ความลับที่หก
มีแต่ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างผมกับน้อง เสียงหอบแผ่วเบาลงเรื่อยๆเพราะผมกำลังโน้มหน้าลงไปจูบน้องอีกครั้ง
ครั้งนี้น้องลมไม่ได้เอ่ยคำขอใดๆ เป็นจูบที่มาจากความต้องการของผมคนเดียว
เสียงครางแผ่วเบาอยู่ข้างหูผมยิ่งทำให้ผมได้ใจ ยอมรับครับว่าหน้ามืดตามัวไปแล้ว น้องลมกอดหลังผมแน่นทั้งยังจิกเล็บลงไปอีก ผมไม่รู้ว่าผมขึ้นคร่อมบนตัวน้องลมตั้งแต่เมื่อไหร่รู้แค่ตอนนี้ผมกำลังซุกไซร้บนคอขาวๆ แม่งเอ้ย! ทุกส่วนของน้องลมดูนุ่มนิ่มน่ากอดไปหมด
ผมกำลังก้าวข้ามความรู้สึกผิดไปเรื่อยๆและมันเริ่มจะเลยเถิด ผมสอดมือเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตที่น่าเกะกะ ถกเสื้อขึ้นจนมันกองอยู่ที่คอน้องลม สองมือของผมเริ่มหยอกล้อกับยอดอกสีหวาน ถึงแม้มันจะราบเรียบไปหมดแต่มันก็เร้าอารมณ์ผมจนแทบทนไม่ไหว
"อา...อ๊ะ" ผมก้มลงใช้ลิ้นเลียขบเม้มอย่างรุนแรง เรียกเสียงครางหวานกระเส่าออกมาเรื่อยๆ ผมลองแกล้งหยุดดูปฏิกิริยา น้องลมจิ๊ปากแบบเด็กถูกขัดใจแล้วกดหัวผมให้สัมผัสมากยิ่งขึ้น ผมยกยิ้มพอใจและสนองตามที่น้องต้องการ น้องลมก็ว่าง่ายแอ่นอกขึ้นรับสัมผัสจนแผ่นหลังไม่ติดเตียง
"อื้อ...อย่า..อ๊ะ" ผมเลียไล่ลงมายังหน้าท้องราบเรียบ อดไม่ได้ที่จะฝากรอยจูบสีจางๆเอาไว้ น้องลมร้องห้ามผม แต่ท่าทางช่างขัดกับคำพูดเอามากๆ น้องสะบัดหน้าไปด้านข้างและบิดเกรงด้วยแรงอารมณ์ มือข้างหนึ่งจิกเตียงส่วนอีกมือก็ก่ายอยู่บนหน้าผาก
ผมจับมือน้องที่บังหน้าออกมาประสานไว้กับมือผมจนแน่น น้องลมยังคงหอบหายใจอย่างติดขัด พอผมเอามือออกก็ได้เห็นหน้าน้องลมชัดๆ ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงระเรื่อ รอบๆเต็มไปด้วยเหงื่อประปราย ผมเอามือปัดผมหน้าม้ายาวๆออก น้องลมจ้องผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการ
"แฮ่ก...อือ..." ผมเอาปลายนิ้วสอดเข้าไปในโพรงปากนุ่ม น้องลมเอามือทั้งสองข้างจับแขนผมไว้ พร้อมเลียและดูดดึงราวกับมันเป็นขนมหวาน ผมอดไม่ได้ที่จะคิดว่าถ้าหากสิ่งที่น้องกำลังเลียอยู่ไม่ใช่นิ้ว แต่เป็นส่วนอื่นของผม... ผมลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ผมรู้ น้องรู้สึกดีจนเสร็จไปแล้ว ผมดูจากเป้ากางเกงที่เปียกชื้นของน้อง แต่ผมนี่สิ ส่วนนั้นของผมดันกางเกงจนผมปวดหนึบไปหมด
ผมควรพอได้แล้วก่อนที่มันจะไปกันใหญ่….
"เฮ้ย.." ผมอุทานออกมาเบาๆแล้วก็ต้องซี๊ดออกมาเพราะความเสียว น้องลมน่ะสิ เอามือมาลูบคลึงเป้าผมซะอย่างงั้น!! แขนผมที่ยันไว้กับเตียงแทบจะยันไว้ไม่อยู่ ผมมองน้องลมด้วยสายตาไม่เข้าใจ ผมกำลังจะหยุดได้แล้วแท้ๆ แต่น้องลมกลับทำให้ผมเตลิดมากกว่าเดิม
“น้องลม….” น้องลมตวัดตาขึ้นมามองหน้าผม
“ลม…”
น้องลมเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่กลับเงียบไป มือน้องลมยังคงลูบอยู่ที่เป้ากางเกงผม ผมไม่รู้น้องลมต้องการอะไร แต่ผมกำลังจับขาทั้งสองข้างแยกออกจากกันแล้วยกขึ้น โทรศัพท์น้องลมไหลลงมาหล่นอยู่บนเตียงแต่ผมไม่ได้สนใจ ผมแทรกตัวเข้าไปจนชิดขยับตัวเสียดสีกับน้องราวกับว่าเรากำลังมีอะไรกันจริงๆ
“ฮ้ะ…อ้ะ อื้อ”
น้องลมครางเสียงดังมากกว่าเดิม ผมขยับตัวเร็วและแรงขึ้นจนเตียงเกิดเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ถึงแม้ว่าเราไม่ได้ทำอะไรกันจริงๆก็เถอะแต่มันโคตรจะรู้สึกดีเลยครับ ตอนที่เห็นน้องลมสะบัดหน้าไปมาและขยับขึ้นลงตามจังหวะของผม ผมแอบคิดไปว่า น้องลมมีเสน่ห์มากกว่าแพรมากๆจริงๆ
ครืดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดด
“อ๊ะ…โทรศัพท์” น้องลมเอื้อมมือคว้าโทรศัพท์ไปจ้องสักพัก ผมปล่อยขาน้องลมออกแล้วพลิกตัวนั่งอยู่ข้างๆ
“แพรโทรมา…” น้องลมยันตัวลุกขึ้นนั่งบนที่นอนจัดเสื้อผ้าตัวเองทั้งที่ตัวสั่นไหวไปหมด กำโทรศัพท์แน่นตามองโทรศัพท์ที่ยังสั่นไม่หยุด
ผมพูดไม่ออก เมื่อกี้ ก่อนหน้านี้…ผมทำบ้าอะไรลงไป ผมโตซะขนาดนี้ทำไมควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ไม่อยู่ เสียงโทรศัพท์ที่สั่นอยู่บนมือน้องลมทำให้ผมได้สติ ถึงยังไม่เต็มร้อยแต่ผมคิดว่าดีกว่าก่อนหน้านี้มาก เสียงโทรศัพท์หายไปแล้ว แทนที่ด้วยเสียงจากไลน์ที่เด้งขึ้นมาแทน
“พี่เพลิง ลมขอโทษ ลมทำเหี้ยอะไรของลมวะ”
“ลมแม่งโง่ชิบหายเลย”
“ถ้าแพรรู้ แล้วพี่เพลิง แล้วลมจะทำยังไง ทำไมลมไม่คิดบ้างวะ”
“ไอ้เหี้ยพี่เอิร์ธ…”
น้องลมชันเข่าขึ้นแล้วซบลงไปพูดพึมพำอะไรไม่รู้ ผมรู้สึกว่าน้องน่าสงสารมากและผมไม่ควรทำแบบนี้
“น้องลม ยังรู้สึกไม่ดีอยู่ใช่มั้ยครับ?” น้องลมเงยอยากขึ้นมองผมอย่างลังเล
“เอ่อ พี่ว่าแบบนี้น่าจะช่วยได้เหมือนกัน” น้องลมมองหน้าผมอย่างไม่ไว้ใจ
“อาบน้ำมั้ยครับ น้องลมไหวมั้ย”
“ไม่ไหว” น้องลมยังคงยืนยันคำตอบเดิม
“งั้นพี่ช่วยอุ้มไปมั้ยครับ พี่ขอโทษจริงๆ มันเลยเถิดไปมากกว่าที่พี่คิดเยอะเลยครับ” น้องลมยังคงมองผมอย่างลังเล
“ลมว่าลมเดินไปเองดีกว่า” น้องลมอาการดีขึ้นมากแล้วอาจจะเพราะว่าเสร็จไปหลายรอบ ผมมองน้องลมที่กำลังเดินไปห้องน้ำอย่างยากลำบาก แค่เดินยังแทบจะทรงตัวไม่ไหวแต่ดีขึ้นกว่าตอนที่ผมลากน้องลมขึ้นมาจริงๆครับ
“ผ้าเช็ดตัวน่าจะมีอยู่ในห้องน้ำนะครับ ส่วนเสื้อพี่มีชุดนอนอยู่ ใส่ของพี่ก่อนนะครับ”
………………………………..
ผมออกมาสูบบุหรี่ข้างนอกระเบียงตอนที่น้องลมกำลังเข้าห้องน้ำอยู่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นเลื่อนดู และหยุดที่ชื่อ ’แพร’ ผมกดโทรออก
‘ฮัลโหลว่าไงคะพี่เพลิง’ เสียงใสๆของแพรที่ส่งมาทำให้ผมสะอึก ทำไมผมเลวแบบนี้วะ
“จะนอนรึยังครับ”
‘ยังค่ะ กำลังแต่งนิยายสนุกเลย’
“พี่กวนแพรรึเปล่าครับเนี่ย”
‘ไม่หรอกค่ะ พี่เพลิง พี่เพลิงเหมือนพระเอกนิยายของแพรเลยค่ะ’ แพรทำน้ำเสียงตื่นเต้นออกมา ผมพ่นควันบุหรี่แล้วยกยิ้ม
“พี่ไม่ใช่คนดีหรอกครับ เป็นพระเอกไม่ได้หรอก”
‘พระเอกไม่ใช่คนดีเสมอไปนะคะ เฮ้อ’
“เป็นอะไรครับ”
‘ลมยังไม่กลับบ้านเลยค่ะ ไม่รู้ว่าไปไหน’ ผมเงียบไปชั่วขณะ เขี่ยบุหรี่เล็กน้อยอย่างชั่งใจ ผมไม่อยากให้แพรกังวลเลยตัดสินใจพูดออกไป
“น้องลมอยู่กับพี่เองครับ น้องเมาหนักมากเลย หลับไปแล้วครับ”
‘หือ? ลมไปอยู่กับพี่เพลิงได้ไงคะ’
ผมเล่า ’เรื่องโกหก’ เรื่องหนึ่งให้แพรฟัง แน่นอนว่ามันทำให้ผมดูดีขึ้นในสายตาแพร ผมพ่นลมหายใจออกมาอย่างยากลำบาก แพรวางสายไปนานแล้วครับแต่ผมยังคงยืนพิงระเบียงสูบบุหรี่อยู่อย่างนั้น จะว่าไปน้องลมยังไม่ออกมาจากห้องน้ำเลย นี่มันเกือบจะชั่วโมงนึงแล้วนะครับ ผมเริ่มรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมานิดๆ ขยี้บุหรี่ลงกับที่เขี่ยแล้วเดินเข้าไปในห้อง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“น้องลมครับ” ผมได้ยินเสียงน้ำกระทบกับพื้น แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากน้องลมเลยแม้แต่นิดเดียว ผมเริ่มกระวนกระวายแล้วครับ ผมเคาะประตูเสียงดังขึ้น ตะโกนเรียกน้องลมอยู่หลายครั้ง ผมเดินวนหากุญแจห้องน้ำ กลัวน้องลมจะเป็นอะไรไปครับ
ผมไขกุญแจเข้าไปได้ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาผมอึ้งไปพักนึง ภาพตรงหน้าของผมคือน้องลมนั่งหันข้างพิงผนังห้องน้ำทั้งที่เปลือยท่อนล่าง สาบเสื้อช่างปกปิดได้พอดีจริงๆแต่คราบสีขาวขุ่นที่เปื้อนต้นขาทำให้ผมพอจะรู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น ผมยืนตั้งสติสักพักก็วิ่งเข้าไปปิดน้ำที่ไหลอาบตัวน้องลมอยู่คว้าแขนน้องให้ยืนขึ้น น้องลมปรือตามองผมแล้วก็หลับลงไปอีก มือน้องเปื่อยเหี่ยวไปหมด คงเพลียจากฤทธิ์ยาหรือจากอะไรก็ตามแต่
ใครใช้ให้นั่งใต้ฝักบัวแบบนี้…
ผมหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาคลุมตัวน้องลมไว้แล้วช้อนตัวอุ้มขึ้นมา ตัวน้องลมเปียกไปทั้งตัวเลยครับ ผมวางน้องลงบนที่นอนอย่างแผ่วเบา ยังไงผมก็ต้องเปลี่ยนเสื้อให้น้อง ผมสะบัดหัวแรงๆเรียกสติทั้งหมดที่มีหยิบชุดนอนของผมออกมาวางไว้ข้างเตียง
ก่อนอื่นผมต้องใส่กางเกงให้น้องก่อน ผมหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กซับน้ำที่เกาะอยู่ทีละนิด ทีละนิด ผมหันหน้าไปอีกทางแล้วจับขาน้องสอดเข้ากับกางเกงดึงขึ้นเรื่อยๆจนสุด ผมหันไปมองอย่างพึงพอใจในผลงาน ทีนี้ก็เสื้อครับ ผมแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตเปียกๆออกจนหมด พยุงน้องลมขึ้นนั่งแล้วถอดเสื้อออกมาโยนทิ้งไว้ที่มุมห้อง น้องลมที่อยู่ในอ้อมกอดผมหายใจอย่างสม่ำเสมอ ดีแล้วครับแบบนี้ ผมหลุดยิ้มออกมาเพราะท่าทางที่ดูไร้เดียงสาของน้อง
ผมจัดการใส่เสื้อผ้าให้น้องจนเรียบร้อย แล้วก็เก็บเสื้อผ้าน้องกองไว้รวมๆกัน ถึงเวลาผมจัดการตัวเองบ้างสักที ง่วงจะตายแล้วครับ
………………………………………………………………..
“อึก…”
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะแสงอาทิตย์ที่แยงตาผมเหมือนห่างจากโลกแค่ปีแสงเดียว ผมลุกขึ้นนั่งขยี้ตาอย่างมึนๆ เป็นอีกครั้งที่ผมตื่นขึ้นมาในที่ๆไม่ใช่บ้านตัวเอง ไม่ใช่บ้านเพื่อน แต่เป็นคอนโดว่าที่พี่เขย ผมมองซ้ายมองขวาเพื่อหาเจ้าของห้องแต่ก็ไม่เจอ สายตาผมไปสะดุดกับโพสอิทสีชมพูที่แปะไว้กับโทรศัพท์ผมที่วางไว้บนโต๊ะข้างเตียง
“พี่ไปทำงานก่อนนะครับ
เสื้อผ้า ของกิน หยิบได้หมดเลยนะ
ขอโทษที่ไม่ได้อยู่รอครับ”
ผมดึงออกมาอ่านแล้วส่ายหน้าเบาๆ แปะลงกับโต๊ะไว้ ลุกขึ้นยืนแล้วสำรวจตัวเอง พี่เพลิงคงเปลี่ยนชุดให้ผมเพราะผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมอาบน้ำเสร็จตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ผมเหมือนจำได้ลางๆว่าพี่เพลิงอุ้มผมออกมาจากห้องน้ำ ผมดึงกางเกงอออกดู แน่นอนว่าผมไม่มีไส้ในสักตัว
ผมเดินเอื่อยๆไปหยุดอยู่ที่หน้ากระจกบานใหญ่มองหน้าตัวเองที่สะท้อนออกมาจากกระจก ผมคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อคืน
เมื่อคืน…ผมเกือบโดนผู้ชายปล้ำ
เหอะ นึกถึงหน้าพี่เอิร์ธแล้วผมรู้สึกหงุดหงิด ขยะแขยง เกลียดตัวเองที่ทำห่าอะไรไม่ได้เลย โง่จริงๆที่คิดว่ามันคงไม่มีอะไร ผมมองรอยแดงจางๆบนคอที่ไอ้เหี้ยพี่เอิร์ธมันฝากไว้แล้วถูแรงๆระบายความหงุดหงิด
