สิ้นปีของเรา
ตามปรกติแล้วในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ร้านของจงรักจะหยุดให้พนักงานทุกคนกลับบ้านเสมอ แต่ปีนี้กลับต้องหยุดช้ากว่าทุกปีเพราะมีงานเข้ามา ซึ่งงานนี้เป็นงานสำคัญของเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัย และเขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ดังนั้นจงรักจึงต้องขอแรงให้พนักงานในร้านอยู่ช่วยจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม
ในตอนแรกคนตัวเล็กรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ ด้วยเกรงใจและไม่อยากเบียดบังเวลาสังสรรค์สิ้นปีของทุกคน แต่พนักงานในร้านของจงรักก็น่ารักมาก ทุกคนอยู่ช่วยโดยไม่อิดออดซ้ำยังให้เหตุผลน่ารักๆ
“ทำงานวันหยุดน่ะดีจะตาย ได้เงินเพิ่มตั้งสามเท่า”
นันท์ว่าพลางเสียบดอกกล้วยไม้ฟาแลนด์สีขาวนวลเข้าไปในโอเอซิสที่ตัดเป็นรูปร่างสวยงามบริเวณซุ้มทางเข้างานแต่งงานซึ่งจะเกิดขึ้นในวันแรกของปี
“เห็นแก่เงินจริงๆ เลยนะเรา” มิ้นกัดชายหนุ่มหน้าทะเล้นไปหนึ่งประโยค
“ก็เงินมันหอมหวานนี่ครับ พี่มิ้นไม่ชอบแต่ผมชอบนะ” นันท์ตอบกลับ “พอคนอื่นกลับมาทำงาน เราก็ได้หยุด แบบนี้ดีออกนะครับ ไม่ต้องไปเที่ยวแย่งกินแย่งใช้กับทุกคน”
เพราะปีนี้รบกวนวันหยุดของพนักงาน จงรักจึงยอมปิดร้านหลังปีใหม่ เพื่อให้ทุกคนได้หยุดเพิ่มชดเชยวันที่ขาดหาย ทั้งยังให้เงินเพิ่มเป็นสินน้ำใจให้คนทำงานเพิ่มอีกสองเท่า
“แล้วถ้าให้หยุดวันนี้ล่ะ เอาไหม” ขิงถาม
“เอาสิพี่ รออะไรล่ะ” นันท์รีบตอบ ก่อนจะหันมาหัวเราะใส่เจ้านายตัวเล็ก “ล้อเล่นครับพี่”
“รู้น่าว่าอยากหยุดจริง” จงรักบอกอย่างรู้ทัน ก่อนจะทำหน้าสลดและเอ่ยขอโทษทีมงานของตนเองอีกครั้ง “แต่ยังไงก็ขอโทษทุกคนอีกครั้งนะครับ ผมสัญญาว่าปีหน้าและปีต่อๆ ไปจะไม่ใจอ่อนแบบนี้แล้ว”
จงรักว่าพลางยกมือขึ้นชูสามนิ้วเป็นการปฏิญาณ ทั้งขิง มิ้นและนันท์หันมองหน้ากันเอง ก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน จากนั้นมิ้นก็เป็นคนพูดกับเจ้านายตัวเล็กก่อน
“รักไม่ต้องเกรงใจไปหรอกนะ อยู่กับรักมานาน พวกเราเข้าใจดี งานนี้ก็เป็นงานของเพื่อนสนิทเราด้วยใช่ไหมล่ะ เป็นพี่พี่ก็ต้องช่วยเพื่อนอยู่แล้ว”
“นั่นสิ” ขิงสนับสนุน
“อีกอย่างพี่กับสามีก็ไม่ได้มีแพลนไปไหนด้วย อยู่บ้านก็เบื่อ มาทำงานแบบนี้ก็ไม่เหงาดีนะ จริงไหมขิง”
“จริงที่สุด” ขิงว่า “แล้วนี่พี่ก็วางแพลนไปเที่ยวหลังปีใหม่ที่เราให้หยุดนี่แหละ จองตั๋วเครื่องบินก็ไม่แพงมาก รักไม่ต้องคิดมาก”
“ขอบคุณทุกคนมากนะครับ เอาไว้กลับมาจากวันหยุด ผมจะเลี้ยงอาหารนะ อยากกินอะไรกันดี”
“เอากับข้าวฝีมือพี่รักสิครับ อร่อยที่สุด ผมอยากกินขนมจีนแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายแบบคราวก่อน”
“ขอกินข้าวฝีมือเขา ถามคนของเขาหรือยังว่าอนุญาตไหม” มิ้นกระแซะถามรุ่นน้อง
“อุ่ย...” ชายหนุ่มเงียบเสียงลงทันควัน ก่อนจะเหลือบมองซ้ายขวาราวกับกลัวว่าใครคนที่กำลังจะพูดถึงอยู่ใกล้ๆ แถวนี้ “ไม่ได้ถามหรอกครับ”
“งั้นก็ถามสิ”
“ไม่เอาหรอกพี่ขิง ใครจะกล้า เกิดพี่เมฆเข้าใจผิดขึ้นมาอีกผมก็แย่สิ คนอะไรหมัดหนักชะมัด”
นึกแล้วนันท์ก็ยังเสียวปลาบที่แก้มไม่หาย ทั้งที่แผลจากการถูกคนหน้าดุหึงหวงหายสนิทไม่เจ็บปวดและไร้ร่องรอยมาเป็นปีแล้ว
“ถ้าไม่อยากโดนเข้าใจผิดก็ถอยห่างจะรักเค้าเลย เห็นไหมว่าใครมาโน้นแล้ว”
จงรักละสายตาจากใบหน้าตระหนกของนันท์เพื่อมองไปยังทางที่ขิงชี้ทันที แล้วเขาก็ได้พบกับพ่อหนุ่มหมัดหนักเดินปั้นหน้าดุมาแต่ไกล
แต่ใครจะว่าอย่างไรไม่รู้ สำหรับจงรักน่ะ เวลาที่พี่เมฆทำหน้าแบบนี้...เขาชอบที่สุด
“พี่เมฆ ทำไมมาเร็วจัง ผมยังไม่โทรให้มารับเลยครับ”
“เหลืออีกเยอะไหม” เมฆาถามเสียงเข้มพอๆ กับหน้าตา
“ก็ไม่เยอะแล้วครับ ปักดอกไม้ที่ซุ้มเสร็จก็เก็บของกลับบ้านได้”
“ก็เหลือไม่เยอะนี่”
“ผมกลัวพี่ต้องนั่งแกร่วรอ”
“พี่รอได้”
เมฆาพูดคำเดียว จงรักก็อุ่นวาบไปทั้งใจ ทั้งที่มันเป็นคำที่แสนธรรมดาแท้ๆ
...หากจะให้ทำอย่างไรได้ ไม่ว่าจะกี่ปี จงรักก็แพ้ให้คนหน้าดุคนนี้เสมอ
“งั้นรออีกแป๊บนึงนะครับ ผมจะรีบทำแล้ว”
“อืม” เมฆาพยักหน้า ทว่าก่อนน้องจะหันกลับไปทำงาน ชายหนุ่มก็เรียกคนรักตัวเล็กไว้ “รัก”
“ครับ?”
“หิวหรือเปล่า”
“...นิดหน่อยครับ ทำไมหรือ” จงรักงงเล็กน้อย แต่เมฆาก็เฉลยทันที
“พี่ซื้อขนมมาให้รองท้อง มาเอาไปกินสิ มีให้สำหรับทุกๆ คนด้วย”
จงรักตาเป็นประกายเมื่อเห็นถุงขนมเจ้าโปรดที่เมฆาถือเอาไว้ เขาเดินเข้ามาเอาจากมือ พร้อมกับขอบคุณด้วยตาเป็นประกาย
“ขอบคุณนะครับ”
“ไม่เป็นไร เราไปกินเถอะ พี่จะรออยู่ตรงโน้น” อีกฝ่ายชี้ที่โซฟาหวายซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกัน จงรักจึงพยักหน้ารับและเอาขนมไปแบ่งให้ทุกๆ คนกินอย่างอารมณ์ดี
“ครับ”
++++++
กว่าจะตกแต่งงานเสร็จ เก็บของ และรอจนนันท์ขับรถขนอุปกรณ์ไปเก็บที่ร้าน เวลาก็ผ่านไปจนเกือบจะข้ามวันใหม่ จงรักบอกลาทั้งหนุ่มรุ่นน้อง ทั้งสองสาวรุ่นพี่ พนักงานดีเด่นทุกคนของร้าน ก่อนจะเดินไปหาคนรักที่กำลังนั่งดูซีรี่ส์จากแท็บเล็ต
และดูเหมือนอีกฝ่ายจะคอยมองจงรักอยู่ตลอด ยังไม่ทันที่หนุ่มตัวเล็กจะเดินถึงตัว เมฆาก็เก็บของและลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะยื่นมือไปรับกระเป๋าผ้าตุงๆ ของจงรักมาถือไว้ให้
“เสร็จแล้วหรือ”
“เรียบร้อยหมดแล้วครับ พี่เมฆรอนานไหม หิวหรือเปล่า”
“รอนานอยู่ แต่ไม่หิว” แม้อีกฝ่ายเป็นคนพูดตรงๆ แต่ก็แสดงออกอย่างอ่อนโยนเสมอ “เราล่ะ หิวไหม ขนมที่พี่ให้ย่อยหมดแล้วหรือยัง”
“ยังไม่หิวครับ ผมไม่ได้ท้องยุ้งพุงกระสอบขนาดนั้นสักหน่อยพี่เมฆ”
“หึๆ ก็คิดว่าจะหิว ปรกติเห็นกินเยอะกว่านั้นไง”
“พี่เมฆก็...จะบ่นว่าผมกินเยอะอีกแล้วหรือครับ”
