จบแล้วสำหรับคู่ธารและภานุ
แต่คู่กิ่งไผ่กับธียังไม่จบนะ มีต่อในภาคสาม
เอาตอนพิเศษของธารกับภานุมาฝาก
++++++++++++++++++++++++++++++
ห้วงรักเสน่หา ตอนพิเศษ “Brown Eyes”http://www.ijigg.com/jiggplayer.swf?songID=V2C4DCEFPA0&Autoplay=1 พอภานุก้าวเข้ามาในห้องพยาบาล ครั้งแรกที่ต้นธารารู้สึกคือความโล่งใจ แต่ความง่วงงุนทำให้ไม่สามารถดีใจได้มากนัก ภานุมองใบหน้าซีดราวกับกระดาษ ชายหนุ่มรู้สึกหายใจไม่ออก แตะแก้มเย็นเฉียบดูไร้พลังและห่างไกลไปจากมือตู่นี้ทุกที ชายหนุ่มทรุดนั่งข้างเตียงคนป่วย ความเงียบสงบ ลมหายใจแผ่วๆ ดวงหน้าภานุสื่อถึงความรู้สึกที่ยากจะบอก สงสาร...เห็นใจ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีถึงจะบรรเทาเบาบางความรู้สึกอึดอัดอยู่ในใจได้ กุมมือไว้ขลาดกลัว
...นับตั้งแต่เดินทางมา ในใจมันหวั่นหวาด ในตอนนี้ใจของเขาอยู่กับต้นธารา ทั้งความรัก ทั้งความรู้สึกต่างๆนานา อยากให้มันเป็นความฝันที่มีความสุข...
“ผู้กอง...”เสียงแผ่วๆกล่าว
ต้นธาราลืมตาขึ้นมา รู้สึกถึงมือกุมกระชับ ภานุที่กำลังเหม่อ ตื่นจากภวังค์ ก้มมองใบหน้าซีดเซียว
“มีอะไรหรือเปล่าธาร? ”ชายหนุ่มถามเสียงอ่อน
ต้นธาราปรายตาไปยังโต๊ะข้างเตียง
“น้ำหรือ?”
ภานุรินน้ำจากเหยือกส่งให้ ก่อนประคับประคองร่างของต้นธาราขึ้น จ่อหลอดเขาปากแห้งผาก ต้นธาราดื่มน้ำไปครึ่งแก้วล้มตัวนอนต่อ ริมฝีปากแห้งผากพึมพำขอบคุณบาๆ ภานุวางมือบนหน้าผากสัมผัสไออุ่นร้อน ยิ้มบางๆ
“ธาร...เก่งมากรู้ไหมที่ทนมาจนถึงตอนนี้”
กุมมือขาวซีดด้วยความรักใคร่ ต้นธาราดูตกใจไม่น้อยที่ได้รับคำชมที่ไม่คาดฝัน ฝ่ายผู้กองหนุ่มดึงมือขึ้นแนบกับแก้มตัวเองราวกับจะบอกว่ากลัวในบางสิ่งบางอย่าง ความรู้สึกของคนป่วยมันเต็มไปด้วยความกลัวและเต็มตื้น ภานุบีบมือคู่นั้นแน่นราวกับจะรู้
“ที่พูด...เพราะผมเป็นห่วง รู้ไหม?”
ยิ้มเรียกความมั่นใจคืนกลับ ต้นธาราสูดลมหายใจลึกๆเช่นกัน
“พ่อเป็นอย่างไรบ้าง? ท่านสบายดีไหม?”ถามถึงบิดา
ภานุผงกหัว“ท่านสบายดี ธารไม่ต้องห่วงหรอกนะ”
ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองใบหน้าแกร่ง เข้มแข็ง
“ถ้าท่านสบายดีก็ดีแล้วล่ะ”
เอ่ยพึมพำเปลือกตาค่อยๆหรี่ปิดลง เจ้าตัวยังคงงึมงำพูดอะไรฟังไม่ชัด ภานุค่อยๆเงี่ยหูฟังดีๆแต่ในที่สุดต้นธาราก็
ผล็อยหลับไป ภานุยิ้ม ลูบเรือนผมอย่างทนุถนอมเฝ้าคิดถึงวันที่ทำให้ใจดวงนี้ปวดร้าว...
------------------------------------------------
ดอกไม้สีสดชู่ช่อไสวท่ามกลางแสงแดด ดวงตาป้องแดดจ้า สายตาสีน้ำตาลทอดมองผิวน้ำที่กระทบแสงแดดระยิบระยับ ต้นธารารอภานุอยู่หน้าโรงแรมเฝ้ามองน้ำพุพวยพุ่งไม่ขาดสายกลางสระน้ำเล็กๆ นับตั้งแต่ถูกลากตัวออกมาจากโรงพยาบาลมาจนถึงที่นี่ ไม่เข้าใจในการกระทำ ทรุดนั่งอย่างอ่อนล้า
ทั้งๆที่บอกว่าเขาเป็นเพียงแค่คนไร้ค่า
ต้นธาราสะบัดความคิดที่ทำให้ใจอ่อนล้าไปให้หมด มองภานุเดินออกมาจากตัวตึก พอเบือนใบหน้าหนี ทว่าเขาก็ถูกบีบให้หันมองจนได้ เม้มริมฝีปากแน่น
“แม้ว่าคุณจะบอกรัก...แต่ผมก็ไม่ดีใจหรอกนะ”
ภานุได้ฟังชะงักไป มองใบหน้าบึ้งๆอย่างเอ็นดู เห็นท่าทีนั้นก็ยิ่งทำให้ ‘นึกรัก’ภานุทรุดนั่งมองใบหน้าที่ก้มมองพื้นขัดถูเงาวับ
“ไม่ดีใจก็ไม่เป็นไร ขอให้ธารแค่รับฟังไว้ก็พอ ผมรู้ดีว่าที่ผ่านมาทำอะไรไปบ้าง การที่ไม่ได้รับความไว้วางใจจากคุณมันก็สมควรแล้วละ”
ภานุว่า ทั้งๆที่สารภาพทุกสิ่งแต่เพียงคืนเดียวไม่อาจแก้ไขความเข้าใจได้หรอก ต้นธารานิ่งไปนาน เขาลุกขึ้นโดยมีภานุตามไปติดๆ ในอารมณ์ที่ขุ่นมัว มันไม่สามารถหาทางดับลงได้ง่ายดายนัก ต้นธาราก้มหน้าก้มตาเดิน เขามุ่งหวังอะไรอยู่นะถึงตามมาแบบนี้ รู้สึกหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูก ดวงตาสีน้ำตาลหรี่ลงคล้ายมองภาพตรงหน้าไม่ชัดเจน เซเล็กน้อยหากไม่สังเกตดีๆก็ไม่มีวันรู้เลย ภานุเข้าไปใกล้ๆฉุดแขนดึงรั้งไว้ ต้นธารามองหน้าภานุไม่ชัดเลย ใบหน้าซีดเซียวจนภานุร้อนใจ เป็นห่วง เข้ามาแตะศอกประคับประคองอย่างนุ่มนวล ต้นธาราหยุดนิ่ง สัมผัสนิ่มนวลชวนอุ่นใจ คนเหนื่อยล้าไม่ขัดขืน มือหนากุมมือมือบางไว้ พาเดินไปตามทางแคบๆ สายตาเหม่อเลื่อนลอยมองใบไม้ที่ปลิดปลิวจากขั้วร่วงล่นบนพื้นช้าๆ นึกสะท้อนในใจชีวิตพวกเขาในที่สุดก็ต้องคืนสู่ผิวดิน
“กลัว...”เสียงแหบพร่าเอื้อนเอ่ย
ภานุกุมมือกระชับไว้“มีผมอยู่ทั้งคน มาเถอะ...”รอยยิ้มนุ่มนวลประดับเสี้ยวหน้าคมสัน
ต้นธาราหยุดชะงัก ดวงตาสีน้ำตาลมองแผ่นหลังแกร่ง เคยหลงรัก ใฝ่ฝันบัดนี้ได้มาครอบครองแต่ก็กลัวว่าในสักวันหนึ่งหากจากไป...หลังจากนั้นผู้กองจะทำเช่นไร?
“ผู้กองภานุ หากวันหนึ่งผมไม่อยู่ แล้วคุณจะทำอย่างไร?”ถามไป นิ่งรอคำตอบอย่างตื่นเต้น
เสี้ยวหน้าแกร่งครุ่นคิดเนิ่นนาน ไม่คิดว่าคนที่กำลังโกรธตัวเองจะถามแบบนี้ออกไป อยากฟังคำตอบ....ต้นธารามองใบหน้าแกร่ง ภานุไม่ตอบ ไม่พูดไม่กล่าวอะไร ต้นธาราจึงก้าวเดินต่อ สายตาสีน้ำตาลไม่คาดหวังอะไรแล้ว ภานุนึกเสียใจที่ไม่ได้พูดออกไป เขานึกเสียใจจริงๆ
ภานุที่จะพาต้นธาราออกไปข้างนอกนั้นกลับเปลี่ยนแปลงเสีย กลับเข้าสู่ห้องพัก สายตาแกร่งมองดูคนที่นั่งหงอยๆอยู่บนเตียง มือแตะศีรษะ ส่ายหน้าไปมาอย่างมึนๆจู่ๆต้นธาราก็ล้มลงบนเตียง ภานุตกใจยิ่งนักเดินมาดูพลางเขย่าตัวต้นธาราเบาๆ
“ธาร...ธาร...”
ดวงตาเลื่อนลอยลืมตาขึ้นนิดๆก่อนจะเอ่ยเสียงเบา
“ไม่เป็นไร....แค่นอนไม่พอ เหนื่อย นอนสักพักอาการน่าจะดีขึ้น”
ภานุอุ้มต้นธาราขึ้นนอนดีๆห่มผ้าให้ เช็ดเหงื่อที่ผุดพราวให้ ต้นธาราหลับไปชั่วครู่ ลมหายใจจึงสงบสม่ำเสมอ ภานุทรุดนั่งข้างเตียง กุมมือไว้ ลูบเรือนผมติดเกาะผิวให้ ภานุกลัว....ระลึกถึงคำถามที่ต้นธาราถามตัวเองแต่ตัวเองก็ไม่ได้ตอบออกไป มันน่าเศร้าใจ
“ธารผมขอโทษ ผมขอโทษจริงๆนะ”เขาพูดไปแต่ต้นธาราไม่ได้รับฟังถ้อยคำเหล่านั้น
ต้นธาราขยับตัวอึดอัดเหงื่อแตกพลั่ก แผ่นหลังพิงเบาะนุ่มๆ ภานุจึงช้อนตัวขึ้นวางหมอนพิงหัวเตียงก่อนถอดเสื้อให้ ลุกขึ้นไปเปิดน้ำใส่ผ้าเช็ดตัวบิดให้หมาดๆมาเช็ดตามตัวให้อย่างทนุถนอม พอต้นธารารู้สึกสบายเนื้อสบายตัวขึ้นจึงวางตัวลงนอนบนเตียง ต้นธาราหลับสนิท ภานุลุกขึ้นไม่อยากกวน เตรียมลุกขึ้น แต่ในที่สุดชายหนุ่มก็ทรุดนั่งลงที่เดิม วงแขนโอบรอบเอว คางสากซบลงบนบ่าอุ่นๆ ดวงตาหลับพริ้ม จมูกสูดกลิ่นกายหอมกรุ่น มันอบอุ่น...เต็มไปด้วยความสบายใจ ยิ่งมือลูบแผ่นหลังอย่างปลอบประโลม
“ผมไม่เคยเสียใจเลยที่ได้รักคุณ”คำบอกกล่าว...แว่วหวานราวกับสายลมกระซิบ
“ขอบคุณ...”
ต้นธาราที่ลืมตาขึ้นมาได้ยินพอดี คิดว่าฝันจึงตอบกลับพร้อมกับจูบแก้มสากหนึ่งที ภานุนิ่งไปพักใหญ่ๆก่อนยิ้มกว้าง มองใบหน้าขาวซีด เนิ่นนาน ความอ่อนหวานค่อยๆล้นออกมาจากใจ อยากพร่ำคำรักให้สลักย้ำลึก แม้รู้ว่ามันจะน้ำเน่าไปบ้างก็ตามที แต่ภานุรู้สึกแบบนั้นจริงๆ เกลี่ยกลีบปากแห้งจนแตกเป็นขุย ต้นธาราคลี่ยิ้ม คล้ายกับอยู่ในห้วงฝันแสนหวาน ดวงตาหล่อรื้นด้วยหยาดน้ำตา มือสัมผัสเรือนผมนุ่ม ทว่าต้องนิ่งเมื่อบางส่วนหลุดติดมือ เพราะผลจากการคีโม สายตาคู่กร้าวอ่อนลงโดยที่ต้นธาราไม่อาจเห็น กำมือสัมผัสเส้นผมติดมือแน่น กอดรัดราวกับจะให้กระดูกร้าวรานจนผู้ถูกกอดอุทธรณ์เบาๆ จึงคลายอ้อมกอด
“ผมไม่เสียใจจริงๆ...”ชายหนุ่มย้ำอีกรอบ “ผมไม่เสียใจจริงๆที่ได้รักคุณ”
ถ้าหากว่าต้นธาราได้ยิน คำความรักคงกลายเป็นกลีบกุหลาบแสนหวานอย่างแน่นอน
------------------------------------------------
รุ่งเช้าต้นธาราขยับกายอย่างอึดอัด เขารู้สึกมีอะไรหนักๆทับกาย ลืมตาขึ้นแล้วรู้สึกหนาวๆ แต่ไออุ่นของใครบางคนทำให้รู้สึกอบอุ่น ดวงตาสีดำลืมตาตื่นขึ้น ตกใจเมื่อเห็นร่างกายท่อนบนเปลือยแถมยังถูกวงแขนหนักๆพาดกาย ไม่เข้าใจ มองใบหน้ากร้านที่หลับสนิท คิดถึงเรื่องเมื่อคืนแต่ก็คิดอะไรไม่ออก ดวงตาสีน้ำตาลมองเพดาน ทั้งๆที่ไม่ได้ตอบทำไมถึงกอดอีก รู้สึกหายใจไม่ออก ดึงมือออก ภานุลุกขึ้นมาเมื่อเห็นคนข้างกายตื่นขึ้นรั้งคนที่จะลุกจากเตียงไว้
“ธาร อย่าเพิ่งลุกเลย ถ้าคุณอยากทำอะไรเดี๋ยวผมทำให้”ภานุกุลีกุจอลุกขึ้น
ต้นธารามองกับท่าทีที่เปลี่ยนไป ราวกับเขาอยู่ในห้วงฝันร้ายอยู่รึ แต่...ภานุที่อยู่ตรงหน้าคือความจริง ต้นธารานิ่งงัน ใช้ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองภานุซึ่งยิ้มอ่อนๆ มือหนายื่นมาแตะแก้ม
“ผมรักคุณ.”
คำสามคำกลั่นออกมาพร้อมรอยยิ้มหวานละมุน ทั้งๆที่ไม่เคยเชื่อ...ต้นธาราหรุบตาก่อนช้อนมองอีกครา ยิ้มครั้งนี้ให้ย้ำมั่นใจต้นธาราคลี่ยิ้ม ผู้กองหนุ่มกุมมือบางไว้ เอ่ยสัญญาอีกครา....สัญญาว่ารักตราบนิรันดร์
------------------------------------------------
ยิ้ม...เมื่อหวนคิดถึงความทรงจำที่อาจจะดูไม่สวยงามเท่าไรนัก มีหลายครั้งที่อยากจะลืมไป แต่บางความทรงจำก็อยู่ตลอดกาลดั่งเป็นเงื่อนมัดหัวใจ ภานุนั่งรำลึกถึงความหลัง บางคราเจ็บปวด...บางคราอ่อนหวาน ลูบมือบางอย่างใจลอย
“ผู้กองฝันหวานอะไรอยู่?”
ภานุมองเข้าไปในดวงตาที่มองสบมา ดวงตาสีน้ำตาลจ้องเป๋ง ภานุยิ้มอ่อนโยน
“เห็นดวงตาสีน้ำตาลคู่นี้ มันทำให้ผมนึกถึงเรื่องเก่าๆที่มีทั้งสุขและทุกข์ ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าวันแรกที่สายตานี้มองผมมันเป็นอย่างไร รู้สึกแบบไหนน่ะ”ภานุเอ่ยชวนคนป่วยคุย
ต้นธารายิ้มเนือยๆ“ครั้งแรก...ผม...มองคุณ...ด้วยอะไรนะ?”ต้นธารารำพึง คิดถึงวันที่ได้พบเจอกันครั้งแรก “ผมรักคุณตั้งแต่แรกพบ มันอาจฟังดูง่ายดาย...แต่ผมก็รู้สึกรักคุณจริงๆ รักมากมาย รู้ว่าเวลามันเหลือน้อยลงไปทุกที....ผมอยากมีความสุข แล้วผู้กองล่ะถ้าในวันหนึ่งคุณรู้ว่าคุณใกล้ตายแล้วคุณจะทำยังไง เลือกอะไร”
ภานุนั่งฟังคำพูดแผ่วๆ
“ผมไม่รู้หรอกว่าอะไรผิดหรืออะไรถูก ผมรู้เพียงว่า...ผมรักคุณ”มองสายตาสีดำแข็งกร้าวอย่างจริงจัง
“ที่ผ่านมา...ผมขอโทษนะธาร”
“อย่าพูดแบบนี้อีกนะ คำขอโทษผมฟังจนพอใจแล้ว คำรักอีก ผมต้องการการกระทำ ไม่ต้องยึดติดกับผม ถ้าหากผมจากไป ผู้กองควรจะมีชีวิตใหม่”
ภานุคว้ามือไว้“ไม่ครับ...”ปฏิเสธจริงจัง
ต้นธาราหรี่ตาลง“ผมรู้ว่าคุณรักผมมาก ผมก็รักคุณมาก แต่ผมกลัวว่าหากยึดติดกันเมื่อไรแล้ว...พอผิดหวังขึ้นมาเราทั้งคู่จะเจ็บปวด”
“ที่ผ่านมาเราเจ็บปวดมามากพอแล้ว จะเจ็บปวดอีกผมก็ทนได้”
“แต่ผมทนไม่ได้อีกแล้ว”ต้นธาราว่า ดวงหน้าซีดเซียวจริงจัง
ภานุกลืนน้ำลาย“ผมเป็นผู้ชายทึ่มๆแบบนี้แหละธาน”
คุณหมอระบายลมหายใจบางเบา ภานุก้มจูบหน้าผากเบาๆก่อนเงยหน้าขึ้น
“แบบนี้ถึงจะสมเป็นคุณใช่ไหม?”ต้นธาราว่า ฟังเสียงหัวเราะจากร่างสูง ดวงตาสีน้ำตาลดูเหมือนจะยิ้มตามไปด้วย
“ภานุ...สัญญานะ หากในวันหนึ่งที่ไม่มีผมแล้วคุณยังจะอยู่”
ผู้กองไม่รับปาก ต้นธาราคาดคั้นให้รับทว่าเจ้าตัวกลับนิ่งเงียบและเอาแต่ยิ้ม
“เราพูดเรื่องอื่นเถอะนะ”ภานุเปลี่ยนเรื่อง หมุนกายไปรินน้ำให้
“อะไรกัน! ฟังผมหน่อยสิ”เสียงแผ่วๆอุทธรณ์
ผู้กองยิ้มกลบเกลื่อนแทน ประคับประคองร่างที่นอนอยู่ขึ้นมาจ่อหลอดกับกลีบปากเป็นเชิงบังคับกรายๆ
“ผมไม่หิวนะ”
ทว่ามือหนาขยับแก้วเป็นเชิงบังคับ
“ดื่มเสียนะครับ....ดื่มแล้วจะได้นอน”
ต้นธาราจำต้องดื่มเพราะรู้สึกคอแห้งจริงๆ เขาถูกประคับประคองให้นอนลงเป็นอย่างดี
“ผมรักคุณ...”
ภานุพูดอีกครั้ง ให้คนที่ใกล้จะหลับฟัง คำบอกรักหวานละมุนและล้ำค่า ดวงตาสีน้ำตาลค่อยๆปิด ต้นธารายังไม่อยากหลับ ภานุมองดวงตาสีน้ำตาลอมโศกก่อนเปลือกตาคู่นั้นจะปิดลง....ดวงตาสีน้ำตาล...ที่อยู่ในห้วงความทรงจำตลอดไป
------------------------------------------------