ข่ม ขืน ฝืน รัก
ตอนที่8
“มึงตื่นเต้นไหมมิน อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแต่งงานของมึงแล้วนะ” นพพูดพร้อมเขย่าแขนมินอย่างตื่นเต้น มินมองหน้าอีกฝ่ายก่อนจะระบายยิ้ม
“ตื่นเต้นนิดนึง” มินไม่อาจปฎิเสธความรู้สึกตัวเองได้ว่าจริงๆเขาก็ตื่นเต้น
“นั้นดิเนอะ มึงไม่ตื่นเต้นก็แปลกคนเกินไป งานแต่งระดับงานช้างขนาดนี้ ใครๆก็จับตามอง”
“งั้นเหรอ” มินพูดจบเบื้อนหน้ามองไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย
งานแต่งคือวันที่คนสองคนควรจะมีความสุข
แต่ทำไมกันเขากลับรู้สึกว่าเวลาการใช้ชีวอตธรรมดาของเขาน้อยลงทุกที
การแต่งงานของเขาเหมือนการผูกมัดเขาเอาไว้ในเกมส์
เกมส์ที่เขาเป็นหมากตัวหนึ่งที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
มินกลับมาถึงบ้านก็เจอพ่อนั่งอยู่ในห้องรับแขก พ่อของเขาอาการดีขึ้นมากหลังจากวันนั้น มินเดินเข้าไปหาพ่อแล้วยิ้มให้นิดนึงก่อนจะพูด
“พ่อทำไมมานั่งคนเดียวตรงนี้”
“พ่อมารอมิน” น้ำเสียงนิ่งของมิ่งภพทำเอามินรู้สึกแปลกๆ มิ่งภพมองหน้าลูกชายของตนแล้วตบที่นั่งข้างๆให้มินนั่ง
มินนั่งลงข้างผู้เป็นพ่อแล้วมองหน้าอีกฝ่าย พ่อมองเขาด้วยหลากหลายความรู้สึก เป็นห่วง กังวล สงสาร และรักสุดหัวใจ
มิ่งภพลูบหน้าลูกชายคนเล็กของตัวเองเบาๆแล้วเอ่ยขึ้น
“มินโตขึ้นมาจริงๆ ทำไมนะสำหรับพ่อมินยังเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆที่คอยให้พ่ออุ้มอยู่เสมอ แต่ดูสิวันนี้มินโต โตจนกำลังจะแต่งงานแล้ว” มิ่งภพเว้นช่วงก่อนจะพูดต่อ
“พ่อต้องขอบคุณมินที่คิดช่วยครอบครัว พ่อรู้ว่ามินไม่ได้เต็มใจนักแต่มินยังจะทำ จะเพราะเหตุการณืบังคับอะไรก็ตาม แต่พ่อก็ต้องขอบคุณมิน พ่อต้องขอโทษมินที่พ่อเป็นพ่อที่แย่ ช่วยอะไรลูกไม่ได้เลย และทุกอย่างที่เกิดขึ้น....” มิ่งภพหยุดพูดซะก่อนเมื่อเห้นสีน้าอยากรู้ของมิน เขาระบายยิ้มอ่อนๆให้ลูกชายก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง
“พ่อรักมิน ไม่ว่ายังไงพ่อก็รักมินนะลูก” มิ่งภพพูดจบโอบกอดลูกชายของตัวเองเต็มแรง
มินนั่งนิ่งน้ำตาคลอ ความอยากรู้ในตอนแรกหายไปหมดกับสายของพ่อและคำพูดของพ่อ พ่อไม่เคยบอกรักมิน แต่วันนี้พ่อกลับพูดมัน อ้อมกอดที่เขาต้องการเขาได้มันอีกครั้ง อ้อมกอดที่เขาอยากได้เหมืนอตอนเด็กๆ
“ไม่ว่ายังไงมินก็ยังมีพ่อและพี่ๆนะลูก ถ้าเกิดอะไรขึ้นกลับบ้าน แล้วเราจะมาหาทางแก้มันอีกที”
มิ่งภพผละออกจากลูกชายพร้อมเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาให้ เขายิ้มให้ลูกชายอย่างเอ็นดู
“มินก็รักพ่อครับ”
มินพูดจบสองพ่อลูกกอดกันอีกครั้งทำให้มินร้องไห้โฮอกมา ปลดปล่อยความอึดอัดตลอดหลายวันของเขาออกมาให้หมด
มินขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเองเขามองตัวเองที่ตาบวมช้ำจากการร้องไห้ มินนั่งลงบนเตียงพร้อมลูบหน้าท้องตัวเองเบาๆ
“อีกไม่กี่วันแล้วนะลูก ลูกจะมีพ่อ จะมีคนรับผิดชอบ แม่ไม่มีวันให้ใครมาตราหน้าว่าลูกเป็นลูกไม่มีพ่อเด็ดขาด”
มินเหม่อมองด้วยสายตาเด็ดเดี่ยว
หมดเวลาของการอ่อนแอแล้ว เขาต้องเข้มแข็งเพื่อครอบครัวของเขา และลูกของเขา
วันแต่งงานมินตื่นแต่ตี3เพื่อไปทำผมแต่งหน้าที่โรงแรมชื่อดังใจกลางเมือง เขาได้ช่างแต่งหน้าชื่อดังของประเทศมาช่วยเนรมิตรความสวยในวันที่ใครๆก็บอกว่าเจ้าสาวต้องสวยที่สุด
“คุณน้องมินสวยมากๆเลยนะคะ” พี่ไก่ช่างแต่งหน้าชื่อดังชมเขาด้วยสายตาชื่นชม เขาเงยมองตัวเองในกระจก คนในกระจกสวยจริงๆ สวยหวานปานเทพธิดา ดวงตากลมโตรับกับเครื่องหน้าทุกอย่างบนใบหน้า เขามองแล้วอดคิดถึงใครคนหนึ่งไม่ได้ แม่ของเขา ยิ่งเขาแต่งหน้าใส่วิกแบบนี้เขาเหมือนแม่เขาจริงๆ
“ต๊ายแล้วน้องมินสวยมากๆเลยคะ มาทางนี้คะ ใส่ชุดไทยพร้อมสำหรับงานหมั้นในตอนเช้า” พี่เป็ดเจ้าแม่งานนี้มาตามเขาไปใส่ชุด เขายิ้มให้อีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนจะเดินตาม
วันนี้เขาคงต้องยิ้มอีกเยอะฉะนั้นหัดปั้นยิ้มตั้งแต่ตอนนี้เลยก็ดี
มินเดินตามทางเดิน เขาได้ยินเสียงขบวนขันหมากดังมาแต่ไกล ใจเขาเต้นตึกตักไม่น้อยทั้งๆที่ไม่เต็มใจแต่งาน แต่พอเอาเข้าจริงเขาก็อดตื่นเต้นไม่ได้
“มิน” เสียงเรียกเบาๆจากพ่อของเขาอีก
“พ่อ”
“มินสวยมากเลยลูก เหมือนแม่มากๆจริงๆ” พ่อเดินมาใกล้เขาแล้วมองเขาด้วยสายตารักใครก่อนจะพูดต่อ
“พ่ออดคิดถึงแม่ไม่ได้ ถ้าแม่ยังอยู่ก็คงดีสินะ” พ่อพูดเสียงเศร้าลงเล็กน้อยก่อนจะหันมายิ้มให้เขา
“ลงไปข้างล่างเถอะครับ ขบวนขันหมากจะมาถึงแล้ว” พี่มัตถ์ที่มีอาการดีขึ้นมากมางานเขาด้วยรอยยิ้ม พี่มัตถ์ยิ้มให้เขาอย่างภาคภูมิใจ ทำให้เขายิ้มหวานให้พี่ชาย ยิ้มครั้งนี้เป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากหัวใจ
“วันนี้พี่อยากให้มินยิ้มแบบนี้เยอะๆ มินรู้ไหมว่าเวลามินยิ้มแบบนี้มินสวยมาก”
เขาพยักหน้าให้พี่ชายและเดินตามอีกฝ่ายไป
เขายืนรอจังหวะได้ไม่นานก็ลงบันไดไปพร้อมพี่ชายของตน มินมองด้านล่างเจอกับครามยืนใส่ชุดไทยประยุกต์กับสูทได้อย่างลงตัว อีกฝ่ายยืนสง่าอยู่ท่ามกลางฝูงชน
ครามมองมินอย่างอึ้ง เขารู้ว่าอีกฝ่ายค่อนข้างสวย หวาน แต่ไม่คิดว่าเมื่อแต่งเป็นผู้หญิงจะสวยได้มากขนาดนี้ สวยจนเขาตะลึง
“ว่าที่เมียพี่นี่สวยเนอะ” คิมกระซิบข้างหูพี่ชายเบาๆ ครามเลยพยักหน้าให้อีกฝ่ายเบาๆ
งานหมั้นในตอนเช้าดำเนินการไปอย่างราบรื่น มีการจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายทำให้เขากลายเป็นคนของตระกูลสิยะทิพย์อย่างเต็มตัว
เมื่องานเช้าเสร็จทุกฝ่ายแยกย้ายกันไปพักผ่อน มินเลี่ยงเดินออกมาหาเพื่อนของเขาที่ยืนถ่ายรูปอยู่
“มินมึงสวยมาก สวยจริงๆ” วุ้นพูดแล้วมองเพื่อนของตัวเองด้วยความภูมิใจ
“มึงสวยมาก สวยหวานฉีกลุกมึงไปเลย ไม่ได้ดูเปรี้ยว ดูเชิดแบบที่เป็นตัวมึง” นพเสริมเพื่อนขึ้นมา มินยิ้มระบายน้อยๆก่อนจะพูด
“ก็ชุดไทยมึงจะให้กูเปรี้ยว เซ็กซี่ยังไงได้ละ”
ทั้งสี่คนหัวเราะขึ้นมาทันที มินยืนพูดกับเพื่อนสักพักเขาต้องปลีกตัวออกมาหาพ่อและพี่ชายของเขา แต่ระหว่างทางก็เจอนายคิมมายืนดักซะก่อน นายคิมวันนี้มาในชุดสูธพอดีตัว เซทผมเรียบร้อยดูดี ทำให้คนตรงหน้าดูหล่อและคุณชายกว่าปกติ
“หลีกหน่อย”
“ไม่หลีกได้ไหมครับคุณพี่สะใภ้” คิมพูดด้วยน้ำเสียงยียวน มินพยายามระงับอารมณ์เพราะเขาไม่อยากให้บรรยากาศเสีย แขกเหรื่อในงานมาเยอะมาก
“ฉันไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับนาย หลีก!” มินพูดเสียงนิ่ง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมเลยเลี่ยงเดินไปทางอื่นแต่กลับโดนอีกฝ่ายจับมือไว้ซะก่อน
“ผมไม่ได้มากวนหรอกครับ ผมแค่จะมาชมคุณพี่สะใภ้ว่าวันนี้คุณสวยมากๆเลยนะครับ” คิมพูดด้วยน้ำเสียงปกติปราศจากการยียวน แววตาที่มองมาอย่างแน่วแน่ทำให้เขารู้สึกแปลกกับคำพูดตรงหน้า
“สวยจนผมเกือบอดใจไม่ไหวแย่งมาเป็นเมียผมเอง” อีกฝ่ายกระซิบข้างหูมินเสียงแผ่วทำเอามินชะงักและเดินออกมาทันทีไม่สนใจอีกฝ่าย
มินแสยะยิ้มในใจเหลือบมองอีกฝ่ายที่ยังมองเขาอย่างไม่คลาดสายตา
จะสนุกขนาดไหนนะถ้าทำให้พี่น้องฆ่ากันเอง!!
“เธอคุยอะไรกับคิม” เมื่อมาถึงครามเป็นฝ่ายถามอีกฝ่ายทันที ครามยืนข้างพ่อพ่อของมินอยู่นานแล้ว เหตุการณ์ตรงหน้าเมื่อกี้อยู่ในสายตาเขาเสมอ
“เปล่า คิมแค่เข้ามาทักทายตามประสาคนครอบครัวเดียวกัน” มินตอบพร้อมยิ้มหวานการค้าให้ ครามเลยพยักหน้าเหมือนจะไม่ใส่ใจ แต่ในใจเขากลับครุ่นคิด
“มินเหนื่อยไหมลูก กินอะไรสักหน่อยไหม เดี๋ยวเป็นลมเอา” มิ่งภพชวนลูกชายไปนั่งทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตามที่มีอาคมนั่งรออยู่แล้ว”
“ก็ดีครับพ่อ มินเหนื่อยและหิว”
ทั้งสองครอบครัวนั่งทานอาหารกันไปเงียบๆ มินนั่งข้างคราม เจ้าบ่าวของเขา เมื่อทานเสร็จผู้ใหญ่ในงานที่ทั้งสองฝ่ายนับถือเป็นคนเริ่มเอ่ยขึ้น
“หนูมินนี่สวยจริงๆเลยนะครับ สวยหวานเหมือนคุณแม่มากๆ เหมือนกันจริงๆ”
“ใช่ครับ สวยเหมือนแม่จริงๆ” อาคมรับคำแล้วหันมายิ้มหวานให้เขา ช่างเป็นรอยยิ้มที่น่าขนลุกสิ้นดี
มินยิ้มรับคำชมและรอยยิ้มของอาคม
“เหมาะกันจริงๆนะคะคุณกับตาคราม ตาครามก็หล่อเหลา ช่างเป็นคู่กิ่งทองใบหยก” ภรรยาของผู้ใหญ่ท่านนั้นเสริม ขึ้นมา เขาและครามยิ้มรับ
มินแอบนึกในใจ กิ่งทองใบหยกเหรอ เขานะกิ่งทองแต่อีกฝ่ายไม่ใช่ใบหยกหรอก แต่เป็นใบไม้เน่าๆมากกว่า
หลังจากนั้นมินแยกย้ายออกมาแต่งหน้าทำผมเพื่อเตรียมสำหรับงานตอนเย็น ระหว่างทางเดินขึ้นไปบนห้องแต่งตัวเขาเจอกับคิม และนายเกมส์เพื่อนของคิมเขาจำได้ และอีกคนเขากลับไม่รู้จัก
ทั้งสามคนเห็นเขาก็เดินเข้ามาหาทันที มินหยุดนิ่งตั้งรับอีกฝ่าย
“จะไปเปลี่ยนชุดเหรอครับคุณหนูมิน” เกมส์เป็นฝ่ายพูดขึ้น เกมส์หนุ่มหล่อ ขาว ตี๋อินเทรนด์ หุ่นดีเพราะดูแลตัวเองอย่างดี ใครๆมองก็คงจะชอบไม่น้อย
มินเลยกอดอกนิ่งก่อนจะตอบ
“ใช่ มีอะไรเหรอ”
“เปล่าครับ ผมแค่อยากมาแนะนำตัวว่าผมชื่อเกมส์ ผมไม่อยากให้คุณหนูมินลืมผม แม้ว่าเหตุการณ์นั้นจะมาผ่านมาเกือบสองเดือนแล้วก็ตาม” เกมส์พูดพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์
มินชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะทำหน้าไม่สนใจ
“ขอโทษนะ พอดีฉันลืมง่าย อะไรที่ไร้ค่าก็ไม่อยากจะจำ”
“แล้วผมละครับลืมด้วยหรือเปล่า” ผู้ชายอีกคนพูดขึ้น ใบหน้าหล่อลูกครึ่ง รับกับผมสกินเฮดทำให้อีกฝ่ายดูหล่อ ร้ายไม่น้อย
“ผมต่อครับ” ต่อยื่นมือจะทักทายแบบสากล แต่มินเมินและไม่สนใจจะรับคำทักทาย
“จ้ะ แต่ฉันไม่รับปากว่าสมองฉันจะจำคนอย่างพวกนายหรือเปล่า”
มินพูดจบเดินออกมาทันที คิมที่ยืนเงียบอยู่นานพูดไล่หลังมา
“แต่ร่างกายคุณหนูมินคงจำรสรักของพวกเราสามคนในคืนนั้นได้มั้งครับ”
มินชะงักเล็กน้อยก่อนจะสูดลมหายใจเดินต่อ
เขาไม่มีวันหวั่นให้กับพวกนั้นเด็ดขาด
ทุกอย่างต้องไม่ล่มเพราะพวกเลวๆพวกนั้น
มินเปลี่ยนเป็นชุดราตรีสีขาวที่เขาต้องการ พี่เป็ดตัดใหม่ได้สวยและประณีตสมกับเป็นมือหนึ่งด้านนี้จริงๆ มินยืนมองตัวเองในกระจก เขาทำผมใหม่ไม่ได้ดูสวยหวานเหมือนเมื่อเข้า ผมยาวดัดให้เป็นลอนใหญ่สวยงามปัดผมเบี่ยงไว้ด้านซ้ายท้งหมดทำให้ดูสวยเฉี่ยว รับกับการแต่งหน้าที่เปรี้ยวขึ้นและริมฝีปากสีแดงสด
“น้องมินมั่นใจนะคะจะทำผมทรงนี้และปากสีนี้” พี่ไก่ช่างแต่งหน้ายิ้มให้เขาน้อยๆ
“มั่นใจสิพี่ไก่ ทำไมเจ้าสาวจะเปรี้ยวไม่ได้” มินตอบพร้อมเดินสะบัดกระโปรงใส่อีกฝ่าย เขาเดินลงมาด้านล่างพร้อมพี่เป็ด เพราะอีกฝ่ายเร่งให้เขาลงไปด้านล่างแล้ว แขกเริ่มทยอยมากันแล้ว
“น้องมินดูคนลุกส์กับตอนเช้าเลยนะคะ” พี่เป็ดพูดพร้อมมองเจ้าสาว
“เปลี่ยนลุกส์บ้างสิคะ เดี๋ยวคนเบื่อ” มินยิ้มหวานให้อีกฝ่ายแล้วเดินไปที่หน้างาน
เขาเดินมาก็เจอครามยืนหล่อในชุดสูททักซิโด้เข้ารูปทำให้อีกฝ่ายดูหล่อ และสง่าเพิ่มขึ้น
“ฉันว่าแบบนี้สิดูเป็นเธอมากกว่า” ครามพูดพร้อมมองเจ้าสาวเขาเต็มตา มินตอนเช้าสวยหวาน เหมือนเทพธิดา แต่ตอนนี้อีกฝ่ายสวย เฉี่ยว เปรี้ยวดูมั่นใจในตัวเอง สมกับเป็นตัวมิน
“ต้องเปลี่ยนได้หลายลุกส์สิ คุณสามีจะได้ไม่เบื่อ” มินกระซิบตอบข้างหูครามพร้อมยิ้มยั่ว
ครามโอบเอวอีกฝ่ายแน่นขึ้น ทั้งสองหันไปยิ้มการค้าให้ตากล้องและสื่อมวลชนที่เริ่มมาทำข่าวเก็บภาพบรรยากาศงานแต่งงาน
มินถ่ายรูปจนเสร็จบังเอิญหันไปสบตากับคิมที่ยืนจ้องมองเขาและครามอยู่ตลอด มินหันไปยิ้มหวานพร้อมเผยอปากให้อีกฝ่ายอย่างยั่วเย้า
คิมมองมินแล้วยิ้มมุมปากตาวาว มินดูสวยหวานในตอนเช้าเหมือนตุ๊กตากระเบืองเคลือบ แต่ตอนนี้กลับดูสวยสง่าและยั่งเย้าเขาจนเขาเกือบทนไม่ไหว
งานแต่งในตอนค่ำเดินงานไปอย่างเรียบร้อย มินสวยและดูสง่าจนทุกสายตาต้องจับจ้อง แขกผู้ชายหลายคนอดที่จะอิจฉาครามไม่ได้ ส่วนแขกผู้หญิงหลายคนอดที่จะอิจฉามินไม่ได้ที่ได้ครอบครองผู้ชายที่ได้ชื่อว่าไร้หัวใจอย่างคราม อย่างออกหน้าออกตา
“อย่าส่งยิ้มหวานให้ใครเยอะจนเกินไป รู้ไหมว่ามันดูยั่วมากขนาดไหน” ครามกระซิบข้างหูมินขณะที่ทั้งสองนั่งพัก
“หวงเหรอ” มินหันไปมองอีกฝ่ายและจ้องอีกฝ่ายอย่างซุกซน
“หึ ยังไงเธอก็ได้ชื่อว่าเมียฉันแล้ว”
“ฮ่าๆ” มินขำออกมาเบาๆ ครามมองอีกฝ่ายเจ้าเล่ห์ก่อนกัดหูอีกฝ่ายเบาๆแล้วกระซิบ
“กวนไปเถอะ เข้าหอคืนนี้โดนจัดหนักแน่”
มินหันมาสบตาอีกฝ่ายทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ ก่อนจะแลบลิ้นมองอีกฝ่ายอย่างยั่วเย้า
“คิดว่าฉันกลัว”
ทั้งสองต้องหยุดบทสนทนาเพราะโดนตามให้ไปรับรับแขก มินและครามหันไปยิ้มการค้าให้ ครามโอบเอวอีกฝ่ายแน่นพร้อมบีบ มินหันไปมองอีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนจะเดินไปพร้อมกัน
___________________________________________________________________
มาต่อให้แล้วครับ ขอโทษที่หายไปนานเพราะใกล้ช่วงสอบมิดเทอมมหาลัยแล้ว
แต่คนเขียนก็จะพยายามมาต่อให้ไม่หายไป
เหมือนคนอ่านจะหายไปแหะ คงไม่ชอบแนวนี้แน่เลย แต่ยังไงคนเขียนก็จะเขียนต่อไป และขอบคุณสำหรับคนที่ไม่ทิ้งกัน
ขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