(เรื่องสั้น) A Mind Till : กาลครั้งหนึ่ง..
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น) A Mind Till : กาลครั้งหนึ่ง..  (อ่าน 10808 ครั้ง)

zellda

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

--------------------------------------------------------------------------------------

เป็นเรื่องสั้นเรื่องแรกของผมครับ แนะนำติชมได้เต็มที่
อย่าถามว่าทำไมตั้งชื่อเรื่องแบบนั้น มันดูไม่มีความหมายเลยใช่ไหม
มันก็ไม่มีความหมายจริงๆนั่นแหละ (ฮา) แค่เอาชื่อตัวละครมาผูกกันเท่านั้นเอง
เพราะงั้น ใครที่คิดชื่อเรื่องได้มีสาระกว่านี้ ช่วยเสนอหน่อยนะครับ  :pig4:

สำหรับท่านใดที่อยากจะอ่านเรื่องราวของเอ ตามลิ้งค์นี้ไปเลยครับhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?PHPSESSID=a997c3e62987fc0987ec930087741107&topic=30703.0

--------------------------------------------------------------------------------------

“เฮ้ย ไอ้เอ มึงไม่ไปผับกับกูจริงๆเหรอวะ ผับหรูติดท็อปชาร์ตเลยนะ กูเสียดายแทนว่ะถ้ามึงไม่ไปจริงๆ คราวนี้ไม่ใช่ไปกันเอง แต่พี่มุกเป็นคนพาไปนะเว้ย ค่าเหล้า ค่าโต๊ะอะไรก็ไม่ต้องเสีย นี่ตกลงมึงจะไม่ไปจริงๆใช่ไหมเนี่ย! สอบเสร็จแล้วด้วยนะเว้ย!”

“กูก็บอกมึงไปแล้ว มึงเลิกเซ้าซี้กูเหอะ เพราะยังไงวันนี้กูก็ไม่ไปกับมึงแน่ๆ วันนี้กูมีงานพิเศษต้องทำ” ผมเก็บของเข้าประเป๋า ปัดมือไอ้ทิวที่เอามานวดคอนวดไหล่อ้อนวอนให้ผมไปด้วย

“กูจำได้นะว่ามึงเคยบอกกูว่ามึงมีงานพิเศษแค่วันเสาร์อาทิตย์ มึงโกหกกูเหรอ หืมห์~ หืมห์~” ไอ้ทิวแม่งกวน เอามือมานวดไหล่นวดหน้า อารมณ์ผมเหมือนโดนนวดด้วยฝ่าเท้าเพราะมันไม่รู้จุดอะไรเลย เลยทำให้คนโดนนวด จากที่ปกติเค้าต้องหายเมื่อย เป็นต้องเมื่อยยกกำลังสอง แถมมันยังเอามือมาบิดแก้มผมเหมือนไม่ใช่แก้มคนซะอย่างนั้น ผมรีบปัดมือมันออกก่อนแก้มตัวเองจะช้ำไปมากกว่านี้ ไอ้ทิวแม่งมือหนักเหมือนกันนะมึง..ผมเดินออกมาจากห้องสอบ เกือบๆจะเป็นพวกสุดท้าย มีไอ้ทิวติดสอยห้อยตามกับไอ้มายด์เดินอ่านหนังสือตามหลังไปด้วยเงียบๆ

“กูติดค้างพี่ส้มไว้ คราวที่แล้วที่กูไปกับมึง กูก็ได้พี่ส้มเนี่ยแหละเค้าทำแทนให้ คราวนี้กูต้องไปแทนเค้าแล้ว มึงอย่าเซ้าซี้ กูจะกลับไปนอนหอ”

“อ้าว อะไรวะ ไหนมึงว่าจะไปทำงานพิเศษ?”

“กูจะกลับไปนอนที่หอก่อนแล้วค่อยออกไปทำงานเว้ย”

“มึงแปลกๆนะไอ้เอ หรือมึงจะมีแฟน?”
จู่ไอ้มายด์ที่เงียบๆก็โพล่งขึ้นมา ผมหันไปมอง ตามันก็เคยมองที่หนังสือ เงยขึ้นมามองหน้าผมเหมือนรอคำตอบ

“กู.....เปล่ามี......”

“แม่ง มึงมีแฟนเหรอเพื่อนเอ!? ฮิ้ว! ไอ้เอขายออกแล้วว่ะ! ใครวะมึง? ทำไมไม่เห็นมีพรายกระซิบอะไรในม. เลยวะ? เฮ้ยๆ บอกพวกกูหน่อย ใครเป็นแฟนมึงวะ”

ไอ้ทิวแม่งปากมาก พูดเสียงดังซะจนคนอื่นเค้ามองกันหมดแล้ว

“พอเหอะเพื่อนทิว ไอ้เอมันขี้อาย มึงถามซะแม่งหน้าแดงหมดแล้ว” ไอ้มายด์บอกผมหน้าแดง ..ถ้าเป็นพวกคุณก็หน้าแดงเหมือนกันแหละน่า!

“เออ ก็ได้... แต่ว่า กูไม่นึกเลยนะว่ามึงจะเป็นคนไม่เปิดเผยกับเพื่อนฝูงแบบนี้ อะไรวะ มีแฟนก็ไม่ยอมบอก มิน่า..ถึงอยากกลับเร็วนัก ปกติที่กูชวนไปผับ มึงก็ไปกับกู แต่ที่มึงจะกลับหอเร็วนี่ไม่ใช่ไปอ้าขารอแฟนมึงมาเอาใช่ไหมวะ ฮ่าฮ่..เฮ้ย ไอ้เอ!”

“ประโยคหลังนี่รับไม่ได้อย่างแรงว่ะไอ้ทิว” ผมตบกบาลมันไปหนึ่งที

“อ้าว นี่มึงเป็นรุกเหรอวะ ได้ไงวะ หุ่นบางๆอย่างมึงกดใครเขาลงด้วย..โอ๊ย”
แค่ทีเดียวคงสยบปากหมาๆของไอ้ทิวไม่ได้จริงๆ ผมเลยซ้ำไปอีกสองที

“เอาน่าๆ” ไอ้มายด์ห้าม โชคดีที่ยังมีคนอย่างไอ้มายด์คอยห้าม ไม่งั้นผมคง..

“เรื่องจะรุกหรือจะรับมันเกี่ยวกับรูปร่างที่ไหน มันต้องลีลาบนเตีย..โอ๊ย”

“กูคิดผิดจริงๆที่มีเพื่อนอย่างพวกมึง” ..ผมตบกบาลไอ้มายด์ไปด้วย

“เออ แล้วตกลงมึงเป็นรุกหรือเป็นรับวะ?” ไอ้ห่าทิวไม่เลิกๆ ผมถลึงตาใส่นั่นแหละมันถึงได้หยุด ไอ้มายด์ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ พวกเราเลยเดินไปเรื่อยๆจนถึงหน้า ม. ซื้อของกินนิดหน่อยแล้วก็แยกย้ายกันไป.. ไอ้มายด์ไปกับไอ้ทิว ก็คงจะไปผับของพี่มุกทั้งคู่นั่นแหละ ส่วนผมก็กลับหอ มาถึงหอก็อาบน้ำ ใส่ชุดสบายๆแล้วก็นอนไปตื่นหนึ่ง ตื่นด้วยเสียงโทรศัพท์เข้า ..ของไอ้ทิว

“ไอ้ทิวโทรฯมา..เพื่อนเอรับหน่อยครับ รับนิดหนึ่งอย่าให้กูรอนาน ถึงกูจะไม่ได้โทรฯมาบอกว่ารัก แต่กูโทรฯมาเพราะมีเรื่องจริงๆนะ เพื่อนเอ รับหน่อยมึง..รับหน่อย..” 

ผมกดรับสาย..ไม่ใช่อะไร ก็ว่าจะไม่รับเหมือนกัน แต่ทนไม่ได้กับเสียงโทรเข้าที่มันตั้งให้ รู้สึกสยองเหมือนมันมายืนพูดอยู่ตรงหน้ายังไงไม่รู้..

“เออ มีไร?”

“อะไร? หมายถึงอะไร ทำไมเสียงหงุดหงิดจังวะ หรือกูโทรฯมาขัดจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มมึงกับแฟนมึง? โทษทีๆ..”

“ไม่ใช่ๆ แต่กูเพิ่งตื่น..” ผมรีบแก้ตัว ..ไอ้ทิวแม่งคิดแต่เรื่องใต้สะดือตลอด

“หา! นี่มึงสกึดดึ้บไปแล้วรอบหนึ่งเหรอวะ อะไรมันจะหักโหมปานนั้น..”

“ไอ้XX!! ไม่ใช่!..กูแค่เพิ่งตื่นจากนอนหลับธรรมดา! มึงมีอะไรก็ว่ามาเหอะ เดี๊ยวกูต้องออกไปทำงานพิเศษแล้ว”

“อ่อ..ว่าจะโทรฯมาชวนมึงอีก เผื่อมึงเปลี่ยนใจอ่ะ มาเหอะไอ้เอ”

“กูบอกแล้วไง ว่ากูไปไม่..เฮ้ย แป็บ มีสายซ้อนว่ะ” เบอร์พี่ส้ม พี่ที่ทำงานพิเศษโชว์ขึ้นขณะที่หน้าจอกระพริบไม่เลิก ผมกดพักสายไอ้ทิว ไม่ฟังเสียงโวยวายของมัน แล้วกดรับสายพี่ส้มแทน

“ครับพี่ ผมจะรีบไปให้เร็วที่สุดครับ”

“เดี๊ยวๆ น้องเอ พอดีพี่จะโทรฯมาบอกว่า วันนี้เถ้าแก่ปิดร้านเร็ว นัดเราย้ายไปอาทิตย์หน้าน่ะ ..น้องเอยังไม่ออกจากบ้านใช่ไหม?”

“อ่อ..เอ่อ..ยังครับ..จริงเหรอครับ”

“พี่จะโกหกไปทำไม..พอดีวันนี้เถ้าแก่แกพาลูกสาวไปส่งที่สนามบินน่ะ เลยปิดร้านส่งท้ายซะ เราสองคนเลยโชคดีเลยเนอะ”
พี่เค้าหัวเราะ ผมก็หัวเราะ เราวางสายกันและกัน จากนั้นผมก็กดรับสายไอ้ทิวต่อ เสียงมันโวยวายไม่เลิก..

“มึงใจเย็นก่อนไอ้ทิว ตกลงวันนี้กูไปกับมึงก็ได้ กูว่างแล้ว”

“ฮั่นแน่ ..มึงโกหกพวกกูล่ะซี่ วันนี้แฟนไม่มาเหรอมึง?”

“มึงจะเลิกกวนเรื่องแฟนกูซักทีได้ไหม”

“โห ไอ้พวกหวงแฟน! เออ เจอกันที่ผับ จำทางได้ใช่ไหม งั้นกูไม่ไปรับนะมึง”
เสียงวางสายจบไปทั้งที่ผมยังไม่ทันได้บอกว่า กูยังไม่มีแฟนเว้ยไอ้ทิวลี่ทวิน
เฮ้อ..เอาเถอะ ผมไม่คิดใส่ใจอะไรต่อ ส่วนไอ้ทิวก็ปล่อยมันไปอย่างนั้น ขืนผมแก้ตัวอะไรอีก มันก็เอาเข้าทางมันหมดนั่นล่ะว่าผมมีแฟนแล้ว หวงแฟน อะไรทำนองสนับสนุนความเชื่อของตัวเองสุดฤทธิ์อย่างที่มันทำเหมือนทุกทีนั่นแหละ

ผมถอนหายใจ อาบน้ำอีกรอบเพื่อความสดชื่น ใส่เสื้อผ้าตัวที่คิดว่าน่าจะดูดีมีหลักการ เพราะร้านที่จะไปเป็นของรุ่นพี่สายรหัสของไอ้ทิว ต่อหน้าผู้ใหญ่ก็ต้องทำตัวดีเข้าไว้ จริงไหมครับ แต่เป็นพี่รหัสของเพื่อน พิธีรีตองมากไปจะไม่แนว เพราะฉะนั้น ชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงขาสั้นจึงเป็นคำตอบที่น่าจะเวิร์คที่สุดแล้ว


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2012 15:45:48 โดย zellda »

zellda

  • บุคคลทั่วไป
ผม ไอ้ทิวกับไอ้มายด์เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัย ม. ต้น ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันมาก ถึงเราจะนิสัยไม่เหมือนกัน ชอบอะไรต่างกัน แต่เราก็เข้ากันได้ เราเข้าใจกันและกัน และเชื่อใจกันและกันเสมอ ผมเลยไม่เคยมีความลับกับพวกมัน อันที่จริง ถึงอยากมีก็มีไม่ได้ เพราะพอผมทำตัวมีพิรุธ มันก็จะมาเค้นเอาความจริงไปจนได้นั่นแหละ เรื่องที่ผมเป็นเกย์ พวกมันก็เลยรู้ ผมก็บอกพวกมันตรงๆนะ ตอนที่ตัวเองรู้ ก็บอกพวกมันทันที บอกไปว่าเป็นเกย์ ถ้ารับได้ก็เป็นเพื่อนกันต่อไป รับไม่ได้มึงก็ไปจากกูซะ ..ตอนนั้นผมก็ดีใจนะที่ในที่สุด เราก็เป็นเพื่อนกันมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ทุกวันนี้ไม่รู้ตัวเองรู้สึกไปเองหรือเปล่า เหมือนเจอหน้าพวกมันทีไร เซลล์สมองจะยิ่งฝ่อลงไปทุกที คิดแล้วเหนื่อย.. ผมสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองนิดหน่อย ล็อคประตูห้องแล้วเดินไปเรื่อยๆ ..ผมไม่ชอบนั่งแท็กซี่ เพราะมันเปลือง เงินสำหรับผมสำคัญมาก เพราะมันเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ที่มาผับกับไอ้เอบ่อยๆก็ไม่เคยกินเหล้า ไม่เคยสั่งดริ๊งค์ใคร แค่มานั่งคุยกันเฉยๆ ..ที่วันนี้มาก็เหมือนกัน จะว่าผมเป็นคนประหยัด ตระหนี่ถี่เหนียว ขี้งก เค็มเป็นเกลือ หรืออะไรอย่างนั้นก็ได้ เพราะมันก็จริง ผมงก เพราะถ้าไม่งก ผมก็ไม่มีข้าวจะกิน ไม่มีเงินเรียนหนังสือ ถึงครอบครัวผมจะไม่จน แต่ก็ไม่ถือว่าร่ำรวยอะไร และเพราะเงินใช้จ่าย น้าชายเป็นคนควบคุมเพราะพ่อแม่ผมตายตั้งแต่ยังเด็ก ผมเลยไม่มีเงินค่าขนมมากนัก น้าชายแค่ให้มาเท่ากับจำนวนที่เพียงพอแค่จ่ายค่าเทอม ส่วนที่เหลือผมต้องหาเอง ผมทำงานพิเศษหลายที่ บางครั้งเลยไปเที่ยวกับพวกไอ้ทิวไอ้มายด์ไม่ได้ แต่พวกมันก็ไม่ทิ้งผม ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนพวกมันก็มาชวนผมก่อน ไม่ไปก็คือไม่ไป เพียงแต่ยังไงก็ให้ผ่านตาผ่านหูผมว่ามันจะไปที่ไหน..จะว่ามันเป็นเพื่อนดีก็ดี จะว่ามันเป็นเพื่อนเลวก็ดี .. ก็เอาเถอะ ทุกคนต่างก็มีดีมีไม่ดีอยู่ในตัวทั้งนั้น..

เดินๆไปเรื่อยๆก็ถึงร้าน โชคดีที่ร้านอยู่ไม่ไกลมาก ร้านเอ็มแอนด์เอ็มของพี่มุกตั้งอยู่ใกล้ๆกับหน้า ม. เยื้อนมาอีกหน่อยก็ถึง ทำให้มีนักศึกษาหลายคนใช้เป็นที่ผ่อนคลาย แต่ผมไม่ค่อยได้ไปเท่าไหร่เพราะที่นั่นมันไฮโซเกินกว่านักศึกษากินนอนตัวกรอบอย่างผมจะเข้าไปได้ มีครั้งเดียวที่ได้เข้าไปก็คือตอนที่ไอ้ทิวพามา คราวนั้นจ่ายค่าเหล้ากันหูฉีก แต่คราวนี้มันว่ามีคนเลี้ยง ผมก็..เอาวะ..คนเลี้ยงทั้งที..แถมคราวนี้โชคดีไม่ต้องไปทำงานพิเศษทดแทนพี่ส้มด้วย

“เพื่อนเอ!” ไอ้มายด์ยืนรออยู่หน้าผับทักผมซะคนทั้งลาดจอดรถมองเป็นตาเดียว

“ไอ้มายด์ มึงทักกูเบาๆก็ได้”

“โทษๆ กูเห็นมึงเหม่อๆ คิดถึงผัวเหรอ?”

“มึงเลิกล้อกูซักที!”

ไอ้มายด์เห็นไอ้ทิวโทรฯหาผม แถมชวนสำเร็จเสร็จไอ้ทิวก็ทำท่ายังกับถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง มันที่แอบฟังอยู่เงียบๆก็เลยเป็นฝ่ายขอออกมารับผมเอง มันว่าบางทีก็ทนไม่ได้กับท่าทีโอเวอร์แอคติ้งของไอ้ทิวลี่ทวินเหมือนกัน ไอ้มายด์ว่าวันนี้มันเอาหนังสือชีวฯมา ผมก็เอาภาษาอังกฤษติดมาเหมือนกัน จะว่าบ้าก็ได้ แต่เนื่องจากผมกับไอ้มายด์เป็นประเภทไม่ดิ้น ไม่ใส่สเก็ตลงลานแบบไอ้ทิว ไอ้มายด์เอาอะไรมาฆ่าเวลาอย่างหนังสือติดตัวมาตลอด ผมเห็นอย่างนั้นเลยเอามาบ้างจนติดนิสัย เอาหนังสือมาอ่านในผับ ..ตอนแรกผมก็อึ้งเหมือนกัน ตอนมาผับด้วยกันครั้งแรก ไอ้มายด์เอาหนังสือฆาตกรรมในห้องปิดตายมาอ่านเฉย ต่อมาเริ่มเอาหนังสือวิชาการมาอ่านจบสองสามเล่มในคืนเดียว..ไอ้มายด์ชอบหนังสือมาก มันว่าฆ่าเวลาง่ายที่สุดแล้ว..

“เพื่อนมายด์ เพื่อนเอ พวกมึงนี่ ! ที่นี่ในผับนะ ทำไมไม่ไปดิ้นกันวะ มึงสองคนอ่านหนังสือ ได้ไงในที่แบบนี้”

“ก็จริงๆมันก็ไม่ได้อึกทึกอะไรขนาดนั้น อีกอย่าง กูก็ฆ่าเวลาตอนมึงไปดิ้นไม่มาดริ้งค์มาเผากะพวกกูไง” ไอ้มายด์กับผมยังคงไม่สนใจไอ้ทิวที่หิ้วสาวมาด้วย เราก็ยังคงมุ่งมั่นอ่านหนังสือของเราไปเรื่อย วันนี้ผมติวอังกฤษให้ไอ้มายด์ ไอ้มายด์ติวชีวฯให้ผม ก็สนุกดี..

“กูอ่านของพวกกูได้ก็แล้วกัน” ไอ้มายด์พูดนะ ผมไม่ได้พูด

“ทำไมเวลากูพามาดิ้นทีไร พวกมึงต้องมาอ่านหนังสือกันวะ?” ผู้หญิงที่มันพามาด้วยหัวเราะคิกคัก ไอ้มายด์ถลึงตาใส่ แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่สนใจ เอาอกอวบๆของตัวเองเบียดแขนไอ้ทิวใหญ่

“เหตุผลก็คงอย่างเดียวกับที่ทำไมเวลามึงพาพวกกูมาทีไร มึงต้องหนีบกะหรี่ขึ้นเตียงทุกทีล่ะมั้ง” เฮ้ยๆ ไอ้มายด์แม่งของขึ้นมาจากไหนวะเนี่ย

“ไอ้มายด์! พูดดีๆ น้องเขากะหรี่ที่ไหน” ท่าทางเหมือนจะเริ่มศึก แต่พวกคุณดูนะ ไอ้สองตัวนี้ไม่กัดกันหรอก “เขาแค่ใจง่ายจะให้กูเอาแค่นั้นเอง..เอ๊ะ แต่น้องครับ มันเหมือนกะหรี่หรือเปล่าครับ? ” โห ไอ้ทิว ปากอย่างนี้มึงรอดตายมาได้ไงวะ?
ผมก็ดีใจอยู่หรอกที่มันไม่ต่อปากต่อคำไอ้มายด์ แต่นี่ไอ้ทิว มึงจะหาเรื่องให้ผู้หญิงเค้าตบเอาเหรอวะ!? มีอย่างที่ไหนหันไปถามเค้าว่า เค้าต่างจากกะหรี่ตรงไหน มันเท่ากับหาว่าเค้าเป็นกะหรี่ชัดๆ ..ไอ้ทิวมันวอนตายเลยนะนั่น
แม่ยอดหญิงหุ่นอวบเล็บแดงปากแดงโกรธตาแทบถลน เงื้อมือจะตบไอ้ทิว แต่ไอ้ทิวมันไว คว้าไว้ได้ก่อน ..ผมโล่งใจอยู่ไม่น้อย เพื่อนผมหวิดโดนเล็บแดงแซกหน้าเลยนะเนี่ย

“กล้าดียังไง..”

“อย่ามีเรื่องเลย ไปเหอะ เพื่อนผมโกรธแล้ว” โห หน้าไอ้ทิวมันยิ้มอย่างกับ..โอย ไม่อยากจะบอกว่าตอนนี้คนมองเป็นตาเดียวแล้วเฟ้ย ไอ้ทิวนี่มันใจดีสู้เสือจริงๆ
สุดท้ายสาวคนนั้นก็สะบัดผมยาวๆจากโต๊ะเราไป

“อะไรกันๆ แค่กูทักว่าเอาหนังสือมาอ่านนิดเดียว มึงก็โกรธแล้วเหรอวะ”

“กูเปล่าโกรธ แต่กูไม่ชอบ ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะกู กูไม่ใช่ตัวตลก”

“เพื่อนเอ..อย่างนั้นเค้าเรียกว่าโกรธหรือเปล่า?”

“อืม กูว่าไม่ใช่ก็ใกล้เคียง” เอากับมัน ..จริงๆไอ้มายด์ก็ไม่ได้โกรธอะไรมาก แค่มันกำลังอ่านหนังสือค้างอยู่ แล้วมีคนมาหัวเราะขัดจังหวะมันเท่านั้นแหละ มันเลยไม่พอใจนิดหน่อย ..ผมว่าอะนะ...

“เออ..แล้วอาการประมาณเมียหลวงโกรธผัวนี่มันอะไรวะ?”

“นั่นสิเพื่อนทิว.. เฮ้ย หรือว่ามึง มึง มึง..” ผมก็ล้อมันไปงั้นแหละ

“ไอ้เอ มึงไม่กลับไปหาผัวเหรอไง” โห ไอ้มายด์มึงเล่นเปลี่ยนหัวข้อได้ใจกูมาก

“ก็บอกว่ากู..” ยังไม่ทันแก้ตัวเสร็จพี่มุกก็เข้ามาที่โต๊ะเรา

“ไง ..สั่งได้เต็มที่นะ ไม่เมาไม่เลิก” พี่มุกตบบ่าไอ้ทิวทักทาย เห็นหน้าไอ้ทิวแล้วสยองแทน ท่าทางมือพี่แกคงจะหนักใช่ย่อย “กูเห็นนะไอ้ทิว มึงไล่แขกร้านกูซะ”

“โอย เจ็บครับพี่ เจ็บ” พี่มุกเล่นหยิกต้นแขนไอ้ทิว ผมกับไอ้มายด์เห็นแล้วเจ็บแทน “ว่าแต่..เมื่อกี้บังเอิญได้ยินว่า น้องเอแห่งทรีโอมีแฟนเหรอ? จริงหรอ?”

“ไม่จริงครับพี่!” ผมรับปฏิเสธ

“ไม่จริ๊ง ไม่จริงเลยครับ แต่ก่อนออกมานี่ผมโทรฯไปมันยังเล่นกีฬาในร่มกับแฟนอยู่เลยครับ โอ๊ย ทำไมวันนี้กูโดนบ่อยจังวะ กูโง่ขึ้นมาทำไงเนี่ยไอ้เอ” ก็ดีสิ

“ว้าย เห็นเงียบๆ ไฟแรงสูงเหมือนกันนะเรา”

“ไม่ใช่ครับพี่มุก ผมยังไม่มีแฟน”

“เออ มึงไม่มีแฟน แต่มีคนจองแล้ว มีผัวเป็นตัวตนแล้ว”

“ไอ้มายด์!” อ่านหนังสืออยู่อย่างนั้นก็ดีแล้วแท้ๆ ..พี่มุกทำหน้าตกใจ หวังว่าพี่แกจะไม่ได้คิดจริงจัง เพราะจริงๆผมก็ไม่ค่อยอยากให้ใครรู้มากนักหรอกว่าผมเป็นเกย์ ..

“ผมไม่มีแฟนจริงๆครับพี่มุก ผมยังบริสุทธิ์นะ” เอ๊ะ เหมือนผมพูดอย่างกับสาวน้อยไร้เดียงสาตอนโดนพระเอกเค้นความจริงเลยว่ะ โอย..คิดแล้วเลือดลมเดินติดขัดยังไงไม่รู้..หน้าแดงให้พี่มุกเห็นหรือเปล่าเนี่ย แสงสีของที่นี่ก็ไม่ได้มืดสลัวซะด้วยสิ

“จริงหรือเปล่าเอ อย่าโกหกพี่นะ อย่างเอเนี่ยนะยังไม่มีแฟน”

“จริงสิครับพี่” เสียงชักเริ่มอ่อย ไม่กล้ามองหน้าพี่มุกเพราะแกกำลังทำสายตาล้อเลียนส่งมาให้นั่นแหละ

“งั้นพี่หาแฟนให้ไหม? ว่าแต่..ตกลงชอบผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ย?”

โห พี่มุก..ทำไมพี่ไม่เอามีดมาผ่าอกผมเลยล่ะครับ เอาคำตอบจากใจผมไปเลย ไม่ต้องให้ผมพูดตอบออกไปได้ไหม ..เพราะผมว่ามันก็รู้สึกกระอักกระอ่วนยังไงไม่รู้ที่ต้องมาบอกว่าตัวเองเป็นเกย์กับคนที่ไม่ค่อยสนิทกัน..

“พี่มุกครับ” ผมเสียงอ่อยใส่ พี่มุกแกก็โบกมือประมาณว่าไม่เป็นไร

“พี่เข้าใจนะ อย่างน้องเอจะเป็นอะไรแบบนั้นพี่ก็ไม่แปลกใจหรอก”

“เหรอครับ?”

คือ ..ผมอยากจะถามว่า แล้วทำไมอย่างผมเป็นเกย์นี่ไม่แปลกล่ะครับ

“..แต่ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกัน” ไอ้มายด์เขยิบที่ให้พี่มุก ตาก็ยังคงจดจ้องอยู่แต่หนังสือ ส่วนไอ้ทิวก็ถือโอกาสมานั่งข้างๆผม ..ไอ้นี่ก็ยืนอยู่ตั้งนาน

“แล้วตกลงว่าไงล่ะ เดี๊ยวพี่หาแฟนให้เอาไหม ในนี้ก็มีพวกหล่อๆอยู่เหมือนกันนะ อย่างตอนเดินมาโต๊ะนี้ พี่เห็นแขกหลายคนจ้องน้องๆโต๊ะนี้ ตางี้เยิ้มเชียว เสน่ห์แรงทั้งสามคนเลยนะ” พี่แกก็พูดไป.. จะว่าไงอ่ะ ผมก็ได้แต่ยิ้มรับ ..ที่เขามองมาเพราะโต๊ะเราเพิ่งเกือบจะกลายเป็นสังเวียนไปเมื่อกี้ไม่ใช่หรือครับ..

“เฮ้ย แล้วนี่เพื่อนเอ มึงไม่มีแฟนจริงๆเหรอวะ ไอ้เราก็นึกว่า เพื่อนเราขายออก พวกกูก็นึกว่ามึงจะ..เออ แต่จะว่าไป มึงก็ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร มึงไม่น่ามีแฟนเลยนี่หว่า เนอะ” มันถามความเห็นไอ้มายด์ คนอ่านหนังสืออยู่อย่างขะมักเขม้นได้แต่ตอบอืมมาอย่างเดียว

“ก็เออสิ แล้วพวกมึงก็ไม่ฟังกันเลย ก็บอกแล้วว่ากูไม่มีแฟน อย่าว่าแต่จะสุงสิงกะใครเลย แค่กูอยู่กับพวกมึงกูก็เหนื่อยจะตายแล้ว ขืนมีมาเพิ่ม กูไม่กระอักเลือดตายก่อนวัยอันควรเหรอ แล้วทีมึงล่ะ”

“ทีกูอะไร” ไอ้ทิวทำเสียงกวน กระดกเหล้าเข้าปากรวดเดียวอย่างกับดื่มน้ำเปล่า

“ก็ขนาดมึง มีผู้หญิงมาให้ควงเป็นว่าเล่น สุงสิงกับใครตั้งมาก มากกว่ากูกว่าไอ้มายด์ตั้งเยอะ แต่กูไม่เห็นว่ามึงจะมีแฟนคนไหนมาอวดเลยนี่ จริงไหมมายด์”

“ก็ไม่รู้..บางทีมันอาจจะไม่บอกพวกเราก็ได้” ไอ้มายด์ละจากหนังสือ จิบเหล้าเข้าปากอีกคนเฉยเลย คราวนี้มันปิดหนังสือไปแล้ว คงเห็นว่าพวกเราเริ่มตั้งวงคุยกันแล้วล่ะมั้ง เลยเอาที่คั่นหนังสือคั่นหน้าไว้ แล้วมาฟังพวกเราคุยกัน

“ไม่เอาด้วยหรอก แฟนน่ะ..กูยังไม่อยากเอาใจใครตอนนี้ แค่พวกมึงกูก็ปวดหัวจะตายแล้ว มีแฟนอีกคน กูตามเอาใจไม่ไหวจริงๆ”

“นี่มึงเอาใจพวกกูแล้วเหรอ?” ไอ้มายด์ยิ้มเป็นครั้งแรกของวัน แต่เป็นยิ้มแบบเย้ยไอ้ทิวอ่ะนะ.. ส่วนผมที่ว่างๆก็เอาเหล้ามาจิบบ้างอะไรบ้าง รสชาติมันแย่แต่ก็ช่วยให้มีอะไรทำ แต่พอผมทำหน้าปุเลี่ยนๆ พี่มุกก็หัวเราะ..ผมไม่ชอบอ่ะ เหล้าแม่งขมอย่างนี้ทุกยี่ห้อหรือเปล่าวะ?

“กินไม่ได้ล่ะสิ เอางี้เดี๊ยวพี่สั่งคอกเทลล์ให้ มันขมล่ะสิ” พี่มุกหัวเราะเพราะเห็นผมสำลักออกมา ทำหน้าแหยๆ พี่แกเรียกบริกรมารับออเดอร์ แกสั่งไหมไทยให้ผม ก็ไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร แต่พี่เค้าคงไม่ได้แกล้งผมหรอก จริงไหม

“ไม่ใช่เหล้าร้านพี่ไม่อร่อยหรอกนะ แต่ไอ้เอมันไม่ค่อยชอบอะไรขมๆน่ะพี่” ไอ้ทิวเห็นท่าทางสำลักของกูเมื่อกี้ล่ะสิ มึง ..หัวเราะใหญ่เลยนะ ทำไมวะ ขนาดไอ้มายด์ยังกินเหล้าเป็นเลย..แถมคอแข็งอีกต่างหาก เผลอแป็บเดียวมันล่อไปขวดแล้ว!

“ไอ้เอ..ไอ้ทิว กูกลับก่อน กูว่ากูเมา” อ๋อ..ตกลงมึงไม่ได้คอแข็งสินะ เฮ้ย ..ผมเหลือบไปมองขวดตรงหน้าไอ้มายด์ แม่งล่อไปสองขวดแล้วเหรอวะ? เพื่อนกู ดื่มเร็วขนาดนั้น ไม่เมาก็ไม่รู้จะว่ายังไง

“อ้าว? เฮ้ย แล้วมึงเมา มึงจะกลับยังไง” ไอ้ทิวถาม ..ผมก็ว่า แต่ไอ้มายด์ไม่สนตั้งหน้าตั้งตาเก็บของตัวเองแล้วเดินออกไปเลย แต่ก็ยังไม่วายลาพี่มุก มันหันกลับมายกมือไหว้บอกขอบคุณครับที่เลี้ยง

“เฮ้ย! รอกูก่อน” ไอ้ทิวที่ลุกตามออกไปไม่ได้ไหว้ลาพี่มุก ผมก็ว่าจะลุกออกไปด้วยเหมือนกันเลยขอลาพี่มุกตรงนี้เลย

“อยู่ต่ออีกหน่อยสิ” พี่มุกว่า

“แต่ว่าเพื่อนผม” จะปฏิเสธยังไงดีล่ะกู อ้าว ไอ้มายด์เอาหนังสือภาษาอังกฤษผมไปด้วย ผมได้แต่มองตามแผ่นหลังของทั้งคู่ลับหายไป

“มายด์น่ะ เดี๊ยวทิวเค้าก็ดูแลเองนั่นแหละ” พี่มุกยิ้มแล้วชวนให้ผมอยู่ต่อเป็นเพื่อนแกอีกนิด

“เอเรียนอะไรเหรอ? เรียนคณะเดียวกันกับทิวหรือเปล่า?”

“อ่อ ครับ แต่เอกคนละวิชา”

“ไม่น่าเชื่อเนอะว่าอย่างทิวนี่จะเรียนวิศวะ”

“ครับ อย่างมันนี่น่าจะเป็นสถาปัตย์ซะมากกว่า มันก็มีฝีมือด้านนี้นะครับ แล้วดูท่าทางมันก็ชอบด้วย แต่มันบอกว่าชอบวิศวะมากกว่า”

“แล้วมายด์ล่ะ”

“เหมือนกันครับ เราสามคนเรียนด้วยกันตั้งแต่ม.ต้น อยากเรียนที่เดียวกันก็เลยเลือกอันดับไว้เหมือนกันหมด ตอนติดที่นี่ก็ออกไปฉลองกันใหญ่”

“อืม..ตอนพี่รู้จักทิวแรกๆน่ะ..คิดว่าเขาเป็นคนเงียบขรึมมากเลยล่ะ แต่พอมาเห็นอยู่กับเอ กับมายด์แล้ว เหมือนเป็นคนละคนเลย”

“ตอนแรกที่รู้จักกันมันก็ดูจะเป็นอย่างนั้นแหละครับ แต่เดี๊ยวพอพี่รู้จักมันไปเรื่อยๆ ไอ้ทิวก็เป็นอย่างไอ้ทิวเมื่อกี้แหละครับ”
เราหัวเราะคุยเรื่องราวอะไรกันอีกหน่อย ผมมองนาฬิกา มันดึกมากแล้ว ผมเป็นห่วง กลัวไอ้มายด์เมาแล้วอาละวาดไอ้ทิว เลยขอลากลับแล้วโทรศัพท์หาไอ้ทิว แต่ไม่รับสาย เอาเหอะ เดี๊ยวไปถึงหอก็รู้เอง

เราสามคนพักหอเดียวกัน แต่คนละห้องนะครับ ห้องติดกันเลยไปมาหาสู่เหมือนเป็นสามห้องรวมกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร มีกุญแจสำรองของแต่ละห้องเอาไว้เหมือนเป็นเจ้าของร่วมกันสามคน..

ผมเดินกลับมาถึงหอ มันมืดมากแล้ว เลยต้องใช้ประตูหลัง ผมเลยต้องเดินอ้อมไปไกล เจอเจ้าของหอ ป้าแกก็บ่นอยู่เหมือนกันว่าเห็นไม่กลับมานานแล้ว นึกว่าโดนใครฉุดไปซะอีก แกออกจะเป็นห่วงมากกว่า แกเข้าใจว่าวัยรุ่นสมัยนี้มันก็ เป็นค้างคาวเที่ยวกลางคืนบ้างอะไรบ้าง แกไม่ว่าอะไรถ้าจะกลับดึก แต่ถ้าดึกมาก แกก็เป็นห่วง แกรักเด็กในหอเหมือนลูกเหมือนหลานแก

“ขอโทษครับป้า ว่าแต่ เห็นทิวกับมายด์ไหมครับ”

“อ่อ..สองคนนั้นขึ้นไปตั้งนานแล้วล่ะ ท่าทางจะเมาหนักเลยนะ”

“ครับ..ขอโทษนะครับป้าที่ทำให้เป็นห่วง”

“จ้า แล้ววันนี้ไม่ไปทำงานพิเศษเหรอ?”

“เปล่าครับ วันนี้พอดีเค้าหยุดน่ะ ผมเลยฟรีได้วันหนึ่ง”

“ก็เลยออกไปเที่ยวราตรีกันสามคนงั้นสิ”

“แฮะๆ นานๆทีน่ะครับป้า”

“เอ้อ..ไปเถอะๆ ..ฝากดูมายด์ด้วยเอ ท่าทางไม่ใช่น้อยๆเลย”

“ครับ” คราวนี้ไอ้มายด์คงอาละวาดหนักเลยสิ เห็นมันตัวเล็กๆ มือเท้าบางๆ แต่มันเตะหนัก ถีบหนัก เวลาเมานี่ยิ่งมือหนัก ตอนมันเมาอย่าปล่อยให้มันอยู่คนเดียว ไม่งั้นมันจะทำห้องเละเหมือนโดนโจรขึ้นได้เลยล่ะ..ไอ้มายด์เวลาเมาชอบอาละวาด ไม่สมตัวมันเลย..

   ผมเดินไปกดลิฟท์ พอขึ้นไปถึงก็ใช้กุญแจสำรองเปิดเข้าไปห้องไอ้มายด์ ห้องมันออกแนวสนามรบนิดหน่อย ข้าวของกระจัดกระจาย ผมได้แต่เดินเลี่ยงเข้าไปด้านใน สิ่งที่เห็นคือไอ้ทิวกำลังโดนร่างเปลือยท่อนบนชวนหวาบหวิวของไอ้มายด์คร่อมอยู่!

   พวกมึง..หรือว่า..พวกมึง.. โอย ผมตะลึงตะลานทำอะไรไม่ถูกเลยคราวนี้!

   “เฮ้ย! ไอ้เอ! ช่วยกูที ไอ้มายด์มันจะฆ่ากู!” หา! อะไรนะมึง กูตามพวกมึงไม่ทัน! นี่ไอ้มายด์คลั่งขนาดนั้นเลยเหรอ!? แต่ผมจะห้ามมวยคู่นี้ยังไงวะ

“แล้วจะให้กูทำอะไรล่ะเนี่ย?”

“เอาไอ้มายด์ขึ้นก่อน!” แรงไอ้มายด์มหาศาลทั้งที่มันตัวเล็กกว่าพวกเราทั้งสองคน ผมเกือบโดนซอกไอ้มายด์เสยคางเข้าซะแล้ว แต่ก็แยกคู่มวยออกมาได้ ไอ้มายด์ดูเหมือนจะเหนื่อย เลยมึนๆขึ้นไปนอนบนเตียงตัวเอง

“เกิดอะไรขึ้นวะ?” ไอ้ทิวที่ได้แต่นั่งหอบอยู่ข้างๆผมพยายามจะบอก แต่พอมันชี้ไปที่ไอ้มายด์เท่านั้นแหละ เจ้าของมือเล็กๆก็จิกหัวมันเข้าไปหาทันที มันสบถด่าไอ้ทิวหลายคำก่อนจะพูดงึมงำๆ ..ก็ตามประสาคนเมาแล้วอาละวาด

“อึก..มึงเจ้าชู้ฉิบหาย ทำไมโลกนี้ถึงมีคนแบบมึงวะ เคยจริงใจกับใครแบบไม่หวังขึ้นเตียงกับเขาบ้างไหม กูถามจริงๆ คงไม่เคยเลยใช่ไหม จะเป็นใครก็ได้ใช่ไหมล่ะ ไอ้สันดาน ไอ้สันขวาน ไอ้หอกหัก มึงรักใครไม่เป็นใช่ไหมล่ะ เอิ้กส์..” แล้วก็ตามด้วยสิงราราสัตว์อีกสองสามชนิด ไอ้ทิวพยายามแกะมือเล็กๆนั่นอยู่นาน ผมไม่รู้จะทำยังไงดีว่ะ จู่ๆทำไมไอ้มายด์ของขึ้นอย่างนี้วะ?
“มึงมันเห็นแก่ตัว มึงไม่เคยนึกถึงใจคนอื่นเค้าเลยใช่ไหม กูนะอุตส่าห์...เอิ้กส์ ..มึงมันXXX อึก..” แล้วนั่นก็เป็นประโยคสุดท้าย ไอ้มายด์งึมงำพึมพำอีกนิดหน่อยก่อนจะปล่อยหัวไอ้ทิว

“วันนี้ไอ้มายด์เป็นอะไรวะ?”

“กูไม่รู้ พอกูลากขึ้นมาถึงห้อง มันก็ถอดเสื้อพากูขึ้นเตียง ตบซ้ายตบขวาจนหน้ากูแสบไปหมด แล้วมันก็ด่ากูสารพัดอย่างที่มึงเพิ่งได้ยินไปเมื่อกี้นั่นแหละ”

ไอ้มายด์เป็นอะไรหว่า?

“เดี๊ยวกูเก็บห้องละกัน ไอ้เอมึงไปเช็ดตัวให้มันเหอะ”

“อ้าว?” ปกตินี่หน้าที่มึงไม่ใช่เหรอ?

“กูไม่อยากโดนมันอัดอีก ไอ้มายด์ตัวเล็กแต่เสือกแรงเยอะฉิบหาย ตบกูที ต่อยกูที  ไม่รู้พรุ่งนี้หน้ากูจะหล่อเหมือนเดิมหรือเปล่า ปกติมันไม่เป็นขนาดนี้นะ”

“เออ กูก็..ว่ามึงไปดูหน้าตัวเองก่อนเหอะ เดี๊ยวกูเช็ดตัวเสร็จ ได้ช่วยมึงเก็บห้องไอ้มายด์ เละอย่างกับโดนโจรขึ้น ถ้าป้าน้อยรู้มีหวังโดนเทศน์สามวัดเจ็ดวันแน่”

“หน้ากูเละขนาดนั้นเลยเหรอ เฮ้ย เดี๊ยวกูไปห้องน้ำก่อน”

ผมเดินไปเอากะละมังที่คว่ำอยู่ตรงหัวเตียง น้ำเฉอะแฉะเอ่อนองมีผ้าขนหนูผืนเล็กวางซับไว้ ผมเอาไปล้างที่อ่าง ตาก็เหลือบมองไอ้ทิวทำหน้าสลด เพราะฤทธิ์ไอ้มายด์ สงสัยไอ้ทิวหาสาวไม่ได้ไปหลายอาทิตย์ คิ้วแตก ปากเจ่อ แถมตรงแก้มมีแผลจากรอยเล็บกับรอยฝ่ามือชัดเจนซะจนน่ากลัว

ผมบิดผ้า รองน้ำใส่กะละมังออกมาหาไอ้มายด์ที่นอนสลบไสลไม่ได้สติไปแล้ว ไอ้มายด์ครางงึมงำ ..ไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้.. ผมเช็ดตัวให้มันซักพัก ไอ้ทิวก็ออกมาจากห้องน้ำ หน้ามันมีปาสเตอร์แปะสองที่ ป้ายยาอีกสามที่ นอกนั้นตามตัวคงช้ำในไปตามระเบียบนั่นแหละ เพราะเห็นมันก้มลงเก็บของทีไร เป็นต้องกุมท้อง สงสัยคงเพราะโดนไอ้มายด์อัดเข้าเต็มๆ..

ไอ้มายด์เป็นอะไรหว่า? ทำไมไม่เหมือนไอ้มายด์ที่ใจเย็นเป็นน้ำแข็ง สงบนิ่งเหมือนต้นไม้ใหญ่กลางพายุ ไม่ไหวติงเหมือนน้ำในทะเลสาบ ...วันนี้ ไอ้มายด์ที่เคยเป็นแบบนั้น กลับมีไอ้มายด์อีกคนเข้ามา ..เป็นไอ้มายด์แบบที่พวกผมไม่เคยคิดว่าจะดุร้ายได้ขนาดนี้.. ไอ้มายด์ต้องมีอะไรอยู่ในใจแน่เลย

ผมเช็ดตัวคนเมาเสร็จก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้มัน เปิดแอร์ให้มันนอนสบายๆ ส่วนไอ้ทิวก็เก็บของเสร็จพอดี ผมกำลังจะแยกย้ายกลับห้อง แต่ไอ้ทิวบอกว่าเราควรอยู่เป็นเพื่อนไอ้มายด์มันก่อน ท่าทางมันคงจะมีอะไรไม่สบายใจถึงได้ลงกับไอ้ทิวแบบนั้น..ไอ้มายด์ไม่ได้เป็นคนไร้เหตุผล แต่ก็เป็นคนที่ไม่ชอบเผยความรู้สึก เฝ้าไว้จะดีกว่า เผื่ออีกฝ่ายทำอะไรบ้าๆ เราสองคนจะได้ช่วยกันห้ามได้..

เราสองคนเลยตัดสินใจนอนบนพื้นห้องไอ้มายด์นั่นแหละ
โอย..วันนี้มันวันอะไรวะเนี่ย?

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-11-2011 05:21:26 โดย zellda »

zellda

  • บุคคลทั่วไป
€   €   €   €   €   €   €   €   €   €   €


“โอย หลบ หลบ โอ้ก!”

คนอื่นต้อนรับเช้าวันใหม่ด้วยอากาศสดใส แต่ผมต้อนรับเช้าวันใหม่ด้วยการเป็นกระโถนแบบปัจจุบันทันด่วนให้เพื่อนมายด์! แม่งอ้วกรับอรุณกูเลยนะ!

ผมอาบน้ำสระผมล้างตัวในห้องไอ้มายด์นั่นแหละ เสื้อผ้าก็ยืมมันเอา ถึงมันจะตัวเตี้ยกว่าผม แต่หุ่นเราค่อนข้างใกล้เคียงกัน ผมเลยใส่เสื้อผ้าไอ้มายด์แล้วกลับไปเปลี่ยนที่ห้องอีกรอบ ไอ้ทิวออกไปแต่เช้าเลยไม่เจอรับอรุณแบบผม มันกลับมาเห็นผมหน้ามุ่ย เข้าใจว่าผมคงกำลังหิวเลยยื่นปาท่องโก๋กับข้าวต้มให้ผมไปเทใส่ชาม..

“กูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจ” ไอ้มายด์พูดขอโทษ แต่ไม่รู้ว่ามันพูดกับใคร เพราะรู้สึกมันจะมีคดีติดตัว ทั้งกับผม ทั้งกับไอ้ทิว..ผมได้แต่ตักข้าวต้มข้าวปาก หายใจฟึดฟัด ร้อน!

“แล้วมึงไปโดนอะไรมาน่ะ? หน้าดูไม่จืดเลย”

   “โดนมือโดนตีนมึงนั่นแหละ เมื่อคืนมึงเล่นกูซะยับเลยนะ” ไอ้ทิวหย่อนปาท่องโก๋เข้าปากแตกๆของมัน มันร้องโอดโอย “กูเลยกินข้าวต้มไม่ได้เลยเนี่ย”

   “กูขอโทษว่ะ เมื่อวานกูไม่รู้เรื่องอะไรเลย กูทำอะไรไป?”

   “..เมื่อวานมึงด่าไอ้ทิว มึงโวยวายใส่มันแล้วก็...มึงก็... กูคงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ก็ผลงานมึงอยู่บนตัวไอ้ทิวครบเลยนี่”

   “ขอโทษ”

   “เออ ไม่เป็นไร แต่กูอยากรู้..มายด์ มึงมีอะไรในใจ บอกพวกกูมา” น้ำเสียงไอ้ทิวจริงจัง อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ มีหือจะไม่รู้ว่าไอ้มายด์ผิดปกติไป.. ผมก็จริงจังนะ จะตักกุ้งตัวใหญ่ใส่ปาก ก็วางช้อนหันไปมองหน้าไอ้มายด์ทันที..

   “..กู..” ไอ้มายด์อ้าปากค้าง เหมือนจะพูด แต่สุดท้ายก็หุบปากฉับ “เอาไว้กูพร้อมเมื่อไหร่ กูจะบอกแล้วกัน ตอนนี้กูยอมรับว่ามีเรื่องอะไรในใจ แต่ขอเวลากูหน่อย พวกมึงรอได้ใช่ไหม”

   “ได้ / ไม่ได้”

   ผมน่ะตอบว่าได้ ..แต่ไอ้ทิวน่ะ มองไอ้มายด์ตาดุเชียว

   “กะ..กู..ขอเวลาหน่อย” ไอ้มายด์หน้าซีด

   “ไม่ได้ ...มึงจะมีความลับกับพวกกูเหรอมายด์” ไอ้ทิวเรียกไอ้มายด์ด้วยชื่อเพียวๆ ใบหน้ามันจริงจังมาก แต่มือมันก็หยิบปาท่องโก๋จิ้มนมยัดปากเข้าไปเคี้ยวกร้วมๆ

   “..กูก็เห็นด้วยนะ มึงมีความลับอะไรวะ บอกพวกกูไม่ได้เลยเหรอ?” ผมสมทบ ถึงจะตอบว่าได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าผมจะอยากให้เพื่อนมีความลับปิดบังเราหรอกนะ

   “ไม่ใช่ว่าบอกไม่ได้ กูบอกได้ และกูจะบอกแน่ๆ ..แต่ขอเวลากูหน่อย”

   “..งั้นมึงก็บอกเหตุผลมาสิว่าทำไมบอกพวกกูตอนนี้ไม่ได้ ถ้าเหตุผลฟังขึ้น พวกกูถึงจะรอ แต่ถ้าฟังไม่ได้ พวกกูจะเค้นจากมึงเอาตอนนี้นี่แหละ”

   “กู..ยังไม่มั่นใจ..กูกำลังลังเล ..กูกำลังตัดสินใจอยู่ มึงเข้าใจไหม ตอนนี้กูไม่มีคำตอบให้พวกมึง กูมีเรื่องในใจ แต่คำตอบของเรื่องยังไม่มี ถ้าพวกมึงอยากรู้ กูจะบอก แต่ตอนนี้กูเองก็ยังไม่รู้ ขอเวลาให้กูตัดสินใจหน่อย ถ้ากูตัดสินใจได้แล้ว กูจะมองพวกมึง” ไอ้มายด์ไม่ได้มองหน้าพวกผม มันก็คงกลัว..โดยเฉพาะแววตาของไอ้ทิวตอนถามเนี่ย..ดุจริงๆเลยมึง..

   “แล้วเวลาตัดสินใจของมึงเนี่ยนานแค่ไหน?”

   “กูไม่รู้..”

   “งั้นพวกกูให้เวลามึงหนึ่งอาทิตย์” กูยังไม่ได้ลงมติอะไรกับมึงเลยนะไอ้ทิวลี่ทวิน

   “อะไร!” ไอ้มายด์ทำหน้ายู่ไม่พอใจ

   “พวกกูตัดสินใจแล้ว” ..เดี๊ยวไอ้ทิว กูไปตัดสินใจอะไรกับมึงตอนไหน มึงมานั่งทางในถามกูเหรอ? “มายด์ มึงมีเรื่องหนักใจขนาดนี้ แต่ไม่ยอมบอกพวกกูเพราะตัดสินใจไม่ได้ พวกกูรอได้ แต่ก็รอไม่ได้นานเกินอาทิตย์หนึ่งเข้าใจไหม”

   “อืม..กูจะพยายามตัดสินใจให้เร็วที่สุดละกัน”

   “ก็ดี” ดี..เดี๊ยวนี้พวกมึงไม่สนกูแล้วใช่ไหม ไอ้ทิวก็พูดเองเออเอง ไอ้มายด์ก็ทำเหมือนผมเป็นฉากประกอบการเจรจาครั้งนี้..

   ผมแย่งปาท่องโก๋ในมือไอ้ทิวมา แย่งกุ้งในชามไอ้มายด์มา แล้วเอาเข้าปากพร้อมกัน..อร่อยลืมความละเลยในตำแหน่งทหารเสือคนที่สามอย่างกูของพวกมึงเลย

   “ไอ้XXXเอ!!”





   “กูปวดหัวฉิบหาย” ไอ้มายด์พูดขณะเราสองคนนั่งติวหนังสือกันในห้องผม ส่วนไอ้ทิวไปช่วยงานอาจารย์ที่ห้องเทคนิค ยังไม่กลับ

   “นี่มึงไม่สบายหรือเปล่า เห็นบ่นตั้งแต่เช้าแล้ว”    

“เปล่า กูหมายถึง..เรื่องที่พวกมึงให้กูจัดสินใจภายในอาทิตย์นี้”

นั่นสินะ..เหลืออีกแค่สองวันก็จะครบกำหนดแล้วนี่หว่า?”

“เอ ถ้ากูบอกมึงก่อน มึงว่าไอ้ทิวจะโกรธไหม”

   “เอ่อ.....ชัวร์ว่ะเพื่อนมายด์” ไอ้ทิวแม่งคาดคั้นไอ้มายด์ทุกวันด้วยประโยค “อย่าลืมเรื่องในใจของมึงนะว่าเส้นตายมันวันไหน” 

   “แต่..แค่ไอ้ทิวเท่านั้น..ที่กูบอกตอนนี้ไม่ได้จริงๆ..ถ้าเป็นมึง..ถ้าแค่มึง...กูก็..พอจะบอกได้...ล่ะมั้ง” อ้าว? ไอ้มายด์มันมาอารมณ์ไหนวะเนี่ย เล่นเอาผมถือหนังสือค้างเลย “นี่มึง..คิดอะไรกับกูเปล่าเนี่ย?”

   คราวนี้ผมโดนไอ้มายด์ตบกบาลแทนคำตอบ

   “กับมึงกูไม่คิดอะไรแบบนั้นหรอก!” อ้าว? นี่มึงพูดอย่างนี้หรือว่า..มึงจะคิดกับ..กับใคร...? ไอ้มายด์มันหน้าแดงด้วย.. “มึงไม่คิดกับกู...แล้ว...” ผมกลืนน้ำลาย “มึงคิด..กับไอ้ทิวเหรอ?”

   “ไม่รู้ดิ..มันก็แค่..บางครั้ง..แค่บางครั้งเท่านั้นนะ..” โหย..ยิ่งพูดดูเหมือนไอ้มายด์ยิ่งแก้มแดงเข้าไปใหญ่ มิน่า..วันนั้นมันถึงของขึ้น ไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนั้นล้อมันเรื่องอ่านหนังสือในผับหรอก แต่เพราะไอ้ทิวควงผู้หญิงคนนั้นมาเพื่อทำอะไรอย่างที่พวกเรารู้อย่างทุกทีต่างหาก..นี่สินะที่ทำให้มึงออกอาการเมียหลวง “หึง” ผัวแบบนั้น..

   “....มึงเป็น....แบบกูเหรอ? ...มายด์”

   “ไม่ใช่นะ...” อ้าว แต่มึงเพิ่งบอกกับกูเมื่อกี้ว่าคิดกับไอ้ทิวแบบว่า...

“กู..ไม่รู้...แต่กูไม่เคยคิดอะไรกับคนอื่นเลย...บางทีกูอาจจะไม่ใช่สปีชี่ส์เดียวกับมึงก็ได้...บางที กูก็แค่เพี้ยนนิดหน่อย” เพี้ยนนิดหน่อยของมึงเมื่อคืนเรียกเลือดเจ้าชู้ไอ้ทิวได้เลยนะ ..ถ้ามึงเพี้ยนหนักกว่านี้ คงได้ลามมาถึงกูใช่ไหม

“มึงอย่าบอกไอ้ทิวนะ..กูกลัว..” ไอ้มายด์ทำหน้าจะร้องไห้ ไม่เคยเห็นไอ้มายด์อ่อนไหวขนาดนี้ ไม่เคยเห็นมันแสดงท่าทีอะไรให้เห็น ..แม้แต่คนข้างเคียงอย่างผม ก็แทบจะไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่าภายในใจของเพื่อนคนนี้ อ่อนไหวกับเรื่องของไอ้ทิวมากมายเหลือเกิน เพราะทุกอย่างเจ้าตัวเก็บซ่อนไว้แต่ในใจ เก็บมิดชิดแม้กระทั่งคนที่ถูกชอบยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำทั้งที่อยู่ใกล้กันขนาดนี้ แต่ก็เพราะใกล้กันขนาดนี้ ..ไอ้มายด์ถึงได้กลัว กลัวนักกลัวหนา ..จริงด้วยสินะ..เพื่อนผมไม่ได้เข้มแข็งเรื่องหัวใจขนาดนั้น

“มานี่มาไอ้มายด์” ผมเอาไอ้มายด์เข้ามากอด

เรื่องของไอ้มายด์ทำให้นึกถึงเรื่องของตัวเองสมัยก่อน.. สมัยที่ยังไม่รู้ว่าชอบว่ารักคืออะไร จนกระทั่งสายเกินไป..เรื่องราวของผมมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว แต่เรื่องราวของมายด์ มายด์ที่ยังไม่รู้ว่าชอบว่ารักคืออะไร จนกระทั่งได้เจอไอ้ทิว แต่ก็ไม่มั่นใจ ..ความไม่มั่นใจของมันแสดงออกมาให้ผมเห็นเป็นครั้งแรก ไอ้มายด์น้ำตาคลอเบ้า
ผมสวมกอดไอ้มายด์ ลูบหัวมันอย่างผู้ใหญ่ปลอบเด็ก

“กูกลัว..ตอนนี้เรายังเป็นเพื่อนกัน แต่อีกสองวันข้างหน้า ถ้ากูบอก กูก็ไม่รู้ว่ามันจะคิดยังไง” ไอ้มายด์สบหน้ากับอกผม

“แต่ถ้ามึงไม่บอก ไอ้ทิวจะยิ่งโกรธที่มึงมีความลับกับมันนะ”

“ก็กูกลัว..”

“กลัวมันไม่ยอมรับน่ะเหรอ? เรื่องนั้นไม่ต้องกลัว ตอนที่กูบอกว่ากูเป็นเกย์ ไอ้ทิวก็รับได้ กูก็เป็นเพื่อนกับพวกมึงมาได้จนถึงป่านนี้ไม่ใช่เหรอไง”

“..ที่กูกลัว..ไม่ใช่กลัวใจไอ้ทิว แต่เป็นใจกูเอง..กูคิดเกินเลยกับมัน..กูกลัวว่าถ้ากูตัดสินว่าตัวเองชอบมันจริงๆ ..กูจะอยากได้มากกว่าความเป็นเพื่อน..ไอ้ทิวรับได้ แต่กูรับไม่ได้ถ้าต้องเจอกับคนที่กูชอบแต่เขาไม่ได้ชอบกู” ไอ้มายด์ไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายใส่ผม แต่เสียงมันสั่นมาก..สั่นขนาดที่ผมต้องคอยลูบหัวลูบหลังให้มัน

“สบายใจขึ้นยัง?”

“อือ...ขอบใจว่ะเอ ..เล่าให้มึงฟังไปคนหนึ่งแล้ว กูก็สบายใจขึ้นเยอะ”

“เออ.. แต่อย่าลืมอีกคนล่ะ..ต้องบอกมันให้ได้นะ”

“อือ” ไอ้มายด์ยิ้มเป็นครั้งแรกของสัปดาห์ ผมก็ยิ้มตามไปด้วย ทำไมมึงไม่ยิ้มให้มันบ่อยๆวะ กูว่าถ้ามึงยิ้มอย่างนี้ได้ตลอดนะ ไอ้ทิวหลงมึงชัวร์

“บอกอะไรกูงั้นเหรอ?”

..ว่าถึงไอ้ทิว ไอ้ทิวก็มา..

เราไม่ทันได้สังเกตว่าประตูห้องของผมเปิดออกพร้อมร่างสูงของไอ้ทิวที่หอบของพะรุงพะรังอย่างทุกที.. เพราะการมาเยือนของไอ้ทิวทุกครั้งหมายถึงของกินของใช้ไปเที่ยว ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่ากลัว..แต่ตอนนี้ บรรยากาศมาคุเอามากๆ ไอ้ทิวเหวี่ยงของทิ้งลงพื้น เดินฉึบฉับเข้ามาหาพวกเราที่ค้างอยู่อย่างนั้นเพราะความตกใจ

“จะบอกอะไรกู ไอ้เอ..ไอ้มายด์”

“ไอ้ทิว” ไอ้มายด์เอ่ยออกมาอย่างลืมตัว ภาพของผมกับไอ้มายด์คงจะน่าสงสัยมาก สายตาที่ไอ้ทิวมองมาที่พวกเราถึงได้เต็มไปด้วยความใคร่รู้ แล้วนั่นอะไร..ความโกรธใช่ไหมที่ฉายอยู่ในดวงตาของมัน.. เราผละออกจากกันและกัน ไอ้มายด์ปาดน้ำตาทิ้ง มือสั่นหน้าซีด ...

“มึง.. อยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ ไอ้ทิวตอนนี้โคตรน่ากลัว มันโกรธจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนที่หน้าผาก

“กูกลับมาได้ยินตอนที่พวกมึงพูดกันว่าจะบอกอะไรกู ...แล้วก็เห็นตอนมึงกำลังกอดกันอยู่นั่นแหละ” ถ้าแค่นั่นล่ะก็...ไอ้ทิวก็ยังไม่ได้รู้เรื่องทั้งหมดจริงๆใช่ไหม...

“คืออย่างนี้ไอ้ทิว..”

“ไม่ใช่แค่ไอ้มายด์ใช่ไหมที่มีความลับกับกู มึงก็ด้วยใช่ไหมไอ้เอ” น้ำเสียงไอ้ทิวเย็นเยียบ “มึงสองคน...ปล่อยให้กูเป็นไอ้โง่อยู่คนเดียว สนุกมากไหม!”

“...ไม่ใช่นะ คือ..” ไอ้มายด์พยายามจะอธิบายให้ไอ้ทิวเข้าใจ แต่ตอนนี้เจ้าของร่างสะบัดหน้าหนี เดินลิ่วออกไปแล้ว ไอ้มายด์รีบลุกออกไปตาม ผมเองก็เช่นกัน แต่พอไอ้ทิวหันมา สายตาของมันที่ส่งมาให้พวกเราก็แข็งกระด้างเหลือเกิน

“อย่าตามกูมา!” ไอ้ทิวตะโกนใส่พวกเรา แววตามันแข็งกร้าว เย็นชา น้ำเสียงของมันก็รุนแรงจนพวกเราทำอะไรไม่ถูก ไอ้มายด์ที่พยายามจะเดินตามแผ่นหลังใหญ่นั้นไปก็ล้มทั้งยืน ผมไม่รู้จะทำยังไง เหตุการณ์มันรวดเร็วจนเราก็ไม่อาจทำอะไรได้มัน ผมสัมผัสตัวไอ้มายด์ มือเท้ามันสั่นไปหมด ..ผมไม่รู้จะวิ่งไปตามไอ้ทิวดีหรือไม่ ได้แต่ประคองร่างตรงหน้ากลับเข้าห้องไป ไอ้มายด์ร้องไห้ น้ำตาไหลพราก แต่กลับไม่มีเสียงโวยวายเหมือนมันตอนที่เมา ..เสียงเดียวที่ได้ยินภายในห้องอันเงียบกริบ คือเสียงสะอื้นฮักราวกับจะขาดใจของไอ้มายด์

ผมได้แต่มองไปที่ด้านหลังของไหล่บาง ไอ้มายด์สะอื้นแต่ไม่ร้องออกมาให้ได้ยิน ผมเลยไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปแตะต้อง ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปกอดปลอบ..เพราะคนผิดคือผมเอง..ภาพเข้าใจผิดแบบนั้นเกิดเพราะผมรั้งไอ้มายด์เข้ามากอดเอง..

“มายด์..กูขอโทษ...”

“มึง..ไม่ผิด..หรอก..เอ...กูผิด..กูผิดเอง...”

“มึงผิดตรงไหน..การรักใครชอบใครผิดอย่างนั้นเหรอ ไม่ใช่..เรื่องนี้มึงไม่ผิด.. กูเองก็ไม่ผิด...ที่ผิดคนเดียวก็คือไอ้ทิวนั่นแหละ มันไม่เคยเข้าใจอะไรเลย..ไอ้ทิวไม่เคยจะฟังใคร มันพูดเข้าข้างความคิดตัวเองได้ตลอด ถึงความคิดของมันจะผิด มันก็เข้าข้างตัวเองอยู่นั่นแหละว่ามันถูก เรื่องนี้มันแหละผิด!”

“..งั้นเรา..จะทำยังไงดี...เอ...” ไอ้มายด์หันมาหาผม น้ำตานองหน้า

“..ต้องไปหาไอ้ทิว..ต้องไปหามัน..ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง..เราจะต้องแก้ไขเรื่องที่ไอ้ทิวเข้าใจผิดให้ได้..จะไม่ให้มันพูดเข้าข้างความคิดของตัวเองอีกแล้ว มายด์ มึงเลิกร้องไห้เถอะนะ” ผมรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปหาไอ้มายด์ กอดร่างเล็กนั้นด้วยหัวใจที่บีบรัดอัดแน่นด้วยความรู้สึกเหมือนกินยาขม ไม่อาจกลืนลงคอแต่ก็ไม่อาจฝืนอมเอาไว้ในปากได้ ..ต้องทำอะไรซักอย่าง.. ผมจะไม่ยอมให้คำว่าเพื่อนของเราสามทหารเสือต้องถูกทำลายเพราะความเข้าใจผิดหรอก!

 
€   €   €   €   €   €   €   €   €   €   €

zellda

  • บุคคลทั่วไป
€   €   €   €   €   €   €   €   €   €   €


   “เอ..ไอ้ทิวไม่รับโทรศัพท์เลย” ไอ้มายด์เลิกร้องไห้แล้ว หลังจากร้องมานาน แต่เสียงของมันยังสั่นอยู่ ตามันแดงก่ำเพราะร้องไห้ทุกวัน หลังจากที่ไอ้ทิวหายไป จนผมต้องบอกให้มันไปพักเสียบ้าง มันเฝ้าโทรฯหาไอ้ทิวตลอด ส่วนผมก็เฝ้าตามไอ้ทิวในที่ๆคิดว่ามันน่าจะไป

   ไอ้ทิวลี่ทวินสองชิ้นห้าบาทมันไปอุดอู้อยู่ที่ตลาดไหนวะ!

   ผมกดวางสายจากพี่มุก พี่มุกก็ว่าไม่เห็นไอ้ทิวเลยระยะนี้ ห้องหับมันก็ไม่กลับ ข้างของก็ไม่ได้เอาไป ไปหาตามที่เที่ยวที่ไหนก็ไม่เจอ จนผมหมดปัญญาจะคิดแล้วว่าไอ้ทิวมันไปอยู่ที่ไหน แต่ผมจะทำหน้ากลุ้มไม่ได้ ไอ้มายด์มองผมแล้วทำหน้าไม่ดี มันคงใจเสีย แถมอาการมันจะเสียสติไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว..

   “มึงพักเถอะไอ้มายด์ หน้าที่มึงน่ะคือต่อหน้าไอ้ทิวต้องบอกความรู้สึกของมึงให้ได้ ว่ามึงชอบมัน..รักมัน ไม่ใช่กู ”

“แต่...” ไอ้มายด์ทำหน้ากังวล “กูยังไม่รู้เลยว่ากูชอบไอ้ทิวไหม?”

“ถ้ามึงยิ้มเวลานึกถึงเรื่องไอ้ทิว หงุดหงิดที่ไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้ยินเสียง ถ้ามึงเขินเวลาไอ้ทิวมันยิ้มให้ ถ้ามึงใจเต้นเวลาที่ไอ้ทิวอยู่ใกล้  ถ้ามึงหึง ถ้ามึงทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นไอ้ทิวไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น มึงประชด มึงไม่ชอบ ไม่พอใจ..นั่นน่ะเรียกว่ารัก ..ไม่ใช่แค่ชอบหรอก..”

ไอ้มายด์ควรจะรู้ความรู้สึกจริงๆของตัวเองได้แล้ว

“หน้าที่ของมึงคือต้องแก้ไขเรื่องที่มันเข้าใจกูกับมึงผิดให้ได้ ต้องบอกความลับที่มึงเก็บมานานให้มันได้รับรู้ให้ได้ มันจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ มันจะตอบรับหรือปฏิเสธนั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนกู กูจะตามหาไอ้ทิวให้มึงเอง”

“ถ้ากูได้ข่าวอะไรกูจะโทรฯมา มึงไปพักได้แล้ว” ผมบอกก่อนจะออกจากห้องไป
ที่ต้องออกมาก็เพราะไม่รู้จะทนเก็บความรู้สึกไม่พอใจ มุ่ยหน้าเวลาไปหาที่ไหนๆก็ไม่เจอไอ้ทิวได้อีกนานเท่าไหร่ เพราะรู้ว่าตอนนี้ไอ้มายด์อ่อนไหวมาก โดยเฉพาะเรื่องไอ้ทิว ..ไอ้มายด์ กูจะตามไอ้ทิวมาให้ได้ ..มึงสองคนต้องเจอกัน!


   

“ขอโทษครับ อาจารย์เจนวิทย์แกกลับไปเหรอครับ?”
   
“ยังจ๊ะ ตามหาแกมีเรื่องอะไรเหรอ?”

“พอดีผมอยากถามอะไรแกหน่อยน่ะครับ รู้ไหมครับว่าตอนนี้แกอยู่ไหน?”

“แกอยู่ที่สวนหลังตึกหกน่ะ ปิดเทอมอย่างนี้มีเรื่องอะไรเหรอนายเอรินทร์  ท่าทีร้อนรนมาเชียว”

“นิดหน่อยครับ แกอยู่หลังตึกหกใช่ไหมครับ ขอบคุณครับอาจารย์มาลี ลาล่ะครับ” ผมรีบวิ่งออกมาจากห้องอาจารย์ จำได้ว่าตอนปีสองไอ้ทิวเกิดรถคว่ำบาดเจ็บสาหัส อาจารย์ต้องรีบติดต่อผู้ปกครองมารับเรื่อง ขอให้อาจารย์แกยังเก็บเบอร์เอาไว้ด้วยเถอะ อย่างน้อย..ให้ผมได้ลองหาจากที่นั่นเป็นที่สุดท้าย..

ไม่นึกเลยว่าเราสามคนจะไม่รู้เรื่องพ่อแม่ของกันและกันเลย อาจเป็นเพราะมันไม่ใช่หัวข้อสนทนาที่น่าจะเอามาพูดกันก็เป็นได้ และเพราะเราต่างก็มีเรื่องที่ไม่อยากพูดให้ใครฟังกันทั้งนั้น เรื่องพ่อแม่ก็คงเป็นหนึ่งในนั้น ..แต่จำได้ว่า ไอ้ทิวมีพี่ชายหนึ่งคน ส่วนพ่อแม่อยู่ต่างประเทศ แล้วอะไรอีกวะ?..

ตกลงเราสามคนเป็นเพื่อนสนิทกันจริงหรือเปล่าวะเนี่ย!?

แต่ถ้ามันเลือกบ้านเป็นที่พักใจล่ะก็...

“อาจารย์เจนวิทย์ครับ!” ผมมาถึงสวนหลังตึกหกแล้ว ระยะเวลาในความรู้สึกของผมมันช่างยาวนานเหลือเกิน ผมก้มหอบต่อหน้าอาจารย์ที่ถือเสปรย์ฉีดน้ำพ่นดอกไม้อยู่

“เอะอะเสียงดัง มีอะไรวะ อ้าวเจ้าเอ มีอะไร ภาคนี้แกไม่ได้ติดตัวแดงซักหน่อยนี่ มาหาฉันทำไม?”

“ไม่ใช่เรื่องนั้นครับอาจารย์” แค่ผมเคยสอบตกวิชาแกครั้งเดียว แกจำได้จนตอนนี้เลยเหรอเนี่ย “..คือ..อาจารย์ ยังเก็บเบอร์บ้านของไอ้ทิวไว้ไหมครับ?”

“ทำไม รายนั้นไปก่อเรื่องอะไรหรือไง” ไอ้ทิวมีชื่อเสียใช่ย่อย..แต่ไม่ใช่เรื่องตอนนี้อะครับอาจารย์!!

“ก็ไม่เชิงอะครับ.. คือ” จะบอกว่าผมจะเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ตัวผู้ด้วยกันน่ะครับ ก็กะไรอยู่..

“เออ เอาเถอะ จะเอาเบอร์ใช่ไหม ขอดูก่อนว่าเซฟไว้ไหม เออ..นี่ไง เบอร์นี้”

“อาจารย์!! ขอบคุณมากครับ!”

ผมวิ่งลิ่วเอากระดาษที่จดเบอร์บ้านไอ้ทิวขึ้นหอไปหาไอ้มายด์

เปิดประตูห้องมาเห็นไอ้มายด์กำลงหลับ ท่าทางเหนื่อยอ่อน ..ถ้าเกิดผมโทรฯไปแล้วไม่เจอไอ้ทิวล่ะ อย่างนี้ไม่เป็นการสร้างความหวังให้ไอ้มายด์งั้นเหรอ ...

ผมเลยออกมาจากห้องอีกครั้ง โทรฯไปที่บ้านมันด้วยโทรศัพท์มือถือของตัวเอง

“สวัสดีครับ บ้านมหาราชลีลา จะเรียนสายใครครับ”

เกือบลืมไปว่านามสกุลไอ้ทิวมันอลังการ พอคนรับสายพูดแบบโอเปอร์เรเตอร์มาแบบนั้นก็อดตกใจชื่อสกุลอันพิลึกกึกกือของเพื่อนจนเกือบเผลอตัดสายไปซะแล้ว

“เอ่อ..ขอสายไอ้..เอ้ย คุณทิว..เอ่อ.. คุณทิวากรหน่อยครับ” ไม่รู้จะเรียกได้หรูพอหรือยัง ก็พอฟังเสียงแบบนั้น เป็นใครก็ต้องสุภาพไว้ก่อน

“เป็นเพื่อนทิวเหรอครับ?” ปลายสายเป็นเสียงคนหนุ่ม ท่าทางเหมือนสงสัย

“เอ่อ..ครับ..”

“ชื่ออะไรครับเดี๊ยวจะบอกเค้าให้”

“เฮ้ย อย่านะครับ เอ่อ..แค่อยากจะโทรฯมาถามว่าเค้าอยู่ที่บ้านใช่ไหมครับ” ถ้าขืนไปบอกว่าผมโทรฯมาสิ ไอ้ทิวอาจจะหนีไปอยู่อื่นซึ่งพวกผมไม่มีวันตามหาเจออีกเลยก็ได้ โอย..ตอบสิครับว่ามันอยู่บ้านหรือเปล่า?

“....ครับ..มีอะไรงั้นเหรอครับ” กว่าปลายสายจะตอบกลับมาก็ทำเอาลุ้นตัวโก่ง เค้าจะคิดว่าผมเป็นพวกโรคจิตไหมเนี่ย

“คือ...ผม..อยากจะได้ที่อยู่ของบ้านได้ไหมครับ..คือ..ผมกับเพื่อนอีกคนจะไปหาน่ะครับ ดะ..ได้ไหมครับ?”

“......ครับ” กว่าอีกฝ่ายจะตอบได้ ผมนี่เกร็งไม้เกร็งมือไปหมดแล้ว ผมรีบควานหาปากกากับกระดาษจดโดยไว กูได้ที่อยู่มึงแล้ว ไอ้ทิว!

“ขอบคุณนะครับ! แล้วรบกวน...เอ่อ... อย่าเพิ่งบอกนะครับว่าผมกับเพื่อนจะไปหา คือ.. เซอร์ไพรส์น่ะครับ เซอร์ไพรส์”

“แล้วจะมาเมื่อไหร่ครับ”

“เอ่อ..พรุ่งนี้เลยครับ” พวกมึงจะได้เข้าใจกันเร็วๆ

“ขอบคุณอีกครั้งนะครับ สวัสดีครับ”

ผมล่ะอยากจะร้องเยสให้ดังๆ ผมออกไปซื้ออะไรนิดหน่อยเข้ามาในห้อง แล้วก็บอกข่าวดีกับไอ้มายด์ กลายเป็นว่าคนที่ทำท่าดีใจได้สุดโต่งกว่าใครกลับเป็นไอ้มายด์เองนี่แหละ มันยิ้มกว้างอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยทีเดียว ไอ้มายด์ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ มันจัดกระเป๋าไป คิดอะไรไปด้วยจนตอนนี้กระเป๋าไม่เป็นกระเป๋า มันก็คงกังวลในส่วนของมันอยู่เหมือนกัน แต่ผมก็ปลอบใจมันไปแล้วล่ะว่ายังไงมันก็ต้องบอกยอมรับในผลที่ตามมา สำหรับผม ..ขอแค่แก้ไขความคิดผิดๆในหัวสมองกลวงๆของไอ้ทิวเท่านั้นแหละ ..เพราะผมไม่เชื่อหรอกว่าไอ้ทิวจะเป็นคนแบบนั้น..คนแบบที่ ไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่นได้อย่างหน้าตาเฉย ..ไอ้ทิว..มึงต้องรู้สึกแน่ๆว่าไอ้มายด์คิดอะไรกับมึง..

ใช่ไหม ไอ้ทิว ?


€   €   €   €   €   €   €   €   €   €   €

zellda

  • บุคคลทั่วไป
“โอ้แม่เจ้า!” เป็นเสียงของผมเองครับ

ตอนรถแล่นผ่านเข้ามายังไม่เท่าไหร่ แต่พอผมออกมาจากรถแท็กซี่สุดเปลืองตังค์เท่านั้นแหละ ..ไม่น่าเชื่อว่าบ้านไอ้ทิวมันจะอภิมหาแบบอื้อฮือสุดมหา ของมหาได้ขนาดนี้..อะไรมันจะใหญ่โตโอ่อ่าสุดอลังการงานสร้าง..

ผมอดรู้สึกหวั่นไม่ได้ กว่าจะเอื้อมนิ้วไปกดกริ่งหน้าบ้านก็ผ่านไปห้านาทีแล้ว โหย..มีหน้าจอให้คุยด้วย..ยังกับในหนังเลย

“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไร?” เป็นเสียงจากคนเดิมที่รับโทรศัพท์ผมเมื่อวาน คราวนี้เห็นหน้าด้วย ถ้าได้เข้าไป ผมจะไปขอบคุณพี่แกเป็นคนแรกที่อุตส่าห์ไม่สนใจว่าผมเป็นโรคจิตมาขอที่อยู่ติดตามอะไรหรือเปล่า

“เอ่อ..ผมเป็นเพื่อนทิวครับ ที่โทรมาเมื่อวาน ทิวอยู่หรือเปล่าครับ?” ดูท่าไอ้มายด์จะประหม่าเอามากๆ ถึงขนาดถามซ้ำเลยว่าไอ้ทิวอยู่ไหม

“ครับ รอซักครู่นะครับ เดี๊ยวจะเอารถไปรับ”

   ตอนแรกผมก็สงสัยว่าทำไมต้องเอารถมารับ..แต่ตอนนี้รู้แล้วล่ะว่าทำไม เพราะถ้าไม่มีรถมารับ ผมกับไอ้มายด์คงต้องแห้งตายอยู่กลางแดดตรงด้านหน้าๆของสวนบ้านไอ้ทิวแน่ๆ ..นึกถึงตัวเองในสภาพนั้น ฟิลล์คงประมาณพระถังซัมจั๋งพร้อมผู้ติดตามเดินทางไปหาพระคัมภีร์ที่ชมพูทวีป..

   “บอกได้ไหมครับว่าทำไมถึงไม่ให้บอกเจ้าตัว? เซอร์ไพรส์อะไรหรือครับ?”
พี่ชายที่รับโทรศัพท์คนเดิมออกมารับเราด้วยรถกอล์ฟถามขึ้น

“เอ่อ....” นั่นสิ..เมื่อวานผมบอกว่าจะเซอร์ไพรส์ไอ้ทิวนี่หว่า.. แล้วเซอร์ไพรส์เรื่องอะไรดีวะ?

“อ่อ..พอดีผมไปเจออาจารย์ที่มหาลัยมา แล้วแกบอกว่าทิวติดอันดับท็อปเท็นส์ของสายน่ะครับ เลยว่าจะมา..บอกให้รู้แบบไม่ทันตั้งตัว แฮะๆ”

ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆออกไป แต่พอเค้าเงียบ ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร เราเลยเงียบกันมาตลอดทางจนกระทั่งถึงตัวบ้าน โอ้..จอร์จทำกล้วยทอดตก มองใกล้ๆยิ่งดูใหญ่โตมโหฬารเหลือเกิน ..ต้องมองไอ้ทิวใหม่ซะแล้ว บ้านมันไม่ธรรมดา!

“รออยู่ตรงนี้ซักครู่นะครับ”

พี่คนนั้นเดินหายเข้าไปในบ้าน

โอเค ..เราเป็นแขกต้องทำตามเจ้าเรือนครับ..อีกอย่าง ขืนพวกผมไม่รอตรงนี้แล้วเดินชมนกชมไม้ไปไหนต่อไหน คงหลงทางหาทางออกไม่ได้อ่ะครับ..

“นั่งทานน้ำกระเจี๊ยบเย็นๆก่อนเถอะค่ะ ดับร้อน” โอ้..ครับๆ ..ตอนนี้ผมยิ้มแก้มแทบปริเลยล่ะครับ.. อะไรๆมันก็ดีไปหมด เพราะอีกไม่นานไอ้ทิวกับไอ้มายด์ก็จะ..

ผมหันไปจะยิ้มให้ไอ้มายด์ แต่เจ้าตัวกลับทำหน้ากังวลขนาดหนัก..

“เอ..กูกลัว ถ้ามันไม่ยอมเจอหน้าพวกเราล่ะ”

“เฉยไว้ เดี๊ยวดีเอง กูจะพูดให้เอง ใจเย็นๆ กินน้ำรอไปก่อนเหอะ”

ถึงผมจะเดินสำรวจไม่ได้ แต่แค่มองดูของรอบๆห้องรับแขกนี้ก็พอจะมองออกแล้วล่ะว่าบ้านไอ้ทิวรวยโอเว่อร์แค่ไหน

“ตอนนี้ทิวอยู่ที่สวนหลังบ้าน จะไปพบเลยไหมครับ?”

พี่ชายคนนั้นเดินออกมาบอกพวกเรา อืม..เท่าที่ผมดู พี่ชายแกคงเป็นพ่อบ้านบ้านไอ้ทิวแน่ๆ ..โหย อิจฉา มีพ่อบ้านด้วยไอ้ทิว

“เอ่อ..ครับ” ผมเห็นไอ้มายด์แอบเกร็งมือเลยแตะแขนมันเบาๆ

“ไม่เป็นไร ใจเย็นไว้เพื่อนมายด์”

เราสองคนเดินตามพี่ชายคนนั้นไปยังสวนหลังบ้าน ..โอย..ทำไมพี่ไม่เรียกป่าครับ..แต่จะเรียกอย่างนั้นก็ไม่ได้ เพราะมันอยู่หลังบ้าน ไอ้ทิว..มึงมีป่าไว้หลังบ้าน.. โอย อย่าให้กูรวยบ้างนะ

“ทิว” ไอ้มายด์ส่งเสียงทัก ไอ้ทิวอยู่ในชุดกางเกงขาสั้น เสื้อกล้ามธรรมดา ดูไม่เหมาะกับสถานะทางบ้านของมันเลย พอมันได้ยินเสียงเรียก ไอ้ทิวก็ละมือจากพู่กัน มันกำลังวาดรูปอยู่ครับ ..งานอดิเรกของคนรวยสินะ..

“พวกมึง..มานี่ได้ไง”

ไอ้ทิวทำท่าจะเดินจากไป ผมเลยเข้าไปรั้งแขนมันไว้

“มึงจะหนีเหรอทิว!”

“กูไม่อยากเจอพวกมึง!” คำของไอ้ทิวทำเอาไอ้มายด์ไม่กล้ามองหน้า ผมเห็นท่าไม่ดี ต้องพูด..พูดให้ไอ้ทิวอยู่ตรงนี้ ฟังไอ้มายด์ให้ได้

“แต่พวกกูอยากเจอมึง!” ไอ้ทิวเงียบไป แต่เหมือนจะฟังอยู่ ผมเลยพูดต่อ

“ไอ้ทิว มึงมันเอาแต่คิดเข้าข้างตัวเอง เอาความคิดตัวเองเป็นหลัก จนไม่ได้สนใจที่พวกกูกำลังจะอธิบายเลย มึงเข้าใจว่าพวกกูหลอกมึง ทำให้มึงเหมือนคนโง่ แต่จริงๆมันไม่ใช่..สิ่งที่มึงคิด ที่มึงเห็นตอนนั้น มึงเข้าใจผิด!”

“ตรงไหน! ตรงไหนที่บอกว่ากูเข้าใจผิด” ไอ้ทิวหันมาหาพวกเรา

“พวกมึงมีความลับกับกู กอดกันอยู่ หัวเราะด้วยกันอย่างมีความสุขเพราะทำให้กูเป็นคนโง่ได้ใช่ไหมล่ะ”

“ไม่ใช่นะ! ไม่ใช่!” ไอ้มายด์กำมือแน่น

“ตอนนั้นกู..กูแค่บอกไอ้เอว่า..ว่ากู..มีเรื่องอะไร”

“ก็แล้วมันต่างกันตรงไหน มึงเลือกบอกไอ้เอ ..มึงเลือกที่จะไม่บอกกู”

“ก็เพราะเป็นมึง..กูถึงบอกไม่ได้ไง..ทิว..เพราะเป็นมึง..”

“อะไร! กูไม่เข้าใจ!” ไอ้ทิวตะโกนใส่ไอ้มายด์ เขย่าตัวไอ้มายด์เหมือนจะเค้นคำตอบให้ได้จากร่างเล็กๆนั้น ไอ้มายด์เหมือนจะแหละคามือไอ้ทิวได้ในวินาทีนั้น ผมเลยจะเข้าไปห้าม แต่พี่ชายคนนั้นเข้ามาขวางซะก่อน เขาส่ายหน้า เหมือนบอกเป็นนัยว่าอย่าเพิ่งเข้าไปขัดจังหวะ

“นี่มึง..จะหลอกอะไรกูอีก มายด์”

“ไม่ใช่นะ! ทิว! ฟังก่อน ...”

“จะหลอกกูอีกใช่ไหม!!”

“ไม่ใช่..นะ” ไอ้มายด์เริ่มน้ำตาคลอ ในขณะที่ไอ้ทิวเริ่มใช้แรงบีบตัวไอ้มายด์มากขึ้น ผมเกือบจะทนไม่ไหว ถ้าไอ้มายด์ไม่พูดคำนั้นออกมา

“กูชอบมึง!” เหมือนเสี้ยววินาทีนั้นหยุดลง ไอ้มายด์เป็นอิสระจากมือแข็งแรงของไอ้ทิว ล้มลงไปนั่งกับพื้น มือเล็กๆปิดหน้าตัวเองที่เหมือนกำลังจะร้องไห้

“..............แต่มึงกับไอ้เอ...”

“ไม่ใช่! มึงเข้าใจผิด! ตอนนั้นกูแค่ไม่รู้จะทำยังไง กูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนั้นแค่หวั่นไหวกับมึงหรืออะไร แต่ตอนนี้กูรู้แล้ว ว่ากูรักมึงจริงๆ แต่เพราะรู้แล้วนั่นแหละ เพราะรู้ว่ารักมึงเข้าแล้ว ก็ถึงได้ยิ่งบอกไม่ได้ ไม่ใช่ว่าตอนนั้นกูหลอกมึงนะ แต่กูพูดไม่ออก กูไม่รู้จะพูดยังไง แต่ตอนนี้ไอ้เอบอกว่าให้กูบอกมึง กูก็บอกแล้ว กูบอกแล้ว”

“มายด์..” ผม..ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีแล้ว

ไอ้ทิวนิ่งไป..นิ่งซะจนผมกลัว ไอ้มายด์ก็ร้องไห้ ..หรือนี่จะเป็นวันที่เราสามคนวงแตกแล้วจริงๆ .. ไอ้ทิว มึงพูดอะไรบ้างสิวะ!

“ขอโทษนะ” คนที่ผมอยากให้พูดกลับไม่ใช่เจ้าของคำขอโทษนี้ ไอ้มายด์ลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ก้มหน้าหลบซ่อนใบหน้าเปื้อนน้ำตาของมันเอาไว้

“กูขอโทษ ..ดูเหมือน กูจะอยากได้มากกว่าความเป็นเพื่อนของมึงมากจริงๆ ..กู..ขอกลับก่อนนะ ไอ้เอ ..ทิว”

“แต่..กู..รับได้..” มือใหญ่ของไอ้ทิวรั้งร่างเล็กเอาไว้

“กูรู้อยู่แล้วว่ามึงรับได้ แต่กูรับไม่ได้ถ้าต้องเจอกับคนที่กูรักแต่เขาไม่ได้รักกู ..พอกูกลับไปถึง กูจะย้ายไปหออื่นนะ..ขอไม่เจอหน้าพวกมึงซักพัก ขอเวลากูทำใจหน่อย..ขอโทษนะเอ กูทำพวกเราวงแตก”

ไอ้มายด์ได้แต่ก้มหน้า..

ไอ้ทิวไม่พูดอะไรเลยเหรอ มึงจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?

กูไม่เชื่อว่ามึงไม่เคยรู้สึกอะไรเลยกับไอ้มายด์..ถึงมึงสองคนจะไม่เคยแสดงออก..แต่..แต่พวกมึงต้องรู้สึกกันใช่ไหม ..ไอ้ความรู้สึกแสนพิเศษแบบนั้น..ความรู้สึกที่เรียกว่า “รัก” น่ะ!!!

“มายด์ กูรับได้นะ!”

“แต่กูรับไม่ได้ เข้าใจไหม!”

“ไปเถอะ” หา?.. ผมแอบตกใจนอกสถานการณ์นิดหน่อยที่อยู่ดีๆพี่ชายคนนั้นก็เอาหน้ามาใกล้ พี่แกกระซิบข้างหูผม “ให้เขาสองคนเคลียร์กันเองจะดีกว่าครับ” แล้วเขาก็จูงมือผมออกมา..จะบ้าเหรอ! สถานการณ์เมื่อกี้มันไคลแมกส์ของเรื่องแล้วนะ จะลากผมออกมาทำเพื่อ?...

“คุณจะพาผมไปไหน นี่! ผมจะไปดูเพื่อนผม ปล่อยสิ!” เขาจับมือผมแน่นเหลือเกิน แน่นเสียจนผมออกแรงยังไงก็เหมือนอีกฝ่ายจะไม่มีทางปล่อยเลย

“นี่! ถ้าเกิดเพื่อนผมต้องขาดกันล่ะก็..”

“เขาคงไม่ขาดกันหรอก มีแต่จะผูกพันกันมากขึ้นไปอีก..”

“อะไร?” ผมไม่เข้าใจ แต่ก็ยังคงเดินตามพี่คนนั้นไป...

“ก็..ในฐานะพี่ชายแล้ว..ผมเชื่อว่า ผมมองสายตาน้องชายของตัวเองออกน่ะสิ!”

“หา! พี่เป็นพี่ชายของไอ้ทิวเหรอ?” จะว่ามีส่วนที่คล้ายกันอยู่ก็มาก แต่ทำไมผมถึงไม่ทันได้สังเกตเลยนะ..ทั้งรูปหน้า ดวงตา ริมฝีปาก รูปร่าง ..ยกเว้นทรงผมกับบุคลิกนั่นแหละที่ดูต่างจากไอ้ทิวโดยสิ้นเชิง..แล้วตกลงเพื่อนผมมันจะเป็นยังไงกัน

“คุณว่าคุณมองไอ้ทิวออก หมายความว่าไง”

“ก็หมายความว่า..น้องของผมก็ชอบเพื่อนของคุณเหมือนกันยังไงล่ะ”

คราวนี้ผมสกัดกลั้นความดีใจเอาไว้ไหมอยู่จริงๆ ขอทำโอ้เยสให้ดังก้องบ้านไอ้ทิวหน่อยเถอะ หิ้ว! “โอ้..ย” แต่ยังไม่ทันที่ผมจะเยสได้ดังกว่านี้ เสียงของผมก็ถูกพี่ชายของไอ้ทิวกลืนไปซะหมด เพราะริมฝีปากที่ทาบทับมาทำเอาตกใจ บวกกับเพราะความตกใจนั่นแหละถึงได้ไม่ทันตั้งตัวจนอีกฝ่ายสามารถส่งลิ้นเข้ามาทักทายโพรงปากของตัวเองได้ ลิ้นกระหวัดพันเกี่ยวกันอยู่นาน ลมหายใจของผมใกล้จะหมดลงเต็มที อีกฝ่ายถึงได้ถอนริมฝีปากออกไป

“ห้ามส่งเสียงดังในบ้าน เข้าใจไหม”

โห! นี่หรือวิธีปิดปากเงียบของบ้านไอ้ทิว!

“บ้าเอ๊ย!” ตอนนี้กูหน้าแดงอยู่หรือเปล่าเนี่ย?

แหงเลย! ไม่งั้นหมอนั่นจะยิ้มทำไม!!

----------------------------------------------------------------

ต้องแยกลงซะหลายตอน กว่าจะจบ   :เฮ้อ:
แนะนำติชมได้นะครับ :pig4:
ไปก่อนล่ะครับ โคตรง่วงเลย 

----------------------------------------------------------------

ไม่ได้เข้ามาซะนาน ก่อนอื่น ขอขอบคุณทุกท่านที่ติชมครับ :pig4:
หลังจากที่คิดและแต่งอยู่นาน ในที่สุดคนเขียนก็ปั้นน้ำเป็นตัวกับเค้าได้ซักที
เรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องยาวแล้วครับ! :mc4: (ดีใจกับคนเขียนหน่อยครับ)
(ถึงจะยังไม่มั่นใจเท่าไหร่ ว่าแต่งตอนที่สองออกมาแล้วจะเวิร์คไหมก็ตาม)
ใครอยากอ่านตอนต่อไปก็ตามลิ้งค์นี้เลยครับ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30703.0

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-12-2011 20:50:08 โดย zellda »

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
ความรักเป็นสิ่งสวยงาม :bye2:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ครบคู่ :-[

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
สนุกมากๆเลยค่ะ ว่าแต่ยังไม่จบใช่ป่าว
แล้วเอหล่ะ ถูกจูบแล้วจบเลยไม่ได้น๊าาาาาา

ออฟไลน์ ratnalin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
น่ารัก >\\\< สนุกด้วยล่ะ ช็อตสุดท้ายแย่งซีนอ่ะ 555

ชื่อเรื่องไม่ต้องเปลี่ยนหรอก ชื่อนี้เหมาะมากๆแล้วค่า

ขอบคุณก๊าบ ^^


- คราส -

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปก็ลุ้นไป
คุณพี่ชายไวไปไหม

ว่าแต่ยังไม่จบใช่ไหม
 :pig4:  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
อะ จะ เฮ้ย จบแล้วเหรอ
คู่นั้นลงเอยได้
คู๋หลังนี้มาไงไปไง

Nineน้อย

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักได้อีก หุหุหุ แอบแย่งซีนกันเล็กน้อยนะครับ ตอนจบเนี้ย หุหุหุ

ขอบคุณมากมายครับผม

ออฟไลน์ RinNam

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ทิวก็น้าไม่ฟังเหตุผล เกือบไปแล้วไหมละ

ว่าแต่เอกับพี่ของทิว มันยังไงกันแน่

 :pig4:

ออฟไลน์ mascot

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-10
จบแค่นี้หรอออออ

ออฟไลน์ puchi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
จบแล้วเหรอคะ!!! เหมือนจะค้างนิดๆๆ

ออฟไลน์ boworange

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
 o22  ตกลงจบจริงๆสินะ.....ง


 :z3:  แม่เจ้า..ช่างคาใจจริงๆ

 :pig4: เนื้อเรื่องสนุกมากคะ...เขียนได้ลื่นไหลมากๆไม่มีติดขัดเหมือนว่าเป็นมือใหม่เลย....ยังไงทำเป็นเรื่องยาวก็น่าจะดีนะคะ  :L1:

สุดท้าย ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆคะ  :L2:

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
ค้างโฮกกกกกกกก ตัดจบสุดๆฮ่ะ

ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
จบ ...???





 o22

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
จบ?
แอบค้างนะ

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
จบแอบค้างอ่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ keem

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เอ่อ จบ?

L

  • บุคคลทั่วไป
ง่ะ !!  o22

จบจริง ๆ อะ ?

ทำไม ๆ ?!!?  ยังรู้สึกค้าง ๆ ไงไม่รู้แหะ


ปล.  นู๋อยากรู้ เอ กะ พี่ชายของทิว อะ เป็นยังไงต่อจังเลยแหะ  :impress2:

ออฟไลน์ loveooo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น่ารักอ่ะ  แต่ไม่มีต่ออีกหน่อยหรอ  อยากอ่านๆ

ออฟไลน์ nco1236

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3

ออฟไลน์ BExBOY

  • กัญชาเป็นยาเสพติด โปรอ่านฉลากก่อนสูบ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
.....

อย่าบอกนะว่าจบแล้วววววว

มะว๊ากกกกกก

zellda

  • บุคคลทั่วไป
อืม...นั่นสินะ ตอนแรกแต่งไปไม่ได้คิดอะไร แต่พอลองมาอ่านอีกที
ผมก็ว่ามันน่าจะมีตอนต่อเนอะ คิดเหมือนกันกับคนอ่านเลยครับ
เลยคิดว่า เอาเป็น เรื่องยาวเลยดีไหม? เลยลองแต่งตอนที่สองดู
กะว่าคงจะเปลี่ยนเป็นเรื่องยาวในเร็วๆนี้
ว่าแต่..ผมต้องทำยังไงบ้างเหรอครับ?
ต้องตั้งกระทู้ใหม่ หรือว่า เขียนต่อจากกระทู้เดิมไปเลย
แต่เหมือนจะถูกย้ายแล้ว (ใช่ไหม?)

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
อืม...นั่นสินะ ตอนแรกแต่งไปไม่ได้คิดอะไร แต่พอลองมาอ่านอีกที
ผมก็ว่ามันน่าจะมีตอนต่อเนอะ คิดเหมือนกันกับคนอ่านเลยครับ
เลยคิดว่า เอาเป็น เรื่องยาวเลยดีไหม? เลยลองแต่งตอนที่สองดู
กะว่าคงจะเปลี่ยนเป็นเรื่องยาวในเร็วๆนี้
ว่าแต่..ผมต้องทำยังไงบ้างเหรอครับ?
ต้องตั้งกระทู้ใหม่ หรือว่า เขียนต่อจากกระทู้เดิมไปเลย
แต่เหมือนจะถูกย้ายแล้ว (ใช่ไหม?)

แต่งเรื่องยาวเลยค่ะ แล้วขึ้นกระทู็ใหม่โดยไปโพสต์ห้อง boy's love story  ในเนื้อกระทู้ก็ใส่ link ท้าวความมาที่นี่นิดนึง แค่นั้นค่ะ

karn49

  • บุคคลทั่วไป
ยาวได้ใจจริง ๆ 555555
สนุกกก ๆ

OTAKKIEZ

  • บุคคลทั่วไป
จบแบบนี้ก็ดีนะ ให้ไปคิดต่อเอาเอง

มายด์ก็ไม่มั่นใจอะไรง่ายๆ แถมชอบเหมารวมคิดเองเออเองอีกต่างหาก
ส่วนตาทิวนี่ก็ไม่พูดอะไรเลย เงียบอยู่อย่างเดียว แล้วก็คิดเองเออเองไปอีกคน

กว่าจะเคลียร์กันได้นะ !

แต่น่ารักดีนะคะ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องของเอต่อจังเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด