^^"รัก.......ข้ามรั้ว "ไอ้ตัวแสบ" (((ตอนจบ ภาค 1 )))หน้าที่..336 (23/10/2013)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ^^"รัก.......ข้ามรั้ว "ไอ้ตัวแสบ" (((ตอนจบ ภาค 1 )))หน้าที่..336 (23/10/2013)  (อ่าน 2624949 ครั้ง)

ออฟไลน์ K.Pupoom

  • รักข้ามรั้วไอ้ตัวแสบ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 387
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +966/-5
0000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000



"ณ บัดนี้อาตมภาพรับหน้าที่วิสัชชนาในปัพพัชชกถา เพื่อเป็นเครื่องประดับสติปัญญาบารมี เสริมสร้างกุศลบุญราศีของนาค ตลอดจนญาติโยมของนาคที่พร้อมใจมารวมกันในงานอุปสมบท
พ่อนาค ที่ท่านได้ชื่อว่านาคนั้น ตามรากศัพท์กล่าวเอาไว้ว่า นาคะ
แปลว่าผู้ประเสริฐก็ได้ คือ เป็นผู้ประเสริฐไปด้วยความดีความงามทั้งปวง
แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ก็ได้ คือ เป็นใหญ่ในการกระทำความดีด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ
แปลว่าผู้ฝึกดีแล้วก็ได้ เพราะว่าเรามาฝึกหัดกาย วาจาและใจ ตลอดจนการกราบไหว้ การกล่าวคำขานนาคเหล่านี้ เป็นต้น

อีกนัยหนึ่งโบราณท่านกล่าวไว้ว่า คำว่านาคนั้นมีพื้นฐานมาจาก
ในครั้งหนึ่งพญานาคได้เนรมิตกายเป็นมนุษย์ เพื่อมาบวชในพระพุทธศาสนา
แต่ว่านาคนั้นต่อให้เนรมิตบิดเบือนกายอย่างไรก็ตาม ในวาระต่าง ๆ หลายวาระด้วยกัน
อย่างเช่นเวลานอนหลับก็ดี เวลากำลังมีคู่ผสมพันธุ์กันอยู่ก็ดี ในเวลาที่ตายลงก็ดี
จะกลับคืนเพศเป็นนาคตามเดิม ดังนั้น..ภิกษุที่เป็นพญานาค เมื่อท่านหลับแล้วเผลอสติ คลายฤทธิ์ออกมา
ทำให้กลายเป็นงูใหญ่อยู่ในกุฏิ สร้างความตกใจให้แก่เพื่อนพระภิกษุด้วยกัน จึงไปกราบทูลฟ้องพระพุทธเจ้า

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพอทราบเหตุ ก็ขอให้นาคนั้นได้สึกหาลาเพศไปเสีย เพราะเป็นสัตว์เดรัจฉาน
ถึงบวชไปโอกาสจะเข้าถึงมรรคผลก็ไม่มี พญานาคนั้นมีความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ทูลขอพรไว้ว่า
เนื่องจากตนเองตั้งใจบวชด้วยศรัทธาจริง ๆ เมื่อไม่มีโอกาสได้บวช ก็ขอให้มีเครื่องระลึกถึงในพิธีกรรมการบวชสักส่วนหนึ่ง
ก็คือว่าให้บรรดาผู้ที่เข้ามาบวชนั้น ในระหว่างที่ฝึกตนอยู่ให้เรียกว่านาค เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงตนบ้าง
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีพระพุทธานุญาตตามนั้น
เรื่องนี้เล่าสืบ ๆ กันมา เนื้อหาความเป็นจริงจะเป็นอย่างไร ไม่ได้มียืนยันไว้ในพระไตรปิฎก
เพียงแต่ว่ากล่าวต่อ ๆ กันมาเท่านั้น

พ่อนาค ตอนนี้ท่านทั้งหลายประกอบไปด้วยโอกาสอันดีงามที่จะบรรพชาหรือบวชได้
ด้วยว่าตัวท่านได้ถือเพศเป็นมนุษย์ เกิดในดินแดนของพระพุทธศาสนา
เป็นผู้ประกอบไปด้วยอวัยวะครบถ้วน ๓๒ ประการไม่มีบกพร่อง
เป็นผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระบวรพุทธศาสนา ตั้งใจจะเข้ามาบวชเพื่อที่จะถือศีลปฏิบัติธรรม
ให้สมกับที่เกิดมาชาติหนึ่งเป็นลูกผู้ชาย บัดนี้..ท่านประกอบไปด้วยโอกาสอันดีงามนี้แล้ว
เมื่อบวชเข้าไปก็ขอให้ตั้งใจปฏิบัติตามคำสอนของอุปัชฌาย์อาจารย์ เพื่อที่จะได้สร้างสมบุญกุศลของตนให้มากยิ่ง ๆ ขึ้นไป

เนื่องจากว่าในเพศของความเป็นพระภิกษุนั้น ประกอบด้วยศีลมากถึง ๒๒๗ ข้อ
ระมัดระวังรักษาได้โดยยาก ในขณะที่เป็นฆราวาสหลายท่านที่มีศีล ๕ ข้อเป็นสมบัติ
ยังไม่สามารถที่จะรักษาให้ครบถ้วนสมบูรณ์ได้ มีขาดบ้าง บกพร่องบ้างเป็นปกติ
ยิ่งมารักษาศีล ๒๒๗ ข้อ ย่อมต้องมีข้อบกพร่องเป็นธรรมดา
การที่เรามีข้อบกพร่อง ก็แปลว่าเกิดโทษขึ้นกับตนเอง กุศลที่พึงได้ก็มีอันบกพร่องไปเช่นกัน
ดังนั้น..เราทั้งหลายจึงต้องระมัดระวัง รักษาสิกขาบททั้ง ๒๒๗ ข้อให้เคร่งครัด
เราถึงจะได้เป็นพระสงฆ์ในบวรพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
แม้จะเรียกว่าพระสงฆ์ก็ตาม ก็ยังเป็นเพียงสมมติสงฆ์เท่านั้น ถ้าจะเข้าถึงความเป็นสงฆ์จริง ๆ
อย่างน้อยเราต้องปฏิบัติตนให้เข้าถึงความเป็นพระโสดาบัน

การเป็นพระโสดาบันนั้น จริง ๆ แล้ว ถ้าเป็นฆราวาสเป็นได้ไม่ยาก เพราะว่าพระโสดาบันนั้น
๑. มีความเคารพในพระพุทธเจ้าจริง ๆ
๒. มีความเคารพในพระธรรมจริง ๆ
๓. มีความเคารพในพระสงฆ์จริง ๆ คำว่าเคารพในที่นี้คือเคารพด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ไม่ล่วงเกินทั้งต่อหน้าและลับหลัง
๔. เป็นผู้มีศีลทุกสิกขาบทบริสุทธิ์ จึงได้กล่าวว่าฆราวาสเป็นง่ายกว่าเพราะมีศีลแค่ ๕ หรือ ๘ ข้อ
แต่ว่าในความเป็นพระนั้นมีศีลถึง ๒๒๗ ข้อ ระมัดระวังรักษายากกว่ามาก
๕. พระโสดาบันมีความรู้สึกตัวอยู่เสมอว่า ชีวิตนี้ก้าวเข้าไปหาความตายอยู่ตลอดเวลา เราเกิดมาแล้วต้องตายแน่นอน
ถ้าหากว่าตายแล้วขอไปที่เดียวคือพระนิพพานเท่านั้น จะไม่มีการคลอนแคลนไปสู่สถานที่อื่นอีก

ถ้าหากว่ากำลังใจของเรามั่นคงอย่างนี้ เราก็สามารถเป็นพระโสดาบันอย่างหยาบที่สุด
ที่เรียกว่าสัตตักขัตตุปรมะได้ แปลว่าถ้าหากเราต้องมาเกิด ก็เกิดอีกเพียง ๗ ชาติเท่านั้น

ถ้ากำลังใจเราละเอียดขึ้นไป ก็เป็นพระโสดาบันระดับกลางที่เรียกว่า โกลังโกละ
แปลว่า จากตระกูลไปสู่ตระกูล คือ จากความเป็นมนุษย์ไปสู่ความเป็นเทวดา จากเทวดาลงมาเกิดเป็นมนุษย์อีกทีหนึ่ง พอตายแล้วเข้าสู่พระนิพพาน
จึงเรียกว่า จากตระกูลไปสู่ตระกูล คือเกิดเป็นคนสองครั้ง เป็นเทวดา ๑ ครั้งเท่านั้น

ถ้าหากว่าจิตใจละเอียดมากก็เป็นพระโสดาบันระดับสูงสุด เรียกว่า เอกพีชี
แปลว่าผู้มีพืชอันเดียว ก็คือ เกิดครั้งเดียวก็เข้าสู่พระนิพพานเลย หมายความว่า
ตายจากความเป็นมนุษย์ไปสู่เทวดา เป็นนางฟ้าหรือเป็นพรหมอยู่ข้างบน แล้วก็บรรลุอรหัตผลเข้าสู่พระนิพพานไปเลย

พ่อนาคทั้งหลายเมื่อบวชเข้ามาแล้ว ขอให้ตั้งความปรารถนาสูงสุดไว้เลยว่า
เราตั้งใจบวชเพื่อมรรคผลนิพพาน ถ้าหากไม่สามารถเข้าสู่มรรคผลนิพพานได้
เราก็ตั้งหน้าตั้งตาทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะพึงได้ เนื่องจากความเป็นพระเป็นเณรของเรานั้น
มีศีลรักษามากกว่าฆราวาส การรักษาระวังยากกว่า แต่ถ้ารักษาได้ อานิสงส์ก็ได้มากกว่าเป็นแสนเท่า
ดังนั้น..การที่เราบวชเข้ามาในช่วงระยะเวลา ๑ พรรษานี้ ขอให้ทุกคนถือเป็นโอกาสทองในชีวิต
ที่เราจะได้สร้างสมกุศลบุญราศีของเราไว้ การสั่งสมบุญกุศลนั้นจะนำพาเราไปความสุขโดยสถานเดียว
ดังมีพระบาลีเป็นหลักฐานว่า "สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย" การสั่งสมบุญย่อมนำมาซึ่งความสุข


ในชีวิตของฆราวาสเราอาจจะสร้างบุญกุศลเป็นสิบครั้ง เป็นร้อยครั้ง เป็นพันครั้ง
แต่ว่าการที่เราเป็นพระ เราสร้างบุญกุศลครั้งหนึ่งก็ได้บุญกุศลเท่ากับการเป็นฆราวาสทำเป็นหมื่นเป็นแสนครั้ง
เนื่องจากว่าเราต้องเป็นผู้ถือกติกามากกว่าเขาเป็นจำนวนมาก อานิสงส์ที่จะพึงได้จึงมีมากกว่า
ถ้าเราพึงฉวยโอกาสนี้ของเรา สร้างสมบุญกุศลให้มากเข้าไว้ ถ้าหากสึกหาลาเพศไป กุศลบุญราศีส่วนนี้
ก็จะนำพาท่านทั้งหลายให้มีความสุขความเจริญ มีความรุ่งเรืองในชีวิตตลอดจนหน้าที่การงาน
ถ้าหากว่าท่านบวชต่อไป แล้วระมัดระวังสิกขาบทเหล่านี้เอาไว้ได้ ท่านทั้งหลายก็จะเป็นผู้เจริญในบวรพุทธศาสนา
เป็นธรรมทายาท เป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส เป็นผู้ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงฝากศาสนาเอาไว้

ดังนั้น..จึงขอให้พ่อนาคสังวรระวังไว้ว่า เมื่อเราเป็นพระแล้ว สมบัติของเราคือศีล ๒๒๗ ข้อ
สมบัตินี้ "พ่อ" คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมอบไว้ให้แก่เรา
เป็นสิ่งที่พึงหวงแหน พึงระวังรักษาเอาไว้ยิ่งกว่าชีวิต เราเองจะสามารถทรงความเป็นพระได้หรือไม่ได้ก็อยู่ที่ศีลนี่เอง
เมื่อเราบวชเป็นพระ หลายท่านอาจจะสงสัยว่า เรามีความดีอะไร พ่อแม่จึงมากราบมาไหว้เรา
ก็เพราะว่าเรามีความดีคือศีล ๒๒๗ ข้อ เนื่องจากว่าในเรื่องของวัยวุฒิคืออายุ พ่อแม่ก็แก่กว่า
ขณะเดียวกันเป็นผู้คลอดเรามา เลี้ยงเรามาแท้ ๆ
ในเรื่องของคุณวุฒิทางโลก ประสบการณ์ทางโลก ประสบการณ์ของพ่อแม่ก็มากกว่า เราสู้ท่านไม่ได้เลย
แต่เมื่อเราเข้ามาบวชเป็นองค์พระแล้ว พ่อแม่มากราบมาไหว้ ก็เพราะเรามีสมบัติวิเศษ คือศีล ๒๒๗ ข้อ
ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามอบไว้ให้ตั้งแต่สองพันกว่าปีมาแล้ว
ใครสามารถระวังสิกขาบทให้บกพร่องน้อยเท่าไร เราก็คงความเป็นพระได้สมบูรณ์เท่านั้น ถ้าไม่บกพร่องได้เลยยิ่งดี
แต่ถ้าบกพร่องเมื่อไรให้รีบแสดงคืนอาบัติ แล้วตั้งใจระวังรักษาเอาไว้ให้สมบูรณ์บริบูรณ์
แต่ว่าอาบัติใหญ่ ๑๗ ข้อ คือ ปาราชิก ๔ ข้อ ตลอดจนสังฆาทิเสสอีก ๑๓ ข้อ
อย่าให้ต้องเลยเป็นอันขาด เนื่องจากปาราชิกนั้น ถ้าหากโดนแล้วขาดจากความเป็นพระไปเลย
เราลักขโมยของราคาหนึ่งบาทขึ้นไป เรามีเมียมีลูก
เราเป็นผู้อวดอุตริมนุสสธรรม คือ ธรรมอันยิ่งที่ไม่มีในตน และท้ายสุดเราฆ่ามนุษย์ให้ตาย
สี่ข้อนี่ทำเมื่อไร เราขาดจากความเป็นพระทันที ไม่สามารถที่จะเป็นพระได้อีก
ห่มผ้าเหลืองอยู่ก็ไม่ใช่พระ สึกจากผ้าเหลืองไปแล้ว ถึงเข้ามาบวชใหม่ก็ไม่ใช่พระ

ในส่วนของสังฆาทิเสส ๑๓ ข้อนั้น ถ้าหากว่าต้องเข้าแล้ว จะต้องแก้ไขโดยคณะสงฆ์เท่านั้น
คือต้องไปสารภาพในท่ามกลางสงฆ์ ว่าตนเองต้องอาบัติดังนี้ สงฆ์ทั้งหลายก็จะกำหนดบริเวณให้เราอยู่ เรียกว่า การอยู่ปริวาส เปรียบเสมือนการติดคุก
ต้องมาแสดงตนต่อสงฆ์ทุกวัน จนกระทั่งครบถ้วนสมบูรณ์ตามเวลาที่เราได้ละเมิดศีล
แล้วจึงเก็บมานัตต์ จากนั้นท้ายสุดให้คณะสงฆ์ ๒๑ รูปสวดยกเราขึ้นเป็นพระใหม่ จึงจะได้กลับเป็นพระได้อีกครั้งหนึ่ง
ดังนั้น..โดยเรื่องของอาบัติ ปาราชิกก็ดี สังฆาทิเสสก็ดี โดนแล้วแก้ไขไม่ได้ และโดนแล้วแก้ไขได้ยาก
ขอให้ระมัดระวังรักษาให้เต็มที่ อย่าให้พลาดเป็นอันขาด

อาบัติอื่นนั้นเกิดจากศีลต่าง ๆ จำนวนมากข้อด้วยกัน ถ้าหากเราสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์บริบูรณ์
โอกาสที่จะผิดพลาดได้ย่อมมีอยู่ ท่านทั้งหลายที่โดนอาบัติในส่วนที่เป็นอาบัติเล็กน้อย
ก็ให้ตั้งใจแสดงคืนอาบัติเสียทุกวัน อย่าให้ข้ามวันไปได้ ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าเกิดท่านตายภายในคืนนั้น
ก็จะต้องตกสู่อบายภูมิ ได้รับทุกข์รับโทษอันหนัก
ถ้าหากพ่อนาคทั้งหลายสามารถรักษาศีลได้โดยบริสุทธิ์บริบูรณ์ ตัวเราเป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยสีลสุตาธิคุณแล้วไซร้
บุญกุศลอันยิ่งใหญ่ก็เกิดขึ้นแก่ตน ท่านกล่าวเอาไว้ว่าถ้าหากเราตายไปได้เกิดเป็นพรหมเทวดา
จะเป็นพรหมเทวดาอยู่ได้ถึง ๖๐ กัป ผู้ที่เป็นพ่อเป็นแม่ก็จะมีส่วนในบุญกุศลนั้น คือ สามารถได้รับอานิสงส์ ๓๐ กัป
ผู้ที่ร่วมเป็นเจ้าภาพก็มีส่วนในอานิสงส์นั้นได้รับไป ๑๕ กัป
ผู้ที่ร่วมในการช่วยงานบวชของเราให้บรรลุล่วงไปด้วยดี ก็มีส่วนในบุญกุศลนั้นก็ได้รับไป ๘ กัป
ถ้าหากว่าบวชหลายรูปก็คูณเข้าไปตามจำนวนที่มีอยู่ รวม ๆ แล้วมากกว่าผู้บวชเองเสียอีก เป็นต้น

ดังนั้นท่านทั้งหลายจำเป็นจะต้องรักษาสิกขาบททั้งหลายให้บริสุทธิ์ อันดับแรกเพื่อตนเอง
อันดับสองเพื่อญาติโยมทั้งหลายที่ให้การอนุเคราะห์ สงเคราะห์ร่วมในงานบวชของเรา
โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อเป็นแม่ และอันดับสุดท้ายเพื่อจะได้เป็นพระภิกษุสงฆ์ที่ดี
จรรโลงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบไปในเบื้องหน้า

อาตมภาพแสดงพระธรรมเทศนามาก็พอสมควรแก่เวลา ท้ายสุดแห่งพระธรรมเทศนา
อาตมภาพขอตั้งสัตยาธิษฐานอ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีพุทธรัตนะ ธัมมะรัตนะ แลสังฆรัตนะเป็นประธาน
โดยมีบารมีธรรมของหลวงปู่สาย อคฺควํโส วัดท่าขนุนนี้เป็นที่สุด
ขอให้ได้โปรดดลบันดาลให้พ่อนาคทั้งหลาย เป็นผู้ที่อยู่สุข อยู่เย็นในบวรพุทธศาสนา
เป็นผู้ที่สามารถเสริมสร้างสีลสุตาธิคุณให้เจริญรุ่งเรือง ให้เป็นที่เลื่อมใสแก่ญาติโยมทั้งหลาย
ท้ายสุดให้เป็นผู้ที่สามารถจรรโลงพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบไปได้ครบถ้วนห้าพันปี
และขอให้พรทั้งหลายอันประเสริฐซึ่งประกอบไปด้วยจตุรพิธพรชัยทั้ง ๔ ประการ
คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ตลอดจน ธนสาร ธรรมสาร คุณสารสมบัติอันเป็นที่พึงใจทั้งปวง
จงมีแก่บรรดาญาติโยมของพ่อนาคทั้งหลาย ที่พร้อมใจกันมาเป็นเจ้าภาพร่วมบวชนาคในครั้งนี้โดยถ้วนหน้ากัน ทุกท่านทุกคนเทอญ

อาตมภาพแสดงพระธรรมเทศนามาก็พอสมควรแก่เวลา
จึงขอสมมติยุติพระธรรมเทศนาลงคงไว้แต่เพียงเท่านี้

เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้..........

(ปล. คำเทศน์สอนนาค ผู้เขียนคัดลอกมาจากบทเทศน์สอนนาค ของวัดท่าขนุน)


0000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000

ออฟไลน์ K.Pupoom

  • รักข้ามรั้วไอ้ตัวแสบ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 387
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +966/-5
"สาธุ" ทุกคนกล่าวสาธุ คุณย่าถวายของให้พระ

"ตั้งใจบวชนะโยม เรามีเวลาบวชไม่มาก ก็ต้องตั้งใจมาก เอาประโยชน์จากคำสอนของพระพุทธองค์ไปได้ให้มากที่สุด"
"ครับหลวงพ่อ"
"เอากราบพระพร้อมกัน   อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ. (กราบ)
 สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมังนะมัสสามิ. (กราบ)
สุปะฏิปปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ.(กราบ) "

คุณย่าเดินไปส่งหลวงพ่อที่รถ...
"โยชินั่งจนตูดชาหมดแล้วเนี่ย"
"พี่เห็นแกนั่งหลับไอ้โยชิ"
"ก็มันง่วงนิ ฟังไม่รู้เรื่อง ยิ่งฟังยิ่งง่วง"
"ก็แกมันบาปหนา" ไอ้เป็ดด่าไอ้โยชิอีกแล้ว
"จ้า พ่อนักบุญ โยชิเห็นพี่เป็ดก็หลับเหมือนกันแหละ"
"เถียงอะไรกันลูกเด็กๆ" คุณแม่พี่พีท หันมาถามพวกเราแล้วก็ยิ้มให้
"เปล่าครับ"
"เดี๋ยวทานข้าวทานปลากันก่อนนะค่อยกลับ ผักบุ้งลูก ให้ป้าๆยกอาหารเข้ามาเลยลูก" คุณย่าสั่งพี่บุ้ง
"ครับคุณย่า"
"อ้น ชวนน้องๆไปเอาน้ำมาเสิร์ฟแขกไป"
"ครับ"
"พีท ไปเปลี่ยนชุดนาคออกได้แล้วลูก ใส่ชุดขาวนะ"
"ครับ ปะน้องภู"
"ก็ไปคนเดียวสิ น้องภูจะไปช่วยคุณย่า"
"แล้วพี่จะใส่ตัวไหนล่ะ"
"ก็คิดเองสิ"
"ไปเลือกให้พี่หน่อยไม่ได้หรอ" ยังจะมาอ้อนอีก
"ไปคนเดียวก็ได้พีท น้องจะได้ทานข้าวทานปลาบ้าง วิ่งวุ่นมาทั้งวันแล้ว ไม่เข้าเรื่องเลยเรา"
แล้วพี่พีทก็เดินขึ้นห้องไป ผมก็นะ ก็ต้องเดินตามขึ้นไปอีกนั้นแหละ
"พี่พีทจะใส่ขาสั้นหรือขายาวอ่ะ"
"ขาสั้นดีกว่า" ผมก็หยิบกางเกงขาสั้นออกมาให้ แล้วก็เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาวตัวหลวมๆหน่อย
"อ่ะ" ผมหยิบชุดนาคที่พี่พีทถอดวางไว้ เอาไปซัก
จัดการพี่พีทเสร็จก็เดินลงไปข้างล่างช่วยเสิร์ฟน้ำให้แขกในงาน
แขกทานอาหารเสร็จก็ช่วยกันเก็บ สาวๆที่มาช่วยงานโดยมีป้าแต๋วเป็นผู้นำทีมงาน
ก็เริ่มลงมาล้างจานกัน ผมก็เก็บจานมาส่งให้ป้าแต๋ว ส่วนแก้วพวกผมก็ช่วยกันล้าง
"โอ้โห หนุ่มๆบ้านนี้นี่ขยันจัง" คุณแม่ขิงมาแซวพวกผม
"ระวังแตกนะลูก" แม่อิคเดินมาสมทบ สองแม่นี้เป็นคู่หูดูโอ้ไปแล้ว
"แม่เตรียมกับข้าวไว้ที่โต๊ะอาหารแล้วนะลูก พวกหนูล้างเสร็จก็ไปทานกันเถอะ ท่าทางเจ้าตัวเล็กนั้นจะหิวมากแล้วมั้ง"
"โยชิหิวจนตาลายแล้วครับ"
"แกทานทองหยอดเม็ดขนุนไปจานหนึ่งแกยังตาลายอีกหรอโยชิ"
"ทานไปนิดดดดดดดดดดเดียวเอง"
"ระวังเป็นเบาหวานนะ นังเบาหวิว ฮ่าๆๆๆ"
"ชิ"
"น้องภู น้องภูลูก"
"ครับคุณย่าาาาาาาาา"
"ป้าชูจะกลับแล้วลูก"
"ครับ" ผมล้างไม้ล้างมือแล้วก็เดินไปส่งป้าชูกับคุณย่า แม่ขิงกับแม่อิคก็ไปด้วย
ส่งป้าาชูเสร็จกลับมาไอ้พวกนั้นก็หายไปแล้ว ล้างแก้วเสร็จแล้วสงสัยไปทานข้าวกันแล้ว
ผมเดินเข้าไปสมทบที่โต๊ะอาหาร เดินไปหยิบจานที่หลังบ้านเพราะจานตรงนี้ไม่พอ
แม่ครัวที่มาช่วยงานบางส่วนยังอยู่ เพราะขนมบางอย่างยังทำไม่เสร็จ ไหนจะต้องเตรียมอาหารไว้พรุ่งนี้อีก
เเพราะตอนเช้าก็จะมีคนบางส่วนมารอไปวัดพร้อมกันที่บ้าน บางส่วนก็ไปรอที่วัด
แล้วก็ต้องเตรียมอาหารเลี้ยงเพลสำหรับฉลองพระใหม่อีก แม่ครัวก็เลยยังอยู่ นำทีมโดยป้าแต๋ว
"เอาอะไรลูกน้องภู"
"จานครับป้าแต๋ว"
"นางหยิบให้น้องสิลูก"
"ขอบคุณครับ"
"อย่าลืมทานน้ำพริกมะม่วงนะลูก ป้าตำเอง อร่อยอย่างนี้เลย"
"โอเคครับ"
"เอานี้ๆไปด้วยลูก กากหมู ทานกับน้ำพริกเข้ากันเชียว ป้าเก็บไว้ให้หนู"
"ขอบคุณครับ"
"เห้ยอะไรอ่ะพี่ภู"
"เดี๋ยวน้าตักข้าวให้ลูก" คุณแม่ขิงเดินมาตักข้าวใส่จานให้
"ขอบคุณครับ"
"ขอมั้งดิ"
"เอาไปดิ กากหมูเนี่ยป้าแต๋วเขาเจียวให้พี่ อร่อยมากเลยนะกรอบเค็มมัน ทานแล้วอ้วนดีมากเลยแหละ แกยังไม่อ้วนทานเยอะๆเลยโยชิ แถมยังได้ไขมันในเส้นเลือดด้วยนะ ฮ่าๆๆ โตไปแกก็จะได้เบาหวานแล้วก็ความดันเป็นคู่ชีวิต " ผมบอกมัน ไอ้นี้มัจะทานทุกอย่างจริงๆ
"ยอม!!!!" มันเคยแคร์ซะที่ไหน ฮ๋าๆๆ
"ทานเถอะลูกน้องภู เดี๋ยวไม่ทันเพื่อนๆนะ ทานกันเงียบเลย สงสัยจะหิว "
"หิวมากครับคุณแม่ ตั้งแต่เช้าไอ้ภูก็ใช้อิคงกๆๆๆๆ ไม่สิใช้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว"
"ขี้บ่นจริงเราเดี๋ยวแม่ไปช่วยคุณย่าทำขนมดีกว่า"
"พี่มิวอร่อยไหม พักนี้ไม่ค่อยไปเที่ยวกับพวกเราเลยนะ พี่โค้กไม่ให้ออกจากบ้านหรอ"
"เปล่าโยชิ พี่เรียนหนักน่ะ ไม่ค่อยมีเวลาเลย"
"พอๆกับพี่ภูเลย โยชิต้องมาหาถึงบ้าน"
"แล้วแกอ่ะอ่านหนังสือหนังหาบ้างหรือเปล่าโยชิ"
"อ่านดิ พี่ภูเห็นโยชิเป็นคนยังไง"
"ตั้งใจหน่อย อย่าเล่นให้มันมาก อย่าตามใจไอ้อิคให้มันมาก เรื่องอย่างว่าอ่ะ เบาๆลงหน่อย เดี๋ยวมันจะเสียการเรียน"
"อ่าวไอ้ภู ทำไมพูดงี้ว่ะ กูให้เมียกูทำการบ้านอ่านหนังสือเสร็จก่อนแล้วค่อยทำการบ้านก่อนนอนนะเว้ย"
"หน้าอย่างมึงอะหรอกูไม่เชื่อหรอก เห็นในรถก็สีกันไปสีกันมา น้องกูใจแตกหมด"
"โหยไอ้ภูมึงยังห่วงไอ้โยชิมันใจแตกอีกหรอ มันแตกมานานแล้วไอ้โยชิอ่ะ"
"แต่มันก็พอๆกับมึงแหละมั้งกูได้ข่าวว่ามึงอ่ะแตกตั้งแต่ม.2นะไอ้ตี๋"
"ใครบอก ป.6ตางหาก ฮ่าๆๆๆๆๆ"
"ยังจะกล้าเอามาคุยอีก" ไอ้ขิงค้อนใส่ไอ้ตี๋
"ตี๋ล้อเล่นครับที่รัก ไอ้พวกนี้มันใส่ร้ายตี๋"
"พี่แพทเอาอะไรครับ"
"มีดครับคุณย่าให้พี่มาหยิบมีดเอาไปตัดขนม แต่พี่ไม่รู้อันไหนอ่ะ"
"พี่ไม่รู้อันไหนแล้วพี่เดินเข้ามาหยิบได้ไง" ไอ้โยชิ มึงไม่ต้องสอดสักเรื่องได้ไหมเนี่ย ไอ้อิคเอามือปิดปากเมียมัน
"คุณย่าจะตัดขนมอะไรครับ"
"ขนมชั้นครับ"
"อันนี้ครับพี่แพท แล้วก็นี้ถุงพลาสติกเอาไปด้วยครับ"
"คุณย่าสั่งแค่มีดนะครับ ถุงไม่เอา"
"ตอนตัดเขาต้องเอาถุงหุ้มมีดไว้ครับ ขนมจะได้ไม่ติดมีด เชื่อน้องภูเถอะเดี๋ยวพี่แพทจะได้ไม่ต้องเดินมาอีกรอบ"
"โอเคพี่แพทเชื่อน้องภู น่ารักจัง" พี่แพทเอามือมาหยิกแก้มผม แล้วก็เดินออกไป
"ขี้หลีว่ะ"
"เขาล้อเล่น แกก็เป็นจริงเป็นจังไปได้ไอ้โยชิ"
"ลองแก้ผ้ายั่วสิ คนแบบนี้มีหรือจะไม่เอา"
"อย่าคิดว่าคนอื่นเขาเหมือนไอ้อิคไปซะทุกคนสิโยชิ"
"อ่าวไอ้ภูกูอุตส่าห์เงียบ ต่อยกะกูไหม"
"โหย นักเลงมาก กล้าทำกูหรอ"
"ไม่กล้าหรอก เมียกูเอากูตายแน่"
"มึงน่าจะชอบนะเอาจนตายอ่ะ"
"ไอ้ภุ ไอ้คนบ้า ไอ้ทะลึ่ง อิ่มดีกว่า" แล้วไอ้อิคมันก็เอาจานไปล้าง ผมก็นั่งทานข้าวต่อ แต่ละคนก็ทยอยกันอิ่ม
จนเหลือผมกับไอ้โยชิสองคน เมนูของหวานถูกยกมาโดยคุณแม่อิคกับคุณแม่ขิงก็นั่งทานกันต่ออีก
"พี่ภูๆ ง่วงหรอ นั่งทานข้าวจะหลับแล้วนั้น"
"มึนๆนิดหน่อยอ่ะ สงสัยจะนอนน้อย"
"งั้นก็ทานข้าวแล้วก็ไปอาบน้ำนอนไป เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นเเต่เช้าอีก"
"แขกยังทำงานกันอยู่เลยจะหนีไปนอนได้ไง"
"แล้วนี้นาคสามีของพี่ไปไหนล่ะ"
"คุยอยู่กับผู้ใหญ่ ในบ้านอ่ะ"
"เมียจะสลายร่างอยู่แล้วไม่มาถามไถ่กันบ้างเลยหรอไง"
"พี่พยายามอยู่ห่างพี่พีทเอง"
"เพื่อ"
"เดี๋ยวพี่พีทก็ต้องเป็นพระ มาคลอเคลียเดินไม่ห่างกันมันน่าเกลียด"
"เมื่อคืนเห็นกอดกันอยู่เลย"
"นิ แกจะมาเถียงพี่ให้มันได้โล่ห์ ได้ถ้วยอะไรว่ะ  อิ่มแล้วกระเดือกไม่ลง" ผมเดินออกมาจากโต๊ะอาหาร
"นั้น พูดมากดีนักเมียกู โดนตัวแม่เหวี่ยงเข้าให้ เป็นไงล่ะ มานี่มาทานขนม" ไอ้อิคมันเรียกเมียมันไป
"พูดแค่นี้ก็ต้องดุด้วย คนใจร้าย"
"ก็แกมันพูดมากถามโน้นถามนี้ ดักคอมันตลอด พวกพี่นั่งฟังยังรำคาญแทนเลย"
"โยชิก็แค่เป็นห่วงพี่ภูนิพี่แบงค์ผิดด้วยหรอ"
"เป็นห่วงแต่การแสดงออกมันดูกวนส้วนเตียนอ่ะ"
"ไอ้พี่แบงค์บ้านิ"
"จะไปไหน"
"จะไปดูพี่ภู งอนจริงเปล่า"
"มานี่ๆ ไม่ต้องไป เชื่อพี่ มานั่งทานขนมนี้ ปล่อยมันไป เดี๋ยวมันได้นอนมันก็หาย"
"แน่นะพี่อิค"
"อืม อย่าไปจุกจิกกับมัน ไม่เห็นหรอมันหัวหมุนตั้งแต่เช้าแล้ว"
"ก็ได้"
"ก็เมียมึงกวนประสาทใช่เล่น มันใช่เวลาหรอ"
"เลิกว่าเมียกูได้แล้ว ใครว่า เจอกูแน่"
"พี่ภูเขาแกล้งไปอย่างนั้นแหละโยชิ เชื่อพี่ขิงสิ พี่ภูเคยโกรธใครที่ไหนล่ะ"
"ใช่ๆ" พี่เฟียตสนับสนุน
"ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ"
"แต่พี่ว่านะ โยชิก็พูดให้น้อยๆลงหน่อยก็ดี"
"พี่ขิงอ่ะ"
"ฮ่าๆๆๆๆ"

