▓▒░ อุบัติรักเร็วเกินเหตุ ░▒▓By TRomance ตอนพิเศษสั้นๆวาเลนไทน์ P.78 [15.02.58]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▓▒░ อุบัติรักเร็วเกินเหตุ ░▒▓By TRomance ตอนพิเศษสั้นๆวาเลนไทน์ P.78 [15.02.58]  (อ่าน 786000 ครั้ง)

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
หรรษา เมตตา สู้ๆ   :a2:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ต้องผ่านไปให้ได้นะ หรรษาต้องชนะคดี
ต้องมาดูแลเมตเหมือนที่พูดไว้นะ
สงสารทั้ง2คนเลยอ่ะ

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
แล้วก็มีเรื่องเข้าใจได้ แถมเรื่องใหญ่ซะด้วยนะหรรษา :เฮ้อ:

ออฟไลน์ BeauBeeiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
เข้มแข็งนะ ต้องผ่านมันไปได้อยู่แล้ว
ยากจิส่งเพทายออกน้องประเทศจริงจะได้ไม่ต้องมา
ยุ่งกะหรรษาและหัวถั่วอีก อะไรนักหนาก็ไม่รู้ เพทายจิตป่าวว่ะ
ถ้าจิตจริง แอนก็จิตกว่าอ่ะ นางไม่ค่อยคิดอะไรกะเข้าสักอย่างเลย
ตัวเองดีจัดเลยเหอะ ชิร์ อารมณ์มันขึ้น!!!!



ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
สาธุ ขอให้หรรษา กับ เมตผ่านมันไปได้

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
เชื่อว่าทั้งเมตและหรรษาจะผ่านมันไปได้ สู้ๆๆๆ นะ เป็นคนดีกันทั้งคู่เลย
ส่วนไอ้ที่เลวก็เลวไร้มิติ คือเล้วเลว นัวแอนนี่แต่บะคำไม่มีสลด ส่วนผัวมันยิ่งหนัก บุญคุณไม่เคยมี เลวมาก
พูดยั่วจนต้องมีเรื่องกันเนี่ย เลวๆๆๆๆ จริง

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
แอนกับเพทายนี่มันเหมาะกันจริงๆเลยว่ะ


ออฟไลน์ pak_kikkok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
โอ้ยยย  จะน่ารักไปแล้วหรรษา  มาตอนนี้อ่านไปอมยิ้มไปได้สักที  ตอนนี้แล้วเอาซะน้ำตาตกกันไปเลย

เมื่อไหร่เมตตาจะฟื้นมาให้หรรษาง้อนะ  ป่วยหนักไปซะงั้น  อาจจะตรอมใจ สะมีไม่มาง้อสักที ไข้หวัดเลยเอาไปกินเลย

หรรษาแมนมาก แบบกรี้ดได้อีก  ฮาตอนท้ายมากเลยค่ะ  คุณพ่อได้ใจจริงๆ

ตอนหน้าก็กลับมาคืนดีกันเร็วๆนะ

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
ตอนไหนจะจบเรื่องของคู่ผัวเมียผีเน่ากับโรงผุนี่ซะที น้องเมตของเจ้ก็เก็บอาการอยู่ได้นะลูก ถ้าเป็นเจ้จะแช่งให้ตายทั้งพ่อ แม่ ลูกเลย
ไอ้เพทายนี่มันเกินคำว่าสันดานเสีย น่าตัวเมีย หรือเหี้ยแล้วแหละ ถ้าให้เปรียบคงไม่มีสัตว์ใดๆ บนโลกเลวได้เท่ามัน ส่วนเมียก็ไม่ต่างกัน เห็นแก่ตัว แต่หล่อนก็มีความสามารถนะ สามรถยัดเยียดความผิดของตัวเองให้คนอื่นได้อย่างไร้ยางอาย แล้วมายืดคอว่าตัวเองถูกได้ ทั้งๆ ที่เรื่องทั้งหมดควรจะโทษเจ้าหล่อนตั้งแต่แรก หรือเพราะเจ้าหล่อนไม่มีแม่สอนมีแต่พ่อเสี้ยมเลยทำให้โตมาเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ต่อสังคมแบบนี้
อยากจะถามแอนจริงๆ ว่าไม่เหนื่อยบ้างเหรอที่ต้องมาวิ่งตามล้างตามเช็ดเรื่องที่ผัวเป็นคนก่อ แล้วมาคอยกันผู้หญิงคนอื่นให้ไกลจากผัวตัวเอง เจ้ว่านะก่อนที่จะไปกันคนอื่นก็ควรหัดดูผัวตัวเองซะก่อนว่ามันสันดานยังไง สันดานอย่างเนี่ยต่อให้มีสิบแอนมากันมันก็ไปหาผู้หญิงคนอื่นได้อยู่ดี

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
สงสารเมตตากับหรรษาจังเลย

อ่านเรื่องราวที่หรรษาคุยกับแอนแล้ว

ไม่น่าช่วยเลยนะ คนเห็นแก่ตัวแบบนี้

แต่ก็ยังมีนะคนที่มีนิสัยไม่ยอมรับความจริงแบบนี้


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3
อ่าน part ของหรรษาแล้วรู้สึกว่าสองคนทั้งเมตตาและหรรษาต้องรักกันมากๆขนาดที่ยอมเปลี่ยนตัวเองและมันก็ทำให้รักกันมากขึ้นไปอีก...

ออฟไลน์ .hnk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-2
ตลก ! น้ำตาจะไหล แง่ง ซึ้งที่หรรษาว่าไว้ สู้ๆนะหรรษา
เราก็จะสู้ไปกับนาย สู้สุดใจขาดดิ้น นายไม่ใช่ตัวคนเดียวนะ
อ๊าก ชอบอ่ะ หลงรักทั้งหรรษา ทั้งเมตตา สุดยอดเถอะ

รอค่ะ
ค้างมาก .. !

 :ling1: :ling1: :ling1:

nightsza

  • บุคคลทั่วไป
เอาเพทายกับยัยแอนออกไปจากชีวิตเสียที สู้ๆนะหรรษาเพื่อเมตตาที่รอคอยอยู่

ออฟไลน์ ToeY_@_KP

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
หรรษาหายไปนานมาหอ่ะ..เค้าคิดถึงนะ..

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
หายไปนานจังเลยเขาคิดถึงงงงงงงง

ออฟไลน์ ToeY_@_KP

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
 :m22:เข้ามาส่อง..

ออฟไลน์ lovemongjang

  • ตลอด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ bobby_bear

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-5
คิดถึงหรรษากะหัวถั่วจังเลย

ออฟไลน์ YMP

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ dorazombie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
    • tantanshop - จำหน่าย หนังสือวายมือสอง
ไม่ได้เจอน้องเมตมาเป็นเดือนแล้ว คิดถึงนะค๊า....  :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
หายไปไหนแล้วววววววววววววววววววว
กลับมาต่อได้แล้วน๊าาาาาาาาาาาาา
คิดถึงใจจะขาดดดดดดดดดดดดดดด :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ MoMoRin

  • I am Fujoshi! (・∀≦)ゞ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
คนดีก็ดี้ดี คนเลวนี่แม่มเลวจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ

ออฟไลน์ Seiki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2726/-64
▓▒░ อุบัติรักเร็วเกินเหตุ ░▒▓ ตอนจบ

ผมได้แต่คิดว่า...เย็นวานยังเป็นวันมืดมนและมีแต่เรื่องราวแต่พอข้ามคืนผ่านมาถึงรุ่งเช้า แสงสว่างกลับสาดส่องเข้ามาจนสว่างจ้าอีกครั้งกลางวันกลางคืนยังคงวนเวียนมาเยือนเราซ้ำๆ นับประสาอะไรกับความทุกข์และความสุข
ผมเดินทางมาถึงตรงนี้ใช้เวลาเพียงไม่นานเองนะ ในขณะที่ผมเกิดและโตขึ้นมาใช้เวลาเป็นสิบปี เวลาที่ผ่านมาเนิ่นนานนั้นกลับไม่มีอะไรที่ผมจะเรียกมันได้ว่าเป็นความหวือหวาของชีวิตเลย จนได้เดินทางมาผมกับทางแยกที่ผมเลือกเอง และได้เจอกับผู้ชายที่ไม่น่าจะฝ่าเส้นขนานมาเจอกันได้เลยอย่าง ‘หรรษา’
ชีวิตที่ไร้สาระไปวันๆมีสีสรรขึ้นมาได้ก็เพราะมัน มันทำให้ผมรู้ว่า นอกจากแม่แล้วผมยังมีความรักให้ใครอีกคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ
โชคดีขนาดไหนแล้วที่เด็กใจแตกอย่างผมในตอนนั้นเดินทางมาเจอกับมันจนมีวันนี้ได้ แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นยังไงเลยก็ตาม ผมบุ่มบ่าม ผมห่ามกว่าที่คิดเอาไว้เยอะ เยอะจนผมยังไม่เชื่อตัวเอง
ผมนั่งมองดูท้องฟ้า แกว่งขาเล่นกับถาโถมที่ระเบียงไม้นอกบ้าน ตั้งใจว่าจะให้แสงสว่างของวันนำทางให้ช่วยอะไรหรรษาได้บ้าง แต่ความคิดยังไม่ทันจะแล่นไปไหน คนที่ผมกำลังหาทางช่วยเหลืออยู่กลับเดินออกมาตบกบาลผมท่าทางอารมณ์ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่
“ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกกูอะ”
“เห็นมึงหลับสบายอยากให้นอนให้เต็มที่อะ”
“แม่ง ตื่นขึ้นมาแล้วนึกว่าจะนอนอยู่ข้างๆ เสือกหายนะมึง”
“กูขอโทษนะหรรษาที่ตื่นมาแล้วไม่ปลุกมึง แล้วก็ทำให้มึงไม่พอใจ”
ผมรู้ว่าอารมณ์ของหรรษาตอนนี้แปรปรวนอย่างหนัก ผมเลยไม่ติดใจอะไรมากนักที่มันโวยวาย ลึกๆแอบดีใจที่มันกระวนกระวายกับการหายตัวไปของผม นั่นหมายถึงมันยังต้องการผมอยู่ มันอยากให้ผมอยู่ข้างๆ แม้จะดีใจอยู่ลึกๆ แต่ก็ไม่คิดจะฉวยโอกาสจากเหตุการณ์นี้เพื่อลองใจหรรษา ผมแค่ออกมายืดเส้นยืดสายเท่านั้นเอง
หรรษาค่อนข้างแปลกใจที่ผมไม่ต่อปากต่อคำอย่างมันเช่นที่เคยผ่านมา มันนั่งลงข้างๆ ชะโงกหน้าเข้ามามองผมอย่างแปลกใจ
“อะไรของมึงวะหรรษา แมงวันตอมหน้ากูรึไง”
แม้จะไม่ใช่เวลาที่เรียกได้ว่ากุ๊กกิ๊กแต่ผมก็อายที่มีคนมาจ้องหน้ากระชั้นชิดแบบนี้
“มึงเป็นอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าหรอก กูไม่ได้เป็นอะไร กูแค่ตื่นมาแล้วเห็นแสงของวันใหม่ กูเลยออกมานั่งมองน่ะ”
ผมบอกมันอย่างที่คิดจริงๆ คราวนี้คนฟังถึงกับเอาหลังมือขึ้นมาอังหน้าผากผม
“มึงไม่ได้ตัวร้อนแล้วนี่เมต”
“กูหายดีแล้ว”
“แต่มึงเพ้อแปลกๆนะ”
พอมันพูดแบบนี้ ผมเลยต้องพิจารณาตัวเองอย่างหนัก
“หรรษา กูถามอะไรหน่อยสิวะ”
“ถามอะไร”
“กูเปลี่ยนไปมากมั้ย กูแปลกไปเยอะเลยเหรอวะ ทำไมมึงมองกูแปลกๆ”
“มึงไม่ได้เปลี่ยนหรอก แต่มึงแปลกไปจริงๆ แต่แปลกไปเพราะเรื่องกูใช่มั้ยล่ะ”
ผมเป็นคนที่มองง่ายจริงๆสินะ ทั้งๆที่คิดว่าเก็บอารมณ์ดีแล้วแท้ๆ
“เรื่องที่มึงโดนมันหนักหนามากเลยหรรษา แต่กูเข้าใจนะว่าทำไมมันถึงลงเอยแบบนั้น จากที่ได้ยินที่พวกมึงคุยกันกูก็อยากจะกระทืบไอ้เหี้ยเพทายเหมือนที่มึงควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้นั่นแหละ เพียงแต่พอทำไปแล้วผลลัพธ์ที่ตามมามันหนักหนามาก แล้วกูก็ไม่รู้จะช่วยมึงยังไง”
ผมพูดไปเสียงก็สั่น ถามว่ากลัวมั้ยกับสิ่งที่มันจะต้องเกิด บอกได้เลยว่ากลัวมาก แต่ผมไม่สามารถจะฟูมฟายได้ มันอึดอัดอยู่ข้างใน ไม่รู้วิธีการรักษา ไม่รู้เลยว่าจะระบายความรู้สึกนั้นออกมายังไงโดยไม่ให้หรรษาต้องกลุ้มใจไปมากกว่านี้
“เราสองคนผ่านอะไรกันมาเยอะมากนะเว้ยเมต แม้มันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่สำหรับกูแล้ว ตั้งแต่วันแรกที่มึงบุกมาหาที่วิทยาลัย กูไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมาถึงวันนี้ได้ กูตั้งใจให้มันจบไปตั้งแต่วันนั้นแล้วมึงก็รู้ แต่พอมันผ่านตรงนั้นมาแล้ว กูคิดแต่จะรักษามันไว้ยังไง จริงๆแล้วมึงไม่ใช่ตัวปัญหาสำหรับกูเลยเมต มึงเข้ามาฉุดกูให้กลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้ง ถ้าไม่มีมึง ป่านนี้กูอาจจะเตลิดไปไกลแล้วก็ได้ และไอ้เพทายคงไม่ได้แต่เจ็บหนักอย่างนี้หรอก มันอาจจะตายไปนานแล้ว”
“กูรู้ จากที่กูเคยละอายกับความหน้าด้านของตัวเองที่เรียกร้องความรับผิดชอบจากมึง ตอนนี้กูกลับดีใจที่ได้ทำแบบนั้น”
“แม้ว่าสุดท้ายกูจะเกรียนจนได้เป็นคดีความเนี่ยนะ”
“มึงเองก็เครียดเรื่องนี้ใช่มั้ย”
“อืม แต่กูไม่ได้เครียดเรื่องคดีความหรอกนะ เพราะว่าครั้งแรกมันรอลงอาญาได้ แต่กูไม่สบายใจเรื่องวิทยาลัย ตอนนี้มันกลายเป็นว่าลูกเจ้าของวิทยาลัยเกรียนซะเองแบบนี้ใครจะวางใจให้ลูกมาเรียนวะ ชื่อเสียงเด็กช่างแย่แค่ไหนมึงก็รู้”
“ตอนนี้มึงต้องหาทางกอบกู้ชื่อเสียงวิทยาลัยใช่มั้ยล่ะ”
“อืม”
“กูจะช่วยมึงเอง”
คราวนี้หรรษามีท่าทีตกใจมากกว่าดีใจ มันแทบจะดีดตัวลุกขึ้นยืน ดูมันสะพรึงกับข้อเสนอของผมเป็นอันมาก
“ทำไมอะ กูอยากช่วยจริงๆนะเว้ย”
“ช่วยยังไงของมึง”
“กูจะย้ายมาเรียนที่วิทยาลัยมึง”
“นี่ตกลงมึงจะเอาจริงเหรอ เมตกูรู้นะว่ามึงตั้งใจแต่อยากให้คิดดีๆนะเว้ย มีคนหลายๆคนอยากเรียนมหาลัย อยากสอบเข้า แต่สอบไม่ได้ แต่มึง มึงฝ่าไปได้ทุกอย่างแล้วมึงจะลดตัวมาเรียนวิทยาลัยกูเนี่ยนะ”
“ใช้คำว่าลดตัวมันก็เกินไปนะเว้ยหรรษา สถานที่ไม่ใช่ตัววัดความสำเร็จหรอกมึง ทุกอย่างอยู่ที่ความตั้งใจต่างหากเล่า มึงรู้เปล่าว่าทำไมแม่ถึงเลี้ยงกูมาได้ เพราะแม่กูตั้งใจทำให้ได้ไง มันไม่เกี่ยวว่าแม่กูจะประสบความสำเร็จได้เพราะมีธุรกิจของอาม่าเป็นฐานอยู่แล้วแค่แม่ไปช่วยต่อยอดมันไม่ใช่ ทุกวันนี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าความสามารถของคนที่บริหารมีส่วนในความเจริญของธุรกิจ เพราะตั้งแต่แม่กูออกมาแล้วเริ่มต้นใหม่ แม่กูยังไปได้ดีในทางที่แม่เลือก แต่ธุรกิจอาม่ากูกลับถอยลง ถ้าแค่สม่ำเสมอมันอาจจะวัดความสามารถแม่กูไม่ได้ แต่เมื่อมันถอยลงทุกวัน ทีนี้ก็รู้แล้วว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความสามารถ ไม่ใช่สะใภ้คนไหนก็ทำได้”
“แต่กูแค่ไม่อยากให้มึงทิ้งสิ่งที่ชอบมาเพื่อกู”
“มึงก็ไม่ได้เรียนที่วิทยาลัยนี้เพราะชอบมาตั้งแต่แรกนี่หรรษา แล้วกูเคยบอกเหรอว่ากูชอบสาขาที่กูเรียนในมหาลัย พูดตรงๆเลยนะ กูสอบเข้าเรียนสายบริหารเพราะกูโกรธแทนแม่ อยากจบออกมาเป็นนักบริหารที่เก่งแบบแม่ อยากทำให้ทางบ้านพ่อรู้ว่าเราไม่ได้ออกมาตกอับกันอย่างที่เขาเข้าใจ ไม่อยากให้อาม่าเข้าใจผิดๆว่าตัวเองคือใบบุญที่ดีที่สุดก็เท่านั้น แล้วที่กูเรียนมาได้อย่างมีความสุขเพราะกูได้เพื่อนที่ดีต่างหากล่ะ แม้เพื่อนกูจะมีแค่ไม่กี่คน แต่พวกมันเป็นเพื่อนที่ดีทุกคน กูอยู่มาได้เพราะเรื่องนี้แหละ แต่จริงๆแล้วกูอยากเรียนอะไรที่มันไม่ต้องจำ อยากเรียนอะไรที่ใช้ความชอบแล้วก็ความเข้าใจ ใช้จินตนาการอะ กูอยากเรียนศิลปะหรือว่าดนตรีมากกว่า แล้วกูก็คิดๆแล้วว่าถ้ากูมาเรียนที่เดียวกับมึงมีแต่ได้กับได้”
“ยังไงวะ”
“ก็ กูได้เรียนในสิ่งที่ชอบแล้วก็จะได้เป็นนักบริหารอย่างที่ตั้งใจไง เพราะสุดท้าย ในนามของเมียหรรษาอย่างกูเนี่ย จะช่วยมึงดูแลกิจการของตระกูลมึงอย่างวิทยาลัยแห่งนี้ เป็นไง กูยิงปืนนัดเดียวได้นกสองต่อเลยมั้ย”
“ไอ้ที่มึงว่ามามันก็ใช่อะนะเมต แต่วิทยาลัยกูจะได้ผู้บริหารที่เป็นถั่วงอกขึ้นมาจากทิชชู่ชื้นๆเนี่ยนะ”
“ทำไมอะ แค่กระเทาะเปลือกถั่วออกมาเป็นต้นได้ แค่นั้นก็มีค่าในทางธุรกิจนะเว้ยหรรษา อะไรที่ทำให้เรามีผลประกอบการเร็วที่สุด นั่นคือชัยชนะเว้ย ในเมื่อเป็นถั่วงอกก็ส่งขายได้แล้ว มึงจะรอให้โตจนออกฝักถั่วแล้วค่อยขายมึงต้องใช้เวลาเท่าไหร่ มึงต้องใส่ปุ๋ยดูแลยังไงบ้าง ช้า ไม่ทันใจหรอก ใช่มะ”
“มึงเองก็ฉลาดเหมือนกันนี่นะ”
“กูด้อยกว่ามึงตรงที่มีประสบการณ์การเรียนรู้ชีวิตน้อยกว่ามึงเท่านั้นแหละ”
“แล้วมึงไม่เสียดายเพื่อนที่วิทยาลัยเหรอวะ”
“เพื่อนอะ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนมันก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ เรียนจบไปก็ต้องแยกย้ายจากกัน ไม่ว่าวันนี้หรือวันหน้าทุกคนก็ต้องมีภาระหน้าที่ของตัวเองกันทั้งนั้นแหละมึง เรานัดเจอกันเมื่อไหร่ก็ได้นี่ ใช่ว่ากูลาออกจากมหาลัยแล้วลาออกจากเพื่อนที่นั่นด้วยสักหน่อย”
“ถ้ามึงตัดสินใจแล้วกูก็ไม่ขัดใจมึงหรอกนะ แต่กูไม่รู้ว่าเพทายมันจะเล่นกูหนักแค่ไหน เพราะยังไงตอนนี้เราก็เสียเปรียบมันอยู่ มันแค่โดนเรื่องพกพาอาวุธแต่ยังไม่ก่อเหตุอะไร ส่วนกูเนี่ยทำร้ายร่างกายถึงขั้นพยายามฆ่า กูร้ายแรงกว่ามันมาก แล้วถ้าเกิดผิดพลาดจนกูไม่ได้อยู่ดูแลมึง การย้ายมาเรียนที่วิทยาลัยกูมันก็เสี่ยงเกินไป โดยเฉพาะมึงที่อยู่ในสถานะเมียของผู้ชายอย่างกูด้วยแล้วมันก็มีแต่จะเป็นเป้าสายตากูคงเป็นห่วงมึงมากแน่ๆกูรู้ตัวเลย”
“แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ มันก็ได้ฝึกให้กูแกร่งขึ้นนะเว้ยหรรษา กูถูกสปอยล์จนไม่รู้จักสังคมและการใช้ชีวิตจริงๆมานานมากไปแล้ว กูควรตาสว่างและปรับตัวกับมันได้สักที”
“มึงจะแกร่งขึ้นโดยที่มีกูด้วยไม่ได้เหรอวะ”
“กูแค่สมมุตเว้ย จะมีเมียที่ไหนไม่ต้องมีผัวอยู่ด้วยก็ได้มั่งล่ะ ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายนะเว้ย ถ้ามีคู่ชีวิตแล้วก็อยากอยู่ด้วยช่วยกันคิดทั้งนั้นแหละ”
“มึงพูดแบบนี้กูค่อยมีสติแก้ปัญหาขึ้นมาได้หน่อย”
ผมยิ้มกว้าง จริงๆอยากกอดรัดฟัดเหวี่ยงมันให้สมกับความรักที่ผมมี เวลาคนอย่างมันพูดอะไรหวานๆแบบนี้แล้ว ต่อให้เป็นผู้ชายทั้งแท่งก็ต้องรู้สึกเขินกันบ้างล่ะ ผมไม่ค่อยพบกับหรรษาในโหมดที่พูดจาชัดเจนว่าต้องการผมขนาดนี้ และที่ผมไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองเพราะผมก็รู้ว่าเมื่อเทียบกับหรรษาแล้วผมไม่ได้มีดีอะไรเลย ที่สำคัญ ผมไม่ใช่ชายผู้เสียสละยอมเป็นเกย์เพราะรักคนอย่างมัน แต่ผมคิดว่าถ้าคนรักคนนั้นของเราเป็นเพศเดียวกันขึ้นมาแล้วถูกเรียกว่าเกย์ ผมก็คือเกย์โดยกำเนิด เพราะหรรษาคือคนแรกในชีวิตรัก
“มาอยู่กันที่นี่เองเหรอ”
คุณนายแม่ของผมเอง ไม่ใช่แค่ผมที่คอยอยู่เคียงข้างหรรษา แต่แม่ผมก็คอยอยู่เคียงข้างพ่อมันด้วยเหมือนกัน เห็นมะ...ผมและแม่เกิดมาเพื่ออยู่เคียงข้างคนในครอบครัวนี้
“มาตามไปทานข้าวเช้าเหรอครับแม่”
แม่มองจิกผมหนึ่งทีพร้อมกับทำปากขมุบขมิบชนิดที่ว่าถ้าอยู่บ้านของเราเองแม่จะอาละวาดใส่ผมทั้งคำพูดและรัวฝ่ามือทุบไหล่แน่ๆ
“เช้าบ้านแกสิไอ้เมต นี่มันจะบ่ายอยู่แล้ว”
แม่พูดเสียงเนิบนาบอย่างคนระงับอารมณ์ ผมเลยโบกไม้โบกมือว่าไม่สู้ จริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาเล่นกันหรอกนะ แต่มันจำเป็นเหรอว่าเราต้องเครียดตลอดเวลาจนกว่าจะเจอทางออก ผมคิดว่าเราจะพบทางออกของปัญหาเมื่อสภาวะจิตใจเราว่างซะอีก
“มีคนมาหาหรรษาแน่ะลูก”
ตอนนี้นี่เองที่ผมรู้สึกว่าเวลาแห่งความจริงจังค่อยๆคืบคลานเข้ามาแล้ว หรรษาดันแผ่นหลังผมให้ลุกขึ้น มันดีดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงอย่างคนที่ไม่กลัวการเผชิญหน้า เพราะมันทำให้ผมเห็นถึงความเด็ดเดี่ยวผมถึงลุกขึ้นมายืนเคียงข้างมันในเวลาไล่เลี่ยกัน
ระหว่างทางเดินไปหาแขก แม่เฉลยมาแล้วว่าคนที่มาหาเป็นใคร เชื่อไหม ผมไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือหวาดกลัวกับการได้ยินชื่อของแอนอีกต่อไปแล้ว ชื่อนี้ทำให้ผมชาชินและคิดซะว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปซะแล้ว ที่ผมนิ่งกับแอนได้ขนาดนี้เพราะผมรู้ดีแล้วว่าหรรษารู้สึกแบบไหนกับเธอ หรรษาไม่ปฏิเสธการเข้าหาของแอน แต่มันไม่เคยรุกเข้าหาเขาก่อน
ผมไม่เคยหาเหตุผลว่าทำไมหรรษาต้องมาเดือดร้อนเพราะแอนอยู่อย่างนี้ ตราบใดที่ผมหาเหตุผลของการมาเจอกับหรรษาโดยบังเอิญจนกลายมาเป็นอย่างทุกวันนี้ไม่ได้ ผมก็ไม่จำเป็นต้องตั้งคำถามว่าเมื่อไหร่แอนจะไปจากชีวิตหรรษาซะที ตราบใดที่หรรษายังชัดเจนกับผมอยู่ แอนจะมาเล่นงิ้วหรือวุ่นวายอีกกี่รอบก็ได้ ยิ่งเยอะเท่าไหร่มันทำให้รู้ว่าเราพร้อมที่จะอยู่ข้างกันไม่ว่ายามไหน จะสุขจะทุกข์เท่าไหร่ผมก็ยังอยู่ใกล้ๆหรรษาเสมอนั่นแหละ
แอนไม่ได้มาคนเดียว เธอควงชายสูงวัยอีกคนหนึ่งมาด้วย รูปหน้าโขกออกมาราวจากเคาะจากบล็อคเดียวกันขนาดนั้นคงเป็นใครอื่นไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่พ่อแอน ผมมองคนทั้งคู่อย่างลืมตัวและลืมมารยาททุกอย่างไปหมด ทฤษฎีที่ว่าลูกสาวเกิดมาหน้าเหมือนพ่อจะไม่อาภัพเห็นทีจะไม่จริง เพราะแอนหน้าเหมือนพ่อขนาดนี้แต่ชีวิตเธอกลับวนอยู่กับที่และมีแต่จะดิ่งลงเหวไปทุกวัน
แต่นั่นคงไม่เกี่ยวกับโชคชะตาหรอกนะ ผมว่าแอนเลือกเอง
ผู้หญิงที่เคยเชิดหน้าตลอดเวลาและคอยแต่จะใช้หางตาจิกมองผมวันนี้เธอนั่งประสานมือบนตักและก้มหน้านิ่ง ชายสูงอายุคนนั้นก็ดูไร้พิษสงพอๆกัน
พ่อของหรรษาเองก็นั่งนิ่งไม่พูดอะไร
ทุกคนเงียบ
ทั้งแขกและคนในบ้านนี้ทุกคนมารวมตัวกันแต่ทั่วบริเวณกลับเงียบเชียบ ผมไม่ชอบบรรยากาศอึดอัดแบบนี้เลย
ผมอยากจะร้องออกมาดังๆเหลือเกินว่า ‘หากพวกเรากำลังสบายจงปรบมือพลัน แปะ แปะ’
แต่มันทำอย่างนั้นไม่ได้ ไม่มีใครที่ไม่ตีหน้าเครียด ผมเลยต้องเลยตามเลยไปแบบนั้น หย่อนก้นลงนั่งข้างๆแม่ แต่แล้วผมก็ต้องดีดตัวลุกขึ้นทั้งๆที่ก้นยังไม่แตะเบาะเพราะว่าพ่อของแอนพูดในสิ่งที่ผมไม่คิดว่าชาตินี้จะได้ยินจากพ่อลูกคู่นี้
“ขอโทษนะ”
หูผมเปิดรับเสียงรอบตัวแบบเซอราวด์ ตาเบิกกว้างราวกับสิ่งที่ได้ยินเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ ไม่รู้ว่าพ่อแอนเอ่ยปากขอโทษใคร แต่คำว่าขอโทษจากปากของผู้ชายวัยนี้นั้น มันสะกดให้ทุกคนนิ่งฟังโดยไม่มีใครทักท้วงอะไรออกมาแม้แต่พ่อหรรษาเอง
“ที่มาในวันนี้ตั้งใจจะมาขอโทษทั้งมึงแล้วก็หรรษารวมถึงทุกๆคนที่เกี่ยวข้องนั่นแหละ ขอโทษนะ แอนก็จะมาขอโทษทุกคนด้วยเหมือนกัน”
เสียงของพ่อแอนไร้ซึ่งพลังของคนที่มีอำนาจและอิทธิพลอย่างที่่เคยเป็น ไม่กราดเกรี้ยวถือดี มีแต่น้ำเสียงของคนที่เหมือนจะหมดพลังจนน่าใจหาย
สรรพนามที่แสดงความใกล้ชิดสนิทสนมอย่างคำว่ามึงคงหมายถึงพ่อของหรรษา ผมจำได้ว่าเขาสองคนเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน น่าจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากคู่หนึ่ง แต่ต้องมาแตกคอกันเพราะความทะเยอทะยานและอำนาจนั่นเอง ก่อนจะมาเป็นแฟน แอนกับหรรษาก็เริ่มมาจากการเป็นเพื่อนเล่นตั้งแต่เด็กมาด้วยกันนี่นะ
ผมกับแม่ลอบมองตากันด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก เหมือนเราสองคนเป็นคนนอกที่เข้ามาเป็นพยานให้พวกเขาปรับความเข้าใจกันยังไงอย่างนั้น
ผมมองหรรษา มันนิ่ง!!


มีต่อค่ะ
V
V

ออฟไลน์ Seiki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2726/-64
ผมไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ รู้สึกเป็นห่วงและอยากเข้าถึงความรู้สึกของมันให้มากกว่านี้
“เรื่องมันแล้วไปแล้ว ช่างมันเถอะ มันย้อนกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ มีแต่ปัจจุบันกับอนาคตเท่านั้นแหละที่เรากำหนดให้มันเป็นไปได้”
วีรบุรุษที่ทำลายบรรยากาศอึมครึมๆนี้เป็นประมุขของบ้านอย่างพ่อของหรรษา  ในเวลาแบบนี้ไม่มีพ่อที่ใจดีและขี้เล่นอีกต่อไปแล้ว ผมมองเห็นแต่ภาพของผู้ใหญ่ที่เต็มไปด้วยวุฒิภาวะและความน่านับถือ
“ใช่ มันผ่านไปแล้ว และมันก็จบลงแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่กูเคยหวังไว้ เคยคิดว่าจะได้เป็น มันพังลงแล้ว พร้อมกับความรู้สึกของคนที่ใจสลาย ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดก็เพราะกูเอง กูอยากยิ่งใหญ่ อยากมีอยากได้ บ้าอำนาจ แทนที่ผลกรรมมันจะตกอยู่ที่กูคนเดียว มันกลับลามไปถึงลูกถึงหลานกู ตอนนี้เองที่กูรู้สึกว่าต่อให้รวยล้นฟ้าเป็นมหาอำนาจก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ไม่มีอะไรที่จะทำให้มีความสุขได้เลย”
ผมไม่ได้เข้าใจทุกประโยคที่พ่อแอนพูด แต่ผมกลับสะดุดลมหายใจเป็นห้วงๆ มันใจหายเมื่อรู้สึกว่าคนคู่นี้มีความสูญเสียที่ดูจะยิ่งใหญ่ มันคงจะยิ่งใหญ่มากพอให้คนที่รู้สึกว่าตัวเองใหญ่คับฟ้าลงมานั่งพับเพียบลงบนผืนดินได้ ความรู้สึกผมรับรู้ได้ขนาดนั้นเลย
“ตลกมะ ทั้งๆที่เพทายกับหรรษาก็เรียนสายช่างเหมือนกัน เกเรเหมือนกัน ยกพวกต่อยตีไม่ต่างกัน แต่กูกลับแยกไม่ออกว่าเถื่อนกับถ่อยมันต่างกันยังไง หรรษาแค่เถื่อนในการตัดสินปัญหาแต่เพทายนั่นต้องเรียกว่าถ่อย แต่กูกลับไม่รู้ อำนาจของพ่อเพทายบังหูบังตากูจนอะไรก็ดีไปหมด เชียร์เพทายขาดใจ ยิ่งแอนเลือกเพทายความสุขตอนนั้นของกูนึกว่าได้อยู่บนสวรรค์ มองข้ามไปหมด ขนาดมันซ้อมแอนกูยังคิดว่าแค่ลิ้นกับฟัน เป็นเรื่องปกติอของผู้ชาย กว่ากูจะตาสว่างได้ตอนที่หลานไม่อยู่กับกูแล้ว”
ผมช็อคจนนิ่งอยู่กับที่ รู้สึกหายใจคร่อมจังหวะจนเกือบจะสำลัก คนที่นั่งประสานมือไว้บนหน้าตักยังคงก้มหน้านิ่ง หลังมือขาวมีน้ำหยดลงมาจนชุ่มไปหมด แอนกำลังร้องไห้
และที่ร้ายไปกว่านั้นคือแอนแท้งลูก!!
“กูไม่ชอบหรรษาเพราะว่าอนาคตของหรรษาไม่มีทางจะรวยได้เท่าเพทาย แค่รับช่วงบริหารวิทยาลัยเอกชนต่อจากพ่อไม่ได้มีหน้ามีตาในสังคมได้มากพอเท่ากับเป็นนักการเมืองอย่างเพทาย แต่ใครจะรู้ล่ะใช่มั้ย ใครจะรู้ว่าเพทายมันเสียคนเพราะการเลี้ยงดูแบบผิดๆของพ่อมันและถูกคนรอบข้างให้ท้ายจนกลายเป็นเทวดาไปแล้ว”
“เอาเถอะลิขิต เรื่องนั้นมันผ่านไปแล้ว อดีตให้มันเป็นบทเรียนแล้วกันว่ะ อนาคตคนเราถ้าไม่ตายซะก่อนอะนะก็ยังเริ่มต้นใหม่ได้กันทุกคนนั่นแหละเชื่อกู”
“กูมาครั้งนี้นอกจากจะมาขอโทษมึงกับลูก กูอยากจะมาขอบคุณหรรษาที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนแอนจนต้องมากลายเป็นเรื่องเป็นราวอยู่อย่างนี้”
“ไอ้เพทายมันไม่ได้ตาย ยังไงก็ยังมีหนทางสู้คดีได้อยู่ อย่าห่วงเลย”
“แต่ภาพลักษณ์ของวิทยาลัยมึงล่ะ กูรู้ว่ามันเหนื่อยยากมากนะสำหรับวิทยาลัยอาชีวะเอกชนที่จะยืนหยัดอยู่ได้ คนส่วนใหญ่มีอคติกับการยกพวกตีกันของเด็กพวกนี้ไปแล้ว ยิ่งมีเรื่องอะไรแบบนี้เกิดกับลูกชายผู้บริหารเข้าไปอีก กระแสข่าวมันก็ยิ่งเร็วยิ่งไกลเทคโนโลยีใหม่ๆมันก็แพร่กันเร็ว”
“เรื่องที่เพทายซ้อมผู้หญิงทั้งๆที่เค้ากำลังตั้งท้องอยู่ มันไม่ใช่วิถีของคนหรอกครับ ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แอน ผมก็คงจะระงับอารมณ์ไม่ให้กระทืบมันไม่ได้อยู่ดี ที่ผ่านมาผมไม่เคยโทษว่าแอนคือต้นเหตุ ผมบอกได้เลยว่าไม่ใช่เพราะผมยังอาลัยอาวรณ์แอนแบบนั้น เราเลิกกัน มันจบไปแล้ว สำหรับผมความรู้สึกของคนรักคือจบ แต่ความรักของเพื่อนที่เล่นกันมาตั้งแต่เด็กผมแกล้งไม่รับรู้ไม่ได้จริงๆครับ แต่วิธีการจัดการของผมก็คงจะเป็นไปอย่างเด็กๆวัยรุ่นเลือดร้อน ไม่ใช่ว่าพวกผมคิดกันไม่ได้หรอก แต่สถานการณ์แบบนั้น อารมณ์ตอนนั้นต่างหากครับที่ระงับไม่ได้ คุณอาสบายใจได้ครับ ต่อไปนี้คุณอาเริ่มต้นใหม่ได้โดยไม่ต้องเป็นห่วงความรู้สึกของผมเลย แล้วคุณอาก็ไม่ผิดที่กีดกันผมกับแอน เพราะถ้าเรามั่นคงต่อกันจริงๆ เรื่องแค่ผู้ใหญ่กีดกันมันไม่ใช่ปัญหาของคนรักกันหรอกครับ”
“ยังไงอาก็ต้องขอโทษหรรษานะ มันมาถึงตรงนี้ได้จะบอกว่าอากับแอนไม่มีส่วนมันก็ไม่ถูกหรอก อาอยากรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย เพราะถ้าหรรษาไม่ลงมือทำ อาก็ต้องทำ แล้วถ้าอาทำเพทายก็ต้องตายแน่นอน อาจะจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จก่อนจะส่งแอนไปเรียนให้จบเสียที บรรยากาศเดิมๆมันคงไม่เหมาะอะนะ อาว่าจะให้แอนไปเรียนที่ต่างประเทศ”
“ก็ดีครับ เรียนที่ไหนก็ดีทั้งนั้น ยังไงผมเองต่อให้เกเรหรือเสเพลแค่ไหนผมก็ยืนยันได้ว่าการเรียนสำคัญที่สุด”
“อารู้ หรรษาเป็นคนเก่งนะ เรียนเก่ง คนเก่งต่อให้อยู่ที่ไหนหรือเรียนที่ไหนก็ยังเก่งอยู่วันยังค่ำ อาเชื่อว่าหรรษาทำได้นะแล้วหรรษาก็จะบริหารวิทยาลัยต่อจากพ่อได้แน่ๆ ยังไงอาก็จะเรื่องวิทยาลัยอีกแรง”
“เอาละนะลิขิต ไม่ว่าเรื่องราวมันต้องแลกมาด้วยความโหดร้ายระดับไหน แต่ถ้าสุดท้ายบทเรียนมันจะสอนเราให้สำนึกได้กูถือว่าเป็นเรื่องดีนะ มึงเองก็ต้องแลก กูเองก็ต้องแลก เราต่างก็สูญเสีย มึงต่างหากที่สูญเสียในสิ่งที่เรียกกลับคืนมาไม่ได้แล้ว แต่สำหรับวิทยาลัยกู ยังไงซะกูก็ไม่ท้อหรอกว่ะ กว่าจะสร้างมันมาได้ขนาดนี้ ยังไงกูก็ต้องสู้ต่อไปแหละ ยิ่งได้รู้ว่าหรรษาเองก็ไม่ได้ฝืนใจกับการที่ต้องมาเรียนที่นี่เพราะพ่อเป็นเจ้าของแล้วคิดจะรับช่วงต่อมันคือความสำเร็จของคนเป็นพ่ออย่างกูแล้ว ส่วนเรื่องที่มึงคิดว่าจะช่วยกูกับหรรษาทั้งเรื่องคดีแล้วก็เรื่องมหาลัยกูก็ขอบใจมึงนะ หนูแอน ยังไงก็เข้มแข็งนะ เดินต่อไปข้างหน้านะ แม้หนูจะไม่ใช่สะใภ้สำหรับบ้านนี้ แต่หนูก็ยังคงเข้าออกในบ้านนี้ได้ในฐานะหลานอาแล้วก็เพื่อนของหรรษาเสมอ”
ผมเองก็น้ำตาจะไหล ไม่เคยคิดเลยว่าในความเลวร้ายมันจะจบลงได้ด้วยดี แม้มันจะไม่ได้ดีแบบแฮปปี้เอนดิ้งแต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ผมเคยคิดไว้ว่าพ่อของหรรษากับพ่อของแอนคงจะเผาผีกันไม่ได้อีกแล้วในชาตินี้
แอนเองก็ได้รับบทเรียนที่ราคาแพงเกินจะประเมิณค่าได้แล้ว ผมคิดว่ามันก็ไม่ควรจะซ้ำเติมอะไรกันอีก ยิ่งพ่อของหรรษาพูดสรุปได้แบบรักษามิตรภาพกันเอาไว้อย่างเดิมแบบนี้ แอนก็ยิ่งโหมร้องไห้หนักขึ้นจนผมสงสาร สองมือซีดขาวนั้นยกมือไหว้ทั้งพ่อของหรรษาและหรรษาเองประหลกๆ ก่อนจะเอาไปลูบหน้าท้องที่แบนราบอย่างเด็กสาวที่ไม่เคยผ่านการท้องมาก่อนอย่างคนที่ใจสลายอีกครั้ง แม้ผมไม่รู้ว่าพ่อของแอนจะช่วยเรื่องคดีของหรรษาแล้วก็วิทยาลัยของมันได้ยังไง แต่ผมคิดว่านี่คงเป็นการเริ่มต้นชีวิตบทใหม่ที่ดีแน่ๆ
“เอาล่ะๆ เรามาเริ่มต้นกันใหม่ด้วยการฉลองกันหน่อยดีมั้ย หรรษาไปหาอะไรมาฉลองสักชุดใหญ่ๆสิ อ้อ อย่าลืมว่าของผู้หญิงเอาแบบซอฟๆนะลูก”
หรรษาพนักหน้ารับแล้วก็ยิ้ม
มิตรภาพและอีกหลายสิ่งอย่างเริ่มอุบัติขึ้นมาจากวงเหล้าเสมอ
ใครๆก็บอกว่าวงเหล้าเป็นสิ่งที่ไม่ดี ผมคิดว่ามันอยู่ที่การตีความมากกว่า ไม่มีอะไรมากำหนดความดีงามของเราได้เท่ากับตัวของเราเองหรอก วงเหล้าเป็นเพียงสิ่งแวดล้อมประกอบเท่านั้น เรื่องดีงามและความชั่วร้ายมาจากสติที่เราจะควบคุมมันได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง
เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้วผมก็เหมือนจะยืนคว้างอยู่กลางวงสนทนาวงใหญ่ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของคนที่เข้าใจกันแล้ว สีหน้าซีดเซียวของแอนก็เริ่มซับสีระเรื่อให้เห็นพร้อมรอยยิ้มจางๆของการเริ่มต้นใหม่
“โอ๊ย เหี้ยยยยยเอ้ยยยยยย”
ผมสบถออกมาด้วยความเจ็บปวด มือยกขึ้นลูบใบหูที่ตอนนี้คงร้าวไปยันคอแล้วก็ท้ายทอย
“กูเอง ผัวมึงไงครับถั่ว เหี้ยเห้อที่ไหน”
“ดีดหูกูทำไมอะ เมื่อไหร่มึงจะใช้สมองแทนกำลังสักทีวะ กูเจ็บนะ”
ผมด่ามันแต่มือก็ยังกำใบหูเอาไว้ ตอนนี้หายเจ็บแต่แสบเพราะเอามือถูแรงไป
“คนอย่างกูสมองก็ใช้สองมือก็ใช้เว้ย ยืนบื้ออยู่ทำไมอะ ออกไปช่วยกูถือเหล้าถือน้ำแข็งดิ ช่วยยกลังโซดาก็ยังดีนะครัชนะ”
“นี่คือข้อดีของการมีเมียแมนๆอย่างกูสินะ”
“เออว่ะ กูเพิ่งรู้สึกได้เพราะมึงจุดประกายเนี่ยแหละ”
ผมค้อนใส่มัน เออ!! ผมค้อนเป็นเพราะคบมันเนี่ยแหละนะ เพราะถ้าเราไม่มีใครให้งอนเราก็คงจะค้อนใส่ไม่ได้ หรรษาเป็นคนมอบมิติใหม่ๆในชีวิตผมอีกอย่างหนึ่งแล้ว เป็นเรื่องที่ผมเพิ่งรู้สึกได้ตอนที่โมเมแซวว่าผมสาวขึ้นทุกวันเนี่ยแหละ ยังลังเลอยู่ว่าจะเศร้าหรือภูมิใจดี ตอนนี้เอาไปคิดเป็นการบ้านอยู่
ผมเห็นหรรษาหยิบแค่กระเป๋าไม่หยิบกุญแจรถ ผมเลยคว้าแขนมันเอาไว้ ผมไม่ได้กลัวความลำบากหรอกนะ แต่สิ่งที่เราจะไปซื้อน่ะ มันควรต้องใช้รถไปขนเปล่าวะ
“ไปรถเมล์เหรอวะหรรษา เราต้องซื้อไรมั่งอะ”
“เปล่า เราจะเดินไป แล้วเราก็ซื้อเหล้า โซดา น้ำผลไม้ น้ำแข็ง กับแกล้ม แล้วก็ขนมขบเคี้ยวอะ”
“ห่า ซื้อเยอะขนาดนี้ มึงควรต้องเอารถหกล้อไปนะกูว่า”
“เดินไปนี่แหละ เราไม่ค่อยได้เดินสวีทกันนานแล้วนะ”
“แต่มันควรเป็นเวลานี้เหรอวะ มึงก็ตีค่าความแมนกูเยอะไป๊หรรษา”
“เดี๋ยวตอนกลับเราก็เรียกแท็กซี่ให้มาส่งไง มึงไม่สังเกตเหรอว่าเราคบกันมาได้เป็นเพราะเราได้ไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วเราก็ได้คุยกันไง”
“แต่เราก็ไม่ได้เดินกันทุกนัดนะมึง ส่วนใหญ่ก็นั่งรถไปนะเว้ย”
“เอาน่า รีบไปเหอะ วันนี้เป็นวันดีๆของเราเลยนะ”
“เรานี่หมายถึงใครมั่งอะ”
“จะใครก็ช่างเหอะ ถ้ามีมึงกับกูรวมกันก็เป็นเราแล้วเข้าใจป่าว”
ผมอมยิ้ม พอนานๆเข้าก็กลายเป็นฉีกยิ้มกว้าง ไม่มีคำหวานออกมาจากปากมัน ทุกคำล้วนห้วนๆแข็งกระด้างด้วยซ้ำ แต่ผมก็คิดว่ามันคือคำหวาน หรรษาหวานได้แค่นี้แต่มันก็มากพอสำหรับความรู้สึกของผมนะ
เราเดินเคียงข้างกันไปตามไหล่ทาง มีจับต้องกันบ้างตอนที่ต้องหลบหรือระวังรถเท่านั้นเอง แต่มันก็เป็นบรรยากาศที่สดใสสำหรับผม แม้ไม่ใช่การจับต้องด้วยความจงใจ แต่มันเกิดจากความห่วงใยผมเลยรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของหรรษาครั้งนี้มาก
“มึง กูถามอะไรหน่อยสิ มึงกับพ่อไม่โกรธสองพ่อลูกนั่นแล้วจริงเหรอ”
“จริงสิ จริงๆจะบอกว่าไม่โกรธก็ไม่ได้ จริงๆแล้วโกรธ แต่พอผ่านไปแล้วก็หาย ไม่ได้ยึดติดเป็นความแค้นหรอก มันไม่มีประโยชน์ เราเองจะทุกข์ใจเพิ่มขึ้นเปล่าๆ”
“แล้วเขาจะช่วยมึงกับวิทยาลัยยังไงวะ”
“กูก็ไม่รู้ จริงๆก็ไม่ได้หวัง แต่ถ้าเขาคิดอยากจะช่วยมันก็ดีใช่มั้ยล่ะมึง กองทัพยิ่งมีกองกำลังมากเท่าไหร่มันก็ดีกว่าทั้งนั้นแหละมันเป็นกลยุทธ มึงไม่ต้องคิดมากหรอก ว่าแต่มึงเถอะ จะย้ายมาเรียนกะกูจริงๆน่ะเหรอ”
“จริง จะย้ายไปคุมมึงด้วย หวง”
“ฮ่าๆ หวงกูเนี่ยนะ แต่ละคนในวิทยาลัยกูน่าพิศวาสมากเลย มีแต่พวกถึกมากกับถึกมากๆกันทั้งนั้น กูไม่เอาคนตัวใหญ่กว่า เถื่อนกว่าถึกกว่ามาเป็นแฟนหรอก”
“ทำไมอะ”
“เดินด้วยกันแล้วแยกยากว่าใครผัวใครเมีย ไม่เอาด้วยหรอก เดินกับมึงดีกว่า ไปไหนใครๆก็รู้ว่าคนไหนผัวคนไหนเมีย”
ผมตกใจ สำรวจตัวเองว่ามีอะไรที่ผิดแผกไปจากหรรษาจนคนรอบข้างแยกได้บ้าง คราวนี้หรรษาหัวเราะลั่น
“มึงรู้มั้ย ถั่วอย่างมึงอยู่ใกล้กูทีไรกลายเป็นถั่วไร้วิตามินทุกทีเลย สงสัยเพราะมึงโดนสูบวิตามินจนหมดตัวแน่”
“เชี่ยละ กูตกใจหมดเลยคิดว่ากูเดินส่ายก้นหรือสาวแตกจนคนรู้”
“มึงกลัวคนรู้เหรอวะ”
“เปล่า กูไม่ได้กลัวใครรู้ว่ากูเป็นเกย์ มีผัวเป็นผู้ชาย แต่มึงเข้าใจความรู้สึกกูเปล่าว่ากูไม่ได้อยากคล้ายผู้หญิงอะ อยากแบบ มีผัวนะแต่แมนได้ไรงี้”
“เรื่องนั้นมึงทำได้แล้วเมต มึงต้องมั่นใจในตัวเองนะ มึงอะแมน แมนตั้งแต่ความรู้สึกยันร่างกายเลยล่ะ”
“จริงนะ”
“กูไม่เคยโกหกหรือมึงจะเถียง”
“หรรษาแล้วถ้ามันจบลงด้วยดีแบบนี้ ถ่านไฟเก่ามันจะไม่กลับมาร้อนอีกใช่มั้ย”
“นี่ยังหึงกูกับแอนอยู่เหรอ”
“กูไม่ได้ไม่ไว้ใจมึงนะเว้ย แต่ไม่รู้สิ ทำไมกูถึงหึงก็ไม่รู้ กูก็ไม่เข้าใจตัวเอง”
“มึงอย่ากังวลเลยเมต เรื่องหึงเป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าคนมันรักกันอะนะ ยังไงมันก็ต้องมีกันบ้าง อย่าว่าแต่มึงเลยกูก็เป็น ทั้งๆที่มึงเป็นถั่วของมึงแบบนี้แหละแต่ถ้ามีใครสนใจมึงกูก็หึง”
“ทำไมมึงไม่บอกว่ารักกูตรงๆเลยล่ะ”
“ไม่ใช่สไตล์เด็กช่างอย่างกูนี่หว่า”
“แต่กูรับรู้แล้วนะว่ามึงรักกูอะ”
“อืม”
“ฟินว่ะ เหมือนได้ตอกย้ำความเป็นเจ้าของเลย”
“ไม่ใช่ตอนนี้หรอกเมต เรื่อง ‘ตอก’ กับ ‘ย้ำ’ อะเค้าต้องรอตะวันตกดินไปก่อน”
มันพูดสีหน้าเจ้าเล่ห์
“ถ้ามึงจะเมาปลิ้นอะนะหรรษา มึงจะเอาแรงที่ไหนมาตอกกู”
“เอาน่ะ อย่าร้องเสียงดังแล้วกัน อายแขก”
“ถ้ามึงไม่จองคิวกูล่วงหน้าอะนะหรรษา ตอกลงไปเจอทองก้อนขึ้นมาเมื่อไหร่จะโวยวายกูไม่ได้นะ”
“เมื่อกี้เราคุยกันเรื่องถ่านไฟเก่า เรื่องหึงกันอยู่ไม่ใช่หรือไงวะ”
“ก็มึงแหละหรรษาชอบพาออกนอกทะเลอยู่เรื่อย”
“มีอีกเรื่องนะที่มึงยังไม่รู้”
“เรื่องอะไรอีกล่ะ เรื่องเยอะจริงๆเลยนะมึง”
“กูกับแอนจะเรียกว่าถ่านไฟเก่าไม่ได้หรอกว่ะ ต้องเรียกว่าขี้เถ้าถึงจะถูก ขี้เถ้าไม่ว่าจะเจอลมเจอไฟซ้ำยังไง มันก็โหมขึ้นมาร้อนใหม่ไม่ได้หรอก”
“กูเองถึงจะหึงแต่กูก็ไม่งี่เง่าเง้างอนมึงหรอกนะ เลิกกันแม้จะช่วงเวลาสั้นๆแต่มันก็ไม่มีอะไรดีเลย กูไม่อยากเป็นแบบนั้นอีกแล้ว ไม่อยากให้เรื่องไม่เป็นเรื่องมาบั่นทอนชีวิตกันอีก”
“ดีมากเมียที่รัก”
วงเหล้าดำเนินไปด้วยความครื้นเครง แม้ผมจะเข้าใจในทุกๆเรื่อง แต่ผมก็เลือกที่จะนั่งคั่นกลางระหว่างหรรษากับแอน แทนที่แอนจะชักสีหน้าใส่ผม เธอกลับยิ้มให้อย่างเข้าใจ ยื่นแก้วน้ำผลไม้มาชนกับแก้วเหล้าที่หรรษาชงให้จางๆกับผม มันกลัวชงเข้มแล้วผมทำวงเหล้าเขากระเจิง
“จริงๆแล้วคนที่หรรษาเลือกไม่ใช่คนที่เลิศเลออะไรเลยนะ เมตเป็นแค่คนธรรมดาๆคนหนึ่งที่ไม่มีอะไรเด่นแต่แอนเห็นแล้วล่ะว่าเมตตาเหมาะกับหรรษาจริงๆ”
“ยังไงอะ” ผมไม่เข้าใจสิ่งที่แอนพูดจริงๆนะ
“เมตเป็นตัวของตัวเองแอนก็เพิ่งรู้ว่าหรรษาชอบคนที่ไม่ฝืนธรรมชาติ แอนเคยคิดว่าแอนเลิศเลอนะ ไม่ว่ายังไงหรรษาก็ต้องเลือกแอน แอนจะกลับมาตอนไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่เลย แอนเข้าใจผิด แอนสำคัญตัวผิดมาตลอด แอนเองที่ทำให้หรรษาต้องยุ่งยากใจในทุกๆครั้ง ขอโทษนะเมตที่แอนเข้ามาเป็นมือที่สามของเมตกับหรรษาตลอด”
“ไม่เป็นไรหรอก มันไม่เกี่ยวกับมือที่สามสี่ห้าหรอก มันอยู่ที่นี่”
ผมตีหน้าอกตัวเอง เมาไงเลยทำได้ซะหนักแน่นเลย
แอนยิ้มรับ
“ป่านนี้ปอคงหัวเราะเยาะแอนนะ”
“ไม่หรอก เพอชี่ไม่ได้โทษแอนหรอก จริงๆนะ”
“เมตมันพูดถูก มันไม่ใช่เพราะใครหรอก คนที่ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่แค่นั้นเองแอน”
ผมไม่คิดว่าหรรษาจะได้ยินนะ ผมเห็นมันคุยอยู่แต่กับพ่อแอนและพ่อมัน แต่พอหรรษาพูดแบบนี้แล้วแอนก็ยิ้มได้มากขึ้น
“ไว้มีโอกาสแอนจะขอโทษปอนะ จะคุยกับปอดีๆแอนจะได้มีเพื่อนดีๆเหมือนที่เมตตาได้เพื่อนอย่างปอมาไงล่ะ”
“เพอชี่เป็นเพื่อนตายได้เลยนะ วันนั้นที่ผมกล้าทำอะไรห่ามๆไปตั้งหลายอย่างเพราะมีเพอชี่นี่แหละ”
“อื้ม ขอบใจนะเมต ชนกันอีกรอบนะ”
“เหล้ากับน้ำผลไม้เนี่ยนะ”
“ชนไปเหอะหัวถั่ว ของมึงก็คล้ายๆน้ำเปล่าอยู่แล้วล่ะ”
“แต่กูก็เมานะหรรษา”
“ถ้ามึงบอกว่าที่กูชงทำให้มึงเมาล่ะก็นะ แสดงว่ามึงอยากโดนแล้วล่ะ”
สุดท้ายผมกับหรรษากลายเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ในวงเหล้าไปโดยสมบูรณ์แบบ เพราะทุกคนให้ความสนใจทุกบทสนทนาของผมกับมันไม่เว้นแม่ที่นั่งหัวเราะในความพลาดของลูกตัวเอง
หลังจากปรับความเข้าใจและลงท้ายด้วยการเมากันเพื่อต้อนรับมิตรภาพที่ขาดหายไป ไม่ว่าหรรษาหรือว่าใครในบ้านได้พูดถึงการช่วยเหลือของแอนกับพ่ออีก จนวันที่ผมกลับบ้านมากับหรรษาแล้วเจอจดหมายจากตำรวจที่ภายในแจ้งนัดเจรจายอมความ ผมกับหรรษามองหน้ากัน
“มันจะมาไม้ไหนวะ”ผมถามหรรษา
ในเมื่อเพทายแจ้งความว่าหรรษาพยายามฆ่าแท้ๆแต่การนัดเจรจาโดยไม่ฟ้องศาลเลยทันทีนี่มันเกิดอะไรขึ้น ผมไม่คิดว่าเพทายจะกลับใจได้อย่างแอนกับพ่อหรอก แต่ผมก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรร้ายแรงไปกว่านี้แล้ว
“ไม่รู้ว่ะ กูไม่ได้เรียนกฎหมาย”
“เออ กูขอโทษนะคุณชายที่ถาม สลัดผักเอ๊ย”
“เดี๋ยวนี้งอนเก่งนะมึง ตอนนี้ไม่รู้ วันนั้นก็รู้เองแหละมึง”
“มึงไม่กลัวเลยเหรอหรรษา”
“ไม่กลัวหรอก กูไม่เคยกลัวกับเรื่องส่วนตัว มีเรื่องอื่นน่ากลัวกว่ามึงก็รู้ มึงเถอะ ไปเรียนที่วิทยาลัยกู เตรียมตัวถูกรับน้องดีๆก็แล้วกัน”
“มึงอย่าขู่กูสิ”
ผมกลัวนะไม่ใช่ไม่กลัว ผมกลัวกับการเริ่มต้นใหม่ทุกครั้งแต่ที่ผมกล้าเพราะว่าผมมีหรรษาอยู่ด้วยต่างหากล่ะ ในใจลึกๆก็ยังกลัวกับสิ่งที่ยังไม่เกิดอยู่ดี
“คุยกับเพื่อนที่มหาลัยเข้าใจกันดีแล้วนะ”
“คุยแล้ว พวกมันเข้าใจ กูแค่ย้ายที่เรียนนะมึง นัดเจอเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ได้ย้ายประเทศหรือตายจากกันซะหน่อย”
“นัดเจอกันบ่อยๆก็ได้นะ เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน”
“จริงเหรอวะ”
“กูต้องตามมึงไปทุกที่อยู่แล้วล่ะหัวถั่ว”
“ได้มึงเป็นผัวนี่ออลอินวันเลยนะ ได้ครบทุกอย่างไม่เว้นแม้กระทั่งบอร์ดี้การ์ด”
“แหงล่ะ ได้เมียหัวถั่วนี่นะ”
“แล้ววันนึงนะหรรษา วันหนึ่งมึงจะต้องคลานเข่าเข้ามาหากูแล้วเรียกว่าท่านเมตตาคอยดู”
ผมขู่มัน
“วันไหนล่ะ คืนนี้เลยมั้ย”
มันทำท่ากะลิ้มกะเหลี่ยใส่ผม
เมื่อวันนัดเจรจามาถึงพวกเราทุกคนได้พบกับตัวแทนของเพทาย ผมไม่รู้หรอกว่าเจ้าตัวหายหัวไปไหน ผมรู้แค่ว่าเพทายถอนแจ้งความแล้ว จากที่แจ้งว่าพยายามฆ่ากลายเป็นทะเลาะวิวาทกันธรรมดาๆ และเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ทางฝ่ายนั้นไม่ติดใจเอาความ ในเรื่องของคดีผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจมากนักรู้แค่ว่าหรรษาไม่ต้องตกเป็นจำเลยข้อหาพยายามฆ่าแล้ว เรากลับบ้านมาแบบงงๆจนเจอกับพ่อ


มีต่อค่ะ
V
V

ออฟไลน์ Seiki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2726/-64
“หมดเรื่องแล้วนะหรรษา”
พ่อยิ้มให้มันกับผม
“มันง่ายจนไม่คาดคิดเลยพ่อ ง่ายจนผมงง ฝ่ายนั้นโกรธมากไม่ใช่เหรอ ผมคิดว่านอกจากเอาผมเข้าคุกให้ได้แล้วมันจะยกพวกมาวิทยาลัยด้วยซ้ำ”
“แล้วถ้าเลือกถอนแจ้งความเพื่อแลกกับข้อหาฆ่าคนตายแล้วทำร้ายร่างกายล่ะ ถ้าแกเป็นเพทายแกจะเลือกอย่างไหน”
“ยังไงนะพ่อ ผมไม่เข้าใจ”
“อาลิขิตเค้าให้เพทายถอนแจ้งความเรื่องแกแลกกับข้อหาที่มันทำกับหนูแอนไง ถ้าทางนั้นถอนแจ้งความไม่ยุ่งกับแกอีก ทางนี้ก็จะไม่เอาเรื่องที่ทำกับหนูแอนไว้เหมือนกัน”
“แต่เรื่องที่มันทำกับแอนมันเปรียบกับที่ผมทำมันไม่ได้เลยนะพ่อ เราน่าจะสู้คดีกันไป ยังไงผมก็เชื่อว่าผมไม่ติดคุกแน่ๆ แค่เสียประวัติกับรอลงอาญานี่ผมรับได้นะ”
“อาลิขิตเค้าอยากให้เรื่องมันจบ ไม่อยากให้ยืดเยื้อ มันไม่เป็นผลดีกับแอนน่ะ อีกอย่างเพทายมันฆ่าลูกตัวเองบาปก็ติดตัวมันไปจนตายอยู่แล้ว เห็นว่าอาลิขิตเค้ามีหลักฐานอะไรในมือเยอะ นอกจากจะทำร้ายไอ้เพทายได้แล้วยังลามไปถึงพ่อของมันด้วยน่ะ เค้าคงไม่อยากเอาอำนาจที่สร้างเอาไว้มาแลกกับเรื่องแก อีกอย่างถ้าเพทายโดนข้อหาเรื่องยุ่งยากก็จะตามมาอีกเยอะ เยอะกว่าที่แกโดนอีกหรรษา”
“ถ้าอาลิขิตเค้าเลือกแล้วผมก็เข้าใจ แค่คิดว่าไอ้เหี้ยเพทายน่าจะโดนสั่งสอนบ้าง”
“มันต้องโดนอยู่แล้วล่ะหรรษา ถ้าตราบใดที่พ่อยังปกป้องลูกเพื่อรักษาหน้าของตัวเองน่ะ อาลิขิตเขาก็จะไปอยู่กับหนูแอนด้วยนะ คงไปหาทางทำธุรกิจที่นั่นล่ะถ้าหาที่เรียนให้หนูแอนได้ เขาบอกว่ามันก็เป็นบุญของหลานเขานะที่ไม่มาเกิด เพราะถ้าเกิดออกมาคนเป็นตาก็คงไม่อยากบอกหรอกว่าพ่อของหลานเป็นใคร จบแบบนี้แม้จะมีเรื่องให้ต้องเสียใจแต่สักวันนึงมันก็จะหายไปตามกาลเวลานะ”
หรรษาพยักหน้าให้พ่อมันอย่างเข้าใจ
“จริงๆมันก็เรื่องของเขาอะนะ เราแค่ตัวประกอบให้เรื่องมันสมบูรณ์เท่านั้นเองครับพ่อ”
“ถูกต้อง มันก็เป็นอย่างที่แกเข้าใจนั่นแหละ คราวนี้พ่อสบายใจแล้วเรามาฉลองกันมั้ยวะ เอาปะๆ เอามั้ยหนูเมต ว่าไงวะหรรษาดวลกับพ่อหน่อยมั้ย”
หรรษาส่ายหน้าใส่พ่อมันหน่ายๆ
“พ่อ เรื่องผมที่จบไปมันเรื่องเล็กนะ เรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของวิทยาลัยเราล่ะ”
“เรื่องนั้นปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติเถอะ”
พ่อพูดแบบปลงๆ
“แต่”
“แต่อะไร ตอนนี้ยังไม่มีใครมาลาออกสักคน ไม่มีผู้ปกครองคนไหนไม่กล้าให้ลูกเรียนเพราะลูกชาย ผอ.ไปก่อเรื่อง แค่นี้พ่อก็พอใจแล้ว ที่สำคัญนอกจากไม่มีใครลาออกแล้ว เรายังมีนักเรียนใหม่เพิ่มขึ้นมากลางเทอมด้วยนะ ใช่มะหนูเมต พร้อมเป็นเด็กช่างรึยัง”
“พร้อมครับ”
ผมตอบรับเสียงอ่อย
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้ครับพ่อ”
เชี่ยนี่ก็ขู่กูจัง
ผมไม่ได้ตื่นเช้าเพราะนาฬิกาปลุกหรอกให้ตายเถอะ!!
ไลน์ดังสลับกันดึ๋งดั๋งตั้งแต่ตีห้าทั้งๆที่ผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนเจ็ดโมงเช้าก็ทันถมเถอย่างที่หรรษามันบอกไว้ คนที่นอนเอาขาก่ายผมเอาไว้แทนแขนกอดนั้นงัวเงียลุกขึ้นเพราะเสียงข้อความไลน์ที่ผมไม่ได้ปิดแจ้งเตือนไว้ก่อนนอน
“ใครเป็นอะไรรึเปล่าวะมึง ลองดูดิ๊ ไลน์มาป่านนี้”
“ถ้ามีใครเป็นอะไรจริง โทรมาง่ายกว่ามั้ยวะ”
ผมเถียงแต่ก็คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู
“ภูผาถามว่าตื่นยัง โมเมถามว่าพร้อมมั้ย ไอ้นิวถามว่าเป็นยังไงบ้าง กุ้งนางบอกให้กูสู้ๆ แล้วอะไรไม่รู้อีกเยอะแยะ แม่งตื่นเต้นยังกะมาเรียนกะกูด้วยอะ”
“เยอะนะ”
“เออ พวกมันเป็นห่วงกู มันว่ากูเป็นกระต่ายที่กำลังจะหลงเข้าฝูงหมาป่าน่ะ”
“กูว่าที่เยอะอะมึง ปิดแจ้งเตือนแล้วนอนซะ พรุ่งนี้มึงต้องออกแรงอีกเยอะ”
“มึงไม่ใช่เหรอที่บอกให้กูเปิดดู”
“กูไม่คิดว่ามึงจะดูจนครบทุกข้อความนี่หว่า”
“นี่ยังไม่ครบเลยนะเว้ย”
ผมแย้ง อ่านแค่ข้อความล่าสุดของแต่ละคนเอง
“เออ พอเถอะ”
มันก็ตัดบทด้วยวิธีการเดิมๆของมัน รั้งผมลงไปฝังตัวลงในที่นอน กอดกกเอาไว้เหมือนพ่อไก่แต่พอผมอึดอัดและหายใจไม่ออกมันก็ยอมปล่อยให้ผมได้นอนในท่าสบายๆแล้วหลับไปด้วยกันก็เท่านั้น
ชีวิตใหม่ของผมเริ่มต้นขึ้นเมื่อหรรษาสวมเสื้อชอปประจำวิทยาลัยให้เต็มรูปแบบ ขาดแต่สัญลักษณ์ประจำสาขาที่ผมยังไม่ได้เลือกเรียนเท่านั้น ความขลังของมันทำให้ผมยืนตัวตรง คำว่ายูนิฟอร์มไม่ว่าจะเป็นวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมานานหรือของเอกชนที่เพิ่งก่อตั้งก็ให้ความรู้สึกว่ามันขลังไม่แพ้กันเลย
“เหมือนหนุ่มโรงงานเลยว่ะ”
หรรษาชม!!!
เสื้อชอปไซส์มาตรฐานของวิทยาลัยมันเหมาะกับคนที่หุ่นมาดแมนสมชายเท่านั้นเพราะมันใหญ่ไปสำหรับผมจนเรียกได้ว่าหลวมโพรก
คอยดูนะ!! ผมจะเอาไปแก้ทรงให้เฟี้ยวเงาะไปเลย
“เราจะไปเต็มยศแบบนี้เลยเหรอวะหรรษา”
“เออดิ ทำไมอะ มึงร้อน อึดอัดหรือว่าไม่ชิน”
“เปล่า กูแค่กลัวว่าถ้านั่งๆบนรถเมล์แล้วมีเรื่องล่ะ”
“ก็วิ่งสิวะ”
หน้าซีดเลย....ผมยังไม่พร้อมบู๊เลยนะเว้ย!!
“กูล้อเล่น ถั่วของพี่หน้าถอดสีเลยนะ วันนี้เอารถยนต์ไปนี่แหละ”
ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าเด็กช่างอย่างผมจะต้องลุยแม่งตั้งแต่วันแรกซะแล้ว อยากเปิดตัวในรั้วเด็กช่างแบบหล่อๆไปก่อนอะนะ
ความตื่นเต้นของการเป็นเด็กช่างทำให้ผมใจเต้นโครมครามทุกๆนาทีที่ใกล้ถึงรั้ววิทยาลัย แต่ความนิ่งของหรรษาช่วยให้ใจผมเต้นช้าลงไปบ้าง บุคลิกของมันเปลี่ยนเป็นผู้นำอย่างหน้าทึ่งทันทีที่รถเลี้ยวเข้ารั้วมหาลัย
ใครๆก็รู้ว่าเด็กหนุ่มคนใหม่ที่ย้ายมาที่วิทยาลัยนี้กลางเทอมเป็นอะไรกับหรรษา ผมเตรียมรับกับสายตาที่น่าจะมองผมอย่างให้ความสนใจ
ในวิทยาลัยที่มีแต่ผู้ชายเป็นส่วนใหญ่น่าจะอยากรู้อยากเห็นเรื่องของเกย์ที่ยังไม่แพร่หลายในสังคมแบบนี้กันไม่ใช่เหรอ แต่ไม่มีใครสนใจเรื่องแบบนั้นเลยสักนิด ส่วนใหญ่เท่าที่เจอคือทักทายและยิ้มให้เฉยๆ หากจะมีคำถามเกิดขึ้นก็เป็นคำถามเกี่ยวกับเรื่องของคดีเพทายซะส่วนใหญ่ ไม่มีใครสนใจว่าผมเป็นเมียหรรษา ไม่มีใครมองอย่างเคลือบแคลงที่หรรษามีแฟนเป็นผู้ชาย ไม่มีใครก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของใคร ซึ่งผมยอมรับเลยว่าในสังคมมหาลัยผมไม่ได้เจอแบบนี้ แค่หรรษาไปรับผมก็รู้กันข้ามคณะไปทั่ว เสียงซุบซิบนินทาในระยะเผาขนเรื่องผมเป็นเกย์มีให้ได้ยินจนชิน
ไม่น่าเชื่อเลยว่าสังคมที่อิสระและต่างคนต่างอยู่อย่างวิทยาลัยนี้ทำไมเวลามีเรื่องถึงได้มีคนมารวมตัวกันแทบจะทั้งมหาลัย ซึ่งบางคนไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวด้วยซ้ำ
“มันเป็นเรื่องที่ปลูกฝังให้รักพวกพ้องกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วว่ะ มันเป็นแบบนี้ซึ่งกูก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายที่มาที่ไปยังไงดี”
หรรษาอธิบาย นั่นหมายความว่ามันก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมเด็กอาชีวะถึงต้องยกพวกตีกัน ทำไมบางสถาบันถึงเจอกันไม่ได้ ทำไมแค่สีเสื้อหรือเข็มขัดที่ต่างกันถึงต้องตีกัน แต่ทุกอย่างมันหล่อหลอมมาจากความรักของเพื่อนซึ่งแน่นอนว่ามันมีทั้งความรักที่ถูกและผิดผสมผสานกันมา
หรรษาพาผมมารู้จักกับวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ ดูมันภูมิใจกับกิจการของครอบครัวที่พ่อมันสร้างขึ้นมามาก ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเราถึงต้องสานต่อเจตนารมณ์ของครอบครัวต่อให้เราไม่ได้ชอบมันมาตั้งแต่แรก
หรรษาบอกว่ามันรู้สึกแบบนั้นในตอนแรก มันมีความฝันของมัน อยากเรียนมหาลัยดังๆในคณะที่ชอบ มันทำได้แน่นอนอยู่แล้วเพราะมันเรียนเก่ง แต่พ่อกลับทำกิจการโรงเรียนขึ้นมา แถมเป็นวิทยาลัยอาชีวะที่มีแต่ปัญหาเด็กตีกันเป็นว่าเล่น หรรษาเองนอกจากต้องปรับตัวให้เอาตัวรอดกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้แล้ว มันยังต้องทำตัวเป็นผู้นำให้มากพอที่จะทำให้คนรุ่นต่อๆไปเชื่อถือได้ว่า คนอย่างหรรษาเรียนที่วิทยาลัยของตัวเองมีศักยภาพมากพอที่จะบริหารวิทยาลัยแห่งนี้แทนพ่อได้ และต้องผลิตนักศึกษารุ่นใหม่ๆขึ้นมาให้มีคุณภาพเช่นกัน ซ้ำร้ายไปกว่านั้นมันจะต้องหาวิธีทำให้เรื่องตีกันระหว่างสถาบันยุติลงอีก
ภาระของหรรษาหนักยิ่งกว่าเข็นภูเขาใส่ในครกซะอีก!!
ในขณะที่ผมยังไม่รู้เลยว่าจะช่วยแบ่งเบาหรือสร้างภาระให้มันเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่ว่าผมไม่แอบหวั่นว่าการเปิดตัวของผมทำให้ความเชื่อมั่นของคนที่รับเรื่องราวของชายรักชายไม่ได้ลดน้อยลง หากมีใครรู้ว่าผู้บริหารวิทยาลัยแห่งนี้มีพฤติกรรมรักเพศเดียวกันจะมีคนยอมฝากอนาคตไว้มั้ย
ผมคว้ามือคนที่กำลังชี้ชวนให้ดูห้องต่างๆอย่างภูมิใจเอาไว้
หรรษาหันมามองผมแล้วเลิกคิ้วสูงเหมือนไม่เข้าใจแล้วสุดท้ายคิ้วมันก็ขมวดเข้าหากันคล้ายว่ากำลังกังวลใจ
“มึงเบื่อแล้วเหรอวะ”
ผมรีบส่ายหน้าปฎิเสธ การอยู่กันสองคนในสถานที่ที่สำคัญกับมันขนาดนี้แถมยังได้เห็นหรรษาตอนที่มันจริงจังกับเรื่องตรงหน้า นับว่าเป็นเรื่องที่ผมไม่ค่อยได้เห็นมากนัก หรรษาในสายตาผมคือผู้ชายที่พูดน้อย นิ่งซะเยอะ น่ากลัวแต่กวนตีนหนัก พอได้มารับรู้ว่าอนาคตของเราคืออะไรแล้ว ผมเองก็อดที่จะกลัวไม่ได้
“กูไม่ได้เบื่อหรอก สนุกดี แต่หรรษา กูกลัวว่ากูจะมาเป็นภาระมึงมากกว่าอะดิ”
วิทยาลัยของมันเล็กกว่ามหาลัยที่ผมเคยเรียนอยู่มากจนเทียบกันไม่ติด แต่มันก็อลังการกว่าห้องนอนเล็กๆที่ผมซุกหัวนอนและใช้ชีวิตมาตั้งแต่เด็กๆอยู่ดี
“ทำไมอยู่ๆถึงกลัวขึ้นมาวะ”
“ไม่รู้สิ กูว่ากูก็เหมือนกบที่อยู่แต่ในกะลาของตัวเอง แต่พอวันนึงกูได้รู้ว่าโลกมันกว้างกว่ากะลาที่กูเคยอยู่ แล้วมันก็มีอะไรมากกว่าที่กูรู้และกูเคยเห็น แต่ยิ่งกูเดินออกมาไกลจากกะลามากเท่าไหร่กูกลับไม่รู้เลยว่าแล้วพื้นที่นอกกะลามันกว้างใหญ่กว่าที่กูเห็นอยู่นี้มากแค่ไหนวะ”
“นั่นแหละไอ้หัวถั่วเค้าเรียกว่ากลัว ตอนแรกอะนะ ตอนที่กูลากมึงไปนอนด้วยกูก็ไม่ได้สำรวจอะไรมึงมากหรอก ตามประสาคนที่กำลังอยากกินของหวานอะนะ พอเจอแล้วก็กินๆ หายอยากแล้วก็จากกัน ไม่ได้สนใจอะไรอีก จนมึงเสนอหน้าเข้ามาบังคับให้ต้องรับมึงอยู่ในความรับผิดชอบอะนะ กูก็อยากสลัดมึงให้พ้นทางเพราะกูคิดว่ามึงมันก็แค่ไอ้หัวถั่วที่สร้างแต่ปัญหาและภาระ พูดง่ายๆมึงคือตัวถ่วง แต่คนอย่างกูกล้าทำอะไรลงไปก็ต้องกล้ารับแล้วก็ไม่ใช่คนที่สับปรับไม่รักษาคำพูด แล้วคนอย่างมึงก็มีไม่มากนักหรอกเมต เพราะเท่าที่กูลากมานอนด้วยกูยังไม่เคยเจอใครแบบมึงเลยสักคน อยู่ด้วยกับมึงไปนานๆแล้วก็เข้าใจว่า จริงๆแล้วถั่วไม่ได้ให้วิตามินนี่หว่า ถั่วให้โปรตีนต่างหากแล้วโปรตีนก็ทำให้เราแข็งแรง เพราะฉะนั้นมึงทำให้กูมีแรงเดินต่อไปข้างหน้า เพราะมีมึงอยู่ด้วยกูเลยอยู่นิ่งอยู่กับที่ไม่ได้ ยิ่งไม่ใช่ตัวคนเดียวอย่างแต่ก่อนแล้วกูก็ต้องมีแรงเพิ่มขึ้น ออกแรงเพิ่มขึ้น เพื่อดึงเราสองคนให้ไปด้วยกันได้”
“มึงคิดกับกูขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
นี่มันยิ่งกว่าคำปากรักที่หวานหยดย้อนซะอีกนะ มันทำให้เลือดผมสูบฉีดแรง ไม่คิดว่ามันจะพูดแบบนี้ออกมา ไม่คิดว่าหรรษาจะพูดเรื่องอะไรแบบนี้ ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรที่ดีไปกว่าแอนหรือเพอชี่ ไม่คิดว่าจะมัดใจหรรษาได้ ไม่คิดว่าความรักครั้งแรกของตัวเองจะสมหวังขนาดนี้เลยจริงๆ
“มึงไม่ต้องทำหน้าเหลือเชื่อขนาดนั้นหรอก กูแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นแหละ มึงไม่ได้โชคดีที่สุดที่ได้คบกับกูหรอกนะ กูต่างหากที่โชคดีที่สุดที่ได้มึงมา เพราะกูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสุดท้ายแล้วชีวิตกูจะมีใครอยู่ข้างๆมั้ย จะมีใครสักคนหรือเปล่าที่เข้าใจว่ากูเป็นยังไง ในเมื่อที่กูเคยพบเคยเจอมาล้วนมโนว่ากูเป็นแบบนั้นแบบนี้ทั้งๆที่กูไม่เคยเป็นอื่นเลยนอกจากเป็นตัวของตัวเอง”
ผมพยักหน้าตอบรับว่าเข้าใจสิ่งที่มันพยายามจะบอก หรรษาทำดีที่สุดกับทุกคนแล้ว เพียงแต่ทุกคนรับตัวตนของหรรษาไม่ได้ หรือรับได้ก็กลัวไปเองว่าหรรษาจะเปลี่ยนไปในสักวัน แอนพยายามไขว่คว้าหาคนในอุดมคติอย่างที่ตัวเองต้องการโดยไม่สนใจเลยว่าที่เขาทำไปนั้นเพียงแค่อยากเอาชนะใจไม่ใช่นิสัยของตัวเองจริงๆ หรือแม้แต่เพอชี่เองที่อยากจะทำตามความต้องการในส่วนลึกของตัวเองเพียงแต่อ้างว่าทำเพราะกลัวว่าหรรษาจะเปลี่ยนใจ ทั้งๆที่หรรษายังคงเป็นคนเดิม ทุกคนทำเพื่อตัวเองเลยไม่เจอที่ตรงกลางที่จะรักษาความรักเอาไว้ได้
ส่วนผม
ผมโชคดีที่รู้จักความซับซ้อนทางสังคมน้อยเลยไม่ฟุ้งซ่านอะไรและที่สำคัญที่สุดที่ผมเดินทางร่วมกับหรรษามาถึงตรงนี้ได้คงต้องขอบคุณแม่ แม่ที่มีความคิดทันสมัยเสียจนผมเองยังตามไม่ทัน แม่ที่กล้าเสี่ยงให้ผมลองเดินในทางที่ไม่เคยเดิน และคอยให้กำลังใจในแบบของแม่มาโดยตลอด ผมเองก็อยากจะรู้เหตุผลจริงๆของแม่เหมือนกันว่าทำไมเลือกให้ผมคบกับหรรษาแทนที่จะเลิกแล้วต่อกัน
สักวันหนึ่งผมคงได้รู้
ผมสบตากับหรรษาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม มือเล็กๆของผมกระชับมือใหญ่ของมันแน่น
“มึงมั่นใจในตัวกูขนาดนี้แล้วต่อให้กูกลัวสักแค่ไหนกูก็ต้องพยายามล่ะนะ เพราะถ้าพลาดจากมึงไปแล้วจะมีใครบ้าระห่ำรับผิดชอบกูกับแม่ที่ไม่มีหัวนอนปลายตีนอีกจริงมั้ย”
ผมยักคิ้วเจ้าเล่ห์ใส่มัน
“มีสิ”
มันว่า คราวนี้ผมเลิกคิ้วสูงตกใจบ้าง
“จะมีใครบ้าขนาดนั้นวะ”
“คนๆนั้นก็จะเป็นคนเดียวกันกับคนแรก”
“ก็คือมึงน่ะสิ”
“อยู่แล้ว”
คราวนี้มันยักคิ้วใส่ผมบ้าง ยิ้มยั่วอย่างคนที่เป็นต่อผมไปหลายขุม
“ยังไงอะ ใส่ปุ๋ยพรวนดินให้ถั่วอย่างกูหน่อยสิ”
ผมอ้อนมัน สาบานเลยว่านี่คือวิธีการอ้อนของผมแล้ว
“ก็ไม่ว่ามึงหรือกูจะวางฟอร์มใส่กันแค่ไหน ต้องการจะเอาชนะคะคานกันแค่ไหน แต่สุดท้ายกูก็จะตามมึงไปในทุกๆที่อยู่ดี ที่ผ่านมาก็เป็นแบบนั้นทุกครั้ง มึงเองก็รู้ มันไม่มีวามบังเอิญไหนที่จะลงตัวพอดิบพอดีได้ขนาดนั้นหรอกถ้ากูไม่ตามมึงไปในทุกๆที่”
“ทำไมอะ”
“มึงคิดว่าคนเราจะอยู่ได้เหรอวะถ้าตัวกับใจอยู่กันคนละทาง”
มันพูดและทำตาหวานเยิ้ม
“แม่งหวานซะกูอายเลยนะ กูแมนนะ ต่อให้เป็นเมียมึงแต่กูก็จะแมน กางเกงแสลค เสื้อเชิ๊ต ผมหวีเรียบ ฉีดน้ำหอม ทำตัวดีมีรอยสักตามตัว”
“ที่ว่ามานี่ก็พอได้นะ ว่าแต่ไอ้ที่มึงจะมีรอยสักนี่สักที่ไหนวะ”
“สักคิ้วถาวรไง หล่อเด็ดเลยมั้ยล่ะ”
ผมยักคิ้วให้
“ถ้าจะลงทุนขนาดนั้นก็ซื้อแพคเกจร้อยไหมใส่คอลลาเจนฉีดกลูต้าด้วยเลยมั้ยล่ะ”
“แหะ แหะ กูพูดเล่น ก็กูเขินอะ”
“ไม่ต้องเขินหรอก มึงทำตัวตามสบายเป็นอย่างที่มึงเคยเป็นเหอะ มึงคิดว่าเราผ่านอะไรกันมาขนาดนี้ ด้วยเวลาสั้นๆเพียงเท่านี้มันยังไม่พอที่จะทำให้เราปรับตัวเข้าหากันแล้วก็เดินไปข้างหน้าด้วยกันอีกเหรอวะ นี่ขนาดว่าเพิ่งเริ่มต้นชีวิตคู่ มึงกับกูยังผ่านทั้งเรื่องร้ายเรื่องดีกันมาขนาดนี้ ด่านของเพอชี่กูก็ว่าหนักแล้วสำหรับคนไม่มีประสบการณ์อย่างมึง แต่ด่านของแอน ความสม่ำเสมอที่กูยังปฏิบัติกับแอน กูไม่คิดเลยว่าจะมีใครเข้าใจหรือยอมทำความเข้าใจกับมัน แต่มึงกลับเข้าใจ”
“กูอยู่กับมึง คนที่กูควรจะเชื่อใจและไว้วางใจก็คือมึงไม่ใช่เหรอวะ ในเมื่อมึงบอกว่ามึงรักกูแล้วกูเองก็คือแฟนมึง กูอะไม่ยอมให้มันจบเพราะคนอื่นหรอก กูต้องไม่เป็นแบบนั้น กูต้องไม่เป็นอย่างพ่อกูที่ขี้ขลาดตาขาวแล้วก็เห็นแก่ตัวเอง พ่อกูบอกว่ารักแม่แต่พ่อกูก็รักตัวเองมากกว่า พ่อกูถึงได้เลือกทางที่ทำให้ตัวเองสบายมากกว่าเลือกที่หัวใจตัวเองต้องการ แม่กูที่เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆและอ่อนแอกว่าพ่อแท้ๆยังเข้มแข็งมากกว่า เพราะฉะนั้นกูก็ต้องเข้มแข็งให้ได้อย่างแม่เหมือนกัน แม้กูจะเป็นคนที่ทุกคนมองว่าอ่อนแอและปวกเปียกเกินกว่าจะเป็นเรี่ยวแรงให้วงศ์ตระกูลได้ ถ้านับเป็นสินค้า กูคงเป็นสินค้าที่ถูกคัดออกเพราะไม่ผ่าน QC ตั้งแต่ยังไม่ทดลองใช้งานน่ะ”
“มึงรู้มั้ย แม่มึงใจนักเลงมากเมต สิ่งที่มึงทำอย่างเด็กใจแตกที่ไม่เคยทำนั้นมันทำให้มึงเหลวแหลกอย่างที่ทางบ้านพ่อมึงสบประมาทได้เลยนะ แต่การที่แม่มึงยัดเยียดมึงให้กู ให้มึงตกเป็นของผู้ชายด้วยกันนั้นก็ไม่ได้เสี่ยงน้อยไปกว่ากันเลย หากกูเป็นแบบเพทาย มึงจะเหลวแหลกเองหรือเหลวแหลกเพราะทางที่แม่เลือกให้ก็ถูกดูหมิ่นจากครอบครัวพ่อมึงไม่ต่างกันหรอก แต่ถ้ามึงมาในทางที่ไม่น่าจะเจริญรุ่งเรืองได้ ความหวังริบหรี่จากคนที่ไม่น่าจะมีดีอะไรเลยอย่างกูเนี่ย เด็กช่างที่เมาหยำเป เรียนก็ไม่เรียนแล้วก็ยกพวกตีกันเป็นอันธพาลไปวันๆ แต่สุดท้ายเราสองคนประสบความสำเร็จขึ้นมาได้ มันจะพิสูจน์ให้เห็นว่าคนที่ตัดสินใจปฏิเสธมึงกับแม่นั้นเขาตัดสินใจผิดมหันต์ คนที่ดีด้วยแล้วก็เก่งด้วยไปอยู่ที่ไหนก็ไม่ตกต่ำหรอกเมต ขอเพียงให้เกียรติและเชื่อมั่นในความเป็นคนที่มีสมองและสองมือเท่ากัน ทำไมเราจะทำไม่ได้ล่ะ”
มาถึงตอนนี้ แม้หรรษาจะบอกว่าคนที่โชคดีคือมันไม่ใช่ผมอย่างที่ใครๆเขาว่า แต่สำหรับผมแล้ว ผม็ยังยืนยันว่าผมโชคดีสุดๆเลยที่มาเจอหรรษา แม้ภาพลักษณ์ภายนอกของมันจะไม่มีอะไรดี แต่ความคิดและจิตใจของมันดีมาก และมันก็ลึกซึ้งทางความคิดจนผมทึ่ง มันทำให้ผมรู้สึกว่าเราไม่ใช่แค่รักกันไปวันๆ มีอะไรกันตามความต้องการของธรรมชาติ เราคิดกันไปไกลมากกว่านั้น คิดถึงอนาคตที่จะมีร่วมกัน แม้มันจะเริ่มจากความฝันลมๆแล้งๆของผม ผมแค่อยากอยู่ใกล้ๆหรรษา อยากอยู่ให้กำลังใจมันแค่นั้น ไม่ได้คิดจริงๆหรอกว่าการมาเรียนที่นี่เพื่อจะบริหารที่นี่ไปพร้อมๆกับมัน ผมอยากเรียนในสิ่งที่ผมชอบ เพียงแต่แม่อยากให้ผมเรียนบริหาร แต่เมื่อมันจะได้ทั้งสองสิ่งขึ้นมาจริงๆแล้วผมก็ต้องพยายาม เพราะหรรษาก็ให้ความมั่นใจแล้วว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ
“คิดถึงวันแรกที่เจอกันเนอะ”
ถ้าผมไม่ตัดสินใจแหกคอกเหล็กของแม่ออกไปเที่ยววันนั้น วันนี้ผมก็นึกภาพของตัวเองไม่ออกเหมือนกันว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน
“นั่นสิ เพราะวันนั้นกูยังไม่มีความประทับใจอะไรในตัวมึงเลย”
“อะไรกัน กูออกจะสดใส”
“อะไรคือความดีงามของคนที่เมาแล้วเรื้อนอย่างมึงวะ มึงรู้ปะว่าในผับนั้นมีแต่เด็กช่างที่ไม่รู้เลยว่าคู่อริจะแฝงตัวเข้ามาสร้างเรื่องขึ้นเมื่อไหร่ เจอใครทำตัวแปลกแยกอย่างมึงเขาก็ต้องหมายหัวไว้ก่อนล่ะ”
“กูไม่รู้นี่หว่า ครั้งแรกของกู กูสนุก กูเมากูไม่รู้ตัวหรอกว่าทำอะไรลงไปบ้าง รู้แค่ว่ามันสุขที่สุดตั้งแต่เกิดมาเป็นกูเลยอะคืนนั้นเหมือนขึ้นสวรรค์เลย”
“แต่สวรรค์กับนรกก็อยู่ใกล้กันเพียงชั่วข้ามคืนเองนะ เพราะกูอะรู้สึกแบบนั้นเลย”
“กูก็เหมือนกัน ตอนที่ต้องบุกไปหามึงนะ นรกสุดๆแล้ว แม่กดดันอย่างที่ไม่เคยมาก่อนเลยด้วย”
“ถ้ากูรู้ว่าจะมีวันนี้ กูจะจดจำคืนนั้นไว้ให้ได้มากที่สุดเลย”


มีต่อค่ะ
V
V

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 แปะไว้ก่อน

มาแทรกได้น่าเกลียดมากเขาขอโทษ :mew2: ไม่คิดว่าจะยาวได้ใจขนาดนี้หายไปนานกว่าจะมามาทีเล่นเอาจบเลย ใจหายเหมือนกันนะเนี่ยที่จะไม่ได้เห็นหัวถั่วมาแสดงความคิดแบบถั่วๆให้ได้อ่านอีก
 :pig4: :pig4: :pig4: สำหรับเรื่องสนุกๆอีกเรื่องหนึ่งของคุณ TRomance
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-04-2014 11:42:59 โดย B52 »

ออฟไลน์ Seiki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2726/-64
“นั่นดิ อย่างน้อยเราก็น่าจะทำความรู้จักกันก่อน ไม่ใช่มาทำความรู้จักกันทีหลังเนอะ แม่งโคตรข้ามขั้นตอนเลย”
“เออดิ”
“ปะ ซื้อไทม์แมชชีนย้อนเวลากัน”
“มึงมีโดเรมอนมาอาศัยอยู่ที่บ้านเหรอ ไปสำรวจสมบัติในอนาคตของเราให้เสร็จเหอะ เดี๋ยวมึงต้องไปเลือกสาขาที่เรียนอีกนะ ไปตึกเรียนมึงอีก ไปรู้จักอาจารย์อีก โอ้ย อีกเยอะ”
ผมจำใจต้องกลับมาอยู่กับความเป็นจริงและการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แต่พอเรากำลังจะเดินไปต่อ เสียงเรียกหรรษาก็ดังมาจากข้างหลัง หรรษาเรียกชื่อคนที่วิ่งตามมายืนหอบอยู่ข้างหน้าว่า ‘พรมแดน’
“มีไรวะแดน”
แม้คนที่เพิ่งมาถึงจะหอบเหนื่อยอยู่ตรงหน้าเราทั้งคู่ แต่ผมก็รู้เลยว่าเขากำลังมองสำรวจผมอยู่ตั้งแต่หัวจรดเท้า หรรษาเองก็คงจะรู้สึกเหมือนกันเลยแกล้งกระแอมขึ้นมา
“มาอยู่ที่นี่เอง พวกเราตกลงกันว่าเย็นนี้จะไปร้านเดิมกันอะ อยากให้มึงไปด้วย ชวนแฟนมึงไปด้วยนะ”
“ได้ดิ ว่าแต่มีโอกาสอะไรพิเศษหรือเปล่า”
“พอดีมีข่าวดีหลายข่าวอะ แล้วร้านนี้คนที่กูกำลังคุยด้วยเค้าบอกว่าเด็ด เมืองแมนเองก็ว่าเด็ด กูไปไม่กี่ครั้งเอง เห็นว่ามึงกับเมืองแมนไปกันบ่อยเหรอ”
“เออ แต่ไม่ได้ไปมาพักใหญ่ๆแล้ว”
“งั้นดีเลย กูได้ข่าวมาว่าไอ้ห่าเพทายสินฤทธิ์แล้วเหรอวะ ข่าวว่าพ่อแอนไม่เอาเรื่องมันแลกกับให้มันไม่เอาเรื่องมึง”
“ก็ตามข่าวนั่นแหละ แต่กูก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะมีใครโกรธแค้นกูแทนมันอีกรึเปล่า”
“ถ้าจะเอาคืนก็มาเหอะ ได้ทุกเวลา สำหรับมึงอะ พวกเราพร้อมมากนะเว้ยหรรษา ไม่ใช่แค่วิด-ลัย นะเว้ยที่พวกเรารัก มึงหรือว่า ผอ.เองพวกเราก็รักมากเหมือนกัน เพราะงั้นมึงไม่ต้องกลัว ไม่มีใครปล่อยให้มึงลุยเดี่ยวแน่นอน แต่แฟนมึงจะพร้อมมั้ยวะ”
“พร้อมสิวะ กูอะพร้อมรบเคียงบ่าเคียงไหล่หรรษาเสมอ”
ผมยืนยัน
“อย่างนี้มีเฮ กูชื่อพรมแดน เรียนแผนกก่อสร้าง”
“กูชื่อเมตตากำลังจะเลือกเรียนแผนกก่อสร้างเหมือนกัน”
“เยี่ยมเลย เย็นนี้ฉลองใหญ่แน่นอน” พรมแดนว่า
เพื่อนใหม่คนแรกของผมทำให้ใจผมไปอยู่ที่เย็นนี้แทนที่จะเริ่มเรียนวันใหม่ซะอีก เป็นเริ่มต้นใหม่ที่ตื่นเต้นในใจจนบอกไม่ถูก เรียกว่านับถอยหลังรอจนโดนหรรษาด่าไปหลายยกเลยทีเดียว
ผมเหมือนนกที่ได้พบกับฤดูกาลใหม่ที่รอคอยอีกครั้ง การกลับมาที่แห่งความทรงจำแต่ผมกลับไม่มีความทรงจำอะไรที่เกี่ยวกับหรรษาเลยเหมือนได้รียูเนี่ยน ผมจำความสนุกในวันที่แม่เปิดอิสระให้ผมได้ แต่ผมจำไม่ได้เลยว่ากว่าเราจะเดินไปเข้าโรงแรมด้วยกัน หรรษาอยู่ตรงไหนของร้าน และมันกำลังมีความสุขกับวันนั้นแบบไหนอยู่
แต่ผมเดาว่าบรรยากาศของวันนั้นคงจะประมาณเดียวกันกับวันนี้ ทุกโต๊ะรู้จักหรรษาดี เดินผ่านที่ไหนก็มีแต่แก้วเหล้ายื่นมาจ่อให้ถึงปาก และรวมถึงคนที่ติดตามอย่างผมด้วย
สิ่งหนึ่งที่ผมเพิ่งเห็นจะๆคาตาคือหรรษาเป็นที่สนใจของคนนอกในร้านมาก แต่ทำไมนะ ทำไมวันนั้นผมถึงไม่เห็นทั้งๆที่มันดูมีออร่าขนาดนี้
“มึงเมากูไม่ว่าแต่กูขออะไรอย่างหนึ่งนะเมต”
“อะไรวะ”
“อย่าจับไมค์แล้วร้องเพลงอีก”
แค่นี้ก็รู้สึกอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว วีรกรรมผมช่างงามไส้นัก ความเมาทำให้เราไร้สติแล้วก็กล้าได้จนน่ากลัวจริงๆด้วยนะ
“รู้แล้วน่า ถ้าไม่เมากูร้องเพลงออกจะดี”
“เหรอ แต่ไม่ว่าจะยังไงนะ กูว่าไม่ร้องจะดีที่สุดเลยสำหรับมึง”
ผมวางแก้วกับโต๊ะตามแรงอารมณ์ก่อนจะยกขึ้นกรอกปากอีกครั้งแบบรวดเดียวหมดแก้ว พอวางแก้วเปล่าลงบนโต๊ะอีกครั้งสิ่งที่มาหยุดอยู่ตรงหน้าทำให้ผมประหลาดใจแล้วก็ดีใจขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
“กุ้งนาง มาได้ไงวะ โมเมด้วย ไอ้นิว ภูผา เฮ้ยบังเอิญยังกะนัดกันมาเลย”
“ยังซ่าไม่เปลี่ยนเลยนะไอ้เมต”
สิ่งแรกที่กุ้งนางทักทายด้วยรอยยิ้ม เอานิ้วจิ้มหน้าผากผมที่หงายหลังไปตามแรงผลักของมันจนเกือบหน้าหงาย
ผมมองแก้วเปล่าตรงหน้าแล้วหัวเราะกลบเกลื่อนก่อนจะเหลือบไปมองคนที่อนุญาติให้เมาผมได้แต่ห้ามเรื้อนในคืนนี้
“กูตกใจจริงๆนะตอนที่เห็นมึงมายืืนอยู่ตรงหน้าอะ พวกมึงด้วย บังเอิญได้น่าทึ่งมากๆเลยนะเว้ย ว่ามั้ย”
ผมดีใจจนเก็บอาการไม่มิด
“ใครว่าบังเอิญละวะ พวกกูตั้งใจมาเพราะว่ามีนัด”
“ใครวะ หรรษาใช่มะ ตั้งใจจะเซอร์ไพร้ส์กูอะดิ หรรษาดูทุ่มเทให้กูเนอะพวกมึงว่ามั้ย”
ได้ทีผมอวดแฟนตัวเองต่อหน้าเพื่อน
“ไม่ใช่หรรษานัดเว้ย คนนี้ต่างหากที่นัดพวกกูมา”
คนนี้ที่กุ้งนางว่าก็คือพรมแดนคนที่ไปชวนผมกับหรรษามาที่นี่นั่นเอง คราวนี้ผมเริ่มสับสนจนกลายเป็ยตัวตลกให้พวกมันหัวเราะกันเลยทีเดียว
“กูคบกับแดนอยู่อะ ทีนี้หัวถั่วอย่างมึงพอจะเข้าใจยังวะ”
“อ๋อออออออออออออออ เข้าใจละ”
ผมพยักหน้าหงึกหงัก จริงๆผมก็ชินกับการที่กุ้งนางเริ่มต้นความรักใหม่นะ การที่มันจะคบใครสักคนดูจะไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นถ้าไม่ติดว่าหลังจากที่มีเรื่องเพทายเข้ามาก็ดูเหมือนกุ้งนางจะระมัดระวังในการคบใครเป็นพิเศษ ผมเห็นมันตัวคนเดียวอยู่ตั้งนาน ไม่คิดว่ามันจะมาลงเอยกับคนใกล้ตัวขนาดนี้
คืนนั้นพวกเราสนุกกันเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลอะไรเลย ดูเหมือนระยะห่างระหว่างผมกับเพื่อนที่มหาลัยเดิมจะเริ่มแคบลงแล้ว และนั่นทำให้ผมรู้สึกดีมากๆแล้วมันก็ทำให้ผมเมาแบบไม่รู้ตัวเลย
ผมดื่ม
ผมสนุก
ผมเต้น
ผมสุดเหวี่ยง
แต่ๆไม่ใช่ด้วยความอยากใจแตกอย่างครั้งแรกอีกต่อไปแล้ว ผมวางทุกอย่างลงและสนุกแบบสุดๆได้เพราะผมมีหรรษาคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ แม้มันจะไม่ได้ถึงขั้นประกบ แต่มันก็คอยมองผมอยู่ไม่ห่าง อีกทั้งรอบกายผมมีทั้งเพื่อนใหม่และเพื่อนเก่าที่มารวมตัวกันจนอดมโนไปเองไม่ได้ว่าผมเป็นพระเอกของงาน
เมื่อเวลาของซินเดอริล่าอย่างผม(?)หมดลง เจ้าชายก็มาหยุดอยู่หน้า ฤทธิ์น้ำเมาทำให้ผมพิจารณาหน้าเจ้าชายอยู่เนิ่นนานก่อนจะเอ่ยปากเรียกชื่อคนตรงหน้าด้วยสติที่พร่าเต็มที
“หรรษา”
ดูเหมือนจะเจ้าของชื่อจะพอใจเพราะว่ามันยิ้มให้ผม ทั้งๆที่หรรษาควรจะโกรธที่ผมเมามาก แต่มันก็ยังดูใจดี
“แน่นอนว่าเป็นกูเองไม่ใช่คนแปลกหน้าหรอก เราจะไปกันได้ยัง”
“ไปไหนเหรอ”
เพื่อนยังอยู่เต็มร้านอยู่เลยแถมเพอชี่ก็เพิ่งจะมา ติดแค่ว่าผมเมามากแล้วเลยไม่ได้้สนุกกับเพอชี่ได้เท่าที่ใจอยาก แต่ดูเหมือนเพื่อนใหม่ของผมคนนี้จะเข้ากันได้ดีกับกลุ่มเพื่อนเก่าผม
‘โลกนอกจากจะกลมแล้วมันยังแคบด้วยนะเว้ยเมต’
ภูผามันกระซิบบอกผมตั้งแต่ตอนที่ผมช็อคตาตั้งเมื่อกุ้งนางแนะนำแฟนใหม่หมาดๆว่าคือพรมแดนเพื่อนร่วมวิทยาลัยของหรรษา
เพอชี่ นางฟ้าแสนสวยที่เหมือนจะเข้ามาทำให้ชีวิตผมกระชุ่มกระชวยขึ้น ผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกว่าบางทีผมอาจจะแมนชอบผู้หญิงก็ได้ แต่แล้วความจริงก็ทำร้ายให้ผมตื่นจากฝันเฟื่องว่าเพอชี่เป็นนางฟ้าที่กลายร่างมาจากเทวดา แล้วที่มันบังเอิญจนเหลือเชื่อไปกว่านั้นก็คือเธอเป็นหนึ่งในแฟนเก่าของหรรษา โลกมันแคบจนหายใจอึดอัดดีมั้ยล่ะ
ส่วนแอน...ช่างมันเถอะ อย่างน้อยเธอก็เข้ามาทำให้ชีวิตผมมีมิติและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น แอนเป็นบททดสอบใจอย่างดีของผม ถ้าแอนไม่ทำแบบนี้ บางทีผมก็ไม่รู้หรอกว่าผมรักหรรษามากแค่ไหน แล้วถ้าไม่เพราะแอนทำแบบนี้ผมก็ไม่รู้อีกนั่นแหละว่าจริงๆแล้วหรรษาแคร์ผม แม้มันจะยืนยันว่าพร้อมจะช่วยเหลือแอนเหมือนเดิม แต่ครั้งหนึ่งมันก็เคยสั่งสอนแอนให้ช่วยเหลือตัวเองต่อหน้าผม
ส่วนผม ผมคงต้องขอบคุณตัวเองที่ไม่โวยวายจนเกินชาย
สุดท้ายนี้
ผมก็กลับมาอยู่ในห้องแห่งความทรงจำอีกครั้ง แผ่นหลังสัมผัสกับที่นอนเย็บเฉียบจนสะดุ้ง คนที่ค่อยๆเอนตัวทาบทับลงมาถึงกับผงะตัวค้างในอากาศ
“ขอโทษ”
ผมขอโทษที่อาจทำให้มันเสียอารมณ์หวามไหวในขณะนี้
“ขอโทษทำไม”
“ขอโทษที่กูอ่อนแออดทนต่อที่นอนเย็นๆไม่ไหวทำให้มึงต้องค้างไปด้วย”
“ไม่ได้ค้างด้วยซะหน่อย ไม่ได้ตกใจที่มึงหนาวจนสะดุ้งหรอก”
“อ้าว แล้ว”
ผมงง เมาก็เมา ความต้องการก็กำลังป่วนปั่นอยู่ภายใน
“กูแค่คิดว่าตอนนั้นกับมึงที่มีสภาพดูไม่จืดขนาดนี้ อะไรกันที่ทำให้กูพิศวาสมึงได้”
“ความเมาไง”
จริงๆนะ ความเมาทำให้อะไรๆง่ายขึ้นมากจริงๆ
“แต่วันนี้กูไม่ได้เมากับมึงด้วยเลยนะ แถมยังเห็นสภาพมึงเมาเต็มๆตาขนาดนี้ กูยังรู้สึกว่ามึงแม่งน่าฟัดให้ร้องไม่ออกเลย”
ผม...ได้แต่หลับตาปี๋เพื่อรอให้มันทาบทับลงมา
หรรษาไม่ทิ้งเวลาให้ผมต้องลุ้นนาน ความอ่อนหวานและความเร่าร้อนถูกปรนเปรอมาให้จนผมแทบจะหายเมา ทุกการกระทำทิ้งเวลาให้ผมได้จดจำและตอบสนองมันเต็มที่
ไม่มีเมตตาที่อ่อนเดียงสาคนนั้นอีกแล้ว
เมล็ดถั่วเขียวที่กระเทาะออกจากเปลือกเพราะความชื้นเมล็ดนั้นตอนนี้ได้น้ำและปุ๋ยจนงอกงามดีแล้ว พร้อมมากที่จะถูกเก็บเกี่ยว
ผมฉวยโอกาสตอนที่หรรษาใช้เวลาสำรวจตัวผมอย่างละเมียดละไม มันจูบและไซร้ผมช้าๆทว่าหนักหน่วงจนกลั้นเสียงครางแทบไม่ไหวกว่าผมจะได้กลายมาเป็นฝ่ายรุกมันบ้างก็แทบจะหมดเรี่ยวแรง การจะบังคับให้หรรษาลงมาอยู่ใต้ร่างผมได้นั้นแทบไม่ต่างอะไรจากการปีนขึ้นเรือกล้วยอีกครั้งหลังจากถูกเหวี่ยงทิ้งลงทะเล
คนที่เพลี่ยงพล้ำให้กับผมงุนงงใช่น้อย
“จะเป็นไรมั้ยถ้ากูจะขอโชว์ผลงานบ้าง”
ผมยั่ว
“เมาขนาดนี้เนี่ยนะ”
ผมถือว่าเป็นการดูถูกกันอย่างมาก ผมเลยโชว์ปิดปากมันเอาไว้ หรรษาเกร็งตัวแน่นในตอนแรกเพราะมันเข้าใจว่าผมจะพลิกสถานะไปรุกมันจริงๆ
“ปล่อยให้กูได้โชว์ผลงานบ้างนะหรรษา วันนี้กูพยายามประคองสติเพื่อสิ่งนี้จริงๆ แต่ถ้าไม่เมา กูก็คงจะไม่กล้าขนาดนี้เหมือนกัน”
หรรษาอยู่ในอารมณ์ที่ไม่รู้ว่าจะครางหรือหัวเราะออกมาดีเมื่อผมมุดหนีอายลงไปป้วนเปี้ยนกับสะดือรกๆของมันผมซุกหน้าลงไปตรงนั้น ทำทุกอย่างตามที่เคยได้รับรสสัมผัสมาจากหรรษา มันตอบสนองผมกลับมาได้สะท้านที่สุด ในความเร่าร้อนของผมทำให้หรรษาขมปากสะกดอารมณ์ไม่ให้ถึงที่หมายก่อนเวลาอันควรอยากยากลำปาก เราประกบปากแลกเอนไซม์กันหลายต่อหลายครั้ง ลิ้นร้อนพัวพันกันจนไม่มีที่ว่างให้ลมหายใจลอดผ่าน ผมวนลิ้นไล้เลียนขึ้นลงตั้งแต่หน้าผากยันปลายเท้า แกนกลางลำตัวประท้วงตั้งตรงแต่ผมแกล้งมองข้ามจนหรรษากัดฟันกรอด ที่สุดของความอดทนคือผมต้องกลายมาเป็นฝ่ายอยู่เบื้องล่างอีกครั้ง คราวนี้หรรษาไม่ปล่อยให้ผมได้แสดงฝีมืออีกแล้ว ลิ้นร้อนและมือของมันสั่งสอนผมจนเสียวกระสันไปทั้งตัว ส่วนกลางลำตัวถูกครอบครองด้วยปากลากขึ้นลงเป็นจังหวะและดูดกินน้ำหวานภายในอย่างหื่นกระหาย ผมร้องออกมาอย่างต้องการที่จะปลดปล่อย มือผมสาวเนื้อร้อนกลางตัวหรรษาตามแรงอารมณ์ที่ถาโถมเข้ามาเป็นจังหวะถี่ระรัว มันพลิกตัวผมให้ยืนเหมือนเจ้าถาโถม ในขณะที่มันลงลิ้นเปิดทางให้ตรงนั้นพร้อมที่จะรับเนื้อร้อนในมือผมเข้าไป
“อ๊ะ เดี๋ยวก่อนหรรษา”
ผมร้องห้ามเสียงพร่าสั่น ภายในช่องทางคับแคบนั้นติดตุบๆไม่ต่างจากจังหวะหายใจ
“หืม เป็นไรไปเหรอ กลัวหรือว่าไม่พร้อม”
เสียงของหรรษาก็บ่งบอกความต้องการไปสุดทางแล้วเหมือนกัน
“ไม่ใช่ทั้งสองนั่นแหละ กูแค่จะถามว่ามึงมีถุงยางแล้วเหรอ”
“อยู่ดีๆทำไมถามหาถุงยาง หรือว่ามึงอยากได้รสชาติใหม่ๆนอกเหนือจากรสธรรมชาติของกูใช่มั้ย”
“เปล่า แต่แม่บอกว่าเวลามีอะไรกับใครต้องใส่ถุงยางนะมึง”
“แล้วถ้ามีอะไรกับผัวตัวเองล่ะ”
“สะ สดก็ได้มั้ง”
หน้าตาเหยเกของหรรษาตอนนี้บอกผมว่ามันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ผมเชิดหน้าขึ้นพร้อมหลับตาปี๋อีกครั้ง ก่อนที่ผมจะล่องลอยไปในท้องฟ้าที่ขาวโพลน
สิ่งที่เกิดขึ้นมาในวันนี้เติมเต็มส่วนที่ผมไม่เคยจดจำในวันแรกที่เราพบกันจนนเต็มอิ่ม วันที่เราเป็นแค่คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกันจวบจนกระทั่งวันนี้ วันที่สถานการณ์คล้ายคลึงกันแต่ความรู้สึกและสถานะของเราแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ในเวลาที่ความหฤหรรษ์ของผมถูกนำพาไปยังจุดสูงสุดก่อนจะถูกคนๆเดียวกันกระชากลงมาในจุดที่ต่ำที่สุดเป็นจุดที่ความทรมานถูกแปรแปรเป็นความสุข วันที่ผมสามารถระบายความเสียวซ่านที่อัดอั้นอยู่ภายในเป็นชื่อของใครสักคนที่ผมเรียกเขาว่าคนรัก ผมจดจำทุกความละมุน เร้าร้อน หรือความอ่อนหวานที่หรรษามอบให้ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ มันเกิดขึ้นหลังจากรักที่อุบติขึ้นมาเร็วเกินเหตุจนผมตั้งตัวไม่ทัน ผมถึงได้รู้ว่าวันแรกที่เราพบกันกับวันนี้นั้นมันต่างกันมากขนาดไหน
ตกลงวันนั้นผมถูกข่มขืนหรือสมยอมกันนะ?
ช่างมันเถอะ!!
ในเมื่อตอนนี้
ผมมีความสุขที่หลังจากเมื่อเราตื่นขึ้นมาแล้วเราก็จะยังนอนกอดกันและยิ้มทักทายในเช้าของวันใหม่อยู่ ไม่ใช่เช้าที่จู่ๆผมก็ตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงงและเจ็บปวด ก่อนจะหนีหัวซุกหัวซุนกลับบ้าน
มันจะไม่เป็นอย่างวันนั้นอีกแล้ว
รักอุบัติขึ้นมาเร็วเกินเหตุก็จริง
แต่ผมมั่นใจว่า
มันจะคงอยู่อย่างนั้นไปตราบนานเท่านาน


THE END..


✄  - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

สำหรับอุบัติรักเร็วเกินเหตุที่เดินทางมาจนถึงสุดทางได้ ต้องขอขอบคุณคนอ่านทุกคนด้วยนะคะ ที่ติดตาม รอคอย ทวงถาม รวมถึงคนที่คอยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวและตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้
.
.

อย่างที่เคยบอก ตั้งแต่กลับมาเป็นพนักงานออฟฟิศอีกครั้ง เวลาของตูนที่เคยมีก็หายไป หน้าที่ความรับผิดชอบรวมถึงวัยที่เพิ่มขึ้นทำให้อะไรๆก็ไม่ได้ดั่งใจอย่างเดิมซะแล้ว การกลับมาครั้งนี้ ตูนใช้เรื่องนี้เป็นการอุ่นเครื่องให้ตัวเองและมันก็ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นเช่นเคย ทั้งๆที่ตูนมีเรื่องที่แต่งค้างเอาไว้อยู่แล้ว หลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่า ตูนดองเรื่อง Absolute Boyfriend เอาไว้นะคะ กำลังจะปัดฝุ่นและต่อมันให้จบตามแต่สถานการณ์จะอำนวยค่ะ  :mew2:
.
.

ตั้งแต่แต่งนิยายมา ทุกเรื่องที่จบลง ตูนจะรวมเล่มทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกันค่ะ ตูนเองก็อยากเก็บผลงานตัวเองไว้เป็นรูปเล่มนิยายเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกเหมือนกัน ไม่เน้นขายเป็นหลัก และราคานิยายตูนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับว่าเข้ามาอ่านฟรีในเล้าเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะตูนไม่เคยลบนิยายเพื่อส่งเสริมการขายเลย อยากให้คนซื้อ ซื้อเพราะอยากเก็บ ซื้อเพราะจะเอาออกมาอ่าเมื่อคิดถึงนะคะ^^
.
.

ขอบคุณทุกคนเช่นเคย ขอบคุณมากนะคะ

รายละเอียดการเปิดจองอยู่ด้านล่างค่ะ
V
V
V

ออฟไลน์ Seiki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2726/-64
▓▒░เปิดจอง :: อุบัติรักเร็วเกินเหตุ ░▒▓วันนี้-30 มิถุนายนนี้เท่านั้น

หนังสือมี 2 เล่มจบ (จำนวน 650++)

ตอนพิเศษไม่ลงในเล้า

ที่คั่นแม่เหล็กตามมาตรฐาน TRomance

ปกกระดาษคราฟ ลงสปอต uv ปั๊มนูน

ราคา 765 บาท (รวมค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน) ที่ผ่านการแพ็คแบบซีลพลาสติก ห่อกันกระแทกและหุ้มมุมหังสือด้วยโฟมก่อนลงกล่องไปรษณีย์

ปกจะนำมาให้ชมเร็วๆนี้นะคะ (ทำไม่ทันจริงๆ)

หากสนใจ Mail ไปจองได้ที่ romancefic แอด hotmail.co.th
ระบุ ชื่อ/log in
เบอร์โทร
เรื่องที่จอง
จำนวนที่จอง
หลังจากได้รับเมลล์ในการจองแล้ว ทีมงานจะส่งรายละเอียดเกี่ยวกับการโอนเงินไปให้ค่ะ

สอบถามรายละเอียดอื่นๆได้ที่ TRomance'Fanpage นะคะ



เปิดรีปริ้นท์ ครั้งที่ 6 สำหรับหนังสือของ TRomance ทุกเรื่อง และ ของคุณเซ็งเป็ด

แจ้ง

ชื่อ  Login
เบอร์โทร
ชื่อหนังสือ และ จำนวนที่ต้องการ (ดูชื่อเรื่องและราคาหนังสือได้ที่ด้านล่าง)


ส่งเมล์ไปที่ romancefic [at] hotmail.co.th

รอรับเมล์ตอบกลับภายใน 2 วัน ปิดจองวันที่ 30 มิถุนายน 2557




1. เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็นตะวัน (2 เล่มจบ) ราคา 700 บาท + ค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน 65 บาท/ชุด
>>>> สั่งซื้อ (Click ที่ชื่อเรื่อง) <<<<








2. [ภูตะวัน vs เพียงดิน] เมียคนนี้มีดีกรีเป็นนักเลง (2 เล่มจบ)  ราคา 750 บาท + ค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน 65 บาท/ชุด
>>>> สั่งซื้อ (Click ที่ชื่อเรื่อง) <<<<









3. เด็กป๋า (2 เล่มจบ) ราคา 850 บาท + ค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน 65 บาท/ชุด
>>>> สั่งซื้อ (Click ที่ชื่อเรื่อง) <<<<








4.    คุณคนเดียวแต่เราสองคน (1 เล่มจบ) ราคา 350 บาท + ค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน 50 บาท/ชุด 
>>>> สั่งซื้อ (Click ที่ชื่อเรื่อง) <<<<








5. สิงหา กุมภา ทราบแล้วไม่เปลี่ยน (1 เล่มจบ) ราคา 450 บาท + ค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน 50 บาท/ชุด
>>>> สั่งซื้อ (Click ที่ชื่อเรื่อง) <<<<







6. Unequality รักเราไม่เท่ากัน ไม่มีใครรักฉันได้เท่าเธอ  (1 เล่มจบ) ราคา 350 บาท + ค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน 50 บาท/ชุด
>>>> สั่งซื้อ (Click ที่ชื่อเรื่อง) <<<<








7. ซีรีย์รักพยางค์เดียว "ขอ"

อ่านนิยายทั้งหมดได้ที่นี่ >>>> ซีรีย์รักพยางค์เดียว {ขอ}
ราคาชุดละ 350 บาท (รวมค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน)
คลิ๊ก----> สั่งซื้อหนังสือ ซีรีย์รักพยางค์เดียว "ขอ" <---- คลื๊ก




8. นิรันดร์...รักนี้บันดาลผ่านฟ้า

อ่านนิยายทั้งหมดได้ที่นี่ >>>> นิรันดร์...รักนี้บันดาลผ่านฟ้า
ราคาชุดละ 550 บาท (รวมค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน)
คลิ๊ก----> สั่งซื้อหนังสือ นิรันดร์...รักนี้บันดาลผ่านฟ้า <---- คลื๊ก





9. นายโลมกับรักจนตรอก (2 เล่มจบ)

อ่านนิยายทั้งหมดได้ที่นี่ >>>> นายโลมกับรักจนตรอก
ราคาชุดละ 950 บาท (รวมค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน)
คลิ๊ก----> สั่งซื้อหนังสือ นายโลมกับรักจนตรอก <---- คลื๊ก






10. A Moment in Siam (กาลครั้งหนึ่ง ณ สยาม) โดยเซ็งเป็ด (2 เล่มจบ

เนื้อหาตั้งแต่ต้นจนจบ อ่านได้ที่ A moment in Siam กาลครั้งหนึ่ง ณ สยาม
ราคาชุดละ 900 บาท (รวมค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน)
---->>สั่งซื้อหนังสือ คลิ๊ก <<---






ติดตามความคืบหน้าได้ที่ https://www.facebook.com/utellido

และที่ https://www.facebook.com/TRomanceFic
=== หนังสือ TRomance ทุกเรื่อง เปิดจำหน่ายเป็น E-Book แล้ว===

ติดตามความคืบหน้าได้ที่ https://www.facebook.com/utellido

และที่ https://www.facebook.com/TRomanceFic




เปิดรีปริ้นท์ ครั้งที่ 6 สำหรับหนังสือของ TRomance ทุกเรื่อง และ ของคุณเซ็งเป็ด

แจ้ง

ชื่อ  Login
เบอร์โทร
ชื่อหนังสือ และ จำนวนที่ต้องการ (ดูชื่อเรื่องและราคาหนังสือได้ที่ด้านล่าง)


ส่งเมล์ไปที่ romancefic [at] hotmail.co.th

รอรับเมล์ตอบกลับภายใน 2 วัน ปิดจองวันที่ 30 มิถุนายน 2557



A Moment in Siam (กาลครั้งหนึ่ง ณ สยาม) โดยเซ็งเป็ด

เนื้อหาตั้งแต่ต้นจนจบ อ่านได้ที่ A moment in Siam กาลครั้งหนึ่ง ณ สยาม
ราคาชุดละ 900 บาท (รวมค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน)
---->>สั่งซื้อหนังสือ คลิ๊ก <<---

>>>> สั่งซื้อ E-Book "A Moment in Siam" จาก OOKBEE Click <<<<

  >>>> สั่งซื้อ E-Book "A Moment in Siam" จาก MEB คลิ๊ก <<<< 






1.   เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็นตะวัน (2 เล่มจบ) ราคา 700 บาท + ค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน 65 บาท/ชุด
>>>> สั่งซื้อ (Click ที่ชื่อเรื่อง) <<<<


  >>>> สั่งซื้อ E-Book "เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็นตะวัน"  จาก OOKBEE Click <<<<

  >>>>  สั่งซื้อ E-Book "เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็นตะวัน"  จาก MEB Click <<<<







2.   [ภูตะวัน vs เพียงดิน] เมียคนนี้มีดีกรีเป็นนักเลง (2 เล่มจบ)  ราคา 750 บาท + ค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน 65 บาท/ชุด
>>>> สั่งซื้อ (Click ที่ชื่อเรื่อง) <<<<


  >>>> สั่งซื้อ E-Book "[ภูตะวัน vs เพียงดิน] "  จาก OOKBEE Click  <<<< 

  >>>>  สสั่งซื้อ E-Book "[ภูตะวัน vs เพียงดิน] " จาก MEB Click <<<<







3.   เด็กป๋า (2 เล่มจบ) ราคา 850 บาท + ค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน 65 บาท/ชุด
>>>> สั่งซื้อ (Click ที่ชื่อเรื่อง) <<<<


  ส>>>> สั่งซื้อ E-Book "เด็กป๋า" จาก OOKBEE Click <<<< 

  >>>>  สั่งซื้อ E-Book "เด็กป๋า" จาก MEB Click <<<<







4.    คุณคนเดียวแต่เราสองคน (1 เล่มจบ) ราคา 350 บาท + ค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน 50 บาท/ชุด 
>>>> สั่งซื้อ (Click ที่ชื่อเรื่อง) <<<<


  >>>> สั่งซื้อ E-Book "คุณคนเดียวแต่เราสองคน" จาก OOKBEE Click <<<< 

  >>>>  สั่งซื้อ E-Book "คุณคนเดียวแต่เราสองคน" จาก MEB Click <<<<







5.   สิงหา กุมภา ทราบแล้วไม่เปลี่ยน (1 เล่มจบ) ราคา 450 บาท + ค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน 50 บาท/ชุด
>>>> สั่งซื้อ (Click ที่ชื่อเรื่อง) <<<<


  >>>> สั่งซื้อ E-Book "สิงหา กุมภาฯ" จาก OOKBEE Click <<<< 

  >>>>  สัั่งซื้อ E-Book "สิงหา กุมภาฯ" จาก MEB Click <<<<







6.   Unequality รักเราไม่เท่ากัน ไม่มีใครรักฉันได้เท่าเธอ  (1 เล่มจบ) ราคา 350 บาท + ค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน 50 บาท/ชุด
>>>> สั่งซื้อ (Click ที่ชื่อเรื่อง) <<<<


  >>>> สั่งซื้อ E-Book "Unequality" จาก OOKBEE Click <<<< 

  >>>> ส ั่งซื้อ E-Book "Unequality" จาก MEB Click <<<<







7. lovefloods รักแท้ไม่แคร์น้ำท่วม (E-Book)

  >>>> สั่งซื้อ E-Book "lovefloods" จาก OOKBEE Click <<<< 

  >>>>  สั่งซื้อ E-Book "lovefloods" จาก MEB Click <<<<







8.ซีรีย์รักพยางค์เดียว "ขอ"

อ่านนิยายทั้งหมดได้ที่นี่ >>>> ซีรีย์รักพยางค์เดียว {ขอ}
ราคาชุดละ 350 บาท (รวมค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน)
คลิ๊ก----> สั่งซื้อหนังสือ ซีรีย์รักพยางค์เดียว "ขอ" <---- คลื๊ก

  >>>> สั่งซื้อ E-Book "ซีรีย์รักพยางค์เดียว 'ขอ'" จาก OOKBEE คลิ๊ก <<<< 

  >>>> ส สั่งซื้อ E-Book "ซีรีย์รักพยางค์เดียว 'ขอ'" จาก MEB คลิ๊ก <<<< 




9. นิรันดร์...รักนี้บันดาลผ่านฟ้า

อ่านนิยายทั้งหมดได้ที่นี่ >>>> นิรันดร์...รักนี้บันดาลผ่านฟ้า
ราคาชุดละ 550 บาท (รวมค่าจัดส่งชนิดลงทะเบียน)
คลิ๊ก----> สั่งซื้อหนังสือ นิรันดร์...รักนี้บันดาลผ่านฟ้า <---- คลื๊ก

  >>>> สั่งซื้อ E-Book "นิรันดร์...รักนี้บันดาลผ่านฟ้า" จาก OOKBEE คลิ๊ก <<<<

  >>>> สั่งซื้อ E-Book "นิรันดร์...รักนี้บันดาลผ่านฟ้า" จาก MEB คลิ๊ก <<<< 






ติดตามความคืบหน้าได้ที่ https://www.facebook.com/utellido

และที่ https://www.facebook.com/TRomanceFic

=== หนังสือ TRomance ทุกเรื่อง เปิดจำหน่ายเป็น E-Book แล้วที่ MEB และ OOKBEE ===

ติดตามความคืบหน้าได้ที่ https://www.facebook.com/utellido

และที่ https://www.facebook.com/TRomanceFic



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-04-2014 01:26:50 โดย Seiki »

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
ตอนจบยาวเวอร์เลย รอจะจิ้มตั้งแต่รีที่สองแหละ จนแล้วจนรอด็ได้จิ้ม อิอิ
ในที่สุดก็ลงเอยกันด้วยดี ผลแห่งการฝ่าฟันอุปสรรคของทั้งสองก็เห็นผล แต่ก็อยากให้ไอ้เพทายรับกรรมในสิ่งที่ตัวเองทำ
ขอบคุณครเขียนสำหรับนิยายดีๆ ฮาๆ เรื่องนี้นะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-04-2014 20:44:21 โดย Chichi Yuki »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด