มาต่อให้แล้วครับ.....
ขอโทษนะครับที่มาต่อให้ช้าไปไปหน่อยนึง(หรือเปล่า)
เอาหล่ะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา.....มาอ่านกันเลยนะครับ....
----------------------------------------------------------------------------
พอคุยกับเจ้าหน้าที่หอเสร็จผมอึ้งไป......คิดไม่ออกจริงๆ ว่าทำไมทีถึงย้ายออก
ไปอยู่หอนอกกัน.........ใครกันที่เป็นตัวต้นคิดที่จะย้ายออกไป.........แล้วทำไมต้อง
ย้ายออกไปด้วย.......ทั้งหมดเป็นคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวของผมระหว่างที่ผม
กำลังเดินไปเรียน……
.
.
วันนี้ทั้งวันผมรู้สึกหมดกำลังใจ....หมดเรี่ยวแรงยังไงก็ไม่รู้บอกไม่ถูก
พอกลับมาถึงห้อง.....ก็ล้มตัวลงนอน....ทำตัวประหนึ่งคนไม่มีชีวิตชีวาเลยทีเดียว
ตอนนี้...สิ่งที่ผมรู้สึกก็คือว่าผมกับทีอยู่ห่างกันออกไป......อยากบอกว่าผมไม่ได้เว่อร์
นะครับ......ตลอดเวลาที่เราอยู่หอในด้วยกัน.....ผมรู้สึกว่าเราอยู่ใกล้กัน......
ผมรู้สึกเหมือนกับว่าเราอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน......ถึงแม้ว่ามันจะมีหลายห้องมากไปหน่อย
ก็ตาม.....แต่ไม่ว่าเมื่อไรที่ผมคิดถึงที.....เราก็จะสามารถไปมาหากันได้อยู่ตลอดเวลา....
.
.
.
.
แล้วตอนนี้หล่ะ.....นอกจากทีจะกำลังโกรธผมด้วยเรื่องอะไรก็ไม่รู้.....ทีอยู่ห่างผมออกไป
อีก......ถ้าเกิดผมรู้สึกคิดถึงที.....อยากเจอหน้าที......อยากกุ๊กกิ๊กัน......แล้วผมจะทำอย่างไร
เราจะเจอกันได้ยังไง.....
.
.
.
....
..
.
“ทีทำแบบนี้....ทีไม่แคร์กันเลยใช่ไม๊.....ทีไม่คิดจะอยากเจอกับเราอีกเลยหรือไง”
ผมถามทีในใจ…..พร้อมกับนั่งน้ำตาซึม.......
“ที....เราผิดอะไร.....ทำไมต้องทำกับเราขนาดนี้.....ทีทำยังกับว่าไม่อยากจะเจอกับ
เราอีกเลยยังงั้นอ่ะ”.....จบคำถามนี้น้ำตามันเอ่อล้นออกจากเบ้าตา......ค่อยๆ ไหล
ลงมาเป็นทาง.......พร้อมกับเสียงสะอื้นเบาๆ ของผม.......
.
.
.....
.
.
...
ผมหลับไปนานเกือบ 2 ชม.......ตื่นมาอีกทีก็เกือบ 6 โมงครึ่งแล้ว.......ผมไปล้างหน้า
ล้างตาที่ห้องน้ำ.....แล้วเดินลงไปกินข้าว.......
.
.
.
....
ขณะที่กำลังจะถึงโรงอาหาร.......ผมเห็นทีซ้อนมอไซด์รับจ้างมา.....และมอไซด์ก็กำลัง
จะจอดที่หน้าโรงอาหาร........ผมปิ๊งขึ้นมาทันที.....ทีมันชอบกินข้าวที่ร้านอาหารที่โรง
อาหารหอนี้นี่นา......สงสัยทีมันคงจะมากินบ่อยๆ แน่ๆเลย......
ผมยืนมองทีอยู่ห่างๆ......อยากจะเข้าไปหา.......แต่ก็ไม่กล้า.......กลัวทีจะไม่คุยด้วย....
แล้วเดี๋ยวผมจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่.......ผมยังไม่อยากเปิดตัวกับทีตอนนี้กลางโรงอาหาร
ผมเดินตามทีอยู่ห่างๆ ไม่ให้ทีรู้ตัว...... เดินตามทีไปซื้อข้าวที่ร้านประจำของที......
เดินตามทีไปซื้อน้ำปั่นที่ร้านประจำของผม......แล้วก็เดินตามทีอย่างห่างๆ ไปเรื่อยๆ
จนกระทั่ง......ทีโบกรถมอไซด์รับจ้าง......ผมยืนมองทีลับตาไปอย่างห่างๆ.......
พอทีลับตาไปแล้ว.....ผมกลับไม่รู้สึกหิวแล้ว.......รู้สึกน้อยใจ.....น้อยใจว่าทีไม่คิดจะเงย
หน้าหรือหันหน้ามาทางหอ.....ทีไม่คิดจะเดินขึ้นมาหาผมที่เลยสักนิดเลยหรือไง
ที.....ที่ผ่านมา......แค่ระยะสั้นๆ ที่นายทำดีกับเรา......ที่เราได้กุ๊กกิ๊กกัน
มันเป็นอารมณ์ส่วนไหนของนาย.......หรือนายก็เป็นคนเหมือนผู้ชายทั่วๆไป
ที่ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับความรัก.....เห็นความรักเป็นแค่เซ็กส์........
.
.
.
แต่อย่างไรก็ก็ตาม.....ตอนนี้ผมมีสองความรู้สึกหลังจากที่ได้เจอกับที
ความรู้สึกแรกคือรู้สึกดีใจที่ได้เห็นหน้าที......หลังจากที่ผมไม่ได้เห็น
หน้าสุดที่รักของผมมานานเหลือเกิน.......อีกความรู้สึกนึงก็รู้สึกเศร้า
เหลือเกินที่ผมมีโอกาสเพียงแค่มองห่างๆ......
สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เข้าใจตัวเองเลยก็คือ.......ทำไมผมถึงได้ต้องการผู้ชาย
คนนี้นัก........ทำไมผมถึงได้ตัดผู้ชายคนนี้ออกไปจากชีวิตของผมไม่ได้เลย
ทั้งๆ ที่ผู้ชายคนนี้เค้าเองก็ไม่ได้รักผม.....ไม่ได้ต้องการผมเท่ากับที่ผม
ได้ให้กับเขา........
......
ผมรอเวลาได้สัก 10 นาที.....ซึ่งเป็นเวลาที่ทีน่าจะไปถึงหอนอกได้แล้ว.....
ผมลองกดโทรศัพท์หาที........เผื่อทีจะรับ........เผื่อผมจะได้คุยกับเขา
.
.
ตู๊ดดดดดด........
“ฮัลโหล” ทีรับสาย
“ที......” ผมดีใจ พูดออกแค่คำเดียว.....
“มีไรว่ามา.....เราจะกินข้าว”
“อ่อ.....ไม่มีอะไร......แค่ดีใจที่ทีรับสายเราแล้ว”
“ก็รับไปอย่างงั้นแหละ ก็แค่อยากช่วยผลาญเงินในมือถือก็เท่านั้น”
“..........................” ผมพูดต่อไปถูกเลย
“มีไรป่ะเนี่ย....ถือนานๆ มันเมื่อย”
“ไม่มีไร.......แค่อยาบอกว่าดีใจ...ที่เมื่อกี๊เราเห็นทีที่โรงอาหารด้วย”
“แค่นี้ก็ดีใจแล้วเนี่ยนะ บ้าป่ะ”
“.........”
“เออๆ แค่นี้แหละ จะไปกินข้าวแล้ว”
“เดี๋ยวก่อน...”
“ไร”
“แล้วเราจะโทรหาทีอีกได้ไม๊”
“ถ้าว่าง หรือถ้ามีอารมณ์ก็จะรับ แค่นี้นะ บาย”
--------------------------------------------------------------------
ไว้มาต่อให้ใหม่นะครับ......ต้องไปทำอย่างอื่นก่อนแล้ว.......ยุ่งมากครับ