ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocksช็อตที่ 8แปะ!
บินตบยุงที่เกาะอยู่ตรงแขนของตัวเอง
แล้วจึงค่อยๆ ลืมตาตื่นอย่างงัวเงีย
เมื่อพระอาทิตย์เริ่มส่องแสงจ้าทิ่มแทงใส่เต็ม ๆ อย่างไม่ปราณี
จนเขาต้องกระพริบตาปรับโฟกัสอีกหลายที
ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นจากพื้นแข็ง ๆ ของคอนกรีตบนดาดฟ้าหอ
โอยยย... ปวดหลังไปหมดเลยวะ
ไงล่ะ เสือกทำตัวเหมือนนางเอกมิวสิคไปได้นะมึง
เล่นหนีพระเอกที่กำลังจะข่มขืนตัวเองขึ้นมาบนดาดฟ้า
แล้วก็มานั่ง ๆ นอน ๆ สงบสติอารมณ์อยู่บนนี้
จนเผลอหลับ ตากน้ำค้าง บริจาคเลือดให้ยุงไปหลายลิตร
นึกแล้วก็ยังแค้นตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องไม่หาย
ไม่รู้ว่าพูดไปมันจะสำนึกขึ้นมาบ้างรึเปล่า
หรือป่านนี้นอนเตียงกูสบายใจเฉิบไปแล้ว
คนอย่างมันอยากทำอะไรก็ทำอยู่แล้วนี่
...ส่วนกูมันก็แค่คนซวยที่ต้องมารองรับอารมณ์หลังอกหักของมึงเท่านั้นเอง
คนที่ต้องระเห็จมานอนบนดาดฟ้าลุกขึ้นยืน
ปัดเสื้อผ้าสองสามครั้งหมายจะเดินกลับห้อง
ทว่าชั่วขณะที่กำลังจะก้าว อยู่ ๆ แข้งขากลับอ่อนแรง
ซวนเซจะล้มจนเขาต้องรีบคว้าขอบประตูดาดฟ้าเอาไว้
...เวรแล้วมั้ยล่ะ
ชักมึน ๆ เหมือนกันเว้ย
ขืนไม่สบายขึ้นมาล่ะก็เป็นเรื่องพอดี
วันนี้มีสอนเช้าด้วย นัดน้องเอาไว้แล้ว
ยังไงเขาก็ต้องลากสังขารตัวเองไปให้ได้
คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบค่ำคอพยายามประคับประคองร่างลงมา
ก่อนเดินมาหยุดหน้าห้องของตัวเอง
แล้วจึงค่อย ๆ เปิดประตูพลางกวาดสายตาสำรวจห้องมืดสลัว
...ไม่มีใครอยู่
อ้าว...แล้วไอ้หน้ามึนมันหายหัวไปไหนวะ
เสือกทิ้งห้องไว้ไม่ล็อกแบบนี้ได้ไง
ขโมยเข้าของหายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ
ขนาดตัวไม่อยู่ยังก่อเรื่องได้เลย
แม่ง!! ปวดหัวฉิบหายเลยเว้ย!!
บินถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ
ก่อนจะจัดการพาตัวเองเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ
เตรียมพร้อมจะออกไปสอนดนตรีข้างนอก
วันนี้มีสอนน้องชมพู่ตอนแปดโมงครึ่งถึงสิบโมงครึ่ง
หลังจากนั้นตอนสิบโมงครึ่งก็ว่างไปจนถึงบ่ายโมง
หืม...
...ว่างเหรอ?
เดี๋ยวก่อนนะ...
เหมือนกับว่าเมื่อวานนี้มีตารางงานของเขา
ถูกแทรกเพิ่มเข้ามาตอนสิบโมงครึ่งถึงเที่ยงครึ่งนี่นา
ใช่...
ตารางงานที่โดนยัดเหยียดมาจากไอ้เผือก
มอบหมายให้เขาสอนคนคนหนึ่ง
แค่นึกถึงภาระที่ต้องรับผิดชอบก็ชวนให้ปวดหัวจี๊ดอีกครั้ง
ความร้อนพัดขึ้นจนวิงเวียน
ต้องรีบเดินหายาพารามากรอกใส่ปากสักเม็ด
เข้าเปิดเก๊ะหาแผงยา แต่ดวงตาดันสะดุดเข้ากับกองกระดาษโน้ตเพลงที่แกะเอาไว้
หยุดมองชั่วครู่ ลังเลเล็กน้อย
แล้วจึงตัดสินใจคุ้ยหาแผ่นที่บรรจุเนื้อเพลงหนึ่งหยิบติดมือไปด้วย
...ก็ไม่ได้อยากจะเป็นคนดีอะไรนักหรอก
แต่ถ้ามันช่วยจบเรื่องวุ่นวายทุกอย่างลงได้
....เขาก็หวังว่าเพลงนี้จะช่วยทำให้ใครบางคนได้เข้าใจสักที
------------------------------------------------------------------------------------------------------
...ทำไมเขาถึงโง่แบบนี้วะ!
ไกรศรสบถด่าตัวเองในใจ
หลังจากเพียรพยายามตามหาคนโกรธที่เดินหายออกไปจากห้อง
เขาเที่ยวเดินดูไปหมดทุกซอกซอย
จนเหนื่อยก็กลับมาเอารถที่จอดอยู่หน้าร้านเหล้า
ขับวนเวียนหาอยู่เป็นนานสองนานกระทั่งถึงตีห้า
ทว่าก็ไร้เงาของบินจนเผลอถอดใจ
เขารู้แล้ว...
รู้ตัวว่าผิด
รู้ตัวว่าความเอาแต่ใจของตัวเองทำให้ใครอีกคนต้องเจ็บแค่ไหน
เขายอมรับ...
ทั้งหมดที่ทำลงไปตอนแรกก็เพื่ออยากหาคนมาคอยอยู่เคียงข้าง
ไม่อยากจะต้องทุกข์ทรมานฟุ้งซ่านกับความเจ็บช้ำเพียงลำพัง
และก็เพราะยึดว่าบินอยู่ในสถานะ ‘แฟน’
เป็นคนรักที่เขามีสิทธิ์ครอบครองคนเดียว
เลยเกิดอาการคิดไปเองบ้า ๆ หึงหวงไม่อยากให้ใครมาแย่ง
จนเผลอทำให้บินโกรธ
เขาเสียใจ...
อยากจะขอโทษ
แม้เดาได้ว่าบินอาจไม่มีวันให้อภัย
แต่เขาแค่อยากขอโอกาส
...โอกาสสักครั้ง
แล้วเขาสัญญาว่าต่อจากนี้จะดูแลบินให้ดีที่สุด
ไกรศรจอดรถเทียงข้างทางเอนหลังพิงเบาะอย่างท้อใจ
ในใจครุ่นคิดถึงใบหน้าของคนคนหนึ่งซ้ำไปมา
ไม่รู้จะไปหาจากที่ไหนแล้ว
เจอบินเพียงแค่สองวัน เลยเดาไม่ถูกว่าบินไปที่ไหนประจำบ้าง
เดี๋ยว...
จริงสิ...
บินเป็นครูสอนกีตาร์นี่น่า
แล้วก็มีนัดสอนกีตาร์ให้เขาตอนสิบโมงครึ่งด้วย
...ทำไมเขาถึงโง่แบบนี้วะ!
คิดได้แค่นั้น
ร่างสูงใหญ่จึงรีบขับรถกลับบ้านไปอาบน้ำอาบท่า
แล้วขับออกมาจอดหน้าร้านดนตรีนิยมเพื่อดักรออย่างกระวนกระวาย
ปกติเวลาเคร่งเครียดแบบนี้เขาคงต้องสูบบุหรี่รอหมดไปหลายมวนแล้ว
แต่จำได้ว่าบินบอกว่าไม่ชอบ และเขาก็สัญญาว่าจะไม่สูบอีก
จึงได้แต่เดินย้ำเท้าไปมาอยู่หน้าร้านตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่ง
กระทั่งหนึ่งชั่วโมงผ่านไป
ไกรศรจึงเห็นคนที่ตามหามาตลอดทั้งคืน
ลงมาจากวินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง
นึกโทษตัวเองอยู่เหมือนกันที่ปล่อยให้บินต้องลำบาก
ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจจะมาส่งบินที่นี่ด้วยรถตัวเองแท้ ๆ
แต่เขาสองคนดันเกิดทะเลาะขึ้นมาเสียนี่
“บิน”
ไกรศรเดินเข้าใกล้อีกฝ่าย
แต่คนถูกเรียกชื่อกลับเดินจ้ำ ๆ เข้าไปในร้านโดยไม่สนใจ
จนเขารีบต้องตะโกนรั้งไว้
“เดี๋ยวสิ บิน คุยกันก่อนได้มั้ย”
“กูมีสอน”
สั้น ๆ ได้ใจความ
และทำให้คนที่กำลังเดินตามต้องหยุดชะงัก
...บินมีสอน
นั่นสิ เขาคงจะไปรบกวนบินไม่ได้
ก็บินบอกแล้วว่าอย่าทำตามใจตัวเอง
งั้นเขาก็จะรอ...
รอให้ถึงเวลาสอนของเขาตอนสิบโมงครึ่ง
แล้วถึงตอนนั้นเขาก็จะขอเข้าไปปรับความเข้าใจกับบินให้ชัดเจน
ไกรศรนั่งรอในรถนอกร้านอย่างกระวนกระวาย
ประเดี๋ยวก็ลุกขึ้นออกมาเดิน แล้วก็กลับไปนั่งใหม่
ท้องร้องหิวข้าวก็แว๊บไปกินอย่างเร่งรีบ
แล้วบึ่งกลับมาจอดที่เดิมอย่างกลัวว่าจะคลาดกับใครบางคน
ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวก็ยังนั่งสอนนักเรียนอยู่ข้างบนตึก
สองชั่วโมงยาวนานราวกับไม่มีที่สิ้นสุดในความรู้สึก
แต่สุดท้ายเมื่อนาฬิกาบอกเวลาสิบโมงครึ่ง
เขาก็รีบถลาคว้ากีตาร์ของตัวเองวิ่งขึ้นบันไดไปในห้องเรียนทันที
ยืนรออยู่เล็กน้อยให้เด็กสาวที่บินกำลังสอนอยู่เดินออกจากห้อง
แล้วตัวเองจึงเปิดประตูเผชิญหน้ากับคนที่กำลังนั่งรออยู่
“บินคือว่าพี่...”
“หยิบกีตาร์ขึ้นมาแล้วนั่งลงซะ”
คำพูดที่สวนขึ้นมาทำให้คนที่กำลังจะอ้าปากอธิบาย
ต้องเก็บความตั้งใจของตัวเองลงกระเป๋า
เพราะรับรู้ถึงอาการหงุดหงิดของคนตรงหน้า
...ก็พอเข้าใจอยู่หรอกว่าบินคงไม่อยากจะยุ่ง
ทำผิดขนาดนี้จะโกรธกันไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
นี่ก็คงทำไปเพราะต้องจำใจสอนอย่างช่วยไม่ได้
แต่อย่างน้อย...
ช่วยให้โอกาสเขาขอโทษสักครั้งไม่ได้เหรอ
“เอ้า เพลงที่จะเล่นวันนี้”
บินยื่นกระดาษมาให้อย่างส่ง ๆ
เขารับมาไว้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีกะจิตกะใจอยากจะเรียนกีตาร์เลยแม้แต่น้อย
แต่เมื่อดวงตาเหลือบเห็นคอร์ทกีตาร์ก็ต้องชะงัก
นิ่งมองเนื้อเพลงที่เขียนเอาไว้
เอ่ยถามซ้ำอย่างไม่แน่ใจ
“ให้เล่นเพลงนี้เหรอ”
“เออ กูจะเล่นให้ดูรอบหนึ่ง แล้วจำไว้ซะ”
คนสอนพูดสั่งเสียงห้วน
หยิบกีตาร์โปร่งของตัวเองขึ้นมา
ใช้นิ้วดีดเป็นท่วงทำนอง
ก่อนเปล่งเสียงร้องทุ้มนุ่มออกมาเป็นเพลง
“ความรัก ต้องพังลงไป
อนาคต ที่สุดก็ผ่านพ้นไป
เหลือเพียงหัวใจที่ยับเยิน
บาดแผล ลึกเกินเยียวยา
ตื่นจากฝัน เพราะถูกปลุกด้วยน้ำตา
ทุรนทุราย หัวใจเหนื่อยล้า....
ภาวนาให้ใจเจ็บจงเข้มแข็ง
แม้มันจะไร้เรี่ยวแรง จะฝืนลุกยืนให้ไหว
คนคนเดียวมันไม่มีสิทธิ์ขนาดนั้น
ไม่ทำให้ช้ำถึงตาย ยังไงต้องรับให้ได้
ชีวิตแค่โดนทำร้าย...
แต่ที่สุดมันต้องไม่โดนทำลาย
แค่วันนี้หัวใจสลาย...
เตือนตัวเองว่าถึงยังไงฉันยังต้องอยู่
ความรักลวงหลอกมันก็แค่เจ็บปวด
ไม่มีค่า.... ให้มันทำลายชีวิตไม่ได้...
ต้องไม่ตาย... ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ...
...ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ”
บินนี่เป็นคนยังไงกันแน่นะ
เขาทำไปขนาดนั้นแล้วไม่โกรธเหรอ
โกรธสิ... ดูก็รู้ว่าโกรธอยู่
แต่ก็ยังอุตส่าห์เลือกเพลงนี้มาสอน
...เพลงที่ฟังดูเหมือนตอกย้ำชีวิตของเขา
แต่คล้ายกับมีถ้อยคำให้กำลังใจแฝงมาอยู่ในนั้น
...นี่เหรอคือสิ่งที่บินบอกว่าให้เขาคิดถึงใจคนอื่น
แล้วเขาล่ะ...
บินทำให้เขาตั้งขนาดนี้
เขายังกล้าทำร้ายความรู้สึกของบินลงไปได้ยังไงกัน
ยิ่งคิด ยิ่งสำนึกผิด
แต่ไกรศรก็ยังคงจับกีตาร์มาหัดเล่นเพลงนั้นตามโน้ตเพลง
เล่นซ้ำ ๆ ให้ความหมายของเนื้อเพลงซึมลึกลงไปในใจ
จวบจนครบสองชั่วโมง
ร่างสูงจึงสามารถเล่นเพลงอกหักของบอดี้สแลมได้คล่องจบเพลง
ครูผู้รับผิดชอบตามหน้าที่ครบตามเวลาเห็นดังนั้น
จึงลุกขึ้นเดินเอากีตาร์ไปวางตั้งบนแท่น
เตรียมเก็บข้าวของออกจากห้อง
แต่ครั้งนี้คนที่ตามง้อไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หลุดมือไปอีก
รีบลุกขึ้นขวางคนที่กำลังจะเดินไป
แล้วชิงพูดถ้อยคำที่ครุ่นคิดอยู่ในใจมาตลอดทั้งวัน
“บิน...คือ...
พี่.....พี่ขอโทษ...
...ขอโทษที่ทำเรื่องไม่ดีลงไปเมื่อวาน
แล้วก็เรื่องทั้งหมดที่พี่บังคับบิน
พี่มันผิด...พี่มันเลวเอง...
ตอนนี้พี่รู้ตัวแล้ว...
...บินพอจะยกโทษให้พี่ได้มั้ย”
คนฟังจ้องมองอีกฝ่ายนิ่งเพียงครู่
ก่อนจะย้อนถามกลับสั้น ๆ เสียงเย็น
“แล้วถ้ากูบอกว่าไม่ยกโทษให้ล่ะ”
“พี่ก็จะตามง้อบินไปเรื่อย ๆ จนกว่าบินจะยอม”
“แล้วถ้ากูยกโทษ”
“พี่ก็จะขออยู่ข้างๆ บิน ทำตัวเป็นแฟนที่ดี พี่สัญญา”
ผลลัพธ์ของตัวเลือกที่ได้ยิน
ทำเอาบินแทบจะยกมือขึ้นกุมขมับ
...สรุปคือยังไงมึงก็จะตามกูมาอยู่ดีว่างั้นเถอะ
แล้วมันจะต่างจากที่มึงทำตามใจตัวเองตรงไหนวะ
โอยยย!! ไม่เอาแล้ว
คุยกับมึงทีไรปวดหัวทุกที
ตากูลายไปหมดแล้ว
บินไม่ตอบคำ เดินเลี่ยงพุ่งตรงไปยังประตูห้อง
แต่กลับถูกร่างสูงคว้าแขนเอาไว้
“บิน เดี๋ยวก่อนสิ
เอ๊ะ...บิน...
ทำไมบินตัวร้อนล่ะ”
เขาได้ยินเสียงอีกฝ่ายทักอย่างแปลกใจ
แต่ตัวเองยังคงพยายามดึงแขนให้ออกจากมือที่จับเอาไว้
“ปล่อยกู”
เสียงที่เปล่งออกมาแม้จะห้วนสั้น
ทว่าดูแผ่วเบากว่าทุกที
ร่างสูงใหญ่ไม่ทำตามกลับลากเข้าไปใกล้
มือแกร่งอังหน้าผากของคนคิดหนี
แล้วก็ต้องร้องขึ้นด้วยความตกใจ
“บิน! ทำไมตัวร้อนขนาดนี้
หน้าแดงไปหมดแล้ว
ไม่สบายเหรอ เดี๋ยวพี่พาไปหาหมอนะ”
...ไม่ต้องไปหาหมอหรอก
แค่ให้กูไปไกล ๆ จากมึงก็พอ
เอ๊ะ...
แล้วทำไมมันมืด ๆ วะ
ใครมาปิดไฟรึเปล่า
หรือใครปิดแอร์
ทำไมมันถึงร้อนไปหมดแบบนี้
ยังไม่ทันได้คิดอะไรเพิ่ม
ร่างของคนมึนก็หมดแรงทรุดฮวบ
จนไกรศรแทบจะคว้าตัวเอาไว้ไม่ทัน
“เฮ้ย!! บิน... บิน....
ตื่นก่อนสิ... บินอย่าเป็นอะไรนะ
ได้ยินพี่มั้ย...
บิน.... บิน...
โธ่เว้ย!!”
เขาได้ยินเสียงตะโกนเรียกอย่างตื่นกลัว
ท่ามกลางสติที่เหลืออยู่น้อยนิด
ใจนึกอยากจะอ้าปากตอบกลับแต่ก็ไม่มีแรง
ก่อนจะรู้สึกถึงมือแกร่งยกตัวเขาอุ้มขึ้นมา
...แล้วภาพตรงหน้าทั้งหมดก็ดับวูบไป
------------------------------------------------------------------------------------------------------
TBC
แปะเพลงที่คุณครูบินสอนจ้า 
http://www.youtube.com/v/nADUcwgaBc0?h
ตอนนี้เห็นมีหลายคนอยากจะกระตืบพี่ศรกันสินะ ฮ่า ๆ
ก็คุณพี่เล่นทำแบบนี้นี่นา จะโดนคนอ่านรุมตามซ้ำเติมก็ไม่แปลก
อารมณ์คนอกหักหลายครั้งสิ่งทำลงไปก็เหมือนจะดูไร้เหตุผล
แต่ก็เพราะความไร้เหตุผลนั้นแหละ
ที่ทำให้ความรู้สึกทั้งหมดออกมาจากใจจริง ๆ
ขอบคุณที่ยังติดตามเป็นกำลังใจ
มาช่วยกันชนแก้วให้กับความรักเมา ๆ
ของพี่ศรและน้องบินนะคะ
BitterSweet