ร้ายที่ 23 ผมว่ามันกำลังเป็นบ้าอะไรสักอย่าง . . และมันทำอย่างนั้นก็ทำให้ผมยิ่งบ้ามากไปกว่ามันเป็นหลายเท่าตัว
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอีกต่อไปที่บางทีมันก็พยายามหลบหน้าผม ตอนแรกผมคิดว่ามันอาจจะไม่เห็นผมแต่ทุกครั้งที่อยู่มหาวิทยาลัยและบังเอิญเกิดเดินสวนกันขึ้นมา มันจะเดินหนี มันจะหลบ มันจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้ผมไม่โผล่หน้าไปคุยกับผม แม้กระทั่งกับคำสั้นๆก็ตาม
“เป็นเหี้ยไรมากป่ะ!!!!” จู่ๆวันหนึ่งผมก็ทนไม่ไหว เลยตะโกนคำนี้ออกไปใส่มันจนมันสะดุ้งนิดหน่อย ขอย้ำว่านิดหน่อยจริงๆ
“อะไร”
“ทำไมต้องหลบหน้า ทำไมต้องเย็นชาใส่กู ทั้งๆที่จริงๆแล้ว . . มึงก็วนเวียนอยู่ใกล้ๆกูตลอด!”
“กูไม่เคยทำอย่างนั้น”
“แม่งเอ๊ย” โมโหมากเลยผลักมันแล้วก็เดินหนีไปแทน นี่ก็ปาเข้าไปเกือบจะครึ่งเดือนแล้วไอ้เชี่ยมังกรก็ยังทำตัวแบบนี้ให้ผมปวดหัวอยู่ได้
มันทำให้ผมมีทั้งความสุขและก็ความทุกข์อยู่ในเวลาเดียวกันได้ยังไง!
วันนี้ผมเลยกะจะใช้แผนเข้าทางพ่อ . . บุกร้านน้ำเต้าหู้แม่มเลย . . เนื่องจากผมไม่ได้กินของฟรีมาหลายวันผมเลยกะจะมาเสียตังค์สักหน่อย พอถึงหน้าบ้านมัน ผมก็เดินตึงตังเข้าไปในร้านที่อาแปะอาม่ามากินกันเพียบ
“คุณเจ้านาย” พ่อไอ้มังกรวางมือทันทีแล้วรีบมาต้อนรับผม “เป็นไงมาไงครับเนี่ย มาแต่เช้าเลย”
ผมรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยที่แด๊ดดี้ 2499 ของไอ้มังกรจะเปลี่ยนจากหลังเท้าเป็นหน้ามืออย่างนี้ ผมชอบเวลาที่แกเป็นกันเองมากกว่า มันระห่ำดีอ่ะครับ
“แหะๆ พอดีผมอยากกินเจ้านี่น่ะครับ” ผมชี้ส่งๆไปที่น้ำเต้าหู้ที่กำลังเดือดปุดๆ
“อ๋อ ได้เลยๆ ผมเองก็สงสัยว่าทำไมเจ้ามังมันไม่ยอมเอาไปให้คุณเจ้านายเหมือนเดิม”
สะกิดแผลเล็กๆในใจได้ดีมากครับ ลุงเมฆ . . “แล้วมัน . .” ผมพยายามมองหาตัวต้นตอที่ทำให้ผมมาที่นี่(เหตุผลหลักมากกว่ามากินน้ำเต้าหู้อีกนะ)
“อ๋อ มันอยู่ไหนน่ะเหรอครับ” ลุงเมฆก็พยายามมองหาอยู่เหมือนกัน “ปกติป่านนี้มันจะตื่นแล้ว แต่หลังๆที่ไม่ได้ไปส่งน้ำเต้าหู้ให้คุณเนี่ย มันก็ตื่นสายตลอดน่ะครับ”
“เหรอครับ” หนอย . . ทำอะไรก็ทำไม่ได้ตลอด ไอ้สัด
“คุณขึ้นไปปลุกมันได้นะครับ”
“ครับ?” ผมหูผึ่งหางกระดิกทันทีที่ได้ยิน เอ่อ ไม่มีหาง แต่จะบอกว่ากระตือรือร้นจนเกินไปที่ได้ยินลุงเมฆเปิดไฟเขียวให้
“ช่วงนี้มันก็ซึมๆไป ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ไปดูมันหน่อยนะครับ”
. . เป็นเชี่ยไรของมัน ผมไม่รู้ว่ามันซึมลงอย่างที่พ่อมันบอกรึเปล่าเพราะปกติเวลาที่ผมเห็นนั้นมันจะทำหน้าเย็นชาและก็เดินหนีผมเสมอ
เมื่อผมได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปดูไอ้มังกรบนห้องแล้ว มีหรือที่ผมจะปล่อยให้โอกาสที่สุดแสนจะหายากนี้หลุดลอยไป ผมค่อยๆขึ้นบันไดไม้ที่มีอุปกรณ์ทำมาหากินของร้านน้ำเต้าหู้วางอยู่ตามขั้นบันไดจนในที่สุดผมก็หยุดจังงังอยู่ที่ประตูสองบานฝั่งซ้ายฝั่งขวา บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลย อีกทั้งยังเก่าแก่และก็ทรุดโทรม สวนทางกับใบหน้าที่โคตรดูมีอันจะกินของไอ้มังกรจริงๆ
ผมมองซ้ายมองขวา ประตูซ้ายมีโปสเตอร์เป็นหนังเรื่อง 2499 อันธพาลครองเมืองที่พี่ติ๊กเล่นเป็นพระเอกอยู่ เอ่อ . . ประตูขวามีรูปมังกรสีทองพื้นสีดำแปะอยู่รู้เลยว่าห้องใคร . .
ผมเดินขึ้นไปหยุดอยู่ตรงหน้าห้อง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และก็เตรียมตั้งท่าที่จะเคาะ
แต่ผมชะงักตัวเองไว้ได้ทัน มันหลบหน้าผมเกือบจะเป็นเดือน ถ้าผมเคาะแล้วบอกกับมันว่าเฮ้ หวัดดีเป็นไง กูเจ้านายเอง สบายดีป่ะสาดดดดด มันจะเปิดให้ผมเหรอครับ ผมว่าไม่นะ . .
รู้ละ เปิดแม่งเลยดีกว่า หึ มันคงอยู่ในห้องนี่แหละ หนีผมไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ
พรึ่บ! ไวเท่าความคิดผมเปิดประตูห้องนอนของไอ้มังกรทันที สิ่งที่เห็นคือห้องที่ค่อนข้างจะมีอะไรเก็บเยอะแยะในพื้นที่ที่จำกัด และที่นอนอยู่บนฟูกที่หนาเกือบฟุตนั่น . . คือไอ้มังกร ผู้ชายที่ทำให้ผมปวดเศียรเวียนเกล้ากับมันอย่างไร้เหตุผล มันกำลังหลับปุ๋ย
มังกรหลับ ไร้ซึ่งอิทธิฤทธิ์ และพิษสงใดๆ
ผมเงื้อมมือจะฟาดหน้าแม่งด้วยความหมั่นไส้ แต่ก็กลัวว่าแฟนคลับของมันจะมาก่นด่าผมในใจก็เลยไม่ทำ นั่งลงแถวนั้นแล้วมองไปรอบๆห้องแทน
ไอ้เชี่ยนี่จัดห้องได้ค่อนข้างเป็นระเบียบ ถึงแม้ว่าของจะเยอะแต่ก็ดูเป็นสัดเป็นส่วน ท่าทางจะยังชอบอะไรแบบเด็กๆเพราะการ์ตูนและก็ดีวีดีการ์ตูนนี่ให้รึ่ม โปสเตอร์ที่มันแปะอยู่ทั่วห้องก็เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ทั้งนั้น ดูเหมือนตัวที่มันโปรดที่สุดคือเดอะฮัลค์นะ มีเพราะโมเดลเดอะฮัลค์แทบจะทุกไซส์วางอยู่บนโต๊ะหนังสือของมัน
และกรอบรูปบนโต๊ะนั่น . .
จะเป็นใครไม่ได้นอกจากพี่แมท
“ลิน ใครบอกให้แอบเข้ามาในห้องผม” มังกรพูดขึ้นมาทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา แม่งเอาผ้าห่มมาคลุมโปงหลังพูดจบด้วย
ลินไหนวะไอ้เหี้ย . . พ่องดิ
“ไอ้ฟาย” ผมพึมพำ
แน่นอนว่าทำให้มันดึงผ้าห่มออกและก็ลุกขึ้นมานั่งทันที “มึง!”
“กูเองนี่แหละ”
“ใครใช้ให้มึงมา ออกไป”
“พ่อมึงนั่นแหละ”
มันจิ๊ปาก ค่อนข้างที่จะขัดใจมันอยู่เหมือนกันมั้งกับการที่ได้เห็นผมบนนี้
“ทำไม ผิดหวังเหรอที่ไม่ใช่ลิน”
มันนิ่งคิดเพียงครู่เดียว “เออดิ”
ไม่รู้ว่ามันพูดจริงหรือพูดเล่น ใบหน้าของมันผมอ่านไม่ออกเสมอ ยิ่งเป็นคนหน้านิ่งๆแบบนี้ด้วยแหละ แนวโน้มไปทางพูดจริงน่าจะมีสูงกว่าพูดเล่น
มันน่าอารมณ์เสียมั้ยล่ะ ? “สมน้ำหน้า”
“ออกไป”
“ไม่”
“ทำไม”
“จนกว่ามึงกับกูจะพูดกันให้รู้เรื่อง”
มันชะงัก แต่ก็ยังนิ่งอยู่ “ไม่เห็นมีอะไรที่จะต้องคุยกัน”
“มึงเปลี่ยนไปตั้งแต่ที่มึงจูบกู” ป๊าดดดดดด ขอชาบูตัวเองจริงๆที่พูดออกไปได้อย่างเต็มปาก
มังกรนิ่งและก็หลุบตาลงต่ำทันที ผมจึงรีบถาม
“มึงเป็นเหี้ยอะไร”
“มึงมันคิดไปเอง” ให้ตาย มังกรพูดในคำที่ผมโคตรจะเกลียด
“ว่าไงนะ”
“กูไม่ได้เป็นอะไร ออกไปจากห้องกูได้แล้ว”
“. . .”
“เลิกยุ่งกับกูเถอะ”
ทำไมมันพูดแบบนี้ . . ผมได้ยินอย่างนั้นผมถึงกับปากสั่นตัวสั่นด้วยความคาดไม่ถึง
“เลิกยุ่งกับกูซะ”
“กูทำผิดอะไร”
“. .”
“. .”
“มึงไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก”
“. .”
“ไม่มีใครผิดทั้งนั้น”
“. .”
“เลิกยุ่งกับกู”
“เป็นเหี้ยอะไร!” ผมทนไม่ไหว เลยลุกขึ้นยืนแล้วก็ถีบอกมันให้ล้มลงไปนอนตามเดิมด้วยความโมโห “ทำไมมึง . .พูดเหี้ยๆแบบนั้น . .ทำไม” ผมเรียบเรียงคำพูดของตัวเองไม่ถูก เพราะหน้าตาที่จริงจัง เฉยชาของมันนั่นแหละที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้
ผมเพิ่งรู้ว่ามันอิทธิพลกับผมมากขนาดไหน . .
“กลับไปซะ”
“มังกร . . ใครมาเหรอ” บุคคลที่เพิ่งมาใหม่เดินเข้ามาในห้องพร้อมๆกับใบหน้าที่งงงวย แต่พอเห็นผมเธอก็เปลี่ยนสีหน้าทันที
ลิน . .
ให้ตาย . .ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอกยังไงไม่รู้ คนนอกที่มาวิ่งขอความสนอกสนใจทั้งๆที่เขาไม่ได้สนใจอะไรผมเลย ผมมันโง่ชะมัดที่ทำตัวเองให้มาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ สถานการณ์ที่ว่าผมตกเป็นสองรองคนอื่น ทั้งๆที่ผมต้องการที่จะเป็นที่หนึ่งเสมอมา
นี่มันอะไรกัน . . ไอ้ความรู้สึกผิดหวังที่ประเดประดังเข้ามาราวกับคลื่นลูกโตที่จะซัดผมให้ล้มลงไปให้ได้ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองยืนไม่ค่อยจะอยู่ และก็กลัวที่จะสบสายตากับใครในห้อง
“ขอโทษนะ” ผมพูดกับลินโดยไม่มองหน้า ก่อนที่จะเดินหนีออกจากห้องไป
หนีสถานการณ์ตกเป็นรองที่ผมแสนเกลียด หนีความจริงที่เพิ่งได้รับรู้ว่าเค้าสองคนอาจไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว หนีแม่งทุกอย่าง . . แต่ดูเหมือนจะมีอยู่อย่างเดียวที่ผมหนีมันไปไม่พ้นสักที
และผมก็กำลังรู้ตัว . . ว่าผมหนีความรู้สึกของตัวเองไม่ได้อีกแล้ว
มันเข้ามาในหัวใจของผม . .ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“เห้ย เป็นเหี้ยอะไร” หลังจากที่กลับมาจากบ้านไอ้มังกร ผมก็เดินโซซัดโซเซเข้ามาในบ้าน บ้านที่ร้อยวันพันปีจะไม่ค่อยมีใครอยู่ แต่วันนี้กลับมีคนอยู่ ซึ่งนั่นก็คือพี่ชายของผมเอง ผมที่เดินเข้าไปในบ้านได้ไม่ถึงครึ่งก้าวถูกพี่ชายของผมซักถามมาอย่างเข้าอกเข้าใจในตัวผมดีกว่าใคร “สัด ได้ยินกูถามป่ะ”
. . ได้ยิน แต่ไม่รู้จะตอบว่ายังไง
“ไม่สบาย?” ผมถูกพี่ขุนเอามือทาบที่หน้าผาก “ก็ไม่นี่หว่า เงินหด ตดหาย เพื่อนแช่ง คอนโดโดนโจรยกเค้า? อะไรวะ บอกกูมาดิ”
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ” ผมบอกเสียงเหนื่อยๆ
“บอกกูมาได้ กูพี่มึงนะ”
ผมรู้ครับว่าพี่ขุนเป็นห่วงผมมาก แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่ว่าจะอธิบายกันได้ง่ายๆ “นายขอโทษนะ”
“เป็นอะไร ทำไมต้องขอโทษ”
“ที่นายบอกพี่ขุนไม่ได้”
“. .”
“ขอโทษ”
เมื่อรู้ว่าซักยังไงผมก็ไม่ยอมตอบ พี่ขุนเลยปล่อยผมเดินขึ้นบันไดช้าๆอย่างกับคนที่มีแต่ตัวและไร้ซึ่งจิตวิญญาณ ราวกับคนอกหักยังไงยังงั้น
ใช่ ผมว่าผมกำลังอกหักและก็กำลังมีความรักในเวลาเดียวกัน แปลกที่ผมได้สัมผัสกับสองสิ่งนี้ไปพร้อมๆกัน มันช่างเป็นอะไรที่เจ็บปวดเกินจะทน ที่ผ่านมา มังกรมันทำให้ผมหวั่นไหวและใจสั่นวาบเพราะการกระทำของมันมาโดยตลอด แต่ทว่าบัดนี้ . . หรืออาจจะเรียกได้ว่าตั้งแต่มีจูบบ้าๆริ่มทะเลที่มันสร้างขึ้นมานั้น มันก็ดูเหมือนจะพยายามหายไปจากชีวิตผม และดีไม่ดีอาจจะคบกับลินไปแล้วก็ได้ . . ซึ่งนั่น . . มันทำให้ผมเจ็บ
ผมเจ็บ . .เมื่อผมรู้ว่าที่ผ่านมามันทำให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองแค่ไหน . . แต่มันกลับไม่คิดอะไรกับผมเลย . . ผมเจ็บ . . ที่จู่ๆผมก็พ่ายแพ้ให้กับผู้ชายด้วยกันที่แรกๆมาดีด้วยแต่หลังๆกลับหายหัว . .
ผมมันโง่เองสินะ โง่ที่ตกหลุมคนอย่างมันได้โดยง่าย แต่ดูเหมือนจะตกมานาน จนลืมตัวตนที่เคยเป็นไปจนหมด
ความรักทำให้คนเราโง่ได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ
งั้นถ้าจะทำอะไรโง่ๆอีกสักนิด . . คงไม่มีอะไรจะเสียหายอีกแล้วสินะ
สองร้ายในหนึ่งรัก *
การหนีหัวใจตัวเองเป็นเรื่องยาก หากเรายอมรับสิ่งที่เรารู้สึกแล้ว . . การบังคับให้ตัวเองไม่รักไม่รู้สึกอะไรกับเค้าคนนั้น . . มันกลับยากยิ่งกว่า
ผมรู้สึกเหมือนผมกำลังเดินอยู่ในเขาวงกตที่ไร้ซึ่งทางออก
เขาวงกตที่ว่านั่นก็คือสมองที่สวนทางกับหัวใจของผมเอง
“ลินแปลกใจนะเนี่ย ที่มังกรชวนลินออกมาข้างนอก” ลินชวนผมคุย “ลินดีใจมากเลยรู้มั้ย”
“. . ครับ”
ผมทำร้ายลินทางอ้อมหรืออาจจะเป็นทางตรง บางทีแมทอาจจะสาบแช่งผมด้วยการส่งสายฟ้าฟาดลงมาที่กบาลผมในวันใดวันหนึ่งก็เป็นได้ เพราะผมกำลังให้ความหวังน้องสาวของเขาอยู่ยังไงล่ะ
“วันนี้อากาศก็ดี๊ดี . . ดีเกินไปจนลินเริ่มรู้สึกว่าเหมือนฝนกำลังจะตก”
ผมเงยหน้าขึ้นมองฟ้า ใช่ ฝนกำลังจะตก ลินเตรียมร่มมาถือพร้อมๆกับส่งยิ้มสดใสมาให้ผม รอยยิ้มที่ชั่วขณะหนึ่งเคยจางหายไป บัดนี้กลับมายิ้มได้เหมือนเดิมอีกครั้ง ซึ่งลินชอบตอกย้ำเสมอว่าเป็นเพราะผม เพราะผมที่ทำให้เธอกลับมายิ้มได้ “มันกำลังจะตก”
“งั้นถ้ามันตก เราไปนั่งศาลาตรงนู้นมั้ย”
“. . ครับ”
“มังกรเป็นอะไร . .ดูไม่ค่อยพูดเลยนะ”
“. . เปล่านี่” อันที่จริงผมก็เป็นคนที่ไม่ค่อยพูดอยู่แล้วนี่หว่า
“ตั้งแต่ที่เจ้านายออกจากห้องไปวันนั้น . .”
ผมก้มหน้านิ่ง ไม่ตอบเธอ
“หรือตั้งแต่ที่จูบกับเจ้านายต่อหน้าลิน . .” เธอเริ่มมีโทสะ “มังกรรู้มั้ยว่าลินเจ็บมาก ทำไมต้องทำอย่างนั้นต่อหน้าลินด้วย มังกรก็รู้ว่ามังกรต้องไม่ทำให้ลินเจ็บ มังกรสัญญากับพี่แมทไว้แล้วนี่!”
เธอตอกย้ำเรื่องนี้เสมอจนผมเองก็ละอายแก่ใจที่ทำแบบนั้นต่อหน้าเธอ . . “ขอโทษครับ”
“ลิน . .ลินโกรธมังกรได้ไม่นานหรอก!” เธอผลักอกผมเบาๆ แต่ก็ยังคงเสียงดังอยู่ “อย่าทำอย่างนั้นอีกนะ เข้าใจมั้ยคะ”
“ . . ครับ”
“สัญญาแล้วนะ”
“. .”
ผมไม่รู้จะตอบกับเธอยังไง เพราะคำมั่นสัญญา หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมาในชีวิตของผม นำคนบางคนเข้ามา คนบางคนที่ผมสมควรจะเกลียดเขา แต่พอผมได้เห็นหน้าเขาและเฝ้าดูการกระทำของเขา ผมกลับเกลียดเขาไม่ลงเอาเสียเลย
ให้ตาย . .ไม่ว่าผมจะไปอยู่ไหนกับใคร เจ้านายก็มาปรากฏอยู่ในหัวของผมเสมอ
ผมควรจะเกลียดมัน . . แต่ผมไม่เคยเกลียดมัน ผมรู้ความจริงข้อนี้ดี
“มังกรว่า . .ป่านนี้พี่แมทจะเป็นไงบ้าง” ลินเงยหน้าขึ้นไปมองบนฟ้า
ผมรู้สึกเศร้าทุกครั้งที่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ คิดถึงเรื่องนี้ . .แต่ลินเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวของแมท ผมจึงต่อว่าเธอที่เอาแต่พูดถึงพี่ชายที่ล่วงลับของตัวเองไม่ได้ เพราะคนเป็นน้อง ยังไงก็ต้องคิดถึงคนเป็นพี่
คนเป็นเพื่อน . .ยังไงก็ต้องคิดถึงเพื่อน
“จีบนางฟ้าอยู่มั้ง”
“หึ นั่นสินะ” ลินพูดยิ้มๆ “พี่แมทของลินออกจะแสนดีและก็หล่อ นางฟ้าหลายคนต้องตกหลุมรักพี่แมทของลินแน่ๆเลย . .” น้ำตาเริ่มรื้นขึ้นมาที่ขอบตาของเธอ ผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เรื่องของแมททำเอาผมรู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วตัวเสมอ “ . . ลินคิดถึงพี่แมทนะ”
เสียงฟ้าร้องดังครืนเกิดขึ้นทันทีหลังจากที่ลินพูด ผมมองขึ้นไปบนฟ้า . .เผื่อบางทีไอ้แมทอาจจะมองลงมาที่ข้างล่างบ้าง
“ลินคิดถึง . .เวลาที่พี่แมทมารับลินที่โรงเรียน เวลาที่ต้องคุยโวกับเพื่อนๆว่าพี่ชายลินหล่อขนาดไหน เวลาที่พี่แมทกลับมาจากชกต่อย . . คิดถึงความทรงจำทุกๆอย่าง . .” ลินกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป “ทำไม . . ต้องพรากพี่แมทไปจากลินด้วย พี่แมท . .เพิ่งจะ ฮึก เพิ่งจะ . .ยี่สิบสามเองนะ”
ผมพยายามสะกดความรู้สึกเจ็บปวดที่ต้องกลั้นเอาไว้อย่างสุดความสามารถ และกอดปลอบลินที่สะอึกสะอื้นอย่างหนัก ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลินร้องไห้คิดถึงไอ้แมท ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมกอดปลอบเธอ ถึงเธอจะดีขึ้น แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ต้องร้องไห้อยู่ดี . .
ผมเข้าใจความรู้สึกของเธอดี . . เพราะไอ้แมท . . มันดียิ่งกว่าใครๆ
“แมทมันอาจจะฆ่าผมเพราะดูแลลินไม่ดีก็ได้นะ . .ถ้ามันเห็นภาพลินตอนนี้”
“. .”
“อย่า . .ร้องไห้ . .เลย”
เกือบหนึ่งปีแล้วที่แมทจากพวกเราไป . . ผมไม่เคยลืมมันแม้แต่วินาทีเดียว ไม่เคยเลยจริงๆ . . ผมกอดปลอบลินแล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า . .เม็ดฝนขนาดเล็กตกลงมาบนแก้มของผมเป็นเม็ดแรก . . หลังจากนั้นก็กระหน่ำเทลงมาอย่างไม่ขาดสาย
ผมกับลินยังอยู่ใกล้รถผมจึงพาเธอขึ้นรถและคิดว่าจะส่งเธอกลับบ้าน . . เธอเลิกร้องไห้แล้วแต่ก็ยังเหม่อลอยมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง ผมขับรถเงียบๆ พาเธอกลับบ้าน บ้านที่เคยมีลูกชายสุดหล่อหัวแก้วหัวแหวน บัดนี้เหลือแต่เพียงเด็กสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น
บ้านนี้ดูเหงา . . และก็ดูเศร้ามากเมื่อมองจากตรงนี้
ผมจอดรถใกล้ๆประตูบ้านของเธอ
“ถึงแล้วนะ . .ลินขับกลับเข้าไปในบ้านเองนะ”
“ฝนก็ตก มังกรเข้าไปในบ้านกับลินก่อน”
“ . . ไม่ได้หรอกครับ”
“แม่ไม่อยู่หรอก” ที่ลินต้องพูดแบบนี้ก็เพราะว่าแม่ของลินเวลาเจอหน้าผมทีไรเธอก็ต้องกรีดร้องและก็ร้องไห้ออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่ทุกครั้ง เพราะเธอจะนึกถึงไอ้แมททันทีที่เห็นผม . . เมื่อก่อนผมสนิทกับมันมาก ถึงแม้ว่าจะมีอายุต่างกันสองปีก็เถอะ
“. . ไม่ได้จริงๆครับ”
“มังกร . . ลินถามอะไรอย่างนึงได้มั้ย” เธอหันหน้าเศร้าๆมาหาผม
“ครับ”
“ทำไม . .ถึงไม่ยอมคบกับลินล่ะ”
คำถามที่ทำให้ผมต้องหยุดชะงักและก็หันมามองหน้าเธอ
“มังกรก็รู้ . .ว่าลินชอบมังกรตั้งแต่ที่เจอ”
“. . .”
“และพี่แมท ก็ฝากให้มังกรดูแลลินด้วย ไม่ใช่รึไง”
“. . .”
“คบกับลินเถอะนะ ลินขอร้อง”
ผมผู้ไม่เคยคิดกับลินเกินกว่าคำว่าน้องสาวนั้นไม่รู้จะตอบเธอยังไงดี ชัวร์ว่าไม่อยู่แล้ว แต่วันนี้เธอมีเรื่องให้เสียใจและก็ร้องไห้อย่างหนักมาแล้วผมเลยไม่อยากที่จะปฏิเสธเธอ แต่การตอบตกลงนั่นก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี
เพราะผมรู้ตัวของผมเอง . .ว่าผมรักใคร
“ขับรถเข้าบ้านดีๆนะ” ผมปลดเข็มขัดนิรภัย
“มังกรจะไปไหน ยังไม่ตอบลินเลย” ลินคว้าแขนของผมเอาไว้
“ไว้ตอบวันหลังนะครับ”
“ทำไมล่ะมังกร . .ลินไม่ดีตรงไหน ลินอุตส่าห์ลดศักดิ์ศรีของตัวเองลงมาแล้วก็ขอคบมังกรก่อน แต่ทำไมมังกรทำกับลินแบบนี้ . .” น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้ง
“. .”
“มังกรไม่ได้รักลินเหรอ”
“. .”
“มังกรรักเจ้านายใช่มั้ย”
“. .”
“ทั้งๆที่มันเป็นคนฆ่าพี่แมทเหรอ!” “ไม่จริง!” ผมสวนขึ้นไปทันที
“ทำไมจะไม่จริง ลินเสียพี่แมทไปก็เพราะมัน!” “ลิน . . เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่สมควรที่จะเอามาพูด”
“มังกรอย่าหนีความจริงไปหน่อยเลย . . ทั้งๆที่ตอนแรกมังกรเองก็คิดแบบลินน่ะ!” “กลับเข้าบ้านครับ”
“นี่!!!!”
“อย่าลืมกินยาด้วยล่ะ”
ผมปิดประตูทันทีโดยไม่สนใจลินที่โวยวายอยู่ข้างในรถ สายฝนเทกระหน่ำลงมาบนตัวผมจนเปียกปอนไปทั้งตัวทั้งๆที่ยังไม่ถึงห้าวินาทีด้วยซ้ำ . . บางทีไอ้แมทที่อยู่บนฟ้าอาจจะกำลังลงโทษผม ที่ทำให้น้องสาวเพียงคนเดียวของมันร้องไห้
ผมเดินท่ามกลางสายฝนออกไปตามท้องถนน ในหัวของผมคิดอะไรหลายๆอย่าง มีเพียงสองชื่อที่อยู่ในหัวของผมตอนนี้ ชื่อแรกคือเจ้านาย และชื่อที่สองก็คือแมท . . ทั้งคู่เป็นคนสำคัญสำหรับผม
“เห้ย!”
ผมที่เพิ่งเลี้ยวจากปากซอยบ้านของลินได้ไม่ไกล ก็โดนคนบางคนร้องเรียก มันเก่งมากที่เสียงดังแข่งกับผมจนทำให้ผมหันไปตามเสียงเรียกได้
ไอ้เจ้านาย . .ในชุดนักศึกษาเหมือนผม ที่เปียกจนมีสภาพไม่ต่างอะไรจากลูกหมาตกน้ำ ผมอารมณ์เสียทันทีที่เห็นมันตากฝน เดินย่างสามขุมไปหามันพลางจะต่อว่า แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อคิดได้ว่าตัวเองจะต้องทำตัวเหมือนไร้ตัวตนต่อหน้าเจ้านาย
ทั้งๆที่ในใจผม ไม่อยากจะทำเลย . .
ผมหุบปากที่กำลังจะต่อว่าเจ้านายของตัวเองและก็ถอดเสื้อนักศึกษ่าออก เปลือยท่อนบ่นเพียงเพื่อที่จะให้ไอ้เจ้านายมีอะไรมาคลุมหัวบ้าง ผมเอาเสื้อที่ถอดออกไปคลุมหัวมัน . .แต่มันสะบัดทิ้ง
“. . ถ้าไม่เอา ก็เข้าไปในร่ม”
“มึงทำแบบนี้ทำไม . .มึงทำทำไม!!!!” เจ้านายระเบิดเสียงดังลั่นใส่ผมจนผมรู้สึกทึ่ง นัยน์ตาของมันแดงก่ำและก็ตัวสั่นด้วยความโกรธจัด
“ถ้ามึงไม่รู้สึกอะไร มึงก็ไม่ต้องมาทำแบบนี้กับกู” เจ้านายตะโกนไปด้วยและก็ร้องไห้ไปด้วย . . ครืน . .ฟ้าร้องเสียงดังสนั่นทันทีที่เจ้านายพูดจบ
ไอ้แมทคงกำลังสาปแช่งผม . .ที่ทำให้คนที่มันรักสองคนร้องไห้ได้ในวันเดียวกัน
“เพราะกูคิด . .มึงเข้าใจมั้ยว่ากูคิด” ผมโดนมันถีบเข้ากลางท้องอย่างจัง ทุกท่วงท่าในการต่อสู้ของเจ้านายนั้นรุนแรงมากพอที่จะทำให้ร้องโอดโอยได้ แต่ผมไม่มีวันที่จะร้องออกมาโดยเด็ดขาด
“มึงมันเหี้ย” ผมโดนกระหน่ำซ้ำเติมด้วยหมัดอีกหลายหมัดจากไอ้คนที่แข็งแรงคนนี้ หากเป็นคนอื่นผมคงสวนคืนได้โดยง่าย แต่ทว่า . .เป็นคนนี้ ซึ่งทำร้ายผมให้ตายยังไงผมก็ไม่มีวันโกรธและไม่มีวันที่จะแก้แค้นคืนอย่างสาสม
เพราะจะผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับใครบางคน . .และก็สัญญาที่ให้ไว้กับใจของผมเอง ผมเคยบอกคุณแล้ว
เจ้านายทั้งร้องไห้ ตะโกนด่าผม และก็ซ้อมผมไม่หยุดท่ามกลางห่าฝนที่เทลงมาอย่างหนัก
“มึงทำให้กูสูญเสียความเป็นตัวเอง มึงทำให้กูเป็นบ้า คิดหนัก คิดแทบบ้า เป็นบ้าเป็นบอก็เพราะมึง ไม่เคยมีใครมีอิทธิพลต่อชีวิตกู แต่ทำไมมึง . .ทำไมมึง . . ฮึก . . ทำไมต้องเป็นมึง” เจ้านายหมดแรงและก็ล้มลงไปนั่งคุกเข่าลงบนพื้นถนนต่อหน้าผม แน่นอนผมรีบทรุดตัวนั่งลงตามเจ้านายทันที ครืน ครืน ฟ้าร้องดังสนั่นลั่น . . ไอ้เชี่ยแมทกูรู้แล้ว กูขอโทษ
“มึงมาทำให้กูรักมึง . .ทำไม พอกูรักมึง . . มึงก็มาเย็นชาใส่กู . . คบกับลินต่อหน้ากู . .ทำไมวะ ทำไม . . ตอนนี้กูคงดูโง่ในสายตามึงใช่มั้ย . . กูโง่มากใช่ไหม” . . สาเหตุที่ผมต้องเย็นชาใส่มัน มันเกิดขึ้นจริงๆแล้ว . . มันรักผม . .เจ้านายรักผม . .ทำไมผมดีใจมากเกินกว่าที่ผมจะผิดหวังนะ
“ . .มึงมาทำให้กูรักมึงทำไม . . ถ้ามึงจะไม่รักกู มึงมาทำให้กูรักทำไม” เจ้านายเงยหน้าขึ้นมองผมทั้งน้ำตา สายฝนที่สาดเทลงมาก็ไม่สามารถปิดบังนัยน์ตาที่แดงก่ำดวงนั้นได้ ผมมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกเจ็บปวดจนล้นหัวใจ ผมเจ็บมาก ที่ผมเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้านายมันร้องไห้
ในใจของผมเรียกร้องขนาดหนัก อยากดึกเจ้านายเข้ามากอดปลอบ อยากเพ้อพร่ำบอกรัก กระซิบข้างหู อยากแสดงออกให้มันเห็นไปอย่างชัดเจนว่าผมคิดยังไงกับมัน . . แต่บางอย่าง . .มันก็ไม่ง่าย
ทั้งๆที่อยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่กลับสัมผัสและจับต้องไม่ได้
ทำได้แค่รักเท่านั้น . . “เงียบทำไม . .ทำไมไม่ตอบกู ไอ้เหี้ย”
สุดจะทนแล้ว . . ผมดึงร่างนั้นเข้ามากอดอย่างแนบแน่นที่สุด จับหัวของมันให้มาซุกอยู่ที่อกผม ตรงหัวใจของผม ที่กำลังเต้นดังแข่งกับเสียงฝน เจ้านายเอื้อมมือมากอดผมตอบทันที . .การกระทำของผมยิ่งทำให้เจ้านายร้องไห้หนักมากกว่าเดิม
และคำพูดของผม . .อาจจะทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ลงไปกว่านี้ก็ได้
แต่ผมต้องพูด
“กูรักมึง . .” ผมบอกเจ้านาย บอกจากใจ บอกด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่ผมมีต่อมัน . . อยากให้มันรู้ ว่าสิ่งที่ผมพูดมันเป็นความจริง ความจริงที่ไม่มีอะไรมากลบเกลือนได้แม้กระทั่งสองพยางค์ต่อมาที่อาจทำให้หัวใจของเจ้านายกับหัวใจของผมนั้นแตกสลายไปพร้อมๆกัน
“ . . ไม่ได้” แมทจ๋า T_T
ปมเริ่มคลายแล้วนะ . .