บัวกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ตอนที่ได้ยินเสียงจุ๊ปากดัง ชู่ว เบาๆอยู่ใกล้ๆ พอแอบลืมตาขึ้นมานิดหน่อยก็เห็นสองแสบกับคุณพ่อของเด็กกำลังทำท่าจุ๊ปากเหมือนกันยืนเรียงสาม จากนั้นไลเกอร์ก็เป็นคนแรกที่ค่อยๆย่องเข้ามาที่เตียงเขาแล้วก้มลงหอมแก้มคุณครูบัวดังจ๊วบแล้วก็เดินออกไปยืนที่เดิม ไทกอนเป็นคนต่อมาที่ค่อยๆย่องมาเตียงเขา แล้วก้มเอาจมูกเด็กโด่งนิดๆชนแก้มครูบัวจนแก้มยุบ แล้วทำเสียงกับปากตัวเองเบาๆว่า ‘มั๊วะ’ แล้วก็เดินออกไปตามคนพี่ บัวได้ยินเสียงเสื้อผ้าเสียดสีกันดังเบาๆจึงแอบเผยอเปลือกตาลืมมามองว่ามันเกิดอะไรขึ้นอีก เขาพบว่ามันเกิดจากการที่สองแสบพยายามลากคุณพ่อตัวสูงให้เข้ามาใกล้ๆเตียงเขา แล้วทำปากขมุบขมิบพร้อมชี้โบ๊ชี้เบ๊ที่แก้มตัวเองเหมือนเป็นภาษาใบ้บอกว่า ‘ตาพ่อแล้วหอมแก้มครูบัวเร็วๆเข้าสิ!!!’ ยังไงอย่างนั้น
บัวทั้งเขินทั้งอายจึงหลับตาปี๋ พร้อมกับแสร้งเอาผ้ามาคลุมโปงตัวเองแล้วพลิกตัวหันไปอีกข้าง คิดในใจว่าสองแสบกำลังคิดอะไรอยู่กันเนี่ย...ผู้ชายด้วยกันหอมแก้มกันมันน่าดูตรงไหน หรือว่าสองแสบแค่จะแกล้งเขา แต่เล่นแบบนี้มันชักจะเกินไปหน่อยแล้ว พรุ่งนี้เห็นทีถ้าลุกไหวคงต้องมีการสอนเพศศึกษากันบ้าง ว่าคนสองคนที่เป็นผู้ใหญ่และไม่มีความสัมพันธ์ใดๆต่อกันไม่ควรจะถูกเนื้อต้องตัวกันโดยไม่มีเหตุผล เพราะตามจารีตวัฒนธรรมของสังคมไทยนั้นเขาถือกันว่าไม่งาม...บัวพยายามข่มตาให้หลับ คิดในใจว่านายเหมืองแกคงจะฝืนลูกๆสำเร็จและพาเข้านอนได้ แต่ทว่า...ไอ้ความรู้สึกถึงของหนักที่เท้าลงบนเตียงข้างหน้าบัวนี่มันอะไร
เอ๋!!! เดี๋ยวๆ...แล้วเมื่อกี๊อะไรมาชนแก้มเขาผ่านผ้าเนี่ย!!!
เฮ้ย...!! อย่าบอกนะว่า...นายเหมืองยอมทำตามที่ลูกๆต้องการ แถมยังทำต่อหน้าเด็กๆด้วยน่ะ!!!
บัวอยากกรีดร้องเป็นภาษาอุยกูร์...หน้านายเหมืองนี่ฉาบด้วยอะไรกัน!!! บัวอยากลองเอาฆ้อนไปกระเทาะดูหนัก ทำไมมันถึงได้ทั้งหยาบและหนาแบบนี้นะ ทำอะไรไม่เกรงใจบัวก็น่าจะเห็นแก่ลูกตัวเองบ้าง เดี๋ยวก็เบี่ยงเบนเหมือนพ่อหรอก...!!!
เอ๋...นึกแล้วทำไมถึงรู้สึกว่าเข้าตัวแปลกๆ จริงสินะ...ก็คนที่เบี่ยงเบนไปพร้อมพ่อสองแสบก็คือเขานี่นา...ไม่ใช่ๆ เขาคือคนที่ถูกบังคับให้เบี่ยงเบนเพราะพ่อของสองแสบต่างหาก
“ลูกกลับไปนอนที่ห้องหมดแล้ว เลิกแกล้งหลับได้แล้วบัว...” เสียงทุ้มๆหนาหนักเอ่ยขึ้นพร้อมแรงยุบยวบที่ข้างเตียง บัวกำหมัดแน่นอยู่ใต้โปงผ้าห่ม แล้วตัดสินใจลุกพรวดไปเผชิญหน้ากับจอมวายร้ายพร้อมกำปั้นที่เตรียมไว้ กะว่าพรุ่งนี้หน้าหล่อๆเถื่อนๆนี่จะต้องมีรอยช้ำม่วงๆให้สาแก่ใจเสียหน่อย
แต่บัวก็ทำไม่ลง...เมื่อจู่ๆร่างใหญ่ในชุดนอนกางเกงแพรขายาวกับเสื้อกล้ามสีขาวก็ยื่นกรวยใบตองสีเขียวเข้มมาให้ มันถูกไม้กลัดทางมะพร้าวเหลาปลายมนกลัดมาอย่างน่ารัก นายเหมืองยื่นมันมาตรงหน้าบัวก่อนจะเขย่าเบาๆสองทีเมื่อบัวยังไม่ยอมรับเจ้ากรวยใบตองไปจากมือ บัวค่อยๆคลายกำปั้นออกไปรับเจ้ากรวยธรรมชาติที่ส่งกลิ่นหอมระรื่นตามลมแอร์มาแตะจมูก แล้วก็ต้องตาโตเมื่อข้างในนั้นมันถูกอัดแน่นไปด้วยดอกจำปาจำปีสีเหลืองอ่อนแก่เต็มไปหมด บัวเอาเข้ามาดูใกล้ๆอย่างชชอบใจนัก ก่อนจะเงยหน้าไปหาคนเอามาให้เพื่อจะถามคำถาม แต่ใบหูแดงๆกับอาการเกาท้ายทอยของนายเหมืองร่างใหญ่ก็ทำเอาบัวขมวดคิ้ว เพราะกลั้นขำจนทนแทบไม่ไหว...
...นายเหมืองอาย...!
...เป็นไปได้หรือนี่...!
“นายเหมือง...เอามาให้บัวเหรอ” คุณครูหนุ่มน้อยถามออกไปก่อน ไอ้อาการเคืองๆคนตัวโตกว่าเมื่อครู่เริ่มจางหายไปหมด เหลือเพียงอารมณ์กลั้นขำเมื่อไม่คิดว่าจู่ๆไอ้คนหน้าด้านไม่รู้จักอายเมื่อครู่จะมาตกม้าตายกับแค่เอาดอกไม้มาให้ผู้ชายด้วยกันแค่นั้นเอง
“ฮื้อ...ชะ...ชอบมั้ย” สงสัยจะอายจริง ดูสิ...พูดยังติดๆขัดๆเลย
“ก็...ชอบ” บัวตอบตามจริง เลยเห็นท่าทางนายเหมืองถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ไม่อยากจะเชื่อ...ว่าคนอย่างนายเหมืองจะมีมุมน่ารักแบบนี้กับเขาเหมือนกัน
เดี๋ยวนะ...เมื่อกี๊บัวกำลังคิดว่านายเหมืองน่ารักงั้นเหรอ
“ไม่ได้ใส่ยาใช่มั้ย” บัวถามต่อ นายเหมืองพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มแต่งแต้มที่มุมปากอย่างเท่ห์ พร้อมเอามือมาดันกรวยให้ไปจ่ออยู่ใต้จมูกบัวก่อนจะเอ่ยว่า
“ลองดมดู...สบายใจได้ ผมปลูกเอง รับรองไม่มียาเด็ดขาด”
บัวมองกรวยในมือสลับกับหน้านายเหมือง แล้วค่อยๆจรดจมูกดมกลิ่นหอมของดอกไม้หอมชุ่มชื่นเข้าไปเต็มปอด กลิ่นหอมเย็นๆของดอกจำปีที่กำลังจะบานเตะจมูกนัก นานแล้วที่บัวไม่ได้ดมดอกไม้ที่ชอบแบบนี้ เมื่อก่อนแม่เคยทำให้บัวอยู่หน แต่ตอนนั้นดมไม่ได้เพราะดอกจำปีที่ได้มาจากตลาด ซึ่งเขาไม่รู้ว่าใส่ยามาหรือเปล่า มาตอนนี้ได้ดมสมใจ บัวเลยก้มดมไม่หยุด
“มา... ‘พี่’ เอาติดผมให้”
“พี่เหรอ” ทันทีที่ได้ยินบัวก็เงยมองคนพูดพร้อมพึมพำออกมาแผ่วเบา
“ก็พี่แก่กว่า จะให้แทนตัวเองว่าน้องรึไง” นายเหมืองเริ่มกวน บัวจึงเงียบซะ ก้มมองดูมือใหญ่ค่อยๆหยิบดอกจำปีสีเหลืองอ่อนดอกสวยมาจากในกรวย แล้วค่อยๆบรรจงหยิบปอยผมน้อยที่ข้างหูบัวออกมา แล้วพันดอกจำปีใส่ผมให้บัวอย่างชำนาญ
“นายเหมืองทำเป็นด้วยเหรอ” บัวถามเมื่อนายเหมืองเอาดอกจำปีมาติดกับผมให้บัวเรียบร้อย
“อื้อ แหม่มสอน...เมื่อก่อนเขาชอบให้พี่ติดผมให้เขาบ่อยๆ” นายเหมืองเล่าตามความจริง นึกกังวลอยู่เหมือนกันว่าครูบัวจะน้อยใจหรือเปล่าที่เขาพูดถึงภรรยาของตัวเอง แต่สีหน้าแววตาชื่นชมเขาอย่างเปิดเผยที่อีกฝ่ายแสดงออกมาก็ทำให้นายเหมืองร่างใหญ่พอใจอยู่ไม่น้อย
“หายากนะ ผู้ชายที่จะยอมทำอะไรเล็กๆน้อยๆแบบนี้ให้ภรรยา ตอนเด็กๆบัวจำได้ว่าพ่อก็เคยทำให้แม่ บัวชอบมากเพราะผู้หญิงกับดอกไม้เข้ากันมากที่สุดเลย...ไม่คิดว่านายเหมืองเองก็จะทำอะไรแบบนี้เป็นด้วย” บัวบอก ส่ายหน้าเบาๆเพื่อให้ดอกจำปีที่ติดกับผมส่ายไปมา กลิ่นหอมระรื่นก็โชยเข้าจมูกชื่นใจ
“บัว...ไม่น้อยใจเหรอที่พี่...นอนกับบัวแล้ว...ยังพูดเหมือนคิดถึงภรรยาเก่าของพี่แบบนี้” นายเหมืองเสี่ยงถาม ไม่รู้ทำไม...แต่เขารู้สึกได้ว่ากับครูบัวเขาสามารถพูดตรงๆได้ทุกเรื่อง ครูบัวเป็นผู้ฟังที่ดีและมีเหตุผลเสมอในการไตร่ตรองคำพูดของคนอื่นเสมอ ซึ่งจุดนี้ละมั้ง ที่ทำให้เขารู้สึกสบายใจที่จะพูดได้ด้วยทุกเรื่อง
“ถ้าคุณไม่คิดถึงสิบัวจะโกรธให้...ผู้หญิงแบบคุณแหม่มเป็นผู้หญิงที่ควรยกย่อง แม่ที่รักลูกจนกระทั่งเสียสละชีวิตตัวเองได้ขนาดนี้ คุณต้องห้ามลืมเธอเด็ดขาด...เธอถือว่าเป็นผู้มีพระคุณของผมคนหนึ่งเหมือนกัน เพราะถ้าไม่มีเธอวันนั้น ผมคงไม่ได้มาเจอกับสองแสบในวันนี้...บัวชื่นชมที่คุณเลือกคนรักได้ดี และดีใจแทนไลเกอร์กับไทกอน ที่มีคุณแม่ที่ประเสริฐได้ขนาดนี้ด้วย”
ไอ้สิงห์...ไอ้หื่น...ไอ้บ้ากาม...ไอ้เลว...ไอ้เฮงซวย...ไอ้...!!!
