สร้างรักครั้งแรก: Atsushi x Tsubasa (ต่อ)
อัตสึชิลากตัวสึบาสะมาที่รถของเขาแล้วดันตัวเด็กหนุ่มเข้าไปข้างใน ตลอดทางที่นั่งอยู่ในรถด้วยกัน อัตสึชิไม่พูดอะไรเลย พลอยทำให้สึบาสะนั่งเงียบไปด้วย เขานั่งตัวลีบ ขณะที่อัตสึชิขับรถด้วยท่าทางเคร่งเครียด ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปจอดในแมนชั่นหรูแห่งหนึ่ง
สึบาสะถูกลากให้ตามเข้าไปในห้องห้องหนึ่งในแมนชั่นนั้น เด็กหนุ่มไม่กล้าถามว่าเป็นห้องของใคร เขามองอัตสึชิถอดเสื้อนอกโยนลงไปบนโซฟา และพอเขาเรียกชื่อ อัตสึชิที่ยังไม่ยอมพูดอะไรสักคำก็หันมาดึงตัวเขาเข้าไปในห้องนอน
“เดี๋ยวก่อนครับ อัตสึชิซัง” เด็กหนุ่มพยายามรั้งตัวเองไว้ แต่สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้ เขาโดนโยนลงไปบนเตียง พร้อมกับที่ร่างสูงใหญ่ของอัตสึชิทาบทับลงมา สายตาของชายหนุ่มฉายแววอันตรายจนสึบาสะรู้สึกกลัว
“เธออยากเป็นมากนักรึนักแสดงจีวีน่ะ จะบอกให้นะว่ามันเป็นอาชีพที่ไม่ได้สนุก เธอต้องเจอกับอะไรต่อมิอะไรที่ทำให้เธอเจ็บปวด อับอาย ต้องทำอะไรที่เธอไม่ชอบ อย่างนี้”
พูดจบอัตสึชิก็ดึงเสื้อนอกที่สึบาสะสวมอยู่ออกแล้วกระชากเสื้อเชิ้ตตัวในจนขาดติดมือ สึบาสะผวาจะหนี แต่ตัวของเขาถูกกดติดกับฟูกที่นอน ริมฝีปากก็ถูกบดขยี้อย่างรุนแรง และอัตสึชิยังตะปบมือลงไปคลึงเคล้นร่างกายของเขาอย่างไม่ปราณี สึบาสะดิ้นหนี แต่ไม่พ้น เด็กหนุ่มร้องด้วยความเจ็บปวด
อัตสึชิไม่หยุดแค่นั้น เขาบีบปากสึบาสะออก แล้วดันตัวเองเข้าไปข้างใน เด็กหนุ่มสำลัก กระอักกระไอจนน้ำตาร่วง
“นี่แหละสิ่งที่เธอต้องเจอ” เสียงของอัตสึชิดังอยู่เหนือร่างของเด็กหนุ่ม “ทั้งรุนแรงทั้งหยาบคายแบบนี้ และเธอจะไม่ได้เจอแค่คนเดียวด้วย เธอยังจะต้องฝืนใจทำอะไรมากมายที่เธออาจไม่อยากจะทำ”
สึบาสะเช็ดน้ำตา แต่มันยังไม่ยอมหยุดไหล เขาเข้าใจสิ่งที่อัตสึชิต้องการจะบอก แต่เขาจะไม่ยอมแพ้ ถ้านั่นเป็นสิ่งที่จะทำให้เขาได้ทำงานกับอัตสึชิ ได้อยู่ใกล้ ๆ กับอัตสึชิ
เด็กหนุ่มคลานเข้าไปหาอัตสึชิทั้งที่น้ำตายังนองหน้า มือข้างหนึ่งของเขาจับสะโพกของอีกฝ่ายไว้
“สึบาสะ...เธอ...” อัตสึชิพูดอะไรไม่ออกเมื่อปากและมือของสึบาสะขยับทำให้เขา
เด็กแท้ ๆ ทำยังไม่ค่อยจะเป็นเลย
หัวใจของอัตสึชิอ่อนยวบ เขาทนไม่ไหวที่เห็นสึบาสะคนนั้นตั้งหน้าตั้งตาทำอะไรแบบนี้ สุดท้ายเขาก็ครางออกมา
“โธ่ สึบาสะ”
ชายหนุ่มดันตัวสึบาสะออก
“พอแล้วล่ะ ไม่ต้องทำอีกแล้ว พอได้แล้ว”
เด็กหนุ่มสั่นหน้าแรง ๆ ขยับจะเข้าไปอีก แต่ถูกรวบร่างไปกอดเอาไว้แน่น แน่นมากจนคนถูกกอดรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก
“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอเจ็บหรือร้องไห้อย่างนี้เลย”
สึบาสะสะอื้นอยู่กับอกของอัตสึชิ
“ฉันเห็นความตั้งใจของเธอ แต่ฉันไม่มีวันยอมให้เธอทำงานอย่างนี้เด็ดขาด”
อัตสึชิพูด เขาประคองหน้าของสึบาสะด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วจูบซับน้ำตาให้อย่างทะนุถนอม
“ทำไมล่ะครับ”
อัตสึชิไม่ตอบคำถาม เขามองสึบาสะนิ่ง เด็กหนุ่มร้องไห้จนตาบวม ปากกับแก้มก็แดงไปหมด แต่กลับทำให้ดูน่ารักยิ่งกว่าปกติเสียอีก แล้วพอไม่ได้คำตอบ สึบาสะก็เอียงคอเล็กน้อย ดวงตาใสแจ๋วเต็มไปด้วยความสงสัย ชายหนุ่มอดใจไม่ไหว เขาจูบสึบาสะแทนคำตอบ แล้วกอดร่างเล็ก ๆ แนบอก
“ยังอยากรู้อยู่รึเปล่าว่าทำไม” อัตสึชิกระซิบถามอยู่ข้างหู เด็กหนุ่มรีบพยักหน้า เขาอยากได้ยินจากปากของอัตสึชิมากกว่าอะไรทั้งหมด
“เพราะฉันชอบเธอ”
สึบาสะมองสบตากับอัตสึชิ เด็กหนุ่มมองเห็นความจริงจังอยู่ในสายตานั้น
“ฉันสนใจเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ความจริงคนที่จะต้องเล่นคู่กับเธอวันนั้นคือโช แต่ฉันก็เล่นซะเอง เพราะฉันไม่อยากให้ผู้ชายคนอื่นแตะต้องเธอ ฉันรู้สึกทนไม่ได้เอาเลยจริง ๆ ถ้าต้องเห็นเธอกอดกับผู้ชายคนอื่น”
เด็กหนุ่มหลับตา รู้สึกว่าหัวใจพองฟูคับอก
“ฉันขอโทษนะเรื่องวันนั้น แต่ฉันอยากให้เธอเสียใจจะได้ล้มเลิกที่จะทำงานอย่างนี้ เธอโกรธฉันมากเลยใช่ไหม”
สึบาสะสั่นหน้าแรง ๆ เขาเงยหน้าขึ้น ยิ้มอาย ๆ ให้ ก่อนจะบอกว่า
“ผมไม่ได้โกรธหรอก”
“ค่อยยังชั่ว” คนฟังโล่งใจ แล้วสายตาของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อถามสึบาสะว่า
“แล้วเธอคิดยังไงกับฉัน ชอบฉันบ้างรึเปล่า”
เด็กหนุ่มหน้าแดง เขาก้มหน้างุด ไม่ยอมตอบคำถาม แต่พอถูกรุกเร้ามากเข้าก็พยักหน้า...นิดเดียว แต่เท่านั้นก็เกินพอ สึบาสะโดนกดลงกับฟูกที่นอนทันที
“อัตสึชิซัง เดี๋ยวก่อนครับ”
เด็กหนุ่มพยายามจะเรียก แต่อีกฝ่ายไม่ยอมหยุด ร่างกายของอัตสึชิแข็งขันขึ้นจนสึบาสะรู้สึกได้เหมือนกัน
“หยุดไม่ได้แล้วนะ” อัตสึชิกระซิบเสียงแตกพร่า “และฉันไม่รับรองว่าครั้งนี้ฉันจะยั้งตัวเองอยู่เหมือนครั้งที่แล้ว ฉันอาจจะทำให้เธอต้องร้องไห้อีก”
“ถ้าต้องร้องไห้เพราะคุณ ผมก็ไม่ว่าอะไร”
“เด็กดี” อัตสึชิให้รางวัลด้วยการจุ๊บเบา ๆ ที่ปากก่อนจะเปลี่ยนเป็นจูบที่ลึกล้ำมากขึ้นซึ่งอีกฝ่ายก็สนองตอบด้วยความเต็มใจ
มือของอัตสึชิเลื่อนมาเกาะกุมมือสองข้างของสึบาสะ แล้วก็พาให้เด็กหนุ่มขยับไปพร้อมกับเขา
สึบาสะหลับตา ปล่อยให้หัวใจของเขาซึมซับสัมผัสจากอัตสึชิ แล้วเมื่อได้ยินเสียงกระซิบที่ริมหู เขาก็ลืมตาขึ้นมาเพื่อสบตากับชายหนุ่ม แล้วตอบด้วยความรู้สึกทั้งหมดจากหัวใจว่า
“ผมก็ชอบคุณครับ”
อัตสึชิยิ้ม เขากอดสึบาสะแน่นขึ้นอีก กอดแน่นจนเหมือนอยากจะให้ร่างทั้งสองหลอมรวมเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว แต่ยังไปไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เสียงโทรศัพท์ของอัตสึชิดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน
เจ้าของโทรศัพท์สบถอย่างหัวเสีย เขากดตัดสายทิ้ง แต่เสียงโทรศัพท์ก็ยังดังไม่ยอมหยุด
“อาจจะเป็นเรื่องงานก็ได้นะครับ เมื่อตอนบ่ายคุณรีบร้อนออกมา อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นที่บริษัท”
อัตสึชิหน้ามุ่ย คว้าโทรศัพท์มาดู แต่แล้วก็ต้องกัดฟันกรอด
“เจ้าตัวแสบนางิ”
“นางิซังทำไมเหรอครับ” เด็กหนุ่มถาม
“ไม่มีอะไรหรอก แล้วก็ไม่ใช่เรื่องงานด้วย เจ้านางิมันอยากจะแกล้งฉันเลยโทรมาแกล้งขัดจังหวะ กะจะก่อกวนกันชัด ๆ”
พูดจบอัตสึชิก็กดปิดโทรศัพท์ทันที
“นางิซังน่ะเหรอครับแกล้งคุณ” สึบาสะไม่อยากจะเชื่อ นางิซังที่หล่อเหลาและท่าทางใจดีคนนั้นน่ะเหรอ
“อย่าให้หน้าตามันหลอกเอาทีเดียว ไอ้เจ้านี่มันแสบ แสบกว่าเจ้าโชซะอีก”
อัตสึชิคำราม เขาดึงตัวสึบาสะเข้ามากอดแนบอกอีกครั้ง
“เอาล่ะ เลิกพูดถึงคนอื่นสักที มาต่อเรื่องของเรากันดีกว่า ฉันไม่ยอมให้โดนขัดจังหวะอีกแล้วนะคราวนี้”
สึบาสะหัวเราะคิก แล้วก็ยอมทำตามแต่โดยดี
อีกด้านหนึ่ง คนที่ถูกปิดโทรศัพท์ใส่ก็ไม่รู้สึกโกรธเคืองอะไร คาดเอาไว้แล้วด้วยซ้ำว่าอัตสึชิต้องทำแบบนี้ นางิยิ้มกริ่มกับโทรศัพท์ในมือจนโชที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มองอย่างไม่ค่อยไว้วางใจ
“ยิ้มอะไรนางิจัง”
โชถามอย่างระมัดระวัง
“ไม่มีอะไร แค่รู้สึกสนุกนิดหน่อย”
แน่ล่ะ จุดอ่อนของอัตสึชิเผยออกมาให้เห็นแบบนี้แล้ว จะไม่ให้เขารู้สึกสนุกได้ยังไง
“นายคิดจะทำอะไร”
โชไม่เชื่อ ก็รอยยิ้มของนางิจังน่ะน่าหวาดหวั่นน้อยอยู่เมื่อไหร่ ลองยิ้มแบบนี้ทีไร เป็นต้องมีเรื่องอะไรทุกทีสิน่า
นางิไม่สนใจคำคาดคั้นของคนรัก เขาดื่มกาแฟจนหมดถ้วย แล้วลุกขึ้นยืน
“ไม่ได้วางแผนอะไรหรอกน่า แค่กำลังคิดว่าฉันเปลี่ยนใจแล้ว คืนนี้ให้โชจังอยู่ข้างล่างดีกว่า”
“หา” โชอุทาน ก่อนจะโวยวาย “ไม่เอา ครั้งที่แล้วฉันก็อยู่ข้างล่างไปแล้วนะ ครั้งนี้มันต้องเป็นนายสิ”
“ไม่งั้นก็ไม่ต้องทำ” นางิพูดแล้วเดินลอยหน้าลอยตาจากไปโดยไม่สนใจโชที่ยืนหน้ายุ่ง แล้วเมื่อโชเห็นคนรักเดินฉับ ๆ ไปแบบนั้น เขาก็รีบวิ่งตามโดยส่งเสียงอุทธรณ์ไปตลอดทาง
“โธ่ นางิจัง นะ เปลี่ยนใจเถอะ”
“ไม่เอา”
“เปลี่ยนใจเถอะ นะ นะ”
“ไม่”
“นางิจังอะ”
“...”
เสียงของนางิกับโชเบาลงไปเรื่อย ๆ จนไม่ได้ยินเมื่อทั้งสองเดินออกไปจากโถงที่จัดไว้เป็นที่สำหรับพักผ่อนและดื่มกาแฟแล้ว ทั้งสองคนไม่รู้ตัวว่ายังมีใครอีกคนหนึ่งได้ยินเสียงสนทนานั้นด้วย และใครคนนั้นก็ยืนนิ่งแอบเหลี่ยมผนังด้านหนึ่งอยู่ สายตาที่มองไปที่นางิกับโชนั้นมีแววเศร้าเร้นลึก
เสียงกระแอมเบา ๆ ข้างหลังทำให้ใครคนนั้นสะดุ้งด้วยความตกใจ เมื่อหันไปมองก็เห็นผู้ชายที่ไม่ชอบหน้ายืนยิ้มเผล่อยู่
“ยืนแอบฟังชาวบ้านเขาพลอดรักกันนี่มันเสียมารยาทนะสึบาสะ”
“ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับนาย คาสุกิ”
คนที่ถูกเรียกว่าสึบาสะหน้าบึ้ง เขาสูงเลยไหล่ของคาสุกิมานิดหน่อยเท่านั้น เมื่อมายืนเผชิญหน้ากัน สึบาสะจึงต้องเป็นฝ่ายเงยหน้าขึ้นมอง
“ไม่เกี่ยว แต่เห็นแล้วรำคาญตาที่นายยังอาลัยอาวรณ์เจ้าโชมันอยู่ได้ มันมีแฟนไปแล้ว แฟนมันก็ขี้หึงแถมยังร้ายกาจ นายอยากจะโดนเจ้านางิมันฉีกอกเอารึไง”
“ฉันบอกแล้วว่ามันไม่เกี่ยวกับนาย” สึบาสะเสียงแข็ง จริง ๆ เขาอยากตะโกนใส่หน้าคาสุกิเลยด้วยซ้ำ แต่เกิดมาไม่เคยตะโกนเสียงดังใส่ใครสักที เวลาโกรธหรือไม่พอใจ แรงสุดที่ทำได้คือพูดด้วยเสียงที่เข้มและแข็งขึ้นนิดหน่อยแบบนี้เท่านั้นเอง
คาสุกิมองคนหน้าบึ้งเสียงแข็งด้วยสายตาเอ็นดู สึบาสะเป็นผู้ชายที่หน้าตาดี อาจจะไม่ได้หล่อเหลาปานเทพบุตรอย่างนางิ แต่ก็มีความนุ่มนวล ดวงตาเรียวมักจะทอประกายอ่อนโยน ริมฝีปากบางค่อนข้างกว้างแต่ก็ไม่น่าเกลียด ยิ่งเวลายิ้มน้อย ๆ นั้นยิ่งทำให้ใบหน้าทั้งหน้าดูนุ่มนวล ทั้งที่สึบาสะไม่ใช่ผู้ชายเอวบางร่างน้อย เขาค่อนข้างจะตัวหนาหน่อยเสียด้วยซ้ำ มีกล้ามเนื้อเพราะออกกำลังกายและรักษารูปร่างอย่างดี แต่เวลายิ้มทีไร กลับดูน่าปกป้อง น่าทะนุถนอม และอีกอย่างหนึ่งสำหรับคาสุกิ
มันน่า...จับกด
ส่วนเขา ในสายตาคนตรงหน้า เขาคงเป็นหมาป่าตัวร้าย
คาสุกิเป็นคนที่หน้าตาออกจะร้ายและเจ้าเล่ห์ รอยยิ้ม สายตา รวมทั้งหนวดบาง ๆ ที่คางยิ่งส่งให้ใบหน้าเขาไปในทางนั้น ยิ่งประกอบกับความปากจัด พูดจาทิ่มแทงคนอื่น ยิ่งทำให้แคแร็คเตอร์ร้ายของเขาเด่นชัดขึ้น แต่ผู้ชายอย่างนี้ก็เต็มไปด้วยความร้อนแรงและมีเสน่ห์ คาสุกิไม่เคยขาดคนห้อมล้อม ไม่ว่าจะชายหรือหญิง แต่หัวใจของเขากลับมาซบอยู่แทบเท้าผู้ชายที่ไม่สนใจเขาสักนิดอย่างสึบาสะ
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่มีวันปล่อยสึบาสะไปเด็ดขาด
“แต่ฉันอยากเกี่ยว” คาสุกิสืบเท้าเข้ามาใกล้ สึบาสะเขยิบหนีจนหลังชิดกำแพง แต่พอจะก้าวไปทางด้านข้าง มือสองข้างของคาสุกิก็ยกขึ้นยันผนังไว้ทั้งสองข้าง กักตัวสึบาสะเอาไว้ไม่ให้หนีรอดไปจากตรงนี้
“เจ้าหมีโชมันไม่ชอบกินแกะหรอกนะ จะบอกให้ ลูกแกะเป็นเหยื่ออันโอชะของหมาป่าตัวร้ายอย่างฉันต่างหาก”
พูดจบก็ก้มลงจูบสึบาสะอย่างรวดเร็ว และยังสอดลิ้นตามเข้ามาเกี่ยวกระหวัดรัดเล่นกับลิ้นของอีกฝ่ายด้วย คนถูกจู่โจมอย่างกะทันหันดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดที่ตอนนี้รัดแน่นจนสะบัดไม่หลุด สึบาสะพยายามจะเบือนหน้าหนีจูบ แต่คาสุกิตามติดไม่หยุด จวบจนพอใจนั่นแหละ เขาจึงถอนริมฝีปาก คลายอ้อมแขน ปล่อยตัวสึบาสะให้เป็นอิสระ ซึ่งอีกฝ่ายก็ตบหน้าทันที พร้อมสำทับ เสียงแข็งที่สุดเท่าที่พยายามทำได้ในชีวิตแล้วว่า
“เลวที่สุด”
แล้วก็เดินหน้าคว่ำแกมวิ่งหนีไป คาสุกิลูบแก้มข้างที่โดนตบ มีแรงแค่นั้นไม่ได้ทำให้เจ็บหรอก แค่พอแสบ ๆ คัน ๆ แต่สึบาสะที่เดินหน้างอออกไปแบบนั้นนี่สิ น่ารักที่สุด
คาสุกิรีบสาวเท้าตามออกไปอย่างรวดเร็วทั้งที่มือยังกุมแก้มตัวเองอยู่ ปากก็พูดยั่วแหย่สึบาสะไปตลอดทาง จนเจ้าตัวต้องเอามือปิดหูไว้จนไม่ได้ระวังเกือบจะชนคนที่เดินสวนมา
“อุ๊ย ขอโทษ ชุนคุง เป็นอะไรรึเปล่า” สึบาสะอุทานด้วยความตกใจ แต่คนเกือบโดนชนยิ้มให้จนตาหยีพลางสั่นศีรษะ
“ไม่เป็นไรครับสึบาสะซัง ผมไม่ได้โดนชน” แล้วเมื่อหนุ่มน้อยเห็นคาสุกิเดินตามมาข้างหลัง เขาก็รีบก้มศีรษะให้พร้อมกับกล่าวทักทาย
“สวัสดีครับคาสุกิซัง”
ชุนใช้คำสุภาพเพราะทั้งคาสุกิและสึบาสะเป็นรุ่นพี่ เข้าทำงานมาก่อนและยังอาวุโสกว่าด้วย
คาสุกิยกมือรับคำทักทาย ก่อนจะใช้มือข้างนั้นโอบไหล่สึบาสะเข้ามาหาตัว
“ขอโทษทีนะชุน แฟนฉันก็ซุ่มซ่ามอย่างนี้แหละ” เขายั่วแหย่
“เจ้าบ้า ใครเป็นแฟนนายกัน” สึบาสะรีบสะบัดตัวออก
ชุนยิ้มด้วยความขบขัน เรื่องคาสุกิตามตื๊อสึบาสะนี่ไม่มีใครในค่ายที่ไม่รู้ และดูเหมือนว่าทุกคนก็เทใจเชียร์คาสุกิอย่างเต็มที่ และเอาใจช่วยให้สึบาสะใจอ่อนเสียที
“โนมูระซังโทรตามผมเข้ามารับตารางงานใหม่ ของพวกคุณเรียบร้อยแล้วเหรอครับ
“เรียบร้อยแล้ว ฉันได้เล่นกับนายหลายคิวเลยนา เตรียมตัวไว้ให้ดี” คาสุกิตอบ
“จริงเหรอครับ ผมยินดีมากเลยที่จะได้ร่วมงานกับคาสุกิซัง” ชุนพูดอย่างร่าเริง
“เออใช่ ตะกี้ฉันเห็นไคกับจินมันนั่งประจันหน้ากันอยู่ในโรงอาหารแน่ะ ก่อนไปหาโนมูระซังนายแวบไปหาพวกมันหน่อยดีกว่า ฉันกลัวว่าป่านนี้พวกมันอาจจะกัดหัวกันตายไปแล้วก็ได้”
“อ้าว ตายละ” ชุนอุทาน แล้วขอตัวทันที
เรื่องที่ไคกับจินแข่งกันจีบชุนก็ไม่มีใครในค่ายที่ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน รวมทั้งเรื่องที่ชุนยังไม่สามารถเลือกได้ด้วยว่าจะลงเอยกับใคร ไคกับจินจึงเป็นคู่แข่งกันอย่างเปิดเผย หากสบโอกาสก็อาจจะพูดจากระแทกแดกดันประชดประชันใส่กันบ้าง แต่ถึงทั้งสองจะฮึ่มฮั่มใส่กันมากแค่ไหน แต่เมื่อมีชุนอยู่ใกล้ ๆ ทั้งคู่ก็พร้อมสงบศึกกันโดยทันที แล้วพากันมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ชิดชุนชนิดไม่มีใครยอมใคร เหมือนครั้งนี้ เมื่อเห็นชุนเดินเข้ามาในโรงอาหาร ไคกับจินก็รีบแข่งกันวิ่งเข้าไปหา แล้วพาชุนมานั่งที่โต๊ะแบบแทบจะเรียกได้ว่าประคับประคองมาเลยทีเดียว
“อิจฉาชุนซังจังเลยมีหนุ่มหล่อสองคนมาคอยตามจีบ”
เสียงล้อเลียนลอยลมมาจากคนที่นั่งโต๊ะข้าง ๆ แล้วคนล้อก็ส่งยิ้มกวน ๆ มาให้
“มานาโตะ” ชุนทักทาย “มาคนเดียวเหรอ ฮารุมะล่ะ”
“อยู่โน่นครับ” เขาบุ้ยใบ้ไปที่เด็กหนุ่มอายุไล่เลี่ยกันที่กำลังสั่งอาหารอยู่ สองคนนี้ก็ตัวติดกัน ถ้านอกเวลางานแล้วล่ะก็ เห็นมานาโตะที่ไหนก็ต้องเห็นฮารุมะที่นั่น และเหมือนจะรู้ตัวว่าถูกถามถึง ฮารุมะหันมามอง ชุนจึงโบกมือทัก ฮารุมะยกมือรับแล้วหันกลับไปรออาหารต่อ
ความสัมพันธ์ของสองคนนี้ค่อนข้างคลุมเครือ ทั้งสองคนไม่เคยบอกว่าคบกัน แต่ก็เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเวลา ความสัมพันธ์เหมือนเพื่อนสนิทมากกว่าคนรัก แต่ก็อาจจะไม่ใช่เพราะมีคนเคยเห็นทั้งสองคนจูบกันนอกเวลางาน แต่ถ้าใครไปถาม คำตอบมักจะเป็นปฏิเสธทุกครั้ง
ทั้งหมดอยู่ที่โรงอาหารกันได้สักพักก็วงแตกเมื่อโนมูระเดินมาโวยวายด้วยความหัวเสียว่ามาถึงกันแล้วแทนที่จะไปหาเขาจัดการเรื่องตารางงานให้เสร็จก็กลับมานั่งสุมหัวกันอยู่ในโรงอาหาร ปล่อยให้เขาต้องรอเงก
ผู้จัดการหนุ่มเท้าเอว ส่ายหน้าด้วยความอ่อนระอาใจขณะที่มองพวกนั้นแตกกระเจิดกระเจิงออกไปจากโรงอาหาร แต่ก็มีความเอื้อเอ็นดูอยู่ในสายตานั้น เด็กพวกนี้อาจจะร้ายบ้าง เกเรบ้าง ห่ามบ้างอะไรบ้าง แต่เขาก็ดูแลมาตั้งแต่ต้นทั้งนั้น เปรียบเหมือนกับน้องชายนั่นแหละ ตราบใดที่เจ้าพวกนี้ยังทำงานอยู่ในธุรกิจนี้และสังกัดค่ายนี้ เขาก็จะดูแลพวกมันอย่างดีที่สุด
นี่เป็นความตั้งใจของโนมูระตอนที่รับปากกับท่านประธานว่าจะมาทำงานให้และก็เป็นสิ่งที่เขายังยึดถือมาตลอดจนถึงตอนนี้ด้วย
.....จบคู่แรกแล้วค่ะ
มาเอาใจช่วยคู่สองกันต่อเนอะ