09
[/b]
“
ว่าไงเด็กเตี้ย ทำไมทำหน้าเศร้าแบบนี้หืม ? ”
คนที่ทักผมด้วยประโยคนี้ก็คือพี่ต้นเล็กครับ ตอนนี้ผมกับพี่ต้นอยู่ที่ร้านกาแฟใกล้ๆหอพักผม ร่างเล็กที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกำลังดื่มโกโก้เย็นแบบที่พี่เขาชอบ ก่อนจะตามด้วยการตักเครปเค้กเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
“ นี่ชวนผมมานั่งดูพี่กินโกโก้ กินเค้กเหรอพี่มง ” ผมพูดอย่างติดตลก และตามท้ายด้วยชื่อพี่มงอีกที เมื่อคนตรงหน้าได้ยินคำลงท้ายแบบนี้ก็ได้แต่ส่งสายตาแบบเคืองๆมาให้
“ พี่ต้นก็พอเถอะ แล้วพี่ก็จะถามด้วยว่า ทำไมวันนี้เราถึงได้ไปกินข้าวโต๊ะเดียวกันกับไอ้เอ็มได้ ” คนตรงหน้าถามขึ้นแล้วหยุดการกระทำต่างๆ ยกมือขึ้นกอดอกและแค่มองหน้าผมนิ่งๆเท่านั้น
พอผมได้ยินคำถามที่ออกมาจากร่างเล็ก ผมก็หลุดขำออกมาอย่างฝืนๆ ถามตรงประเด็นดีจริงๆ
“ พี่เห็นด้วยเหรอ ว่าแต่พี่จะเอาแบบไหนล่ะ เอาคำตอบที่ฟังแล้วสบายใจหรือว่า คำตอบจริงๆ ”
“
ไหนลองตอบแบบสบายใจดิ ”
เมื่อได้ยินคำตอบจากอีกฝ่ายผมก็เอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย แล้วส่งยิ้มมุมปากไปให้
“
ผมคุยกับพี่เอ็มเรียบร้อยแล้ว เรื่องระหว่างผมกับเขา เมื่อกลางวันพี่เขาก็แค่เรียกให้ไปกินข้าวด้วยกัน โมเม้นนี่ดีสุดๆใช่มั้ยล่ะพี่ต้น ”
“ เอาที่เฟรนสบายใจเลยล่ะกัน ” อีกฝ่ายที่ได้ยินคำตอบผมแล้วกลับถอนหายใจออกมาแล้วดูดน้ำโกโก้ไปซะอึกใหญ่
“
ลองคำตอบเรียลๆ จริงๆสิ ”
ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ เมื่อพี่เขาถามถึงคำตอบจริงๆ ผมเท้าแขนลงบนโต๊ะเสหน้ามองไปทางอื่น แทนการมองไปยังใบหน้าเล็กของอีกฝ่ายที่ได้แต่ส่งยิ้มล้อเลียนมาให้
“ พี่ต้น .. ผม .. ไม่รู้จะพูดอย่างไงว่ะพี่ ”
“ แค่พูดระบายให้พี่ฟังเหมือนอย่างเคยก็พอ ” น้ำเสียงที่ติดจะใจดีเอ่ยบอก
“ผม .. . ผมคุยเรื่องที่ผมรู้สึกอย่างไรกับพี่เขาแล้ว ”
ผมหลุบตาลงต่ำ ริมฝีปากบางมันยากเกินกว่าจะให้มันเปิดปากออกแล้วพูดประโยคถัดมา ร่างเล็กที่นั่งอยู่ตรงหน้านั้นยื่นมือมาจับมือผมแล้วบีบเบาๆ อย่างให้กำลังใจก่อนที่เจ้าตัวจะสิ่งยิ้มบางมาให้อย่างปลอบโยน
ผมเม้มริมฝีปากตนเองแล้วพูดขึ้นต่อ พอกลับมานึกถึงเรื่องนี้แล้ว ทำไมมันถึงได้เจ็บหนึบๆ แบบนี้นะ
“ แต่ผลที่ได้ มันไม่ได้ออกมาดีอย่างที่คิดๆกันไว้หรอกพี่ ผมว่าผมพลาดเอง คิดไปเองว่ารู้จักคนอย่างพี่เอ็มดีพอ และพี่เขานั้นน่าจะเข้าใจและให้โอกาส
ดีๆกับผม ”
คำว่าดีๆ ผมเน้นเสียงออกมาหนักๆ เพราะโอกาสที่พี่เอ็มให้นั้น ไม่ได้ดีอะไรเลย แล้วร่างสูงที่ผมอยากอยู่ใกล้ก็ได้แต่ทำร้ายความรู้สึก เหมือนว่าเขานั้นไม่ได้รู้สึกตัวว่าตนเองได้ฉีกความรู้สึกดีๆที่ผมมีให้ต่อเขา ทิ้งไปเรื่อยๆ
เหมือนความรู้สึกของผมนั้นไม่มีที่สิ้นสุด เขาถึงได้ทำแบบนี้อย่างไม่นึกถึงจิตใจผม “ แล้วสิ่งที่เราได้กลับมาล่ะเฟรน มันคืออะไร ” เสียงนุ่มติดจะแผ่วเบา เอ่ยถามต่อ
“ สิ่งที่ได้กลับมา มันก็คือโอกาสเหมือนกันพี่ต้น แต่ผมว่ามัน . .. . ไม่ได้ดีเลยสักนิด พี่ก็เห็นแล้วใช่มั้ย ตอนกลางวันที่ผมไปนั่งโต๊ะเดียวกันกับพี่เอ็ม . .ก็เพราะพี่เอ็มเรียกให้ผมไป
ไม่ว่าโอกาสที่เขาให้จะดีหรือไม่ดี มันจะส่งผลถึงความรู้สึกผมอย่างไรผมก็พร้อมที่จะไปหาเขา เพียงแค่เขาเรียกหาผม แล้วพี่ต้นเห็นอีกรึเปล่าล่ะว่าเมื่อตอนกลางวันมีใครนั่งอยู่อีกคน ”
เมื่อผมพูดมาจนถึงจุดนี้ ผมทำได้แค่ยิ้มหยันออกมา ขอบตาของผมเริ่มร้อนผ่าว .. แต่มันก็ทำหน้าที่ได้แค่นั้น
ไม่มีแม้แต่น้ำตาที่จะคลอขอบตาแม้แต่น้อย . .. มันทำหน้าที่ของมันได้ดีแล้ว ไม่ต้องแสดงด้านอ่อนแอให้ใครเห็น . .. มันยังไม่เจ็บมากซักหน่อย ไม่ต้องร้องออกมาหรอก
“ พี่เห็นแล้วเฟรน . .. ข้าวปุ้นใช่มั้ยที่อยู่กับเราด้วย ”
ชื่อของผู้หญิงของเขา กลับเข้ามาในความทรงจำของผมอีกครั้ง แค่ได้ยินชื่อเธอ ก็รู้สึกเหมือนว่าภาพเหตุการ์ณในช่วงกลางวันไหลกลับเข้ามาตอกย้ำอีกครั้งและอีกครั้งแบบไม่รู้จบ
ทำไมสิ่งที่พี่เอ็มยื่นมาให้ผมนั้นช่างทำร้ายความรู้สึกผมจริงๆ
“ ครับ ผมอยู่กับพี่เอ็มและ . .. พี่ข้าวปุ้น เธอเป็นคนน่ารักนะพี่ต้น เหมือนจะนิสัยดีด้วย .. ..
ไม่แปลกที่พี่เอ็มจะสนใจและคุยๆกับเขาอยู่เหมือนกัน ”
สิ้นสุดน้ำเสียงผม คิ้วเรียวของอีกฝ่ายที่กำลังตั้งใจฟังสิ่งที่ผมเล่าอยู่ค่อยๆขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะจ้องหน้าผม
“ เดี๋ยวนะเฟรน .. เมื่อกี้เรากำลังบอกเป็นนัยๆกับพี่ว่า ไอ้เอ็มกำลังคุยๆกับข้าวปุ้นเหมือนกันเหรอ ? ” พี่ต้นทวนคำพูดอย่างไม่เชื่อหูตนเองนั้นว่าได้ยินอะไรที่มันถูกต้องแล้ว
“ อ่า .. ใช่ ” ผมพยักหน้าเบาๆตอบรับอีกคน
“ งั้นก็แสดงว่า ไอ้เอ็มมันก็คุยกับเราแล้วก็คุยกับข้าวด้วยงั้นเหรอ ” พี่ต้นเล็กได้แต่ส่งสีหน้าที่เหมือนจะมีแต่เครื่องหมายคำถามมาให้ผม
“ ก็คงจะแบบนั้นแหละครับ ก็เมื่อกลางวันเรียกผมไปดูคนของเขาเองนี่น่า เปิดตัวเรียบร้อยเชียว ”
“ แล้วไอ้เอ็มได้พูดเรื่องเฟรนกับข้าวปุ้นมั้ย หรือบอกแค่ว่าเราเป็นน้อง แบบนั้นเหรอ ”
ผมไม่ได้พูดอะไรออกไปแค่พยักหน้ารับอย่างเดียว แล้วส่งยิ้มกว้างไปให้อีกฝ่าย ไม่ได้ส่งยิ้มไปเพื่อบอกพี่ต้นเล็กว่าตนเองนั้นไม่เป็นไร แต่แค่ยิ้มรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น
คนมีความรักเขาเป็นแบบผมกันรึเปล่า นะ . .
เริ่มไม่แน่ใจซะแล้วสิว่าสิ่งที่ผมกำลังเผชิญอยู่ นั้นเรียกว่าอะไรกันแน่
มันคือความรักที่ผมอยากจะมีจริงๆเหรอ
พอได้มาสัมผัสกับคำว่าโอกาสที่ผมอยากได้หนักอยากได้หนาในวันนี้ ทำให้ความคิดของผมค่อยๆเปลี่ยนไปทีละเล็กทีละน้อย
คนที่มีความรัก คนที่อยากได้โอกาส . .. มันต้องรู้สึกแบบผมไหมนะ เขาจะพยายามกันแค่ไหน คนรักของเขาจะเป็นแบบพี่เอ็มรึเปล่า พี่เอ็มได้แสดงให้เห็นว่าในวันนี้ คือสิ่งที่เขาจงใจอยากให้ผมรับรู้ว่าที่จริงแล้วเขาเป็นคนแบบไหน เพื่อให้ผมรู้ว่าสิ่งที่ผ่านมานั้นเกี่ยวกับตัวพี่เอ็มเอง สิ่งที่ผมเห็นสิ่งที่ผมคิดว่ารู้จักดีพอ นั้นไม่ใช่อีกต่อไป .. ที่ผมเห็นก่อนหน้านั้นคือสิ่งที่ผมพี่เอ็มแค่เพียงด้านเดียว . ..
แต่อีกด้านที่เขาแสดงให้เห็นผมกลับไม่เคยเห็นเลย พึ่งจะได้รู้ว่าวันนี้ เขานั้นก็มีอีกหลายๆด้านที่ผมยังไม่รู้ ไม่เคยสัมผัสมาก่อน และอาจจะมีอีกหลายๆด้านก็ได้ ที่ผมจะแปลกใจ ถ้าพี่เขาเปิดเผยมันออกมา
แต่ความรู้สึกของผมที่มันเอ่อล้นอยู่ตอนนี้ .. มันจะอยู่จนถึงวันที่พี่เอ็มนั้นยอมรับในตัวผมรึเปล่า ผมเองก็ยังไม่แน่ใจ
คล้ายๆ ว่าสิ่งที่พบ สิ่งที่ได้สัมผัสตอนนี้ ผมนิยามว่ามันเป็นความรักในแบบของผม การที่ผู้ชายคนนึงนั้นรักหรือชอบผู้ชายอีกคนนึง .. คนภายนอกนั้นอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไม่ดี
คนอื่นๆอาจจะต้องการให้ผู้ชายคนนั้นลงเอยกับผู้หญิงที่ดีกว่า คนอื่นๆอาจจะอยากให้เป็นไปในรูปแบบนั้น
แต่สำหรับผมคือไม่ ..
ความรักของผม ชีวิตผม ผมเลือกเองได้ นิยามความรักในแบบของตนเองได้ ยิ่งตอนนี้สถานะเราสามคนแบบนี้
อย่างไรซะมันคงเป็นไปไม่ได้
ถ้าจะมีความสุขไปกันหมดทั้งสามคน ความเป็นจริงก็จะมีเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่จะมีความสุขที่สุด และก็จะมีอีกหนึ่งคนที่เหลืออยู่ ยืนมองสองคนนั้นด้วยความรู้สึกว่างเปล่า
และตัวผมเองก็ไม่ได้อยากเป็นแค่เพียงชายคนนั้นที่ว่ามา ไม่อยากยืนส่งยิ้มโง่ให้ใครอีกต่อไปแล้ว
บอกตนเองเสมอว่าถ้ามันเจ็บ .. . เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น อย่าไปฟูมฟาย เรายังไม่ได้ลองพยายามอะไรที่มันมากกว่านี้เลย
ถ้าปล่อยทิ้งไปกลางคัน โอกาสที่ได้มามันจะศูนย์เปล่า
มันไม่คุ้มกันหรอก กับความรู้สึกดีๆที่เสียไป
“ เฟรน .. .. ถ้าเรื่องมันเป็นแบบนี้ ถ้าไอ้เอ็มมันสนใจข้าวปุ้นมากกว่า เราต้องอยู่ในสถานการณ์เป็นตัวเลือกให้ไอ้เอ็มมันนะ .. ” เสียงของร่างเล็กเอ่ยขัดความคิดของผมที่ล่องลอยไปกับอากาศ
“ พูดซะดูดีเชียวนะ เ
ป็นตัวเลือกงั้นเหรอพี่ต้น .. ที่จริงมันก็เป็นตัวสำรองดีๆ ไม่ใช่เหรอพี่ ” ผมได้แต่เอ่ยถามย้อนกลับไปหาเจ้าของคำถามก่อนหน้านี้
“ และอีกอย่างนะพี่ต้น ผมไม่ได้อยากจะยอมหรอก
ตัวสำรองน่ะ .. . มันฟังดูเหมือนไม่มีค่าเลยใช่มั้ยล่ะพี่ ”
มันดูไม่มีค่า เพื่อให้อีกคนมองหาเลยจริงๆ .. ==================================================================
มาแล้วค่าาา ขอโทษที่เราหายไปนานน้า
นิยายเราเป็นแบบแต่งไปลงไป บางทีเราก็แต่งๆดูแล้วแต่มันไม่ใช่เลยลบไปหลายทีเลย แหะๆ
ฝากติดตามพี่เอ็มกับน้องเฟรนด้วยนะ 555555 ตอนนี้มีอิพี่ต้นเล็กแว้บมาด้วย มาเป็นที่ระบายของน้องค่ะ
ตอนนี้บางคนอาจจะอ่านแล้วไม่ดีพอน้า แต่ก็ฝากติคอมเม้นด้วยนะค้า ขอบคุณทุกคนมากๆนะค้าที่เข้ามาอ่าน ทุกๆคนเลย
และสำหรับคนที่จะสอบแกทพรุ่งนี้ ก็ขอให้สู้ๆด้วยน้า ตั้งใจสอบนะคะ