เสื้อกับกางเกงพี่เพลิงใหญ่จนผมต้องกำกางเกงไว้เพราะกลัวมันจะหลุดไปกองกับพื้นครับ ว่าแต่พี่เพลิงเอาใส้ในผมไว้ไหนหมดวะ ผมจำได้ว่าผมถอดแขวนไว้ก่อนที่จะ…เออ นั่นแหละ! ผมเดินวนหาจนเจอว่ามันถูกพับเรียบร้อยอยู่ข้างๆตู้เสื้อผ้า แต่ไม่ยักกะมีเสื้อครับ สงสัยจะเปียกหนัก ผมถือวิสาสะเปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดมาเปลี่ยน ไล่ดูไปเรื่อยๆมีแต่เสื้อตัวใหญ่ๆทั้งนั้น ผมหลับตาชี้แล้วหยิบทุกอย่างเดินเข้าห้องน้ำ
ผมถอดเสื้อออกแล้วก็ต้องตกใจ บนตัวผมมีรอยสีแดงซีดเต็มไปหมด ภาพเมื่อคืนย้อนกลับมาอีกครั้ง ผมไม่น่าปล่อยให้อารมณ์พาทุกอย่างไปเลย ผมไม่โทษพี่เพลิงหรอก ผมจะโทษตัวเองคนเดียว เราเกือบจะถลำลึกไปด้วยกัน ดีที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเบอร์ที่หน้าจอทำให้ผมรู้สึกผิด และพี่เพลิงก็คงไม่ต่างกัน ผมสะบัดหัวไล่ความฟุ้งซ่านออกไป
แค่นี้ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ลืมๆไปก็พอ
แต่ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่า
เมื่อคืนผมต้องการพี่เพลิงจริงๆ…
………………………………………………………………..
“ลม เมื่อคืนทำไมไม่กลับบ้าน” ผมอุตส่าห์ดีใจที่แพรอยู่ในครัว แต่แพรกลับเดินออกมาทักผมเสียอย่างนั้น
“ลมไปนอนบ้านเพื่อน” ผมเหงื่อตก ยังไม่กล้ามองหน้าแพรตรงๆ
“โกหก…พี่เพลิงเล่าให้แพรฟังหมดแล้วนะ” ผมเงยหน้าขึ้นมองแพรทันทีด้วยความตกใจ ไหน…ไหนบอกว่าเป็นความลับไง..ทำไม???
“หมดแล้ว…?” ผมพูดทวนคำแพรขึ้นลอยๆ
“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น” แพรเดินมาจับไหล่ผมทั้งสองข้าง
“แพร ลมไม่ได้ตั้งใจ” ความอัดอั้นของผมพังทลายลงเพราะน้ำในตาเริ่มเอ่อล้น แพรจับตัวผมเบาๆแต่ผมรู้สึกเจ็บไปหมด ภาพตรงหน้าพร่ามัวจนแทบมองไม่เห็นอะไรเลย
“แพรโกรธลมมั้ย…” ผมเช็ดน้ำตาออกอย่างลวกๆ ไม่อยากให้มันไหลออกมาให้แพรเห็น แพรเขย่าไหล่ผมอยู่สองสามทีแล้วหลุดยิ้มออกมา ผมมองอย่างไม่เข้าใจ
“แพรจะโกรธทำไม แค่ลมเมาแล้วกลับบ้านไม่ไหวเนี่ยนะ? แล้วแพรก็ไม่ได้รับสายลมด้วย”
“อะไรนะ?” ผมปัดมือแพรออกแล้วจับไหล่ทั้งสองข้างของแพรไว้เอง
“นี่ลมจะให้แพรโกรธจริงๆใช่มั้ย แพรบอกว่าไม่โกรธ”
“ไม่ใช่ หลังจากนั้นอีก”
“ก็…ลมแค่เมากลับบ้านไม่ไหวไง ลมจำไม่ได้หรอ?”
สมองผมเริ่มกลับมาประมวลผลอีกครั้ง พี่เพลิงเล่าอะไรให้แพรฟังบ้างวะ… ผมรู้สึกดีที่พี่เพลิงไม่ได้เล่าอะไรแปลกๆออกไป พี่เพลิงคงห่วงแพรนั่นแหละ หึ ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ฝืนพูด ‘เรื่องโกหก’ ออกไป ให้สอดคล้องกับเรื่องที่พี่เพลิงเล่า
“จำไม่ได้เลย”
“เมาหนักเลยล่ะสิ” แพรขยี้หัวผมจนยุ่ง
“อือ หนักมากเลย” ผมฉีกยิ้มให้แพรไปก่อนโบกมือไล่แพรให้เข้าไปในครัว
“แล้วลมร้องไห้ทำไมเนี่ย”
“ลมกลัวแพรโกรธ ลมไม่ได้บอกแพรล่วงหน้าเลย” ผมหลุบตามองต่ำ
“แพรรักลมนะ แพรดีใจที่ลมเริ่มเข้ากับพี่เพลิงได้”
“ลมก็รักแพรนะ”
“แน่นอน ก็เราเป็นแฝดกันนี้นา ลมไปเปลี่ยนเสื้อมั้ย ตัวใหญ่แบบนี้เสื้อพี่เพลิงแน่เลย” แพรเลิกคิ้วถามผม ผมพยักหน้างึกงักตอบรับ
ผมเดินดุ่มๆขึ้นห้อง เปิดประตูเข้าไปก็เห็นไอ้พัดนั่งเล่นเกมส์อยู่เหมือนเดิม ผมล้มตัวนอนลงบนเตียงอย่างอ่อนล้า
“เมื่อคืนไปไหนมาพี่ลม พี่แพรเป็นห่วงมากเลย” ไอ้พัดพูดขึ้นโดยที่ไม่ได้มองหน้าผม
“บ้านพี่เพลิง”
“ทำไมอ่ะ”
“ก็พี่เมา” มันเออออตามผมแต่ผมไม่ได้สนใจ
“พัด มึงเคยรู้สึกผิดกับใครมั้ย แบบมึงทำอะไรผิดสักอย่างแบบอาจจะไม่ได้ตั้งใจ…” ผมถามมันแบบลอยๆ
“พี่ลมไปทำอะไรใครไว้ล่ะ” มันหมุนเก้าอี้หันมามองผมที่นอนอยู่บนเตียง
“สมมติว่าตัวหอมมันมีแฟนแล้วมึงไปปล้ำตัวหอม มึงจะรู้สึกผิดต่อแฟนตัวหอมมั้ย”
“เปรียบเปรยได้จังไรจริงๆ รู้สึกผิดมั้ง ไม่รู้ว่ะ ทำไม พี่ลมไปทำใครท้องหรอ” ผมเอาหมอนปาไอ้พัดที่ทำหน้าทะเล้นใส่ผม
“เอาเถอะ มันไม่มีอะไรหรอก”
จริงๆครับ มันไม่มีอะไรหรอก
มันจะไม่มีอะไรจริงๆ ถ้าพี่เพลิงไม่วนเวียนอยู่ใกล้ๆแบบนี้
--------------------------------------------------------------------------
มาแล้วจ้าตะเองงงงงงงงง เห็นคอมเม้นท์หลายๆคนแล้วตลกมากค่ะชอบมากเลย5555
พี่เพลิงเป็นคนมีสติค่ะ หุหุ(?)
ขอบคุณที่ติดตามเรื่องนี้กันนะค้า ทุกๆข้อความคือกำลังใจของเราเสมอจริงๆน้า อ่านในคาบเรียนนั่งขำจนเพื่อนด่า