้นังฟัก เจ้ว่าแกโดนเด็กหลอกแด_แล้วแหละ
ถ้ากินเด็กแล้วมันไม่รุ่ง ก็อย่าลืมกลับไปซบอก(อันบึกบึน)ของอีพีทแทนนะ
นางคงยินดีต้อนรับแกเสมอ ยังไงก็ตาม เจ้ก็ขอภาวนาให้เด็กที่แกกำลังเลี้ยงต้อย ไม่มีเจตนาอันชั่วร้ายต่อแกแล้วกัน ขอให้มันมาดี
เอาจริงๆนะ ตั้งแต่อ่านมายังไม่รู้เลยว่าใครเป็นพระเอก หรือบางทีก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะมีพระเอกหรือเปล่า
แต่ว่ามันก็ไม่รู้สึกขาดๆอะไรนะ เหมือนนังฟักเป็นตัวเอกของเรื่อง อ่านเพลินทุกตอน สนุก อีกอย่างเจ้คิดว่าคุณฟักน้อยนั้น สามารถเป็นได้ทั้งพระเอกและนายเอกเลย เป็นคุณค่าที่คุณคู่ควรจริงๆ ทูอินวัน
#FC ฟักน้อย ชูป้ายไปรัวๆ 
เรื่อง :: ไม่มีรุกแท้ในหมู่เกย์ ::
เขียน ::
ผู้ซึ่งหลงรักหญิงสาวในภาพวาด ::
ข้อ 10 : หล่อ ใจดี สปอร์ต กทม.
หลังจากพูดจบฟักก็ตบด้วยรอยยิ้มเหมือนเคย
“ไม่ๆ ไม่ครับ คือ ผมแค่ ผมแค่อยากทำงานพิเศษ หาเงินเอง ผมไม่ได้อยากรบกวนพี่พัชขนาดนั้นเลยครับ” ลีจังทำตาโต ตกใจกับประโยคที่หลุดมาจากปากเขา เมื่อได้สติเด็กรีบยกมือปัดป่ายปฏิเสธ
ฟักยิ้มอีกระลอก ก่อนจะยกนิ้วแตะริมฝีปากตัวเองไว้เพื่อส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายเงียบลงก่อน
“เดตไลน์วันไหนครับ หื้ม?” ฟักโน้มตัวลงถาม
“…สิ้นเดือนครับ” ลีวายส์ตอบเสียงเบา
“แล้วจะทันเหรอ ถ้าทำงานพิเศษก็ได้วันละไม่กี่บาท”
ฟักพูดเรียบๆ ไม่ได้แฝงอารมณ์ใดใดในน้ำเสียง เขาไม่ได้ดูถูกแต่กำลังพูดความจริงไปตามที่เห็น ถ้าเป็นความจริงนะ ถ้าไม่ใช่ก็อีกเรื่อง เด็กน้อยหน้าเจื่อนลง คิ้วขมวดหนักขึ้นอีก เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เด็กคิดมาก เพราะเขาคิดว่ายังไงซะเรื่องมันต้องมาตกอีกหรอบนี้อยู่แล้ว ยืดเยื้อต่อไปก็คงมีแต่เสียเวลา
ฟักเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายๆและเท้าคางรอคำตอบ เขายิ้มอีกครั้งก่อนดึงกระดาษเช็คออกมา เขียนตัวเลขหกหลักและลงนามยืนยัน ฟักวางมันลงบนโต๊ะระหว่างตัวเองกับเด็กน้อย
ค่าเทอมเด็กเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ถ้าให้เดาจากการที่เขาเคยเรียนมาก่อนและกับการที่ลีวายส์ติดค่าเงินมาหลายเทอม บวกกับแรงพิศวาสเล็กๆน้อย ตัวเลขประมาณนี้ถือว่าค่อนข้างเหมาะสม
ยิ่งกว่าแจกซอง
เขาไม่ได้ถามเพิ่มเติมหรือซักไปถึงประวัติครอบครัว เพราะรู้สึกว่าเรื่องเหล่านั้นช่างไม่จำเป็นแล้วในเวลานี้
“พี่ครับ นี่มัน”
“ไม่พอเหรอครับ”
“เกิน เกินไปด้วยครับ อีกอย่าง เรา…เพิ่งรู้จักกันไม่นาน ผมไม่อยากรบกวนพี่พัชแบบนี้เลย มันเยอะเกินไปนะครับ” ลีวายส์เลื่อนเช็คคืนเขา
ฟักหัวเราะเบาๆ
เงินแค่นี้ถือว่าเล็กน้อยมาก แม้ภายนอกเขาอาจจะเหมือนพนักงานออฟฟิศกระจอกๆ แต่เนื่องจากเขาอยู่ตัวคนเดียวมาไม่ได้มีภาระอะไร เงินเก็บในบัญชีเขาจึงมีอยู่ในระดับหนึ่งเลยล่ะ ฟักบริหารเงินเป็นรวมไปถึงหน้าที่การงานที่มั่นคง ทั้งตำแหน่งงานเงินเดือนก็สูง แค่ค่าเทอมเด็กคนหนึ่งทำไมเขาจะให้ไม่ได้ หรือจะให้ส่งเสียจนเรียนจบยันมหาลัยก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย
“อย่าปฏิเสธพี่เลยครับ รับไปเถอะ การศึกษาสำคัญมากนะรู้มั้ย”
เด็กเงยหน้ามองเขา แววตากังวลใจ มีพนักงานเดินมาเสิร์ฟกาแฟที่โต๊ะ ทำให้บทสนทนาหยุดลงเพียงครู่ ฟักหันไปขอบคุณ เปิดหนังสือเรียนและสมุดของเด็กตรงหน้าระหว่างรอการเริ่มสนทนาอีกครั้ง
“พี่เองก็เคยเกือบไม่ได้เรียนมาก่อน เพราะว่าไม่มีเงินเหมือนกัน” เปล่าหรอก ฟักตอแหล
“จริงเหรอครับ”
“ใช่ครับ อ่า ตอนนั้น พี่ก็มีปัญหาคล้ายๆเรานี่แหละ แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้”
เขาแค่เป็นพวกที่ทนไม่ได้หากว่าเห็นใครกำลังตกทุกข์ได้ยาก โดยเฉพาะเด็กผู้ชายหล่อๆที่กำลังมีปัญหา ส่วนใหญ่คนพวกนี้จิตใจไขว้เขวง่ายอยู่แล้วด้วยเพราะกำลังเดือดร้อนเรื่องเงินๆทองๆ เขาก็ใช่อิทธิพลตรงนี้แหละค่อยๆแทรกซึมเขาไปทีละนิดทีละน้อย แทรกแซงง่ายดี
หลังจากเกลี้ยกล่อมเด็กอยู่นาน ทั้งยิ้มทั้งพูดปลอบให้สบายใจ ทั้งลูบทั้งไล้ สุดท้ายเด็กน้อยก็ยอมรับเช็คแต่โดยดีก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณเขาแทบจะกราบโต๊ะ
“ผม ผมจะรีบหามาคืนพี่พัชนะครับ ขอบคุณนะครับพี่พัช”
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องคืนพี่หรอก”
ฟักยกกาแฟขึ้นดื่ม ก่อนจะยิ้มบางๆ
“แค่ตั้งใจเรียนก็พอแล้วครับ เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาเลย” เขาอธิบายต่อ ถึงแม้ไม่ได้พูดออกมาแต่เพราะสีหน้าของลีวายส์แสดงออกแจ่มชัดว่าสงสัยในประโยคเมื่อครู่ ใช่ เรื่องเงินไม่เคยเป็นปัญหา เว้นเสียแต่ว่าเรื่องอื่นนี่แหละที่เขาแก้เท่าไหร่ก็ไม่หายสักที ความคัน
“แต่ผมอยากตอบแทนพี่จริงๆนะ ผมไม่อยากได้มาเปล่าๆแบบนี้ ผมจะรีบหางานพิเศษทำแล้วเก็บเงินมาคืนพี่แน่นอน”
เด็กดี เด็กดี
ฟักอมยิ้มในใจรู้สึกเอ็นดูแปลกๆ อยากจะเข้าไปกอดไปปลอบสักทีสองทีให้หายอยาก ทำไมเขาถึงไม่เกิดช้ากว่านี้อีกสักสิบปีนะ ไม่แน่ความสัมพันธ์คงออกมาอีกรูปแบบเลยก็ได้
“ถ้าน้องลีวายส์ต้องการอย่างนั้นจริงๆ พี่ก็ยินดีมากนะครับ แล้วอีกอย่าง ถึงพี่จะไม่ต้องการเงินคืน แต่พี่ก็ไม่ได้บอกว่าพี่จะให้ฟรีๆเหมือนกันนะ”
ฟักพูดพลางประสานนิ้วมือมองเด็กตรงหน้าไม่ละสายตา แล้วค่อยๆโน้มตัวลงอีกครั้ง ก่อนวางมือลงบนหลังมือนุ่มๆของอีกฝ่าย
“อยากตอบแทนพี่จริงๆหรือเปล่าล่ะ”
คงถึงเวลาแล้วสินะ
ปิดบังจุดประสงค์ที่แท้จริงต่อไปก็คงเสียเวลาเปล่า
ลีวายส์ตกใจเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่กล้าดึงมือออก ถ้ามองตรงๆทางการแสดงออกโดยไม่คิดลึกกว่านั้น เด็กน่าจะเริ่มตระหนักถึงบางอย่างได้
ค่อนข้างเสี่ยงที่จะสูญเสียความสัมพันธ์ แต่เขาไม่แคร์เท่าไหร่ เพราะยังไงซะ เขาก็ไม่ได้ต้องการน้องชายผู้น่ารักไว้คอยให้สอนการบ้านอยู่แล้ว
ฟักสบตาและสื่อสารผ่านทุกสิ่งทุกมวล เขาไล้ฝ่ามือจากหลังมือขึ้นไปเรื่อยๆ ถึงที่นี้จะไม่ใช่สถานที่ลับตาคนหรืออโคจรอะไรมาก แต่ตรงนี้ถือว่าเป็นมุมอับอยู่พอตัว ทุกคนต่างไม่ได้สนใจว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น และเขาเองก็ไม่ได้แสดงออกอย่างประเจิดประเจอ ในทางจิตวิทยา เขาก็แค่ค่อยๆลุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของอีกฝ่ายมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
หรือถ้ารู้ก็น่าจะสายไปนิด
“ว่าไงล่ะครับ พี่คิดว่าเรารู้นะ…ว่าพี่หมายถึงอะไร”
ฟักเลิกคิ้ว ถามด้วยน้ำเนิบนาบและท่าทีสบายๆ
ของฟรีไม่มีในโลก
แววตาเริ่มสั่น เสียงหอบหายใจเริ่มดังขึ้นอาจเพราะกดดันหรืออาจเพราะตื่นเต้น
หน้าซีดเป็นไก่ต้มเชียว น่าเอ็นดู๊น่าเอ็นดู
“ผม ผมไม่เข้าใจ”
“งั้นต้องรีบทำความเข้าใจหน่อยแล้วล่ะ ง่ายกว่าการทำความเข้าใจกับพวกเนื้อหาที่เรียนซะอีก มันขึ้นอยู่กับเราแล้วนะ ว่าจะเอายังไง เวลาก็มีไม่มาก” ฟักทำเป็นเหลือบสายตาดูนาฬิกา “คือสิ้นเดือน”
“แล้วถ้าผม ผม”
“ความจริง เช็คที่พี่เขียนให้ไปน่ะ ยังลงลายเซ็นไม่ครบนะครับ มันเหลือเซ็นเพิ่มอีกสักตัว ตวัดเพิ่มอีกสักหน่อย ถึงจะใช่ลายเซ็นพี่จริงๆ เช็คถึงจะสมบูรณ์ ถึงจะไปขึ้นเงินได้”
ฟักลอบยิ้ม เขาค่อยๆละมือออกแล้วยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ
“ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ ก็ค่อยโทรมาบอกพี่ก็ได้นะครับ แล้ววันนั้นก็อย่าลืมถือเช็คมาให้พี่เซ็นเพิ่มให้ครบด้วยล่ะ”
“นั่นหมายถึง หลังจากน้องลีวายส์ทำตามข้อตกลงที่ว่ากับพี่เสร็จเรียบร้อยแล้ว”
“พี่ไม่ได้บังคับอะไรเราหรอกนะ”
ฟักยิ้มอีกครั้ง
“แต่พี่จะรอ”
TBC
[28/07/2557]