ผมเดินออกมาจากโต๊ะอาหาร แล้วก็เดินไปดูชุดนาคที่ซักไว้ เหลือเวลาอีกสามนาทีจะปั่นแห้งเสร็จ
ผมก็ยืนรอ จนมันปั่นแห้งเสร็จ ก็เอาใส่ตะกร้า เดินถือขึ้นไปบนห้องแล้วก็ตากที่ระเบียงเหมือนเคย
เดี๋ยวดึกๆก่อนนอนค่อยรีดอีกที รู้สึกขามันไม่ค่อยมีแรง เลยนั่งลงที่ปลายเตียง
แอร์เย็นๆมากระทบผิวกาย ผิวหน้า เริ่มรู้สึกหนังตาจะตก เลยพักสายตาบนเตียงสักหน่อย

*********************พีท

"เด็กๆ เห็นน้องภูไหม" ผมเดินเข้าไปถามเพื่อนๆน้องภูที่นั่งช่วยกันสานเหรียญ แล้วก็ทานขนม
"ทานข้าวเสร็จก้ไม่รู้ไปไหนแล้วพี่ ลองไปดูหลังบ้านยัง"
"ไปมาแล้วไม่มี"
"อะไรลูกพีท" คุณแม่เดินเข้ามาถาม
"คุณแม่เห็นน้องภูไหมครับ"
"แม่เห็นเมื่อครู่กำลังซักผ้าน่ะลูก สงสัยเอาผ้าไปตากหรือเปล่า"
"มาซักผ้าอะไรตอนนี้"
"พี่ภูเขาซักชุดนาคพี่พีทไง"
"หรอ"
"พีทไปดูน้องสิลูก ทานข้าวทานปลาหรือยัง"
"ทานไปแล้วครับคุณแม่" ขิงตอบ
"อ้น เห็นน้องภูไหม" อ้นเดินเอาถาดขนมเข้ามาเก็บ
"ไม่เห็นพี่ อยู่ข้างบนหรือเปล่า"
"อืมๆ" แล้วผมก็เดินขึ้นมาดูน้องภูข้างบนห้อง เปิดประตูเข้าไปก็เห็นนอนหลับอยู่ที่ปลายเตียง
นอนตัวกลมเชียวสงสัยจะหนาว คุณแม่เดินเข้ามา ก็มายืนมองข้างๆผม
"สงสัยจะเหนื่อย คนโน้นก็เรียกน้องภูคนนี้ก็เรียกน้องภู ดูสิเวลาหลับยิ่งน่ารักเนอะลูกเนอะ ว่าไหม"
"ครับแม่ เวลาหลับน่ารักมาก" ผมมองแล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
"เหมือนตุ๊กตาแบบที่เจ้าแพทบอกจริงๆ ตาถึงนะเราเนี่ย"
"คุณแม่ชอบน้องไหม"
"ชอบมากจ้ะลูกชาย" คุณแม่ส่งยิ้มหวานให้ผม แล้วก็มองไปที่น้องภู
"ขอบคุณนะครับคุณแม่"
"จ้ะ อุ้มน้องไปนอนดีๆลูก ห่มผ้าให้น้องด้วย แล้วก็ปิดไฟซะ"
"ครับ"
"เดี๋ยวแม่ลงไปช่วยคุณย่าก่อนนะ นึ่งขนมยังไม่เสร็จเลยเนี่ย"
"ครับคุณแม่"
ผมอุ้มน้องภูไปนอนหนุนหมอนดีๆ แล้วก็ดึงผ้าห่มมาห่มให้ แต่เจ้าตัวก็ดันตื่นซะนี้
ปรกติให้อุ้มยังไงก็ไม่มีทางตื่น วันนี้รู้สึกตัวง่ายจัง แปลกวุ้ย
"หลับต่อเถอะ" เจ้าตัวแสบตื่นมากระพริบตาปริบๆ แล้วก็บิดขี้เกียจเล็กน้อย
"ไม่เอาอ่ะ"
"นอนเถอะ ข้างล่างไม่มีอะไรแล้ว"
"คนอื่นเขายังทำงานกันอยู่เลยน้องภูจะนอนได้ไง"
"แต่น้องภูนอนไปนิดเดียวเองนะ"
"แต่มันก็เป็นครั้งแรกในรอบสิบกว่าปี ที่จะมีงานแบบนี้ น้องภูอยากใช้เวลากับมันให้มากที่สุด"
"คนดื้อมักจะมีข้ออ้างที่สวยงามเสมอ"
"ชิ"
เจ้าตัวแสบของผมก็ลุกขึ้นนั่ง ผมก็ขโมยหอมแก้มไปทีหนึ่ง แต่ก็โดนตีมาที่ไหล่ดังเพี๊ยะ
เจ็บแต่ก็คุ้ม เจ้าตัวแสบก็ลุกจาากเตียงเดินเข้าห้องน้ำไป ออกมาอีกทีด้วยสีหน้าสดใส
"ป่ะ" น้องภูพยักหน้าให้ผมแล้วก็เดินออกจากห้องไป ฟิตจังเมียยผมเนี่ย ฟิตทุกเรื่อง ฮ่าๆๆ
เราสองคนเดินลงมาข้างล่าง น้องภูก็เดินตรงไปที่กลุ่มเพื่อนๆ ที่นั่งทำงานกันอยู่
"พี่ภูไปไหนมาอ่ะ พี่ภูโกรธโยชิหรือเปล่า" สองคนนี้ไม่รู้ทะเลาะอะไรกัน
"เปล่า พี่แค่รำคาญแกพูดมาก เลยต้องใช้แอคติ้งสยบ"
"ใจร้าย ตกใจหมด"
"พี่บอกแล้วเห็นไหม"
"นี่ยังทำกันไม่เสร็จอีกหรอ"
"จะเสร็จได้ไงอ่ะ ป้าชูอ่าดิให้คนไปแลกเหรียญมาอีก เนี่ย กองพะเนิน"
"ได้บุญ อย่าบ่นน่ะโยชิ ตายไปอ่ะแกจะได้เป็นนางฟ้า"
"ไม่ตายโยชิก็เป็นนางฟ้าในใจพี่นะ"
"ไอ้อิค กูขอตัวนะ"
"ไปไหนว่ะไอ้ภู ไปด้วยดิ"
"ไปอ้วก"
น้องภูลุกขึ้น แล้วก็เดินไปหลังบ้านผมก็เดินตาม เป็นไงล่ะเมียผม เก่งไหม ตื่นมาก็สดใสเป็นอีกคนแล้ว
จัดแจงทำโน้นทำนี้ทุกอย่าง คิดไม่ออกบอกน้องภู อะไรอยู่ตรงไหน ซื้อมาเท่าไรเก็บไว้ที่ไหน ถามมา
เรามีคำตอบในให้คุณเสมอ  อิอิ เราสองคนเดินมาหลังบ้าน มานั่งดูป้าๆน้าๆทำขนม
คุณแม่ขิง คุณแม่อิค ท่าทางมีความสุขมาก คุยกับป้าๆน้าๆหัวเราะกันลั่น คุณแม่ผมเองก็เช่นกัน
ทุกคนมอบความเป็นกันเองให้กัน ทั้งๆที่บางคนไม่เคยพูดคุยหรือรู้จักกันมาก่อน
เนี่ยแหละคือความมหัศจรรย์ของแรงบุญ ทำให้เกิดมิตรภาพและความสุขขึ้นโดยอัตโนมัติ
"พีท ปีนี้หนูอายุเท่าไรลูก" ป้าแต๋วถาม
"26ครับ"
"เอาเว้ย 26 "
"อย่าลืมกลับ62ด้วยนะป้าแต๋ว"
"น้องภูนิมันพูดถูกใจป้า"
"ดักบนดักล่างด้วยแม่ เดี๋ยวจะมานั่งบนเสียดาย" พี่นางพูดประชดป้าแต๋ว
"นี่ๆเชื่อไหม คราวที่บวชลูกตาชาติน่ะ ทะเบียนรถที่เอานาคไปโบสถ์น่ะ ออกสามตัวตรงๆเลย"
"ป้าแต๋วก็ถูดเยอะสิครับ" น้องภูถาม
"ป้าไม่ได้ซื้อ ยังเสียดายมาจนถึงวันนี้เลย"
คนไทยกับหวยก็เป็นของคู่กันนะครับ บางคนก็เล่นสนุกๆบางคนเล่นเป็นอาชีพ
แต่อย่างว่าแหละครับ หวยไม่เคยทำให้ใครรวยหรอก มันเป็นเงินร้อน ได้มาเดี๋ยวก็ไป
สู้ทำงานเก็บเงินดีกว่าครับ เงินร้อยหนึ่งทำให้ทานอิ่มท้องได้ แต่ถ้าซื้อหวย
พอไม่ถูกก็กลายเป็นเศษกระดาษหนึ่งใบเป็นขยะให้โลกอีก "เก็บเงินไว้ดีกว่า"
แต่งวดนี้ ผมให้  26  นะครับ  เย้ยยยยย  ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

***********************คุณแม่พีท

เด็กคนนี้ยิ้มแย้มแจ่มใส คุยกับผู้ใหญ่ก็มีสัมมาคารวะ อ่อนน้อม พูดจาน่ารักน่าเอ็นดู
เห็นครั้งแรกก็ถูกชะตา แต่อยากรู้ว่านิสัยเป็นอย่างไร เลยทำดุๆซะหน่อย
เด็กคนนี้ยิ่งได้ใกล้ชิดยิ่งหลงรัก แล้วพอได้รู้ว่าเป็นลูกของคุณนุชเลยไม่ต้องคิดมาก
คุณแม่นิสัยดีเช่นไรลูกก็ไม่ต่างกันเลย ยิ่งงมองยิ่งหลง รอยยิ้มของฝีปากแดงบาง
ยังคงติดอยู่ในใจแม่คนนี้เสมอ ถึงจะไม่ใช่แม่แท้ๆ แต่ก็รักเขาไปแล้ว ไม่ใช่เพราะลูกชายเรารัก
เราเองก็รักไปแล้ว ไม่แปลกเลยที่ทำไมคุณแม่ถึงหลงเด็กคนนี้มาก ถึงขนาดออกตัวปกป้อง
ก็เพราะว่าเขาน่ารักอย่างนี้นี่เอง พีท......แม่ขอให้พีทมีความสุขกับสิ่งที่พีทเลือกนะลูก
ถึงเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่แม่ก็รักพีทมาก แล้ววันนี้แม่ก็เชื่อว่า พีทจะไม่เหงาอีกต่อไป "ลูกชายของแม่"

************************น้องภู

"โอ๊ยยยย หิวอ่ะ" ผมอ้อนคุณย่าที่กำลังบรรจงเอาเม็ดขนุนที่ปั้นไว้มาชุบไข่หย่อนลงไปในหม้อ
"อ้อนอะไรย่าอีกล่ะ  หลบไปเกะกะ"
"น้องภูขอชิมหน่อยไม่ได้หรอ"
"ในจานนั้นไงลูก นี่เอาไว้เลี้ยงพระพรุ่งนี้ แล้วทานข้าวทานปลาบ้างยังละเราอ่ะ หืม"
"ยังเลย ตั้งแต่เช้าทานไปนิดหนึ่ง" แกล้งคุณย่าไปอย่างนั้นแหละ ฮ๋าๆๆ
"ไปทานเลย เดี๋ยวตีตายเลยเด็กคนนี้ ไปๆ มานั่งหิวอยู่ได้"
"แกล้งคุณย่าให้โดนบ่น มีความสุขมากไหม" พี่พีทมันถาม
"มาก ฮ่าๆๆๆ"
"เดี๋ยวเถอะ ดูเด็กคนนี้ เดี๋ยวตีอวดแขกเลยดีไหม"
"อย่านะพี่หนูหวงของหนูนะ"
"เอาไปเลี้ยงสักวันไหมล่ะแต๋ว"
"ให้จริงเปล่าเหอะ เอาจริงนะ"
"แล้วจะรู้ว่าปวดหัวขนาดไหน"
"คุณย่าจะยกน้องภูให้ป้าแต๋วจริงอ่ะ"
"จริง"
"แล้วอย่ามาร้องไห้คิดถึงน้องภูนะ"
"ไม่มีทางหรอก ย่าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาคอยดุคอยบ่น"
"พี่พีทก็ไม่อยู่น้องภูก็ไม่อยู่ คุณย่าแอบร้องไห้แน่ๆ"
"จ้า"
"บ้านไม่มีน้องภูคงเหงาน่าดูนะคะ" คุณแม่ขิง
"ก็คงงั้นแหละจ้ะ ตัวป่วนประจำบ้าน เมื่อวันก่อนพึ่งดุไปเรื่องเถียงกับพี่ชายเถียงกันทุกวัน เห็นแบบนี้แสบไม่ใช่เล่นนะ"
"ก็แสบกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมแล้วนี่ค่ะ ดังไปทั้งโรงเรียนเจ้ากลุ่มเนี่ย"
"พวกหนุ่มชุดขาวเนี่ยนะคะ" ป้าแต๋วถาม
"นั้นแหละค่ะพี่ "
"อาศัยว่าเรียนเก่งหน่อย แต่เรื่องซนนี่ก็ไม่แพ้กัน คุณครูที่โณงเรียนเจอหนูบ่นให้หนูฟังตลอด"
"เด็กผู้ชายเยอะๆรวมตัวกันก็แบบนี้แหละ"
"ไงเรา นั่งมองอะไรย่าลูกหืม"
"มองว่า ทำไมคุณย่าไม่เอาคลุกทีเดียวเยอะๆแล้วก็เทไปในหม้อทีเดียวไม่ต้องมานั่งชุบทีละเม็ดแบบนี้อ่ะ"
"มันก็จับเป็นแพไม่สวยสิลูก ตกลงหนูทานข้าวหรือยัง"
"ทานแล้วครับ เดี๋ยวทานอีกก็ได้ ติดใจน้ำพริกมะม่วงกับกากหมู" ป้าแต๋วยิ้มแก้มจะแตก
ผมเดินเข้าไปในครัวตักข้าวมาทานอีกรอบ พี่พีทก็เดินมาทานข้าวด้วยสงสัยจะหิว
"พี่พีทลองทานกากหมูนี้ดิ แล้วก็เอาน้ำพริกนี้โปะ ตักน้ำปลาเยาะนิดหนึ่ง อ่ะทานได้ แล้วก็ตามด้วยผัก"
พี่พีทก็เคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
"โหยมาอยู่นี้เอง" พี่แพทเดินมานั่งที่โต๊ะกับพวกเรา
"มีไร" พี่พีททำท่าไม่พอใจที่พี่แพทมานั่งมองหน้าผม
"คิดถึง น้องภู"
"จะกลับเมกาวันไหน" พี่พีทรีบถาม ฮ่าๆๆๆ
"ไม่รู้ อยากอยู่นานๆ " พี่แพทส่งสายตาหวานๆให้ผม ผมก็ยิ้มให้ แล้วก็ทานข้าวต่อ
"ไม่อยากตายบ้างหรอ"
"พี่พีท" ผมดึงชายเสื้อพี่พีทไว้ แต่พี่พีทมันก็แกล้งพี่ชายมันไปอย่างนั้นแหละ
"ปากร้ายนะแก เดี๋ยวของที่ซื้อมาให้ก็ขนกลับดีไหม จ่ายตังค์มาเลย "
"เออ เดี๋ยวสึกแล้วโอนให้ เท่าไรอ่ะทั้งหมด"
"เกือบๆสองหมื่น"
"เดี๋ยวพีทให้เมียขึ้นไปเอามาให้เลย เงินแค่สองหมื่นทำทวง"
"สองหมื่นเหรียญโว้ย สั่งเป็นหางว่าว เอาสมองส่วนไหนคิดว่ะ สองหมื่นบาทอ่ะ"
"กับน้องทำมางก แกก็เอาเงินแม่ซื้อ ไม่ใช่เงินตัวเองหรอก"
"เงินกู แม่ไม่ให้เงินพี่ตั้งนานแล้ว"
"เดี๋ยวน้องภูจัดการให้พี่แพท เดี๋ยวให้เสร็จงานก่อนนะครับ"
"ก็สั่งมาให้น้องภูเนี่ยแหละ ของอ่ะ พี่แพทไม่รับขวัญน้องหน่อยหรอ"
"อ่าวหรอ งั้นพี่แพทไม่เอาเงินก็ได้ ถือว่ารับขวัญเมีย เอ๊ย น้องสะใภ้"
"ไม่ต้องไปโอนเงินให้มันนะน้องภู มันให้แล้ว"
"จะดีหรอพี่พีท เดี๋ยวครั้งหน้าพี่แพทเขาไม่รับสั่งซื้อนะ"
"ถ้าเป็นน้องภูพี่แพทยินดีเสมอครับ"
"เกรงใจจัง"
"งั้นคืนนี้มานอนกับพี่สิ จะได้ตอบแทนกันไป"
"ไม่ดีมั้ง ฮ่าๆๆๆ"
"มาทำอะไรตรงนี้ แม่ใช้ให้มาเอาอะไร หืมมมมมม"
"โอ๊ยแม่อย่าหยิก เจ็บ แพทแค่นั่งคุยกับน้อง ถามสารทุกข์สุกดิบ"
"ไม่จริงเลยแม่ มันแทะโลมเมียพีทอยู่เนี่ย"
"ไปๆๆ ไปช่วยแม่หยิบโน้นหยิบนี้ก็ยังดี ให้น้องทานข้าว เร็วๆ"
"โหยแม่อ่ะ แพทอยากมีเมียแบบไอ้พีทบ้างอ่ะ"
"เบาๆ จะแหกปากทำไม แล้วไหนของที่แม่ให้มาหยิบ"
"แม่ให้แพทหยิบอะไรนะ"
"แป้งท้าวยายม่อม"
"แล้วแพทจะรู้จักไหมแม่ แล้วทำไมคนไทย เอาเท้าคนมาทำขนมอ่ะแม่"
"โอยยย ขี้เกียจอธิบาย"
"แม่แต่แพทอยากรู้นะ"
"ไปถามคุณย่าไป"
"แม่ไม่รู้ล่ะสิ แกรนด์มัมมมมมมมมม!!!!!"
"พูดภาษาไทย เดี๋ยวจะโดนหยิก"
"คุณย่าาาาา!!!!"

"คุณแม่พี่ไม่ชอบให้พูดไทยคำอังกฤษคำน่ะ อยู่ที่โน้นถ้าอยู่ในบ้านเราจะใช้ภาษาไทยกัน"
"อืม ดีจัง"
"ใช่ พี่เลยพูดไทยชัดไง"
"แต่พูดภาษาคนไม่ค่อยรู้เรื่องนะ ฮ่าๆๆๆ"
"มาว่าพี่ บาปนะ พี่เป็นนาคนะ"
"บาปหรอ แซวเล่นเฉยๆ"
"ขัดใจนาคก็บาปด้วย"
"ไม่ใช่แล้ว"
"ฮ๋าๆๆๆ"
เราสองคนก็นั่งทานข้าวกันจนอิ่ม อิ่มแล้วพี่พีทก็ไปนั่งคุยกับพวกเพื่อนๆพี่พีท
ผมก็นั่งสานเหรียญกับเพื่อนๆ ตอนแรกก็นั่งสานกันอยู่ด้านล่าง
ก็ย้ายกันไปสานบนห้องนอนผม จากนั่งสานก็กลายเป็นอนสาย ฮ่าๆๆ ทุกคนเหนื่อยกันมาทั้งวัน
แต่ก็ไม่มีคนบ่น ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำมันต่อไป แล้วก็ผลัดเปลี่ยนกันไปอาบน้ำอาบท่า
"เด็กๆๆ น้าสองคนจะกลับแล้วนะลูก" คุณแม่ขิงกับคุณแม่อิคเดินเข้ามาในห้อง
"เดี๋ยวน้องภูไปส่งที่รถครับ"
"ไม่ต้องหรอกลูก อย่านอนดึกนะลูก เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า เหรียญนี้ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้นแหละ นี้ก็เยอะแยะแล้ว"
"ครับคุณแม่"
"งั้นเดี๋ยวแม่กลับแล้วนะลูก น้ากลับก่อนนะทุกคน"
"สวัสดีครับบบบ"
"คุณแม่"
"ว่าไงลูก" ไอ้อิคมันเรียกแม่มันไว้
"ขอเม็ดขนุนคุณย่าไปฝากป๋าหน่อยสิ ป๋าเขาชอบ"
"จ้ะ อย่าชวนกันซนนะลูก เกรงใจคุณย่า"
"ครับ"
แล้วคุณน้าทั้งสองก็ออกไป ผมไปเอาชุดนาคมารีด
"กูว่าพอเหอะว่ะ แค่นี้พี่พีทก็หว่านจนมือหงิกแล้ว หว่านแค่เหรียญอย่างเดียวก็ได้"
"เออ ก็ทำจนตาลายเเล้วเนี่ย" ไอ้แบงค์ล้มตัวนอนหนุนตักพี่เฟียต ไอ้เป็ดรีบผลักหัวออกจนหัวโขกพื้น
"โน้นผัวมึง นี้ของกู"
"ตามันลาย กูไม่เอาหรอกผัวเพื่อนอ่ะ อย่าเผลอก็แล้วกัน" แล้วไอ้แบงค์มันก็หนุนตักพี่ฝุ่น
พี่ฝุ่นท่าทางจะชอบเห็นก้มหน้าห้มตาทำไม่หยุด สงสัยจะเพลิน
"พอเถอะพี่ฝุ่น ไปอาบน้ำนอนกัน"
"แบงค์ไปอาบก่อนสิ ระหว่างรอก็ทำไปเรื่อยๆเพลินดี"
"อาบพร้อมกันก็ได้ แต่ต้องเก็บเสียงนะ ฮ๋าๆๆๆ" ผมแซว พี่ฝุ่นก็แอบยิ้ม
"โยชิไป อาบน้ำกัน" ไอ้อิครีบฉุดข้อมือไอ้โยชิ
"ไม่เอา คนเยอะแยะ จะบ้าหรอไงพี่อิค ไม่เข้าเรื่อง"
"อายทำไมคนเยอะแยะ เมื่อคืนไอ้ตี๋กับไอ้ขิงยังแอบซั่มกันเลยตอนพวกเราหลับอ่ะ"
"แล้วทำไมมึงไม่ห้ามกูล่ะ"
"กูก็กำลังซั่มโยชิเหมือนกัน"
"อุบาทว์ว่ะพี่"
"มิว นอนกับพวกเราไหม"
"เดี๋ยวต้องถามพี่โค้กก่อนอ่ะว่าจะเอาไง"
"เอะอะก็พี่โค้ก พี่โค้ก พี่โค้ก " ไอ้โยชิลอยหน้าลอยตาล้อมิว
"มิวอยากค้างไหม เดี๋ยวพี่โค้กเราจัดการให้" ผมอาสาจัดการเอง พี่โค้กอ้อนง่ายกว่าพี่พีทอีก
"อยากสิ"
"งั้นอาบน้ำแต่งตัวเตรียมนอนได้เลย"
"เชื่อมือพี่ภูเถอะพี่โค้ก"
"งั้นเดี๋ยวไปเอาเสื้อผ้าในรถก่อน"
"ป่ะ เดี๋ยวน้องภูไปเจรจาให้"
เราสองคนก็เดินลงไปข้างล่าง มิวเดินไปเอาเสื้อผ้าในรถ ผมเดินเขาไปในกลุ่มเพื่อนพี่พีท
แล้วก็เรียกพี่โค้กออกมาเจรจา ทุกอย่างก็เรียบร้อยสำเร็จดี เจอลูกอ้อนเข้าไปก็ยอมแล้ว
มิวขึ้นมาบนห้องผมอีกครั้ง แล้วก้เข้าไปอาบน้ำ ผมก็หาที่นอนให้มิวกับพี่โค้ก
"โยชิเอาเหรียญไปใส่พานข้างล่างว้ไป ไม่ต้องทำแล้ว อาบน้ำอาบท่านอนเถอะ"
"รอคำนี้มานานมากกกกก"
"พี่ฝุ่นไปนอนเถอะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราต้องตื่นเช้านะ"
"ครับ พี่ก็เริ่มง่วงๆแล้ว"
"พี่เฟียต ปลุกไอ้เป็ดเถอะ นอนน้ำลายยิดแล้วนั้น"
"เป็ด ๆๆ  เป็ด ไปอาบน้ำ "
"อือๆๆ พี่เฟียตไปอาบก่อนเลยเดี๋ยวเป็ดตามไป"
"ไปพร้อมกันเนี่ยยแหละ ขี้เกียจมาอุ้ม"
"แหม๋ ทุกคืนเห็นอุ้มไม่บ่นขี้เกียจเลยนะ"
"อุ้มไรอ่ะ ฮันแหน่  ฮ่าๆๆๆๆๆ " ผมแซว
"สามนาทีสี่ท่าล่ะ สามีกูอ่ะ อิจฉาไหม"
"กูไม่เน้นปริมาณ กุเน้นคุณภาพ"
"แต่มึงก็ต้องงดไปอีกนานเลยแหละ ระวังฝุ่นจะเกาะตูดนะเพื่อน"
"ไอ้ทุเรศ" แล้วพี่เฟียตก็กอดคอไอ้เป็ดออกจากห้องไป
ทุกคนแยกย้ายกันไปอาบน้ำ แยกย้ายกันไปนนอน เหลือผมคนเดียวที่ยังคงจัดโน้นจัดนี้ เตรียมเสื้อผ้า
แล้วก็ลงไปดูพี่พีทก็เห็นนั่งคุยกับเพื่อนอยู่ พี่พีทเห็นผมเดินวนไปวนมาก็เลยเดินออกมา
ไอ้ผมจะเดินเข้าไปเรียกพี่พีทก็เกรงใจเพื่อนพี่พีทเดี๋ยวจะเขาจะว่าเอา
"มีอะไรหรือเปล่า"
"ดึกแล้วนะ นอนดีกว่าไหม เดี๋ยวเช้าไม่ไหวนะ"
"อืมๆ เพื่อนพี่ก็จะกลับแล้ว"
"งั้นน้องภูขึ้นข้างบนเเล้วนะ"
"เดี๋ยวพี่ตามไป"
ก่อนขึ้นข้างบนผมก็เดินไปดูหลังบ้าน แม่ครัวก็กลับกันไปบ้างแล้ว เหลือไม่กี่คน
ขนมก็ทำเสร็จไปเยอะแล้ว รอเวลานึ่งเวลาอบเท่านั้น อีกไม่นานก็คงเสร็จ ผมก็ไปช่วยหยิบจับตามที่ใครจะใช้
"พี่ไปนอนเถอะ เตาสุดท้ายแล้ว เดี๋ยวแต๋วกับอ้อยดูเอง" ป้าแต๋วบอกคุณย่า
"เอ่อ ขอบใจมากแต๋ว ไม่ได้เอง แย่แน่"
"ไม่เป็นไรพี่ ไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เช้าแต่งตัวสวยๆเลยน่ะ"
"ก็แต่งปรกติแหละ"
"ชุดเมื่อเช้าตัดที่ไหนอ่ะ สวยมากเลยพี่"
"ก็ช่างคนเดิมแหละ ฝากด้วยน่ะแต๋ว เดี๋ยวขึ้นไปาบน้ำอาบท่าซะหน่อย"
"ไม่ต้องลงมาแล้ว นอนไปเลยพี่ เดี๋ยวที่เหลือแต๋วจัดการเอง น้องภูด้วยลูก ไปนอนไป มานั่งตบยุงอยู่ได้ ไปลูก ไปพร้อมคุณย่าเลย"
"ไม่เป็นไรครับป้าแต๋ว น้องภูไหว"
"ดื้ออีก ไปนอนลูกไป คุณด้วยค่ะ ไปพร้อมกับน้องภูเลย" ป้าแต๋วบอกแม่พี่พีท
"เดี๋ยวก็เสร็จแล้วมังค่ะ"
"ค่ะ เดี๋ยวแต๋วจัดการเอง ไปอาบน้ำอาบท่าเหนื่อยกันมาทั้งวันเเล้ว ไปน้องภู อย่าดื้อลูก"
"ครับ"
ผมกับคุณแม่ก็เดินขึ้นมาข้างบนพร้อมกัน
"รีบนอนนะลูก" คุณแม่เอามือลูบหัวผมเบาๆ แล้วก็เดินเข้าห้องไป ผมก็เดินเข้าห้องผมมา
ก็เห็นไอ้พวกนั้นนอนกันเงียบ สลบกันไปหมดแล้ว เดินไปห่มผ้าให้ไอ้โยชิมันคงนอนดิ้นออกมาจากผ้าห่ม
ไอ้อิคก็ไม่กอดเมียมัมนด้วยนะ ไอ้นี้ หรือว่ากอดแล้วไอ้โยชิดิ้นออกมาก็ไม่รู้
ผมเดินไปปิดไฟ แล้วก็เหลือไว้ที่หัวเตียงเท่านั้น แล้วก็เข้าไปอาบน้ำ
อาบน้ำเสร็จยืนแต่งตัวในห้องน้ำ พี่พีทก็กระซิบเบาๆหน้าห้องน้ำ
"น้องภู" ผมเปิดประตูออกไป
"อาบน้ำสิเดี๋ยวจะได้นอน พี่โค้กอ่ะ"
"นอนกอดเมียมันแล้ว"
"น้ำไม่อาบหรอ"
"ช่างมันเหอะ"
"อาบน้ำเถอะ เหม่ง น้องภูง่วงมาก นอนก่อนนะ หาวววววว"
"อื้ม ฝันดีนะ"

ผมแต่งตัวเสร็จก็ขึ้นมานอนบนเตียง ตอนแรกจะให้พี่โค้กมานอนบนเตียงกับพี่พีทแต่เห็นจะไม่ทันแล้ว
เพราะตอนนี้นอนกอดมิวหลับสบายเลย ทุกคนหลับกันหมดแล้ว ผมนั่งมองไปรอบๆก็ยิ้มออกมา
มันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก นี้เป็นความสุขที่อิ่มเอมใจที่สุด ผมก็บอกกับตัวเองว่า
เมื่อไรก็ตามที่ผมครบบวข ผมจะบวชทันที  คุณย่าใหญ่ครับ พรุ่งนี้ขอให้ทุกอย่างราบรื่นนะครับ
คุณย่าใหญ่คุ้มครองพี่พีทด้วยนะครับ  สำหรับคืนนี้ ราตรีสวัสดิ์.........


โปรดอ่านด้านล่างให้จบ
V
V
v
v
************

ออฟไลน์ K.Pupoom

  • รักข้ามรั้วไอ้ตัวแสบ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 387
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +966/-5
************

สวัสดีครับทุกคน

ตอนแรกกะว่าจะให้ทันวันที่29แต่มันไม่ทันจริงๆ  มีงานเข้าซะงั้น
ขอโทษทุกคนด้วยนะครับ ตอนบวชนี้ เขียนยากมากเพราะมันต้องนั่งนึกตอนที่ตัวเองบวช
แล้วก็ต้องเรียงลำดับเหตุการณ์เมื่อครั้งอายุ20 ผมเองเป็นชายไทยคนหนึ่งที่ทำหน้าที่นี้มาแล้ว
บวชตอนวันเกิดตัวเองที่ครบ20ปีบริบูรณ์พอดี  เพราะว่า......

ผมเป็นหลานชายแล้วก็ลูกชายคนเดียวของฝ่ายคุณแม่ คุณตาผมมักจะพูดกับผมเสมอตั้งแต่ตอนเด็กๆ
ว่า "ตาขออยู่แค่เห็นชายผ้าเหลืองหลานก็พอ" คุณย่ามักจะพูดแบบนี้เสมอๆ
แต่แล้วคุณตาท่านก็อยู่ไม่ถึง ท่านจากผมไปตอนที่ผม ม.3 ผมเสียใจมาก เพราะท่านรักผมมาก
แล้วผมเองก็รักท่านมาก คุณตาผมท่านมรณภาพ ใช่ครับ มรณภาพ ท่านเป็นพระ

ผมเลยตั้งใจตั้งแต่ตอนนั้นว่า เมื่อครบบวชเมื่อใดผมจะบวชทันที เพราะผมไม่รู้ว่า
เมื่อไรที่คนที่ผมรักจะจากผมไปอีก แล้วผมจะไม่ได้ทำในสิ่งที่ผมควรทำ และทุกคนรอคอย

ชีวิตคนเราก็เหมือนกันนะครับ เราไม่รู้หรอกว่าจะมีพรุ่งนี้หรือเปล่า
เพราะฉะนั้น วันนี้คือวันที่สำคัญที่สุด ทำวันนี้ของคุณให้เหมือนว่าคุณจะไม่มีพรุ่งนี้นะครับ

ขอบคุณนะครับที่ติดตาม
ขอบคุณทุกคนมากๆ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ทั้งหน้าไมค์หลังไมค์ที่ส่งมาให้กัน
ขอบคุณคำติชม ทุกคำ ขอบคุณมากๆครับ
ผมชอบมากเวลาที่ผู้อ่านทุกคนมาเม้นท์แล้วบอกถึงความรู้สึกตัวเองตอนที่อ่าน
มันเป็นสิ่งที่คนเขียนคนหนึ่งอ่านแล้วยิ้มได้ ถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง
ที่ผู้อ่านรู้สึกถึงความรู้สึกที่ผมถ่ายทอดผ่านตัวอักษรไป

ขอบคุณอีกครั้ง ที่อยู่ด้วยกันจากวันแรกจนวันนี้
ผมสัญญาว่า ถ้าคุณไม่เบื่อที่จะอ่าน ผมก็ไม่เหนื่อยที่จะเขียนครับ

ขอบคุณครับ

รักนะ.....

*********************************

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
จิ้มตูดก่อนอ่าน อิอิ
*******************************************************************
มันมีแต่น้ำตาเหงความตื้นตัน และความสุข มันเต็มไปด้วยทุกอย่างที่ทดแทนซึ่งกันและกัน

ไม่เคยเบื่อเลยที่จะต้องรอเพื่อได้อ่านเรื่องนี้ กลับเฝ้ารอมากกว่า

ทุกคำพูด ทุกข้อความบรรยาย มันสื่อได้ถึงอารมณ์และความรู้สึกจิงๆ

ราวกลับว่าทุกบุคคลมีชีวิตอยุ่จิง มีความสุข มีความทุกข์กับการเป็นอยู่ และก้อพร้อมเสมอที่จะเผชิญกับมัน

ขอบคุณนะที่บอกว่าจะไม่ทิ้งคนอ่าน เพราะเชื่อได้ว่าคนอ่านก้อคงไม่ทิ้งที่แห่งนี้เหมือนกาน  :monkeysad: :monkeysad:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-07-2012 03:31:20 โดย •♀NoM!_KunG♀• »

ออฟไลน์ tartar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ยาวสะใจดีจริงๆ ขอบคุณคนเขียน

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
รักคนเขียนที่สุดเลย
อ่านตอนนี้แล้ว รู้สึกอิ่มบุญมาก
เหมือนเราได้มีส่วนร่วมในงานพี่พีทด้วยเลยอ่ะ

ออฟไลน์ kanunPang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านเรื่องตอนนี้แล้วได้ทั้งความรู้ แล้วก็ความสุขมากเลย

ทุกๆตอนมันทำให้เรามีความสุขจนไม่ได้คิดแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องรักของใครกับใคร
มันมีความอบอุ่นของครอบครัว คนรัก เพื่อนและมิตรภาพที่ดีมากมาย

ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

อยากบอกคุณว่าอ่านเรื่องนี้แล้วไม่อยากให้จบลงเลยจริงๆ
เป็นกำลังใจให้เขียนต่อไปเรื่อยนะคะ^^


ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
ชื่นชมคนแต่งค่ะ
ตอนนี้สุดยอดมากเลย  o13
อ่านแล้วเหมือนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในงานบวชพี่พีท
ปลื้มใจและอิ่มบุญมากกกกค่ะ
+1  :กอด1:

ออฟไลน์ NOO~KUNG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 718
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-3
น่ารักมากค่ะ คุณคนเขียน...
ตามอ่านตลอด ได้แต่กด + ให้...
เข้าเล้ามาต้องมองหาน้องภูกับครอบครัว...
กว่าจะรู้ตัว เสพติดความน่ารักไปแล้ว จะไปอดได้ที่ไหนเนี่ย....

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
ร่วมอนุโมทนาบุญ
+เป็ด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-07-2012 04:04:23 โดย Horizon »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
ตอนจะบวชนี้ อ่านแล้วน้ำตาไหลทุกตอนเลย มีข้อคิดดีดีหลายอย่าง อาจจะเพราะไม่ได้บวชมั้งเลยอินมากๆ  ไม่รู้ตอนบวชแล้วจเป็นยังงัยนะ ชอบบรรยากาศนี้มากเลยมองเห็นภาพเลยว่ายุ่งขนาดไหน จะจอดูพระใหม่

ออฟไลน์ lepetitnong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ร่วม อนุโมทนาบุญด้วยครับ ขอให้ได้บุญเยอะๆนะครับ (มาต่ออีกนะครับ  จะได้บุญเยอะ  คนรออ่านเยอะมากๆๆๆๆ ) :call: :call: :call: :call: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: o13 o13 o13 o13 o13

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
น้ำตาซึมกันเลยทีเดียว
อบอุ่นมากๆเลยค่า
ชอบเรื่องนี้ม้ากมากกกก
แต่งต่อไปเรื่อยๆเลยนะคะ ^^

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
อนุโมทนาบุญกับพี่พีทด้วยค่ะ -/\-

แอบน้ำตาซึมกับคุณย่าตอนปลงผม กับขออโหสิกรรมกัน

บ้านนี้เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก แม้กระทั่งเพื่อนๆ ของน้องภูทุกคนก็น่ารัก

ชอบน้องภูกับโยชิ เวลาเค้าคุยกัน น่ารักที่สุด  :impress3:

ออฟไลน์ BlueAngel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ติดน้องภูขนาดนี้ ไม่เบื่อหรอกค่ะ  รออ่านต่อไป^^

lvlax23

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องดีๆๆ ต้องมาจากคนเขียนดีๆๆอยู่แล้ว ขอบคุณนะที่มอบความสุข ความรู้สึกดีแสนดี ทุกวัน พรุ่งนี้ นาคพีทจะเข้าวัดแล้ว อะ

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
อ่านแล้วตื้นตันใจมาก

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
อบอุ่นมากๆค่า ชอบมากๆมีความสุขสุดๆ
รอตอนต่อไปค่ะ :)

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ HT...hanna

  • 。。。我永远爱你。。。
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-4
+
พร้อมจิ้มๆๆๆๆๆ ค่า
V
V
V
V
V
ปิติค่ะ อิ่มบุญกันถ้วนหน้า คนเขียนสุดยอดค่าาาาาาาาาาาาา

 :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-07-2012 08:58:38 โดย HT...hanna »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aishiteru.

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
อ่านตอนบวชแล้วรายละเอียดเยอะมากก นึกไปถึงตอนแฟนตัวเองบวชเลย ฮ่าๆ
พอถึงช่วงขอขมาอโหสิตั้งกะคุณย่าน้ำตาไหลเลย ปลื้มปิติยินดีกับพี่พีทไปตามเรื่องเง้ออออินมากก อิอิ
รับรู้ได้ว่าคนเขียนตั้งใจเขียนมากกข้อมูลเต็มที่ แต่ละคนก็มีความสุขถ้วนหน้า
น้องภูเหนื่อยน่าดูเลย คนนั้นเรียกคนนี้เรียก นอนน้อยอีก ระวังจะเป็นลมล้มพับไปน้า เดี๋ยวพ่อนาคจะใจเสีย เง้อออ
วุ่นวายแต่มีความสุขเน๊อะ อิอิ พึ่งจะรู้ว่าพี่พีทอายุ26เท่าคนเขียน(คนอ่านก็26เหมือนกันนะ^^)
นึกว่าพี่พีทจะอายุเยอะกว่านี้ซะอีก ดูเป็นผู้ใหญ่มากอ่ะ หน้าที่การงานอะไรแบบนั้นอ่ะมั้ง หุหุ
รออ่านต่อไปน้าาา สู้ๆน้าา ดูแลสุขภาพด้วยน้า ตอนนี้ยาวจุใจมากมาย
 :กอด1:

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
แค่ทำขวัญนาคก็ซึ้งมากแล้วคะ ฟังเทศน์สอนนาคทีไรน้ำตาซึมทุกทีสินา ^^
แต่ประทับใจจริงๆ ครอบครัวพ่อแม่พี่น้อง ญาตฺสนิทมิตรสหายมากันพร้อมหน้าอบอุ่นมากเลยค่ะ เพื่อนบ้านยังมาร่วมด้วยช่วยงาน ซึ่งกรุงเทพสมัยนี้ข้างบ้านไม่รู้จักกันเลย
ปล. น้องภูน่ารักเสมอเลย

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้ำตาซึมกันเลยทีเดียว T^T

tantansin

  • บุคคลทั่วไป
ประทับใจจัง  :m15:  ซึ่งจะต้องหลั่งน้ำตา  แต่เป็นเพราะความสุขจริงๆ

thisispom

  • บุคคลทั่วไป
มีความสุขจัง รู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเลย

ladymoon_yy

  • บุคคลทั่วไป
อิ่มอกอิ่มใจมากกกกกกกก   :m3: :m3: :m3:

tawan

  • บุคคลทั่วไป
นึกแล้วว่าคนเขียนต้องมีประสบการณ์

เขียนออกมาน่ารักอ่ะชอบ

มันเหมือนจริงอ่านไปน้ำตาไหลไป

 :call:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
อบอุ่นและอิ่มบุญจริงๆ ตอนนี้  :L2:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
อ่านตอนนี้แล้วมันตื้นตันจริงๆ

เหมือนได้ร่วมงานบวชด้วย  :L2:

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
อ่านไปก็ยิ้มไป มีความสุขมากๆ เลยครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด