► เรื่องสั้นรักหลากรส : รสออริจินัล ◄ [07/11/15] P.9
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ► เรื่องสั้นรักหลากรส : รสออริจินัล ◄ [07/11/15] P.9  (อ่าน 96771 ครั้ง)

ฟีฟาร30

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ย จี๊ดเลยทีเดียว
น้ำตาเกือบออก :sad4:

Nile

  • บุคคลทั่วไป
โอ้เย เรื่องนี้มันน่ารักแต๊เหลา 5555 "รับผมเพิ่มมั๊ยครับ"

Nile

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องบัวลอยไข่หวาน หนุ่มวิศวะทำตัวเองนะคะ แบบนี้เค้าเรียกว่ารู้ตัวเมื่อสาย ไม่สงสารเลยค่ะ ช่วยไม่ได้ ทำตัวเองทั้งนั้น เป็นเราเจอแบบนี้ก็ไม่ทนหรอกค่ะ

ออฟไลน์ 9nawKIHAE

  • ♥BJYX~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
เฮือกกกก *คว่ำถ้วยบัวลอยไข่หวาน*
ไม่ได้หวานดั่งชื่อเลยสักนิด...
เจ็บเพราะการกระทำของตัวเอง เป็นอะไรที่หน่วงมาก
ฮึก...ก....แอบเศร้า และ หิวบัวลอยไปพร้อมๆกัน........
:m15:

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
กินแล้วปวดใจ  :o12:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เพิ่งได้มาชิมบัวลอย  ขมจนหาความหวานไม่เจอ :a5:

Syntyche

  • บุคคลทั่วไป
บัวลอยไม่ได้ใส่น้ำตาลนิ
แงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :o12:

ออฟไลน์ Damon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
บัวลอย~ ทำเอาน้ำตาไหลนอง เรื่องเศร้าๆเนี่ย  :sad4:

ออฟไลน์ nomo9

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
รู้ค่า เมื่อสูญเสีย

ออฟไลน์ BitterSweet

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +725/-2




วันธรรมดาที่ชื่อว่า ‘วาเลนไทน์’   






...วาเลนไทน์  มันก็แค่วันธรรมดาวันหนึ่ง



เอ้า! หรือไม่จริงครับคุณ จะไปตื่นเต้นอะไรกันนักหนา


มันก็เป็นเช้าวันที่เขาต้องตื่นมาทำงาน ยืนเบียดกับผู้คนในรถไฟฟ้าเป็นปลากระป๋อง
หัวหมุนกับเอกสารตัวเลขในบัญชี แล้วก็โดนลูกค้าบ่นคอมเพลนงานอีกนิดหน่อย
พอเลิกงานเสร็จก็มาแวะห้าง ยืนหาซื้อของใช้กลับเข้าหอตัวเอง


...เห็นมั้ย...ไม่เห็นจะมีอะไรแปลก


โด่...ใครจะไปแคร์อะไรกับพวกดอกไม้ ช็อกโกแล็ต กันมากมาย

เขายังไม่สนใจน้องผู้หญิงผมยาวน่ารักที่อุ้มช่อดอกไม้ดอกใหญ่คนนั้นเลย
แล้วก็ไม่อยากได้ช็อกโกแล็ตจากมือของน้องนักศึกษาคนนั้นด้วย
ส่วนคุณพี่หุ่นเซ็กซี่ที่ควงแฟนไปดูกันสองคน เขาก็ไม่คิดจะอิจฉาสักนิ๊ดดด



...บอกแล้ว ...วันวาเลนไทน์ มันก็แค่วันธรรมดา ๆ วันหนึ่งเท่านั้นเอง




...เท่านั้นเอง




....แล้วทำไมเขาถึงไม่มีใครมาอยู่ด้วยในวันนี้ล่ะวะเนี่ยยย!!




คนสงสัยอยากจะร้องตะโกนถามฟ้าด้วยความเจ็บช้ำ
ยิ่งพอมาเดินห้าง ก็ยิ่งเห็นภาพบาดใจตอกย้ำมากขึ้นไปอีก


...คนอื่นเขามาเป็นคู่ แต่ตัวกูนั้นอยู่คนเดียว


ใจนึกอยากจะเขวี้ยงป้าย ‘โสด’ ตัวเป้ง ๆ ให้ออกไปจากชีวิตให้พ้นหูพ้นตา
แต่ผ่านฝนผ่านร้อนมา 24 ปี ไอ้สถานะนี่ก็ยังคงยึดติดอยู่กับเขาเหนียวแน่น


ถึงจะพยายามโกหกหลอกตัวเองว่าไม่สนใจอะไรกับวันวาเลนไทนนี่หร๊อก
แต่ไอ้บรรยากาศสีชมพูนี่กลับเหมือนควันพิษ
แทรกซึมแล่นเข้าสู่หัวใจดวงน้อย ๆ ของเขาให้เจ็บแปล๊บ



...หึ ช่างมัน ไม่ต้องไปสน


ใครจะมีคู่รักกันดูดดื่มขนาดไหนมันก็เรื่องของเขา



...ส่วนเรื่องของเรา


...กูไปซื้อเบียร์ฉลองวันวาเลนไทน์คนเดียวก็ได้วะ!



คนไร้คู่ ต้องจำใจปลงตก
เดินเซ็ง ๆ กะลงบันไดเลื่อนไปมุ่งหน้าไปชั้นซุปเปอร์
หวังซื้อแอลกอฮอล์มาซดย้อมใจ
หากแต่ยังไม่ทันได้ก้าวเดินถึง กลับมีเสียงหนึ่งรั้งไว้



“ขอโทษนะครับ”


เขาหันกลับไปมองคนทัก
แล้วก็ต้องนิ่งอึ้งตะลึงในความหล่อของคนตรงหน้า

โห...คนหรือเทวดาวะเนี่ย ดารามาเล่นละครรึเปล่า ถึงได้ดูดีมีราศีจับขนาดนี้
และไม่ใช่เพียงแค่หน้าตาที่ชวนตะลึง กลับยังมีเรื่องน่าตกใจกว่านั้น
เมื่อพ่อเทพบุตรยื่นช่อดอกกุหลาบสีแดงมาให้เขาพร้อมเอ่ยคำพูด



“ช่วยรับช่อดอกไม้นี้ไปหน่อยได้มั้ยครับ”




...เฮ้ย!  พูดจริงพูดเล่นเนี่ย

จะให้เขารับช่อดอกกุหลาบนี่จริง ๆ เหรอ
ถึงอีกฝ่ายจะเป็นผู้ชาย และเขาก็ไม่มีรสนิยมชอบผู้ชาย
แต่หน้าตาดีขนาดนี้ แถมยังอุตส่าห์มาจีบกันในวันวาเลนไทน์ด้วย


เออ...เขายอมให้หน่อยก็ได้



คนรับจึงพยักหน้า ยื่นมืออกไปถือช่อดอกกุหลาบด้วยหัวใจพองโต
หน้าเริ่มขึ้นสีแดงจาง ๆ เพราะอาการประหม่าเขินๆ 
ก่อนเขาจะได้ยินเสียงคู่สนทนาบอกตามมา



“พอดีผมจะทำเซอร์ไพรส์แฟนขอเธอแต่งงานวันนี้น่ะครับ
พอผมให้สัญญาณ รบกวนคุณช่วยถือดอกไม้แล้วเดินไปให้เธอทีได้มั้ยครับ”




...เพล้ง!



เขาเหมือนได้ยินเสียงหน้าตัวเองแตกละเอียด
รู้สึกถึงหัวใจที่พองโตของตัวเองหดฟีบโดยฉับพลัน

 
อ้าว...ที่ให้ดอกไม้เขาไม่ใช่เพราะจีบ แต่มันจะขอแฟนแต่งงานหรอกเรอะ!!


แล้วพอสังเกตดี ๆ
เขาก็เห็นผู้ชายหลายคนถือช่อดอกไม้แบบนี้ กระจายอยู่ตามมุมต่าง ๆ เหมือนกัน



...โธ่เอ้ย ...คิดแล้วโคตรเซ็ง!



คนนึกไปไกลถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย
แต่สุดท้ายก็ร่วมให้ความช่วยเหลือในแผนการของหนุ่มหล่อ


ดูเหมือนแผนเซอร์ไพรส์ขอสาวจะไม่ยากเย็นอะไร
แค่ให้ผู้ชายหลาย ๆ คนเดินเข้าไปมอบช่อดอกไม้ให้เธอ
จากคนละทีตามจุดต่าง ๆ จนทำให้เธอแปลกใจ
แล้วสุดท้ายแฟนเธอค่อยออกมามอบช่อดอกกุหลาบสีขาวใหญ่สุด
พร้อมแหวนหมั้น ก่อนคุกเข่าขอผู้หญิงแต่งงาน



เขาปรบมือ เมื่อผู้หญิงตอบรับทั้งน้ำตาก่อนโผเข้ากอดกัน



...ถึงใจจะร่วมยินดี แต่ก็นึกอิจฉาอยู่นิด ๆ ไม่ได้



เฮ้อ...ผู้หญิงก็สวย ผู้ชายก็หล่อ ดูเหมาะสมกันจริง ๆ
แล้วไอ้คนหน้าตาธรรมดา ๆ ที่เป็นได้แค่พนักงานออฟฟิต
จะมีใครที่ไหนมาเหลียวมองกันบ้าง


...คิดไปก็ช้ำใจเอาเอง สุดท้ายก็ต้องปลง


เขาจึงเดินไปหาซื้อเบียร์เอามาย้อมใจกินคนเดียวต่อ
หากทว่ายังไม่ทันจะก้าว เสียงรั้งจากด้านหลังกลับดังขึ้น



“ขอโทษนะครับ”



เขาหันกลับไปมองคนทักเป็นครั้งที่สองของวัน

ถึงแม้คนนี้จะไม่ดูหล่อเทพเหมือนคนแรก
แต่ก็ดูเป็นผู้ชายสุภาพ มาดธุรกิจ อายุไม่น่าจะห่างไปจากเขาเท่าไร
ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจคือ...

...มือที่ถือช่อดอกกุหลาบสีแดงที่ยื่นมาให้เขา พร้อมคำขอ



“รบกวนคุณช่วยถือดอกไม้นี้ เอาไปให้คนคนหนึ่งหน่อยได้มั้ยครับ”




...อะไรอีกวะ จะแต่งกันกี่คู่เนี่ย!



คนถูกถามนึกในใจอย่างหงุดหงิด


...เห็นว่าโสดหน่อย โชคชะตาเลยเล่นตลกอะไรกับเขารึไง

แต่จะให้ปฏิเสธไปเลยก็น่าเกลียด


เอาว่ะ...ช่วยคนอื่นให้สุขสมหวัง

เพื่อบุญบารมีจะส่งเสริมให้เขาพบรักเหมือนคนอื่นบ้าง




คนตัดสินใจได้จึงยื่นมืออกไปรับช่อดอกไม้มาถือไว้ พลางเอ่ยถามเป้าหมาย



“จะให้ผมเอาไปให้ใครเหรอครับ”


“อ้อ...ให้คนนี้ครับ คนน่ารัก ๆ ที่อยู่ข้างหลังคุณน่ะครับ”



...อ้าว แล้วบอกแบบไม่ระบุตัวแบบนี้จะรู้มั้ยว่าเป็นใคร


เขานึกสงสัยในใจ ก่อนจะหมุนตัวหันหลังไปมอง
แล้วดวงตาก็ต้องเบิกกว้าง เมื่อพบความจริงว่าข้างหลังของเขาไม่ได้มีคนอื่น


...หากแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า คือ 'กระจก'


กระจกบานใหญ่ของร้านเฟอร์นิเจอร์ในห้างที่ติดไว้
เพื่อเล่นกับความมีมิติให้ร้านเหมือนกว้างขึ้น



...และสิ่งที่กระจกสะท้อนออกมา คือ ภาพของเขา




หมายความว่ายังไง....

 

ก็ไหนบอกว่าให้เอาไปให้คนน่ารัก ๆ ที่อยู่ข้างหลังเขา



แต่ข้างหลังเขามีแต่กระจกอยู่บานเดียว



ถ้างั้นกุหลาบแดงช่อใหญ่นี้...




...อย่าบอกนะว่า




คนที่เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างรีบหันกลับมามองคนขอให้ช่วยทันที
ซึ่งเจ้าตัวก็เพียงแค่แย้มยิ้มบาง ๆ ซ้ำยังเอ่ยคำขอต่ออีกครั้ง



“แล้วก็รบกวนช่วยบอกคนคนนั้นว่า ‘สุขสันต์วันวาเลนไทน์’ ครับ
และถ้าไม่รังเกียจ ผมขอเลี้ยงข้าวเย็นเขาสักมื้อด้วยได้มั้ยครับ”



คำชวนพร้อมดวงตาที่สบมองอย่างจริงใจ  ทำเอาลมหายใจของคนฟังถึงกับสะดุด
รู้สึกถึงหัวใจที่เคยหดฟีบของตัวเองมันสั่นแปลก ๆ


...ไม่ใช่พองโต แต่คล้ายว่ามันจะเต้นดังจนควบคุมไม่ได้


แถมเมื่อเหลือบมองเห็นหน้าตัวเองในกระจกบานเดิม
มันกลับขึ้นสีแดงแปร๊ดแทบจะสู้กับดอกกุหลาบในมืออยู่แล้ว




...อะไร๊ เขาไม่ได้ตื่นเต้นนะ ก็ไม่เห็นมีอะไรแปลกตรงไหน



ก็แค่มีคนให้ดอกไม้มา แล้วชวนเลี้ยงข้าวเย็นแค่นั้น



เห็นมั้ย...ไม่ได้พิเศษเลย...



ไม่เลย...




ยกเว้นก็เพียงแค่วันนี้...




...มันเป็นวันธรรมดาวันหนึ่งที่ชื่อว่า ‘วันวาเลนไทน์’




...และมันเป็นวันธรรมดา ๆ วันหนึ่งที่ทำให้เขา ‘ยิ้ม’ ได้




...ก็เท่านั้นเอง





-------------------------------------------------------------------------------------------------------------




END




สุขสันต์วันวาเลนไทน์ค่า!!    :กอด1:


ตอนนี้มาแบบพิเศษหน่อย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับของกิน
แต่เป็นตอนหวาน ๆ ให้เขากับเทศกาลวันแห่งความรักเหมือนกัน

วันนี้คนมีคู่ก็หวานซึ่งกันไป  แต่สำหรับคนโสด
วันวาเลนไทน์ สุดท้ายก็ไม่ต่างจากวันธรรมดาวันหนึ่ง นึกแล้วก็เศร้า  :o12:

แต่เอาน่า...สักวันมันก็ต้องมีวันที่เป็นของเราบ้าง
ไม่ได้เฉพาะเจาะจงต้องมาเป็นวันวาเลนไทน์สักหน่อย


...ถ้าทุก ๆ วันเต็มไปด้วยความรัก  วันนั้นก็ถือว่าเป็นพิเศษเหมือนกันเนอะ


ขอให้เป็นทุกวันเป็นวันที่ดีค่ะ



Happy Valentine Day


:L2:



BitterSweet

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2013 21:41:07 โดย BitterSweet »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ toye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น่าจะมีตอนต่อจากตอนนี้นะครับ กำลังดีเลย

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
น่ารักจัง  :-[

บวกเป็ด

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ฮ่าๆ
น่ารักเหมือนเคยย
เขินแทน
ไม่มีบ้างอะ กร๊ากกก

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
เขินนนนนนนนนนนนนนนนนนนคนโสดจะไม่ทน!ฮ่าๆ

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
วาเลนไทน์ปีนี้เซ็งมาก  :z3:

Jesale

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักอ่ะ

อยากได้ดอกไม้บ้างจัง

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
น่ารักจัง คนโสดก็ยากได้บ้างแหะ

 :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
แอร๊ยยยยยยยยยยยยส์ ชอบๆๆๆ

อ่านตอนกินกุ้ง แทบอยากกินกุ้งบัดเดี๋ยวนั้น
อ่านตอนบัวลอย เล่ยเอาไม่อยากกิน เศ้ราT^T
อ่านตอนนี้ น่ารักง่ะ-///-

PoofuGirl

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วยิ้มตามไปด้วยน่ารักมากเยย >_<
เป็นวันช็อตที่ทำให้ฟินได้กรี๊ดๆๆๆๆ  :z3:

มุขหันหลังไปมองกระจกได้แบบอึ้ง ๆ
ชวนกินข้าวแบบเนียน ๆ ได้เป๊ะสุด ๆ  o13

อยากมีวันธรรมดาที่พิเศษกว่าวันธรรมดานิดนึงแบบนี้กับเขาบ้าง
แต่สาวโสดต้องทำใจ ฟินกับนิยายไปจะเวิร์คกว่า  :o8:


เรื่องน่ารักมาก อยากบอกว่าชอบค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ AGALIGO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4

ตอนนี้  FEEL  GOOD สุดๆอ่ะ

+ เป็ดจ้า


ฟีฟาร30

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักอีกแล้ว ><
อยากมีแบบนี้บ้างงง :impress2:

ออฟไลน์ BitterSweet

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +725/-2
คืนที่ดวงดาวลอยอยู่ในถ้วยกาแฟ










สองทุ่ม  สิบสามนาที
   


คุณครับ...


คุณรู้อะไรไหม...
   

...หลังคำพูดที่ผ่านทางยาวไกล มันทำผมใจสั่น
   


นั่งอยู่ติดริมหน้าต่าง
เหม่อมองออกไปตามแสงไฟที่ทอดยาวตรงรันเวย์
เสียงสัญญาณรัดเข็มขัดดังขึ้นเป็นคำเตือนให้ผู้โดยสารเตรียมตัวสำหรับการทะยานขึ้นฟ้า
   

ผมรู้สึกอยู่เสมอว่า บรรยากาศก่อนการบินมีอะไรแตกต่าง


มันเป็นความกังวลที่ก่อตัวเล็ก ๆ ในใจ
คล้าย ๆ กับกลัวการขึ้นบินจะผิดพลาด
หรือคิดแง่ร้ายทำนองว่า นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ร่างกายจะอยู่บนพื้นดินแบบปกติ
ผมมักสวดภาวนาเงียบ ๆ เพื่อหวังให้ลูกเรือทั้งหมดถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย
และได้กลับไปสูดอากาศอย่างสบายใจอีกครั้ง


ทว่าวันนี้...ผมไม่ได้ทำเช่นนั้น 

แน่นอน ผมยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ
แต่ลึก ๆ แล้วก็รู้ตัวดีว่าคงไม่สามารถทนบรรยากาศแห่งความอึมครึม
ที่จะเกิดขึ้นหากเหยียบย่างลงไปในสถานที่คุ้นเคย
ผมกลัวคำตอบของคำถามบางสิ่ง
และที่สำคัญยิ่ง ผมไม่กล้าพอจะกลับไปสบตากับใครบางคน


ใครบางคน ที่เคย.... ‘รัก’


.....

...

.



สองทุ่ม  ยี่สิบห้านาที


ปลดเข็มขัดออกบนความสูงที่เริ่มไต่ระดับเหนือพื้นดิน
จนเห็นไฟถนนเป็นเพียงจุดแต้มดวงเล็ก ๆ
ก่อนค่อย ๆ รางเลือนหายไปเมื่อผ่านกลุ่มเมฆก้อนใหญ่ 
เคยมีคนบอกว่า ยิ่งเราเข้าใกล้สิ่งใด เราจะยิ่งเห็นมันได้ชัดเจน



แต่อยู่บนนี้...ท้องฟ้าสีดำมืดสนิท ผมมองไม่เห็น พระจันทร์และดวงดาว



ตรงข้ามกับคุณที่อยู่ห่างไปหลายพันกิโลเมตร 
กระนั้น ผมยังจดจำได้ถึงประกายในดวงตาคุณ
มันสุกสกาวสวยงาม ยามคุณหัวเราะและแย้มยิ้ม


คุณทำหน้าเหมือนเรื่องเหลือเชื่อที่คำพูดน้ำเน่าจะหลุดออกมาจากปากผม
เพราะสำหรับคนเพิ่งรู้จักกันโดยผ่านการแนะนำของเพื่อน
ประโยคนี้จึงกลายเป็นแค่มุกตลกของคนช่างม่อ
ดูท่าทางไม่น่าไว้วางใจ มิหนำซ้ำเรายังเป็นผู้ชายด้วยกัน

แต่คุณครับเมื่อมีความสุข
ผมสามารถก้าวข้ามกรอบของกฎเกณฑ์ได้ทุกสิ่ง
และผมจะเป็นแบบนี้ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ใกล้คุณ


แก้มคุณแดงเรื่อ กระนั้นก็ยังคงเฉไฉ
แสร้งเงยหน้ามองท้องฟ้าพยากรณ์ว่า


“คืนนี้จะมีฝนดาวตกครับ”



“เมฆครึ้มออกอย่างนี้เนี่ยนะ”


คงเป็นทั้งน้ำเสียงและหน้าตาที่แสดงออกชัดเจนว่าไม่เชื่อ
จนทำให้คุณถึงกับต้องรีบหันมายืนยัน


“ก็กรมอุตุบอกนี่ครับ”


“โห คุณ ผมพนันเลี้ยงข่าวมื้อหนึ่ง
ใคร ๆ ก็รู้อย่าไปเชื่อกรมอุตุไทย
ถ้าบอกวันไหนแดดออกเตรียมร่มได้เลย
แล้วถ้าบอกพรุ่งนี้ฝนตกนะ
ผมจะเอาผ้าออกมาซักตั้งแต่เช้า”


คุณหัวเราะเบา ๆ แล้วบอกว่าให้คอยดู



ผมเพิ่งมารู้ทีหลัง
ก็คุณนั้นแหละที่เป็นนักพยากรณ์อากาศทำงานให้กับกรมอุตุ 
แต่การเลี้ยงข้าวสักมื้อแลกกับความสัมพันธ์ที่จะยังคงสืบสานต่อไปเรื่อย ๆ
ก็ถือเป็นการเสียพนันที่คุ้มค่าไม่น้อย   


นับตั้งแต่วันนั้น เราต่างเรียนรู้เรื่องราวของกันและกัน
ทั้งมักจะแปลกใจในความลงตัวที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
สิ่งที่เราค้นหากลับเติมเต็มด้วยการก้าวเข้ามาของคนอีกคน
ทุก ๆ วันช่างแปลกใหม่และสวยงาม
หัวใจของผมเต้นแรงเมื่อสบสายตาของคุณ


ณ ห้วงเวลานั้น ผมรู้... คุณรู้...


...เราต่างตกลงไปในหลุมพรางที่ชื่อ ‘ความรัก’



...

..

.


สองทุ่ม  สี่สิบห้านาที



“รับกาแฟไหมค่ะ”


พนักงานสาวหน้าตายิ้มแย้มเอ่ยถาม หันไปพยักหน้า
ก่อนรับถ้วยร้อนกรุ่นกลิ่นอายเบา ๆ มาประคองไว้ในมือ


ผมชอบดื่มกาแฟดำแบบเอสเปรสโซ่ 
ความเข้มข้นของมันช่วยปลุกผมให้มีแรงก้าวเดินต่อ
ตรงข้ามกับคุณที่ชื่นชอบจับคู่กาแฟให้เข้ากับน้ำตาลหรือฟองนมละเอียดพรายในสไตล์คาปูชิโน่
ครั้งหนึ่ง ผมถึงกับเอ่ยปากแซวเมื่อเห็นคุณเติมน้ำตาลพูน ๆ ไปถึงหกช้อน



“ใส่ซะเยอะขนาดนั้น ไม่หวานแย่เหรอ”


“ก็เพราะอยากให้หวานไงครับ ถึงใส่น้ำตาล”


คุณตอบกลับแบบติดอารมณ์ขัน พลางใช้ช้อนคนของเหลวกระทบกับแก้วดังเบา ๆ


ผมเลิกคิ้ว ประท้วงความเห็นว่า
ถ้าอย่างนั้น ‘กาแฟ’ จะยังคงเป็น ‘กาแฟ’ อยู่ได้ยังไง
เพราะมันคงสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง
โดยเฉพาะความขมที่เป็นเอกลักษณ์
ก็อาจโดนความหวานของน้ำตาลกลบรสจนกลายเป็นน้ำเชื่อม


คุณหันมายิ้ม ก้มลงสูดกลิ่นกาแฟในถ้วยใบโต จิบชิม ก่อนเงยหน้าขึ้นมาพูด


“ต่อให้ใส่น้ำตาลมากแค่ไหน กาแฟก็ไม่มีทางเป็นน้ำเชื่อมหรอกครับ
เพราะมีบางอย่างที่ยังคงตัวตนของมันอยู่
...ดูสิ ก็ความหอมและความขมนิด ๆ นี่ไงล่ะครับ
ที่จะยังทำให้ ‘กาแฟ’ ยังคงเป็น ‘กาแฟ’
เพียงแต่บางที...การเติมอะไรลงไปก็อาจทำให้เราได้รสอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น
คุณล่ะครับ...จะลองดูบ้างไหมครับ?”



...ผมสัมผัสได้ในวินาทีนั้น ความรักของเราก็คงเป็นเช่นเดียวกับรสชาติของกาแฟ 


หลายครั้งที่เรารู้ถึงความแตกต่างของนิสัย
หากแต่เราก็พร้อมจะยอมรับมันด้วยหัวใจ
ผ่านความขมแบบรวดร้าวและผ่านความหวานชื่นแบบละมุนละไม
เราต่างปรับตัวเปลี่ยนส่วนผสมให้เข้ากันครั้งแล้วครั้งเล่า
โดยหวังไว้ว่าสักวันหนึ่ง เราจะได้รสชาติของกาแฟที่อร่อยกลมกล่อมที่สุด


ผมเอื้อมมือหยิบถ้วยกาแฟที่ค่อย ๆ อุ่นขึ้น
ก่อนจะชะงักเมื่อเหลือบเห็นซองเรียวยาววางไว้เคียงคู่กัน
ตัดสินใจหยิบมันขึ้นมา ฉีกกระดาษ เทเม็ดน้ำตาลสีขาวใส่ลงไปในถ้วย


...รสขมของมันติดอยู่ปลายลิ้น กลิ่นหอมยังคงล่องลอยอยู่


แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือ...ความหวานละมุน...ในแบบที่หลงลืมไปนานแสนนาน


...

..

.



สามทุ่ม  ยี่สิบสี่นาที



ไล่เรียงอ่านตัวอักษรบนหนังสือพิมพ์คอลัมน์เศรษฐกิจ


เกือบหนึ่งปีแล้วที่ผมเริ่มวุ่นวายเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทซึ่งต้องบินข้ามไปมาระหว่างประเทศ
คำว่า ‘เวลาส่วนตัว’ ค่อย ๆ หดหายทุกครั้งยามที่ต้องทุ่มเทให้กับการทำงาน
รวมทั้งความรักที่มีก็เริ่มจะห่างไกลกันขึ้นเรื่อย ๆ
กระทั้งกลายเป็นรอยแตกเล็ก ๆ
ทว่าเราก็ยินยอมพร้อมใจมองข้าม
และช่วยกันปิดบังกลบเกลื่อนว่ายังคงไม่มีอะไร แต่...



“คิดถึง”



คำพูดสั้น ๆ ที่เล่นเอาน้ำตาหยด
คุณเอ่ยผ่านปลายสายโทรศัพท์
ผมนิ่งเงียบอย่างไม่รู้จะเริ่มต้นต่อประโยคอย่างไร
เพราะรู้ว่าแม้ปากจะพูด แต่ก็กลับไปยืนอยู่ต่อหน้าตอนนี้ไม่ได้


“อยู่ที่นู้นเห็นดาวรึเปล่าครับ?”


คุณถามผมเสียงเครือพร้อมสูดน้ำมูกเบา ๆ 


ผมไม่ตอบ แต่เป็นฝ่ายเอ่ยถามกลับ


“แล้วอยู่กรุงเทพฯ จะเห็นดาวเหรอ?”


“เห็นครับ แต่ไม่ใช่ดาวบนฟ้านะครับ”


แล้วผมก็รู้ว่าคุณกำลังยืนอยู่ที่ระเบียงคอนโด
ก้มมองดูดาวบนท้องถนนที่เกิดจากแสงสีแดงของไฟท้ายรถยนต์ซึ่งติดกันเป็นแพ 

คุณบอกว่ามันเห็นชัดกว่าดาวบนฟ้าที่มีเมฆปกคลุมจนบรรยากาศขมุกขมัว
ความเหงาโรยตัวแทรกผ่านคลื่นโทรศัพท์มาจนถึงผม

ท่ามกลางความเงียบ คุณเปิดเพลงให้ฟัง
เสียงเมโลดี้จากสายกีตาร์ดังหนักเบาเป็นจังหวะ
ได้ยินคุณร้องคลอตาม กระนั้นมันก็ขาดหายไปเป็นห้วง ๆ
พอจบ คุณก็ถามสั้น ๆ ว่า  “เพราะมั้ย?”
 

...บอกตามตรง จะเพราะได้ยังไง ก็คนร้อง...ร้องไปทั้งน้ำตา


'เวลามองขึ้นไปบนฟ้า ฉันนั้นเห็นแต่ภาพเธอ
อยู่ไกลกันจนสุดสายตา รอคอยวันที่จะกลับมาหา
ถึงแม้มันจะแสนนาน แสนนานแค่ไหน อยากจะขอให้ได้พบ
แค่เพียงขอให้ได้พบ อยากจะรู้ว่าเธอเองเป็นเช่นไร
เธอจะคิดถึงฉันหรือเปล่า เธอจะเหงาบ้างหรือเปล่า
จะรู้สึกแตกต่างกับฉันบ้างไหม
เพราะว่าเราห่างไกลกันเหลือเกิน คิดถึงแต่เธอนั้น
เฝ้าแต่นับให้ถึงวันที่เรานั้นได้พบกัน
เราช่างห่าง ไกลกันเหลือเกิน
ฉันเองก็ไม่รู้ เมื่อไรจะได้พบเธอ'



ผมปิดหนังสือพิมพ์ไม่มีสมาธิตั้งใจจะอ่าน



...คนไกล...คุณรู้ไหม...ผมคิดถึงคุณ


...

..

.




สามทุ่ม  ห้าสิบเจ็ดนาที


แสงไฟในเครื่องบินถูกรี่ให้มืดลง
พยายามข่มตาหลับ แต่ก็ไม่อาจทำได้
แม้จะบ่ายเบี่ยงโทษว่าเป็นความผิดของฤทธิ์กาแฟ
กระนั้นลึก ๆ แล้วก็รู้ดีว่าต้นเหตุสำคัญคือสิ่งใด
ภายในหัวยังคงนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านพ้น


...ตั้งแต่เมื่อไรนะ ที่เราเริ่มทะเลาะกัน


ความเหงาของเราเริ่มเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยมีเชื้อคือระยะห่างที่นับวันจะยิ่งพอกพูน
ผมได้แต่ทิ้งคุณไว้เพียงลำพัง
ส่วนคุณก็พร่ำบ่นถึงความอ้างว้าง
เราทะเลาะกันไกลเกินกว่าจะย้อนกลับมา


หลายครั้งที่คุณพยากรณ์ถึงความรักเช่นเดียวกับสภาพอากาศ 
คุณบอกว่ามันเป็นวัฎจักรซ้ำ ๆ ทะเลาะกัน ง้อกัน คืนดีกัน เราเพียงแต่แสร้งว่ายังผ่านไปได้


แต่ผมรู้...ความรักของเราเหลือน้อยเต็มที



“ไม่มีเวลาให้กัน”



หนึ่งในสาเหตุหลักที่คุณเอ่ยออกมา 
ผมเพียงแต่ถอนหายใจ ครุ่นคิดถึงวิธีการแก้
แต่ด้วยความที่เราไกลกันเกินไป
ช่องว่างที่เกิดจึงกว้างเกินกว่าจะผูกพัน 
ความรู้สึกของเราค่อย ๆ ห่างเหิน 


แม้ว่าผมพยายามเข้าใจ... คุณพยายามเข้าใจ...


...กระนั้นเราต่างรับรู้ เราไม่มีวันเข้าใจ ‘ความรัก’ ได้เลย




ผมเรียกหากาแฟอีกครั้ง ทว่าคราวนี้กลับไม่ได้หยิบความหวานของน้ำตาลมาเติมใส่


น่าแปลก...แม้จะเป็นรสโปรด เพียงจิบแค่นิดเดียว แต่ก็ขมลึกไปถึงหัวใจดวงที่ร้าว


...

..

.



สี่ทุ่ม  สามสิบเก้านาที


เดินกลับมานั่งหลังจากลุกไปเข้าห้องน้ำ
และถือโอกาสยืดเส้นยืดสายจากการอยู่กับที่ติดต่อกันเกือบสามชั่วโมง
เผลอมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง
แม้จะรู้ว่าสิ่งที่เห็นจะมีเพียงปีกสีขาวของเครื่องบิน
และภาพสะท้อนสีซีดของชายผู้หนึ่งที่ถูกความรักเล่นงาน


“เกิดอะไรขึ้นกับเรา”


คุณทิ้งคำถามไว้พร้อมบรรยากาศแห่งความเงียบงัน
เรานิ่งมิใช่เพราะอับจนคำพูด แต่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับการค้นหาคำตอบ


