รอดเมื่อวัตถุอุ่นจัดประทับลงมาที่ข้างแก้ม

“เฮ้ย!” ร้องเสียงหลง ผงะหนีไปเล็กน้อย เขาหันไปทำตาเขียวปัดใส่คนที่ยืนยิ้มเผล่เจ้าของนมกระป๋องร้อน

“นี่ครับจะได้หายหนาว” กุมภ์บอกพร้อมกับส่งให้ด้วยใบหน้ายิ้มแป้น

กันย์รับมาดู เขาอ่านภาษาเกาหลีออกงูๆ ปลาๆ มากจนถึงขั้นง่อย “เอ่อ... มันคือ”

“นมถั่วแระ” กุมภ์แปลให้เสร็จสรรพ

“ไม่เอาอะ ผมไม่ชอบถั่ว นมกล้วยอร่อยกว่า”

“ไม่กินก็ถือไว้จะได้หายหนาว”

ลมฝนพัดกรรโชกมาอีกครั้งโดยไม่ทันตั้งตัว กันย์พยายามบังคับร่มต้านแรงลม แต่ครั้งนี้เขากลับพ่ายแพ้ไม่เป็นท่า ร่มหักพับผิดรูปจนมีทางแก้ทางเดียวคือโยนทิ้งและซื้อใหม่

“เพิ่งซื้อนะเนี่ย” กันย์บ่นอุบพร้อมกับยัดร่มทิ้งลงถังขยะหน้าร้าน ตั้งใจว่าจะเข้าไปซื้อคันใหม่เมื่อจู่ๆ เม็ดฝนก็หยุดกระทบแผ่นหลังแล้วแทนที่ด้วยไออุ่นเมื่อคนตัวสูงถอดเสื้อแจ๊คเก็ตออกแล้วยกขึ้นเหนือศีรษะ

“ไปกันเถอะครับ” กุมภ์ยิ้ม

เขาไม่ตอบแต่ก้าวขาออกเดินเคียงไปตามทาง แม้เสียงฝนสาดจะดังแข่งกับเสียงฟ้าครวญก็ไม่อาจกลบเสียงหัวใจดวงหนึ่งซึ่งกำลังเต้นแรงได้เลย

และทั้งที่ลมฝนยังซัดซาดไม่ขาดสายแต่ความหนาวไม่อาจกร้ำกรายได้อีกต่อไป บางทีอาจเป็นเพราะกระป๋องนมร้อนในมือ หรือบางที...

กันย์เหลียวมองคนข้างกาย

ลมพัดมาอีกครั้ง แต่ภายใต้ร่มเสื้อของคนที่เดินมาด้วยกันเขาก็ยังรู้สึกว่ามันอุ่นเหลือเกิน





“เขาไม่ห้ามเอาคนนอกเข้ามานอนด้วยเหรอ” กันย์นึกขึ้นได้เมื่อมาหยุดยืนหน้าประตู You & I เกสเฮาส์ทาสีขาวสูงสามชั้นบนพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าแคบๆ ขนาดสักสองร้อยตารางเมตร

“ว่าสิ” กุมภ์ตอบอย่างไม่ใส่ใจพลางกดรหัสเปิดประตูและผลักเข้าไปแต่ร่างโปร่งยังคงไม่ขยับ

“ผมว่าผมไปนั่งรอที่ร้านสะดวกซื้อดีกว่า” บอกพลางกลับหลังหันเมื่อมือใหญ่เอื้อมมาคว้าต้นแขนไว้

“เข้ามาเถอะเจ้าของเขาใจดี ไม่ว่าหรอกคุณแค่อย่าเสียงดังรบกวนแขกคนอื่นก็พอ” กุมภ์พูดพร้อมกับดึงร่างโปร่งเข้ามาด้านในแล้วปิดประตู และพาเดินย่องอย่างเงียบเชียบเข้าไปยังห้องด้านในที่สุดทางเดิน “มีเตียงเดียวนอนเบียดๆ กันหน่อยละกัน”

“ไม่เป็นไรหรอก แค่มีที่ให้ซุกตัวอุ่นๆ ก็พอแล้ว”

ร่างสูงเหลียวมามอง นัยน์ตาพราวระยับขึ้นเล็กน้อย “ถ้าคุณต้องการแค่นั้นก็ออกไปยืนรอข้างนอกแล้วให้ผมกอดเฉยๆ ก็พอแล้วมั้ง”

“บ้า!” ตอบได้แค่นั้นเพราะในน้ำเสียงทีเล่นทีจริงแต่กลับจุดรอยยิ้มขึ้นที่มุมปากจนกันย์ต้องเบือนหน้าหนี

“อ้าว ก็ผมเห็นคุณหลับง่าย แค่ม้านั่งตัวเดียวไม่ว่าที่ไหนก็เอนหลังพิงหลับได้แล้ว”

กันย์หันหน้ากับมาพร้อมกับขมวดคิ้ว

“นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเจอคุณที่สนามบิน” กุมภ์บอก “ตั้งแต่ห้าปีที่แล้วตอนผมมาเป็นไกด์ทัวร์ใหม่ๆ ตั้งแต่ผมบินกับ Sky One ครั้งแรก ทุกครั้งที่เจอคุณก็แค่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสีน้ำเงินเข้มซุกตัวหลับอยู่มุมใดมุมหนึ่งเหมือนกับคนรอต่อเครื่องคนอื่นๆ ไม่ได้ดูสะดุดตาอะไรแต่ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่เคยหยุดมองหรือหยุดตั้งคำถามกับตัวเองได้เลยว่าคุณเป็นใคร มาจากไหน มาทำอะไรที่นี่และกำลังจะไปไหน”

“แล้วตอนนี้คุณได้คำตอบหรือยัง”

“ผมรู้ว่าคุณชื่อกันย์ เป็นกัปตัน เส้นทางบินประจำคือไทย-เกาหลี คุณแค่บินมาและกำลังจะบินกลับซึ่งตอนนี้ผมกำลังภาวนาสุดใจขอให้มันเป็นไฟลท์อีกสองวันซึ่งเป็นเที่ยวที่ผมจะบินกลับพอดี”

“เสียใจด้วยนะ” กันย์ตอบ “ผมกลับพรุ่งนี้ไฟลท์สิบโมงเช้า และแปดโมงผมต้องถึงสนามบินไม่อย่างนั้นจะมีผู้โดยสารบางคนบ่นเอาได้”

“งั้นคุณก็รีบนอนได้แล้ว จะได้มีแรงขับเครื่องบินแล้วพรุ่งนี้ผมขออนุญาตไปส่งคุณที่สนามบินนะ”
   
“ตามใจ” กันย์ถอดเสื้อนอกที่เปียกชื้นออกแขวนก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนขอบเตียง “คุณจะนอนข้างนอกหรือข้างใน”
   
“ข้างนอก” กุมภ์ตอบพลางถอดเสื้อของตนออกบ้าง “ผมกลัวคุณตื่นก่อนแล้วหนีไปไม่ปลุกผม”
   
“ต้องปลุกสิ” กันย์หัวเราะในลำคอ “เพราะผมจำทางกลับไปสถานีรถไฟฟ้าไม่ได้แล้ว”
   
ร่างสูงเบียดตัวขึ้นมานั่งข้างกันบนเตียงแล้วซุกตัวเข้าในโปงผ้าห่มที่มีอยู่แค่ผืนเดียว “ขยับไปหน่อยสิคุณ ผมจะตกเตียงแล้วนะ”
   
“นี่ก็ติดกำแพงแล้วเนี่ย” กันย์ล้มตัวลงนอนหันหลังให้กัน เขาขยับตัวเล็กน้อยในผ้าห่มผืนจ้อยเพื่อหนีให้พ้นจากความหนาวแต่แล้วก็พบว่าไม่จำเป็นเลยเพราะแผ่นหลังกว้างที่เบียดเสียดกันอยู่แบ่งปันความร้อนมาจนถึงปลายนิ้ว หัวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อยแต่ก่อนที่สมองจะทันคิดอะไรฟุ้งซ่านเขาก็ผล็อยหลับไปด้วยความง่วงงุน




ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็เห็นคนตัวสูงแต่งตัวพร้อมแล้ว

“คุณไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาซะหน่อยสิจะได้สดชื่น”

เขาพยักหน้าและเดินตาปรือตรงไปห้องน้ำ ยืนตั้งสติอยู่หน้าอ่างอีกอึดใจก่อนจะเปิดก๊อกให้น้ำเย็นไหลผ่านมือสักครู่ปลุกให้ตัวเองค่อยตื่นเต็มตาก่อนจะค่อยๆ วักน้ำขึ้นล้างหน้า

“อ้าวๆ แขนเสื้อเปียกหมดแล้วน่ะ” กุมภ์เดินเข้ามายืนซ้อนข้างหลัง สอดมือผ่านรอบเอวมารั้งชายแขนเสื้อเชิ้ตพับขึ้นมาจนถึงข้อศอกให้

“ไม่เป็นไรหรอก เปียกนิดหน่อยเอง”

“ข้างนอกอากาศเย็น ผมไม่อยากให้กัปตันไม่สบาย” เสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหู เพราะต้องเอื้อมมือมาให้ถึงสุดปลายแขนทำให้ใบหน้าของกุมภ์แทบจะสีกับแก้มเขา

กุมภ์เหลียวมองเจ้าของรอยยิ้มละมุนที่แทบจะวางใบหน้าลงบนไหล่ นัยน์ตาพราวระยับจับจ้องอยู่ที่ข้างแก้มช่างน่าหมั่นไส้จนเขาต้องดีดน้ำในมือใส่หน้าให้ถอยกลับไป





“ขับเครื่องบินกลับดีๆ นะครับ” กุมภ์ยิ้มกว้างพร้อมกับโบกมือลาที่หน้าประตูสนามบิน

ร่างโปร่งทำท่าจะกลับหลังหันแต่แล้วก็เปลี่ยนใจหันกลับมาครึ่งหนึ่ง เขารีรอไม่พูดอะไรอยู่ครู่หนึ่งพร้อมกับเลิกคิ้วเป็นเชิงถามแต่คนตรงหน้าก็ยังส่งยิ้มตอบกลับมาเหมือนเคย เขาจึงต้องเป็นฝ่ายออกปากเสียเองเพราะไม่อยากให้เสียเวลา “มาถึงขั้นนี้แล้ว คุณไม่คิดจะขอเบอร์ผมเหรอ”
   
“คิด” กุมภ์คลี่ยิ้มกว้างขึ้นอีก “แต่กลัวคุณจะไม่ให้เพราะงั้น...” เขาเปิดกระเป๋าและหยิบนามบัตรสีครีมลายโซลทาวเวอร์ออกมาส่งให้ “ถ้ามาโซลแล้วอยากได้คนพาเที่ยวอย่าลืมเรียกใช้บริการผมนะ สำหรับคุณผมพาเที่ยวฟรีไม่คิดเงินแถมบริการที่พักให้ฟรีด้วย”

“ที่พักฟรีด้วยเหรอ” คิ้วหนาเลิกขึ้นสูง

ถึงตอนนี้คนตัวสูงกว่ายิ้มแก้มแทบปริ “ผมยังไม่บอกคุณหรอกเหรอว่า You & I เป็นเกสเฮาส์ของผมเอง”

******************************************** TBC ******************************************

เพราะอากาศมันร้อนเลยเกิดอารมณ์อยาก throwback ไปหาอะไรเย็นๆ
ประกอบกับอยากเขียนแนวรีวิวกลายๆ ปนรักอุ่นๆ ดูบ้าง
นั่งจิ้มคีย์บอร์ดไปมาเลยได้เรื่องนี้มา
เรื่องราวของผู้ชายปลายฝนต้นหนาว กับ ผู้ชายฤดูใบไม้ผลิ
ใครจะมาทำให้หัวใจเหน็บหนาว หรือ ใครจะมาทำให้หัวใจอบอุ่น
มาเดินทางตามหาหัวใจไปด้วยกันนะคะ^^

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เนื้อเรื่องจะเป็นยังไงต่อน้าาา

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
กุมภ์นายทำอะไรให้กันย์หมดแรงหรอ
ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนเริ่มต้นก่อนนะ

เรื่องน่าติดตามดีค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
ตอนที่ 2

นับจากวันนั้นอีกหลายวันด้วยตารางบินที่แน่นเอียดทำให้กันย์ยังไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดจะหยิบเอานามบัตรของกุมภ์ขึ้นมาเมมเบอร์ใส่โทรศัพท์จนกระทั่งลากกระเป๋าลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิของไฟลท์เช้าวันหนึ่ง เขาก็เห็นตัวสูงเดินนำกลุ่มนักเที่ยวลงจากรถบัสตระเตรียมกระเป๋าเพื่อไปเชคอิน เขารีบโบกมือลาเพื่อนร่วมไฟลท์และวิ่งเข้าไปทัก

“กุมภ์” ร้องทักเสียงดังด้วยความดีใจ “เป็นไงบ้าง นี่กำลังจะไปเกาหลีเหรอ”

แต่ร่างสูงหลับเหลียวมองเพียงแค่หางตา “ขอโทษนะครับ พอดีผมกำลังยุ่ง”

พูดเท่านั้นแล้วเดินจากไปราวกับไม่รู้จักกัน กันย์กำหูกระเป๋าลากแน่น ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นบาง ไม่ใช่เรื่องอะไรที่ต้องไปสนใจ ก็แค่คนรู้จักทั้งที่คิดอย่างนั้นพร้อมกับกลับหลังหันแต่กลับล้วงโทรศัพท์ออกมากดเบอร์โทรหาคนที่เขาจำตัวเลขได้ขึ้นใจตั้งแต่วันที่ได้รับนามบัตรมา

เสียงรอสายดังอยู่สองสามครั้งปลายสายก็กดรับ

[สวัสดีครับ]

“กุมภ์”

[ขอโทษครับไม่ทราบว่านั่นใคร]

“กันย์ไง นายจำฉันไม่ได้เหรอ”

ปลายสายเงียบไปอึดใจ [จำได้ครับ]

“แล้วทำไมถึงเดินหนีฉันไปเฉยๆ แบบนั้น”

[เปล่า ผมแค่กำลังรีบแค่นี้นะครับ]

แล้วก็กดตัดสายทิ้งไปดื้อๆ

...อ้าว เฮ้ย!... นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน...

เขาเหลียวกลับไปทันเห็นคนตัวสูงยังยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋า กำลังจะเดินกลับไปเคลียร์เพราะไม่อยากให้เรื่องในใจมันค้างคา เมื่อเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามา กุมภ์ส่ายหน้าครั้งหนึ่งพร้อมกับยิ้มกว้างหัวเราะต่อกระซิกด้วยนัยน์ตาเป็นประกายระยิบก่อนจะพากันเดินเข้าไปในสนามบิน

ริมฝีปากเม้มจนเจ็บ

ผิดเองที่หลงตัวเอง...
ผิดเองที่คิดไปไกล...
ผิดเองที่คิดว่าเขามีใจ...

ร่างโปร่งหันหลังกลับและเดินออกสู่พื้นที่โล่งด้านนอก เสียงเครื่องยนตร์ดังแว่วมาในอากาศกันย์เงยหน้ามองท้องฟ้าที่เครื่องโบอิ้ง747 กำลังพุ่งทะยานไปในอากาศ

...ความรัก ถ้ามันง่ายเหมือนขับเครื่องบินก็คงดี...


หลังจากรั้งตำแหน่งผู้ช่วยนักบินนานนับปีจนชั่วโมงบินเพียงพอที่จะเลื่อนขั้นเป็นกัปตัน วันนั้นเขามาถึงก่อนเวลาเครื่องออกครึ่งค่อนวัน จากนั่งรอในห้องทำงาน ขยับมานั่งรอในห้องพักจนมาถึงหน้าเกทที่อาศัยสิทธิ์ความเป็นลูกเรือเข้ามาก่อนประตูจะเปิด
เส้นประสาททุกเส้นเครียดเขม็ง หน้าที่สำคัญซึ่งได้รับมอบหมายเป็นครั้งแรก แม้จะเป็นเส้นทางที่คุ้นชินแต่กลับไม่มีความมั่นใจเอาเสียเลย

วันนี้อากาศจะดีไหม ท้องฟ้าจะปลอดโปร่งหรือเปล่า... เขาเฝ้ารีเช็คสภาพอากาศทั้งจากอินเตอร์เน็ตและถามจากหอบังคับการบินซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แล้วถ้ามีการจี้เครื่องบินล่ะ!!... จิตวิตกคิดไปไกลถึงโน่น

สองมือชื้นเหงื่อกำแน่นนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ ในท้องราวกับมีค้างคาวตัวใหญ่ๆ บินว่อนและคอยเกาะดูดเลือดจนปวดหนึบเป็นระยะ

“แม่จ๋าหนูกลัว”

...เออ ฉันก็กลัวเหมือนกัน...

กันย์หันตามเสียงร้องไห้จ้าของเด็กผู้หญิงอายุประมาณห้าหกขวบที่กำลังสะอื้นฮักด้วยความกลัวกับการขึ้นเครื่องบินครั้งแรก

“ไม่เอาหนูไม่ไป หนูกลัวเครื่องบินตก”

...อ้าว ไอ้เด็กเปรตนี่ พูดอะไรเป็นลาง...

กันย์กัดฟันแน่น จะไปถือสาอะไรกับเด็กไม่ประสาก็ใช่ที่ เขากำลังจะลุกหนีเมื่อร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์เดินเข้าไปทรุดตัวลงตรงหน้าเด็กหญิง

“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะครับ หนูไม่ต้องกลัวน้า”

“ไม่เอา!”

“ไหนๆ หนูลองมองออกไปข้างนอกสิ วันนี้ท้องฟ้าสวยเนอะ” ร่างสูงพูดพลางชี้มือออกไปนอกหน้าต่าง “ปุยเมฆสีขาวดูนุ๊มนุ่มเนอะ หนูไม่อยากไปเห็นใกล้ๆ เหรอ บนฟ้ามีคุณพระจันทร์ด้วยนะ ไปหาคุณกระต่าย ไปชวนคุณกระต่ายไปเล่นกัน”

“มีคุณกระต่ายด้วยเหรอคะ”

“มีสิ” พูดพลางชูสองนิ้วขึ้นแนบหูและท่ากระโดดหยองแหยง

“แล้วเครื่องบินมันจะไม่ตกเหรอคะ ปีกมันนิดเดียวเอง”

คำตอบผุดขึ้นในใจกันย์ทันที

...ตามหลักจลศาสตร์ปีกถูกออกแบบให้ด้านบนโค้งนูนทำให้ลมใต้ปีกพัดผ่านไปเร็วกว่าลมเหนือปีกเกิดเป็นแรงยกพยุงให้เครื่องบินลำใหญ่ลอยอยู่ได้...

“หนูนี่ไม่รู้อะไรซะแล้ว ของแบบนี้มันอยู่ที่กึ๊น กันดั้มก็มีปีกนิดเดียวยังบินได้ปร๋อเลย”

...ห๊ะ!! กันดั้มพ่อง เด็กมันจะรู้จักไหมวะ...

“กันดั้มคืออะไรคะเป็นพวกเดียวกับโปเกม่อนหรือเปล่า”

“ใช่ๆ มันเป็นเพื่อนซี้ปิกาจูเลยล่ะ ตัวใหญ่ๆ สีขาวมีเขาที่หน้าผากแล้วก็มีปีกอันใหญ่”

...มันฟังดูคล้ายๆ เปกาซัสป่ะวะ...

“โห... สุดยอดไปเลยค่ะ”

ในขณะที่เฝ้าดูร่างสูงหลอกล่อเด็กไปเรื่อยๆ ค้างคาวในท้องก็บินออกไปทีละตัวๆ แล้วเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่มุมปากยกขึ้นยิ้ม เขาไม่ได้หายกลัว ความกังวลยังคงมีเท่าเดิม แต่ความเครียดมันหายไปและเขารู้ว่าเขาจะทำมันได้

และนี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อน



“ขอโทษที่ไม่ได้บอกคุณ”

เสียงทุ้มของกุมภ์เอ่ยมาตามสายในอีกหลายวันถัดมา

“เรื่องอะไร” ตอบเสียงเรียบจนเกือบๆ จะเย็นชา แม้ไม่บอกแต่นัยน์ตากลับสื่อความหมายออกมาหมดต่อให้ไม่ได้เป็นคนรักแต่เรื่องที่กุมภ์รักผู้หญิงคนนั้นหมดใจต่อให้แกล้งมองไม่เห็นยังไงก็ยังรู้สึกได้

“ลี”

“คุณกำลังพูดถึงใคร”

“ผู้หญิงคนนั้น... น้องสาวของผม ถ้าคุณอยากรู้ผมจะเล่าให้ฟัง”

มือกำโทรศัพท์แน่นจนสั่นเทา เขาไม่อยากเชื่อคำพูดนั้นเลยจนนิดเดียวแต่ข้างในลึกๆ กลับเต้นระรัวและหลงเชื่อสนิทใจไปเสียแล้ว

“แต่ผมกำลังรีบ ไม่ว่างมาฟังคุณเล่าอะไรหรอก”

“จะรีบไปไหนล่ะครับ ยังมีเวลารอเครื่องออกอีกตั้งชั่วโมงนึง”

“เอ๊ะ...”

นัยน์ตาสีอ่อนเบิกโพลงก่อนจะกวาดมองไปรอบๆ ประตูเกท และโดยไม่ต้องอาศัยความพยายาม เขาก็เห็นร่างสูงยืนโดดเด่นอยู่หลังบานกระจกตรงหน้า นัยน์ตาประกายส่งยิ้มทักทายมาให้

“หิวไหม ผมมีร้านเนื้อย่างอร่อยจะแนะนำ... ไม่สิกันย์ ไม่ต้องกินอะไรด้วยกันก็ได้ ผมแค่อยากเจอ อยากคุยกับคุณแค่นี้ได้ไหม”

ริมฝีปากเม้มจนเป็นเส้นบาง อีกแล้ว... ผู้ชายแปลกหน้าคนนี้กำลังจะทำให้ชีวิตที่เป็นแบบแผนของเขายุ่งเหยิง ไม่ได้อยากยุ่งกับคนไม่มีใจ ตัดใจซะก่อนที่จะถอนตัวไม่ขึ้น เขากำโทรศัพท์แน่นขึ้นอีกก่อนจะกระซิบ

“ได้สิ แต่ต้องหลังจากผมเลิกงานนะ”


กุมภ์ไม่ได้โกหกเรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นเป็นน้องสาว แต่ก็ไม่ปิดบังเรื่องที่รักเธอมากช่นกัน

“ลีเป็นน้องสาวต่างแม่” เขาบอกขณะทั้งสองนั่งย่างหมูบนเตาถ่านร้อนๆ มือใหญ่หยิบแก้วเหล้าจรดริมฝีปากก่อนจะวางลงรวดเร็วและเติมจนเต็มอีกครั้ง

“หลังจากแม่ผมตายได้สองปีพ่อก็มาเจอกับผู้หญิงเกาหลีคนหนึ่งตอนมาเที่ยวที่นี่ ตอนนั้นผมสิบขวบกำลังเริ่มต่อต้าน ผมมีพ่อคนเดียวไม่ต้องการให้ใครมาแย่งความรักไป ยิ่งผู้หญิงคนนั้นท้องทำให้ผมคิดว่าเธอตั้งใจเพื่อจับพ่อผม ทั้งสองคนแต่งงานกันเงียบๆ แล้วคลอดลีออกมา ทั้งที่ผมน่าจะเกลียดเด็กคนนี้ที่มาแย่งพ่อไปจากผม แต่ในวันที่พ่อแม่ของเราประสบอุบัติเหตุตายไปเมื่อสิบปีก่อน คนเพียงคนเดียวที่กุมมือผมไว้คือเธอ น้องสาวที่ผมแสนเกลียด ทั้งที่เป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่กลับเอ่ยปากสัญญาว่าจะดูแลผม หัวใจของเธอทั้งยิ่งใหญ่และเข้มแข็งจนผู้ชายอย่างผมยังอาย

หลังจากผมเรียนจบ ผมก็เงินเก็บที่มีร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดบริษัททัวร์เล็กๆ และใช้เงินประกันชีวิตก้อนสุดท้ายของพ่อกับแม่ทำบ้านใหม่ให้เป็นเกสเฮาส์... ทีแรกผมทำเพราะผมคิดว่าตัวเองกำลังสะใจที่จะได้แย่งทุกอย่างคืนมาจากเธอ แม้แต่เงินของพ่อกับแม่ผมก็ไม่เหลือให้เธอสักแดง... แต่คุณรู้ไหมจริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลย มันกลายเป็นว่าผมทำอย่างนั้นเพื่อไม่ให้เธอหนีผมไปไหน พอผมรู้ตัวว่าตกหลุมรักเธอ ผมก็พยายามตัดใจเฝ้าตามหารักใหม่ ผมเดินทางไปเกือจะรอบโลก คบคนมากหน้าหลายตา แฟนเก่าผมมีทั้งหญิงชายอยู่ทุกๆ ประเทศที่เคยไป แต่สุดท้ายยิ่งไปไกลเท่าใด หัวใจก็ยิ่งโหยหาจะกลับมาหาเธอมากเท่านั้น”

“คุณเคยบอกรักเธอหรือเปล่า”

“สำหรับเธอผมเป็นแค่พี่ชาย แค่เพียงเท่านั้นมาโดยตลอดและมันก็เพียงพอแล้วสำหรับผมยังไงเลือดในกายครึ่งหนึ่งของเราทั้งคู่ก็มาจากคนๆ เดียวกัน”

“แล้วผมต้องไปอีกไกลแค่ไหนถึงจะเข้าใกล้หัวใจหัวใจคุณได้” กระซิบเสียงแปร่งปร่าที่แทบกลืนไปกับเสียงเปลวไฟที่กำลังเผาไหม้ในเตาถ่าน “ผมรักคุณ”

ริมฝีปากผุดรอยยิ้มบางพร้อมกับเอื้อมมือมาสัมผัสที่หลังคอก่อนจะก้มหน้าลงแตะริมฝีปากแผ่วค่อย เหมือนจะแข็งแต่นุ่มละมุนก่อนจะละลายหายไปรวดเร็วราวกับชิมขนมสายไหม ทั้งที่เหมือนไม่ได้กินแต่ยังคงหลงเหลือความหวานติดปลายลิ้นให้จดจำได้

“อย่ามาเสียเวลากับผมเลย”

นั่นคือคำตอบ นั่นคือกุมภ์คนที่กุมหัวใจของเขาไว้นานนับปี ทุกครั้งที่พยายามจะหยุดเพื่อถอยห่างก็กลับเป็นฝ่ายเดินกลับมาตามหา แต่พอเขาจะไล่ตามก็กลับออกวิ่งเต็มฝีเท้าไม่ให้เขาไล่ทัน

“รู้ไหมกันย์ คนเดินทางมีอยู่สองประเภท คือไปเพื่อจะได้เห็นกับไปเพื่อจะได้ไม่เห็น... สำหรับผมมันเริ่มต้นที่อย่างหลังถึงตอนนี้เหตุผลจะเปลี่ยนไปเพราะผมไปเพื่อที่จะเจอคุณ แต่ผมก็ยังรักการเดินทางมากเกินกว่าจะหยุดอยู่ที่ใดที่หนึ่ง เพราะฉะนั้นคุณอย่ารอผมเลยกันย์”

“คุณเป็นคนทำให้ผมเริ่มต้นเดินทางเพื่อจะไปเห็นคุณ แต่สุดท้ายคุณกลับปล่อยให้ผมไปเพื่อจะไม่เห็นคุณอย่างนั้นเหรอ คุณใจร้ายมากเลยนะกุมภ์”

“ผมขอโทษ”

*********************************************TBC*********************************************

ขอโทษที่มาช้า ตอนหน้าน่าจะจบแล้วค่ะ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
่ดีใจจังที่มาต่อแล้ว

สรุปคือกันย์ก็ยังไม่ใช่สำหรับกุมภ์
แต่เข้ามาทำให้กันย์เสียใจเฉยๆใช่ไหม
กุมภ์ใจร้ายอย่างที่กันย์ว่าจริงๆ น่ะแหล่ะ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เหมือนกำลังจะหมดแรงตามไปด้วย

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
เศร้าอ่า ใจร้ายจริงๆ

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
ตอน 3

นานหลายเดือนจากโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายของกุมภ์

เขาไม่พูดอะไรด้วยซ้ำ แต่ท่ามกลางความเงียบงันนั้นราวกับเขากำลังได้ยินเสียงสะอื้นจากมุมใดมุมหนึ่งในหัวใจของคนที่อยู่ปลายสาย

และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เขาพาตัวเองมาไกลถึงที่นี่โดยไม่คิดหน้าคิดหลัง

ไม่... แม้แต่จะคิดว่าจริงๆ แล้ว เขาอาจมี ‘ใครสักคน’ ที่คอยกอดปลอบและอยู่เคียงข้างแล้วก็ได้

..เลิกตามผมได้แล้ว มันเสียเวลาเปล่า...

คำพูดเดิมๆ ยังคงดังวนเวียนอยู่ในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า

พิงศีรษะ แนบแก้มลงบนบานกระจกเย็นเยียบถึงในรถไฟจะเปิดฮีทเตอร์ให้ร่างกายอบอุ่นแต่ในหัวใจกลับอุหภูมิลดต่ำลงเรื่อยๆ
อยากหันหลังกลับแต่ก็มาไกลเกินไปเสียแล้วเมื่อหัวใจไม่ได้ไปหยุดอยู่แค่หน้าประตูแต่มันไปอยู่ข้างๆ เขาเสียแล้ว

ทันทีที่สองขาพาก้าวผ่านประตูสถานีออกมาลมหนาวก็พัดมาปะทะร่าง เกิดละไอควันสีขาวหมุนวนในอากาศติดปลายจมูก สองมือรวบสาบเสื้อแจ๊คเก็ตให้กระชับร่างก่อนจะวิ่งเต็มฝีเท้าฝ่าลมหนาวไปตามทางที่เพิ่งเคยมาแค่ครั้งเดียว

เขาโกหกเรื่องเป็นคนหลงทิศ ถึงไม่ใช่ที่หนึ่งในชั้นแต่ก็ไม่เคยสอบตกในวิชาการอ่านแผนที่ ทุกๆ ที่ ทุกๆ ย่างที่ก้าวไปด้วยกันในวันที่ฝนตกยังคงแจ่มชัดในห้วงความคิด

เพียงอึดใจก็มาถึงหน้าประตูเกสเฮาส์ หากต้องใช้เวลาอีกหลายอึดใจในการทำใจ นิ้วชี้ยกขึ้นสัมผัสกริ่งหลายต่อหลายครั้งแต่กลับไม่กล้าที่จะกดเรียก ยังคงหวาดกลัวกับคำตอบที่อยู่เบื้องหลัง

เกือบจะถอดใจหมุนตัวกลับเมื่อเสียงหวานดังขึ้นด้านหลัง

“안녕하세요, 무 엇 을 도 와 드 릴 까 요?”
   
เจ้าของเสียงเป็นหญิงสาวตัวเล็กบางในชุดดอเวอร์โค้ตสีแดง พวงแก้มขาวใสออกสีชมพูกับริมฝีปากแดงเรื่อเพราะโดนความเย็นกัดตัดกับเรือนผมดำยาวสีดำสนิททำให้ดูเหมือนซานตี้แสนสวยในคืนวันคริสมาสต์ เธอเอียงคอน้อยๆ เป็นเชิงถามเมื่อเห็นเขาไม่ตอบจึงถามซ้ำอีกครั้ง

“Hello, May I help you?”

“เอ่อ...”

“갔다 왔어? (กลับมาแล้วเหรอ)”

เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังตอบมาจากด้านหลังพร้อมบานประตูเปิดออก

“อ้าว...”

เกิดความอึดอัดใจขึ้นชั่วขณะหนึ่งเมื่อยืนอยู่ตรงกลางระหว่างคนที่อยากมาหากับผู้หญิงที่ไม่เจอมากที่สุด

นัยน์ตาเล็กๆ เบิกโตขึ้นเล็กน้อยก่อนจะยิบหยีลงจนเป็นสระอิเมื่อริมฝากบางกรีดรอยยิ้มกว้าง “เพื่อนพี่กุมภ์เหรอคะ เชิญด้านในก่อนค่ะ” ภาษาไทยสำเนียงเกาหลีกล่าวพลางผายมือเชื้อเชิญ

“เอ่อผม...”

“พวกพี่กำลังจะออกไปน่ะ”กุมภ์รีบบอกเหมือนจะอ่านใจออก เขาผลุบหายเข้าไปครู่หนึ่งก็กลับออกมาพร้อมเสื้อกันหนาวหนาว “พี่ไปก่อนนะ”

“เดี๋ยวค่ะ” หญิงสาวร้องงเรียกพร้อมกับดึงผ้าพันคอออกก่อนจะเขย่งตัวขึ้นมันคล้องบนไหล่และพันทบให้ทบแล้วทบเล่าจนปิดมิดถึงปลายคาง “จะได้อุ่นๆ วันนี้พยากรณ์อากาศบอกว่าหิมะแรกจะตกวันนี้”

“ขอบใจนะ”

“รีบไปรีบกลับนะคะ” เธอโบกมือให้พร้อมกับยิ้มกว้างที่ราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเหมือนกับพี่ชายของเธอก่อนจะเข้าบ้าน
ทั้งสองเดินไปตามถนนแคบๆ เรียบคลองมีเพียงแสงไฟสีส้มอ่อนจากไฟทางหัวกลมสีส้มอ่อมส่องพอให้เห็นเป็นระยะทางสั้นๆ เพียงแค่ช่วงไม่กี่ก้าวเดิน

ความเงียบค่อยๆ คืบคลานเข้ามาปกคลุมทั้งสองเหมือนความหนาวจนมือเริ่มชา

“มาทำอะไร”

เสียงทุ้มที่ดังแทรกอากาศมาเบาๆ เกือบทำให้กันย์ที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยตกใจ

“เพราะผมโทรไปหรือเปล่า”

“มันยังจะมีเหตุผลอื่นอีกเหรอ” กันย์ถามกลับเกือบๆ จะโกรธเพราะคนตรงหน้าหัวเราะหึๆ ลงคอหากน้ำเสียงนั้นแปร่งปร่าราวกับจะขาดใจก่อนจะกระซิบถ้อยคำที่แค่ฟังก็รู้ว่าคนพูดต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนที่จะไม่ร้องไห้ออกมา

เสียงที่ทำให้เขาพาตัวเองเดินทางข้ามโลกมายืนอยู่ตรงนี้

“ลีกำลังจะแต่งงาน”

พยายามกลืนก้อนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ รู้ดีกว่ากุมภ์กำลังเศร้าแต่ลึกลงข้างในใจกลับร้ายเกินกว่าจะเอ่ยปลอบ “แล้วคุณจะทำยังไงต่อ”

กุมภ์สายศีรษะเนิบช้า “ผมยังคงเป็นพี่ชายที่แสนดี”

คำตอบสั้นๆ ง่ายๆ ทำเอาลมหายใจสะดุด สองมือที่เย็นจัดกำเป็นเป็นหมัดจนซีดหากหัวใจเจ็บจนชา

“ขอบคุณนะที่มาแต่ผมไม่เป็นอะไร”

นัยน์ตาสีอ่อนเหลือบมองผ้าพันคอสีสวยที่ตล้องรอบคอร่างสูง ไม่นึกเสียใจที่มาเพราะมันคงถึงเวลาแล้วที่เองต้องตัดสินใจ “คุณอยากจะทำอะไรก็เชิญ จะไปไหนก็ไปเถอะผมเหนื่อยมามากบางทีมันคงถึงเวลาที่ผมต้องพักแล้ว”

ริมฝีปากจุดยิ้มบางคล้ายกับเป็นการร่ำลา

“กุมภ์” เขาเรียกและบางทีนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ชื่อนี้จะหลุดออกจากปาก ร่างสูงเหลียวกลับมาเพียงครึ่ง ใบหน้าที่เคยคุ้นไม่มีรอยยิ้มแต้มเหมือนเคย

ความรักไม่เคยผิด
คนไม่รักไม่ผิด
แค่ผิด... ที่ไปรักคนที่ไม่ได้รักเรา

“ถ้าคุณจะกลับไปผมคงไม่รั้ง และคงไม่ตามอีก ...แต่จำไว้ว่าวันใดที่คุณเหนื่อย หันกลับมานะผมจะรอคุณอยู่ตรงนี้ และถ้าคุณไม่ว่าอะไร ครั้งนี้ขอให้ผมไปส่งคุณให้ถึงปลายทางนะ หรือแค่อยู่เป็นเพื่อนจนกว่าคุณจะมีแรงแล้วเดินหนีผมไปอีกครั้งก็ได้”

“ตามใจ” เสียงทุ้มกระซิบห้วนราวกับไม่มีเยื่อใย พร้อมกับกลับหลังหันเดินจากไป ทิ้งให้คนที่เคยเดินตามยืนเดียวดายอยู่กลางทาง
   
ร่างโปร่งทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ยาวริมน้ำ เอนหลังพิงพนักอย่างอ่อนล้า ริมฝีปากเม้มสนิทกับความเจ็บที่อยู่ลึกสุดในหัวใจ ขอบตาทั้งสองร้อนผ่าวแต่มันกลับไม่มีน้ำใสไหลรินสักหยด ราวกับผ่านความเสียใจมามากมายจนเกินกว่าจะมีน้ำตา
   
ลมหนาวพัดมาอีกครั้ง หอบเอาเกร็ดเล็กๆ พราวระยับของหิมะแรกโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า นัยน์ตาสีอ่อนตวัดขึ้นมอง

เนิ่นนานจนพระจันทร์เริ่มเคลื่อนตัวสูง กันย์ก้มหน้าลงและผ่อนลมหายใจบางเบา ละไอควันสีขาวพวยพุ่งหากมันไม่ได้ออกมาจากปลายจมูกโด่งแต่มาจากแก้วกาแฟร้อนในมือใหญ่ที่ยื่นมาตรงหน้า
   
“อากาศมันหนาว ไม่กินก็ถือไว้จะได้อุ่น”

กันย์เงยหน้าขึ้นสบเจ้าของนัยน์ตาคู่สวย เงียบไปอึดใจก่อนจะรับกาแฟมาถือไว้พร้อมกับดันกายลุกขึ้นยืน และโดยไม่มีใครพูดอะไรทั้งสองก็เดินเคียงกันไปเงียบๆ ท่ามกลางหิมะซึ่งเริ่มถมตัวหนา มือที่เริ่มชาเพราะอุณหภูมิที่กำลังติดลบลงทุกทีกำแก้วกาแฟร้อนแน่นขึ้นอีกซึ่งเพียงแค่ลมพัดมาอีกครั้งก็กลับเย็นเฉียบ แต่น่าแปลกที่หัวใจยังคงอบอุ่นอย่างน่าประหลาด

บางทีมันอาจเป็นเพราะละไอความร้อนจากอุณหภูมิกายของใครอีกคนที่เดินอยู่ข้างกัน

นัยน์ตาสีอ่อนเหลือบมองลำคอหนาของคนข้างกายที่โดนหิมะกัดจนเริ่มแดงพลันรอยยิ้มเล็กๆ จุดขึ้นที่มุมปาก

เขาเลิกหวังว่าจะเดินไปส่งผู้ชายคนนี้จนถึงปลายทาง ขอเพียงแค่ตอนนี้เขารู้ว่าเดินทางมาไกลพอที่เข้าไปใกล้หัวใจกุมภ์เพิ่มขึ้น แม้จะแค่ครึ่งก้าวก็ยังดี

*******************************************The End*****************************************

จบแล้วค่า....
ขอบคุณที่ติดตามอ่านเรื่องสั้นที่แทบขาดใจเรื่องนี้นะคะ
หายไปนานเพราะงานยุ่ง+วุ่นๆ กับการเขียนตอนพิเศษอีกเรื่องค่ะ (ไหนก็มาถึงขั้นนี้ล่ะฮาร์ดเซลล์ซะเลย)
ฝากเรื่อง ER-นาทีหัวใจ
ด้วยนะคะ พิมพ์กับสนพ.เฮอร์มิทค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-07-2015 15:35:37 โดย leGGyDan »

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :เฮ้อ:


หวังว่ากุมภ์จะไม่ทำให้กันย์ผิดหวัง สงสารกันย์อ่ะ รอมานานนะ ถึงจะคิดไปเองฝ่ายเดียวก็เถอะ แต่กุมภ์ก็รู้ว่ากันย์คิดยังไงกับตัวเอง

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ไม่แฮปปี้ แต่ก็ดีที่ไม่ทำร้ายจิตใจกัน

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
เหมือนยังพอมีหวัง...

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เฮ้อออ คนที่รักมากกว่าก็เจ็บมากกว่า
เหมือนจะโดนกระทำมากกว่า ถึงจะเต็มใจโดนก็เถอะ

ขอบคุณที่มาต่อจนจบนะคะ

ออฟไลน์ whitelavenders

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เศร้าอ่ะ สงสารกันย์ แต่อย่างว่าความรักมันก็บังคับกันไม่ได้เนาะ ก็ได้แต่หวังว่าหลังฉากจะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งนะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
น้ำตาซึม...
เข้าใจว่าเรื่องความรักมันบังคับกันไม่ได้ แต่ก็ยังลุ้นให้กันย์สมหวังอยู่ดี
ถึงแม้ว่ามีบางขณะที่อ่านแล้วรู้สึกว่าสิ่งที่กุมภ์แสดงออกมัน คือ นิสัยของกุมภ์อยู่แล้วที่ชอบดูแล ห่วงใยคนอื่น (มั้ง)

วอนคนเขียน หากเมตตา ช่วยมาต่อตอนพิเศษหรืออะไรก็ได้ให้รู้หน่อยได้มั้ยว่าสุดท้ายกุมภ์จะรักกันย์บ้างไหม  :mew6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2015 23:17:51 โดย sirin_chadada »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
ชอบๆ อบอุ่นละมุนๆ แต่ดันมาหักดิบเรากลางเรื่องเฉย  จริงๆ เราว่ามันยังไม่สมูทเท่าไหร่ แต่ก็เป็นเรื่องที่ประทับใจดีค่ะ +1

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
Special part

"เดี๋ยวคุณนอนที่นี่นะ"

กันย์กำลังจะหันไปถามกลับว่า ‘แล้วคุณจะนอนที่ไหน’ หลังจากกุมภ์พามายังห้องซึ่งเคยมานอนพักเมื่อหลายปีก่อน พลางกวาดตามองไปรอบๆ ห้องที่แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากความทรงจำนอกจากผ้าห่มนวมกับฮีทเตอร์เครื่องหนึ่ง เจ้าของบ้านก็ดึงประตูห้องปิดพร้อมๆ กับถอดโอเวอร์โคตออกพาดบนไม้แขวนก่อนจะเดินไปเสียบฮีทเตอร์ตรงมุมห้องแล้วนั่งลงอังมือให้อุ่น ในขณะที่ปากยังเจื้อยแจ้วเล่าโน่นนี่นั่นให้ฟังไปตามประสามัคคุเทศน์ช่างเจรจา

"รอบนี้คุณจะอยู่กี่วัน ตอนนี้คลองชองเกชอนเตรียมงานเทศกาลคริสมาสต์ มีโคมไฟกับต้นคริสมาสต์น้ำแข็งเป็นมาสคอตที่ใครๆ ก็ต้องไปถ่ายรูป แต่ถ้าคุณอยู่หลายวันผมจะพาคุณไปเอเวอร์แลนด์ ธีม Autumn in love ปีนี้สวยมากผมเพิ่งพาลูกทัวร์ไปมาเมื่อวันก่อนนี่เองยิ่งตอนนี้หิมะตกแล้วยิ่งสวย"

หากคำพูดเหล่านั้นกลับผ่านหูกันย์ไปราวกับถ้อยคำที่ไม่มีความหมาย เพราะตอนนี้ทั้งสายตาและหัวใจของเขาจับจ้องอยู่ที่ลำคอหนาซึ่งค่อยเปลี่ยนจากสีแดงอันเกิดจากหิมะกัดกลับมาเป็นสีขาวดังเดิม

...แต่เขาไม่อยากให้มันเป็นเหมือนเดิม...

คิดได้เท่านั้น สองขาก็ก้าวยาวๆ ไปยืนซ้อนหลังร่างสูงโดยไม่รู้ตัว

"ตกลงคุณอยู่กี่วัน"

คำตอบที่ได้คือความเงียบ กุมภ์พยายามเหลียวมองข้ามไหล่เมื่ออ้อมแขนสอดเข้ารอบเอวพร้อมกับริมฝีปากอุ่นประทับลงตรงหลังคอ

"กันย์" กระซิบเรียกหวังให้รู้ตัวแต่คนถูกเรียกนั้นมีสติสมบูรณ์เต็มเปี่ยม

กันย์ลากริมฝีปากเบาๆ ราวกับกำลังตั้งคำถามไปตามแนวไรผมก่อนจะหยุดลงที่ริมหูและขบเม้มเล่นจนขึ้นสีแดงระเรื่อ

"กันย์" เรียกอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิม ริมฝีปากจึงยอมปล่อยติ่งหูจากการหยอกเย้าและซบหน้าลงบนบ่าลาดพร้อมกับกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นอีก

"ผมเข้าใจผิดเหรอ" เสียงของกันย์แตกพร่า ฝ่ามือที่เย็นจนชาจากอากาศหนาวเริ่มชื้นเหงื่อ "เพราะคุณน่ะแหละ ที่ดันกลับมา"

"ผมผิดเหรอที่เป็นห่วงคุณ"

"แล้วผ้าพันคอผืนนั้นหายไปไหน" ถ้าเพียงแค่ย้อนมาพร้อมแก้วกาแฟมีหรือเขาจะยอมใจอ่อนง่ายๆ และกันย์ก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้รู้ดีว่าอะไรที่ทำให้เขาพ่ายแพ้

หมดถ้อยคำที่กุมภ์จะแก้ตัว ต้องยอมรับว่าเขาหลงรักคนตรงหน้านี้หมดใจตั้งแต่เจอกันครั้งแรก หากไม่อยากรั้งให้ต้องเจ็บเหมือนคนอื่นๆ ที่ผ่านเข้ามาเพราะไม่รู้ว่าอดีตของตนจะย้อนกลับมาทำร้ายกันย์เมื่อไหร่ เมื่อลีคือที่หนึ่งในใจและแม้จนถึงตอนนี้มันก็ยังคงเป็นเช่นนั้นไม่เปลี่ยนแปลง

แต่พอกันทีกับความอดทน ถ้ากันย์ไม่กลัวที่ต้องเจ็บเขาก็อยากกล้าที่จะรักผู้ชายคนนี้ดูเหมือนกัน

มือใหญ่เอื้อมขึ้นรั้งใบหน้าบนบ่าขึ้นกดจูบหนักๆ ให้แทนคำตอบ

"กล้ามากเลยนะที่มารุกผมก่อน" กระซิบเสียงพร่าในขณะที่ปลายลิ้นยังหยอกเย้ากับริมฝีปากที่แดงช้ำจากการบดขยี้ของตน ลมหายใจอุ่นๆ ถี่กระชั้นสอดประสานกันดังพายุที่พัดพาอารมณ์หวามให้จุดติด มือใหญ่รั้งเอวสอบเข้าแนบชิดก่อนจะเริ่มเคลื่อนเข้ารุกรานผิวเนื้ออุ่นใต้ร่มผ้า

เช่นเดียวกันกับมืออีกคู่ที่ช่วยกันปลดเปลื้องสิ่งพันธนาการที่ขวางกั้นคนทั้งคู่ไว้ออก

"อย่าเสียงดังนะ ลีนอนอยู่ห้องข้างบน" พูดยังไม่ทันจบดีไกด์หนุ่มก็ร้องเสียงหลงเพราะโดนฟันเขี้ยวขบลงบนปลายลิ้น กุมภ์ผละออกรวดเร็วพร้อมกับยกมือขึ้นปิดปาก ได้รสเฝื่อนของเลือดจางๆ ในปาก "เจ็บนะคุณ ทำอะไรเนี่ย"

ยังไม่ทันจะได้คำตอบก็โดนผลักล้มลงนอนแผ่หราบนเตียงที่ใหญ่พอแค่นอนได้คนเดียว ก่อนร่างโปร่งจะถอดเสื้อนอกออกโยนลงบนพื้นเหลือเพียงเสื้อกล้ามสีขาวแล้วเคลื่อนตัวตามขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนหน้าขาไม่ให้ขยับหนีไปไหน

"อยู่กับผม ทำไมต้องพูดถึงผู้หญิงคนอื่น"

"ผมแค่เตือน"

"ก็ไม่อยากได้ยิน"

กุมภ์ใช้ข้อศอกดันตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อดูคนตรงหน้าให้ชัด ทั้งที่สองแขนกอดไว้ที่อกแน่นแต่สายตาจริงจังที่มองตรงมานั้นเกือบๆ จะรื้นน้ำด้วยความน้อยใจ "ขอโทษนะ" ยกสองมือขึ้นกอบกุมข้างแก้มแล้วรั้งลงมาจูบย้ำคำพูดอีกครั้งแต่กลีบปากนั้นก็ปิดแน่นอย่างแข็งขืน เขาจึงค่อยถอนออกแล้วประกบซ้ำลงไปบนริมฝีปากนั้นอีกครั้ง...

อีกครั้ง...

และอีกครั้ง...

อย่างยั่วเย้าและอ้อนวอน

ถึงจะไม่อยากยอมรับคำขอโทษ แต่รู้ตัวอีกทีกางเกงตัวสุดท้ายก็ถูกรูดผ่านขาขาวลงไปกองรวมกับเสื้อผ้าชิ้นอื่นๆ ที่ข้างเตียง
ลิ้นสากลากหนักๆ ไปตามแผ่นหลังเนียนซึ่งสะท้านขึ้นลงน้อยๆ ก่อนริมฝีปากจะวนกลับไปหยุดบนบ่าลาดแล้วดุนดูดเนินกล้ามเนื้อแข็งหลังสะบักซ้ำไปซ้ำมาจนได้รอยช้ำสีกุหลาบเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งรอย

"ไม่เอากุมภ์น่าอย่าแกล้งกันแบบนี้"

เสียงหวานพร่ากระซิบมาจากคนที่อยู่ใต้ตัว เจ้าของนามจึงยอมถอนริมฝีปากออกจากแนวไหล่เคลื่อนไปฝังลงที่ข้างหู "อะไรที่ไม่เอา... อันนี้... หรือว่า... อันนี้ครับ"

"อือ..."

คนที่อยูข้างล่างเม้มกัดริมฝีปากจนเจ็บเพื่อกลั้นเสียงเพราะคนขี้แกล้งย้ำกดปลายนิ้วหนักๆ ลงบนหน้าอกจนเป็นไตแข็ง ในขณะที่อีกมือขยับหยอกเย้าลงบนยอดจุดอ่อนไหว ทั้งที่จะอารมณ์กำลังจะพาไปจนถึงสุดทางหากอีกฝ่ายกลับชะลอไปเสียดื้อๆ ดึงเกมรักให้ช้าลง

"ตกลงอันไหนครับ"

"ก็..."

"บอกมาสิ" กระเซ้าพลางเป่าลมอุ่นเข้าข้างหู

"คุณก็รู้นี่"

"จะรู้ได้ยังไงถ้าคุณไม่บอก" ไม่พูดเปล่ายังแกล้งรั้งเอวสอบขึ้นบดเบียดกับสะโพกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นของตนจนร่างโปร่งเกร็งสะท้าน

"กุมภ์!"

หันมาดุเสียงเขียวหากนัยน์ตาหวานฉ่ำด้วยแรงปรารถนาที่ยากจะทานทน จนคนที่นำเกมอยู่อดใจไม่ไหวเผลอฝืนแรงสอดกายเข้าจนสุด

ใบหน้าขาวเชิดขึ้นพร้อมกับกดเล็บจิกท่อนแขนแกร่งจนเลือดไหลซิบ แทนที่จะเป็นสัญญาณเตือนให้พอกลับกระตุ้นให้เขาขยับแทรกเข้าไปข้างในให้ลึกที่สุดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนยากจะหยุดเหมือนพายุหิมะที่พัดโหมกระหน่ำกระทบกระจกหน้าต่างหัวเตียงจนสั่นไหว

ร่างโปร่งเกร็งต้านแรงอีกครั้ง ฟันกัดลงบนกลีบปากจนแดงก่ำ กุมภ์รั้งใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อผุดพราวทั้งที่อากาศเย็นเฉียบขึ้นมาจูบซับความเจ็บปวดให้เหลือแต่ความเสน่หา ในขณะที่ฝ่ามือซึ่งครอบครองจุดร้อนรุ่มขยับรุนแรง เขาจ้วงโจนเข้าใส่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนลมหนาวสุดท้ายจะปลิวผ่านไปเหลือเพียงไออุ่นที่ของอ้อมแขนที่โอบรัดร่างคนสองคนเอาไว้บนเตียง



"ตกลงคุณจะไปไหน" กุมภ์ถามคนที่นอนหนุนอยู่บนอกเขาต่างหมอน พระอาทิตย์เคลื่อนตัวขึ้นสูงแล้ว ลีมาเคาะประตูเรียกไปกินข้าวเช้าสองครั้งแล้วแต่เพราะอีกคนยังไม่ตื่นและผิวเนื้อที่แนบสนิทนั้นก็อุ่นเกินกว่าจะผละจากไป

กันย์พลิกหน้ากลับมาเล็กน้อย นัยน์ตาบวมช้ำข้างหนึ่งยังปรือปิดด้วยความง่วงงุน "ที่ไหนก็ได้ที่คุณอยากให้ผมไป" ตอบสั้นๆ ก่อนจะทิ้งศีรษะลงซบตามเดิมและใช้ปลายจมูกไซร้เบาๆ ไปบนอกกว้างเมื่อมือใหญ่เอื้อมมารั้งปลายคางเชิดขึ้นรับจูบรับอรุณ

“ตื่นได้แล้วครับ” เม้มกลีบปากเล่นอย่างอ้อยอิ่งพร้อมกับยกหัวเข่าข้างหนึ่งขึ้นแทรกกลางระหว่างขา เกร็งกล้ามเนื้อแข็งถูไถกับอุ่นอ่อนไหวของอีกคนที่เพิ่งสงบไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนให้กลับร้อนขึ้นมาอีกครั้ง

“ผมJet lag อยู่นะ”

“ก็กำลังช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีอยู่นี่ไง”

“ไม่เอาตรงนั้นเดี๋ยวคนอื่นเห็น” เสียงทุ้มเครือเบาๆ เพราะคนตื่นแล้วเริ่มอยู่ไม่สุข นอกจากฝ่ามือซุกซนจะเริ่มไต่ไปทั่ว ยังแกล้งงับซอกคอเขาเล่นจนเป็นรอยแดงจางๆ

“พูดแบบนี้แสดงว่าตรงที่ไม่เห็นก็ได้สินะ” พร้อมกับพลิกตัวกลับรวดเร็วกดร่างโปร่งลงบนเตียงใช้สองแขนคร่อมไว้ไม่ให้หนีไปไหน พลางพิศดูร่องรอยที่เขาทำไว้เมื่อคืนจนคนหน้าคนถูกมองเริ่มขึ้นสีก่อนจะซุกหน้าลงกลางอกแล้วขโมยชิมรสหวานของผิวเนื้อนั้นอีกครั้ง

“กุมภ์... ไม่...”

“เลิกพูดแบบนั้นได้แล้ว” กุมภ์ปล่อยยอดอกจากการครอบครองแล้วเคลื่อนตัวลงต่ำ “ไม่ ของคุณน่ะมันแปลว่า ใช่ สินะ คนปากไม่ตรงกับใจ”

“ผม...” ลมหายใจเริ่มขาดห้วงเมื่อปลายลิ้นอุ่นแตะลงบนผิวเนื้ออ่อนตรงต้นขาด้านในก่อนริมฝีปากจะผละไปทำเช่นเดียวกับอีกข้าง ในขณะที่ขบเม้มสลับกันไปมาก็ค่อยๆ คลืบคลานเข้าสู่ส่วนกลางลำตัวมากยิ่งขึ้นจนกันย์เกือบลืมหายใจ ได้แต่ใช้ฝ่ามือสอดเข้าใต้เรือนผมนุ่มและขยำอย่างไร้สติเมื่อเสียงกุกกักดังขึ้นที่หน้าประตู

“พี่คะ ทานข้าวค่ะ”

“น้องคุณมา” กันย์บอกเสียงพร่าพยายามจะกระถดตัวออกห่างแต่ไม่อาจหนีพ้นมือใหญ่ที่กอบกุมสะโพกไว้แน่นได้

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ไป” กุมภ์กระซิบพร้อมกับยืดตัวขึ้นเล็กน้อยเตรียมจัดการให้ถนัดถนี่ ไฟจุดมาถึงขั้นนี้แล้วเขาคงไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ “คุณอย่าเสียงดังก็พอ”

แต่ดูท่าคนหน้าประตูจะไม่ยอมรามือง่ายๆ

“ตอนนี้เที่ยงแล้วนะคะ พี่ไม่สบายหรือเปล่า” หญิงสาวรัวมือเคาะลงบนบานประตูด้วยความเป็นเป็นห่วงด้วยว่าพี่ชายเพียงคนเดียวไม่เคยตื่นสายมาก่อนและนี่ก็การมาปลุกครั้งที่สามแล้ว “พี่กุมภ์!”

คนเป็นพี่ทิ้งตัวลงบนบ่าลาดอย่างยอมแพ้ในที่สุด เช่นเดียวกับกันย์ที่ยกมือขึ้นปิดหน้าเหมือนเป็นการดับไฟที่กำลังพัดโหมให้มอดสนิทในทีเดียว “เดี๋ยวพี่ออกไป” เขาหันไปตะโกนตอบเร็วๆ ก่อนจะหันกลับมาดึงมือเรียวที่เกาะกุมหน้าผากไว้แน่นออก “ไว้ค่อยมาต่อคืนนี้ละกัน” พร้อมกับกดจูบหนักๆ เข้าข้างขมับเป็นการมัดจำไว้ก่อนจะลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ

*********************************************************************************************

nc วันละนิด ชีวิตแจ่มใส #นักจิตวิทยาไม่ได้กล่าวไว้

ออฟไลน์ w.pond

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :ling3:


ค้างค่ะค้าง!!!

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เร่าร้อนกันจริงเชียว

ออฟไลน์ มะปรางเปรี้ยว

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
 :hao6: :hao6: น้ำลายหกเลยอะ

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ค้างจริงๆ 5555

ออฟไลน์ whitelavenders

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อย่าทำแบบนี้ มาต่อเลย 5555555 ค้างทั้งคู่เลยเนี่ย ทั้งสองหนุ่มกับคนอ่าน ดูท่าแววสดใสกำลังมา

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
เข้ามารอด้วยคน :z1:

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
ค้างหนัก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด