รักเกิดในแผนกขนส่ง....ภาค โยธิน-บัวลอย ตอน เบื่อจะพูด
กว่าจะลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวได้ก็เป็นเวลาสายเกือบเก้าโมงเข้าไปแล้ว แต่ฮัทก็ต้องตะเกียกตะกายลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมไปทำงาน
วันนี้เป็นหยุด ถ้าได้ออกต่างจังหวัด เช้าวันถัดมาจะได้หยุด แต่ก็ไม่เคยหยุดซักที พี่บุ้งบอกว่าถ้าไม่หยุด อยากจะมาตอนไหนก็มา เพราะไม่ได้บังคับเวลา
“ไปไหนอ่า”
จะไปไหนได้ล่ะ ก็ไปทำงานสิ จะให้ไปไหน
“ทำงาน”
ไม่เอาอ่า ทำไมต้องไป ไม่ต้องไปแล้ว
“บัวออกต่างจังหวัดวันนี้บัวต้องได้หยุดสิ ทำไมยังไปทำงานอีกล่ะ”
ก็รู้ว่าถ้าออกต่างจังหวัดแล้ววันถัดไปพี่บุ้งให้หยุดได้ แต่ว่า ไม่เคยหยุดนี่หว่า ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่หยุด
“เกรงใจคนอื่นเขา”
เกรงใจคนอื่นแล้วไม่เกรงใจพี่เลยเหรอครับ สงสารพี่หน่อยเหอะนะ พี่เพิ่งจะเข้าหอวันแรก จะให้เมียหมาด ๆ ของพี่ไปทำงานเหรอครับ มันใช่เรื่องที่ไหน
“ไม่เอา ไม่เอา ไม่เอา ไม่ให้ไป ไม่ให้ไป อย่าไปเลยนะ นะ น๊า บัวไม่ต้องไปหรอกน๊า”
ไม่ใช่แค่พูด แต่คนที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงและมีผ้าห่มพันเอาไว้ทั้งตัวก็แกล้งทุบมือและดิ้นไปมาอยู่บนเตียง
“น่ารักแล้วเหรอนั่น”
ไม่ได้น่ารักหรอก แต่อย่าไปเลยน๊า นะ นะ นะ
“ไม่เอา ไม่ให้ปายยยยยยยยยยย บัววววว บัวอ่ะ บัววววว ไม่ต้องไปหรอกน๊ะ นะครับ นะ นะ บัวน๊า”
ไอ้พี่โย
“ตลกว่ะ”
ฮัทได้แต่ส่ายหน้าและก็เริ่มลงมือติดกระดุมเสื้อ มองหน้าของคนที่ดิ้นอยู่บนเตียงแล้วก็ได้แต่ส่ายหัวแบบยิ้ม ๆ
“ฮาโหล หัวหน้าบุ้งเหรอครับ โยธินนะครับ วันนี้กล้าณรงค์ลานะครับ เมื่อคืนพวกเราเอากันดึกไปหน่อย กล้าณรงค์เลยไปทำงานไม่ไหวนะครับ”
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วก็กรอกเสียงลงไป และคนที่กำลังติดกระดุมเสื้ออยู่ก็รีบหันมามอง ชะงักมือที่กำลังติดกระดุมเสื้อ
และก็ดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ
“เฮ้ยยยยยยยยยยย ไม่ใช่นะ ผมไม่ได้ลา ผม…..”
รีบผวาไปนั่งอยู่บนเตียงแล้วก็ดึงโทรศัพท์ในมือของโยธินมาเพื่อจะคุยกับปลายสาย แต่ก็เงียบ
หมายความว่ายังไง
ดูหน้าจอของโทรศัพท์ก็เห็นว่าเป็นความว่างเปล่า ไม่ได้มีการโทรออกไปไหน
ไอ้...........พี่.............โย
“ทำไมทำงี้อ่ะ”
แล้วให้ทำยังไงล่ะ
“ก็ซ้อมไว้ก่อนไง เผื่อบัวต้องโทรไปลางาน ก็เลยซ้อมไว้ก่อน”
ไม่ใช่สิ มันไม่ใช่แบบนี้สิ ไอ้พี่โย
“ทำไมกวนประสาทอย่างนี้วะ ทำไมทำอย่างนี้วะ ไอ้พี่โย ทำไมทำแบบนี้ล่ะเฮ้ยยยยยยยย”
หน้างอหงิก บ่นอยู่คนเดียว และก็มองหน้าโยธินอย่างหาเรื่อง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่รู้สึกรู้สาและเมื่อคนที่นอนคว่ำหน้าอยู่ยังอมยิ้มหน้าระรื่น ฮัทก็เลยกำมือและทุบลงไปแรงๆ ที่หลังของโยธิน
“โอ้ยยยยยยย เจ็บบบบ”
เจ็บให้ตายไปเลย
คนที่โดนทุบพลิกกายขึ้นและหัวเราะชอบใจกับสิ่งที่ฮัททำ เป็นบ้าหรือไง แทนที่จะสำนึก เสือกหัวเราะยิ่งกว่าเดิมอีก
“ไอ้พี่โย”
อะไรล่ะ
“ก็บัวดื้อจะไปทำงาน.... ก็พี่ไม่อยากให้ไป.... ก็แล้วทำไมต้องไป..... ก็แล้วทำไมไม่หยุด..... ก็แล้วทำไมไม่อยู่กับพี่... ก็แล้ว ทำไม อื้ออออ แอ่ก บัววววววววว”
อยากจะลอยหน้าลอยตาพูดอีกหลายก็ แต่เพราะโดนเอาหมอนอุดปากก็เลยพูดต่อไม่ได้ กว่าจะดึงหมอนออกจากหน้าได้ก็ใช้เวลาอีกพักใหญ่
“โหด”
เออใช่ โหด ดีแค่ไหนแล้วยังปล่อย ไม่เอาหมอนอุดปากอุดจมูกให้ตาย
“อย่าเล่นแบบนี้อีก”
ถ้าไม่อยากให้เล่นแบบนี้อีก บัวก็ไม่ต้องไปทำงานสิ
“อย่าไปสิ”
ทำไมถึงได้เป็นคนพูดยากพูดเย็นแบบนี้วะ
“อย่าไปนะ”
โธ่โว้ยยยย ไม่ต้องลุกขึ้นแล้วขยับมาใกล้ แล้วกระพริบตาปริบ ๆ สองสามทีแบบนั้นหรอก มันน่ามองมากนักหรือไง
“อย่าไปเลยนะกั๊บ อยู่ต่อเลยได้ม้ายยยยย”
ยังไม่เลิก ยังไม่ยอมหยุดอีก
“เค้าขอร้องได้มั้ยล่ะ วันเดียวเอ๊ง นะ น๊า เค้าไม่เคยขอร้องไรเลยน๊ะ เนี่ยอยู่กะเค้าวันเดียวเอง ไม่สงสารเค้าเลยเหรอ”
สงสารบ้าอะไรล่ะ สงสารตัวเองมากกว่า
“อย่าพี่โย ขอร้อง อย่ามาทำเสียงแบบนี้”
อ้าว แล้วไม่ให้ทำเสียงอย่างนี้แล้วจะให้ทำเสียงยังไง
“ฮื่ออออออ บัวอ่ะ ทำไมต้องเอ็ดด้วย ตกใจหมดแล้ว”
ไม่ใช่แค่พูด แต่คนพูดยังมีการลุกขึ้นนั่งและกอดเอวของคนที่แสดงท่าทางฮึดฮัดอยู่ตลอดเวลาเอาไว้แน่น
กอดและซบหน้าลงที่ซอกคอของคนที่นั่งหน้าบึ้ง และก็กดปลายจมูกหนัก ๆ ที่ข้างแก้มของคนที่ยังยืนยันจะไปทำงานให้ได้
“อะไรเนี่ยยย อะไรวะ พี่เป็นคนแบบนี้เหรอ”
ก็เป็นคนแบบนี้แหละ
“หยุดเถอะนะกั๊บ วันเดียวเอง”
โธ่โว้ย
“พี่นี่แม่ง”
พูดไม่ออก ไม่รู้จะพูดอะไรดี ได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่และทำหน้าเซ็งโลกแบบเหนื่อยใจ
“แล้วจะให้บอกพี่บุ้งยังไงว่าหยุดเพราะอะไร”
เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกน่า
“พี่จัดการไว้แล้ว”
จัดการไว้แล้ว หมายความว่ายังไงวะ จัดการไว้แล้ว
“จัดการ ..........จัดการอะไรยังไง ไหนบอกซิ”
ก็ไม่จัดการยังไง
“อยากรู้เหรอ”
ใช่ พูดมาว่าจัดการยังไง
“พี่จัดการอะไรของพี่”
ก็.............
“อยากรู้จริงป่ะ”
เอออออออออออ
“พี่อย่าลีลา พูดมาเร็ว ๆ”
อะไรล่ะ พูดมาเร็ว ๆ อะไรล่ะ บัวแหละทำไมชอบบีบบังคับ
“มีให้เลือกสองข้อ ข้อหนึ่งกับข้อสอง”
แม่ง มีให้เลือกด้วยเหรอวะ
“เฮ้ย นี่มันไม่ใช่ข้อสอบนะ ทำไมถึงมีตัวเลือกด้วย พี่จัดการอะไรไว้ พูดมา”
ก็...........
“ข้อแรก ถ้าวันไหนบัวหยุดพร้อมพี่ เขาก็รู้กันหมดแบบไม่ต้องเดาหรอกว่าเราหยุดทำอะไรกัน”
เหี้ยยยยยยยยยย ก็นี่ไง กูถึงจะไม่หยุดนี่ไง กูถึงต้องไปนี่ไงล่ะ เพื่อจะได้ไม่ถูกจับได้ว่าไปทำอะไรกันมา มึงเข้าใจมั้ยเนี่ยะไอ้พี่โย
“อย่างนี้ยิ่งต้องรีบไปเลย”
ไม่ได้หรอก
รีบไปไม่ด้ายยยยย
“และข้อสอง ถ้าบัวไปทำงาน แล้วใครมาขอดูข้อมือบัว มันก็จะมีรอยแบบนี้อยู่”
รอยแบบ.....ไหนวะ เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย
“เหี้ยแล้วไงล่ะ ทำไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”
มึงทำบ้าอะไรของมึงวะเนี่ย
“เผื่อว่าพี่รั้งบัวไม่ได้ แล้วบัวต้องไปทำงานจริง ๆ พี่ก็ไม่ได้อยากจะโชว์หรอกนะว่าไปทำอะไรมา ถ้าทำตรงอื่นมันเห็นชัด แต่ถ้าทำตรงนี้ ถ้าบัวดื้อไปทำงานจนได้ แล้วมีคนถาม บัวอยากบอกใคร บัวก็ให้เขาดูจะได้ไม่ต้องพูดมาก”
เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย มึงทำร้ายจิตใจกูมาก
“บัวไม่อยากให้ใครรู้ บัวก็หลบดี ๆ สิ พี่วิเชียรคงไม่รู้หรอกมั้ง พี่บุ้งก็ไม่น่าจะรู้หรอก หรือแม้กระทั่งพี่คนอื่น ๆ ก็ไม่น่าจะมีใครรู้แน่ ๆ หรอกม้างงงงงงงงงง”
ตายตั้งแต่พี่วิเชียรแล้ว สรุปมึงดักทางกูใช่มั้ย ไม่ไปก็จบแบบสวย ๆ โดนแซวหน่อยก็ทำเป็นเนียน ๆ ยิ้ม ๆ เข้าไว้
แต่ข้อสอง คือกูจะโดนล้อทั้งวัน แล้วก็จะมีแต่คนแวะเวียนเข้ามาถามไม่หยุดแล้ววันนั้นทั้งวันกูก็จะประสาทหลอนเพราะต้องคอยระแวงเพราะกลัวคนมาขอดูข้อมือใช่มั้ย
มึงแม่งบ้าแล้ว ไอ้พี่โย มึงบ้าแล้ววววววววววว
“นี่ดีนะพี่ไม่ทำตรงคอ เพราะบัวคงไม่อยากโชว์คนไม่รู้จักหรอก ว่ามั้ย”
เฮ้ย แม่งไม่ใช่แล้ว ยังไงก็ไม่ใช่แล้วล่ะ มึงแม่งเลวมากไอ้พี่โย แบบนี้ก็เท่ากับบีบให้กูเลือกไม่ทางใด ก็ทางหนึ่งชัด ๆ
ถ้าหยุดก็ยังพอมีโอกาสตั้งตัว แต่ถ้าดื้อแพ่งไปทำงานก็ต้องไปทำงานแบบหลอน ๆ
“โว้ยยยยยยยยย”
ยกมือขึ้นยีหัวตัวเองด้วยความกลุ้ม และก็ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำยังไงดี ใช้ปลายนิ้วขัดถูไปที่ข้อมือของตัวเองเพื่อลบรอย แต่ก็ใช่ว่าจะหายไปได้ง่าย ๆ
“พี่ทำไว้หลายที่ นี่ไงข้างขวาก็มี ไม่ใช่มีแค่ข้างซ้ายหรอก”
ข้างขวา........ ยกข้อมืออีกข้างของตัวเองขึ้นดูแล้วก็ได้แต่อ้าปากค้าง ไอ้...........พี่...........โย
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไปทำงานไม่ได้แล้ว ไปทำงานไม่ได้แล้ว ไงล่ะ ไปไม่ได้แล้ว”
ขำมากมั้ย ตลกมากมั้ย สนุกมากมั้ย ตายซะ แบบนี้ต้องบีบคอให้ตายไปซะ เป็นใครจะไม่โมโห โดนคนบ้าทำแบบนี้ใส่ ไม่โมโหก็แปลกแล้ว ฮัทเอาหมอนอุดปากของคนที่หัวเราะอย่างมีความสุขไม่เลิก และโยธินก็ทำเป็นดิ้นรนขัดขืน
แบบนี้ไม่พอหรอก แบบนี้มันไม่สาแก่ใจ
ขึ้นไปคร่อมทับอยู่เหนือร่างของคนที่ไม่ยอมหยุดหัวเราะ ต่อสู้กันยกใหญ่ และเมื่อโยธินดึงหมอนออกไปจากใบหน้าได้ ก็ดึงคนที่อยู่เหนือร่างลงมาหา
“มานี่ ฤทธิ์มากนักนะ มานี่เลย”
ไม่ใช่แค่ดึง แต่ทั้งกอด ทั้งรัด ทั้งรั้งและก็พลิกคนที่อยู่บนให้ลงมานอนอยู่ใต้ร่าง
จัดการล็อคข้อมือทั้งสองข้างของคนที่สะบัดหน้าหนีและร้องโวยวายเพราะโมโหที่โดนแกล้ง
“ไอ้พี่โย ไอ้พี่โย ฮื้อออออออ ไอ้พี่โย โธ่โว้ยยยยย”
ไม่ได้ทำอะไรมาก ก็แค่ฟัด หอมแก้มซ้าย หอมแก้มขวา ซุกใบหน้าที่ซอกคอของคนที่หันหน้าหนี และร้องโวยวายไม่หยุด
“อื่อออ อะไร ทำไม ห๊ะ สู้เหยอออ หื้อออ ยังอีก ยังจะชู่อีกน๊า ห๊า สู้มั้ย ยอมยัง ยอมเลยนะ ไม่ต้องไปเลยนะ”
ผละใบหน้าออกห่าง และคนที่หอบหายใจหนัก และหน้าแดงก่ำเพราะต้องออกแรงสู้กับคนงี่เง่า ที่ไม่ยอมให้ไปทำงาน
ก็ได้แต่กร่นด่าคนที่บังคับกันทางอ้อม
“โธ่โว้ย”
อ้าว ยังอีก ยังอีกนะ ยังจะไม่ยอมอีกนะ
“เดี๋ยวเจออีกรอบแน่ เอาป่ะล่ะ”
แม่งเอ้ย
“เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ ไปได้วะ”
บ่นพึมพำ และพยายามจะดึงมือที่โดนล็อเอาไว้ แต่โยธินก็ไม่ยอมปล่อย
“พี่โย”
อะไร
“เออ ไม่ไปแล้ว ปล่อยเหอะ ไปหรือไม่ไปตอนนี้ก็ค่าเท่ากันแล้ว”
ถอนหายใจออกมายาว ๆ เพราะรู้ว่าไม่มีทางเลี่ยงและฮัทก็มองหน้าของคนที่ยิ้มกริ่มอย่างท้อ ๆ
“พี่เป็นได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ ถามจริงเหอะ อะไรทำให้พี่เป็นได้ขนาดนี้วะ”
จะอะไรซะอีกล่ะ
“ก็นี่ไง คนนี้ไง ทำให้เป็นได้ขนาดนี้ก็เพราะคนนี้แหละ ชอบทำร้ายจิตใจ”
ทำร้ายจิตใจห่าอะไรวะ กูไปทำร้ายจิตใจมึงตอนไหนวะเฮ้ย
“พูดเรื่อยเปื่อยว่ะ”
มันจะไปพูดเรื่อยเปื่อยได้ยังไง
“เนี่ยะ เห็นมั้ย เอาอีกแล้ว ชอบทำเป็นไม่สนใจกันแบบนี้อีกแล้ว เออใช่สิ เรามันไม่ดี อะไรก็ไม่ดีซักอย่าง อยากให้อยู่ด้วยก็ไม่ยอมจะอยู่ เค้ามันคนไม่ดี จะได้รู้ไว้”
ยอมปล่อย และโยธินก็ลุกขึ้นนั่ง ทำหน้างี่เง่าไม่พอ แถมทำเสียงงี่เง่าใส่ด้วย
“งอนจริงป่าวเนี่ยะ เอาดี ๆ”
ดี ๆ อะไร ก็เห็นอยู่ว่างอนจริง
“ไม่สนใจบัวแล้ว”
อะไรอีกล่ะ ไม่สนใจอะไรอีก
“คุยก่อนดิพี่โย”
แตะมือไปที่ไหล่ของคนที่ทำหน้าหงิกใส่ และโยธินก็ดึงมือของฮัทออก
“อะไร แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะ”
ไม่ได้
“อย่ามาโดนตัว”
โห อยากโดนตายเลยเหอะ
“ฮึ่ยยยยยยย แตะไม่ได้ แตะไม่ได้เลย”
ไม่ได้ทำอะไรมาก เพราะอีกฝ่ายบอกไม่ให้แตะ ฮัทก็เลยยิ่งแตะแล้วก็ขยำต้นแขนของโยธินแรง ๆ ด้วยความหมั่นไส้
“อย่ามาโดนตัวเค้า”
เหรอออออออออ
“มากกว่าโดนตัวก็ทำมาแล้วเหอะ”
พูดออกไปแบบไม่ทันคิด และโยธินก็หันมามองหน้าของที่พูดบางอย่างและก็ยักคิ้วส่งให้ ให้รู้ว่าเหนือกว่า
“เออใช่สิ ทำมากกว่าโดนตัวแล้วนี่ เลยไม่เห็นความสำคัญใช่มั้ยล่ะ”
ห๊ะอะไรนะ มึงมาแนวไหนวะไอ้พี่โย กูงง
“เดี๋ยวนะ คือยังไงพี่”
ไม่ยังไงหรอก
“ก็ทำกันมากไปกว่าแตะตัวแล้ว.........ใช่มั้ย เช่นว่า.....”
เช่นว่า
เช่น...........
โยธินมองหน้าของคนที่ขมวดคิ้วมุ่นอย่างยิ้ม ๆ และไม่ใช่แค่มองเท่านั้นแต่มองแล้วยังส่งสายตาแปลก ๆ ไปให้คนที่ยังทำหน้ามึนงงด้วย และฮัทก็เริ่มเบิ่งตากว้างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อนึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้
“เพิ่งแค่สองเองนะ อีกรอบมั้ย”
มันไม่ใช่แล้วพี่โย มันไม่ช่ายแล้วล่ะคร้าบบบบ
“อาไร้”
เสียงสูงขึ้นทันที และทำท่าจะขยับลงจากเตียงแต่คนที่ไม่ยอมให้ไป รีบคว้าตัวของคนที่คิดจะหนีมากอดเอาไว้แน่น และหอมแก้มของคนที่อยู่ในอ้อมแขนหนัก ๆ ไปสองทีติดๆ กัน
“บอกตรงๆ นะว่าไม่อิ่ม”
ไม่อิ่มแล้วไงวะ แล้วบอกกูทำเพื่อ
“เฮ้ย มันไม่ใช่แล้วป่าววะ”
ทำไมจะไม่ใช่ล่ะวะ
“ยังไม่หายเงี่ยนอ่ะ เข้าใจป่าว หรือต้องให้พูดอย่างอื่นถึงจะเข้าใจ”
ไม่ใช่ดิ๊ ไอ้พี่โย มึงพูดจาแบบนี้ได้ไง มึงเลวมาก
“เหี้ยเอ้ยยยยย ผมไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์นะเฮ้ย”
ก็ไม่ใช่ไง
“ใครเขาเห็นแฟนเป็นที่ระบายอารมณ์ล่ะ ถ้าฝ่ายหนึ่งอยากอีกฝ่ายก็ต้องช่วยดิ เวลาบัวอยาก บัวก็บอกพี่ เวลาพี่อยากพี่ก็บอกบัวให้ช่วยนี่ไง แฟร์ ๆ นะ”
แฟร์ห่าอะไรล่ะ
“หรือบัวไม่อยาก”
เฮ้ยยยย มึงอย่ามา.........
“อ่ะ....เอ่อ....”
จะให้พูดว่าไม่ ก็พูดได้ไม่เต็มปาก จะบอกว่าอยากก็พูดไม่ได้
เลยได้แต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ บ่นพึม ๆ พำ ๆ คนเดียวไปเรื่อย และเป็นการบ่นที่ถูกใจโยธินที่สุด
“สัดเอ้ยยยย กูแม่งโง่เปล่าวะ โธ่โว้ยยยยย”
น่ารักจะตาย ใครว่าโง่ล่ะ
“เลิกพูดเหอะวะ.........ป่ะบัว......คนเงี่ยนเขาก็ต้องเอากันสิวะถึงจะหาย........เหี้ยเอ้ยยยย เมื่อไหร่เมียเราจะเงี่ยนทั้งวันวะ เราอยากเป็นเครื่องระบายอารมณ์ของเมียเราจังเลยโว้ยยยย”
TBC.