กฏเล้าประกาศ 22/9/2019 จะลบนิยายที่ไม่มาต่อจนจบทิ้งทั้งหมดเล้าเป็ดรณรงค์ ให้ใช้เรียกนักเขียน นักอ่านแทน ไรท์เตอร์ รีดเดอร์ เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของเว็บเรากันนะคะ
สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ
เดือนเกี้ยวเดือน #42 พาร์ทของโฟร์ทแอร๊ยยยย โฟร์ทบีมน่าร้ากกกกกกก ขอพาร์ทของหมอบีมอีกนะคะ อยากอ่านความรู้สึกของหมอบีมบ้าง สู้ๆนะค้าาา รอๆๆๆ “เชี่ยโฟร์ท” ระหว่างที่ผมนั่งอยู่ตรงม้าหินอ่อนบริเวณสวนใต้ตึก ผมได้ยินเสียงเพื่อนเรียก ผมนั่งควงโทรศัพท์เล่นเป็นกังหันมานานสองนานแล้วครับ รู้ใช่ไหมว่าในหัวผมกำลังคิดถึงใคร...ไม่ต้องบอกก็คงพอจะรู้กัน ที่ต้องควงโทรศัพท์เล่นแบบนั้น เป็นเพราะผมอยากจะติดต่อไปหาเขา แต่มันไม่กล้า ผมไม่ได้ป๊อด แต่บีมคงจะยุ่งมากอะไรมาก ผมก็เลยเกรงใจน่ะครับ และเพราะไม่ได้ทำอะไรกับโทรศัพท์ ผมก็เลยหันมาสนใจประธานรุ่นผมสุดเนิร์ดที่เดินจับแว่นมาแต่ไกลพร้อมเอกสารปึกหนึ่ง แม่งรู้สึกเหมือนมีงานเข้า “อะไรวะ” ผมไม่ได้เป็นประธานรุ่นครับ แต่ต้องเป็นหัวหน้าพี่ว้ากในปีต่อๆไปแน่ๆ เพื่อนบอกผมว้ากเก่งแถมยังหล่อ น้องน่าจะเข้ากิจกรรมเยอะ สรุปมันชมพร้อมอยากได้ของแถมคือการให้ผมทำงานช่วยคณะ เออ...แล้วแต่พวกมึงเลย “ค่ายไง ที่ว่าจะไปต่างจังหวัดอ่ะ” “อืม แล้ว?” “มึงต้องไปด้วยนะเว้ย” ผมหลับตาลงอย่างยอมแพ้ในโชคชะตา จริงๆแล้วผมชอบกิจกรรม แต่หลังจากที่เริ่มตัดสินใจที่จะจีบบีม ผมโคตรไม่อยากออกนอกมหาลัยหรือออกนอกจังหวัดเลยให้ตาย “เออๆ” ผมรับคำส่งๆ “อาทิตย์นี้” มันยังคงตอกย้ำ “รู้แล้ว” “ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรมาก พาน้องทำความดีเข้าสู่สังคมพอ เข้าใจกูใช่มั้ย ไอ้ตัวดึงดูดสาว” “เออๆๆๆ” “อย่ามัวแต่ไปติดหมอที่ไหน...” ผมหันไปมองไอ้แว่นที่เริ่มกลืนน้ำลายเมื่อเห็นสายตาของผม ก่อนที่มันจะวิ่งหนีอย่างรวดเร็วเพราะกลัวผมเตะ ผมหัวเราะขำเบาๆในใจและแล้วก็เปลี่ยนเป็นใบหน้าเจื่อนลงอย่างรวดเร็ว ไอ้ค่ายนี้กินเวลาทั้งเสาร์และก็อาทิตย์ สร้างห้องสมุดและก็ทาสีโรงเรียน วิศวะสาขาผมไปแม่งทุกปี และปีนี้ก็จะไปอีก คงจะไม่ได้เจอบีม... ตอนนี้เป็นเวลา 16.37 น. ไม่แน่ใจว่าบีมจะเลิกเรียนหรือยัง เขาไม่เคยโทรหาผมเลยครับ แต่จะตอบไลน์เสมอไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ไอ้อ่านไม่ตอบนี่ไม่เคยได้สัมผัส มีแต่จะไม่อ่านเลยแล้วก็ตอบทีเดียว ผมวิ่งตามเขา ผมเข้าใจดี ไม่ได้หวังอะไรให้บีมมาโทรหา หรือว่าทักไลน์มาก่อนหรอก ไม่น่าจะใช่นิสัยบีม ตอนเจอกันมันชอบทำเป็นรำคาญผมจะตาย แต่นั่นแหละครับที่ทำให้ผมชอบที่จะเข้าหามันและก็อยู่กับมัน เอาเป็นว่าเสาร์อาทิตย์นี้...ผมอดทำคะแนน “เห้ย ไอ้หล่อ” ไอ้แหลมเดินเข้ามาสะกิดหลังผมและก็นั่งลงบนโต๊ะ ในขณะที่ผมนั่งลงเก้าอี้ “กำลังเล่นเป็นพระเอกเอ็มวีเหรอสาด เพลงอะไรดี...โปรดรักฉันรักฉันเถอะนะ...จะไม่ทำให้เธอเสียใจ...รู้ฉันสู้เขาไม่ไหว...เทียบกับใครที่เธอมี...” อยากจะโบกหัวมันมากครับ ร้องก็ร้องเพี้ยน ทำเพลงเขาเสียหมด “สัด” “หึหึ” มันผู้รู้สถานการณ์เกี่ยวกับตัวผมดีเอาแต่ยิ้ม และก็... “ไม่ได้คุยกับเชี่ยบีมเหรอ” “ยังไงวะ” “หมายถึงตอนนี้อ่ะ” ผมมองดูโทรศัพท์ที่เงียบและแบตเหลือเยอะมาก “ไม่ได้คุย” “มิน่าล่ะ” ไอ้เชี่ยแหลมทำหน้ากวน “มันถามหามึงอ่ะ” “หือ ตอนไหน” ผมกระตือรือร้นขึ้นมาทันที “เมื่อกี้ นี่ไง” ไอ้เชี่ยแหลมยื่นโทรศัพท์ให้ผมดู ไอ้ห่านี่มันคุยกับบีมของผมจริงๆด้วย BEAM : เชี่ยแหลม BEAM : มึงเห็นไอ้โฟร์ทมั้ย... ให้ตายเถอะครับ เขาเพิ่งถามเมื่อไม่่กี่นาทีที่แล้วนี่เอง นั่นหมายความว่าตอนที่ผมเพ้อถึงเขาอยู่ เขาก็คงกำลังถามถึงผมพอดี แล้วดูไอ้แหลมมันตอบ...อยากเตะมันสักป๊าบ ค.แหลม : จะไปรู้เหรอ ไม่ใช่ผัวมัน ค.แหลม : กำลังจะไปหามันเนี่ย มีอะไรรึเปล่า? ค.แหลมเนี่ย มันตั้งใจจะให้ดูหยาบโลนตามประสามันนั่นครับ ไม่รู้คุณคนอ่านจะเข้าใจรึเปล่า แต่เรื่องกามๆเนี่ย ยกให้มันเลย มันน่ะที่หนึ่ง BEAM : อืม มันไม่ว่างเหรอ ค.แหลม : ก็ไม่นะ เห็นมันนั่งนิ่งๆ ค.แหลม : ทำไมไม่โทรหามันเองล่ะครับแหม่ กำลังจะได้เสียกันอยู่แล้ว ค.แหลม : เอ๊ย...ได้แล้วนี่หว่า BEAM : ฟวย พ่องมึงเชี่ยแหลม กูไม่โทร!!!!!! “ไอ้เชี่ยยยยยยยยย” ผมเขย่าคอเพื่อนข้างๆ “เพราะมึงเลย เขาถึงไม่โทรหากูอ่ะ!” “ไอ้สัด” ไอ้แหลมไอเสียงดังค่อกๆแค่กๆ “ขึ้นอยู่กับตัวมึงเองมั้งครับ เขาไม่ชอบมึงไง เขาถึงไม่โทรหาไม่ทักมึงก่อนอ่ะ” “มึงนี่มัน...” แทงใจดำกูจริงๆ “แต่เขาถามแบบนี้หมายความว่าไงวะ” “ฟังพี่นะศิษย์น้อง...แหม่ ไอ้นี่แม่ง หล่อกว่ากูซะเปล่า” แหลมทำท่าเหมือนเป็นปรมาจารย์ด้านการจีบ “ที่เขาถามหามึงตอนนี้ หมายความว่าเขาเคยชินกับการที่มึงไปแสตนด์บายรอเขาในเวลานี้ แต่ว่าวันนี้มึงไม่อยู่...เขาก็เลยต้องถามหามึงนี่ไง ไอ้สัดนี่คิดให้มันซับซ้อนหน่อยดิ” ผมฟังคำไอ้แหลมและก็คิด...ชิบหายแล้วครับ! ปกติผมจะไปเสนอหน้าเพื่อที่จะไปรับบีมนี่หว่า ผมหยิบกุญแจรถแล้วเตรียมขับรถมุ่งตรงไปยังคณะแพทย์ทันที แต่ไอ้เชี่ยแหลมห้ามผมเอาไว้ “มึงหยุดเลย...” “เชี่ยไรเล่า เดี๋ยวเขาหงุดหงิดกู” “มึงอยากจีบติดไหม” แหลมทำเสียงจริงจัง ผมชะงัก “อะไรของมึงวะ กูรีบ” “กูถามว่า มึงอยากจีบติดหรือเปล่า ไอ้บีมแผ่บารมีก้องไพศาลนั่นน่ะ” มันแต่งชื่อให้บีมจนดูประหลาด ผมกลืนน้ำลาย ก่อนจะพูดเสียงอ่อย “หมายังดูกูออกเลย...” “เออ เพราะงั้นอยู่เฉยๆ วันนี้อยู่เฉยๆ เชื่อกูสิ...” “แต่เขาจะหงุดหงิดกูนะเว้ย” “หงุดหงิดเพราะมึงหายไปไงครับ ไม่ดีหรือยังไง” ไอ้แหลมนี่มันก็แอบเฉียบแหลมเหมือนกันนะ ไม่ใช่ ค.แหลมอย่างเดียว (ผมเริ่มเสื่อมไปตามมันไปแล้วเหรอ...) “กูต้องยอมให้เขาหงุดหงิดกูเหรอวะเนี่ย” “ไอ้นี่ก็นะ...ทำไมเชี่ยบีมทำให้มึงกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้วะ ปกติแม่งสั่งน้องหมอบๆๆอยู่นั่น ไอ้ห่า” “เรื่องของกูเว้ย...” “เออไอ้สัด เอาเถอะ วันนี้ช่วยประชุมเรื่องค่ายหน่อยก็แล้วกัน ไอ้แว่นมาบอกมึงแล้วใช่ป่ะ” ผมทำท่าอิดออดไม่อยากไป “ฟวย...อยู่เฉยๆให้เสียพลังงานทำไม...ไปทำงาน!” “แล้วบีมล่ะ” ผมถามอย่างไม่แน่ใจ “เชื่อกู เชื่อกูเถอะ กูเห็นไอ้เชี่ยบีมตอนเมาบ่อยมาก กูรู้ว่ามันเป็นยังไง” “…เซ็กซี่” “ไอ้สัด” แหลมทำหน้าระอาใส่ผม “มิน่าวันนั้นถึงตกร่องปล่องชิ้น” “ตกลงจะไปไม่ไป” “แล้วตกลงใครเป็นคนชวนคนแรกกันแน่ กูหรือมึง! ไอ้นี่หนิ!” กระวนกระวาย... “ตกลงมึงซื้อสีใช่ป่ะ เอาสีขาวนะเว้ย ครูใหญ่เขาขอมา” ร้อนใจ... “เอาสัก...เท่าไหร่ดีวะ...ทาสีรั้วอ่ะ กูว่าเป็นสิบถังอ่ะ” ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง... “มึงคิดว่าไงอ่ะโฟร์ท” เขาจะคิดบ้างไหมว่าผมหายไปไหน... “สัดโฟร์ท” หรือไม่คิดเลย... “ไอ้เหี้ยโฟร์ท!!!” ผมหันไปมองคนที่พูดหัวโต๊ะ ไม่ได้ตกใจอะไรมากแต่มันก็ช่วยผมหลุดจากภวังค์ได้ “อะไร” “ปล่อยมันเหอะ อย่าไปยุ่งกับมัน ส่วนนี้มันไม่ต้องรับผิดชอบ” ไอ้แหลมผู้ช่วยชีวิต ผมยักคิ้วขอบใจมันครั้งหนึ่งก่อนที่จะย้ายตัวเองไปนั่งมุมห้อง ผมไม่มีปากมีเสียงในการประชุมครั้งนี้อยู่แล้วครับ หน้าที่ของผมมีอย่างเดียวก็คือตรวจระเบียบน้องทุกเรื่องนั่นแหละ เพราะงั้นพวกมันเลยไม่กล้ากวนผมเท่าไหร่ สงสัยกลัวโดนผมว้ากใส่ ผมนั่งเซ็งๆ จับโทรศัพท์มาหมุนเล่นอีกครั้ง เข้าไปส่องเฟสบุ๊คบีมมาด้วยครับ และก็ลงท้ายอีหรอบเดิม ไม่มีการอัพเดทอะไรใดๆทั้งนั้น และในขณะที่ผมกำลังจะเข้าไปส่องอีกรอบนั่นเอง... พรืดดดดด... เสียงประตูกระจกเลื่อน คนที่เข้ามาคือคนที่อยู่ในชุดนักศึกษาสีขาวสะอาดตาอีกทั้งยังเรียบอยู่แม้ว่าจะเลิกเรียนแล้ว เสื้อเนี้ยบและขาวสะอาดขนาดนี้วิศวะไม่ค่อยมีหรอกครับ พวกผมมันดีแต่ใส่ช้อปน้ำเงิน อะไรอีหรอบนี้มันเอกลักษณ์ของแพทย์เค้า... คนที่มาสร้างความตกใจให้คนในห้อง คนที่ตกใจที่สุดเห็นจะเป็นผม... บีมที่มีเหงื่อและหอบเล็กน้อยกวาดสายตาไปมองรอบห้อง และเขาก็มาหยุดอยู่ที่ผม ซึ่งทำหน้าอึ้งอยู่ “เชี่ยบีม” แหลมนี่ยิ้มแป้นเลยครับ “มาทำอะไรแถวนี้วะ” บีมหอบเบาๆ ยังคงจ้องผม หลังจากนั้นเขาก็ย้ายสายตาไปทางอื่นและก็เดินไปหาแหลม “มึงเรียกกูมาไม่ใช่เหรอ ไหนบอกว่ามีของจะให้” บีมเดินไปกอดคอแหลม ผมนี่แทบจะลุกขึ้นเลย ไม่เห็นจะเคยกอดผมแบบนั้น...เหอะ “หา...กูเนี่ยนะ” “ใช่ มึงแหละ” แหลมมองไอ้บีม ก่อนที่จะมองผม มันแม่งเจ้าเล่ห์ใส่ผมกับบีมมากเลยครับ แต่ดูเหมือนจะรู้เรื่องผมกับบีมมากที่สุด “อืม งั้นเดี๋ยวมึงค่อยเอาละกันนะ ประชุมอยู่ รอแป๊บ” แหลมตบบ่าบีมแปะๆ ไอ้เชี่ยนี่ทำท่าดึงเข้าไปกอดนิดนึงด้วย...ผมชูนิ้วกลางให้มันเลยครับ...ไอ้สัดเอ๊ย “ไปนั่งรอข้างไอ้โฟร์ทดิ...ตรงนั้นมันโซนของพวกว่างงาน” มันแอบด่าเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนจะช่วยเป็นนัยๆ...เอาเป็นว่าค่อยสะสางกับมันทีหลังละกัน บีมมองอย่างไม่แน่ใจ ก่อนที่จะค่อยๆเดินเข้ามานั่งลงข้างๆผม เขายังคงหอบอยู่ และมีเหงื่อประปรายตามเสื้อขาวๆของเขา เขาปลดกระดุมเสื้อออกหนึ่งเม็ด และก็ใช้เสื้อต่างพัดขยับเข้าๆออกๆ “ทำไมดูรีบๆ” ผมลองถามดู ก็สงสัยจริงๆนี่่ครับ เขาดูเหมือนเพิ่งวิ่งสู้ฟัดเพื่อมาที่นี่ บีมมองหน้าผม ทำตาขวางใส่ผมนิดหน่อย “มาเอาของ!” “มาเอาอะไรกับไอ้แหลมเหรอ” บีมกระพริบตาปริบๆ “เอ่อ...สมุดโน้ต” เขาพูด หลังจากนั้นเขาก็หลับตาลงทำหน้าเหมือนไม่น่าพูดออกไป ผมจึงได้ทีแกล้งเขาใหญ่ “สมุดโน้ต...จากไอ้แหลมเนี่ยนะ” “ใช่ มันเก่ง ไม่รู้เหรอ” ถุยเถอะครับบีม...ไอ้เชี่ยแหลมเนี่ยนะ...เกาะกลุ่มสิบคนรั้งท้ายตลอด เพื่อนนี่ช่วยแล้วช่วยอีก ส่วนผมน่ะเหรอ...ผมอยู่กลุ่มเกรดสามต้นๆน่ะ “เหรอ...วิชาไรอ่ะ” บีมทำท่าคิดอีก...เอ้าเชิญแถเลยครับ...รอฟังอยู่ “วิชา...กลศาสตร์” “บีมเรียนด้วยเหรอ” “ก็...อยากรู้ว่ามันเป็นยังไงเฉยๆ” “เหรอครับ...” ผมหัวเราะในใจ น่ารักจังวะ...เขาก็ไม่ได้แบ๊วจ๋าอะไรหรอกครับ เพียงแต่วิธีการพูดวิธีการแถให้ดูสมจริงของเขามันดูน่ารักไปก็เท่านั้น จริงๆแล้วเขามาที่นี่ทำไมกันนะ... “นึกว่าจะมีเรื่องกันอีก...” ผมได้ยินเสียงบีมบ่น ก่อนที่ผมจะขมวดคิ้วใส่เขา... …หรือว่าที่ผมหายไป เขากลัวว่าผมจะไปมีเรื่องอีก อย่าไปเซ้าซี้ให้มากดีกว่า ถามไปก็คงจะไม่ยอมรับ เอามาแอบยิ้มกับตัวเองดีกว่าครับน่าจะฟินกว่า ฮ่าๆๆๆ (หัวเราะอย่างมีความสุข) “แล้วนี่ประชุมอะไรกัน?” “เสาร์อาทิตย์นี้มีไปช่วยทำโรงเรียนที่ต่างจังหวัดน่ะ” ผมพูดลอยๆ แอบมองทางหางตาว่าบีมจะทำหน้ายังไง รู้สึกเหมือนตัวเองจะตาเข มองไม่เห็นเลย แต่ที่แน่ๆบีมเงียบไปเลย “ก็เลย...จะไม่อยู่นะ” “อืม ก็ดีนี่” ไหงเขาพูดงั้นวะ... “นั่นสิเนอะ บีมคงไม่มีใครไปรกหูรกตาอีกหลายวัน” พูดไปก็เหมือนเอามีดแทงตัวเอง ผมส่ายหน้าเบาๆเล็กน้อยก่อนที่จะทำเป็นสนใจการประชุม แต่ที่จริงแล้วผมสนใจคนด้านข้างนี่มากกว่า เขาอาจจะสบายใจจริงๆมั้งที่ผมจะได้อยู่ห่างๆเขา บางทีนี่อาจจะแสดงออกถึงคำตอบที่เขามีต่อผมก็ได้ใครจะไปรู้ ตอนประชุมเลิก เขายิ่งตอกย้ำความจริงในสิ่งที่ผมคิดเข้าไปใหญ่ “แหลม ไปส่งกูด้วยนะ...” วันเสาร์ตอนเช้าตรู่ จังหวัดที่ต้องไปอยู่ห่างจากมหาลัยผมประมาณสี่ห้าชั่วโมงได้ครับ และอยู่ในที่ๆไกลมากเข้าถึงยากพอสมควรผมเลยต้องออกมาสแตนด์บายตั้งแต่ตีสามกว่าเพราะนัดน้องตีห้า รุ่นพี่ก็งี้แหละครับ นัดน้องต้องมาไวกว่าน้อง แต่วันนี้ผมไม่ได้รู้สึกอยากที่จะออกต่างจังหวัดเลยแม้แต่น้อย ไม่ได้ติดต่อหาบีมตั้งแต่วันที่เขาโผล่พรวดเข้ามาระหว่างที่พวกผมประชุม ผมน้อยใจเองด้วยแหละ(รู้สึกอายมากแต่ก็ขอยอมรับ ตัวใหญ่ขนาดนี้ก็น้อยใจเป็นนะ) ตั้งแต่ที่แหลมมันพูด ผมก็เริ่มฉุกคิดอะไรบางอย่างได้ ที่ผ่านมาผมเข้าหาบีมตลอด เหมือนพร้อมที่จะให้ใจเขาตลอดเวลา โดยไม่คำนึงว่าจริงๆแล้วบีมจะคิดยังไง อาจจะแค่รู้สึกดี ไปกับผมเพราะมารยาท รำคาญ หรืออะไรก็ตามแต่ ที่แน่ๆผมไม่มีความรู้สึกมั่นใจที่จะทำอย่างนั้นกับบีมอีกต่อไป ผมกลัวคำตอบ... “เหม่อจังวะ” ไอ้มาร์ค เพื่อนคนหนึ่งของผมเดินเข้ามาทัก แม่งพ่นควันบุหรี่ใส่ผมเต็มๆจนผมนึกอยากจะขอจากมันสักมวน “มีอีกตัวมั้ย...” ผมถามไปด้วยความเคยชิน ก่อนที่จะรู้สึกอะไรบางอย่างในใจ ชิบหาย ลืมไปว่าตัวเองเลิกได้สองสามอาทิตย์แล้ว... ไอ้มาร์คมันไม่รู้หรอกครับ มันก็ใจดีแจกชาวบ้านเขาไปทั่วแหละ มันหยิบมาเป็นซองให้ผมเลย และในขณะที่ผมกำลังจะหยิบมันขึ้นมาด้วยความลังเลนั่นเอง... “อ้าว หมอบีม นัดตีห้ามาทำไรแต่เช้าวะ!” เสียงเชี่ยแหลมร้องขึ้น ผมสะดุ้งปล่อยมือจากบุหรี่พวกนั้นและหันมาหาต้นตอที่ไอ้แหลมมันร้อง เวรแล้วครับ บีมจริงๆด้วย หอบเป้แต่งตัวมาเหมือนจะไปค่ายทำความดีกับพวกผมด้วย ที่แน่ๆคือเขาเห็นฉากที่ผมกำลังจะหยิบบุหรี่จากมือเพื่อนเต็มๆ รู้สึกเหมือนถูกเมียจับได้ว่าซ่อนเงินเดือนในบ้าน... บีมทำหน้าหงุดหงิดทันที เขาโยนกระเป๋าลงไปกองกับกระเป๋าของพวกผม และก็เดินไปช่วยขนน้ำขนข้าวกล่องขนขนม ผมรีบวิ่งตามไปหาเขาเลยครับ “บีม...” เขาไม่ตอบผม ผมก็เลยแย่งแพ็คแก้วน้ำเปล่าพลาสติกมาจากมือเขาไป เลยโดนเขาทำเสียงหงุดหงิดใส่ “ไม่ได้จะสูบนะ” “เรื่องของมึง” บีมพูดทันที “ไม่ได้จะสูบจริงๆ มันลืมตัว มัน...” “เรื่องของมึง กูไม่สนใจ” บีมหันไปยกอีกอัน ผมก็เลยไปแย่งมาได้อีกอัน “...คนมันไม่รักษาสัญญาก็งี้” มีดนี่เฉาะลงมากลางกระบาลของผมเลยครับแบบนี้... “ทำไงถึงจะหายงอนล่ะ” ผมง้อทันที แย่งทุกอย่างที่แย่งได้ ไม่ให้เขาขนอะไรทั้งนั้น “งอนเหี้ยไร” “ก็เนี่ย บีมงอนอยู่” “กู...เปล่า!” เสียงดังจนน้องปีหนึ่งสะดุ้ง ผมว่าเขาคงไม่งอนหรอก...มั้งครับ “เมื่อกี้เคยชินจริงๆ แต่หยิบมาก็จะคืน สาบาน” ผมรีบพูด “บางครั้งมันเครียดๆแค่ได้จับๆมันก็โอเคแล้ว ชินอ่ะ” “…” “ไม่รู้เหรอว่าเครียดเพราะใครน่ะฮะ” บีมไม่ตอบผม...แต่ดูเหมือนมีสีหน้าที่ดีขึ้น “ไม่ผิดสัญญาหรอกน่า” ผมรีบพูด และในที่สุดบีมก็ทำตัวเหมือนปกติสักที “ถ้าเลิกไม่ได้ ก็ไม่ต้องเลิกได้นะ ตัวมึงของมึงนี่ เกี่ยวไรกับกูเล่า” บีมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่ทว่าจริงจัง “เกี่ยวสิ...” ผมพูดอย่างจริงจัง “...บีมจะจูบกับคนมีกลิ่นบุหรี่ได้มั้ยล่ะ” เขาชกผมทันทีที่ไหล่ “เหี้ย” “แล้วนี่จะไปด้วยเหรอ” ผมถามอย่างทึ่งๆ ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าบีมจะไปด้วย “อืม แหลมชวน” ผมทำหน้าเฉยชาขึ้นมา “แหลมชวน? ก็เลยไป แล้วถ้าโฟร์ทชวนล่ะ” “มึงชวนรึยังล่ะ?!” บีมเสียงดังขึ้น...ยังนี่หว่า...ผมยังไม่เคยชวนบีมไปเลยครับ...เขาเดินไปหาแหลมและนั่นทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าผมไม่ได้ทำในสิ่งที่ผมควรทำ ไอ้เชี่ยแหลมยักคิ้วใส่ผมจึกๆ ตกลงมึงจะช่วยกูจีบ หรือมึงจะจีบเองไม่ทราบ ไอ้สัดเอ๊ย... “โฟร์ท ตามหามึงแทบแย่” ไอ้ประธานรุ่นสุดเนิร์ดวิ่งกระหืดกระหอบมาหาผม “รถที่จะขนของมีไม่พอว่ะ มึงขับรถมึงตามไปด้วยได้ป่ะ เดี๋ยวใส่ถังสีลงกระบะหลังรถมึง” “เออ ไม่มีปัญหา” เพื่อนผมได้ยินกันทุกคน แม่งประชุมกันใหญ่เลยว่าใครจะนั่งรถไปกับผมบ้าง “สัด” ผมรีบพูดขัด “ไม่เห็นเหรอว่าเมียกูมา...” เท่านั้นแหละครับ...ไม่มีใครอยากที่จะนั่งรถไปกับผมอีก...แต่ปัญหาก็คือผมจะชวนเจ้าตัวให้มานั่งรถกับผมได้ยังไง ผมทะยอยขนถังสีที่โคตรหนักลงกระบะหลังรถ...ไอ้นี่เล่นทำผมเหงื่อออกทั้งๆที่แดดยามเช้ายังไม่ส่องด้วยซ้ำ มีกี่ถังวะ ผมไล่นับดูเรื่อยๆประมาณเกือบสิบได้ ดีนะที่วันนี้ผมเอารถที่มันมีพื้นที่กระบะเยอะมาอ่ะ ระหว่างที่ขนผมก็คิด...จะชวนบีมยังไงดีวะ...ดูก็รู้ว่าเกาะติดเชี่ยแหลมทั้งงานแน่ๆ เพราะบีมสนิทกับวิศวะไม่กี่คน(หนึ่งในนั้นคือผม ซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าสนิทได้รึเปล่า) และในขณะที่ผมคิดอยู่นั่นเอง... กระเป๋าเป้ของบีมก็ลอยข้ามหัวผมเข้าไปในรถ โดยที่เจ้าตัวเองเป็นคนโยน “ไม่มีใครคบเหรอ ทำไมไม่มีใครนั่งไปด้วย” บีมถามผม ผมชะงัก ผมเนี่ยนะ...ผมมองไปที่เพื่อนที่ยืนอยู่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว ทำไม้ทำมือบอกว่าพวกมันเองนั่นแหละบอกว่าไม่อยากไปกับผม บีมก็เลยจะได้ไปกับผมไง โอ้โห ไอ้เพื่อนรักทั้งหลาย... “ไม่มีอ่ะ น่าสงสารเนอะ” ผมแกล้งทำหน้าน่าสงสาร ถ้าผมมาเห็นตัวเองสภาพนี้ผมคงหมั่นไส้ตัวเองตายห่า... บีมทำเสียงหึในลำคอใส่ผม ก่อนที่จะมองหน้าผม “อะไรเหรอ” “มึงนี่มัน...” เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าสะอาดออกมาจากกระเป๋าเสื้อ และก็ซับเหงื่อให้ผมเบาๆ “เหงื่อจะไหลเข้าตาอยู่แล้วไอ้สัด ไม่รู้สึกมั่งเลยเหรอ” ดีแล้วล่ะที่ผมไม่รู้สึกอ่ะ... “ไม่อ่ะ” ผมพูด...ก่อนจะฉีกยิ้มหวานส่งให้คนตรงหน้า... “ขอบคุณครับ” บีมชะงัก ก่อนที่จะโยนผ้าผืนนั้นใส่หน้าผมอย่างแรง “เช็ดเอง...” ผมยิ้ม...ยิ้มตามหลังคนที่ชื่อบีมที่เดินออกห่างไปนู่น แอบเห็นหูแดงๆ ไม่รู้ว่าเขินผมหรือว่าอะไรรึเปล่า ผ้าเช็ดหน้าหอมมากเลยครับแถมผืนยังใหญ่มากจนผมเอามัดมามัดไว้ที่คออย่างหลวมๆเหงื่อไหล่ตอนไหนก็หยิบมันขึ้นมาเช็ดก็แค่นั้นเอง ก่อนจะออกเดินทาง...บีมที่ต้องไปกับผมเห็นผ้าของเขาบนคอของผมก็ร้องถาม “มึงจะยึดเลยว่างั้น...” “ถ้าเจ้าของไม่ว่าก็จะเอา...” “ไอ้...เอาเหอะ ตามใจ” “แล้วถ้าตัวเองเหงื่อออกล่ะ เอาผ้าที่ไหนเช็ด” บีมชะงัก...เหมือนจะยังไม่ได้คิดในส่วนนี้้ “ไม่เป็นไร เดี๋ยวเช็ดให้” ทิชชู่จากในรถถูกผมหยิบออกมาแล้วก็ซับหน้าให้บีม “เชี่ยยยยย...เหงื่อยังไม่ออก” “แหงสิ ก็ทุกอย่างโฟร์ททำให้หมดเลยนี่” ผมภาคภูมิใจกับมันมาก “ไม่ต้องก็ได้ กูมาเพื่อช่วย” “เอ๊ะ หรือมาเพราะไม่อยากห่างจากโฟร์ทกันแน่นะ” ผมพูดพลางมองออกไปที่ถนน “พ่องมึง” บีมโวยวาย “ยอมรับก็ได้นะ โฟร์ทจะได้เหนื่อยน้อยลง...” ผมพูดยิ้มๆ ในขณะที่บีมมองออกไปนอกหน้าต่าง แก้มเหมือนจะพองลมเล็กน้อย ท่าทางเหมือนเด็กถูกจับได้ บีมพึมพำอะไรบางอย่างที่ผมเองไม่ค่อยจะได้ยิน... “ไม่เคยยอมรับ...แต่ก็ไม่เคยปฏิเสธป่าววะ”TBC*Talk : คู่นี้ก็คืบหน้าไม่แพ้คู่หลัก 555ให้มองเหมือนละครตัดฉากไปมานะคะ บางครั้งก็ระยะเวลาไล่เลี่ยกันจุดประสงค์ไม่ได้เพื่อให้หมอป่ากับวาโยมีบทบาทน้อยลงเลยค่ะ : )
“บีมรู้ใช่มั้ย...ว่าโฟร์ทรัก...เราคบกันแล้วนะ”