“เปล่าหรอก พี่แค่เป็นห่วง” คนหน้าดุว่า “แต่ไม่หิวก็ดีแล้ว กลับบ้านกันเถอะ”
“ครับ”
จงรักรับคำแล้วจึงยื่นไปจับมืออีกข้างที่ว่างของคนรัก ขณะที่ทั้งคู่เดินออกจากร้านอาหารซึ่งเป็นสถานที่ที่เพื่อนสนิทของจงรักใช้เป็นที่จัดงานสำคัญ
“เราจะไปไหนกันครับ” จงรักถามขณะที่เมฆาพาเดินไปยังซอยเล็กๆ ซึ่งอยู่คนละทางกับลานจอดรถของร้าน
“ไปที่จอดรถอีกที่”
“พี่จอดรถไว้ที่ไหน”
“แถวๆ นี้แหละ พอดีตอนมาที่จอดรถในร้านเต็ม”
“อ๋อครับ”
จงรักไม่ทันสังเกต แต่ก็พอเข้าใจได้ ด้วยคืนนี้เป็นเทศกาลสำคัญที่ทุกคนต่างพาครอบครัวมาเฉลิมฉลอง ร้านที่บรรยากาศดีและมีพื้นที่ติดริมแม่น้ำย่อมมีคนมากอยู่แล้ว
จงรักเดินทะลุซอยเล็กๆ ไป ผ่านเรือนไม้ริมน้ำที่บ้างเป็นร้านอาหาร บ้างเป็นโรงแรมและบ้านส่วนตัวเรียงรายติดๆ กัน
คืนนี้ที่กรุงเทพฯ อากาศเย็นลงเล็กน้อย แสง สี เสียงของผู้คนทำให้บรรยากาศค่อนข้างต่างไปจากที่เคยเห็น แต่ดูร่วมๆ แล้วจงรักรู้สึกว่าส่วนใหญ่ทุกคนก็อยู่กับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคนที่รักกันทั้งนั้น
คิดแล้วชายหนุ่มก็เหลือบมองคนที่เดินกุมมือเขาเดินไปเรื่อยๆ
วันนี้สำหรับจงรักนั้นช่างเป็นวันที่ธรรมดาเหลือเกิน กิจวัตรเช่นนี้ไม่ว่าวันไหนก็เกิดขึ้นได้เสมอ จนเรียกได้ว่าสามารถพบเจอได้จนชาชิน
เขาไม่ได้เที่ยว ไม่ได้กินดื่ม หรือสนุกสนานตามเทศกาลเหมือนคนอื่นๆ แถมยังทำให้คนรักอดเที่ยวไปด้วย
บึ้ม!!!
โดยไม่ทันตั้งตัว เสียงดังสนั่นก็ดังก้องขึ้นท่ามกลางความครึกครื้นของค่ำคืนสิ้นปี ปัดความคิดวุ่นวายในสมองไปจนหมด
จงรักสะดุ้งเฮือก ก่อนเสียงดังสนั่นเหมือนเดิมจะตามมาจนคนฟังหูดับ
บึ้ม บึ้ม บึ้ม!!
แสงสว่างวาบพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้วจึงระเบิดออกเป็นดอกไม้ไฟดอกใหญ่ละลานตา ดวงตากลมโตมองดอกไม้ไฟเหล่านั้นตาไม่กะพริบ มันพรั่งพรายเต็มผืนฟ้าอยู่พักหนึ่งแล้วดับไป
ในตอนนั้นเองจงรักจึงรู้สึกถึงแรงกระตุกที่อุ้งมือเบาๆ และเมื่อเขาหันไปมอง เขาก็พบดวงตาคู่ดุมองอยู่ และแน่นอนว่าดวงตาคู่นี้งดงามกว่าดอกไม้ไฟทั้งหมดที่เขาเห็นเมื่อครู่ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า
“สวัสดีปีใหม่นะรัก”
จริงๆ แล้วเขาไม่ควรเสียดาย...ไม่ควรเลย
ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันสิ้นปีที่แสนธรรมดา แต่เพราะมีเมฆาอยู่ข้างๆ มันก็เป็นวันพิเศษที่สุดแล้ว
เขารักวันนี้
รักทุกๆ วันที่มีพี่เมฆ
“...สวัสดีปีใหม่ครับพี่เมฆ”
++++++
ส่งท้ายปีด้วยโปรดจงรักตอนพิเศษค่ะ
ใครคิดถึงน้องรักกับพี่เมฆก็มีมาให้ชื่นใจกันนะคะ
สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้ากันด้วยน้า
แล้วใครติดตามนิยายเรื่องอื่นของฝน
มีตอนพิเศษต่อรัวๆ อีกค่ะ น่าจะทุกวันหลังจากนี้เรื่องละตอน
ฝากติดตามด้วยน้าาาาา
รักคนอ่านทุกคนเลย
ละอองฝน.