"พี่ตุ๋น?"ผมทักมึนๆ มาอยู่นี่ได้ไงวะ หรือผมประสาทหลอน ผมกระพริบตาก่อนจะหันไปมอง
"พี่...มาได้ไง"ผมทักงงๆก่อนจะหัวเราะ อีกฝ่ายไม่ตอบแต่เดินเข้ามาใกล้ผมจนผมต้องยกมือขึ้นห้าม
"พี่มีอะไรอ่ะ"ผมมุ่นคิ้วมอง
"พี่เห็นคลิปเมฆแล้ว"หา คลิปไหนอีกวะ
"คลิป? คลิปหนีบกระดาษรึเปล่า"ผมหัวเราะกับมุกเก่าๆของตัวเอง
"คลิปเมฆGVที่เคยดังเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนน่ะ"ผมขมวดคิ้วมันที
"พี่เอามาพูดอีกทำไม แล้วคนในคลิปมันก็ไม่ใช่ผม ชื่อเภาต่างหาก ไปหาในกูเกิ้ลดูนะ เผื่อจะเจอ"ผมผลักอีกฝ่ายออกอย่างหงุดหงิดแต่ไอ้พี่ตุ๋นกลับคว้าต้นแขนผมไว้ทำเอาเซไปชนขอบอ่างล้างหน้าจนเจ็บ
"ถ้าเห็นๆชัดๆถึงจะพิสูจน์ได้ว่าใช่หรือไม่ใช่"
"พูดอะไรหมาๆวะ ปล่อยกู"ผมแกะมือที่กำรอบต้นแขนผมออก ไอ้พี่ตุ๋นพยายามลากผมเข้าไปในห้องน้ำ
"ครั้งก่อนก็มีคลิปหลุดในห้องน้ำไม่ใช่เหรอ พี่ยังเห็นไม่ชัดเลย"ผมรังเกียจสีหน้าและท่าทางของไอ้พี่ตุ๋นจนไม่รู้จะบรรยายยังไง ยังไม่ทันที่ผมจะได้ร้องขอความช่วยเหลือประตูห้องน้ำก็ปิดดังปัง
"ปล่อย!"เสียงนี้ไม่ใช่เสียงของผมแต่เป็นเสียงของไอ้ภาคิน มันมาได้ยังไง แต่สีหน้าของมันทำเอาผมใบ้กิน นี่มันไอ้ภาคินจอมร้ายกาจแน่ๆ พี่ตุ๋นมองผมสลับกับไอ้ภาคิน
"คู่ขาเหรอ"
"ไอ้เวร"ผมสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของมันเต็มแรง ภาคินผลักผมไปด้านหลังก่อนจะเข้าไปคว้าคอเสื้อไอ้พี่ตุ๋นแล้ว
กระแทกอีกฝ่ายเข้ากับผนังห้องน้ำเต็มแรง
"หุบปากพล่อยๆของคุณซะแล้วก็จำไว้ด้วยว่าอย่ามาแตะต้องแฟนคนอื่น"มันไม่ได้ต่อยพี่ตุ๋น แต่แค่เหวี่ยงพี่เขาลงไปกองกับพื้นแทน มีคนเปิดประตูห้องน้ำเข้ามาแต่ก็ตกใจที่เห็นพี่ตุ๋นนอนกลิ้งอยู่กับพื้น ภาคินเข้ามาดึงให้ผมเดินตาม
"จะไปไหน"ผมถามมึนๆ แต่ก็จำได้ลางๆเมื่อมันพามายังหลังร้านก่อนจะเข้าไปในห้องอีกห้องหนึ่งแล้วปิดประตูตามหลัง ผมทรุดนั่งลงกับพื้นก่อนจะลูบต้นแขนที่ถูกบีบจนเจ็บ
"ไหนบอกว่า--"ภาคินตั้งท่าจะบ่นผมแต่ผมรีบยกมือห้ามเมื่อรู้สึกผะอืดผะอมอย่างประหลาด
"เป็นอะไร"มันถามเสียงเป็นกังวล แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อผมแหวะอ้วกออกมา
"เมฆ"ภาคินเข้ามาลูบหลังก่อนจะบ่น
"รู้ว่าดื่มมากไม่ได้ก็ยังจะกระดกเอาๆอีก"ผมทำหน้าบูด อารมณ์หงุดหงิดพุ่งมาจากไหนก็ไม่รู้
"เพราะมึงอ่ะ..."ภาคินชะงักเล็กน้อย มันเลิกคิ้วอย่างงุนงง
"ฉันทำไม"มันถามเสียงนุ่ม
"เหอะ กูโดนดูถูกอีกแล้ว ไอ้เรื่องGVคลิปโป๊อะไรนั่น แล้วยังคลิปในห้องน้ำนั่นอก เป็นเพราะมึงไงเรื่องถึงได้เกิด กูเหนื่อยมากเลยมึงรู้ไหมวะ กับทุกเรื่องที่กูต้องเจอ กูไม่อยากบ่นนะเว้ยเพราะกลัวมึงคิดมากไง กูแคร์มึงมากๆ คิดมากเรื่องของมึง เครียดแทนมึง จนกูอาจจะดูวุ่นวายน่ารำคาญแต่กูเป็นห่วงมึงไงไอ้คิน ก็เข้าใจนะว่าเป็นเรื่องของมึงแต่กูก็อยากเสือก"ผมพึมพำเรื่องซ้ำซากเบาๆก่อนจะกุมขมับที่เริ่มปวดอีกครั้ง ภาคินไม่ได้พูดอะไรแต่พยายามพยุงผมให้ลุกขึ้น
"ขึ้นไปนอนบนเตียงดีๆ"
"มึงรู้ไหมคิน กูน่ะบางทีก็อึดอัดนะเว้ยที่ต้องเจอคนเยอะๆ แต่กูแคร์มึง มึงคงรู้นะว่าทำไมกูถึงยอมอยู่ตรงนี้ทั้งๆที่มันไม่เหมาะกับกู มึงรู้ใช่ไหม"
"อืม ขอโทษนะ ที่ทำให้เจอเรื่องแย่ๆ เมื่อก่อนก็เอาแต่คิดว่านายโอเค...ขอโทษที่ทำให้อึดอัด"
"มึงอย่าพูดแบบนี้ดิวะ ขอโทษทำไม กูเลือกที่จะอยู่ตรงนี้เอง"ภาคินยิ้มบางก่อนจะเอื้อมมือมาปัดผมที่ปรกหน้าผากไปด้านข้าง
"งั้นก็ขอบคุณที่ไม่หนีฉันไปไหนนะเมฆ"
"กู...นี่ ภาคิน ฟังนะเว้ย ถ้ามึงเหนื่อย มึงก็พัก มึงไม่ได้เหลือตัวคนเดียวเหมือนเมื่อก่อนนะ มึงยังมีกูเสมอ"ผมได้ยินเสียงมัน
หัวเราะนะหว่างที่วางผมลงบนเตียงแคบๆแข็ง ๆ
"นอนดีๆ เดี๋ยวมานะ"ผมอือออหลับคำก่อนจะนอนหลับตาเงียบๆ ได้ยินเสียงประตูปิด ก่อนที่ความเงียบจะคลืบคลานเข้ามา ผมพลิกตัวๆไปอีกด้านแต่รู้สึกโหวงๆเหมือนจะหล่นจากเตียงก็เลยขยับตัวเข้าไปด้านใน ผมเริ่มสงบมากขึ้น จนเสียงประตูดังขึ้นมาอีกครั้ง ผมปรือตามองภาคินที่กำลังก้มๆเงยๆอยู่ที่พื้นห้อง ผมย่นคิ้วก่อนจะดันตัวเองขึ้นมานั่งมองภาคินเช็ดอ้วก
"ทำอะไร..."ยังจะถามอีก แต่ห้ามตัวเองไม่ทัน ภาคินเงยหน้ามองผม
"เช็ดอ้วกไง เมาแล้วก็นอน"มันหายออกไปจากห้องอีกครั้ง ผมย่นจมูกเพราะกลิ่นเปรี้ยวๆ ก่อนจะเอนพิงผนังห้องเย็นๆ ภาคินกลับเข้ามาอีกครั้งก่อนจะนั่งลงที่ปลายเตียง
"นอนพักก่อนสิ ได้สติแล้วค่อยกลับกัน"มันชี้ลงที่เตียงนอน ผมแค่นหัวเราะทั้งๆที่ไม่มีอะไรให้ขำ
"ทำไมพูดยากพูดเย็นจัง"
"นายเบื่อฉันไหม"ผมขยับเข้าไปถามมัน อีกฝ่ายหันมาสบตากับผม
"ไม่เคยเบื่อ ทำไมคิดแบบนั้น หืม"มันมองผมด้วยสายตาขบขัน
"แล้ว...รำคาญฉันรึเปล่าที่ฉันพูดมาก"ผมขยับเข้าไปใกล้มันอีกจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย
"ก็...ไม่นี่"ภาคินเบือนหน้าหนี ผมขมวดคิ้วมากกว่าเดิมก่อนจะยกมือประคองใบหน้าให้มันกลับมามองผม
"จริง?"
"อือ..."มันตอบเบาๆ เม้มปากเข้าหากันก่อนจะถอนหายใจออกมาช้าๆ
"เดี๋ยวฉันออกไปข้างนอก..."
"เฮ้ย ทำไม อยู่ห้องเดียวกับฉันมันจะตายรึไง"ผมเริ่มหงุดหงิดก่อนจะปิ๊งไอเดีย ภาคินกลืนน้ำลายเมื่อผมขยับมานั่งบนตักมันแทน
"ทีนี้นายก็หนีฉันไม่ได้แล้ว"ทำไมมันถึงอยากออกไปนอกห้องอยู่เรื่อยเลยวะ
"เมฆ..."เสียงแหบๆของมันดังอยู่ข้างหูเมื่อผมซบหน้าลงกับลาดไหล่เพื่อบรรเทาอากาศปวดหัวผมครางอือตอบในลำคอ แต่อีก
ฝ่ายก็เงียบ จนผมเงยหน้าขึ้นมามองมันงงๆ ลมหายใจอุ่นร้อนรวยรินอยู่ใกล้ๆ ใบหน้าของอีกฝ่ายโน้มลงมาใกล้ แต่จู่ๆก็มีลมตีขึ้นมาจนผมรู้สึกอยากจะอ้วกอีกครั้ง
"จะ...อ้วก"ผมยกมือขึ้นปิดปากตัวเองก่อนจะดีดตัวออกห่างจากภาคิน
"อ้วกใส่ถุงนี่ดิ--"ไม่ทันแล้วอีกตามเคย ผมปล่อยอ้วกออกมาอีกครั้ง ภาคินยืนเท้าเอวมองผมด้วยสายตาเหมือนไม่คิดว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้
"ก็ว่า ทำไมเพื่อนนายถึงขำนักหนาตอนที่เจอฉัน"ได้ยินมันบ่นพึมพำ
"จะไปไหน"ผมหันไปถามเมื่อมันเปิดประตูห้องอีกครั้ง
"เอาผ้ามาเช็ดอ้วก"เหมือนมันพยายามตอบอย่างอดกลั้น ผมหัวเราะหึๆ ภาคินกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับเช็ดอ้วกอีกรอบ
"ฉันอยากกลับบ้านว่ะ"ผมไม่อยากให้มันมาคอยเช็ดอ้วกให้ผม ผมกระเถิบตัวลงจากเตียง ร่างสูงรีบเข้ามาช่วยจับตัวผม
"มาทางนี้ คนเยอะ"มันกระซิบก่อนจะดึงผมให้เดินไปที่ทางออกที่อยู่มุมสุด ผมสูดหายใจเข้าลึกๆเมื่อออกมาด้านนอกแล้ว ภาคินหันมามองผมด้วยสีหน้าเป็นกังวล
"ดีขึ้นบ้างหรือยัง เมฆ"ผมแค่พยักหน้าให้มันแต่ก็หยุดเพราะมึนหัว ภาคินเดินนำผมไปที่รถด้วยท่าทางระแวดระวัง มันเปิดประตูก่อนจะดันให้ผมเข้าไปนั่งในรถอย่างไม่ค่อยนุ่มนวลนัก ผมเอนพิงเบาะรถ ได้ยินเสียงปิดประตูปัง
"ลูกอม"ได้กลิ่นมิ้นท์จางๆมันยื่นเม็ดลูกอมแตะปากของผมเบาๆ ผมอ้าปากงับลูกอมมาเคี้ยวเล่น ทันเห็นอีกฝ่ายส่ายศีรษะไปมา
“เป็นอย่างที่เพื่อนนายบอกจริงๆด้วย นี่ถ้าฉันไม่มา นายจะเละเทะแค่ไหน”ได้ยินเสียงมันบ่นอยู่ใกล้ๆ
“อืมมม” ผมหลับตาลงอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหนเพราะรู้สึกตัวอีกทีผมก็มานอนอยู่บนเตียงแล้ว ผมปรือตามองอย่างงุนงง ที่ไหนวะ ผมควานมือไปที่ว่างข้างตัวและพบว่าว่างเปล่า เมื่อดวงตาชินกับความมืดแล้วผมก็จำได้ว่า อยู่ในห้องนอนของ
ภาคิน เพราะเจ้าตุ๊กตาหมีสองตัวที่ได้มาใหม่นั่งมองมาจากโซฟาปลายเตียง แล้วภาคินไปไหน...
ผมค่อยๆลุกจากเตียง ยืนหลับตาสักพักเมื่อเท้าสัมผัสกับพื้นห้องเย็นๆแล้ว ผมก้มมองเสื้อนอนที่ใส่อยู่ มันคงเปลี่ยนให้ล่ะมั้ง ผมได้ยินเสียงทีวีแว่วๆมาจากนอกห้อง พอเดินออกไปก็พบว่าภาคินนอยกอดหมอนอิงหัวพิงโซฟาหลับอยู่ แล้วทำไมมาหลับตรงนี้ไม่ไปนอนด้านใน ผมปิดทีวีก่อนจะยื่นมือไปสะกิด แต่ก็ชะงัก เมื่อคิดวิธีดีๆได้ ผมค่อยๆนั่งลงข้างๆช้าๆ ก่อนจะเป่าลมเข้าหูอีกฝ่ายเบาๆ พอให้จั้กจี้ ภาคินขมวดคิ้วยุ่ง ผมยิ้มก่อนจะเป่าแรงมากขึ้นจนมันสะดุ้งตื่น แต่มันกลับผลักผมออกเต็มแรงจนผมหงายหลัง
"โอ๊ย เชี่ยย"ผมสบถ ก่อนจะมองไอ้ภาคินที่ขยี้ตามองผม
"มาเงียบๆทำไมตกใจหมด เล่นอะไรก็ไม่รู้"มันลูบแขนตัวเองไปมา
"แล้วมานอนข้างนอกทำไม"มันเลิกคิ้วทันที
"ฉันหวังดีกับนาย ไม่อยากให้นายเจ็บตัว"ผมย่นหน้า...เจ็บตัวแบบไหน…ผมหน้าร้อนขึ้นมาเมื่อพอเดาๆว่ามันหมายถึงอะไรผมหรี่ตามองอีกฝ่ายที่กระแอมกระไอเบาๆ นึกอะไรสนุกๆออกแล้วสิ ผมยิ้มก่อนจะเข้าไปใกล้ๆอีกฝ่ายมากขึ้น
"อ้อ...นายหวังดีกับฉันนี่เอง"ผมนึกขำเมื่อเห็นภาคินเอนตัวห่างออกจากผมอย่างแนบเนียน
“รู้ไหมว่าเมาแล้วทำตัวป่วนแค่ไหน"ผมก็เคยได้ยินไอ้พวกเพื่อนมันบ่นๆมาเหมือนกัน
“ลำบากมากไหม”ผมกลั้นหัวเราะ
“แล้วคิดว่าไงล่ะ นายแหวะอ้วกใส่ตัวเองด้วย”ภาคินย่นจมูก ที่แท้มันเปลี่ยนเสื้อให้ผมก็เพราะแบบนี้นี่เอง
“ขอโทษที่ทำให้เหนื่อย”ภาคินหันมาสบตากับผม ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ แต่จู่ๆมันก็ลุกยืนบิดตัวไปมา
“เดี๋ยวจะไปคั้นน้ำส้มให้”มันเดินหายเข้าไปในครัว ผมเดินหน้ายุ่งเข้าไปดู มันกำลังแกะเปลือกส้มอยู่ ผมเอาคางเกยกับโต๊ะมองร่างสูงที่ใส่ส้มลงไปในเครื่องคั้นอย่างคล่องแคล่ว มันเหลือบมองผมก่อนจะเลื่อนแก้วน้ำส้มมาให้
“เผื่อจะรู้สึกดีขึ้นบ้าง”ผมรับแก้วน้ำส้มมาจิบ เปรี้ยวไปหน่อยแต่ก็โอเค ผมพยายามนึกว่าตัวเองทำอะไรประหลาดๆลงไปหรือเปล่า
“ฉันเมาแล้ว…ทำอะไรตลกๆบ้างหรือเปล่า”ผมถามช้าๆ ภาคินล้างมือก่อนจะนั่งลงตรงข้ามผม
“เปล่า แต่นายพูดเรื่องเดิมๆซ้ำๆจนฉันจำได้ขึ้นใจเลย”ผมมุ่นคิ้วมากกว่าเดิม
“ทำไมไม่บอกฉันล่ะว่านายอึดอัด ทำไมต้องทำเหมือนนายโอเคด้วย”มันพูดขึ้นมาเบาๆ
“ก็แค่รู้สึกเป็นบางครั้งน่ะ”ผมคลึงแก้วน้ำส้มเล่น
“ขอโทษที่ทำให้นายคิดมาก ฉันนี่แย่จริงๆเลย เพราะฉันเอาแต่คิดว่านายมีเหตุผลและทุกครั้งนายก็รับเรื่องพวกนี้ได้จนทำให้บางครั้งก็ไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของนายเลย ฉันนี่มันเอาแต่ใจจริงๆเลย”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้นายรู้สึกแย่นะ”ไม่รู้ว่าเมาแล้วผมพูดอะไรออกไปมากแค่ไหน
“ถ้านายว่าง ฉันจะพาไปเยี่ยมคนๆหนึ่ง…”ผมเงยหน้าจากแก้วน้ำส้มขึ้นไปมองอีกคน
“ใครเหรอ”
“เขาเป็นคนที่ฉันเคยขับรถชนเมื่อสองปีก่อนน่ะ ตอนนั้นข่าวไม่ดังมากเพราะฉันเองก็ชดใช้ให้คู่กรณี และโกหกสื่อว่าอีกฝ่ายไม่ได้เจ็บหนักอะไร”นี่คือเรื่องที่มันปกปิดไว้สินะ
“แล้วตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้างล่ะ”ภาคินดูเหม่อลอย
“ก็…จะพูดยังไงดีล่ะ ถึงบาดแผลของเขาจะหายไปแล้ว แต่เขาก็กลับไปใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิมไม่ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะบอกว่าไม่โกรธฉันแล้วก็เถอะ นี่ถึงทำให้ฉันสนับสนุนโครงการช่วยเหลือคนพิการ”ผมใจหายวูบขึ้นมา ถึงขั้นพิการเลยเหรอ ภาคินคงรู้สึกแย่มากๆแน่ๆ ผมเอื้อมมือไปบีบมือมันเบาๆ
“ตอนนั้นเป็นช่วงที่ชีวิตของฉันเริ่มจะตกต่ำ ทะเลาะกับพ่อแม่เพราะเรื่องนี้แล้วก็อีกหลายๆอย่าง”มันไหวไหล่ ผมถอนหายใจ
“ทำไมถึงอยากพาฉันไปขึ้นมาล่ะ”หรือผมเมาแล้วพูดอะไรออกไปอีก
“ฉันอยากให้นายรู้ไว้ก่อนน่ะ เผื่อจะมีข่าวทำนองนี้ออกมาอีก”ผมพยักหน้า
“ไม่ต้องคิดมากหรอก ภาคิน”
“ฉันดูเหมือนตัวโกงเข้าไปทุกทีเลยใช่ไหม”มันหัวเราะเบาๆ
“นายว่าฉันเลวรึเปล่า”
“คนเลวน่ะไม่สำนึกผิดหรอก”ผมรู้สึกแย่ขึ้นมาเพราะแบบนี้สินะ ภาคินมันถึงไม่อยากบอกเรื่องนี้กับผม แล้วส่วนลึกๆผมยังอยากจะรู้เรื่องนี้อีก ผมเองก็เอาแต่ใจมากเหมือนกัน
“ฉันไม่ได้ตั้งใจให้นายรู้สึกแย่ๆ”ภาคินแค่ส่ายหน้ายิ้มบางให้ผม
“ช่างเถอะ แต่ฉันขอบคุณนายมากเลยนะ ที่เมาแล้วระบายออกมาให้ฉันฟังจนหมด ทำให้ฉันรู้ว่านายคิดยังไง ต่อไปถ้าอึดอัดก็บอกสิ อย่าฝืนเข้าใจไหม”
“อือ นายก็ด้วยถ้าฉันเอาแต่ใจมากไป ฉันอนุญาตให้นายตีฉัน”
“เปลี่ยนเป็นลงโทษอย่างอื่นแทนได้หรือเปล่า”มันทำสายตาเจ้าเล่ห์
“ก็…นอนกันเถอะ”ผมตัดบทก่อนจะเดินหนีมันเข้าไปในห้อง ได้ยินเสียงหัวเราะของมันดังแว่วตามมา
“วันนี้นายดื้อ ฉันไม่ให้นอนง่ายๆหรอก”ภาคินเดินตามเข้ามาก่อนจะปิดประตูห้อง
TBC.
ภาคินกับเมฆใกล้จะจบแล้ว ตอนนี้กำลังฝึกให้น้องแมวยั่วอยู่
ว่าจะเอาตอนหวานๆมาเสิร์ฟ แต่ยั้งมือตัวเองไม่ทัน รอตอนหน้าเนอะ
ฝากโหวตโพลล์ด้านบนด้วยน้า ขอบคุณที่ติดตามนะคะ