ผมยกมือไหว้ม๊าแทบไม่ทัน เพราะพอพูดเสร็จก็เดินไปที่โรงจอดรถทันที ทิ้งให้ผมมึนงงอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเดินมึนๆ เข้าบ้านเพื่อไปที่ห้องนั่งเล่น
“อากงขา เฮียทองสำนึกผิกแล้วน้า อย่าดุเฮียเลยนะคะ เฮียจะล้องไห้แล้ว หมวยสงสางเฮีย” เสียงน้องพลอยดังลอยออกมาจากในห้อง ผมเลยชะลอฝีเท้าลงหน่อยเพราะไม่อยากเข้าไปขัดจังหวะของครอบครัว
“ก็ได้ๆ แต่ทองต้องรู้นะว่ามันไม่ใช่ของเล่น ถ้าเกิดเอาไปยิงโดนใครขึ้นมา มันจะเป็นเรื่องใหญ่”
“ครับกง แต่ว่าขอยืมอีกได้ป่ะ”
“อาทอง!! นี่ที่อั้วด่าอั้วบ่นไป ลื้อไม่สำนึกผิดเลยใช่ไหม หมวยเล็ก เอาไม้เรียวมาให้อากงเดี๋ยวนี้”
“ไม่เอา เดี๋ยวเฮียเจ็บ หมวยไม่ให้ตี”
“ใช่ๆ ผมเจ็บอยู่นะ เพิ่งโดนเดซี่ขวิดมาเนี่ย หลังยังไม่หายดีเลย แล้วกงก็อย่าอารมณ์เสียให้มากสิ ความดันขึ้นไม่รู้ด้วย”
“หน็อยยยยยยยยย มันเถียงงง มันเถียงงงงง!!”
“จะฟ้องม่า ถ้ากงตีผม ผมบอกม่าแล้วว่าจะหยิบไป ม่าก็อนุญาต ไม่เห็นว่าไร”
“แต่นี่มันปืนของกง แล้วอาม่าเคยขัดใจลื้อที่ไหน”
“ครับๆ ผมขอโทษ สำนึกผิดแล้ว จะไล่ผมไปนอนกับเดซี่ก็ได้”
“นั่นใช่การลงโทษที่ไหน ลื้อก็ไปนอนที่นั่นเกือบทุกคืน”
“อุ้ย กงรู้ด้วยอ่ะ” นึกหน้าพี่ทองออกเลยว่าตอนพูดประโยคนี้เขากวนตีนแค่ไหน -_-
“อาทอง ลื้อนี่มัน! โอ้ยยย หมวยใหญ่ หายาดมมาให้กง เร็วๆ เลย ไม่ไหวแล้ว คุยกับเฮียของลื้อนี่ปวดหัวจริงๆ”
เสียงหัวเราะปิดฉากของพี่ทอง ทำให้ผมค่อยๆ ก้าวเข้าไปในห้อง พี่ทองหันมาสบตาเข้าพอดี เลยกวักมือเรียกให้ผมไปนั่งด้วย
“ม๊าไปไหนอ่ะ”
‘ไปร้านแล้ว’
“เท่จัง หมวยอยากทำมือเหมืองพี่ชงโคอ่ะ ทำไงๆ สองหน่อยสองหน่อย” น้องพลอยวิ่งเข้ามาทั้งๆ ที่ยังถือไม้เรียวไว้ ส่วนผมแค่ยิ้มแล้วก็หันไปสวัสดีอากงของพี่ทองที่อยู่ในชุดนายตำรวจเต็มยศ อ่า...ถึงว่าสิ ทำไมอากงของเขามีปืน
แถมยศก็ไม่ใช่ธรรมดา นี่มันระดับบิ๊กเลยนี่ครับ
“ชงโคเหรอ เห็นม๊าลื้อบอกว่าลื้อหนีออกจากบ้านไปสร้างความลำบากให้เขา ลื้อนี่มันแย่จริงๆ จะทำให้อั้วขายหน้าไปถึงไหน”
“หน้ากงขายไม่ได้แล้วอ่ะ เหี่ยวขนาดนี้”
“อาทอง! โอยย ไม่ไหวแล้ว หมวยใหญ่ทำไมไปเอายานาน”
เห็นท่าไม่ดีผมเลยรีบเอายาหอมที่พกติดตัวไว้ไปให้อากง ท่านรับไว้แล้วบอกขอบอกขอบใจ ก่อนจะตั้งต้นบ่นพี่ทองต่อ ซึ่งพี่ทองก็เหมือนไม่ได้ตั้งใจฟังเลย แค่ครับๆ แล้วก็ดูน้องพลอยเล่นคุกกี้รัน จนอากงหยุดไปเองเพราะความเหนื่อยนั่นแหละ
“กงไม่รีบไปทำงานเหรอ หรือยิ่งใกล้เกษียณยิ่งหมดไฟอ่ะ”
“ยังไฟแรงอยู่โว้ยยย คุยกับลื้อนี่อั้วอายุสั้นลงจริงๆ เฮ้อ ถ้าหมวยใหญ่เอายามาแล้วบอกเอาไปให้กงที่รถด้วย ชงโค หนูตามสบายเลยนะ ถือซะว่าเป็นบ้านของตัวเอง”
ผมยกมือไหว้อากงอีกครั้ง ท่านรับไหว้แล้วเดินออกจากห้องนั่งเล่นไป ในขณะที่พี่ทองถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะแย่งมือถือคืนจากน้องพลอยแล้วกดเล่นเกมต่อ
“เฮียทองขี้โกง เมื่อกี้หมวยช่วยเฮียไว้นะ ไหนเฮียบอกจะให้เล่งเกมงาย”
“เดี๋ยวให้เล่นน่า เล่นกับชงโคไปก่อนไป”
น้องพลอยทำแก้มป่องๆ ใส่พี่ทอง ก่อนจะหันมายิ้มแฉ่งให้ผม อ่า...น้องฟันหลอด้วยอ่ะ น่ารักจัง
“สองหนูหน่อย หนูอยากทำมือเป็ง ถ้าทำเป็ง เฮียทองบอกว่าจะคุยกับพี่ชงโคล่ายล่ะ สองหน่อยนะ”
ผมอมยิ้ม ก่อนจะกอดน้องพลอยไว้ทั้งตัว น้องไม่ได้ขืนตัวอะไรเลยครับ แค่หัวเราะแล้วก็กอดรอบคอผมไว้
“พี่ชงโคตัวห๊อมหอม เฮียขา โตขึ้งหมวยจะสวยเหมืองพี่ชงโคป่าว”
พี่ทองหยุดเล่นเกม แล้วดึงแก้มน้องพลอยจนน้องร้องโวยวายเสียงดัง ผมเลยหยิกแขนเขาไปแรงๆ
“โอยยย เจ็บนะ มึงทำไรเนี่ย” พี่ทองทำหน้ายุ่งใส่ก่อนจะลูบมือตัวเองเบาๆ
“เฮียพูกไม่เพาะอีกแล้ว หมวยจะฟ้องม๊า” น้องพลอยที่ยังยกมือป้อมๆ จับแก้มตัวเองอยู่ได้ทีเอาคืน พี่ทองเลยจะยกเขกหัวน้องอีกแต่ผมก็จับมือเขาไว้ได้ทัน
“-*- เด็กขี้ฟ้อง ปล่อยชงโคเลย ชงโคเป็นของเฮีย”
“ของหมวย! พี่ชงโคกอกหมวยล้วย ไม่กอกเฮียหลอก ถ้าว่างพี่ชงโคสองหมวยทำมือหน่อยนะ”
ผมยิ้มพลางพยักหน้า ก่อนจะหอมแก้มนุ่มๆ ของน้องพลอยไปสองที โอยยย น่ารักจังเลย
“งั้นเฮียจะไม่ยอมเติมเงินซื้อเพชรให้หมวยจริงๆ ด้วย จะเอาไหม คุกกี้ตัวใหม่อ่ะ”
“เอาค่า!!”
แหม นี่ผมมีค่าแค่คุกกี้รันตัวใหม่เหรอครับ ทำไมน้องพลอยทำกับผมอย่างนี้ -*-
น้องพลอยยอมตะครุบเหยื่อที่พี่ทองยื่นให้ ก่อนจะรับเอามือถือไปเล่นเกมต่อ ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ แต่พอเห็นน้องพลอยตั้งอกตั้งใจเล่นเกมแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
“ไปที่ห้องกะ..เอ้ย ไปที่ห้องเฮียไหม ไว้เย็นๆ ค่อยลงมา”
ผมมองหน้าพี่ทองแล้วก็กลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ คงกลัวน้องพลอยเอาไปฟ้องม๊าว่าพูดไม่เพราะสินะครับ ถึงได้กัดฟันพูดด้วยหน้ายุ่งๆ แบบนี้
“ยิ้มไร”
‘เห็นหน้าแล้วอยากยิ้มให้...ไม่ได้เหรอ ^^’
พี่ทองอมยิ้ม แต่พอเห็นว่าผมกำลังยิ้มอยู่เขาก็ตีหน้าเฉยใส่ “ก็ไม่ได้ว่าไร อยากยิ้มก็ยิ้มดิ”
แหม ฟอร์มเยอะจริงๆ เลยนะ
“หมวย เฮียอยู่ที่ห้องนะ มีไรก็ไปเรียก แต่ห้ามไปกวน เข้าใจไหม”
“ค่า”
น้องพลอยรับคำทั้งๆ ที่ตายังคงจับจ้องอยู่ที่หน้าจอมือถือ อืม...เด็กเล็กๆ ให้เล่นเกมอย่างนี้ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะครับ
“ให้เล่นอีกแค่สิบนาที แล้วเอามือถือไปคืนเฮีย ทราบไม่ทราบ” พี่ทองคุยกับน้องหรือสั่งลูกน้องกันแน่ แต่สงสัยจะคุยกันอย่างนี้บ่อย เพราะน้องพลอยยิ้มร่าตอบรับทันที
“ทราบค่า”
เฮ้อ ทำไมน่ารักอย่างนี้น้า...อยากพาไปเล่นที่บ้านด้วยจัง
แต่ยืนชื่นชมความน่ารักของน้องพลอยได้ไม่นาน พี่ทองก็ดึงแขนผมให้เดินตามเขาไป เดินขึ้นบันไดมายังชั้นสอง ห้องริมสุดทางขวามือ ไม่มีป้ายชื่อติดไว้ แต่ก็รู้ว่าเป็นห้องพี่ทองเพราะมีรูปวัวหล่อด้วยทองคำประดับไว้บนประตู อืม...เกินไปนะครับ ผมเห็นที่อื่นเขาทำรูปหัวสิงโตหัวมังกร แต่ห้องของพี่ทองต้องเป็นรูปวัวโอนลี่ แต่ไม่ใช่เฉพาะห้องพี่ทองหรอกครับที่แปลก ห้องน้องเพชรน้องพลอยก็ดูออกง่ายเหมือนกัน น้องเพชรก็เป็นหัวใจที่ทำด้วยเพชรเม็ดเขื่อง ส่วนน้องพลอยก็เป็นรูปหัวใจที่ทำมาจากอเล็กซานไดรท์ แนวคิดแปลกๆ นี้ พี่ทองบอกว่าเตี่ยของเขาเป็นคนสั่งทำ นั่นยิ่งทำให้ผมอยากเห็นหน้าเตี่ยของเขามากขึ้น แต่รูปวัวของพี่ทองนั้นสั่งทำหลังจากที่พี่ค้นพบตัวเองแล้วว่าอยากเป็นคนเลี้ยงวัว
อีกเรื่องก็คือพี่น้องตระกูลนี้มีชื่อเพราะๆ ทั้งนั้นเลยครับ เริ่มจากพี่ทอง ก็คือทองคำเอก น้องเพชรก็ เพชรน้ำหนึ่ง และน้องพลอย ก็คือพลอยระรินทร์ ให้เครดิตกับอาม่าผู้มีหัวครีเอตเลย ต่างจากผมที่ชื่อเล่นยาวกว่าชื่อจริงเสียอีก แต่ไม่ว่ายังไงผมก็ชอบมากครับ เพราะชื่อเล่นของผมมาจากดอกไม้ที่แม่ชอบและชื่อจริงคุณตาเป็นคนตั้งให้ ชื่อจริงที่มีคำว่า จิณณ์ เพียงคำเดียว
อ่า...แล้วผมจะมาคิดเรื่องชื่อทำไม ที่ผมควรคิดต้องเป็นสไตล์การจัดห้องของพี่ทองมากกว่า โดยปกติถ้าเข้าไปห้องของผู้ชายทั่วๆ ไป คงมีหนังสือโป๊ โปสเตอร์รูปนักฟุตบอลหรือสโมสรทีมที่ตัวเองชอบ หรือไม่ก็โปสเตอร์ของนักร้องที่โปรดปราน แต่พี่ทองไม่ใช่เลยครับ ห้องของเขาเต็มไปด้วย...ใช่แล้ว คงเดากันไม่ผิดหรอก...ทุกสิ่งอย่างเป็นรูปลายวัวหมดเลย ผ้าปูเตียง ผ้าห่ม ปลอกหมอน พรมเช็ดเท้า หรือแม้กระทั่งวอลเปเปอร์บนผนังก็ยังเป็นรูปที่เขาอุ้มลูกวัวตัวเล็กๆ ไว้ ยิ้มร่าอย่างมีความสุข และนั่นคงเป็นเดซี่ตอนแรกเกิด
แต่บอกตรงๆ นะ ผมคงอยู่ในห้องนี้ได้ไม่เกินชั่วโมงหรอก เพราะตาลายเวียนหัว มองไปทางไหนก็ไม่สบายตาเลย
“จะเล่นเกมก็ได้นะ เดี๋ยวกูจะอาบน้ำสักหน่อย” พี่ทองบอกแค่นั้นก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป มีประตูกระจกอีกบานที่อยู่ข้างๆ ห้องน้ำซึ่งไม่ได้เข้ากับบ้านเรือนไทยหลังนี้เลย อืม...ไอ้ที่ไม่เข้าน่ะ คงเป็นห้องของพี่ทองครึ่งหนึ่งล่ะครับ เพราะผนังที่เขาทำวอลเปเปอร์รูปตัวเองก็ทำจากปูน อยากถามนะว่าไม้หมดหรือเขารื้อออก
ผมเดินสำรวจห้องของพี่ทอง มีของสะสมแปลกๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ และผมก็รู้เหตุผลแล้วว่าทำไมน้องสาวของเขาถึงซื้อกางเกงในลายชินจังให้ ในเมื่อทั้งฟิกเกอร์ โมเดล หนังสือการ์ตูน ก็เป็นเรื่องราวของไอ้เด็กหัวเหม่ง คิ้วเข้ม ชอบเต้นระบำโชว์ก้นนั่นแหละครับ บนเตียงก็มีตุ๊กตาวัวทั้งตัวเล็กตัวใหญ่น่ารักน่ากอดทั้งนั้น กลางห้องมีตู้โชว์ที่ใส่หุ่นขี้ผึ้งแบบจำลองขนาดจริงของเดซี่ตอนแรกเกิดไว้
อืม...เขาคงรักมากจริงๆ นะ
เดินสำรวจห้องของพี่ทองจนเจออัลบั้มรูปของเขาก็เอามาเปิดดูเล่น ยังไม่ทันจะได้สำรวจรูปแรกก็มีข้อความจากไลน์เด้งขึ้นมา ผมขมวดคิ้วอย่างแปลกใจเพราะเพื่อนในไลน์ของผมมีไม่เยอะพอๆ กับเบอร์โทรศัพท์ในเครื่องนั่นแหละครับ
หืม...จากพี่ดีน
ผมเปิดอ่านก็พบว่าพี่ดีนส่งภาพมาให้ เป็นภาพที่เห็นแล้วมือสั่นจนควบคุมไม่ไหว...ภาพที่ทำเอาอยากร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีเหตุผล...หรือเหตุผลนั้นผมจะรู้มันอยู่แล้วแต่ก็ยากจะยอมรับในสิ่งที่เห็นได้
อะไรกัน...นี่มันอะไร...
ผมกำมือถือไว้แน่น หัวใจยังเต้นด้วยความเจ็บแปลบ ทั้งๆ ที่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนรู้สึกได้ว่า ความสุขสำหรับผมนั้น...ยังคงมีอยู่ และมีอยู่ได้ก็เพราะเขา แต่ตอนนี้... ผมรู้แล้วว่ามันคงเป็นไปไม่ได้
มันเป็นไปไม่ได้เลย....ไม่ได้เลยจริงๆ
พี่ครับ...นี่เหรอครับคือเหตุผลที่พี่ไม่ยอมบอกผม
..........................................To be continue..........................................
จะใส่ร้ายป้ายสี ให้เธอไม่ดีสักอย่าง ถ้าคิดจะเดินแยกทาง ถ้าคิดจะจากฉันไป จะกีดขวางทางไว้เหมือนเป็นมาร จะตามรังควานให้สาใจ สาดเทลงไปให้รักเธอมีสีดำ ....จาก บุคคลลึกลับ
แหม เสี่ยมานิดเดียวเอง กรี๊ดเลยเหรอออออออ ขอบคุณทุกความคิดเห็นเช่นเคยค่ะ
