[ เรื่องสั้น ] เมื่อรักครั้งนี้...ตอน รักมาหาโดยไม่รู้ตัว ll EP:5 ll 25/12/58 ll
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ เรื่องสั้น ] เมื่อรักครั้งนี้...ตอน รักมาหาโดยไม่รู้ตัว ll EP:5 ll 25/12/58 ll  (อ่าน 3576 ครั้ง)

ออฟไลน์ Map

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0





เรื่องนี้อ้างอิงมาจากความจริง 50 เปอร์เซน อีกส่วนหนึ่ง 50 เปอร์เซน นำมาปรับแต่งเรื่องราว

แต่ละเรื่องอาจจะมีสถานที่และวันเวลาต่อเนื่องกัน แผนที่เพิ่งเคยลงนิยายที่นี่ครั้งแรกและเป็นมือใหม่หัดแต่ง

หากแผนที่ผิดผลาดประการใดของอภัย ณ ที่นี้ด้วย

ความรักไม่มีผิดไม่มีถูก หากคนเราเลือกที่จะรักบนโลกนี้ได้ คงไม่พบเจอกับคำว่าอกหัก

ถึงแม้จะมีทุกข์แต่ก็มีสุข ความรักมีความงดงามในตัวของมันเอง
.... โดยที่เราไม่ต้องทำอะไร ....


เรื่องที่ 1 เมื่อรักครั้งนี้  ‘ รักแรก ’ [ ลงเว็บ ]
เรื่องที่ 2 เมื่อรักครั้งนี้ ' ได้แค่อยู่ใก้ล ' [ ลงเว็บ ]
เรื่องที่ 3 เมื่อรักครั้งนี้ ' โดนปฏิเสธ ' [ ลงเว็บ ]
เรื่องที่ 4 เมื่อรักครั้งนี้ ' ถูกโยนทิ้ง '[ ลงเว็บ ]
เรื่องที่ 5 เมื่อรักครั้งนี้ ' รักมาหาโดยไม่รู้ตัว ' [ ลงเว็บ ]





Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-12-2015 15:47:45 โดย Map »

ออฟไลน์ Map

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0



เรื่องที่ 1 เมื่อรักครั้งนี้  ‘ รักแรก ’





           
                 เอาล่ะครับ เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องของผมยังในสมัยใสใส อายุ 14  ปี กำลังศึกษาอยู่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งผม

มีกลุ่มเพื่อนสนิทอยู่ 7 คน ได้แก่ ไอ้พี ไอ้ฟาน ไอ้แทน ไอ้เพื่อน ไอ้ฟ้า ไอ้แมทและผมไอ้เป้ย

ซึ่งในกลุ่ม ผมกับไอ้พีเป็นเพื่อนรักและซี้กันมากที่สุด คบกันมา 4 ปีแล้วล่ะครับ มีอะไรก็บอกกันอยู่สองคนเงียบๆ

จู่ๆไอ้แทนก็พูดขึ้นมากลางโรงอาหาร



“ เฮ้ยยยยยย พวกมึงรู้จักพี่กล้องกันไหมว้ะ ที่อยู่ ม.6  “ พวกผมหันมามองหน้ากัน ไอ้พีก็ถาม

“ ใช่รุ่นพี่ที่ตอนนี้ทุกคนกรี้ดๆกันใช่ป้ะ “

“ อ้อ ไอ้สูงๆ ขาวๆ เป็น MC อ่ะนะ “ ไอ้ฟ้าเข้าร่วมแจม

“ ใครวะ ทำไมกูไม่เห็นรู้จักเลย ชี้ให้กูดูหน่อยดิ “ ผมพูดขึ้น ไม่ไหวแล้วล่ะครับต่อมเสือกทำงาน

“ โว้ะ ตลอดนั่นแหละมึงอ่ะ ไม่เคยสนใจอะไร นั่นไงๆที่พวกกูพูดถึง “ ไอ้แทนพูดแล้วชี้ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวกลางโรงอาหารให้ดู



ผมหันไปมองตามที่มันชี้ ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งสูงๆ ทรงผมสกินเฮด หล่อตี๋แบบใสใส  ผมเห็นแล้วก็ไม่รู้รู้สึกอะไรกับพี่เค้านะ

เพราะผมไม่ค่อยจะสนเรื่องอะไรพวกนี้อยู่แล้ว




………… แต่ก็นะ... เพราะครั้งนั้นนี่ล่ะทำให้ผมสนใจในตัวพี่เค้าเรื่อยมาอยู่หลายๆครั้งโดยไม่รู้ตัวเลย …………




               ตอนนี้ผมกำลังมาช่วยกิจกรรมอยู่กลางสนามบาสครับ ไอ้เชี่ยพวกนั่นทิ้งผมหายหัวไปไหนกันก็ไม่รู้ผมหาไม่เจอเลย

นอยด์แม่งแล้วอ่ะ ผมเงยหน้ามองท้องฟ้า อากาศวันนี้ร้อนฉิบหายเลย ผมยกแขนมาปาดเหงื่อออก จู่ๆก็มีผ้ายื่น

มาตรงหน้า ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง




“ เอ่อ.. ขอบคุณครับ “ พี่กล้องนี่เอง

“ ไม่เป็นไรครับ “ พี่แกยิ้มให้ โหยดูดีสัสอ่ะ คนอะไรวะทำไรก็ดูดี

“ เดี๋ยวผมมาซักคืนให้นะครับพี่ “ คือ ผมเกรงใจอ่ะ

“ เฮ้ย ไม่เป็นไร เอาไปเถอะ พี่ให้ “ พระเอกโครตตตตตตตต




               พี่แกพูดอย่างนั่นแล้วหันหลังเดินกลับไปอย่างเฉยๆ เพื่อนเชี่ยของผมวิ่งมาหายกกลุ่ม

ถามเรื่องพี่เค้ากับผมอย่างสนอกสนใจ



“ เห้ยมึง คุยอะไรกับพี่เค้าวะ “ แหม ทำหน้าตาสนอกสนใจกันเชียวนะ หึหึ

“ ก็ไม่มีอะไรเว้ย พี่เค้าแค่ให้ผ้ามาเช็ดเหงื่ออ่ะ “ ผมบอกขึ้น ก็จริงๆอ่ะไม่มีอะไรเลย

“ เหยดดด มีซัมติงแน่ๆเลยว่ะกูว่า “

“ ซัมติงเชี่ยไรคร้าบบบบบ “ ผมโวยขำๆ

“ แล้วทำไมหน้ามึงต้องแดง “

“ โว้ยยย กูร้อนไงแม่ง “ ผมไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ยว่ากำลังเขินเรื่องพี่แกอยู่...




               พักเที่ยงในวันต่อมา พวกผมมาเตะบอลกับเพื่อนๆห้องอื่นกันสนุกสนาน ซึ่งมีรุ่นพี่มาแจมกันด้วย

เป็นเรื่องธรรมดาอ่ะครับ พวกผู้ชายสนิทกันไว ถูกคอก็ต่อกันยาวแล้ววว




“ เชี่ยเป้ยยย บอลโว้ยบอลรับดิ เหม่อไปไหนห๊ะ” ไอ้พีตะโกนมา แต่ไม่ทันแล้วครับ...





... ตุ๊บ ...





“ เห้ย “ พวกมันอุทานพร้อมกัน

“ โง่ดีแท้ๆเลยมึง “ ไอ้พีหัวเราะ




“ อูยย เจ็บว่ะแม่ง “ มึนเลยครับบอลกระแทกหัว น้ำตาเล็ดเลยอ่ะผม

“ เป็นไงบ้างล่ะเราน่ะ มึนมากไหม “ เสียงพี่กล้องนี่หว่า

“ ไม่เป็นไรครับ สบายมาก “ สบายกับผีดิ ไอ้เป้ยยยย ไอ้ควายยย

“ มานั่งนี่มา พี่พาไป “ พี่แกช่วยประคองผมเดินไปนั่งที่ข้างสนาม

“ เห้ย พวกมึงอ่ะ เล่นกันไปก่อนเลย “ พี่แกตะโกนบอกพวกเพื่อนๆ

“ ขอบคุณครับพี่ “ ผมมองหน้าพี่แก

“ ยินดี “ พี่แกยิ้มอีกแล้วครับ อีกแล้ว... ผมหวั่นไหวแล้วนะ

“ ทำไมพี่หล่อโครตเลยอ่ะ “ พี่แกเอ๋อเลยสิครับ แหม จู่ๆก็ถาม

“ ฮ่าๆๆๆๆ ๆ เรานี่ถามอะไรแปลกๆ แล้วพี่จะตอบยังไงดีล่ะ หืม “ พี่แกหัวเราะ

“ โธ่.. คือผมสงสัยไง พี่ทำอะไรแม่งก็ดูดีอ่ะ อยากเป็นงี้บ้าง “

“ ไม่รู้สิ พ่อพี่ให้มา “ อื้อหือออ พี่แกยักคิ้ว โครตทะเล้น

“ โหย นึกว่าพี่จะหยิ่งซะอีก เห็นนิ่งๆ “ จริงๆนะครับหลายๆครั้งที่ผมคอยมองพี่แก พี่แกจะนิ่งๆหยิ่งๆ

“ อ้าว ไม่รู้จักจะให้ทักคุยเรื่องอะไรล่ะ หรือจะให้ฉีกยิ้มทั้งวันคงไม่ไหวหรอก “

“ เออ เนาะพี่พูดถูก ฮ่าๆๆๆ ๆ “ พวกผมเลยหัวเราะกัน





              ........... วันนี้วันกีฬาสีแล้วล่ะครับ ...........





               พวกผมเป็นรุ่นน้องได้แต่นั่งอยู่บนแสตนเชียร์  มองนู่นมองนี่ที่เต็มไปด้วยความคึกคัก

เพื่อนๆผมทุกคนโดนจับแยกสีหมดครับ แต่ผมอ่ะได้อยุ่คนเดียวไม่มีเพื่อนเลย แต่พวกมันยังได้อยู่กันเป็นคู่ๆ

ผมอยู่สีม่วง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสีชมพูหันหน้าเข้าหากัน สายตาของผมหาเรื่องอีกแล้วไง เห็นพี่กล้องกำลังคุมแสตนเชียร์

พูดคุยกับน้องๆกันสนุกสนาน หวา… ผมอิจฉาจัง อยากอยู่กับสีเดียวกันกับพี่เค้าจังเลยน้า พี่แกหันหน้ามามองสีผมแล้วร้องเพลง

สีม่วงกินยาฆ่าแมลง พี่แกเห็นผมแล้วขำ ผมเลยยิ้มแล้วขำตาม





........... แต่ทว่า... มีภาพๆหนึ่งตรงหน้าทำให้ผมหุบยิ้มไปโดยไม่รู้ตัว ...........

ผู้หญิงคนนั่นที่ใส่ชุดโรงเรียนอื่นกำลังป้อนน้ำให้พี่แกอยู่เค้าคือใครกันนะ...





             ตั้งแต่วันนั้นผมก็ซึมลง จนเพื่อนๆถามผมว่าผมเป็นอะไร ผมพยายามจะหาอะไรทำเรื่อยเปื่อยทำไปเรื่อยๆ

ผมนั่งทำการบ้านอยู่ที่โต๊ะเรียนของตัวเอง ไอ้พีเดินเข้ามาหาลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามหันหน้าเข้าหาผม






“ มึงเป็นอะไรวะไอ้เป้ย “

“ เปล่า กูไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ “

“ ไม่เป็นอะไรเชี่ยอะไรล่ะ เห็นๆกันอยู่ มีอะไรก็บอกกันดิวะ กูน้อยใจเป็นเหมือนกันนะ “





ผมที่ทำการบ้านอยู่ก็ชะงักลง นั่นสินะ ปกติผมมีเรื่องอะไรจะบอกมันทุกเรื่อง แต่ผมไม่กล้าบอกมันกลัวมันจะรับไม่ได้ที่ผมแอบ

ชอบพี่กล้อง... ใช่ครับผ่านมาเป็นสองสัปดาห์แล้ว ผมลองคิดทบทวนตัวเองดูว่าผมรู้สึกอย่างไรกับพี่แก

ไม่อย่างนั้นผมคงไม่คิดมากเรื่องของผู้หญิงคนๆนั้น เค้าอาจจะเป็นแค่เพื่อนก็ได้






“ ไอ้พี.. “

“ ห๊ะ ว่าไง มีอะไรพูดมา “ มันเงยหน้าขึ้นมามองผมทันที

“ กูขอถามอะไรหน่อยดิ พี่กล้องมีแฟนรึยัง “

“ น่าจะมีแล้วเห็นไอ้แทนมันพูดๆอยู่ รู้สึกแฟนพี่เค้าเรียนอยู่หญิงล้วน “

“ นั่นสินะ... พี่เค้าออกจะดูดีขนาดนั้น “ แม่ง.. ผมจะร้องไห้แล้ว

“ เห้ย มึงร้องไห้ทำไมวะ “  ใช่ครับผมร้องไห้ซะแล้วล่ะ มันคงตกใจรีบลุกกอดผมไว้

“ หรือว่ามึงชอบพี่เค้าใช่ไหม “

“ อืม “

“ ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็มองแต่พี่กล้อง “ ผมเอาหน้าซุกท้องมันกอดมันแน่น

“ เฮ้อ มึงนี่น้า จะรักใครชอบใครสักที ทำไมต้องกับคนมีแฟนด้วยนะ “ มันบ่น

“ ความรู้สึกมันห้ามได้สักที่ไหน “ ผมเอามือที่กอดมันอยู่ทุบหลังดังปั๊ก

“ โอ้ยย กูรู้แล้ว ปวดนะแม่ง “ มือแข็งๆของมันปะทุร้ายหัวของผม

“ เห้ยๆๆๆ อย่า หัวกูเซ็ตตอนเช้ามาซะดิบดี “ ผมโวย ผมรู้ที่มันทำอย่างนี้เพื่อให้ผมไม่คิดมาก

ขอบใจว่ะไอ้พีที่มึงรับกูที่เป็นแบบนี้ได้...






              พักเที่ยงไอ้พีพาผมลงมากินข้าวกลางโรงอาหาร แล้วผมก็ตัดสินใจบอกเพื่อนๆในกลุ่มที่พร้อมหน้าพร้อมกันกินข้าวกัน

อยู่ ผมนับหนึ่งสองสามในใจเพื่อที่จะตั้งตัว มองหน้าไอ้พี ไอ้พียิ้มให้เป็นกำลังใจให้กับผม ผมเอ่ยออกมากลางโต๊ะ





“ นี่ พวกมึงกูมีเรื่องจะบอก “

“ หือ มีอะไรไอ้เป้ย “ ไอ้เพื่อนที่เงียบๆก็พูดขึ้นมา

ทุกๆคนพร้อมกันจ้องมองผมกันเป็นตาเดียว

“ กู.. กู.. ชอบพี่กล้องว่ะ “ ผมเอ่ยเสียงแผ่วด้วยความกลัวและเขินที่จะบอก

“ ห๊ะ อะไรนะพวกกูไม่ได้ยิน “ ไอ้ฟ้าตบหัวผมทีหนึ่ง

“ กู ชอบ พี่ ก้อง “ ผมบอกเสียงดังขึ้นมาอีก

พวกมันที่ได้ยินกัน ความเงียบก็เข้ามาทำงานทันที พวกมันก็มองหน้ากันแล้วลุกขึ้นมาหาผม

“ เองนี้น่ะเหรอที่ทำให้มึงซึมขึ้นทุกวันๆ “ ไอ้ฟาน

“ มึงทำไมไม่บอกพวกกูแต่แรก “ ไอ้เพื่อน

“ ทำไมมึงต้องเก็บเงียบไว้คนเดียว “ ไอ้แมท

“ มึงไม่คิดว่าพวกกูห่วงมึงบ้างหรือไง “ ไอ้ฟ้า

“ พวกมึงก็ไปแกล้งมึง เห็นไหมมันจะร้องไห้แล้วเนี่ย “ ไอ้แทนแจกกำปั้นลงกลางหัวพวกมันสี่ตัว

“ โอ้ย ซี้ดดดดดดด “ กุมหัวกันเป็นแถว



“ กูขอโทษ “ ผมพูดขึ้นบอกขอดทษพวกมัน

“ เออๆ ไม่เป็นไรพวกกูแค่เป็นห่วง “ ไอ้ฟาน

“ แล้วมึงอ่ะ ทำใจได้เหรอวะที่พี่กล้องเค้ามีแฟนแล้ว แถมรักกันมาก “ ไอ้แมทพูดน้ำเสียงจริงจัง

“ เออ มึงรู้ใช่ไหมที่พี่เค้ามีแฟน “ ไอ้ฟ้า

“ รู้ ไอ้พีมันบอกแล้ว ถึงกูจะทำใจไม่ได้แต่ก็ต้องยอมรับว่ะ “ ผมยกยิ้มให้พวกมัน

“ ดีแล้วเว้ย โอ๋ๆๆ มึงไม่ต้องเสียใจไป มึงยังมีพวกกู “ ไอ้เพื่อนพูดขึ้นพร้อมเอามือมาลูบหัวผม

“ เออ ใจว่ะ “ ผมหันไปทางไอ้พี ไอ้พียกนิ้วโป้งมาให้ผม บ่งบอกว่าผมทำดีแล้ว...




              วันนี้เช้าวันใหม่ที่ผมจะเริ่มต้นใหม่ ผมกับเพื่อนๆเดินเข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จ อยู่ดีๆมีเงาบังอยู่ข้างหน้าผม

ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง พี่กล้อง... ในใจผมจุกแปล๊บ





“ เป็นอะไรไป ทำไมเมินพี่ “ พี่แกถามหน้าตาเครียด

“ เปล่าครับ “ ผมหลบตา

“ พี่พยายามคุยกับเรามาสองสามอาทิตย์ เราเอาแต่ทำหน้าซึมหลบหน้า “ พี่แกจับไหล่ผมให้ผมเงยหน้าไปมอง

“ ทำไมไม่ตอบพี่ พี่ทำอะไรผิดบอกพี่ได้ไหม “ ผมกับพี่แกสบตากัน

“ ผมแค่ไม่สบายเลยหงุดหงิดนิดหน่อย “ ผมยิ้มน้อยๆให้พี่แก

“ งั้นเหรอ ไหนดูหน่อย “ พี่แกเอามือมาอังหน้าผากผมเบาๆ

“ ท่าจะจริง หน้าแดงหูแดงไปหมดแล้ว หึหึ “ พี่แกยิ้มล้อ





อ่า... ใก้ลกันเกินไปแล้ว อันตราย แย่จริงๆเลยนะไอ้เป้ยพี่แกมีแฟนแล้วนะอย่าลืมสิ ผมเอามือมาทาบตรงหน้าอก

หัวใจของผมกำลังเต้นแรง




ตั้งแต่วันนั้นมา พี่แกคอยเอาน้ำเอาขนมฝากเพื่อนพี่แกมาให้ผมทุกๆวัน ผมชักจะไม่แน่ใจกับการกระทำของพี่แกเลยสักนิด

ผมต้องทำอะไรให้จบจริงๆแล้วสักทีระหว่างเรื่องของเรา รึเปล่านะ…





” พี่กล้อง “ ผมเรียกท่ามกลางความเงียบในสวนของโรงเรียน

“ หืม ว่าไงเรา มีอะไรครับ มีอะไรให้พี่ช่วยอีกไหม พี่ใส่ดินให้ต้นนี้ก็เสร็จแล้ว “ พี่แกยิ้มอ่อนโยนมาให้

ใช่ครับผมว่าง ผมเลยอาสาครูนำต้นไม้มาใส่ดินให้ พี่แกเห็นเลยมาช่วย

“ ผมถามจริงๆนะ เรื่องระหว่างเราคืออะไรครับ พี่คอยห่วงผม พี่คอยซื้อขนมมาให้ คอยมาดูแลกัน  แต่พี่ก็มีแฟนแล้ว “



ผมพูดถามเสียงสั่น



“ เป้ย.. พี่ชอบเป้ยแบบน้อง พี่ขอโทษนะเป้ย “ พี่แกพูดออกมาอย่างไม่มีลังเลเลยสักนิด

“ ขอบคุณครับที่พูดกันตรงๆ “ ผมพูดได้แค่นี้แล้วจริงๆ ผมก็รีบเดินออกมาเพื่อที่จะกลับบ้านไปรักษาแผลใจ






............ นับตั้งแต่วันนั้นมา ผมกับพี่แกก็ห่างกันไป พี่แกก็รักหวานชื่นกับแฟน

เหมือนเดิม ส่วนผมน่ะเหรอ ยังคอยแอบมองห่างๆอยู่ตลอด

ใช่.. แต่ผมทำใจได้แล้ว ได้แค่นี้ก็ดีมากแล้ว อีกอย่างวันนี้คือ วันปัจฉิม




วันปัจฉิมดำเนินงานไปด้วยดี ทุกคนต่างก็มอบดอกไม้ให้กัน ถ่ายรูปกัน ยิ้มและอวยพรกันอย่างยินดี ส่วนผมก็ได้แต่มองพี่แก

และแฟนที่มาพร้อมกับครอบครัวของพี่แก ไม่นานนักพี่แกเห็นผมแล้วยิ้มให้ หัวใจผมทั้งเจ็บทั้งยินดีจากใจ 

ผมคิดว่าแค่นี้ก็ดีแล้ว ผมเลยยิ้มอย่างยินดีให้พี่แกพร้อม หันหลังก้าวเดินออกไปจากที่นี่






... 2  ปีต่อมา ...







              ผมทำใจได้แล้วและตอนนี้ผมก็แค่ปลื้มพี่แกต่อไปในสถานะแฟนคลับ ใช่ครับ แฟนคลับ ตอนนี้พี่แกมีอนาคตที่สดใส

เป็นดาราดังอยู่ในตอนนี้ ตอนนี้พี่แกไปไกลเกินเอื้อมของผมแล้วล่ะครับ พี่แกยังคอยมาเยี่ยมโรงเรียนกราบไหว้คุณครู

ถึงแม้ว่าพี่แกและผมมีโอกาสได้มองหน้ากันอยู่ใก้ลชิดสักเพียงไหน แต่ทว่าเป็นเพียงแค่ผมจำพี่กล้องได้แค่ฝ่ายเดียวเท่านั้น
 
นี่ล่ะครับรักครั้งแรกของผม ผมได้กลายเป็น แฟนคลับ พี่แกอย่างสมบูรณ์











จบแล้ว ขอบคุณที่อ่านกันจบตอน เมื่อรักครั้งนี้ รักแรก :pig4: :katai1:













« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-10-2015 16:19:47 โดย Map »

ออฟไลน์ Wtftt

  • โอกาสก็เหมือนไอติมถ้าไม่กินมันก็ละลาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เป็นการถ่ายทอดที่สั้นแต่ได้ใจความมากค่ะ
เข้าใจความรู้สึกเลยแอบปลื้มรุ่นพี่ โฮ น้ำตาไหล มาทำดีด้วยแต่ไม่คิดอะไร ฮือ
แต่นั่นก็เป็นความสุขเล็กๆที่ได้มองคนนั้นในมุมๆนึง(เอาเรื่องจริงมาพูดทำไม แอร๊ยยเจ็บปวด5555)
ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวค่ะ

ออฟไลน์ Wtftt

  • โอกาสก็เหมือนไอติมถ้าไม่กินมันก็ละลาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สั้นแต่ได้ใจความ ความรู้สึกมาเต็ม โฮ อินมากจ้า
ขอบคุณมากจ้าที่มาถ่ายทอดเรื่ิองราว สั้นแต่น่าติดตาม ลุ้นไปในตัว

ออฟไลน์ Map

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0




เรื่องที่ 2 เมื่อรักครั้งนี้ ‘ ได้แค่อยู่ใก้ล






            ผมชื่อ เป้ย ตอนนี้อายุ 16 ปีแล้วครับ ผมได้ขึ้นเป็นเด็กมัธยมปลายสักที ปีนี้ เด็กใหม่เข้ามาโรงเรียนผมกันเยอะเลยล่ะ

 กลุ่มเพื่อนๆของผมก็ต้องแยกย้ายไปโรงเรียนอื่น  ดังนั้น ตอนนี้เหลือแค่ ผมไอ้เป้ย ไอ้ฟาน ไอ้พี ไอ้แมท และไอ้แทน

ไอ้ฟาน แมท และแทนเรียนอยู่สายศิลป์ ส่วนผมและไอ้พีเรียนอยู่สายวิทย์ แต่ตอนพักเที่ยงและตอนกลับบ้านพวกผมก็ยังกลับ

ด้วยกันเหมือนเดิมเลยนะครับ ยังสนิทกันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

            ระหว่างที่ผมกับไอ้พีเดินเข้ามาจับจองโต๊ะเรียนกันเป็นของตัวเอง บรรยากาศก็คึกคักเต็บไปด้วยเสียงพูดคุย

ไม่เว้นแม้กระทั้งตัวผมเอง ไอ้พีเป็นผู้ฟังที่ดีอยู่เสมอครับ ฮ่าๆ ส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนพูดอยู่เสมอ ครูเข้ามาในห้อง

เสียงพูดคุยก็ยังไม่น้อยลงไป






“ นักเรียนทุกคนคะแนะนำตัวค่ะ เริ่มจากแถวแรกเลยนะคะ “ ครูชี้ไปยังเด็กใหม่ที่นั่งติดหน้าประตูหน้าห้องเรียน

ทุกคนเริ่มแนะนำตัวแลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างโรงเรียนสู่กันฟัง จนมาถึงตาของผมและไอ้พี วนจนครบรอบห้อง

“ อ้าว ยังขาดเด็กใหม่อีกคน วันแรกก็ไม่มาแล้ว “ ครูบ่น

“ ครูคะ เด็กใหม่อีกคนเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายคะ “ เด็กใหม่บางคนได้เริ่มถามขึ้นมา

“ ผู้ชายค่ะ ชื่อเล่นชื่อนาย  “  ผมก็อ๋อในใจ ถึงแม้ว่าอยากจะเห็นหน้าตาเพื่อนคนๆนี้แล้วก็เถอะนะ

ต่อมอยากรู้อยากเห็นทำงานขึ้นมาทันที






            เช้าวันต่อมา เรียนคาบแรกผมและเพื่อนก็ใช้ชีวิตนักเรียนตามปกติ นั่งก้มหน้าก้มตากันทำงานอย่างตั้งใจเพราะเปิด

เทอมวันแรกไม่มีใครอยากค้างงานที่ครูใหม่หรอกครับถึงแม้ว่าประมาณกลางภาคก็หมดความขยันแล้วก็ตาม

ผมทำงานอยู่สักพักก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องเข้ามา เดินมานั่งโต๊ะข้างๆผม






“ นี่นาย ขอยืมดูหนังสือวิชานี้หน่อยได้ไหม “ มันหันมาถามผมด้วยหน้าตายิ้มแย้ม

“ ได้ๆ “ ผมก็ยืนไปให้พร้อมกับบอกว่ามีงานหน้าไหน

“ ขอบคุณครับผม “ มันหันมายิ้มให้ทะเล้นๆ

“ ชื่ออะไรอ่ะ “ มันถามผมต่อ

“ ชื่อเป้ย นายอ่ะ “ ผมถามมันต่อถึงรู้ชื่อมันแล้วก็เถอะ

“ ชื่อนาย ไม่ได้กวนตืนนะ หมายถึงชื่อของเราชื่อ นาย “ มันบอกพร้อมกับหัวเราะ

ผมก็คิดว่าไอ้นี่แม่งนิสัยดีว่ะ ร่าเริงจริงๆ







             .... สักพักครูก็พูดขึ้นมาว่า ….






“ นี่นายเด็กใหม่ เปิดเทอมมาก็ขาดวันแรก แถมวันนี้ก็มาสาย อยากจะซ้ำชั้นอีกเหรอคะ “ หือ.. มันซ้ำชั้นเหรอเนี่ย

“ ครับคร้าบบบ ขอโทษครับครู “ มันพูดเสียงทะเล้น

“ มึงๆ แสดงว่าอายุมากกว่ากูอ่ะดิ “ ผมหันไปสะกิดถามมัน

“ ก็ใช่ กูอายุ 17 ปีแล้ว “ มันพูดพร้องยักคิ้ว

“ ต้องเรียกพี่ไหมว้ะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ “ ผมพูดขึ้นอย่างขำๆ

“ ฮ่าๆ ไม่ต้องเหรอ อย่างนี้ดีแล้วเว้ย “






            มันเป็นคนแบบนี้นี่ล่ะนะ ไม่ค่อยจะเรียน ชอบยืมงานผม ถามงานผม แต่มันเรียนเก่งกว่าผมซะอีกนะ แต่นิสัยที่เข้าหา

ง่ายๆของมันทำให้ผมและมันสนิทกันมากขึ้น มีอะไรมันก็ถามผมไปซะหมด ไอ้ผมก็เป็นใจอ่อนก็เออๆออๆห่อหมกไปด้วยกับมัน






            เพื่อนๆในห้องก็ชอบแกล้งผมหยอดผมเพราะเห็นผมเป็นคนเขินง่ายหน้าแดงง่าย อะไรนิดอะไรหน่อยก็แดงไปหมด

แต่พวกมันไม่ใช่แกล้งแบบก้าวร้าวหรอกนะ แกล้งแบบเอ็นดูกันมากกว่า ไอ้นายมันนี่ล่ะตัวดีชอบผสมโรงแกล้งไปด้วย








“ ว่าไงจ้ะเป้ย เตะถึงป้ะเนี่ยขาสั้นแบบนี้ “ ไอ้รัฐแกล้งผมไง ผมเลยจะเตะมัน แค่มันสูงกว่านิดหน่อยทำมาดูถูก โมโหโว้ย

“ ลองดูไหมล่ะ สาดดดด “ ผมโวย

“ เฮ้ยๆ อย่าทำอะไรลูกพี่กูนะเว้ย ฮ่าๆๆๆๆ “ ไอ้นายออกผสมโรงมาเหมือนจะเข้าข้างผม

“ ทำไมมึงจะทำไมไอ้นายยยย “ ไอ้รัฐพูดเสียงลางยาวๆ

“ เดี๋ยวกูจะตบหัวทิ่มแม่งเลย “ มันพูดเสร็จก็เดินไปตบหัวไอ้รัฐอย่างแรง

“ หูย มือหนักสัส “ ผมนี่ยิ้มเลยครับแหม่ ไอ้รัฐบ่นปวดอยู่นั่นล่ะ

“ ใครมาแกล้งอีกบอกกู “ ไอ้นายที่แบกกีต้าร์ที่กำลังเดินออกนอกห้องหันมาบอกผมพร้อมยิ้มขำๆให้

“ เออออ แต้งงงๆ ฮ่าๆ “ ผมยิ้มรับมัน







            จนมาถึงเวลาสอบปลายภาคเรียนที่หนึ่ง ทุกคนก็ก้มหน้าอ่านหนังสือเตรียมสอบ จู่ๆมีเสียงหนึ่งตะโกนขึ้นมา



“ เป้ยคร้าบบบ สรุปเนื้อหาสอบวิชานี้ให้หน่อยครับผม “ มันนั่งตรงข้ามผมแล้วยิ้มกว้างๆให้

“ ทำไมไม่อ่านเอง “ ผมบ่น

“ ไม่เอาอ่ะ ขี้เกียจ “ มันพูดแบบเบื่อๆ

“ เออๆ “ ผมขานตกลง มันก็นั่งเป็นผู้ฟังที่ดีที่ผมพูดสรุปให้มันฟังอยู่ เสียงครูก็ดังขึ้นมาให้นักเรียนเข้าห้องสอบได้แล้ว

พวกผมทุกๆคนต่างก็แยกย้ากกันเข้าห้องสอบ และแล้วการสอบครั้งนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี







            ช่วงปิดเทอมของผมไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิด มีแต่เรียนพิเศษ โรงเรียนของผมมีปิดเทอมอยู่แค่สิบกว่าวันเท่านั้นเอง

น้อยมากกกกกกกกกก อยู่บ้านผมก็นั่งดูทีวี อย่างหนังสือวรรณกรรมไปเรื่อยๆ นับวันถอยหลังเปิดเทอม






และแล้ววันเปิดเทอมก็มาถึง




            ทุกคนยังคึกคักเหมือนเคย อีกอย่างวันนี้ผมอารมณ์ดีเป็นพิเศษด้วยล่ะนะ เพราะว่า ว่า ว่า เป็นวันเกิดผมเองคร้าบบบบ

ผมเดินขึ้นห้องเรียนฮัมเพลงไปพลางๆ ผมเปิดห้องเข้าไป ก็มีบางอย่างเกิดขึ้น





“ ปัง ปัง ปัง “ กระดาษสายรุ้งเต็มหน้าผมเลยครับ

“ สุขสันต์วันเกิดเว้ยเป้ย “ พวกผู้ชาย

“ สุขสันต์วันเกิดนะเป้ย “ พวกผู้หญิง

” ขอบใจเว้ยทุกๆคน “ ปลื้มปริ่มครับ หลังจากนั้นก็มีเค้กให้ผมเป่าต่อ

ผมก็อธิษฐานอะไรหลายๆอย่าง

“ อ่ะ นี่ของขวัญของมึง “ ไอ้พียื่นของมาให้

“ ขอบใจ ข้างในถุงคืออะไรวะ “ ผมเขย่าถุง

“ เปิดดูดิ “

            ผมก็นั่งแกะสก็อดเทป หมาครับ... ไม่ใช่หมาธรรมดา มันคือกระปุกออกสินหมาครับ เฮ้ย คือแบบน่ารักอ่ะ

เพื่อนสนิมทุกคนของผมจะรู้ครับว่าผมชอบหมารักหมามาก




“ ขอบใจอีกทีมึง “ ผมหันไปบอกมัน มันยิ้ม

คราวนี้ก็มีของขวัญมาให้ผมเรื่อยๆอะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมดอ่ะครับ ผมก็มัวแต่นั่งจัดของขวัญให้เข้าที่ใต้โต๊ะ

ก็มีเสียงกีต้าร์คลอขึ้นมาเป็นเพลงวันเกิด ผมรีบเงยหน้าขึ้นเพราะเสียงคนร้องคือไอ้นาย

มันเดินเกากีตาร์เข้ามาแบบทะเล้น มานั่งลงบนโต๊ะผมร้องจนจบเพลงผมก็นั่งฟังมันอยู่อย่างนั้น

“ สุขสันต์วันเกิด ขอให้มีความสุขมากๆนะคร้าบบบผม “ มันบอก

“ ขอบใจ “ ผมยิ้มในใจเลยครับ มันก็เลยยักคิ้วเดินออกจากห้องไป






..... ทำไมผมถึงยิ้มกับเพลงที่มันร้องให้ผมน่ะเหรอ ผมว่าผมเริ่มชอบมันมากขึ้นเรื่อยๆซะแล้วล่ะ ....








            หลายวันต่อๆมาทำให้ผมสนใจกับการกระทำของไอ้นาย มันให้ช่วยอะไรผมก็ช่วยมันผมใจอ่อนไปกันมันซะทุกๆเรื่อง

โดยไม่รู้เลยสักนิดว่า อีกไม่นานผมจะเจอกับความผิดหวังอีกครั้ง....








จนกระทั่งเพื่อนสนิทของไอ้นายก็เดินมาหาผมแล้วถามขึ้นว่า

“ มึงเรียนพรีดีกรีคณะนิเทศใช่ป่ะ “ มันชื่อฟาม

“ ใช่ รู้มาจากไหนวะ “ ผมถาม เพราะผมไม่เคยบอกใครน้องจากเพื่อนสนิทและครู

“ เคยได้ยินอยู่ ตอนที่มึงคุยกับเพื่อนมึงเรื่องเรียน “ ไอ้ฟามมันบอก

“ แล้วมึงจะถามเรื่องอะไรวะ “

“ ไอ้นายมันฝากถามว่ะว่าคณะนี้เรียนยากไหม จะสมัครต้องทำอะไรยังไง “

“ อ่อ “ ผมถึงบางอ้อ

“ เดี๋ยวกูบอกให้พรุ่งนี้ให้มันถามมึงเองแล้วกัน วันนี้มันไม่มามันโทรมาบอก “

“ โอเค ก็ว่าอยู่ไม่เห็นมาห้อง “ ผมพูด







            วันใหม่แล้วล่ะครับผมเตรียมข้อมูลอะไรให้ไอ้นายมันมาอย่างดี ผมเดินอารมณ์ดีเข้าห้องเรียนมานั่งที่โต๊ะเห็นนั่งโต๊ะอยู่

เรียบร้อย ร้อยวันพันปีไม่เคยเป็นมันมาโรงเรียนทันคาบแรกสักครั้ง นี่มันมาโผ่ลหัวให้เห็นตั้งแต่คาบโฮมรูม







“ นี่ไงมึง กูเอามาให้ “ ผมเอาเอกสารต่างๆยื่นให้มัน

“ เห้ย แต้งเว้ย “ มันเปิดเอกสารแล้วถามนู่นถามนี้ ผมก็ตอบอย่างรวดเร็วจนมันพูดขึ้นมาว่า

“ คือกูอยากเรียนคณะนี้แล้วก็ที่นี่ เพราะว่าแฟนกูเรียนอยู่ว่ะ กูอยากเรียนกับแฟน “ มันหันหน้ามาพูดกับผมด้วยหน้าจริงจัง

ผมจุกแฟนอย่างนั้นเหรอ...



“ เอออออ เนี่ย เชี่ยนายแม่งโครตรักเมีย คบกันนานโครต เนาะพวกมึง “ ไอ้ฟามกับกลุ่มเพื่อนๆมันที่เข้ามาในห้องผมที่

อาสัยคาบโฮมรูมอยู่ก็พูดขึ้นมา



“ จริง แม่งตัวติดกันเหมือนปลาท่องโก๋ “ พวกเพื่อนมันก็พูดขึ้นมา ผมไม่รู้จักชื่อหรอกครับอยู่กันคนละห้องกับผม

ผมเจ็บว่ะ เจ็บเหี้ยๆเลย อีกแล้วเหรอวะ....





“ อืม ดีจังเลยนะไอ้นาย “ ผมฝืนยิ้มทำท่าทางยินดีไปให้มัน

“ โครตเลย “ เวลามันพูดเรื่องเกี่ยวกับแฟนมันดวงตามันยิ้มไปด้วยตลอดเวลา






.......... ดีซะที่ไหนล่ะ... จะให้ผมเรียนที่เดียวกับแฟนมันเห็นมันนั่งดูแลกัน นั่นมันไม่ดีกับหัวใจของผมเอาซะเลย .........








“ มึงเป็นอะไรวะพักนี้มองหน้ากูแปลกๆ “ มันทำหน้าสงสัย

“ เปล่าเว้ย ฮ่ะๆ “ ผมฝืนหัวเราะ








            ตั้งแต่วันนั้นมาผมจะพยายามคิดแค่เพื่อนกับไอ้นายให้มากถึงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เว้นระยะห่างแต่ก็ไม่ได้ห่างเหิน

แต่ก็แค่ผมไม่กล้าที่จะมองหน้ามันได้อย่าบริสุทธิ์ใจ เพราะผมกลัวที่จะแสดงออกให้มันได้รับรู้ไปว่าผมชอบมันเข้าแล้ว








“ มึง กูอยากมีเรื่องปรึกษาเรื่องแฟนว่ะ “ มันทำหย้าเครียด

“ เล่ามาสิ  “ ผมยิ้มบาง




              หัวใจผมกระตุกวูบทุกครั้งที่มันเล่าเรื่องราวความรักของมันและแฟนของมันให้ฟังอย่างมีความสุขให้ฟังทุกๆครั้ง

มันปรึกษาว่าทำอย่างไรดีที่แฟนมันจะดีใจกับสิ่งที่มันทำไปในแต่ละอย่าง ผมก็ได้แต่ให้คำปรึกษาเท่าที่จะทำได้ แต่ในใจของผม

กลับไม่ได้ยิ้มไปด้วยเลย เวลาของผมกับมันเหลือออยู่อีกไม่นาน นั่นเพราะว่า






            ปิดเทอมสองนี้ใก้ลจะมาถึงเอาซะแล้วล่ะ ม.5 มันจะย้ายโรงเรียนไปเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับแฟนของมัน ดังนั้น

ขอให้ผมได้ตักตวงความสุขแค่ช่วงเวลานี้ก็เพียงพอแล้ว ผมทำอย่างนี้โดยไม่แสดงออกไปจนมาเกินไปจนวันสุดท้ายของปลาย

ภาคเรียนที่สอง พวกเพื่อนๆสนิทของผมก็ถามอยู่ตลอดว่าไม่อึดอัดบ้างหรืออย่างไร ผมบอกเลยครับอึดอัด แต่ก็รัก...นี่ล่ะครับ

เมื่อรักครั้งนี้  ได้แค่อยู่ใก้ลของผม ผมได้เป็นเพื่อนที่ดีของมันอย่างสมบูรณ์






เรื่องราวครั้งนี้แม้จะสั้นๆ แต่ก็มีความหมาย  :bye2:









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-10-2015 16:16:31 โดย Map »

ออฟไลน์ Wtftt

  • โอกาสก็เหมือนไอติมถ้าไม่กินมันก็ละลาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
น้องเป้ยของเจ้ โอ๋ๆ ลูก เจ็บอะหน่วงด้วย เมื่อไรเป้ยของเจ้จะสมหวัง
แต่สนุกมากค่ะ ชอบๆ รอตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ Map

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
น้องเป้ยของเจ้ โอ๋ๆ ลูก เจ็บอะหน่วงด้วย เมื่อไรเป้ยของเจ้จะสมหวัง
แต่สนุกมากค่ะ ชอบๆ รอตอนต่อไปค่า

ขอบใจน้าที่เข้ามาอ่าน เป็นกำลังใจที่ดีมากเลยย 
ตอนต่อไปเจอกันวันนี้ช่วงค่ำาาาา :sad4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-10-2015 09:28:13 โดย Map »

ออฟไลน์ Wtftt

  • โอกาสก็เหมือนไอติมถ้าไม่กินมันก็ละลาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0


ขอบใจน้าที่เข้ามาอ่าน เป็นกำลังใจที่ดีมากเลยย 
ตอนต่อไปเจอกันวันนี้ช่วงค่ำาาาา :sad4:

เป็นกำลังใจให้เสมอจ้า ชอบเรื่องแนวนี้จ้า สู้ๆนะเป็นกำลังใจให้  :กอด1:
มารอๆๆๆๆต่อ

ออฟไลน์ Map

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0


เรื่องที่ 3 เมื่อรักครั้งนี้ ‘โดนปฏิเสธ ‘






            ผมชื่อเป้ย อายุ 18 ปีแล้วครับผม เรื่องราวของผมครั้งนี้ เป็นรักที่เรียนพิเศษ ผมได้เรียนพิเศษทุกวันเวลาที่ว่าง

สามารถจัดตารางเรียนกันเองได้ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมคึกในการเรียนครั้งนี้มาก เพราะรู้สึกสนุกสนานไปกับมัน

มีเพื่อนเยอะแยะเป็นกลุ่มใหญ่ๆทำให้สนิทกันมาก จุดเริ่มต้นของเรื่องราวนี้มีอยู่ว่า....







“ เป้ย นี่รุ่นน้องพี่เองชื่อเทม รุ่นเดียวกับเป้ยเลย “ พี่เตยแนะนำเพื่อนใหม่ให้กับผม

“ ไง เราเป้ย นายล่ะ “ ผมหันไปทักทาย

“ เราเทม “ มันแนะนำตัวกับผม

“ เรียนเรื่องอะไรอ่ะ “ ผมถาม

“ อ่อ เราเรียนเรื่องธุระกิจน่ะ “ มันบอก






จากที่ผมคุยๆกับมันดูรู้เลยว่ามันเป็นคนสุภาพมาก เราคุยกันถูกคอกันหลายๆอย่าง เราก็แลกเฟส ไลน์แล้วก็เบอร์โทรกัน






“ กลับบ้านทางไหนอ่ะเทม “ ผมหันไปถามมันหลังจากที่เรียกเสร็จแล้วกันทั้งคู่

“ เดินสะพานข้ามไปอ่ะแล้วค่อยต่อรถอีกที ” มันหันมาพูด

“ งั้นก็ทางเดียวกับเราอ่ะ “ ผมกับมันเลยเดินกันข้ามสะพานไปอีกถนนเส้นหนึ่ง

“ แยกกันตรงนี้เลยแล้วกันนะเทม “ ผมหยุดก่อนที่จะถึงป้ายรถเมล์ ตรงนี้เป็นจุดรอวินมอไซ

“ อ้าวกลับไงเนี่ย “ เทมหยุดหันมาถาม

“ ขึ้นวินกลับบ้านอ่ะ เทมล่ะ “ ผมถาม

“ ขึ้นสองแถวกลับ “

“ อ้อ บ๊ายบาย ไว้เจอกัน “ ผมโบกมือให้เทม

“ บาย เจอกัน กลับดีๆล่ะ “ มันบอกแล้วหันหลังเดินกลับไปยังป้ายรถเมล์







            เมื่อผมถึงบ้าน ผมก็นั่งทำงานอยู่หน้าคอมฯเปิดเฟสครึ่งมาส่องอะไรเรื่อยเปื่อย จู่ๆ เสียงแชทเฟสดังขึ้นมา




....... ตึ๊ง …….





เทม : ถึงบ้านยังเป้ย



เป้ย : ถึงแล้ว เมื่อกี้เลย เทมอ่ะ



เทม : ถึงแล้วเหมือนกันนนนน

เทม : ชอบหนังแนวไหนเป้ย



เป้ย : ชอบแนวสยองขวัญ

เป้ย : ( สติกเกอร์ )



เทม : โหย เราโครตกลัวอะไรพวกนี้เลย

เทม : ( สติกเกอร์ )

เทม : ถึงเรากลัวแต่เราก็ชอบดูนะ มีเต็มเครื่องเลย 555



เป้ย : ไหนนนน ขอบ้างดิ

เป้ย : เราดูของเราไปหมดแล้ว เบื่อเลยไม่มีอะไรทำอ่ะ 55




            ... ขึ้นว่าอ่านแล้ว แต่มันก็หายไปสักพักใหญ่ ...




เทม : เราว่าเป้ยต้องชอบแน่ๆ เราหามาให้

เทม : ( ลิ้งค์  )

เทม : โหดขนาดนี้เราดูไม่ไหวหรอกนะ 5555




          ... มันหาหนังหลายๆเรื่องให้ผมอยู่นี่เอง ผมนี่ยิ้มเลยครับ ...




เป้ย : แต้งงง ขอตัวไปดูก่อนแปปนึง

เป้ย : ( สติกเกอร์ )




              ... ฮ่าๆๆ มีอะไรทำแล้วครับ ดูหนังสบายใจเลยผม โครตเยอะอ่ะที่มันส่งมาให้ ...




เทม : จัดไปเลยครับบบบบ






            บทสนทนาเราก็หยุดกันอยู่แค่ตรงนั้น ผมก็ดูหนังที่มันให้มาไปเรื่อยๆ แต่ละเรื่องนี่โครตโหด

ผมเอามือปิดตาดูตลอดนะครับ แต่ทำไงได้คนมันกลัวแต่ก็ชอบ ฮ่าๆๆ

            ผมดูจนลืมเวลาตอนนี้เป็นเป็นเวลาตีสองกว่าๆได้แล้ว ผมเปิดไปหน้าเฟส เห็นเทมมันยังออนอยู่เลยทักไป




....... ตึ๊ง ......




เป้ย : ยังไม่นอนอีกเหรอเทมมม



เทม : ยังงงงง

เทม : แต่ก็ง่วงๆแล้วล่ะ ขอตัวไปนอนนะ เป้ยรีบๆนอน แล้วเจอพรุ่งนี้นะ

เทม : ( สติกเกอร์ )



เป้ย : โอเค ฝันดีเทม



เทม : ฝันดีเป้ย



           ... บทสนทนาของเราก็จบแค่นี้ ผมก็ปิดคอมฯ ล้มตัวนอนลงบนเตียงหลับไปอย่างไม่รู้ตัว ...





            จากนั้นชีวิตประจำวันทุกๆวันของผมกับเทมก็เป็นเหมือนอย่างทุกวัน เรียนพิเศษด้วยกัน ไปเที่ยวชิมอาหาร ดูหนัง

แล้วก็กลับบ้านด้วยกัน ถึงบ้านก็ยังคุยกัน ทำให้เราสนิทกันมากขึ้นมากขึ้นไปอีก





“ เป้ย วันนี้เทมไม่มาเรียนเหรอ “ พี่เตยถาม

            พวกผมกำลังเรียนกันเป็นกลุ่มอยู่ครับ แต่วันนี้เทมมันไม่มาเนื่องจากมันบอกว่าไปทำธุระ



“ ไม่ครับ เทมบอกว่าติดธุระ “ ผมบอก

“ เดี๋ยวนี้เวลาเป้ยหาย หรือเทมหาย ต้องติดต่อไม่เป้ยก็เทมเนาะ สนิทกันน่าดูเลย “ พี่ในกลุ่มอีกคนพูด

“ จริง ตัวติดกันสุดๆ ฮ่าๆๆๆ ๆ “ พี่เตยพูด แล้วหัวเราะกันยกกลุ่ม





            เวลาผมหาย พวกพี่ๆเค้าก็จะถามจากเทม พอเวลาเทมหายพวกพี่ๆเค้าก็จะถามจากผมกัน

เพราะเวลาผมหรือเทมจะไปไหนพวกเราจะติดต่อกันตลอด

            วันต่อมมาเทมก็มาเรียนพิเศษามปกติ มันนั่งทำการบ้านมันหิ้วมาทำที่เหมือนผม เราก็นั่งทำงานอยู่เงียบๆจู่ๆเทมก็ถามขึ้นมา




“ เป้ย เราจะดร็อปที่เรียนพิเศษไว้ 1 ปี ต้องทำไง “

“ ดร็อปทำไมอ่ะ “ ผมสงสัยครับ ทำไมมันต้องดร็อปด้วย

“ คือ เรายังไม่ได้บอกใครเลยเว้ย “

“…….”

“ เราสอบได้ทุนไปเรียนที่อังกฤษ 1 ปี แต่ก็จะทำให้เราเรียนซ้ำชั้นอีก 1 ปี “

“……”

“ ต้นปีเราก็ไปแล้ว อีกแค่สองเดือนครึ่งเท่านั้นที่เราจะอยู่ที่นี่ “




            ไม่รู้เป็นบ้าอะไรขึ้นมา ร้อยวันพันปีผมคิดและแน่ในแน่ๆว่าผมคิดกับเทมแค่ เพื่อน แต่ตอนนี้ผมไม่แน่ใจแล้วจริงๆ

อยู่ดีๆมันมาพูดกับผมเรื่องนี้ ผมรู้สึกว่าผมเจ็บที่ตรงหน้าอกข้างซ้ายตลอดเวลา น้ำตาก็พาลจะไหล




“…..”

“ เป้ย เป้ย เป็นอะไร “ เทมสะกิดผม

“ อือ เปล่าๆ ดีใจด้วยที่ได้ทุนไปต่างประเทศนะเทม “ ผมฝืนยิ้มให้มัน

“….”

“ เทมลองไปถามครูที่สอนดูสิ คงดร็อปได้แหละ “

“ โอเค แต้งเป้ย “ มันยิ้ม





            .... ผมก็ยิ้ม แต่ใจผมกลับไม่ยิ้มตามไปด้วย บ้าจังเลยนะ ....





            แต่ก็เพราะครั้งนั้นที่ทำให้ผมคิดว่าจะอยู่กับมันให้มีความสุขที่สุดเท่าที่จะทำให้ได้ ผมก็ได้เล่าให้เพื่อนกลุ่มผมให้ฟังว่า

ผมได้เริ่มชอบใครอีกแล้ว พวกมันก็ถามผมกันนะว่าจะบอกชอบมันไหม




“ เป้ย จะบอกชอบเทมไหมมึง “ ไอ้แทนถาม

“ ก็คิดอยู่ แต่กูก็กลัวจะเจ็บอีกครั้ง “ เรื่องที่ผ่านๆมามันจำฝังใจจริงๆนะครับ

“ ถ้ามึงมัวแต่ลังเล มันก็จะอึดอัดอยู่อย่างนี้นะเว้ย “ ไอ้ฟาน

“ ลองดูอีกครั้งจะเป็นอะไรไป  ดีกว่าไม่ได้บอกมันไปนะ “ ไอ้แมท

“ ถ้าสมหวังก็ดี แต่ถ้าไม่ก็ยังดีที่มึงได้บอกมันแล้วจะไม่เสียใจทีหลัง “ ไอ้พีพูดบอกผม

“ อืม ขอเวลาตัดสินใจหน่อยแล้วกัน “




            ช่วงเวลาตอนนั้นผมก็คิดในใจครับว่า จะลองสารภาพบอกชอบมัน จะลองใจตัวเองอีกครั้ง

ถ้าผมไม่ได้บอกไปก่อนที่มันจะไปต่างประเทศผมคงอึดอัดแล้วยังคงมานั่งเสียใจทีหลัง ทั้งๆที่ตัวผมก็รู้ตัวดีว่า

เทมมันเองไม่เคยคิดกับผมเกินคำว่าเพื่อนหรอก ถึงจะมีบ้างกับการกระทำที่มันทำลงไป

ทำให้ผมคิดเสมอว่าผมคงจะมีหวังบ้างก็ตาม




            อีกไม่กี่วันมันก็จะไปต่างประเทศผมรอบรวมความกล้าที่จะบอกกับมันก่อนที่มันจะไปต่างประเทศก่อนหนึ่งวัน

ผมได้ไปเรียนกับมันวันนี้วันสุดท้าย ผมที่กำลังเดินกับมันอยู่ก็หยุดเดินแล้วหันหน้าไปหามัน




“ เทม อย่าเกลียดเรานะอย่าทำเงียบ อย่าทำห่างเหินเราด้วย “ ผมบอกเสียงแผ่ว

“ แน่อยู่แล้ว พูดมาสิ “ มันตั้งหน้าตั้งตารอฟัง

“ คือ.. เราชอบเทม “ ผมกลั้นใจพูดออกไปเร็วๆ

“…..”

“ เป็นแฟนกับเราได้ไหม “ ผมก้มหน้าพูดรัว

“ เป้ย “

“ อื้ม “ วินาทีนั้นผมไม่กล้ามองหน้ามันเลยครับ ทั้งกลัวทั้งสับสนตัวเองไปหมด

“ เราเป็นเพื่อนกันดีกว่านะ “ มันยิ้มให้ผม

“....”

“ อย่าเงียบสิ ไหนบอกเราว่าไงว่าอย่าเงียบ อย่าห่างเหิน “

“….”

“ เราไปต่างประเทศแล้วก็อย่าลืมเราล่ะ ติดต่อมาหาบ่อยๆกันเหมือนเดิมนะ “

“ อืม ได้อยู่แล้ว “ ผมพูดแล้วยิ้ม ทั้งที่ในใจผมคิดว่าขอเวลาทำใจหน่อย ตอนนี้เจ็บจริงๆ

“ เราไปนะ บาย “ มันพูดเสร็จเราก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน




             ผมลืมตาพร้อมกันแสงแดดที่เล็ดลอดเข้ามาจากผ้าม่าน เช้านี้มันไปต่างประเทศแล้วสินะ

วันที่มันไปต่างประเทศผมไม่ได้ไปส่งมันที่สนามบินหรือให้คำอวยพรอะไรเลย สภาพจิตใจผมยังไม่คงที่พอ




            ตลอดช่วงเวลาที่มันไปต่างประเทศ มันคอยเฟสมาหานิดหน่อย ว่ามันอยู่ที่นี่แทบจะไม่มีเวลาว่างเลย

ต้องเรียนหนักกว่าเดิม ทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กเพื่อนหาเงินพิเศษ ผมก็ได้แต่อ่านข้อความของมันแล้วเป็นฝ่ายที่จะหลบหน้ามันไปเอง

มันคอยอัพรูปอัพสเตตัสในเฟส ผมได้แต่แอบส่องมันมาตลอด 1 ปี จนวันที่มันได้กลับมาประเทศไทย



            มันได้ทักเฟสผมมาอีกครั้ง ว่ามันกลับมาแล้ว ผมเป็นอย่างไรบ้าง มันบอกว่ามันไปเรียนพิเศษแล้วถามหาถึงผมในกลุ่ม

พี่ๆว่าผมหายไปไหน ทุกคนบอกว่าผมหายไปตั้งแต่วันที่มันได้ไปต่างประเทศแล้ว และไม่มีใครติดต่อผมได้




แล้วมันก็ได้บอกกับผมว่า


“ ตั้งแต่กลับมาประเทศไทย เรายังไม่ได้เจอกันเลย “

“ อื้อ เราจะเข้ามหา’ลัยแล้วทุกๆอย่างเลยวุ่นวายไปหมดน่ะ ไม่มีเวลาว่างด้วย “ ผมพิมพ์บอกไป

“ จริงด้วยลืมไปเลยว่าเป้ยจะขึ้นมหา’ลัยแล้ว สู้ๆ เราก็ต้องเรียนช้าอีก 1 ปี เป็นรุ่นน้องเป้ย เป้ยเป็นรุ่นพี่เราแล้วน้า “





            นั่นสินะถึงเราจะไม่ใช่คนรักกัน แต่เป็นเพื่อนกันได้ แค่นี้ก็ดีมากแล้ว ขอบคุณที่เป็นเพื่อนที่ดีนะเว้ยเทม

นี่ล่ะครับรักที่โดนปฏิเสธของผม ผมได้เป็นรุ่นพี่มันและเป็นทั้งเพื่อนของมันอย่างสมบูรณ์








เห้อ น้องเป้ยของเราอาภัพรักดีเนาะ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

เจอกันตอนหน้า รักของเป้ยที่มีความทรงจำมากที่สุด มีค่ามากจริงๆ :bye2:






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-10-2015 16:30:27 โดย Map »

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
เมื่อกี้กำลังจะตอบ คนเขียนมาอัพซะก่อน555
เป้ยนี่อาภัพรักจังเลย มากอดปลอบมา ลูบหัวรัวๆ
ไม่เป็นไร อย่างน้อยเป้ยก็ยังกล้ารักคนอื่นไม่ยึดติดแบบฟูมฟาย อย่างนี้แหละ สู้ๆ คนไม่เคยล้มจะเคยลุกได้ยังไง เนอะ
ป.ล.เป็นกำลังใจให้นักเขียนค่า เขียนดีแล้ว ภาษาอ่านง่าย เรียลไลฟ์ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Map

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เมื่อกี้กำลังจะตอบ คนเขียนมาอัพซะก่อน555
เป้ยนี่อาภัพรักจังเลย มากอดปลอบมา ลูบหัวรัวๆ
ไม่เป็นไร อย่างน้อยเป้ยก็ยังกล้ารักคนอื่นไม่ยึดติดแบบฟูมฟาย อย่างนี้แหละ สู้ๆ คนไม่เคยล้มจะเคยลุกได้ยังไง เนอะ
ป.ล.เป็นกำลังใจให้นักเขียนค่า เขียนดีแล้ว ภาษาอ่านง่าย เรียลไลฟ์ๆ

555555 ใจน้าา เป้ยเราอาภัพรักจริงๆเลย เรารักเค้าแต่เค้าไม่รัก พอคนมารักกลับไม่ได้รัก ฮาาาาาา

ออฟไลน์ Wtftt

  • โอกาสก็เหมือนไอติมถ้าไม่กินมันก็ละลาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :z3: น้องเป้ยยยยยย อาภัพรักสุดๆ น่าสงสารน่าเอ็นดู
แต่ความรักของแต่ละคนใช่ว่าจะสมหวังแฮปปี้เสมอไป มันจะมีวันที่ล้มบ้างเหนื่อยบ้างท้อบ้างแต่สักวันเราก็จะลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้ง
ชอบมากคะเรื่องนี้เป็นกำลังใจให้จ้า สู้ๆจ้า รอติดตามเสมอ

ออฟไลน์ Map

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
:z3: น้องเป้ยยยยยย อาภัพรักสุดๆ น่าสงสารน่าเอ็นดู
แต่ความรักของแต่ละคนใช่ว่าจะสมหวังแฮปปี้เสมอไป มันจะมีวันที่ล้มบ้างเหนื่อยบ้างท้อบ้างแต่สักวันเราก็จะลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้ง
ชอบมากคะเรื่องนี้เป็นกำลังใจให้จ้า สู้ๆจ้า รอติดตามเสมอ

ถึงจะรักไม่สมหวัง แต่ก็นับได้ว่าเป็นความรักเนอะ มาคอยเชียร์ให้เป้ยสมหวังกับความรักสักที  :sad4: 

ออฟไลน์ Map

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

เรื่องที่ 4 เมื่อรักครั้งนี้ ‘ถูกโยนทิ้ง‘





            ผมชื่อเป้ย อายุ 19 ปีแล้วครับ เป็นเฟรชชี่มหา’ลัยรัฐแห่งหนึ่ง ครั้งนี้ผมได้มีแฟนเหมือนคนอื่นเค้าแล้วน้า

ดีใจกับผมหน่อยสิ เรื่องราวของผมและแฟนมีอยู่ว่า…   





ผมและเพื่อนๆของผมพาผมไปเที่ยวสังสรรค์ย้อมใจของผมกัน แต่ผมไม่เป็นคนดื่มแอลกอฮอล์ครับเลยไม่สนุกเท่าที่ควร

ระหว่างที่ผมได้แต่นั่งเบื่อๆเซ็งๆ ก็มีไอ้บ้าตัวหนึ่งอยู่ดีๆก็ด่าผมว่า แรด ผมนี่ขึ้นเลยครับ อะไรวะไม่เคยเจอกันรู้จักกันอยู่ดีๆก็มาด่า

ผมนี่งงไปทำอะไรตอนไหนให้โดนด่า







“ มึงสิไอ้เหี้ย มีไรมาหาเรื่องกู “ ผมเดือนมากครับตอนนั้น

“ ไม่มี “ มันตอบนิ่งๆ แม่งทำเป็นอยู่หน้าเดียว

“ แล้วด่ากูเพื่ออะไร “

“ อยาก “

“ ไอ้สัส กวนตีน “ ผมมองมัน แต่มันก็ยังไหล่ไม่สนใจ






           .... เหตุการณ์แปลกๆของผมเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้รู้จักกับมันแล้วก็ได้รู้ชื่อมัน มันชื่อว่า เต้ และมันก็ซิ่วมาเรียนปี1 ....






“ ไม่กลับรึไงเพื่อนแม่งกลับกันหมดแล้ว “ ผมพูด

             เพิ่งรู้ว่ามันเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกที เหลือเพื่อนมันอีกสองคน



“ ไม่ กลัวเหงา “ มันพูด

“ อะไรวะ มึงเหงา ? เออกูเข้าใจ “ ผมพูดแล้วพยักหน้า

“ โง่ “

“ เอาอะไรวะ กูโง่ตรงไหน “ ผมโดนด่าอีกแล้ว

“ มันหมายถึงกลัวมึงเหงาโว้ยไอ้เป้ย “ เพื่อนมันบอก

“ ฉลาด “ ไอ้เชี่ยเต้พูด

“ เอ้า ก็มึงไม่พูดให้เคลียร์ “ ผมเกาหัว






            ตั้งแต่วันนั้นมามันก็คอยคุยแต่กับผม กลุ่มเพื่อนมันกับกลุ่มเพื่อนของผมค่อนข้างจะสนิมกันส่วนหนึ่งเลยล่ะ

เท่าที่ผมสังเกตมัน มันเป็นคนโครตกวนตีนหน้านิ่ง ปากหมาที่หนึ่ง เงียบๆไม่ชอบสุงสิงกับใคร แต่ทำไมมันอยู่โครตจะพูดมาก

เหี้ยๆ ปากหมาบรรลัย นั่นจึงทำให้ผมกับมันสนิทกันอย่างไม่รู้ตัว เถียงกันเป็นกิจวัตร จนเพื่อนๆผมกับมันสังเกตได้ว่า







“ เฮ้ย ไอ้เต้มึงชอบเป้ยเหรอวะ “ เพื่อนๆมันพูดมากลางวง

            บรรยากาศตอนนี้มีแต่สายตาใคร่รู้ราว สิบกว่าคู่





“ อืม แล้วจะทำไม “ มันพูด จนเพื่อนแต่ละคนยิ้มออกมา

            ผมนี่อึ้งเลย ไรวะด่ากูทุกวันนี่คือชอบกู ? กูคือไม่เข้าใจสิ่งที่มึงทำเลยสาดด





“ เปล๊า พวกกูเห็นแค่มึงกวนตีนมันอยู่นั่นล่ะ “ เพื่อนผมสอดขึ้นมาบ้าง

“ มันเป็นแฟนกู “ ไอ้เต้พูดขึ้นมา ห๊ะ... แฟนเชี่ยไรเป็นตอนไหนกูยังไม่รู้เลย

“ แฟนพ่อง “ ผมนี่รีบด่ามันเลยด้วยความปากไว

“ ไม่ใช่แฟนพ่อกู มึงเป็นแฟนกู “ มันก็พูดหน้ามึนๆกวนตีนนิ่งๆตามแบบของมัน

“ กูบอกตอนไหน ขอกูเป็นแฟนตอนไหนสัส มั่วจริงๆ “

“ ยังไงมึงก็แฟนกู “ มันพูดเท่านั่นล่ะ

“ ฮิ้ววววววว  ฮิ้ววววววว “ เสียงพวกเพื่อนเชี่ย

“ เพื่อนกูไอ้เป้นคนนี้ขายออกแล้วคร้าบบบบบบ “ เสียงพวกเพื่อนผม







            ....... ส่วนผมน่ะเหรอ งงดิ ไอ้เต้มึงจะทำกู งง ไปถึงไหนกันวะ ........






                       เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เพื่อนๆกลุ่มผมและกลุ่มมันรวมกันสิบกว่าชีวิตตกลงปลงใจแล้วว่าผมกับมันเป็นแฟนกันไปแล้ว นี่คือพวกมึง ไม่ถามความสมัครใจกูเลยใช่ไหม...





            ผมก็พูดกับไอ้เต้ แย้งไอ้เต้ตลอดว่าผมไม่ได้เป็นแฟนมัน แต่มันก็ทำมึนใส่อย่างไม่ใส่ใจ มันก็ปฏิบัติกับผมเป็นคนพิเศษ



ของมันในทุกๆอย่าง ไม่ว่าผมจะทำอะไร จะไปไหนมันก็จะไปด้วย มีอะไรก็ถามความเห้ให้ผมตัดสินใจแทนตลอด







“ ไอ้เต้ มึงเห็นสาวคนนั้นไหมวะ อึ๊มโครต “ เพื่อนมัน

“ อืม “ มันจับมือผม ผมมองหน้ามัน

“ ไม่สนใจเหรอวะ “

“ ไม่ กูมีแฟนอยู่แล้ว “ ไอ้เต้พูดเท่านี้ ผมก็ตบหัวมันทีหนึ่ง แต่มันไม่อยากให้ตบง่ายๆหรอกหลบผมได้ตลอดทุกครั้ง

“ เหอะ “ ผมหงุดหงิด

“ หึหึหึหึ “ เพื่อนมึนมองผมสองคนแล้วหัวเราะ








            พวกเพื่อนมันบอกว่าไอ้เต้เป็นคนไม่ยอมใคร หรือสนใจใครง่ายๆ แต่มีแค่ผมที่ไอ้เต้ยอมลงให้ แต่เพราะการที่มันทำ

อย่างนี้กับผมตลอด ทำให้ผมรู้สึกผูกพันกับมันมากขึ้นทุกวัน






            มีคนมาสนใจในตัวมันเยอะแยะเพราะมันนับได้ว่าเป็นคนหน้าตาดีไม่แพ้ใคร ออกจะลุกแนวเถื่อนๆหน่อยก็ตาม



ทำให้มันเป็นคนมีเสน่ห์ แต่มันกลับไม่สนใจใคร แล้วพูดไปอย่างหน้าตายทุกครั้งว่าผมเป็นแฟนมัน มันมีแฟนอยู่แล้ว......



และเหตุการณ์ต่อไปนี้มันได้ทำให้รู้ว่าผมไม่ได้แค่ชอบมัน ได้รู้จักคำว่า หึงและหวง หลังจากที่มันหึงหวงผมมาอยู่ตลอด





            วันนี้ผม ไอ้เต้เพราะกลุ่มพวกพ้องกำลังจะไปดื่มสังสรรค์กันที่ร้านใหม่ เป็นร้านมาเปิดใหม่พวกผมต่างก็มีเวลาว่างพรุ่งนี้



ก็ไม่มีเรียนเลยชวนกันมาแจมเปิดร้าน พวกผมเดินเข้าร้าน บรรยากาศคึกคักแน่นเอี้ยดไปด้วยกลุ่มนักศึกษายั๊วเยี๊ย





เดินไปชั้นสองที่มีบรรยากาศแตกต่างออกไปจากชั้นแรกตรงที่ว่าสงบขึ้น ร้านนี้มีสี่ชั้นครับ ชั้นสามเป็นชั้นวีไอพี ชั้นสี่เป็นชั้น



ดับเบิ้ลวีไอพี ซึ่งชั้นสองที่ผมอยู่จะเป็นโซนๆราคานักศึกษาพอจ่ายไหวมนั่งกันแบบกลุ่มเพื่อน พวกผมก็หันไปได้ยินเสียง



กลุ่มนักศีกษาผู้หญิงส่งเสียงน่ารักน่าฟังกัน คุยจ้อกันอย่างสนุก มีผู้หญิงคนหนึ่งสูง ขาว เซ็กซี่หน่อยๆ เดินมาที่โต๊ะของพวกเรา



 พวกผมเหรอครับดี๊ด๊ากันใหญ่ลาบปากมาหาเอง





“ ไงเต้ สบายดีไหม “ เธอคนนั้นเดินมาทักทายไอ้เต้

“ โหย สาวของไอ่เต้นี่หว่า พวกมึงอดดดด “ พวกมันโวยวายเซ็งๆกัน

“ สบายดี ฝ้ายล่ะ หื้ม “ ไอ้เต้ยิ้มในแบบที่ผมไม่เคยเห็น อ่อนโยนมาก เธอชื่อฝ้ายสินะ...

“ สบายดี ฝ้ายคิดถึงเต้นะคะ”  ฝ้ายยิ้มหวาน

“ หึหึ อ้อนจริงๆเลยนะ “ มันขำแล้วยกมือมาลูกหัวฝ้ายอย่างเอ็นดู

“ เต้มีแฟนรึยังเนี่ย หลังจากที่เลิกกับฝ้ายไป “ ฝ้ายถามไอ้เต้อย่างสงสัย

“ มีแล้ว ดื้อด้วยโง่ด้วย “ มันพูดหยอกล้อกับฝ้าย

“ คิก “ ฝ้ายหัวเราะ เธอเป็นคนน่ารักมากเลยล่ะครับ..

             จู่ๆมันก็โอบฝ้ายมาจูบตรงริมฝีปาก ไหนบอกว่าชอบกูไงวะ ไหนที่มึงบอกว่ากูเป็นแฟนมึง !




“ เหอะ “ ผมเผลอแสดงท่าทีออกไป

“ เป็นไร “ มันถามผมทั้งๆที่มือมันยังโอบเอวฝ้ายอยู่

“ ช่างแม่ง “ ผมไม่สนใจกระดกแก้วเหล้าทั้งๆที่ไม่เคยคิดจะดื่ม

“ หึ หึงหรือไง “ มันขำแล้วทำหน้านิ่งถามผม

“ ไม่รู้ ! “ ทั้งที่ตอนนั้นผมบอกว่าไม่หึงก็จบ แต่ด้วยเพราะแอลกอฮอล์ทำให้ผมสับสนเลยได้แต่พูดว่า ไม่รู้...

“ กูมีแฟนแล้ว ขึ้หึง โง่แบบยังไม่รู้ตัว “ มันหันมาพูดกับผม


            บรรยากาศเงียบแล้วมาคุขึ้นตอนไหนผมยังไม่รู้ตัวเลยครับ ทุกๆในวงเงียบกันไปหมด แม้แต่ฝ้ายเองก็ทำอะไรไม่ถูก





“ เรื่องของมึง “ มันกระดกแก้วเหล้าต่อ

“ หึงใช่ไหมครับ หื้ม “ มันปล่อยฝ้าย แล้วมาลูบหัวผม

“…..”

“ ไม่เอาไม่หึง ดีกันนะครับ ง้อ “ มันเอานิ้วเขี่ยแก้มผม

“ ใคร “ ผมถามอย่างสงบสติอารมณ์

“ แฟนเก่า แต่ตอนนี้แค่เพื่อนสนิทที่สุด “ มันเริ่มกอดเอวผมเพื่อที่จะอ้อน

“ แล้วทำไมต้องจูบวะ ! “  ผมเริ่มสงบสติอารมณ์ไม่ได้

“ แต่จูบธรรมดา “

“……”

“ ต่อไปนี้กูจะจูบแค่มึงคนเดียว สัญญา “ มันเอานิ้วก้อยผมไปเกี่ยวก้อยของมัน

“ ทำให้ได้ด้วยละกันสัส “ ผมพูดอย่างหงุดหงิด

“ หึหึ มึงขี้หึงว่ะ กูชอบนะที่มึงหึง “ มันพูดพร้อมกับกอดผมแน่นๆ จูบปากผมเบาๆ






“ เฮ้ยๆๆๆๆๆ ๆ พวกมึงสองตัว ทำพวกกูเกร็งไม่พอ ยังมาสวีทกันแถวนี้อีกสัส ! “

            พวกเพื่อนๆปากหมาเริ่มออกโรงแล้วครับหลังจากที่ผมกับไอ้เต้มันเริ่มดีขึ้น





“ เชี่ยยย บุญตาพวกกูจริงๆที่เห็นไอ้เป้ยหึงใคร หึงน่ากลัวสาด “ เพื่อนผมพูดกัน

“ อย่างนี้ ไอ้เต้มึงเตรียมตัว เกลียมัวได้เลยว่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ “ พวกเพื่อนมันพากันหัวเราะ







            หลังจากดื่มสังสรรค์กันเสร็จ ไอ้เต้ก็พาผมไปส่งที่บ้าน มันมีรถเป็นของตัวเองครับ ตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงคืนเกือบๆ

ตีหนึ่ง ก็มาจอดรถอยู่หน้าบ้านของผม จู่ๆมันก็ถามขึ้นมาว่า





“ เป้ย เป็นแฟนกับกูนะ “ มันหันมาสบตากับผม

“ มึงรับกูที่เป็นกูได้รึเปล่า “ ผมก็บอกมันทั้งเรื่องขี้หึงคิดมากนู่นนี่

“ กูก็เหมือนกัน สัญญากันก่อนว่า มีเรื่องอะไรให้ถามอย่าเก็บไว้คนเดียว “

“ จะพยายาม “ ผมเกี่ยวก้อยสัญญา

“ ดีมากสัญญาแล้วทำให้ได้ด้วย “

“….”

“ มึงเป็นแฟนกูแล้วนะ “

“ อื้อ กูแฟนมึง “ ผมขานรับเขินๆ

“ หึหึ เขินเหรอ ไม่ต้องเขินเดี๋ยวยังจะมีเรื่องให้เขินอีกเยอะ “ มันพูดยิ้มในแบบที่ผมไม่เคยเห็นอีกมุมหนึ่ง





            อ่าผมเขินโครเลยครับ เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับผมมาก่อนเลย มันพูดจบประโยคมือของมันก็จับท้ายทอยผม

ไปใก้ลๆหน้าของมัน





“ ขอจูบนะเป้ย “ มันถามผม จ้อมผมด้วยสายตาลึกซึ้ง ใจของผมเต้นรัวไม่หยุด

“ อื้อ “ ผมตอบรับเสียงสั่นๆ

“ อย่าเขินเป้ย “ มันแซว

            แล้วล็อกท้ายทอย กดริมฝีปากลงบนปากผม ลิ้นของมันเข้ามาดูดดุนริมฝีปากของผมอย่างอ้อยอิ่ง เป้นช่วงเวลาผมที่มี

ความสุขที่สุดเลยล่ะครับ




“ น่ารักว่ะ แฟนใครวะ “ หลังจากจูบเสร็จ มันก็พูดขึ้นกอดผมแน่นๆอย่างหมั่นเขี้ยว

“ แฟนมึง “ ผมตอบเบาๆ กอดแน่นๆตอบกลับไป








            หลังจากวันนั้นทำให้ผมและมันได้อยู่กันในสถานะแฟนอย่างเต็มปากเต็มคำ เราสองคนค่อนข้างจะมีความเป็นผู้ใหญ่กัน



ทั้งคู่ มีเหตุผล ผมกับมันทะเลาะกันน้อยมากถึงมากที่สุด ทะเลาะกันเรื่องใหญ่กันแค่สองครั้งเท่านั้นเองตั้งแต่คบกันมา หลักๆเลย



เรื่องแรก ผมเป็นคนเข้ากับคนอื่นง่ายเลยทำให้มันหึงและคอยตามหวงผมไปซะทุกเรื่อง อย่างในตอนนี้





“ มันเป็นใคร มึงให้มันกอดทำไงวะเป้ย “ มันพูดเสียงเครียด

“ เพื่อน เพื่อนจริงๆมันเศร้าเลยขอกอดเท่านั้นเองเต้ “ ผมพยายามอธิบายให้ฟัง

“ ทีหลังอย่าให้เต้เจอนะเป้ย มันจะเจ็บตัวรวมทั้งมึงด้วยเป้ย “ มันทำหน้าจริงจรัง แล้วกดริมฝีปากมาตรงต้นคอของผมหลายๆจุด

 เพื่อย้ำสถานะและแสดงความเป็นของอย่างทุกๆครั้ง






            และเรื่องที่สองที่ทำให้ผมกับมันทะเลาะกันคือ ผมดันงี่เง่าเองที่กลัวว่ามันจะทิ้งผมไป ใช่ครับผมยอมรับผมกลัวการถูก



ทิ้ง กลัวการที่จะเสียคนที่ผมรักอีกครั้ง แต่ผมเชื่อใจมันไม่เคยจิก ไม่เคยระแวงว่ามันไปหาใครใหม่ เพราะมันเคยให้คำสัญญากับ



ผมไว้ว่า มันจะไม่เป็นคนทิ้งหรือเลิกรักผมก่อน ถ้าผมไม่เป็นฝ่ายทิ้งมันไปก่อนเอง





             มันเป็นคนชอบหายไปอย่างเงียบๆ หายไปโดยไม่เคยบอกอะไรผมเลย ไม่สามารถติดต่อไป ทิ้งให้ผมรอ จากหนึ่งวัน



เป็นสองวันและมากขึ้นเรื่อยๆจนเป็นสามวัน แต่ผมก็ยังยอมเป็นคนโง่เพื่อที่รอมัน ไม่ว่าเพื่อนหรือใครี่ผมปรึกษาด้วยต่างก็บอกว่า



ผมยอมมันมากยอมทุกๆอย่าง หรือให้เลิกกับมัน แต่ผมก็ยังเลือกที่จะเชื่อใจมัน






“ หายไปไหนมาเต้ คิดถึงนะคิดถึงมา “ ผมพูด

“ ไปทำธุระมาน่ะเป้ย “ มันหอมแก้มผม

“ เต้รักเป้ยเหมือนเดิมอยู่ไหม “

“ ทำไมเป้ยถามแบบนี้ “

“ เป้ยกลัวว่าเต้จะเล่นๆกับเป้ยเท่านั้น “ ผมพูดจบประโยคนี้ มันทำหน้าตาน่ากลัว ผมรู้ครับมันโกรธ

“ เป้ย เต้ให้พูดอีกที เป้ยพูดว่าไร “

“.......” ผมกลัว ผมเลือกที่จะเงียบ

“ กูถามว่ามึงพูดอะไรออกมา !!! “ มันตะคอกเสียงดัง

“…..”

“ มึงดูถูกความรักของกูมากเกินไปแล้วแล้วเป้ย !! “

“ ขอโทษ... “ ผมพูดเสียงเบา

“ แค่นี้น่ะเหรอ เหอะ ! กูไม่ต้องการคำๆนั้นว่ะเป้ย “

“….”

“ มึงไปเถอะ วันนี้กูขออยู่คนเดียว “

“ เต้ เป้ยขอโทษ ขอโทษ อย่าโกรธเป้ยนะ เป้นรักเต้ “ ผมกอดมันแล้วร้องไห้

“ ไม่เป้ย ครั้งนี้กูโกรธมากจริงๆ ตอนนี้มึงกับกูคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ๆ สงบสติอารมณ์ได้เมื่อไหร่ค่อยคุยกัน “

“ ไม่เอา เป้ยอยากอยู่กับเต้ เป้ยขอโทษ “ แล้วเราก็จบบทสนทนา โดยผมกับมันนั่งกันเงียบๆเป็นสองสามชั่วโมง

“ เฮ้อ.. เป้ย “ จู่มันก็ถอนหายใจแล้วเรียกผม

“ อืม “

“ มึงก็รู้ใช่ไหมว่ากูรักมึง แล้วมึงก็รักกู “

“ อืม “

“ ไม่กังวลอะไรบ้าๆแบบนี้อีกแล้วนะ รู้ไหม “ มันกอดผมแน่นๆ

“ อืม “

“ ไม่เอาไม่ต้องซึมแล้ว ยิ้มให้กูดูสิ “ มันมองผม

“ อืม “ ผมยิ้มไม่ออกจริงๆ ผมก้มหน้าซุกตัวกอดมันแน่นๆจนหลับไป








            เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ผมไม่มีการทะเลาะกันอีก ทุกอย่างเหมือนจะไปด้วยดี แต่ผมกลับรู้สึกว่า เหมือนไม่เคยเข้าถึง

มันเลย เหมือนใก้ลกันแต่ก็ไกลกัน เราทั้งคู่ต่างก็มีกำแพงของตัวเอง






             สิ้นปีวันปีใหม่เป็นอีกวันทำให้ความคิดฟุ้งซ่านของผมหายไป เพราะมันทำเซอร์ไพร์ผม ทั้งๆที่มันไม่เคนจะสนใจอะไร



พวกนี้มีแค่ผมเท่านั้นที่ทำ ไม่ว่าจะวันครบรอบวันของเราก็มีแค่ผมก็ตามที่จำได้และสนใจมัน คืนนั้นเราได้นับถอยหลังเคาท์ดาวพร้อมกัน จูบกันแล้วมันก็บอกรักผม....






            ผมคิดว่าเรารักกันมากขึ้น แต่มันไม่ใช่เลย ผมไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้มันยังจะรู้สึกกับผมเหมือนเดิมหรือเปล่า


ตอนนี้เป็นวันครบรอบ 7 เดือนของเรา ผมเตรียมเซอร์ไพร์เต้ที่หอ

ผมนั่งรอ จนขึ้นวันใหม่มันก็ยังไม่กลับมาหอ เพราะตั้งแต่ที่เราเป็นแฟนกัน

เราเลยย้ายหอมาอยู่ด้วยกัน ผมหาทางติดต่อมันหายๆทาง กลับไม่สามารถติดต่อมันได้เลย






            ครับ.... มันหายไปเป็นอาทิตย์กว่าแล้วครับ และแล้วเสียงประตูก็ดังขึ้น






.... แอ๊ด ....








“ เต้หายไปไหนมา “

“…..”

“ เป้ยคิดถึงเต้นะ ทรมานมากเลยนะกับการที่ต้องรอโดยที่ไม่รู้อะไร “ ผมร้องไห้ต่อหน้ามัน

“ เต้ขอโทษ “ มันลูบหัว






            วันนี้เราก็ไปมหา’ลัยด้วยกัน จนกลับมาตอนเย็นผมขอตัวกลับมาที่ห้องก่อน เพราะรู้สึกว่าผมอดทนมานานพอสมควร

แล้วคงถึงเวลาที่ต้องรวบรวมความกล้าอีกครั้ง ไม่นานนักเต้ก็เข้ามาห้อง





“ เต้ เราเลิกกันไหม “ ผมร้องไห้สบตากับมัน

“ อืม ขอโทษนะเป้ย “ มันหน้านิ่ง

“ ที่ผ่านมาคืออะไรวะเต้ เป้ยอดทนทุกอย่าง เป้ยรักเต้ แต่สิ่งที่เต้ทำมันทำร้ายเป้ย “

            ผมระบายความในใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เก็บมานานกว่า 7 เดือน เท่าที่จะนึกออกได้ในตอนนั้น แต่กลับกลายเป็นว่าผมพูด

ออกได้อย่าแค่ไม่กี่อย่าง





“ เต้ขอโทษ เต้รู้ตัวมาได้สักพักแล้วล่ะว่า เต้ไม่ได้รักเป้ยแล้ว “

“ แล้วเต้ทำแบบนี้ทำไม “ ผมร้องไห้ฟูมฟาย

“ เต้ไม่อยากให้เป้ยเสียใจ “

“ เต้ยิ่งทำแบบนี้ เป้ยยิ่งเจ็บ “ ความรุ้สึกตอนนี้ ผมเจ็บเจียนตายกว่าครั้งไหนๆ

“ เต้ยังรักเป้ยแบบน้องอยู่นะ “

“ อื้อ ช่วยอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าเป้ยร้องไห้เสร็จได้ไหม “ ผมที่กำลังร้องไห้เงยหน้าสบตากับมัน

“ อืม “ มันพูดแค่นั้น เราสองคนตกอยู่ในความเงียบ






            ผมหมดแรงที่จะร้องไห้ผมก็ลุกขึ้นไปรื้อของทุกอย่างที่เกี่ยวกับมันและระหว่างเราทำลายมันทิ้ง ใส่ถุงดำใส่ถังขยะเอาไปทิ้งหน้าหอ



ในเมื่อของทุกๆสิ่งการกระทำทุกๆอย่างของผมมันไม่เคยจะดูแลอยู่แล้วยังจะเก็บไว้ทำไมอีก เราสองคนพูดอะไรกันอีกนิดหน่อย



มันบอกกับผมว่าเป้ยยังเป็นน้องที่มันรักและร้อมที่ให้คำปรึกษาอยู่เสมอ

ถึงมันจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็ยังไม่มีทางทำใจให้เจอมันได้หรอกครับ เราไม่มีการติดต่อสื่อสารกันอีกเลย



นี่ล่ะครับเมื่อรักครั้งนี้ ถูกโยนทิ้งของผม แม้ว่าตอนปัจจุบันนี้ผมก็ยังรักมันอยู่เสมอไม่เคยเปลี่ยน รักที่สุด



เรื่องราวของผมกับมัน ไม่ว่าผมจะพยายามยื้อความรักของเราไปให้อีกนานเท่าไหร่ก็ยิ่งแย่ขึ้นมากเท่านั้นในเมื่ออีกฝ่ายหมดรักไปแล้ว



จริงๆเราสองคนมันมีอะไรมากกว่านั้น แต่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ ในเมื่อเราต่างคนต่างรู้กันดีที่ไม่สามารถบอกใครได้




ขอมอบเพลงนี้ให้กับตอนนี้  คนไม่ใช่ คือไม่ใช่ ของ ปั้น แบชเชอร์

คนหนึ่งยังทำทุกทาง
เพื่อความรักจึงคอยทุ่มเททุกอย่าง
อยากเป็นคนสำคัญอยู่ในสายตา ยังหวังรอสักวัน
แต่อีกคนกลับไม่สนใจ
ทำอะไรก็เหมือนว่าไม่ต้องการ
ยังไม่เคยเห็นใจไม่เคยหันมา เฉยชาอยู่อย่างนั้น

ยิ่งใกล้เธอแค่ไหน ก็ยิ่งเหมือนเป็นแค่ลมพัด
ยิ่งฝันและยิ่งฝืน ก็ยิ่งจะทรมาน

เหนื่อยพอแล้วที่พยายามทำให้เธอรัก แต่ไม่ได้
ให้รักเธอทั้งหัวใจคงไม่พอ
รู้แล้วว่ารักไม่มีความหมาย เพิ่งเข้าใจ
ว่าคนมันไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่อยู่ดี

คนหนึ่งให้ทั้งหัวใจ แต่อีกคนโยนทิ้งมันไปให้ห่าง
คนหนึ่งยังเฝ้ารอ อีกคนละเลย ไม่เคยจะรัก

ยิ่งใกล้เธอแค่ไหน ก็ยิ่งเหมือนเป็นแค่ลมพัด
ยิ่งฝันและยิ่งฝืน ก็ยิ่งจะทรมาน

เหนื่อยพอแล้วที่พยายามทำให้เธอรัก แต่ไม่ได้
ให้รักเธอทั้งหัวใจคงไม่พอ
รู้แล้วว่ารักไม่มีความหมาย เพิ่งเข้าใจ
ว่าคนมันไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่อยู่ดี

เหนื่อยพอแล้วที่พยายามทำให้เธอรัก แต่ไม่ได้
ให้รักเธอทั้งหัวใจคงไม่พอ
รู้แล้วว่ารักไม่มีความหมาย เพิ่งเข้าใจ
คนมันไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่อยู่ดี

คนไม่ใช่ ให้มันรักเท่าไร ก็ยังไม่ใช่อยู่ดี



เจ็บจริงๆ คนเขียนไม่มีอะไรจะพูดเลย  :sad4:








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-10-2015 16:37:46 โดย Map »

ออฟไลน์ Map

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0


เมื่อรักครั้งนี้ ‘ รักมาหาโดยไม่รู้ตัว ‘








            ผมชื่อเป้ย อายุ 21 ปีแล้วครับ เรียนอยู่มหา’ลัยปี 3 เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่ผมเองก็ไม่เคยรู้ตัวมาตลลอด 1 ปีเต็ม
 
ผมกำลังเดินเข้าโรงอาหารของมหา’ลัย จับจองโต๊ะกัน สักพักมีรุ่นพี่เป็นผู้ชายสองคนเดินมา






“ พี่ขอนั่งด้วยได้ไหม “ พี่คนนี้มองหน้าผม เค้ามีผิวสีแทนไม่สูงมากนัก ส่วนเพื่อนพี่เค้าสูงขาว


“ เอ่อ.. ได้ครับ “ ผมพูด เพื่อนพี่เค้าและตัวพี่เค้าเองก็นั่ง


“ น้องๆชื่ออะไรกันครับ “ พี่คนผิวแทนถาม


“ เป้ยครับ “ ผมแนะนำตัว ส่วนเพื่อนๆผมต่างก็แนะนำตัว





            ผมก็ได้รู้มาว่าพี่ผิวแทนชื่อ เชน พี่ผิวขาวชื่อ ทิศ พี่เชนเป็นคนพูดเก่งคอยคุยกับเพื่อนๆผมไม่หยุดปาก

แต่แปลกที่พี่เค้ากลับมองผมเหมือนจะคุยหรือไม่คุยดี จู่ๆพี่เชนพูดขึ้นมาว่า



“ เนี่ย พี่สนใจเรามานานละ “ พี่เชนพูดมองหน้าผม แล้วหันไปคุยกับเพื่อนๆผมต่อ



            ผมนี่ก้ งง สิครับสนใจอะไรวะ ทำนองไหน แต่ผมก็เริ่มฉุกคิดกับคำพูดพี่เค้า ผมรู้ตัวว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ

ผมเลยไปปรึกษาเพื่อนผม ไอ้แมท ไอ้พี ไอ้ฟาน ไอ้แทน พวกผมยังอยู่ด้วยกันนะครับแต่แค่คนละคณะเท่านั้นเอง

ผมเลือกที่จะไปปรึกษาไอ้แมทมัน





“ มึง พี่เชนเค้าพูดว่า - เนี่ย พี่สนใจเรามานานละ -  มึงว่าแปลกๆไหมวะ “ ผมถามมัน


“  ไม่นะ กูว่าปกติ ไม่มีไรหรอก “


“ เออๆ “ ผมเลยช่างแม่ง




           วันต่อมาผมก็มาเรียนกับเพื่อนตามปกติ พอตกเย็นผมก็กลับบ้าน ดึกแล้วล่ะครับประมาณห้าทุ่มครึ่งได้ ก็มีเสียงมือถือของผมดังขึ้นมา





“ สวัสดีครับ “


“ ใครครับ “ ผมถาม


“ ใช่น้องเป้ยรึเปล่า “


“ ใช่ครับ “ ใครวะ โทรมาดึกๆดื่นๆ


“ พี่เชนเองนะ “ พี่เค้าพูดแล้วหัวเราะ


“ อ่อ ครับ มีอะไรรึเปล่าครับ เอาเบอร์ผมมาจากไหน “ ผมถามอย่างสงสัย


“ พี่ไม่บอกหรอกว่าเอามาจากใคร “


“….”


“ เป้ย พี่โทร.มาจะบอกว่า พี่ชอบเรา “


“ ห๊ะ.. “ ผมตกใจ ไรวะเนี่ย


“ จริงๆ พี่สนใจเรา พี่อยากคุยกับเรามานานแล้ว แต่เขินเลยไม่กล้าคุยกับเรา “ อ่อ มิน่าล่ะคุยแต่กับเพื่อนผม


“ พี่ชอบผมตอนไหน “ ผมไม่รู้สึกอะไรเลยครับตอนที่พี่เค้าบอกชอบผม


“ ต้องแต่เราอยู่ ปี 2 แล้ว “


“ หือ ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่อง “ ไม่รู้จริงๆครับ


“ เพื่อนพี่ทุกคนรู้หมดว่าพี่ชอบเรา อาจารย์บางท่านก็รู้ส่วนหนึ่งด้วยนะ เพื่อนเราก็รู้ “


“ จริงดิพี่ ทำไมเพื่อนผมเหมือนปกติไม่เห็นบอกผมอะไรเลย “


“ เราจะไปรู้อะไรล่ะ สนพี่ที่ไหน ฮ่าๆ “ พี่เค้าขำ


“  เป็นแฟนกับพี่ได้ไหมเป้ย “


“ โทษนะพี่ ผมไม่ได้ชอบพี่ “ ผมพูดตรงๆไม่อยากให้ความหวัง


“ ให้โอกาสพี่ได้ไหม “


“ ครับ แต่ผมบอกเลยนะว่า ผมไม่มีทางชอบพี่ได้ “ เพราะผมยังรักเต้อยู่...


“ พี่จะตื้อเราให้ดู “ พี่เค้าพูดจบก็วางสายไป






           หลังจากวันนั้นพี่เชนก็ตามตื้อตามจีบผมอย่างที่ปากว่าไว้จริงๆ ผมกำลังเดินไปประตูหน้าห้องประชุมกับไอ้พี

พี่เชนก็เดินมาดักหน้าผมทำหน้าตาเคร่งเครียด ผมในตอนนั้นรู้สึกกลัว





“ เราไม่ชอบพี่ตรงไหน ตอบพี่ “ พี่เชนมองหน้าผมนิ่ง ไอ้พีกับผมงงครับใครทำอะไรพี่แกมา


“….” ผมเลือกที่จะเงียบ ยังงงๆกับเหตุการณ์


“ ฝานเพื่อนเป้ยบอกว่า เป้ยไม่มีทางสนใจพี่ได้ ให้เลิกจีบเป้ย “



           ใช่เชี่ยฟานนน มึงไปไซโคอะไรพี่แกเค้าวะเนี่ยยยย ผมรีบวิ่งไปหาไอ้ฟานที่อยู่ในห้องประชุมกับไอ้แมท



“ ไอ้ฟาน มึงไปพูดอะไรกับพี่เชนวะ พี่แกมาเครียดกับกู “


“ ก็กูรู้ว่ามึงไม่มีทางชอบพี่เค้าหรอกกูเลยพูด “ ไอ้ฟานมองหน้าผม


“ ใช่ กูก็เห็นด้วยกับไอ้ฟาน กูไม่ชอบไอ้พี่เชนมัน กูหวงมึง “ ไอ้แมทพูดหน้างอๆ


“ เฮ้อ พวกมึงนี่น้า แล้วทำไมไม่เคยบอกกูว่าพี่เค้าชอบกู “


“ พวกกูเห็นว่าไม่จำเป็นทีต้องบอกมึงนี่หว่า “ พวกมันเถียงง้องๆแง้งๆ




           ผมล่ะเหนื่อยใจกับพวกมันจริง แต่สายตาผมเห็นไอ้แทนแม่งเงียบไปผิดปกติตั้งแต่เจอพี่เชนวันแรก

แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร ปิดเทอมมหา’ลัย จนเปิดเทอมใหม่





“ มึงรู้รึยังวะเป้ย ไอ้แทนมันชอบพี่เชน “ ไอ้ฟานกระซิบบอก  ห๊ะ ไอ้แทนเนี่ยนะ


” มันชอบพี่เชนตอนไหนวะ “ ผมถาม


“ มึงคงยังไม่รู้ ตอนที่มึงยังไม่รู้ว่าพี่เชนชอบมึง พี่เชนมาปรึกษาพวกกูบ่อยให้ไอ้แทนช่วยจีบมึง “ ไอ้พี


“ เออ ไอ้แทนแม่งก็ชอบไอ้พี่เชนตั้งแต่วันนั้น “ ไอ้แมทพูด


“ แล้วตอนนี้ ไอ้แทนกับพี่เชนแม่งเป็นแฟนกันแล้วด้วยว่ะ “ ไอ้ฟานบอก


“ อ่าว กูงงไปหมดละ “ ผมพูด


“ ไอ้พี่เชนใช้ไอ้แทนเป็นเครื่องมือเพื่อที่จะได้อยู่ใก้ลๆมึงไง “ ไอ้แมทมองหน้าผม


“.......” ผมพูดไม่ออก






           ตั้งแต่วันที่ไอ้แทนกับพี่เชนเปิดตัวว่าคบกัน ผมก็พยายามห่างกับแฟนเพื่อนให้มากที่สุด เพราะทุกคนรู้ดีว่า

ผมเป็นคนที่จะไม่ยุ่งกับแฟนเพื่อนโดยเด็ดขาด ไม่อยากจะให้ผิดใจกัน




           ทุกๆวันพี่เชนจะเอาของมาให้ผมทุกเช้าแต่ผมก็บอกพี่เค้าทุกครั้งว่าผมไม่รับ ทุกเที่ยงก็มานั่งกินข้าวกับพวกผมทุกๆวัน

ถึงจะนั่งข้างไอ้แทน แต่สายตาพี่เค้าจะมองมาทางผมในทุกๆวัน เพื่อนๆของผมก็รู้กันดี บรรยากาศบนโต๊ะอาหารทุกๆวัน

ไม่เคยมีความสุขเลยมีแต่ความอึดอัด ผมก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่มองพี่เชน





           การคบของพี่เชนและไอ้แทนไม่ราบรื่นนักทะเลาะกันบ่อยๆให้ผมคอยเคลียร์ให้ตลอด ด้วยเรื่องของเรื่อง

ไอ้แทนชอบพี่เชน แต่พี่เชนชอบผม แต่พี่เชนใช้แทนเป็นเครื่องมือให้ได้ใก้ลชิดกับผม





            ไอ้แทนก็ยอมทั้งๆที่รู้แก่ใจตัวเองดี ทำให้ไอ้แทนคอยหึงคอยหวงพี่เชนเป็นประจำ ไอ้แทนเป็นคนอารมณ์ร้อน

หึงแรงหวงแรง จะมีการใช้กำลังทุกครั้ง ซึ่งฝ่ายพี่เชนจะยอมมันทุกๆครั้งแล้วเดินหนีปล่อยให้ไอ้แทนร้องไห้





           พวกผมที่เหลือก็ได้แต่ปวดหัวไม่รู้จะทำอย่างไรดี ดื้อดึงกันทั้งสองฝ่าย ผมบอกไอ้แทนทุกๆครั้งว่า ผมไม่ได้ชอบพี่เชน

และไม่มีวันนั้นเด็ดขาด ส่วนพี่แกผมก็คอยพูดกับพี่แกตลอดว่า อย่าทำอย่างนี้เลยไม่ดีกับฝ่ายไหนเลย เหมือนจะเข้าใจแต่พี่แก

ก็ได้แต่ขานรับแล้วปล่อยมันไป





           ไอ้แทนและพี่เชนก็ยังคบกันอยู่ถึงแม้ว่าผ่านมาเป็นปีกว่าแล้วก็ตาม ผมรู้พี่เชนเค้าก็เริ่มมีใจให้ไอ้แทนบ้างแล้ว

แต่พี่เชนก็ยังคอยมาหาผมและบอกผมในทุกๆวันว่า ยังชอบผมอยู่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง พี่แกชอบถึงเนื้อถึงตัวกับผมต่อหน้า

เพื่อนๆผมและเพื่อนๆพี่แกเค้า เพื่อนๆพี่แกทุกคนชอบเชียร์ให้ผมรับคำขอเป็นแฟนพี่เชนตลอด





           เพื่อนพี่เชนทุกคนบอกว่า เค้าชอบผมกัน ไม่มีใครชอบไอ้แทน เพราะไอ้แทนชอบทำท่าทางกิริยาไม่เคารพรุ่นพี่

ชอบทำร้ายร่างกายพี่เชน แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะคนไม่ได้ชอบก็คือ ไม่...






“ น้องเป้ย ทำไมไม่รับมันเป็นล่ะ “ กลุ่มเพื่อนพี่เชนถามขึ้นมา


“ ผมไม่ได้ชอบพี่เค้าครับ “


“ ไอ้เชนแอบชอบเรามาปีกว่า แถมตามจีบเราอีกปีกว่าแล้วนะ ไม่มีใจให้บ้างสักหน่อยเหรอเรา “


“ ไม่เลยครับ ผมสนิทกับพี่เชนแต่พี่น้องเท่านั้นครับ “ ใช่ครับ ตอนนี้พี่เชนอยู่กลุ่มผมจนสนิทกันไปซะแล้วล่ะ


“ อ่อ เสียดาย พวกพี่ชอบน้องจริงๆนะ “ พวกพี่แกยิ้มให้แล้วเดินจากไป



           ระหว่างที่ผมกำลังเดินเข้าซอยกลับบ้าน เสียงมือถือผมก็ดังขึ้น



“ เป้ยยยย เป้ยยยย “ พี่เชน


“ ครับ “


“ เป้ยยย เพ่ชอบเป้ย เป้ยคร้าบ “ นี่เสียงอะไรดังมั่วไปหมด พี่เชนก็เหมือนเมาๆ


“ พี่อยู่ไหนครับ “


“ เพ่คิดถึงเป้ยย เป้ยยคิดเถิงเพ่บ้างม้ายคร้าบบ “ เฮ้อ เมาแล้วจริงๆสินะ


“ ผมขอสายเพื่อนพี่หน่อยครับ “ ได้ยินเสียงกุกกักตามสาย


“ เป้ย ไอ้เชนเมาเป็นหมาเลยว่ะ ช่วยส่งมันที่หอได้ไหม มาที่ร้านลุงใหญ่นะชั้นสองโซนหนึ่ง “


“ ครับ ได้ครับพี่ “


           
           ผมรีบขึ้นวินมอ’ไซ เมื่อไปร้านผมวิ่งไปชั้นสองโซนหนึ่ง ก็เห็นพี่เชนเมาเป็นหมาจริงๆอยู่ตรงโซฟา เพื่อนๆพี่เค้าเต็มไปหมด



“ สวัสดีครับพี่ๆ “ ผมยกมือไหว้


“ เออๆ เป้ยป่ะ เดี๋ยวพี่ช่วยลากมันไปรถแท้กซี่ “ ผมกับเพื่อนพี่เค้าลากพี่เค้าขึ้นรถพร้อมใบกระดาษที่อยู่และกุญแจห้อง


“ พี่เชนครับ “ ผมตบแก้มเบาๆเรียกสติ


“ อื้อออ เป้ย เป้ยยย มาหาเพ่เหรอคร้าบ น่ารักจางเลยย “ พี่แกตาเยิ้มเลยว่ะแม่ง เมาหนักไปแล้วนะ


“ ครับๆ ช่วยเดินตามผมมาดีๆนะพี่เชน “ ผมช่วยประคองพี่แกลงจากรถขึ้นหอไปห้องพี่แก


“ คร้าบบ “ พี่แกหันมายิ้มให้ผม พี่แกเอาแขนมาโอบเอวผม หัวก็เอียงมาพิงตรงหัวผม


“ ผมเปิดห้องให้แปปนะพี่ “ ผมหากุญแจแล้วไขเข้าห้อง แล้วพาไปนอนที่เตียงดีๆ


“ เป้ยยย “  พี่แกรั้งแขนผมไว้แน่น


“ พี่เชนปล่อยผมก่อน “ ผมพยายามดึงแขนตัวเองออก


“ เพ่รักเป้ยย “ ผมรู้สึกว่ามันเกิดไวมา ลืมตาอีกทีพี่แกก็คร่อมผมไว้แล้วกอดผมแน่น


“ พี่เชน พี่เชน ลุกขึ้นครับ “ ผมเอามือทุบหลังพี่แก


“ งืมม “ สักพักพี่แกก็หลับไป


“ เฮ้อ อะไรวะเนี่ย “ ผมค่อยผลักพี่แกออกแล้วจัดที่จัดทางให้นอนดีๆแล้วเดินออกจากห้องไป




           เช้าวันรุ่งขึ้น ผมกำลังทานอาหารกับเพื่อนๆ พี่เชนแกก็เดินมาหาผม



“ เป้ย คืนนั้นพี่ขอโทษนะ พวกเพื่อนๆพี่เล่าให้ฟังหมดแล้ว พี่จำได้อยู่หน่อยๆด้วย “ พี่แกมองผมด้วยสายตารู้สึกผิด


“ ไม่เป็นไรครับ ทีหลังก็ขออย่าให้มีอีกก็พอ “ ผมยิ้มให้

Y
“ เมื่อคืนทำไมวะ “ จู่ๆเสียงไอ้แทนก็ดังขึ้น มองหน้าผมด้วยสายตาหาเรื่อง


“ แทน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเป้ย เป้ยไม่ผิดพี่ผิดเอง “ พี่เชนชิงพูดดักขึ้นก่อน


“…..” ไอ้แทน


“ ตามมาคุยกับพี่ “ พี่แกพูดจบก็ลากไอ้แทนออกไปคุยที่ไหนผมก็ไม่รู้หรอกนะ





           เรื่องเป็นไงมาไงผมไม่รู้มากนัก ตั้งแต่วันที่พี่เชนพาไอ้แทนออกไปคุยทุกอย่างเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

ไอ้แทนแค่เดินกลับมาแล้ว แล้วก็ร้องไห้กับพวกผมใหญ่ มันบอกว่า




“ พี่เชนมันบอกเลิกกู เพราะพี่เค้ายังรักมึงอยู่ “ มันตาแดงก่ำ


“…..” พวกผมฟัง


“ พี่เค้าบอกว่า ขอโทษที่เข้าหากูเพราะผลประโยชน์ “


“ เอาเถอะ ยังไงพี่เชนในถานะรุ่นพี่ มันก็เป็นรุ่นพี่ที่ดีคนหนึ่งเลยล่ะนะ “ ไอ้ฟานปลอบใจ


“ อื้อ พี่เชนมันฝากมาบอกทุกคนว่า วันรับปริญญาที่ใก้ลมาถึง ไปร่วมงานกับพี่แกด้วย “ ไอ้แทนเงยหน้าบอกพวกผมยิ้มๆ


“ เออออออออ ไม่พลาดหรอกน่ะ “ พวกผมพูดแล้วพากันตบหัวตบไหล่ไอ้แทนมัน






          ......... ดีแล้วล่ะครับ ผมว่าจบแบบนี้ดีที่สุดสำหรับไอ้แทนมันแล้ว .......





           ตอนนี้พวกผมยืนรอข้างนอกตึกประชุม รอร่วมถ่ายภาพและแสดงความยินดีในวันเรียนจบปริญญาตรีของพี่เชนกับเพื่อนๆ

ของพี่เชนกันครบทุกคน พวกพี่แม่งหน้าตายิ้มแย้มกันทุกคน แน่ล่ะครับการเรียนจบเป็นการใฝ่ฝันของทุกๆคน


พี่แกถ่ายรูปกับเพื่อนแล้วกับ ก็เดินไปถ่ายรูปกับครอบครัวเหมือนเดิมได้สักพักก็เดินมาหาพวกผม พี่แกฉีกยิ้มสว่างไสวมาก

บอกเลยครับว่า หมั่นไส้ ฮ่าๆๆๆๆ






“ ไงล่ะเรา สบายดีกันรึเปล่า “ พี่ยืนหน้าพวกผมที่เป็นกลุ่ม


“ สบายดีครับพี่ “ ไอ้พีมันพูด


“ ไงพี่จบแล้วนะ อย่าลืมพวกผมล่ะ “ ไอ้ฟาน


“ พี่ลืม ตาย ! “ ไอ้แมท


“ ยินดีด้วยครับพี่เชน “ ไอ้แทนมอบดอกไม้หพี่เชนพร้อมกับยิ้มยินดีอย่างจริงใจให้


“ ขอบใจมากทุกๆคน ขอบใจนะแทน “ พี่แกรับของแล้วคุยกับพวกเพื่อนๆผม แล้วเดินมาหาผมที่ยืนอยู่หลังกลุ่ม


“ เป้ย พี่เรียนจบแล้วนะ พูดยินดีกับพี่หน่อยสิ “ พี่แกยิ้มอ่อนโยนให้ผม


“ ยินดีด้วยนะพี่เชน ขอให้เจอรักที่ดี อนาคตสดใส “ ผมพูดยิ้มแกมขำไปด้วย


“ โธ่ ถ้าเรารับรักพี่นะก็สมหวังแล้วเนี่ยย “ พี่แกพูดแล้วหัวเราะดังๆ เพื่อนพวกพี่แกคงได้ยินแหละครับตะโกนแซวกันใหญ่



“ อั๊ยย่ะ ยังจะมีหยอดวันเรียนจบนะครับคุณเพื่อน “


“ วิ๊ดวิ้ววววววววววววววว “







           ตั้งแต่วันนั้นมาผ่านมาสามปีกว่าได้ครับที่พี่เค้าจบปรักกับผม พี่เค้าเป็นคนที่ดีคนหนึ่งเลยนะ ถ้าไม่ติดว่าใจคนเรา

ไม่สามารถเลือกที่จะรักใครได้แล้วล่ะก็ ผมคงเลือกที่จะตอบรับ รัก ของพี่เชนแล้วครับ ปัจจุบันนี้พี่เชนก็ติดต่อพวกผมเป็น

อยู่ครั้งคราว เพราะงานพี่แกหนักมาก เรีนต่อโทอีก แล้วทุกอย่างมีความสุขดี ถึงแม้พี่แกจะบอกว่าทุกวันนี้ก็ยังชอบผมไม่

เปลี่ยนแปลงและพี่แกก็ไม่เปิดรับใครเข้ามาอีก นี่ล่ะครับ เมื่อรักครั้งนี้ รักมาหาโดยไม่รู้ตัวของผม









จะปีใหม่แล้ว สวัสดีปีใหม่ อวยพรให้นักอ่านทุกท่านมีความสุขให้มากๆน้า  :mew1:

แผนที่ก็วุ่นวายมากช่วงนี้ เพราะต้องเตรียมตัวสอบนู่นสอบนี่เพื่อนที่จะเข้ามหา'ลัย บอกตรงเครียดมาก  :sad4:

:really2: แล้วเจอกันใหม่  :really2:






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2016 01:56:12 โดย Map »

ออฟไลน์ Fufufeel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เราเข้ามาเพราะชื่อเรื่องเลยค่ะ :katai2-1: ตอนแรกก็ไม่สมหวังเลย ยิ่งอ่านยิ่งอยากให้เป้ยเจอคนที่เข้ากันได้จริงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด