ภาคพิเศษ โจ้เก่ง 3“ผมกำลังจะตัดใจแล้วนะพี่..ผมจะตัดใจแล้วจริงๆ เอิ๊ก..” ผมพยักหน้า..ก่อนจะเอามือตบบ่ากระรอกมันเบาๆ “ผมพูดจริงๆ นะพี่..พูดแล้วจะทำจริงๆ ด้วย”
“เออๆ”
มาถึงตอนนี้ผมก็เริ่มสงสัยตัวเองแล้วครับ..ว่าจะตามน้องมันมากินเหล้าที่ร้านนี่ทำไม แทนที่จะลากมันไปเมาที่ห้องมากกว่า เพราะไม่รู้ว่าป่านนี้ไอ้โจ้มันจะได้กินข้าวหรือยัง..ก็ปกติผมจะเป็นคนดูแลหาข้าวหาน้ำมันให้มันกินตลอดแทบจะทุกมื้อ แล้ววันนี้ผมไม่อยู่แบบนี้..มันจะได้กินอะไรหรือยังก็ไม่รู้
อดห่วงมันไม่ได้จริงๆ ทั้งที่ก่อนจะออกมาจากออฟฟิต ผมก็ตั้งใจว่าจะปล่อยให้มันได้ดูแลตัวเองแล้วนะ !
“พี่เก่ง..พี่เชื่อไหมว่าผมจะตัดใจได้”
“เออๆ เชื่อๆ” ตอบให้มันมั่นใจอีกครั้ง..ทั้งที่คำถามนี้น้องมันถามผมมาจะเป็นรอบที่ร้อยตั้งแต่เริ่มเมาแล้วมั้ง
“อิจฉาพี่บีมเนอะ..ดีจังที่พี่เล็กรัก ฮึก..”
เวรแล้วไง..นี่น้องมันจะเสือกร้องไห้ขึ้นมาทำไมว่ะ แบบนี้โต๊ะอื่นเขาจะคิดว่าผมรังแกมันหรือเปล่าเนี้ย???
“เฮ้ย..อย่าร้องดิ”
“ผมก็ไม่อยากร้องนะพี่..แต่กลั้นไม่ไหวจริงๆ ฮึก..”
กรรมของกูจริงๆ -_-
“ไม่ต้องร้องแล้ว..เงียบซะๆ” ผมลุกขึ้นไปนั่งข้างๆ ก่อนจะดึงน้องมันเข้ามากอดปลอบ “กลับบ้านไหม..ไปกินต่อที่ห้องดีกว่า หรือจะไปกินที่ห้องพี่ก็ได้นะ”
“ฮือ..” น้องมันร้องไห้โฮออกมา..แต่ก็ยอมลุกจากโต๊ะแล้วควักแบงค์พันออกจากกระเป๋าหลายใบ ก่อนจะวางลงบนโต๊ะ “ไปกินห้องผมแล้วกันครับ..ไปห้องพี่ผมเกรงใจพี่โจ้”
แล้วน้องมันก็เดินนำผมไปขึ้นแท็กซี่..พอดีผมไม่ได้เอารถมาน่ะครับ ทิ้งไว้ให้ไอ้โจ้มันขับกลับ..เพราะคิดไว้แล้วว่าต้องไม่ได้กลับง่ายๆ เผลอๆ อาจจะต้องค้างห้องกระรอกมันด้วยซ้ำ..เพราะสภาพผมตอนนี้ก็มึนได้ที่อยู่ เหอะๆ
.
.
.
“ไม่ต้องทอนครับ..”
ผมหันไปมองหน้าไอ้เด็กไม่รู้จักคิดที่ใช้เงินเป็นเบี้ยไม่แบบไม่เสียดาย..ก่อนจะแบมือไปเอาเงินทอนจากคนขับ “น้องมันเมาอ่ะพี่..รบกวนขอเงินทอนด้วยครับ”
“พี่เก่งแม่งงก..”
ดูมันพูด..นี่ผมอุตส่าห์หวังดีกลัวมันจะเงินหมดก่อนสิ้นเดือนนะเนี้ย เมื่อกี้แม่งก็ทิ้งเงินทอนไว้ร้านเหล้าเกือบเป็นพันแล้ว..ตอนนี้แม่งยังจะกล้าทิ้งเงินเกือบๆ แปดร้อยไปหน้าตาเฉยอีก
“น้อยๆ หน่อย..เด็กจบใหม่เพิ่งเลิกขอเงินพ่อแม่ใช้แบบมึงจะไปเข้าใจอะไร ไม่รู้หรือไงว่าเงินมันหายาก” ผมบ่นแล้วผลักหัวมันให้ลงจากรถ “รีบๆ ขึ้นห้องเลยมึง”
“ทำไมเรียกผมแบบนั้น..พี่เก่งแม่งพูดไม่เพราะ” แล้วทีมึงพูดแม่งๆ ใส่กูเนี้ย เพราะมากเลยงั้นดิ ??? “แวะซื้อเหล้าตรงร้านนั้นก่อนนะครับ”
“เออออ..” ลากเสียงยาวก่อนเดินตามมันไปที่ร้านค้าใกล้ๆ “คืนนี้พี่ค้างด้วยนะกระรอก..”
“ครับ..”
น้องมันตอบแล้วหันมาส่งยิ้มให้..ผมเลยเดินเข้าไปกอดคอมัน ก่อนจะควักตังค์จ่ายค่าเหล้า เลี้ยงน้องมันสักหน่อยละกัน..เพราะตอนนี้กระรอกมันก็เมาแล้วไง กินอีกนิดหนึ่งก็คงสลบล่ะ คงไม่เปลืองเท่าไรหรอกมั้ง อิอิ
.
.
.
“กลับมาได้แล้วหรือไง..”
“อ้าว..ทำไมยังไม่นอนอีกว่ะโจ้” กลับมาถึงห้องตอนเกือบๆ ตีหนึ่ง..ก็เจอโจ้มันนั่งกระดกเบียร์อยู่บนพื้นห้อง “แล้วทำไมไม่เปิดไฟว่ะ”
ปิดประตูได้ก็ควานหาสวิตย์ไฟ..กดเปิดแล้วเดินไปนั่งลงข้างๆ มัน คือตอนแรกผมก็ไม่คิดจะกลับห้องไง..แต่ใจมันดันนึกห่วงแต่มันจนไม่เป็นอันนอนอ่ะ เลยต้องลากสังขารกึ่งๆ มึนๆ กลับมาห้องแบบนี้
“แดกเหล้ารอมึงไง..นึกว่าจะไม่กลับห้องแล้ว”
“กูก็บอกแล้วไงว่าอาจจะไม่กลับ..แล้วนี่กินไปเยอะแค่ไหนแล้วว่ะ ทำไมกระป๋องมันเกลื่อนไปทั่วแบบนี้”
“เหอะ !” มันทำท่าไม่สนใจ..ก้มหน้าก้มตากระดกเบียร์ในมือต่อ
“อะไรของมึง..”
บ่นๆ กับตัวเอง..ก่อนจะหยิบเบียร์ที่วางทิ้งไว้จนเกือบจะหายเย็นขึ้นมาเปิดกินบ้าง พอดีตอนอยู่กับกระรอกผมกินไม่ทันน้องมันน่ะ..เล่นกระดกเอาๆ ไม่ยอมแบ่งผมเลย เงินผมแท้ๆ
“ทำไมไม่ค้างห้องมันเลยว่ะ..จะกลับมาทำไม” มันปล่อยกระป๋องเปล่าทิ้งลงบนพื้น..แล้วหยิบกระป๋องใหม่ขึ้นมาเปิด “ตอนไปยังไม่เห็นจะชวนกู..ตอนนี้เสือกจะมาแย่งเบียร์กูกินอีก”
“น้องมันอกหัก..แล้วบังเอิญมันดันไว้ใจกูคนเดียวไง กูเลยไม่กล้าชวนมึง”
ถึงกระรอกมันจะรู้ว่าใครๆ ก็คงจะรู้ว่ามันแอบชอบไอ้เล็ก..แต่มันก็คงไม่อยากพูดอะไรให้มันโจ่งแจ้งเท่าไรหรอก ยังไงซะ..มันก็คงจะต้องเกรงใจไอ้เล็กมันบ้าง แถมยังต้องรักษาภาพพจน์ของตัวเองในที่ทำงานเอาไว้ด้วย
“แล้วแต่มึงเหอะ..”
มันพูดแค่นั้น..แล้วไม่พูดอะไรออกมาอีก เรานั่งกินเบียร์กันไปเงียบๆ จมอยู่ในโลกของตัวเอง..ไม่รู้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ตอนที่ในหัวผมตอนนี้มีแต่เรื่องของมันอยู่เต็มไปหมด ยอมรับจริงๆ ว่าก่อนหน้านี้ตอนได้ยินกระรอกมันพร่ำเรื่องจะตัดใจๆ ตอนนั้นผมก็แอบคิดอยู่เหมือนกันว่า..ผมก็อยากจะลองตัดใจจากมันบ้างเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้จะทำได้ไหม..
.
.
.
“เก่ง..”
“หือ??” ผมหันไปมองไอ้คนเรียก..ที่ตอนนี้เริ่มเลื้อยเข้ามานั่งใกล้ผมแล้ว “จะทำอะไรของมึง..”
ผมหยุดมือมันที่กำลังลากขึ้นมาบนต้นขาผม..ก่อนจะรีบวางกระป๋องเบียร์ลงแล้วผลักหน้ามันให้ออกห่างไป แต่มันก็ยังรั้นที่จะขยับพาตัวเข้ามาใกล้ตัวผม เราเลยออกแรงผลักกันไปมาเล็กน้อย..ก่อนที่ผมจะเสียหลักล้มลงไปนอนให้มันตามมาคร่อมทับตัวผมได้
“จะทำอะไรของมึง..”
“หึ !”
“เชี่ยโจ้..เมาแล้วอย่าเรื้อน”
สิ่งที่มึงกำลังทำอยู่เนี้ย..มันเสี่ยงกับการที่มึงจะโดนกูจับกดมากเลยนะโจ้ สำนึกบ้างสิว่ะ!!
“มึงชอบไอ้เด็กกระรอกนั่นหรือเปล่าว่ะเก่ง..” ผมมองมันแบบมึนๆ “ตอบมาสิว่ะ !”
“เปล่า..”
“แล้วทำไมต้องไปเป็นห่วงเป็นใยมันมากขนาดนั้นด้วย” มันว่าเสียงดังใส่ “ทำตัวให้ความหวังเขาไปทั่ว..”
“อะไรของมึง..” ผมไปทำตัวเหมือนให้ความหวังอะไรใครตอนไหนว่ะ ??
“มึงมันนิสัยไม่ดี..”
“มึงบ่นอะไรกูไม่เข้าใจ” ผมว่าก่อนจะรีบตะปบมือมันที่กำลังเลื้อยเข้ามาในเสื้อผม “จะทำเหี้ยไรของมึงไอ้โจ้..”
“อยู่นิ่งๆ”
“นิ่งเหี้ยไร..นี่มึงเมาแล้วใช่ไหมเนี้ย” ผมถามมัน “สัดอย่าทำแบบนี้..”
ผมเริ่มดิ้นหนี..เมื่อมันพยายามฉกจูบลงมาที่ริมฝีปากผม แต่พอไม่ได้อย่างใจ..ก็ย้ายไปจูบเบาๆ ที่ต้นคอผมแทน
“อย่าดิ้น..” มันว่าก่อนจะรวบข้อมือผมเอาไว้
“ไอ้เชี่ยโจ้..กูเพื่อนมึงนะ” แม่งเอ๊ย..นี่มันเมาแล้วใช่ไหม “อยากมองหน้ากันไม่ติดหรือไงว่ะ”
“หุบปากสักทีเหอะ..น่ารำคาญว่ะ”
“ไอ้โจ้..!!” ผมเริ่มเหงื่อตก..รู้สึกเหมือนจะอยู่ไม่ได้แล้ว “มึงอยากเสียเพื่อนหรือไงสัด”
ปกติผมเมากับมันบ่อยนะครับ..คำนวณจากเวลาที่รู้จักกันมา แม่งไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ..แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยนะที่มันจะเมาจนอยากจะปล้ำผมแบบนี้ เพราะไม่งั้นผมคงกลายเป็นของมันไปนานแล้วล่ะ
“เชี่ยโจ้..”
“มึงอยากเปลี่ยนสถานะระหว่างเราหรือไงสัด” ผมโวยวาย “ถ้ามึงทำ..มึงต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเองให้ได้นะไอ้เหี้ย”
“เออ !!”
ไม่รู้สิ..ผมไม่รู้จริงๆ ว่าคำว่า ‘เออ’ ของมันเนี้ยหมายความว่ายังไง..
อาจจะหมายถึงมันพร้อมจะรับผิดชอบ..ถ้าความสัมพันธ์ระหว่างเรามันจะต้องเปลี่ยนไป..
หรือมันอาจจะหมายถึงว่า..เออ ขอกูเอามึงก่อนเหอะ แล้วค่อยมาคิดกันว่าจะเอายังไงกันต่อไป..
และทั้งๆ ที่ไม่รู้ แต่ผมก็ยอมมัน..
.
.
.
ผมตื่นเช้ามาด้วยอาการมึนๆ หัวเล็กน้อย..รู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกายนิดหน่อย ครั้งแรกกับมันไม่ได้ทำให้รู้สึกแย่สักเท่าไร..ผมไม่ได้เจ็บปวดอะไรจนถึงขั้นลุกไม่ไหว แต่ก็ยอมรับว่ามันก็ทำให้ขยาดเรื่องแบบนี้ไปได้เลยสักพัก แต่ถึงกระนั้นก็ต้องยอมรับว่าผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ผมรักมัน..นั่นแหละเหตุผลใหญ่ที่ทำให้รู้สึกดีแบบนี้ แล้วมันล่ะ..จะคิดยังไง ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองเผลอเอาเพื่อนสนิทมาทำเมีย ?
“อูย..” เผลอร้องออกมาเล็กน้อย..เมื่อเริ่มขยับตัว “เจ็บเหมือนกันแฮะ”
มันรู้สึกแสบๆ ขัดๆ จนทำตัวไม่ค่อยจะถูก..ไม่รู้ว่าครั้งต่อไปมันจะดีขึ้นไหม ถ้าขืนเป็นแบบนี้ทุกครั้งคงแย่..แต่มาคิดๆ ดูไอ้น้องบีมมันก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนี่หว่า แล้วผมแข็งแรงกว่าน้องมันตั้งเยอะ..ทำไมถึงจะทนไม่ไหวล่ะจริงไหม ???
แล้วนี่ผมจะรีบคิดไปก่อนทำไม..คิดทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้โจ้มันจะจำได้หรือเปล่าว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น เฮ้อ..
“เก่ง..” ผมหันไปมองไอ้คนเรียก..ก็เจอมันนอนจ้องผมอยู่ “จะรีบลุกไปไหนว่ะ..”
“เอ่อ..ก็..ก็ไปทำกับข้าวให้มึงกินไง” ตอบแล้วรีบหลบสายตามัน “ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจังว่ะ..”
“หึ..” มันหัวเราะ “สงสัยคงเพราะได้ออกกำลังกายละมั้ง..”
“เออ..กูว่า กูไปทำกับข้าวก่อนดีกว่า”
ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับมันครับ..แค่ถามแค่นี้มันก็ตอบทะลึ่งใส่แล้ว ขืนยังอยู่คุยกับมันต่อ..ผมคงได้ลุกไหม้จนกลายเป็นกองเถ้าถ่านอยู่ตรงนี้แน่ๆ
“ไม่ต้องรีบนะมึง..เดี๋ยววันนี้กูจะโทรไปลา แล้วฝากงานพวกไอ้เล็กมัน..เพราะกูกับมึงคงมีเรื่องต้องคุยกันยาว”
“อืม..”
รับคำสั้นๆ ก่อนจะรีบเดินออกมาทำกับข้าว..ทำเสร็จกินเสร็จก็จะได้คุยกันสักที ผมเองก็อยากรู้ว่ามันจะทำยังไง..เมื่อเราเดินข้ามผ่านสถานะความเป็นเพื่อนกันมาแล้วแบบนี้ อยากรู้ว่ามันจะกล้าเลื่อนสถานะของผมจากเพื่อนขึ้นมาเป็นอย่างอื่น..เป็นอะไรที่ผมเองแอบใฝ่ฝันอยากจะเป็นมานาน หรือมันจะแสร้งทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นแล้วกลับไปเป็นเพื่อนกันแบบเดิมกันแน่..ผมอยากรู้จริงๆ
.
.
.
อึดอัด..อึดอัดที่มันเอาแต่จ้องผม โดยไม่คิดจะพูดอะไรเลย ตกลงมันจะเอายังไงกับผมกันแน่ว่ะ..จะไปต่อ หรือจะถอยห่าง ตกลงมันอยากจะทำยังไงกับความสัมพันธ์ของเรากันแน่ ??
“โจ้..”
“กูขอเวลาทำใจแปบ..”
แล้วผมก็ต้องเงียบ..ปล่อยให้มันจ้องต่อไปเรื่อยๆ แบบนั้นสักพัก ก่อนจะทำท่าลุกขึ้นไปหยิบรีโมท..แบบว่านั่งรอเวลานานๆ มันก็เบื่อ อีกอย่างผมก็ไม่อยากนั่งใจเต้นเพราะลุ้นกับคำตอบของมันในห้องเงียบๆ ที่ไม่มีเสียงอะไรเลยแบบนี้หรอกครับ มันเสียว ?
“จะไปไหน..” มันรีบพูดดัก..ทั้งที่ก้นผมเพิ่งพ้นจากเบาะยังไม่ถึงคืบเลยครับ เหอะๆ
“จะไปเปิดทีวีกู ระหว่างรอมึงทำใจไง..”
“นั่งลงไปเลย !” พอเจอไอ้โจ้ในโหมดจริงจังแบบนี้..ผมเลยต้องรีบหย่อนตูดลงไปที่เดิม “กูพร้อมจะคุยแล้ว”
“อ่า..” ยกมือขึ้นเกาที่แก้มตัวเองแก้เก้อ “ก็..ว่ามาดิ..”
“มึงคิดยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราเมื่อคืน..” ผมนิ่งไปสองวิ..หลังจากฟังคำถามจบ “เก่ง..”
“เอ่อ..” ทำไมมันต้องเริ่มการคุยด้วยคำถามที่ผมตอบไม่ได้แบบนี้ด้วยว่ะ !? “กู..ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“อย่ามารวน..”
“มึงสิรวน” ผมว่ามันกลับ “มึงเองที่เป็นฝ่ายอยากจะคุย..แล้วโยนภาระมาที่กูแบบนี้มันใช้ได้เหรอ”
“เฮ้อ..”
“อย่ามาถอนหายใจใส่กู..” กวนตีนนะไอ้สัด !
“กูขอโทษ..” จู่ๆ มันก็พูดคำนี้ขึ้นมา..คำพูดที่ทำเอาน้ำตาผมปริ่มมาที่ขอบตา “ไม่รู้สิ..กูอาจจะเมามั้ง”
“...”
“กูไม่ได้อยากเอาเปรียบมึงแบบนั้นนะ”
ถึงตอนนี้น้ำตาผมมันก็ไหลพรากออกมาเลยครับ..คือมันบอกว่าขอโทษ บอกว่ามันไม่ได้ตั้งใจ แบบนี้มันหมายความว่ามันรู้สึกผิดกับสิ่งที่มันทำใช่ไหม ?? แล้วความหมายแฝงที่อยู่ในรูปประโยคนั้น..คือมันต้องการให้เรากลับไปเป็นแค่เพื่อนกันเหมือนเดิมใช่หรือเปล่า ??
“เก่ง..คือกู..”
“มึงไม่ต้องพูดหรอก..กูเข้าใจ” ยกมือขึ้นปาดน้ำตาตัวเองแบบลวกๆ “มึงเมากูเมาใช่ไหม..ที่มึงอยากจะพูด”
ผมเองก็น่าจะรู้ตัวนะครับ..ไม่รู้จะแอบไปหวังอะไรมากมายแบบนั้น มันก็แค่เมา..เมาแล้วเงี่ยนตามนิสัยผู้ชายทั่วๆ ไป ขนาดผมยังเป็นเลย..แล้วทำไมไม่รู้จักคิดว่ามันก็อาจจะเป็นแบบนั้นบ้าง ไม่รู้จะคิดอะไรบ้าบอให้ความหวังตัวเองไปทำไม..
“กูไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น..”
“เอาเหอะ..กูเข้าใจ” ผมพูดตัดบทมัน “กูจะแกล้งลืมๆ มันไปซะ..มึงก็ด้วยเหมือนกัน แล้วเราก็กลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”
“ไอ้เก่ง !!” ผมชะงัก..เมื่อถูกมันตะคอก “มึงช่วยฟังที่กูพูดให้จบก่อนได้ไหม !!”
“...”
“พูดเองเออเอง..นิสัยเสียไม่เคยเปลี่ยน”
ผมหุบปากฉับ..กุมมือไว้บนตักนิ่งๆ เมื่อโดนมันจ้องเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ “กูแค่ไม่อยากทำให้มึงลำบากใจ..”
“ลำบากใจหรือไม่มันเป็นเรื่องที่กูต้องตัดสินใจเอง..ตอนนี้มึงแค่หุบปาก แล้วฟังสิ่งที่กูพูดให้เข้าใจก็พอ”
“อ่า..”
ใครจะไปคิดครับ..ว่าไอ้เพื่อนโง่ๆ ที่ผมต้องคอยดูแลตลอดเวลาที่รู้จักกันมา มันจะมีมุมแบบนี้ด้วย ไม่รู้สิ..วันนี้ตอนนี้มันดูน่ากลัว น่าเกรงใจ จนผมแทบจะลืมภาพเก่าๆ ของมันไปหมดเลย..
“เรื่องเมื่อคืนกูขอโทษ..กูไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้น”
เริ่มต้นประโยคก็เจ็บจี๊ดเลยกู !
“กูก็แค่ทนไม่ไหว..”
(-_-) ?
“มึงจำเอ๋แฟนเก่ากูได้ไหม..”
“อ่า..” ผมพยักหน้าเบาๆ
“จำได้ไหมว่าตอนนั้นกูบ่นว่าเอ๋มันงี่เง่าให้มึงฟังทุกวัน..”
“อืม..” พอจำได้ครับ..แถมยังจำได้ด้วยว่าตอนนั้น ผมภาวนาให้มันเลิกกันทุกวันเลย..
“ตอนนั้นกูเบื่อสภาพตัวเองมาก..วันๆ ไม่ได้ทำอะไร ต้องคอยตามง้อผู้หญิงทุกวัน” มันถอนหายใจออกมาแบบเซ็งๆ “เสียเวลาเรียน..เสียเวลาเล่น..เสียแม่งทุกอย่างเลย”
“อ่า..”
“จนวันที่เลิกกัน..กูรู้สึกเหมือนได้อิสระคืนมา” มันพูดแล้วอมยิ้มนิดๆ “เหมือนได้ชีวิตตัวเองคืน..ได้ทำอะไรที่อยากทำสักที”
“...”
“แล้วก็ได้เห็นว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา..” มันสบตาผมนิ่ง “มึงดูแลกูดีมากขนาดไหน..”
“เอ่อ..”
“ฟังกูให้จบก่อน..” ผมหุบปากตัวเองที่กำลังจะพูดลง “ตอนนั้นแหละที่กูเริ่มเห็นมึงน่ารัก”
“ห๊ะ..??”
“หึๆ” มันหัวเราะเมื่อผมทำหน้าเหวอ “ไม่รู้สิ..ตอนนั้นกูก็แค่คิดว่าอยากลองทำตัวโง่ๆ ต่อไปเรื่อยๆ”
“ทำต่อไป..แล้วลองดูว่ามึงจะคอยตามดูแลกูไปได้สักกี่น้ำ”
“โจ้มึง..” ผมกลืนคำถามที่อยากถามกลับลงคอไป..
“แล้วกูก็ได้คำตอบ..”
“...”
“เพราะจนถึงตอนนี้..มึงก็ยังไม่เคยทิ้งกูไปไหน”
“...”
“จนกระทั่งไอ้เด็กเวรกระรอกนั่นเข้ามา..” มันทำหน้าไม่พอใจ “มึงทำท่าเป็นห่วงเป็นใย..คอยตามดูแลมันทั้งที่ทุกอย่างที่มึงทำ เคยเป็นของกูแค่คนเดียว”
“เอ่อ..” มีหลายอย่างที่ผมอยากจะถาม..แต่ไม่กล้า..
“กูพยายามทนแล้ว..แต่กูทนไม่ได้” มันหลุบตาลง “กูเลยทำเรื่องแบบนั้นกับมึงเมื่อคืน..”
“...”
“ทั้งที่ผ่านมากูพยายามปิดบัง..ซ่อนความรู้สึกทุกอย่างเอาไว้”
“...”
“เพราะกูไม่อยากเสียมึงไป..”
“ไอ้โจ้..”
“บอกกูหน่อยได้ไหม..ว่ามึงจะไม่ทิ้งกูไปไหน เพียงเพราะการกระทำโง่ๆ ของกูเมื่อคืน”
ผมยิ้มออกมาเมื่อฟังจบ..ยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจจริงๆ “กูไม่ไปไหนหรอก..”
“เก่ง..” มันเบะปากเหมือนกำลังจะร้อง “มึงพูดจริงใช่ไหม..พูดแล้วห้ามคืนคำนะมึง”
“เออ..กูไม่ไปไหนหรอก” พูดแล้วลุกขึ้น..ก่อนจะเดินเข้าไปกอดมัน “อย่าร้องนะมึง..”
“ฮึก..กูไม่ได้อยากร้องนะ แต่กูดีใจ”
“เออ..” ผมตบหลังมันปลอบๆ “แต่กูสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง”
“หืม..”
“แค่มึงบอกว่ารักกูๆ ก็เข้าใจแล้ว..ทำไมจะต้องพูดจาอ้อมโลกไปไกลขนาดนั้นว่ะ”
“หึๆ” มันหัวเราะ..ก่อนจะสูดน้ำมูกฟืดฟาด “ถ้ากูกล้าพูด..กูคงไม่ปล่อยให้มึงลอยนวลมาจนถึงวันนี้หรอก”
“ภาษาแม่งลิเกชิบหาย”
“หึๆ”
“บอกว่ารักกูหน่อยดิ..”
“...”
“บอกว่ารักกู..” ผมสูดลมหายใจเพื่อเรียกความกล้าของตัวเอง “เหมือนที่กูกำลังบอกว่ารักมึงอยู่นี่ไง”
“ไอ้เก่ง !!” มันกอดรัดผมแน่นกว่าเดิม “มึงพูดจริงเหรอ..”
“อือ..”
“กู..กู..ไม่รู้จะพูดอะไรเลยว่ะ” น้ำเสียงมันดูตื่นเต้นมากจริงๆ
“แค่พูดว่ารักกูก็พอ..” ผมบอกแล้วหัวเราะทั้งน้ำตา “แค่นั้นแหละที่กูอยากได้ยิน”
“ไอ้โง่..” มันเลือกจะด่าผมด้วยคำที่ผมใช้ด่ามันเป็นประจำ “ฉลาดทุกเรื่อง..ทีงี้ทำมาโง่”
“บอกกูหน่อยสิโจ้..”
“กูรักมึงนะ..” ผมหลับตาลงเมื่อได้ยินคำๆ นี้ “รักมึงชิบหายเลย..”
แล้วเราก็หัวเราะออกมาพร้อมๆ กัน..หัวเราะทั้งที่ยังไม่คลายอ้อมแขนที่กอดรัดกันเอาไว้เลยสักนิด ไม่รู้สิ..เหมือนเรากำลังพยายามซึบซับความรู้สึกทุกๆ อย่างจากกันและกันเพื่อชดเชนเวลาที่เสียไปตั้งนาน..
ไอ้เชี่ยแม่ง..ถ้ามึงบอกกู หรือแค่กูมีความกล้ามากกว่านี้..ที่จะบอกมันออกไป เราคงไม่ต้องเสียเวลากันมากขนาดนี้หรอก แต่ก็ช่างเหอะ..แค่ตอนนี้เราเข้าใจกันก็พอแล้ว
ขอบคุณนะโจ้..
ขอบคุณที่มึงรักกู..
ขอบคุณจริงๆ..
ไอ้โง่..ที่กำลังจะเป็นสุดที่รัก
ไม่ใช่สิ..
เพราะมึงมันเป็นไอ้โง่สุดที่รักของกูมาตั้งนานแล้ว!!
เฮ้อ..ทำไมผมกลายเป็นคนน้ำเน่าได้ขนาดนี้ว่ะ !
Ma-NuD_LaW
ก็แค่เนี้ย !!
กั๊กกันไปกั๊กกันมาอยู่ได้..!!

ขอบคุณนะครับ.. 
ตอนพิเศษของคู่นี้ไม่มีแล้วมั้ง..เบื่ออิพี่โจ้ 
ตอนหน้าตามใจคนอ่านนะครับ..ตอนพิเศษที่น้องบีมอยู่กับแม่สามี 
ฝันดีครับ 