ผมได้เค้กสองชิ้นมานั่งกินไปทำงานไป ยังอร่อยไม่เปลี่ยน เปิดเทอมมาก็เพิ่งมีงานนี้แหล่ะงานแรกที่รับ แต่งานง่ายครับ ทำคนเดียว ไม่ได้ให้อ้นช่วยอะไรมาก วันต่อมาและต่อๆ มาพี่เอ็กซ์ก็ยังพยายามบังคับให้ผมมาพร้อมกันตอนเช้า ก็สบายผมล่ะครับ ไม่ต้องเดิน แต่..ต้องกินข้าวทุกเช้าเลย ถ้าไม่กินข้าวก็ต้องกินนมกับแซนวิชให้หมด โดยให้ไอ้เพื่อนรักผมสามคนคอยนั่งคุมผมอีกที แทนทีจะช่วยผมดันเห็นดีเห็นงาม บอกว่าจะได้มีคนคุมซะมั่ง เซ็งเลยครับ
.....วันนี้พี่เอ็กซ์ไม่มาส่งแต่บังคับให้เอาจักรยานมาใช้แทน สบายผมครับ ผมปั่นมาถึงมหาลัยก็เดินตรงมาที่โต๊ะกลุ่มผม
“ไงมึง วันนี้พี่เอ็กซ์ของมึงไปไหนล่ะ”คำทักทายของไอ้ตี๋มันครับ
“ของกูที่ไหน มึงก็พูดไปนั่น”ตอนพี่เอ็กซ์พาผมกลับมาจากปาย โก้บอกว่าพี่เขาทำความดีความชอบไว้ใหญ่หลวง สมควรได้รับรางวัล.....แต่ผมไม่ใช่ของรางวัลนะ
“กูก็พูดเฉยๆ แล้วมึงจะยิ้มทำไม”ตี๋พูดยิ้มๆ ผมยิ้มอยู่เหรอ รีบจับหน้าตัวเองแล้วหุบปากทันทีครับ ไม่ได้ตั้งใจยิ้มนะ แค่...อารมณ์ดีเฉยๆ
“ไม่ได้ยิ้มซะหน่อย มึงน่ะมั่ว”เถียงกับมันอยู่ดีๆ โทรศัพท์ในกางเกงผมก็สั่น หยิบมาดูไม่แล้วไม่อยากรับเลยครับ
“มีอะไร”
“กินข้าวรึยัง”พี่เอ็กซ์พูดมาเสียงงัวเงียอยู่เลยครับ แสดงว่าเมื่อกี้กลับไปนอนต่อแน่ๆ
“กินแล้ว กินข้าวผัด อร่อยมากๆ แต่กินไม่หมดนะ”ตอบไปแบบไม่ต้องคิดเลยครับ
“เหรอ อร่อยมากเหรอ กินร้านไหนล่ะ”
“ก็....ร้านเดินที่โรงอาหารนั่นแหล่ะ”ดีนะที่แก้สถานการณ์ทัน นับว่าผมฉลาดนะเนี่ย
“โกหก.....เดี๋ยวนี้หัดโกหกแล้วเหรอเจ”พี่เอ็กซ์เริ่มสวนกลับมาแบบไม่คิดเหมือนกัน เอ...หรือคิดหว่า
“...เปล่า”เสียงดุอีกแล้ว ไม่กล้าเถียงเลยครับ
“เปล่าอะไร เก๋กับโอ้มันนั่งกินข้าวกันอยู่โรงอาหาร มันบอกไม่เห็นเจเลย แล้วจะกินได้ไง คิดเมนูเองเสร็จสรรพเลยนะ”
“.........”หมดคำพูดครับ โกหกครั้งแรกก็ถูกจับได้แล้วอ่ะ มิน่าถามซะละเอียดเลย
“โกหกไม่เป็นก็ไม่ต้องหัดเลยนะ แค่เรื่องกินข้าวทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องยากด้วยหือ”พี่เอ็กซ์บ่นเป็นชุดเลย เดี๋ยวนี้ขี้บ่นชะมัด
“ก็แล้วจะมายุ่งทำไมล่ะ ก็มันไม่หิวนี่”
“ถ้าไม่ยุ่งแล้วจะทำมั้ย บังคับขนาดนี้ยังไม่ยอมเลย ต้องให้ทำยังไงล่ะถึงจะฟังกันบ้าง กินข้าวให้มันครบมื้อเหมือนคนอื่นเขาหน่อย ยิ่งปวดท้องบ่อยๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องให้คนอื่นเขามาบอกล่ะ เรื่องแค่นี้เอง คนอื่นเขารักเจห่วงเจกันทั้งนั้น ทำไมเจไม่รักตัวเองบ้าง”พี่เอ็กซ์พูดมาทำเอาผมสลดเลยครับ ก็รู้ครับว่าเป็นห่วง...แต่มันไม่หิวนี่นา ไม่กินสักวันมันไม่เป็นไรหรอก
“....เดี๋ยวไปกินก็ได้”
“ไม่ต้องแล้ว พี่บอกให้เก๋ซื้อใส่กล่องมาให้แล้ว วันนี้พี่จะไปหาแม่ที่โรงแรมจะไปด้วยมั้ย”
“ไปไม่ได้ ต้องไปคุยงานกับพี่นุ”ผมบอกไปพี่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรแล้วก็วางสายไป ผมหันหน้ากลับมาในโต๊ะก็เห็นตี๋ เก๋ โอ้นั่งหัวเราะผมอยู่ เออ จำไว้เลยครับ ไม่มีคนเข้าข้างผมสักคน
“ไงล่ะมึง สมน้ำหน้า โดนพี่เขาด่ามาล่ะสิ เอ้า นี่ข้าวมึงอ่ะ”เก๋ยื่นข้าวกล่องมาให้ ผมเปิดดูเป็นข้าวราดคะน้าหมูกรอบกับทอดมัน เห็นรายการอาหารก็รู้แล้วครับว่าพี่เขาสั่งให้มันซื้อแบบนี้ชัวร์ ผมก็ก้มหน้าก้มตากินแหล่ะครับ ตังค์ไม่จ่ายเพราะรู้ว่าพี่เอ็กซ์จะไปจ่ายที่ร้านข้าวเองเพราะเป็นร้านประจำ ติดไว้ได้
เลิกเรียนตอนบ่ายผมก็รีบกลับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่งรถออกมาหาพี่นุที่เซ็นทรัลครับ วันนี้ไม่ต้องไปที่บริษัท
“ไงไอ้น้องอ้น มากับเขาด้วยเหรอ”ผมเดินเข้าร้านกาแฟก็ทักไอ้อ้นมันก่อนเลยครับ
“โหพี่ ตัดผมใหม่น่ารักขึ้นว่ะ”
“เออ...แล้วพี่นุล่ะ”ชินแล้วครับคำนี้ จะชมยังไงก็ชมเถอะ
“เดี๋ยวมา คุยงานกับลูกค้ายังไม่เสร็จเลย”ผมเดินไปสั่งโกโก้ปั่นกับพนักงานแล้วก็มานั่งข้างอ้นต่อ อ้นมันเรียนภาคเช้าครับ ตอนบ่ายมันจะมาทำงานให้พี่นุ ผมก็นั่งฟังมันคุยเรื่องงานน่ะแหล่ะครับ ว่าช่วงที่ผมไม่อยู่มันทำอะไรบ้าง
“พี่เจ ผมว่าคนนั้นเขามองพี่ตลอดเลยนะ”อ้นมองผ่านไปด้านข้างผม ผมก็หันไปตาม...ผู้ชายครับ พอผมหันไปเขาก็หันหน้าหนี
“คงไม่ใช่หรอกมั้ง เขาคงมองวิวข้างนอก”ก็พวกผมนั่งติดกระจกอยู่นี่ครับ ผมหันมาชวนอ้นมันคุยต่อ แต่ก็รู้สึกนั่นแหล่ะครับว่าเขามองผมอยู่จริงๆ นั่งคุยกันไม่นานพี่นุก็มา โทรมมาเลยครับ
“โหพี่ งานเข้าเหรอ โทรมเชียว”
“เออว่ะ วันนี้ขับรถรอบกรุงเทพแล้วเนี่ย รายนี้ก็เรื่องมากจริง เจคงต้องเหนื่อยหน่อยนะ”พี่นุหยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋าพี่เขาเต็มเลยครับ แล้วก็เริ่มอธิบายงานที่เพิ่งไปคุยกับลูกค้าให้ผมฟัง พอดีมันมีสองงานซ้อนวันกัน ต้องเลือกครับว่าจะทำงานไหน
“พี่นุ สวัสดีครับ”เสียงร้องทักพี่นุจากด้านหลังผม พอพวกผมหันไปมองก็เห็น...ผู้ชายคนที่มองผมนั่นแหล่ะครับ
“อ้าวไอ้เจมส์ มาได้ไงวะ ไหนว่าอยู่กระบี่”พี่นุลุกขึ้นท่าทางดีใจเลยครับ แล้วพี่เขาก็ชวนให้นั่งร่วมโต๊ะกับพวกผม ผมกับอ้นก็มองหน้ากันงงๆ
“กลับมาอยู่นี่สักพักใหญ่ๆ แล้วพี่ น้าเขาอยากให้กลับมาอยู่บ้าน”เอ่อ...หันมายิ้มให้ผมทำไมอ่ะ ผมก็ยิ้มๆ กลับไป
“เออนี่น้องที่ทำงานกู ชื่อเจ คนนี้ชื่ออ้น ทั้งสองคนนี่เจมส์ ญาติพี่”พี่นุแนะนำ พวกผมก็ยกมือไหว้พี่เขา น่าจะอ่อนกว่าพี่นุไม่กี่ปี พี่เขาก็คุยกันนิดหน่อยแล้วหันมาคุยเรื่องงานกับผมให้จบ ระหว่างปรึกษางานพี่นุก็หันไปถามความเห็นพี่เจมส์บ้าง กลายเป็นมานั่งประชุมงาน 4 คนไปโดยปริยาย
“แล้วเจจะกลับยังไง ให้พี่ไปส่งมั้ย”
“ไม่เป็นไรครับพี่นุ เดี๋ยวผมนั่งรถกลับเอง ใกล้ๆ แค่นี้”ผมเก็บของใส่กระเป๋าเตรียมกลับ ส่วนอ้นติดรถพี่นุกลับ
“บ้านน้องเจอยู่แถวนี้เหรอ พี่ไปส่งมั้ย”พี่เจมส์ถาม
“เอ่อ... ไม่ต้องก็ได้ครับ ผมเกรงใจ ผมกลับเองสะดวกกว่า”ถึงจะคุยกันแต่เพิ่งรู้จักกันผมไม่กล้ารบกวนหรอกครับ
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก พี่ก็พักอยู่แถวนั้นเหมือนกัน”
“เออใช่ ไอ้เจมส์มันอยู่ใกล้ๆ หอเจน่ะแหล่ะ ให้มันไปส่งก็ดีนะ ดึกแล้ว”พี่นุบอก ผมก็ต้องตามใจพี่เขาครับ ไม่งั้นพี่นุก็ต้องขับมาส่งผม อ้อมไปอ้อมมาเสียเวลาอีก
ผมแยกกับพี่นุและอ้นที่ลานจอดรถแล้วเดินมาขึ้นรถพี่เจมส์แทน ทำไมพักนี้ได้นั่งบีเอ็มบ่อยจัง
“น้องเจยังเรียนอยู่เหรอครับ เห็นคุยงานคล่องจนพี่นึกว่าพนักงานประจำแต่หน้าก็เด็กเกิน”พี่เจมส์ชวนผมคุยหลังจากที่เราขับออกมาได้สักพัก ก็ดีครับ ดีกว่านั่งเงียบๆ เฉยๆ มันอึดอัดพิกล
“ครับ ปี 3 แล้ว ผมทำ Freelance น่ะ แต่ทำให้บ่อยจนเหมือนพนักงานประจำแล้ว”
“เหรอ เก่งดีนะ เมื่อก่อนตอนเรียนจบใหม่ๆ พี่ก็ทำงานกับพี่นุนี่แหล่ะ พี่ศรยังทำงานอยู่ด้วยกันรึเปล่า”พี่เจมส์ท่าทางจะสนิทกับทีมงานในบริษัทพี่นุมากครับ ถามถึงคนโน้นคนนี้ ผมก็เล่าให้ฟัง มีบางคนที่ผมไม่รู้จัก พี่เขาบอกว่าตอนทำงานกับพี่นุก็เป็นเหมือนมือขวานี่แหล่ะ แต่ว่าพี่เขาจบการตลาดมา พอได้งานที่โรงแรมที่ภูเก็ตก็ไปอยู่หลายปี พี่เขาคุยสนุกครับ พูดเก่งสมกับที่เรียนการตลาด รูปร่างหน้าตาสะอาดสะอ้าน ต้องยอมรับว่าพี่เขาหน้าตาดี บุคลิกดี ดูสุขุม น่ามองสมกับที่ทำงานโรงแรมมาเลย ไม่เหมือนคนข้างห้องผมครับ ลูกเจ้าของโรงแรมซะเปล่า แต่งตัวไม่สมฐานะบ้างเลย
“ขอบคุณนะครับที่มาส่ง”ผมบอกพี่เขาตอนที่กำลังจะปิดประตูรถ
“ไม่เป็นไร บ้านพี่เข้าไปข้างในอีกไม่ไกลเอง..เอ่อ..พี่ขอเบอร์น้องเจได้มั้ยครับ”
“....เอ๋...”เอาไปทำไมหว่า
“ก็อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง เผื่อวันหน้าวันหลังจะได้นัดเจอกันบ้าง”
“อ้อ...ครับ เบอร์..08x-xxx-xxxx”ผมก็บอกเบอร์พี่เขาไป ยังไงก็รู้จักกันแล้ว แล้วพี่เขาก็คุยสนุกด้วย ทำงานสายเดียวกันเผื่อมีโอกาสได้ร่วมงานกันบ้าง
กลับมาถึงห้อง พี่เอ็กซ์ยังไม่กลับเลยครับ สงสัยนอนค้างที่บ้านแน่ๆ ตั้งแต่เปิดเทอมก็มีวันนี้นี่แหล่ะที่แทบไม่ได้เห็นหน้ากันเลย เมื่อเช้าก็แค่เปิดประตูออกมายื่นกุญแจจักรยานให้แค่นั้นเอง รู้สึกดปลกๆ เหมือนกันครับ แต่จะให้โทรไปหาก็ไม่กล้าอ่ะ เดี๋ยวพี่เขาล้ออีก หาว่าผมคิดถึง ไม่ได้คิดถึงสักหน่อย ก็แค่...เหงาๆ
“ครับ”นั่นไง ถึงผมไม่โทรไป ฝ่ายนั้นก็ต้องโทรมาอยู่แล้ว
“เป็นไง กลับถึงห้องรึยัง”เสียงพี่เอ็กซ์ดูเหนื่อยๆ ครับ
“ถึงแล้ว กำลังจะนอน”
“อ้าวเหรอ พี่นอนบ้านนะ พรุ่งนี้เจก็เอาจักรยานไปใช้น่ะแหล่ะ”โทรมาเพื่อจะบอกแค่นี้น่ะนะ ไม่เห็นอยากรู้เลย ชิส์
“อืม”
“ป้านอมให้ถามว่าอยากกินอะไร พรุ่งนี้จะเอาไปให้”
“..เอ่อ..อะไรก็ได้ครับ พี่เอ็กซ์...ง่วงเหรอ”เสียงพี่เขาดูเหนื่อยๆ เพลียๆ มากเลยครับ
“อื้มม..นิดหน่อยน่ะ วันนี้พาแม่ไปตรวจงานที่ระยองมา เพิ่งกลับถึงบ้านนี่แหล่ะ”
“เหรอ งั้น...พี่ไปนอนก็ได้ เดี๋ยวเจก็จะนอนแล้ว”
“ครับ...เจครับ”หว๋ายยย...เรียกเสียงหวานเลยอ่ะครับ อย่าหวานบ่อยๆ ดิ ทำตัวไม่ถูกนะ
“คะ..ครับ”
“พี่ชอบเวลาเจพูดกับพี่แบบนี้จัง แค่เจเป้นห่วงพี่...พี่ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย”
“.......”อึ้ง.....เอ่อ...บ้ารึเปล่า ไม่เห็นได้พูดต่างจากปกติเลย แล้วมาทำเสียงดีใจกับเรื่องอะไรแบบนี้มันเขินนะครับพี่
“พูดเพราะๆ แบบนี้ค่อยน่ารักสมตัวหน่อย รู้ไหมครับ”
“....อืม”
“......งั้นพี่ไปทำงานต่อก่อน เจก็นอนซะนะครับ....คิดถึงนะ”
“...ครับ.”ผมวางสายไปแล้ว ไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ผมทำหน้ายังไง เสียงพี่เอ็กซ์ที่พูดนุ่มๆ เบาๆ จนผมคล้อยตาม ผมว่า...ผมกำลังยิ้มอยู่นะ โอยยยย...แย่ๆๆ เล่นหวานใส่แบบนี้บ่อยๆ ผมมีหวังเป็นเบาหวานหรือไม่ก็หัวใจวายตายเอาง่ายๆ นะครับ