ตอนที่ 19 (ครึ่งแรก)
นานเท่าไหร่แล้วที่ลิ้นของเราทั้งคู่โลมเลียกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ในชายคารถตอนเกือบจะตีห้าเข้าให้แล้ว ไม่มีสิ่งอื่นใดมารบกวนผมกับปอนด์ที่กำลังดื่มด่ำกับรสจูบของอีกฝ่าย ตัวของผมอ่อนยวบยาบ หัวใจของผมเต้นแรงอย่างคุมไม่อยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นผมต้องมนต์สะกดและล่องลอยอยู่ในห้วงของความฝัน
ปอนด์จูบไม่เก่ง ไม่เชี่ยวชาญเหมือนกับใครหลายคนที่ผ่านมา เขารุกล้ำโพรงปากของผมอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่ถึงแม้ว่าผมจะเจนจัดมามากสักเท่าไหร่ ปอนด์ก็ทำให้ผมไปไม่เป็นได้เหมือนกัน
ปอนด์ปรับพนักเก้าอี้ให้ราบลงแล้วจับผมนั่งตัก เนื่องจากที่เราเอี้ยวตัวเข้าหากันนั้นมันไม่สบายจนสุดจะทน แม้มันเป็นเรื่องน่าอายที่ผมต้องมานั่งตักไอ้ปอนด์ แต่อารมณ์มันก็พาผมไปและลืมเรื่องน่าอายแบบนี้เสียดื้อๆ
ต่างฝ่ายต่างก็ไม่มีใครอยากจะหยุด . .
ผมก้มลงเข้าปากสัมผัสกับริมฝีปากางของปอนด์อีกครั้ง ปอนด์ก็เผยอปากรอรับสัมผัสของผม เป็นอีกครั้งที่ลิ้นของเราสัมผัสกัน อีกฝ่ายจับต้นคอของผมเอาไว้ ส่วนแขนทั้งสองข้างของผมก็โอบรอบคอของปอนด์อย่างไม่อยากจะห่างไปไหน
โคตรมีความสุขเลยว่ะครับ . .
แต่อีกมือของปอนด์ ทำไมมันเริ่มสัมผัสขึ้นมาเรื่อยๆอย่างเชื่องช้าจากท้องของผมไปจนถึงบริเวณอกผมด้วยล่ะ?!!!!“ธาม ทำหน้าฟินจังเลย ฝันไรอยู่อ่ะ” เพล้ง!!!!!! เสียงฝันสลาย
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นไอ้ปอนด์ในชุดคนป่วยกำลังก้มหน้าลงมามองผมที่นอนบนโซฟาอย่างพินิจพิจารณา มันขมวดคิ้วฉงน ส่วนผม . . ดึงผ้าห่มมาปิดหน้าแทบไม่ทัน เพิ่งสังเกตผมห่มผ้าห่มของโรงบาลนี่หว่า แล้วเมื่อคืนไอ้ปอนด์นอนยังไงล่ะ?
“ตื่นเช้าจังวะ” กว่าจะหลับกันก็หกโมงเช้า . .
“ไม่เช้าแล้วมั้ง สิบโมงแล้ว คุณพยาบาลเข้ามาเช็คอาการเมื่อกี้” ปอนด์ยิ้ม ลากเก้าอี้มานั่งข้างผมที่นอนบนโซฟา คือเอิ่ม . . มึงเป็นคนป่วย ในชุดคนป่วย มึงควรจะนอนและให้กูไปนั่งเฝ้าป่ะวะ “ว่าไงล่ะ”
“อะไรว่าไง”
“ฝันว่าอะไร ทำหน้าฟินมากเลยนะเมื่อกี้น่ะ”
“เปล่าฝันเหอะ!!!” ไม่ใช่ความฝัน แต่มันเป็นความจริง!!!!! . . ถึงตอนที่ปอนด์จับผมนั่งตักและก็จูบกันต่อนั่นแหละคือความจริง แต่ที่ไอ้ปอนด์มันเริ่มเลื้อยมือมาลูบเนื้อในร่มผ้าของผมน่ะ ผมฝันเอา!!!!
