ตอนที่ 22
สงบได้ไม่นาน
นับถอยหลังเข้าสู่มหกรรมสอบปลายภาคของภาคเรียนที่ 1 ทำให้ปลายฝันและเพื่อนๆ ไม่ค่อยมีเวลาพูดคุยกับปฐพีกับอัคนีเท่าไหร่ นอกเสียจากเวลาอาหารเช้ากับอาหารเย็น เพราะคนตัวเล็กมีงานต้องเคลียร์ที่เยอะมากแล้วไหนจะเตรียมอ่านหนังสือสอบอีก นับได้ว่า
พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย
“ดึกแล้วนะดรีม โทรให้พี่เขามารับได้แล้วล่ะ วันนี้ก็พอแค่นี้ก่อนนะ” ญาณินบอกอย่างเหนื่อยๆ ก่อนจะไหลไปตามพื้นที่มีเสื่อปูนั่งอยู่สวนหน้าบ้านของก้องภพที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยที่สุด
ญาณินเองก็สนิทใจกับก้องภพอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังระแวงอยู่ไม่น้อย
“นั่นสิดรีม พี่พี่เขามารับได้แล้วล่ะ เราเองก็ไม่ไหวแล้ว งานนี่ยังไงพรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อ” ก้องภพพูด
“อือๆ เดี๋ยวเราโทรหาพี่ๆ เขาก่อนนะ” ปลายฝันเลือกที่จะโทรหาอัคนีเพราะฝั่งอัคนีส่งข้อความมาบอกว่าเลิกงานแล้ว แต่ปฐพีมีประชุมงานข้างนอกกลับดึกมาก เลยไม่อยากรบกวนปฐพี
ตื๊ด...ตื๊ด...ตื๊ด
รอเพียงไม่นาน ปลายสายก็รับสายเขา
(ทำงานเสร็จแล้วหรือ?) สงสัยจะเพิ่งตื่นนอน เพราะเสียงปลายสายงัวเงียมาก
“ยังไม่เสร็จครับ”
(อ้าว? อย่าบอกนะว่าโทรมาขออนุญาตนอนที่นั่น บอกเลยนะว่าไม่มีทาง) คนตัวสูงรีบพูดดัก
“เปล่าครับพี่เพลิง แค่จะบอกว่าให้มารับได้เลย เพรางานเอาไว้ทำต่อพรุ่งนี้”
(ก็แล้วไป รอเดี๋ยวนะ จะรีบไปรับ)
“ไม่ต้องขับเร็วมากนะครับ ระวังอุบัติเหตุด้วย”
(โอเคๆ ขอบคุณที่เป็นห่วงสามี)
“คนบ้า!!” ตะโกนใส่โทรศัพท์เสียงดัง จนญาณินกับก้องภพมองยิ้มๆ
(ฮ่าๆ ติ๊ด) ปลายสายวางไปทันที
ปลายฝันส่ายศีรษะไปมาอย่างระอา แต่ก้ยิ้มอย่างมีความสุข
“พี่เพลิงพูดอะไรล่ะ ถึงได้ด่าลั่นบ้านขนาดนั้น” ญาณินถามยิ้มๆ
“ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่หญิงโทรบอกพี่นนท์หรือยัง” ถามเพื่อนกลับไป
“เราส่งข้อความไปแล้วล่ะ”
“อ่อ...ยังไงวันนี้ก็ต้องขอบคุณก้องมากนะ ทั้งข้าวเย็นและก็ของว่าง เพิ่งจะรู้นะเนี่ยว่าบ้านก้องเป็นร้านอาหาร” หันไปขอบคุณเพื่อนอีกคน
“ไม่เป็นไรหรอก ยังไงพรุ่งนี้ก็ยังมีอีกวัน เดี๋ยวเราจะให้แม่ทำขนมให้กิน แม่เราทำขนมอร่อยนะ” ได้ทีอวดใหญ่เลย ซึ่งปลายฝันก็ยิ้มออกมาแต่ก็เกรงใจอยู่
“ลำบากเปล่าๆ”
“ไม่หรอกน่า พอดีว่าแม่จะทำขายด้วย เผื่อดรีมกับหญิงด้วยคงไม่ขาดทุนหรอกนะ”
“ว่าแต่ร้านของก้องปิดกี่ทุ่มหรือ นี่ก็สามทุ่มแล้ว” ถามอย่างสงสัย
“ประมาณเที่ยงคืนนั่นแหละ มันเป็นร้านอาหารกึ่งบาร์น่ะ”
“อ๋อ ดีจังเลยนะ ไม่คิดว่าด้านหลังร้านอาหารจะมีบ้านและสวนที่ร่มรื่นแบบนี้เหมือนกัน”
“ดีใจที่ชอบนะ ดรีมกับหญิงก็มาได้ทุกเมื่อเลย” ก้องภพชวน
“เดี๋ยวเราจะพาพี่นนท์มาบ้างดีกว่า”
“เดี๋ยวนี้ติดแฟนนะ” ก้องภพแซว
“นายก็หาบ้างสิวะ”
“ดูพูดเข้า ถามจริงพี่นนท์เขารับได้หรือที่เธอห่ามขนาดนี้”
“อย่ามาปากเสียนะก้อง เรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับหัวใจต่างหาก” ก้องภพถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง
20 นาทีผ่านไป
เสียงฮือฮาดังเล็ดลอดเข้ามาในตัวบ้านของก้องภพที่อยู่ด้านหลังร้านอาหาร เพราะปลายฝัน ก้องภพและญาณินได้เก็บของที่ใช้ในการทำงานต่างๆ เข้ามาเก็บในบ้านและนั่งรอคนของตัวเองมารับ
ด้านหน้าร้านก็ส่งเสียงอย่างไม่คาดคิดว่าอัคนีจะโผล่มาในที่แบบนี้ได้ทุกสายตาจับจ้องคนตัวสูงอย่างอยากรู้ว่ามาทำไม
นักธุรกิจไฮโซมาทำอะไรในที่สำหรับคนทั่วไปเข้ากัน
“กี่ท่านคะ” พนักงานสาวถามยิ้ม พลางทอดสะพานเต็มที่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าได้เป็นแค่คู่นอนสักคืนก็ยังดี
“เจ้าของร้านอยู่รึเปล่า” ถามเสียงเรียบ
“ร่ะ รอสักครู่ค่ะ”
“อืม”
อัคนีกำลังโมโห ตอนถึงร้านแล้วโทรไปหาปลายฝันหนึ่งรอบก็ไม่รับ ต้องถามหาเจ้าของร้านแบบนี้เนี่ยแหละ สักพักหนุ่มสูงวัยก็
เดินยิ้มมายังตน
“มีอะไรให้รับใช้หรือครับ”
“ผมมารับดรีมเพื่อนของเด็กก้องน่ะ” บอกธุระของตนไป
“ดรีมหรือครับ ได้ครับเดี๋ยวผมจะตามให้ แม่!! ตามดรีมเพื่อนก้องให้หน่อย ผู้ปกครองมารับแล้ว” รับคำเสร็จก็หันไปตะโกนเรียกภรรยาที่ยืนมองอยู่ห่างๆ แบบทันที เพราะกลัวไม่ทันใจ
ไม่มีใครไม่รู้จัก...แต่ดูเหมือนว่าผู้ปกครองของก้องภพจะไม่รู้ว่าปลายฝันคือใคร
“ได้จ้ะ”
“เชิญนั่งก่อนนะครับ” บิดาของก้องภพผายมือไปยังเก้าอี้ที่ว่าง ซึ่งอัคนีก็นั่งลงเพื่อเป็นการให้เกียรติ
“เอ่อ ต้องขออภัยนะครับ ไม่ทราบว่าคุณคือคุณปฐพีหรือคุณอัคนีหรือครับ” เจ้าของร้านถาม
“อัคนี เรียกเพลิงก็ได้”
“ครับคุณเพลิง ว่าแต่ดรีมเป็นน้องชายหรือครับ ทำไมผมถึงไม่ทราบข่าวว่าคุณมีน้องชาย” ผู้สูงวัยถามอย่างสงสัย
“เป็นเมีย”
สิ้นคำตอบ บิดาของก้องภพก็เงียบลงใบหน้าเจื่อน เหงื่อตกทันทีกลัวคนตรงหน้าจะทำอะไรกับตน เรื่องแรงน่ะเขาสู้ได้อยู่แล้ว
แต่อำนาจไม่อาจเทียบได้
“ต้องขออภัยด้วยนะครับ ผ่ะ ผมไม่ทราบจริงๆ” คนตรงหน้าของอัคนีก้มหัวลงอย่างสำนึกผิดจนลูกค้าในร้านมองอย่างหวดๆ เพราะกลัวว่าอัคนีจะทำอะไร
นี่คือนักธุรกิจนะ ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย
“ไม่เป็นไร ผมไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว ยังไงคุณก็เป็นผู้ปกครองของเพื่อนดรีมก็เท่ากับว่าเป็นผู้ใหญ่กว่าผม ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ครับ คุณไม่ใช่ลูกน้องของผม” อัคนีพูดบอกอย่างใจเย็น ส่วนคนที่เดินมาตามมารดาของก้องภพมาอย่างปลายฝันได้ยินถึงกับยิ้มภูมิใจ
เพราะอย่างน้อย เขาก็ไม่ได้บ้าอำนาจกับทุกคน
“ขอบคุณจริงๆ ครับ”
ภาพลักษณ์ของอัคนีที่เคยได้ยินมา ว่าร้ายกาจเพียงใดถูกกลบด้วยประโยคเมื่อกี้ จนผู้คนมองอัคนีอย่างชื่นชม ไม่คิดว่าจะได้เห็นมุมแบบนี้จากร่างสูง
เพราะข่าวที่ได้ยินหรือลือมา มันไม่มีอะไรดีเลยสักนิด
“มาแล้วหรือ” อัคนีถามนิ่งๆ เมื่อเห็นคนที่มารับเดินยิ้มมาหาตน
“ครับ ว่าแต่พี่มาทีหนึ่งนี่ร้านเงียบมากเลยนะฮะ” พูดขึ้นมาเล่นๆ
“ไม่รู้สิ เขาเงียบกันเอง เอาเป็นว่าผมพาคู่หมั้นกลับก่อนนะครับ ขอบคุณที่ดูแลนะครับคุณ...” ร่างสูงพูด
“ผมชื่อเทพครับ นี่ภรรยาผมชื่อเพ็ญ” บิดาก้องภพแนะนำตัวเองและภรรยา
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ขอบคุณอีกครั้ง”
“ด้วยความยินดีครับ”
“สวัสดีฮะคุณลุง คุณป้า พรุ่งนี้ผมจะมารบกวนใหม่” ปลายฝันยกมือไหว้เพื่อลากลับบ้าน จนผู้ใหญ่สองคนถึงกับยิ้มอย่างเอ็นดู
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ปลายฝันก็ทำให้คนอื่นรักได้เสมอ
“ยินดีจ้า” ผู้เป็นมารดาของก้องภพเอ่ย
ทั้งคู่เลยเดินออกมาจากร้าน อัคนีพาเดินตรงไปยังรถที่จอดไว้ด้านหน้าทันที
รถหรูแล่นออกไปจากหน้าร้านของก้องภพทันทีเพื่อจะเดินทางกลับบ้าน ส่วนปลายฝันเองก็จะหลับอยู่แล้ว แต่ไม่อยากให้ร่างสูงขับคนเดียว
“อยากนอนก็นอนเลย” อัคนีบอกแต่ตาก็ยังมองไปยังถนน
“ได้หรือฮะ”
“ตามสบายเลย ถ้าถึงพี่จะปลุก”
“ว่าแต่พี่ดินกลับหรือยังฮะ”
“โทรถามสิ”
“เดี๋ยวไปรบกวนตอนประชุมทำไงล่ะ”
“มันไม่ว่าหรอกน่า”
คนตัวเล็กหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วต่อสายตรงไปยังปฐพีทันที
(ว่าไงดรีม) ปลายสายถามทันทีที่รับสาย
“ประชุมเสร็จหรือยังครับ”
(เสร็จพอดี กำลังจะกลับนี่แหละ)
“ทานข้าวแล้วใช่ไหม”
(กินแล้ว เดี๋ยววันนี้ไปนอนด้วยได้ไหม เหมือนไม่ได้คุยกันนาน) ปลายสายขอเสียงนุ่ม จนปลายฝันยิ้มออกมา
ถึงจะปฏิเสธไป พี่เขาก็หาทางมานอนกับเราอยู่ดี
“คิดถึงหรือไง” ถามยิ้มๆ
(คิดถึงสิ) หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างดีใจ
“อย่ามาพูดบ้าๆ นะ จะทำอะไรก็ทำ แล้วไม่ต้องรีบขับรถนะครับ ขับเร็วมันอันตราย” ปลายฝันเตือนด้วยความเป็นห่วง
(รู้แล้วๆ เตือนทุกวัน)
“อ้าว? พูดงี้ได้ไง”
(โอเคๆ แค่นี้นะ จะขับรถ ไม่อยากให้พี่คุยตอนขับรถไม่ใช่หรือ) ปลายสายบอก
“งั้นแค่นี้นะครับ” แล้วปลายฝันก็วางสายไป เอาโทรศัพท์เก็บเข้ากระเป๋าเหมือนเดิม
“มันว่าไงบ้าง” อัคนีถาม
“ก็กำลังจะกลับน่ะครับ”
“แค่นี้? เห็นคุยกันเสียนานเลย”
“พี่ดินขอไปนอนด้วย ก็แค่นี้แหละครับ” ปลายฝันบอกทั้งที่หลับตาไปแล้ว
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปนอนด้วยนะ” อัคนีขอ
“อื้อ” ปลายฝันครางตอบทั้งๆที่ตนเองฟังไม่ออกหรอกว่าอัคนีพูดอะไร เพราะหลับไปแล้ว ส่วนอัคนีก็ส่ายหน้าไปมาอย่างเอ็นดู
“ถือว่าตกลงแล้วนะตัวแสบ”
…
…
…
อัคนีอุ้มคนตัวเล็กที่หลับไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยเข้าห้องนอนปลายฝันไป แล้ววางลงบนเตียงอย่างเบามือ ไม่อยากจะปลุกแต่ก็ต้องปลุกให้ตื่นขึ้นมาอาบน้ำเสียก่อน
“ดรีม ตื่นได้แล้ว” มือใหญ่เขย่ากายเล็กเบาๆ
“ฮือ” ปลายฝันงอแงไม่ยอมตื่น
“ไม่ตื่นพี่ปล้ำนะ”
ผึง!!
สิ้นคำขู่ปลายฝันก็ดีดตัวลุกขึ้นทันที มองหน้าอัคนีแบบไม่พอใจอีกด้วย
“ไปอาบน้ำ”
คนตัวเล็กกว่าไม่ตอบอะไร แต่เดินไปหยิบเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป ส่วนตัวเองก็เดินออกจากห้องนอนปลายฝันเพื่อไปเปลี่ยนชุดนอน เพราะตนอาบน้ำแล้ว
ฝั่งปฐพีที่มาถึงห้องก่อนหน้านี้ก็เดินออกมาห้องนอนของตัวเองในชุดนอนเรียบร้อย แล้วเปิดเข้าไปห้องนอนของปลายฝันทันที มุ่งหน้าไปที่เตียงแล้วนอนลงฝั่งซ้าย ยกโทรศัพท์ขึ้นมาตรวจเช็คข่าวสารรอร่างบางที่อาบน้ำอยู่
“อ้าว? พี่ดิน มาตั้งแต่เมื่อไหร่” ปลายฝันถาม พลางเดินไปทาแป้งที่โต๊ะเครื่องสำอางค์ที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากแป้งกับโลชั่น
“ก็เมื่อกี้ๆ แหละ ไอ้เพลิงล่ะ” ถามหาแฝดคนน้องทันที
“เดี๋ยวก็คงมาล่ะมั้ง ถามจริงเถอะ ทำไมถึงไม่นอนห้องตัวเองล่ะครับ มานอนอห้องผมแบบนี้มันก็แคบลงน่ะสิ”
“พี่ว่าแบบนี้ก็ดีออก อบอุ่นดี”
“เฮอะ พี่อบอุ่นแต่ผมอึดอัด” คนตัวเล็กบอกแล้วคลานขึ้นเตียงมานอนตรงกลางที่ประจำของตัวเองไปแล้ว เพราะตั้งแต่วันที่ทั้งสามคนรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ปฐพีกับอัคนีก็มานอนกับปลายฝันตลอด แรกๆ ปลายฝันก็ปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่ยอมท่าเดียว แต่ฝาแฝดรูปหล่อก็ไม่ยอมท่าเดียว
ก็เลยห้ามอะไรไม่ได้
“แต่ก็เห็นกอดแขนพวกฉันแน่นเลยนะนะในทุกๆ เช้าน่ะ” ปฐพีแซวจนปลายฝันเขิน หันหน้าหนี
“พี่ดิน ทำงานเหนื่อยไหม”
“มาแปลก ปกติไม่เคยจะถาม” พูดด้วยความสงสัย
“ก็เปล่าหรอก ไม่มีอะไรจะคุย ง่วงนอน”
“ถ้างั้นก็นอนไปสิ”
“นอนเลยก็แล้วกันนะ ฝันดีนะพี่ดิน ไม่ไหวแล้ว” ว่าแล้วคนตัวเล็กก็หลับตาลงทันทีเพราะเปลือกตาไม่สามารถที่จะเปิดกว้างได้อีกต่อไป
จุ๊บ!!
ริมฝีปากหนาของปฐพีก้มลงจุมพิตหน้าผากเล็กอย่างเอ็นดู และมีความสุข เขายอมรับอย่างลูกผู้ชายเลยว่า ต่อให้ทำงานหนักแค่ไหน แต่พอได้มาเจอปลายฝัน เห็นหน้าหรือแค่ได้ยินเสียง
ความเหน็ดเหนื่อยก็มลายหายไป
“หลับแล้วหรือวะ” อัคนีที่เข้ามาในห้องถามขึ้น
“อืม หลับเมื่อกี้ ว่าแต่มึงทำไมถึงช้า” ถามพลางมองตามอัคนีที่เดินไปนอนลงอีกฝั่งหนึ่ง
“คุยกับไอ้ธีร์น่ะ เห็นว่ามีผู้หญิงขอพบพรุ่งนี้” บอกด้วยสีหน้าเครียดๆ
“ใครอีกล่ะ อย่าบอกนะว่าพวกคู่นอนเก่าๆ มาบอกว่าท้องอีก” ปฐพีทาย
“กูว่าไม่น่าใช่ บอกแค่ว่าชื่อ ‘พลอย’ กูก็คุ้นๆ ชื่อนี้แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไปออก” อัคนีบอกผู้เป็นพี่อย่างสับสน
“เอาไว้พรุ่งนี้คงจะรู้ล่ะนะ”
“ว่าแต่มึงล่ะ ประชุมเป็นไงบ้าง”
“อย่าถามถึงเลยว่ะ แม่งกูอยากจะฆ่าตาลุงนั่นฉิบหาย” ปฐพีพูดถึงหนึ่งในหุ้นส่วน
“เออๆ ใจเย็น มันคงทำอะไรเราไม่ได้หรอก”
“กูรู้ แต่มันยั่วอารมณ์กูฉิบหาย”
“อื๊อออออ” คนตัวเล็กครางออกมาอย่างรำคาญ
“นั่นไงรำคาญแล้ว พอๆ ปิดไฟนอน” อัคนีบอก ก่อนจะปิดไฟตรงหัวเตียงที่เชื่อไฟทุกดวงในห้องไว้ ก่อที่ทั้งห้องจะมืดสนิท
“เออๆ”
ฟอด!!
อัคนีก้มหอมแก้มนิ่มเบาๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอน ปฐพีกับอัคนีนอนหลับตามปลายฝันไป เพราะตนก็ทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน รีบนอนจะได้ตื่นไปทำงานต่อในตอนเช้า
...
...
...
(มีต่อ)