วันนั้นผีห่าซาตานอะไรเข้าสิงวะ!! ทำไมเราถึงคิดอกุศลกับครูบัวไปได้ขนาดนี้...!!! คิดได้ยังไงว่าครูบัวจะอิจฉาแหม่ม เอาครูบัวไปเปรียบเทียบกับพวกครูไร้จรรยาบรรณพวกนั้นได้ยังไง...ทั้งๆที่ครูบัวแสนดีกับเขาและลูกๆถึงขนาดนี้
สิงห์ทนสู้สายตาชื่นชมที่ครูบัวมองมาที่ตัวเองไม่ไหว เอื้อมมือโอบเอวครูบัวแล้วเอาเข้ามากอดเสียจนแน่น ซบใบหน้าลงกับไหล่เล็กๆผอมบางก่อนจะรำพันคำขอโทษออกมาจากใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น...เขาสำนึกแล้ว...เขามันเลวจริงๆ...ทำร้ายครูบัวคนนี้ไปได้ยังไง
“พี่ขอโทษ...พี่ขอโทษนะบัว...ที่พี่ทำให้บัวเจ็บ พี่ขอโทษ...พี่สำนึก...แล้วก็ไม่คิดจะแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น บัวจะด่าจะว่าพี่ จะโกรธพี่ยังไงก็ได้ แต่ขอร้อง อย่าเกลียดพี่เลย...อย่าเกลียดพี่กับลูกๆ...พี่สัญญา...ว่าจะไม่ทำให้บัวเจ็บอีก จะฟังบัวให้มาก จะรับฟังเหตุผลของบัว แล้วก็เชื่อใจบัวให้มากกว่านี้ด้วย...พี่ขอโทษนะบัว...พี่ขอโทษจริงๆ...”
เสียงคล้ายสะอื้นของนายเหมืองที่ดังอยู่ข้างใบหูทำให้บัวอดไม่ได้ที่จะต้องยกมือขึ้นมาลูบหลังคนตัวใหญ่ที่ซบไหล่เขาเหมือนเด็กๆ บัวลูบหลังนายเหมืองไม่พูดอะไร คนตัวใหญ่กว่าก็เอาแต่กอดคนตัวนิ่มไม่ปล่อย ยิ่งพอเห็นอีกฝ่ายลูบหลังให้อีกก็ยิ่งได้ใจ รัดแขนกอดแรงขึ้นให้สมใจอยากเสียจนหูของนายเหมืองได้ยินเสียงกระดูกคนในอ้อมกอดลั่นดังกร๊อบก็เลยรีบปล่อย เห็นสีหน้าครูบัวว่านิ่วหน่อยๆอยู่หรอกแต่ไอ้เสียงลั่นกร๊อบเมื่อกี๊เขาคงแค่มโนไปเองมากกว่า
“เอาอย่างนี้ เพื่อเป็นการไถ่โทษ...ครูบัวชอบทะเลหรือภูเขามากกว่ากัน”
บัวเอียงหน้าสงสัยกับคำถามที่จู่ๆก็โพล่งขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่ก็ยังพยายามค้นหาคำตอบให้นายเหมืองอย่างตั้งใจก่อนจะตอบไปว่า
“เอ่อ...บัวไม่ได้กวนนะ แต่บัว...ชอบทั้งสองอย่างเลย” ครูบัวตอบ นายเหมืองทำท่าพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะดีดนิ้วใหญ่ดังเป๊าะก่อนบอก
“งั้นบัวก็ต้องรีบๆหาย หายป่วยเมื่อไหร่พี่จะพาไปเที่ยวน้ำตกเจ็ดสวรรค์...อยู่ไม่ไกลจากบ้านพี่ด้วย รับรอง...บัวต้องชอบ” นายเหมืองเอ่ยพร้อมถือวิสาสะยื่นมือมาวัดไข้ตรงหน้าผากให้ครูบัว เมื่อเห็นบนใบหน้าขาวๆเริ่มซับเลือดจนเริ่มแดงจางๆ เขากลัวว่าแผลที่เท้าครูบัวจะอักเสบหรือติดเชื้อ เพราะตอนที่โดนบาดก็ไม่ได้รับการปฐมพยาบาลอย่างทันท่วงที ทิ้งเอาไว้ตั้งคืนหนึ่ง ถ้าครูบัวจะไข้ขึ้นก็ไม่แปลกล่ะ
แต่จะว่าไปก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้หาเรื่องหยุดงานอยู่เฝ้าครูเสียเลย ไหนๆไอ้พุฒก็กลับมาแล้วด้วย อีกไม่นานมันก็จะสามารถไถ่บ้านไปเป็นของตัวเองได้แล้วด้วย เขาก็ต้องขอใช้งานมันให้คุ้มกับค่าบ้านเสียหน่อยล่ะ นี่ไม่ได้เรียกว่างกนะ...คนอย่างนายเหมืองสิงห์แค่ใช้เงิน(และคน)เป็น(แบบคุ้มสุดๆคูณสอง)
และวันต่อมาก็สมใจนายเหมืองเขาล่ะ เพราะครูบัวไข้ขึ้น แผลอักเสบจนเท้าบวมฉึ่ง คนงานเหมืองต่างก็งงไปเป็นแถบๆเมื่อนายพุฒประกาศหยุดงานให้เจ้านาย เพราะครูตัวขาวของลูกชายป่วยหนัก!
-------------------------------------------------------------------
to be continue...
[/b]
สวัสดีจ้าาาา ว่าจะเอาตอนพิเศษวันสงกรานต์มาลงก่อน
แต่พอดีมันหวานไปอาจจะไปขัดฟินกับอารมณ์ความรู้สึกในตอนหลัก แถมยังสปอยล์ตอนจบแบบเกือบจัดหนักแพทเลยกะเอาไว้ลงทีหลังดีกว่า ตอนหลักตอนที่ 9 นี้ก็เลยได้มานอนเล่นในเล้าก่อนเสียงั้น ห้าาาาา
เดินทางช่วงสงกรานต์กันอย่างระมัดระวังนะค้าาา
อิอิ ขับรถขับราก็ระวังๆด้วยนะ รู้สึกช่วงนี้จะมีอุบัติเหตุกันเยอะเหลือเกินทั้งรถ เรือ เครื่องบิน เหอๆ
แพทต้องขอขอบคุณเสียงตอบรับเรื่องนี้เป็นอย่างมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ x ล้านครั้งเลยนะคะ
ไม่คิดว่าเรื่องสั้น(ที่มันไม่สั้นอีกต่อไปแล้ว)ที่พล็อตมันปึ๊ดขึ้นมาในหัวจะมีคนสนใจอ่านมันด้วย ห้าาาาา
ยังไงก็ขอให้ความสุขกับการอ่านและอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปเรื่อยๆนะคะ
ปล. อ้อ ถ้าเกิดแถวนี้มีใครเป็น
พ่อยกแม่ยกหนูลินอยู่ก็ขอฝาก
หนังสือ 'คุณแม่...ครับผม!' ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจกันด้วยนะคะ
รายละเอียดการสั่งจองอยู่ที่หน้าเฟสบุ้คของสำนักพิมพ์เฮอร์มิท
>>>>จิ้มโลด<<<< ที่นี่ที่เดียวค่า
ขอบพระคุณสำหรับมิตรภาพดีๆที่มีให้แพทซำเหมอมานะ >_< *กราบเบญจางคประดิษฐ์* รักษาสุขภาพและมีความสุขตลอดปีใหม่ไทยและตลอดไปกันนะค๊าาาาา
ปล2. เอ...มันเรียกโปรโมทหนังสือเพื่อการขายแพททำถูกมั้ยเนี่ย ถ้าทำผิดที่ก็สะกิดกันเบาๆเลยนะตัวเอง อย่าจิ้มแรง เดี๋ยวเจ็บบบ