“จะไม่เล่าให้ฟังหน่อยเหรอ”
“เซ้าซี้อยู่ได้” ผมเลยเหวี่ยงซะ “แล้วนี่อาบน้ำยัง”
“อาบได้ไงล่ะ คนอาบให้ยังไม่ตื่นนอนเลย”
“เดินเหินได้ขนาดนี้ หนำซ้ำยังทำแผนแกล้งวิ่งตัดหน้ารถได้ กูว่าให้มึงเต้นกังนัมสไตล์ตอนนี้ มึงยังไหวเลยอ่ะ”
“ง่ะ . .” ปอนด์เบ้ปาก “ถ้าไม่ทำอย่างงั้นจะรู้มั้ยล่ะว่าห่วง”
“แผนอื่นมีตั้งเยอะแยะ” อดด่าไม่ได้ ทำไมต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงเพราะคนปากแข็งอย่างผมด้วยล่ะ?
“เถอะน่า ต้องใช้วิธีนี้เท่านั้นแหละ ถึงจะง้างปากของมึงได้” ปอนด์แกล้งทำหน้าเซ็ง “ไม่เหมือนกู มึงไม่ต้องทำห่าอะไรเลย กูก็บอกมึงละ”
“ก็ . . ก็มึงอยากบอกเอง” นึกถึงประโยคนั้นผมก็เอาผ้าห่มยกขึ้นมาปิดไว้ครึ่งหน้า ปิดหน้าแดงๆของตัวเองเอาไว้
“ชิ” ปอนด์มันแกล้งทำเสียง แล้วก็หัวเราะก๊าก ไม่รู้จะมีความสุขไปไหน“ฮ่าๆๆ ลุกขึ้นมาสิ ไปล้างหน้าล้างตา” มันยื่นมามือให้ผมจับ
ผมมอง . . ชั่งใจ ไม่กล้าจะยื่นมือออกไป
“อายอะไรเล่า . . เมื่อคืนยังเกือบ . . กันเลยนะ” ตุ้บ!!! ผมลุกขึ้นนั่งและโยนหมอนใส่หน้ามันทันทีแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด
“พูดออกมาได้ เกือบเหี้ยไร มีแต่จูบกันเฉยๆ!!!!”
“เอ่อ ขอโทษนะคะ” พี่พยาบาลเข้ามาได้จังหวะที่เหมาะมาก ได้ยินทุกประโยคเลยล่ะสิเจ๊ ถึงทำหน้าฟินแบบเก็บไม่อยู่ขนาดนั้นอ่ะ?!!! “น้องปรภัทร คุณหมอขอเข้ามาตรวจแป๊บนึงนะคะ”
“อ้าว” ปอนด์ทำหน้างง หันเหลือบมามองผม “เมื่อเช้าตรวจแล้วนี่ครับ”
“ก็เมื่อเช้าน่ะสิคะ คุณหมอไม่รู้ไปตรวจเจออะไรเข้า” พี่พยาบาลร่ายให้ฟัง แต่ยังมิวายทำหน้าฟินจิ้นผมกับไอ้ปอนด์อยู่ . . อยากจะบอกพี่แกไปเหลือเกินว่า ไม่ต้องเสียแรงจิ้นหรอกครับ เรียลแล้วครับ T________T “เมื่อคืนน้องปรภัทรแอบออกไปข้างนอกโรงพยาบาลใช่มั้ยคะ แล้วก็ไปเล่นให้ตัวเองบาดเจ็บกลับมา”
พูดเหมือนไอ้ปอนด์เป็นเด็กอนุบาลเลยแฮะ . . แต่วิธีที่มันใช้กับผม ผมเห็นด้วยครับพี่ว่ามันเด็ก ด่ามันต่อเลยครับ
“น้องเกือบจะหายดีแล้วนะคะ ไม่น่าไปทำอย่างงั้นเลย”
“โหยยยพี่” ปอนด์เริ่มงอแง กูไม่อยากจะใช้คำแบ๊วๆแบบนี้กับมึงเลย ให้ตายสิ “ถ้าพี่ตกอยู่ในสภาพแบบผม พี่จะทำยังไงเหรอครับ ถ้าเราอยากจะรู้ใจเขาน่ะ” ท้ายประโยคแม่งหันมาหาผมอย่างเจาะจง เล่นหูเล่นตาใส่อีกด้วยนะ มึงแสบขนาดนี้เลยเหรอวะ กูเพิ่งรู้ = =
“เป็นพี่ พี่ก็คงถามน่ะค่ะ”
“ถามเฉยๆมันก็ไม่น่าจดจำสิครับ”
“โอ๊ย คิกคิก เอาเถอะค่ะ ไปนอนบนเตียงก่อนน่ะคะ เดี๋ยวคุณหมอจะเข้ามาตรวจแล้ว” พี่พยาบาลคงปลื้มกับความใส(หมาดๆ)ของไอ้ปอนด์สุดขีด ยิ้มให้ไอ้ปอนด์ และก็ยิ้มให้ผม แล้วเดินออกจากห้องไป
ปอนด์หันมายิ้มยิงฟันให้ผม
“ยิ้มไรล่ะ” ผมแกล้งขัดความสุขมัน “ไปนอนสิ ให้หมอตรวจ ไอ้ดื้อเอ๊ย ไม่เคยฟังคำพูดของใครเลย”
“ไม่ดื้อหรอก ถ้ามึงไม่ซนใส่กูก่อน” ปอนด์ทำท่าเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เสาน้ำเกลือมันก็ลากมาหาผมด้วย อีกนิดผมจะชิดผนังแล้ว ผมจึงก้มหน้างุด
“เลิกเล่นได้แล้ว เดี๋ยวหมอมา”
“ขออีกทีได้มั้ย” “อะ . . อะไร” ถามทั้งๆที่พอจะรู้คำตอบ
[
“จูบน่ะ . .” มันไม่รอฟังคำตอบเหมือนผมในตอนที่แล้วเด๊ะๆ แม่งจู่โจมเข้ามาอย่างเร็วโดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว เอ่อ กูยังมิได้แปรงฟันเลยนะเว้ยยยยยยยยย
“ฮัลโหลห้าสิบหกสิบเจ็ดสิบ ปอนด์เพื่อนรัก คิกสุดหล่อ มาเยี่ยมมึงหละ = = อุ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” ไอ้ปอนด์ที่อีกนิดจะได้ประกบปากกับผมแล้วนั่งลงฉับที่เตียงทันที ทิ้งให้ผมยืนอึ้งนิ่งแข็งเป็นท่อนไม้อยู่นั่น
บูมกับคิกเข้ามาได้เหมาะเจาะ เหมือนพี่พยาบาล . .
“เอ้อ หวัดดี มาทำไมกันเร็วนักวะ” ปอนด์แอบเหน็บเพื่อน แบบยิ้มๆ
“ไอ้สัด!!!!” คิกวิ่งเข้าไปนั่งบนเตียงของไอ้ปอนด์และเขย่าตัวมันอย่างบ้าคลั่ง “ไอ้สัด ไอ้สัด ไอ้สัด!!!!”
“เอ่อ คิก ใจเย็นดิวะ” ผมกลัวลูกกระเดือกไอ้ปอนด์จะหลุดออกมาดิ้นแด่วๆเพราะแรงเขย่าไปมาของคิก
“แหะๆ ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ธาม ไอ้คิกมันก็แค่อิจฉาไอ้ปอนด์น่ะ” บูมทำท่าเหมือนจะพูดดีกับผม ที่ไหนได้สายตาของมันล้อเลียนชิบหาย . .ผมจึงหย่อนก้นนั่ง เอาหนังสือพิมพ์มาปิดหน้าซะ
“เชี่ยปอนด์ เป็นเหี้ยอะไร ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่” คิกท้วงอย่างหงุดหงิด ผมที่นั่งอ่านบางกอกโพสต์อยู่โผล่หน้าออกมาดูหน้าไอ้ปอนด์ที่นั่งบนเตียงแว้บนึง เออว่ะ แม่งยิ้มเก่งจริงๆ
“สงสัยจะได้ยาดี” บูมบอก
“นั่นสินะ” ไอ้คิกส่งเสียงอย่างอิจฉา “ยาดี น่ารักด้วย โอ้ย! เชี่ยปอนด์ โยนมาทำไม!!!”
“เปล่า แค่รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาเฉยๆ”
“เพราะกูชมพี่ธามใช่มั้ย”
“เปล่าสักหน่อย”
“ชิ” คิกคลำหัวป้อย “พี่ธาม ไอ้ปอนด์มันทำตัวเหี้ยอ่ะ”
ปอนด์สะกิดไหล่คิก “ไม่ต้องไปลากเค้าเข้ามาก็ได้”
“เป็นเอามากเนอะมึงน่ะ”
“กูยิ่งมีเรื่องเซ็งๆ มาเจอมึงกับพี่ธามสวีทกันกูยิ่งเซ็งเพราะความอิจฉา”
“เป็นเหี้ยไรมา”
“ก็ไอ้เชี่ยบูมอ่ะดิ” คิกช่างเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการลากคนอื่นเข้ามาในวงสนทนาด้วยจริงๆ “มันไม่ยอมช่วยกูขอเบอร์พี่ซันให้อ่ะ TT”
ผมเผลอขยุ้มหนังสือพิมพ์จนเป็นรอยยับ ซัน! ซันไหน ซันไช่ทีเถอะ อย่าเป็นยัยซันซันสุดแสบคนนั้นเลย . .
“อยากได้ทำไมไม่ขอเองล่ะไอ้เหี้ย” บูมพูด น้ำเสียงเรียบเฉย
“จริงของบูมมัน ปกติเวลามึงชอบใคร อยากได้เบอร์ใครมึงก็ขอเองหมดเลยนี่นา แล้วทำไมกับพี่ซัน มึงถึง . .”
“คือคนนี้กูว่าแม่งใช่สำหรับกูว่ะปอนด์!!!!” ตายล่ะ นี่ผมลุ้นยิ่งกว่าลุ้นผลแอดอีกนะ ซันไหนวะที่โดนใจไอ้คิก โอ้ยยยย “ยิ่งแบ๊ดๆ ดูแสบๆแก่นๆล่ะก็ กูยิ่งชอบบบบบบ โดนใจอ่ะ”
คงไม่มีซันที่อื่นอีกแล้วล่ะ นอกจากยัยซันน้องสาวของเซนแต่เพียงผู้เดียว ใครจะแบ๊ด จะแสบ จะแก่นได้เท่าเธอคนนี้อีกล่ะ ผมว่าหายากน่าดู
“รสนิยมมึงนี่ดีใช้ได้เลยนะ” ผมคิดไปเองรึเปล่าว่าไอ้ปอนด์มันประชดคิกน่ะ
“สัด ประชดกู” คิกหน้ามุ่ย โอเค ผมไม่ได้คิดไปเอง “ใครจะไปหาได้ดีสู้มึงครับ ไอ้ปอนด์ หาๆๆ ถ้ามึงเมตตากูมึงก็ส่งเค้ามาให้กูเด๊ . .กล้าป่าว กล้าอ๊ะป่าวววว”
โป๊ก . . ปอนด์จัดการเขกมะเหงกใส่คิกอย่างรวดเร็ว “กูยอมรับอย่างลูกผู้ชายเลยว่ากูไม่กล้า”
“เท่สัดอ่ะ” บูมส่งเสียง “นี่แหละเว้ย ลูกพี่กู”
ผมได้ฤกษ์เอากระดาษหนังสือพิมพ์มาปิดหน้าปิดตาอย่างเต็มๆซะที ไม่อยากจะพูดอะไรมากหรอกครับ ให้เพื่อนๆเค้าพูดกันไป
“แล้วนี่มึงจะออกจากโรงบาลเมื่อไหร่วะ” บูมถามปอนด์
“ไม่รู้เลยว่ะ”
“กูสงสัยมากเลย มึงแค่ล้มแล้วก็เป็นแผลแค่นี้ก็น่าจะออกจากโรงบาลได้แล้วนี่หว่า”
“หมอบอกซี่โครงกูร้าวนิดหน่อยอ่ะ” ผมเก็บหนังสือพิมพ์ทันทีที่ได้ยิน ผมก็สงสัยเหมือนกันกับบูมแต่ไม่มีโอกาสถามสักที ปอนด์ยิ้มแหยะส่งมาให้ผม “สงสัยคงเป็นตอนที่ตกถนนน่ะกับตอนล้มกลางถนน พี่พยาบาลบอกว่าเพิ่งตรวจพบนั่นแหละ แหะๆ”
“แล้วเมื่อคืนยังจะเล่นอะไรพิเรนทร์อีกนะมึง” ผมพูดเสียงเย็น อดโกรธไม่ได้ ซี่โครงร้าวเลยเหรอ . .
“เล่นอะไรกัน!!!!” บูมกับคิกส่งเสียงถามอย่างสนอกสนใจ(แต่มากไปมั้ง)
“หรือว่า . .” ไอ้คิกคิดได้เร็วมาก
“เห้ย ไม่ใช่นะ!” ผมรีบห้ามความคิดของมันไว้อย่างด่วน
“อย่างที่พวกมึงคิดเป๊ะเลย” ไอ้เชี่ยปอนด์ . . กวนตีนนะมึงน่ะ!!! “กูไม่น่าฝืนสังขารตัวเองเลยว่ะ แต่ก็นะ . . โคตรมีความสุข”
ไอ้บูมกับไอ้คิกอึ้งอย่างที่สุดเท่าที่จะอึ้งได้ ถ้าอ้าปากจนถึงปลายส้นเท้าได้มันคงทำไปแล้ว
“ปอนด์ มึงอย่ากวนตีน!!!!!” ผมร้อง
“อ้าว ให้เค้ารู้ว่ากูทำอะไรแบบนั้นกูคงอายเค้าตาย”
“ก็แผนนั่นของมึงมันปัญญาอ่อนจะตาย!!”
“เอาเป็นว่า . . พวกมึงไม่ต้องถามอะไรอีกเลยละกันนะ!” ปอนด์ยิ้ม “เออนี่บูม ยืมโทรศัพท์หน่อยดิ อยากโทรหาแม่อ่ะ”
บูมสะบัดความคิดพิลึกพิลั่นที่ไอ้ปอนด์ป้อนให้แล้วก็เริ่มรวบรวมสติได้ “เออเว้ย เรื่องโทรศัพท์นี่ เดี๋ยวพวกกูไปถอยให้ก็ได้นะ ติดต่อยากชะมัด”
“ทำไม . . นางพยาบาลเค้าจีบมึงรึไง”
อ๋อออ ใช่ครับ เมื่อคืนลืมบอกไปว่าที่ผมโทรติดต่อกับไอ้ปอนด์เมื่อคืนคือใช้เบอร์โทรของโรงพยาบาล ให้พยาบาลที่เฝ้าเคาเตอร์เค้าต่อเข้าไปในเครื่องในห้องของไอ้ปอนด์น่ะครับ ปอนด์ยังไม่มีโทรศัพท์
“ก็ . . เออดิ” บูมทำหน้าเหมือนไม่อยากจะยอมรับ คุณป้าพยาบาลนั่นอ่ะนะ 555 ทำไมผมไม่โดนจีบบ้างวะ
“แหวะ ขี้โม้” คิกสวนขึ้นมาในทันใด
แต่เชื่อเถอะ . . คุณป้าพยาบาลของบูมดีกว่าคุณซันซันของคิกหลายขุม
ผมเปิดโทรศัพท์ของตัวเองบ้างเมื่อเห็นไอ้ปอนด์กำลังคุยกับที่บ้านอย่างสบายอกสบายใจ ใจหล่นวูบเมื่อเห็นมิสคอลจากโทมัสเป็นสิบ มีเรื่องอะไรด่วนรึเปล่าเนี่ย!!!!!
“คุณหนู!!!!! ทำไมปิดเครื่องล่ะครับ!!! อย่าทำอย่างนี้สิครับ!!!! คุณปอนด์ก็ยิ่งไม่มีมือถือด้วย คุณหนู ทำผมเป็นห่วงนะรู้มั้ย!!!!!”
หูจะพัง . . ผมออกมาโทรศัพท์ที่ระเบียงด้านนอกห้อง
“เอ่อ มีไรด่วนป่าวโทมัส”
“มีหนังสือเล่มหนึ่งน่ะครับ พอดีเค้าเอ่อ คือ เอ่อ . .”“สัมภาษณ์เหรอ เลื่อนไปก่อนได้มั้ย ปอนด์ยังไม่ดีขึ้นเลย”
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ” โทมัสมีน้ำเสียงหนักอกหนักใจเป็นอย่างมาก
“มีรูปแอบถ่ายของคุณหนูกับคนที่ผมแน่ใจว่าเป็นคุณเซน . . ที่บาร์”ใจของผมหล่นวูบหนักกว่าตอนที่เห็นมิสคอลของโทมัสอีก . .
“เอ่อ ตอนนั้นเซนมีเรื่องจะคุยกับธามนิดหน่อยน่ะ”
“ผมเข้าใจครับคุณหนู แต่คนอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจไปในทิศทางไหน” โทมัสถอนหายใจ
“ธามจะบอกความจริง”
“แต่นี่มันรูปจูบเลยนะครับคุณหนู T_____________T”หวะ ว่าไงนะ . .
“เมื่อคืนคุณหนูจูบกับคุณเซนมาใช่มั้ยครับ”
. . .
“ป่านนี้ว่อนไปทั่วโซเชียลเน็ตเวิร์คแล้วล่ะครับ. .”ครึ่งแรกก่อนเหอะนะ
เดี๋ยวครึ่งหลังตามมา