ตอนที่ 3.2
You touch makes me blur
เธอทำให้ฉันหลงใหล
"มึงเป็นอะไรของมึงเนี่ยกล้า เหม่อมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ"
"เหม่ออะไรมึง กูก็เป็นของกูแบบนี้นะ"
"ไม่อ่ะ กูเพื่อนมึงกูรู้ว่ามึงเป็นยังไง"
กล้าเหลือบตามองแดงนิดหน่อย คิดในใจว่าจะพูดดีหรือไม่
"กูมีปัญหาอ่ะ"
แดงขมวดคิ้ว "กูคบมึงมานานแล้ว มึงก็นิ่งซะแบบนี้ เลยไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรไหม"
"หลอกด่ากูหรือเปล่าเนี่ย" กล้าพูดปนขำก่อนจะเอ่ยต่อ "มึงเคยมีแฟนไหม"
"อะฮ้า กูรู้แล้ว มึงมีปัญหาเรื่องความรักนี่เอง ไปตกหลุมรักใครมาวะ"
คำถามของแดงทำให้ใบหน้ากลมเหมือนพระจันทร์ของใครคนหนึ่งผุดขึ้นมาในความคิด ยิ่งตอนนี้เขากับแดงออกมานอนเล่นบนพื้นหญ้าหน้าบ้านพัก มองท้องฟ้าที่มีดาวพร่างพรายและพระจันทร์สีเหลืองกลมโตโดดเด่น
มันทำให้...อยากชวนใครสักคนมานั่งดูเหลือเกิน
"ไอ้เหี้ยกล้า! ทำไมทำตาเชื่อมเหมือนน้ำหวานแบบนั้นวะ กูขนลุกว่ะ มองพระจันทร์ตาเยิ้มเลย นี่อย่าบอกนะว่ามึงตกหลุมรักพระจันทร์น่ะ"
ตุบ!
กล้าตบหัวแดงไปทีหนึ่งกับความกวนประสาทไม่รู้เวลาของมัน ใครมันจะไปตกหลุมรักพระจันทร์ได้!
"ตกลงมึงจะฟังไหม ถ้าไม่ฟังกูไม่เล่าแล้วนะ"
"ฟังสิ พูดมาเลย คงไม่ใช่ว่ามึงไปฟันสาวที่ไหนแล้วเค้าท้องขึ้นมานะ"
"กูเหมือนกำลังตกหลุมรักว่ะ แต่...ก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่"
แดงตาโต "เฮ้ย มึงตกหลุมรักใครวะ ทำไมกูไม่รู้ เล่ามาเลยนะไอ้กล้า!"
"น้องต้นไม้อ่ะ"
"…"
"นี่มึงไม่คิดจะตกใจเลยเหรอที่กูบอกว่าตกหลุมรักผู้ชายด้วยกันเนี่ย"
แดงอมยิ้ม "ทำไมต้องตกใจวะ ความรักเป็นเรื่องสวยงาม"
กล้ารู้สึกขนลุกกับคำพูดชวนเพ้อฝันที่ขัดกับหน้าโหดๆ เหมือนโจรสามชายแดนภาคใต้นั่นเหลือเกิน
"มึงไม่รังเกียจกูเหรอ? เท่ากับว่ากูอาจจะเป็นเกย์ เป็นไบได้เลยนะ"
แดงส่ายหัวดิกก่อนจะเอื้อมมือมาตบไหล่กล้าแปะๆ ราวกับจะให้กำลังใจ
"เพื่อนกัน ถ้าแค่เรื่องกำแพงของเพศยังเอามาจำกัดมิตรภาพ คนนั้นไม่เรียกว่าเพื่อนหรอกมึง เพื่อนกันต้องรับในสิ่งที่เพื่อนเป็นได้ และคอยช่วยเหลือจนสิ่งนั้นผ่านพ้นไปต่างหาก"
"ขอบใจมึงนะแดง โคตรซึ้งเลย"
"เออๆ กูว่าแล้วเชียวว่ามึงต้องหวั่นไหวบ้างแหละ ถึงจะเก๊กหน้าโหดเป็นตาโฉดริมทุ่งนาแบบนี้ก็ตาม"
"มึงว่า...กูควรจะทำยังไงต่อไปดีวะ?"
"ทำตามความรู้สึกมึงสิ (:"
"กูก็ยังไม่แน่ใจหรอกว่ารักจริงไหม เพราะฉะนั้นกูจะเปิดใจและลองพิสูจน์ความรู้สึกตัวเองดู"
"สู้ๆ นะมึง มีอะไรปรึกษากูได้"
"ขอบใจมึงมากนะแดง"
"เออๆ เห็นแก่ที่มึงแอบชักว่าวคนเดียววันนั้น ฮ่าๆ"
"ไอ้เหี้ย! ยังเห็นอีกนะ กูอุตส่าห์แอบๆ แล้วเชียว ฮ่าๆ"
___________________________________________________
บางที่พี่ใบไผ่ก็หลุดโลกอย่างที่ผมไม่เคยคิดมาก่อน =_=^
"น้องต้นไม้พร้อมหรือยังครับ"
"เรียกต้นเฉยๆ ก็ได้ครับพี่กล้า เราไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันเสียหน่อย เพิ่งจูบกันมามะ...อุ๊ค!"
"หยุดนะครับน้องต้นไม้อย่าพูด!"
ง่ะ พี่กล้ากระโจนเอามือมาปิดปากผมได้ไงเนี่ย มือเอาไปจับอะไรมาบ้างเนี่ย แต่ถ้าจับกล้าน้อยก็เอามาปิดปากผมเถอะ กรี๊ดๆ >///<
"ผมจะปล่อย แต่ห้ามพูดถึงเรื่องนั้นอีกนะครับ"
"เอ้าอัยแอ้ว (เข้าใจแล้ว)"
พี่กล้าปล่อยมือออกจากปากผมในที่สุด ก่อนที่ผมจะเด้งตัวออกไปสูดลมหายใจอีกทาง
ขอย้อนเล่านิดหน่อยนะครับว่าผมกับพี่กล้ามาอยู่ด้วยกันตรงนี้ได้ยังไง
จากที่เมื่อคืนผมสารภาพความจริงกับพี่ใบไผ่ไป พี่แกก็บอกว่าจะยอมช่วยก็ได้ ช่วยด้วยการ...บอกพี่กล้าให้พาผมไปเดินเล่นไรส้มวันหนึ่งแล้วตอนเย็นให้พามาส่งเนี่ยอ่ะนะ! พี่ใบไผ่บ้าไปแล้ว แดดก็ร้อนและจะยังให้ไปเดินเล่นอีก ตอนแรกผมโวยวายไปนะครับว่าไม่มีเหตุผลเลย แต่พอมาคิดไปคิดมามันก็ฟินดีนะครับ อาจจะมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นก็ได้ (?)
และตอนนี้เราก็กำลังยืนอยู่ปากทางเดินที่ทอดเข้าไปในไร่ส้มแล้ว!
"น้องต้นแน่ใจเหรอว่าจะให้ผมถือตะกร้าแบบนี้ให้ -_-^"
เสียงพี่กล้าถามมาทำให้ผมหันไปมองแล้วอดหัวเราะคิกออกมาไม่ได้ ชายหนุ่มรูร่างกำยำหน้าโหดกำลังยืนถือตะกร้าสีน้ำตาลอ่อนเหมือนคุณนายกำลังจะไปจ่ายตลาด
"ครับ ถือว่าวันนี้พี่กล้าพักผ่อนวันหนึ่งนะ ไม่ต้องทำงาน"
"คุณใบไผ่ขอไว้ครับ ถือว่าเป็นงานอย่างหนึ่ง"
"แต่ตอนนี้พี่อยู่กับผม! นี่คิดว่าตัวเองกำลังโบกปูนถมไร่ส้มหรือไง เก๊กอยู่ได้ อยากโดนบิดจู๋ใช่ไหม!"
"=[]=^^" << หน้าพี่กล้าเป็นแบบนี้
อะไรกัน? ผมก็พูดตามปกตินี่นา อยู่กับผมแล้วทำตัวตามสบายก็ได้ ผมไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย ฮึ่ยๆ
"ที่ผมพูดนี่พี่เข้าใจไหมอ่ะ"
"เข้าใจครับ อย่าบิดจู๋ผมเลย"
"คิกๆ พี่นี่ก็เล่นมุกเป็นนะเนี่ย"
แววตาพี่กล้าอ่อนโยนลงวูบหนึ่ง ผมเหมือนเห็นประกายสั่นไหวในนั้นราวกับความรู้สึกบางอย่างในใจพี่เขาได้เปลี่ยนไปแล้ว
และนั่น...ทำให้ผมอยากตบหน้าตัวเองที่คิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาอาจจะรู้สึกดีๆ กับผมบ้าง
ผมจะหวังได้ไหมนะ
"ไปกันเถอะครับ ในเมื่อน้องต้นบอกว่าพักผ่อน ผมก็ขอทำตัวตามสบายนะครับ"
"ครับ ไปกันเลย ผมอยากลองเด็ดส้มออกจากต้นมานานแล้ว"
"ตัวเล็กแค่นี้ยื่นมือถึงเหรอนั่น?"
"โห พี่กล้าอ่ะ ร้ายแรงมากเลยนะประโยคนี้"
"ฮ่าๆ ล้อเล่นหรอกครับ"
พี่กล้าพูดพร้อมกับเอื้อมมือมาโยกหัวผมไปมา
สัมผัสอบอุ่นนั้นทำให้หัวใจผมเต้นแรง...ผมเงยหน้าสบตาพี่กล้าแล้วเม้มริมฝีปาก เอ่ยขอบบางอย่างออกไป
"พี่กล้าครับ"
"ครับน้องต้น?"
"ไม่ต้องแทนตัวเองว่าผมแล้วนะครับ มันดูห่างเหินเกินไป แทนตัวเองว่าพี่เถอะครับ"
___________________________________________________
พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าแล้ว แสงสีส้มเข้มขึ้น เสี้ยวพระจันทร์ปรากฏบนท้องฟ้า สายลมอ่อนๆ โชยพัดมาจนต้นหญ้าพลิ้วไหว
ผมมองพี่กล้าที่นั่งชันเข่าอยู่ข้างๆ ด้วยความสุข
วันนี้ผมมีความสุขมากเราเดินเก็บส้มด้วยกัน แม้พี่กล้าจะพูดน้อยแต่ผมก็สัมผัสได้ว่าเขามีร่าเริงขึ้น พอตอนกลางวันเราก็ปูเสื่อใต้ต้นส้มกินข้าวผัดที่ผมตั้งใจทำใส่ปิ่นโตมาก่อนจะตบท้ายด้วยน้ำมะนาวที่ซื้อมาจากตลาด และนอนกลางวัน ต่างคนต่างนอน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตื่นมาอีกทีก็ตอนเย็นแล้ว ผมเลยขอว่าจะมานั่งดูพระอาทิตย์ตกดินที่นี่
ทางซ้ายของไร่ส้มทำเป็นเนินสูงที่มีลำธารตัดไหล่ผ่านให้สามารถมองเห็นผืนป่าเล็กที่ติดกับไร่ส้มได้
"พี่กล้า...ยังรังเกียจผมไหมครับที่ขโมยกางเกงในพี่กล้าแล้วยังถือวิสาสะ เอ่อ...คิสพี่กล้า"
คนข้างๆ ผมเหมือนลมหายใจกระตุกไปวูบหนึ่ง "แรกๆ โกรธมาก บอกตามตรงว่าพี่ไม่ใช่คนนิสัยดีมากมายนัก ติดจะแอนตี้เพศที่สามอยู่หน่อยๆ"
"…" คำตอบตรงๆ ของพี่กล้าทำเอาผมหน่วงในอกอย่างประหลาด...บางทีการไม่รู้ความจริงเลยอาจจะมีความสุขกว่าก็ได้
"แต่ตอนนี้ความคิดนั้นของพี่เปลี่ยนไปได้เพราะน้องต้นนะ”
"เห...ผมเนี่ยน่ะนะ?" ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างงุนงง
พี่กล้าอมยิ้มน้อยๆ ทำให้ใบหน้าโหดดูอ่อนโยนลงเหมือนเจ้าชายในนิทานตะวันตกสักเรื่อง
"น้องต้น...ทำให้พี่อยากเปลี่ยนมุมมองทางความคิดบ้าง เหรียญยังมีสองด้านเลย หากพี่ตัดสินโลกใบนี้พียงแวบเดียวที่เห็น มันคงไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่หรอก..."
"พี่กล้า..." คำพูดของพี่กล้าทำให้ผมพูดไม่ออก หัวใจเต้นแรงจนเจ็บอกไปหมด
"วันนั้นที่น้องต้นสารภาพรักกับพี่...พี่ช็อกมากเลยนะ แต่ไม่รู้ทำไมหลังจากนั้นพี่ก็คิดถึงน้องต้นมาตลอดเลย"
อย่านะ...พอเถอะ อย่ารังแกหัวใจผมมากไปกว่านี้เลย ผมจะเขินตายอยู่แล้วนะ
พี่กล้าใจร้าย...
"วันนี้...พี่ขอเป็นฝ่ายสารภาพบ้างนะ ว่าพี่เองก็รู้สึกดีกับน้องต้นเหมือนกัน"
"…" ผมเขินมาก...ทำไมต้องยิ้มแบบนั้นด้วย
"อาจจะไม่สามารถพูดว่ารักได้เต็มปาก แต่ขอให้เชื่อใจพี่ ว่าพี่จะทำทุกอย่างเพื่อน้องต้นเอง"
"…"
"เป็นแฟนกันนะครับ..."
จุ๊บ!
ผมไม่รอให้พี่กล้าพูดจบแล้วรีบคว้าคอพี่กล้ามาจูจุ๊บเดี๋ยวนั้นเลย และอาการเหมือนจูบไม่เป็นของผมนั่นเองทำให้พี่กล้าหัวเราะเบาๆ ก่อนจะมอบสัมผัสร้อนแรงให้ผมตามมา
จูบแรกของเราพี่กล้าอึ้งเพราะผม แต่จูบนี้ของพี่กล้ากำลังจะหลอมละลายผมทั้งเป็น!
ริมฝีปากหนาๆ ที่คล้ำจากการสูบบุหรี่นั่นมีฤทธิ์ทำให้ผมเวียนหัว พระอาทิตย์ตกดินไปนานแล้วทำให้ความมืดเข้ามาปกคลุม พร้อมกับดวงดาวที่ส่องสกาวเต็มท้องฟ้า
ลิ้นร้อนๆ ถูกส่งเข้ามาทำเอาผมแทบหมดสติในอ้อมกอดพี่กล้า...สัมผัสจาบจ้วงที่ลูบไล้ไปทั่วจนปลุกอารมณ์ให้น้องชายผมตื่นขึ้นมา
พี่กล้าเอื้อมมือซุกไปในกางเกงของผมแล้วกุมมันไว้เต็มสองมือ
"ทะ...ทำอะไรอ่ะพี่กล้า!"
"ฮะๆ ทีตอนนั้นน้องต้นยังทั้งจับทั้งกัดของพี่เลย"
"อ๋า...ตอนนั้นผมเล่นๆ นะ >O<"
"ไม่รู้แหละ แต่วันนี้พี่จะเช็กบิลน้องต้นทั้งขึ้นทั้งร่องเลย เตรียมใจไว้ซะ!"
"ปล่อยน้า!"
พี่กล้าไม่รอให้ผมอ้าปากแย้งอะไรได้อีกก็ประทับจูบสุดเร่าร้อนลงมาจนผมลืมหมดสิ้นทุกอย่างว่าอะไรเป็นอะไร
กางเกงผมถูกพี่กล้าถอดไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มือพี่กล้าลูบไล้ไปทั่วตัวผมพร้อมกับปากที่บดจูบผมอย่างเรียกร้อง
"อา..."
ผมเผลอหลุดครางออกมาอย่างน่าอายเมื่อพี่กล้าไล้ปลายนิ้ววนบริเวณหัวนมผมก่อนจะเลื่อนไปที่สะดือ
และต่ำลงไปกว่านั้น...
พี่กล้าเลือนหน้ามากระซิบข้างหูผมเบาๆ
"ขอสองรอบนะครับ แต่พี่จะเบามือหน่อย เพราะเห็นว่ายังมือใหม่หัดขับ"
"พี่กล้า...ผมกลัวเจ็บ"
พี่กล้าจูบซับเปลือกตาผมก่อนจะพูด
"ไม่เชื่อใจพี่เหรอ? พี่สัญญาว่าพี่จะนุ่มนวลกับแฟนพี่ที่สุด"
พี่กล้าขบเม้มติ่งหูผมเบาๆ ก่อนจะเริ่มลากไล้ริมฝีปากไปทั่วทั้งตัวผม
วันนี้ดวงดาวส่องประกายเต็มท้องฟ้า พระจันทร์สีเหลืองนวลเหมือนจะเห็นว่ามีกระต่ายกำลังนั่งตำข้าวอยู่จริงๆ
ความสุขที่พี่กล้ามอบให้...มันทำเอาผมแทบจะสำลัก เจ็บที่สุดแต่ก็สุขที่สุดเช่นกัน
อ๊ะ >O< นี่ผมเป็นเมียกรรมกรแล้วเหรอเนี่ย อ๊ายยยยย
___________________________________________________
+ เป็นเรื้องสั้น สบายๆ แนวคลายเครียดนะครับ เน้นสนุกๆ ฮาๆ ไม่ค่อยมีสาระ ฮ่าๆ
+ อีกสองตอนเรื่องนี้ก็จะจบแล้วนะครับ
+ หลังจาก รปภ.ที่รักจบ จะแต่งเวอร์ชั่นของหมอไกด์กับพี่ใบไผ่นะครับ อิอิ
+ หวังว่าพี่กล้ากับน้องต้นจะทำให้ทุกคนมีความสุขนะครับ
+ เจอกันตอนต่อไป