Older Brother.....35
[กาย:Part]
เหล่านักเที่ยวกลางคืนมากหน้าหลายตากำลังโยกย้ายไปตามเสียงเพลงร็อคหนักๆ ที่คอยสร้างความบันเทิงในผับยามนี้ แสงไฟหลากสีส่องวิบวับท่ามกลางความมืดสลัว ชวนให้เคลิบเคลิ้มไปกับบรรยายกาศรอบข้าง
“กาย นั่งดีๆดิ๊”เซฟ ดึงต้นแขนผมให้ออกห่างจากใครคนหนึ่งข้างๆโต๊ะ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าไปพิงเข้าตอนไหน
“คืนนี้กูนอนกับมึงได้ป่ะ” ผมถาม เซฟมีเงิบครับ ฮ่าๆๆๆ “กูล้อเล่นนา......กูขี้เกียจกลับบ้านอ่ะ” จริงๆนะ กลับไปก็นอน จะนอนก็นอนไม่หลับ ผมเป็นแบบนี้มาราวๆเกือบอาทิตย์แล้วล่ะ
“งั้นมึงก็นอนนี่ แต่กู...นัดสาวไว้เว้ย มึงนอนคนเดียวนะ” มันบอก ผมรู้นา ว่ามันออกตัวไม่อยากให้ผมอยู่กับมันอ่ะ
“เออ! กลับบ้านก็ได้ แต่....มึงต้องไปส่งกูก่อน โอเค๊!!!”
“เออออออ กูไปส่งอยู่แล้ว คร้าบบบบบบบ”
“คึคึๆ ขอบใจไอ้เพื่อนนนน จ๊วบบบบ” ผมยื่นหน้าไปจูบแก้มมันจ๊วบยาว จนน้ำลายติดแก้มเลย
“กาย........!!!”
ผลั่ก!! เพล้ง!!!
ผมถูกใครบางคนดึงออกมาจากโต๊ะ ก่อนที่เซฟจะถูกผลักออกไป มือมันปัดโดนขวดแก้วตกแตกลงพื้น
“มันจะมากไปแล้วนะ” เสียงเข้มบอก ใบหน้าคมมีแววตาโกรธเคืองอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั่นก็ยังดูหล่อ น่าหลงใหลเช่นเคย
เราไม่เจอกันนานหลายวันจนผมคิดว่า เราจะจบกันแล้วซะอีก แต่ไม่ซิ เรายังไม่เคยตกลงจะคบกันเลยด้วยซ้ำ ผมสะบัดแขนออกจากมือหนากะจะไปช่วยพยุงเซฟให้ลุกขึ้น แต่อีกคนกลับกระชากแขนผมให้เดินตามขึ้นมาบนห้องทำงานด้านบนแทน
“ปล่อยนะ!!!! มีสิทธิอะไรมาทำเพื่อนกู!!!!!” ผมโว้ยวายเสียงดังแข่งกับเสียงดนตรีด้านล่างด้วยความโกรธ
“แล้วกาย มีสิทธิอะไร ไปทำแบบนั้นกับมัน!!! กายจะเอายังไงกันแน่!!! พี่หมดความอดทนแล้วนะ”
“งั้นก็ไม่ต้องทน!!!! ออกไป!!!!” พี่หมอขบกรามจนเส้นเลือกผุดขึ้นข้างแก้ม แววตาดุดันน่ากลัว มันทำให้ผมสั่นเล็กน้อย
“ทำไมกายถึงใจร้ายกับพี่นัก” พี่หมอกัดฟันพูด “สิ่งพี่ทำมันยังไม่ชัดเจนใช่มั้ย หรือพี่ต้องทำมันให้ชัดเจนมากกว่านี้ ห๊ะ!!!!” เสียงตะคอกดังกองไปทั่วห้อง ก่อนที่ผมจะถูกร่างสูงรวบตัวเข้าหา
“นี่!!! นายจะทำอะไรน่ะ อ่ะ! ปล่อย.....อุ๊บ!!!” ผมไม่เคยคิดมาก่อน ว่าพี่หมอจะเป็นได้ถึงขนาดนี้ มันดึงเสื้อผมจนกระดุมขาด ก่อนจะซุกไซ้ซอกคอสลับกับจูบดูดรุนแรง
“กายทำตัวเอง.....” คำพูดของพี่หมอทำให้ผมน้ำตาซึมออกมา ผมผิดตรงไหน....ทำไมพี่หมอไม่เข้าใจผมบ้าง ตลอดเวลาหลายวันที่เราไม่เจอกัน...ผมเอาแต่คิดถึง อยากเห็นหน้า อยากโทรหา อยากคุยด้วย แต่ผมเลือกที่จะรอ รอให้พี่หมอมาหา...รอที่จะได้คุยกันให้รู้เรื่อง แต่พอมาเป็นแบบนี้ผมกลับคิดว่า ผมไม่น่ารอมันเลย
“อึกๆ.........ทำไม.....อึกๆ......ทำไมไม่ฟังกันบ้างวะ อึกๆ” ผมสะอื้นไห้ออกมา พร้อมกับน้ำตา ในขณะที่ร่างสูงยังคงซุกไซ้ซอกคอไม่เลิก
“กาย....!!!!” พี่หมอชะงักนิ่ง และหยุดการกระทำบ้าๆของมัน เมื่อรู้ตัวว่าผมกำลังร้องไห้อย่างหนัก จริงๆผมไม่อยากร้องต่อหน้ามันนะ แต่...ผมรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หมายถึงปัญหาที่ว่า...ทำไมเราถึงไม่เข้าใจกัน
แกร๊ก....
ประตูห้องถูกเปิดออกโดยเซฟ มันเบิกตากว้างเมื่อเห็นสภาพของผม ตอนแรกมันทำท่าจะเดินเข้ามาแต่พอพี่หมอหันไปมอง มันกลับถอยหลังออกไปและปิดประตูลง
พี่หมอถอนหายใจออกมาก่อนจะหลับตาลงคล้ายกับพยายามข่มอารมณ์ตัวเอง และจับมือผม พี่หมอจูงมือผมมาขึ้นรถ ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันจะพาผมไปไหน ได้แต่นั่งนิ่งๆ อาการสะอื้นค่อยๆหายไป ตอนนี้มีเพียงคราบน้ำตาที่หลงเหลืออยู่
“น้ากายยยยยยยยยยยยย ไข่มุกคิดถึงจังเลย” ตายจริง นี่เที่ยงคืนแล้ว ไข่มุกยังไม่นอนอีก
“ไข่มุกไปนอนไปเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสายนะคะ” พ่อกับลูกเค้าคุยกันครับ
“ไข่มุกอยากนอนกับคุณพ่อค่ะ นะๆๆๆๆ”
“ไม่ค่ะ วันนี้คุณพ่อเหนื่อย ไข่มุกไปนอนกับพี่เจนนะคะ” ไข่มุกทำปากยื่นนิดๆเมื่อโดนขัดใจ ให้กลับไปนอนกับพี่เลี้ยง
“ก็คุณพ่ออ่ะ ทำไมกลับมาถึงไม่พักก่อนล่ะคะ กลับมาก็ออกไปรับน้ากายเลยอ่ะ ก็เลยเหนื่อยไง” กลับมา นี่หมายถึงออกเวรที่โรงบาลหรือเปล่านะ
“ก็พ่อคิดถึงน้ากายนี่” ไม่ต้องเหล่กู กูยังโกรธอยู่ “ไข่มุกไปนอนนะคะ อุตส่าห์ตื่นมารับคุณพ่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณพ่อจะไปรับที่โรงเรียน แล้วก็พาไปให้น้ากายเลี้ยงขนมด้วย เอามั้ย” อ้าว เรื่องไรของผมล่ะ ลูกใครลูกมันสิ ลูกผมน่ะ ลีวายส์โน้น (ก็ไอ้ธารมันไม่รับเป็นลูกผมเลยรับแทน)
“ก็ได้ค่ะสัญญา จุ๊บ! จุ๊บ!”เอิป เค้าสัญญาอะไรกัน “สัญญากับน้ำกายด้วยค่ะ...จุ๊บ! จุ๊บ!” ร่างเล็กดึงมือผมให้ก้มลงและจุ๊บแก้มซ้ายขวาเช่นเดียวกับพ่อของตัวเองแล้วก็เดินจากไป =_=
พี่หมอดึงมือผมเข้ามาในห้องของมัน ผมยังคงเงียบไม่พูดจาส่วนอีกคนเปลี่ยนจากตอนอยู่ในผับอย่างสิ้นเชิง พี่มันปล่อยให้ผมนั่งอยู่ในห้องโดยที่ตัวเองเข้าไปอาบน้ำ
ไม่นานมันออกมาจากห้องน้ำ ผมเข้าใจนะว่าห้องนอนเป็นของมันแต่ว่า.....มันก็น่าจะเกรงใจสายตาผมบ้าง เล่นใส่ผ้าขนหนูเปลือยท่อนบนอย่างเนี่ย แบบ ผมอาย(จนหน้าแดง)แทน
“กาย......” ร่างสูงเดินมาตรงหน้าผมก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้นซึ่งผมนั่งอยู่บนปลายเตียง พร้อมกับจับมือผมไว้ “พี่ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น”
“..............”พี่หมอเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสายตาที่บ่งบอกว่ามันรู้สึกผิดจริงๆ และแปลกมากที่ความโกรธที่ผมมีกับมัน จางหายไปในพริบตาแต่ก็นะ.... ผมยกมือขึ้นกอดอกเบือนหน้าหนี คึคึ
“โธ่กาย ลองคิดดูสินาทีนั่น ถ้ากายเห็นคนรักกำลังนั่งจูบอยู่กับผู้ชายคนอื่น กายจะทำยังไง”
“ก็จะเตะไข่มันให้แตกเลย! แล้วอีกอย่าง ผมไม่จูบกับเซฟซะหน่อย!!! อย่ามากล่าวหากัน” ผมผลักไหล่คนตรงหน้าอย่างเคืองๆ
“ไม่เรียกว่าจูบได้ไง ปากจะ.....” ยังไม่หยุดพูดอีก ผมเลยส่งสายตาคมๆไปมอง “โอเค....งั้นเราก็อย่าโกรธกันเรื่องนี้เลยนะ”
“.....................” ผมเงียบ ไม่ได้ตอบอะไร พี่หมอยิ้มนิดๆ เพราะรู้ว่าจริงๆผมก็ไม่ได้โกรธอะไรมากมาย แล้วมันก็กลับมาจับมือผมอีกครั้ง
“กาย......พี่ว่าเรามา....เป็นแฟนจริงๆจังๆกันสักทีนะ” ดวงตาสีนิลจ้องลึกเข้ามานัยน์ตาผม “พี่อยากให้ช่องว่างของเราลดลง กายรู้ใช่มั้ยว่าพี่คิดยังไงกับกาย”
“..................” รู้สิ รู้ว่าพี่หมอมีใจให้ผมและผมเองก็มีใจให้พี่หมอเช่นกัน
“ตลอดเวลาที่เราไม่ได้เจอกัน พี่คิดเรื่องของเรามาตลอด ไม่รู้ว่า กายจะโกรธพี่เรื่องเซฟมากขนาดไหน แต่พี่ไม่ได้โกรธกายเลยนะ พี่แค่ไม่ชอบตอนที่เห็นกายอยู่กับมันบ่อยๆ และพี่ก็รู้ว่ากายรักเพื่อนมาก เพราะงั้นพี่คิดว่า พี่อยากจะ เข้าใจกายให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เรามาเป็นแฟนกันนะ กาย”
“.........................” ผมควรตอบตกลงใช่มั้ย หรือว่า ยังไง แต่หัวใจของผมมันตอบตกลงไปแล้ว
“นะ......กาย” พี่หมอสบหน้าลงบนตักผมเพราะ ยังคงนั่งอยู่บนพื้นห้อง
“อืม..” ผมครางตอบเสียงไม่ดังนัก แต่ก็ทำให้ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมามอง ส่วนผมก็อมยิ้มก่อนจะเบือนหน้าหนีแก้เขิน
“จริงสิ.....” พี่หมอปล่อยมือผมก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบเอาอะไรบางอย่างออกมาจากโต๊ะทำงานและเดินกลับมา คราวนี้มันนั่งลงข้างๆผม “จริงๆ อยากจะให้ตั้งหลายวันแล้วล่ะ แต่ไม่มีโอกาส”
พี่หมอเปิดกล่องนาฬิกาแบรนด์ดัง ตัวเรือนเป็นเงิน รอบๆมีเพชรฝังสี่จุดดูเก๋ดี ไม่ได้ดูหรูหราจนเวอร์ แต่ก็ดูท่าว่าจะแพงพอสมควร พี่หมอสวมมันให้ผม จริงๆผมไม่ใช่คนชอบใส่นาฬิกาอย่างมัน เพราะมันเป็นหมอด้วยล่ะจึงต้องใส่นาฬิกาติดตัวตลอด
“รู้มั้ย ว่า...เวลามันมีค่ามากสำหรับพี่ ตอนนี้เราช่วยรักษาคนไข้ กายก็เปรียบเสมือนเวลาสำหรับพี่เหมือนกัน” พูดจบ ริมฝีปากอุ่นจัดทาบลงมากับริมฝีปากของผมอย่างนุ่มนวลและร้อนแรงสลับกัน
ร่างสูงเปลี่ยนมาบดจูบอ่อนหวานน่าหลงใหลจนยากที่จะปฏิเสธได้ ผมจับต้นแขนพี่หมอไว้ก่อนจะจูบตอบกลับไปเช่นกัน เราจูบกันเนิ่นนานจนกระทั่งอีกคนเริ่ม เลยเถิด หึ! คิดจะรวบหัวรวบหางล่ะสิ ไอ้หมอเจ้าเล่ห์
“อืม.....พอ.....คิดจะทำไร....รู้นะ” ผมกัดริมฝีปากล่างตัวเองหรี่ตามองพี่มัน “ผมยัง...ไม่พร้อมอ่ะ”
“โธ่กาย....เราโตๆกันแล้วนะ..ชิท์! แล้วเราก็เป็นแฟนกันแล้วด้วย”
“ก็จะทำไมล่ะ.....โตไม่โตไม่เห็นเกี่ยว อีกอย่าง.....ไหนบอกไข่มุกว่าเหนื่อย ไปนอนเลยไป”
“จำไว้ๆ ถ้า....เมื่อไหร่ล่ะก็ จะทบต้นทบดอกยันเช้าเลย จุ๊บ!!!” ไอ้บ้า ยันเช้าอะไรกัน พูดออกมาได้ ไม่อายปาก
“บ้า!!! ถอยไป จะอาบน้ำ แล้วก็ไปแต่งตัวได้แล้ว ดูสิไม่อายบ้างหรือไงนั่งเปลือยอยู่ได้” ผมดันไหล่คนตรงหน้าเบาๆก่อนจะลุกขึ้น
“ถึงจะเปลือย กายก็ไม่เห็นหวั่นไหวเลย” เสียงทุ้มดังไล่หลังตามผมเข้ามาในห้องน้ำ ไม่หวั่นไหวอะไรล่ะ กูหน้าแดงไปถึงหูตั้งแต่มันออกมาแล้ว ไอ้หมอบ้า!!!
“เย้ๆ คุณพ่อจะพาไข่มุกไปกินไอติมใช่มั้ยคะ” วันนี้พี่หมอเข้าเวรเช้าและออกเวรช่วงเย็นเลยทิ้งรถไว้ให้ผมไปรับไข่มุกแทน
“ใช่สิ เดี๋ยวเราไปรับคุณพ่อไข่มุกกัน” ผมบอก ไข่มุกกระโดดขึ้นมานั่งบนรถจากนั้นอีกไปถึงยี่สิบนาทีเราก็มาถึงโรงพยาบาล
“ขอบใจมากนะรัตน์ โอ้ย! เมื่อยไปหมดเลยเนี่ย” เสียงพี่หมอ
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวรัตน์นวดให้บ่อยๆนะคะ” เอาล่ะสิ ผมกับไข่มุกหยุดยืนมองหน้ากันอยู่หน้าห้องทำงานของมัน ไข่มุกกัดปากแน่น ก่อนจะผลักประตูเข้าไป
“คุณพ่อ!!! ทำอะไรคะ!” ไข่มุกเดินไปนั่งลงบนโซฟาข้างๆมันซึ่งด้านหลังพนักพิงมีผู้หญิงใส่ชุดพยาบาลยืนอยู่สองมือของเธอวางอยู่บนไหล่พี่หมอ
“เอ่อ....อะไรคะไข่มุก พี่รัตน์เค้าแค่เห็นว่าพ่อเมื่อยเลยมานวดให้” มองลูกมึงสิไม่ต้องมองกู - -
“ไม่นวดอย่างอื่นด้วยล่ะ” อันนี้ผมบอกครับ หญิงสาวในชุดพยาบาลเลิกคิ้วมองผมก่อนจะไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบเหยียดๆ อ้าวอีนี่ ตบกะกูมั้ย(?)
“พี่หมอ ก็เมื่อยบ่อยๆล่ะ รัตน์ก็เข้ามานวดให้บ่อยๆ ดูท่าพี่หมอจะถูกใจนะคะ” มานวดบ่อยๆงั้นหรือ “ไว้รัตน์จะมานวดให้ใหม่นะคะ” นางก้มลงพูดข้างหูไอ้หมอ(เปลี่ยนสรรพนาม) และหันมายกยิ้มให้ผมก่อนจะเดินออกไป ห่าราก นี่กูต้องทำศึกกับผู้หญิงหรอ ไม่เอาว่ะ ไร้สาระ
“ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย คิดอะไรกันอยู่เนี่ย”
“ไข่มุกไม่ชอบคนนั้น คุณห้ามเข้าใกล้นะคะ ไข่มุกโป้งคุณพ่อด้วย เน้อ พี่กาย เราโกรธคุณพ่อนะคะ” เออๆ ใช่โกรธ เฮ้ย!!! นี่ผมโกรธด้วยหรอ
“โธ่....ไข่มุก เอาล่ะ ไปกันเถอะ คุณพ่อออกเวรแล้ว” ไอ้พี่หมออุ้มไข่มุกขึ้น “กาย คุณถือเสื้อกับกระเป๋าให้ผมด้วยนะ” หน้าที่กูหรอเนี่ย ภาพแม่งออกจะเหมือน พ่อ...แม่....ลูก ><
“อ้าว รัตน์ออกเวรเหมือนกันหรอ” อะไรวะตามมาหรือไง นางมายืนอยู่ข้างๆรถครับ ไม่รู้หายตัวมาตอนไหน
“ค่ะ นี่ก็ว่าจะไปแวะห้างซะหน่อยน่ะค่ะ” หราาาา สตอป่าว
“ไปด้วยกันมั้ย พี่ก็กำลังจะไปเหมือน.....กัน” ทั้งผมและไข่มุกหันขวับไปมองจนมันเพิ่งรู้ตัวว่าคิดผิดที่พูดชวนเธอไปด้วย “เอ่อ....หรือยังไง...”
“ไปค่ะ ก็ดีเหมือนกัน”
“แต่ไข่ไม่อยากไปกับคนอื่นนี่คะ ไข่มุกไปชอบ” ไข่มุกกอดคอคนเป็นพ่อแน่น
“ไข่มุกคะ เราต้องมีน้ำใจรู้มั้ย อีกอย่างเราไปทางเดียวกัน ไปด้วยกันเนี่ยแหละนะคะ ใช่มั้ยกาย”
“ก็ไม่รู้สินะ!” ผมตอบแค่นั้นก่อนจะเดินผ่านมันไปขึ้นรถด้านข้างคนขับพร้อมกับไข่มุก
“เอ่อคือว่า.....รัตน์เมารถน่ะค่ะ ให้รัตน์นั่งด้านหน้าดีกว่ามั้ยคะ รัตน์กลัวทำรถพี่หมอเลอะ” ด้านหน้าหรือหน้าด้าน! สาบานว่านางตอแหลยิ่งกว่านางร้ายในละครอีก
“เอ่อ....งั้นหรอ.....” พี่หมอมองผมนิด ไม่ต้องออกปากไล่กูลงเอง ผมเลยลงจากรถและเปลี่ยนมานั่งด้านหลังแทน
“ไข่มุกมานั่งกับพี่รัตน์มั้ยคะ” นางพยาบาลสาวบอก
“ไม่เอา! ไข่มุกไม่ชอบนั่งกับคนอื่น ไข่มุกจะนั่งกับพี่กาย” ไข่มุกลงตามผมขึ้นมานั่งด้านหลัง พี่หมอมองผมผ่านกระจกมองหลังก่อนจะเปลี่ยนไปมองลูกสาวตัวเองที่กำลังนั่งกอดอกหน้าบึ่ง และแอบเหงื่อตกนิดๆ
เมื่อมาถึงห้างหญิงสาวชื่อรัตน์ก็แยกออกไป เห็นเธอบอกว่าพี่ชายมารับแต่ผมว่าไม่เชื่อเพราะดูจากท่าทางแล้วน่าจะเป็น ผัว เฮ้ย!!! แฟนมากกว่า
“นี่ๆ อย่ามองกันแบบนั้นสิ พ่อผิดอะไรล่ะไข่มุก พี่ไม่ได้อะไรกับเค้าเลยนะกาย” มีร้อนตัว เหอะๆ ผมก็ไม่ได้อะไรกับเธอหรอกเพราะรู้ดีว่าพี่หมอมันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น
“คุณพ่อใจดีผิดคนแล้วค่ะ พี่คนนั้นอ้อร้อจะตาย” ทั้งผมและพี่หมอตกใจกับประโยคของไข่มุกจนต้องหันไปมองพร้อมกัน
“ไข่มุก! ไปได้ยินมาจากไหนคับ รู้มั้ยไม่น่ารักเลยนะ” ผมบอก
“นั่งสิ เอาใหญ่แล้วนะ รู้ตัวหรือเปล่า ว่าคำแบบเนี่ยเด็กไม่ดีเค้าพูดกัน หรือจะให้พ่อตี” พอโดนว่าเป็นชุดนางก็เริ่มน้ำตาซึมครับ
“อึกๆ ก็ไข่มุกไม่ชอบคนนั้นนี่นา อึกๆ ไข่มุกไม่อยากให้คุณพ่อไปยุ่งกับเค้า อึกๆ” สุดท้ายนางก็ปล่อยโฮ่ออกมา ไข่มุกกอดผมที่นั่งอยู่ข้างๆ ทำเอาผมไปไม่ถูกเลยทีเดียว
“พ่อไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย แค่ไม่ชอบให้ไข่มุกพูดไม่ดี รู้มั้ย”
“พอๆ เพราะพี่นั่นแหละมันเริ่มจากพี่ ไข่มุกไม่รู้เรื่องก็เลยพูดออกมา ไม่ต้องร้องนะเดี๋ยวพี่กายพาไปซื้อของเล่น เอาเยอะๆเลย นะๆ” ผมบอก มองพี่หมออย่างตำหนิ
“เฮ้อออ พี่ผิดตลอดดดดดดดดด”
“ทำไม่ ต้องมาส่งไข่มุกก่อนล่ะ ไม่แวะส่งผมก่อน” ผมถามระหว่างนั่งรถ หลังจากที่เราไปส่งไข่มุกที่บ้านในช่วงค่ำ ทั้งที่จริงๆแล้วจะแวะส่งผมก่อนก็ได้
“พี่....จะพากายดูอะไรนิดหน่อย” อะไรของเค้านะ ชิท์!
“มาหาใครหรอ” ผมถามเมื่อพี่หมอพาผมมายังคอนโดหรู ออกห่างมาจากใจกลางเมืองไม่มาก แต่ไอ้พี่หมอมันไม่ตอบ จูงมือผมเข้ามาอย่างเดียว
“สวยมั้ย กายว่า” พี่หมอเปิดห้องๆหนึ่งบนชั้นบนสุดของคอนโด ภายในห้องตกแต่งอย่างหรูหราบ่งบอกถึงราคาที่น่าจะสูงนับกว่าสิบล้าน
“สวย.....มาก! อย่างบอกนะว่า...ซื้อคอนโดนี้น่ะ”ผมถาม ก็ไม่แปลกหรอก เพราะมันรวย!
“อืม.....กายชอบมั้ย” ผมเดินมาหยุดยืนมองหวิวภายนอกผ่านกระจกใสบานใหญ่ มองเห็นภาพสวยงามจากดวงไฟในเมืองใกล้ๆยามค่ำคืน พี่หมอเดินมายืนซ้อนหลังผมก่อนจะกอดเอวผมไว้แบบหลวมๆ
“เพื่ออะไร.....เนื่องในโอกาส?”
“เรือนหอมั้ง” ฟอด!!! ผมอมยิ้มเมื่อโดนร่างสูงหอมแก้มฟอดใหญ่ พี่หมอกระชอบอ้อมแขนแน่นขึ้นอีก ปลายคางมันวางไว้กับไหล่ผม
“เรือนหอบ้าไร ไม่ได้แต่งงานซะหน่อย”
“หรือกายจะแต่งงาน พี่ก็ทำให้ได้นะ มีลูกด้วยก็ได้ เอามั้ย” ฟอด!!! ไอ้บ้าแก้มช้ำหมดแล้วเนี่ย
“จะบ้าหรอ แล้วอีกอย่าง เราก็เป็นแค่....แฟนกันเหอะ คิดไกลแล้ว” ผมยกมือขึ้นบีบจะหมูกร่างสูงอย่างหมั่นไส้
“ก็กายมาเป็นภรรยา พี่ไง”
“บ้าน่ะสิ แล้วตกลง ซื้อทำไมจะมาอยู่ที่นี่หรอ” เปลี่ยนเรื่องๆ เดี๋ยวผมละลายซะก่อน
“อืม....จริงๆก็อยากซื้อบ้านนะ แต่ว่า...มันกว้างเกินที่จะอยู่สองคน” พี่หมอปล่อยอ้อมกอดออก จับข้อมือผมดึงไปนอนลงบนโซฟาตัวยาวโดยให้ผมนอนอยู่บนตัวของมัน
“กับไข่มุกน่ะนะ...แล้วใครจะดูแลไข่มุกตอนที่พี่ไปทำงานล่ะ”
“ก็กายไง”
“กายหรอ....จะให้กายมาอยู่นี่หรอ ได้ไงกันล่ะ”
“ได้สิ......” พี่หมอพลิกตัวทีเดียวก็กลายเป็นว่ามันขึ้นมาคร่อมผมอยู่ด้านบน “กายมาอยู่กับพี่นะ มาดูแลพี่กับลูกของเรา”
“แต่ว่า....ไข่มุกยังเด็ก จะรับเรื่องแบบนี้ได้หรอ อีกอย่างไข่มุกก็เป็นผู้หญิง” นั่นสิ ผมเห็นผู้ใหญ่บางคนก็ยากที่จะรับเรื่องแบบนี้ หมายถึง ชายรักชายน่ะ
“ได้สิ เชื่อพี่นา พี่อยากลองมีครอบครัวดู ถ้าเกิดยังไง เราก็ค่อยให้ไข่มุกกลับไปอยู่กับแม่ที่บ้านก็ได้”
“อยากมีครอบครัว......งั้นก็ไปเอาผู้หญิงสิ” ผมบอกเพราะแวบหนึ่งคิดถึงครอบครัวแบบพ่อแม่ลูกที่สมบูรณ์แบบขึ้นมา
“ไม่เอา!....เอากายเนี่ยแหละ” พูดจบร่างสูงก็ทาบริมฝีปากลงมากับปากผม รสจูบนุ่มนวลและร้อนแรงสลับกันเหมือนเช่นเคย “ให้พี่นะ”
“ไม่ให้....!!!”
“ก็จะเอา...คืนนี้ไม่รอดหรอก...เชื่อสิ” ผมอบยิ้มนิด ก่อนจะหลบสายตาพริ้มหนาวเยิ้มของร่างสูง
จากนั้น ริมฝีปากร้อนก็ลงมาฝากรอยไว้ตรงซอกคอย้ำๆ สลับกับกลับขึ้นมาบดจูบริมฝีปาก ท่อนล่างของเราต่างเบียดเสียดกันอย่างแนบชิดจนไร้ซึ่งอากาศแทรกผ่าน ผมรู้สึกดีและดีมาก จนตอนนี้ปล่อยให้ร่างกายทำตามที่ใจต้องการ
“อ่ะๆๆๆ........พี่รักษ์” ผมครางลั่นห้อง ในขณะที่ร่างสูงขยับอยู่บนโซฟากำลังพาผมไปถึงจุดสุดยอด ร่างกายของคนบนร่างผมเต็มไปด้วยเหงื่อโซกกาย
“กาย...ซี๊ดดดดด....อ่า.....กาย.......อ่า....” พี่หมอเองก็ครางเรียกชื่อผมไม่ขาดสายเช่นกัน ต่างคนต่างสุขสม และยังไม่คิดจะหยุดถึงแม้ว่าจะผ่านมาแล้วสามรอบ
“อ่าาาาาาา......” ร่างกายผม กระตุกเกร็งเมื่อรู้สึกว่ากำลังปลดปล่อย ก่อนจะแอ่นอกขึ้นนิดๆและไม่นานน้ำรักสีขุ่นก็พุ่งออกมาจนเต็มหน้าท้องเฉกเช่นเดียวกับอีกคนที่ปล่อยน้ำรักเข้ามาในตัวผม
“ยังไหวมั้ย...” พี่หมอเสยผมตรงหน้าผากผมขึ้น ก่อนจะถาม มันไม่คิดจะหยุดจริงๆหรอเนี่ย
“ไม่เอาแล้ว....กายปวดท้อง” ผมบอก พยายามเอื้อมไปหยิบเอาเสื้อของตัวเองมาใส่ “อ่ะ!!!...พี่หมอ!!” ผมร้องเสียงหลงเมื่อพี่หมอแกล้งขยับตัวเพราะมันยังคงแช่ลำไว้ในตัวผม
“อ่า....อีกรอบนะ....นะกาย” ปฏิเสธหรอ ก็อยากอยู่แต่มันพูดไปขยับไปนี่ กูปฏิเสธได้มั้ย เจ็บเป็นนะเว้ย!!!
“รอบเดี๋ยวนะ....อ่ะๆ...นี่” มันจะรีบไปไหนนนนนนนน ผมยังไม่ทันพูดจบก็เดินเครื่องทันที แม่ง!!!
“ก็บอกว่า....อ่ะ! พี่หมอ เจ็บนะ!!!” พี่หมอกำลังล่างตัวให้ผมครับ ยังไม่พอ มันยังมาเอาน้ำรักของมันออกให้ด้วย แต่มันโคตรเจ็บอ่ะ
“พี่ทำให้นา กายทำเองเอาออกไปหมดเดี๋ยวปวดท้องนะ” เออ! ผมควรเชื่อหมอใช่มั้ย
“ก็เบาๆหน่อยสิ....อ่ะ! เจ็บ”
“ตอนทำกับตอนนี้ ตอนไหนเจ็บกว่ากัน” ถามเหี้ยไรเนี่ย
“ไม่รู้เว้ย! เสียเปรียบฉิบหายเลย เจ็บอยู่คนเดียว อ่ะ!!! เน้!!! เบาๆสิ” ผมโว้ยวายใส่ มองเห็นตัวเองในกระจก แม่ง ตัวแดงอย่างกะเป็นไข้เลือดออก ช้ำไปหมด
“เสร็จแล้วๆ....เสร็จแล้วครับ เมีย” ฟอด!!!
“เมียบ้าไรล่ะ อายปากบ้าง!!!”
“อายทำไม ตอนทำไม่เห็นอายเลย” เราพูดเรื่องเดี๋ยวกันใช่มั้ย ถามจริง!!! =_=
<<<<<<<<<TBC>>>>>>>>>>
รีบมาลงกลัวนักอ่านค่อยนาน(หรือเปล่า) =_=^
ขอบคุนนักอ่านทุกคนนะค่ะทั้งคนที่เม้นหรือนักอ่านเงาเราดีใจมาก
ที่มีนักอ่านหน้าใหม่และขาประจำมาอ่านมาเม้นให้
เพิ่งแต่งไม่นานภาษาหรือสำนวนอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ก้อหรือมีอะไรผิดพลาดต้องของโทษด้วยน้า
มีอะไรติชมได้ค่ะ
ปล.อยากสอบถามเรื่องรวมเล่มอ่ะค่ะใครสนใจรบกวนช่วยตอบหน่อยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ จิ้มโลด