“ผมจะไปญี่ปุ่นสองอาทิตย์”


ประโยคสุดท้ายก่อนเดินจากมา
โดยหลบเลี่ยงสายตาอันเจ็บปวด
หวังว่าความห่างจะช่วยทำให้เรามีเวลาคิดทบทวนเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้


...หากแต่ผมกลับลืมไปว่า ‘เวลา’ และ ‘ความเหินห่าง’ เป็นสิ่งที่เราทั้งคู่ได้รับมากเกินพอแล้ว


ค่ำคืนที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าประเทศไทยสองชั่วโมง 
อยู่ที่นี้...มองเห็นดาว แต่กลับรู้สึกว่ามันไม่สวยเท่าเก่า 
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแปลกถิ่น หรือเพราะไม่มีคนคอยดูเป็นเพื่อนอยู่ข้างกาย 
ในความมืดและเงียบงัน ดาวดวงเล็กบนท้องฟ้า คล้ายยิ่งห่างไกล
คงเหมือนความสัมพันธ์ของคนเรา ล้วนมีระยะทาง มีระยะห่าง


และเปราะบาง...



“เกิดอะไรขึ้นกับเรา”



“ผมคิดว่าระหว่างเรา...”   


...

..

.



ห้าทุ่ม



ชั่วขณะก่อนขึ้นเครื่อง ย้อนกลับไปในคำพูดของคุณผ่านทางปลายสายโทรศัพท์นั้น




“เราเลิกกันเถอะ”




คุณครับ...


คุณรู้อะไรไหม...



หลังคำพูดที่ผ่านทางยาวไกล...มันทำผมใจสั่น


...

..

.




ห้าทุ่ม สิบสามนาที


เสียงสัญญาณให้คาดเข็มขัดดังขึ้น
บรรยากาศของความกังวลเวียนกลับมาอีกครั้ง
ในจุดที่อันตรายที่สุดสำหรับกัปตัน
นั้นคือการบังคับเครื่องบินลำใหญ่ให้ลงจอดอย่างปลอดภัยบนรันเวย์


ผมเหลือบตามองบนหน้าจอมอนิเตอร์
สังเกตเห็นตัวเลขบอกเวลาท้องถิ่น
ก่อนก้มลงมองนาฬิกาข้อมือที่เข็มสั้นชี้เลยไปสองเลข
ทันใดนั้นภาพรอยยิ้มของคุณก็ผุดแทรกขึ้นมา
ผมนึกถึงครั้งแรกที่เราเจอกันจนล่วงเลยผ่านมาสองปี
ระยะเวลาที่ซ่อนทับกันในช่วงการเดินทางข้ามประเทศ
เสมือนความทรงจำที่หล่นหายไปในเสียงหัวเราะและความสุข


ผมค่อย ๆ หมุนนาฬิกากลับไป...กลับไปในวันเวลาของเรา


...ครั้งนี้ ผมเริ่มสวดภาวนา



...

..

.



สองทุ่ม สามสิบนาที


ยืนบนพื้นอย่างมั่นคงอีกครั้ง
สูดหายใจ เงยหน้ามองท้องฟ้า
ผมหวังจะเห็นดาวสักดวง แต่ถึงมองจากตรงนี้ก็ยังคงเห็นไม่ชัด
สองขารีบก้าวเดินไปเรียกรถแท็กซี่
เอ่ยปากบอกจุดหมาย
หัวใจของผมเต้นแรงด้วยรู้ดีว่าจะมองเห็นดาวอันสุกสกาวและสวยงามที่สุดตรงที่ใด



...มันซ่อนอยู่ในประกายตาของใครคนหนึ่ง



-------------------------------------------------------------------------------------------------------------



END




...‘น้ำเน่า และ อินดี้’  คำอธิบายสั้น ๆ ของเรื่องนี้   :laugh:
ไม่มีอะไรมากนอกจากไปขุดงานเขียนเก่า ๆ เจอเลยดัดแปลงนิดหน่อย
ตลกตัวเองเหมือนกันที่เคยเขียนทิ้งไว้
ตอนนั้นคงบ้ากวี จับคำสวย ๆ มาเรียงใส่กันเฉย ๆ
มันเป็นความเหงา อุ่น ๆ ไม่ได้ลองเขียนแนวนี้มานานแล้ว
วันนี้ฟุ้งซ่านติสต์แตก ขอปล่อยของหน่อย
คิดเห็นอย่างไรบอกกันได้นะจ๊ะ

รัก

 :กอด1:

BitterSweet




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-05-2013 21:16:32 โดย BitterSweet »

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
อ่านแล้วบอกไม่ถูกอ่ะ ไม่เศร้าไม่ซึ้ง แต่ลุ้นให้ดีกันล่ะมั้ง  :hao4:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ไม่เศร้าไม่เหงาไม่ซึ้ง
ไม่รู้บอกไม่ถูกแต่ลุ้น
ให้กลับมาดีกันนะ :laugh:

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด